สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายเร่ือง พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช พระผทู้ รงอนุรกั ษ์ทรพั ยากรปา่ ไม้ไทย ในการประชมุ สมั มนา “รกั ษ์ปา่ น่าน” ครง้ั ที่ ๓ วนั จนั ทรท์ ี่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๐ ณ อาคารยมิ เนเซียม ศนู ยก์ ารเรยี นร้แู ละบรกิ ารวชิ าการ เครอื ขา่ ยแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ตำ�บลผาสงิ ห์ อำ�เภอเมืองนา่ น จังหวัดนา่ น
4 ทรงบรรยาย
สวัสดีทุก ๆ ท่าน ได้มาพบกันอีกคร้ังหน่ึง คร้ังนี้เป็นคร้ังที่ ๓ หวั ขอ้ คราวนที้ ต่ี งั้ มาใหน้ บั วา่ ยากมาก คอื ใหพ้ ดู เรอ่ื ง “พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระผู้ทรงอนุรักษ์ทรัพยากร ป่าไมไ้ ทย” ทวี่ ่าพดู ยาก เพราะเวลาเสดจ็ พระราชด�ำ เนนิ ไปท่ีไหน จะเห็นมี คนตามเสด็จไปมากมาย ไปนัง่ ฟงั และทราบพระราชกระแสมา หลาย คนจดพระราชกระแส มผี ู้ว่าราชการจงั หวัดทา่ นหน่ึงพมิ พ์สมดุ แจกให้ คนจดพระราชกระแส มีกอ๊ บป้ดี ว้ ย มีใหบ้ นั ทึกวนั ที่ เวลา สถานที่ ชอ่ื ผู้ บนั ทกึ และดเู หมอื นจะใหฉ้ กี สว่ นทบ่ี นั ทกึ นน้ั มอบทา่ นผวู้ า่ ทเ่ี ปน็ กอ๊ บป้ี ผบู้ นั ทึกเกบ็ ไวเ้ อง ต่อมามีสำ�นกั งานคณะกรรมการพิเศษเพ่อื ประสาน งานโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชด�ำ ริ หรอื กปร. หนว่ ยงาน กปร. น้นั นอกจากจะจดแล้ว ยงั อัดเทปอีกดว้ ย เพ่อื ใหม้ ั่นใจว่าไม่มใี ครแปลง พระราชกระแส เป็นของจริง เพอื่ จะไดจ้ ัดสรรงบประมาณถวาย เทา่ ทไ่ี ดต้ ามเสด็จไปในภาคตา่ ง ๆ ของประเทศไทยได้สังเกตว่า ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหเ้ จา้ หนา้ ทท่ี เ่ี ชย่ี วชาญในสาขา ตา่ งๆ ตามไปดว้ ย ไมใ่ ชเ่ ฉพาะปา่ ไม้ สมยั นนั้ ยงั ไมม่ อี ทุ ยาน มปี า่ ไมท้ ำ�ทกุ อยา่ ง และมีหนว่ ยงานเกษตร ชลประทาน พัฒนาทีด่ นิ และกรมแผนที่ ทหาร ท�ำ ใหส้ รุปได้ว่า การทำ�งานเพื่อความผาสกุ ของราษฎรน้นั ไมใ่ ช่ พวกใดพวกหนงึ่ จะทำ�ได้โดยไมป่ รึกษาคนอ่ืน
6 ทรงบรรยาย แตว่ นั นพ้ี ดู เรอ่ื งปา่ ไม้ กต็ อ้ งเอาปา่ ไมเ้ ปน็ หลกั ปา่ ไมจ้ ะเจรญิ ไดต้ อ้ งมนี าํ้ ไมใ่ ชห่ า้ มจดั การนาํ้ เหมอื นทใี่ ครๆ เขา้ ใจ ตอ้ งมนี า้ํ ตอ้ ง มีความชุม่ ชน้ื และมดี นิ ดี มปี ุ๋ย ป๋ยุ ไมใ่ ชข่ องหายาก ไดจ้ ากใบไมท้ ่ี รว่ งลงมา อาจจะเอามาหมกั มาเพม่ิ เตมิ สารอะไรทจ่ี �ำ เปน็ มแี รธ่ าตุ ทีเ่ ป็นอาหารของพืชแต่ละชนิด องค์ประกอบอื่นๆ ก็คือ พชื ตอ้ ง อย่กู นั เป็นระบบนิเวศทอี่ าศัยพึง่ พากัน เชน่ ตอ้ งอาศยั สตั ว์ สตั ว์ บางชนดิ กนิ ผลไมแ้ ลว้ ถา่ ยมลู เปน็ เมลด็ ท�ำ ใหเ้ มลด็ พชื งอกกระจาย ได้ สตั วบ์ างอยา่ งมฟี นั แหลมคม เจาะผลทแี่ ขง็ มากใหเ้ มลด็ ออกมา ได้ ถา้ ไมม่ สี ตั วพ์ วกนพ้ี ชื กห็ มดไป ในขณะเดยี วกนั ปา่ ไมช้ ว่ ยรกั ษา ความชุ่มชน้ื และรกั ษาหน้าดิน ไมใ่ หถ้ กู กัดเซาะท�ำ ลาย
รักษป์ ่านา่ น 7 ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ในป่า ในบอร์ดท่ีแสดงนิทรรศการมี การเชญิ พระราชกระแสพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ทว่ี า่ จริง ๆ แล้ว ท่ีในป่าหลายแห่งมีคนอยู่แล้ว แล้วเขาไปขีดเส้น คนผิดไม่ใช่ชาวบ้าน ที่อยู่ในน้ัน คนผิดคือคนขีด ประชาชนจะอยู่ได้ต้องมีที่พักอาศัย ท่ีทำ� กินสำ�หรับเพาะปลูก หรือทำ�อุตสาหกรรมหรืองานหัตถกรรม ส่ิงที่ทำ� มาก็เป็นอาหารของตัวเอง อาหารของสัตว์เลี้ยง เพ่ือให้จำ�หน่าย ได้ มีทรัพย์มาใช้ซ้ือสิ่งของที่ปลูกข้ึนไม่ได้หรือทำ�เองไม่ได้ ไม้ก็ยังใช้สร้าง บ้าน ทำ�ของใช้ ทำ�เชื้อเพลิง ที่พูดในบอร์ดน้ันก็มีอธิบายเรื่องพวกนี้ แต่ปัญหาก็คือ คนมีจำ�นวนมากข้ึน เพราะมีลูกมีหลาน กับอีกทาง หน่ึงคือ เคลื่อนไหวโยกย้ายถิ่นเข้ามาท่ีไหนที่เขาเห็นว่าเป็นที่ท่ีจะ ให้โอกาส ก็ย้ายเข้ามา ในยุคปัจจุบัน โอกาสที่จะมีการทำ�ลายพื้นที่ ป่าไมม้ ีมากข้นึ สมยั กอ่ นก็ตดั ๆ ไป แตพ่ อมายุคหลงั ๆ ๑๐๐ กว่าปีมานี้ มกี ารทำ�ปา่ ไม้คอื ตัดไม้เพื่อเอาไปขาย สรา้ งอาคาร ท�ำ เคร่ืองใช้ เครือ่ ง ประดบั เครอื่ งเรอื น หบี ใสข่ อง แมแ้ ตท่ ที่ �ำ สรุ ากนั มถี งั หมกั เหลา้ จกุ กอ๊ ก ส�ำ หรบั อดุ ปากขวดเหลา้ กต็ อ้ งใชไ้ มบ้ างชนดิ ท�ำ ในพงศาวดารเขยี นไวว้ า่ บางแห่งกระสุนทจี่ ะใชย้ งิ พงั ป้อมค่ายกนั ป้อมค่ายกเ็ อาไม้ทำ� กระสนุ ที่ จะยงิ กใ็ ช้ท่อนซุงใส่ในปากปลอกกระสุนยิงออกไปเป็นอาวุธไดด้ ว้ ย
8 ทรงบรรยาย
รักษป์ า่ น่าน 9 ตอ่ มามกี ารใหส้ มั ปทานปา่ ไม้ พวกทจี่ ะไดส้ มั ปทาน ก็ไม่ทราบ เพราะเวลาตามเสด็จไปรถไฟทุกที เพ่งิ มาข้นึ จะต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด คือจะทำ�มากน้อย รถยนตเ์ มอ่ื อายุ ๑๐ - ๑๑ ปแี ล้ว ตอนท่ผี า่ นอำ�เภอทา่ ยาง แค่ไหนไม่ทราบ แต่มีกฎหลักว่า ตัดไปเท่าไรจะต้อง จังหวดั เพชรบุรี ราว พ.ศ. ๒๕๐๔ มีตน้ ยางขนาดใหญ่ มี ปลกู ชดใชม้ ากกวา่ ที่ตัดไป บางทีก�ำ หนดเป็นอาณาเขตว่า พระราชประสงค์จะอนุรักษ์ต้นยางพวกน้ีไว้ แต่เนื่องจาก ต้องปลูกเท่าไร บางทีก็กำ�หนดว่า ตัดต้นหนึ่ง ต้องปลูก ตอนนั้นมีประชาชนเป็นจำ�นวนมากต้องอาศัยที่ดินแถบ ไปรอบๆ ๓ หรอื ๔ ตน้ นไี่ ปเชค็ ทจ่ี ดเอาไวต้ อนทีไ่ ปพมา่ นน้ั ท�ำ เกษตรกรรม พระราชด�ำ รเิ รอ่ื งการอนรุ กั ษต์ น้ ยางใน เขาอธิบายเร่ืองพวกนี้ให้ฟังด้วย ต้นไม้ท่ีเราเห็นทุกวันนี้ พนื้ ทจี่ งึ ไมส่ �ำ เรจ็ กโ็ ปรดเกลา้ ฯ ใหข้ า้ ราชบรพิ ารเกบ็ เมลด็ จริง ๆ ไม่ใช่ท้ังหมดที่เป็นป่าธรรมชาติป่าด้ังเดิม แต่ส่วน ยางมาถวายให้ทรงเพาะ แล้วปลูกท่ีสวนจิตรลดา ยังอยู่ หน่ึงเป็นไม้ที่ปลูกทดแทนต้นที่บริษัทตัดไป ประเทศไทย จนทุกวันนี้ จะเห็นในบอร์ดนิทรรศการเช่นเดียวกัน เลิกสัมปทานป่าไมม้ าร่วม ๓๐ ปแี ล้ว แตก่ ย็ งั มีผูล้ กั ลอบ ผู้ทำ�บอร์ดบอกว่าเพิ่งไปถ่ายรูปในป่าน้ันสด ๆ ร้อน ๆ ใน ตดั ไม้มคี า่ ไมเ้ นื้อแขง็ ท่โี ตช้า เครือ่ งมอื ก็ทนั สมยั สามารถ รูปดูสวยดี แต่เวลาเข้าไปรู้สึกว่าโทรม ๆ ป่าน้ันต้องมีวิธี ทำ�ลายล้างได้รวดเร็ว แต่ก่อนใช้ขวานตัดต้นไม้อย่างใน ปรับปรุงอนุรักษ์อยู่เหมือนกัน เคยเห็นชาวบ้าน ไปเห็น นิทานที่คนตัดไม้คนหนึ่งตัดไม้โป๊ก ๆ ๆ ขวานหลุดมือ ชัด ๆ ก็ที่กัมพูชา ชาวบ้านเผายางนาเป็นโพรงเพ่ือเก็บ ตกน้ําไป เด๋ียวนี้ไม่ต้องแล้ว ใช้เล่ือยไฟฟ้า ตอนเด็ก ๆ นาํ้ ยาง ท�ำ แบบชาวบา้ นไทย ในระยะตอ่ มา พระบาทสมเดจ็ บางคนเรียกวา่ “กาน” ตน้ ไม้ เดีย๋ วนค้ี ำ�น้คี งไม่ใช้แลว้ คอื พระเจ้าอยู่หัว ไม่เพียงแต่เอายางไปปลูกในวังเท่านั้น ตัดรอบ ๆ โคนต้นเพื่อให้ท่อนํ้าเล้ียงขาด แล้วปล่อยยืน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อนุรักษ์ยางนาเป็นสำ�คัญ ตายไป ตอนหลังก็มาตัดโดยอ้างว่าไม่ได้ตัดไม้ มันตาย เหมือนกัน ต่อมาได้ทรงนำ�พืชอื่นๆ มาปลูกรวมกันเป็น เอง บางคนไม่ต้องการจะเอาไม้มาใช้ ต้องการแต่ท่ีดิน จึงใชว้ ิธีเผาไม้ ท้งั ทีม่ คี า่ และไมม่ ีค่าเพอื่ ท�ำ ไร่ เมื่อจะปลกู ป่าสาธิต เพ่ือให้ผู้สนใจ นักเรียน นักศึกษา เยาวชน อีกก็เผาอีกอ้างว่ารากพืชไร่เศรษฐกิจท่ีทำ�เอาออกยาก ขุดทง้ิ ไมไ่ หว เครือ่ งมือกแ็ พง ถ้าจะใช้แทรกเตอร์ เคยให้ มาศึกษา และทรงคิดหาวิธีขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีการ กองวิศวกรรมเกษตร กรมวิชาการเกษตรคิดดู แต่ค่าใช้ ต่าง ๆ นอกจากเพาะเมล็ด ตอน เสียบกิ่งแล้ว ยังใช้วิธี จ่ายก็ยังแพงสำ�หรับราษฎรในกลุ่ม การเผาทำ�ให้ดินเสีย เพาะเนื้อเยื่อซึ่งขณะน้ันถือว่าเป็นเร่ืองสมัยใหม่ สมัย พังทลาย บางทีไหม้เลยไปถงึ ทอี่ ืน่ เชน่ เคยไปเห็นว่าไหม้ น้ีใคร ๆ ก็เพาะเน้ือเย่ือกันท้ังนั้น นักเรียนโรงเรียน เลา้ ไกข่ องโรงเรยี น หมอกควนั ทเ่ี กดิ จากการเผาไหมย้ งั เปน็ ประถมยังทำ�ได้ แต่ตอนน้ันถือว่าเป็นเร่ืองสมัยใหม่ อันตรายต่อสขุ ภาพ เราก็พยายามแก้เรือ่ งนอ้ี ยเู่ หมอื นกัน เช่น โครงการในสวนจิตรลดาทำ�การเพาะเนื้อเย่ือ เพื่ออนุรักษ์ ตัวอย่างเช่น โครงการอนุรักษ์หวายพันธ์ุ ขอย้อนกลบั มาเรอ่ื งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ต่าง ๆ อนุรักษ์ต้นไม้ต่าง ๆ ท่ีมีอยู่ในวังมานานแล้ว เช่น ตามหัวข้อ เม่ือต้นรัชกาล ตอนนั้นเกิดไม่ทัน เกิดไม่ทัน สมอ มณฑา ขนุน เป็นต้น ขนุนนี่เขาว่ามีมาต้ังแต่สมัย ในท่ีน้ีแปลว่าไม่ทันที่จะเข้าใจเร่ืองราวของผู้ใหญ่ แต่ว่า รัชกาลท่ี ๓ แล้ว ก็เอามาปลูก แล้วแจกจ่ายราษฎร ที่ ตอนท่ีท่านทำ�ข้าพเจ้าเกิดแล้ว ไม่ได้นำ�ประสบการณ์ เรียกว่าขนุนไพศาลทักษิณ ขึ้นอยู่ในวังหลวง ที่ทรงทำ�น้ี มาเลา่ แตไ่ ดฟ้ งั ค�ำ บอกเลา่ จากนายแกว้ ขวญั วชั โรทยั อดตี เป็นต้นกำ�เนิดของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชที่ทำ�มา เลขาธิการพระราชวังผู้ล่วงลับไปแล้ว เล่าว่า ตอนเสด็จ จนถึงทุกวันน้ี โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชรวมพันธ์ุไม้ พระราชดำ�เนินแปรพระราชฐานไปประทับท่ีวังไกลกังวล ที่อาจมีโอกาสถูกทำ�ลายได้ เช่นในท่ีท่ีน้ําจะท่วมเม่ือทำ� อำ�เภอหัวหนิ จังหวัดประจวบคีรีขนั ธ์ ในระยะแรกเข้าใจ อา่ งเก็บนา้ํ พชื ที่ขนึ้ อยูใ่ ตเ้ สาไฟแรงสูง มกี ารเกบ็ พืชตา่ งๆ ว่าเสด็จทางรถไฟ ต่อมาเสด็จทางรถยนต์ จะเป็นเม่อื ไร มาท�ำ หอพรรณไม้ ท่ีจริงไม่อยากจะเอย่ อ้างว่าเปน็ ผลงาน ทเี่ ดย๋ี วนเ้ี รยี กวา่ อพสธ. หรอื โครงการอนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมพชื อันเน่ืองมาจากพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
10 ทรงบรรยาย ท่ีจริงสมเด็จพระเทพรัตน์ ฯ ก็ไม่ได้ทำ�อะไรเท่าไร เพียง แต่ว่าตอนน้ันเป็นต้นคิดในเรื่องของการใช้คอมพิวเตอร์ ซ่งึ สมยั นัน้ ยากมาก เอามาท�ำ ฐานข้อมูล เพอ่ื ใหฐ้ านขอ้ มลู หอพรรณไมแ้ ละพชื ตา่ งๆ ทเี่ กบ็ ไวใ้ นทต่ี า่ งๆ เชน่ กรมปา่ ไม้ กรมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ อื่น ๆ สามารถแลกเปล่ียนกันได้ ให้ข้อมูลเอามาใช้ และ ผคู้ นไดใ้ ชแ้ ลว้ เปรยี บเทยี บกนั ได้ ภายหลงั นำ�มาเพอื่ ศกึ ษา ทำ�เป็นฐานข้อมูลที่ไปติดต่อสอบถามเชื่อมโยงข้อมูลได้ ทัว่ โลก เชน่ Index Kewensis ไปดูที่ฝร่ังเศสก็มีท�ำ และ เราเอาไปเทียบได้ เก่ียวกับทางป่าไม้เขาบอกว่าลำ�บาก หางบประมาณท่ีจะให้นักวิชาการไปเทียบพันธ์ุไม้ตาม หอพรรณไม้ในต่างประเทศกไ็ ม่ใช่ไปได้งา่ ยๆ จงึ พยายาม ใช้เรื่องพวกน้ีช่วย พยายามให้มีการเก็บพันธ์ุไม้เพ่ิมข้ึน มีการถ่ายทอดวิธีการและเทคโนโลยีเหล่าน้ีไปถึงเด็กและ เยาวชน ตั้งแต่มหาวิทยาลัย หลังปริญญา ปริญญาตรี ลงมาวชิ าชพี อาชวี ะ จนในทสี่ ดุ ถงึ ชนั้ อนบุ าล ทำ�ใหท้ กุ คน มีโอกาสเรยี นรู้ตามภูมิปัญญาของตวั เอง
รกั ษป์ า่ น่าน 11 “ ใหศ้ นู ยศ์ กึ ษาการพัฒนาฯ ทำ�หนา้ ที่เสมอื นพิพธิ ภัณฑ์ธรรมชาติที่มชี วี ติ หรอื อกี นยั หน่ึงเป็นสรุปผลการพฒั นา ทปี่ ระชาชนจะเข้าไปเรียนร้แู ละน�ำ ไปปฏิบัตไิ ด้ ” อีกเรื่องหนึ่งที่คิดว่าน่าสนใจที่เก่ียวกับป่าไม้โดย ใช้วิชาการหลาย ๆ สาขา ไม่ใช่ว่าตรงนี้ป่าไม้ประมง ห้ามเขา้ ปศสุ ตั ว์ห้ามเขา้ เอาพื้นท่เี ป็นหลัก และทกุ คนก็ ทอี่ าจไมม่ ใี ครนกึ โยงถงึ คอื เรอื่ งศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นา ร่วมกันเอาวิชาการของตัวเองมาช่วยทำ�ให้ส่ิงน้ันมีค่าข้ึน มาอย่างไร แล้วนำ�ไปส่งเสริมให้เกษตรกรปฏิบัติให้เป็น ที่มีอยู่ ๖ ศนู ย์ ท่อี ยู่ในสภาพภมู ิศาสตร์แตกตา่ งกัน และ ประโยชนอ์ ย่างแทจ้ ริง เปน็ ทท่ี หี่ นว่ ยงานราชการ องคก์ รเอกชน และคนทว่ั ไปเขา้ มาช่วยกัน เอาพ้ืนที่เป็นหลัก แล้วศึกษาแบบบูรณาการ
12 ทรงบรรยาย ตอนนี้เราอยู่ภาคเหนือ ก็ขอยกตัวอย่างศูนย์ ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ กอ่ น ตอนทจ่ี ฬุ าฯ ท�ำ ปา่ ของจฬุ าฯ กไ็ ดไ้ ปยมื ตวั นกั วชิ าการ จากห้วยฮ่องไคร้มาช่วย ทำ�ไปทำ�มารู้สึกจะมีคนท่ีภูมิใจ จะอยกู่ บั จุฬาฯ ไปเลยก็มี เมอ่ื หลายสบิ ปมี าแล้ว ไดต้ าม เสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปท่ีห้วยฮ่องไคร้ ตอนน้ันยังไม่ได้ทำ�ศูนย์ศึกษา ไม้ก็ถูกตัดไปเยอะแยะ แล้ว เข้าใจว่าเคยเป็นป่าไม้สัมปทาน ย่ิงไปกว่าน้ัน อย่าว่าแต่ป่าเลย ดินก็ถูกขุดเป็นรูโบ๋ ๆ มีแต่ลูกรังเอา ไปขาย ไม่ใช่แต่ศูนย์ท่ีอยู่ตรงนั้น ท่ีดินของใครที่เจ้าของ ไม่หม่ันไปดู โผล่ไปอกี ทกี ็เห็นดนิ ถกู ขุดเอาไปขาย บางคน เหน็ วา่ ตรงนน้ั ท�ำ อะไรไมไ่ ดน้ อกจากบอ่ ปลา กจ็ บั ปลาไมไ่ ด้ ใน พ.ศ. ๒๕๒๕ มีพระราชดำ�ริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษา การพฒั นาหว้ ยฮอ่ งไคร้ ตรงนน้ั ไดย้ นิ ค�ำ วา่ ปา่ สามอยา่ ง ประโยชน์สี่อยา่ ง ตอนนก้ี ็พูดกนั ท่วั ๆ ไป คอื นอกจาก ปลกู ไมพ้ น้ื เมอื งแลว้ ไมพ้ น้ื เมอื งบางทโี ตชา้ มพี ระราชด�ำ ริ ให้ปลูกไม้สำ�หรับก่อสร้างทำ�บ้านเรือนและใช้สอย เช่น ไม้ไผ่ ไม้สน ไม้ยาง หวาย ไม้แดง ปลูกไม้กินผล เช่น กลว้ ย มะม่วง มะละกอ ขนุน ฝรัง่ มะพรา้ ว ตาล สะเดา แค มะไฟ มะขามปอ้ ม ไมใ้ ช้ฟนื เชน่ ขเี้ หล็ก แลว้ กไ็ มอ้ ืน่ ทั่ว ๆ ไป ประโยชน์อย่างที่ส่ีคือ ช่วยชะลอน้ํา ป้องกัน
รักษป์ า่ น่าน 13 ดินถล่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม้พื้นเมืองที่มีระบบราก เหมาะสมกบั สภาพทด่ี นิ ในทน่ี น้ั ตามภเู ขามกั มที างนา้ํ เลก็ ๆ กโ็ ปรดเกลา้ ฯ ใหท้ �ำ ฝายเลก็ ๆ ทเี่ รยี กวา่ ฝายชะลอนาํ้ หรอื ทภี่ าษาองั กฤษเรยี กวา่ check dam ท�ำ ใหน้ าํ้ หลอ่ เลยี้ งปา่ และไม่ไหลกัดเซาะดิน ป่าไม้ดูดน้ําเอาไว้แล้วส่งน้ําข้ึนมา ทางใบ สรา้ งความชุม่ ชืน้ ให้อากาศ นอกจากปา่ สามอยา่ ง ประโยชนส์ อี่ ยา่ งแลว้ ปา่ ทม่ี ใี นเมอื งไทยบางทที ดลองปลกู ไม้โตเร็วท่ีนำ�เข้าจากต่างประเทศ ก็ประสบผลสำ�เร็จดี ๗ - ๘ อยา่ ง เรื่องความชุ่มช้นื นน้ั จรงิ เม่อื ประมาณ ๔ - ๕ ปีมาแล้วได้ไปที่ห้วยฮ่องไคร้อีกคร้ัง ได้ทราบว่าหลายปีที่ ผ่านมา ทางผู้ดำ�เนินการของศูนย์จะจดอุณหภูมิไว้ทุกปี ว่าในจุดเดียวกันนี้อุณหภูมิเท่าไร อุณหภูมิลดต่ําลงมาก อยา่ งไมน่ า่ เชอ่ื มกี ารแนะน�ำ อาชพี ตา่ ง ๆ ทง้ั อาชพี ปลกู พชื และเลยี้ งสตั ว์ ท�ำ เรอื่ งตลาดให้ ชาวบา้ นเหลา่ นก้ี จ็ ะมคี วาม รูด้ ี เรยี กว่า smart farmer เป็นเกษตรกรดีเด่น เกษตรกร เหล่าน้ีส่วนมากใจดี พร้อมท่ีจะแบ่งปันความรู้ แบ่งปัน ผลผลิต บางทเี หลอื ขาย ใครอยากกนิ ก็เอาไปกินได้
14 ทรงบรรยาย ท่ีศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน จังหวัด สกลนคร ปลูกป่าปลูกพืช ทำ�ให้ป่าเส่อื มโทรมแถวน้นั อดุ มสมบรู ณข์ น้ึ ชนดิ ของปา่ กอ็ ยใู่ นขน้ั ทส่ี งู ขน้ึ คอื เปน็ ปา่ ทอ่ี ย่ใู นเขตชมุ่ ชน้ื ขน้ึ มกี ิจกรรมตา่ งๆ ท่ขี น้ึ หน้าข้นึ ตาคือ ปลกู พชื เลย้ี งสตั ว์ ทม่ี ชี อ่ื เสยี งคอื โค และไกด่ �ำ ปลกู ขา้ ว ปลกู ถว่ั ขายขา้ วขายถว่ั ยห่ี อ้ นกเคา้ แมว เพราะแถวนน้ั อยู่ ในหมู่บ้านช่ือนานกเค้า ส่ิงท่ีนำ�มาเพ่ิมมูลค่าคือถ่ัวเขียว นำ�มาทำ�วุ้นเส้น ใช้ตรานกเค้าแมว อร่อยมาก ทำ�จาก ถว่ั เขยี วแท้
รกั ษป์ ่าน่าน 15 ป่าเปียก เป็นแนวกันไฟ พระบาทสมเด็จ • สร้างฝายชะลอนํ้าเพื่อให้เกิดความชุ่มช้ืนที่ พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชดำ�ริในการสร้างแนว เรียกวา่ check dam โดยสร้างปิดกัน้ รอ่ งน้ํา ป้องกันไฟป่า เรียกว่า ป่าเปียก ซ่ึงเป็นการสร้างความ หรือลำ�ธารขนาดเล็กเป็นระยะๆ ฝายจะช่วย ชุ่มช้ืน เป็นกำ�แพงกั้นไฟ การกักนํ้าให้ป่าเปียกมีวิธีการ เก็บกักน้ําและตะกอนดินไว้บางส่วน นํ้าท่ีกัก ดงั ต่อไปนี้ ไว้จะซึมเข้าไปสะสมในดิน ทำ�ให้เกิดความชุ่ม ชน้ื แผข่ ยายเขา้ ไปทงั้ สองฟาก จนกลายเปน็ ปา่ • ท�ำ ระบบป้องกนั ไฟปา่ โดยใช้แนวคลองส่งน้าํ เปยี ก และแนวพชื ชนดิ ต่างๆ ปลูกไวต้ ามแนวคลอง • สบู นา้ํ ข้ึนทส่ี งู แล้วปล่อยให้ไหลลงมาทีละน้อย • สร้างระบบการควบคุมไฟป่าด้วยป่าเปียก ช่วยเสริมการปลูกป่าบนพ้ืนท่ีสูงให้กลายเป็น โดยอาศยั น้ําชลประทาน และนาํ้ ฝน ป่าเปยี ก ชว่ ยป้องกนั ไฟป่าได้ • ปลูกไม้โตเร็วคลุมแนวร่องน้ํา เพ่ือให้ความ • ปลกู ตน้ กลว้ ย ซง่ึ เป็นพืชทส่ี ามารถอมุ้ น้าํ ไวไ้ ด้ ชุ่มช้ืนค่อย ๆ ทวีข้ึน และแผ่ขยายออก มากกว่าพืชชนิดอ่ืนในพ้ืนท่ีที่กำ�หนดให้เป็น ไปท้ังสองฟาก ทำ�ให้ต้นไม้เจริญเติบโต และ ช่องว่างของป่า กว้าง ๒ เมตร เพ่ือเป็นแนว ช่วยป้องกันไฟป่า เพราะไฟป่าจะเกิดขึ้นหาก ปะทะกับไฟปา่ ป่าขาดความช่มุ ชน้ื
16 ทรงบรรยาย ป่าอีกชนิดท่ีโปรดเกล้าฯ ให้ทำ�คือ ป่าชายเลน ผลไม้ ต้องพยายามชักชวนให้เกษตรกรลดเลิกการใช้ สารเคมีที่จะไหลลงไปที่ป่าชายเลน ซ่ึงเป็นท่ีอาศัยของ จรงิ ๆ มที ั้งปา่ ชายเลน ป่าชายหาด แตจ่ ะขอกล่าวเฉพาะ สตั วน์ า้ํ และทำ�ใหส้ ัตวน์ ้าํ ตาย ป่าชายเลนที่มีความสำ�คัญต่อระบบนิเวศชายฝั่งทะเล ปจั จบุ นั ถกู ท�ำ ลายไปมาก ต้องปลูกขน้ึ มาใหม่และดแู ลให้ โครงการแหลมผักเบ้ีย จังหวัดเพชรบุรี ดี การขยายพันธ์ุค่อนข้างยาก ต้องอาศัยระดับนํ้าข้ึนลง จึงต้องมีหนว่ ยราชการหลายหนว่ ยมาร่วมกัน ทดลองเกี่ยวกับประโยชน์ของพืชท่ีสามารถดูดของเสีย บำ�บัดน้ํา บำ�บัดขยะมูลฝอย มีห้องปฏิบัติการสำ�หรับ ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ ศูนย์ศึกษาการพัฒนา วเิ คราะหต์ วั อยา่ งพชื และยงั มโี ครงการอน่ื ๆ เชน่ ทอี่ �ำ เภอ อ่าวคุ้งกระเบน จังหวัดจันทบุรี ตอนบนเป็นสวน สงิ หนคร จงั หวดั สงขลา อ�ำ เภอหนองจกิ และอ�ำ เภอยะหรง่ิ จังหวดั ปตั ตานี
รกั ษป์ ่านา่ น 17 เมือ่ บรรยายคร้งั ท่แี ลว้ กก็ ลา่ วถงึ ปา่ พรุ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวมพี ระราชด�ำ รสั ถงึ ปา่ พรวุ ่า “...ป่าพรุเป็นพื้นที่สำ�คัญต่อความอยู่ดีกินดีของราษฎร รอบพื้นที่พรุ อีกทั้งยังเป็นอ่างเก็บนํ้าธรรมชาติที่ชะลอการไหลบ่า ของนํ้าจากเทือกเขาต่าง ๆ ก่อนระบายลงสู่ทะเล...” การศึกษาพ้ืนท่ีป่าพรุเร่ิมต้นตั้งแต่ปี ๒๕๑๖ นาํ้ ขงั เกอื บตลอดปี หรอื ทเ่ี รยี กวา่ พรุ มสี ภาพดนิ เปรยี้ วจดั ในการทำ�งานพัฒนาหรืองานอนุรักษ์ใด ๆ ก็ตาม ไม่สามารถปลูกพืชได้ดี พื้นท่ีในจังหวัดนราธิวาสจะ จ ะ เ ห็ น ว่ า พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ จ้ า อ ยู่ หั ว ท ร ง ใ ช้ มีสองส่วนท่ีแย่ คือ ส่วนท่ีเป็นพรุ ที่เกิดจากแม่นํ้า เวลา ไม่ใช่เข้าไปแล้วทำ�เลย ต้องไปศึกษา อย่างไป ไหลพาเอาตะกอนไป ถูกคลื่นในทะเลซัดเข้ามา อยู่นราธิวาส เสด็จออกทุกวันต้ังแต่เช้าจนค่ํา ทำ�ให้เกิดแหลมแบบก้ามปู อย่างแหลมตะลุมพุก จนดึก ไปดูแทบจะว่าปูพรมทุกหมู่บ้าน ทรงขับรถไป ที่เรารู้กันว่าเกิดวาตภัยต่าง ๆ แหลมตะโละกาโปร์ เองแล้วก็ไปดู ปี ๒๕๒๔ เสด็จฯ ไปประทับแรม ณ ท่ียะหริ่ง ปัตตานี เป็นก้ามปู นาน ๆ ก้ามปูก็จะไปชน พระต�ำ หนกั ทกั ษณิ ราชนเิ วศน์ ทรงเยยี่ มราษฎรใชเ้ วลานาน กับฝ่ัง ทำ�ให้นํ้าขังอยู่ นานเข้าก็จะเป็นแถบที่เรียกว่า ทรงทราบถึงปัญหาความทุกข์ยากของราษฎรท่ีทำ�การ ดินเปร้ียว มีสภาพเป็นกรดสูง ค่า pH อยู่ท่ี ๒ - ๓ ก็ เกษตรได้ผลผลิตตํ่า เนื่องจากพื้นท่ีส่วนหน่ึงเป็นลุ่มนํ้าท่ี ยังมี โดยท่ัว ๆ ไปประมาณ ๔ ปรับขึ้นเป็น ๕ ได้ กับ อีกส่วนที่ยังเป็นแหลมยาว ๆ เป็นหาดทราย มีธาตุ ต่างๆ ฝนก็ชะลงไป เรยี กวา่ hard and compact soil หรือดินดาน เพาะปลูกอะไรไม่ได้ เขาจะทำ� สวนมะพร้าวท่ีเรียกกันว่ามะพร้าวสีทอง ลูก ก็ไม่มี เหลืองจะตายก็ไม่ตาย แต่มีคนเข้ามา สงเคราะห์ถอนท้ิงไปหมดและใช้ที่ทำ�อย่างอื่น ก็โล่งใจไป แต่อยู่มาหลายสิบปี งานที่คิดก็จะ ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรป่าพรุที่เหลือ ป่าพรุน่า สนใจมาก เป็นระบบนเิ วศทค่ี วรไปศกึ ษา และ เกบ็ เอาไว้บา้ ง
18 ทรงบรรยาย ที่พยายามทำ�อยู่หลายปีนั้น คือเข้าไปในท่ีลึกๆ ไปปกั ปา้ ยในจดุ ทน่ี า่ สนใจวา่ ดนิ เปรย้ี วขนาดนนั้ การตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเน่ืองมา แต่ยังมีต้นไม้ข้ึน แล้วศึกษาดูพบว่ามีจุลินทรีย์ จากพระราชด�ำ ริน้ันเพื่อศกึ ษา ค้นคว้า ทดลองแก้ปญั หา หลายชนิดที่น่าจะเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ดนิ เปรีย้ ว ดินทราย ดินดาน ใหก้ ลบั มาท�ำ การเกษตรและ ท่ีดูเอาไว้คือชนิดท่ีจะช่วยให้พืชเจริญเติบโต ใช้ประโยชนไ์ ด้ เพือ่ ขยายผลแห่งความส�ำ เรจ็ ส่รู าษฎรตอ่ ไดด้ ี ในสว่ นของปุ๋ยเราจะใชป้ ระโยชน์ต้องดกู ่อน ไป โดยเฉพาะท่ีเรียกว่าหมู่บ้านบริวาร หรือสาขาศูนย์ • เขตอนุรักษ์ (Conservation Zone) เป็น ศึกษา พ้นื ท่ีพรทุ ่ีถกู ทำ�ลายไปบางสว่ น และยังไมม่ ีการ เข้าไปพัฒนา สาเหตุหลักคือการบุกรุกเข้าไป ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จังหวัด แผ้วถาง และไฟไหม้ป่าในช่วงท่ีเกิดภาวะแล้ง นราธิวาส ได้กำ�หนดเขตการใช้พื้นที่ป่าพรุในจังหวัด จดั ลกั ษณะดนิ เปรย้ี วจดั และมนี า้ํ ทว่ มขงั ตลอด เกือบทั้งปี ยังพบว่ามีไม้เสม็ดขาว กก กระจูด นราธิวาสออกเป็น ๓ เขต ดังน้ี และพชื พวกหญา้ กระจดั กระจายอยทู่ ว่ั ไป ตรงน้ี • เขตป่าสงวน (Preservation Zone) กพ็ ยายามฟน้ื ฟดู ว้ ย มกี ารใหป้ ระชาชนเขา้ ไปใช้ เป็นบริเวณพ้ืนที่ท่ียังคงสภาพเป็นป่าธรรมชาติ ประโยชน์ไดบ้ า้ ง ขอ้ สำ�คญั เรือ่ งของชลประทาน อย่างสมบูรณ์และยังไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์ และพฒั นาที่ดิน ตอ้ งคยุ กันใหด้ ีว่าจะท�ำ อย่างไร มีน้ําท่วมขังตลอดปี ในฤดูฝนอาจท่วมสูงถึง ต้องใช้วชิ าของแตล่ ะฝ่าย ถา้ ระดับนํ้าตาํ่ เกินไป ๒ - ๓ เมตร สว่ นพืน้ ท่ีปา่ มีลกั ษณะสูงๆ ต่าํ ๆ จะเปรยี้ วจดั เกดิ ไฟปา่ ไหม้ นาํ้ กจ็ ะไหลเขา้ ไปใน ต้นไม้ส่วนใหญ่แตกรากคํ้าเป็นพูพอน และยัง ไร่นาของราษฎรเกิดความเสยี หาย ถา้ นํ้าสงู ไปก็ มีพืชพรรณธรรมชาติข้ึนเบียดเสียดกันอยู่อย่าง อาจจะไหลลงมาทว่ มได้ ตอ้ งจัดใหพ้ อดีๆ หนาแน่น ไม้ยนื ตน้ ปะปนกวา่ ๔๐๐ ชนิด พืช • เขตพัฒนา (Development Zone) เป็น พ้ืนล่างท่ีพบ เช่น เถาวัลย์ ปาล์ม หวาย และ บริเวณพื้นที่พรุท่ีได้มีการระบายนํ้าออกไปบ้าง เฟิรน์ การเดนิ ทางเข้าไปยากมาก ถา้ เราไมเ่ ดิน แล้ว พืชพรรณด้ังเดิมก็ถูกแผ้วถางจนหมดสิ้น ก้าวไปเรอ่ื ยๆ เราจะจมลึกลงไปทุกทีๆ และใน กลายเป็นพืชเกษตร และมีกิจกรรมต่างๆ อย่าง นั้นมีกลิ่นเหม็นมากเนื่องจากเป็นอินทรียวัตถุ ตอ่ เนอ่ื ง มพี นื้ ทที่ ใี่ ชเ้ พอื่ กจิ กรรมทางดา้ นเกษตร ไปพรุกลับมาเขาไม่ให้เข้าบ้านถ้าไม่ล้างเสีย และมีโครงการพัฒนาต่าง ๆ เข้าไปดำ�เนินงาน ก่อน มีพืชท่ีเป็น new species หรือพืชพันธุ์ ใหม่ท่ีไม่มีท่ีไหนในโลก หรือ new records อาจจะเจอท่ีอ่ืนในโลกแล้วแต่ยังไม่เจอท่ีตรง นั้น แล้วก็พบอยู่เรื่อย ๆ อย่างที่มีโครงการใหม่
รักษป์ ่านา่ น 19 อย่างต่อเนื่อง มีการจัดสรรท่ีดินในพ้ืนท่ีเหล่า ที่เคยเสื่อมโทรมกลับคืนเข้าสู่สภาพท่ีเป็นประโยชน์ น้ีให้ราษฎรเข้าอยู่อาศัยและทำ�กินอย่างถาวร มากมายแก่คนในชุมชนละแวกน้ัน มีประชาชนมาสมัคร ต้องอาศัยชลประทาน พัฒนาที่ดิน และฝ่าย เป็นกลุ่มเพื่อนพรุ อธิบายประโยชน์ของป่าพรุแก่ผู้ท่ีมา เกษตรท่ีจะช่วยเลือกพืชที่เหมาะสมท่ีจะนำ� เข้าชม ก็ได้รับความสนใจพอสมควร ป่าพิกุลทองใน เข้าไปเพาะปลูก เขตพรุดินจะไม่ค่อยมั่นคงเท่าไร อย่างที่มาเลเซียก็เป็น ในศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจาก ปลูกปาล์ม ปาล์มก็จะเอียง แต่อยากจะทดลองดู ก็เลย พระราชดำ�ริ มีพื้นที่ที่มีการจำ�ลองธรรมชาติของป่าพรุ ไปขอพ้ืนท่ีในเขตของป่าไม้ จะทดลองปลูกปาล์มในพ้ืนที่ มารวมกันไว้ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนและประชาชนท่ัวไปสามารถ แถบน้ีดู แต่พอดูพื้นที่ ไปยืนในพื้นที่ดูท่าจะไม่ไหว เลย เข้าไปศึกษาเรียนรู้ สัมผัสระบบนิเวศที่สวยงามของพรุ ขอเปล่ียนโครงการไปเป็นเสม็ดขาว วิเคราะห์ดูพบว่า และยังเป็นการสร้างความรู้สึกหวงแหน ให้ทุกคนได้ เสม็ดขาวมีนํ้ามนั ทเ่ี ป็นประโยชน์ น�ำ มาท�ำ ยาหมอ่ งทำ�ยา ตระหนักถึงประโยชน์ของป่าพรุอีกด้วย ปัจจุบันป่าพรุ ต่าง ๆ ก็ยังได้ และใช้ไม้ทำ�ประโยชน์ได้ เห็นผู้ใหญ่บ้าน เอาไม้เสม็ดขาวมาทำ�รวั้ บา้ น
20 ทรงบรรยาย นอกจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ พัฒนาพื้นท่ีและพัฒนาคุณภาพชีวิต รู้จักการทำ�งานที่ ภูพาน พิกุลทอง คุ้งกระเบนแล้ว ยังมีศูนย์ศึกษาการ สมยั ใหม่เรียกวา่ บรู ณาการ คอื ทุกหนว่ ยงาน ไม่วา่ จะเป็น พัฒนาห้วยทราย อำ�เภอชะอำ� จังหวัดเพชรบุรี และ ป่าไม้ เกษตร ประมง ปศุสัตว์ ชลประทานพัฒนาที่ดิน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อำ�เภอพนมสารคาม หรือโรงเรียน ครูตำ�รวจตระเวนชายแดนที่อยู่แถวๆ น้ัน จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่กล่าวมาท้ัง ๖ ศูนย์นี้ พอไปศึกษา ศกึ ษาวธิ ที ำ�งานร่วมกนั ปรกึ ษาหารอื กัน เพอ่ื การพัฒนา ต้นเหตุที่มีพระราชดำ�ริจริง ๆ ก็เป็นเรื่องป่าไม้ท้ังน้ัน คนและพน้ื ท่ี คือต้องการให้ประชาชนและข้าราชการศึกษาวิธีการ
รักษ์ป่าน่าน 21 ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย จังหวัด เพชรบุรี ตอนน้ีเป็นพ้ืนท่ีที่ตำ�รวจตระเวนชายแดนดูแล อยู่ เล่ากันว่าสมัยก่อนเป็นที่ท่ีอุดมสมบูรณ์มีเน้ือทราย อาศัยอยู่จำ�นวนมาก รัชกาลท่ี ๖ ทรงสร้างพระตำ�หนัก ที่ชื่อมฤคทายวัน มีความหมายว่า เป็นป่าท่ีอภัยทานแก่ กวาง ไม่มีใครเข้าไปทำ�ร้ายกวางหรือเน้ือทราย ใน ๓๐ กว่าปี ผู้คนตัดป่าทำ�การเกษตรจนต่อมาทำ�การเกษตร ไม่ได้ แห้งแล้ง ดินแข็งเป็นดินดาน นํ้าแห้งจึงทรงเร่ิม พัฒนาเม่ือ พ.ศ. ๒๕๒๖ มีกิจกรรมป่าไม้อเนกประสงค์ หญ้าแฝก ป่าชายเลน เป็นต้น มีสาขาคือท่ีเขาชะงุ้ม ราชบุรี เคยเป็นป่าอุดมสมบูรณ์แล้วกลายเป็นลูกรัง ไปหมด บางคนบอกน่ีไมใ่ ชล่ ูกรังแล้ว เป็นแมร่ ัง จึงค่อยๆ ปลกู ปา่ บนภเู ขา แลว้ คอ่ ยๆ ลงมาข้างล่าง ไม่ได้ไปดูนาน แลว้ แตป่ ัจจุบันคนที่ไปเล่าว่าพน้ื ทดี่ ขี ้นึ
22 ทรงบรรยาย ศูนยศ์ กึ ษาการพัฒนาเขาหินซอ้ น จงั หวัด ฉะเชิงเทรา เร่มิ เป็นทแ่ี รกเมอ่ื พ.ศ. ๒๕๒๒ ทีเ่ ข้าไปเห็น ตอนแรกกค็ อ่ นขา้ งแหง้ แลง้ ชาวบา้ นท�ำ ไดแ้ ตม่ นั ส�ำ ปะหลงั ที่คุณภาพไม่ดีนัก ราคาตกต่ํา จึงไปแนะนำ�ให้ชาวบ้าน ปลูกพืชอื่น ย่ิงขายไม่ได้ ต่อมาเม่ือศูนย์พัฒนาได้เต็มรูป ก็มีรายได้เสริม และเป็นลักษณะคล้าย ๆ กัน มีการ แปรรูปผลผลติ ทางการเกษตร ชาวบา้ นในหมบู่ ้านบรเิ วณ ศูนย์มีรายได้เพ่ิมข้ึน บางรายเป็น smart farmer คิด วิธีการเกษตรแนวใหม่ของตนเอง ประสบความสำ�เร็จ ในชีวิต รักษาปา่ ไมไ้ ดด้ ี อันน้เี รยี กว่าเป็นเร่ืองใหม่
รักษ์ปา่ น่าน 23 ท่ีเป็นเรื่องเก่าทีเดียวตั้งแต่จำ�ความได้ว่าได้ตาม การสร้างป่า นอกจากเอากล้าไม้มาปลูกแล้ว เสด็จราวปี ๒๕๐๕ เสด็จพระราชดำ�เนินไปเชียงใหม่ ไป เดินป่าที่เรียกว่า hiking ไปเห็นว่าราษฎรยากจน ตอน ยังมีที่เขาเรียกว่าปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก ปลูกป่า นั้นอายุ ๗ - ๘ ปี ไปเป็นเพ่ือนเล่นกับม้ง แต่ยังไม่ได้ทำ� โดยไมร่ งั แกปา่ บรเิ วณทม่ี ปี า่ ไมเ้ ลอ่ื นลอย ตดั ไมไ้ มห่ มด อะไร แต่ก่อนคนอยู่บนภูเขาต้องถางป่าทำ�ไร่ เรียกว่าไร่ เล่ือนลอย พอ ๗ - ๘ ปี วงรอบหนงึ่ ก็กลบั มาที่เดมิ ป่าไม้ มีผลของต้นไม้ตกลงมาไหลตามนํ้า เกิดมาเป็นป่า จะได้ ขน้ึ มาใหมแ่ ลว้ กถ็ างใหมอ่ กี แตป่ จั จบุ นั ท�ำ อยา่ งนไ้ี มไ่ ดแ้ ลว้ ไม่ต้องตัดซํ้าตัดซาก ต้นใหม่จะเกิดข้ึนเองไม่ต้องปลูก เพราะคนมากขึน้ อพยพกันมา ถางป่ากนั มากขน้ึ ทรงหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไม้ที่อยู่ในที่สูง เมล็ดลงมาใหม่ท่ี วิธีชว่ ยเหลือ หาพนั ธ์พุ ืช เช่น ถ่วั ผกั กาแฟ ไมผ้ ล ไมด้ อก ตาํ่ ลง เร่ืองนก้ี แ็ ปลกอย่เู หมอื นกนั ตอนท่ีไปเข้าอบรมครู สัตว์ตา่ งๆ เชน่ ปลา พนั ธพ์ุ ชื เหล่านี้เปน็ ของท่มี ีราคาแพง ภมู ศิ าสตรท์ ปี่ ระเทศองั กฤษ นอกจากเรยี นในหอ้ งแลว้ เขา ปลกู ในทีร่ าบไดไ้ มด่ ี สอนให้ชาวบ้านบนพ้นื ท่ีสูงปลกู แลว้ พาออกพ้นื ที่ วิทยากรองั กฤษก็พดู แบบเดยี วกันคอื ถ้าไม่ เอาไปขายให้ ท�ำ การตลาดให้ แตท่ ล่ี าดชนั ตามหลกั ทฤษฎี ไปรังแกไมไ่ ปยุง่ กับมนั เมล็ดก็จะค่อยๆ งอกเอง สอนให้ พยายามปลอ่ ยใหเ้ ปน็ ปา่ ทไี่ มล่ าดชนั นกั กท็ �ำ นาหรอื เพาะ เดก็ สงั เกตว่าเมล็ดเหลา่ น้จี ะแพร่พนั ธ์อุ ย่างไร ปลูกใช้วิธีทำ�เป็นขั้นบันได ทำ�ให้ใช้พื้นท่ีน้อยลง ปัจจุบัน ชาวบ้านพวกท่ีทำ�โดยวิธีนี้มีฐานะดีมาก พืชท่ีขายได้ก็ส่ง ปลกู ปา่ ไม้ในใจคน เรอ่ื งนจี้ �ำ ไมไ่ ดว้ า่ ไดฟ้ งั จาก ไปขายถงึ ตา่ งประเทศ ท่ีไหน ตามข้อมูลบอกว่ามีพระราชกระแสประมาณปี ๒๕๑๙ หรือก่อนหน้าน้ัน เข้าใจว่าหมายถึงเจ้าหน้าท่ี ป่าไม้ที่มีจำ�นวนไม่มากนัก จะไล่จับคนตัดไม้ทำ�ลายป่า ก็จับกันไม่หวาดไม่ไหว ควรจะใช้วิธีที่ เรยี กวา่ ปลกู ปา่ ไมใ้ นใจคน คอื ใหอ้ ธบิ าย ให้เข้าใจว่าการมีป่าไม้มีประโยชน์ อย่างไร แนะน�ำ ให้ปลูกพืชทีจ่ ะขายเป็น รายได้ โดยไม่ต้องตัดไม้ หรือปล่อย สว่ นหน่งึ เป็นป่าไม้ อกี ทีห่ นึง่ ปลกู ไมท้ ม่ี ี คณุ ค่าทขี่ ายได้ แลว้ ไมต่ ้องไปตดั ไม้
24 ทรงบรรยาย การสอนนนั้ สอนตง้ั แตเ่ ดก็ ๆ ใหช้ นิ กบั การอนรุ กั ษป์ า่ การออกไปเดินศึกษาพันธ์ุไม้ ให้เห็นประโยชน์ของป่าไม้ ที่เห็นทำ�กันก็มีการร้องเพลง ถ่ายภาพ วาดรูป เมื่อปลูก ต้นไม้ในใจคนเหล่าน้ันแล้ว คนเหล่านั้นก็จะปลูกต้นไม้ บนแผ่นดิน และดูแลรักษาเอง ให้ชาวบ้านร่วมกิจกรรม อนุรักษ์ป่าตั้งแต่ต้น ได้แก่ เพาะกล้า เจ้าหน้าท่ีซื้อจาก ชาวบ้าน ตั้งป่าไม้ชุมชน ชาวบ้านดูแลไม่ให้มีการตัดไม้ ทำ�ลายป่า ป้องกันการเกิดไฟป่า และใช้ของในป่าอย่าง ร้คู ณุ ค่า
รกั ษ์ป่านา่ น 25 งานที่ทำ�ต่อที่เรียกว่าตามรอยพระยุคลบาท เกี่ยวกับพืชและสัตว์ป่า ปีหน่ึงได้มาพบปะแลกเปล่ียน ความรกู้ นั มศี นู ยท์ ี่คลองไผ่ อำ�เภอสคี ว้ิ นครราชสีมา เปน็ คืออนุรักษ์พันธุกรรมพืช จากท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้า ศูนย์วิจัยมีอุปกรณ์เคร่ืองมือ ที่สำ�คัญให้ประชาชนเข้าไป อยหู่ วั ทรงท�ำ ไว้ คอื เกบ็ พนั ธพ์ุ ชื จากทต่ี า่ งๆ ท�ำ ฐานขอ้ มลู ศึกษาได้ คอมพิวเตอร์เรื่องพันธ์ุไม้ในประเทศไทย สอนเด็ก ๆ ให้ ศึกษาพืชแต่ละชนิดและประโยชน์ของพืช ทำ�โครงงาน
26 ทรงบรรยาย สรา้ งปา่ สรา้ งรายได้ เปน็ เรอื่ งทีท่ �ำ มา ๔-๕ ปี กาแฟ ขณะน้ีฝ่ายภาคเอกชนใช้วิธีทำ� MoU กับป่าไม้ เข้าไปทำ�ได้ แต่ประชาชนรายย่อยหลายกลุ่มท่ียังทำ� แล้ว ขณะนี้ก็ทำ�ต่อไปในแนวท่ีประชาชนไม่จำ�เป็นต้อง ไม่ได้ ต้องอาศัยทางราชการหรือโครงการไปช่วยตกลง ตัดต้นไม้ใหญ่ แต่สามารถปลูกพืชเศรษฐกิจได้ ในบางท่ี กับทางราชการระดับสูง เพื่อให้ทราบว่าทำ�อะไรได้ ทำ� ประชาชนเป็นมัคคุเทศก์ท้องถ่ินพานักท่องเท่ียวชม อะไรไม่ได้ ทำ� MoU ตกลงกัน เรื่องน้ีได้คุยกับทาง พืชสัตว์ มีรายได้ดี ไม่ต้องทำ�ลายป่าไม้ หรือโครงการ อุทยานไว้ และคนท่ีทราบดีอีกท่านคืออธิการบดีวันชัย ชานํ้ามันที่เชียงรายก็ปลูกชาน้ํามัน ทำ�ให้ไม่ต้องขยาย อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซ่ึงท่ีมหาวิทยาลัย พน้ื ทท่ี จ่ี ะปลกู ไมต่ อ้ งตดั ปา่ ตอ่ ไป แตป่ ญั หาคอื ตอ้ งหารอื เม่อื ตอนไปใหม่ๆ หลายปีมาแล้วจะเปน็ ภูเขาโกรน๋ ระยะ กับกรมป่าไม้และกรมอุทยานให้ดีว่าจะอนุญาตให้ทำ�ได้ หลัง ๆ ท่ีไป ปลูกต้นไม้จนขึ้นเต็มไปหมด จึงเชิญมาช่วย ที่ไหน นอกจากปลูกได้แล้ว ต้องให้นำ�ออกจากป่าได้ ที่นี่ มาชว่ ยทำ�งานกัน เช่น ปลูกกาแฟ ไม่ใช่ปลูกอย่างเดียว ต้องมีวิธีทำ�ยุ้งเก็บ
รกั ษ์ปา่ นา่ น 27 เม่ือเดือนท่ีแล้วได้ไปสวนพฤกษศาสตร์และ ป่าอนุรักษ์ที่มอริเชียส และประเทศมาดากัสการ์ และเม่ือปีท่ีแล้วได้ไปประเทศบราซิล ประเทศเหล่าน้ี มีป่าไม้มาก แต่ก็ถูกทำ�ลายเช่นกัน เช่นท่ีบราซิลก็น่า เสียดายเพราะมีการถางต้นไม้เพ่ือทำ�ทุ่งหญ้าเล้ียงสัตว์ ปรากฏว่าทุง่ หญา้ ก็ไม่งาม วัวก็ผอม และได้เดินทางต่อไป ดูโครงการของเอกชนท่ีร่วมมือกับภาครัฐและนักวิชาการ ตามมหาวทิ ยาลยั ตา่ งๆ ทงั้ ในประเทศบราซลิ และประเทศ อน่ื ๆ ศกึ ษาระบบนเิ วศ ปลอ่ ยใหพ้ ชื ขน้ึ โดยไมท่ �ำ ลาย คนท่ี ท�ำ โครงการนบี้ อกวา่ เขาพยายามท�ำ พน้ื ทเี่ ลก็ ๆ เหมอื นจดุ การปลกู พชื ทโี่ ครงการท�ำ อยคู่ อื ไมจ่ �ำ เปน็ จะ แสงเทียนเลก็ ๆ ในประเทศบราซลิ สว่ นคุณก็ไปจุดเทยี น ต้องไม่ตัดไม้เลย แต่ให้ประชาชนปลูกพืชที่มีราคา เล็กๆ ในประเทศไทยกแ็ ล้วกัน ไดไ้ ปสวนพฤกษศาสตรท์ ี่ ปลูกอย่างประณตี ทีเ่ รยี กว่า intensive และชว่ ยใน มาดากัสการ์และมอริเชียส ไปดูป่าเช่นเดียวกับที่บราซิล เรื่องขนสง่ และการตลาด สมัยกอ่ นก็มีปญั หาแบบน้ี ประเทศเหล่าน้ีมีผู้ตัดป่าเช่นเดียวกับประเทศไทย วิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเล่า ไม่ได้ไปเห็น ป้องกันที่สำ�คัญคือ จัดให้ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอง มีนักอนุรักษ์เข้าไปต่อว่าชาวเขา ชาวเขาก็มา เดก็ และเยาวชน ไดศ้ ึกษาเรอ่ื งพนั ธไุ์ มพ้ นั ธ์สุ ตั ว์ ลงทนุ ทำ� หลบอยู่ข้างหลังพระเจ้าอยู่หัว ท่านรับส่ังให้มา เอกสารวิชาการ ทำ�หนังสือสวย ๆ แจกตามโรงเรียน ทำ� ช่วยคิดกันว่า เขาจะอยู่กันอย่างไรที่จะให้เขารักษา กับขา้ วอรอ่ ยๆ เลีย้ งเด็กที่มาชมอุทยาน และได้ไปเดนิ ปา่ ทรัพยากรไว้ไดด้ ้วย และท่านก็ว่า ถา้ เราทำ�อนั น้ีได้ ดว้ ย (ผลของการเดนิ ปา่ ครง้ั นไี้ ดข้ องแถมตดิ มาคอื เหบ็ ขนึ้ ก็จะเป็นการรักษาชาติบ้านเมือง ไปโทษคนท่ีทำ� ตามตวั ) เขาจะสอนในเรือ่ งระบบนิเวศพวกปลวก พวกน้ี ทั้งหมดก็ไม่ใช่ เพราะเขาไม่มีท่ีทำ�มาหากิน ก็ต้อง จะช่วยรักษาป่า แม้แต่เห็ดทะเลทรายก็พยายามอนุรักษ์ ชว่ ยกันท�ำ และฟ้นื ฟู
28 ทรงบรรยาย
รักษป์ า่ น่าน 29 สรุป แนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้ในการอนุรักษ์ป่าไม้ ได้ คือต้องรักษาป่าไม้ พัฒนาสภาพดิน แหลง่ น้าํ พฒั นาพนั ธุส์ ตั ว์ พัฒนาความรู้ และพัฒนาการศึกษา ทุกอย่างต้องเชื่อมโยงกัน เช่น ดินถล่ม ส่วนหนึ่งก็ ใช้หญ้าแฝก แต่ต้องมีต้นไม้ใหญ่ด้วย อย่างเช่นที่ชาวบ้านสบปืนอธิบายให้ฟัง ว่า ทดลองทำ�เป็นขั้นบันได ใช้ต้นไม้ใหญ่ ไม้พื้นเมือง ไม้ผล กล้วย หญ้าแฝก หลาย ๆ อย่างด้วยกัน ขณะนี้สิ่งที่ทำ�ก็ขายได้กำ�ไร อีกอย่างหน่ึงมีต้นไม้ ใหญ่ที่โปรดเกล้าฯ ให้คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ศึกษาว่าต้นไม้ชนิดไหน มีรากที่มีแรงยึดดินเท่าไร คำ�นวณเป็นตัวเลขออกมาเลย ขณะน้ีผลวิจัยออก มาแล้ว ก็ไม่ทราบว่าได้เอาไปใช้ประโยชน์กันอย่างไร แต่ในที่สุดคือพัฒนาคน ให้มีสุขภาพดี มีความเป็นอยู่ท่ีดี มีการศึกษา มีความรู้ และมีความสุข เพื่อให้ ชว่ ยรกั ษาบา้ นเมอื งสืบตอ่ ไป
นทิ รรศการ เทดิ พระเกยี รติ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงสนพระราชหฤทัยในเรื่อง ปา่ ไมแ้ ละทรพั ยากรธรรมชาตมิ าตัง้ แตท่ รงพระเยาว์ ทรงตระหนกั ถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ป่า นํ้า และดิน ซึ่งเชื่อมโยงเป็นห่วงโซ่ อันเป็นปัจจัยสำ�คัญในขบวนการผลิตอาหาร และ การดำ�รงชีวิตของประชากรในโลก เมือ่ ไดเ้ สดจ็ พระราชดำ�เนนิ ไปทรงเยีย่ มราษฎรในทกุ ภาคของประเทศ ทรงพบปญั หา การเสื่อมโทรมของทรัพยากรป่าไม้ พื้นที่ป่าลดลง การเกิดภาวะแห้งแล้ง ภาวะนํ้าท่วม ฉับพลัน และการพังทลายของดินอย่างรุนแรง ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีที่ผ่านมา พระองค์จึงทรงมุ่งมั่นในการศึกษา คิดค้น ทดลอง ปรับปรุงวิธีการต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาป่าไม้ของประเทศ เพื่อให้ป่ากลับคืนสู่สภาพ สมบูรณ์ ประชาชนได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เกิดเป็นแนวพระราชดำ�ริและโครงการ ต่าง ๆ มากมาย
34 นิทรรศการ ป่าไม้สาธิต ป่าทดลองส่วนพระองค์แห่งแรก
รกั ษป์ า่ นา่ น 35 ใ น ร ะ ย ะ ต้ น รั ช ก า ล พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ไดเ้ สดจ็ พระราชด�ำ เนนิ แปรพระราชฐานไปประทบั ณ พระราชวงั ไกลกังวล อำ�เภอหัวหนิ จงั หวดั ประจวบคีรขี ันธเ์ ปน็ ประจำ� ราว พุทธศักราช ๒๕๐๔ ขณะเสด็จพระราชดำ�เนินโดย รถยนต์พระที่น่ังผ่านอำ�เภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ทรงสงั เกตเหน็ ตน้ ยางขนาดใหญป่ ลกู เรยี งรายทง้ั สอง ขา้ งทาง จึงมพี ระราชด�ำ ริท่ีจะสงวนไม้ยางนาไว้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนำ�เมล็ด ไม้ยางนามาเพาะเล้ียงไว้ในแปลงเพาะชำ�บริเวณ พระตำ�หนักจิตรลดารโหฐาน และเม่ือวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๐๔ ทรงปลูกกล้าไม้ ยางนาเปน็ ปฐมในแปลงทดลอง ณ บริเวณที่ประทับ สวนจติ รลดา และตอ่ มาทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ น�ำ พนั ธไ์ุ มต้ า่ งๆ ทวั่ ประเทศมาปลกู เพม่ิ เตมิ ในลกั ษณะ ป่าไม้สาธิต เป็นการจำ�ลองป่าไม้ในทุกภาคของ ประเทศไทยเพื่อทรงศึกษาธรรมชาติวิทยาของป่าไม้ ด้วยพระองค์เอง และใหผ้ ูส้ นใจเข้ามาศึกษาได้ ปา่ ไม้ สาธิตแห่งน้ี จึงเสมือนป่าทดลองส่วนพระองค์ แหง่ แรก
36 นทิ รรศการ ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแนวทางในการฟ้ืนฟูป่าไม้ตามหลักการฟื้นฟูสภาพป่าด้วยวัฏธรรมชาติ (Natural Reforestation) ปลูกป่าโดยไมต่ อ้ งปลกู ปล่อยใหธ้ รรมชาติชว่ ยในการฟ้นื ฟูธรรมชาติ ดว้ ยวธิ กี าร ๓ วธิ ี ๑. …ถ้าเลือกไดท้ ่เี หมาะสมแลว้ กท็ ้ิงปา่ นัน้ ไวต้ รงนั้น ไมต่ อ้ งไปทำ�อะไรเลย ป่าจะเจรญิ เตบิ โตขนึ้ มาเป็นปา่ สมบูรณ์ โดยไมต่ ้องไปปลกู สกั ตน้ เดียว… ๒. …ไม่ไปรังแกปา่ หรอื ตอแยต้นไม้ เพยี งแตค่ ุม้ ครองให้ขน้ึ เองเท่านน้ั … ๓. …ในสภาพป่าเต็งรัง ป่าเสื่อมโทรมไม่ต้องทำ�อะไรเพราะตอไม้จะแตกก่ิงออกมาอีก ถึงแม้ต้นไม่สวยแต่ก็เป็น ต้นไมใ้ หญไ่ ด…้
รักษ์ป่านา่ น 37 ปลกู ปา่ ในทส่ี ูง ...ใช้ไม้จำ�พวกท่ีมีเมล็ดทั้งหลายขึ้นไปปลูกบนยอดท่ีสูง เม่ือโตแล้วออกฝักออกเมล็ดก็จะลอยตกลง มาแลว้ งอกเองในทีต่ ่าํ ต่อไป เป็นการขยายพันธุโ์ ดยธรรมชาติ... พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแนะนำ�การปลูกป่าที่อาศัยหลักธรรมชาติพลังแรงโน้มถ่วงของโลก คือ สิง่ ท่อี ยู่พื้นทสี่ ูงยอ่ มตกลงสู่ท่ีตํ่ากวา่ เสมอ ซ่ึงทำ�ใหป้ ระหยดั พลงั งานและคา่ ใชจ้ า่ ยในการปลูกป่า
38 นทิ รรศการ ปลูกป่าทดแทน การปลูกป่าทดแทนเป็นแนวทฤษฎีการพัฒนาป่าไม้ท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน เพ่ือคืนธรรมชาติสู่แผ่นดินด้วยวิถีทางแบบผสมผสานกันในเชิงปฏิบัติ เหมาะสมตามสภาพภูมิศาสตร์และ สภาวะแวดล้อมของพื้นท่ี ตาม ๓ แนวทาง คือ
รักษ์ปา่ น่าน 39 การปลูกปา่ ทดแทนในพนื้ ท่ปี ่าไมถ้ กู บกุ รุกแผว้ ถางและพ้นื ทีป่ า่ เสื่อมโทรม ...การปลูกป่าทดแทนในพ้ืนที่เสื่อมโทรมหรือพื้นท่ี ต้นน้ําลำ�ธารที่ถูกบุกรุกแผ้วถางจนเป็นภูเขาหัวโล้น แล้วจำ�ต้องปลูกป่าทดแทนเร่งด่วนน้ัน ควรจะ ทดลองปลกู ตน้ ไมช้ นดิ โตเรว็ คลมุ แนวรอ่ งนาํ้ เสยี กอ่ น เพ่ือทำ�ใหค้ วามชุม่ ชนื้ ค่อยๆ ทวีขนึ้ แผ่ขยายออกไป ทั้งสองร่องนํา้ ซ่ึงจะท�ำ ให้ตน้ ไมง้ อกงามและมสี ว่ น ช่วยป้องกันไฟป่า เพราะไฟจะเกิดง่ายหากป่าขาด ความชุ่มช้ืน ในปีต่อไปก็ให้ปลูกต้นไม้ในพ้ืนท่ีถัด ขึ้นไป ความชุ่มชื้นก็จะแผ่ขยายกว้างต่อไปอีก ตน้ ไม้จะงอกงามดตี ลอดท้ังปี... การปลกู ปา่ ทดแทนตามไหล่เขา ...จะตอ้ งปลกู ตน้ ไมห้ ลายๆ ชนดิ เพอ่ื ใหไ้ ดป้ ระโยชน์ อเนกประสงค์ คือ มที ้ังไมผ้ ล ไม้ส�ำ หรบั ก่อสรา้ ง และไมส้ �ำ หรบั ท�ำ ฟนื ซง่ึ เกษตรกรจำ�เปน็ ตอ้ งใชเ้ ปน็ ประจ�ำ ซง่ึ เมอื่ ตดั ไมใ้ ชแ้ ลว้ กป็ ลกู ทดแทนหมนุ เวยี น ทนั ท.ี .. การปลกู ปา่ ทดแทนบรเิ วณตน้ นา้ํ บนยอดเขา และเนนิ สงู ...ต้องมีการปลูกปา่ โดยปลูกไม้ยนื ตน้ และปลกู ไม้ฟืน ซึ่งไม้ฟืนน้ันราษฎรสามารถตัดไปใช้ได้ แต่ต้องมี การปลกู ทดแทนเปน็ ระยะ สว่ นไม้ยืนต้นจะชว่ ยให้ อากาศมีความชมุ่ ชืน้ ซงึ่ เปน็ ขน้ั ตอนหน่งึ ของระบบ การให้ฝนแบบธรรมชาติ ทั้งยังช่วยยึดดินบนเขา ไม่ใหพ้ ังทลายเมอ่ื เกิดฝนตกอกี ด้วย...
40 นิทรรศการ ปลูกป่า ๓ อย่างประโยชน์ ๔ อย่าง พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั ทรงแนะน�ำ การปลกู ปา่ ในเชงิ ผสมผสานทัง้ ดา้ นเกษตร วนศาสตร์ และเศรษฐกจิ สงั คม เป็นการปลูกป่าแบบเบ็ดเสร็จด้วยการปลูกป่า ๓ อย่าง
รักษ์ปา่ น่าน 41 ...การปลูกปา่ ถา้ จะใหร้ าษฎรมีประโยชน์ใหเ้ ขาอยไู่ ด้ ให้ใช้วธิ ี ปลกู ไม้ ๓ อยา่ ง แตม่ ปี ระโยชน์ ๔ อยา่ ง คอื ไมใ้ ชส้ อย ไมก้ นิ ได้ ไมเ้ ศรษฐกจิ โดยรองรับการชลประทาน ปลกู รับซับน้าํ และ ปลูกอุดช่วงไหล่ตามร่องห้วย โดยรับน้ําฝนอย่างเดียว ประโยชนอ์ ยา่ งที่ ๔ ได้ระบบอนุรักษ์ดนิ และนํ้า...
42 นิทรรศการ ป่าเปียก ไฟป่า เป็นปัญหาหนึ่งซ่ึงเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติหรือเกิดจากมนุษย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวพระราชดำ�ริในการสรา้ งแนวปอ้ งกันไฟปา่ ที่เรยี กว่า ปา่ เปยี ก ซึง่ เปน็ การสร้างความชุ่มช้ืน เปน็ ก�ำ แพงกั้นไฟ ดว้ ยการกักน้ําใหป้ า่ เปยี ก ดว้ ยวิธีการตอ่ ไปนี้
รักษป์ า่ น่าน 43 วธิ ที ี่ ๑ ทำ�ระบบป้องกันไฟไหม้ป่า โดยใช้แนวคลอง ส่งน้ําและแนวพชื ชนิดต่าง ๆ ปลูกไวต้ ามแนวคลอง วิธที ่ี ๒ สร้างระบบการควบคุมไฟป่าด้วยป่าเปียก โดยอาศยั นํ้าชลประทานและนา้ํ ฝน วธิ ีที่ ๓ ปลูกต้นไม้โตเร็วคลุมแนวร่องนํ้า เพื่อให้ ความชุ่มชื้นค่อยๆ ทวีข้ึน และแผ่ขยายออกไปทั้งสองร่องนํ้า ซ่ึงจะทำ�ให้ต้นไม้เติบโตและช่วยป้องกันไฟป่า เพราะไฟป่า จะเกดิ ข้นึ หากป่าขาดความชุ่มชืน้ วธิ ที ่ี ๔ สรา้ งฝายชะลอความชมุ่ ช้นื ทเี่ รียกวา่ Check Dam เพอื่ ปดิ กนั้ รอ่ งนาํ้ หรอื ล�ำ ธารขนาดเลก็ เปน็ ระยะๆ เพอ่ื ใช้ เกบ็ กกั นา้ํ และตะกอนดนิ ไวบ้ างสว่ น โดยนา้ํ ทเ่ี กบ็ ไวจ้ ะซมึ เขา้ ไป สะสมในดิน ทำ�ให้ความชุ่มช้ืนแผ่ขยายเข้าไปทั้งสองด้าน จนกลายเป็นป่าเปียก วิธที ี่ ๕ สูบนํ้าข้ึนที่สูงแล้วปล่อยให้ไหลลงมาทีละน้อย ช่วยเสริมการปลูกป่าบนพื้นท่ีสูงในรูปภูเขาป่า ให้กลายเป็น ปา่ เปียก ชว่ ยป้องกันไฟป่าได้ วธิ ที ่ี ๖ ปลกู ตน้ กลว้ ย สามารถอมุ้ น้าํ ไว้ไดม้ ากกว่าพืช ชนิดอนื่ ในพ้นื ท่ที ่กี ำ�หนดให้เป็นช่องวา่ งของปา่ กวา้ ง ๒ เมตร เพือ่ เป็นแนวปะทะกับไฟป่า
44 นิทรรศการ ฝายตน้ น้ําลำ�ธาร หน่งึ ในแนวพระราชดำ�ริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวในการฟ้นื ฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ ควบค่กู ับการอนุรักษ์ ดนิ และนา้ํ คอื การใชฝ้ ายตน้ นา้ํ ล�ำ ธาร หรอื Check Dam ซง่ึ เปน็ สง่ิ กอ่ สรา้ งขวางหรอื กน้ั ทางนา้ํ ซง่ึ ปกตมิ กั จะกน้ั ล�ำ หว้ ยล�ำ ธารขนาดเลก็ ในบรเิ วณทเ่ี ปน็ ตน้ นา้ํ หรอื พน้ื ทท่ี ม่ี คี วามลาดชนั สงู ใหส้ ามารถกกั ตะกอนอยไู่ ด้ และหากชว่ งท่ี นา้ํ ไหลแรงกส็ ามารถชะลอการไหลของนา้ํ ใหช้ า้ ลง และกกั เกบ็ ตะกอนไมใ่ หไ้ หลลงไปทบั ถมล�ำ นา้ํ ตอนลา่ ง
รักษป์ า่ นา่ น 45 ...Check Dam มี ๒ อยา่ ง ชนดิ หนึง่ ส�ำ หรบั ให้ความช่มุ ช้ืน รักษาความชุ่มช้ืน อีกอยา่ งสำ�หรับปอ้ งกนั มิให้ทรายลงในอา่ งใหญ่ ส�ำ หรับ Check Dam ชนดิ ปอ้ งกันไมใ่ หท้ รายไหลลงไปในอา่ งใหญ่ จะต้องทำ�ให้ดีและลึก เพราะทรายลงมาจะกักเก็บไว้ ถ้าน้ําตื้น ทรายจะข้ามไปลงอ่างใหญ่ได้ ถ้าเป็น Check Dam สำ�หรับ รักษาความชุ่มชื้นไม่จำ�เป็นต้องขุดลึกเพียงแต่กักนํ้าให้ลงไปในดิน แต่แบบกักทรายน้ีจะต้องทำ�ให้ลึกและออกแบบอย่างไรไม่ให้น้ํา ลงมาแลว้ ไล่ทรายออกไป...
46 นิทรรศการ ป่าชายเลน …ปา่ ชายเลนมปี ระโยชนต์ อ่ ระบบนเิ วศของพน้ื ทช่ี ายทะเลและอา่ วไทย แตป่ จั จบุ นั ปา่ ชายเลนของประเทศไทยเรา กำ�ลงั ถกู บกุ รกุ และถกู ทำ�ลายไป โดยผแู้ สวงหาผลประโยชนส์ ว่ นตน จงึ ควรหาทางปอ้ งกนั อนรุ กั ษแ์ ละขยายพนั ธเ์ุ พม่ิ ขน้ึ โดยเฉพาะตน้ โกงกาง เปน็ ไมช้ ายเลนทแ่ี ปลกและขยายพนั ธค์ุ อ่ นขา้ งยาก เพราะตอ้ งอาศยั ระบบนา้ํ ขน้ึ นา้ํ ลงในการเตบิ โต ดว้ ย จงึ ขอใหส้ ว่ นราชการทเ่ี กย่ี วขอ้ ง คอื กรมปา่ ไม้ กรมประมง กรมชลประทาน และกรมอทุ กศาสตร์ รว่ มกนั หาพน้ื ท่ี ทเ่ี หมาะสมในการทดลองขยายพนั ธโ์ุ กงกางและปลกู สรา้ งปา่ ชายเลนกนั ตอ่ ไป… ทฤษฎกี ารอนรุ กั ษแ์ ละพัฒนาปา่ ชายเลน อันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ เปน็ แนวทางการสรา้ งวงจรของระบบนิเวศด้วยการปกปกั อนรุ กั ษแ์ ละขยายพนั ธไุ์ ม้ปา่ ชายเลน
รกั ษป์ ่านา่ น 47
48 นทิ รรศการ ป่าพรุ ...ป่าพรุเป็นพ้ืนท่ีสำ�คัญต่อความอยู่ดีกินดีของราษฎรรอบพ้ืนที่พรุ อีกทั้งยังเป็นอ่างเก็บนํ้าธรรมชาติ ทช่ี ะลอการไหลบ่าของน้าํ จากเทอื กเขาตา่ ง ๆ กอ่ นระบายลงสทู่ ะเล...
รักษป์ า่ นา่ น 49 พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๔ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดาํ เนนิ แปรพระราชฐาน ประทบั แรม ณ พระตาํ หนกั ทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อทรงเย่ียมราษฎรในหลายพ้ืนท่ีของ จงั หวดั นราธวิ าส ทรงทราบถงึ ปญั หาเรอื่ งทดี่ นิ ท�ำ กนิ ซง่ึ มผี ล กระทบต่อการทำ�เกษตรอย่างมาก เน่ืองจากพื้นที่ส่วนใหญ่ ในจงั หวดั นราธิวาสเปน็ ดนิ พรหุ รอื ดนิ เปรย้ี ว จึงพระราชทานพระราชดำ�ริให้หน่วยงานต่างๆ ท่ี เกย่ี วข้องเรง่ ศึกษา ค้นควา้ ทดลอง และท�ำ การวจิ ยั เพอ่ื หา แนวทางการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ ทรัพยากรป่าพรุที่เหลืออยู่ในบริเวณนั้นไว้ด้วย โดยจัดต้ัง ขึ้นเป็น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจาก พระราชดำ�ริ
Search