วคทตัlวllี่ปถาอวบำนมรุปนก่า�lรึกเาสทนราอขสำงโรษนะงE�่รีว้า�ำงทดพสณอน้อใาาย-นบราจัญง:มิงยกัmกศักเารสครตพงนชรธพาพัรaศา:์รวลาร์ทาิกiณฒัวทรlีมนี:ยอี่:สาเ์/์ส:นทพ:สกราำ�โมนวุโaธทั้งำ�าอ่ืไิต:รกสจาgอพรกิกถงรตลติงวนrาดุพาสพ่าารiิโยมุ่ตmญารมยรยาจุมิงพายถรภปิพeท:กษพนสัฒสา่dาญัาอร์น0ช์ยนรุาiเรสนดaุมนกญราทจทณ21อาางานารนัอา์5@ใ์สสงบะรอผมุดสท7นคเือ่าุพรงูอ้gทิทเส9์ว์คกสรอทง�ำหmหียธพณวาง่ธศน9คลน์ิกาเรaนบิ5์ร์โสว�ำมทiรผอน4ดิlอดยรรl.ณรู้อำ�cธ6างโมิกีกิว้ ดู้ง�ำoล บินอก์ารกานธ้าmยธดารมานานรวีบิรสงกีรสรเกยกสเ�ำพเดรง่มกรกกาานมเกี่อืษมสสรษวาักสรเเุรคสรตรกตกมพง่กักิมง่ันรษรเษสฒัเษลสแกธสต่งตุ่มรห์ารนรเรlรมิรสพส่งิมากแเกปรนกัฒกกรลเมิารงาาาษะนระกขินรยรเตเเอาาถปเพเกทกรรสรงา่็นษงศือษเเือ่ยจษกสตไงสตทา้ษทโ่ือ์เรง่รหพรอกยตเจดนชสลรนจเรร้าาท์�ำมิทงวคกใก่ีสงนโัดาศง่นกรเโ์ สโเสาลกรรภยษิมเาสีกตราริมรสเกรษา้ งตครวทาุกมรระู้ ดบั เรยี นรูค้ ำ�ศพั ท์ด้านการเกษตร 5 ภาษาอาเซียน สามารถ Download ได้ท่ี (ไทย เวียดนาม เมยี นมาร์ กัมพูชา บาฮาซา) ฝึกอ่านค�ำศัพท์ พร้อมฟงั เสยี งจากเจ้าของภาษา 8 หมวดค�ำศพั ท์ * l ตัวเลข l วัน เดอื น และฤดกู าล l ค�ำทักทาย และอนื่ ๆ l การเกษตร l ผัก สมุนไพร และเครอื่ งเทศ * ระบบปฏบิ ัติการ Android 4.1 ขึ้นไป ศัพทเ์ กษตร l ผลไม ้ l พืชไร่ และไม้ยืนต้น l สตั วท์ างการเกษตร หรือ พิมพ์คำ� ค้นหา “ศัพท์เกษตร” 5 ภาษาอาเซียน และ “AC AGRI VOCAB” เชิญชวนดาวน์โหลดแอพพลเิ คช่ัน Protect PLANTS เพือ่ เป็นเครื่องมอื สนับสนนุ การทำ�งานในพนื้ ที่ ➊ สำ� หรบั ระบบ iOS เข้าไปท่ี App Store และระบบ Android เขา้ ไปที่ Google Play Store ➋ พมิ พ์ค�ำวา่ “กรมสง่ เสริมการเกษตร” หรือ “Protect PLANTS” ในช่องค้นหา ➌ กดดาวน์โหลด แอพพลิเคช่ัน ➍ ดาวน์โหลดจาก QR CODE Protect PLANTS
บอกกลา่ วเลา่ สิบ เจ้าฟ้า นกั พัฒนา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กรมส่งเสริมการเกษตรขอเทิดพระเกียรติและน้อมส�ำนึกในพระกรุณาธิคุณท่ีทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการ พฒั นาเด็กและเยาวชนในถน่ิ ทุรกันดารมาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง โครงการเกษตรเพ่ืออาหารกลางวัน เป็นโครงการหนึ่งที่พระองค์ทรงใช้แก้ไขปัญหาด้านโภชนาการของเด็ก และเยาวชนท่ีอยู่พื้นที่ห่างไกล ปัจจุบันได้ด�ำเนินโครงการในโรงเรียน รวม 747 โรงเรียน ในพื้นที่ 50 จังหวัด และได้ขยายผลไปสู่โครงการโรงเรียนพัฒนาชุมชน โดยน�ำองค์ความรู้ด้านการเกษตรจากโรงเรียนมาขยายผล สชู่ มุ ชนใหม้ ีอาหารปลอดภยั บรโิ ภค เชือ่ มโยงการเรยี นร้แู ละการปฏิบตั ิระหวา่ งนักเรียนกับผู้ปกครอง การลดต้นทุนการผลิตและเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตยังเป็นเร่ืองส�ำคัญ จากการด�ำเนินงานโครงการ Zoning ในปีท่ีผ่าน ท�ำให้เกษตรกรมีการปรับเปล่ียนการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสม รวมพื้นท่ีกว่า 3.1 พันไร่ ซ่งึ เกนิ เป้าหมาย และมรี ายไดเ้ พมิ่ ข้นึ ร้อยละ 10 อีกด้วย อีกหนึ่งตัวอย่างของการลดต้นทุนการผลิต คือการใช้ชีวภัณฑ์ในการป้องกันก�ำจัดหรือควบคุมศัตรูพืช ซ่ึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้น�ำภูมิปัญญาของเกษตรในพื้นท่ีมาต่อยอดและขยายผลการใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง และแหนแดงในพ้ืนท่ีเกษตร เป็นการปรับระบบการผลิตสินค้าเกษตรให้มีความปลอดภัย ได้มาตรฐานและเป็นมิตร กบั ส่งิ แวดลอ้ ม เมอื่ พดู ถงึ ปญั หาสง่ิ แวดลอ้ มกรมสง่ เสรมิ การเกษตรกไ็ มไ่ ดเ้ พกิ เฉย ละเลย ซง่ึ เมอื่ เรว็ ๆ น้ี ไดป้ ระกาศเจตนารมณ์ การลด คดั แยกขยะมลู ฝอย ลดใชถ้ งุ พลาสตกิ หหู ว้ิ และกลอ่ งโฟมบรรจอุ าหาร โดยบคุ คลากรของกรมสง่ เสรมิ การเกษตร จะร่วมมือกันลดปริมาณขยะมูลฝอย รวมท้ังคัดแยกขยะก่อนทิ้งตามประเภทท่ีถูกต้อง รวมท้ังถ่ายทอดความรู้เก่ียวกับ เรอื่ งดังกล่าวไปยงั บคุ คลภายนอกด้วย เพอื่ ร่วมกันสร้างจติ สำ� นักทด่ี ใี นการรักษาสงิ่ แวดลอ้ มตอ่ ไป กองบรรณาธิการ มีนาคม 2562 ส่งเสริมการเวกาษรสตารร 1
สารบญั 8 เกษตรมิติใหม่ Contents เกษตร 360 ํ เปิดบนั ทกึ ประสบการณ์เดินทางตามฝนั 4 ใน จ.คมุ าโมโตะ ประเทศญีป่ ุ่น ่ทีนี่กรมส่งเส ิรม12 4 สาหรา่ ยพวงองนุ่ ต.แหลมสกั 8 ผลติ ได้คุณภาพ โดนใจลกู คา้ ส่งขายทัว่ ประเทศ Zoning เขตเกษตรเศรษฐกิจสำ� หรบั สนิ คา้ เกษตรทีส่ ำ� คญั 12 เจา้ ฟ้านักพัฒนา 16 ชายคา DOAE 19 ประชา ัสมพัน ์ธ22 2 วสาง่ รเสสารรมิ การเกษตร
16 เร่อื งจากปก รำ� ขา้ วอดั เมด็ ผสมผงผกั โมโรเฮยะ 20 นวตั กรรมขา้ วไทยเป็นลูกอมเม็ดเคี้ยวเพือ่ สขุ ภาพ 30 สาระเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร ประกาศเจตนารมณ์ 22 ลด แยก ขยะ ลดกลอ่ งโฟม ใช้ถุงผ้า จ.อยธุ ยา สง่ เสรมิ ใชจ้ ุลนิ ทรยี ส์ ังเคราะห์แสง 24 และแหนแดง ลดตน้ ทุนการผลติ 20 เร่อื งกล้วยๆ ที่ไมก่ ลว้ ย เก่ยี วกับการวนิ ิจฉัย 27 อาการผิดปกตขิ องกลว้ ย จากศัตรพู ืช 3 ชนดิ เทคโนฯ...เกษตร ผง้ึ โพรงไทย เลยี้ งงา่ ย รายไดส้ งู ต้นทุนต�่ำ 30 ในปกหลงั ไอศกรมี มะมว่ งนำ้� ปลาหวาน ในปกหลงั DO And Eat ส่งเสริมการเวกาษรสตารร 3
เกษตร 360 ํ เรียบเรียง-ภาพ : ศภุ วรรณ สมบตุ ร ส�ำนกั งานเลขานกุ ารกรม เปิดบันทกึ ประสบใกนารจณ.คเ์ ดมุ นิ าทโามงตโาตมะฝันประเทศญป่ี ุ่น แรงบนั ดาลใจในการเขยี นเลา่ เรอ่ื งนี้ เกดิ มาจากความประทบั ใจทไ่ี ดอ้ า่ นบนั ทกึ ใน Facebook ของพ่ีเบนซ์ จากสสก.ท่ี 6 จังหวัดเชยี งใหม่ ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ การเดนิ ทางไปศกึ ษาดงู านทจี่ งั หวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto: 熊本市) ประเทศญปี่ ุ่น ซงึ่ เป็นบันทึกทีม่ ีเน้อื หายาวมาก จึงขออนญุ าตเจ้าของบันทึกในการรวบรวมและสรปุ มา ด้วยความตั้งใจและคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับพ่ีๆ เพื่อนๆ ชาวส่งเสริมการเกษตร ได้อ่าน เรียนรู้ และลุ้นในการเดนิ ทางครง้ั น้ไี ปพร้อมๆ กันคะ่ คณะเดินทางของกรมส่งเสริมการเกษตรมีทั้งหมด 12 ท่าน น�ำโดย ผอ.อัญชลี สุวจิตตานนท์ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักพัฒนาการ ถ่ายทอดเทคโนโลยี (ผอ.พ่ีเปิ้ล) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ งานโครงการเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer : YSF) ได้แก่ นางสาวศิรินทิพย์ พรหมเกตุ (พี่เปิ้ล) นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ชำ� นาญการ กองพฒั นาเกษตรกร และนายนันทิวัฒน์ ศรีคาน (พีเ่ บนซ์) นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรช�ำนาญการ ส�ำนักงานส่งเสริมและพัฒนา การเกษตรท่ี 6 จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางร่วมกับเกษตรกรรุ่นใหม่ YSF ทไ่ี ด้รบั การคดั เลือก จำ� นวน 9 ท่าน วันท่ี 30 กันยายน 2561 คือวันเริ่มต้นของการเดินทางไป ประเทศญ่ีปุ่นในครั้งน้ี ซึ่งเป็นช่วงท่ีท่ัวโลกรวมทั้งประเทศไทยก�ำลังลุ้น ไปพร้อมๆ กับคณะเดินทาง เพราะเป็นชว่ งที่พายุ “ไตฝ้ นุ่ จา่ มี (Trami)” ก�ำลังเคลื่อนตัวเข้าพัดถล่มประเทศญ่ีปุ่นพอดี คณะเดินทางเองก็ลุ้นว่า จะได้ข้ึนเครือ่ งบินไปตอ่ หรอื ตอ้ งไปนงั่ เฝ้าอย่ทู สี่ นามบิน 4 วสาง่ รเสสารรมิ การเกษตร
พีเ่ บนซเ์ ล่าวา่ คณะเดินทางทง้ั 12 คน ไดส้ ถาปนาตวั เองให้เปน็ ปัจจุบัน จ.คุมาโมโตะ มีพ้ืนที่การเกษตร “ทีมชาติไทย” ด้านการเกษตรเป็นท่ีเรียบร้อย เพื่อท่ีจะได้เดินทาง ลดลง เพราะคนรุ่นใหม่สืบทอดการเกษตรลดลง ไปศกึ ษาหาความรู้ในการจัดการเกษตร ของ จ.คมุ าโมโตะ ประเทศญ่ปี นุ่ และน�ำพ้ืนท่ีไปปล่อยให้เช่ามากขึ้น ท�ำให้พื้นท่ี และแน่นอนว่าถ้าพวกเขามีปณิธานอันแรงกล้าและสถาปนาตัวเองกัน ถือครองตอ่ รายใหญ่ข้ึน ทงั้ น้ี ภาครฐั ไดม้ กี ารก�ำหนด ขนาดนี้ “ไต้ฝุ่นจ่ามี” ก็คงจะต้องยอมพ่ายแพ้ให้ “ทีมชาติไทย” เพื่อ มาตรการการถือครองท่ีดินด้านการเกษตร และมี เปดิ ทางให้กา้ วเข้าส่คู ุมาโมโตะแบบสบายๆ ปลอดภัยไรก้ ังวล กันเลยคะ่ นโยบายสนับสนุนเงินทุนดอกเบ้ียต�่ำ เพ่ือจูงใจให้ เมื่อพูดถึงจังหวัดคุมาโมโตะ หลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออก คนรุ่นใหม่หันมาท�ำการเกษตรเพิ่มขึ้น ซึ่งทางจังหวัด แตถ่ า้ ใหน้ กึ ถึงเจ้าหมีคมุ ะมง (Kuma-mon) ตุก๊ ตาหมเี พศผู้ขนสดี �ำมันเงา ไดม้ กี ารออกมาตรการ R = P : Price + Q : Quantity- แก้มเปน็ วงกลมสีแดง อาจจะถึงบางออ้ ต้องรอ้ ง อ๋ออออ...!!! กันเลยทเี ดียว C : Cost : เพื่อพัฒนาการเกษตร เป้าหมายคือ ใช่แล้วค่ะ เพราะเจ้าหมีคุมะมง เป็นสัญลักษณ์ส�ำคัญซึ่งสร้างโดยรัฐบาล การเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรโดยการผลิตสินค้า ท้องถิ่นของ จ.คุมาโมโตะ บนเกาะคีวชู (Kyushu) ทางภาคใต้ของญ่ีปุ่น ให้มีราคาท่ีดี และปริมาณท่ีพอเหมาะ พร้อมกับ และเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับการเปิดเส้นทางการเดินรถไฟ ลดต้นทุน : R = P+Q-C เป้าหมายหลักก็คือเป็น ชิงกันเซง็ สายคีวชู (Kyushu Shinkansen) น่ันเอง การสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร และลดต้นทุน ลักษณะภูมิประเทศของ จ.คุมาโมโตะ น้ัน อยู่ในสภาพพื้นที่ โดยเฉพาะแรงงานท่ีเข้าสู่วัยสูงอายุ โดยรวมจุดเด่น ลักษณะเป็นแอ่งกระทะ โดยมีแนวของเทือกเขา ASO (อาโซะ) เป็น มาพัฒนาให้เป็นข้อได้เปรียบของจังหวัดเพ่ือต่อยอด ปราการที่ป้องกันลมพายุ/ไต้ฝุ่น มีพ้ืนท่ีท้ังหมด 7.409 ตารางกิโลเมตร ให้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร โดยการนำ� งานวจิ ยั รวมถึง ประชากร 1.76 ล้านคน และปจั จุบันก�ำลงั ประสบปญั หาเกษตรกรสว่ นใหญ่ ICT เทคโนโลยีทุ่นแรงงานท่ีทันสมัย พร้อมทั้งการ เป็นผู้สูงอายุ ซ่ึงเป็นปัญหาเช่นเดียวกันในสังคมของประเทศญี่ปุ่น พัฒนาบุคลากรภาคการเกษตรท่ีมีคุณภาพ มาเชื่อมโยง แต่ด้วยสภาพพื้นท่ีท่ีมีความอุดมสมบูรณ์มาก และมีจุดเด่นอีกอย่างคือ ให้เป็นระบบท่มี ปี ระสทิ ธิภาพและใช้ได้จริง Groundwater หรือน้�ำใต้ดินที่ไหลกรองผ่านชั้นหินจนกลายเป็นน้�ำแร่ จากจุดเด่นน้ีจึงท�ำให้เกิดแนวคิดสร้าง เก็บใต้ดนิ เม่ือน�ำมาใชเ้ พาะปลกู พืชเกษตร เช่น ข้าว ผกั ผลไม้ จึงทำ� ให้ อัตลักษณ์โดยสร้างคอนเซป “RENGA” หรือ พืชผลมีรสชาติเอกลักษณ์พิเศษ มีพื้นที่หลายรูปแบบ มีท้ังท่ีราบลุ่ม โปรดกั สส์ แี ดง ไดแ้ ก่ แตงโม มะเขอื เทศ สตรอว์เบอรร์ ี และท่ีสูง จึงสามารถเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ได้หลากหลายชนิด ทั้งแบบ เนื้อปลาแดง เน้ือวัวเน้ือแดง และมีเจ้าหมีคุมะมง open air และแบบ house บริเวณเทือกเขา ASO เกษตรกรสามารถ เป็น มาสคอต (Mascot) ท�ำแกม้ แดงๆ เชื่อม Story ปลูกผักเมืองหนาวได้ เนื่องจากอากาศเย็น ส่วนพ้ืนที่ด้านล่างจะปลูกพืช Product เพื่อสร้างจุดเด่นของสินค้าที่แตกต่างไป ในโรงเรือนและเป็นจังหวัดที่เกษตรกรปลูกผักในโรงเรือนมากท่ีสุดในญี่ปุ่น จากจังหวัดอ่ืน นอกจากน้ียังผลิตส้มหัวจุกคุณภาพ ซงึ่ โรงเรือนในญ่ีปุ่น ใชเ้ พื่อป้องกนั ความหนาว (มกี ารติดตัง้ Heater) (Dekopon) และสามารถผลิตส้มโอส่งออกไปยัง ฮ่องกง ซ่ึงเป็นสินค้าส่งออกอันดับแรกของญ่ีปุ่น อกี ดว้ ย สง่ เสรมิ การเวกาษรสตารร 5
ขออธิบายถึงความเป็นมากันสักนิดว่า ท�ำไม ส�ำหรับพันธุ์หรือต้นกล้าที่สถาบันวิจัยคิดค้นขึ้นมา จะถูกส่งผ่าน เจ้าหน้าท่ีจากกรมส่งเสริมการเกษตร ถึงได้มีโอกาส สหกรณ์การเกษตรให้ท�ำการผลิตและกระจายต่อให้สมาชิก และเก็บ เดินทางไปศึกษาดูงานในคร้ังน้ี เพราะกรมส่งเสริม ค่าใช้จ่ายจากสมาชิกเข้าสหกรณ์ แต่สหกรณ์จ่ายค่าใช้จ่ายให้สถาบัน การเกษตรได้จัดท�ำโครงการความร่วมมือกับจังหวัด เพียงเล็กน้อยหรือไม่ต้องจ่ายเลย เพราะสถาบันเป็นหน่วยงานของรัฐ คมุ าโมโตะ เปน็ ระยะเวลา 3 ปี (ปี ค.ศ. 2017-2019) มีหนา้ ทีโ่ ดยตรงอยูแ่ ลว้ แต่ถา้ ในพน้ื ท่ีมปี ระเด็นทตี่ อ้ งการใหส้ ถาบันท�ำวจิ ัย ประกอบด้วยการแลกเปล่ียนการศึกษาดูงาน ปีละ โดยเฉพาะ สถาบันจะขออนุญาตศาลากลางเพ่ือเป็นที่ปรึกษาเฉพาะ 1 คณะ จ�ำนวน 12 คน (เกษตรกร 9 คน เจ้าหน้าที่ มีการท�ำสัญญากับเกษตรกรและรับวิจัยเฉพาะอย่างโดยเก็บค่าใช้จ่าย 3 คน) ระยะเวลา 7 วัน (รวมวันเดินทาง) และ ท้งั นี้ งานวิจยั ที่หน่วยงานราชการเป็นผู้ทำ� เกษตรกรทั่วประเทศมีสิทธิใชไ้ ด้ การฝึกงาน ปีละ 1 รุ่น จ�ำนวน 12 คน (เกษตรกร แตถ่ ้าเกษตรกรเปน็ ผู้คน้ พบกต็ อ้ งใหเ้ ครดติ กบั เกษตรกรคนน้นั 10 คน เจ้าหน้าท่ี 2 คน) ระยะเวลา 3 เดือน ต่อมาคณะเดินทางได้มีโอกาสเข้าดูงานธุรกิจเกษตร ณ Agri- (รวมวันเดินทาง) และแน่นอนว่าการเดินทางไป system Research Institute และ Food Valley Agri-business Center ต่างประเทศทุกครั้งก็จะรู้สึกอบอุ่นและอุ่นใจทุกคร้ัง ในเมือง Yatsushiro ซ่ึงเป็นหน่วยงานท่ีขึ้นตรงกับศาลากลางจังหวัด เพราะมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท�ำหน้าท่ีวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพ่ือพัฒนาไปสู่ธุรกิจเกษตร ได้รับ ของประเทศไทย ช่ือ คุณพี่ถนอมศรี มารอต้อนรับ การกอ่ ตัง้ มาแลว้ 3 ปี โดยงบประมาณจากรฐั บาลกลาง กระทรวงเกษตร และจะคอยดูแลคณะเดินทาง พร้อมกับท�ำหน้าที่ล่าม ป่าไม้และประมง จากนั้นได้ส่งมอบให้จังหวัดคุมาโมโตะบริหารจัดการต่อ แปลภาษา เพื่อรองรับการให้บริการพัฒนาสินค้าเกษตรครบวงจร โดยแบ่งออกเป็น สถานที่แรกที่คณะเดินทางได้เข้าไปเยี่ยมชม 4 สายงานหลักๆ ประกอบด้วย 1) การพัฒนาพืช 3 ชนิด ได้แก่ เส่อื กก คอื สถาบนั วิจยั พชื สวนประจ�ำ จ.คุมาโมโตะ เนอ่ื งจาก (Tatami) มะเขอื เทศ และสตรอว์เบอรร์ ี 2) การพฒั นาโลจิสตกิ ส์เพื่อการ ปัญหาเกษตรกรสูงอายุมากข้ึนและคนรุ่นใหม่สืบทอด ส่งออกไปฮ่องกงโดยขนส่งทางเรือ เพ่ือป้องกันและลดความเสียหาย อาชีพเกษตรน้อยลง จึงต้องท�ำการวิจัยเพ่ือพัฒนา ของสินค้า ทางศูนย์ฯ จึงมตี ูค้ อนเทนเนอรท์ ่มี ตี วั ควบคมุ อุณหภูมิ อากาศ ปรับปรงุ พันธุ์ ลดแรงงาน ลดตน้ ทนุ ประหยดั พลงั งาน แสง และแรงกระแทก จ�ำลองทดสอบการส่งมะเขือเทศ แตงโม กะหล�่ำ ทนทานต่อภัยธรรมชาติ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซ่ึงงานวิจัยน้ีสามารถลดความเสียหายของสินค้า (วิธีท่ีจะลดต้นทุน ในขณะเดียวกันต้องคงคุณค่าความอร่อย แตกต่าง มากที่สุด) สามารถน�ำผลที่ได้ไปปรับแผนการขนส่งโลจิสติกส์ ซึ่งเอกชน มีเสนห่ ์ สามารถดงึ ดดู ลกู คา้ และไม่ใช่เพียงแค่คุณภาพ ไม่ต้องมาลองผิดลองถูกเอง 3) ระบบการควบคุมดูแลพืชท่ีมีการใช้ อย่างเดียวเท่านั้น ต้องสามารถควบคุมปริมาณผลผลิต เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร หรอื ระบบ ICT มาใชก้ บั ภาคเกษตร ให้ได้สม�่ำเสมอด้วย ซึ่งผลงานวิจัยของที่น่ีจะถูก เช่น การใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน (Drone) ระบบการเข้าถึง เผยแพร่เทคนิคแลว้ ถา่ ยทอดสู่เกษตรกร ผ่านนกั ส่งเสริม ข้อมูลข่าวสารหรือการส�ำรวจข้อมูลระยะไกล (Remote Sensing) ในพื้นท่ี และนักสง่ เสรมิ ยงั มหี น้าทพ่ี ูดคุยกับเกษตรกร รับฟังปัญหา ให้ค�ำแนะน�ำ อีกท้ังยังเผยแพร่ผ่านทาง สหกรณ์การเกษตร (JA) และใช้ผู้น�ำเกษตรกรเป็น ผ้กู ระจายข่าวสาร/ข้อมลู งานวจิ ัยสู่เกษตรกรรายอื่น 6 สวา่งรเสสารรมิ การเกษตร
เพ่ือลดต้นทุน ลดแรงงาน น�ำไปสู่การเพ่ิมผลผลิต และ 4) งานวิจัย การได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานและ ช่วยส่งเสริมการผลิตแปรรูป การตลาด agribusiness center เป็น แลกเปล่ียนประสบการณ์ในต่างประเทศ กรมส่งเสริม มาตรการท่ีศาลากลางปรับมาใช้ได้ไม่นานเพื่อส่งเสริมเกษตรทางใต้ การเกษตรหวังให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเกษตรกร ส่งเสรมิ ธุรกจิ เกษตร ในนาม food valley ซง่ึ Food Valley Agri-business ซึ่งถือได้ว่าเป็นเกษตรกรคนรุ่นใหม่จะได้น�ำความรู้ Center จึงเป็นศูนย์ท่ีช่วยสนับสนุน-ให้ค�ำปรึกษาด้านธุรกิจเกษตร ทั้งด้านวิชาการ ประสบการณ์ มาปรับใช้ และ และแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นจุดให้เกษตรกร ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ให้กับเครือข่ายเกษตรกร ด้วยกัน เข้ามาหารือเพ่ือพัฒนาการผลิตและกิจการของตัวเอง มีทั้งการทดลอง สร้างพลัง สร้างเครือข่ายให้เข้มแข็งไปพร้อมๆ กัน ค้นคว้า ซ่ึงเกษตรกรสามารถใช้บริการห้องทดลองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามนโยบายท่านอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร และมกี ารจบั คู่ หรือ Matching ธรุ กจิ “smart & strong together” นอกจากน้ี ยังได้เข้าเย่ียมชมโรงงานคัดบรรจุผลเมล่อน ณ ขอขอบคุณ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักพัฒนา สหกรณ์การเกษตร (JA) Kamato เมือง Kamato และได้เยี่ยมชม การถ่ายทอดเทคโนโลยี และเจา้ หน้าท่ีผู้รับผิดชอบ ฟาร์มเมล่อนของ Mr. Miada ซึ่งเป็น Smart Farmer มีการจัดต้ังเป็น งานโครงการ YSF ทุกคน ที่เป็นผใู้ หข้ ้อมูลส�ำคัญ วิสาหกิจเกษตร โดยเป็นการปลูกเมล่อนในโรงเรือน โรงงานคัดบรรจุ ในการเดินทางไปศึกษาดูงานและเก็บเกี่ยว ผลส้มแมนดาริน ณ สหกรณก์ ารเกษตร (JA) Tamana เมอื ง Tamana ประสบการณ์ดีๆ มาฝากพ่ีน้องชาวกรมส่งเสริม และศึกษาดูงานแปลงเพาะปลูกลูกพลับ ณ เมือง Ashikita รวมท้ัง การเกษตรค่ะ... ศึกษากิจกรรมการเกษตรของกลุ่มเกษตรกรนาข้าว ณ วิสาหกิจชุมชน Taragi ซ่ึงเป็นกลุ่มเกษตรกรท่ีจัดต้ังมาเพ่ือวัตถุประสงค์ในการสร้าง ✤✤✤ รายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในเมือง Taragi เพื่อเป็นการกระตุ้น ตัวเองให้มีความต่ืนตัว เป็นทางเลือกในการจ�ำหน่ายข้าวให้เกษตรกร หัวใจส�ำคัญของกลุ่ม คือ การสร้างบุคลากรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็น การดึงดูดคนหนุ่มสาวให้มาท�ำการเกษตร และติดรูปของสมาชิกที่เป็น ผู้ผลิต พร้อมข้อความหรือค�ำพูด เพื่อความน่าสนใจของสินค้าข้าว เป็นการสร้างความน่าเช่ือถือ รวมทั้งยังได้เยี่ยมชมการจัดการพื้นที่ การเกษตร ณ เมือง Yatsushiro พื้นที่ราบลุ่มของเมือง Yatsushiro เป็นพ้ืนท่ีจากการถมทะเล รวมท้ังสิ้น 80 ตารางกิโลเมตร นอกจากน้ี รัฐบาลกลางได้มีนโยบายในการรวบรวมพื้นที่เกษตรแปลงเล็กๆ ให้เป็น พืน้ ทใี่ หญ่ขนึ้ สง่ เสรมิ การเวกาษรสตารร 7
เกษตรมิติใหม่ เรยี บเรียง-ภาพ : อรรถสทิ ธิ์ ทองรว่ ง สำ� นกั งานเกษตรจงั หวดั กระบี่ สาหรา่ ยพวงองนุ่ ต.แหลมสัก ผลติ ไดค้ ณุ ภาพ โดนใจลกู ค้า สง่ ขายทว่ั ประเทศ หชมนหมารกา้�ำวรสาชพรบืยอชุบ้รา้ากถากินกสนตุึ้งงกราาทิแกนอะยล่ีอปส็เบขะาิาโทเหภ้ศาดนหำ�กราัยื้อใยรือัษหนบส่สานท้ไาัรมยดา�ำ้ทาิเจผม้นดว้อม้ิมัาสไีณดงซรีทเคม้ไถชฟีถุมกุณื่อ่ิานูด้นเ่คบยเปภ�คำนหือ่ฝมราี้ยรทั่งคาะวือี่ไทโบดใโจยดตะร้ะทเชนน้ิฝโลาภน�ำเนัม่มงค์เนต็ดกาอสาย่าส็ับนนงดำ� าบดกตัปหจรับาิด้ิรกมิโมหใ่าภากัจนยมรคับใึกจนะ ในต่างประเทศ สาหร่ายทะเลก็เป็นอาหารท่ีนิยมบริโภค มาเป็นเวลานาน ประเทศที่นิยมบริโภคสาหร่ายทะเล ได้แก่ จนี ญี่ปนุ่ เกาหลี ฟลิ ปิ ปินส์ เป็นตน้ นอกจากน้สี าหรา่ ยทะเล ยังมีประโยชน์หลากหลาย ไม่ว่าจะใช้ ในอุตสาหกรรมอาหาร เป็นส่วนประกอบของเคร่ืองส�ำอาง ปุ๋ย ยารักษาโรค อาหาร สัตว์ ฯลฯ ในปัจจุบัน มีการนิยมบริโภคสาหร่ายทะเลมากข้ึน เนื่องจากสาหร่ายทะเลมีคุณประโยชน์มากมาย จัดเป็นอาหาร สุขภาพ ประเทศท่ีมีการเล้ียงและส่งออกสาหร่ายมีหลายประเทศ เช่น ประเทศจีน เวียดนาม แคนาดา ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ในประเทศไทยนั้นมีการบริโภคสาหร่ายทะเลในจังหวัดทาง ภาคใต้และภาคตะวันออก โดยรับประทานแทนผัก ในปัจจุบัน กรมประมงสามารถเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเลได้หลายชนิด โดยหนงึ่ ในนั้น ได้แก่ สาหร่ายพวงองนุ่ ซ่ึงเปน็ สาหรา่ ยทีม่ คี ณุ คา่ ทางอาหารสูงและเป็นหน่ึงในอาหารยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น สาหร่ายพวงองุ่น จัดเป็นสาหร่ายทะเลสีเขียว (green algae) หรือมชี ่อื สามญั ว่า Sea Grapes หรอื Green Caviar สาหรา่ ยพวงองุน่ 8 วสาง่ รเสสารรมิ การเกษตร
สาหร่ายพวงองุ่นเป็นหน่ึงในสาหร่ายที่รับประทานได้ ของประเทศไทย สาหร่ายชนิดนี้อุดมด้วยแร่ธาตุ และวิตามิน หลายชนิด ทั้งกรดไขมัน PUFA วิตามินบี 2 วิตามินอี และ เกลือแร่ ได้แก่ I, P, Zn, Ca, Mg, Se, Fe, Mn และ Co มลี กั ษณะคลา้ ยองนุ่ เน่อื งจากมีรสชาตดิ แี ละมีคุณคา่ ทางอาหาร จึงจัดเป็น 1 ใน 5 อาหารแนะน�ำส�ำหรับผู้ที่ไปเยือนเมือง โอกินาว่า ประเทศญ่ีปุ่น เป็นอาหารสุขภาพ ชาวโอกินาว่า เชื่อว่าการรับประทานสาหร่ายทะเล ช่วยให้หายป่วยได้เร็วข้ึน เนือ่ งจากมวี ิตามินเอ วติ ามินซี และเกลอื แรส่ ูง เปน็ แหลง่ ส�ำคัญ ของแมกนีเซียม ที่ช่วยลดความดันโลหิต และป้องกันโรค หัวใจล้มเหลว ช่วยต้านมะเร็ง ไอโอดีนสูงจึงช่วยผู้ป่วยที่เป็น โรคไทรอยด์ กระชงั ปลา ที่ ใช้เพาะเล้ียงสาหร่ายพวงอง่นุ ทที่ �ำการวิสาหกิจชมุ ชนฯ และโรงคดั ลา้ งความสะอาด คุณสุทธพิ งษ์ โรมินทร์ อายุ 38 ปี ประธานกล่มุ วสิ าหกิจ ชุมชนเพาะเลี้ยงและแปรรูปสาหร่ายพวงองุ่น อยู่บ้านเลขที่ 40 หมทู่ ี่ 3 ตำ� บลแหลมสกั อำ� เภออ่าวลกึ จังหวัดกระบี่ เลา่ ให้ฟัง ว่า เดิมประกอบอาชีพเล้ียงปลาในกระชัง เช่น ปลาช่อนทะเล ปลากะพงขาว แต่ประสบปญั หาหลายด้านทงั้ เร่ืองโรค ราคาตกต่�ำ และอ่ืนๆ ทางส�ำนักงานประมงอ�ำเภออ่าวลึก ได้เข้ามาช่วย แก้ไขปัญหา โดยได้แนะน�ำให้ใช้กระชังท่ีว่างทดลองเลี้ยง สาหร่ายพวงองุ่นเป็นรายได้เสริมอีกทางหน่ึง เพื่อให้สามารถ มีรายได้จนุ เจือครอบครวั โดยตนได้ชกั ชวนชาวบ้านรวมกล่มุ กัน เพาะเล้ยี งสาหรา่ ย เม่อื ปี พ.ศ. 2560 และทางส�ำนักงานประมง อ�ำเภออ่าวลึก ได้น�ำสมาชิกกลุ่มไปศึกษาดูงานการเพาะเล้ียง สาหร่ายพวงองุ่น ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเล้ียงสัตว์น�้ำ ชายฝั่งเพชรบุรี และโครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างตามพระราชด�ำริ จังหวัดเพชรบุรี หลังจากกลับมาจากการศึกษาดูงานจึงมีการ เพาะเล้ียงสาหร่ายพวงองุ่นอย่างจริงจัง เลี้ยงไป 2 เดือน เริ่มมีรายได้จากการขายสาหร่ายให้กับคนในชุมชน ต่อมาจึงได้ ขอจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนกับส�ำนักงานเกษตรอ�ำเภอ อ่าวลึก เม่ือวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 ซ่ึงทางเจ้าหน้าที่ ส�ำนักงานเกษตรอ�ำเภออ่าวลึกได้เข้ามาแนะน�ำให้ความรู้ ในการบริหารจัดกลุ่มอย่างต่อเน่ือง จนกิจการไปได้ด้วยดี ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 13 คน เพาะเล้ียงสาหร่ายรวม 90 กระชัง โดยในพ้ืนที่ยังมีชาวบ้านที่เพาะเลี้ยงสาหร่ายอีก หลายรายรวมกนั แล้วประมาณ 800 กระชัง สง่ เสริมการเวกาษรสตารร 9
คุณสุทธิพงษ์ โรมินทร์ เล่าว่า การเพาะเลี้ยงสาหร่าย ทำ� คสวตาาหดั มรแ่าสตยะ่งอาด ไม่ยุ่งยาก เน่ืองจากมีกระชังเล้ียงปลาอยู่แล้วจึงสามารถ น�ำสาหร่ายมาเพาะเลี้ยงได้เลย ต้นทุนต่อ 1 กระชัง (ขนาด ทเป�ำคา่ อสวาอาหมกรสซา่ ะยเิ อจนาด 3 x 3 เมตร) ประกอบดว้ ย 1) ตะแกรงพลาสตกิ ขนาด 40 X 60 เซนติเมตร อันละ 70 บาท (พรอ้ มใชง้ าน) 2) อวนแดงก้นั รอบกระชงั ขนาดตา 1.5 เซนตเิ มตร ราคา 850 บาท ขนาด 3 X 3 X 1.5 เมตร (กว้าง X ยาว X ลึก) (พรอ้ มใช้งาน) 3) ต้นพันธุ์สาหรา่ ย กโิ ลกรัมละ 100 บาท ต่อ 1 ตะแกรง (ซอ้ื ครัง้ เดยี ว) โดย 1 กระชงั จะใสไ่ ด้ 9 ตะแกรง สรุปแล้วใน 1 กระชัง (9 ตะแกรง) ลงทนุ 2,380 บาท (มีกระชังอยู่แล้ว) สาหร่าย 1 กิโลกรัมดูแลประมาณ 60 วัน จะเก็บเก่ียวได้ 6-8 กิโลกรัม (คัดแล้ว) ท่ีเหลือสามารถน�ำมา เลี้ยงต่อได้ ในการดูแลแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงวันที่ 1-10 ไม่ต้องท�ำอะไร แค่คอยสังเกตว่ามีสัตว์น้�ำมากินหรือไม่ และระยะท่ี 2 ช่วงวันท่ี 11-60 หรือจนกว่าจะเก็บต้องคอย สังเกตว่ามีตะกอนหรือขี้แดด (ตะไคร่สีเขียวลื่นๆ ที่จับบน ผิวโคลนหรือลอยเป็นฝาอยู่ในน�้ำ) มาปกคลุมสาหร่ายหรือไม่ หากมีให้เขย่าตะแกรง 5-7 ครั้ง หรือใช้มือลูบข้างบนสาหร่าย เพ่ือขจัดคราบตะกอนออก และหากมีศัตรูเข้ามาท�ำความเสียหาย ก็ให้ท�ำการเปล่ียนต้นพันธุ์สาหร่ายใหม่ โดยศัตรูของสาหร่าย จะเป็นพวกปลาสลิดหิน ลกู หอย เพรียง ท่ลี อดตาขา่ ยเขา้ มา คอตศยะตัทกร�ำอูสคนาวดหาินรมา่ แสยละะอาด สาหรา่ ยพวงอง่นุ จะเริ่มเก็บเก่ยี วไดเ้ มอื่ ครบอายุ 60 วัน หรือดแู ล้วสาหร่ายมคี วามสวยสมบรู ณพ์ รอ้ มเกบ็ เกี่ยว ก็สามารถ 10 วสา่งรเสสารริมการเกษตร แซะสาหร่ายออกมาจากตะแกรงได้เลย และน�ำมาล้างท�ำความ สะอาดท่ีจุดรวบรวมของกลุ่มซ่ึงเป็นท่ีท�ำการกลุ่ม โดยคัดเอา เฉพาะช่อที่สมบูรณ์ คือ ความยาวต้ังแต่ 2 น้ิวขึ้นไป และเก็บ สิ่งเจอื ปนออก เช่น ลูกหอย ลกู ปลาดาว ดอกไมท้ ะเล ตัวเพรยี ง และเศษขยะเล็กๆ เป็นต้น โดยจะจ้างสมาชิกรวมถึงชาวบ้าน ทัว่ ไปในชุมชน ราคากโิ ลกรัมละ 20 บาท เมอ่ื ทำ� ความสะอาด เสร็จแล้วน�ำมาล้างท�ำความสะอาดอีกครั้งด้วยชุดสกิมเมอร์ (Skimmer : อุปกรณ์ใช้กรองคราบโปรตีนที่ปนอยู่ในน้�ำ) อีก 1-2 วัน ข้ึนกับสภาพอากาศ จากนั้นน�ำมาเป่าด้วยออกซิเจน ต่อกับหัวทรายเหมือนในตู้ปลาอีก 12-24 ช่ัวโมง แล้วน�ำมา สะเด็ดน้�ำ ก็พรอ้ มสง่ ขายได้ ซึง่ วิธนี ี้จะท�ำให้สาหรา่ ยมีคณุ ภาพดี ยิ่งข้ึน หมดปัญหาเรอ่ื งกล่ินโคลน และเกบ็ ไว้ได้ 3-7 วนั
ส�ำหรับช่องทางในการตลาดน้ัน ทางวิสาหกิจชุมชนฯ ประโยชน์ของสาหร่ายพวงองุน่ ได้แก่ 1) บ�ำรงุ สขุ ภาพ จะขายส่งอยทู่ รี่ าคา 150-180 บาทตอ่ กโิ ลกรมั ส่วนราคาขายปลกี เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินเอและวิตามินซี ท่ีช่วยกระตุ้น 180-200 บาทต่อกิโลกรัม เดิมเคยขายได้เดือนละประมาณ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง ช่วยบ�ำรุงกล้ามเน้ือ 300-600 กิโลกรัม แต่เม่ือกลางปี พ.ศ. 2561 กรมส่งเสริม และกระดูก บ�ำรุงสมองและระบบประสาทให้ท�ำงานได้อย่าง การเกษตร ได้มีโครงการเสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร มีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาสมดุลของน�้ำภายในร่างกาย และ รายย่อย โดยการด�ำเนินงานของส�ำนักงานเกษตรจังหวัดกระบ่ี สามารถช่วยก�ำจัดของเสียออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี และสำ� นักงานเกษตรอ�ำเภออา่ วลกึ เปดิ โอกาสใหก้ ลุม่ เกษตรกร 2) บ�ำรุงร่างกาย เน่ืองจากมีสารต้านอนุมูลอิสระท่ีช่วยชะลอ สามารถเขียนโครงการเพื่อขอสนับสนุนงบประมาณมา ความเส่ือมของเซลล์ในร่างกาย น�ำพาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้ ด�ำเนินงานของกลุ่มได้ ทางกลุ่มจึงได้เขียนโครงการขอสนับสนุน เป็นอย่างดี เพ่ิมการไหลเวียนของเลือดและบ�ำรุงผิวพรรณ งบประมาณเพื่อต่อยอดกิจการของกลุ่มให้ดีย่ิงข้ึน ซึ่งทางกลุ่ม ลดการเกดิ ร้ิวรอย รกั ษาความชุ่มชน้ื ของเซลล์ผวิ จึงมกี ารนำ� ไป ก็ได้รับการสนับสนุนงบประมาณมาจัดซ้ืออุปกรณ์ชุดสกิมเมอร์ ใช้เป็นส่วนประกอบส�ำคัญในผลิตภัณฑ์ดูแลและบ�ำรุงผิว ใช้ล้างท�ำความสะอาดและก�ำจัดกลิ่นโคลนของสาหร่าย เพื่อช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง เต่งตึง ท�ำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง พรอ้ มดว้ ย บรรจภุ ณั ฑแ์ ละสต๊กิ เกอร์ ท�ำใหส้ าหร่ายมคี ณุ ภาพดีขึ้น ไม่หย่อนคล้อยได้ง่าย รวมท้ัง มีเส้นใยอาหารสูงแต่แคลอรีต�่ำ สะอาด ไม่มีกลิ่นโคลน และสวยงาม จนปัจจุบันมียอดขาย เหมาะส�ำหรับคนท่ีควบคุมหรือลดน�้ำหนัก ถึงแม้จะเป็น เพิ่มมากข้ึนเน่ืองจากลูกค้าติดใจในคุณภาพ โดยขายได้ประมาณ สาหร่ายทะเลแต่ก็มีปริมาณของโซเดียมต�่ำ ซ่ึงจะไม่ก่อให้เกิด 700-1,000 กิโลกรัม หรือประมาณ 125,000-200,000 บาท อันตรายต่อสุขภาพ และ 3) ช่วยป้องกันและรักษาโรค เช่น ต่อเดือน ท�ำให้สมาชิกมีรายได้ 10,000-15,000 บาทต่อเดือน โรคคอพอก เพราะมีไอโอดีนที่เป็นแร่ธาตุส�ำคัญและยังป้องกัน และชาวบ้านชุมชนก็มีรายรายจากการรับจ้างล้างสาหร่าย และบรรเทาอาการเกี่ยวกับโรคไทรอยด์ โรคริดสีดวงทวาร วันละไม่ต�่ำกว่า 400-600 บาท ถือเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพ เพราะช่วยกระตุ้นให้ระบบการขับถ่ายท�ำงานได้เป็นปกติ ให้กับชุมชนแหลมสักได้อย่างดี โดยในช่วงท่ีกลุ่มผลิตไม่ทัน ลดโอกาสจะเกิดอาการท้องผูก โรคหัวใจ เพราะมีปริมาณ ยังช่วยรับซื้อสาหร่ายของชาวบ้านรายอ่ืนด้วย แต่จะเน้น ของแมกนีเซียมสูง ซ่ึงจะช่วยลดระดับความดันในเส้นเลือด ที่มีคุณภาพเท่านั้น ซึ่งมีการส่งขายทั้งในจังหวัดกระบี่ และ ป้องกันโรคหัวใจล้มเหลว รวมท้ังยังเป็นผลดีต่อโรคเบาหวาน ต่างจังหวัด เช่น กรุงเทพฯ จังหวัดชลบุรี นครราชสีมา และโรคความดันโลหติ สงู เปน็ ต้น นครศรีธรรมราช ปัตตานี พัทลุง ภูเก็ต ยะลา สงขลา และ จังหวัดสุราษฎรธ์ านี เป็นตน้ ส�ำหรับผู้ท่ีสนใจรายละเอียดเพ่ิมเติมสามารถ ติดตอ่ สอบถามไดท้ ่ี คุณสุทธพิ งษ์ โรมินทร์ วิสาหกจิ ชมุ ชน บรรราจคถุางุ 1510กบิโลากทรมั เพาะเลี้ยงและแปรรูปสาหรา่ ยพวงองุ่น เลขที่ 40 หมูท่ ่ี 3 ต�ำบลแหลมสัก อ�ำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบ่ี โทรศัพท์ 06 3591 9801 ราคากบลร่อรงจลกุ ะลอ่ 5ง0 บาท ✤✤✤ สาหร่ายพวงองุ่น กบั น�ำ้ จ้มิ ซอี ิ๊ว สลดั โรลสาหร่ายพวงองนุ่ ส่งเสรมิ การเวกาษรสตารร 11
ที่นี่...กรมส่งเสรมิ เรียบเรียง-ภาพ : กลุ่มพัฒนาระบบส่งเสริมการเกษตร กองวจิ ยั และพฒั นางานสง่ เสรมิ การเกษตร Zoning เขตเกษตรเศรษฐกิจสำ�หรบั สินค้าเกษตรทส่ี ำ�คญั การบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจส�ำหรับสินค้าเกษตรท่ีส�ำคัญ (Zoning) เป็นการด�ำเนินงานเพื่อ บริหารจัดการพื้นท่ีเกษตรกรรมให้เกษตรกรท�ำการผลิตพืชเศรษฐกิจได้อย่างเหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่ตามที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประกาศเขตความเหมาะสมส�ำหรับการปลูกพืช (Zoning) 13 ชนิด คือ ข้าว มันสำ� ปะหลงั ยางพารา ปาล์มน้ำ� มนั อ้อยโรงงาน ข้าวโพดเล้ยี งสัตว์ สับปะรดโรงงาน ล�ำไย เงาะ ทเุ รยี น มังคดุ มะพร้าว และกาแฟ ซ่ึงจะเป็นการลดต้นทุนการผลิต เพ่ิมประสิทธิภาพการผลิต ได้ผลผลิตที่มีปริมาณและคุณภาพสอดคล้อง กับความต้องการของตลาด สามารถยกระดบั รายไดข้ องเกษตรกรให้สูงขน้ึ เม่ือปี พ.ศ. 2522 รัฐบาลได้ ทางการเกษตร แหล่งการเพาะปลูก พัฒนาอย่างเป็นระบบต้ังแต่ต้นน�้ำถึง ประกาศใช้พระราชบัญญัติเศรษฐกิจ และการเล้ียงสัตว์ให้สอดคล้องกับสภาพ ปลายน�้ำ เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพและ การเกษตร พ.ศ. 2522 โดยบัญญัติ ดินฟ้าอากาศ แหล่งน�้ำ ประเภทของ ลดต้นทุนการผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้มีคณะกรรมการนโยบายและแผน เกษตรกรรม รายได้หลักของเกษตรกร ให้กับสินค้าเกษตร ท้ังนี้ เพื่อรักษา พัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ มีหน้าท่ี และความต้องการของตลาดในประเทศ ดุลยภาพในด้านการสร้างความมั่นคง พิจารณาก�ำหนดนโยบายการเกษตร และต่างประเทศ เสนอต่อคณะกรรมการ ทางรายได้ให้เกษตรกร การใช้ประโยชน์ และแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ นโยบายและแผนพัฒนาการเกษตร ที่ดินเต็มตามศักยภาพ ตอบสนองต่อ ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสหกรณ์ เพ่ือประกอบการพิจารณา ตลาดโลก และสังคมแห่งชาติ พิจารณาก�ำหนด ก�ำหนดเขตเกษตรเศรษฐกจิ กรอบแนวคิดห่วงโซ่คุณค่า เขตเกษตรเศรษฐกิจ ติดตาม และเร่งรัด ส�ำหรับกรอบแนวคิดในการ (Value Chain) การผลิตสินค้าเกษตร การปฏบิ ตั งิ านตามแผนพฒั นาการเกษตร จัดท�ำ Zoning ภาคเกษตร ส�ำนักงาน การสร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์และ และสหกรณ์ของหน่วยงานในสังกัด คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ อุปทานของสินค้าเกษตรแต่ละชนิด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบญั ญตั ิ และสังคมแห่งชาติ ได้น�ำแนวคิดในการ ในตลาด ต้ังแต่ต้นน้�ำถึงปลายน�้ำ ให้มีส�ำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร เ ข ต เ ก ษ ต ร เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ส่งผลให้เกษตรกรสามารถก�ำหนด มีหน้าที่วิเคราะห์นโยบายการเกษตร (Zoning) มาใช้ในการบริหารจัดการท่ีดิน ปริมาณและคุณภาพผลผลิตได้แม่นย�ำ และแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ให้เกิดประโยชน์ สอดคล้องกับศักยภาพ มากขึ้น สามารถวางแผนการผลิต และ ศึกษาวิเคราะห์การวางแผนการผลิต และผลตอบแทนท่ีเหมาะสม เป็นการ ลดความเสี่ยงจากการผันผวนของราคา 12 สวาง่ รเสสารริมการเกษตร
การบริหารจัดการข้อมูลเพื่อ Zoning ของรัฐบาลและของกระทรวง พ้ืนที่ หรือแผนพัฒนาการเกษตร สนับสนุนการขับเคล่ือนนโยบาย Zoning เกษตรและสหกรณ์ โดยก�ำหนดให้ เชิงพ้ืนท่ีส�ำหรับเป็นเครื่องมือและกลไก แบง่ เป็น ข้อมูลเชิงพ้ืนท่ี (Spatial data) MRCF เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ หลักในการขับเคล่ือนการด�ำเนินงาน อยู่ในรูปของแผนท่ีที่สามารถแสดง ขอ้ มลู เชงิ พน้ื ทแ่ี ละกำ� หนดพน้ื ทเ่ี ปา้ หมาย ให้บรรลุเป้าหมาย โดยการวิเคราะห์ ต�ำแหน่งของข้อมูลเป็นค่าพิกัดที่อ้างอิง ของการส่งเสริมและพัฒนาระดับจังหวัด ความสัมพันธ์ของข้อมูลด้านสินค้า พ้ืนท่ี กับพื้นโลกได้ ซ่ึงเป็นปัจจัยทางกายภาพ และอ�ำเภอ และพัฒนาให้นักส่งเสริม และเกษตรกร และโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ แผนที่ การเกษตรเป็นนักส่งเสริมการเกษตร ผลการด�ำเนินงานโครงการ ชุดดิน ปริมาณน้�ำฝน เขตชลประทาน มืออาชีพ (Smart Extension Officer) บ ริ ห า ร จั ด ก า ร เ ข ต เ ก ษ ต ร เ ศ ร ษ ฐ กิ จ สภาพการใช้ประโยชน์ท่ีดิน เขตพ้ืนที่ ปฏิบัติงานผ่านส�ำนักงานเกษตรอ�ำเภอ ส�ำหรับสินค้าเกษตรท่ีส�ำคัญ (Zoning) อนุรักษ์ ขอบเขตการปกครอง เส้นทาง ท่ีถูกพัฒนาให้เป็น Smart Office เพ่ือ ระหว่างปี พ.ศ. 2559-2560 ท�ำให้ คมนาคม จุดท่ีตั้งโรงงานหรือจุดรับ ให้บริการเกษตรกรในพื้นที่อย่างท่ัวถึง เจ้าหน้าที่มีเคร่ืองมือท่ีใช้ในการขับเคลื่อน ซ้ือผลผลิต ฯลฯ และข้อมูลไม่เชิงพื้นท่ี และครบวงจรผ่านระบบเทคโนโลยี โครงการ Zoning เกิดแหล่งเรียนรู้ (Non-Spatial data) เป็นข้อมูลท่ี สารสนเทศ โดยมุ่งเน้นการบริหาร ต้นแบบในการปรับเปล่ียนการปลูกพืช เกี่ยวกับสถานการณ์สินค้า เป็นปัจจัย จัดการพื้นท่ีเกษตรกรรม (Zoning) ท่ี เ ห ม า ะ ส ม ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ แ ผ น ท่ี ด้านเศรษฐกิจและสังคม เป็นข้อมูล ท่ีมองภาพ “พื้นท่ี คน สินค้า” Agri-Map เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ตัวแปรแบบพลศาสตร์ (Dynamic เข้าด้วยกัน มีเป้าหมายการพัฒนา มีความรู้ความเข้าใจในการผลิตพืชและ Information) มีการเปลี่ยนแปลง ท่ีชัดเจน เฉพาะเจาะจง เบ็ดเสร็จ มีทางเลือกในการตัดสินใจที่จะปรับ ตลอดเวลา ตามสภาวะด้านการผลิต ครบทุกเร่ือง และมีการบูรณาการ เ ป ลี่ ย น ก า ร ผ ลิ ต สิ น ค ้ า ช นิ ด ใ ห ม ่ ท่ี มี และการตลาด เช่น ปริมาณผลผลิต การพัฒนาให้ครอบคลุมทั้งในมิติชีวิต ความเหมาะกับพน้ื ทไี่ ดม้ ากย่งิ ขน้ึ ต้นทุนการผลิต ราคาที่เกษตรกรขายได้ ความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ สังคม และ ส�ำหรับการด�ำเนินงานโครงการ การยอมรับและการใช้เทคโนโลยีของ ส่ิงแวดล้อม ให้เกิดความสมดุล ม่ันคง ในปี พ.ศ. 2561 เกษตรกรได้รับการ เกษตรกร ต้นทุนค่าขนส่ง ปริมาณ และย่ังยืน เพื่อให้เกิดผลส�ำเร็จในพื้นที่ อบรมให้ความรู้การปรับเปล่ียนพืช ความต้องการของตลาดและโรงงาน คอื เกิด Smart Farmer Smart Group ชนิดใหม่ จ�ำนวน 854 ราย และมีการ อตุ สาหกรรม ฯลฯ และเกิด Smart Product ปรบั เปลย่ี นการผลติ ในพน้ื ทไ่ี มเ่ หมาะสม จากการท�ำการเกษตรที่ผ่านมา การขับเคลื่อนนโยบาย Zoning (S3, N) ตามแผนที่ Agri-Map พ้ืนท่ี มั ก ป ร ะ ส บ ป ั ญ ห า ป ริ ม า ณ ผ ล ผ ลิ ต ส�ำหรับสินค้าเกษตรท่ีส�ำคัญ จะประสบ 3,174 ไร่ (พ้ืนท่ีเป้าหมายที่ได้รับ ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ผลส�ำเร็จได้ ต้องเกิดจากความรู้ความ การสนับสนุนงบประมาณ 2,520 ไร่) เกษตรกรบางส่วนใช้พ้ืนที่ท�ำการผลิต เข้าใจของผู้บริหาร เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติ นอกจากน้ี เกษตรกรท่ีปลูกพืชท่ีมี ชนิดสินค้าไม่สอดคล้องกับศักยภาพ งานแต่ละระดับ ความพร้อมของข้อมูล ความเหมาะสมกับศักยภาพของพื้นท่ี เขตความเหมาะสมของพื้นท่ี ท�ำให้ ความร่วมมือร่วมแรงจากทุกภาคส่วน ตามหลัก Zoning ยังสามารถลดต้นทุน ประสิทธิภาพการผลติ ผลผลิตต่อหนว่ ยต่ำ� ท่ีเกีย่ วข้อง และส่งิ สำ� คญั ท่สี ดุ คอื ความรู้ การผลิต เพ่ิมประสิทธิภาพการผลิต และบางคร้ังเกิดปัญหาด้านราคาตกต�่ำ ความเข้าใจ และการยอมรับของเกษตรกร และมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จาก ไม่สามารถระบายผลผลิตท่ีออกมาใน ดงั นัน้ หนว่ ยงานตา่ งๆ ของกรมส่งเสรมิ การปรบั เปลยี่ นการผลิตอกี ดว้ ย ปริมาณมากได้ ซ่ึงเกิดจากการไมส่ ามารถ การเกษตรจ�ำเป็นต้องมีแผนการจัดการ รักษาสมดุลของอุปสงค์และอุปทานของ ✤✤✤ สนิ ค้าสำ� คญั ได้ ในปี พ.ศ. 2557 กรมส่งเสริม การเกษตรได้มีนโยบายการขับเคล่ือน Zoning ในงานส่งเสริมการเกษตร โดย ใช้กระบวนการท�ำงานส่งเสริมการเกษตร บนพื้นฐานของ MRCF System ขับเคลื่อนการด�ำเนินงานในส่วนนโยบาย สง่ เสรมิ การเวกาษรสตารร 13
เร่อื งจากปก เรยี บเรียง : กรกญั ญา อกั ษรเนยี ม กองส่งเสรมิ โครงการพระราชดำ� ริ การจัดการพน้ื ที่และวิศวกรรมเกษตร เจา้ ฟ้า นกั พัฒนา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี ทรงตระหนักว่าความรู้และทักษะ ทางอาชีพเป็นส่ิงท่ีจ�ำเป็นต่อการด�ำรงชีวิตของ เด็กและเยาวชน จึงมีพระราชด�ำริให้ส่งเสริม การเรียนรู้ทางด้านการเกษตรท่ีย่ังยืน และ ด้านอาชีพที่จ�ำเป็นส�ำหรับชีวิตประจ�ำวัน ซึ่ง ครอบคลมุ ตงั้ แต่การปลูกพืช การประกอบอาหาร การแปรรูป การถนอมอาหาร รวมทั้งวิชาชีพ การตัดเย็บเสื้อผ้า งานช่าง งานศิลปหัตถกรรม และงานประดษิ ฐ์ ดังพระราชด�ำรสั เมื่อวนั ท่ี 27 เมษายน 2559 ความตอนหนงึ่ ว่า “...ในเรื่องวิชาชีพต่างๆ คือ วิชาชีพหลักที่โรงเรียนเราท�ำ กค็ อื วชิ าชพี เกษตร จะมกี ารแปรรปู ถอื วา่ เปน็ เรอื่ งของอตุ สาหกรรม งานต่างๆ จากโรงเรยี นแล้วก็แพร่ไปสชู่ ุมชนในทุกๆ ด้าน...” สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเริ่ม งานพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารมาอย่างต่อเน่ืองต้ังแต่ปี พ.ศ. 2523 ในปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนจ�ำนวนมากท่ีจบการศึกษา สามารถประกอบอาชีพเล้ียงดูตนเองและครอบครัว และท�ำคุณประโยชน์ ให้กับสังคมประเทศชาติ ซ่ึงในปี พ.ศ. 2535 ได้เร่ิมจัดท�ำแผนพัฒนา เด็กและเยาวชนในถ่ินทุรกันดาร ตามพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพ รตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ระยะท่ี 1 ใช้ในปี พ.ศ. 2535-2539 ปจั จบุ นั อยใู่ นฉบบั ท่ี 5 ระยะ 10 ปี พ.ศ. 2560-2569 16 สวา่งรเสสารริมการเกษตร
กรมสง่ เสรมิ การเกษตร “...อีกอย่างคือ ในชุมชนหรือครอบครัว ความตั้งใจ ขยายผลเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีอยู่ว่าไม่ใช่แค่พัฒนาโรงเรียนเท่านั้น แต่เม่ือโรงเรียนดีแล้ว จากโรงเรยี นสู่ชุมชน ก็จะเป็นจุดท่ีขยายโอกาสและขยายความรู้การปฏิบัติงานเข้าไป ในชุมชน นอกจากใหช้ มุ ชนเขา้ มาชว่ ยเหลอื แลว้ กต็ อ้ งปฏิบัตกิ าร กรมส่งเสริมการเกษตร โดยกองส่งเสริม ในชุมชน เช่น งานเกษตร เพื่อใหช้ มุ ชนสามารถได้รบั ผลประโยชน์นี้ โครงการพระราชด�ำริ การจัดการพื้นท่ีและวิศวกรรม หรืออุตสาหกรรม ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนหรือ เกษตร ได้ร่วมสนองพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพ อุตสาหกรรมขนาดเล็ก ก็สามารถให้ชมุ ชนปฏบิ ัตงิ านอุตสาหกรรม รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด�ำเนินโครงการ นั้นได้ เพราะเป็นที่ที่เราเข้าไปเห็นเข้าไปถึง อะไรท่ียังไม่ดี เกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เพ่ือช่วยแก้ปัญหาการ ยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร เราก็ต้องท�ำหรือว่าก้าวหน้าแล้ว ก็ต้อง ขาดแคลนอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน นอกจาก ใหก้ ้าวหน้าหรือดีย่ิงขน้ึ ให้ทกุ คนพรอ้ มทกุ ดา้ นทัง้ ทางด้านร่างกาย นักเรียนจะมีอาหารกลางวันท่ีมีคุณค่าทางโภชนาการ ด้านความอยู่เย็นเป็นสุข ด้านจริยธรรมก็เป็นเร่ืองส�ำคัญ...” บริโภคตลอดช่วงการศึกษาแล้ว นักเรียนยังได้รับ ความรู้ด้านการเกษตรสมัยใหม่ เกิดทัศนคติท่ีดี ความตอนหนึ่งของพระราชด�ำรัส เมอื่ ที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๗ ต่ออาชีพการเกษตร และสามารถน�ำไปใช้ประกอบ อาชพี ได้ในอนาคต โครงการ “โรงเรียนพัฒนาชุมชน” ด�ำเนินการโดยส�ำนักงาน โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เป็น โครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี กองบัญชาการ โครงการหน่ึงที่พระองค์ทรงใช้แก้ไขปัญหาด้าน ตำ� รวจตระเวนชายแดน กรมสง่ เสรมิ การเกษตร หนว่ ยงานภาคี และชมุ ชน โภชนาการของเด็กและเยาวชนท่ีอยู่พ้ืนที่ห่างไกล ในพ้ืนที่เครือข่ายโรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดน เน้นส่งเสริมให้ชุมชน เริ่มด�ำเนินการในโรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดน มีความมั่นคงด้านอาหาร พัฒนาสู่แนวทางการผลิตเกษตรดีที่เหมาะสม และขยายผลสู่โรงเรียนสังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการ (GAP) การเพม่ิ มูลคา่ สนิ ค้าเกษตรและอตุ สาหกรรมในครัวเรอื น ยกระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ส�ำนักงานส่งเสริมการศึกษา โรงเรียนและชุมชนท่ีประสบความส�ำเร็จเป็นต้นแบบ ท�ำให้สมาชิกชุมชน นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โรงเรียนสอน มีองค์ความรู้และทักษะทางด้านการเกษตร พัฒนาตนเองและเครือข่าย ศาสนาอิสลาม และโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซ่ึงจะท�ำให้คนในชุมชนน�ำความรู้ ปจั จบุ นั ได้ด�ำเนนิ โครงการในโรงเรยี น รวม 747 โรงเรยี น จากโครงการไปใช้สร้างอาชีพสร้างรายได้ รวมถึงมีการพัฒนาด้านร่างกาย ในพืน้ ท่ี 50 จังหวดั สง่ ผลใหเ้ ดก็ นักเรยี นในโรงเรียน จิตใจ ใหม้ ชี ีวิตความเป็นอยู่ท่ีมีความสขุ เรยี กว่าส่งเสรมิ ให้เกิดการเรียนรู้ มีอาหารปลอดภัยถูกหลักโภชนาการบริโภคอย่าง ด้านเกษตรกรรม สุขภาพอนามัย การพัฒนาตนเอง การพัฒนาชุมชน เพียงพอ และโรงเรียนสามารถขยายผลความรู้ด้าน ที่ใหโ้ รงเรียนเปน็ ฐานการพัฒนาชมุ ชน (School Based Approach) การเกษตรสู่ชุมชน ภายใต้โครงการ “โรงเรียน พัฒนาชุมชน” ซ่ึงเป็นโครงการท่ีน้อมน�ำแนวทางการ ส่งเสริมการเวกาษรสตารร 17 ด�ำเนินงานตามโครงการเกษตรเพ่ืออาหารกลางวัน มาขยายผลสคู่ รอบครวั และชมุ ชนรอบโรงเรยี นตอ่ ไป
“โรงเรียนพัฒนาชุมชน” ได้ด�ำเนินการตามแผนพัฒนาเด็กและ มีหลักการท�ำงานที่เน้นการเรียนรู้ ด�ำเนินการ เยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ เปน็ กลุม่ เชือ่ มโยงกับการพัฒนาชุมชนที่เหมาะสมกับ สยามบรมราชกมุ ารี ฉบับท่ี 5 และจดั ท�ำให้สอดคลอ้ งกับยทุ ธศาสตรช์ าติ พน้ื ทแ่ี ละกลมุ่ เปา้ หมายตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ 20 ปี รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. พอเพียง บูรณาการการด�ำเนินงานระหว่างโรงเรียน 2560-2564) ทน่ี อ้ มนำ� หลกั “ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง” มาพัฒนา ครู ตชด. หน่วยงาน องค์กรตา่ งๆ ส่งเสรมิ สนับสนนุ ประเทศ โดยมีเป้าหมายให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตท่ีดี มีความรัก ให้โรงเรียนมีความพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ จุดสาธิต หวงแหนทรพั ยากรธรรมชาติ รวมทง้ั ขยายการพฒั นาจากโรงเรยี นสู่ชุมชน เช่ือมโยงกับแหล่งเรียนรู้ในชุมชน ให้คนในชุมชน ท�ำให้ชมุ ชนมีความเขม้ แขง็ และพ่ึงตนเองได้ มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ทั้งบริเวณแปลงเรียนรู้ ส�ำหรับกรมส่งเสริมการเกษตรได้ด�ำเนินการเพ่ือให้เป็นไป ของโรงเรียนและครัวเรือน เช่ือมโยงการเรียนรู้และ ตามเป้าหมายส�ำคัญของแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถ่ินทุรกันดารฯ การปฏิบัติระหว่างนกั เรยี นกบั ผปู้ กครอง ฉบับท่ี 5 คือ “ขยายการพัฒนาจากโรงเรียนสู่ชุมชน” โดยเด็กและ การดำ� เนนิ โครงการเกษตรเพอ่ื อาหารกลางวนั เยาวชนสามารถน�ำความรู้และทักษะในวิชาชีพท่ีจ�ำเป็นส�ำหรับการ ขยายผลสู่โรงเรียนพัฒนาชุมชน ตามแผนพัฒนา ด�ำรงชีวิต การท�ำบัญชี มาใช้ในครอบครัวได้ เน้นพัฒนาสถานศึกษา เด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ฉบับที่ 5 แสดง ให้เป็นศูนย์บริการความรู้ ซึ่งจะน�ำองค์ความรู้ด้านการเกษตรจาก ให้เห็นถึงพระวิสัยทัศน์ของพระองค์ท่านท่ีทรงทุ่มเท โรงเรียนมาใช้ผลิตอาหารในครัวเรือน ด�ำเนินการในพ้ืนที่ 50 จังหวัด พระวรกายในการพฒั นา “คน” ทรงพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ จังหวัดละ 1 แห่ง เช่น บ้านพุหว้า จังหวัดกาญจนบุรี, บ้านหนองบอน เสริมสร้างสุขภาพของ “คน” ตั้งแต่ในครรภ์มารดา จงั หวัดจันทบรุ ,ี บา้ นยา่ นซ่ือ จงั หวัดประจวบคีรขี นั ธ,์ บา้ นถ�ำ้ หนิ จังหวดั ส่งเสริมสนับสนุนให้โรงเรียนท�ำการเกษตรเพ่ือผลิต ราชบรุ ,ี บา้ นการบนิ ไทย จงั หวดั สระแกว้ เป็นตน้ อาหารที่ปลอดภัยไว้ให้ “เด็ก” บริโภคอย่างเพียงพอ ด�ำเนินการโดยเลือกผู้ปกครองท่ีมีบุตร-หลาน เรียนอยู่ในโรงเรียน ขยายผลสู่ชุมชนให้มีอาหารปลอดภัยบริโภค ส่งผล และมีฐานะยากจน แต่ต้องมีพื้นท่ีท�ำการเกษตร และกรมส่งเสริมการเกษตร ให้เกิดความสมดุลของ “เกษตร อาหาร โภชนาการ สนับสนุนปัจจัยการผลิต พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ปุ๋ยคอก ให้แก่ครัวเรือน และสุขภาพ” ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนา “คน” เพื่อท�ำการเกษตรแบบผสมผสาน ส่งเสริมให้ครอบครัวของนักเรียน ใหเ้ กดิ ความมนั่ คงอยา่ งยงั่ ยืน ท�ำการเกษตรแบบยั่งยืน และส่งเสริมการถนอมและแปรรูปอาหาร จัดการเรียนรู้แบบบูรณาการทั้งในรูปแบบตามอัธยาศัยและตามหลักสูตร ✤✤✤ การเรียนรู้ ที่มีจุดเรียนรู้ จุดสาธิต แปลงตัวอย่างและสวนครัวตัวอย่าง (Home garden) แบบตา่ งๆ ข้อมลู : แผนพัฒนาเดก็ และเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ฉบบั ท่ี 5 พ.ศ. 2560-2569 สำ� นกั งานโครงการสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ร่าง แผน กพด. ฉบบั ท่ี 5 ณ 19 เมษายน 2560) 18 สวา่งรเสสารรมิ การเกษตร
ชายคา DOAE เรยี บเรยี ง : สรุ นนั ท์ หลำ� รวิ้ สำ� นกั พัฒนาการถา่ ยทอดเทคโนโลยี ข้อมลู -ภาพ : กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพนั ธ์ ส�ำนกั งานเลขานกุ ารกรม เมอื่ วันที่ 3 เมษายน 2562 นายกฤษฎา บญุ ราช รฐั มนตรี วา่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปน็ ประธานพิธีเปิดงานวันเก็บเก่ยี ว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูท�ำนาและงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ปี 2562 ณ บ้านดงยาง ต�ำบลทุ่งกระเชาะ อ�ำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ซึ่งมี เกษตรกรเขา้ รว่ มโครงการสานพลงั ประชารฐั เพอ่ื สนบั สนนุ การปลกู ขา้ วโพด หลงั ฤดทู ำ� นา ใน 8 อ�ำเภอ รวม 2,882 ราย พื้นท่ี 25,070.75 ไร่ มีจดุ รบั ซอ้ื จากสหกรณ์การเกษตรและภาคเอกชน มากกวา่ 8 จดุ คาดการณ์ ว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายในช่วงเดือนมีนาคม-ต้นเดือนพฤษภาคม 2562 ผลผลิตรวมกว่า 25,543.62 ตนั (ภาพ : ส�ำนกั งานเกษตรจงั หวดั ตาก) เม่ือวันท่ี 28 มีนาคม 2562 นายส�ำราญ สาราบรรณ์ อธิบดี กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานการประชุมศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยี การเกษตรด้านอารักขาพืช (9 ศูนย์) คร้ังท่ี 3/2562 ณ ห้องประชุม กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย เพื่อเตรียมพร้อมยกระดับ เทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช รวมทั้งให้ค�ำแนะน�ำในการบริหาร จัดการศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช 9 ศูนย์ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น ชลบุรี ชัยนาท เชียงใหม่ นครราชสีมา พิษณุโลก สงขลา สุพรรณบุรี และจังหวดัสุราษฎร์ธานี พร้อมก�ำชับให้ทุกศูนย์ด�ำเนินการ อยา่ งเปน็ ระบบใหเ้ ขา้ ถงึ เกษตรกรมากขนึ้ เมื่อวนั ท่ี 7 มีนาคม 2562 ว่าทรี่ อ้ ยตรี สมสวย ปัญญาสิทธ์ิ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนา เชิงปฎิบัติการเชื่อมโยงการด�ำเนินงานระหว่างศูนย์เรียนรู้การเพ่ิม ประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และการส่งเสริมการเกษตร แบบแปลงใหญ่ ระดบั เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ตอนบน ครั้งท่ี 2/2562 ณ อาคารฝึกอบรม ส�ำนกั งานส่งเสริมและพฒั นาการเกษตรที่ 4 จงั หวัด ขอนแก่น โดยเน้นการผลิตสินค้าเกษตรตามความต้องการของตลาด สร้างจุดเด่นและน�ำอัตลักษณ์ของสินค้ามาเป็นจุดขายให้กับผู้บริโภค การใชภ้ มู ิปญั ญาท้องถ่นิ และน�ำเทคโนโลยีมาผสมผสาน การกระจายสินค้า และจำ� หนา่ ยผา่ นชอ่ งทางออนไลน์ เมอ่ื วนั ที่ 27 มนี าคม 2562 นางดาเรศร์ กิตตโิ ยภาส รองอธบิ ดี กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ติ้วส้า แอ่วกาด ชิม ชอ้ ป ชม ครวั กลมุ่ แมบ่ ้านเกษตรกร” ณ ลานมโี ชคพลาซา่ กาดมีโชค อำ� เภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จัดโดยส�ำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัด เชียงใหม่ เพ่ือแสดงผลงานและผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่นระดับเขต ใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ยกระดับธุรกิจชุมชน สร้างเครือข่ายกลุ่ม แม่บ้านเกษตรกรให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้ัง การแสดงศิลปวัฒนธรรมความบันเทิงของสมาชกิ กลมุ่ แม่บ้านเกษตรกร ✤✤✤ ส่งเสริมการเวกาษรสตารร 19
เทคโน...เกษตร เรยี บเรยี ง : สำ� นักงานเกษตรอ�ำเภอศรณี รงค์ จงั หวดั สุรินทร์ รำ�ข้าวอดั เม็ดผสมผงผกั โมโรเฮยะ นวตั กรรมขา้ วไทยเป็นลกู อมเมด็ เคี้ยวเพอ่ื สุขภาพ ข้าวหอมมะลสิ รุ นิ ทร์ (Surin Hom Mali Rice) ด้วยอดุ มการณแ์ ละความมุง่ มั่นเพือ่ ทจ่ี ะพัฒนาบา้ นเกดิ ถือว่าเป็นพืชหลักและเป็นสินค้าส่งออกของจังหวัดสุรินทร์ ของตนเอง นางสาวอุไร มีสิทธิ์ อดีตข้าราชการ (ต�ำแหน่ง ที่สามารถสร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศ นักวิชาการมาตรฐาน) สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และระดับสากลมายาวนาน ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ได้รับการ ปัจจุบันเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ ณ ฟาร์มฝันปริญญา ทายาท ยอมรับในวงการค้าข้าวและผู้บริโภคว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพ เกษตรกรมืออาชีพรุ่นที่ 3 และคนกล้าคืนถิ่นรุ่นท่ี 2 และ มากที่สุด เนื่องจากข้าวเปลือกเมล็ดเรียวยาว ได้ขนาด นางสาวพมิ พ์ปพชิ ญ์ ผวิ หอม อดตี วิศวกรไฟฟา้ (บริษทั เอกชน) มาตรฐานข้าว และเมื่อสีเป็นข้าวสารแล้วก็จะได้เมล็ดข้าว ปัจจุบันเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ และเจ้าของ Facebook Page ทเี่ รียว ยาว ขาว ใส มีกล่นิ หอม เมอ่ื หงุ เปน็ ข้าวสุกจะรสชาติดี พันธุ์ ๙ ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ได้มองเห็นคุณค่าสิ่งท่ีมีอยู่ใน มีความอ่อนนุ่ม นิ่มนวล ดงั นน้ั “หอม-ยาว-ขาว-นุม่ ” น่ัน บ้านเกิดของเรา มองเห็นความได้เปรียบในด้านการเป็น คือคุณลักษณะเด่นของข้าวหอมมะลิสุรินทร์ นอกจากนี้ แหล่งวัตถุดิบชั้นเลิศท่ีเป็นสมบัติท่ีบรรพบุรุษได้สร้างไว้ รวมท้ัง เมื่อปี พ.ศ. 2551 ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ได้ข้ึนทะเบียน เห็นคุณค่าทางโภชนาการของร�ำข้าวท่ีมากมาย โดยเฉพาะ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ทะเบียนเลขที่ สช 5110023 ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ซึ่งปลูกเป็นปริมากในพื้นที่ ปัญหาหลัก สามารถการันตีคุณภาพและความน่าเช่ือถือท�ำให้สามารถ ท่ีพบคือการท�ำนาท่ีขาดทุนในทุกๆ ปี เน่ืองจากไม่สามารถ สร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับข้าวหอมมะลิสุรินทร์และสร้างความ ก�ำหนดราคาสินค้าเกษตรเองได้ และพบว่าไม่มีการแปรรูป มั่นใจใหก้ ับผซู้ อ้ื ได้อีกทางหนงึ่ ผลิตภัณฑ์จากข้าวเพื่อเพิ่มมูลค่าท้ังที่มีวัตถุดิบเพียงพอตลอด ทั้งปี จึงมีแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าว จนได้มี 20 วสา่งรเสสารริมการเกษตร โอกาสเข้าอบรมหลักสูตร “การแปรรูปข้าวด้วยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเพ่ือเพ่ิมมูลค่าการเกษตรสู่การเริ่มต้นธุรกิจ” ที่จัดขึ้นโดยธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งชาติ (สวทช.) หลังเสร็จสิ้นการอบรมได้มีการน�ำเสนอ แนวคิดการแปรรูปผลลิตภัณฑ์จากข้าว คือร�ำข้าว เนื่องจาก ร�ำข้าวซ่ึงเป็นส่วนของร�ำอ่อนที่เกิดจากการขัดสีข้าวกล้อง เป็นข้าวขาว และเป็นส่วนประกอบของข้าวท่ีมีประโยชน์สูงท่ีสุด แต่พบว่ามีการน�ำมาบริโภคหรือใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ น้อยมาก ท�ำให้ร�ำข้าวกลายเป็นของดีที่มีมูลค่าต�่ำ และผ่าน
การคัดเลอื กจาก ธ.ก.ส. และ สวทช. ใหท้ ุนสนับสนนุ ในการผลติ หรือระหว่างรอมื้อค�่ำส�ำหรับเด็ก ลูกอมท่ีช่วยแก้เครียด และวิจัยเพ่ือให้ได้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบใน การพัฒนาเชิงพาณิชย์ ระหว่างวันหรือแก้หิวในม้ือดึกของผู้ใหญ่ และลูกอมส�ำหรับ ต่อไป ซึ่งตลอดระยะเวลาการด�ำเนินงานมีการค้นคว้าหาข้อมูล กลุ่มคนรักสุขภาพท่ีบริโภคขนมเพื่อสุขภาพ ร�ำข้าวหอมมะลิ งานวิจัย สิทธิบัตร เพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีสารอาหารหลายชนิด อย่างดีท่ีสุด จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการแปรรูป ประกอบไปด้วย โปรตีนซ่ึงเป็นสารอาหารท่ีจ�ำเป็นต่อการ หลายขั้นตอน ต้ังแต่กระบวนการท�ำความสะอาดท่ีเหมาะสม เจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนท่ีสึกหรอ เส้นใยอาหารที่ช่วยเรื่อง และกระบวนการคงสภาพร�ำข้าว ซ่ึงข้อจ�ำกัดในการน�ำร�ำข้าว ระบบขับถ่าย ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ช่วย ไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆ น้อยคือความคงสภาพ บ�ำรุงเก่ียวกับระบบประสาท ชะลอวัย บ�ำรุงสายตา ปรับสมดุล ของร�ำข้าว จากน้ันน�ำร�ำข้าวผ่านกระบวนการสกัดจะท�ำให้ ฮอร์โมน ลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็ง มีแคลเซียม สารสกัดจากร�ำข้าว แล้วน�ำสารสกัดที่ได้ผ่านกระบวนการ บ�ำรุงกระดูกและฟัน และสารอาหารอ่ืนๆ อีกหลายชนิด อบแห้งแบบพ่นฝอยเพ่ือให้ได้อนุภาคของสารสกัดจากร�ำข้าว รวมกบั ผักโมโรเฮยะท่ีได้ข้ึนชอื่ วา่ ราชาวติ ามนิ และเพมิ่ ความสุข ที่เหมาะสมในกระบวนการต่อไป แล้วน�ำอนุภาคสารสกัดจาก จากรสช็อกโกแลตด้วยเอกลักษณ์ของการเป็นขนม ปรุงแต่ง ร�ำข้าวท่ีได้มาผสมกันส่วนผสมอื่นๆ แล้วน�ำส่วนผสมสารสกัด รสชาติด้วยหญ้าหวาน จึงถือได้ว่าเป็นลูกอมชนิดเค้ียวเพื่อ ร�ำข้าวท่ีได้ไปขึ้นรูปเป็นเม็ดโดยเคร่ืองตอกเม็ด ก็จะได้สารสกัด สุขภาพที่อุดมไปด้วยคุณค่าโภชนาการและความสุขจากร�ำข้าว รำ� ขา้ วอัดเม็ดผสมผงผักโมโรเฮยะ แปลงรา่ งนี้อยา่ งเตม็ เปย่ี ม “เราต้องการท่ีจะเปล่ียนภาพลักษณ์เดิมๆ ของร�ำข้าว รูปแบบการบรรจุร�ำข้าวอัดเม็ดผสมผงผักโมโรเฮยะ โดยเปลีย่ นเปน็ ผลิตภัณฑ์เพอ่ื สุขภาพ รบั ประทานงา่ ย รสชาติดี จะมีสองแบบบรรจุภัณฑ์ คือแบบหลอด และแบบถุงฟอยล์ ท�ำให้การรับประทานของดีมีประโยชน์เป็นเรื่องง่ายในชีวิต โดยปัจจุบันบรรจุภัณฑ์ยังอยู่ในข้ันทดลองผลิตส�ำหรับเป็น ประจำ� วนั ร�ำแปลงร่าง ซึง่ ลูกอมเพอื่ สุขภาพ แบรนด์ Rarumbo ตัวอย่าง โดยแบบหลอดมีปริมาณมากกว่ามีลักษณะเป็นเม็ด ฉีกภาพเดิมๆ ของร�ำข้าวท่ีคุณเคยรู้จัก และมองว่าเป็นอาหาร เรียงกันในหลอดและใช้กระดาษหุ้มท้ังหลอดเพ่ือป้องกัน ของหมู ลบภาพเหล่านั้นไปได้อย่างง่ายดายด้วยประโยชน์ เรื่องความชื้นบรรจุ ปริมาณ 40 กรัม และแบบถุงฟอยล์บรรจุ ท่ีมีมากมายในร�ำข้าว การันตีได้จากงานวิจัยในต่างประเทศ ปรมิ าณ 20 กรมั ราคาขายถูกกวา่ แบบหลอด จ�ำนวนมากกว่าในกลุ่มประเทศท่ีไม่ได้มีนาข้าวอย่างประเทศ เรามีความมุ่งมั่นในการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการ ของเรา แต่เล็งเห็นถึงประโยชน์จากร�ำข้าวและมีการบริโภคกัน เกษตรเปน็ ฟงั ก์ชนั นัลฟ้ดู (Functional Food : ผลิตภณั ฑ์ อย่างแพร่หลายในต่างประเทศและยกย่องร�ำข้าวว่าคือสุดยอด อาหารที่มีการเติมสารอาหารหรือเสริมคุณค่า) หรือ อาหาร (Super food) และเราเองท่ีเป็นแหล่งผลิตข้าวที่ ที่เรียกว่าการรับประทานอาหารให้เป็นยา แต่เราใช้หลัก ใหญ่ท่ีสุดของโลก แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ท่ีอร่อย การกินขนมให้เป็นยา โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มคน ท่ีสุดในโลก จึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะปฏิเสธท่ีจะน�ำคุณค่า รักสุขภาพ เนื่องจากแนวโน้มของกลุ่มคนรักสุขภาพ ที่เรามีน้ีมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ให้คนไทยได้รู้จัก กล้าเปิดใจ ไดเ้ พมิ่ และเตบิ โตมากขน้ึ ทงั้ ในตลาดภายในประเทศและ ลองไดช้ ิมรำ� แปลงร่างน้”ี เจา้ ของ Rarumbo กลา่ ว ต่างประเทศ กระแสของการรกั สขุ ภาพ มีมาอย่างยาวนาน ร�ำข้าวอัดเม็ดผสมผงผักโมโรเฮยะ เป็นลูกอมเม็ดเคี้ยว รวมถึงงานวิจัยต่างๆ ท่ีได้กล่าวถึงโรคที่เกิดจากการ เพ่ือสุขภาพที่รสชาติอร่อย มีประโยชน์ต่อร่างกายท�ำจากร�ำข้าว เลอื กบรโิ ภคอาหาร จากขอ้ มูลเหลา่ นเ้ี ราจึงเล็งเหน็ ความ หอมมะลิอัดเม็ดผสมกับผงผักโมโรเฮยะ รสช็อกโกแลต ส�ำคัญของการผลิตอาหารทางเลือกท่ีมีประโยชน์ให้กับ เพ่ือตอบโจทย์การเป็นลูกอมรับประทานรองท้องระหว่างม้ือ กลุ่มคนรักสุขภาพเหล่าน้ี ให้ได้รับอาหารท่ีมีประโยชน์ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกัน และลดอัตราการเกิดโรค โดยการรับประทานอาหารในกล่มุ ฟังก์ชันแนลฟดู้ ซึง่ เรา ได้ท�ำการควบคมุ คุณภาพในทุกขั้นตอน ต้งั แตร่ ับวัตถุดบิ จนกระท่ังผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเตรียมจ�ำหน่ายโดยมี กระบวนการควบคุณคุณภาพ และในอนาคตวางแผนท่ี จะออกเปน็ รสชาตริ ำ� ขา้ วหอมมะลผิ สมสมนุ ไพรไทยตา่ งๆ ตามคณุ สมบตั เิ ด่นของสมนุ ไพรไทย ✤✤✤ สง่ เสริมการเวกาษรสตารร 21
กรมส่งเสรมิ การเกษตร ประกาศเจตนารมณ์ ลด แยก ขยะ ลดกล่องโฟม ใช้ถุงผ้า จัดอบรมเจ้าหน้าที่ ส่งเสริมการเกษตรลดและการคัดแยกขยะ มลู ฝอยอยา่ งถกู วธิ ีพรอ้ มประกาศเจตนารมณ์ ลดขยะ คดั แยกขยะมลู ฝอย ลดใชถ้ งุ พลาสตกิ และกลอ่ งโฟมบรรจุอาหาร โดยการอบรมความรู้ เรื่องการลดและคัดแยก ขยะมูลฝอย ภายใต้โครงการรณรงค์ตามแผนปฏิบัติการลด และคัดแยกขยะมูลฝอยของกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อเป็น การรณรงค์และถ่ายทอดความรู้กับเจ้าหน้าที่ให้ตระหนักถึง ความส�ำคัญของปัญหาขยะมูลฝอยของกรมส่งเสริมการเกษตร นอกจากน้ียังมีกิจกรรม “แกะ-ล้าง-เก็บ-ส่ง” กล่องเปล่า เคร่อื งดื่ม UHT ทกุ ชนิดทใี่ ช้แลว้ เพ่ือมอบใหก้ บั บรษิ ัท อ�ำพล ฟูดส์ จ�ำกัด น�ำไปผ่านกระบวนการ Recycle เป็นแผ่น Chipboard แล้วน�ำไปท�ำเป็นชุดโต๊ะนักเรียนในโครงการ กล่องวิเศษ MAGIC BOX รวมท้ังน�ำเศษใบไม้ ก่ิงไม้ไปท�ำ เป็นปุ๋ยหมักใช้บ�ำรุงรักษาต้นไม้ในบริเวณพื้นท่ีต้ังของกรม ส่งเสริมการเกษตร 22 สวา่งรเสสารรมิ การเกษตร
กิจกรรมส�ำคัญอีกอย่างหนึ่งคือให้เจ้าหน้าท่ีลดและ คัดแยกขยะมลู ฝอย ลดใช้ถงุ พลาสติก และกล่องโฟมบรรจอุ าหาร โดยให้โพสต์รูปถ่ายเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าวพร้อมติด Hashtag #doaeทำ� ความดดี ว้ ยหวั ใจลดภยั สิ่งแวดล้อม ผา่ น Social Media แล้วน�ำหลักฐานมารับถุงผ้าฟรี (หมดเขตร่วมกิจกรรมแล้ว) เพอ่ื เปน็ การรณรงค์และกระตุ้นการใชถ้ ุงผา้ อยา่ งตอ่ เน่อื งอกี ด้วย “ขอความร่วมมือจากทุกท่านให้ใส่ใจกับปัญหา ส่ิงแวดล้อมที่เกิดขึ้น รวมถึงถ่ายทอดความรู้ไปถึง เกษตรกรด้วย และตระหนักว่าเร่ืองนี้เป็นเรื่องส�ำคัญ เร่งด่วนและเราจะช่วยกันระยะยาวต่อไป ส�ำหรับการ ลดใช้ถุงพลาสติกและภาชนะท่ีท�ำจากโฟมนั้น กรมฯ ได้จัดจุดบริการ ยืม-คืน ถุงผ้า ไว้ภายในอาคารเพ่ือให้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้แทนการใช้ถุงพลาสติก เมื่อใช้เสร็จแล้ว ใหน้ ำ� กลบั มาคนื เพอ่ื ใหบ้ รกิ ารกบั ผทู้ ต่ี อ้ งการใชต้ อ่ ไป และ จะขยายการปฏิบัติตามโครงการดังกล่าวลงไปสู่หน่วยงาน ภมู ิภาคใหร้ ่วมรณรงค์ตามแนวปฏิบัตขิ องส่วนกลาง อีกท้ัง ขอเชญิ ชวนผปู้ ระกอบการร้านค้าและประชาชน รว่ มกันใช้ ถุงผ้าและปรับเปล่ียนภาชนะจากโฟมเป็นวัสดุที่เป็นมิตร กับส่ิงแวดลอ้ ม” อธบิ ดีกรมสง่ เสริมการเกษตรกลา่ ว... สง่ เสริมการเวกาษรสตารร 23
ลดต้นทุนเกษตร เรียบเรียง-ภาพ : กลมุ่ อารกั ขาพชื ส�ำนกั งานเกษตรจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา จ.อยุธยา สง่ เสรมิ ใชจ้ ุลินทรีย์สงั เคราะหแ์ สง และแหนแดง ลดตน้ ทุนการผลติ จุลนิ ทรยี ส์ งั เคราะหแ์ สง นางยุรี ศศิรัตน์ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช ส�ำนักงานเกษตรจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ได้ออกพ้ืนท่ีเย่ียมเยียนเกษตรกรแล้วพบว่า เกษตรกร ❝ ในพื้นที่ในอ�ำเภอผักไห่และอ�ำเภอบางบาลมีการใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (Photosynthetic Bacteria: PSB) หรือท่ีเกษตรกรในพ้ืนท่ีเรียกว่า จุลนิ ทรยี ส์ งั เคราะหแ์ สง “น�้ำแดง” ในการปรับปรุงบ�ำรุงดิน จึงทดลองผลิตขยายเพื่อท�ำการ สามารถนำ�มาใชป้ ระโยชน์ ต่อเช้ือจุลินทรีย์ดังกล่าวท่ีบ้านพัก และพบว่าการผลิตขยายน้ันมีขั้นตอนท่ี ไม่ยุ่งยาก ต้นทุนในการผลิตต่�ำ ระยะเวลาท่ีผลิตขยายไม่นาน จึงได้น�ำมา เพอ่ื เพิ่มผลผลติ สง่ เสรมิ ให้เกษตรกรในพืน้ ทีน่ ำ� ไปทดลองใช้ ทางการเกษตรได้ ซง่ึ จะ ช่วยยอ่ ยสลายของเสีย จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (Photosynthetic Bacteria: PSB) มักพบกระจาย ในแปลงนา เชน่ กา๊ ซไขเ่ นา่ อยู่ทั่วไปในแหล่งน�้ำตามธรรมชาติ เช่น ทะเลสาบน�้ำจืดและน้�ำเค็ม น�้ำพุร้อน หรือไฮโดรเจนซลั ไฟด์ หรือในบ่อปิดท่ีน�้ำไม่มีการเคล่ือนไหว เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบตามแหล่งน�้ำเสีย (Hydrogen Sulfide) บอ่ บ�ำบัดน้ำ� เสยี และดนิ อีกด้วย ซง่ึ กา๊ ซนี้มักเกดิ จากตอซงั จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสามารถน�ำมาใช้ประโยชน์เพ่ือเพ่ิมผลผลิต ฟางขา้ ว หรอื วัชพชื ท่ีถูก ทางการเกษตรได้ ซึ่งจะช่วยย่อยสลายของเสียในแปลงนา เช่น ก๊าซไข่เน่า ไถกลบแล้วยังไมย่ อ่ ยสลาย หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ (Hydrogen Sulfide) ซึ่งก๊าซนี้มักเกิดจากตอซัง ฟางข้าว หรือวัชพืชที่ถูกไถกลบแล้วยังไม่ย่อยสลาย เป็นต้น จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจะเข้าไป ❞ ทําลายพันธะทางเคมีของก๊าซไข่เน่าแล้วนํามาใช้เป็นพลังงานในการเจริญเติบโต และแบ่งเซลล์ ระหว่างนั้นจุลินทรีย์ PSB จะขับของเสียออกมาให้อยู่ในรูปของ กลุ่มโกรทฮอร์โมน หรือฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโต (Growth Hormone: GH) กรดอะมิโนที่จ�ำเป็น และยังมีวิตามินและแร่ธาตุ นอกจากนี้เข้าไปทําลายพันธะเคมี ของกลุ่มก๊าซมีเธน (CH4) ที่มีอยู่แปลงนาให้เหลือแต่คาร์บอน (C) ซ่ึงสามารถ ย่อยสลายไดเ้ องตามธรรมชาติ เม่ือใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงเป็นประจําและต่อเนื่องจะสามารถลดการ ใช้อาหารเสริม หรือปุ๋ยสูตรต่างๆ ลงได้ ทําให้ลดต้นทุนในการผลิตและมีรายได้ เพิ่มมากขึ้น เช่น ใช้เป็นแหล่งของธาตุไนโตรเจน (N) แทนปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) หรือแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) สูงสุดถึงร้อยละ 50 ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคพืช ได้ดี ทําให้เปลือกหรือลําต้นแข็งแรง ทนต่อการกัดกินของแมลงศัตรูพืช ช่วยกระตุ้น เซลล์เจริญบริเวณปลายรากพืชให้ขยายตัวและแตกแขนงได้ดี ทําให้พืชสามารถสะสม อาหารไดม้ ากและเพมิ่ ผลผลติ ได้ดี เปน็ ต้น 24 วสาง่ รเสสารริมการเกษตร
ส�ำหรับค�ำแนะน�ำวิธีการใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ในนาข้าวใช้อัตราส่วน แหนแดง 5 ลิตรต่อไร่ สาดให้ท่ัวพื้นท่ี ในพืชสวนใช้อัตราส่วน 50 มิลลิลิตรต่อน�้ำ 20 ลิตร ราดลงดินขณะเตรียมปลูกหรือฉีดพ่นทางล�ำต้นและราก ทุกๆ 7-10 วัน ในแปลงผัก ส่งเสรมิ การเวกาษรสตารร 25 และไม้ดอกใช้อัตราส่วน 20 มิลลิลิตรต่อน�้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นล�ำต้นและราก ทุกๆ 5-7 วัน การใช้ในการประมงช่วงการเตรียมบ่อใช้อัตราส่วน 10 ลิตรต่อไร่ สาดให้ ทว่ั บอ่ และช่วงระหวา่ งการเลี้ยง ใชอ้ ตั ราสว่ น 5 ลิตรต่อไร่ สาดให้ทัว่ บอ่ ทกุ ๆ 7 วัน การใช้ในการเลีย้ งปลาสวยงาม ตู้ปลาใหม่ใช้อัตราส่วน 1 มิลลิลิตรต่อน�้ำ 50 ลิตร ติดต่อกัน 5 วัน ต่อไป ใส่ทุกๆ 7 วัน หากเปน็ ตู้ปลาเกา่ ใช้อัตราสว่ น 2 มลิ ลิลิตรตอ่ น้�ำ 50 ลิตร ติดต่อกัน 5 วัน ต่อไปใส่ทุกๆ 7 วัน หรือบ่อปลาขนาดใหญ่ใช้อัตราส่วน 100 มิลลิลิตร ต่อนำ�้ 1 ตนั ติดตอ่ กัน 5 วัน ตอ่ ไปใสท่ กุ ๆ 7 วนั ในการผลติ ขยายจุลนิ ทรียส์ งั เคราะห์แสงหากเกิดแกส๊ แสดงวา่ มีการปนเปือ้ น ของแบคทีเรียชนิดอ่ืน สีของจุลินทรีย์ท่ีผลิตขยายได้ ควรมีสีชมพูอมม่วง หากเปลี่ยน เปน็ สเี ขียวหรือสีด�ำ แสดงวา่ พบการปนเป้อื นหรือเสียหายแล้ว ไม่แนะน�ำใหเ้ อาไปใช้ ส�ำหรับแหนแดง (Azolla) เป็นเฟินน้�ำขนาดเล็กชนิดหนึ่งลอยบนผิวน�้ำ มักพบในแหล่งน�้ำปิดท่ีน�้ำไม่มีการเคล่ือนไหว เช่น บ่อน�้ำ บึง พ้ืนท่ีชุ่มน�้ำหรือแอ่ง ท่ีมีน้�ำท่วมขังตลอดปี เป็นต้น ล�ำต้นและใบของแหนแดงจะมีสีเขียว และจะเปลี่ยน เป็นสีน้�ำตาลอมแดงเมื่อต้นแก่ ใบบนของแหนแดงมีลักษณะเป็นโพรงใบซ่ึงเป็น ท่ีอยู่ของสาหร่ายสีเขียวแกมน้�ำเงินซึ่งช่วยตรึงธาตุไนโตรเจน (N) จากอากาศท�ำให้ แหนแดงมีปริมาณไนโตรเจนสูง มีคุณสมบัติเป็นปุ๋ยพืชสดบ�ำรุงดินได้เหมือนกับ พืชตระกูลถ่ัว นอกจากน้ี แหนแดงจะคลุมผิวน้�ำป้องกันแสงแดด ท�ำให้วัชพืชในน้�ำ เจรญิ เติบโตไดไ้ ม่เตม็ ที่ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร แนะน�ำ การใช้แหนแดงแบบสดในนาข้าว โดยให้เกษตรกรหว่านแหนแดงก่อนหว่านข้าว หรือด�ำนาในอัตราส่วนแหนแดงประมาณ 100-300 กิโลกรัมต่อไร่ รักษาระดับน้�ำ ให้ลึกอย่างน้อย 5 เซนติเมตร เพ่ือให้แหนแดงเพาะขยายพันธุ์ในพื้นแปลงนา ประมาณ 20-30 วัน แหนแดงจะเจริญเติบโตเต็มที่ให้ปล่อยน�้ำออกแล้วไถกลบ แหนแดง ท�ำการตีเทือกเสร็จจึงหว่านข้าวหรือด�ำนาได้ หรือถ้าเป็นนาด�ำ ให้ด�ำนาไป ก่อน แล้วหว่านแหนแดงลงไปในนา แหนแดงจะไปเพาะขยายพันธุ์ในพื้นแปลงนา เพราะนาด�ำมีลักษณะเป็นบ่อน้�ำต้ืน ประโยชน์ที่ได้ตามมาก็คือแหนแดงจะช่วย บดบังแสงแดด ป้องกันไม่ให้วัชพืช ข้าววัชพืช ข้าวลีบ หรือข้าวดีด ท่ีติดมากับ รถเก่ียวข้าว ตกค้างอยใู่ นนา เจริญเติบโตข้นึ มาในนาข้าว เนื่องจากแหนแดงสามารถเพิ่มปริมาณตัวเองอย่างรวดเร็ว เกษตรกร สามารถเก็บรวบรวมมาตากแดดให้แห้ง ประมาณ 2 วัน แล้วเก็บใส่กระสอบ รวบรวมไว้ส�ำหรับใช้ปลูกพืช หากใช้แหนแดงแบบแห้ง ควรใช้ในอัตราส่วนประมาณ 20 กรัมต่อดินวัสดุเพาะ 1 กิโลกรัม เมื่อแหนแดงย่อยสลายก็จะเริ่มปลดปล่อย ไนโตรเจนออกมา มีข้อมูลระบุว่า การใช้แหนแดงร่วมกับปุ๋ยเคมี ตามอัตราที่แนะน�ำ สามารถเพ่ิมผลผลติ ข้าวไดป้ ระมาณรอ้ ยละ 15 ส�ำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีนโยบายลดต้นทุนการผลิต สินค้าเกษตร โดยส่งเสริมให้ใช้ความรู้ทางด้านวิชาการ และภูมิปัญญาของเกษตรกร ในพ้ืนท่ี เน้นส่งเสริมให้มีการใช้ชีวภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น เชื้อราไตรโครเดอร์มา บวิ เวอร์เรยี เมตาไรเซียม แหนแดง จลุ ินทรยี ส์ ังเคราะห์แสง เป็นต้น ซึ่งกลุ่มอารักขาพชื
❝ ในฐานะท่ีมีบทบาทโดยตรงในการขับเคลื่อนเพ่ือส่งเสริมในด้านน้ี จึงได้ด�ำเนินการ “เปดิ บา้ นอารกั ขาพชื ” (Open House) โดยเปดิ ให้บรกิ ารกบั เกษตรกรและเจ้าหนา้ ที่ เกษตรกร ที่ต้องการทราบและเรียนรู้ ในเร่ืองต่างๆ เก่ียวกับงานด้านอารักขาพืช โดยเปิด สามารถเพาะเลยี้ งแหน ให้บริการสัปดาห์ละ 1 วัน เกษตรกรและเจ้าหน้าท่ีจะได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติ แดงโดยเลีย้ งในบอ่ น�ำ้ ต้ืน ในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถน�ำความรู้กลับไปปฏิบัติในพ้ืนท่ีได้อย่างถูกต้องตาม ประมาณ 4-5 เซนตเิ มตร หลกั วชิ าการ ส�ำหรับการด�ำเนินงานในการส่งเสริมการใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง จะทำ�ให้มแี หนแดง และแหนแดง ได้จัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้ในพื้นท่ี 16 อ�ำเภอของจังหวัด เก็บเกย่ี วไดไ้ ม่มวี ันสิน้ สดุ พระนครศรีอยุธยา เช่น คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ และจังหวัดเคลื่อนที่ งานวันถ่ายทอด เทคโนโลยี (Field Day) เป็นต้น รวมทั้งขอสนับสนุนงบประมาณจากจังหวัดเพื่อ เพราะแหนแดง จัดท�ำแปลงทดสอบ เพ่ือเก็บข้อมูล และน�ำมาเผยแพร่ให้เกษตรกรในจังหวัดทราบ จะเจริญเตบิ โตและ ต่อไป นอกจากน้ียังได้รับการสนับสนุนด้านแหล่งพันธุ์ของแหนแดง จากส�ำนักวิจัย ขยายตัวไปได้เรือ่ ยๆ และพัฒนาการเกษตรเขตท่ี 5 กรมวิชาการเกษตร เพื่อน�ำมาเลี้ยงขยายไว้ที่ กลุ่มอารักขาพืช ส�ำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งได้งบพัฒนา ❞ จังหวัด ปี 2561 งบประมาณ 80,000 บาท เพื่อจัดท�ำแปลงเรียนรู้จ�ำนวน 8 แปลง พนื้ ท่ี 40 ไร่ เกษตรกร จ�ำนวน 8 ราย ได้แก่ แปลงท่ี 1 ตำ� บลลำ� ตะเคียน อำ� เภอผกั ไห่ 26 วสาง่ รเสสารรมิ การเกษตร แปลงท่ี 2 ตำ� บลตลาดเกรียบ อ�ำเภอบางปะอนิ แปลงที่ 3 ต�ำบลหัวเวียง อ�ำเภอเสนา แปลงที่ 4 ต�ำบลวังแดง อำ� เภอทา่ เรอื แปลงที่ 5 ต�ำบลสำ� พะเนยี ง อ�ำเภอบ้านแพรก แปลงที่ 6 ตำ� บลหันสงั อำ� เภอบางปะหัน แปลงท่ี 7 ตำ� บลไผล่ อ้ ม อ�ำเภอภาชี และ แปลงที่ 8 ต�ำบลหนา้ ไม้ อ�ำเภอบางไทร จากการด�ำเนินการดังกล่าวส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่ยอมรับและท�ำการผลิต ขยายจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงไว้ใช้ในพ้ืนที่เพ่ือทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี เน่ืองจากวิธีการ ผลิตขยายท่ีไม่ยุ่งยาก ต้นทุนที่ใช้การผลิตต�่ำ ระยะเวลาที่สามารถน�ำไปใช้ในพื้นท่ีได้ ใช้ระยะเวลาสั้นไม่ต้องท�ำการหมักนานเหมือนน�้ำหมักชีวภาพอ่ืนๆ ก็น่าจะเป็น เหตุผลท่ีจูงใจให้เกษตรกรสนใจผลิตและน�ำใช้ในพ้ืนที่ได้ เกษตรกรท่ีปลูกผักหรือ ท�ำการเกษตรอินทรีย์ ส�ำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ส่งเสริม การผลิตแหนแดง เพ่ือสนับสนุนงานเกษตรอินทรีย์ โดยใช้แหนแดงผสมกับ ดินปลูกทดแทนการใช้สารเคมีได้ ซ่ึงเกษตรกรสามารถเพาะเลี้ยงแหนแดงโดยเล้ียง ในบ่อน�้ำตื้นประมาณ 4-5 เซนติเมตร จะท�ำให้มีแหนแดงเก็บเก่ียวได้ไม่มีวันส้ินสุด เพราะแหนแดงจะเจรญิ เตบิ โตและขยายตวั ไปได้เรือ่ ยๆ นน่ั เอง การเลือกใช้ชีวภัณฑ์เพ่ือใช้ในการป้องกันก�ำจัดหรือควบคุมศัตรูพืช โรคพืช และปรับปรุงบ�ำรุงดินก่อนท่ีจะเลือกใช้หรือทดแทนการใช้สารเคมีนั้น นอกจากเป็นการลดต้นทุนในการผลิตสินค้าเกษตรแล้ว ยังเป็นการปรับระบบ การผลิตสินค้าเกษตรให้มีความปลอดภัย ได้มาตรฐานและเป็นมิตรกับ ส่ิงแวดล้อม ที่ส�ำคัญจะส่งผลให้สินค้าเกษตรในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นท่ียอมรับ ตรงต่อแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค มีศักยภาพและ มีความได้เปรียบสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างย่ังยืน ท้ังนี้ เกษตรกร หรือผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพ่ิมเติมได้ที่ กลุ่มอารักขาพืช สำ� นักงาน เกษตรจงั หวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 0 3533 6344, 0 3533 5441 หรือนายจิรวัฒน์ หาเรือนมิตร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ โทรศัพท์ 08 9414 8559 ✤✤✤
สาระเกษตร เรียบเรยี บ : กลมุ่ สง่ เสริมการวนิ ิจฉยั ศัตรูพชื กองส่งเสริม การอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร ภาพ : กรมส่งเสรมิ การเกษตร ข้อมูล : ส�ำนักวจิ ยั พัฒนาการอารักขาพืช กรมวชิ าการเกษตร เรอื่ งกลว้ ยๆ ที่ไมก่ ลว้ ย เกีย่ วกบั การวนิ จิ ฉยั อาการผดิ ปกติของกล้วย จากศตั รูพชื 3 ชนดิ กล้วย เป็นผลไม้ที่พวกเรารู้จักคุ้นเคยกันดี สามารถน�ำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนต้ังแต่ ผล น�ำมารับประทาน อุดมไปด้วยเส้นใยและกากอาหาร วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ปลีกล้วยและหยวกกล้วย น�ำมา เป็นส่วนประกอบอาหาร ใบ น�ำมาใช้ห่ออาหารหรืองานประดิษฐ์ส�ำหรับใช้งานประเพณีหรือตามพิธีต่างๆ ล�ำต้นเทียม และกาบใบ นอกจากจะใช้เป็นอาหารสัตวแ์ ล้วยงั สามารถน�ำมาทำ� เส้นใย ท�ำเชือก หรอื ทอเปน็ ผา้ ได้ ส�ำหรับการปลูกกล้วยท่ีหลายคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ต้องดูแลบ�ำรุงรักษาอะไรมากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว กล้วยมีศัตรูพืชหลายชนิดที่เข้ามารบกวนและท�ำให้เกิดความเสียหาย ซ่ึงศัตรูพืชแต่ละชนิดก็มีวิธีการจัดการท่ีแตกต่างกัน ซ่ึงหลายครั้งอาจทำ� ใหเ้ ราเกิดความสบั สนเน่ืองจากไมท่ ราบสาเหตุทแี่ ทจ้ ริงได้ ในบทความนจ้ี งึ ขอใหร้ ายละเอียดเกยี่ วกบั การวินิจฉัย อาการผิดปกติของกล้วยท่ีเกิดจากศัตรูพืช 3 ชนิด ได้แก่ อาการเหี่ยวท่ีเกิดจากเชื้อราหรือโรคตายพราย อาการเหี่ยวที่เกิดจาก เช้ือแบคทีเรีย และอาการทเี่ กดิ จากด้วงงวงเจาะตน้ กล้วย ดงั น้ี อาการเห่ยี วท่เี กิดจาก อาการเหย่ี วทเ่ี กดิ จาก อาการทเ่ี กดิ จาก เชื้อราหรือโรคตายพราย เช้ือแบคทเี รีย ดว้ งงวงเจาะต้นกลว้ ย อาการผดิ ปกตทิ ี่ใบ ใบล่างหรอื ใบแก่ แสดงอาการเหลืองก่อน ใบธงหรือใบยอด แสดงอาการเหลืองกอ่ น ใบออ่ นและใบแก่ ทถี่ ูกเจาะแสดงอาการ โคนกา้ นใบ หกั พับ โคนกา้ นใบ ไม่หกั พบั เหลืองและแหง้ ต้น สลด เหี่ยวเฉา ต้น สลด เห่ยี วเฉา โคนกา้ นใบ มที ง้ั หกั พบั และไมห่ ักพบั ตน้ แห้งตาย ส่งเสริมการเวกาษรสตารร 27
อาการเห่ยี วท่ีเกดิ จาก อาการเห่ยี วทีเ่ กดิ จาก อาการทเ่ี กิดจาก เชอ้ื ราหรอื โรคตายพราย เชอื้ แบคทเี รีย ด้วงงวงเจาะตน้ กล้วย อาการผดิ ปกตทิ ่ลี ำ� ตน้ เทยี ม แกนกลางลำ� ต้นเทียม เปน็ สีขาวปกติ แกนกลางลำ� ต้นเทียม เปน็ สีน้�ำตาล ลำ� ต้นเทียมและกาบใบ พบรอยเจาะ กาบใบ บางสว่ นเปน็ สนี ้�ำตาลแดง และเน่า มขี องเหลวขน้ สคี รีมไหลออกมา เข้าท�ำลายของดว้ งงวง อาจพบตวั ออ่ น ระยะหนอนอยู่ในต้นกลว้ ย กาบใบ เป็นสีขาวปกติ อาการผิดปกติทผ่ี ล ผล ลีบเลก็ ขนาดไมส่ ม่�ำเสมอ แกก่ อ่ น ผล ลบี เล็ก ผล ลบี เลก็ ไม่สมำ่� เสมอ กำ� หนด ถ้าอาการรนุ แรงจะไมส่ รา้ งเนือ้ ผล เนื้อผล เน่าเป็นสีน้�ำตาลหรอื ดำ� เน้อื ผล สีขาวปกติ เนื้อผล ฟ่ามจดื สขี าวปกติ 28 วสา่งรเสสารริมการเกษตร
อาการเหีย่ วทเี่ กิดจาก อาการเหี่ยวท่เี กิดจาก อาการท่เี กดิ จาก เชอื้ ราหรอื โรคตายพราย เชื้อแบคทเี รีย ด้วงงวงเจาะต้นกล้วย การแพร่ระบาด เชือ้ สาเหตตุ ดิ ไปกบั หน่อพนั ธุ์ และดนิ เชอ้ื สาเหตตุ ดิ ไปกับหน่อพนั ธ์ุ ดิน แมลง ตวั ดว้ งงวงหรือตวั ออ่ นระยะหนอน ผสมเกสร และเครื่องมอื การเกษตร เช่น ตดิ ไปกับต้นกลว้ ยท่ีกองอยใู่ นสวน มดี ตดั กล้วย เปน็ ต้น วธิ ีการปอ้ งกนั และกำ� จัด 1. ก�ำจัดตน้ เปน็ โรค 1. ก�ำจัดตน้ เปน็ โรค 1. ทำ� ความสะอาดแปลงปลูกไมใ่ หเ้ ปน็ ที่ หลบซ่อนและแหลง่ อาหารของตัวดว้ งงวง 2. ฆ่าเชือ้ ในดนิ ด้วยยเู รยี และปนู ขาว 2. ฆ่าเชอ้ื ในดนิ ดว้ ยยเู รยี และปูนขาว 3. ใช้ต้นพนั ธป์ุ ลอดโรคจากแหลง่ ทเ่ี ช่อื ถือได้ 3. ใชต้ ้นพันธ์ปุ ลอดโรคจากแหล่งทีเ่ ช่ือถอื ได้ 2. หนอ่ กล้วยทีใ่ ช้ปลกู ตอ้ งปราศจากแมลงหรอื 4. ใช้เชือ้ ราไตรโคเดอรม์ าปอ้ งกันการเกิดโรค 4. ใชเ้ ช้ือแบคทีเรียบาซิลัสซับทีลิส สายพนั ธ์ุ จมุ่ ด้วยสารป้องกันก�ำจดั แมลงกอ่ นปลกู BS-DOA 24 ของกรมวิชาการเกษตร 3. ใช้ตน้ ทีต่ ดั เครอื แลว้ ท�ำเปน็ เหยอื่ ลอ่ 5. ท�ำความสะอาดเครือ่ งมอื และอุปกรณ์ โดยการผ่าคร่ึงตามยาว น�ำไปวางคว่�ำ ทางการเกษตร 5. ท�ำความสะอาดเครอื่ งมอื และอุปกรณ์ บรเิ วณโคนต้นกลว้ ยใหร้ อยผา่ หนั ลงดนิ ทางการเกษตรด้วยคลอรอกซ์ 10 % ลอ่ ตวั ด้วงงวงท่มี าหลบซอ่ น และ 6. ปรับสภาพดินไม่ใหเ้ ปน็ กรดดว้ ยปูนขาว หมนั่ เก็บท�ำลาย ปูนมารล์ 6. ระมดั ระวังในการเดินจากต้นท่ีเป็นโรค 4. ใชส้ ารก�ำจัดแมลง ราดโคนตน้ กลว้ ยสูง ไปยังต้นทีไ่ ม่เป็นโรคเพราะอาจทำ� ให้ จากพนื้ ดนิ 30 เซนตเิ มตร และรอบโคน 7. จัดการระบบน้ำ� ในแปลงให้มกี ารระบาย เช้อื ตดิ ไปกบั รองเทา้ เกดิ การแพรก่ ระจาย ตน้ ให้ท่วั รัศมี 30 เซนติเมตร น�้ำทด่ี ี ไปกล้วยกออน่ื ได้ จะเห็นได้ว่าอาการผิดปกติของกล้วย ที่เกิดจากศัตรูพืชแต่ละชนิด อาจมีลักษณะอาการ คล้ายคลึงกัน แต่มีวิธีการป้องกันและก�ำจัดท่ี แตกต่างกัน ดังน้ัน หากเกษตรกรมีความเข้าใจ และสามารถวินิจฉัยอาการผิดปกติของกล้วย ที่พบได้ถูกต้อง จะท�ำให้สามารถด�ำเนินการ ป้องกันก�ำจัดศัตรูกล้วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิตได้อีกทางหนึ่ง สอบถาม ข้อมูลเพ่ิมเติมได้ที่ กลุ่มส่งเสริมการวินิจฉัย ศัตรูพืช กองส่งเสริมการอารักขาพืชและ จัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร โทรศัพท์ 0 2561 4663 ✤✤✤ ส่งเสริมการเวกาษรสตารร 29
สาระเกษตร เรียบเรียง-ภาพ : พงษ์เพชร วงศโ์ สภา ส�ำนกั พัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี ผ้ึงโพรงไทย เลีย้ งงา่ ย รายได้สงู ต้นทุนตำ�่ ผ้ึงโพรงไทย เป็นผ้ึงพื้นเมือง ผึ้งโพรงไทย แบ่งออกเป็น 3 วรรณะ ได้แก่ วรรณะท่ี 1 ผ้งึ นางพญา มหี นา้ ท่คี วบคมุ รังและวางไข่ ภายในหนึ่งรังจะมผี ึง้ นางพญา ของประเทศไทย สามารถพบได้ทุกภาค หนึ่งตัว ซึ่งมักเป็นแม่ของเหล่าผึ้งเกือบท้ังหมดที่มีอยู่ในรัง มีพัฒนาการ ท่ัวประเทศ โดยเฉพาะในพ้ืนที่ที่มีความ มาจากหนอนท่ีได้รับคัดเลือกโดยผึ้งงาน และให้อาหารเป็นพิเศษเพื่อ อุดมสมบูรณ์ ลักษณะส�ำคัญของผ้ึง คือ การเจริญพันธุ์ หลังจากบินขึ้นไปผสมพันธุ์กับผึ้งตัวผู้เรียบร้อยแล้ว มีขนาดล�ำตัวยาว 11-12 มิลลิเมตร กจ็ ะมีหน้าทคี่ วบคมุ รงั และวางไข่ บริเวณท้องมีสีน�้ำตาลสลับเหลืองเป็น วรรณะที่ 2 ผึ้งตวั ผู้ มีหนา้ ทผ่ี สมพันธ์ุกบั ผงึ้ นางพญา ผงึ้ ตวั ผู้ ปล้องๆ เห็นได้ชัดเจน มีนิสัยไม่ดุร้าย มีล�ำตัวขนาดใหญ่ อ้วนและสั้นกว่าผ้ึงนางพญา ไม่มีเหล็กใน มีลิ้นสั้น มีพฤติกรรมชอบสร้างรังตามโพรงไม้ หาอาหารเองไม่ได้แต่จะรับอาหารจากผ้ึงงานเท่าน้ัน หลังจากผสมพันธุ์ ภายในหลังคาบ้าน และบริเวณท่ีมิดชิด กับผ้ึงนางพญาแล้ว ผ้ึงตัวผู้จะตายทันที ปริมาณของผ้ึงตัวผู้ท่ีมีอยู่ในรัง ภายในเป็นโพรง มีรูเข้าออกเป็นช่องเล็กๆ จะข้นึ อยู่กบั ฤดูกาล สรา้ งรวงรงั ซอ้ นกนั หลายชนั้ ทำ� ใหส้ ามารถ วรรณะท่ี 3 ผึ้งงาน มีหน้าที่ดูแลและผลิตอาหารให้กับ เก็บน�้ำผ้ึงได้เป็นจ�ำนวนมาก แถมยังช่วย ผ้งึ นางพญา ผ้ึงงานมีลำ� ตวั ขนาดเล็กท่ีสุดภายในรัง มปี ริมาณหลายหมื่นตวั ผสมเกสรพืชเศรษฐกิจมากมายหลายชนิด ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของผึ้งนางพญาและปริมาณอาหาร ผึ้งงานเป็น เชน่ มะพร้าว มะมว่ ง กาแฟ พรกิ ข้าวโพด ผึ้งเพศเมียแต่ถูกสารของนางพญาควบคุมไม่ให้ผสมพันธุ์และวางไข่ เปน็ ตน้ จะมีหน้าที่ตามอายุของผ้ึงงาน ได้แก่ ท�ำความสะอาดรัง ผลิตไขผ้ึงเพ่ือ สร้างรัง ป้องกันรัง และออกไปหาอาหารและผลิตอาหารป้อนให้แก่ นางพญาและตวั หนอน 30 วสา่งรเสสารรมิ การเกษตร
❝ จากนั้นจึงน�ำนางพญาที่ขังไว้มาแขวนหรือ วางให้อยู่ระหว่างคอนหนอนกับคอนดักแด้ภายใน การลอ่ ผึง้ โพรงไทย ควรทำ�ในบรเิ วณที่มอี าหารผงึ้ กล่องเลี้ยง และกอบตัวผึ้งใส่รังใหม่ให้มากที่สุด สมบรู ณแ์ ละผ้ึงในธรรมชาติชกุ ชมุ โดยธรรมชาติ แล้วต้ังรังใหม่ให้อยู่ใกล้หรือต�ำแหน่งเดียวกับรังเก่า ผึ้งงานจากรังเก่าที่เหลือจะตามเข้าไปอยู่ในรังใหม่ ของผ้งึ โพรงไทยจะมกี ารแยกขยายพนั ธ์ุผึง้ หลังจากน้ันอีกประมาณ 1-2 วัน ผึ้งงานจะซ่อมรวง เมอ่ื ภายในรังมปี ระชากรหนาแน่น และจะอพยพ ท่ีช�ำรุดให้ติดกับคอนและคลุมเส้นลวด จึงแกะเชือก หรือหนังยางออก ถ้าต้องการย้ายรัง ให้ปิดรังผ้ึง ไปตามแหลง่ อาหารผ้งึ ตามธรรมชาติ ในเวลากลางคืนและย้ายไปเลี้ยงในที่ต้องการแล้ว เปิดรงั เลย้ี ง หลังจากขังนางพญาประมาณ 2-3 วนั ก็ ❞ จะต้องปล่อยนางพญาผ้ึงออกจากกลักขังเพื่อท�ำหน้าที่ ควบคุมรงั และวางไข่ต่อไป การล่อผง้ึ โพรงไทย ควรท�ำ ส�ำหรับการเล้ียงผึ้งโพรงไทย มีขั้นตอนการเลี้ยง 7 ขั้นตอน ในบริเวณท่ีมีอาหารผ้ึงสมบูรณ์และผึ้งในธรรมชาติ เร่ิมจากเตรียมอุปกรณ์ในการเลี้ยง ประกอบด้วย กล่องเล้ียงผ้ึงโพรง ชุกชุม โดยธรรมชาติของผ้ึงโพรงไทยจะมีการแยก คอน ท่ีขังนางพญา กระป๋องพ่นควัน เหล็กงัดรัง ไขผ้ึง แปรงปัดผึ้ง ขยายพันธุ์ผ้ึงเมื่อภายในรังมีประชากรหนาแน่น และ ชุดป้องกันผึ้งต่อย ได้แก่ เส้ือแขนยาว กางเกงขายาว หมวกตาข่าย จะอพยพไปตามแหล่งอาหารผ้ึงตามธรรมชาติ รังล่อ ถุงมือยาง รวมท้ังอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ลวดสแตนเลส ค้อน ตะปู มีด ผึ้งโพรงไทยอาจท�ำจากไม้หรือวัสดุอ่ืนๆ ทาด้วย หมอ้ ถาด ถังสลัดน�้ำผึง้ และทกี่ รองนำ้� ผึง้ สแตนเลส เปน็ ต้น ไขผึ้งให้มีกลิ่นไขผ้ึง ด้านหน้ามีรูให้ผ้ึงเข้าออกได้ ข้ันตอนถัดมาเลือกสถานที่ในการเลี้ยง ควรเลือกสถานที่ ท่ีต้ัง ควรตั้งให้สูงจากพื้นดินประมาณ 0.50-1 เมตร เพื่อ อยู่ในที่ร่มร่ืน มีแสงร�ำไร หรือบริเวณใต้ต้นไม้ที่ลมพัดไม่แรงมากนัก ป้องกนั ศัตรู หมน่ั ตรวจสอบรงั ทุก 7-10 วนั มีแหล่งน้�ำสะอาดอยู่ใกล้ๆ มีแหล่งอาหารของผ้ึงอุดมสมบูรณ์ ได้แก่ การจัดการดูแลในการเลี้ยงผึ้งโพรงไทย น้�ำหวานและเกสรจากพืช การหาพันธุ์ผ้ึงโพรงไทยจากธรรมชาติ โดย ควรปรับสภาพแวดล้อมภายในรังผ้ึงให้เหมาะสม เตรยี มกล่องเลย้ี งผง้ึ คอน กระป๋องพน่ ควนั ท่ีขงั นางพญาผงึ้ และอุปกรณ์ ให้ผึ้งมีสุขภาพอนามัยดีและรังผ้ึงมีประชากรที่มี ต่างๆ ให้พร้อม ส�ำรวจดูว่ามีรังผ้ึงอยู่ที่ใด มีจ�ำนวนรวงเท่าใด เตรียม คุณภาพ โดยบริเวณที่เลี้ยงผึ้งควรหลีกเลี่ยงการใช้ บริเวณท่ีจะจับผ้ึงให้มีความสะดวกต่อการปฏิบัติงาน ไม่มีสิ่งกีดขวาง สารเคมีป้องกันและก�ำจัดศัตรูพืช นอกจากน้ีแหล่ง ท�ำการพ่นควันบริเวณรังผึ้งเพื่อลดความดุของผ้ึงลงและเพื่อให้ท�ำงาน อาหารของผึ้งที่ส�ำคัญ ได้แก่ เกสรดอกไม้และน้�ำหวาน ได้สะดวก ลงมือตัดรวงผ้ึงทีละรวง พร้อมจับนางพญาใส่ที่ขัง แล้วจึงน�ำ ซึ่งผ้ึงจะไปเก็บเกสรจากดอกไม้ต่างๆ เช่น มะพร้าว รวงผ้ึงท่ีมีไข่ หนอน ดักแด้ และรวงอาหาร 1 รวง มาทาบกับคอนที่ ข้าวโพด ไมยราบ กระถินนา งา ปาล์มน�้ำมัน ล�ำไย ขึงลวดไว้ ใช้มีดบากร่องประมาณครึ่งหน่ึงของความหนาของรวง นุ่น เป็นต้น โดยเกสรจากดอกไม้เหล่าน้ีมีสารอาหาร ตามเส้นลวดแล้วดันเส้นลวดเข้าไป เสร็จแล้วใช้เชือกหรือหนังยางรัด ประเภทโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วติ ามิน แร่ธาตุ และ เพื่อปอ้ งกนั รวงผงึ้ หลดุ ออกมา จะเก็บน้�ำหวานจากต่อมน้�ำหวานของพืชชนิดต่างๆ เช่น มะพร้าว เงาะ กาแฟ ล�ำไย ทุเรียน ยางพารา เป็นต้น โดยผึ้งจะน�ำมาบ่มเป็นน้�ำผ้ึงซึ่งจะมีสาร คาร์โบไฮเดรต ท่ีให้พลังงานแก่ผึ้ง นอกจากนี้ ผู้เล้ียงผ้ึงควรตั้งรังผ้ึงใกล้กับแหล่งน�้ำธรรมชาติ หรือจัดหาน�้ำสะอาดให้ผ้ึงไว้ใช้อยู่ตลอดเวลา โดย ผึ้งจะน�ำน้�ำไปเจือจางน้�ำผึ้ง เพ่ือไปเลี้ยงตัวอ่อน และ ช่วยรักษาอณุ หภูมิภายในรังผึง้ อีกด้วย สง่ เสริมการเวกาษรสตารร 31
การระวังศัตรูของผ้ึงโพรงไทย ศัตรูของ ❝ ผ้ึงโพรงไทย แบ่งออกเปน็ 2 จำ� พวก คอื จำ� พวกแรก คือสัตว์ท่ีกินผึ้งเป็นอาหาร ได้แก่ แมงมุม จิ้งจก คนโบราณถือวา่ น้�ำผึง้ เป็นยาอายวุ ัฒนะ ตุ๊กแก คางคก กบ อ่ึงอ่าง ก้ิงก่า จ้ิงเหลน และนก บำ�รุงรา่ งกาย ใช้เปน็ ส่วนผสมของยาแผนโบราณ ตา่ งๆ เชน่ นกก้งิ โครง นกแอน่ ลม นกจาบคา เปน็ ตน้ ประกอบอาหาร และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ สัตว์เหล่านี้จะจับผึ้งกินเป็นอาหาร เม่ือพบในแหล่ง เล้ียงผึ้งให้ก�ำจัดทิ้งหรือไล่ไป และท�ำความสะอาดรัง หลายชนิด เชน่ น�้ำผึง้ สบู่ โลชนั่ อยู่เสมอ และอีกจ�ำพวกคือแมลงศัตรูผึ้ง ได้แก่ หนอนผีเส้ือกินไขผ้ึง (Wax Moth) เป็นศัตรูท่ีส�ำคัญ ❞ ของผ้ึงโพรงและพบในรังผึ้งท่ีอ่อนแอ มีประชากรน้อย ตัวแก่เป็นผีเส้ือกลางคืนชนิดหน่ึง มาวางไข่ในรังผึ้ง ขั้นตอนสุดท้ายการเก็บน้�ำผ้ึง การเก็บน้�ำผ้ึงจะมีวิธีเก็บ 2 วิธี ตัวอ่อนซ่ึงเป็นตัวอ่อนจะไปกัดกินรวงผ้ึงให้เสียหาย ได้แก่ วิธีแรก เป็นการเก็บน�้ำผึ้งจากรังล่อ ผ้ึงจะสร้างรวงอยู่ใต้ฝารัง ป้องกันโดยท�ำให้ประชากรผึ้งแข็งแรง รวมท้ังมด ให้หงายฝารัง ตัดเอาเฉพาะรวงน้�ำผึ้ง ส่วนรวงตัวอ่อนและดักแด้ให้น�ำ ต่างๆ เช่น มดแดง ก็เป็นศัตรูที่จะเข้าไปกัดกิน เข้าคอนแล้วเก็บไว้ในรัง น�ำส่วนท่ีเป็นน�้ำผ้ึงมาสับลงบนตะแกรงกรอง ตัวอ่อนและตัวแก่ผ้ึง รวมทั้งขโมยน้�ำผึ้งในรัง ป้องกัน สแตนเลสเพื่อให้น้�ำผ้ึงไหลออกมา อีกวิธีหน่ึงคือการเก็บน้�ำผึ้งจากรัง โดยการใช้เศษผ้าชุบน�้ำมันเคร่ืองเก่าพันรอบเสา ที่น�ำรวงผ้ึงใส่คอน ให้ตัดเฉพาะส่วนท่ีเป็นน�้ำผ้ึงแล้วน�ำไปสับบนตะแกรง หรอื ขาตง้ั รงั ผง้ึ นอกจากนยี้ งั มแี มลงศตั รผู งึ้ อนื่ ๆ ไดแ้ ก่ เพอื่ ใหน้ �้ำผงึ้ ไหลออกมา ในกรณมี ถี ังสลัด ใหน้ ำ� รวงท่ีมีนำ้� ผึง้ มาปาดไขผึ้ง ตัวต่อ ปลวก และไรวารร์ ัว ท่ีปิดหลอดรวงออกท้ังสองดา้ น แล้วน�ำไปใส่ถังสลัดกรองด้วยตะแกรงกรอง และควรกรองด้วยผ้ากรองอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ได้น้�ำผ้ึงที่สะอาดปราศจาก สงิ่ เจอื ปน แลว้ นำ� ไปบรรจใุ นภาชนะทส่ี ะอาด มฉี ลากทบี่ ง่ บอกรายละเอยี ด ครบถ้วนและสวยงาม คนโบราณถือว่าน�้ำผ้ึงเป็นยาอายุวัฒนะ บ�ำรุงร่างกาย ใช้เป็น ส่วนผสมของยาแผนโบราณ ประกอบอาหาร และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ต่างๆ หลายชนิด เช่น น�้ำผ้ึง สบู่ โลช่ัน เป็นต้น การเล้ียงผ้ึงนอกจาก ผลผลิตหลักอย่างน้�ำผึ้งแล้ว ยังมีผลผลิตอีกอย่างหน่ึงคือไขผึ้ง การเก็บ ไขผ้ึงท�ำได้โดยการน�ำรวงผ้ึงที่เอาน้�ำผ้ึงออกหมดแล้วหรือรวงเก่าท่ีผ้ึง ร้างไปแล้ว ใส่ในภาชนะต้ม โดยใส่น้�ำลงไปพอประมาณ เม่ือไขผึ้ง หลอมละลายแล้วน�ำไปกรองให้ปราศจากสิ่งเจือปน เม่ือเย็นแล้วไขผ้ึง จะแข็งตัวสามารถน�ำไปท�ำผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เช่น เทียน ยาหม่อง ลิปบาลม์ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าการเลี้ยงผึ้งโพรงไทยเป็นอาชีพท่ีน่าสนใจ ไม่น้อย เพราะสามารถสร้างรายได้เสริมหรือรายได้หลักให้แก่ เกษตรกร มีต้นทุนการผลิตต่�ำ เพราะผ้ึงโพรงไทยมีอยู่แล้ว ในธรรมชาติ ไม่ต้องซ้ือ เก็บน้�ำผึ้งคร้ังเดียวก็คุ้มทุน การเล้ียง ผ้ึงโพรงไทย จึงเป็นแนวทางการท�ำการเกษตรที่นอกจาก จะตอบโจทย์ในเร่ืองการสร้างรายได้แล้วยังช่วยอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มควบค่ไู ปอีกด้วย ✤✤✤ 32 วสา่งรเสสารรมิ การเกษตร
DO And Eat เรยี บเรียง : สรุ นนั ท์ หล�ำร้วิ สำ� นกั พัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี ไอศกรีมมะม่วงนำ�้ ปลาหวาน ในช่วงนเ้ี ริม่ มผี ลไม้ออกสู่ท้องตลาดหลากหลายชนดิ โดยเฉพาะมะม่วงทีม่ ีท้งั ผลดิบและผลสุก แต่รอ้ นๆ อย่างนี้ถ้าไดท้ านอะไรเย็นๆ มาช่วยคลายร้อนกค็ งดไี มน่ อ้ ย DO And Eat ฉบบั นี้ชวนมาลองท�ำ “ไอศกรมี มะมว่ งน�ำ้ ปลาหวาน” ทมี่ ีส่วนผสมเพยี งไม่ก่อี ยา่ งกไ็ ด้ไอศกรีมแบบบ้านๆ หวานเยน็ ช่นื ใจไว้ทานแลว้ ไอศกรมี มะม่วงน้ำ� ปลาหวาน สว่ นประกอบ 1. เนื้อมะมว่ งดิบรสเปรย้ี ว-มันตามชอบ 2 ลกู 2. น�้ำมะนาว 2 ช้อนโตะ๊ 3. นมข้นหวาน ½ ถว้ ยตวง 4. นำ้� เชือ่ ม ½ ถ้วยตวง 5. นมสดรสจืด 1 ถว้ ยตวง 6. เกลือ 1 ช้อนชา 7. น�้ำปลาหวานสตู รที่ชอบ 8. กุ้งแหง้ หอมแดงหน่ั แว่น ใบสะระแหน่ สำ� หรับตกแตง่ วธิ ที ำ� 1. หั่นเนอื้ มะม่วงดิบเป็นชนิ้ เลก็ ๆ ใส่ลงในเครอ่ื งปน่ั ตามดว้ ย น้�ำมะนาว นมขน้ หวาน เกลอื น�้ำเชอื่ ม แลว้ ป่นั ใหเ้ ปน็ เนอ้ื เนียน ไมต่ อ้ งละเอียดมาก เสรจ็ แล้วชมิ รสเปร้ยี ว-หวานตามชอบ อาจ เติมน้ำ� เชื่อม เกลอื เพิ่มได้ขึน้ อยู่กบั ความเปร้ียว-มันของเน้ือมะมว่ ง 2. เทสว่ นผสมทีไ่ ด้ใส่ภาชนะ แลว้ นำ� ไปแช่ในชอ่ งแชแ่ ขง็ ของตูเ้ ย็น จนแขง็ ตัวเปน็ ไอศกรีม 3. เมือ่ ไอศกรีมแขง็ ตัวได้ท่ีแล้ว น�ำออกมาจากตเู้ ย็นใช้ชอ้ นขูดใส่ถว้ ย สำ� หรบั เสิรฟ์ 4. ราดไอศกรมี ดว้ ยน้ำ� ปลาหวาน ตกแตง่ ด้วยกุ้งแหง้ หอมแดงหน่ั แว่น ใบสะระแหน่ ✤✤✤
จับตา...ภยั เกษตร เรยี บเรยี ง : กล่มุ พยากรณ์และเตอื นการระบาดศตั รพู ืช กองสง่ เสริมการอารกั ขาพืชและจดั การดนิ ปุ๋ย เฝ้าระวัง... หนอนผเี ส้อื ชอนใบมะเขอื เทศ กรมส่งเสริมการเกษตรเตือนเกษตรกรผู้ปลูกมะเขือเทศ มะเขือ พริก ยาสูบ และ มันฝร่ัง ขอให้หม่ันส�ำรวจแปลงปลูกพืชผักอย่างสม่�ำเสมอ เพื่อเฝ้าระวังหนอนผีเส้ือ ชอนใบมะเขอื เทศเขา้ ท�ำลายสร้างความเสียหายใหก้ บั ผลผลติ หนอนผีเส้ือชอนใบมะเขือเทศ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tuta absoluta เป็น ศัตรูพืชรุกรานร้ายแรงระดับโลก เนื่องจากสามารถท�ำลายสร้างความเสียหายต่อพืชเศรษฐกิจได้ หลายชนิด ซึ่งมพี ืชอาหารหลักเป็นมะเขือเทศ มะเขือ มนั ฝรง่ั พรกิ หวาน ยาสบู และโทงเทงฝรงั่ ส่วนพืชอาหารทางเลือก ได้แก่ ถ่ัว และกะหล�่ำ โดยท่ัวไปหนอนจะเข้าท�ำลายใบเป็นหลัก แต่ก็ สามารถเจาะเข้าท�ำลายผลไดด้ ว้ ย หากระบาดรุนแรงผลผลติ อาจเสียหายได้ 80 - 100 เปอร์เซ็นต์ ตัวเต็มวัยเป็นผีเส้ือกลางคืนวงศ์ Gelechiidae มีถ่ินก�ำเนิดอยู่ในประเทศเปรู ต่อมา ได้มีการระบาดสร้างความเสียหายให้กับแหล่งปลูกมะเขือเทศในหลายประเทศแถบอเมริกาใต้ เป็นอย่างมาก รวมท้ังยังได้สร้างความเสียหายให้กับหลายพ้ืนท่ีในยุโรป ส�ำหรับในทวีปเอเชีย พบการระบาดครั้งแรกท่ีประเทศอินเดียและเนปาล และล่าสุดได้รับยืนยันจากหน่วยงาน World Vegetable Center และ The Center for Agriculture and Bioscience International (CAB) ว่าพบการระบาดของหนอนผีเสื้อชอนใบมะเขือเทศในแถบภาคเหนือของเมียนมาแล้ว ดังน้ัน ประเทศไทยต้องเฝ้าระวังการแพร่กระจายของหนอนผีเส้ือชอนใบมะเขือเทศ เพราะ มีความเส่ียงสูงที่จะติดเข้ามากับผลผลิตและแพร่ระบาดภายในประเทศไทยได้ จึงขอแนะน�ำ ให้เกษตรกรหม่ันส�ำรวจแปลงปลูกพืชท่ีเป็นพืชอาหารท่ีกล่าวมาแล้วอย่างสม่�ำเสมอ หากพบ แปลงมะเขือเทศมีลักษณะการเข้าท�ำลายท่ีแตกต่างไปจากการเข้าท�ำลายของ หนอนชอนใบมะเขือเทศชนิดท่ีมีอยู่ในประเทศไทยให้รีบแจ้งและขอค�ำแนะน�ำจาก เจ้าหน้าที่ส�ำนักงานเกษตรอ�ำเภอ ส�ำนักงานเกษตรจังหวัด เพื่อหาแนวทางการควบคุม และปอ้ งกนั ก�ำจัดกอ่ นเกดิ การระบาดรุนแรง ✤✤✤
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: