Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ธ.ค.62 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี

ธ.ค.62 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี

Published by kl_1270100000, 2020-10-07 02:10:23

Description: แบบฟอร์มคลังปัญญาตำบลบ้านบึง(ธ.ค.62)

Search

Read the Text Version

ทาเนยี บคลังปญั ญา ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ประจาเดอื น ธนั วาคม 2562 กศน.ตาบลบา้ นบงึ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอบา้ นคา สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั ราชบรุ ี สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คานา ดว้ ย กศน.ตาบลบา้ นบึง ไดด้ าเนินการจัดทาภูมิปัญญาในท้องถิ่น ให้กับประชาชนในพื้นท่ีอาเภอ บ้านคา เพื่อเพ่ิมพูนความรู้ซ่ึงความรู้และทักษะการในการดาเนินชีวิตแบบพอเพียง สามารถเรียนรู้และ ฝึกฝนได้ทั้งจากการศึกษาด้วยตนเองและรับการถ่ายทอดจากคนอื่น การนาภูมิปัญญามาเผยแพร่เพ่ือให้ ประชาชนในพ้ืนท่ีได้นาไปใช้และเรียนรู้เพื่อเพิ่มอาชีพและประสบการณ์ให้กับตนเองและครอบครัว ให้มี การเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและเกื้อกูลในการผลิตซึ่งกันและกัน โดยการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิด ประโยชน์และไม่มีสารพิษ เช่น ดิน น้า แสงแดดอย่างเหมาะสมเกิดประโยชน์สูงสุด มีความสมดุลย์ ของ สภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและเกิดผลในการเพิ่มพูนความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร ธรรมชาติด้วย กศน.ตาบลบ้านบึง ไดจ้ ดั ทารายงานรูปเล่มเพ่ือแสดงผลการจัดกิจกรรมให้ผู้ท่ีสนใจได้เห็นผลสัมฤทธิ์อย่าง ชัดเจน และสามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ กศน.ตาบลบา้ นบึง ธนั วาคม 2562

สารบญั หนา้ คานา 1 สารบัญ 4 กศน.ตาบลบา้ นบึง 7 9 - คลังปัญญา การตีเมด็ เงินกระเหรียง : คุณดารงชัย แซ้ลิม้ - คลังปญั ญา การทาขนมไทย : คณุ อรญั ญา ฮวบประเสรฐิ - คลังปญั ญา กระเปา๋ แฮนด์เมด : คณุ โสภา ตะกงั คณะผ้จู ัดทา

1 แบบบนั ทกึ ชดุ ขอ้ มลู คลงั ปญั ญา-ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ ตาบล บ้านบึง อาเภอ บา้ นคา จงั หวดั ราชบุรี ชือ่ ภมู ปิ ญั ญา การตีเม็ดเงินกะเหรยี่ ง ข้อมลู พืน้ ฐาน รายบุคคล เจา้ ของภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน/บคุ คลคลงั ปญั ญา ช่อื นายดารงชยั นามสกลุ แซล่ ิ้ม วนั เดอื นปเี กดิ 5 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2520 ท่ีอยู่ปจั จุบนั (ทีส่ ามารถตดิ ต่อได)้ บา้ นเลขที่ 150 หมู่ที่ 1 ตาบล/แขวง บา้ นบึง อาเภอ/เขต บ้านคา จงั หวัด ราชบุรี รหสั ไปรณยี ์ 70180 โทรศพั ท์ 080-652-6178 ความเป็นมาของภมู ปิ ัญญา นายดารงค์ชยั แซล่ ้มิ อายุ 42 ปี เป็นคนเชื้อไทยสายไทยกะเหร่ียงบ้านโปุงกระทิงบน ตาบลบ้าน บงึ อาเภอบา้ นคา จังหวัดราชบรุ ี เป็นภูมิปญั ญาดา้ นการทาเครื่องเงนิ เป็นแกนนาเยาวชนบ้านโปุง กระทิงบนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของชาวกะเหรี่ยง จัดตั้งห้องเรียนภาษากะเหร่ียง เพ่ือสอน ภาษากะเหร่ียงในกับเยาวชนในหมู่บ้าน เพ่ือปลูกฝังเยาวชนกะเหร่ียงให้รู้จักภาษาของตน ไม่ให้สูญหาย ฟน้ื ฟูการตเี มด็ เงินกะเหรย่ี ง เพื่อทาเคร่ืองประดับของชาวกะเหร่ียง โดยนาเม็ดเงินมาตีให้มีลวดลายที่เป็น เอกลักษณ์ของกะเหร่ียง นามาร้อยเชือกสีต่าง ๆ เป็นสร้อยข้อมือ และพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์เป็น กาไล แหวน และสร้อยคอ เปน็ การอนุรักษ์ฟ้ืนฟูเครื่องเงิน เคร่ืองประดับของชาวกะเหร่ียง อีกท้ังเป็นการ สร้างงาน สรา้ งรายไดใ้ หก้ ับเยาวชนบ้านโปงุ กระทงิ บน นอกจากน้ียังเป็นคณะกรรมการโครงการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตาบลบ้านบึง โดยนาภูมิ ปัญญาการตีเม็ดเงินกะเหร่ียงมาสาธิตในงานวัฒนธรรมระดับจังหวัด และระดับอาเภอท่ีมีวัฒนธรรมของ ชาวกะเหร่ียง เป็นบุคคลท่มี ีความสามารถในการคดิ คน้ ประดิษฐกรรมการตีเม็ดเงิน พัฒนางานวัฒนธรรม ใหโ้ ดดเด่นจากผลติ ภณั ฑอ์ ื่น ๆ ซ่งึ เปน็ เครอื ข่ายทางวฒั นธรรมของอาเภอบ้านคา และจังหวัดราชบุรี จดุ เดน่ ของภมู ปิ ญั ญา ขนึ้ ชื่อวา่ เป็นงานเครอื่ งเงินกะเหรี่ยง คือทาด้วยมือต้ังแต่ต้นจนเสร็จไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับช้ิน ไหน ก็จะเรม่ิ จากเม็ดเงินบริสุทธิ์ เป็นเม็ดเล็กๆ คล้ายลูกปัด นามาหลอมให้ละลาย ก่อนจะทาให้เป็นแผ่น หรือเป็นเส้นด้วยการผ่านเครื่องรีดต่างๆ แล้วดัดให้เป็นรูปทรงตามต้องการ นี่คือเทคนิคท่ีพวกเขาสืบ ทอดกนั มาเปน็ รอ้ ยปีเพราะไมม่ เี ครือ่ งไมเ้ ครื่องมอื หวือหวา ทุกอย่างต้องทาด้วยมอื ชาวกะเหร่ยี งจึงทา

2 เคร่ืองเงินที่มีความบริสุทธ์ิมากถึง 96 – 98 เปอร์เซ็นต์ ในขณะท่ีในอุตสาหกรรมท่ัวไปจะประมาณ 92 – 93 เปอร์เซน็ ต์ ทีต่ อ้ งบริสุทธ์มิ าก เพราะเงนิ จะมีคุณสมบตั ินุ่ม ดดั งา่ ย และหากช้ินไหนดัดแล้วไม่พอใจ ขายไม่ได้ ก็นากลับมารีไซเคิลด้วยการหลอมใหม่ได้อีกด้วย วิถีการทา เครื่องเงินของกะเหร่ียงในปัจจุบันมีลักษณะคล้ายโรงงานขนาดย่อม นั่นคือทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบของ ตวั เอง ทางานแบบเดียววนไป เสรจ็ แลว้ กส็ ่งต่อใหค้ นข้างๆ ทาส่วนอ่ืนต่อ ช้ินงานที่ออกมาจึงเหมือนกันไป หมดทุกหมู่บ้าน ไม่มีกล่ินอายของความคราฟต์ใดๆ ทงั้ ทเี่ ป็นงานทาดว้ ยมอื ท้งั หมด เม่ือเทียบกับเครื่องเงินในภูมิภาคอื่นๆ เช่นของสุรินทร์ท่ีเน้นลวดลายดอกไม้วิจิตรแล้ว สไตล์เคร่ืองเงิน กะเหร่ียงท่ีเน้นผิวสัมผัสเก๋ไก๋และการประทับตราเล็กๆ มากกว่า มันจึงน่าเสียดายเมื่อไม่มีรูปแบบใหม่ๆ ออกมาให้เลือกซื้อเลย จริงๆ เทคนิคด้ังเดิมมันดี แค่ปรับดีไซน์นิดเดียวก็เอามาใช้ได้แล้ว”แต่ถ้ามีเทคนิค ด้ังเดิมอันไหนที่ยังเหมาะสมอยู่ ก็พยายามจะนามาใส่ในเคร่ืองประดับ และขับเน้นให้เด่นข้ึน เช่นการนา ลวดลายก้นหอยซ่ึงเป็นลายอันศักดิ์สิทธ์ิของชาวกะเหรี่ยงมาเป็นองค์ประกอบการออกแบบ หรือการทา ตัวลอ็ กสรอ้ ยด้วยดไี ซนท์ ีท่ ัง้ เก๋และเวิรก์ มากๆ ซงึ่ เดมิ เป็นของชาวกะเหรี่ยงอยู่แล้ว ปัจจุบันชุมชนบ้านโปุง กระทงิ บนมผี ผู้ ลติ เครอ่ื งเงินกว่า 2-3 ครัวเรือน ซึ่งเป็นจานวนท่ีเพียงพอต่อการผลิตชิ้นงานเพื่อจาหน่ายสู่ ภายนอก ช่างฝีมือส่วนใหญ่เปน็ คนในท้องถนิ่ ทีม่ ที ักษะความชานาญ สามารถผลิตชิ้นงานที่มีความละเอียด ปราณีตได้โดยใช้เวลาประมาณ 3-4 วันต่อหน่ึงชิ้นงาน ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของช้ินงานน้ันๆ สินค้าที่ ผลิตได้ประกอบไปด้วยเครื่องประดับประเภทกาไล สร้อยข้อมือ สร้อยคอ หู ปัจจุบันเครื่องเงินจากชุมชน หมู่บ้านโปุงกระทิงบน ตาบลบ้านบึง อาเภอบ้านคา เป็นสินค้าที่มีช่ือเสียงและเป็นที่รู้จักมากข้ึนเร่ือยๆ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด ทางผู้ผลิตได้มีการพัฒนารูปแบบและลวดลายของเครื่องเงินขึ้นใหม่อยู่เสมอ ทาใหเ้ กดิ การยอมรับและต้องการสนิ คา้ จากผูบ้ ริโภคในวงกวา้ ง โดยสินคา้ ท่ผี ลิตได้ส่วนใหญ่นอกจากจะถูก นาไปวางจาหน่ายในเทศกาลงานประจาท้องถิ่นและตามร้านค้าชุมชนทั่วไปแล้ว ช่างในชุมชนยังรับผลิต สินคา้ ตามคาส่ังซอ้ื และขายส่งสินคา้ ให้แก่ผู้ทม่ี ารับซือ้ ท่ัวไปดว้ ย

3 ภาพถา่ ยบคุ คล และอปุ กรณ/์ เครือ่ งมอื /สงิ่ ทป่ี ระดษิ ฐ์ (ชน้ิ งานหรอื ผลงาน) นายดารงชัย แซ้ลม้ิ วธิ กี ารตีเม็ดเงินกะเหรย่ี ง เรม่ิ จากเม็ดเงนิ บริสทุ ธิ์ เปน็ เมด็ เล็กๆ คล้ายลูกปดั นามาหลอมใหล้ ะลาย นายดารงชยั แซล้ ม้ิ กอ่ นจะทาใหเ้ ป็นแผ่นหรอื เป็นเส้นดว้ ยการผา่ นเคร่ืองรีดตา่ งๆ แลว้ ดดั วสั ดอุ ุปกรณ์ในการตเี มด็ เงนิ กะเหร่ยี ง ใหเ้ ป็นรูปทรงตามต้องการ นาเม็ดเงนิ มาตีให้มีลวดลายท่ีเปน็ เอกลกั ษณ์ -เม็ดเงนิ บรสิ ุทธิ์-เครื่องรดี -ค้อน-เชือก-ดา้ ย-เครือ่ งหลอมเงิน-เบา้ พิมพ์ ของกะเหร่ยี ง นามารอ้ ยเชือกสีตา่ ง ๆ เป็นสร้อยข้อมอื และพฒั นา เคร่ืองหนีบ รูปแบบของผลติ ภณั ฑเ์ ปน็ กาไล แหวน และสร้อยคอ เปน็ การอนุรักษ์ ฟ้นื ฟเู ครอ่ื งเงิน เคร่อื งประดับของชาวกะเหรีย่ ง อีกท้ังเปน็ การสรา้ งงาน สรา้ งรายได้ นายดารงชยั แซ้ลมิ้ นายดารงชัย แซ้ล้มิ วสั ดุอปุ กรณ์ในการตเี ม็ดเงินกะเหรี่ยง -เม็ดเงนิ บรสิ ทุ ธิ์-เคร่อื งรีด-คอ้ น-เชือก-ด้าย-เคร่อื งหลอมเงิน-เบ้าพิมพ์ เคร่อื งหนบี

รปู ภาพ ภมู ปิ ัญญา เมด็ เงนิ กะเหร่ียง เมด็ เงนิ กะเหร่ียง เมด็ เงนิ กะเหร่ียง สไตล์เคร่ืองเงนิ กะเหร่ียงท่เี น้นผวิ สัมผัสเก๋ไก๋และการ ประทับตราเล็กๆ เมด็ เงนิ กะเหร่ียง เมด็ เงินกะเหรย่ี งลวดลายกน้ หอยซึ่งเป็นลายอันศักดิ์สิทธ์ิของ ชาวกะเหร่ียง

4 แบบบนั ทกึ ชดุ ข้อมลู คลงั ปญั ญา-ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ตาบลบา้ นบงึ อาเภอ บา้ นคา จงั หวัด ราชบรุ ี ช่อื ภมู ปิ ญั ญา การทาขนมไทย ข้อมลู พื้นฐาน รายบุคคล เจา้ ของภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น/บคุ คลคลงั ปญั ญา ชอื่ นางสาวอรญั ญา นามสกลุ ฮวบประเสรฐิ วนั เดอื นปีเกิด 12 กรกฏาคม พ.ศ. 2517 ท่อี ยู่ปัจจุบัน (ท่สี ามารถตดิ ตอ่ ได)้ บ้านเลขที่ 174 หมทู่ ี่ 12 ตาบล/แขวง บ้านบึง อาเภอ/เขต บ้านคา จังหวดั ราชบรุ ี รหัสไปรณยี ์ 70180 โทรศัพท์ 089-228-9684 ความเป็นมาของภมู ปิ ญั ญา คุณอรัญญา ฮวบประเสริฐ เร่ิมทาขนมไทยได้มา 10 กว่าปีแล้ว โดยการนาวัสดุท่ีมีอยู่ในท้องถ่ิน มาปรงุ แตง่ เป็นของหวานได้มากหลายรูปแบบ มีการเรียนรู้และอนุรักษ์การทาขนมไทย ทั้งจากภูมิปัญญา จากผรู้ ู้ในชมุ ชน เพื่อให้สามารถถา่ ยทอดและคงไว้ ตลอดจนเป็นการสร้างรายได้ให้กับตัวเอง โดยตระหนัก ถึงความสาคัญของภูมิปัญญาพื้นบ้าน มีความเข้าใจรากเหง้า ความเป็นวัฒนธรรม แบ่งปัน เก้ือกูล ช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน มีการศึกษาเรียนรู้วิถีการดารงชีวิต ที่มีมาช้านานบนพ้ืนฐานของธรรมชาติท่ี เกี่ยวพันสอดคล้องกนั กับวิถชี ีวิตชุมชน จัดเปน็ มรดกทางวฒั นธรรมอยา่ งหน่ึงที่บ่งบอกว่าคนไทยมีลักษณะ นสิ ัยอยา่ งไร เพราะขนมแตล่ ะชนิดล้วนมีเสน่ห์ แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อน ประณีต วิจิตรบรรจง ในรูปลักษณ์ ต้ังแต่วัตถุดิบที่ใช้ วิธีการทาท่ีกลมกลืน ความพิถีพิถัน สีที่ให้ความสวยงาม มีกล่ินหอม รสชาติของขนมท่ีละเมยี ดละไมชวนให้รับประทาน แสดงให้เห็นว่าคนไทยเป็นคนใจเย็น รักสงบ มีฝีมือเชิง ศิลปะ จดุ เดน่ ของภมู ปิ ญั ญา ขนมไทยจัดเป็นอาหารที่คู่สาหรับกับข้าวไทยมาต้ังแต่คร้ังโบราณโดยใช้คาว่าสารับกับข้าวคาว- หวาน โดยท่ัวไปประชาชนจะทาขนมเฉพาะในงานเล้ียง นบั ตั้งแต่การทาบญุ เลยี้ งพระ งานมงคลและงาน พิธีการ อาหารหวานท่ีจัดเป็นสารับจะต้องประกอบด้วย ของหวานอย่างน้อย 5 ส่ิง ซ่ึงต้องเลือกให้มี รสชาติ สีสัน ชนิด ตลอดจนลักษณะท่ีกลมกลืนกัน แต่ละสารับจะต้องมีผลไม้ 10 ที่ และขนมเป็น น้า 1 ท่ีเสมอขนมไทย เป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจาชาติไทยอย่างหน่ึงท่ีเป็นที่รู้จักกันดี เพราะ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนประณีตในการทา ตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการทา ท่ีกลมกลืน พิถีพิถัน ในเร่ืองรสชาติ สีสันความสวยงาม กล่ินหอม รูปลักษณะชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธี การรบั ประทาน ขนมแต่ละชนดิ ซ่ึงยังแตกต่างกนั ไปตามลกั ษณะของขนมชนดิ นัน้ ๆ ขนมไทยท่ีนยิ ม

5 ทากันทุก ๆภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่าง ๆ “ใยอาหาร” หรือ “Fiber” เป็นอาหารอีกหมู่หน่ึงที่ ร่างกายมีความต้องการไม่น้อยไป กว่าอาหารหลักหมู่อ่ืน ใยอาหารน้ีแท้ที่จริงแล้วคือ คาร์โบไฮเดรต เชิงซ้อนท่ีไม่ใช่แปูง ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ พืช ผัก และผลไม้ท่ีรับประทานได้ แต่ไม่ถูกย่อยโดยน้าย่อย ในระบบย่อยอาหาร เมื่อผ่านลาไส้ใหญ่บางส่วนจะถูกย่อยโดยจุลินทรีย์ ทาให้กลายเป็นก๊าซ คารบ์ อนไดออกไซด์ มีเทน ไฮโดรเจน น้า และกรดไขมันสายส้ันๆ ซ่ึงจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ด้วยเหตุน้ี ใยอาหารจึงมีผลช่วยกระตุ้นการทางานของลาไส้ ทาให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติช่วยดูดซับสารก่อมะเร็งที่ อาจปะปนมากับอาหาร ซึ่งร่างกายสามารถขับถ่ายมาพร้อมกับอุจจาระ ช่วยลดการดูดซึมไขมันและคอ เรสเตอรอลในเส้นเลือดได้และเพ่ือสุขภาพท่ีดีเราควรบริโภคอาหารท่ีมีเส้นใยอาหารในปริมาณ 25-30 กรัมต่อวัน ซึ่งในขนมไทยต่างมีใยอาหารประกอบอยู่ด้วยทั้งส้ิน กากใยอาหารในผักและผลไม้ที่ นามาใช้ทาขนม อย่างเชน่ กล้วยบวดชี บวดเผอื ก บวดฟักทอง ยังคงสภาพอยู่กากใยเหล่านี้เป็นประโยชน์ ต่อการขับถ่ายของร่างกายทีเดียว ในขณะท่ี ขนมพันธุ์ใหม่ที่ในยุคน้ีจะเป็นขนมที่ต้องผ่านกระบวนการ ย่อยสลายหลายข้ันตอนมาก แปูงท่ีใช้ทาขนมก็จะถูกฟอกขาว มีสารเคมีสังเคราะห์มากมายเข้าไปเป็น ส่วนผสมท้ังในแปูงและน้าตาล ซึ่งจะย่อยสลายทนั ทีในปาก เกิดกรดทาให้ฟันผุได้ทันที และความที่อาหาร มีกากใยน้อยลง โรคที่ตามมาอีก คือ อาการท้องผูก ปัจจุบันกลายเป็นปัญหาของเด็กอย่างย่ิง บางบ้าน ถึงกับทะเลาะกนั ระหว่างแมก่ ับพ่อเร่ืองการถา่ ยของลกู

6 ถ่ายภาพบคุ คล และอปุ กรณ/์ เคร่ืองมือ/ส่งิ ทปี่ ระดษิ ฐ์ (ชนิ้ งานหรอื ผลงาน) อรัญญา ฮวบประเสริฐ อรัญญา ฮวบประเสริฐ อรัญญา ฮวบประเสริฐ อรัญญา ฮวบประเสริฐ

7 รปู ภาพภมู ิปญั ญา ขนมถ่วั แปลบ ขนมถ่วั แปลบ ขนมไทย ท่ไี ดร้ บั ความนยิ ม มายาวนาน มดี ว้ ยกันหลายชนดิ และ หนงึ่ ในกล่มุ ของ ขนมไทย ทไี่ ดร้ บั ความนยิ มมาโดยตลอดน้ี กค็ อื ขนมถว่ั แปบ ซึ่งเป็น ขนมไทย ที่รบั ประทานกันไดท้ กุ เพศทกุ วยั และทกุ เทศกาล ด้วยรสชาติ ออกรส มันนดิ ๆ จากถัว่ ทอง ผสมความหวานและหอม ของนา้ ตาลทรายละเอยี ด เคลา้ กบั งาคั่วหอมท่เี ป็นเครือ่ งโรยบนหน้า ขนมเทยี น สาคูไส้หมู ซ่งึ เป็ นขนมท่นี ิยมใช้ในงานบุญ โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ วธิ ีทาสาคไู ส้หมู แต่เดมิ มีไส้มะพร้าวและไส้ถ่วั เขียว แต่ในปัจจุบันมีการ ใส่นา้ มันราข้าวลงไปในกระทะ ตามด้วยรากผักชี กระเทยี ม และ ดดั แปลงไส้ออกไปหลากหลายมาก[1] ชาวจีนใช้ขนมเทยี น พริกไทย ท่ตี าละเอยี ดแล้ว ในการไหว้บรรพบุรุษช่วงวันตรุษและวันสารท ไส้เป็ นถ่วั ใส่หอมแดงสับ และหมบู ด ผัดจนหมูสุก แล้วปรุงรสด้วบนา้ ตาล เขียวกวนบด ถ้าแบบเคม็ จะใส่พริกไทยและเกลือ แบบหวาน ป๊ี บ ซีอว๊ิ ขาว และเกลือ ใส่มะพร้าวและนา้ ตาลลงไปเพ่มิ ใส่หัวไชโป๊ วสับลงไป แล้วผัดให้เข้ากัน ตักใส่จานพกั ไวก่อน ผสมเมด็ สาคูกับนา้ อ่นุ แล้วปั้นไส้หมูให้พอดคี าแล้วห่อด้วยเมด็

8 แบบบนั ทกึ ชดุ ขอ้ มลู คลงั ปญั ญา-ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ตาบล บา้ นบึง อาเภอ บ้านคา จังหวดั ราชบุรี ชอื่ ภมู ปิ ญั ญา การทานา้ พริกเผา ขอ้ มลู พื้นฐาน รายบคุ คล เจา้ ของภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ /บคุ คลคลงั ปญั ญา ช่ือ นางสาวโสภา ตะกงั วนั เดอื นปเี กดิ 10 มีนาคม พ.ศ. 2512 ที่อย่ปู ัจจุบนั (ทส่ี ามารถติดต่อได)้ บา้ นเลขที่ 2 หมูท่ ี่ 1 ตาบล/แขวง บ้านบงึ อาเภอ/เขต บ้านคา จงั หวัด ราชบรุ ี รหัสไปรณยี ์ 70180 โทรศพั ท์ 061-584-0627 Line ID chanita_happy E-mail address:[email protected] Facebook คณุ นายโส ความเป็นมาของภมู ปิ ัญญา คุณโสภา ตะกัง ได้เริ่มทาน้าพริกเผาต่างๆมาเป็นเวลา 9 ปีแล้ว ซ่ึงน้าพริกเผาเป็นส่วนประกอบ ของอาหารไทยทีไ่ ดร้ ับความนิยมจากผู้บรโิ ภคมาตง้ั แต่อดีตจนกระทัง่ ปัจจุบัน โดยใช้เป็นส่วนประกอบของ อาหารต่างๆหรือใช้ในการรับประทานเป็นกับข้าวชนิดหนึ่งก็ได้ เนื่องจากเป็นอาหารท่ีมีรสชาดคุ้นเคยกับ คนไทยมาโดยตลอดจึงเป็นท่ีนิยมจนกระท่ังปัจจุบัน โดยน้าพริกเผาได้แบ่งเป็นหลายประเภทแล้วแต่ วตั ถุดบิ ในการใช้ผลิต เช่นน้าพริกเผากล้วย น้าพริกเผาปลา น้าพริกเผากุ้ง เป็นต้น และปัจจุบันผลิตภัณฑ์ นา้ พริกเผานอกจากจะเป็นการผลิตเพื่อการบริโภคภายในประเทศแล้วยังกลายเป็นสินค้าที่มีการผลิตเพื่อ การส่งออกไปยังต่างประเทศเพ่ือสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกด้วย เน่ืองจากทรัพยากรท่ีใช้ในการผลิต น้าพริกเผามีอยู่ในประเทศไม่ต้องนาเข้ามาจากต่างประเทศ ประกอบกับมีผู้ผลิตที่มีความสามารถในการ ผลิตอย่มู ากมายทั้งระดับชาวบา้ นจนกระทั่งเปน็ โรงงานขนาดใหญ่ ดังน้ันจึงควรมีการส่งเสริมในด้านต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมน้าพริกเผาเพ่ือช่วยยกระดับการผลิตน้าพริกเผาให้มีมาตรฐานมากข้ึน น้าพริกเผานับเป็นอาหารประจาชาติของคนไทย ครอบครัวไทยมักต้องมีอาหารประเภทน้าพริกอยู่คู่ ประจามื้อในการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอย่างย่ิงการรับประทานอาหารที่ปรุงจากผัก มักต้องมี น้าพริกเป็นอาหารที่คู่เคียงกัน ดังนั้นการแนะนาให้รับประทานผักจึงต้องอาศัยความดึงดูดใจของรสชาติ นา้ พรกิ เปน็ องค์ประกอบท่สี าคญั น้าพรกิ ทาให้กนิ ผักไดม้ ากและอรอ่ ย น้าพรกิ สามารถผลิตในรสชาดต่างๆ ได้กว่า 200 ชนิด เพื่อให้ผู้บริโภคได้นาไปปรุงประกอบกับการรับประทานผักพื้นบ้าน โดยจัดแบ่งเป็น 2 หมวด คือ ประเภทน้าพริก และประเภทหลนหรือเครื่องจิ้มอ่ืนๆ ซึ่งหวังว่าจะอานวยความสะดวกแก่ผู้จะ นาไปประกอบอาหาร หรอื ดดั แปลงตามความพึงพอใจในการบรโิ ภคต่อไป

9 จดุ เดน่ ของภมู ปิ ญั ญา \"น้าพรกิ เผา\" เป็นมรดกภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมทเ่ี ก่าแกข่ องคนไทย แมไ้ ม่อาจระบุเวลาเร่ิมต้นได้ แต่มีหลักฐานว่าในสมัยอยุธยามีการปรุงและการกินอาหารน้ีแล้ว เดิมทีน้าพริกใช้พริกไทยเป็นเครื่องปรุง เพ่ือให้ความเผ็ดและเปลี่ยนมาใช้พริกเทศเมื่อชาวตะวันตกนาพันธ์ุเข้ามา ลักษณะเด่นของน้าพริกเผาคือ เป็นอาหารรสจัดถูกปากคนไทย เป็นอาหารปรุงง่ายใช้เคร่ืองปรุงไม่มากชนิด และสามารถนาพืชพันธ์ุ ธัญญาหารท้องถ่ินมาปรุงไม่จากัดชนิด ด้วยเหตุน้ีในแต่ละชุมชนจึงมีสูตรน้าพริกเผาเป็นจานวนมากท่ีมี การต่อยอดจากสูตรมาตรฐานสองสูตรตามกล่าวแล้ว ส่งผลให้น้าพริกเผาเป็นอาหารที่มีจานวนสูตรมาก ท่ีสุด และเนื่องจากน้าพริกเผามีรสจัดจึงนิยมกินกับเครื่องเคียงได้แก่เน้ือสัตว์และผักจ้ิมที่ให้คุณค่าทาง โภชนาการและสรรพคุณทางยา นอกจากนก้ี ารจัดเครือ่ งเคียงใหส้ วยงามและน่ากินได้พัฒนาเป็นศิลปะการ แกะสลักผักผลไม้ และศลิ ปะการจัดสารบั อาหารในรปู แบบเฉพาะของไทย ศิลปะสองแขนงนี้นับเป็นความ ภาคภมู ิใจอย่างย่งิ เพราะมีเพยี งชาติเดียวในโลก น้าพริกเผายังเป็นอาหารท่ีคนไทยจานวนมากกินอยู่เสมอ แต่น่าวิตกท่ีผู้บริโภคส่วนใหญ่ซื้อกินมากกว่าปรุงกิน ทาให้น้าพริกสูตรท่ีปรุงยากหรือเก็บรักษายากหรือมี ผู้รจู้ ักไมม่ ากอาจสูญหายไปพรอ้ มๆกับความประณีตในการจัดเครื่องเคียงด้วย ปัญหาน้ีเกิดข้ึนในทุกชุมชน และตา่ งมคี วามเหน็ ตรงกันวา่ นา้ พรกิ เผาเป็นมรดกภูมิปัญญาของชาติและเป็นวัฒนธรรมของมนุษยชาติจึง สมควรให้มีการเผยแพร่ประโยชน์และคุณค่าของน้าพริกเผา และให้น้าพริกเผาเป็นอาหารท่ีแสดงถึงอัต ลกั ษณ์ของชมุ ชนเพือ่ จะได้มกี ารสืบทอดภูมปิ ัญญาน้าพรกิ เผาอย่างยัง่ ยืน ดังนั้นในเชิงนโยบาย น้าพริกเผา ควรไดร้ ับการผลักดนั จากชุมชนและจากรัฐ ให้เยาวชนและชุมชนเรียนรู้สูตรน้าพริกเผาที่หลากหลายและ เรยี นรกู้ ารปรุงนา้ พริกเผากนิ เอง จะไดเ้ ป็นการสบื ทอดมรดกภูมิปัญญานใ้ี หค้ งอยกู่ บั ชุมชนตลอดไป

10 ถา่ ยภาพบคุ คล และอปุ กรณ/์ เครือ่ งมอื /สิ่งทป่ี ระดษิ ฐ์ (ชน้ิ งานหรอื ผลงาน) นางสาวโสภา ตะกัง นางสาวโสภา ตะกัง วสั ดอุ ปุ กรณ์ในการทานา้ พริกเผา นางสาวโสภา ตะกัง -พริกแห้ง-หวั หอม-กะปิ -นา้ ปลา-นา้ ม้น-นา้ ตาลป๊ิ บ- มะขามเปี ยก-ผงชูรส-เกลือ-กุ้งแห้ง-

11 รปู ภาพภมู ิปญั ญา น้าพรกิ เผา น้าพรกิ เผาเป็นมรดกภูมปิ ัญญาของชาตแิ ละเปน็ วฒั นธรรมของมนษุ ยชาติจงึ สมควรให้มกี าร เผยแพร่ประโยชน์และคณุ ค่าของน้าพริกเผา และให้น้าพริกเผาเปน็ อาหารท่แี สดงถงึ นา้ พริกเผาเป็นมรดกภมู ิปัญญาของชาติและเปน็ วัฒนธรรมของมนษุ ยชาตจิ งึ สมควรให้มกี าร เผยแพรป่ ระโยชนแ์ ละคุณคา่ ของน้าพริกเผา และให้นา้ พริกเผาเปน็ อาหารท่แี สดงถึงอตั ลักษณ์ของ ชุมชนเพ่ือจะไดม้ กี ารสืบทอดภมู ปิ ญั ญาน้าพรกิ เผาอย่างย่งั ยืน อัตลกั ษณข์ องชุมชนเพ่อื จะไดม้ ีการ สืบทอดภูมิปญั ญาน้าพริกเผาอย่างย่ังยืน

12 คณะผู้จดั ทา ท่ีปรึกษา นายชยั ศิริ จิรอนันตอ์ นวชั ผอ.กศน.อาเภอบ้านคา ครผู ชู้ ่วย นางสาวผกาพรรณ จันทะแสง ครู อาสาสมัคร นายปรชี า โพธศ์ิ รที อง คณะทางาน รา่ ง/เรียบเรียงและจัดพิมพ์ นายกุลวฒั น์ สมโสม ครู ศรช.หนองพันจันทร์ ครู กศน.ตาบลบ้านคา นายศุภากร ประชุมสาร ครู กศน.ตาบลบา้ นบึง ครู กศน.ตาบลหนองพนั จนั ทร์ นางสาวสวุ รรณา พริ ยิ ะพล ครู ศรช.บา้ นบึง บรรณารกั ษ์ นายสพุ ัด สวา่ งวงษ์ นางสาวชนิตา อาวรณจ์ ติ ร นางสาวนสิ า เมอื งอู่มงคล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook