Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 3 ทศวรรษ กปร.

3 ทศวรรษ กปร.

Published by E-book Prasamut chedi District Public Library, 2019-07-21 08:41:34

Description: สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงาน
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
(สำนักงาน กปร.)
หนังสือ,เอกสาร,บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อการศึกษาเท่านั้น

Search

Read the Text Version

ชดุ เผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ โครงการอนุรักษ์และฟ้ื นฟู สภาพป่ าบริเวณป่ าสงวนแห่งชาติป่ ากุยบุรีอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ...ให้ดำ�เนนิ การอนรุ กั ษแ์ ละฟนื้ ฟสู ภาพปา่ บรเิ วณป่าสงวนแห่งชาติ กยุ บรุ ี โดยใช้รูปแบบในการฟื้นฟเู ชน่ เดียวกับการดำ�เนินงานของ โครงการศูนยศ์ กึ ษาการพฒั นาห้วยทราย จังหวดั เพชรบุรี และโครงการฟืน้ ฟทู ด่ี ินเสื่อมโทรมเขาชะง้มุ ... พระราชด�ำรสั พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั เมอ่ื วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๔๐ 50 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” การดำ� เนินงานสนองพระราชดำ� ริ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานพระราชดำ� รเิ กยี่ วกบั วธิ กี ารฟน้ื ฟสู ภาพปา่ ในบรเิ วณพนื้ ทโี่ ครงการ หลายคร้ังดว้ ยกัน สรุปได้ดังนี้ การปลกู ป่าโดยไม่ต้องปลกู ปลอ่ ยใหข้ ึ้นเองตามธรรมชาติ ปลกู สบั ปะรดทค่ี ณุ ภาพไมต่ อ้ ง ดนี กั รวมทง้ั พชื ทเี่ หมาะสมอน่ื ๆ เชน่ ออ้ ย เพ่อื เป็นอาหารชา้ งและสัตวป์ ่า สำ� รวจพนื้ ทที่ เ่ี หมาะสมเพ่ือทจ่ี ะท�ำฝายชะลอ น้�ำแบบผสมผสาน พัฒนาท่ีดินโดยใช้หญ้าแฝก ซึ่งมีระบบรากยาว ช่วยอุ้มน�้ำสร้างความชุ่มชื้นได้มาก เน่ืองจากแม่น้�ำ กุยบุรีเป็นแม่น้�ำสายส�ำคัญ แต่มีปริมาณน�้ำน้อยและตื้นเขินในฤดูแล้ง จึงควรพิจารณาจัดหาแหล่งน้�ำเพ่ือให้มีน้�ำ เพ่อื การเกษตรและเพ่ือการใชส้ อยไดต้ ลอดปี ผลสำ� เรจ็ จากการพฒั นา พื้นทีด่ �ำเนนิ โครงการ ๒๒๘,๖๕๖ ไร่ ครอบคลุมพ้ืนท่ีลุม่ นำ้� กุยบุรแี ละพ้ืนท่กี ารเกษตรของราษฎร ๓ หมูบ่ า้ น คอื บ้านรวมไทย บ้านพบุ อน และบ้านยา่ นซ่ือ โดยเนน้ การด�ำเนนิ งาน ๒ ด้าน คือ ด้านการอนุรักษแ์ ละฟื้นฟสู ภาพปา่ และดา้ นการสง่ เสรมิ และพัฒนาอาชีพใหแ้ ก่ราษฎรในพ้นื ที่ ด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่า ได้มีการเพิ่มแหล่งน�้ำในพ้ืนที่ โดยการจัดท�ำฝายชะลอน�้ำแบบผสมผสาน ฝายตน้ นำ�้ ลำ� ธารกง่ึ ถาวร และอา่ งเกบ็ นำ�้ ขนาดเลก็ ไดป้ ลกู ปา่ และดแู ลรกั ษาปา่ จำ� นวน ๑๘,๐๐๐ ไร่ ทส่ี ำ� คญั ไดม้ กี ารสรา้ ง แปลงอาหารชา้ ง โดยการโปรยหวา่ นเมลด็ พันธ์ุพชื ตามเส้นทางเดินช้างป่าเป็นระยะทาง ๔๘ กิโลเมตร พันธพ์ุ ืชทีน่ �ำไป โปรยหวา่ น ได้แก่ มะขามเปรีย้ ว มะเกลอื กระถิน และมะคา่ เปน็ ตน้ รวมท้ังการปลูกหญ้าแฝกเพื่ออนรุ ักษ์ดินและนำ�้ ใน พน้ื ท่ี ๔,๐๐๐ ไร่ ใช้กล้าประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ กลา้ ดา้ นการสง่ เสรมิ และพฒั นาอาชพี ใหแ้ กร่ าษฎร ไดม้ กี ารขดุ บอ่ นำ้� ประจำ� ไรน่ าใหเ้ กษตรกร สง่ เสรมิ การปลกู พชื ผสมผสานและเลยี้ งไหม สง่ เสรมิ การปลกู ผกั ปลอดสารพษิ สง่ เสรมิ การปลกู พชื อาหารสตั ว์ สง่ เสรมิ การเลยี้ งแพะ แจกจา่ ย พันธป์ุ ลาให้เกษตรกร และการจ้างงานเกษตรกรปลูกหญ้าแฝก z 51

ชดุ เผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาส่ิงแวดล้อมแหลมผักเบ้ียอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ อ�ำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตระหนักถึงปัญหาน้�ำเน่าเสียและขยะมูลฝอยท่ีมีมากขึ้นทุกวัน ซ่ึงส่งผล กระทบตอ่ สภาพแวดลอ้ มและการดำ� เนนิ ชวี ติ ของประชาชน ดงั ท่ไี ดพ้ ระราชทานพระราชด�ำรัส เมอ่ื วนั ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๓๕ ความตอนหน่ึงว่า “...ปัญหาส�ำคัญคือ เร่ืองสิ่งแวดล้อม เรื่องน�้ำเสียกับขยะ ได้ศึกษามาแล้วเหมือนกันท�ำ ไม่ยากนกั ในบางเทคโนโลยที ำ� ได้แลว้ ในเมอื งไทยเองก็ทำ� ได้... แลว้ กต็ อ้ งท�ำการเวยี นซ้�ำ การกรองนำ�้ ใหท้ ำ� น้ำ� น้นั ไมใ่ หโ้ สโครก แลว้ ปลอ่ ยนำ�้ ลงมา ทเี่ ปน็ ทท่ี ำ� การเพาะปลกู ... หลงั จากนน้ั ทเ่ี หลอื กจ็ ะลงทะเลโดยไมท่ ำ� ใหน้ ำ้� นนั้ เสยี ...” การด�ำเนินงานสนองพระราชดำ� ริ โครงการฯ ได้ด�ำเนินงานสนองพระราชด�ำริ โดยการ ศึกษาและวิจัยเพื่อหาวิธีการในการแก้ไขปัญหาน�้ำเสียและก�ำจัด ขยะมูลฝอย รวมถึงการฟื้นฟูสภาพป่าชายเลน โดยเน้นการใช้ กระบวนการธรรมชาติ ๔ วิธี คอื การใชร้ ะบบบอ่ ผง่ึ บำ� บัดน�ำ้ เสีย การใช้ระบบกรองน�้ำเสียด้วยหญ้า การใช้ระบบบ�ำบัดน�้ำเสีย โดยใชพ้ น้ื ทชี่ มุ่ นำ้� เทยี ม และการใชร้ ะบบบำ� บดั นำ�้ เสยี โดยใชแ้ ปลง ป่าชายเลน ผลส�ำเร็จจากการพฒั นา ในวนั นี้ เปน็ ทปี่ ระจกั ษแ์ ลว้ วา่ โครงการศกึ ษาวจิ ยั และพฒั นาสง่ิ แวดลอ้ มแหลมผกั เบยี้ ฯ สามารถบำ� บดั นำ้� เสยี และมกี ารพฒั นารปู แบบการกำ� จดั นำ้� เสยี และขยะอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและเหมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ ม รกั ษาสมดลุ ทาง ธรรมชาติให้กลับสู่สภาวะปกติได้ดังเดิม และยังท�ำให้แนวชายหาดที่ถูกกัดเซาะกลับงอกเพ่ิมขึ้นนับพันไร่ โครงการนี้ จึงเป็นโครงการต้นแบบการพัฒนาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้แก่พ้ืนท่ีอื่นๆ ท่ีมีลักษณะคล้ายคลึงกันได้น�ำไปปรับใช้ ซงึ่ มอี งคก์ รและหนว่ ยงานทอ้ งถน่ิ ตา่ งๆ ทว่ั ประเทศไดน้ อ้ มนำ� แนวพระราชดำ� รนิ ไี้ ปใชจ้ รงิ ในพน้ื ทแ่ี ละประสบความสำ� เรจ็ ในการบ�ำบดั น้�ำเสียและกำ� จัดขยะอย่างมากมาย 52 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการแก้มลิง กรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานครประสบปัญหาน้�ำท่วมหลายคร้ังหลายครา โดย เฉพาะช่วงฤดูน้�ำหลากในเดอื นกันยายนถึงพฤศจิกายน ซงึ่ เหน็ ได้ชดั เจนในปี ๒๕๒๓ และ ปี ๒๕๒๖ เมื่อฝนตกหนักมากบริเวณพื้นท่ีรอบนอก กรุงเทพมหานคร การระบายน้�ำในแม่น�้ำเจ้าพระยาไม่สามารถด�ำเนินการได้ ทนั การณ์ ประกอบกบั เครอ่ื งมอื ทย่ี งั ไมพ่ รอ้ ม จงึ ทำ� ใหพ้ น้ื ทดี่ า้ นตะวนั ออกของ กรงุ เทพมหานคร ในเขตบางกะปิ เขตห้วยขวาง และเขตบางเขนเกิดน�ำ้ ท่วม ส่งผลให้บ้านเรอื นได้รับความเสยี หายอยา่ งมาก แนวพระราชดำ� รใิ นการแก้ปัญหา ภาพฝพี ระหัตถ์โครงการแก้มลิง แนวพระราชดำ� รใิ นการปอ้ งกนั นำ�้ ทว่ มในพน้ื ทกี่ รงุ เทพฯ และปรมิ ณฑล ทท่ี รงเรยี กวา่ “แกม้ ลงิ ” นน้ั ไมม่ รี ะบุ ในต�ำราใดมาก่อน แต่เป็นพระราชวินิจฉัยและทรงสังเกตจากพฤติกรรมการกินอาหารของลิง เมื่อลิงเค้ียวอาหารแล้ว จะยงั ไมก่ ลนื ลงไป แตจ่ ะเกบ็ ไวท้ ก่ี ระพงุ้ แกม้ ทงั้ สองขา้ งกอ่ น แลว้ จงึ คอ่ ยๆ ดนุ มากนิ ในภายหลงั เชน่ เดยี วกบั วธิ กี ารผนั นำ้� จากแมน่ ำ�้ เจา้ พระยา หรอื จากคลองซอยตา่ งๆ เมอื่ จงั หวะนำ�้ ทะเลหนนุ สงู ใหน้ ำ� นำ�้ ไปเกบ็ กกั ไวใ้ นบงึ นำ้� ขนาดใหญท่ อี่ ยใู่ กล้ พนื้ ทชี่ ายทะเล โดยมปี ระตนู ำ้� ขนาดใหญท่ ำ� หนา้ ทป่ี ดิ - เปดิ เพอื่ รบั นำ้� ในจงั หวะนำ�้ ขนึ้ และระบายนำ้� ออกในจงั หวะนำ�้ ลง ผลสำ� เร็จจากการพฒั นา แกม้ ลงิ เปน็ การสรา้ งบอ่ พกั นำ�้ เพอื่ รองรบั นำ�้ ทไี่ หลมาตามคคู ลองใหพ้ กั อยใู่ นบอ่ กอ่ น เมอ่ื ระดบั นำ้� ทะเลลดตำ�่ ลง จึงค่อยๆ ระบายน�้ำออกไปทีหลัง ขณะเดียวกันคูคลองต่างๆ น้ีจะต้องมีการขุดลอกอยู่เสมอเพ่ือไม่ให้เกิดการตื้นเขิน ใหน้ ้�ำสามารถไหลผ่านได้สะดวก โดยทรงใหด้ �ำเนนิ โครงการแกม้ ลงิ ในเขตกรงุ เทพฯ ไดแ้ ก่ โครงการแกม้ ลงิ ฝงั่ ตะวนั ออก และฝั่งตะวันตกของแม่น�้ำเจ้าพระยา และโครงการแก้มลิงนอกเขตกรุงเทพฯ ที่เอ้ือประโยชน์แก่พ้ืนท่ีในเขตกรุงเทพฯ ไดแ้ ก่ โครงการแก้มลงิ แมน่ ำ้� ท่าจนี ตอนลา่ ง โครงการแก้มลงิ คลองมหาชัย-สนามชยั และโครงการแก้มลงิ คลองสุนขั หอน หลกั ๓ ประการท่ที �ำใหโ้ ครงการแกม้ ลงิ ประสบความสำ� เร็จ คือ ๑) การเลอื กสถานทที่ จ่ี ะท�ำหนา้ ทเ่ี ปน็ บอ่ พักและวธิ กี ารชักน�ำน้ำ� ท่วมไหลเข้าส่บู ่อพักนำ้� ๒) เสน้ ทางน�้ำไหลที่สะดวกต่อการระบายน�ำ้ เขา้ สแู่ หลง่ ท่ที ำ� หนา้ ทบ่ี อ่ พักน�้ำ ๓) การระบายน�้ำออกจากบอ่ พักนำ้� ต้องเปน็ ไปอย่างต่อเนื่อง z 53

ชดุ เผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ โอคันรเนง่ือกงามราศจึกาษกาพวริธะีกราาชรดฟ�ำื้ นริฟอู �ำพเภ้ืนอทโ่ีดพินธเาสร่ือามมโจทังรหมวเัขดารชาชะงบุ ุ้มรี สภาพพ้ืนท่ีดินมีความเส่ือมโทรมจนเกือบใช้ประโยชน์ไม่ได้ เป็น ดนิ แขง็ ดนิ หินลกู รงั ทม่ี ีสาเหตุมาจากการใช้ดนิ ผิดวิธี ซึ่งแต่เดิมบริเวณนี้เป็น ฟารม์ ปศสุ ตั วแ์ ละมีการขุดดนิ ลูกรังไปใช้ประโยชน์ การด�ำเนนิ งานสนองพระราชดำ� ริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชด�ำริท่ีเรียบง่ายเพ่ือฟื้นฟูสภาพพื้นท่ีที่เสื่อมโทรม ด้วย วธิ ีการไมเ่ ขา้ ไปย่งุ หรือเขา้ ไปรบกวนพื้นท่ปี ่าอยา่ งนอ้ ย ๕ ปี เพ่ือใหป้ า่ ไม้ไดเ้ จรญิ เตบิ โตอย่างอิสระเป็นไปตามธรรมชาติ ท�ำให้พันธุ์ไม้และพืชพรรณต่างๆ ที่ถูกท�ำลายได้มีโอกาสฟื้นตัว ค่อยๆ เจริญเติบโต แตกหน่อแตกกอ ระบบนิเวศของ สงิ่ มชี วี ติ เกดิ ขนึ้ และสามารถเกอื้ กลู กนั ทงั้ ไมเ้ ลก็ ๆ ทข่ี น้ึ คลมุ ดนิ ทำ� ใหเ้ กดิ ความชมุ่ ชนื้ ไมย้ นื ตน้ ตา่ งๆ เจรญิ เตบิ โตใหร้ ม่ เงา เมอ่ื ปล่อยทงิ้ ไวจ้ ะท�ำให้มตี น้ ไม้ ทงั้ ขนาดเล็กและขนาดกลางเกดิ ขน้ึ มากมายในพืน้ ทีก่ ลายเป็นปา่ เบญจพรรณในทส่ี ุด “...เร่อื งตน้ ไมข้ ้นึ เอง มอี ีกแหง่ ที่ท่านทง้ั หลายก็ควรจะไปได้ เพราะไปง่าย คอื โครงการเขาชะงมุ้ ทจ่ี ังหวัด ราชบรุ ี ทตี่ รงนนั้ อยใู่ กลภ้ เู ขา เปน็ ทท่ี ปี่ า่ เสยี ไปเปน็ ปา่ เสอื่ มโทรม ทเ่ี รยี กวา่ ปา่ เสอื่ มโทรมเพราะมนั ไมม่ ตี น้ ไม้ ไมม่ ชี น้ิ ดี เร่มิ ท�ำโครงการน้ันมาประมาณ ๗ ปเี หมือนกัน ไปดเู ม่อื สัก ๒ ปี หลงั จากทิง้ ปา่ น้ันไว้ ๕ ปี ตรงนนั้ ไม่ได้ท�ำอะไรเลย แต่ป่าเจริญเติบโตข้ึนมาเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ไม่ต้องไปปลูกสักต้นเดียว คือว่าการปลูกป่านี้ส�ำคัญอยู่ที่ปล่อยให้เขา ขึ้นได้ คืออย่าไปตอแยต้นไม้ อย่าไปรังแกต้นไม้ เพียงแต่ว่าคุ้มครองเขาหน่อย เขาข้ึนเอง... ถ้าพูดเรื่องปลูกป่าน้ี จะยดื ยาวมาก ไมม่ สี นิ้ สดุ แตจ่ ะตอ้ งอธบิ ายอยา่ งนว้ี า่ ถา้ ไดเ้ ลอื กทท่ี เ่ี หมาะสม แลว้ กท็ ง้ิ ใหอ้ ยอู่ ยา่ งนนั้ โดยไมไ่ ปรงั แก ป่าต้นไม้กจ็ ะขนึ้ เอง...” พระราชด�ำรสั วันท่ี ๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ ผลส�ำเรจ็ จากการพัฒนา ผลจากการด�ำเนนิ งานสนองพระราชดำ� ริ ท�ำใหส้ ภาพพน้ื ท่ีแต่เดิมซ่ึงเปน็ พ้ืนที่ปา่ เตง็ รังท่ีเสอื่ มโทรมท่ีเกิดจาก บกุ รกุ ทำ� ลายจนเปน็ เขาหวั โลน้ ดนิ กลายเปน็ ดนิ ลกู รงั และกรวดดนิ สภาพอากาศแหง้ แลง้ ไมม่ แี หลง่ นำ�้ ธรรมชาตใิ นพน้ื ท่ี กลายเป็นพนื้ ที่ที่มไี มใ้ หญ่ปกคลุม สัตว์ปา่ กลบั เขา้ มาอาศยั เพมิ่ มากขึน้ ท�ำให้ทรพั ยากรธรรมชาติในพื้นทแี่ หง่ นกี้ ลบั มามี ความอุดมสมบรู ณม์ ากขึ้น 54 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการห้วยโสมงอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรีประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติมาโดยตลอด ในช่วงฤดูฝนเกิดอุทกภัยสร้างความเสียหาย ท้ังพ้ืนท่ีอยูอ่ าศัย พื้นทท่ี ำ� กนิ พืน้ ที่การเกษตร และการประมง สว่ นในฤดแู ลง้ เกิดฝนท้ิงชว่ ง ขาดแคลนน�ำ้ ไมส่ ามารถ ท�ำการเกษตรได้ และปญั หาได้ทวีความรุนแรงมากขนึ้ มากขึน้ เรอื่ ยๆ จากความรนุ แรงของปญั หาภยั ธรรมชาตใิ นปี ๒๕๒๑ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานพระราชดำ� ริ ให้พิจารณาสรา้ งเขื่อนเก็บกกั นำ้� ๓ เข่อื น คือ เขื่อนห้วยพระปรง เขือ่ นห้วยยาง และเขอ่ื นห้วยโสมง เพอื่ ใหร้ าษฎรมีน�ำ้ ใชส้ ำ� หรับการเพาะปลูกไดท้ ้งั ในฤดฝู นและฤดแู ลง้ รวมทง้ั นำ้� เพ่ือการอุปโภคบรโิ ภคไดต้ ลอดปี ...โครงการพัฒนาท่รี าบเชงิ เขา จงั หวดั ปราจีนบุรี – จงั หวดั สระแก้ว เช่น โครงการอา่ งเกบ็ น้ำ� พระปรง อา่ งเกบ็ น�ำ้ หว้ ยสะโตน อ่างเก็บน�้ำท่ากระบาก และอ่างเก็บนำ้� อืน่ ๆ เป็นโครงการทีด่ มี าก ทำ�ให้มปี ริมาณน�้ำในเขื่อนเพิ่มมากขน้ึ และผลทไี่ ด้รบั เพม่ิ เติมกค็ ือ ทำ�ให้ทด่ี ินมีการพฒั นาตามมาด้วย... พระราชดำ� รสั พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั เม่ือวนั ท่ี ๓๐ เมษายน ๒๕๔๔ z 55

ชดุ เผยแพร่องคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ การสนองพระราชดำ� ริ โครงการอ่างเก็บน�้ำห้วยโสมงฯ ตั้งอยู่ในเขตบ้านแก่งยาว ต�ำบลแก่งดินสอ อ�ำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เปน็ โครงการทอี่ ยใู่ นระหวา่ งการกอ่ สรา้ ง มลี กั ษณะเปน็ เขอ่ื นดนิ คาดวา่ จะแลว้ เสรจ็ ในปี ๒๕๖๑ เปน็ แหลง่ นำ�้ ขนาดใหญ่ มีความจุในระดับเก็บกัก ๒๙๕ ล้านลกู บาศกเ์ มตร ช่วยบรรเทาอุทกภัยในพืน้ ที่ลุ่มน�ำ้ ปราจนี และลุ่มน�ำ้ บางปะกงตอนบน ทเ่ี กิดขน้ึ ทกุ ปี และสามารถส่งน้�ำเพ่อื การเกษตรในเขตชลประทานไดต้ ลอดทง้ั ปี สามารถเก็บกกั นำ�้ ได้ ๒๙๕,๐๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพืน้ ท่ีใช้ประโยชน์ ๑๑๑,๓๐๐ ไร่ ของต�ำบลแกง่ ดนิ สอ อำ� เภอนาดี ตำ� บลเมอื งเกา่ ต�ำบลบ่อ ทอง และตำ� บลบ้านนา อ�ำเภอกบินทรบ์ ุรี จังหวัดปราจีนบุรี ในอนาคตอ่างเก็บน�้ำห้วยโสมงฯ จะเป็นแหล่งน้�ำส�ำคัญเพื่อการอุปโภคบริโภค มีน�้ำต้นทุนในการรักษา ระบบนเิ วศ ผลักดันน�ำ้ เคม็ น้ำ� เนา่ เสียในแมน่ ้�ำปราจนี บุรีและแม่น�้ำบางปะกง เป็นแหลง่ ขยายและเพาะพนั ธป์ุ ลานำ้� จดื เป็นแนวป้องกันการบุกรุกท�ำลายป่าในพ้ืนที่มรดกโลก เป็นแหล่งน้�ำให้สัตว์ป่าและให้ความชุ่มชื้นแก่พืชพรรณไม้ต่างๆ รวมทง้ั เปน็ แหลง่ นำ้� สำ� รองสำ� หรบั การดบั ไฟปา่ ซงึ่ เกดิ ขน้ึ เปน็ ประจำ� ตลอดจนเปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วเชงิ นเิ วศทช่ี มุ ชนสามารถ ใช้เปน็ แหลง่ เกบ็ เกี่ยวรายไดจ้ ากการทอ่ งเทยี่ วเชิงนเิ วศไดอ้ ยา่ งย่งั ยืน 56 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการพฒั นาพนื้ ท่บี รเิ วณวดั มงคลชัยพฒั นาอนั เน่อื งมาจากพระราชดำ� ริ อำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ จังหวัดสระบุ รี ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่เกษตรกรต้องประสบภัย ธรรมชาติอยู่อย่างต่อเน่ืองมายาวนาน ทั้งน้�ำท่วม ฝนแล้ง และมีความเส่ียง ท่เี กษตรกรพบเปน็ ประจำ� ไดแ้ ก่ ราคาพชื ผล โรคระบาดของพชื แมลงศัตรูพืช การขาดแคลนแรงงาน การสูญเสียที่ดนิ ทำ� กนิ และการเป็นหนี้ เปน็ ตน้ ซึง่ สง่ ผล ให้เกษตรกรไม่สามารถพง่ึ ตนเองไดแ้ ละมีชีวิตความเป็นอยู่ทีท่ ุกขย์ ากล�ำบาก จากปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานแนวทางแกไ้ ข ซงึ่ ตอ่ มาไดพ้ ระราชทานพระราชดำ� รสั เพือ่ นำ� ไปทดลองแกป้ ญั หา ความวา่ “...วิธีการแกไ้ ขคือ ตอ้ งเกบ็ น้�ำฝนที่ตกลงมา ก็เกดิ ความคิดวา่ อยากทดลองดสู กั ๑๐ ไร่ ๓ ไร่จะเป็นบอ่ น้ำ� เก็บฝน ...อีก ๖ ไร่ทำ� เปน็ ท่ีนา ส่วนท่เี หลือกเ็ ปน็ บรกิ ารหมายถึงทางเดินหรือกระตอ๊ บ...” บรเิ วณทใ่ี หท้ รงทดลองแนวพระราชดำ� รนิ ี้ คอื พนื้ ทบี่ รเิ วณวดั มงคลชยั พฒั นา จงั หวดั สระบรุ ี ไดจ้ ดั ทำ� เปน็ แปลง สาธติ ปลกู พชื ตา่ งๆ ทง้ั ไมผ้ ล ไมด้ อก ทำ� นาขา้ ว ขดุ สระเลยี้ งปลา และนค่ี อื จดุ เรมิ่ ตน้ ของการบรหิ ารจดั การพน้ื ทดี่ นิ ขนาด เลก็ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ทที่ รงเรยี กวา่ “ทฤษฎีใหม”่ นอกจากนี้ ได้พระราชทานพระราชด�ำริเพิ่มเติมใน เรอ่ื งการจดั การนำ�้ เพอ่ื สนบั สนนุ ใหเ้ กษตรกรมนี ำ้� ใชอ้ ยา่ งพอเพยี ง โดยการเตมิ นำ้� ใหแ้ กส่ ระนำ�้ ประจำ� ไรน่ าของเกษตรกร ซงึ่ หลกั การนี้ ได้ถูกขนานนามว่า “อา่ งใหญ่เติมอ่างเล็ก อา่ งเล็กเตมิ สระ” ผลส�ำเรจ็ จากการพัฒนา แนวพระราชด�ำริทฤษฎีใหม่ พร้อมด้วยผังจ�ำลองทฤษฎีใหม่และผังระบบชลประทาน ซ่ึงเป็นต้นแบบในการ บริหารจัดการน�้ำและท่ีดินให้เกิดประโยชน์ ส่งผลให้ประชาชนสามารถด�ำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างพอมีพอกินตามอัตภาพ ไม่อดอยาก ไม่เดือดร้อน สามารถพ่ึงตนเองได้ และพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางแห่งความพอเพียง น�ำไปสู่ ความสุข ความม่นั คงและความยัง่ ยืน z 57

ชุดเผยแพรอ่ งค์ความรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ โครงการพระราชดำ� รทิ างคขู่ นานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี และ สะพานพระราม ๘ กรุงเทพมหานคร ด้วยสภาพปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานครท่ีติดขัด ประชาชนประสบความเดือดร้อนในการสัญจร เดินทางเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างย่งิ เสน้ ทางเชอื่ มตอ่ ระหวา่ งฝั่งพระนครกับฝั่งธนบรุ ี สะพานกรุงธนบุรีและสะพาน สมเด็จพระปิน่ เกล้าไมส่ ามารถรองรับปรมิ าณการจราจรที่เพิ่มมากขนึ้ ทุกวันได้ การด�ำเนนิ สนองพระราชดำ� ริ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานแนวพระราชดำ� รใิ นการเพมิ่ ผวิ การจราจร เส้นทางคมนาคม รวม ถึงการสร้างสะพาน เพื่อเพิ่มจุดเช่ือมต่อการจราจรให้สะดวกและคล่องตัวย่ิงข้ึน ได้พระราชทานแผนที่การก่อสร้าง ทางคู่ขนานท่ีทรงร่างด้วยลายพระหัตถ์แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อก่อสร้างทางคู่ขนานลอยฟ้าจากแยกอรุณอัมรินทร์ ไปจนถงึ แยกพุทธมณฑลสาย ๒ ในส่วนสะพานพระราม ๘ น้ัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงชี้แนะว่าควรก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้�ำ เจ้าพระยาเพ่ิมขึ้นอีก ๑ แห่ง บริเวณถนนอรุณอัมรินทร์ไปเชื่อมกับถนนวิสุทธิกษัตริย์ เพ่ือรองรับการจราจรท่ีเพ่ิม มากขึ้นจากการเปิดใช้เส้นทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี รวมท้ังเพิ่มจุดเชื่อมโยงฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็น จดุ เช่ือมตอ่ โครงข่ายจตรุ ทศิ ด้วย ผลส�ำเรจ็ จากการพัฒนา สะพานพระราม ๘ และทางคขู่ นานลอยฟา้ ถนนบรมราชชนนี เปน็ การเชอื่ มตอ่ โครงขา่ ยถนนวงแหวนโดยรอบ สมบูรณ์มากขึ้น การจราจรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว ขนึ้ ชว่ ยลดปรมิ าณการจราจรทต่ี ดิ ขดั บรเิ วณสะพานกรงุ ธนบรุ แี ละสะพานสมเดจ็ พระปน่ิ เกลา้ ไดม้ าก สง่ ผลใหป้ ระชาชน มีคุณภาพชวี ติ ทีด่ ขี ึน้ ลดความแออัดของชมุ ชนฝงั่ พระนคร และชว่ ยใหป้ ระเทศชาตปิ ระหยัดพลังงานได้อยา่ งมหาศาล 58 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการป่ าสิริเจริญวรรษอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ อ�ำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมอื่ วนั ที่ ๑๒ กนั ยายน ๒๕๓๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ไดพ้ ระราชทานพระราชดำ� รเิ กยี่ วกับงานพฒั นา สรุปได้ดังน้ี ให้พิจารณาจัดท�ำโครงการป่าสิริเจริญวรรษอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ บริเวณเขาชีโอน ติดกับ เขตวดั ญาณสังวราราม ต�ำบลนาจอมเทียน อ�ำเภอสัตหบี จงั หวดั ชลบุรี ซง่ึ มีผู้นอ้ มเกลา้ ฯ ถวายท่ีดินประมาณ ๓๖๐ ไร่ เพื่อเฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินนี าถ เน่ืองในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา ในวันท่ี ๑๒ สิงหาคม ๒๕๓๕ และพ้นื ทีโ่ ดยรอบโครงการปา่ สิริเจริญวรรษ มอี าณาเขตตามแนวสนั เขาสูงทางดา้ น ทศิ เหนอื และใต้ สำ� หรบั ดา้ นทศิ ตะวนั ออกและทศิ ตะวนั ตกใหใ้ ชแ้ นวทพ่ี น้ จากเขตโครงการพอประมาณ จดั ทำ� เปน็ โครงการ ปลกู ปา่ ปรมิ ณฑลตามความเหมาะสม และพระราชทานนามโครงการแหง่ นวี้ า่ “โครงการปา่ สริ เิ จรญิ วรรษอนั เนอ่ื งมาจาก พระราชด�ำริ” (โครงการ+สิริกิต์ิ+เจริญวรรษ) เพื่อดูแลรักษาสวนป่าสิริเจริญวรรษให้มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่ง อนุรักษ์ดินและน้�ำ เป็นการฟื้นฟูสภาพพื้นท่ีป่าเสื่อมโทรมให้กลับฟื้นคืนสภาพป่าท่ีสมบูรณ์ เป็นท่ีอยู่อาศัยของสัตว์ป่า อยา่ งยั่งยืน เปน็ แหล่งทัศนศกึ ษาและทีพ่ กั ผ่อนหย่อนใจของประชาชน ผลสำ� เร็จจากการพัฒนา โครงการปา่ สิรเิ จริญวรรษอนั เนอื่ งมาจากพระราชด�ำริ ซึ่งเร่มิ ดำ� เนิน การตัง้ แต่ ปี ๒๕๓๕ จนถึงปจั จบุ ัน นอกจากปลูกป่าเสรมิ ในพนื้ ทีป่ า่ เสอ่ื มโทรม แล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชนท์ ัง้ ทางตรงและทางอ้อม กล่าวคือ ปอ้ งกันการบกุ รุก ทำ� ลายทรพั ยากรธรรมชาตทิ ย่ี งั คงเหลอื อยใู่ หค้ งอยตู่ ลอดไป เปน็ การอนรุ กั ษด์ นิ แหลง่ ตน้ นำ�้ ลำ� ธาร และระบบนเิ วศวทิ ยาของปา่ ดง้ั เดมิ เปน็ แหลง่ ทอี่ ยอู่ าศยั และ ขยายพนั ธุ์สตั ว์ป่า ตลอดจนเป็นแหล่งพักสตั ว์ปา่ กอ่ นปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เกดิ การจา้ งแรงงานแกร่ าษฎรทอ่ี าศยั อยรู่ อบๆ โครงการฯ และไดใ้ ชป้ ระโยชนใ์ ชส้ อย จากปา่ ของโครงการฯ เปน็ แหลง่ ศกึ ษาธรรมชาติ สำ� หรบั ศกึ ษาหาความรู้ ตลอดจน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และเป็นแหล่งจัดกิจกรรมด้านป่าไม้ของนักเรียน นสิ ิต นักศกึ ษา และประชาชนท่ัวไปในรูปของพิพธิ ภณั ฑ์ธรรมชาตทิ ี่มชี ีวิต z 59

ชุดเผยแพร่องคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ โครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดำ� ริ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ พนื้ ทภ่ี าคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื จำ� นวน ๒๐ จงั หวดั ดงั นี้ กาฬสนิ ธ์ุ ขอนแกน่ ชยั ภมู ิ นครพนม นครราชสมี า บงึ กาฬ บรุ รี มั ย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร รอ้ ยเอด็ เลย ศรสี ะเกษ สกลนคร สรุ ินทร์ หนองคาย หนองบวั ลำ� ภู อ�ำนาจเจรญิ อดุ รธานี และอบุ ลราชธานี พน้ื ทภี่ าคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เปน็ ดนิ แดนทรี่ าบสงู และทงุ่ หญา้ มปี ญั หาทรพั ยากรดนิ เสอื่ มโทรม เปน็ ดนิ ทรายอุ้มน้�ำได้น้อยและมีความเค็มของดิน แหล่งน�้ำตามธรรมชาติมีไม่เพียงพอ ท�ำให้ดินขาดความชุ่มชื้น ส่งผลต่อ การเพาะปลูกพืชได้ผลผลิตไม่ดี โดยเฉพาะพืชหลัก คือ ข้าวและมันส�ำปะหลัง รวมท้ังประสบปัญหาโรคพืช แมลงศตั รพู ชื และโรคระบาดในสตั ว์ ไดแ้ ก่ โค กระบอื เปด็ ไก่ และสกุ ร เปน็ ตน้ ประชาชนจงึ ประสบปญั หารายไดต้ ำ�่ จากปัญหาดังกลา่ วข้างต้น พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ และ พระบรมวงศ์ ไดพ้ ระราชทานพระราชดำ� รใิ นการแกไ้ ขและบรรเทาความเดอื ดรอ้ นใหแ้ กร่ าษฎร โดยไดม้ พี ระราชดำ� ริ พัฒนาด้านน้�ำ ป่า พลังงานทดแทน และอาชีพ จนก่อเกิดเป็นโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริในพ้ืนท่ีภาค ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ถงึ ๑,๑๕๗ โครงการ (กนั ยายน ๒๕๕๘) ซง่ึ สง่ ผลสำ� เรจ็ ตามแนวพระราชดำ� ริ โดยมตี วั อยา่ งดงั น้ี 60 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดสกลนคร จากเอกสารขอ้ มลู สว่ นพระองคท์ ที่ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานแกส่ ำ� นกั งาน กปร. มคี วามตอนหนงึ่ ที่เกีย่ วกบั ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ...ศนู ยศ์ ึกษาการพัฒนาภูพาน อำ�เภอเมอื ง จงั หวดั สกลนคร เดิมเปน็ ปา่ โปร่ง คนไปตดั ไม้สำ�หรับเปน็ ฟนื และใช้พ้ืนท่สี ำ�หรบั ทำ�เกษตรกรรม ป่าไม้ทีอ่ ย่เู หนอื พน้ื ทถ่ี ูกทำ�ลายไปมาก จึงไมม่ นี ้ำ� ในหน้าแล้ง น้ำ� ไหลแรง ในหนา้ ฝน ทำ�ใหม้ กี ารชะลา้ ง (Erosion) หนา้ ดนิ (Top Soil) บางลง และเกลอื ที่อยู่ขา้ งใต้จะขึน้ เปน็ หย่อมๆ... z 61

ชุดเผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ การดำ� เนินงานสนองพระราชด�ำริ จากปญั หาดงั กลา่ วนี้ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านฯ ไดด้ ำ� เนนิ งานสนองพระราชดำ� รเิ พอื่ แกป้ ญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ ดงั นี้ ๑. การส่งเสริมให้มีการบ�ำรุงรักษาและพัฒนาป่าไม้ด้วยระบบชลประทาน เช่น การสร้างอ่างเก็บน�้ำพร้อม ระบบส่งน้ำ� สรา้ งฝายตน้ นำ�้ ลำ� ธาร เพื่อเกบ็ กกั น�้ำไวใ้ ชใ้ นการอุปโภค บรโิ ภค และการเกษตร ๒. การสง่ เสรมิ การปลกู พืชเศรษฐกจิ และน�ำผลผลิตมาแปรรปู เป็นสินค้าเกษตรอตุ สาหกรรม ๓. การสง่ เสรมิ การพฒั นาอาชพี ทางการเกษตรต่างๆ เช่น การปศุสัตวแ์ ละการประมง ๔. การศกึ ษาและทดลองงานพฒั นาการเกษตรทกุ รปู แบบ พร้อมท้ังถ่ายทอดความรูว้ ทิ ยาการเทคโนโลยใี หม่ ตามความเหมาะสม ผลสำ� เรจ็ จากการพัฒนา ดว้ ยแนวพระราชดำ� ริ ทำ� ใหผ้ นื ดนิ ทเ่ี คยแหง้ แลง้ ขาดความสมบรู ณข์ องภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื กลายเปน็ ผนื ดนิ ทอี่ ดุ มสมบรู ณ์ ผนื ปา่ ภพู านมคี วามหลากหลายของสงั คมพชื และระบบนเิ วศทส่ี มบรู ณ์ พบพนั ธไ์ุ ม้ เหด็ ปา่ และสมนุ ไพรปา่ รวมกนั แล้วมากกว่า ๖๐๐ ชนิด สัตวป์ ่ามากกว่า ๑๒๐ ชนดิ และแมลงมากกว่า ๑๒๐ ชนดิ สามารถใชป้ ระโยชน์จาก ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ่มี อี ย่อู ยา่ งยัง่ ยืน ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านฯ มผี ลสำ� เรจ็ จากการศกึ ษาทดลองทโี่ ดดเดน่ ถงึ ๑๙ เรอื่ ง เชน่ การเลยี้ งโคเนอ้ื ภพู าน การเลยี้ งไกด่ ำ� ภพู าน การเลย้ี งสกุ รภพู าน การปลกู ขา้ วพนั ธส์ุ กลนคร การจดั การดนิ เคม็ เพอื่ ปลกู ขา้ ว การจดั การดนิ ลกู รงั เพอื่ ปลูกไมผ้ ล การปลูกยางพารา การแปรรปู ผลติ ภัณฑจ์ ากพชื สมนุ ไพร และการผลิตผ้ายอ้ มคราม เปน็ ต้น ลว้ นแล้วแต่ เปน็ ตวั อยา่ งทด่ี ใี หร้ าษฎรไดม้ โี อกาสและทางเลอื กในการประกอบอาชพี มากขน้ึ เปน็ การลดความเสยี่ งของความไมแ่ นน่ อน ของรายไดจ้ ากการประกอบอาชพี ทำ� ให้มคี ุณภาพชวี ิตท่ดี ขี น้ึ สมดงั พระราชประสงคใ์ นทกุ ประการ 62 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดศรีสะเกษ เม่ือวันท่ี ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จฯ ไปทรงเย่ียมราษฎร บา้ นตะแบง ตำ� บลหว้ ยตกึ๊ ชู อำ� เภอภสู งิ ห์ จงั หวดั ศรสี ะเกษ ทำ� ใหท้ รงพบวา่ ราษฎรมฐี านะยากจน ประสบกบั ภาวะอดอยาก เน่ืองจากฝนท้ิงช่วงติดต่อกันหลายปี ไม่มีน�้ำเพียงพอส�ำหรับการท�ำนาและเพาะปลูก ท�ำให้ราษฎรละทิ้งบ้านเรือนไป ท�ำงานรับจา้ งในถิ่นอื่น และทีส่ ำ� คญั สภาพความยากไร้นี้ ได้ส่งผลให้เดก็ ๆ เกิดภาวะขาดสารอาหารอกี ดว้ ย สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ จึงได้ พระราชทานพระราชด�ำริให้จัดศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ เพอื่ เปน็ ศนู ยก์ ลางในการพฒั นา การฝึกอบรม และใหบ้ ริการทางการเกษตรแกร่ าษฎรอ�ำเภอ ภูสงิ ห์และพ้นื ท่ีใกลเ้ คียง ดังพระราชดำ� รสั ความตอนหนึง่ ว่า ...นา่ จะลองทำ�หมู่บา้ นทำ�สวน ไม่ใชท่ ำ�นา เป็นชา่ งฝมี ือ ก็จะพออยสู่ บายเล้ยี งครอบครวั ได้ แตจ่ ะต้องใช้วิชาการเกษตร สูงในการวางแผนวา่ แตล่ ะช่วงจะปลูกพชื ผลอะไร ซ่ึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวทรงทดลองทำ�อยูท่ ่ภี าคใต้ ขณะน้ีทส่ี คุ ิรนิ (จังหวัดนราธวิ าส) ทรงสนับสนุนให้ทำ�การ เล้ียงสตั ว์ ทำ�การฝมี ือ เช่น แกะสลัก เปน็ ช่างวทิ ย.ุ .. z 63

ชุดเผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ การดำ� เนนิ งานสนองพระราชดำ� ริ ศูนย์พฒั นาการเกษตรภูสงิ หอ์ นั เน่อื งมาจากพระราชด�ำรไิ ดด้ ำ� เนนิ งานสนองพระราชด�ำริ ดังนี้ ดา้ นการเกษตร สง่ เสรมิ ใหเ้ กษตรกรปลกู มะนาวนอกฤดแู ละขา้ วพันธ์ดุ อกมะลิ ๑๐๕ ท่ีมคี ุณภาพดี ไดผ้ ลผลิต เฉลี่ย ๗๖๐ กโิ ลกรมั ต่อไร่ รายได้กว่า ๓๗,๐๐๐ บาทต่อปี ด้านการประมง สง่ เสรมิ การเลีย้ งปลาในกระชงั และในบอ่ พลาสตกิ แบบครัวเรือน ดา้ นการปศสุ ตั ว์ สนบั สนนุ การเลยี้ งไกพ่ น้ื เมอื งลกู ผสม เปน็ ไกท่ เ่ี ลย้ี งงา่ ย โตเรว็ รสชาตดิ ี และราคาสงู ซง่ึ ทำ� ให้ เกษตรกรมโี ปรตีนบรโิ ภคในครัวเรอื นและจ�ำหน่ายเปน็ รายได้เสริมอีกทางหน่งึ ดา้ นส่งเสริมอาชีพ ได้แก่ การฝึกอบรมทกั ษะการทอผ้า ด้านการยกระดบั คุณภาพชวี ิต ไดม้ กี ารปรบั ปรงุ ภาวะโภชนาการ เนอื่ งจากเด็กตั้งแต่แรกเกดิ จนถงึ อายุ ๑๔ ปี อยใู่ นภาวการณข์ าดสารอาหาร ด้านการศกึ ษา ส่งเสริมให้เด็กได้รบั โอกาสทางการศกึ ษาภาคบงั คบั มากขึน้ รวมถงึ การศกึ ษานอกระบบ เพ่ือ ใหส้ ามารถอา่ นและเขยี นภาษาไทย ซงึ่ จะเปน็ พนื้ ฐานสำ� คญั ในการหาความรตู้ อ่ ไป นอกจากน้ี ไดม้ กี ารปรบั ปรงุ ศนู ยอ์ บรม เดก็ กอ่ นเกณฑท์ ดี่ ำ� เนนิ การโดยชาวบา้ น พระและสว่ นราชการ ซง่ึ มงุ่ เนน้ ให้ “บา้ น วดั โรงเรยี น” มบี ทบาทในการพฒั นา ชุมชน ผลสำ� เรจ็ จากการพฒั นา วนั น้ี ชวี ติ ราษฎรในบรเิ วณชายแดนของ จงั หวดั ศรสี ะเกษทเ่ี คยยากไร้ ไดร้ บั การพฒั นาอยา่ ง ค่อยเป็นค่อยไป แปรเปล่ียนไปสู่ความสุขสมบูรณ์ ตามอตั ภาพ ทง้ั น้ี ดว้ ยพระมหากรณุ าธคิ ณุ แหง่ องค์ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ “พระแม่ แห่งแผ่นดิน” ท่ีทรงชุบชีวิตที่แร้นแค้นส้ินหวังให้ กลับงอกงามและอยู่เย็นเป็นสขุ 64 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการทฤษฎีใหม่เขาวง อ�ำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั พระราชทานพระราชด�ำริให้จัดทำ� แปลงสาธิตทฤษฎใี หมข่ น้ึ ทีบ่ า้ นแดนสามคั คี ตำ� บลคมุ้ เก่า เพือ่ เป็นแนวทางในการทำ� การเกษตรแกร่ าษฎร รวมทง้ั ขยายผลการใชป้ ระโยชน์จากแหลง่ น�ำ้ ในเขตพน้ื ที่ โครงการพฒั นาลมุ่ นำ้� ลำ� พะยงั ตอนบนอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รอิ กี ดว้ ย และทส่ี ำ� คญั คอื เพอื่ ใหเ้ กษตรกรเกดิ ความมนั่ คง ในการดำ� เนนิ ชีวิตและพงึ่ ตนเองได้เปน็ ลำ� ดับแรก จากนัน้ จึงเป็นการรวมพลงั ความสามคั คี รว่ มมือกนั เป็นกลมุ่ สหกรณ์ เพื่อให้เกิดพลังการต่อรองกับพ่อค้าคนกลางได้ และในล�ำดับสุดท้ายการได้รับการสนับสนุนแหล่งทุน เพ่ือให้สามารถ กา้ วหนา้ ในการประกอบอาชพี ตอ่ ไป โดยทรงยกตวั อยา่ งทภ่ี าคอสี าน คอื บรเิ วณพนื้ ทบ่ี า้ นกดุ ตอแกน่ ตำ� บลกดุ สมิ คมุ้ ใหญ่ อ�ำเภอเขาวง จังหวดั กาฬสนิ ธ์ุ ซงึ่ ไดพ้ ระราชทานพระราชดำ� รัสในเร่อื งนี้ เมอ่ื วันที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๕ ความว่า “...ถามชาวบ้านท่อี ยนู่ ัน่ วา่ เปน็ อยา่ งไรบ้างปนี ้ี เขาบอกวา่ เก็บข้าวได้ แล้วข้าวกอ็ ยู่ตรงนัน้ กองไว้ เราก็ ไปดูข้าว ข้าวน้นั มีรวงจรงิ แตไ่ ม่มเี มล็ด หรือรวงหน่งึ มีซกั สองสามเมล็ด กห็ มายความว่า ๑ ไร่ คงได้ประมาณซกั ถงั เดียวหรือไม่ถึงถังต่อไร่ ถามเขาท�ำไมเป็นอย่างนี้ เขาบอกว่าเพราะไม่มีฝน เขาปลูกกล้าไว้แล้วเมื่อขึ้นมาก็ปักด�ำ ปกั ดำ� ไม่ไดเ้ พราะไมม่ ีนำ�้ กป็ ักในทรายทำ� รใู นทรายแล้วปกั ลงไป เมื่อปกั แล้วตอนกลางวันก็เฉามันงอลงไป แตต่ อน กลางคืนก็ต้ังตัวต้ังตรงข้ึนมา เพราะมีน้�ำค้าง แล้วในที่สุดก็ได้รวงแต่ไม่มีข้าวเท่าไรอันนี้เป็นบทเรียนท่ีดี...แสดงให้ เห็นว่า ข้าวน้ีเป็นพืชท่ีแข็งแกร่งมากขอให้ได้มีน้�ำค้างก็พอ แม้จะเป็นข้าว ธรรมดาไมใ่ ชข่ า้ วไร่ ถา้ หากวา่ เราชว่ ยเขาเลก็ นอ้ ยกส็ ามารถทจี่ ะไดข้ า้ วมากขน้ึ หนอ่ ยพอทจ่ี ะกนิ ฉะนนั้ โครงการทจ่ี ะทำ� มใิ ชจ่ ะตอ้ งทำ� โครงการใหญโ่ ตมากนกั จะได้ผล ท�ำเล็กๆ ก็ได้ จึงเกิดความคิดข้ึนมาว่าในท่ีเช่นน้ัน ฝนดีพอสมควร แต่ลงมาไม่ถูกระยะเวลา...ฝนกท็ ้ิงชว่ ง ขา้ วกไ็ ม่ดี...” ในเวลาตอ่ มา ไดพ้ ระราชทาน “ทฤษฎใี หม่” เพื่อเปน็ แนวทางในการทำ� การเกษตรสำ� หรับเกษตรกรทม่ี พี นื้ ท่ี ท�ำกินนอ้ ย โดยเฉลยี่ ๑๐-๑๕ ไรน่ ำ� มาแบ่งออกเป็นสัดส่วน คอื ส่วนแรก ร้อยละ ๓๐ ให้ขุดสระกักเก็บนำ้� ไว้ใชใ้ นการ เพาะปลกู ไดต้ ลอดทงั้ ปี และยงั สามารถเลยี้ งปลาและปลกู พชื รมิ สระเพม่ิ รายไดใ้ หแ้ กเ่ กษตรกร สว่ นทส่ี อง รอ้ ยละ ๓๐ ให้ ท�ำนาขา้ ว ส่วนทีส่ าม ร้อยละ ๓๐ ใหป้ ลูกพชื ไร่ หรอื พืชสวน ตามแต่สภาพพื้นทีแ่ ละภาวะตลาด ส่วนที่ส่ี ร้อยละ ๑๐ จัด เปน็ ทอ่ี ยอู่ าศยั ถนนหนทาง คนั คดู นิ หรอื คคู ลอง ตลอดจนปลกู พชื สวนครวั และเลยี้ งสตั ว์ การแบง่ สดั สว่ นการใชป้ ระโยชน์ ทด่ี นิ นี้สามารถยืดหยนุ่ และปรบั ให้เหมาะสมได้ เพ่อื ให้เกดิ ประโยชนส์ งู สุด z 65

ชดุ เผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ โครงการพัฒนาลุ่มน้�ำก่�ำอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดสกลนคร - จังหวัดนครพนม ลำ� นำ�้ กำ�่ มตี น้ นำ�้ มาจากเขตปา่ สงวนแหง่ ชาตภิ พู าน ไหลลงสหู่ นองหาน จงั หวดั สกลนคร และเปน็ ลำ� นำ้� ทค่ี ดเคยี้ ว ทอดยาวผ่านหลายอำ� เภอไปบรรจบกบั แม่น้ำ� โขงทต่ี ำ� บลนำ�้ ก่ำ� อ�ำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม รวมความยาวมากกวา่ ๑๒๐ กิโลเมตร ซ่ึงโดยปกติจะมนี ้�ำไหลอย่ตู ลอดปี แตม่ ีความแตกตา่ งในแตล่ ะช่วงฤดู คือ ในฤดูฝนจะมีปริมาณน้�ำมาก จนเกิดเป็นอุทกภัย น้�ำท่วมท้ังสองฝั่งล�ำน้�ำ ไร่นา พืชผลเสียหาย ส่วนในฤดูแล้งมีปริมาณน้�ำน้อย ขาดแคลนน้�ำในการ เพาะปลูกและไมเ่ พียงพอตอ่ การอปุ โภคบรโิ ภค ราษฎรในบริเวณพืน้ ทแี่ ห่งนีเ้ ดือดรอ้ นเปน็ อย่างมาก การดำ� เนนิ งานสนองพระราชดำ� ริ โครงการพฒั นาลมุ่ นำ้� กำ�่ อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ เปน็ โครงการทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงทมุ่ เทเวลา และทรงใช้พระอัจฉริยภาพ เพ่ือหาแนวทางแก้ไขปัญหาน�้ำแล้งและน้�ำท่วมพ้ืนท่ีท�ำกินของราษฎรตามแนวสองฝั่งของ ล�ำน้ำ� กำ่� ทรงวาดภาพร่างแนวพระราชดำ� ริในการพฒั นาท่แี หง่ นี้ และทรงเรยี กวา่ “ตัวยกึ ยือ” ซ่งึ ได้ดำ� เนนิ งาน ดังน้ี ๑. ขดุ ลอกหนองนำ�้ ทงั้ ขนาดเลก็ และขนาดใหญ่ รวม ๑๕ แหง่ สามารถเกบ็ กกั นำ�้ ไดม้ ากกวา่ ๑๕ ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร เพื่อบรรเทาปญั หานำ้� ท่วมในฤดฝู นและเป็นแหล่งเก็บน้�ำไว้ใช้ในชว่ งฤดแู ลง้ ๒. สรา้ งประตรู ะบายนำ้� ๗ แหง่ เพอ่ื เกบ็ กกั นำ้� ไวส้ ำ� หรบั การชลประทานมากกวา่ ๕๒ ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร และ เป็นกลไกบริหารจัดการน�้ำในชว่ งฤดูฝน ๓. สรา้ งสถานีสูบนำ�้ ดว้ ยไฟฟ้า พรอ้ มระบบส่งนำ�้ ๒๖ แหง่ เพ่ือสง่ น�ำ้ เขา้ สพู่ ้นื ทีก่ ารเกษตรโดยตรงประมาณ ๔๒,๐๐๐ ไร่ ผลสำ� เร็จจากการพัฒนา ภาพฝพี ระหัตถ์โครงการพฒั นาล่มุ น�ำ้ ก่�ำ “ภาพยกึ ยอื ” ทมี่ สี ว่ นหวั อยทู่ หี่ นองหาน หนองนำ�้ จดื ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ ของภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื สว่ นลำ� ตวั เปน็ ปลอ้ งๆ ทอดยาวเลอ้ื ยลงแมน่ ำ�้ โขงนน้ั คอื ประตรู ะบายนำ�้ ทจ่ี ะกกั กนั้ นำ้� ในลำ� นำ�้ กำ�่ ไวใ้ ชใ้ นฤดแู ลง้ ซง่ึ สามารถเกบ็ กกั นำ้� ได้ประมาณ ๔๙ ลา้ นลกู บาศก์เมตร ส่งผลให้พนื้ ที่การเกษตรท่ีอยสู่ องฝั่งล�ำนำ้� ก�ำ่ กว่า ๑๖๕,๐๐๐ ไร่ สามารถเพาะปลูก พชื ไดอ้ ย่างเตม็ ท่ี ราษฎรทอี่ ยูบ่ รเิ วณใกลห้ นองน�้ำสามารถใชน้ ำ�้ เพือ่ การอุปโภคบริโภค การเกษตร หรือเลย้ี งสัตว์ได้ ดว้ ยพระปรชี าสามารถและความตง้ั พระราชหฤทยั ในการบรรเทาความทกุ ขย์ ากเดอื ดรอ้ นทรี่ าษฎรตอ้ งเผชญิ กบั ภยั ธรรมชาติ ทั้งนำ�้ แลง้ และนำ�้ ท่วม ให้มีน้�ำใช้อย่างพอดี ในวนั น้ี แนวพระราชดำ� ริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ได้ ประสบผลแลว้ ด้วยความสขุ ของราษฎรทสี่ ามารถทำ� การเกษตร เพาะปลกู พชื ตา่ งๆ และได้เลย้ี งสัตว์ มรี ายไดท้ ่มี น่ั คงขน้ึ 66 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการพัฒนาลุ่มน้�ำล�ำพะยังอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ต�ำบลสงเปลือย อ�ำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ ์ เม่ือปี ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรอ�ำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงท�ำให้ทรงรับทราบถึงปัญหาความทุกข์ยากของราษฎรท่ีท�ำนาแล้วกลับได้เมล็ดข้าวที่ลีบเล็ก เพราะไม่มีแหล่ง น�้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชด�ำริเมื่อปี ๒๕๓๘ ให้สร้างอ่างเก็บน�้ำล�ำพะยังตอนบน และ ได้พระราชทานพระราชด�ำริเพิ่มเติมในการขยายพื้นท่ีส่งน้�ำ พร้อมทั้งให้มีการขุดสระเก็บน�้ำประจ�ำไร่นาของเกษตรกร รวมถงึ การผนั นำ�้ ผา่ นอโุ มงคแ์ ละระบบทอ่ จากอา่ งเกบ็ นำ�้ หว้ ยไผ่ ซงึ่ อยจู่ งั หวดั มกุ ดาหารมาเตมิ ใหพ้ นื้ ทลี่ มุ่ นำ้� ลำ� พะยงั ตอนบน เพือ่ ขยายพื้นทร่ี ับน�ำ้ ชลประทานให้มากข้ึน ผลส�ำเรจ็ จากการพฒั นา “...นำ้� ลำ� พะยงั แคน่ ไี้ มพ่ อหรอก แตว่ า่ ลมุ่ นำ�้ อกี ลมุ่ หนง่ึ ขา้ ม ภเู ขาไป จงั หวดั มกุ ดาหารมจี ดุ ทจ่ี ะสรา้ งอา่ งเกบ็ นำ�้ ไดน้ ำ้� มากกวา่ ลำ� นำ�้ ลำ� พะยงั ไปสรา้ งทอ่ี า่ งเกบ็ นำ�้ หว้ ยไผจ่ ะเกบ็ นำ�้ ไดค้ อ่ นขา้ งมากเกอื บๆ ๑๐ ล้านลูกบาศก์เมตรและน�้ำนี่ก็จะเหลือ ให้เจาะอุโมงค์มาเติมน้�ำ ที่ล�ำพะยัง...” พระราชด�ำรัสเม่ือวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๘ และ พระราชทานพระราชดำ� รสั เพมิ่ เตมิ วา่ “....ใหก้ รมชลประทานพจิ ารณา ด�ำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาลุ่มน�้ำล�ำพะยังตอนบน อ�ำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยพิจารณาก่อสร้างอ่างเก็บน�้ำล�ำพะยังตอนบน (ห้วยวังค�ำ) เพื่อช่วยเหลือราษฎรบ้านกุดตอแก่น และหมู่บ้านอ่ืนๆ ให้มนี �้ำใช้ท�ำการเกษตรและอุปโภคบริโภคตลอดปี พร้อมทง้ั พิจารณา ผนั นำ�้ จากลำ� หว้ ยยาง (ตน้ นำ�้ หว้ ยบางทราย) ลงมาเตมิ ใหก้ บั อา่ งเกบ็ นำ�้ ลำ� พะยังตอนบนอนั เนื่องมาจากพระราชด�ำริ...” z 67

ชุดเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ นอกจากน้ี ไดม้ กี ารยกระดับการกกั เกบ็ น�ำ้ อ่างลำ� พะยงั ตอนบนขน้ึ อกี ท�ำใหส้ ามารถเก็บนำ�้ ไดเ้ พิ่มข้นึ จากเดิม ๓,๕๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร เป็น ๔,๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร รวมท้ังได้ผันนำ้� จากอ่างเก็บน้�ำห้วยไผ่ อ�ำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ผ่านอุโมงค์ลอดผ่านภูเขามายังพื้นท่ีรับประโยชน์ ท�ำให้ราษฎรอ�ำเภอเขาวงมีน�้ำเพ่ือการเกษตรเพิ่ม มากขน้ึ พ้นื ท่กี ารเกษตรท่ีได้รบั นำ้� จากโครงการน้มี จี �ำนวนรวมมากกวา่ ๕๘,๐๐๐ ไร่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ไดพ้ ระราชทานชอ่ื อโุ มงคผ์ นั น้ำ� น้ีวา่ “ลำ� พะยงั ภมู ิพฒั น์” อันหมายถงึ อโุ มงค์ ผันน�้ำที่น�ำความเจริญมาสู่แผ่นดินลุ่มน�้ำล�ำพะยัง ซ่ึงในทุกวันนี้ ราษฎรต่างได้รับประโยชน์จากพระราชด�ำริการพัฒนา แหลง่ น�้ำแหง่ นี้ นำ� มาซึง่ ความสุขแห่งการดำ� เนนิ ชีวติ และความเจริญของผนื แผ่นดิน สมดงั พระราชประสงค์ทกุ ประการ 68 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการพัฒนาลุ่มน้�ำห้วยบางทรายตอนบนอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดมุกดาหาร พน้ื ท่บี รเิ วณน้แี ต่เดิมเป็นพื้นท่ีแห้งแลง้ ปา่ ไมถ้ ูกท�ำลาย ราษฎรมีความลำ� บากยากแคน้ ในการทำ� การเกษตรท่ี ไม่ได้ผล ด้วยความเดือดร้อนของราษฎรนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานพระราชด�ำริเก่ียวกับ การพฒั นาแหลง่ นำ�้ และการพฒั นาอาชพี แกร่ าษฎรเมอ่ื ปี ๒๕๓๗ ในรปู แบบของการพฒั นาแบบเบด็ เสรจ็ โดยการกำ� หนด พื้นที่โครงการออกเป็นเขตให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้ออ�ำนวยต่อการพัฒนารูปแบบต่างๆ ท่ีเหมาะสม คือ เขตพฒั นาอาชีพ เขตพฒั นาการเกษตร และเขตอนุรกั ษฟ์ น้ื ฟูสภาพปา่ และตน้ น้ำ� ลำ� ธาร ผลสำ� เรจ็ จากการพฒั นา จากการสร้างอา่ งเก็บนำ้� ในพน้ื ที่ ๗ อ่าง ท�ำให้มพี น้ื ท่ีทางการเกษตรได้รับประโยชน์รวม ๘,๙๐๐ ไร่ สามารถ ป้องกันรกั ษาปา่ ไม้ในพ้ืนทโ่ี ครงการไดม้ ากกว่า ๑๘๔,๐๐๐ ไร่ และฝกึ อบรมเยาวชนใหเ้ กดิ จติ ส�ำนึกในการหวงแหนและ ดูแลรกั ษาทรพั ยากรป่าไมใ้ ห้คงอยู่อยา่ งยั่งยืน พร้อมท้งั เพาะชำ� กลา้ ไมใ้ หญ่เพื่อฟนื้ ฟูสภาพป่าต้นนำ้� ปัจจุบันราษฎรห้วยบางทรายมีรายได้และชีวิตความ เปน็ อยทู่ ด่ี ขี น้ึ จากการทำ� การเกษตรตามแนวพระราชดำ� รทิ ฤษฎใี หม่ การปลูกหญ้าแฝกเพ่ือป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน การใช้ ป๋ยุ อินทรยี อ์ ย่างต่อเน่อื ง ซง่ึ มผี ลทำ� ให้ดนิ มีคณุ ภาพที่ดีขึ้น สามารถ เพาะปลูกพืชต่างๆ เพ่ือการพาณิชย์ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงความ เขม้ แขง็ ของราษฎรจงึ ทำ� ใหส้ ามารถรวมตวั กนั จดั ตง้ั สหกรณก์ ารเกษตร หว้ ยบางทราย ทีม่ สี มาชกิ มากกว่า ๑,๒๐๐ คน ในวันน้ีรายไดข้ อง ราษฎรเพม่ิ มากขนึ้ จาก ๒๔,๗๒๒ บาทตอ่ คนต่อปี เปน็ ๓๘,๗๕๔ บาทตอ่ คนตอ่ ปี มคี วามสขุ ตามอตั ภาพและดำ� เนนิ ชวี ติ อยา่ งพอเพยี ง z 69

ชดุ เผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ โครงการอ่างเก็บน้�ำห้วยสามพาดอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดอุดรธานี โครงการอา่ งเกบ็ นำ้� หว้ ยสามพาดฯ มพี นื้ ทท่ี ไี่ ดร้ บั ประโยชนจ์ ากโครงการครอบคลมุ ๓ อำ� เภอของจงั หวดั อดุ รธานี รวมพื้นที่ ๑๖,๙๑๐ ไร่ ประกอบด้วย ตำ� บลบา้ นตาด อ�ำเภอเมือง ต�ำบลโนนสูง และต�ำบลหนองแสง อำ� เภอหนองแสง และตำ� บลเสอเพลอ อ�ำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซง่ึ ความจขุ องอ่างเก็บนำ้� หว้ ยสามพาด ๑๕ ลูกบาศกเ์ มตร มรี ะบบ คลองสง่ น้ำ� ๑๑ สาย ความยาว ๓๗.๙๓๐ กโิ ลเมตร และคสู ่งน�ำ้ ๑๗๒ สาย ความยาว ๘๘.๘๘๑ กโิ ลเมตร ผลสำ� เร็จจากการพัฒนา ราษฎรในเขตพื้นที่รับน้�ำนี้ได้รวมกลุ่มกันจัดตั้งสหกรณ์ผู้ใช้น้�ำอ่างเก็บน�้ำห้วยสามพาด เพ่ือร่วมมือกันดูแล การส่งนำ�้ และบำ� รงุ รกั ษาคูคลอง รวมท้งั การวางแผนการเพาะปลกู พชื ตามฤดูกาลและความตอ้ งการของตลาด จากการท่มี ีน้�ำเพื่อการเกษตร สง่ ผลใหก้ ารทำ� นาปีในพืน้ ที่ ๑๕,๗๙๙ ไร่ ได้ผลผลติ เฉล่ีย ๕๕๐ กิโลกรมั ตอ่ ไร่ ส่วนการท�ำนาปรงั ในพืน้ ท่ี ๑,๒๐๐ ไร่ ได้ผลผลิตเฉลยี่ ๔๕ กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ และยังสามารถปลกู พชื อืน่ ๆ ไดอ้ กี เช่น แตงโม แตงร้าน และข้าวโพด เป็นตน้ 70 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว (หลัก ๒๒) สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว ศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซ้ัว ต้ัง อยูท่ ่บี ้านนายาง เมืองนาทรายทอง กำ� แพงนครเวยี งจันทน์ กโิ ลเมตรท่ี ๒๒ นบั เปน็ โครงการพฒั นาแหง่ แรกในประเทศสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตย ประชาชนลาว (สปป. ลาว) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้จัดตั้งข้ึนเม่ือปี ๒๕๓๗ ตามท่ี นายไกสอน พมวิหาร อดีตประธานประเทศ ได้กราบบังคมทูลขอ พระราชทานโครงการในลักษณะเช่นเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ...ถ้ามีประเทศสองประเทศอย่ตู ิดกัน จะหนีจากกนั กห็ นีไม่พ้น จารีตประเพณวี ฒั นธรรมกใ็ กลเ้ คยี งกนั เหลอื เกิน แต่คนที่อยูอ่ ยา่ งน้ี ถา้ ไมค่ บกันเปน็ เพื่อนจะเป็นไปไดอ้ ยา่ งไร ตรงกันขา้ มแทนทจ่ี ะแข่งขนั จะกีดกันอะไรกนั นโยบายทด่ี ีคอื ควรจะปรับสภาพให้เทา่ เทยี มกัน มนั ถึงจะเป็นเพ่ือน และความปกตสิ ขุ ก็จะเกดิ ขน้ึ ... พระราชด�ำรสั พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั เมือ่ ปี ๒๕๓๗ z 71

ชุดเผยแพรอ่ งค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ บริเวณพ้ืนที่แห่งนี้ มีสภาพภูมิศาสตร์ท่ีเหมาะสมต่อการพัฒนาด้านเกษตรกรรม พื้นที่ประมาณ ๓๒๕ ไร่ มลี �ำหว้ ย ๒ สาย คือ ห้วยซอนและหว้ ยซ้วั และมหี ม่บู ้านทอี่ ยูร่ ายล้อมศนู ย์ฯ เปน็ เปา้ หมายในการพัฒนา โดยใช้แนวทาง การด�ำเนินกิจกรรมเช่นเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ แบ่งเป็น ด้านการประมง ปศุสัตว์ พฒั นาทดี่ นิ และพฒั นาดา้ นพชื และการฝกึ อบรมใหค้ วามรแู้ กเ่ กษตรกรทม่ี าศกึ ษาดงู าน รวมทง้ั การดแู ลและแนะนำ� ความ รดู้ ้านต่างๆ ผลสำ� เรจ็ จากการพฒั นา ผลแหง่ การพฒั นานี้ มสี ว่ นชว่ ยใหค้ วามเปน็ อยขู่ องประชาชน ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น เห็นได้จากการมี ผลผลิตข้าวจากการท�ำนาปีและนาปรังโดยเฉลี่ยเพิ่มข้ึน มีกิจกรรม การผลติ ภาคการเกษตรอื่นๆ ทข่ี ายเปน็ รายไดท้ ีเ่ พมิ่ ข้นึ เช่น พชื ไร่ ผัก ไม้ผล เล้ยี งสตั ว์และเลีย้ งปลา เปน็ ต้น นอกจากน้ี ยังเอือ้ ประโยชนต์ อ่ การประกอบอาชพี อืน่ ๆ ดว้ ย เชน่ การรับจ้างทำ� นา การค้าขายผลผลติ ทางการเกษตร ทำ� เครอื่ งเรอื น และอาชพี เสรมิ ในครวั เรอื น เชน่ การจกั สาน กระต๊ิบข้าว การตัดเย็บเส้ือผ้า ส่งผลให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีและ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดการขยายตัวของประชากรและครัวเรือน เพ่ิมขึ้น มกี ารรวมกล่มุ ทางสงั คมมากขนึ้ เกิดการประสานความรว่ มมือ นำ� ไปสู่การไดร้ บั ประโยชนร์ ว่ มกนั ในชุมชน ท�ำใหส้ ังคมเขม้ แขง็ ผักอนิ ทรีย์ นบั เปน็ ตน้ แบบของการพฒั นาแบบบรู ณาการและเปน็ ศนู ยก์ ลางแหง่ การศกึ ษาเรยี นรจู้ ากการปฏบิ ตั จิ รงิ รว่ มกนั ทงั้ ภาครฐั ประชาชนและประเทศเพอื่ นบา้ นใกลเ้ คยี งอกี แหง่ หนงึ่ ของภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ซง่ึ จะมสี ว่ นชว่ ยใน การพฒั นาร่วมกันระหว่างมิตรประเทศในภมู ภิ าคแหง่ น้ใี หเ้ กิดความม่ันคงสบื ไป 72 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการอันเน่อื งมาจากพระราชด�ำริ ภาคใต้ พื้นที่ภาคใตจ้ �ำนวน ๑๔ จงั หวัด ดงั น้ี กระบี่ ชมุ พร ตรัง นครศรธี รรมราช นราธิวาส ปตั ตานี พังงา พัทลงุ ภเู กต็ ยะลา ระนอง สงขลา สตูล และสรุ าษฎรธ์ านี ภาคใต้ของประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งคาบสมุทรและชายฝั่งทะเลท่ีอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ทรพั ยากรธรรมชาตนิ านาชนดิ มฝี นตกชกุ มากกวา่ ภาคอน่ื ๆ เปน็ แหลง่ ปลกู พชื เศรษฐกจิ เชน่ ขา้ ว ยางพารา ปาล์มน้�ำมัน เป็นต้น รวมท้ังเป็นแหล่งการท�ำประมงที่ส�ำคัญ ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจของภาคใต้ โดยรวมมคี วามเจรญิ การหมนุ เวยี นเศรษฐกจิ ดกี วา่ ภาคอนื่ ๆ ของประเทศ แตใ่ นระยะเวลาทผี่ า่ นมา มกี าร ใช้ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ โดยไม่มีการทดแทน ฟื้นฟู หรือการพัฒนาส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติ เสื่อมโทรม รวมถึงปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูฝนที่มีระยะเวลานานกว่าภาคอื่นๆ ได้สร้างความเสียหายต่อ เศรษฐกจิ และการประกอบอาชพี ของราษฎร จากปญั หาดงั กลา่ วขา้ งตน้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ และพระบรมวงศ์ ทรงเขา้ พระราชหฤทยั ในปญั หาของราษฎร จากการเสดจ็ ฯ ไปยงั พนื้ ทภ่ี าคใตท้ กุ จงั หวดั ทอดพระเนตรเหน็ ความเดอื ดรอ้ นและปญั หาทรี่ าษฎรตอ้ งประสบ ดว้ ยเหตนุ จ้ี งึ ไดพ้ ระราชทานพระราชดำ� ริ ในการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริในเขตพ้ืนท่ีภาคใต้ ถงึ ๘๘๔ โครงการ (กันยายน ๒๕๕๘) ซึ่งสง่ ผลส�ำเร็จตามแนวพระราชด�ำริ โดยมตี ัวอย่างดังน้ี z 73

ชุดเผยแพรอ่ งค์ความรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ ไปทรงเย่ียมราษฎรในพ้ืนท่ีจังหวัดนราธิวาส ท�ำให้ทรงทราบถึง ปญั หาดินเปรีย้ ว ที่มสี ารประกอบไพไรท์ ท�ำให้เกิดกรดกำ� มะถัน (Sulfuric Acid) เม่ือดินแหง้ ทำ� ใหด้ ินเปรย้ี วจัดราษฎร ไม่สามารถท�ำการเพาะปลกู ได้ ไดท้ รงวเิ คราะห์ดนิ จงั หวดั นราธิวาส จากเอกสารพระราชทาน ดงั นี้ สว่ นใหญเ่ ป็นสภาพพรุเกา่ ดินประกอบด้วย พืชทท่ี ับถมมาเปน็ เวลานานและผสมกับน้ำ� ทะเล มีผลใหเ้ ปน็ ดนิ ท่ีมีแรธ่ าตุกำ�มะถัน เมอ่ื ผสมกับอากาศกก็ ลายเปน็ ออกไซด์ และเม่ือผสมกับน�้ำก็ กลายเป็นกรดกำ�มะถนั (Sulfuric Acid) 74 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” การด�ำเนนิ งานสนองพระราชด�ำริ จากปัญหาท่ีเกิดข้ึน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไดพ้ ระราชทานพระราชดำ� รใิ หจ้ ดั ตง้ั ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาพกิ ลุ ทอง อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รขิ นึ้ เพอื่ ศกึ ษาวจิ ยั การแกไ้ ขปญั หาดนิ เปรีย้ วใหส้ ามารถใชป้ ระโยชน์ไดอ้ กี เช่น โครงการแกล้งดิน การ พัฒนาดินอินทรีย์และดินเปร้ียวจัด การใช้น�้ำจืดชะล้างกรดออก จากดนิ การศึกษาการปลูกไมโ้ ตเร็วในพนื้ ท่พี รุ การพัฒนาระบบ ปลูกพืช การคัดเลือกพันธุ์ไม้ท่ีมีความเหมาะสมในสังคมป่าพรุ การปรับปรุงและบ�ำรุงรักษาป่า การท�ำสวนยางครบวงจร การ ส่งเสริมการเลีย้ งสตั ว์ และการสง่ เสริมและพฒั นาอาชพี เป็นต้น ผลสำ� เร็จจากการพฒั นา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ สามารถแก้ปัญหา ดินเปร้ียวให้สามารถน�ำกลับมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อีก ครัง้ หนงึ่ ส่งผลให้เกษตรกรมชี ีวติ ความเป็นอยู่ท่ดี ขี ้ึน มโี อกาสใน การพฒั นาอาชพี และมีรายไดจ้ ากผลผลิตทางการเกษตรทมี่ นั่ คง กว่าเดิม ทั้งน้ีด้วยแนวพระราชด�ำริที่ทรงเข้าใจในธรรมชาติและ ทรงใช้วิธีการท่ีเรียบง่ายในการแก้ปัญหา แต่ผลท่ีได้กลับยิ่งใหญ่ และยังประโยชน์สูงสุดแก่ผู้คนและทรัพยากรธรรมชาติอย่าง มากมาย z 75

ชดุ เผยแพร่องคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ โครงการพัฒนาพ้ืนท่ีหนองใหญ่อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ แก้มลิง จังหวัดชุมพร โดยปกติในช่วงฤดูฝน จังหวัดชุมพรมักประสบกับปัญหาน�้ำท่วมท่ีสร้างความ เดอื ดรอ้ นแกป่ ระชาชนมาโดยตลอด เพราะสภาพพน้ื ทเี่ ปน็ ทรี่ าบลมุ่ และมคี ลองทา่ ตะเภา ซึ่งเป็นแม่น�้ำสายหลักของเมืองท่ีมีความลาดชันมาก ท�ำให้น้�ำในคลองท่าตะเภาล้นตลิ่ง เขา้ ท่วมพนื้ ทต่ี วั เมอื งชมุ พรเปน็ ประจำ� ทุกปี แตใ่ นปี ๒๕๔๐ เน่อื งจากมีพายุโซนรอ้ นซีต้า ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันจึงกลายเป็นอุทกภัยท่ีหนักกว่าทุกปีท่ีผ่านมา สร้างความ เดอื ดรอ้ นและความเสยี หาย ทงั้ ชวี ติ ทรพั ยส์ นิ การประกอบอาชพี และเศรษฐกจิ อยา่ งมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงศึกษาวิเคราะห์สภาพพื้นที่ของตัวเมืองชุมพรมาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยการใชแ้ นวพระราชดำ� ริ “แก้มลงิ ” ดงั ทีไ่ ด้พระราชทานพระราชด�ำรสั เม่อื วนั ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๐ ความว่า “...เมอื่ สองเดอื นมีน้�ำท่วมหนักในประเทศในหลายจงั หวัด แต่ท่ดี รู นุ แรงทีส่ ุดคือที่จังหวดั ชุมพร โดยท่ยี ัง ไมถ่ งึ เวลาทจี่ ะมพี ายไุ ตฝ้ นุ่ และโซนรอ้ นมา ฝนลงมาจนทำ� ใหน้ ำ้� ทว่ มเอง ชมุ พรมคี วามเสยี หายเปน็ จำ� นวนมหาศาล... เหน็ ว่ามีท่แี หง่ หนึ่งที่ควรท�ำเปน็ แกม้ ลงิ ได้โดยธรรมชาติ คอื มีหนองใหญ.่ .. งานจงึ เรม่ิ โดยทำ� การขุดและทำ� เป็นท่อ มปี ระตนู �ำ้ ท่จี ะทะลอุ อกไปในหนองใหญ่ เพอ่ื ทจ่ี ะระบายน้ำ� ลงคลอง...” การด�ำเนินงานสนองพระราชดำ� ริ การดำ� เนนิ งานดงั กลา่ วนี้ ไดม้ กี ารขดุ คลองระบายนำ�้ และขดุ ลอกคลองเพอ่ื ใหส้ ามารถระบายนำ้� ออกสทู่ ะเลได้ เรว็ ขนึ้ การปรับปรุงคลองระบายนำ�้ และประตรู ะบายน้ำ� เพอื่ ใหส้ ามารถผันน้�ำและระบายน�้ำได้มากขึ้น การพฒั นาพื้นท่ี หนองใหญ่ ซงึ่ เปน็ แหลง่ นำ้� ของจงั หวดั ชมุ พร จากเดมิ ทเี่ กบ็ กกั นำ้� ได้ ๒,๐๐๐,๐๐๐ ลกู บาศกเ์ มตร เพมิ่ ขนึ้ เปน็ ๓,๐๐๐,๐๐๐ ลกู บาศกเ์ มตร รวมทงั้ ไดม้ กี ารวางแผนระบบเตอื นภยั นำ้� ทว่ มเมอื งชมุ พร และขยายผลระบบโทรมาตรขนาดเลก็ ใหค้ รอบคลมุ ๕ ลุ่มนำ�้ ย่อย คือ คลองชุมพร คลองสวี คลองตะโก คลองหลังสวน และคลองละแม ผลสำ� เร็จจากการพฒั นา ในวันนี้ โครงการแก้มลิง จังหวัดชุมพร เป็นตัวอย่างท่ีดีในเร่ืองของการป้องกันน้�ำท่วมเมืองอย่างเป็นระบบ เปน็ การปอ้ งกนั และหาแนวทางแกไ้ ข โดยการผสมผสานความรทู้ างวชิ าการและความเขา้ ใจและคำ� นงึ ถงึ สภาพภมู ปิ ระเทศ เป็นแนวทางหลักในการด�ำเนินงานสนองพระราชด�ำริ ซึ่งท�ำให้จังหวัดชุมพรไม่ต้องประสบปัญหาน้�ำท่วมอีกต่อไป ทั้งนี้ ดว้ ยพระราชดำ� รทิ ่ีเรียบงา่ ย แต่ผลท่ีเกดิ ข้นึ น้นั น�ำมาซง่ึ ประโยชน์สขุ แกป่ ระชาชนอย่างแทจ้ รงิ 76 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการพัฒนาพื้นท่ีลุ่มน้�ำปากพนังอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช ปากพนังเป็นเมืองท่าท่ีส�ำคัญของนครศรีธรรมราช ในอดีตเป็นพ้ืนท่ีที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรต่างๆ และทำ� นาไดผ้ ลดจี งึ เปน็ อขู่ า้ วอนู่ ำ้� ทสี่ ำ� คญั แตเ่ มอ่ื เวลาเปลยี่ นไปตามความเจรญิ ทเ่ี นน้ วตั ถแุ ละเปน็ สงั คมแหง่ การบรโิ ภค จงึ ไดเ้ กดิ การใชท้ รพั ยากรอยา่ งฟมุ่ เฟอื ย โดยขาดจติ สำ� นกึ ทจี่ ะดแู ลรกั ษา ทง้ั จากการบกุ รกุ ทำ� ลายปา่ ไมใ้ นพนื้ ทตี่ น้ นำ้� การ ใชน้ �ำ้ จดื ที่มีมากขึ้น ทำ� ใหล้ �ำน้ำ� ธรรมชาตใิ นพ้นื ทลี่ ุ่มน้�ำปากพนงั มปี รมิ าณลดลงจนถงึ จดุ วิกฤต นำ� มาซง่ึ ปญั หาตา่ งๆ ดงั นี้ z 77

ชุดเผยแพรอ่ งค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๑. ปัญหานำ้� ทะเลรกุ เข้าไปตามลำ� น้�ำถงึ อ�ำเภอชะอวด เป็นระยะทางมากกว่า ๑๐๐ กโิ ลเมตร ท�ำใหพ้ นื้ ที่นา ข้าวกวา่ ๕๐๐,๐๐๐ ไร่ ลดจำ� นวนลงไปกว่าครึ่ง ราษฎรบางสว่ นละทิ้งผืนดิน บางสว่ นหันไปรับจา้ ง ทำ� นากงุ้ สว่ นทเี่ หลือ ยังคงท�ำนาต่อแต่ตอ้ งประสบกบั ปญั หาราคาข้าวตกตำ่� ๒. ปญั หาระหวา่ งคนทำ� นาขา้ วกบั คนทำ� นากงุ้ เนอื่ งจากการทำ� นากงุ้ ทป่ี ราศจากการควบคมุ ดแู ล มกี ารถา่ ยเท น�ำ้ เสยี ลงสู่ลำ� น้�ำธรรมชาติและท่ดี ินขา้ งเคยี ง ท�ำใหช้ าวนาบางส่วนไม่สามารถนำ� นำ้� ไปใช้ประโยชนไ์ ด้ สภาพน�ำ้ เคม็ แพร่ กระจายออกไปตามฝ่งั แม่นำ้� ปากพนังและลำ� นำ�้ สาขา สง่ ผลให้เกิดความขดั แยง้ รุนแรงระหวา่ งผทู้ ำ� นากงุ้ และนาข้าว ๓. ปญั หาน�้ำท่วม โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตกหนกั และมีน�้ำทะเลหนนุ ขนึ้ สงู ทำ� ใหเ้ กดิ น�ำ้ ท่วมขังอยเู่ ป็นเวลา นานและมีระดับสงู พนื้ ท่นี ้ำ� ท่วมมีมากกว่า ๗๘๐,๐๐๐ ไร่ คดิ เป็นมลู คา่ ความเสยี หายประมาณปีละ ๒๒๔ ล้านบาท การดำ� เนินงานสนองพระราชดำ� ริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับทราบปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ภัยธรรมชาติ และความเดอื ดรอ้ นนมี้ าโดยตลอด ทรงศกึ ษาขอ้ มลู และวเิ คราะหถ์ งึ สาเหตขุ องปญั หาและพระราชทานแนวพระราชดำ� ริ โดยมสี าระสำ� คญั คอื “…ใหพ้ จิ ารณากอ่ สรา้ งประตรู ะบายนำ้� พรอ้ มอาคารประกอบทบี่ รเิ วณปากแมน่ ำ�้ พนงั เพอ่ื ปอ้ งกนั น้�ำเค็มบุกรุกและเก็บกักน้�ำจืดไว้ในล�ำน�้ำให้ราษฎรใช้ท�ำการเกษตรและอุปโภคบริโภค พร้อมท้ังพิจารณาขุดคลอง ระบายนำ้� แยกจากแม่น�้ำปากพนังเพอื่ บรรเทาปญั หาน้ำ� ท่วม…” กลไกท่สี �ำคัญอีกประการหนงึ่ คือ ประตูระบายน�้ำ “อุทกวภิ าชประสทิ ธิ” ซึ่งเปน็ นามพระราชทานที่มีความ หมายถงึ ความสามารถแบ่งแยกนำ้� จืดนำ�้ เค็มได้ส�ำเร็จ นั่นคือ มกี ารบริหารจดั การอย่างสมดุลปิดก้ันน�้ำเค็มไมใ่ หร้ กุ เข้าไป ในล�ำน้�ำ กักเกบ็ น�้ำจืดไวใ้ ช้ ผลสำ� เร็จจากการพฒั นา การบริหารจัดการโครงการฯ เป็นในรูปผสมผสานทั้งหลักวิชาการและเทคโนโลยี การจัดการน�้ำของ กรมชลประทาน ผนวกกบั การมสี ว่ นรว่ มขององคก์ รทอ้ งถน่ิ ในรปู ของคณะกรรมการเปดิ –ปดิ ประตรู ะบายนำ้� เพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่คนและส่ิงแวดล้อมในพ้ืนที่ลุ่มน�้ำปากพนังอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการใช้ ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นลมุ่ นำ้� ปากพนงั เปน็ ไปอยา่ งเกอ้ื กลู กนั ของทกุ ฝา่ ย ยตุ คิ วามขดั แยง้ ทเ่ี กดิ ขนึ้ นำ� ไปสกู่ ารพฒั นาพน้ื ท่ี อยา่ งสมดุลและยง่ั ยืน 78 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการพัฒนาพื้นท่ีลุ่มน้�ำบางนราอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดนราธิวาส แม่น้�ำบางนราเป็นแม่น้�ำสายหลักของจังหวัดนราธิวาส มีความยาวประมาณ ๖๐ กิโลเมตร ไหลผ่านพ้ืนที่ อำ� เภอเมอื งและอ�ำเภอตากใบ ออกส่ทู ะเล ๒ ทาง ทางหนึ่งไหลออกทะเลฝง่ั อา่ วไทย ท่ีปากแม่น�้ำอ�ำเภอเมอื ง สว่ นอกี ทางหนงึ่ ไหลลงสแู่ ม่นำ�้ โก-ลก บริเวณอ�ำเภอตากใบ เมื่อเกดิ เหตุความไม่สมดลุ ของธรรมชาติ เช่น เมอ่ื ถงึ เวลานำ้� ทะเลขนึ้ น้�ำเค็มรุกเข้าไปในลำ� น�้ำ ท�ำใหร้ ะบบนเิ วศเสื่อมโทรม เมือ่ มปี ริมาณฝนมาก หรือน้�ำในล�ำน�ำ้ สาขามาก ก่อให้เกดิ น�้ำทว่ ม พ้นื ทเ่ี กษตรกรรมและทรัพย์สนิ เสยี หาย รวมถึงการไมม่ ีแหล่งน�ำ้ หรอื ระบบกักเก็บน�้ำในพนื้ ที่ จงึ ทำ� ใหร้ าษฎรขาดแคลน นำ้� จดื และเมอ่ื นำ้� ไหลผา่ นพนื้ ทพ่ี รุ เขตดนิ เปรยี้ ว นำ้� กจ็ ะกลายเปน็ นำ้� เปรย้ี วไมส่ ามารถอปุ โภค บรโิ ภค และเพาะปลกู พชื ได้ ซ่งึ สง่ ผลกระทบต่อวิถชี ีวติ ของประชาชนและสิง่ แวดล้อมมากมาย z 79

ชุดเผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ การด�ำเนินงานสนองพระราชดำ� ริ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ทรงตระหนกั ถงึ ปัญหาความเดอื ดรอ้ นของราษฎรทป่ี ระกอบอาชพี การเกษตร สองฝั่งแม่น้�ำบางนรา ได้พระราชทานพระราชด�ำริให้กรมชลประทานก่อสร้างประตูระบายน�้ำที่ปากแม่น�้ำบางนรา พรอ้ มระบบชลประทานและระบบระบายนำ้� เพอ่ื ชว่ ยเหลอื ราษฎรในการเกบ็ กกั นำ้� จดื บรรเทาอทุ กภยั และปอ้ งกนั นำ้� เคม็ โดยทรงยดึ หลกั การวา่ “…วทิ ยาการกบั ความคดิ เปน็ ปจั จยั สำ� คญั คกู่ นั จำ� เปน็ ตอ้ งใชป้ ระกอบกนั …ตอ้ งคดิ ใหแ้ ยบคาย อยา่ งละเอยี ดรอบคอบ ประกอบดว้ ยเหตผุ ลจนเหน็ แจง้ ถงึ จดุ มงุ่ หมายอนั ถกู ตอ้ งเทย่ี งตรงของการทจ่ี ะทำ� รวมทงั้ วถิ ที าง ปฏบิ ตั ทิ ค่ี รอบคลมุ ทกุ ขนั้ ตอน...” และพระราชทานพระราชดำ� รเิ พมิ่ เตมิ ทม่ี หี ลกั การสำ� คญั วา่ ตอ้ งหากลวธิ แี ยกนำ้� ๓ รส คอื นำ้� จดื นำ้� เปรย้ี ว และนำ้� เคม็ ทผี่ สมปนเปกนั ออกจากกนั ดว้ ยการสรา้ งระบบเกบ็ กกั นำ้� จดื ระบบสง่ นำ้� ใหพ้ น้ื ทเ่ี กษตรกรรม และเพ่ือการอปุ โภค-บริโภค สรา้ งระบบป้องกันนำ�้ เค็มบุกรกุ และสรา้ งระบบระบายน้�ำเปรย้ี วออกจากพ้ืนท่ี ผลสำ� เร็จจากการพฒั นา โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้�ำบางนราอันเน่ืองมาจาก พระราชด�ำริ เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้�ำขนาดใหญ่ ครอบคลุม พ้ืนที่รับประโยชน์ ๒๙๑,๐๐๐ ไร่ สามารถเริ่มเก็บกักน�้ำได้ตั้งแต่ ปี ๒๕๓๓ โดยใชว้ ธิ กี ารบรหิ ารจดั การนำ้� อยา่ งสมดลุ โดยการควบคมุ การเปิด–ปิดบานปิดก้ันน้�ำเค็มรุกล�้ำ รวมถึงมีระบบรับส่งสัญญาณ ข้อมูลทางไกล ช่วยในการควบคุมการเปิด-ปิดอาคารบังคับน�้ำ มผี ลทำ� ใหส้ ามารถบรรเทาภาวะอทุ กภยั โดยลดจำ� นวนวนั นำ�้ ทว่ มขงั และบรรเทาความเสยี หายแกผ่ ลผลติ การเกษตรได้ ตลอดจนชว่ ยลด ปัญหาน้�ำเปรีย้ วในแมน่ ำ้� บางนราให้มีคุณภาพนำ�้ ดีกวา่ เดมิ ในวนั นี้ ประชาชนสองฟากฝง่ั แมน่ ำ�้ บางนรา ทงั้ ผนู้ บั ถอื ศาสนาพทุ ธและศาสนาอสิ ลาม สามารถดำ� รงชวี ติ และประกอบอาชพี ทแี่ ตกตา่ งกนั ไดอ้ ยา่ งเกอ้ื กลู บนผนื นาเขยี วขจแี ละทอ้ งทะเลอนั อดุ ม ไปดว้ ยสตั วน์ ำ้� นานาชนิดอยา่ งมีความสุข 80 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการป้ องกันและบรรเทาอุทกภัยอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดสงขลา อ�ำเภอหาดใหญ่ เปน็ เมืองศนู ยก์ ลางเศรษฐกิจ ท่ีส�ำคัญของภาคใต้และเป็นเมืองที่มีการเจริญเติบโตและ ชุมชนขยายตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อเกิดภาวะฝนตกหนัก ท�ำให้ปริมาณน้�ำล้นคลองอู่ตะเภา เกิดอุทกภัยสร้าง ความเสยี หายแกพ่ ื้นทเ่ี กษตรกรรม บ้านเรอื น พน้ื ท่ีธรุ กิจ การค้าขาย ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สิน คิดเป็นมูลค่า ความเสยี หายมากกว่า ๔,๐๐๐ ลา้ นบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยในปัญหาท่ีเกิดขึ้นและได้พระราชทานพระราชด�ำรัสในการแก้ไข ปญั หาดงั กลา่ ว เมอื่ วนั ที่ ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๓๑ ความวา่ “...การสรา้ งอา่ งเกบ็ นำ้� ทคี่ ลองอตู่ ะเภาคงไมส่ ามารถดำ� เนนิ การ ได้เพราะไม่มีท�ำเลท่ีเหมาะสม...การแก้ไขและบรรเทาน�้ำท่วมที่ควรพิจารณาด�ำเนินการน่าจะได้แก่ การขุดคลอง ระบายนำ�้ ขนาดใหญใ่ หท้ ำ� หนา้ ทแ่ี บง่ นำ�้ จากคลองอตู่ ะเภาหรอื ชว่ ยรบั นำ�้ ทไี่ หลลงมาทว่ มตวั อำ� เภอหาดใหญใ่ หร้ ะบาย ลงสู่ทะเลสาบสงขลาโดยเร็ว นอกจากนั้น หากต้องการท่ีจะป้องกันน้�ำท่วมพื้นท่ีชุมชนและพื้นท่ีธุรกิจให้ได้ผล โดยสมบูรณ์แล้ว...ควรพิจารณาสร้างคันก้ันน�้ำรอบบริเวณพ้ืนที่ดังกล่าว พร้อมติดตั้งระบบสูบน�้ำออกจากพ้ืนท่ี ไม่ให้ท่วมขังตามความจ�ำเป็น ท้ังน้ีให้พิจารณาร่วมกับระบบของผังเมืองให้มีความสอดคล้องและได้รับประโยชน์ ร่วมกันดว้ ย...” ผลส�ำเรจ็ จากการพฒั นา การขดุ ลอกคลองธรรมชาติ พรอ้ มอาคารประกอบเพ่อื ให้สามารถระบายนำ้� ได้เรว็ ข้นึ รวมถงึ การติดตัง้ ระบบ โทรมาตร เพอ่ื คาดการณแ์ ละเตือนภัย แม้วา่ ในปี ๒๕๕๓ เกิดพายุดเี ปรสช่นั ถลม่ เข้าพ้นื ทข่ี องจงั หวัดสงขลา มีปริมาณน�ำ้ ทไี่ หลบ่าสงู ถึง ๑,๖๒๕ ลกู บาศกเ์ มตรต่อวินาที ซึง่ สูงกวา่ การรองรบั ปริมาณน้ำ� ของระบบการแก้ไขปญั หาน�้ำท่วม แตเ่ ม่อื ประเมนิ ผลสำ� เร็จจากการรบั มอื ในปี ๒๕๕๓ แมจ้ ะมีมวลนำ้� มากกวา่ ระดบั นำ้� ทว่ มลึกและกินพืน้ ทก่ี ว้างกวา่ แต่จำ� นวน วันที่น�้ำท่วมขังและอัตราการลดลงของน�้ำสามารถระบายน้�ำได้เร็วกว่าเดิม ช่วยลดความเสียหายของทรัพย์สินและชีวิต ของประชาชนไดด้ กี ว่าเดมิ z 81

ชุดเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ โครงการระบายน้�ำพรุโต๊ะแดงอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดนราธิวาส ป่าพรุโต๊ะแดง เป็นพรุน�้ำจืดขนาดใหญ่ของประเทศ มีพ้ืนท่ีประมาณ ๑๒๕,๖๒๕ ไร่ อยู่ในเขตอ�ำเภอเมือง นราธวิ าส อำ� เภอตากใบ อำ� เภอสไุ หงปาดี และอำ� เภอสไุ หง-โกลก จงั หวดั นราธวิ าส สภาพผนื ปา่ แตเ่ ดมิ มคี วามอดุ มสมบรู ณ์ มีความหลากหลายทงั้ พืชและสัตวน์ ำ�้ แต่เนอ่ื งจากมกี ารขยายตัวของชมุ ชนและความตอ้ งการใช้ประโยชนท์ ่ดี นิ ราษฎรท่ี อาศยั อยโู่ ดยรอบขอบพรโุ ตะ๊ แดงไดบ้ กุ รกุ ทด่ี นิ เขา้ มาทำ� กนิ ในพน้ื ทเ่ี พมิ่ มากขน้ึ เรอ่ื ยๆ รวมถงึ ปญั หาไฟไหมป้ า่ พรทุ เี่ กดิ ขน้ึ โดยมีสาเหตหุ ลักมาจากราษฎรจดุ ไฟเผาป่าพรุในช่วงฤดแู ล้ง เพื่อเขา้ ไปใชป้ ระโยชนใ์ นพนื้ ทป่ี ่า สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี พระราชทานพระราชดำ� รเิ มือ่ วนั ท่ี ๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๓ ความวา่ “...ให้บริหารจัดนำ้� ในพ้ืนท่ปี ่าพรโุ ต๊ะแดงโดยเออื้ ประโยชน์แกป่ า่ และไม่เกิดผลกระทบต่อชุมชน...” การด�ำเนินงานในพื้นท่ีได้เน้นการบริหารจัดการน้�ำในพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง เพื่อป้องกันไฟไหม้ป่า ลดจ�ำนวน ต้นไมย้ ืนตาย และลดผลกระทบเรอ่ื งน�ำ้ ทว่ ม เช่น ในช่วงกอ่ นฤดูฝน คอ่ ยๆ พร่องน้ำ� ออกจากพรุ เพอ่ื ให้พรุเป็นแกม้ ลงิ รองรบั ปรมิ าณนำ�้ ฝนทจ่ี ะตกหนกั ในเดอื นพฤศจกิ ายน มกี ารจดั ทำ� ขอบเขตการใชพ้ น้ื ทพ่ี รใุ หส้ อดคลอ้ งกบั สถานการณใ์ น ปจั จบุ ัน โดยการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศทางภมู ศิ าสตรแ์ ละการตรวจสอบสภาพพน้ื ที่ เพ่อื ใหบ้ ริหารจัดการปา่ พรุได้ตาม สภาพทเี่ กดิ ขนึ้ จรงิ ตลอดจนการกอ่ สรา้ งอาคารบงั คบั นำ�้ ๓ แหง่ เพอ่ื ใหส้ ามารถบรหิ ารจดั การนำ�้ ระหวา่ งพรตุ อนบนและ ตอนลา่ งซึ่งมีระดับพนื้ ทตี่ า่ งกนั ไดอ้ ย่างสมบูรณ์ จัดสรา้ งฝายชะลอความช่มุ ชน้ื หรือ Check Dam เพอื่ รักษาความช่มุ ชืน้ ให้แกด่ นิ และเป็นแนวทางป้องกนั ไฟไหม้ปา่ พรุ รวมท้งั การสร้างจิตสำ� นกึ ใหแ้ ก่ราษฎร เช่น ให้ราษฎรเข้ามามีสว่ นรว่ มใน การดแู ลรักษาปา่ และตระหนักถงึ ผลกระทบทเี่ กิดจากไฟไหม้และการบกุ รกุ พนื้ ทีป่ า่ อกี ด้วย ผลส�ำเรจ็ จากการพัฒนา การบรหิ ารจดั การนำ�้ ในพนื้ ทปี่ า่ พรโุ ตะ๊ แดงตามแนวพระดำ� ริ สามารถป้องกันและบรรเทาการเกดิ ไฟไหม้ได้ และชว่ ยลดน�ำ้ ท่วมใน เขตบา้ นโคกกระทอ่ ม บา้ นโคกยาง บา้ นโคกกแู ว และบา้ นทงุ่ นาหวา่ น ต�ำบลพร่อน อ�ำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จ�ำนวนกว่า ๓๕๐ ครัวเรือน ๑,๔๐๐ คน และพน้ื ที่การเกษตรอกี กว่า ๒,๕๐๐ ไร่ 82 z

“๓ ทศวรรษ กปร.” โครงการพัฒนาพื้นท่ีพรุแฆแฆอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดปั ตตานี พรุแฆแฆ หรือพรุลมโชยในภาษาไทย อยู่ในอ�ำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เป็นพ้ืนท่ีพรุท่ีเสื่อมโทรมและ มนี ้ำ� ทว่ มขังเกือบตลอดทง้ั ปี สภาพดนิ เปน็ กรดสูง ราษฎรไม่สามารถเพาะปลูกพืชและใช้ประโยชน์จากพน้ื ทีไ่ ด้เลย พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานพระราชดำ� ริ เมอ่ื วนั ท่ี ๓๐ กนั ยายน ๒๕๓๕ ณ บรเิ วณพรแุ ฆแฆ (ตะวันตก) ความว่า “ให้พิจารณาวางโครงการก่อสร้าง ขุดคลองระบายน้�ำและอาคารบังคับนำ้� เพ่อื ชว่ ยระบายน�ำ้ ที่ท่วมขังออกจากพ้ืนที่และเก็บกักน�้ำจืดไว้ให้เกษตรกรใช้ท�ำการเพาะปลูก และใช้อุปโภค-บริโภคได้ตลอดทั้งปี และเพอ่ื ปอ้ งกนั น้�ำเค็มไมใ่ ห้ไหลเขา้ ส่พู ้นื ท่เี พาะปลกู โดยสามารถเปน็ แหล่งขยายพนั ธปุ์ ลานำ้� จดื อีกทางหนึ่ง” พื้นที่ด�ำเนินการอยู่ในเขตพื้นที่ต�ำบลปะเสยาวอ และต�ำบลบางเก่า อ�ำเภอสายบุรี และต�ำบลพ่อม่ิง และ ตำ� บลนำ�้ บอ่ อำ� เภอปะนาเระ พนื้ ทรี่ วมประมาณ ๔๙,๐๐๐ ไร่ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาพกิ ลุ ทองอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ ไดป้ รับปรุงคุณภาพดิน ซง่ึ มีความเส่อื มโทรมและมคี วามเป็นกรดสงู โดยการใช้หินปูนฝุ่นจ�ำนวน ๑ ตนั ต่อไร่ และทดลอง ปลกู ข้าวซง่ึ มเี กษตรกรได้ขอเขา้ ร่วมทดลองด้วย ผลสำ� เรจ็ จากการพัฒนา จากการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพดนิ ท�ำให้เกษตรกร สามารถทำ� นาปลกู ขา้ วในพนื้ ทไี่ ดเ้ พม่ิ ขนึ้ มผี ลผลติ เฉลยี่ ๕๖๐ - ๕๘๐ กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ นอกจากน้ี หลงั ฤดเู กบ็ เกยี่ วขา้ วยงั สามารถปลกู พชื ไร่ พืชผักได้ตลอดท้ังปี เชน่ ผกั บุ้ง แตงกวา พรกิ หยวก เปน็ ต้น รวมถงึ สามารถเล้ยี งปลานลิ ดำ� ปลานลิ แดง เล้ยี งเปด็ เทศ ไกพ่ น้ื เมือง แพะ นม และปลกู พชื อาหารสตั ว์ เปน็ การลดรายจา่ ยภายในครวั เรอื นและ เกษตรกรมีรายได้เพ่ิมข้ึนจากกิจกรรมการเกษตรด้านต่างๆ ท�ำให้ คณุ ภาพชวี ติ ดีขึ้นและมีความมนั่ คงในการด�ำเนนิ ชวี ติ z 83

ชดุ เผยแพรอ่ งค์ความรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ ๓๔ ปี มุง่ ม่ันสนองพระราชด�ำริ ปจั จบุ นั สำ� นกั งาน กปร. ยงั คงเปน็ ทไ่ี วว้ างพระราชหฤทยั ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศ์ ในการรับสนองพระราชด�ำริ และประสานการด�ำเนินงานกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อด�ำเนินงานสนองพระราชด�ำริมาอย่างต่อเน่ืองเป็นเวลาถึง ๓๔ ปี ในปี ๒๕๕๘ นี้ ซ่ึงทุกหน่วยงานที่ท�ำงาน สนองพระราชดำ� ริ ตา่ งสำ� นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ และมคี วามมุ่งมั่นท�ำงานด้วยความต้ังใจและจงรักภักดี ปฏิบัติงาน สนองใตเ้ บอ้ื งพระยคุ ลบาทในการดำ� เนนิ งานสนองพระดำ� รใิ นโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รทิ สี่ รา้ งประโยชนใ์ หแ้ ก่ ประชาชน ชุมชน สังคม และทรัพยากรธรรมชาติของชาติ ให้สามารถท�ำประโยชน์เกื้อกูลกันอย่างยั่งยืนและม่ันคง ต่อประเทศชาติตลอดไป 84 z

จดั พมิ พโ์ ดย ส�ำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพ่ือประสานงานโครงการอนั เนือ่ งมาจากพระราชดำ� ริ เโเอลขทาตขรคทศบาพั่ีรา๒สงท๐พำ� ์ ๑น๐ล๒ักัด๒งซ๔กาอน๔รยงุโ๗คเอทรร๘พงุณ๕กม๐อาห๐รมาอ-รน๖นันิ คเทนรโรทื่อ๑์ ร๓ง๐สม๖๗าาร๐ถจ๐นา๐กน๒พอ๔รระ๔ณุ ร๗อาชม๘ดร๕ินำ� ๖รท๒ิ ร์ แขวงบางย่ีขนั www.rdpb.go.th Facebook.rdpb.project ISBN : 978-616-7671-37-6


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook