Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเเสดงละคร.

การเเสดงละคร.

Published by จรัญ สุทธิเเเพทย์, 2021-07-26 08:08:01

Description: การเเสดงละคร.

Search

Read the Text Version

การแสดงละคร โรงเรยี นเตรยี มอดุ มศกึ ษาพฒั นาการอดุ รธานี

จดั ทำโดย นางสาวอจั ฉรา ใจบญุ เลขท่ี38 ชนั้ ม.5/6 นางสาวสชุ านนั ท์ พรมเทศ เลขท่ี36 ชนั้ ม.5/6 เสนอ คณุ ครู พรหมภสั สร พสชุ าธญั ภทั ร์ รายงานฉบบั นีเ้ ป็นสว่ นหน่งึ ของรายวิชา นาฏศลิ ป์ (ศ32101) ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 โรงเรยี นเตรยี มอดุ มศกึ ษาพฒั นาการอดุ รธานี

การแสดงละคร ละครไทย เป็นศิลปะและวฒั นธรรมไทย ซง่ึ มีมา ตงั้ แตส่ มยั โบราณ แบง่ ออกเป็น ละครราแบบดง้ั เดิม ไดแ้ ก่ ละครชาตรี ละครนอก ละครใน และ ละครราท่ี ประยกุ ตข์ นึ้ ใหม่ ไดแ้ ก่ ละครดกึ ดาบรรพ์ ละคร พนั ทาง ละครเสภา ละครสงั คตี ละครรอ้ ง ละครพดุ ละครเพลง ละครหลวงวิจติ รวาทการ เชน่ ละคร ชาตรี ละครนอก ละครใน ละครดกึ ดา บรรพ์ ละครพนั ทาง ละครเสภา ละคร สงั คีต ละครรอ้ ง ละครพดู ละครเพลง ละครหลวง วิจติ รวาทการ ลเิ ก

ละครชาตรี เป็น ละครราท่ีเก่าแกท่ ่สี ดุ มีมาตง้ั แต่สมยั อยธุ ยา นบั เป็นละครชนิดแรก ท่ไี ทยเร่มิ มีการแสดงเป็นเรอ่ื ง มี การรา่ ยราตามบทรอ้ งท่มี ีเนือ้ เร่อื ง ระยะแรกเร่มิ ผู้ แสดงเป็นชายลว้ น มีตวั ละครเพียง ๓ ตวั คือ นายโรง (พระเอก) นาง และตลก หรอื จาอวด ซง่ึ แสดงเป็นตวั ประกอบอ่นื ๆ ดว้ ย ตามเนือ้ เรอ่ื ง เชน่ ฤาษี มา้ ยกั ษ์ พราน เสนา เรอ่ื งท่แี สดง ละครชาตรนี ิยม แสดงเรอ่ื ง มโนหร์ า และ รถเสนการ แตง่ กาย สมยั โบราณผแู้ สดงเป็นชายลว้ น แตง่ กายไมส่ วมเสอื้ น่งุ สนบั เพลา เชิงกรอมขอ้ เทา้ น่งุ ผา้ หยกั รงั้ จบี โจงไวห้ างหงส์ มีหอ้ ยหนา้ เจียระบาด รดั สะเอว สวมสงั วาล กรองคอ ทบั ทรวง ศรี ษะสวมเทรดิ (เซดิ )

การแสดง เร่มื ดว้ ยพิธีบชู าครู เป็นการเบิกโรง แลว้ จงึ โหมโรง รอ้ งประกาศหนา้ บท รอ้ งขานเอ เป็นการไหว้ ครู นายโรงออกราซดั พรอ้ มทงั้ ว่าคาถาอาคมกนั เสนียดจญั ไร ราเวียนซา้ ย เรยี กว่า ชกั ใยแมงมมุ หรอื ชกั ยนั ต์ เร่มิ แสดงโดยตวั ละครออกน่งั เตยี ง ตวั ละคร ตอ้ งรอ้ งเอง มีลกู ครู่ บั มีคนบอกบท จบการแสดงจะมี การราซดั อกี ครงั้ พรอ้ มทง้ั ว่าอาคมถอยหลงั ราเวียน ขวา เรยี กวา่ คลายยนั ต์ เป็นการถอนอาถรรพณ์ ดนตรี ประกอบ มีนอ้ ยชนิ้ และเป็นเคร่อื งเบาๆ เหมาะ ท่จี ะขนยา้ ยรอ่ นเรไ่ ปแสดงท่ตี า่ งๆ ดนตรมี ีเพียง ป่ี ๑ เลา โทน(ชาตร)ี ๑ คู่ กลองเลก็ (กลองชาตร)ี ๑ คู่ ฆอ้ ง คู่ ๑ ราง ละครชาตรที ่มี าแสดงในกรุงเทพฯ มกั ตดั เอา ฆอ้ งคอู่ อก ใชม้ า้ ลอ่ แทน ซง่ึ เป็นประเพณีสืบตอ่ มา และบางครงั้ ก็ยงั ใชก้ ลองแขกอกี ดว้ ย

เพลงรอ้ ง ในสมยั โบราณตวั ละครมกั จะเป็นผดู้ น้ กลอนและรอ้ ง เป็นทานองเพลงรา่ ย และปัจจบุ นั เพลงรอ้ งมกั มีคาว่า ชาตรี อยู่ ดว้ ย เชน่ รา่ ยชาตรี รา่ ยชาตรกี รบั รา่ ยชาตรี ๒ รา่ ยชาตรี ๓ รา ชาตรี ชาตรตี ะลงุ สถานท่แี สดง ท่บี า้ น ท่กี ลางแจง้ หรอื จะเป็นท่ศี าลเจา้ ก็ได้ ไม่ ตอ้ งมีส่ิงใดประกอบมากมาย ไมต่ อ้ งมีฉาก บรเิ วณท่ีแาดง นอกจากมีหลงั คาไวบ้ งั แดดบงั ฝนตามธรรมดา โบราณใชเ้ สา ๔ ตน้ ปัก ๔ มมุ เป็นส่ีเหล่ยี มจตั รุ สั มีเตยี ง ๑ เตยี ง จะลงเสา กลางซง่ึ ถือว่าเป็นเสามหาชยั อกี ๑ เสา เสากลางนีส้ าคญั มาก (ในสมยั ก่อนจะตอ้ งใชไ้ มช้ ยั พฤกษ์) เป็นเสาท่ีพระวิสสกุ รรม เสดจ็ มาประทบั เพ่ือปกปอ้ งผองภยั อนั ตราย จงึ ไดท้ าเสาผกู ผา้ แดงปักไวต้ รงกลางโรง เสานีใ้ ชเ้ ป็นท่ผี กู ซองคลี (ซองใสไ่ มร้ บ ตา่ ง ๆ) ในภายหลงั เพ่ือสะดวกในการแสดงท่ตี วั ละครจะหยิบ ไดต้ ามความตอ้ งการโดยรวดเรว็

ละครนอก เป็น ละครท่พี ฒั นามาจากละครชาตรี แตเ่ ดิมคงมตี วั ละครเพียง ๓-๔ ตวั อยา่ งละครชาตรี ตอ่ มามีการแสดง ละครกนั อยา่ งแพรห่ ลายท่วั ไปในหม่รู าษฎร มีการเล่นเร่อื ง ตา่ งๆ มากขนึ้ ตอ้ งเพ่ิมตวั ละครขนึ้ ตามเนือ้ เร่ือง ผแู้ สดง ยงั คงเป็นชายลว้ น แตก่ ารแตง่ กายไดป้ ระดษิ ฐเ์ พ่ิมเติม เปล่ียนแปลงใหป้ ระณีตงามขนึ้ ละครนอก เป็น ละครท่พี ฒั นามาจากละครชาตรี แตเ่ ดิมคงมตี วั ละครเพียง ๓-๔ ตวั อยา่ งละครชาตรี ตอ่ มามีการแสดง ละครกนั อยา่ งแพรห่ ลายท่วั ไปในหม่รู าษฎร มีการเล่นเร่อื ง ตา่ งๆ มากขนึ้ ตอ้ งเพ่ิมตวั ละครขนึ้ ตามเนือ้ เร่ือง ผแู้ สดง ยงั คงเป็นชายลว้ น แตก่ ารแตง่ กายไดป้ ระดิษฐ์เพ่ิมเติม เปล่ียนแปลงใหป้ ระณีตงามขนึ้

เรอ่ื งท่ีแสดง ในสมยั กรุงศรอี ยธุ ยา นิยมเลน่ กนั หลายเร่อื ง ลว้ นแตเ่ ป็นประเภทจกั รๆ วงศๆ์ นิทานชาวบา้ น นิทานชาดก มีคตสิ อนใจ เช่น การเกด คาวี ไชยทตั พกิ ลุ ทอง พมิ พส์ วรรค์ พณิ สรุ ยิ วงศ์ มโนราห์ โม่งป่า มณี พชิ ยั สงั ขท์ อง สงั ขศ์ ิลป์ ชยั สวุ รรณศิลป์ สวุ รรณหงส์ โสวตั ในสมยั กรุงรตั นโกสินทร์ มีบทพระราชนิพนธล์ ะคร นอก ในรชั กาลท่ี ๒ อีก ๖ เร่อื ง คือ สงั ขท์ อง ไชยเชษฐ์ ไกรทอง มณีพชิ ยั คาวี สงั ขศ์ ิลป์ ชยั ทงั้ ๖ เรอ่ื งนี้ พระราช นิพนธข์ นึ้ เพ่อื ใหล้ ะครผหู้ ญิงของหลวงแสดง การแตง่ กาย คงแต่งอย่างชาวบา้ นธรรมดา เพราะเป็นละครชาวบา้ น เพยี งแต่ใหร้ ดั กมุ สะดวกในการทาบท และ ใชผ้ า้ โพกหรอื หม่ พอใหร้ ูว้ า่ เป็นหญิงหรอื ชาย ตอ่ มา มีผปู้ ระดิษฐ์ใหง้ ดงาม ปักดิน้ เล่ือมแพราวพราว ศีรษะสวม ชฎาและรดั เกลา้ ทงั้ รดั เกลา้ ยอด รดั เกลา้ เปลว ตลอดจนปันจเุ หรจ็ กระบงั หนา้ รูปต่างๆ

ผู้ แสดง เร่มิ มีผหู้ ญิงแสดงละครนอก ในสมยั รชั กาล ท่ี ๒ แตเ่ ป็นละครหลวง ผแู้ สดงตอ้ งเป็นคน แคลว่ คลอ่ งว่องไว มีไหวพรบิ ปฏิภาณชานาญทงั้ รา และรอ้ ง มีลกู ครู่ บั หากเป็นบทเลา่ หรอื บรรยาย ลกู คู่ จะรอ้ ง และผแู้ สดงตอ้ งพดู เอง เลน่ ตลกเอง มีคนบอก บทรอ้ งให้ การแสดง ดาเนินเร่อื งอยา่ งรวดเรว็ แทรกตลกขบขนั ไม่เครง่ ครดั ขนบประเพณี ตลกจะเลน่ กบั เจา้ ฟ้า เจา้ แผน่ ดินและมเหสกี ไ็ ด้ การรา่ ยราดว้ ยทา่ ทาง กระฉบั กระเฉง ว่องไว

เพลง รอ้ งและดนตรี เดิมใชว้ งป่ีพาทยเ์ คร่อื งหา้ บรรเลงประกอบการแสดง ปัจจบุ นั เปล่ียนแปลงตามความใหญ่โต ของงาน เพลงรอ้ งสว่ นมากเป็นเพลงชนั้ เดียว หรอื สองชน้ั ท่มี ีจงั หวะรวบรดั ดาเนินเรอ่ื งดว้ ยเพลงรา่ ยนอก ระดบั เสยี งในการรอ้ งและบรรเลงใชท้ างนอก เหมาะกบั เสยี งผชู้ าย สถานท่แี สดง โรงละครเป็นรูปส่ีเหล่ยี มดไู ด้ ๓ ดา้ น (เดมิ ) กน้ั ฉากผืนเดยี วโดยไมต่ อ้ งเปล่ียนแปลงไปตามทอ้ งเร่อื ง มีประตเู ขา้ ออก ๒ ทาง หนา้ ฉากตรงกลางตง้ั เตียงสากรบั ตวั ละครน่งั ดา้ นหลงั ฉากเป็นสว่ นสาหรบั ละครพกั แตง่ ตวั

ละครใน เป็น ละครท่แี สดงในวงั ไดน้ าวิธีการเลน่ เดินเร่ืองอยา่ ง ละครนอก มาใหเ้ หลา่ ระบาในพระราชฐานแสดง โดยนาบทท่ี เคยแสดงโขนคอื เรอ่ื งรามเกียรตื์ และอณุ รุท มาแสดงโดย นางในราชสานกั จงึ เรยี กว่าละครนางใน หรอื ละครขา้ งใน ตอ่ มาเรยี กสนั้ ๆ วา่ ละครใน

เรอ่ื งท่แี สดง แสดงเฉพาะ ๓ เรอ่ื ง คอื รามเกียรติ์ อณุ รุท และอิเหนา การ แตง่ กาย เครอ่ื งแตง่ กายประณีตงดงาม ตามแบบของกษัตริย์ เชน่ มีมงกฎุ สงั วาล ทบั ทรวง เจยี ระบาด หอ้ ยหนา้ สนบั เพลา พระภษู า ฉลองพระองค์ ฯลฯ ผแู้ สดง เดิมเป็นหญิงลว้ น ตอ่ มาสมยั รชั กาลท่ี ๑ มี ละครในผชู้ ายแสดง เชน่ นายทองอยเู่ ป็นอิเหนา การแสดง ทา่ รา ตอ้ งประณีตงดงามตามแบบราชสานกั ละครในม่งุ ดศู ลิ ปะการรา่ ยรามากกวา่ เนือ้ เรอ่ื ง ดนตรี ใชว้ งป่ีพาทยเ์ หมือน ละครนอก ใชท้ างในซง่ึ มีระดบั เสยี งเหมาะกบั ผหู้ ญิง และมักเป็น เพลงท่ีมีลลี า ทว่ งทานองคอ่ นขา้ งชา้ วิจติ รพิสดาร เหมาะกบั ลีลา ทา่ รา เพลงรอ้ ง ปรบั ปรุงใหม้ ีทานองและจงั หวะน่ิมนวล สละสลวย ตวั ละครไม่รอ้ งเอง มีตน้ เสยี งและลกู คู่ มกั มีคาวา่ \"ใน\" อยทู่ า้ ยเพลง เชน่ ชา้ ป่ีใน โอโ้ ลมใน สถานท่ีแสดง เดิมแสดงในพระราชฐาน เทา่ นนั้ ตอ่ มาแสดงไมจ่ ากดั สถานท่ี

ลิเก เกิด ขนึ้ ในสมยั รชั กาลท่ี 5 คาว่า ลเิ ก ในภาษา มลายู แปลวา่ ขบั รอ้ ง เดมิ เป็นการสวดบชู าพระใน ศาสนาอิสลาม สวดเพลงแขกเขา้ กบั จงั หวะรามะนา พวกแขกเจา้ เซน็ ไดส้ วดถวายตวั เป็นครง้ั แรกในการ บาเพ็ญพระราชกศุ ล เม่ือ พ.ศ. 2423 ตอ่ มาคิดสวด แผลงเป็นลานาตา่ งๆ คดิ ลกู หมดเขา้ แกมสวด รอ้ ง เป็นเพลงตา่ งภาษา และทาตวั หนงั เชิด โดยเอา รามะนาเป็นจอกม็ ี ลเิ กจงึ กลายเป็นการเลน่ ขึน้ ตอ่ มามีผคู้ ิดเลน่ ลิเกอยา่ งละคร คอื เรม่ิ รอ้ งเพลงแขก แลว้ ตอ่ ไปเลน่ อยา่ งละครรา และใชป้ ่ีพาทยอ์ ยา่ ง ละคร

ลิเก มี 3 แบบ คือ 1. ลิเกบนั ตน เร่มิ ดว้ ยรอ้ งเพลงบนั ตนเป็นภาษามลายู ตอ่ มากแ็ ทรกคาไทยเขา้ ไปบา้ ง ดนตรกี ใ็ ชร้ ามะนา จากนนั้ กแ็ สดงเป็นชดุ ๆ ตา่ งภาษา เชน่ แขก ลาว มอญ พม่า ตอ้ งเเรม่ิ ดว้ ยชดุ แขกเสมอ ผแู้ สดงแตง่ ตวั เป็นชาติ ตา่ งๆ รอ้ งเอง พวกตีรามะนาเป็นลกู คู่ มีการรอ้ งเพลงบนั ตนแทรกระหวา่ งการแสดงแตล่ ะชดุ 2. ลเิ กลกู บท คอื การแสดงผสมกบั การขบั รอ้ งและบรรเลงเพลงลกู บท รอ้ งและราไปตามกระบวนเพลง ใชป้ ่ี พาทยป์ ระกอบแทนรามะนา แตง่ กายตามท่นี ิยมในสมยั นน้ั ๆ แตส่ ีฉดู ฉาด ผแู้ สดงเป็นชายลว้ น เม่ือแสดงหมดแต่ ละชดุ ป่ีพาทยจ์ ะบรรเลงเพลง 3 ชนั้ ท่เี ป็นแม่บทขนึ้ อกี และออกลกู หมดเป็นภาษาตา่ งๆ ชดุ อ่นื ๆ ตอ่ ไปใหม่ 3. ลิเกทรงเครอ่ื ง เป็นการผสมผสาน ระหวา่ งลเิ กบนั ตนและลเิ กลกู บท มีทา่ ราเป็นแบบแผน แตง่ ตวั คลา้ ย ละครรา แสดงเป็นเร่อื งยาวๆ อยา่ งละคร เรม่ิ ดว้ ยโหมโรงและบรรเลงเพลงภาษาตา่ งๆ เรยี กว่า \"ออกภาษา\" หรอื \"ออกสิบสองภาษา\" เพลงสดุ ทา้ ยเป็นเพลงแขก พอป่ีพาทยห์ ยดุ พวกตรี ามะนากร็ อ้ งเพลงบนั ตน แลว้ แสดงชดุ แขก เป็นการคานบั ครู ใชป้ ่ีพาทยร์ บั ตอ่ จากนน้ั กแ็ สดงตามเนือ้ เรอ่ื ง ลิเกท่แี สดงในปัจจบุ นั เป็นลเิ กทรงเคร่อื ง

วธิ ี แสดง เดนิ เร่อื งรวดเรว็ ตลกขบขนั การแสดงเร่มิ ดว้ ยโหมโรง 3 ลา จบแลว้ บรรเลงเพลงสาธกุ าร ใหผ้ แู้ สดงไหวค้ รู แลว้ จงึ ออกแขก บอก เรอ่ื งท่จี ะแสดง สมยั กอ่ นมีการราถวายมือหรอื ราเบกิ โรง แลว้ จงึ ดาเนินเรอ่ื ง ตอ่ มาการราถวายมือกเ็ ลกิ ไป ออกแขกแลว้ ก็จบั เร่อื ง ทนั ที การรา่ ยรานอ้ ยลงไปจนเกือบไมเ่ หลือเลย คงมีเพียงบางคณะ ท่ยี งั ยดึ ศลิ ปะการราอยู่ ผแู้ สดง เดิมใชผ้ ชู้ ายลว้ น ตอ่ มานายดอกดนิ เสอื สงา่ ใหบ้ ตุ รสาวช่อื ละออง แสดงเป็นตวั นนางประจาคณะ ตอ่ มาคณะอ่นื ก็เอาอยา่ ง บา้ ง บางคณะใหผ้ หู้ ญิงเป็นพระเอก เชน่ คณะกานนั หนู บา้ นผกั ไห่ อยธุ ยา การแสดงชายจรงิ หญิงแทน้ น้ั คณะนายหอมหวล นาคศริ ิ เร่มิ เป็นคณะแรก ผแู้ สดงตอ้ งมีปฏิภาณในการรอ้ งและเจรจา ดาเนินเรอ่ื งโดยไมม่ ีการบอกบทเลย หวั หนา้ คณะจะเลา่ ใหฟ้ ังก่อน เทา่ นน้ั นอกจากนี้ การเจรจาตอ้ งดดั เสียงใหผ้ ิดปกติ ซ่งึ เป็น เอกลกั ษณ์ ของลเิ ก แตต่ วั สามญั ชนและตวั ตลกพดู เสยี งธรรมดา

เพลงและดนตรี ดาเนินเรอ่ื งใชเ้ พลงหงสท์ องชนั้ เดียว แต่ดดั แปลงให้ ดน้ ไดเ้ นือ้ ความมากๆ แลว้ จงึ รบั ดว้ ยป่ีพาทย์ แตถ่ า้ เลน่ เรอ่ื งตา่ งภาษา ก็ใชเ้ พลงท่ีมีสาเนียงภาษานนั้ ๆ ตามทอ้ งเร่อื ง แตด่ น้ ใหค้ ลา้ ยหงสท์ อง ตอ่ มานาย ดอกดนิ เสอื สง่า ไดด้ ดั แปลงเพลงมอญครวญของ ลิเกบนั ตนท่ใี ชก้ บั บทโศก มาเป็นเพลงแสดงความรกั ดว้ ย เร่อื งท่แี สดง นิยมใชเ้ รอ่ื งละครนอก ละครใน และเร่อื งพงศาวดารจีน มอญ ญวน เชน่ สามก๊ก ราชาธิราช ฉนั ใดเวือง การ แตง่ กาย แตง่ ตวั ดว้ ย เคร่อื งประดบั สวยงาม เลียนแบบเครอ่ื งทรงกษัตรยิ ์ จงึ เรยี กว่าลิเกทรงเครอ่ื ง \"สมยั ของแพง\" ก็ลดเครอ่ื ง แตง่ กายท่แี พรวพราวลงไป แตบ่ างคณะก็ยงั รกั ษา แบบแผนเดิมไว้ โดยตวั นายโรงยงั แตง่ เลยี นแบบ

เครอ่ื งทรงของกษัตรยิ ใ์ นสว่ นท่ีมิใชเ่ คร่อื งตน้ เชน่ น่งุ ผา้ ยกทอง สวมเสือ้ เขม้ ขาบหรอื เยียรบบั แขนใหญ่ถงึ ขอ้ มือ คาดเข็มขดั นอกเสือ้ ประดบั เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณต์ า่ งๆ แตด่ ดั แปลงเสียใหม่ เชน่ เครอ่ื งสวมศีรษะ เครอ่ื งประดบั หนา้ อก สายสะพาย เคร่อื งประดบั ไหลต่ วั นางนงุ่ จีบยกทอง สวมเสือ้ แขนกระบอกยาว หม่ สไบ ปักแพรวพราว สวมกระบงั หนา้ ตอ่ ยอดมงกฎุ ท่แี ปลกกวา่ การแสดงอ่นื ๆ คือสวมถงุ เทา้ ยาวสขี าวแทนการผดั ฝ่นุ อยา่ งละคร แตไ่ ม่สวมรองเทา้ สถานท่แี สดง ลานวดั ตลาด สนามกวา้ งๆ โดยปลกู เพิงสงู ระดบั ตา ดา้ นหนา้ เป็นท่แี สดง ดา้ นหลงั เป็นท่พี กั ท่แี ตง่ ตวั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook