ไดแ้ ก่ ๑) ระยะเตรยี มการ และสรา้ งสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา ดงั น้ี ประชมุ ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ ง เชน่ เทศบาลตำ� บลทุ่งหัวชา้ ง ผู้บรหิ าร สมาชกิ สภาเทศบาล กรรรมการศูนยพ์ ัฒนาเด็ก เลก็ ผ้อู ำ� นวยการโรงเรยี น ครู ผู้ใหญ่บ้าน กำ� นนั ผูป้ กครอง ประธานชุมชน คณะ กรรมการชุมชน กลมุ่ จติ อาสาแรงงาน เจ้าหนา้ ทบ่ี รรเทาสาธารภัย เปน็ ตน้ แต่งต้งั คณะ ท�ำงาน ประกอบด้วยคณะกรรมการอำ� นวยการ และคณะทำ� งานหลกั ทกุ สว่ นราชการใน สังกดั เทศบาลฯ โดยกองการศึกษารบั ผิดชอบโดยตรง กำ� หนดบทบาทหนา้ ท่ีทมี และร่วม กนั จดั ทำ� แผนปฏบิ ตั กิ ารเพอื่ สรา้ งและดำ� เนนิ กจิ กรรมสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา ประกอบดว้ ย (๑) ทีมจัดการ มีบทบาทจัดการกลุ่มเรียนรู้สี่ฐานทั้งแบบแปลนของฐาน วัสดุอุปกรณ์ท่ี จ�ำเป็น กลุ่มผู้ที่มีส่วนร่วมในการด�ำเนินการแต่ละฐาน พร้อมผู้ประสานฐานย่อยซึ่งเป็น พนกั งานของเทศบาล และ (๒) ทมี ช่างประกอบด้วยทีมหลกั มาจากกลุ่มจิตอาสาแรงงาน ตามความเชี่ยวชาญงานชา่ ง และพนักงานกองชา่ ง ไดแ้ ก่ ฐานที่ ๑ สระน�ำ้ อิน จัน มชี ่าง กอ่ สรา้ ง ปนู ทราย ท�ำโครงสร้าง ฐานท่ี ๒ สระทารก มีชา่ งปนู ชา่ งประปา ทำ� ระบบ นำ�้ ฐานท่ี ๓ คา่ ยกลสไปเดอรแ์ มน มที มี อาสาสมคั รของหนว่ ยบรรเทาสาธารณภยั ทำ� การ ผกู เชอื กรปู แบบต่าง ๆ ใหม้ ลี กั ษณะคลา้ ยใยแมงมมุ ในส่วนของฐาน บา้ นต้นไม้ มขี อง เดมิ แลว้ จงึ ดำ� เนนิ การสรา้ งเพยี ง ๓ ฐาน ใชเ้ วลา ๒ สปั ดาห์ การกำ� หนดพน้ื ทท่ี เ่ี หมาะสม ต้องด�ำเนินการตามเง่ือนไขในการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาให้เป็นไปตามบริบท ของพน้ื ที่ มีขอ้ จ�ำกัดขนั้ ต�่ำคอื ขนาดพ้ืนที่ ต้นไม้ ลักษณะที่ต้ังอยใู่ นพื้นท่ีใกล้ศนู ย์พัฒนา เดก็ เลก็ คนทวั่ ไปเขา้ ถงึ ไดส้ ะดวกและชมุ ชนเหน็ ชอบ และมขี อ้ ตกลงในการใชพ้ น้ื ท่ี ๒) ระยะ การจัดการหลังสร้างและด�ำเนินการแล้วเสร็จ เมื่อด�ำเนินการสร้างสนามเด็กเล่นสร้าง ปัญญาเสร็จเรียบรอ้ ย คณะทำ� งาน ผูป้ กครอง ได้ร่วมกันกำ� หนดข้อตกลง ในการเรยี นรู้ ส�ำหรับเด็ก โดยครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นผู้ดูแล และบริหารจัดดูแลความเรียบร้อย ประสานการซอ่ มบำ� รงุ กบั กองชา่ ง จดั ตารางเรยี นรสู้ ำ� หรบั เดก็ ในศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ดงั น้ี เปดิ บรกิ ารวนั จันทร-์ วนั ศุกร์ โดยวันจนั ทร์ จดั ให้เด็กปฐมวยั เล่น วนั อังคาร เดก็ อนบุ าล ๑ วันพธุ เดก็ อนุบาล ๒ วนั พฤหัสบดเี ดก็ อนบุ าล ๓ และวันศุกรเ์ ปน็ เดก็ ประถมมาเล่นใน สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา สว่ นสระวา่ ยนำ�้ จะเปดิ ใหเ้ ลน่ เดอื นละ ๑ ครงั้ ในวนั พธุ แรกของ เดือน ทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ประเมินการติดตามผลการเล่นด้วยสนามเด็กเล่นสร้าง ปัญญา โดยใช้แบบประเมนิ พัฒนาการ ๔ ดา้ น ประกอบดว้ ย ดา้ นร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม และประเมินด้วยการสังเกตความสนใจ ทักษะการเล่น ทักษะทาง อารมณ์ ของเด็กโดยครูประจำ� ช้ัน ดังกรณีตัวอย่าง 206
“น้องปาย อายุ ๒ ปี ๖ เดือน อาศัยอยู่พ่อแม่ น้องปายเป็นเด็กกลัวน�้ำ ไม่มี ประสบการณ์ในการลงเล่นน�้ำ ไมก่ ล้าลงเลน่ น้�ำ วันแรกทค่ี รจู ัดใหเ้ ลน่ ในสระน�้ำ น้องปาย จะตัวส่ัน ไม่กลา้ ลงในสระ ครูได้พานอ้ งเอามือและเทา้ แตะนำ�้ พาลงเดนิ ในสระ เพอ่ื นๆ ตา่ งใหก้ ำ� ลังใจ นอ้ งไดเ้ รียนรู้วิธใี ช้ชวี ิตในนำ�้ น้องปายรวู้ า่ สระไม่ลกึ จึงลงนัง่ ในสระทารก และเล่นน้�ำกับเพื่อนๆ ได้อย่างสนุกสนาน ในวันต่อมาน้องปายกล้าลงเล่นน�้ำโดยไม่กลัว และอยากไปเลน่ เคร่ืองเล่นอน่ื ๆ” “ดญ.ปริม อายุ ๕ ปี ลงเล่นในสระนำ้� อนิ จนั ซงึ่ เป็นสระน้ำ� ทมี่ ีทง้ั โคนและทราย ดญ.ปริม และผปู้ กครองเห็นว่า สระไม่สะอาด เวลา ดญ.ปรมิ ลงเลน่ ในสระนี้ น้องจะ ระมดั ระวงั ตวั นอกจากนพี้ นื้ โคนจะมคี วามลนื่ นอ้ งปรมิ เรยี นรวู้ ธิ ที รงตวั ใหส้ ามารถยนื บน โคน น้องปริมภูมิใจท่ีสามารถยืนได้โดยไม่ล้ม หลังจากเล่นเสร็จน้องปริมได้เรียนรู้ท่ีจะ ท�ำความสะอาดร่างกาย พอ่ แม่เห็นวา่ น้องปริมมีทกั ษะการทรงตวั ทดี่ ีและร้จู ักวธิ กี ารเลน่ ที่ จะไมใ่ ห้โคนเข้าตา รสู้ กึ คลายกงั วลและประหลาดใจในความสามารถของนอ้ งปรมิ ” “ดช.เก่ง เรยี นชนั้ ป.๒ ชอบเล่นคา่ ยกลสไปเดอรแ์ มน ก�ำลงั ปีนป่ายอยา่ งสนุกสนาน ทันใดนั้น เขาเหลือบเห็นน้องอนุบาลคนหนึ่ง ซ่ึงครูได้อุ้มมาจับเชือกเพ่ือให้ฝึกเล่น น้องอนุบาลเกดิ ความกลัวจนตัวสั่น ร้องไหเ้ สยี งดัง จนครไู ดก้ อดไวแ้ ละให้ความมนั่ ใจว่า นอ้ งจะไมต่ ก ดช.เกง่ และเพ่อื นๆ ท่กี �ำลังเลน่ อยจู่ งึ หยุดปนื ป่าย และดงึ เชือกใหอ้ ย่นู ิง่ เพื่อ ให้เชอื กตึง ไม่โอนเอน เพ่ือให้น้องอนบุ าลเกาะเชือกไดส้ ะดวกขนึ้ ดช.เก่ง เขาเรยี นรูท้ จ่ี ะ ช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า มีน�้ำใจกับน้องอนุบาล จนน้องสามารถไต่เชือกได้และไม่กลัว นอกจากนี้ คณุ ครไู ดเ้ ลา่ ใหฟ้ งั วา่ ทกุ ครงั้ ทเ่ี หน็ ครมู าคอยดแู ลเดก็ เลน่ คา่ ยกลสไปเดอรแ์ มน เด็กจะไม่แกว่งเชือกแรง เพราะกลัวโดนครู เด็กได้เรียนรู้มารยาท ท่ีจะไม่ท�ำให้คนอื่น เดอื ดรอ้ น” ๒ส่วนที่ สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 207
เทศบาลตําบลแมแ รง อําเภอปา ซาง จงั หวดั ลําพนู สถานการณ กลไกการดําเนนิ การ ประชากรทงั้ หมด ๖,๒๑๒ คน ๑.ระยะเตรียมการ เด็กปฐมวัยใน ศพด. ทง้ั หมด ๔๐ คน - รวบรวมขอ้ มลู ทบทวนขอ้ มลู ทุนทางสังคมและศกั ยภาพใน พ้นื ท่ีเพอื่ นาํ มาใชใ้ นการพฒั นาการดาํ เนนิ งาน ชาย ๒๕ คน (๖๒.๕๐%) - จดั อบรมเชิงปฏบิ ตั ิการคณะกรรมการพฒั นา หญิง ๑๕ คน (๓๗.๕๐%) สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปัญญาและเครอื ขา่ ยในและนอกพ้นื ท่ี - จัดทาํ แผนการสร้างสนามเด็กเล่น ทนุ ทางสังคม ๒.ร-ะยมะกี ดารำดเํานเนินนิ กกาารรสรา้ งสนามเด็กเลน่ ตามแบบ ภาคเี ครอื ขาย สภาเด็กและเยาวชน รพ.สต. อสม. จติ อาสา แรงงาน จาํ นวน ๓ ฐานไดแ้ ก่ กลุมผสู งู อายุ ผูนำแหลงเรยี นรู ฐานที่ ๑ สระนา้ํ อนิ -จนั ทอ งที่ ทองถ่ิน ผูปกครอง กรรมการ ฐานที่ ๒ สระทารก เทศบาล ผูบรหิ าร สมาชิก ศพด. ฐานที่ ๓ ค่ายกลสไปเดอร์แมน ๓.ระยะการจัดการหลังสรา งและดำเนินการแลว เสรจ็ คณะทํางาน ผปู้ กครอง ครู จัดตารางเรียนรสู้ ําหรับเด็ก เนน้ การสง่ เสรมิ พฒั นาการเดก็ ทงั้ 4 ด้าน ร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ทต.แมแ รงสมคั รเขารว มโครงการ - ออกแบบการเรียนรูการเลน ครอู อกแบบการเลน ๓ ครั้ง/สัปดาห จันทร พธุ ศุกร สง เสริมการเรียนรเู ดก็ ปฐมวยั - ความรบั ผดิ ชอบในการดแู ลการกําหนดเฝา ดูแลเดก็ เวลาเลน ตลอดเวลา - ตดิ ตามประเมนิ ผลพัฒนาการของเดก็ กอ น/หลัง ทอ งถนิ่ ไทย ผานการเลน ประจำป - มกี ารดแู ลซอมบํารุงโดยทีมงาน จาก กองชา งสํานักงานปลดั งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สสส.และ กองการศกึ ษาเทศบาลตําบลแมแ รง มลู นิธิสนามเด็กเลน สรา งปญ ญา - มกี ารขยายผลไปยงั ศพด.อน่ื ๆ แหลงพ้ืนท่ศี ึกษาดงู าน แกอ งคกรอื่น ๑. เด็กมีพัฒนาสมบรู ณทกุ ดานผานการเลนเด็กมคี วามสุข ๒. ชุมชนเกดิ กระบวนการเรียนรูการสรา งสมั พันธท ี่ดี ใชก ลไกของทกุ คน ในชุมชนมาเปน พลังขับเคล่อื นสิ่งท่ีดีใหกบั ลูกหลาน ๓. ศพด.เปนแหลงศึกษาดงู านตนแบบสนามเด็กเลนสรางปญญา ภาพที่ ๒.๕ สนามเดก็ เล่นสร้างปญั ญา ศูนย์อบรมเดก็ ก่อนเกณฑใ์ นวัดแม่แรง เทศบาลตำ� บลแมแ่ รง อ�ำเภอป่าซาง จังหวดั ลำ� พูน 208
สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ศูนย์อบรมเด็กกอ่ นเกณฑใ์ นวดั แม่แรง เทศบาลตำ�บลแมแ่ รง อำ�เภอปา่ ซาง จงั หวัดลำ�พนู นายทวี ณ ลำ� พนู นายกเทศมนตรตี ำ� บลแม่แรง เบอรโ์ ทร ๐๘๓-๑๕๖๑๕๕๕ เทศบาลต�ำบลแมแ่ รง อ.ป่าซาง จ.ล�ำพูน แบ่งพน้ื ทีก่ ารปกครองเปน็ ๑๑ หมบู่ ้าน ๒สว่ นท่ี ๑,๖๐๒ ครัวเรือน ประชากร ๗,๑๖๙ คน เพศชาย ๓,๔๕๓ คน ร้อยละ ๔๘.๑๗ เพศหญงิ ๓,๗๑๖ รอ้ ยละ ๕๑.๘๓ เดก็ ปฐมวัยในศูนย์อบรมเด็กกอ่ นเกณฑ์ในวัดแม่แรง จ�ำนวน ๔๐ คน ชาย ๒๕ คน ร้อยละ ๖๒.๕๐ หญิง ๑๕ คน ร้อยละ ๓๗.๕๐ เดก็ อายุ ๒-๓ ปี ๑๗ คน รอ้ ยละ ๔๒.๕๐ เดก็ อายุ ๓-๕ ปี ๒๓ คน รอ้ ยละ ๒๓ สุขภาวะเด็กปฐมวัยในศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัดแม่แรง เป็นเด็กน�้ำหนักตามเกณฑ์ ๑๓ คน ร้อยละ ๗๖.๔๗ การดแู ลกลมุ่ วยั เดก็ โดยเทศบาลตำ� บลแมแ่ รง รว่ มกบั สถานศกึ ษา หนว่ ยบรกิ ารสขุ ภาพ และทุนทางสงั คมในพน้ื ที่ มบี รกิ ารอย่างนอ้ ย ๓ เรอ่ื ง ไดแ้ ก่ (๑) การจดั หลกั สตู รการ เรยี นร้ใู นชนั้ เรยี น และการเรยี นรใู้ นชมุ ชน โดยการฝกึ วนิ ยั การอยรู่ ว่ มกนั การมภี าวะผนู้ ำ� การดแู ลตนเองตามวยั เปน็ ตน้ (๒) การบรหิ ารจดั การ โดยฝา่ ยบรหิ าร คณะกรรมการ สถานศกึ ษา และแกนนำ� กลมุ่ องคก์ รชมุ ชน ดำ� เนนิ การการพฒั นาศกั ยภาพผสู้ อน จดั ใหม้ ี การสนบั สนนุ อาหารกลางวนั อาหารเสรมิ (นม) และนำ้� ดมื่ สะอาด การจดั การอาคารสถาน ที่ การสขุ าภบิ าลทไี่ ดม้ าตรฐาน และมคี วามเหมาะสม (๓) การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มทเ่ี ออ้ื ตอ่ สขุ ภาพ ปรบั ปรงุ ทง้ั ภายในอาคารหรอื พน้ื ทท่ี ำ� การและภายนอก เชน่ จดั พน้ื ทโี่ ลง่ เพอื่ ให้ เด็กไดว้ งิ่ เล่นอิสระ พืน้ สนามเดก็ เลน่ ทีป่ ลอดภัย พืน้ ทเ่ี รียนรอู้ ื่น ๆ เช่น แปลงผกั ปลอด สารพิษ แหลง่ เรยี นรนู้ อกสถานศกึ ษา แหลง่ เรยี นรภู้ มู ปิ ญั ญา และเศรษฐกจิ พอเพยี งใน ชมุ ชน เปน็ ตน้ ซง่ึ มคี วามสำ� คญั ตอ่ พฒั นาการและการเรยี นรขู้ องเดก็ ชว่ ยใหเ้ ดก็ ไดส้ มั ผสั กบั ธรรมชาติ และชว่ ยใหเ้ ดก็ ไดเ้ รยี นรอู้ ยา่ งเตม็ ศกั ยภาพและมคี วามสขุ ชว่ ยในการพฒั นา ทง้ั รา่ งกายและสมองตามหลกั การเรยี นรผู้ า่ นการเลน่ สอดคลอ้ งกบั การพฒั นาสมองในเดก็ ตงั้ แต่ ๒ ปขี น้ึ ไป สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 209
เทศบาลต�ำบลแม่แรงได้สมัครเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เด็กปฐมวัย ทอ้ งถนิ่ ไทย ผา่ นการเลน่ ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยสำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) และมลู นธิ สิ นามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา และไดร้ บั การคดั เลอื ก ใหเ้ ปน็ ศนู ยต์ น้ แบบประจำ� จงั หวดั ลำ� พนู ๑) เปา้ หมายในการสรา้ งและการจดั การสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา ๓ ส่วน คือ (๑) การจดั การเรียนรู้ตามแนวทางการสร้างสนามเด็กเลน่ สร้างปัญญา (๒) ดำ� เนนิ การสรา้ งสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญาตามแนวทางการจดั การ และ ถูกตอ้ งตามหลักการ เพอื่ ใหเ้ อือ้ ประโยชน์ต่อเดก็ ปฐมวยั และครอบครวั (๓) การจัดการ ความปลอดภยั ในการเลน่ สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา มกี ารกำ� หนดชว่ งอายผุ เู้ ลน่ ตอ้ งมอี ายุ ในช่วง ๒-๕ ปี และเล่นภายใตก้ ารดแู ลของครู ผปู้ กครอง หรอื จิตอาสาทม่ี ีความพรอ้ ม และมีทกั ษะในการดูแล ๒) เคร่อื งมือ หรือกลไก ประกอบการจดั การสนามเด็กเลน่ สร้าง ปญั ญา ประกอบด้วย (๑) คณะกรรมการพฒั นาสนามเด็กเลน่ สรา้ งปัญญา และเครือขา่ ย ในและนอกพื้นที่ที่สนับสนุน โดยจัดเป็นโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการและจิตอาสา (๒) แนวทางการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา รูปแบบ วิธีเล่น วัสดุอุปกรณ์ ๓) ขน้ั ตอนในการดำ� เนินการ ประกอบดว้ ย ๓ ระยะ ไดแ้ ก่ ๑) ระยะเตรียมการ โดย การรวบรวมข้อมูล ทบทวนข้อมูลทุนทางสังคมและศักยภาพในพื้นที่เพ่ือน�ำมาใช้ในการ พัฒนาการด�ำเนินงานสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ซึ่งทุนทางสังคมและศักยภาพที่ เก่ียวข้อง ได้แก่ เทศบาลตำ� บลแมแ่ รง ผู้บรหิ าร สมาชิกสภา กรรรมการศนู ยพ์ ัฒนา เดก็ เลก็ ก�ำนัน ผ้ใู หญบ่ ้าน ผ้ปู กครอง ตัวแทนชมุ ชน ผู้น�ำแหล่งเรยี นรู้ หน่วยงานภาคี เครอื ข่าย เชน่ สภาเดก็ และเยาวชน โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำ� บล กลุม่ อสม. กล่มุ จิตอาสาแรงงาน หรอื กลุม่ ผู้สูงอายุ เปน็ ตน้ มกี ารสง่ บุคลากรเขา้ รว่ มอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ ประชุมแต่งต้ังคณะท�ำงาน ประกอบด้วย คณะกรรมการอ�ำนวยการที่คอยอ�ำนวยความ สะดวก ดูแลความเรียบร้อย คณะกรรมการฝ่ายสถานท่ีในการเตรียมสถานที่ วางผัง ประมาณการ คณะกรรมการฝ่ายประสานงานและปฏิคม เป็นผ้ตู ดิ ตอ่ ประสานงานกบั ฝ่าย ตา่ งๆทง้ั ภาครฐั และเอกชน พนกั งานเทศบาลดำ� เนนิ การจดั ซอื้ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ในการกอ่ สรา้ ง สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา กองการศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบการด�ำเนินกิจกรรมสนามเด็ก เลน่ สรา้ งปญั ญา โดยมกี ารกำ� หนดบทบาทหนา้ ท่ี และรว่ มกบั ผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ ง จดั ทำ� แผนปฏบิ ตั ิ การเพอ่ื ดำ� เนนิ สรา้ ง ๑) ระยะดำ� เนนิ การสรา้ งสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา มกี ารดำ� เนนิ การ สร้างสนามเดก็ เล่น ตามแบบแปลน จำ� นวน ๓ ฐาน ได้แก่ ฐานที่ ๑ สระน�ำ้ อนิ -จนั ฐานที่ ๒ สระทารก ฐานท่ี ๓ คา่ ยกลสไปเดอร์แมน โดยแบ่งหน้าที่ตามความถนดั และ 210
ความช�ำนาญของแต่ละบุคคล ๓) ระยะการจัดการหลังสร้างและด�ำเนินการแล้วเสร็จ ๒ส่วนที่ เมอ่ื ด�ำเนินการสรา้ งสนามเด็กเล่นสรา้ งปญั ญาแลว้ เสร็จ คณะทำ� งาน ผ้ปู กครอง ไดร้ ่วม กันก�ำหนดข้อตกลงในการเรียนรู้ส�ำหรับเด็กปฐมวัย โดยให้ครูเป็นดูแลและบริหาร จัดตารางเรียนรู้ส�ำหรับเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยเน้นการส่งเสริมพัฒนาการ เดก็ ปฐมวัยทงั้ ๔ ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นร่างกาย อารมณ์ สังคม และสตปิ ัญญา รวมถึงจดั ให้ เปน็ ศนู ยต์ น้ แบบสำ� หรบั หนว่ ยงานหรอื องคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ อนื่ หลงั จากเดก็ ไดเ้ ลน่ สนามเดก็ เล่นสรา้ งปญั ญา ทำ� ให้เด็กเกดิ พฒั นาการทั้ง ๔ ดา้ น ในส่วนของพัฒนาการของเด็ก เม่ือได้เล่นสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา พบว่า มพี ฒั นาการท่ีดีข้ึน ตวั อย่าง เชน่ “เดก็ หญงิ นก (นามสมมตุ ิ) อายุ ๒ ปี ๓ เดือน เป็นเดก็ ทก่ี ล้ามเน้อื มดั ใหญไ่ ม่คอ่ ยแขง็ แรง เวลาเดินขาจะอ่อนแรง เม่ือเดนิ ระยะทางไกลๆ จะตอ้ งหยดุ ยนื และนง่ั พกั เปน็ ระยะ หลงั จากไดเ้ ลน่ สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา ฐานคา่ ยกล สไปเดอรแ์ มน โดยใหห้ ดั เดนิ ตามแนวเชอื ก และฝกึ การปนี ปา่ ยตาขา่ ยบอ่ ย ๆ สงั เกตเหน็ ได้ ชดั วา่ สามารถเดนิ ในระยะทางทไี่ กลขน้ึ โดยไมต่ อ้ งหยดุ พกั และยนื ไดน้ านขน้ึ ” “เดก็ ชายนนท์ (นามสมมตุ )ิ อายุ ๒ ปี ๕ เดอื น พดู นอ้ ย และชอบเลน่ คนเดยี ว หลงั จากไดเ้ ลน่ สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญาทง้ั ๓ ฐาน ทำ� ใหม้ พี ฒั นาการดา้ นสงั คมทด่ี ขี นึ้ พดู คยุ หยอกลอ้ หวั เราะกบั กลมุ่ เพอ่ื น และสามารถเปน็ ทงั้ ผนู้ ำ� และผตู้ ามในการเลน่ ” “เดก็ ชายก้าน (นามสมมตุ )ิ อายุ ๒ ปี ๖ เดอื น ไมอ่ ยากมาศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เล็ก รอ้ งไห้ งอแงทุกเช้า เม่ือศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้จัดให้เล่นสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาทั้ง ๓ ฐาน ทำ� ให้เกดิ ความสนุกสนาน ไมอ่ ยากกลับบ้าน ขออยตู่ ่อจนกลบั บา้ นเปน็ คนสดุ ท้าย เมือ่ ต่ืน นอนตอนเช้าหรือวันหยุด มักจะรบเร้าให้พ่อแม่พามาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพ่ือเล่นในสนาม เด็กเลน่ สร้างปัญญา” ในส่วนของผปู้ กครอง ได้เข้ามามสี ่วนรว่ มในการดูแลเด็กขณะเลน่ มสี ัมพนั ธภาพที่ดี กบั ครู เปน็ จติ อาสาชว่ ยลา้ งสระนำ�้ ซอ่ มแซมสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา รวมถงึ บรจิ าคเงนิ สนบั สนนุ การบำ� รงุ รกั ษาสนามเด็กเลน่ ด้วย นอกจากนี้ ชมุ ชนไดร้ ่วมสร้างชุมชนแห่งการ เรยี นรู้ เกดิ กระบวนการเรยี นรทู้ ส่ี รา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ ใี นชมุ ชน ใชก้ ลไกของทนุ ทางสงั คม ทกุ ระดับในชมุ ชน ทกุ คนในท้องถ่นิ มาเปน็ พลังขบั เคลอ่ื นสิ่งดใี หก้ ับลกู หลาน พลังเหลา่ น้นั เปน็ แรงหนนุ ใหช้ มุ ชนมคี วามเขม้ แขง็ ขยายวงของการพฒั นาการศกึ ษาของชมุ ชนใหม้ คี วาม ย่ังยืนและกว้างไก ศพด.ไดเ้ ป็นต้นแบบแหลง่ เรยี นรสู้ นามเด็กเล่นสร้างปัญญาของพ้ืนท่อี นื่ ที่สนใจ สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 211
เทศบาลตำบลปา กอ ดำ อำเภอแมลาว จงั หวัดเชยี งราย กอนการจัดสราง ระหวางดำเนินการ เด็กอายุ ๐-๕ ป ๑๕๙ คน คิดเปนรอ ยละ ๔.๓๓ การเตรยี มการ เพศชาย ๘๑ คน รอ ยละ ๕๐.๙๔ ฐานท่ี ๑ สระอินจนั เพศหญงิ ๗๘ คน รอยละ ๔๙.๐๖ - ประชุมชแ้ี จง อายุ ๒-๕ ป จำนวน ๑๒๖ คน รอยละ ๗๙.๒๕ - มอบหมายงานกองชาง ระยะเวลาดำเนินงาน ๑๖ วัน อายุ ๓-๕ ป จำนวน ๗๒ คน รอยละ ๔๕.๒๘ - มอบหมายงานกองการศกึ ษา ง..บ..ป...ร.ะ..ม..า.ณ....๑..๐. ,๐๐๐ บาท เดก็ ปฐมวัยท่ีเขา เรยี น ศพด.ในพื้นที่ ๑๔๔ คน รอ ยละ ๙๐.๕๖ - มอบหมายงาน ศพด. ปญหาและอปุ สรรค - มอบหมายงาน ร.ร.เทศบาลตำบล ใชเวลานานในการซือ้ คอนกรตี ฐานท่ี ๓ คายกล ฐานท่ี ๕ สระวา ยนำ้ เสริมเหล็ก (ปา กอ ดำ) ระยะเวลาดำเนนิ งาน ๖๒ วัน ระยะเวลาดำเนินงาน ๒๖ วนั ง..บ..ป...ร.ะ..ม..า.ณ....๗...๐,๐๐๐ บาท .ง.บ..ป...ร.ะ..ม..า.ณ....๓..๐. ,๐๐๐ บาท ปญ หาและอปุ สรรค ปญหาและอปุ สรรค ไมมตี นไมใหญใ นบริเวณกอสรา ง ไมมีความชำนาญงาน การระดมทุน ฐานท่ี ๒ สระทารก ฐานที่ ๔ เรอื สลดั - งบฯ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ระยะเวลาดำเนนิ งาน ๑๖ วนั ระยะเวลาดำเนนิ งาน ๗๔ วัน - งบฯ ๗๐,๐๐๐ บาท (SBMLD) ง..บ..ป...ร.ะ..ม..า.ณ....๕..๐. ,๐๐๐ บาท ง..บ..ป...ร.ะ..ม..า.ณ....๑..๕. ๐,๐๐๐ บาท - ผา ปาบริจาควัสด/ุ บริจาคเงิน ปญหาและอปุ สรรค ปญหาและอุปสรรค พ้ืนท่เี ปน ดอน ใชร ะยะเวลาในการรอื้ และสรา งนาน ตอ งตอระบบทอน้ำท้งิ การสรา งการเรียนรู การฝก การรอคอย การฝก ภาวะผนู ำ การฝกทักษะดานการส่ือสาร หลงั การสราง การบำรงุ รกั ษาสถา ำเรจ็ - กองชา ง ตรวจสอบระยะส้ัน การฝก เพ่อื สงเสรมิ พฒั นาการ การฝกความกลา แสดงออก การฝก การควบคุมอารมณ การฝกการสังเกตและ ระยะกลาง และระยะยาว กลามเน้ือมดั เล็ก มัดใหญ เรยี นรสู ภาวะแวดลอม ปจ ัจยเ ่ืงอนไขความส ความมุงม่ันตอผูรบั ผล นที่ ของธรรมชาติรอบตัว เทศบาลตำบลปา กอดำ มองเหน็ แสงสวางปลายอุโมงคว า - MOU มอบให ร.ร.เทศบาล๑ ผลลัพธ “เมื่อโครงการสำเรจ็ เดก็ ปฐมวยั จะไดร ับประโยชน” เรยี นร/ู ศกึ ษาดงู าน (ปากอดำ) พัฒนาสมอง IQ,EQ,EF ความตั้งใจ - Intelligence quotient การมสี ว นรวมของมลู นิธิสนามเดก็ เลนสรา งปญญา กฎ กติก - ผปู กครอง/ชา งในหมูบา น - Emotional quotient / สสส.สำนัก 3 / องคก รปกครองสวนทองถ่นิ แหลง - Executive functioning ปญ หาไมใ ชอุปสLoรreรm ค เรอ่ื งงบประมาณ เรอื่ งพนื้ ท่ี เรื่องการดำเนินการ - อปท.ภายใน ตง้ั แตก ารดำเนนิ การ ระหวางดำเนนิ การ และหลังดำเนินการ จังหวดั เชียงราย เทศบาลตำบลปากอดำ มองวาทุกปญหา สามารถดำเนินการแกไข และไมไดเปน อุปสรรค ในการขดั ขวางการทำงานใหประสบผลสำเรจ็ พฒั นาทักษะการคดิ วิเคราะห สงเสริมสขุ ภาพ วางแผนและแกไขปญ หา ปอ งกันโรค รางกายแข็งแรง การ ัรกษาความปลอด ัภย กองการศกึ ษา - การมีสว นรวมของกองการศึกษา - จดั ทำปา ยประชาสัมพันธ ศพด./โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ปา กอ ดำ) นการสอน - การดูแลของครใู นราชการ ไดจดั ตารางการเรียนการสอนท่ใี ช พฒั นาทกั ษะทางสงั คม - การดูแลของเจาหนาที่ในวันหยดุ สนามเด็กเลน สรางปญ ญาเปน สอื่ ไดเ ลน กับเพื่อน กองสาธารณสขุ และส่ิงแวดลอม ในการเรยี นการสอน และจดั บุคลากร - การคดั กรองสุขภาพเด็ก ควบคุมดูแลระหวางเลน ทีเ่ จ็บปวย - วชิ าลกู เสือ-เนตรนารี/กิจกรรมการเลน เพ่อื พัฒนาการเรยี นรู ๔ ดาน (รา งกาย,อารมณ สังคม,สตปิ ญ ญา) การเรียนรทู กั ษะทางสังคม การอยูรวมกบั ผูอนื่ - ร.ร.ผสู ูงอายุ ทต.ปากอดำ/วารีบำบดั า/แผนการจัดการเรีย ภาพที่ ๒.๖ สนามเด็กเลน่ สร้างปัญญา เทศบาลต�ำบลป่ากอ่ ดำ� อำ� เภอแม่ลาว จังหวดั เชียงราย 212
สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา เทศบาลตำ�บลป่ากอ่ ดำ� อำ�เภอแมล่ าว จังหวัดเชียงราย ว่าท่รี อ้ ยตรี ด�ำรงศักด์ิ ขวัญชยั นายกเทศมนตรเี ทศบาลต�ำบลป่าก่อด�ำ เบอรโ์ ทร ๐๘๑-๘๘๓๔๔๖๔ เทศบาลต�ำบลป่าก่อด�ำ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย แบ่งพ้ืนท่ีการปกครองออกเป็น ๒ส่วนท่ี ๗ ชุมชน มีจ�ำนวนหลังคาเรือนทั้งหมด ๑,๒๐๕ ครัวเรือน ประชากร ๓,๖๗๔ คน แบง่ เปน็ เดก็ ๐-๕ ปี จำ� นวน ๑๕๙ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๔.๓๓ ของประชากรทง้ั หมด เปน็ เพศชาย ๘๑ คน รอ้ ยละ ๕๐.๙๔ เพศหญงิ ๗๘ คน รอ้ ยละ ๔๙.๐๖ แบง่ เปน็ เดก็ อายุ ๒-๕ ปี จ�ำนวน ๑๒๖ คน ร้อยละ ๗๙.๒๕ อายุ ๓-๕ ปี จ�ำนวน ๗๒ คน รอ้ ยละ ๔๕.๒๘ เขา้ เรยี น ศพด. ในพน้ื ท่ี จำ� นวน ๑๔๔ คน รอ้ ยละ ๙๐.๕๖ ของ เดก็ ปฐมวยั ทง้ั หมด การอาศยั อยขู่ องเดก็ ปฐมวยั พบวา่ สว่ นใหญอ่ าศยั อยกู่ บั พอ่ แม่ จำ� นวน ๗๗ คน รอ้ ยละ ๔๘.๔๒ รองลงมา คอื อาศยั อยกู่ บั ปยู่ า่ ตายาย จำ� นวน ๓๕ คน รอ้ ยละ ๒๒ และอาศยั อยกู่ บั บคุ คลอน่ื จำ� นวน ๔๗ คน รอ้ ยละ ๒๙.๕๕ เดก็ ปฐมวยั สว่ นใหญม่ ี พฒั นาการสมวยั จำ� นวน ๑๔๙ คน รอ้ ยละ ๙๓.๗๑ และพบวา่ มพี ฒั นาการชา้ กวา่ วยั จำ� นวน ๒ คน รอ้ ยละ ๑.๒๖ เดก็ ทมี่ นี ำ�้ หนกั ตามเกณฑ์ จำ� นวน ๑๓๙ คน รอ้ ยละ ๘๗.๔๒ นำ้� หนกั นอ้ ยกวา่ เกณฑ์ จำ� นวน ๖ คน รอ้ ยละ ๓.๗๗ และนำ้� หนกั มากกวา่ เกณฑ์ จำ� นวน ๑๔ คน รอ้ ยละ ๘.๘๑ เดก็ ปฐมวยั ทมี่ ฟี นั ผุ จำ� นวน ๔๗ คน รอ้ ยละ ๒๙.๖๐ กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถิน่ มีนโยบายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ สนบั สนนุ การพฒั นาระบบดแู ลเดก็ ปฐมวยั ช่วงวัยตง้ั แตแ่ รกเกดิ จนถงึ ๕ ปี ถือเปน็ ช่วงสำ� คญั ที่สุด ของการพฒั นาชวี ติ เปน็ ระยะทส่ี มองพฒั นาอยา่ งรวดเรว็ จงึ สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มคี วามสมบรู ณ์ ท้ังร่างกาย สังคม และสติปัญญา ปัจจุบันเน้นการส่งเสริมพัฒนาการสมองและการ เรียนรู้ตามวัย สู่สังคมดิจิตอลส่งผลให้เกิดการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กโดยการใช้ อินเตอร์เน็ตเป็นส่ือทางการศึกษาเพิ่มมากขึ้น การปล่อยให้เด็กอยู่หน้าจอเพียงล�ำพังเกิน วันละหลายช่ัวโมงส่งผลให้เด็กจดจ่อกับเร่ืองท่ีผ่านตาเร็วเกินไป ไม่สนใจในส่ิงรอบข้าง เกิดการใชส้ มองในสว่ นของความจ�ำลดลง กอ่ ให้เกิดโรคสมาธสิ นั้ เทศบาลต�ำบลป่ากอ่ ดำ� สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 213
อ�ำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เด็กปฐมวัย ท้องถ่นิ ไทยผา่ นการเล่น (สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญาโดยชุมชนท้องถ่ิน) และไดร้ บั คดั เลือก ใหเ้ ปน็ ศูนยฝ์ กึ อบรมการสร้างสนามเดก็ เลน่ สร้างปญั ญาโดยชุมชนท้องถิ่น จากสำ� นกั งาน กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยส�ำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำ� นัก ๓) และมลู นิธิสนามเด็กเลน่ สร้างปัญญา เทศบาลตำ� บลป่ากอ่ ด�ำ อำ� เภอแมล่ าว จังหวัดเชียงราย ได้กำ� หนดแนวทางการสร้างสนามเด็กเล่นสรา้ งปัญญาโดยชมุ ชนท้องถ่นิ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิน่ ประกอบดว้ ย “บวร” คอื บ้าน วัด โรงเรียน และ แต่งตั้งคณะทำ� งาน จ�ำนวน ๖ ฝ่ายดงั นี้ ๑) ฝา่ ยอ�ำนวยการ หนา้ ที่ มบี ทบาทในการ ก�ำหนดแผนงานโครงการและผลักดนั นโยบายให้เกดิ ผล ตามนโยบายและภารกจิ บรกิ าร สาธารณะแก่ประชาชนในต�ำบล ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมประเพณีของ ท้องถิ่น เป็นท่ีปรึกษา การออกแบบและการจัดเตรียมส่ิงแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ติดตาม ประเมนิ ผลในการสรปุ เนื้อหา อ�ำนวยการและใหก้ ารสนับสนุนกิจกรรมทัง้ หมดที่ ดำ� เนนิ งานในโครงการ ๒) ฝา่ ยดำ� เนนิ การ หนา้ ท่ี จดั เตรยี มวสั ดแุ ละอปุ กรณใ์ นการดำ� เนนิ โครงการ ดำ� เนนิ การจดั ทำ� ฐานทงั้ ๕ ฐาน รว่ มปฏบิ ตั งิ านดา้ นการประชาสมั พนั ธก์ จิ กรรม/ โครงการให้ไดร้ บั การเผยแพร่ประชาสัมพนั ธอ์ ยา่ งทั่วถึง ปฏิบัตงิ านและสนบั สนนุ งานอน่ื ๆ ตามทไี่ ด้รับมอบหมาย ๓) ฝ่ายการเงิน หน้าที่ จดั เตรยี มเอกสารทางการเงนิ และบญั ชีที่ เกี่ยวข้อง เพื่อใชป้ ระกอบในการจัดท�ำใบส�ำคญั จ่ายให้ถูกต้อง และครบถ้วนสมบูรณ์ เช่น ใบแจง้ หนี้ ใบขออนมุ ตั ซิ อ้ื และบรกิ าร หรอื เอกสารอนื่ ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๔) ฝา่ ยสถานท่ี หนา้ ท่ี ดูแล ตกแต่ง ซ่อมแซม บำ� รงุ รักษา อาคารสถานที่ และระบบสาธารณปู โภค รกั ษาความ สะอาดสถานที่ ควบคุมการท�ำงานของระบบเครื่องจกั รกล ประปา ไฟฟา้ เครื่องเสยี ง ระบบโสตทัศนปู กรณ์ ระบบสอ่ื สารทางโทรศพั ทแ์ ละวิทยฯุ ลฯ พจิ ารณาความเหมาะสมใน การใชง้ านสถานที่จดุ ต่างๆ รับผดิ ชอบงานรกั ษาความปลอดภยั และการจราจร วางแผน และด�ำเนนิ การจัดสถานที่ ๕) ฝ่ายปฏคิ ม หนา้ ที่ วางแผนและประสานงานเพ่ือจัดเตรียม การตอ้ นรบั ผู้ทีเ่ ขา้ มาติดตอ่ ราชการ ประชมุ อบรม สัมมนาและศกึ ษาดูงาน จัดเตรียม อาหาร เครื่องดืม่ อาหารว่าง ภาชนะและอุปกรณ์ตา่ งๆ เพอื่ ใช้ในการตอ้ นรับ รับผิดชอบ ด�ำเนนิ การต้อนรบั ผ้ทู ม่ี าตดิ ต่อราชการ ผู้ทม่ี าประชุม อบรม สมั มนา และศกึ ษาดูงาน จากหนว่ ยงานตา่ งๆ จัดหา ยมื คนื เกบ็ รกั ษาวสั ดอุ ุปกรณ์ทเ่ี ก่ียวข้องใหเ้ พียงพอ และอยู่ ในสภาพท่ีเรียบร้อย ๖) ฝ่ายประสานงานและเลขานุการ หน้าท่ี ประสานความ ร่วมมือกบั แหลง่ ทุนทุกแหล่งทนุ ตดิ ต่อประสานงานกบั หน่วยงาน องค์กร ท้งั ภาครฐั และ เอกชน เขา้ รว่ มประชมุ กับองค์กรภาครฐั และเอกชนท่มี สี ว่ นเก่ยี วข้องกบั งาน 214
การด�ำเนินงานได้มีการก�ำหนดเป้าหมายในการสร้างสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ๒ส่วนที่ โดยชมุ ชนทอ้ งถ่ิน ดังน้ี ๑) เตรียมวสั ดอุ ปุ กรณ์ เตรยี มสถานท่ีกอ่ สรา้ ง ตง้ั แต่วนั ที่ ๑ กนั ยายน ๒๕๖๑ ถงึ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ รวม ๕๑ วนั ได้แกง่ บประมาณ วัสดอุ ุปกรณ์ การกอ่ สรา้ ง เครื่องจกั ร แรงงาน ๒) สรา้ งฐานท่ี ๓ คา่ ยกล Spider Man ตงั้ แต่วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๑ ถึง ๒๓ ธนั วาคม ๒๕๖๑ รวม ๖๒ วัน งบประมาณ SBMLD จำ� นวน ๗๐,๐๐๐ บาท ๓) สร้างฐานท่ี ๑ สระน้�ำอิน จัน ตั้งแตว่ นั ที่ ๘ ธนั วาคม ๒๕๖๑ ถงึ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๑ รวม ๑๖ วัน งบประมาณส�ำนักงานสนับสนุนสง่ เสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) จ�ำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ๔) สรา้ งฐานที่ ๒ สระทารก ตัง้ แต่วนั ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๑ ถงึ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๑ รวม ๑๖ วัน งบประมาณส�ำนกั งานกองทุนสนับสนุน สง่ เสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) จำ� นวน ๕๐,๐๐๐ บาท ๕) สรา้ งฐานที่ ๔ เรอื สลดั ลงิ อาศรมลงิ ตงั้ แต่วนั ท่ี ๑ มกราคม ๒๕๖๒ ถึง ๑๕ มนี าคม ๒๕๖๒ รวม ๗๔ วัน งบประมาณ สสส. จ�ำนวน ๔๐,๐๐๐ บาท และงบประมาณจากผปู้ กครอง (ศพด. รร.ท ๑) และงบประมาณ จากเทศบาลต�ำบลปา่ กอ่ ด�ำ จำ� นวน ๑๑๐,๐๐๐ บาท รวมงบประมาณ ๑๕๐,๐๐๐ บาท ๖) สรา้ งฐานที่ ๕ หัดว่ายน้ำ� ตง้ั แตว่ ันท่ี ๑๖๖ มีนาคม ๒๕๖๒ ถึง ๑๐ เมษายน ๒๕๖๒ รวม ๒๖ วนั งบประมาณจากผปู้ กครอง (ศพด. รร.ท ๑) และงบประมาณจากเทศบาล ตำ� บลปา่ กอ่ ดำ� จ�ำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท ผลการดำ� เนนิ การสรา้ งสรา้ งสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญาโดยชมุ ชนทอ้ งถนิ่ ทเี่ กดิ กบั เดก็ ปฐมวยั ประกอบด้วย บ่อทรายเพ่อื ใหเ้ ดก็ ทดลองเล่นทรายผสมน้ำ� เนินดิน ท่ีมที างลาด ชว่ ยเร่ืองการทรงตวั สระนำ�้ ลาดเอยี งระดบั ความลึกมสี ว่ นต้นื และส่วนลึก มที างเดินรอบ สระ พน้ื ขดั หยาบๆ ชว่ ยพัฒนาความรสู้ กึ เด็กรักการเล่นน�ำ้ ปลกู ฝังใหเ้ ด็กเรยี นรูเ้ กยี่ วกับ นำ้� การพฒั นากลา้ มเน้ือมัดใหญ่และมัดเล็ก จากการปีนป่ายเส้นเชอื ก ไดอ้ อกก�ำลังกาย เรยี นรูก้ ารเคล่อื นไหว เด็กฉลาดและอารมณด์ ี กล้าตัดสินใจ เด็กมจี ินตนาการถงึ การผจญ ภัยอย่างอสิ ระ นอกจากนนั้ ยงั มีผลที่เกดิ ข้นึ กบั องค์กร บคุ ลากร ผูป้ กครอง และชมุ ชน ประกอบดว้ ย ทศั นคติ มุมมอง หรือความคิด เปน็ แงบ่ วก มีพฤติกรรมอยากให้ความ ร่วมมือ เห็นความส�ำคัญ สามัคคี เป็นกุญแจที่ไขประตูไปสู่ทางออกของปัญหาเมื่อพบ อุปสรรค เสริมสร้างพัฒนาการของเด็กปฐมวัยด้วยสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาโดยชุมชน ท้องถ่ิน และขยายผลไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีสนใจ เพื่อการแลกเปลย่ี นเรียนร้ตู อ่ ไป สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 215
เทศบาลตำบลบา นหลวง อำเภอจอมทอง จงั หวดั เชยี งใหม เด็กอายุ ๐-๕ ป จำนวน ๑,๒๘๕ คน รอยละ ๑๐.๓๔ ชาย ๖๖๗ คน หญงิ ๖๑๘ คน การดำเนนิ การสรางสนามเดก็ เลน รอ ยละ ๕๑.๙๐ รอ ยละ ๔๘.๑๐ อบรมความรูเกยี่ วกบั สนามเดก็ เลน เด็กอายุ ๐-๒ ป จำนวน ๗๖๒ คน รอ ยละ ๕๙.๓๐ เดก็ อายุ ๓-๕ ป จำนวน ๕๒๓ คน รอ ยละ ๓๐.๗๐ เด็กปฐมวยั ท่เี ขาเรียน ศพด.ในพนื้ ที่ ๓๐๒ คน รอยละ ๒๓.๗๐ ออกแบบการเลน วางแผนการดำเนนิ งาน ใชก ระบวนการมสี ว นรวมของชุมชน ใชกระบวนศกึ ษาจากพ้ืนท่ีตันแบบ -จัดหาอุปกรณ -แบง เครื่องเลน ตามชว งอายุ -สรา งสนามเด็กเน โดยชมุ ชนมีสว นรว ม -จัดทำตางรางการเลน -ระดมทนุ สนบั สนุน -พาเดก็ เลน ทีละสนามและ -วางแผนตรวจสอบเครื่องเลน อละทำความสะอาด จดั คนเฝาตลอด การบำรงุ รักษา -แผนทำความสะอาด ซอ มแซม โดยชุมชนชวยกนั ทำ ผลลัพธ รจู ักการรอคอย ผูปกครอง ศพด. การแบงปน แมบา น ผูน ำชมุ ชน มคี วามม่ันใจ กลาคิด และการเลนรว มกัน ชาวบาน ชางในชมุ ชน กลาตัดสินใจ ผอนคลาย รพ.สต. สรา งความแขง็ แรง มีความสขุ สนุก โรงเรียน ใหก ลามเนอื้ มดั เล็ก มดั ใหญ อปต. เดก็ ไดฝ กคดิ วิเคราะห ครู วางแผน แกป ญ หา ภาพท่ี ๒.๗ สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา เทศบาลตำ� บลบ้านหลวง อ�ำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 216
สนามเดก็ เลน่ สร้างปัญญา เทศบาลตำ�บลบา้ นหลวง อำ�เภอจอมทอง จงั หวัดเชยี งใหม่ นายกอ่ ชิ เพชรไพรพยาวลั ย์ นายกเทศมนตรีต�ำบลบ้านหลวง เบอรโ์ ทร ๐๙๖-๖๕๓๕๕๓๕ เทศบาลต�ำบลบ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ แบ่งพื้นที่การปกครองออก ๒สว่ นท่ี เปน็ ๑๙ หมู่บ้าน จ�ำนวนหลังคาเรือน ๓,๑๘๘ ครัวเรือน ประกอบด้วย ๓ ชนเผ่า ไดแ้ ก่ ชนเผ่ามง้ ชนเผา่ ปกาเกอญอ ชนเผ่าพ้ืนเมอื ง ประชากร ๑๒,๔๒๑ คน อตั ราส่วนเพศชาย ต่อเพศหญิง คิดเป็น ๑ ต่อ ๑ คน อัตราพ่งึ พงิ ๕๔ คนตอ่ วัยแรงงาน ๑๐๐ คน เดก็ ๐-๕ ปี จ�ำนวน ๑,๒๘๕ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑๐.๓๔ ของประชากรทงั้ หมด ครัวเรอื น ทม่ี ีเดก็ ๐-๕ ปี อาศยั อยู่ จ�ำนวน ๑,๒๗๕ ครวั เรอื น รอ้ ยละ ๔๐ เขา้ เรียนในศนู ยพ์ ัฒนา เดก็ เล็กสังกัดเทศบาลต�ำบล จ�ำนวน ๓๐๒ คน รอ้ ยละ ๒๓.๕๐ ส่วนทเ่ี หลือเขา้ เรียนกับ สถานศึกษาเอกชน และสถานศึกษาของรัฐ ในและนอกพ้ืนที่ หรือใกล้กับที่ท�ำงานของ ผปู้ กครอง สถานะสขุ ภาพเดก็ ช่วง ๒-๕ ปีพบว่าเดก็ ท่มี ีปญั หาสุขภาพ ๘๗ คน ร้อยละ ๖.๗๗ เด็กทีม่ ีพัฒนาการลา่ ช้า ๑๕ คน ร้อยละ ๑.๑๗ รับวคั ซนี ไม่ครบ ๖ คน ร้อยละ ๐.๔๗ ฟนั ผุ ๔๒ คน มโี รคเร้ือรงั ๒ คน ร้อยละ ๐.๑๖ น้�ำหนักตำ่� กว่าเกณฑ์อายุ ๒๒ คน ร้อยละ ๑.๗๑ เปน็ ตน้ การดูแลกลุ่มวัยเด็กโดยเทศบาลต�ำบลบ้านหลวง ร่วมกับสถานศึกษา หน่วยบริการ สุขภาพ และทุนทางสังคมในพ้นื ท่ี มีบรกิ ารอย่างนอ้ ย ๓ เร่ือง ไดแ้ ก่ ๑) การจดั หลักสูตร การเรียนรู้ในชั้นเรียน และการเรียนรู้ในชุมชน เช่น การเรียนรู้วิถีชุมชน เป็นต้น ๒) การบรหิ ารจดั การ ดงั น้ี (๑) แตง่ ตง้ั คณะบรหิ ารศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ และคณะกรรมการ การศกึ ษา จ�ำนวน ๑๐ ศูนย์ มสี ว่ นรว่ มในการบรหิ ารจดั การศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ จัดสง่ ผู้ดูแลเด็กไปศกึ ษาต่อในสาขาวชิ าการศึกษาปฐมวัย และส่งเสริมสนบั สนุนให้ไดร้ บั ความรู้ จากการศึกษาดูงาน เพ่ือใช้ในการจัดการเรียนการสอนแก่เด็กเล็ก อบรมให้ความรู้ครู ผดู้ แู ลเดก็ และผูป้ กครอง ในเรอ่ื งการประเมนิ พัฒนาการเด็กเลก็ ทนั ตสุขภาพและป้องกนั โรคในช่องปาก เฝา้ ระวงั ภาวะทพุ โภชนาการและดูแลสุขภาพเดก็ เลก็ การป้องกันควบคุม สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 217
โรค เด็กเล็กสุขภาพดีได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ (๒) จัดท�ำและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา และจัดหาสื่อการเรียนการสอนวัสดุการศึกษา เพื่อผลิตและใช้ส่ือในการจัดกิจกรรมการ เรยี นการสอน สง่ เสริมพฒั นาการเดก็ ทุกชว่ งวยั ทกุ ปกี ารศึกษา (๓) ตรวจสอบคณุ ภาพนม เมอื่ มาจัดส่ง โดยเปดิ กลอ่ ง เทนม สังเกตฟอง กลนิ่ ตะกอน รสชาติ (๔) จัดการประชมุ ผปู้ กครอง ภาคเรยี นละ ๒ ครงั้ และจดั นทิ รรศการเผยแพรผ่ ลงานทางวชิ าการ นวตั กรรม ส่ือการเรียนการสอน ผลงานและการแสดงความสามารถพัฒนาการเด็กเล็กให้แก่ ผูป้ กครอง คณะกรรมการบริหาร ศพด. และผู้มีสว่ นรว่ ม เป็นตน้ (๕) จัดประสบการณ์ การเรยี นรใู้ ห้แกเ่ ด็กเล็ก ๔ ดา้ น คอื รา่ งกาย จติ ใจ-อารมณ์ สังคม และสตปิ ญั ญา ผ่านกจิ กรรม ๖ หลัก และใหเ้ ด็กได้ศึกษาเรยี นรภู้ ูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ ปราชญช์ าวบา้ น เช่น การจักสาน การปกั ผ้าชนเผ่า การท�ำนา เป็นต้น (๖) จดั ท�ำแผนปอ้ งกันภยั และรองรับเหตุ ฉกุ เฉนิ ซ้อมอพยพเดก็ และครูผ้ดู ูแลเด็ก ในกรณีเกดิ เหตไุ ฟไหม้ แผน่ ดินไหว และการตดิ ตั้งถังดับเพลิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยทีมบ้านหลวง ๒๔ ชั่วโมง พร้อมมีรถบริการ รับ-ส่ง กรณีอุบัติเหตุฉุกเฉิน (๗) ตรวจสุขภาพเด็กเล็ก เช่น ตรวจฟัน วัดน้�ำหนัก สว่ นสงู คดั กรองโรค เปน็ ประจำ� ทกุ เดอื น (๘) มีมาตรการและแนวทางในการป้องกันโรค ระบาดและโรคตดิ ตอ่ ของศนู ยพ์ ัฒนาเดก็ เล็ก โดยตรวจคดั กรองโรคตดิ ต่อเดก็ ทกุ วัน กรณี พบความผดิ ปกติ เจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคตดิ ตอ่ ใหผ้ ปู้ กครองนำ� เดก็ กลบั บา้ นและแนะนำ� ใหไ้ ปตรวจ รักษาท่ีรพสต.หรือรพ. (๙) มีการด�ำเนินงานประกันคุณภาพภายในเป็นประจ�ำทุกปี ๓) การพัฒนาสภาพแวดลอ้ มทีเ่ อ้อื ตอ่ เดก็ ปฐมวัย ได้แก่ (๑) ปรบั ปรุงภูมทิ ศั นส์ ภาพ แวดล้อมภายใน ภายนอก และซอ่ มแซมอาคารศนู ย์พฒั นาเด็กเลก็ (๒) จัดหาเครอ่ื งเล่น สนามให้แก่เด็กเล็ก (๓) จดั หอ้ งเรยี น สถานที่สำ� หรบั ประกอบอาหาร พืน้ ทสี่ ำ� หรบั ดแู ล เดก็ ป่วย ห้องนำ้� หอ้ งสว้ ม ทล่ี า้ งมอื ทไ่ี ดม้ าตรฐาน (๔) จดั ซอื้ นำ้� ด่มื ทีผ่ ่านการกรอง และ จัดหาถังเก็บกักน�้ำใช้ และอุปกรณ์บรรจุน้�ำด่ืมพร้อมแก้วน�้ำส่วนตัวให้แก่ศูนย์พัฒนา เด็กเลก็ (๕) จัดบริเวณพน้ื ที่ส�ำหรับนอน จัดเครอ่ื งนอน หมอน ผา้ หม่ สำ� หรับเดก็ และ มกี ารทำ� ความสะอาดอปุ กรณเ์ ครอ่ื งนอน โดยใหผ้ ปู้ กครองนำ� กลบั ไปซกั สปั ดาหล์ ะ ๑ ครงั้ (๖) ท�ำความสะอาดอาคาร บริเวณห้องนอน ห้องกจิ กรรมของเด็ก ด้วยน�ำ้ ยาท�ำความ สะอาด ท�ำความสะอาดภายนอก ส�ำรวจแหล่งเพาะพันธุ์แมลงวัน ยุง และสัตว์น�ำโรค ท�ำความสะอาดของเล่นและตรวจสอบคุณภาพของเล่นเป็นประจ�ำ และท�ำความสะอาด ครั้งใหญ่เม่ือมีการเกิดโรคติดต่อ ประสบการณ์เทศบาลต�ำบลบ้านหลวง ในฐานะเป็น ศนู ยป์ ระสานงานการจดั การเรยี นรเู้ ดก็ และเยาวชน พบวา่ พน้ื ทสี่ รา้ งสรรค์ พนื้ ทที่ ำ� กจิ กรรม 218
พื้นท่เี ลน่ มีความสำ� คัญต่อพัฒนาการ และการเรียนรขู้ องเดก็ ซ่ึงจะช่วยให้เดก็ ได้สัมผสั ๒ส่วนท่ี กบั ธรรมชาติ และชว่ ยใหเ้ ดก็ ไดเ้ รยี นรอู้ ยา่ งมคี วามสขุ ชว่ ยพฒั นาสมองตามหลกั การเรยี นรู้ ผา่ นการเล่นสอดคล้องกบั การพฒั นาสมองในเด็ก ๒ ปขี ึ้นไป เทศบาลต�ำบลบ้านหลวงได้สมัครเข้าร่วมโครงการพัฒนาสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา โดยการสนับสนุนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ และมลู นธิ สิ นามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา และไดร้ บั การคดั เลอื กใหเ้ ปน็ ศนู ย์ ฝึกอบรมการสรา้ งสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา พร้อมจดั ทำ� หลกั สตู รฝึกอบรมสำ� หรับตำ� บล เครือขา่ ยในกลมุ่ จังหวดั ท่ีสมคั รเขา้ รว่ มโครงการพัฒนาสนามเด็กเลน่ สร้างปญั ญา มีเป้า หมายในการสร้างและการจัดการสนามเด็กเลน่ สรา้ งปัญญา ๒ ส่วน (๑) จดั การเรยี นรู้ แนวทางในการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาส�ำหรับต�ำบลเครือข่ายท่ีสมัครเข้าร่วม โครงการ (๒) ดำ� เนินการสร้างสนามเด็กเลน่ สรา้ งปญั ญา แนวทางการจดั การ และใช้ ประโยชน์อย่างต่อเน่ืองโดยมีประชากรเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากสนามเด็กเล่นสร้าง ปัญญาอย่างน้อย ๓ กล่มุ ได้แก่ (๑) เด็กท่ีเรยี นในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชว่ งอายุ ๒-๕ ปี จำ� นวน ๓๐๒ คน (๒) กล่มุ เดก็ ทเี่ รยี นศพด. นอกพน้ื ที่ (๓) เดก็ ชว่ งอายุ ๖-๑๒ ปี จ�ำนวน ๑,๒๐๗ คน รอ้ ยละ ๙.๗๑ พรอ้ มผปู้ กครอง มเี ปา้ หมายใหเ้ ทศบาลตำ� บลบา้ นหลวงมที กั ษะ ในการจัดการสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา และสามารถสร้างการเรียนรู้ส�ำหรับเด็กปฐมวัย เด็กวัยเรยี น จนสามารถจัดการความรูจ้ ากกระบวนการพัฒนาสนามเด็กเลน่ สร้างปญั ญา ได้ รวมถงึ การเปน็ พน้ื ทเ่ี รยี นรสู้ ำ� หรบั เครอื ขา่ ยชมุ ชนทอ้ งถนิ่ ทส่ี นใจสมคั รเขา้ รว่ มโครงการ สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา และสามารถน�ำประสบการณ์ท่ีได้เรียนรู้ไปจัดการ และสร้าง สนามเดก็ เล่นสรา้ งปญั ญาท่ีถกู ตอ้ งตามหลกั การ เอ้ือประโยชนต์ ่อกลุ่มเด็กท่เี ปน็ เป้าหมาย และครอบครัวในพื้นทต่ี นเองได้ จากประสบการณ์ในการพัฒนา และจัดการเรียนรู้ส�ำหรับกลุ่มเด็กด้วยสนามเด็กเล่น สร้างปัญญา เทศบาลต�ำบลบ้านหลวง มีการจัดการข้อมูลในการด�ำเนินการ ได้แก่ (๑) ข้อมูลกลุ่มเด็กที่สามารถใช้บริการสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา เช่น กลุ่มเด็กอายุ ๒-๕ ปี ตอ้ งเล่นภายใตก้ ารดแู ลของครูในศนู ย์พัฒนาเด็กเล็ก เดก็ อายุ ๖-๑๒ ปี เมือ่ เลน่ ต้องอยูใ่ นความดูแลของผู้ปกครอง (๒) เครอื่ งมือ หรอื กลไก ประกอบการจดั การสนาม เดก็ เลน่ ฯ ประกอบดว้ ย ๒ สว่ น ไดแ้ ก่ (๑) คณะกรรมการพฒั นาสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา และเครอื ขา่ ยในและนอกพน้ื ทท่ี ส่ี นบั สนนุ (๒) แนวทางการสรา้ งสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา รปู แบบ วธิ เี ล่น วัสดอุ ปุ กรณ์ มีข้นั ตอนในการดำ� เนนิ การ ประกอบด้วย ๓ ระยะ ไดแ้ ก่ สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 219
๑) ระยะเตรยี มการ และสร้างสนามเด็กเลน่ สร้างปัญญา โดยการประชมุ ทนุ ทางสงั คม ได้แก่ เทศบาลต�ำบลบ้านหลวง ผบู้ ริหาร สมาชิกสภาเทศบาล กรรรมการศูนย์พฒั นาเด็ก เลก็ ผ้ใู หญบ่ า้ น กำ� นัน ผปู้ กครอง ประธานชุมชน คณะกรรมการชุมชน กลมุ่ จติ อาสา แรงงาน เปน็ ตน้ มีการแตง่ ตงั้ คณะทำ� งาน ประกอบด้วยคณะกรรมการอ�ำนวยการ และ คณะทำ� งานหลกั สว่ นราชการในสงั กัดเทศบาล ฯ โดยกองการศึกษารบั ผดิ ชอบโดยตรง ก�ำหนดบทบาทหน้าท่ที มี และร่วมกันจดั ท�ำแผนปฏิบัตกิ ารเพ่ือสรา้ ง ๒) ระยะดำ� เนินการ สรา้ งสนามเด็กเลน่ สรา้ งปญั ญา ประกอบดว้ ย (๑) ทมี จดั การ มบี ทบาทจดั การกลมุ่ เรยี น รู้ส่ฐี านทั้งแบบแปลนของฐาน วัสดอุ ปุ กรณท์ ่ีจำ� เปน็ กลุม่ ผทู้ มี่ ีสว่ นร่วมในการด�ำเนินการ แต่ละฐาน พรอ้ มผูป้ ระสานฐานย่อยซึ่งเป็นพนักงานของเทศบาล และ(๒) ทีมช่างประกอบ ดว้ ยทีมหลกั มาจากกลมุ่ จติ อาสาแรงงาน ตามความเช่ยี วชาญงานชา่ ง และพนักงานกอง ชา่ ง ไดแ้ ก่ ฐานที่ ๑ สระนำ�้ อิน จัน มีชา่ งก่อสร้าง ทำ� โครงสรา้ ง ฐานที่ ๒ สระทารก มชี า่ งปนู ชา่ งประปา ทำ� ระบบนำ้� ฐานท่ี ๓ คา่ ยกลสไปเดอร์แมน มีทมี อาสาสมัครของ ทอ้ งที่ ทำ� การผกู เชือกรปู แบบตา่ ง ๆ ให้มีลกั ษณะคล้ายใยแมงมุม ฐานท่ี ๔ หดั วา่ ยนำ�้ มีชา่ งปูน ช่างประปา ทำ� ระบบนำ�้ และ ฐานท่ี ๕ เรอื สลดั ลิง ก�ำลงั ด�ำเนินการ การ กำ� หนดพน้ื ทที่ เ่ี หมาะสม ตอ้ งดำ� เนนิ การตามเงอ่ื นไขในการสรา้ งสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา ให้เป็นไปตามบริบทของพ้นื ท่ี มขี ้อตกลงเบอ้ื งตน้ คอื ขนาดพื้นท่ี ต้นไม้ ต้ังอยใู่ นพนื้ ทใ่ี กล้ ศนู ย์พฒั นาเด็กเล็ก คนท่วั ไปเข้าถึงได้สะดวก และชมุ ชนเหน็ ชอบ ๓) ระยะการจัดการ หลังสร้างและด�ำเนินการแล้วเสร็จ ปัจจุบันการด�ำเนินการสร้างก�ำลังจะเสร็จสมบูรณ์ ได้วางแผนหลังด�ำเนินการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาเสร็จเรียบร้อย คณะท�ำงาน ผู้ปกครอง ได้ร่วมกันก�ำหนดข้อตกลง ในการเรียนรู้ส�ำหรับเด็ก โดยครูศูนย์พัฒนา เดก็ เลก็ เป็นผู้ดูแล และบริหารจัดดแู ลความเรียบรอ้ ย ประสานการซอ่ มบำ� รงุ กับกองช่าง จดั ตารางเรยี นรสู้ ำ� หรบั เดก็ ในศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ซงึ่ วางแผนวา่ จะเปดิ ใหเ้ ปน็ สถานทเ่ี รยี นรู้ สำ� หรับเด็กปฐมวัยและเดก็ ในระดบั ประถมศึกษาทั้งในและนอกพ้ืนท่ีดว้ ย สว่ นแผนการเปิด ใหบ้ ริการ คือ ทกุ วนั องั คาร กับวนั ศุกร์ และทางศนู ย์พฒั นาเด็กเลก็ จะประเมิน ติดตาม ผลการเลน่ ดว้ ยสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา โดยใชแ้ บบประเมนิ พฒั นาการ ๔ ดา้ น ประกอบดว้ ย ด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม และประเมินด้วยการสังเกตความสนใจ ทกั ษะการเล่น ทกั ษะทางอารมณ์ ของเด็กโดยครปู ระจ�ำชน้ั 220
จากการทดลองให้เด็กประถมเลน่ ฐานที่ ๔ หดั ว่ายน้�ำ จากการสงั เกตพบวา่ เดก็ มี สีหน้าย้ิมแย้ม สดใส สนุกกับการได้เล่นน้�ำ ส่วนเด็กปฐมวัยยังไม่ได้ทดลองเล่น “ด.ญ วชิ ุภา อายุ ๘ ปี เปน็ ลูกของชา่ งท่มี าเปน็ จติ อาสาสร้างสนามเดก็ เลน่ เปน็ เดก็ ที่กลัวนำ�้ ไมก่ ลา้ เลน่ น้�ำ พ่อแม่พาไปสระวา่ ยน�้ำจะรอ้ งไห้ตลอด เมอื่ ได้ทดลองหัดวา่ ยนำ�้ เรมิ่ เดินใน นำ�้ และใชม้ อื ตนี ้�ำ และเล่นอยู่ในนำ้� ได้นาน มพี ่อแม่ และช่างกอ่ สรา้ งสนามเด็กเลน่ คอย ดแู ลอยูข่ า้ งสระ ด.ญ. วชิ ภุ า บอกวา่ อยากใหส้ ร้างสนามเดก็ เลน่ เสร็จเรว็ ๆ จะไดม้ าเล่น ทุกวนั และหดั วา่ ยนำ้� ” ผปู้ กครองไดเ้ รยี นรใู้ นการปอ้ งกนั การจมนำ้� ครอบครวั มกี จิ กรรมรว่ มกนั รว่ มกนั เสรมิ พฒั นาการ ทักษะการเรียนร้สู �ำหรบั เด็ก รวมถงึ การมสี ว่ นรว่ ม เปน็ เจ้าของในการสรา้ ง และดูแลร่วมกัน และการมสี ว่ นรว่ มของชุมชนทงั้ การระดมทุน ระดมแรงในการสร้าง และ จัดการสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา เกิดความร่วมมือกันของภาคีเครือข่ายท้ังภายในและ ภายนอกองคก์ ร ๒สว่ นที่ สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 221
องคก ารบรหิ ารสวนตำบลเมอื งปอน อ. ขุนยวม จ.แมฮองสอน กลมุ เปา หมาย การดำเนนิ การ การระดมทุน ทนุ ทางสังคมท่ดี ำเนนิ การ จำนวน ๑๖๐๒ ครวั เรอื น ••••• มลหปมงออารพระบบชือ้ืนหหมุ ททมมชสี่มีาา้ีแยยำบจรกงรงวาอหิสนจงรากราศางจรคพัดศวกดกึาา.มษรเ(าขราว ใมจ) • งบ ๑๐๐,๐๐๐ บาท กรมสงเสริมการปกครองทองถิ่น จำนวนประชากร ๔๓๓๖ คน • งบ อบต. ๑๐๐,๐๐๐ บาท สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน ชาย ๒๒๖๔ คน (๕๒.๒๑%) • งบผูใ จบุญ ๕๐,๐๐๐ บาท มูลนิธิสนามเด็กเลนสรางปญญา หญงิ ๒๐๗๒ คน (๔๗.๗๙%) อัตราพ่งึ พิงวยั เด็ก ๒๗ คน: วัยทำงาน ๑๐๐ คน ผูปกครอง “สระน้ำ อิน จนั ” เดก็ ๐-๕ ป ๒๑๓ คน ๑สนามเดก็ เลน สรา งปญญา ฐานท่ี ชาย ๙๓ คน (๔๓.๖๖%) “สระน้ำ อิน จนั ” เหมาะกับเด็ก ๒-๔ ขวบ โดยภายในฐานจะประกอบดว ย ‘บอ ทราย’ หญิง ๑๒๐ คน (๕๖.๓๔%) ท่ีมที ้ังสวนพืน้ ราบและเนนิ ทราย (ทรายละเอียด), ‘บอนำ้ ’ ท่ีมีพน้ื ดา นลางเปนทราย เดก็ ๐-๒ ป ๘๑ คน (๑.๘๗%) เพอ่ื ใหเด็กไดท ดลองเลน ทรายผสมน้ำ และ ‘เนนิ ดนิ ’ ทม่ี ีสวนทางลาด คอยชว ยเร่ืองการทรงตวั เด็ก ๓-๕ ป (๓.๐๔%) แลเะดท็กำๆใหทเ ดีเ่ ลก็ น ไดฐทานดนลจี้อะงไเดลพนฒัดินนผาสเซมลนลำ้ สมองสวนซีรีเบลลมั (บรเิ วณทายทอย) ท่ีมีบทบาทในการ เด็ก ๖-๑๒ ป (๓.๒๓%) เดก็ และเยาวชน ๙๑๐ คน (๒๐.๙๙%) ๒ควบคุมการส่ังการและประมวลผล เพือ่ ฝก พฒั นาการดานการทรงตัว และการเอาตัวรอด สุขภาพเดก็ ปฐมวัย รวมทัง้ การพฒั นาดา นความคดิ สรางสรรคและศลิ ปะ จากการเลนวสั ดุธรรมชาตอิ ยาง ดนิ ทราย และนำ้ นำ้ หนักนอ ยกวาเกณฑ ๑๘ คน (๓.๗๖%) สนามเดก็ เลน สรา งปญญา ฐานท่ี “สระทารก” “สระทารก” เหมาะกับเดก็ ๑-๓ ขวบ (ภายใตก ารดูแลของผปู กครองอยางใกลช ิด) โดยภายในฐานจะประกอบดว ย นำ้ หนักมากกวาเกณฑ ๘ คน (๑.๘๘%) ‘สระนำ้ ’ เอยี งระดบั ความลึก ใหม ที ั้งสวนตนื้ และสวนลึก มที างเดนิ รอบสระ พืน้ ผิวขดั หยาบ ๆ เพ่อื กนั ลนื่ , เต้ยี ๑๖ คน (๗.๕๑%) ‘นำ้ พุกลางสระ’ เพ่อื สรา งรุง กนิ น้ำ, ‘นำ้ พขุ า งสระ’ ตดิ ตง้ั ใหพงุ เอยี ง โคง ลงในสระ‘กอ กน้ำและสายยาง’ และ อวน ๘ คน (๓.๗๕%) ‘สไลเดอร’ สูง ๑.๑๐ เมตร ทำมมุ เอยี ง ๔๐ องศา “สระทารก” จะชวยพัฒนาความรูสึกของเดก็ ท่รี กั การเลนน้ำ ผอม ๑๗ คน (๗.๙๘%) ใหเ ปลี่ยนเปน รักนำ้ แลว คอย ๆ ปลูกฝง ใหเ ดก็ อยากเรยี นรเู ก่ยี วกับนำ้ ฟนผุ ๑๙๕ คน (๙๑.๕๕%) เพ่อื ใหในอนาคต เดก็ จะสนใจท่จี ะแกป ญ หาตา ง ๆ อาทิ นำ้ ทวม น้ำแลง หรือนำ้ เสยี เพอื่ รักษาแหลง นำ้ ท่ี พัฒนาการชากวาวยั ๒๗ คน (๑๗.๓๗%) ๓เขารกั เอาไว พรอมทำใหเ ดก็ สนใจเก่ยี วกับนำ้ มากขนึ้ ตอยอดอนาคต เพ่อื พฒั นาไปเปนนกั วทิ ยาศาสตร ในระยะ ๖ เดือนที่ผา นมา เดก็ ปฐมวยั มภี าวะเจ็บปว ยฉกุ เฉิน ๒๔ คน (๑๑.๒๗%) นกั ประดิษฐ หรือวิศวกรทาง สนามเด็กเลน สรา งปญญา ฐานท่ี “คา ยกล Spider Man” การสรางการเรียนรู เหมาะกบั เด็ก ๓-๑๐ ขวบ (ภายใตก ารดูแลของผูป กครองอยางใกลช ิด และการซอ มบำรุงเคร่อื งเลนอยางตอ เนือ่ ง) ในฐานนีจ้ ะประกอบไปดว ย ‘บอ ทราย’ ใชเปนทรายละเอยี ด กนั การตกกระแทก, ‘โครงเสาไมเนอ้ื แข็ง’ - การฝกกลามเน้ือมดั เลก็ มดั ใหญ “ทคไ่ี มา ยม กมี ลุมแSหpลidมeคrมM, ‘aเชnอื”กจใะยชยว กั ยษให’ ทเดีใ่ ก็ชใไนดพกาฒั รปนราะกมลงามแเลนะอื้ ‘ตจนากไมกใาหรญปน’ ปทาี่มยกี เิง่สแน ลเชะลอื ำกตน ตรง เพือ่ การเดินเชือกฐาน - การฝกการสงั เกต การฝกความกลา แสดงออก นอกจากน้ี การไดอ อกกำลังกายอยตู ลอดเวลา จะทำใหเด็กมกี ารเติบโต เรียนรกู ารเคลือ่ นไหวท่ีมนั่ คงจากเครอื่ งเลน - การฝกความเปน ผูนำ-ผตู าม ทำใหเดก็ ฉลาดและอารมณด ี - การฝกการมีปฏิสัมพันธกับเพ่อื น - การฝกเรอ่ื งความปลอดภัยจากการเลน ๔สนามเดก็ เลน สรา งปญญา ฐานท่ี “เรอื สลัดลงิ ” - การฝก การตัดสนิ ใจและการฝก การรอคอย ฐานท่ี ๔ จะเหมาะกบั เด็ก ๓-๑๐ ขวบ เรอื สลัดลงิ จะเปนเหมือนบา นไม 2 ช้ัน ชัน้ บนจะมีสว นของลานกวา ง ใตรมเงาของตน ไมใหญ เปนพ้ืนท่สี ำหรับการเลานิทาน และพื้นทีด่ า นในตวั บานที่เปนสว นของหองสมดุ มีหนังสอื มากมายใหเ ด็กไดอ า นชนั้ ลา งจะเปนสวนใตถ นุ บาน เปนพ้นื ท่ีสำหรับการจดั Workshop สอนทำขนม สอนทำศลิ ปะ หรอื งานประดษิ ฐต าง ๆ สวนรอบตัวบานจะประกอบดว ยเครื่องเลนนานาชนดิ ใหเดก็ ไดป น ปา ย โหน แกวงไปตามเชือก ในฐานนี้ จะทำใหเดก็ ไดฝ ก สรางกลามเนื้อ ฝกการทรงตัว ไดผจญภัยอยางอสิ ระไปกบั เคร่อื งเลนโดยรอบ ๕ในขณะเดียวกนั เดก็ ๆ ท่มี ารวม Workshop กจ็ ะไดฝ กทกั ษะตา ง ๆ ทม่ี ีประโยชน ไดรว มฟงนิทาน อา นหนังสือ ท่ีมีประโยชนใ นหอ งสมดุ ของ “เรอื สลดั ลิง” แหงน้ี สนามเดก็ เลน สรา งปญ ญา ฐานท่ี “หัดวา ยนำ้ ” “หดั วายนำ้ ” คอื ฐานท่คี วรสรางเปน ฐานสดุ ทา ย สระน้ำทีม่ คี วามลึก 60 ซม. แหง นค้ี ือพนื้ ที่ทีเ่ ด็ก ๆ จะได ผลลัพธก ารดำเนินงาน ฝก วายนำ้ ใหเปน ฝก การพยุงตัว ฝก การชวยเหลือเพอ่ื นในน้ำ ใหเด็กไดคนุ เคยกับการการเลน น้ำ โดยอาจจะทำสไลดเ ดอรตอ ลงมาจาก “เรอื สลัดลิง” กไ็ ด ( นอกจากจะไดเลน สนกุ ในน้ำแลว ฐาน “หัดวา ยน้ำ” ยงั สามารถเปนพื้นทฝ่ี ก ทกั ษะใหเด็กได โดยคณุ ครูอาจพาเดก็ มาสอนทกั ษะการชวยเหลือเพอ่ื นยามตกน้ำ, การผายปอด หรือการแบกผปู วยขึ้นหลงั (ดว ยวิธขี องลกู เสือ) ในบริเวณนี้ได พฒั นาสมองทงั้ Intelligence Quotient พ้ืนท่สี รา งการเรยี นรใู หผูดแู ลเดก็ สง เสริมสขุ ภาพ พฒั นารางกาย การเรยี นรูทักษะทางสงั คมและ Emotional Quotient และ ฝก คิดวิเคราะห พฒั นาสมอง ปองกันโรค รา งกายแข็งแรง การอยูรว มกับบุคคลอนื่ ในสงั คม การพัฒนาทกั ษะทางสมอง (Executive Functions) พัฒนาทกั ษะการคดิ วเิ คราะห วางแผนและแกปญ หา ภาพท่ี ๒.๘ สนามเดก็ เลน่ สร้างปัญญา เทศบาลต�ำบลเมอื งปอน อ�ำเภอขนุ ยวม จังหวดั เชียงใหม่ 222
สนามเด็กเล่นสรา้ งปัญญา องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ�บลเมืองปอน อำ�เภอขุนยวม จงั หวัดแมฮ่ อ่ งสอน นายสมชาย วงษ์จันทธนพงษ์ นายกองค์การบริหารสว่ นต�ำบลเมอื งปอน เบอรโ์ ทร ๐๖๑-๓๔๒๓๙๗๙ องค์การบริหารสว่ นตำ� บลเมอื งปอนมพี ืน้ ทีร่ ับผิดชอบจ�ำนวน ๑๐ หมบู่ ้าน จ�ำนวน ๒สว่ นที่ หลงั คาเรอื นทงั้ สน้ิ ๑,๖๐๒ ครัวเรือน ประชากร ๔๓๓๖ คน ชาย ๒๒๖๔ คน รอ้ ยละ ๕๒.๒๑ หญิง ๒๐๗๒ คน ร้อยละ ๔๗.๗๙ อตั ราพึง่ พิงวัยเด็ก ๒๗ คนตอ่ วยั ทำ� งาน ๑๐๐ คน เด็ก ๐-๕ ปี ๒๑๓ คน ชาย ๙๓ คน รอ้ ยละ ๔๓.๖๖ หญงิ ๑๒๐ คน รอ้ ยละ ๕๖.๓๔ เดก็ ๐-๒ ปี ๘๑ คน ร้อยละ ๑.๘๗ เดก็ ๓-๕ ปี รอ้ ยละ ๓.๐๔ เดก็ ปฐมวัย ๒-๕ ปี ท่ีเข้าเรียนใน ศพด.ในพื้นที่ ๘๐ คน ร้อยละ ๓๗.๖๐ เข้าเรียนใน ศพด. นอกพนื้ ที่ ๘๐ คน รอ้ ยละ ๓๗.๖๐ สขุ ภาพเดก็ ปฐมวยั พบวา่ นำ้� หนกั นอ้ ยกวา่ เกณฑ์ ๑๘ คน รอ้ ยละ ๓.๗๖ น�้ำหนักมากกว่าเกณฑ์ ๘ คน รอ้ ยละ ๑.๘๘ เต้ีย ๑๖ คน รอ้ ยละ ๗.๕๑ อ้วน ๘ คน รอ้ ยละ ๓.๗๕ ผอม ๑๗ คน รอ้ ยละ ๗.๙๘ ฟันผุ ๑๙๕ คน ร้อยละ ๙๑.๕๕ พัฒนาการช้ากวา่ วยั ๒๗ คน ร้อยละ ๑๗.๓๗ ในระยะ ๖ เดอื นที่ผ่านมา เด็กปฐมวยั มีภาวะเจ็บป่วยฉกุ เฉนิ ๒๔ คน รอ้ ยละ ๑๑.๒๗ เชน่ ไขส้ ูง หอบ หกลม้ เป็นตน้ การดูแลกลุ่มวัยเด็กโดยองค์การบริหารส่วนต�ำบลเมืองปอน ได้ร่วมกับสถานศึกษา หน่วยบรกิ ารสุขภาพและทุนทางสงั คมในพ้นื ที่ มีบรกิ ารอย่างนอ้ ย ๓ เร่อื ง ได้แก่ (๑) การ จดั หลักสตู รการเรยี นรใู้ นชั้นเรียน และการเรียนรใู้ นชุมชน โดยการฝกึ วินัยการอยู่ร่วมกนั ภาวะผนู้ �ำ การดแู ลตนเองตามวัย เปน็ ต้น (๒) การบริหารจดั การ เชน่ บทบาทของ ฝา่ ยบริหาร การพัฒนาศกั ยภาพผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษา แกนน�ำกลุม่ องค์กร ชมุ ชน จดั ใหม้ อี าหารกลางวนั อาหารเสรมิ (นม) และนำ�้ ดมื่ อาคารสถานท่ี การสขุ าภบิ าล ท่เี พยี งพอ ไดม้ าตรฐาน และ (๓)การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มทเี่ ออื้ ต่อสขุ ภาพ ภายในอาคาร หรอื พน้ื ทที่ ำ� การ และภายนอก เชน่ สนามเดก็ เลน่ พนื้ ทโี่ ลง่ เพอื่ ใหเ้ ดก็ ไดว้ ง่ิ และเลน่ อสิ ระ พ้ืนสนามเด็กเล่นท่ีปลอดภัย พ้ืนที่เรียนรู้อ่ืนๆ เช่น พ้ืนท่ีการคัดแยกขยะ แปลงผัก ปลอดสาร แหลง่ เรยี นรนู้ อกสถานศกึ ษา ภมู ปิ ญั ญา และเศรษฐกจิ พอเพยี งในชมุ ชน เปน็ ตน้ สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 223
สำ� หรบั สนามเดก็ เลน่ มคี วามสำ� คญั ตอ่ พฒั นาการ และการเรยี นรู้ ซงึ่ จะชว่ ยใหเ้ ดก็ ไดส้ มั ผสั กับธรรมชาติ และช่วยให้เดก็ ไดเ้ รียนรู้อย่างเตม็ ศกั ยภาพและมคี วามสขุ ช่วยในการพัฒนา ทง้ั รา่ งกายและสมองตามหลกั การเรยี นรผู้ า่ นการเลน่ สอดคลอ้ งกบั การพฒั นาสมองในเดก็ ตงั้ แต่ ๒ ปขี น้ึ ไป ทง้ั นอี้ งคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลเมอื งปอนไดส้ มคั รเขา้ รว่ มโครงการพฒั นา สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา กบั สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ และมลู นธิ ิ สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา และได้รับการคัดเลือกให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมการสร้างสนาม เดก็ เลน่ สรา้ งปัญญา พรอ้ มจัดฝึกอบรมส�ำหรับต�ำบลเครือข่ายเมอื งปอน จ�ำนวน ๑๕ แหง่ โดยจัดอบรมโครงการพัฒนาสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา มีเป้าหมายในการสร้างและการ จดั การสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา ๒ สว่ น คอื ๑) จดั การเรยี นรแู้ นวทางในการสรา้ งสนาม เด็กเล่นสรา้ งปญั ญาส�ำหรับตำ� บลเครอื ข่ายท่สี มคั รเข้าร่วมโครงการ ๒) ดำ� เนินการสรา้ ง สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญาสำ� หรบั ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ในสงั กดั ตามแนวทางการจดั การ และ ใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งโดยมปี ระชากรเปา้ หมายทจ่ี ะใชป้ ระโยชนจ์ ากสนามเดก็ เลน่ สรา้ ง ปญั ญา และเป็นแหลง่ เรยี นรู้อย่างน้อย ๔ กลุ่ม ได้แก่ (๑) เดก็ ท่เี รยี นในศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ช่วงอายุ ๒-๕ปี (๒) กลุม่ เดก็ นกั เรยี นสังกัดสพฐ.โรงเรียนเครือข่ายเมอื งปอน – แมก่ ิ๊ เข้ามาเรียนรู้ จำ� นวน ๗ แห่ง (๓) ผบู้ ริหาร สมาชิกสภา พนักงาน เจา้ หน้าทีข่ องตำ� บล เครือข่าย ๑๕ แหง่ จ�ำนวน ๗๕ คน (๔) จติ อาสาจากหนว่ ยงานราชการในพืน้ ทีอ่ �ำเภอ ขุนยวม กำ� นัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการสถานศกึ ษา ผู้ปกครอง ชาวบ้าน ทีม่ าเรียนรู้ และร่วมสรา้ งสนามเดก็ เลน่ จำ� นวน ๕๐ คน ท่ีมเี ปา้ หมายให้มีทักษะในการจดั การสนาม เด็กเล่นสร้างปัญญา และสามารถสร้างการเรียนรู้ส�ำหรับเด็กปฐมวัย เด็กวัยเรียนจน สามารถจัดการความรู้จากกระบวนการพัฒนาสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาได้ รวมถึงการ เป็นพื้นที่เรียนรู้ส�ำหรับเครือข่ายชุมชนท้องถ่ินท่ีสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการสนาม เด็กเล่นสร้างปัญญา และสามารถน�ำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ไปจัดการ และสร้างสนาม เด็กเล่นสร้างปัญญาที่ถูกต้องตามหลักการ เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มเด็กท่ีเป็นเป้าหมาย และครอบครวั ในพนื้ ท่ีตนเองได้ จากประสบการณ์ในการพัฒนา และจัดการเรยี นร้สู ำ� หรับ กลุ่มเด็กดว้ ยสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา องค์การบริหารส่วนต�ำบลเมืองปอนในฐานะเจ้าภาพหลัก มีการจัดการข้อมูลในการ ดำ� เนินการ ได้แก่ (๑) ข้อมูลกลุม่ เด็กทีส่ ามารถใช้บริการสนามเด็กเลน่ สร้างปัญญา เช่น กลุม่ เดก็ ชว่ งอายุ ๒-๕ ปีตอ้ งเลน่ ภายใตก้ ารดูแลของครูในศนู ย์พฒั นาเด็กเล็ก เดก็ ช่วงอายุ ๖-๑๒ ปี เมอื่ เลน่ ต้องอยู่ในความดูแลของผปู้ กครอง (๒) เครอ่ื งมอื หรือกลไก ประกอบ 224
การจดั การสนามเด็กเลน่ ฯประกอบดว้ ย ๒ ส่วนได้แก่ (๑) คณะกรรมการพัฒนาสนามเด็ก ๒สว่ นท่ี เล่นสร้างปัญญาและเครือข่ายในและนอกพื้นท่ีที่สนับสนุน โดยจัดเป็นโครงการอบรมเชิง ปฏบิ ัตกิ ารและจติ อาสา (๒) แนวทางการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา รูปแบบ วธิ ีเล่น วัสดอุ ปุ กรณ์ มีขนั้ ตอนในการด�ำเนินการ ประกอบดว้ ย ๓ ระยะ ไดแ้ ก่ ๑) ระยะเตรยี ม การ โดยการรวบรวมขอ้ มูล ทบทวนข้อมูลทุนทางสังคม และศกั ยภาพในพืน้ ที่ เพื่อน�ำมา ใช้ในการพัฒนาการด�ำเนินงาน และสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ซึ่งมีทุนทางสังคม และศักยภาพทีเ่ ก่ียวข้อง ดงั นี้ องคก์ ารบรหิ ารส่วนต�ำบลเมืองปอน ผบู้ ริหาร สมาชิกสภา กรรรมการศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ผใู้ หญบ่ า้ น กำ� นนั ผปู้ กครอง ประธานชมุ ชน คณะกรรมการ ชมุ ชน ผนู้ �ำแหลง่ เรยี นรู้ หน่วยงานภาคเี ครือข่าย เชน่ สภาเดก็ และเยาวชน โรงพยาบาล ส่งเสริมสขุ ภาพตำ� บล อสม. หรือกล่มุ ผู้สูงอายุ กลมุ่ จิตอาสาแรงงาน เปน็ ต้น มีการสง่ บุคลากรเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ ประชุมแต่งต้ังคณะท�ำงาน ประกอบด้วยคณะ กรรมการอ�ำนวยการท่ีคอยอำ� นวยความสะดวก ดแู ลความเรยี บร้อย คณะกรรมการฝ่าย สถานท่ีในการเตรียมสถานท่ี วางผงั ประมาณการ คณะกรรมการฝา่ ยประสานงานและ ปฏิคมคอยตดิ ต่อประสานงานกบั ฝา่ ยตา่ งๆทัง้ ภาครฐั และเอกชน คณะกรรมการฝ่ายพัสดุ มีหนา้ ทจี่ ดั หาวัสดุ อปุ กรณ์ในการกอ่ สรา้ งสนามเด็กเลน่ สร้างปญั ญา คณะกรรมการฝ่าย การเงนิ และบญั ชีในการเบกิ จา่ ยงบประมาณและบญั ชี และคณะกรรมการฝ่ายติดตามและ ประเมนิ ผล โดย สสส.รว่ มกบั งานการศกึ ษาส�ำนกั ปลัดรับผดิ ชอบโดยตรง กำ� หนดบทบาท หน้าท่ีทีม และร่วมกันจัดท�ำแผนปฏิบัติการเพ่ือสร้างและด�ำเนินกิจกรรมสนามเด็กเล่น สร้างปัญญา ๒) ระยะด�ำเนินการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ประกอบด้วย (๑) กิจกรรมอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการเพอ่ื เสริมสร้างและพฒั นาการเรียนร้ขู องเดก็ ปฐมวยั ด้วย สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา โดยชุมชนทอ้ งถิ่น ซงึ่ มี อาจารย์ ดสิ กร กุนธร ประธานมลู นิธิ สนามเด็กเล่นสร้างปัญญามาเป็นวิทยากร (๒) กิจกรรมสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา โดยมีการด�ำเนนิ การสร้างสนามเด็กเล่น ตามแบบแปลน ๕ ฐาน โดยแบ่งกลุ่มผูเ้ ข้าอบรม จติ อาสา ผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษา และพนกั งาน เจ้าหน้าท่อี งค์การบริหาร ส่วนต�ำบลเมืองปอน ตามค�ำส่ังแต่งตั้งมอบหมายงานของแต่ละฝ่าย ได้แก่ ฐานที่ ๑ สระน�้ำอนิ จัน มีผเู้ ข้าอบรม ชา่ งกอ่ สร้าง ปูน ทราย ท�ำโครงสร้าง ฐานท่ี ๒ สระทารก (สำ� หรับเด็ก ๒ – ๕ ขวบ) มผี ้เู ขา้ รบั การอบรม จิตอาสา ผปู้ กครอง ช่วยกันปรับพื้นท่ี วางผ้ายางพลาสติก วางระบบประปา ฐานท่ี ๓ ค่ายกลสไปเดอร์แมน มีทีมงานจาก องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำบลบา้ นทบั อบต.เครอื ข่าย ร่วมเปน็ พธิ ีกร และมีผู้เขา้ อบรมการ สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 225
ผกู เชอื กรปู แบบตา่ ง ๆ ใหม้ ลี ักษณะคล้ายใยแมงมมุ บันได และแบบหอ้ ยโหน ฐานท่ี ๔ หัดว่ายน้ำ� มีช่างได้วางผงั ช่างประปาวางระบบนำ�้ ปรับพน้ื ที่ แต่ยังอยู่ในระยะดำ� เนินการ และ ฐานท่ี ๕ เรือสลัดลงิ มีการวางฐาน เช่อื มโครงสรา้ งตามแบบ ซ่ึงมีช่าง อบต. เมอื งปอน ควบคุมการก่อสร้าง โดยผ้เู ข้าร่วมอบรม จิตอาสารว่ มกันในการเทพน้ื และยัง อย่ใู นระหวา่ งดำ� เนินการตอ่ ๓) ระยะการจดั การหลังสร้างและดำ� เนินการแล้วเสรจ็ เมือ่ ด�ำเนินการสรา้ งสนามเดก็ เล่นสรา้ งปญั ญาเสรจ็ เรยี บรอ้ ย จะมีคณะทำ� งาน ผปู้ กครอง ได้ รว่ มกนั กำ� หนดขอ้ ตกลง ในการเรียนรสู้ �ำหรับเดก็ โดยครู ศพด.เป็นผูด้ ูแล และบริหาร คณะกรรมการตดิ ตามและประเมนิ ผล จดั ดแู ลความเรียบร้อย ประสานการซอ่ มบำ� รงุ กับ กองชา่ ง จัดตารางเรียนรสู้ ำ� หรับเดก็ ใน ศพด. เปดิ ให้เปน็ สถานทเ่ี รียนรสู้ ำ� หรบั โรงเรยี น ในระดบั ประถมศึกษาทั้งในและนอกพื้นท่ี ศพด.ในพน้ื ท่แี ละนอกพน้ื ทที่ จี่ ะมาเรยี นรู้ ทง้ั ใน เวลา และนอกเวลาราชการ โดยมีครู ศพด. ผู้ดูแลเด็ก เจ้าหน้าที่องค์การบริหาร ส่วนต�ำบลเมืองปอน ท่ีได้รับการแต่งตั้งเป็นเวร คอยเป็นวิทยากร ตลอดจนเป็นผู้ดูแล ความเรียบรอ้ ย โดยมีคณะกรรมการติดตามประเมนิ ผล ร่วมกบั ครศู พด.คอยตดิ ตามและ ประเมินผล และรายงานผลการเล่นด้วยสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา โดยใช้แบบประเมิน พัฒนาการเด็กปฐมวยั ๔ ด้าน (ด้านรา่ งกาย สตปิ ัญญา อารมณ์ และสงั คม) โดยการ สังเกตความสนใจ ทักษะการเล่น ทกั ษะทางอารมณ์ จากการประเมินหลงั มกี ารกอ่ สรา้ ง สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา เดก็ และผูป้ กครองไดเ้ รยี นรู้ในการป้องกันการจมนำ�้ เดก็ ได้รับ การพฒั นากลา้ มเนอ้ื จากการเลน่ ปนี ปา่ ย สรา้ งจนิ ตนาและการเรยี นรใู้ หก้ บั เดก็ ครอบครวั มีกิจกรรมร่วมกัน ร่วมกันเสริมพัฒนาการ ทักษะการเรียนรู้ส�ำหรับเด็ก รวมถึงการมี สว่ นรว่ ม เป็นเจา้ ของในการสร้างและดแู ลร่วมกนั และการมสี ่วนรว่ มของชุมชน ทั้งการ ระดมทุน ระดมแรงในการสร้าง และจัดการสนามเด็กเลน่ สรา้ งปญั ญา เกิดความรว่ มมือ กันของภาคเี ครอื ขา่ ยทัง้ ภายในและภายนอกองค์กร หลังจากการด�ำเนินการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาได้ส่งผลดีต่อพัฒนาการของ ผู้ทเ่ี กยี่ วขอ้ งทง้ั ผู้บริหาร สมาชิกสภา ครผู ูด้ แู ลเด็ก ผูป้ กครอง และเด็ก ดังนี้ (๑) ผลท่ี เกิดกับผู้ดูแลเด็ก ผู้ดูแลเด็กสามารถเรียนรู้กับฐานการเรียนรู้ในแต่ละฐาน สามารถจัด กจิ กรรมพฒั นาการได้หลากหลายกิจกรรม เกิดความสนกุ สนาน ไดร้ บั การยอมรับมากขึน้ จากผูป้ กครอง รูจ้ ากวิธกี าร วางแผน แก้ปญั หา ประสานงาน ตลอดจนคิด วิเคราะห์ วิจัย ในกระบวนการเรียนการสอน (๒) ผลทเ่ี กิดกบั เด็กนักเรยี น ไดแ้ ก่ เดก็ ไดพ้ ัฒนาด้าน กล้ามเนื้อมดั เลก็ กลา้ มเนอ้ื มัดใหญ่ (ร่างกาย) จากการเลน่ ฐานคา่ ยกล ปนี ปา่ ย และ 226
ห้อยโหน ทำ� ให้เหน็ ถึงพัฒนาการดา้ นร่างกายเหน็ ไดช้ ัด เชน่ เด็กหญิงนก (นามสมมตุ )ิ จากทีไ่ ม่กล้าเล่น ปนี ป่าย กลวั ความสูง แต่พอมาทดลองท�ำซ�้ำๆ บ่อยๆ จนท�ำใหส้ งั เกต ไดว้ ่า เด็กเรม่ิ มีกลา้ มเนื้อแขน ขา ท่มี ีความแขง็ แรงข้ึน สามารถปีนปา่ ยได้อย่างคลอ่ งตัว ตลอดจนแนะน�ำเพ่ือนๆด้วยกันให้สามารถเล่นฐานค่ายกลได้ เด็กได้เกิดการพัฒนาด้าน อารมณ์ และจิตใจ ตัวอยา่ งเชน่ เด็กชายนนท์ (นามสมมุติ) ซงึ่ เปน็ เด็กท่ชี อบรอ้ งไหเ้ วลา มาโรงเรยี น พอได้มาเล่นสนามเด็กเล่นสร้างปญั ญา กจิ กรรมกลางแจง้ เด็กมอี ารมณ์ท่ีดี ยม้ิ แยม้ แจม่ ใส ไมร่ อ้ งไหเ้ วลามาศนู ยเ์ ดก็ และไดส้ อบถามผปู้ กครอง ปรากฏวา่ เดก็ อยาก มาโรงเรียน อยากมาเลน่ สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา เด็กได้พฒั นาการดา้ นสังคม ตัวอย่าง เชน่ เด็กชายนาย(นามสมมุต)ิ เป็นเด็กขีอ้ าย ชอบเลน่ คนเดยี ว ไมช่ อบเลน่ กับเพือ่ นในกลุ่ม ปรากกฎวา่ เม่ือมสี นามเด็กเลน่ สรา้ งปญั ญา ทำ� ใหเ้ ปน็ คนท่รี ่าเริง อารมณด์ ี พูดมากข้นึ เข้ากบั เพ่ือนๆงา่ ยขนึ้ มปี ฏิสมั พนั ธ์ มนี ้ำ� ใจ รู้จักรอคอย เดก็ ไดพ้ ฒั นาการดา้ นสตปิ ัญญา ทำ� ใหเ้ ด็กได้คิด วเิ คราะห์ หาเหตผุ ล แก้ปัญหาจากการเล่น เชน่ วธิ ีการเล่นท่ีปลอดภัย ไม่ใหเ้ จ็บ ไมใ่ หล้ ้ม แก้ปัญหาในการปนี ป่าย เพอ่ื ไม่ใหม้ ีการตก (๓) ผลต่อการบริหาร จัดการ การบรหิ ารจัดการทมี่ ีประสทิ ธิภาพมากขึ้น เกิดเครอื ขา่ ยทง้ั ภาครฐั และเอกชนให้ เกดิ การบรู ณาการรว่ มกบั หนว่ ยงานในระดบั พน้ื ทแี่ ละระดบั จงั หวดั ตลอดจนเกดิ กฎ กตกิ า รว่ มในการบริหารจดั การ รับผดิ ชอบ ดแู ลรกั ษา และปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไปในอนาคต ๒สว่ นที่ สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 227
ภาคเหนอื ตอนล่าง สนามเด็กเลนสรางปญญาตามรอยพระยคุ ลบาท เทศบาลตำบลพุเตย อำเภอวเิ ชยี รบุรี จังหวัดเพชรบรู ณ มูลนธิ ิรว ม อปพร. เดก็ ๐-๕ ป ๓๒๐ คน (๔.๒๖%) กตญั ู อายุ ๐-๒ ป ๘๙ คน (๒๗.๘๑%) จุดพุเตย กลุม จติ อาสา อายุ ๓-๕ ป ๒๓๑ คน (๗๒.๑๙%) เเรงงาน ไดร ับเงนิ อุดหนุนเพือ่ เล้ยี งดเู ดก็ เเรกเกดิ ๓๑ (๙.๖๙%) ภาคเี ครือขาย กำนัน,ผใู หญบาน น้ำหนักต่ำกวาเกณ ๖ คน ผนู ำชมุ ชน,สท. พกิ าร ๒ คน ฝน ผุ ๑๕ คน ผูปกครอง อยกู ับพอเเม ๒๕๑ คน (๗๙.๔๐%) อยูก ับปยู าหรอื ตายาย ๕๐ คน (๑๔.๙๓%) สภาเดก็ เเละ -งบประมาณ อยูก ับญาติ ๑๙ คน (๕.๖๗%) เยาวชน -บุคลากร ทต.พเุ ตย -วสั ดุ -อปุ กรณ -สถานที่ ผลลัพธ ชมุ ชน สรา งการมีสวนรวม กาวเเรกเขาสู -สำรวจสถานท่ี ที่เกิดข้ึน ของคนในชมุ ชน สนามเด็กเลน -ขอรบั การสนับสนนุ งบ เทศบาลตำบลพุเตย ประมาณ เด็ก ครอบ องคก รชมุ ชน เชน ดำเนนิ การ -ไดรบั คัดเลือกเปนศนู ย ครวั -กลมุ สรางสขุ สงู วัย กอ สรา ง ฝกอบรม -สง เสริม -กลมุ สภาเด็กเเละเยาวชน -เขาอบรมการสราง พัฒนาการ ทง้ั ๔ ดา น -เสริมสราง สนามเด็กเลน -เดก็ ไดรบั การดเู เล ครอบครวั อบอุน -ศูนยฝกอบรมรนุ ท่ี ๒ อยา งเอาใจใสจ าก -วางแผนรวมกับภาคี ครอบครวั เเละชมุ ชน เครอื ขา ย -ใชแ รงงานจติ อาสา เดก็ มพี ฒั นาการท่ดี ีข้นึ -ออกเเบบตามการเรียนรู -เดก็ เรยี นรทู ุกดา นตาม ว่งิ เขยงปลายเทา กลามเนอื้ มัดเลก็ มดั ใหญ มาตรฐานวันละ ๑-๒ รอบ ชอบเลน คนเดียว เเข็งเเรงขน้ึ เลนกบั เพ่อื น ตามกิจกรรมทกี่ ำหนด เชน เลานิทานใตตน ไม รอ งใหง อเเง อยากมาโรงเรยี นทกุ วนั -ต--พจิดป-ัด-ัฒจตทรวทัดาะดนิเมำทชคลาหุมปรำกอลราครงาะากัะณรกหงเสเามหะปดูตรกนิล็กรใรรชผกัะกรเหลสมามลตูรินกักเรผารสรียลตู นรรู สงเสริมการ ไมอยากมา เตรียมชุดวา ยน้ำมาโรงเรยี น เรยี น สง เสรมิ โรงเรียน เพอื่ ใหครูพาเลนสนามเด็กเลน บำรุงรักษา การเลน ดเู เล พฒั นา -จัดทำตารางการดูเเล หลักสูตร -เลน เเละปน ปา ยตาม (ครูเวร,งานปองกันฯ) ความชอบอยางอิสระ การตรวจสอบเเละดูเเล เสรี ใหส นามเดก็ เลน ใชงาน ไดป กติเเละเกดิ ประโยชน ภาพที่ ๒.๙ สนามเด็กเล่นสรา้ งปัญญา เทศบาลตำ� บลพเุ ตย อ�ำเภอวิเชยี รบรุ ี จังหวดั เพชรบรู ณ์ 228
สนามเดก็ เล่นสร้างปญั ญา เทศบาลตำ�บลพเุ ตย อำ�เภอวเิ ชียรบรุ ี จงั หวัดเพชรบูรณ์ นางจนิ ตนา ทองใจสด นายกเทศมนตรี เทศบาลต�ำบลพุเตย เบอรโ์ ทร ๐๘๑-๘๑๑๑๑๑๙ เทศบาลต�ำบลพเุ ตยมีพื้นทีร่ บั ผิดชอบจ�ำนวน ๙ หม่บู ้าน ๒,๑๖๖ ครัวเรอื น ประชากร ๒ส่วนที่ ๗,๕๑๗ คน อตั ราส่วนเพศชาย ๙๕ คนต่อเพศหญงิ ๑๐๐ คน อตั ราพึง่ พงิ รวม ๕๔ คน และ พึง่ พิงวัยเดก็ ๒๑ คน ตอ่ ประชากรวยั แรงงาน ๑๐๐ คน ร้อยละ ๖๐ ของกลุม่ วยั เจริญพนั ธ์สุ มรสแล้ว รอ้ ยละ ๓.๐ ครวั เรือนทม่ี เี ด็ก ๐-๑๕ ปี อาศยั อยู่ ๔๗๑ หลังคา เรอื น ร้อยละ ๒๑.๗ เดก็ ชว่ งอายุ ๓-๕ ปี ร้อยละ ๓๐.๗ เข้าเรยี นในศนู ยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ สังกัดเทศบาลต�ำบล ส่วนที่เหลือเข้าเรียนกับสถานศึกษาเอกชน และสถานศึกษาของรัฐ ในและนอกพ้ืนท่ี หรือใกลก้ บั ที่ทำ� งานของผู้ปกครอง รอ้ ยละ ๗.๕ เป็นเด็กชว่ งอายุ ๖-๑๒ ปี เรียนในสถานศกึ ษาเอกชนในพื้นที่ ๒ แห่ง และของรฐั ๑แหง่ สถานะสขุ ภาพเดก็ ชว่ ง ๓-๕ ปพี บว่ารอ้ ยละ ๒.๖ (๖ คน) มภี าวะทุพโภชนาการ มคี วามพิการ ๒ คน รอ้ ยละ ๑๐ ป่วยโรคเรื้อรัง เชน่ เบาหวาน ธาลสั ซเี มีย โรคหัวใจ เปน็ ต้น ในศนู ย์พัฒนาเดก็ เลก็ มปี ัญหาช่องปากต้องส่งตอ่ ๑๕ คน ๔ ใน ๕ ของเดก็ ท่อี ายุน้อยกว่า ๕ ปอี าศัยอยกู่ ับ บดิ าและมารดา นอกนน้ั อาศยั อยกู่ บั ญาติ ปยู่ า่ ตายาย บดิ ามารดาแยกทาง หรอื ไปทำ� งาน ตา่ งจังหวดั ตา่ งอำ� เภอ ส่วนเดก็ ชว่ งอายุ ๖-๑๒ ปี พบปัญหาขาดสารอาหาร ครอบครวั ยากจน เปน็ ตน้ การดแู ลกลุม่ วัยเดก็ โดยเทศบาลตำ� บลพเุ ตย รว่ มกบั สถานศกึ ษา หน่วยบริการสุขภาพ และทุนทางสังคมในพน้ื ที่ มบี ริการอยา่ งน้อย ๓ เรอื่ ง ได้แก่ (๑) การจัดหลกั สตู รการ เรียนรู้ในชั้นเรียน และการเรียนรู้ในชุมชน โดยการฝึกวินัยการอยู่ร่วมกัน ภาวะผู้น�ำ การดูแลตนเองตามวยั เป็นต้น (๒) การบรหิ ารจดั การ เชน่ การพฒั นาศักยภาพผ้สู อน แกนน�ำกลุ่ม องค์กรชุมชน จัดให้มีอาหารและน�้ำดื่ม อาคารสถานท่ี การสุขาภิบาล ท่ีเพียงพอ ได้มาตรฐาน และ (๓) การจดั การสิง่ แวดลอ้ มทเ่ี ออ้ื ต่อสขุ ภาพ ภายในอาคาร หรอื พนื้ ทที่ ำ� การ และภายนอก เชน่ สนามเดก็ เลน่ พนื้ ทโ่ี ลง่ เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ไดว้ งิ่ และเลน่ อสิ ระ สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 229
พื้นสนามเด็กเล่นท่ีปลอดภัย พื้นที่เรียนรู้อื่นๆ เช่น พ้ืนที่การคัดแยกขยะ แปลงผัก ปลอดสาร โรงเพาะเหด็ และเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน เปน็ ต้น ประสบการณ์เทศบาล ต�ำบลพุเตยในฐานะเป็นศูนย์ประสานงานการจัดการเรียนรู้เด็กและเยาวชน พบว่าพื้นท่ี สร้างสรรค์ พื้นท่ที �ำกิจกรรม พ้นื ท่ีเล่น ส�ำหรับเดก็ มคี วามส�ำคัญตอ่ พฒั นาการ และการ เรียนรู้ ซึ่งจะช่วยให้เด็กได้สัมผัสกับธรรมชาติ และช่วยให้เด็กได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ช่วยพัฒนาสมองตามหลักการเรียนรู้ผ่านการเล่นสอดคล้องกับการพัฒนาสมองในเด็ก ๓ ปขี ึ้นไป เทศบาลต�ำบลพุเตยได้สมัครเข้าร่วมโครงการพัฒนาสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา โดย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมกับส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ และมูลนธิ ิสนามเด็กเลน่ สรา้ งปญั ญา และได้รบั การคดั เลือกให้เป็นศูนย์ฝกึ อบรม การสรา้ งสนามเดก็ เล่นสรา้ งปัญญา พรอ้ มจัดท�ำหลกั สตู รฝึกอบรมส�ำหรบั ต�ำบลเครอื ข่าย ในกลุ่มจังหวัด ที่สมัครเข้าร่วมโครงการพัฒนาสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา มีเป้าหมาย ในการสรา้ งและการจัดการสนามเด็กเลน่ สร้างปัญญา ๒ ส่วน ๑) จดั การเรียนรูแ้ นวทาง ในการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาส�ำหรับต�ำบลเครือข่ายที่สมัครเข้าร่วมโครงการ ๒) ด�ำเนินการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา แนวทางการจัดการ และใช้ประโยชน์ อยา่ งตอ่ เนอื่ งโดยมปี ระชากรเปา้ หมายทจี่ ะใชป้ ระโยชนจ์ ากสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญาอยา่ ง นอ้ ย ๓ กลมุ่ ได้แก่ (๑) เดก็ ทีเ่ รียนในศนู ยพ์ ฒั นาเด็กเล็กช่วงอายุ ๒-๔ ปี จ�ำนวน ๗๑ คน เพศชาย ๔๔ คน เพศหญิง ๒๗ คน (๒) กล่มุ เด็กนกั เรยี นจากโรงเรยี นเอกชน ๒ แหง่ โรงเรยี นสังกัดส�ำนกั งานการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน ๑ แหง่ ท่ีเขา้ มาเรยี นรู้เป็นชว่ ง (๓) เด็กชว่ งอายุ ๖-๑๒ ปี ๔๑๑ คน รอ้ ยละ ๗.๕ พรอ้ มผู้ปกครอง มีเปา้ หมายให้เทศบาล ต�ำบลพเุ ตยมที กั ษะในการจัดการสนามเด็กเลน่ สร้างปัญญา และสามารถสร้างการเรยี นรู้ ส�ำหรับเดก็ ปฐมวยั เดก็ วยั เรียน จนสามารถจัดการความรู้จากกระบวนการพฒั นาสนาม เด็กเล่นสร้างปัญญาได้ รวมถึงการเป็นพื้นท่ีเรียนรู้ส�ำหรับเครือข่ายชุมชนท้องถ่ินที่สนใจ สมัครเข้าร่วมโครงการสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา และสามารถน�ำประสบการณ์ที่ได้ เรียนรไู้ ปจดั การ และสร้างสนามเด็กเล่นสรา้ งปญั ญาท่ถี กู ต้องตามหลักการ เอ้ือประโยชน์ ตอ่ กล่มุ เดก็ ที่เปน็ เป้าหมายและครอบครวั ในพืน้ ทตี่ นเองได้ จากประสบการณ์ในการพัฒนา และจัดการเรียนรู้ส�ำหรับกลุ่มเด็กด้วยสนามเด็กเล่น สร้างปัญญา เทศบาลต�ำบลพุเตยในฐานะเจ้าภาพหลัก มีการจัดการข้อมูลในการ ดำ� เนนิ การ ได้แก่ (๑) ขอ้ มลู กลุ่มเด็กท่สี ามารถใช้บรกิ ารสนามเด็กเลน่ สร้างปญั ญา เช่น 230
กล่มุ เดก็ ช่วงอายุ ๓-๕ ปี ต้องเล่นภายใตก้ ารดูแลของครใู นศนู ยพ์ ัฒนาเด็กเลก็ เดก็ ช่วง ๒ส่วนท่ี อายุ ๖-๑๒ ปี เม่ือเล่นต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง (๒) เครื่องมือ หรือกลไก ประกอบการจัดการสนามเดก็ เล่นฯ ประกอบด้วย ๒ สว่ นไดแ้ ก่ (๑) คณะกรรมการพัฒนา สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญาและเครอื ขา่ ยในและนอกพนื้ ทที่ สี่ นบั สนนุ (๒) แนวทางการสรา้ ง สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา รูปแบบ วิธีเล่น วัสดุอุปกรณ์ มีข้ันตอนในการด�ำเนินการ ประกอบดว้ ย ๒ ระยะ ไดแ้ ก่ ๑) ระยะเตรยี มการ และสร้างสนามเด็กเลน่ สร้างปัญญา โดยการทบทวนขอ้ มลู ทนุ ทางสงั คม และศกั ยภาพในพน้ื ท่ี เพอ่ื นำ� ใชใ้ นการพฒั นาการดำ� เนนิ งาน และสรา้ งสนามเด็กเลน่ สร้างปญั ญา ซ่ึงมที ุนทางสงั คมและศักยภาพท่เี กยี่ วข้อง ดงั นี้ เทศบาลตำ� บลพุเตย ผู้บรหิ าร สมาชิกสภาเทศบาล กรรรมการศูนย์พฒั นาเดก็ เล็ก ผู้ใหญ่ บา้ น ก�ำนนั ผู้ปกครอง ประธานชมุ ชน คณะกรรมการชมุ ชน ผนู้ �ำแหลง่ เรียนรู้ เช่น สภาเด็กและเยาวชน โรงเรียนสร้างสุขผู้สูงอายุ หรือกลุ่มสร้างสุขสูงวัย กลุ่มจิตอาสา แรงงาน มูลนิธิร่วมกตัญญูจุดพุเตย เป็นต้น แต่งตั้งคณะท�ำงาน ประกอบด้วย คณะ กรรมการอำ� นวยการ และคณะทำ� งานหลกั ประกอบดว้ ย ทกุ สว่ นราชการในสงั กดั เทศบาลฯ โดยกองการศึกษารับผิดชอบโดยตรง ก�ำหนดบทบาทหน้าที่ทีม และร่วมกันจัดท�ำแผน ปฏิบัตกิ ารเพ่ือสรา้ งและด�ำเนนิ กิจกรรมสนามเดก็ เล่นสรา้ งปญั ญา ประกอบดว้ ย (๑) ทีม จัดการ มีบทบาทจัดการกลุ่มเรียนรู้ส่ีฐานทั้งแบบแปลนของฐาน วัสดุอุปกรณ์ท่ีจ�ำเป็น กลุ่มผู้ที่มีส่วนร่วมในการด�ำเนินการแต่ละฐาน พร้อมผู้ประสานฐานย่อยซ่ึงเป็นพนักงาน ของเทศบาล และ(๒) ทมี ชา่ งประกอบด้วยทีมหลักมาจากกลุม่ จติ อาสาแรงงาน ตามความ เชยี่ วชาญงานชา่ ง และพนกั งานกองชา่ ง ได้แก่ ฐานที่ ๑ สระน้ำ� อนิ จัน มชี ่างกอ่ สรา้ ง ปูน ทราย ท�ำโครงสร้าง ฐานท่ี ๒ สระทารก(ส�ำหรับเด็ก ๑-๒ ขวบ) มีช่างปูน ช่างประปา ท�ำระบบน�้ำ ฐานที่ ๓ ค่ายกลสไปเดอร์แมน มีทีมอาสาสมัครของมูลนิธิ รว่ มกตญั ญจู ดุ พุเตย ทำ� การผกู เชอื กรูปแบบตา่ งๆ ให้มลี กั ษณะคลา้ ยใยแมงมมุ ฐานที่ ๔ หดั ว่ายน้ำ� มีช่างปูน ช่างประปา ท�ำระบบนำ�้ และ ฐานท่ี ๕ เรือสลดั ลงิ ก�ำลงั ด�ำเนนิ การ การก�ำหนดพื้นท่ีท่ีเหมาะสม ต้องด�ำเนินการตามเง่ือนไขในการสร้างสนามเด็กเล่นสร้าง ปัญญาใหเ้ ปน็ ไปตามบริบทของพื้นท่ี มขี อ้ จำ� กดั ขัน้ ต�ำ่ คอื ขนาดพ้ืนที่ ตน้ ไม้ ลักษณะที่ต้งั อยู่ในพ้ืนที่ใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก คนท่ัวไปเข้าถึงได้สะดวกและชุมชนเห็นชอบ และมี ข้อตกลงในการใช้พื้นที่ ๒) ระยะการจัดการหลังสร้างและด�ำเนินการแล้วเสร็จ เม่ือ ด�ำเนนิ การสรา้ งสนามเด็กเลน่ สร้างปัญญาเสร็จเรียบรอ้ ย คณะท�ำงาน ผูป้ กครอง ได้รว่ ม กันก�ำหนดข้อตกลง ในการเรียนรู้ส�ำหรับเด็ก โดยครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นผู้ดูแล สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 231
และบริหารจัดดูแลความเรียบร้อย ประสานการซ่อมบ�ำรุงกับกองช่าง จัดตารางเรียนรู้ สำ� หรบั เดก็ ในศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ เปดิ ใหเ้ ปน็ สถานทเี่ รยี นรสู้ ำ� หรบั โรงเรยี นในระดบั ประถม ศึกษาท้ังในและนอกพื้นท่ี นอกเวลาราชการเจ้าหน้าท่ีเวรของเทศบาลเป็นผู้ดูแลความ เรียบรอ้ ย และเฝา้ ระวังให้เกดิ ความปลอดภัย เนือ่ งจากจะมผี ปู้ กครองพาลูกมาเลน่ ในช่วง เย็น และปิดบรกิ ารหลัง ๑๘.๐๐ น.ทางศูนยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ ได้ประเมนิ การตดิ ตามผลการ เล่นดว้ ยสนามเด็กเล่นสรา้ งปญั ญา โดยใชแ้ บบประเมนิ พัฒนาการ ๔ ดา้ นประกอบดว้ ย ดา้ นรา่ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ และสงั คม และประเมนิ ดว้ ยการสงั เกตความสนใจ ทกั ษะ การเลน่ ทักษะทางอารมณ์ ของเดก็ โดยครปู ระจ�ำชั้น ดำ� เนินการ ๒ ชว่ งเวลา ได้แก่ (๑) จะตรวจคดั กรอง สงั เกต และประเมนิ พฤตกิ รรม และการเจบ็ ปว่ ยทกุ วนั (๒) ตรวจประเมนิ พฒั นาการตามรอบบริการแบบละเอยี ดทกุ ๓ เดือน ท่ผี ่านมาผลท่ีเกิดขน้ึ ต่อเดก็ ชว่ ง ๒-๔ ปี ทเ่ี รียนในศนู ยพ์ ัฒนาเด็กเลก็ คือ เด็กไดร้ ับ การเสริมพัฒนาทง้ั ๔ ดา้ น รา่ งกาย อารมณ์ สงั คม และสติปัญญาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ตามวยั มีทักษะการคดิ เด็กกล้าคดิ กลา้ ท�ำ กลา้ เลน่ กล้าตัดสินใจ เดก็ ไม่กลวั นำ�้ สรา้ ง ความค้นุ เคย “น้องใกล้ไกลอายุ ๓ ปี ๘ เดือน อาศัยอยู่กับพ่อและแม่มาโรงเรียนชอบแยกตัว ไมเ่ ล่นกับเพอื่ น ไม่ฟงั ครู เวลาวิ่งจะเขยง่ ปลายเท้าตลอด ครูจดั ตารางใหเ้ ล่นที่สนามเด็ก เลน่ สรา้ งปัญญาอยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ ๓ วนั นาน ๒ เดอื น สังเกตเห็นสหี น้า อารมณ์เมอื่ มาโรงเรียนของน้องเปลยี่ นไป ดูมคี วามสุข ยิ้มแย้มแจม่ ใส ไม่งอแง และเมอื่ ถงึ เวลาที่ครู จัดให้ลงไปเล่นที่สนามฯ เดิมชอบเล่นคนเดียวเริ่มสนใจเพื่อนมากข้ึน จนติดกลุ่มเพ่ือน ชอบเลน่ นำ้� ชอบปนี ปา่ ยตาขา่ ย มคี วามแขง็ แรงของกลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ และกลา้ มเนอ้ื มดั ใหญ่ เพิม่ ข้นึ ผูป้ กครองบอกวา่ ตอนน้ีนอ้ งอยากมาโรงเรยี นทกุ วนั ” “น้องโปเต้ อายุ ๓ ปี ๓ เดอื น ช่วงเข้ามาเรยี นใหม่ ชอบเล่นตามมมุ เลน่ คนเดยี ว ไมส่ งุ สงิ กบั ใคร ตรงไหนทม่ี เี พอื่ นเยอะนอ้ งกจ็ ะปลกี ตวั ออกหา่ ง และชอบรอ้ื คน้ สง่ิ ของ เมอื่ ผา่ นการเลน่ ท่ีสนามเดก็ ฯ น้องโปเตจ้ ะมคี วามกลา้ ตัดสินใจและไมก่ ลวั ชอบปีนป่ายตาขา่ ย เล่นน�้ำ อยากมาโรงเรยี นทุกวัน คยุ เก่งข้นึ และชอบเลน่ กบั เพอ่ื น “ เด็กและผู้ปกครองได้เรียนรู้ในการป้องกันการจมน้�ำ เด็กได้รับการพัฒนากล้ามเนื้อ จากการเล่น ปีนป่ายและสร้างจินตนาและการเรียนรู้ให้กับเด็ก ครอบครัวมีกิจกรรม ร่วมกัน ร่วมกันเสริมพัฒนาการ ทักษะการเรียนรู้ส�ำหรับเด็ก รวมถึงการมีส่วนร่วม เป็นเจ้าของในการสร้างและดูแลร่วมกัน และการมีส่วนร่วมของชุมชนทั้งการระดมทุน 232
ระดมแรงในการสรา้ ง และจดั การสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา เกดิ ความรว่ มมอื กนั ของภาคี เครอื ขา่ ยท้งั ภายในและภายนอกองคก์ ร พื้นทเี่ ปน็ ต้นแบบการบรหิ ารจดั การสนามเด็กเล่น สรา้ งปัญญาแกอ่ งค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ อ่ืน และผู้ท่ีสนใจ จนเป็นแหลง่ เรยี นรู้ในการ ดูแลเด็กปฐมวยั เดก็ และเยาวชน “นอ้ งใบเตย อายุ ๔ ปี ๕ เดือน หอ้ งพ่ีแมวเหมียว เวลามาโรงเรียน นอ้ งใบเตยเม่ือ มาถงึ โรงเรยี นจะรอ้ งไห้ งอแงทกุ วนั ทำ� ใหผ้ ปู้ กครองและครจู ะตอ้ งคอยปลอบและใหก้ ำ� ลงั ใจน้องใบเตยเป็นประจ�ำได้ไปเล่นน�้ำกับเพื่อนหลังจากได้เล่นน้�ำกับเพื่อนๆท่ีสนามเด็กเล่น สรา้ งปัญญา ทำ� ให้นอ้ งใบเตย ไมร่ อ้ งไห้ ไม่งอแง ในการมาโรงเรียน และนอ้ งใบเตยจะ เตรียมชดุ วา่ ยน้�ำมาโรงเรยี นเรยี นด้วย เพอ่ื ใหค้ รพู าเลน่ สนามเด็กเล่น และส่งิ ที่ชอบมาก ทสี่ ุดคือการเล่นน�ำ้ ท�ำใหน้ ้องมีความสุข สนกุ สนาน ท่สี �ำคัญได้สนิทกบั เพ่ือนๆ มากข้ึน” ๒สว่ นท่ี สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 233
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนบน เทศบาลตำบลหลุบ อ.เมอื งกาฬสินธุ จ.กาฬสนิ ธุ การมีสว นรวมสรา งสนามเดก็ เลน สรางปญ ญา สถานการณ/กลมุ เปาหมาย การขับเคลอ่ื นงาน ครู ผปู กครอง จำนวนประชากรทง้ั หมด ๑๑,๖๓๒ คน อปพร. เดก็ เด๐็ก-๕๐-ป๕ ป๓๖๒๓๖ค๒นค(น๓.๑๓๑.๑%๑)% เทศบาลตำบลหลุบ ชาย ๒๐๐ คน หญงิ ๑๖๒ คน ศพด.ตำบลหลบุ จิตอาสา คณะกรรมการ ศพด. รา นคา ในชมุ ชน อาเยดุ ็ก๐๐-๓-๓ปป ๒ ๕๒๗๕๗คนคน(๗๗๐๐.๙.๙๙%๙%) กำนัน/ผูใ หญบ าน อาเยดุ ็ก๓๓--๕๕ปป ๑๑๐๐๕๕ คคนน(๒๒๙๙..๐๐๑๑%%) ผนู ำทอ งที่ รพ.สต. สถานภาพอยูอาศยั กลุม อสม. อยกู ับพอและแม ๓๕๑ คน อยูกบั พอ หรอื แม ๒ คน ปราชญช าวบาน อยกู บั ปู ยา ตา ยาย ๙ คน สรางการเรยี นรู กจิ กรรมสรางการเรียนรกู บั เด็ก การดแู ล/กฏกติกา กิจกรรมการปฐมพยาบาลเบอื้ งตน อบรมครผู ดู ูแลเด็กและผดู แู ลสนามเด็กเลน กำหนดวนั ในการเลน แจง ขอ ปฏบิ ตั ิใหผูปกครอง การมสี ว นรวมของชมุ ชน เตรยี มชุดสำรอง จัดกิจกรรมทำความสะอาด ประชุมสรางความเขาใจในชุมชน สนามเด็กเลน ทุกอาทติ ย แตง ตงั้ กรรมการสนามเดก็ เลน ปรบั สภาพพนื้ ท่เี พ่ือทำการกอสราง ปรบั สภาพแวดลอมเอือ้ ตอ การเรียนรสู ำหรบั เดก็ ข้นั ตอนการดำเนนิ งาน ผลตอ ครอบครวั การดูแลอ/พากรัฒมฏณนกาตสกงัิกาคารมดสา ตนปิ รญางญกาาย จดั ประชุมชแ้ี จงกับชุมชน สรา งความสัมพนั ธร ะหวา งครอบครวั กับเดก็ กจิ กรรม Play and learn แตง ตัง้ คณะกรรมการดแู ลสนามเด็กเลน มที ักษะในการดูแลเดก็ กิจกรรมคิดกอนเลน ปรบั สถานทดี่ ำเนินการกอ สราง กจิ กรรมเสริมทกั ษะชีวติ เด็ก จดั อบรมการปฐมพยามบาลเบ้อื งตน ทกั ษะในการวา ยน้ำ กำหนดกฏกติกา การเลน การดูแล กจิ กรรมเพอื่ นชว ยเพื่อน ผลท่ีเกดิ กบั เดก็ ผลทีเ่ กดิ ในชมุ ชน มสี ขุ ภาพแขง็ แรง มจี ินตนาการ มีแหลงเรียนรูในชมุ ชน มีระเบียบวินัย มคี วามรบั ผดิ ชอบ เกิดจิตอาสาพัฒนาทองถ่นิ รจู กั ชว ยเหลือผูอนื่ เกิดทักษะการเลน กลาคิด กลา ทำ กลาเลน ภาพท่ี ๒.๑๐ สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา เทศบาลตำ� บลหลบุ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ 234
สนามเด็กเล่นสร้างปญั ญา เทศบาลตำ�บลหลุบ อำ�เภอเมอื ง จังหวัดกาฬสนิ ธ์ นายสนุ ทร บญุ ไสว นายกเทศมนตรีตำ� บลหลุบ เบอรโ์ ทร ๐๔๓-๖๐๐๖๗๙ เทศบาลตำ� บลหลบุ มีพ้ืนท่รี บั ผิดชอบจำ� นวน ๑๖หมบู่ า้ น ๓,๕๐๘ ครัวเรอื น ประชากร ๒สว่ นที่ ท้ังหมด ๑๑,๖๓๒ คน มเี พศชาย๕,๘๑๕ คน เพศหญงิ ๕,๘๑๗ คน เด็กอายุ ๐-๕ ปี ๓๖๒ คน ชาย ๒๐๐ คน หญิง ๑๖๒ คน เด็กอายุ ๐-๓ ปี ๒๕๗ คน ร้อยละ ๗๐.๙๙ เดก็ อายุ ๓-๕ ปี ๑๐๕ คน รอ้ ยละ ๒๙.๐๑ มีเดก็ อายุ ๒-๕ ปี เข้าเรยี นในศนู ยพ์ ฒั นา เดก็ เล็กสงั กัดเทศบาลตำ� บลหลุบ ๑๕๘ คน เข้าเรียนในศูนย์พฒั นาเดก็ เล็กเทศบาลต�ำบล หลุบ ๑๒๐ คน และศูนย์พัฒนาเดก็ เล็กวัดโพธ์ิชยั คอนเรยี บ ๓๘ คน สถานภาพอยูอ่ าศยั อยู่กบั พอ่ และแม่ ๓๕๑ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๙๖.๙๖ อยู่กับพ่อหรอื แม่ ๒ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๐.๕๕ อยกู่ ับปยู่ ่า ตายาย ๙ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๒.๔๙ เทศบาลตำ� บลหลบุ มกี ารจดั ใหม้ กี ารดแู ลเดก็ ปฐมวยั โดยรว่ มมอื ภาคเี ครอื ขา่ ยทงั้ ภายใน และภายนอกพนื้ ทโ่ี ดยไดเ้ ขา้ รว่ มโครงการการเรยี นรเู้ ดก็ ปฐมวยั ทอ้ งถนิ่ ไทยผา่ นการเลน่ กบั กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มีภาคีเครือข่ายในพื้นท่ีได้แก่ โรงเรียน สถานศึกษา รพ.สต. หน่วยบริการสุขภาพ และทุนทางสังคมอื่นๆที่เก่ียวข้องในพื้นที่ในการจัดหาวัสดุ ส�ำหรับการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยมีเป้าหมายเพ่ือ ส่งเสริมการเรียนรู้ในการเล่นของเด็กปฐมวัย ซึ่งมีประชากรเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์ จากการสร้างสนามเดก็ เลน่ สร้างปัญญา ไดแ้ ก่ (๑) เดก็ เล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล ตำ� บลหลบุ จำ� นวน ๑๒๐ คน (๒) เดก็ วยั เรยี นในเขตพนื้ ทบ่ี รกิ ารเทศบาลตำ� บลหลบุ จำ� นวน ๓๔๗ คน (๓) ผู้ปกครอง ผู้ดูแล จ�ำนวน ๑๓๓ คน มีการจัดกิจกรรมในการดูแล เด็กปฐมวัยทั้ง ๔ ด้าน ได้แก่ (๑) การสร้างการเรียนรู้ โดยจัดให้มีสนามเด็กเล่น ซ่ึงมีกจิ กรรมใหเ้ ดก็ ไดเ้ รียนรูใ้ นสนามเดก็ เลน่ โดยแบง่ ออกเป็น ๓ ฐาน ไดแ้ ก่ ฐานท่ี ๑ “สระนำ้� อิน จัน” ฐานที่ ๒ “สระทารก” ฐานท่ี ๓ “คา่ ยกล SPIDER MAN” ซง่ึ การ เลน่ จะชว่ ยใหเ้ ดก็ ไดส้ มั ผสั กบั ธรรมชาติ และชว่ ยใหเ้ ดก็ ไดเ้ รยี นรอู้ ยา่ งมคี วามสขุ ชว่ ยพฒั นา สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 235
สมองตามหลกั การเรยี นรผู้ า่ นการเลน่ สอดคลอ้ งกบั การพฒั นา และจดั การเรยี นรใู้ นชมุ ชน กับกลุ่มอาชีพ ภูมิปัญญาในท้องถ่ินได้แก่ สมุนไพรในชุมชน ขนมและของเล่นพื้นบ้าน นอกจากนี้ยังพัฒนาศักยภาพ ครู ผู้ดูแลเด็กโดยจัดอบรมการปฐมพยาบาลเบ้ืองต้น (๒) การสร้างการมสี ว่ นร่วม เชน่ การสง่ เสริมใหช้ ุมชนมีสว่ นรว่ มในการดแู ลเด็กปฐมวัย โดยรว่ มเป็นคณะกรรมการสรา้ งสนามเด็กเล่น พัฒนาศกั ยภาพครู ผปู้ กครองหรอื ผดู้ ูแล เดก็ มีแกนนำ� กลุ่ม ท่ีท�ำหน้าทใี่ นการดแู ลความปลอดภัยในการเลน่ และการปฐมพยาบาล เบ้ืองต้นส�ำหรับเด็ก สร้างการมีส่วนร่วมในการจัดหาวัสดุที่ใช้ในการสร้างสนามเด็กเล่น สร้างปัญญา เป็นต้น (๓) การสร้างการดูแลและกฎกติกาในการเล่นเป็นการส่งเสริม พัฒนาการดา้ นสังคมให้เด็กมกี ฎระเบยี บ รู้จักแบ่งปนั เออื้ เฟื้อ เรียนรูก้ ารอย่รู ่วมกนั ใน สังคม กระบวนการพัฒนาสนามเด็กเล่นสร้างปญั ญามีการด�ำเนนิ งานดังน้ี (๑) จัดตงั้ คณะ กรรมการด�ำเนินงานตามโครงการฯ ก�ำหนดบทบาทหน้าที่รับผิดชอบในโครงการ (๒) ส�ำรวจ/ปรับพ้ืนท่ีท�ำสนามเด็กเล่น (๓) ประชุมวางแผนการด�ำเนินงานสร้างสนาม เด็กเล่น (๔) ประสานงาน ความร่วมมือภาคีเครือข่าย งบประมาณ วัสดุ ส่ิงของ (๕) จัดประชุมท�ำความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาและการใช้งาน ประโยชน์จากสนาม เด็กเลน่ กำ� หนดขอ้ ตกลง ในการเรียนรู้สำ� หรับเดก็ โดยครูศนู ยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ เป็นผดู้ ูแล และบริหารจัดดูแลความเรียบร้อย ประสานการซ่อมบ�ำรุงกับกองช่าง จัดตารางเรียนรู้ สำ� หรบั เดก็ ในศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ เปดิ ใหเ้ ปน็ สถานทเี่ รยี นรสู้ ำ� หรบั โรงเรยี นในระดบั ประถม ศกึ ษาทงั้ ในและนอกพน้ื ที่ (๖) ประเมนิ ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ กบั เดก็ กลมุ่ เปา้ หมายโดยใชแ้ บบประเมนิ พฒั นาการ ๔ ดา้ นประกอบดว้ ย ดา้ นรา่ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ และสงั คม และประเมนิ ด้วยการสงั เกตความสนใจ ทกั ษะการเล่น ประเมินผลต่อครอบครัวและชุมชน ผลลพั ธท์ เ่ี กดิ ขึ้น ได้แก่ (๑) ผลต่อเด็กปฐมวยั คอื เด็กไดร้ บั การพัฒนาท้งั ๔ ด้านทง้ั ด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาได้เหมาะสมตามวัย กล้าคิด กล้าท�ำ กล้าตัดสินใจ มีจินตนาและการเรียนรู้สนุกสนาน มีรอยย้ิมและเสียงหัวเราะได้เรียนรู้ใน การป้องกันการจมน�้ำ สร้างความคุ้นเคยให้กับเด็กในการเล่นน้�ำ รวมทั้งได้เรียนรู้การ ท�ำกิจกรรมร่วมกันสร้างความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดีต่อกัน (๒) ผลต่อครอบครัว เกดิ ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งครอบครวั กบั เดก็ ในการสง่ เสรมิ การเลน่ ในสนามเดก็ เลน่ (๓) ผลตอ่ ชุมชนเกิดความสามัคคีและการมีส่วนร่วมในชุมชน เกิดการประสานงานและแบ่งบทบาท หนา้ ท่แี ละเกิดจติ อาสาในชมุ ชน 236
ปัจจัยเงื่อนไขของความส�ำเร็จ (๑) การวางแผนอย่างเป็นระบบ มีข้ันตอนท่ีชัดเจน (๒) มกี ารสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มและกำ� หนดผรู้ บั ผดิ ชอบ (๓) มกี ารประสานงานและการสรา้ ง ความเขา้ ใจในองคก์ รและชมุ ชน (๔ )มเี ครอื ขา่ ยชว่ ยหนนุ เสรมิ และมหี นว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบ โดยตรง (๕) มงี บประมาณสนับสนุนเพียงพอและมีจติ อาสาในพ้ืนที่ ๒สว่ นที่ สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 237
ทต.ผึ่งแดด อ.เมืองมกุ ดาหาร จ.มกุ ดาหาร การขบั เคล่ือนงาน เทศบาลตำบลผงึ่ แดด ศพด.บานหนองไผ ศพด.วดั สระบัว ครผู ปู กครอง กองชาง กองคลัง ศพด.วดั เฉลิมชยั ศพด.วดั กาญจนประดษิ ฐ ผูนำทอ งท่ี สถานศึกษา การสรา งการเรยี นรู และการเลน สำหรับเดก็ ปฐมวัย เดก็ ๐-๕ ป ๒๓๗ คน (๓.๘๑%) ชาย ๑๓๐ คน (๕๔.๘๕%) เขาเรยี น ศพด. ในพ้นื ที่ ๑๑๘ คน (๗๑.๐๘%) อายุ ๒-๕ ป ๑๖๖ คน (๗๐.๐๔%) หญิง ๑๐๗ คน (๔๕.๑๕%) เขาเรียน ศพด.นอกพน้ื ท่ี ๔๘ คน (๒๘.๙๒%) ส๑ร.า งกสารนมาีสมวเดน็กรเว ลมน การเร๒ีย.นกราูโ รดสยรกาางรเลน ๓. การดูแลรักษา ๑. สรางความตระหนกั ของทุกภาคสวน ๑. แตงตง้ั คณะกรรมการบรหิ ารสนามเดก็ เลน ๑. กำหนดผูรบั ผิดชอบดแู ล ๒. สรา งความเขาใจแนวทางการดำเนินงาน ๒. จัดทำหลักสตู ร และแนวปฏบิ ตั ใิ นการ ๒. ประชมุ ตรวจสอบ บำรงุ รักษา ซอมแซม ๓. การเตรียมพื้นท่ี และการกอ สราง ๓. ปรบั ปรงุ ภมู ทิ ัศนใ หส วยงาม ปลอดภัย จดั กจิ กรรมการเลน จัดหาวสั ดุ อุปกรณ เครื่องมอื ระดมทุน ๓. อบรมใหค วามรู ครู ศพด. ในการจัดการเลน ๔. อาศรมลิง แรงงาน และการมีสวนรวมของชมุ ชน ๔. จัดทำตารางจดั กจิ กรรมการเลน ทุกวนั ศกุ ร บานตน ไม ๕. ครูสอนเด็กฝก การทรงตวั แตล ะฐาน ๑๔.๐๐-๑๔.๓๐ น. ๑. สระนำ้ อนิ จนั ๒. สระน้ำทารก ๓. คา ยกลปน ปาย สไปเดอรแมน การคิดวิเคราะห มีวินยั ทางสังคม ชว ยเหลือตนเอง สนามเดก็ เลน ในชวี ิตประจำวนั สรางปญ ญา มีวิถีชีวิต สังคม วฒั นธรรม ตอเดก็ ตอครอบครัว ตอชมุ ชน - สง เสริมพัฒนาการทั้ง ๔ ดาน สรางความอบอุนในครอบครัว - ศนู ยรวมการจัดกิจกรรม - เดก็ มีความอดทน รจู กั รอคอย มีปฏสิ ัมพันธก ัน อยดู วยกนั การเลน สำหรับเด็ก ลดคาใชจ ายในการซอื้ ของเลน มรี ะเบยี บวินยั กลา คดิ กลา ทำ กลา แสดงออก หรือพาเด็กไปเทยี่ วหา งสรรพสินคา - ชมุ ชนเกิดความรว มมือกนั รูจกั แบง ปน รจู กั ชวยเหลอื ตนเอง เพอ่ื พัฒนาเด็กในชุมชน ลดการดโู ทรทัศนแ ละเลน โทรศัพท มจี ติ นาการ คดิ สรางสรรค ไดอยภู ยั ธรรมชาติ ภาพที่ ๒.๑๑ สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา เทศบาลต�ำบลผึ่งแดด อ�ำเภอเมืองมุกดาหาร จงั หวดั มุกดาหาร 238
สนามเด็กเล่นสรา้ งปัญญา เทศบาลตำ�บลผึง่ แดด อำ�เภอเมือง จังหวัดมกุ ดาหาร นายวิลัยพนม สพุ ร นายกเทศมนตรีตำ� บลผง่ึ แดด เบอร์โทร ๐๔๒-๖๓๖๔๐๐ เทศบาลตำ� บลผงึ่ แดด อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั มกุ ดาหาร มอี าณาเขตพน้ื ที่ ๒๔ ตาราง ๒สว่ นที่ กโิ ลเมตรหรอื ประมาณ ๑๕,๐๐๐ ไร่ ลักษณะภมู ปิ ระเทศสว่ นใหญ่เปน็ พ้ืนราบลมุ่ และ บางสว่ นเปน็ ทด่ี อน มลี ำ� นำ้� ไหลผา่ นหลายสาย หมบู่ า้ นในเขตเทศบาล ๑๓ หมบู่ า้ น ๑,๕๔๔ ครวั เรอื น ประชากร ๖,๑๓๙ คน เพศชาย๓,๐๗๙ คน รอ้ ยละ ๕๐.๑๕ เพศหญงิ ๓,๐๖๐ คน รอ้ ยละ ๔๙.๘๔ มีประชากรเดก็ ปฐมวัย ๐-๕ ปี จำ� นวน ๒๓๗ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๓.๘๑ ของประชากรทงั้ หมด เพศชาย ๑๓๐ คน รอ้ ยละ ๕๔.๘๕ เพศหญงิ ๑๐๗ คน รอ้ ยละ ๔๕.๑๕ เป็นเดก็ อายุ ๒-๕ ปี ๑๖๖ คน เขา้ เรียน ศพด.ในพน้ื ที่ ๑๑๘ คน รอ้ ยละ ๗๑.๐๘ เขา้ เรยี น ศพด. นอกพ้นื ท่ี ๔๘ คน ร้อยละ ๒๘.๙๒ ดา้ นสขุ ภาพ พบเดก็ ๔ คน น้�ำหนักค่อนขา้ งมาก การเจ็บป่วยทั่วไปในชว่ ง ๖ เดอื นทผี่ ่านมา ได้แก่ เปน็ หวัด ๓๕ คน ไข้ ๑๐ คน ทอ้ งเสีย ๑๒ คน หอบเหนอ่ื ย ๕ คน และเจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคมือ เท้า ปาก ๓ คน การดแู ลเดก็ ปฐมวยั ของเทศบาลตำ� บลผง่ึ แดด รว่ มกบั ทนุ ทางสงั คม ไดแ้ ก่ ผนู้ ำ� ทอ้ งที่ สถานศกึ ษา ศพด.บา้ นหนองไผ่ ศพด.วดั เฉลมิ ชยั ศพด.วดั สระบวั ศพด.วดั กาญจนประดษิ ฐ์ และผ้ปู กครองเด็ก และทนุ ทางสงั คมอื่นๆ ในชุมชน มีการดูแลทีส่ ำ� คัญคือ ๑) การสรา้ ง การเรียนรู้ โดยพฒั นาหลักสูตรการเรียนรสู้ �ำหรบั เด็กปฐมวัยทง้ั ดา้ นรา่ งกาย จิตใจ สังคม และสตปิ ัญญา ส่งเสรมิ การเรยี นร้นู อกหอ้ งเรียนจากแหล่งเรียนรูใ้ นชุมชน และการเรยี นรู้ ผา่ นการฝึกปฏิบตั ิ ๒) การดแู ลสุขภาพ จัดบริการสขุ ภาพที่ รพ.สต. การดูแลเด็กท่ี ศพด. การดแู ลปอ้ งกนั โรค สรา้ งเสรมิ ภมู คิ นุ้ กนั โรค ดแู ลสขุ ภาพฟนั และ ๓) การสรา้ งสงิ่ แวดลอ้ ม ทเี่ อื้อต่อเดก็ จัดสิ่งแวดลอ้ มในบา้ นและในชุมชนให้ปลอดภยั การปรับปรุงสิ่งแวดลอ้ มใน ศพด. เพื่อส่งเสรมิ การเลน่ และทำ� กิจกรรมสำ� หรับเด็ก โดยสร้างสนามเด็กเล่นสรา้ งปญั ญา สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 239
การด�ำเนินโครงการสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาของเทศบาลต�ำบลผ่ึงแดด ได้รับการ สนับสนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน ร่วมกับส�ำนักงานกองทุน สนบั สนุนการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ (สสส.) ดำ� เนนิ การสร้างสนามเด็กเล่นท่ี ศพด.วัดเฉลมิ ชัย มีการดำ� เนนิ งานแบง่ เปน็ ๔ ระยะ คอื ๑) ระยะเตรียมการ มีการประชมุ ประชาคม คณะผบู้ ริหารเทศบาลตำ� บลผึ่งแดด คณะกรรมการ ศพด. ผู้น�ำชมุ ชนผู้ใหญบ่ ้านหมู่ที่ ๑ กำ� นนั ตำ� บลผง่ึ แดด ผปู้ กครองนกั เรยี นศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ วดั เฉลมิ ชยั เพอ่ื ปรกึ ษาหารอื ใน การสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา จากนั้นเตรียมพ้ืนท่ีโดยกองช่าง กองการศึกษา รว่ มกับ ศพด. มูลนธิ สิ นามเด็กเล่นสรา้ งปญั ญา และอาสาสมัครชา่ งในชุมชน โดยเลอื ก พ้ืนที่บริเวณที่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาตลอดทั้งปี การร่างแบบ ก�ำหนดขอบเขตฐานการ เรียนรู้ และจัดหาวัสดุอุปกรณ์ ๒) ระยะด�ำเนินการสร้างสนามเด็กเล่น ประกอบด้วย ๔ ฐาน คอื ฐานที่ ๑ สระน้ำ� อนิ จนั สำ� หรับเด็ก ๒-๔ ขวบ จัดทำ� บอ่ ทรายทั้งราบและ เนินทราย พน้ื ทราย เนินดิน ฐานที่ ๒ สระทารก สำ� หรบั เด็ก ๑-๓ ขวบ ประกอบด้วย สระน้�ำมีระดับเอียง มีทางเดินรอบกว้าง มีนำ�้ พกุ ลางสระ น้ำ� พขุ ้างสระ มีสไลเดอร์เตยี้ ๆ ฐานที่ ๓ คา่ ยกล Spider Man ส�ำหรบั เดก็ ๓-๕ ขวบ ประกอบดว้ ย บ่อทรายกันกระแทก โครงเสาไม้เนื้อแข็ง เชอื กใยยกั ษ์ผกู มดั กันเป็นตาข่าย และฐานท่ี ๔ เรอื สลดั ลงิ อาศรม ลิง ห้องสมดุ ลิง ประกอบด้วย บ้านตน้ ไม้ ชัน้ บนเป็นลานกว้างสำ� หรบั อ่านหนังสอื นิทาน ๓) ระยะการจดั กิจกรรมสนามเด็กเล่นสรา้ งปญั ญา ศพด. น�ำกจิ กรรมการเล่นกำ� หนดไว้ ในหลักสูตรการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย จดั ท�ำแนวปฏิบัตแิ ละคมู่ ือการใชส้ นามเด็กเล่นสร้าง ปัญญา อบรมครูใน ศพด.ให้มีความรู้ความเข้าใจการจัดกิจกรรมการเล่นโดยใช้สนาม เด็กเลน่ สรา้ งปัญญา จดั ทำ� ตารางการใช้สนามเดก็ เลน่ และผู้รับผดิ ชอบดูแลขณะเด็กเลน่ ใน สนาม โดยให้เด็กเล่นในสนามทุกวันศกุ ร์ เวลา ๑๔.๐๐-๑๔.๓๐ น. และหมุนเวียนนำ� เด็ก ใน ศพด. ท้งั ๔ แหง่ มาเล่นในสนาม โดยไดร้ บั อนญุ าตจากผปู้ กครองเด็ก มีการก�ำหนด กฎ กติกาในการใชส้ นาม การปอ้ งกนั อุบัติเหตุ และการดแู ลรักษา คอื เดก็ ใน ศพด. วดั เฉลมิ ชัยเลน่ สนามเดก็ เลน่ ฐาน Spider Man ไดท้ กุ วัน ฐานสระทารกและสระนำ�้ อนิ จนั เลน่ ทกุ วนั ศกุ ร์ เวลา ๑๔.๐๐-๑๔.๓๐ น. เด็กใน ศพด.อ่นื ๆ มาเล่นในสนามทกุ วันศกุ ร์ เวลา ๑๒.๐๐-๑๒.๓๐ น. หมุนเวยี นกนั ครงั้ ละ ศพด. เด็กอน่ื ๆ ท่อี ยู่ในชมุ ชนเลน่ สนามเด็ก เลน่ ทกุ วันเสาร์เวลา ๑๐.๐๐-๑๒.๐๐ น. โดยหา้ มนำ� วัสดุอปุ กรณท์ ีอ่ าจท�ำใหเ้ กิดอันตราย ของมคี มต่างๆ เขา้ ในสนามเดก็ เลน่ โดยเด็ดขาด และระยะท่ี ๔) การดูแลบ�ำรงุ รักษา โดย การมีสว่ นรว่ มของคนในชมุ ชน บา้ น วัด โรงเรยี น ครูใน ศพด.สำ� รวจความปลอดภยั และ 240
การช�ำรุดของสนามทุกสัปดาห์ หากมีจุดเส่ียงอันตราย ประสานท่ีกองช่างเพ่ือซ่อมแซม ๒ส่วนที่ ดแู ลปรบั ภมู ทิ ศั นบ์ รเิ วณโดยรอบทกุ เดอื น และสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มของผปู้ กครองเมอื่ มกี าร ประชุมผู้ปกครองประจ�ำภาคเรียนจะร่วมกันท�ำความสะอาดและปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ ศพด. และสนามเด็กเลน่ ผลลัพธ์ของด�ำเนินโครงการสนามเด็กเล่นของเทศบาลต�ำบลผึ่งแดด ก่อให้เกิด ผลตอ่ เดก็ คือ ร่างกายแขง็ แรง พฒั นากลา้ มเนอ้ื มดั ใหญ่ มดั เลก็ ฝึกการทรงตัวท้งั ในนำ้� และทรงตัวบนราวเชือกกลางอากาศ การเคลื่อนไหวบนทรายละเอียด ทางลาด ลานดิน ระนาบลูกคลนื่ ยกตวั อยา่ งเชน่ “นอ้ งต้นข้าวอายุ ๒ ขวบครงึ่ มีพัฒนาการดา้ นการเคลอ่ื นไหวและการทรงตัวยงั ไม่ มั่นคง จึงได้จัดให้น้องลงเล่นในสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา โดยเดินทรงตัวรอบสระน้�ำ อนิ จนั เดนิ ทรงตวั ในทางลาด ระนาบลกู คลื่น และลานดนิ ครั้งละ ๑๐-๑๕ นาที รวม ท้งั การทรงตัวในนำ้� และการปนี ป่ายและทรงตัวในฐาน Spider Man เม่อื เวลาผ่านไป ประมาณ ๓ เดอื น พบวา่ มกี ารพัฒนาด้านกลา้ มเนื้อมัดใหญด่ ีขึ้น ทรงตวั เวลาเดนิ ได้ดี และสามารถทรงตัวในการว่ิงได”้ นอกจากน้ีการเล่นในสนามเด็กเล่นสร้างปัญญายังก่อให้เกิดความสนุกสนานจากการ เล่นน�้ำ เล่นทราย ปัน้ ดินตามจินตนาการ การปีนปา่ ย ฝกึ การมรี ะเบียบวนิ ยั การเรยี นรู้ ทั้งกายและใจ ฝึกการคิดและการตัดสินใจดีด้วยตนเอง เด็กได้มีพัฒนาการท่ีดีด้วยการ วา่ ยนำ้� เปน็ เดก็ ไดค้ นุ้ เคยกบั การเลน่ นำ�้ ไดท้ ดลองจากตนเอง ฝกึ สมาธิ จากการจบั จงั หวะ การหายใจ พร้อมจงั หวะการลอยตวั โดยไมต่ นื่ ตกใจหรือกลัวน�้ำ ซึ่งจะช่วยให้เด็กมที กั ษะ ในการดแู ลตนเองเม่ืออยูใ่ นนำ้� ตัวอย่างเชน่ “น้องเตวชิ อายุ ๓ ขวบ เป็นเด็กทีก่ ลัวนำ�้ ไม่กล้าแสดงออก ชอบเกบ็ ตวั และเลน่ คน เดียว เม่อื ครพู าท�ำกิจกรรมการเลน่ ในสนามก็จะไม่ยอมเลน่ ครูจงึ โน้มนา้ วและชักชวนให้ ลองเล่นในสนาม ครั้งแรกเด็กจะไมม่ ัน่ ใจ พะวง และมอี าการกลวั เลก็ น้อย แต่เมอื่ ระยะ เวลาผ่านไป ๒-๓ ครั้ง เดก็ สามารถเล่นนำ้� และท�ำกจิ กรรมในสนามร่วมกับเพ่อื นๆ ไดด้ ี อยากเลน่ กระตอื รอื ร้น ต่ืนเต้น สนกุ สนาน ยิม้ แย้ม หัวเราะกบั เพื่อนๆ สามารถลงเล่น นำ้� ในสระน�้ำอิน จัน สระทารก ได้โดยไม่กลัว มีพัฒนาการดา้ นการปรบั ตวั การเขา้ สังคม สัมพนั ธภาพกับผอู้ ื่น ด้านภาษา และด้านทักษะชีวิตดขี น้ึ เป็นลำ� ดับ” สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 241
ผลทเ่ี กดิ กับครอบครวั ในวนั หยดุ ผปู้ กครองมกี ารพาเดก็ มาเลน่ ในสนาม ครอบครัว ได้ใช้เวลาท�ำกิจกรรมร่วมกัน อีกท้ังยังช่วยสอดส่องดูแลสนาม ช่วยรักษาความสะอาด มีความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน และครอบครัวลดรายจ่ายในการพาเด็กไปเที่ยว หา้ งสรรพสนิ คา้ หรอื สวนนำ�้ สว่ นผลทเ่ี กดิ ตอ่ ชมุ ชน คอื ชมุ ชนมพี น้ื ทใี่ หเ้ ดก็ ๆ มาทำ� กจิ กรรม รว่ มกนั มสี นามเดก็ เลน่ ทเ่ี ออ้ื ตอ่ การเรยี นรขู้ องเดก็ ในชมุ ชนเปน็ สนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา อีกทง้ั ยงั เปน็ การสร้างสมั พนั ธภาพทด่ี ขี องคนในชมุ ชน การติดตอ่ สื่อสาร การแลกเปลย่ี น ขอ้ มลู การดูแลเด็ก เมือ่ พ่อ แม่ ผู้ปกครองพาเด็กมาเลน่ มกี ารพดู คุย แลกเปล่ยี นความรู้ และข้อมูลการดูแลเด็ก การสร้างสัมพันธภาพและเครือข่ายช่วยเหลือดูแลกันใน สังคม 242
เทศบาลตำบลดงเย็น อำเภอเมอื ง จงั หวัดมกุ ดาหาร การขบั เคลือ่ นงาน กลุมเปาหมาย การขับเคลอ่ื นงาน การผสานความรว มมอื การผสานความรว มมอื เด็กปฐมวัย ๐-๕ ป ๗๕๕ คน (๔.๗๑%) เพศชาย ๓๗๑ คน (๔๙.๑๓%) เพศหญงิ ๓๘๔ คน (๕๐.๘๗%) เด็ก ๒-๕ ป ๕๓๗ คน (๗๑.๑๒%) wผนู ำทอ งท่ี wครูใน ศพด. wคณะกรรมการศนู ยพ ฒั นาเด็กเล็ก เข้าเรียน ศพด.ในพ้นื ที่ ๒๖๕ คน (๔๙.๓๕%) พยาบาล เข้าเรยี น ศพด.นอกพนื้ ที่ ๒๗๒ คน (๕๐.๖๕%) น้ำหนกั ค่อนขา้ งน้อย-น้อยกวา่ เกณฑ์ ๔๙ คน (๖.๔๙%) ครู ผดู้ ูแล นำ้ หนกั มากเกนิ เกณฑ์ ๙ คน (๑.๑๙%) wผูปกครองเด็ก พฒั นาการลา ชากวา่ วยั ๖๓ คน (๑๑.๑๗%) อาสาสมัคร ด้านการเคล่อื นไหว ๓ คน wวัด ดา้ นการใชก้ ล้ามเนอื้ มัดเลก็ ๕ คน wสถานศึกษาในพ้ืนท่ี เปา หมาย wชา งในชมุ ชน wคนในชมุ ชน สงเสรมิ ดา นรา งกาย จิตใจ สงั คม และสตปิ ญ ญา ๑. ขน้ั เตรยี มการ การดำเนินงาน การเตรียมพ้นื ที่ และการกอ สรา ง การสรา งความตระหนกั การสรา งความเขาใจ จัดซอ้ื อปุ กรณ์ ระดมแรงงาน เครือ่ งมือ มอบหมายงาน ตามความถนดั ประชมุ ทีมดำเนนิ งาน ช้แี จงวตั ถุประสงค์ กระบวนการ กำหนดแนวทางการสรา้ งสนามเด็กเล่น ผลลพั ธท์ ี่คาดวา่ จะเกิดขึน้ เพื่อให้เกดิ ความตระหนกั ถงึ โดยคำนึงถงึ บริบทของชุมชน ความสำคัญ ๒. การบรหิ ารจัดการการเลน ๒.๒ กำหนดกติกาในการเล่น ๒.๑ สร้างการเรียนรู้ เด็กในศนู ย์พฒั นาเดก็ เลก็ บ้านโคกตะแบง - กำหนดการเล่นสนามฯในหลักสตู ร เล่นสนามเด็กเลน่ สร้างปัญญาฐาน Spider Man ไดท้ ุกวัน - จดั ทำตารางการเลน่ ฐานสระทารก และสระอนิ จนั เลน่ ไดท้ กุ วนั ศุกร์ เวลา ๑๒.๐๐ - ๑๒.๓๐ น. - จดั อบรมครใู นการจดั กจิ กรรมการเล่น - กำหนดมาตรการด้านความปลอดภัย เดก็ ในศนู ย์พัฒนาเด็กเลก็ อ่ืนๆ พิจารณาเล่นไดท้ ุกวันศุกร์ - อบรมการปฐมพยาบาลเบอื้ งต้นกรณเี กิดอบุ ตั ิเหตุ เวลา ๑๒.๐๐ - ๑๒.๓๐ น. เพียงคร้งั ละ ๑ ศูนย์ ๓. การบำรุงรักษา กำหนดแผน เด็กอนื่ ๆ ทอ่ี ยู่ในชุมชน เล่นสนามเดก็ เล่นได้ทกุ วันเสาร์ และผรู บั ผิดชอบดแู ลปรบั ปรงุ ภูมทิ ศั นส ม่ำเสมอ เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. ผลลพั ธ หา้ มมใิ ห้เดก็ นำวสั ดุ / อปุ กรณท์ ีอ่ าจกอ่ เกิดอนั ตรายเข้ามาใน บริเวณศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กโดยเดด็ ขาด ผลทีเ่ กิดขึน้ กับเดก็ ผลท่เี กิดข้นึ กับครอบครวั ผลที่เกดิ ข้นึ กับชมุ ชน สง่ เสรมิ พัฒนาการทง้ั ๔ ดา้ น สรา้ งความอบอุ่นให้กับครอบครวั มแี หล่งเรียนรู้ในชมุ ชน ๒สว่ นท่ี เด็กมคี วามอดทน รู้จกั รอคอย มปี ฏสิ ัมพันธร์ ะหว่างครอบครวั และชุมชน สรา้ งความรักความสามคั คใี นชุมชน มรี ะเบยี บวนิ ัย กล้าคิด กลา้ ทำ ครอบครัวลดรายจา่ ยในการพาเด็กไปเลน่ สวนสนุก ชุมชนรู้จักการให้และการเสยี สละ มีจติ สาธารณะ กล้าแสดงออก ร้จู ักแบง่ ปัน หรอื สวนน้ำ ผูป้ กครองมเี วลาใหล้ กู มากขึน้ และเข้าใจ มีความเอื้อเฟือ้ เผอ่ื แผ่ ร้จู ักแบ่งปนั รูจ้ ักชว่ ยเหลือตนเองและผอู้ น่ื ความต้องการของลูกมากขน้ึ ทำใหช้ ุมชนรู้ถึงศักยภาพของคนในชมุ ชน สรา้ งสมาธิ สง่ เสริมจินตนาการ มคี วามคดิ สร้างสรรค์ ลดการติดโทรศัพท์ ลดติดเกมส์ สร้างความคุน้ เคย ในการสมั ผัสน้ำและเลน่ นำ้ ภาพท่ี ๒.๑๒ สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา เทศบาลต�ำบลดงเย็น อ�ำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมกุ ดาหาร สรปุ บทเรยี นการพฒั นาระบบการดแู ลเดก็ ปฐมวยั 243
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309