Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบงานที่ 1 - 4

ใบงานที่ 1 - 4

Published by Saowanit Kittinanon, 2023-03-26 03:47:01

Description: ใบงานที่ 1 - 4

Search

Read the Text Version

รายวิชา วิจัยเพอ่ื พัฒนาการเรียนรู ชอ่ื -สกุล............................................. ชั้นป ............... เลขที่........................ ใบงานที่ 1 การวจิ ยั เพื่อพัฒนาการเรยี นรู ตอนที่ 1 Definition 1. การวิจยั เพอ่ื พัฒนาการเรยี นรู หมายถึง ....…………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. การพัฒนาการเรยี นรู หมายถึง ....…………………………………….………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. PAOR P คือ ..…………………………………………………………………………………………………………………………………. A คือ ..…………………………………………………………………………………………………………………………………. O คือ ..…………………………………………………………………………………………………………………………………. R คือ ..…………………………………………………………………………………………………………………………………. ตอนที่ 2 Analytic list of keyword สภาพปญการเรียนรูของผเู รยี นหรอื สภาพการสอนของ ประสบการณ์ของครูนักวจิ ัย รัดกมุ มแี บบแผน ผวู้ จิ ยั เป�นผูเ้ ก็บขอ้ มลู PAOR แกป้ �ญหา/พฒั นาการเรยี นร้ขู องผเู้ รียน ครูเป�นผเู้ กบ็ ขอ้ มูล เมอ่ื ตอ งการจะศึกษา นักวชิ าการ พัฒนาการจัดการเรยี นการสอนของครู กระบวนการวจิ ยั ครผู สู อน ประชากร/บคุ คลท่วั ไป นโยบาย/ความสนใจของนักวิจยั ควบคูกับการเรียนการสอน ป�ญหาในวงกวา้ งทางการศึกษา ผูเรยี นในชัน้ เรียน ทฤษฎีหรอื ผลการวิจัยทเี่ กยี่ วขอ้ ง สรา้ งองค์ความรู้ ข้อความรู้ทวั่ ไปซง่ึ องค์ความรูเ้ ป�นประโยชนต์ อ่ วงการ ปญ� หาเกย่ี วกับการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น และ สามารถสรปุ อา้ งอิงในประชากร วิชาการและวงการวชิ าชีพ ปญ� หาการเรยี นการสอนในชนั้ เรยี น หลกั ฐานการปฏิบัตงิ านในวิชาชีพ รูปแบบการเขยี นรายงาน ขอ มลู เชงิ เน้อื หาโดยใชสถิติพ้ืนฐาน การวจิ ัยที่เปน� ทางการ นำผลไปใชแ้ กป้ ญ� หา พัฒนาการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น ขอ มูลเชงิ ปริมาณและคณุ ภาพโดยใชสถติ ิขนั้ สงู ยดื หยนุ และปรับปรุง พฒั นาการเรยี นการสอนของครู

ประเด็น การวจิ ยั เพ่อื พฒั นาการเรียนรู้ การวิจยั เชงิ วชิ าการ 1. จดุ เริ่มตน้ ของการวจิ ยั 2. ปญ� หาวจิ ัย 3.วตั ถปุ ระสงคข์ องการทำวจิ ยั 4.ผู้วจิ ัย 5. ประชากรหรือกลุ่มเป้าหมาย ทตี่ ้องทำวจิ ัย 6. ช่วงเวลาในการทำวิจยั 7. กระบวนการวิจัย 8. วิธีดำเนินการวิจัย 9. การกำหนดวิธี การแก้ปญ� หา หรอื พฒั นาการเรยี นการสอน 10. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 11. การวิเคราะห์ข้อมลู 12.การเขยี นรายงานการวจิ ยั 13. การนำผลการวจิ ัยไปใช้

รายวิชา วิจยั เพื่อพัฒนาการเรียนรู ชือ่ -สกุล............................................. ช้ันป ............... เลขท่.ี ....................... ใบงานท่ี 2 การวิเคราะหป ญหาการเรียนรู และการพฒั นานวตั กรรมการจัดการเรียนรู ตอนที่ 1 Categorize คำช้แี จง วิเคราะหปญ หาของผูเรียน/การแกปญหาของผเู รยี น และระบุประเภทของปญหา 1 > ความร/ู ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น 3 > สมรรถนะทส่ี ำคญั /ทักษะกระบวนการ 2 > คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค/ คุณธรรม จรยิ ธรรม 4 > ทักษะในศตวรรษท่ี 21 ประเภท ปญ� หาของผูเ้ รียน/การแกป้ ญ� หาของผเู้ รยี น ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนวิชาคณติ ศาสตรข์ องนกั เรียนชนั้ ป.6 ต่ำกวา่ เกณฑ์ ป�จจัยที่ส่งผลต่อทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ป�ญหา ของนักเรยี นระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย นกั ศึกษาดนตรีสากล ชัน้ ป�ที่ 2 ไมม่ ีความสามารถในการซอ่ มบำรงุ เครือ่ งดนตรี นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ มกั ทะเลาะ วิวาท ชกต่อยกนั และขาดความรรู้ กั สามัคคี นักเรียนชั้น ม.3 จำนวนมากกว่าร้อยละ 60 ของนักเรยี นทั้งชัน้ มีความสามารถในการเขียนเรียงความ ยงั ไม่เปน� ท่นี า่ พอใจ การพัฒนาเครื่องมือส่งเสริมทักษะเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสารการศึกษาของครูตามแนวคิดการ เรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 นกั ศกึ ษาสาขาวิชาดนตรีพนื้ บ้าน ขาดความตระหนักในคุณคา่ ของการเล่นวงดนตรีพน้ื บ้าน แนวโน้มการเสรมิ สรา้ งทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 สำหรับนกั ศึกษาผู้ใหญ่ ผลการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Educational Test: O-NET) วิชาคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และภาษาองั กฤษของนกั เรียนชน้ั ม.6 ตำ่ กวา่ ร้อยละ 50 นักศึกษาชนั้ ป�ที่ 2 ไมส่ ามารถตอบคำถามเร่อื งการวิจัยในชน้ั เรียนไดเ้ ลย นักเรยี นช้ัน ป.3 สอบได้คะแนนทักษะการคดิ คำนวณตำ่ กว่าเกณฑท์ กี่ ำหนดไว้ ความสามารถในการอ่านจับใจความของ นักเรียนชั้น ม.1 ยังไม่ดี ได้คะแนนทดสอบการอ่านต่ำกว่า รอ้ ยละ 50 ของคะแนนเตม็ การพฒั นาครูด้านทกั ษะการจัดการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21 โดยใช้โรงเรยี นเป�นฐาน ในโรงเรยี นขนาดเลก็ ของอำเภอบางคล้า จงั หวดั ฉะเชิงเทรา การใชช้ ุดการเรียนรู้ เรอื่ ง คอร์ดเบอ้ื งต้น เพอ่ื เสรมิ ความรู้พน้ื ฐานเกย่ี วกับดนตรีใหแ้ กผ่ เู้ รียน

ประเภท ป�ญหาของผู้เรียน/การแก้ปญ� หาของผเู้ รียน นกั ศกึ ษาสาขาดนตรไี ทยสามามารถสอบบรรจุขา้ ราชการไดน้ อ้ ยกวา่ นกั ศกึ ษาสาขานาฏศิลปไทย นักเรียนช้นั ม.2 จำนวนร้อยละ 30 ของนกั เรยี นทั้งชั้นขาดความรบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ี นกั เรียนชัน้ ม.1 สว่ นใหญ่ขาดวินยั ในการเรียนรู้ การพัฒนาแบบวัดทักษะในศตวรรษที่ 21 ด้านการเรียนรู้และนวัตกรรมของนักเรยี นช้นั ประถมศึกษา นกั เรียนช้นั ม.6 จำนวนมากกว่ารอ้ ยละ 40 ขาดทกั ษะการบรหิ ารจดั การไม่สามารถจดั การตนเองและ จดั การงานในหน้าที่ของตนได้ นักศึกษาวทิ ยาลัยนาฏศิลปไม่สามารถเขียนรายงานเชิงวิชาการได้ ตอนที่ 2 Analytic คำช้แี จง วิเคราะห์ปญ� หาและระบุสาเหตขุ องป�ญหาในการเรยี นร้ขู องผ้เู รียน นกั ศกึ ษานาฏศิลปช์ นั้ ปท� ่ี 2 ไม่สามารถรำพระลอตามไก่ได้



ตอนที่ 3 Topic Development คำช้ีแจง นำปญ หาและสาเหตทุ วี่ เิ คราะหจ ากตอนท่ี 2 มากำหนดเปน ชือ่ เร่ืองวิจยั ปญ� หาวจิ ัย/คำถามวิจัย ชื่อเร่อื งวจิ ัย ตัวอยา่ ง ตวั อย่าง นักเรียนชั้น ม.1 วิทยาลัยนาฎศิลปร้อยเอ็ด มีความ การศกึ ษาความร้พู นื้ ฐานในการอ่านและการเขียนโน้ตดนตรี ความร้พู ื้นฐานในการอ่าน และการเขยี นโนต้ ดนตรสี ากล สากลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาป�ที่ 1 วิทยาลัยนาฎศิลป เพียงใด รอ้ ยเอ็ด

รายวิชา วิจัยเพื่อพัฒนาการเรยี นรู ชื่อ-สกลุ ............................................. ชน้ั ป ............... เลขท.่ี ....................... ใบงานที่ 3 ขอมลู และการวเิ คราะหข อ มลู ตอนท่ี 1 True or False คำชี้แจง พจิ ารณาขอ ความวาถกู (T) หรอื ผิด (F) ...................... 1. การวเิ คราะหผ ลขอมลู เปนวธิ กี ารทที่ ำใหไ ดม าซง่ึ ขอมลู ทม่ี คี วามนา เชื่อถือ ...................... 2. การสมุ กลมุ ตวั อยา งแบบตามสะดวก เปน การสุมแบบไมใชความนา จะเปน ...................... 3. ขอจำกดั ของการสุม กลุมตวั อยางแบบสโนวบ อล คอื อาจไดจ ำนวนกลุม ตัวอยางนอย ...................... 4. อำนาจจำแนกเปน การตรวจสอบคุณภาพเครอื่ งมือทีต่ อ งทำในเคร่ืองมือทกุ ประเภท ...................... 5. คากลาง ไดแก คาเฉล่ีย และมัธยฐาน ...................... 6. สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics) คือการนำขอมูลที่ไดจากตัวอยางมาศึกษาเพื่อหา คา สถติ นิ ำไปสรปุ ผลลกั ษณะของกลมุ ประชากรเปาหมายทง้ั หมด ...................... ...................... 7. σ คือ คา พารามเิ ตอรข องสว นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ...................... 8. เพศ เปนขอมลู แบบชวง (Interval data) ...................... 9. คะแนนสอบมลี ักษณะเปนขอมูลท่เี ปน ระดับ จดั เปน ขอ มลู แบบจดั อันดบั (Ordinal data) ...................... 10. ขอมูลดบิ คือขอ มูลทไ่ี ดจ ากการเก็บขอมลู และนำมาสรุปเปนผลการวิจยั ...................... 11. absolute zero เปนลักษณะของขอมูลแบบอัตราสวน (Ratio data) 12. การสุมกลุมตัวอยางแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) มักใชในงานวิจัยเชิง ...................... ปรมิ าณ 13. การกระจายของขอมลู แบบโคงปกติ (normal curve) คอื การกระจายท่ีมีคา mean mode ...................... และ median เทากัน 14. วธิ ีการสุม กลมุ ตวั อยางทดี่ ี ตองคำนงึ ถึงจำนวนและแหลงทมี่ าวา สามารถเปนตัวแทนของส่ิงที่ ...................... ตอ งการศกึ ษาไดหรอื ไม 15. 50 55 60 65 70 มคี าเฉลย่ี เทา กับ 62.50

ตอนท่ี 2 Item create คำชี้แจง เลอื กหวั ขอตอไปนี้ กำหนดนยิ ามของคณุ ลักษณะ และสรา งเปนรายการประเมินแบบ rating scale จำนวน 10 – 15 รายการประเมนิ รกั ชาติ ศาสน กษตั รยิ  ซอ่ื สตั ยส จุ รติ มวี นิ ัย ใฝเรียนรู อยูอยางพอเพียง มงุ มั่นในการทำงาน รกั ความเปนไทย มีจติ สาธารณะ รักความเปน ไทย ประหยดั อดออม กัลยาณมิตรทดี่ ี มีความคดิ สรางสรรค 1. คณุ ลกั ษณะที่เลือกในการสรางรายการประเมนิ ไดแก ......................................................................................... 2. นิยามของคุณลักษณะ คือ .................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... 3. รายการประเมิน/ขอคำถาม ดังน้ี ที่ รายการประเมนิ  1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15.

รายวิชา วจิ ัยเพอ่ื พัฒนาการเรียนรู ชื่อ-สกุล............................................. ช้นั ป ............... เลขที.่ ....................... ใบงานท่ี 4 คณุ ภาพเครอ่ื งมือ และสถติ เิ บื้องตน ตอนท่ี 1 ความตรง (IOC) คำชแ้ี จง 1. ปรบั รายการประเมินตามขอเสนอแนะ และสรุปเปนรายการประเมิน 10 ขอ 2. กำหนดเพื่อนเปนผูทรงคุณวุฒิ และใหพิจารณารายการประเมิน วารายการประเมินมีความตรงหรือไม ตามเกณฑ ดังนี้ ให 1 เมอ่ื แนใ จวา ขอคำถามมีความสอดคลองกับจุดประสงค 0 เมือ่ ไมแนใจวา ขอคำถามมคี วามสอดคลองกับจดุ ประสงคห รือไม -1 เมอ่ื แนใจวา ขอคำถามไมสอดคลองกบั จุดประสงค 3. วเิ คราะหตามสูตร IOC = ∑R และสรุปผลการพจิ ารณาความตรงรายขอในตาราง N ที่ รายการประเมิน ผูป ระเมินคนที่ IOC ผลการประเมนิ 123 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 4. สรปุ รายการประเมนิ ที่ใชได ไดแก .........................................................................................................................

ตอนที่ 2 ความยากงา ย (P) และอำนาจจำแนก (r) คำช้ีแจง 1. พิจารณาขอมูลคะแนนและผลการตอบขอสอบ จำนวน 5 ขอ ของนกั เรียน 5 คน 2. คำนวณคาความยากงาย ดงั สูตร โดยที่ p = คา ความยากของขอสอบ n = จำนวนคนตอบขอสอบถูก N = จำนวนคนสอบทง้ั หมด 3. พิจารณาคา P, r และสรุปผลการประเมินในตาราง โดยเกณฑความยากของขอสอบกำหนดไวระหวาง 0.20 - 0.80 และเกณฑอำนาจจำแนกของขอสอบกำหนดไว 0.20 ขน้ึ ไป ขอ ท่ี เฉลย 1 จำนวนคนตอบแตละตัวเลือก 5 P r ผลการประเมนิ 234 0.36 1 1 50 8 9 8 25 0.29 0.12 2 5 1 6 4 7 82 0.40 -0.04 3 4 73 4 3 14 6 4 2 8 62 6 7 17 5 1 5 24 6 42 23 ตอนที่ 3 การรายงานผลการประเมนิ ความพงึ พอใจ คำช้ีแจง 1. พจิ ารณาผลการประเมนิ ความพงึ พอใจรายขอ และแปลผลรายขอ ตามเกณฑ ดังนี้ 1.00-1.50 หมายถึง เหมาะสม/เหน็ ดว ยอยูใ นระดบั นอ ยทสี่ ดุ 1.51-2.50 หมายถงึ เหมาะสม/เหน็ ดว ยอยูในระดับนอย 2.51-3.50 หมายถงึ เหมาะสม/เหน็ ดว ยอยใู นระดบั ปานกลาง 3.51-4.50 หมายถึง เหมาะสม/เหน็ ดวยอยใู นระดบั มาก 4.51-5.00 หมายถึง เหมาะสม/เห็นดว ยอยใู นระดบั มากทส่ี ดุ 2. สรุปผลการวเิ คราะหใ ตตาราง

รายการ ผลการประเมิน เอกสารประกอบการอบรมฯ x SD. แปลผล 1. เนือ้ หาเอกสารครบถว นตามรายละเอยี ดการอบรมฯ 4.77 0.42 2. เนอื้ หาเอกสารงา ยตอการทำความเขา ใจและการนำไปปฏบิ ัติ 4.57 0.58 3. ภาพประกอบชดั เจน และมกี ารอธบิ ายรายละเอียดแตละหัวขอ 4.47 0.61 รวม 0.54 การดำเนินการอบรม 1. ทุกข้ันตอนของการอบรมฯ เปน ไปตามกำหนดการ 4.82 0.41 2. เวลาและเนื้อหาของการอบรมมีความสอดคลอ งกัน 4.68 0.54 3. เนื้อหาของการอบรมฯ เปนประโยชนตอ การปฏบิ ัติ 4.86 0.35 รวม 0.43 ประโยชนท ไี่ ดรับจากการอบรมรฯ 1. มีความเขา ใจในหลักการตรวจขอ สอบอัตนยั 4.46 0.59 2. มีความเขา ใจในเกณฑก ารตรวจขอสอบอตั นยั 4.42 0.62 3. ความรูที่ไดรับจากการอบรมฯ นำไปปรับใชกับการเรียนการสอน 4.72 0.49 วิชาภาษาไทยไดทุกชั้นป 4. ความรูที่ไดรับจากการอบรมฯ ใชเปนการเตรียมพรอมในการสอบ 4.68 0.49 ปก ารศกึ ษา 2563 ไดเ ปนอยางดี 5. มีความมั่นใจในการนำความรูและประสบการณจากการอบรมฯ ไปใชใน 4.39 0.62 การตรวจขอสอบอตั นัย รวม 0.56 องคประกอบทีเ่ ก่ียวของในการอบรม 1. สภาพแวดลอ มของสถานทีอ่ บรมฯ มคี วามเหมาะสม 4.79 0.49 2. แสงสวา งในหองอบรมฯ มีความสวางเพยี งพอ 4.71 0.62 3. สถานทีจ่ ัดอบรมฯ สะดวกตอ การเดินทาง 4.67 0.63 รวม 0.58 รวมท้ังสิ้น แบบสอบถามการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง \"การตรวจขอสอบอัตนัย สำหรับครูผูสอนวิชาภาษาไทย\" มีลักษณะเปนมาตรประมาณคา (Rating Scale) ผลการประเมินภาพรวมของการประชุมอยูในระดับพึงพอใจ ______________ มีคาเฉลยี่ เทากบั _______ และเมื่อจำแนกรายดาน พบวา ดา นทไ่ี ดรับการประเมินความพึงพอใจ ในระดับพอใจมากทีส่ ุด ไดแ ก __________________________________________ มคี า เฉล่ยี เทากับ_______ รองลงมา ไดแก __________________________________และ__________________________________ มคี า เฉลี่ยเทากับ _______และ_______ ตามลำดบั

ตอนที่ 4 ประสิทธิภาพของเครอ่ื งมือ (E1/ E2) คำชแ้ี จง 1. พจิ ารณาผลคะแนนรายหนว ย และคำนวณคาตา ง ๆ ในตารางใหสมบรู ณ โดย คำนวณประสิทธิภาพของ เครื่องมือ ดังสตู ร ∑X ∑Y E1 = N ×100 และ E2 = N ×100 A B 2. แปลผลคาประสิทธภิ าพของเคร่อื งมือ (E1/ E2) คนท่ี หนว ยท่ี 1 หนว ยท่ี 2 E1 หนวยท่ี 4 รวม E2 10 10 หนว ยที่ 3 10 40 หลังเรียน 1 8 7 8 2 7 8 10 8 20 3 9 7 6 7 18 4 8 8 8 9 19 5 7 9 8 8 17 6 7 8 9 6 18 7 8 8 9 8 16 8 7 7 8 8 17 9 8 9 7 9 18 10 9 8 9 9 16 รวม 8 19 N 7 20 คา เฉลยี่ รอ ยละของคะแนนเตม็ จากตาราง พบวา ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรยี นโดยใชช ุดกจิ กรรมการเรยี นรเู ร่ือง การรำแมบทเล็ก สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปที่ 2 มีประสิทธิภาพเทากับ _______/_______ (E1/ E2) ซึ่งแสดง ใหเห็นวา ชุดกิจกรรมการเรียนรูเรื่อง การรำแมบทเล็ก สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปที่ 2 มีประสิทธิภาพ ___________________________________


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook