สำ�นักงานโครงการ ชมุ นุมสหกรณจ์ ัดหาและจ�ำ หนา่ ยสินค้าแหง่ ประเทศจนี สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงบรรยายเรอื่ ง สหกรณ์นักเรียน: สร้างเยาวชน สร้างชุมชนมนั่ คง ในการสมั มนาความสัมพนั ธ์ไทย - จนี ครัง้ ที่ ๙ ประจำ�ปี ๒๕๕๕ “สหกรณ์: พลังพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมท่ีย่ังยนื ” วนั จนั ทร์ที่ ๒๐ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕ ณ หอ้ งสมานฉันท์ ชนั้ ๓ ธนาคารกสิกรไทย ส�ำ นักงานใหญ่ เขตราษฎรบ์ ูรณะ กรงุ เทพมหานคร สนบั สนุนและอ�ำ นวยการสัมมนา
4 สหกรณน์ ักเรยี น : สร้างเยาวชน สรา้ งชมุ ชนม่นั คง เริ่มต้นความเป็นมาของเร่ืองสหกรณ์นี้ คือ ได้มีโอกาส ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถไปในท่ีทุรกันดารต่าง ๆ สมัยก่อนที่ตามเสด็จมีหน้าที่ ไปคุยกับผู้คนในท้องถ่ินในเรื่องที่เป็นปัญหาต่าง ๆ เช่น เรื่องของการ ทำ�มาหากิน สมัยน้ัน คือพูดถึง ๓๐ - ๔๐ ปีมาแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็น เรื่องการเกษตร และสิ่งท่ีเสริมจากการเกษตร เช่น หัตถกรรมต่าง ๆ มาทีหลัง ถึงจะเป็นอุตสาหกรรมท้องถิ่น เป็นสิ่งท่ีได้เห็นมา นอกจาก เร่ืองทำ�มาหากิน เป็นการคุยเร่ืองการศึกษาว่าทำ�อย่างไรจะช่วยให้เขา มีการศึกษา ตั้งแต่ระดับอ่านออกเขียนได้ถึงการศึกษาระดับประถม มัธยม มหาวทิ ยาลัยสบื ตอ่ ไป สมยั แรก ๆ ทเี่ ข้าไปไดแ้ คอ่ ่านออกเขยี นได้ ก็เป็นเร่ืองสำ�คัญแล้ว เพราะเขาจะมีโอกาสไปศึกษาด้วยตนเองต่อจาก ท่ีเคยรู้กันมาจากพื้นบ้าน และมีปัญหาที่ ๓ คือเรื่องสุขภาพอนามัยที่ จะต้องไปช่วยเหลือ จุดน้ีเป็นประเด็นท่ีสนใจมากที่สุดร่วมกับเร่ือง การศึกษา แหล่งการศึกษาคือโรงเรียน เป็นจุดศูนย์กลางที่ราษฎรต้อง เข้าไปอยู่ และถ้าคนในสมัยนั้นจะเห็นจากรูปน้ีว่า มีรูปต้ังแต่เด็กยัง ผอม ๆ ขาดแคลนอาหาร ถ้าขาดแคลนถึงระดับน้ีก็ยากท่ีจะมีสมองท่ีดี ท่ีจะศึกษาต่อไป ยากที่จะมีแรงทำ�งานต่อไป จริง ๆ เขาใส่รูปมาให้อีก รูปหนึ่งเป็นรูปท่ีคนขาดอาหารอย่างมาก ซึ่งต้องยอมรับว่าสมัยนั้น เมอ่ื ๓๐ - ๔๐ ปีมาแล้วมีจรงิ แตเ่ ป็นภาพสยอง จงึ ขอตัดออก เพราะ ไม่ใช่คนไทยทุกคนจะเป็นอย่างน้ัน ข้อนั้นเป็นเรื่องของกรณีพิเศษ ท่ีมีปัญหาไม่สามารถที่จะเพาะปลูกพอ เพราะคนมารวมกันมากในที่ แหง่ เดียวกัน ดังน้ันวิธีทีจ่ ะชว่ ยเดก็ ท่ขี าดอาหารกม็ งุ่ ไปท่ีโรงเรยี น
สหกรณ์นกั เรยี น : สร้างเยาวชน สรา้ งชุมชนมน่ั คง 5 มาเริ่มต้นเป็นเร่ืองเป็นราวเพ่ือท่ีจะช่วยพัฒนาเด็กและเยาวชน ในถ่ินทุรกันดาร พอถึงเวลาท่ีทำ�งานร่วมสนองพระเดชพระคุณมาได้ ระยะหนึ่ง มีประสบการณ์ดีพอสมควร ด้านการเรียนก็เรียนจบแล้ว เริ่มเข้าทำ�งานเป็นครูบาอาจารย์ เริ่มต้นจึงเอาเรื่องโภชนาการมาก่อน และเริ่มทำ�งานที่โรงเรียน เพราะโรงเรียนมีเจ้าหน้าท่ี มีครูท่ีจะเป็น ผู้ถ่ายทอดความรู้เทคนิคต่าง ๆ ให้นักเรียนได้ และเป็นท่ีรวมของเด็ก ทั้งหมู่บ้าน โรงเรียนในยุคนั้นเป็นโรงเรียนประถม ต่อมาได้ลงมาทำ� ถงึ ระดบั อนุบาล เด็กเลก็ ศูนย์พฒั นาเดก็ ทเ่ี อาเด็กเล็ก ๆ ก่อนวยั เรยี น เข้ามารวมกัน เพราะว่าสมัยก่อนมีประสบการณ์ท่ีเข้าไปในหมู่บ้านและ ว่ิงไล่เด็กแต่ละคน จับมาสร้างภูมิคุ้มกันโรค จับมาถ่ายพยาธิ รู้สึกว่า ไม่ค่อยสะดวก ตามไม่ค่อยได้ แต่ถ้ามารวมกันในสถานที่ซ่ึงถือว่าเป็น สถานที่ราชการก็ง่ายข้ึน เมื่อทำ�ได้ดีแล้วต่อมาก็ทำ�ลงไปถึงเด็กตั้งแต่ ก่อนวัยเข้าอนุบาลมาจนถึงเด็กแรกเกิด และดูลงไปจนถึงหญิงมีครรภ์ ตรงนี้ยุ่งหน่อย เพราะไม่รู้ว่าใครมีครรภ์ใครไม่มีครรภ์ แต่ได้ร่วมมือกับ ทางสาธารณสุข สามารถท่ีจะให้คำ�แนะนำ�ต้ังแต่หญิงมีครรภ์ หญิงให้ นมบุตร และฝ่ายหญิงท่ีเป็นแม่ส่วนหน่ึง และพวกเด็ก ๆ ที่เป็นลูก ส่วนหน่งึ ได้มาชว่ ยเหลือเรอื่ งเหล่าน้ี
6 สหกรณน์ กั เรยี น : สรา้ งเยาวชน สรา้ งชมุ ชนมนั่ คง วิธีดำ�เนินการคือให้เด็ก ๆ ลงมือทำ�การเกษตรด้วยตนเอง มีครูบางคนบ่นว่าเด็กเป็นลูกเกษตรกรบางคร้ังทำ�ได้เก่งกว่าคุณครู ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นลูกเกษตรกรเหมือนกันแต่ไปทำ�งานอย่างอื่นนานแล้ว จึงไม่ได้ทำ�การเกษตรมากเท่าเด็ก แต่ได้อธิบายให้คุณครูเหล่านั้นฟังว่า การท่ีเราให้เทคโนโลยีทางการเกษตรอย่างใหม่นี้เป็นเร่ืองจำ�เป็น ถ้า ไม่มีประโยชน์ก็ไม่ต้องมีกระทรวงเกษตรฯ ปล่อยให้เขาทำ�กันไปตาม เรื่องตามราว ถ้ากระทรวงเกษตรฯ จะเริ่มส่งเสริมการเกษตรตั้งแต่ ในระดับท่ีเป็นผู้ใหญ่ หัวหน้าชุมชน หัวหน้าครอบครัว เราจึงได้มา ส่งเสริมการเกษตรให้ต้ังแต่เด็กชั้นอนุบาลและช้ันประถมขึ้นมาทีเดียว เด็กเหล่าน้ี นอกจากจะมีอาหารรับประทานแล้ว ยังมีความรู้เพิ่มเติม เอาไปส่งเสริมอาชีพต่อไป เมื่อผลิตได้ดีแล้ว ตอนแรกคิดว่าอาจจะ มีเหลือจากแปลงของโรงเรียนท่ีจะเอาไปแจกชาวบ้านต่อไป หรือจะ เอาไปขายเป็นรายได้เข้ามาหมุนเวียนก็ได้ นอกจากจะมีวิชาเกษตร แล้วต้องมีประกอบการค้าขายด้วย เริ่มต้นที่มาประกอบการค้าขาย เพราะว่าโรงเรียนของเราที่ไปดำ�เนินการในยุคนั้น ในยุคน้ีก็ดีขึ้น ในยุคน้ันเด็กบางคนไม่มีสัญชาติไทย เพราะฉะน้ันใครไม่มีสัญชาติไทย เขาไม่ให้เข้าโรงเรียนด้วยซ้ําถือว่าไม่ใช่คนไทย เราไปส่งเสริมตาม ชายแดนกันมา คนไหนไม่มีสัญชาติไทย พอเรียนจบมาแล้ว แม้แต่ ประกาศนียบัตร ป. ๔ - ป. ๗ ก็ไม่ให้ ถ้าไม่มีใบรับรองอะไรก็ตาม ไปทำ�งานหรือไปเรียนต่อก็ไม่ได้ ถ้าจะไม่ให้ไปทำ�งานในด้านมิจฉาชีพ
สหกรณ์นักเรียน : สรา้ งเยาวชน สรา้ งชุมชนม่นั คง 7 ทส่ี หกรณห์ ุบกะพง ก็ต้องให้มีความรู้ทางด้านอาชีพอย่างอ่ืน อ�ำ เภอชะอำ� จงั หวัดเพชรบรุ ี อย่างเช่นหัตถกรรม งานโยธาต่าง ๆ ทำ� อิฐก่อสร้างก็มี ฝ่ายอาชีวศึกษาก็มาช่วย แนะน�ำ ออกไปเปน็ ชา่ งตดั ผม ชา่ งไฟ ชา่ งยนต์ และอนื่ ๆ ทพี่ อจะไปได้ ทง้ั นอกภาคการเกษตร และทางด้านการเกษตรน้ันจะต้องรู้เร่ือง ธุรกิจ เรื่องสหกรณ์ตรงนี้ที่กรมส่งเสริม สหกรณ์และต่อมามีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้ามามีบทบาท ความจริงจะซ้ือวัตถุดิบมา ถ้าแต่ละคนซ้ือก็ย่อมแพง ถ้ารวมกันซื้อ สหกรณ์ซ้ือแล้วเอามาขายในร้านสหกรณ์ คนซ้อื กไ็ ด้ ถอื ว่าอฐั ยายซื้อขนมยาย ความจริงสนิ คา้ เปน็ ของตวั เอง ตวั เอง เป็นคนมาซ้ือ เวลาเอาไปขายถ้าขายรวมกันเวลาจะไปพูดจะมีอำ�นาจ ต่อรองมากกว่า เพราะว่าตอนนั้นบางทีจะมีปัญหาว่า มีผู้ประกอบการ ท่ีมีสายป่านยาวกว่า มีร้านมีบริษัทเข้ามา เกษตรกรที่ยากจนจะขาย อะไรก็แพ้ ถูกตัดหน้าไปหมด ถ้าเราเป็นสหกรณ์เราก็ไม่แพ้บริษัท เหมือนกัน เรารวมกันไม่ใช่คนคนเดียว แปลว่าเราร่วมกันทำ�ร่วมกันใช้ เรื่องการเกษตรในโรงเรียนที่ทำ�แล้วเอามากินกันเองมีจุดมุ่งหมายใหญ่ เพื่อแก้ไขการขาดอาหาร เพื่อสุขภาพ แต่ว่าในเมื่อทำ�แล้วเราต้อง รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกน้ีไม่มีของฟรี คือถึงทำ�แล้วถ้าตัวเองไม่ได้จ่าย คนมาบรจิ าคกจ็ า่ ย ภาครฐั กจ็ ่าย ของทุกอยา่ งมรี าคา มตี น้ ทุน เอามาขาย ก็เป็นราคา ความจริงมีเงินของสหกรณ์ที่ซ้ือ ซ้ือเสร็จเอาไปขายให้โรงครัว สหกรณข์ ายโรงครวั โรงครวั ท�ำ กับข้าวมาเลีย้ งนกั เรียน พูดถึงเร่ืองสหกรณ์ ตอนน้ันอายุประมาณ ๘ ขวบ ๙ ขวบ ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัวและสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรม- ราชินีนาถ ไปที่สหกรณ์หุบกะพงที่ชะอำ� เพชรบุรี สมัยน้ันเป็นสหกรณ์ ประเภทหนึ่ง คือ สหกรณ์ประเภทนิคม คือคนมาอยู่ แต่ว่าอาจจะต่างกับ หมู่บ้านปกติคือ หมู่บ้านปกติเขาอยู่กันมาต้ังแต่ปู่ย่าตายาย แต่นิคมคือ เป็นพวกที่มาจากข้างนอก ไม่มีท่ีทำ�กิน แต่มีกำ�ลังความรู้ท่ีจะทำ�เกษตร ได้ มคี วามต้ังใจ มคี วามขยันขันแขง็ มาพลิกฟืน้ แผน่ ดินใหด้ ีขน้ึ ลูก ๆ ของ เขามาอยู่ในโรงเรยี น เรียนหนังสอื สมัยกอ่ นโรงเรยี นเป็นอยา่ งนี้ มอี าคาร ก็ค่อนข้างจะโก้แล้ว แต่ก็ยังพยายามเรียนคุณครูขอให้สอนเรื่องราวของ ตัวเอง ประวัติคนสมัยโบราณ เพ่ือจะได้ให้ทุกคนระลึกถึงบุญคุณของปู่ย่า ตายายท่ีขยันขันแข็งสร้างเน้ือสร้างตัวจนเราอยู่สบายทุกวันนี้ ตอนน้ัน ทรงเน้นมากว่าประชาชนต้องรู้จักทำ�งานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ซื้อขาย ร่วมกนั จะได้มอี ำ�นาจต่อรองมากขึ้น
8 สหกรณน์ กั เรียน : สรา้ งเยาวชน สรา้ งชมุ ชนม่นั คง ตอนท่ีเข้าไปเรียนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประมาณปี ๒๕๑๖ อนั นกี้ เ็ ปน็ เรอ่ื งทเี่ ขยี นไว้ เขา้ ไปถา่ ยมาจากรา้ นสหกรณจ์ ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั เปน็ สหกรณ์รา้ นค้า ไปถงึ กเ็ ป็นสมาชกิ จะเอาอะไรหรือคนทบี่ ้านอยากไดอ้ ะไร หม้อ ไห กระทะ ทุกอย่าง ก็รับอาสาเป็นผู้จัดซ้ือ แล้วเอาแต้มใส่ให้ตัวเอง พอถงึ ปปี ันผล กไ็ ด้เงนิ มาอีก ไดเ้ ขยี นไวว้ ่า
สหกรณน์ ักเรยี น : สรา้ งเยาวชน สรา้ งชุมชนม่ันคง 9 จากทเ่ี หน็ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงท�ำ เรอื่ งการสหกรณ์ ที่มีแนวว่าทำ�งานอยู่คนเดียวฝ่ายเดียว จะไม่สามารถท่ีจะมีทุนมี แรงงานได้ ไม่มีความสามารถความรู้ความคิดท่ีจะทำ�งานใหญ่ได้ ถ้า รวมกันจึงจะดี ซื้อของซื้อรวมกันจะถูก แบบเหมาโหลถูกกว่า จึงเร่ิม มาทำ�ทโ่ี รงเรียนที่อย่ใู นพื้นทที่ ุรกนั ดารหา่ งไกลใน พ.ศ. ๒๕๓๔ น่ีเปน็ เรือ่ งทจ่ี ะตอ้ งฝึกฝนตง้ั แต่เป็นเดก็ เล็ก จะไดม้ คี วามคนุ้ เคย กับระบบสหกรณ์ ระบบการทำ�งานด้วยกัน เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่เด็ก เหล่าน้ีจะได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหกรณ์ของหมู่บ้าน ของอำ�เภอ ของ จังหวัดต่อไป และจะเป็นสมาชิกท่ีมีประสิทธิภาพ เพราะมีความรู้ ความเขา้ ใจอย่างดีว่า การร่วมกันทำ� จะท�ำ ใหไ้ ม่เสียเปรยี บผอู้ ่ืน ท้ังการ ซ้ือวัตถุดิบ สินค้าที่ผลิต สินค้าอุปโภคบริโภค ถ้ารวมกัน ประหยัด คา่ ใชจ้ า่ ย และจะทำ�ได้ดกี ว่า ฝึกฝนตง้ั แต่เป็นเดก็ เลก็ ๆ จะได้มี กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน เป็นของนักเรียน จัดตั้งข้ึนและ ความคนุ้ เคยกบั ระบบการท�ำ งาน ด�ำ เนนิ การโดยนกั เรยี น และมนี กั เรยี นเปน็ สมาชกิ เรมิ่ ตน้ จาก ป.๓-ป.๔ ดว้ ยการรว่ มกันทำ� ขนึ้ ไปถึง ป. ๖ มกั จะจบการศึกษาในโรงเรียน และไปเรียนตอ่ ท่อี ื่น หรือ ออกไปทำ�มาหากิน ในสหกรณ์เหล่าน้ีมีสมาชิกของเราที่เรียกว่าสมทบ เหมือนกัน สมาชิกสมทบจะเป็นครู ศิษย์เก่า และชาวบ้าน บางแห่งมี นกั เรยี นประมาณ ๕๐ - ๖๐ คน แตม่ สี มาชกิ สมทบมากกว่า เพราะเป็น พ้ืนที่ทุรกันดาร ของท่ีใช้ที่อ่ืนไม่มีขาย มีแต่ท่ีสหกรณ์ในโรงเรียน ชาวบ้านต้องอาศัยโรงเรียนเป็นท่ีซ้ือของอุปโภคบริโภค หรือเวลาที่ เขาประดิษฐ์ของ ทำ�กับข้าว ทำ�อะไรได้ก็เอามาขายท่ีสหกรณ์ใน โรงเรียนนี้ ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของหมู่บ้านเหมือนกัน สหกรณ์ นักเรียน เปรียบเสมือนห้องแล็บหรือห้องปฏิบัติการให้นักเรียนได้ เรียนรู้หลักการ วิธีการ และทดลองปฏิบัติด้วยตนเอง เรื่องการศึกษา สหกรณ์เขามีมานานแล้ว ในหนังสือเรียนต้ังแต่ตอนเด็ก ๆ ก็เรียนเร่ือง สหกรณ์ ครจู ะใหท้ อ่ งวา่ สหกรณเ์ ปน็ อะไร แตไ่ มเ่ คยปฏบิ ตั เิ องเลย กจิ กรรม นส้ี ง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นลงมอื เอง ปฏบิ ตั เิ อง เปน็ ประธานเอง เปน็ สมาชกิ เป็นคณะกรรมการเองทุกอย่าง ให้มีทักษะ มีความเคยชินกับระบบ การทำ�งานร่วมกัน และปลูกฝังคุณธรรมในการดำ�รงชีวิตร่วมกันใน สงั คม และจะเชอ่ื มโยงกบั โครงการอน่ื ๆ อกี หลายโครงการ เชน่ โครงการ เกษตร โครงการประมง โครงการหตั ถกรรม จะท�ำ อะไรกใ็ หผ้ า่ นสหกรณ์ เสียก่อน เพราะฉะน้ันเร่ืองเกษตรเรือ่ งฟารม์ นีเ่ ราจดบันทกึ วา่ ในฟาร์มมี อะไรบา้ ง ราคาทจี่ ะขาย มกี ารใหค้ วามรภู้ าคทฤษฎเี หมอื นกนั วา่ กจิ กรรม มอี ะไรบา้ ง ครไู ปอบรมทกี่ รมสง่ เสรมิ สหกรณ์ มาท�ำ หลกั สตู รวา่ สปั ดาหล์ ะ
10 สหกรณ์นกั เรยี น : สร้างเยาวชน สร้างชุมชนม่นั คง ชวั่ โมง ครกู ม็ แี ผนการสอน ใหค้ วามรปู้ ระชาสมั พนั ธ์ รณรงคเ์ รอื่ งสหกรณ์ เป็นระยะ ๆ แล้วให้ปฏิบัตจิ ริง ขน้ั ตอนของการด�ำ เนินงานสหกรณน์ กั เรียน ขัน้ ตอนที่ ๑ คือ การรบั สมคั รสมาชกิ เป็นการรับด้วยความ สมัครใจ เหมือนสหกรณ์ผู้ใหญ่เหมือนกัน และเปิดกว้างสำ�หรับ นักเรียนทุกคน การสมัครเป็นสมาชิกจะเก็บค่าหุ้นส่วนใหญ่หุ้นละ ๑ บาทบา้ ง หุ้นละ ๓ บาทบ้าง ท่ีไหนทม่ี ีมาก ๆ กห็ ุ้นละ ๑๐ บาทบา้ ง แล้วแต่พื้นที่ เพราะฐานะของนักเรียนในแต่ละพื้นท่ีแตกต่างกัน การเก็บค่าหุ้นทำ�ให้ตัวเองรู้สึกว่าเป็นเจ้าของมีส่วนร่วมในกิจกรรม ด้วย แต่ท่ีจริงก็มีทุนให้ถ้าไม่มีสตางค์จริง ๆ ซึ่งตอนหลังก็มีคนบริจาค มีบตั รประจ�ำ ตัวสมาชกิ จดวา่ ถือหุน้ เท่าไร แลว้ ลงลายมือชอื่
สหกรณ์นกั เรียน : สรา้ งเยาวชน สร้างชุมชนมั่นคง 11 ขน้ั ตอนที่ ๒ การประชมุ ใหญส่ ามญั มกี ารลงคะแนน เสียงเพ่อื เลอื กต้งั สหกรณน์ ักเรียน ๑ เสียง โดยสมาชกิ สหกรณ์ แตล่ ะคน เลอื กเพ่ือนสมาชกิ มาตามหลักการสหกรณ์ เปน็ คณะ กรรมการสหกรณ์นักเรียน ด�ำ เนนิ กจิ การสหกรณ์ ใครจะมหี นุ้ ๑ หุน้ ๑๐๐ หนุ้ ก็มี ๑ คะแนนเสียงเหมือนกัน ในขน้ั ตอนน้นี กั เรยี น จงึ ได้ฝึกฝนในเร่อื งสทิ ธิของตนตามหลกั ประชาธปิ ไตย นกั เรียน ทกุ คนจะเรียนรูเ้ รือ่ งประชาธิปไตย น่ีก็คือกรรมการที่ได้รับเลือกมา จะมีประธาน รอง ประธาน มีเหรญั ญิก คณะกรรมการนกั เรียนมีประมาณ ๘-๑๐ คน เดมิ มี วาระในการทำ�งาน ๑ ปีการศึกษา ต่อมาเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน ได้เข้ามาเรียนรู้มากข้ึน บางแห่งกรรมการมีวาระในการทำ�งาน ๑ ภาคการศึกษา จะไดเ้ ลอื กใหมม่ คี นอืน่ เข้ามา ข้ันตอนที่ ๓ เมื่อได้กรรมการแล้วก็มีการประชุมกรรมการ สหกรณ์นักเรียน ต้องประชุมกันอย่างน้อยเดือนละคร้ัง เรื่องท่ี ประชุมกัน เช่น การแบ่งหน้าท่ี การซื้อ - ขาย การตลาด วางแผน การปฏิบัติงาน ติดตามผลการปฏิบัติงาน แก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ เช่น จะซื้ออะไรเข้าสหกรณ์ อยากได้อะไร แต่บางทีมีคนค้านเหมือนกันว่า คนหนึ่งจะซ้ือแต่ขนม ขนมน้ีเป็นสิ่งท่ีหมอฟันที่เขามาตรวจในโรงเรียน เขาจะโทษสหกรณ์ ความไม่ดขี องสหกรณ์ คือมีขนมขบเค้ียวที่มีนาํ้ ตาล มาก พอออกจากสหกรณ์ก็เป็นลูกค้าหมอฟันกันหมด บางทีฟันไม่ดี เคี้ยวไมอ่ อก กินไมไ่ ด้ โภชนาการก็เลยไมด่ ี มีปัญหาที่เกิดข้ึนในสหกรณ์ เช่น มีการพูดถึงการกู้เงิน บางที ไปดูตามสหกรณ์นักเรียน ครูกู้ กู้เสียหมดไม่มีทุนหมุนเวียน บางที ห้ามไม่อยู่ แต่ครูก็ซื่อสัตย์จดเอง เราไปเปิดเจอเข้า หรือบางทีมีแม่ค้า ไปขายของในโรงเรียน ก็ไม่ดี ทำ�ให้นักเรียนมาซื้อของที่ในสหกรณ์ น้อยลง ก็ต้องไปเจรจากับแม่ค้าให้ซื้อขายพอประมาณ ไม่ให้สหกรณ์ เราเสยี ประโยชน์
12 สหกรณ์นักเรียน : สร้างเยาวชน สร้างชมุ ชนม่นั คง ในกระบวนการประชุมนี้ เป็นการ ฝึกการทำ�งานร่วมกันในรูปของกรรมการ ซ่ึงต่อไปก็จะมีกรรมการได้อีกหลายอย่าง ฝึกออกความคิดเห็นแบบประชาธิปไตย ใช้เหตุผลโต้เถียงกันและให้ยอมรับเสียง ส่วนใหญ่ เสียงข้างมาก ฝึกการจดบันทึก การประชุม อันน้ีเป็นเร่ืองหลอกเด็กเล็ก น้อย เด็กสมัยน้ีไม่ค่อยเขียนหนังสือ จด บันทึกสหกรณ์ หัดคัดลายมือ ซึ่งเป็นการ ฝึกหัดการเขียนหนังสือและการจดสรุป ใจความ เวลาไปเยย่ี มสหกรณจ์ ะเปิดดูอย่เู สมอวา่ เขาเขยี นอะไร บนั ทกึ เรียบร้อยหรอื เปล่า ขน้ั ตอนที่ ๔ ด�ำ เนนิ การกจิ กรรมของสหกรณม์ หี ลายกจิ กรรม ได้แก่ กิจกรรมท่ี ๑ ร้านค้า ปฏิบัติงานในร้านสหกรณ์ การซื้อ - ขาย ได้แก่ การซื้อส่ิงของเคร่ืองอุปโภคบริโภคที่สมาชิกต้องการ รับซื้อ ผลผลิตจากฟาร์มของโรงเรียน รวมท้ังผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ทำ�กันเอง อาหารแปรรูป หัตถกรรมต่างๆ การเก็บรักษาตรวจสอบจำ�นวน การจัดวางสินค้าเพื่อจำ�หน่าย การจำ�หน่าย ในข้ันตอนน้ีเป็นการ ฝึกหัดทำ�ธุรกิจ ฝึกการเลือกซื้อของว่าสิ่งใดควรซ้ือ รู้จักต้ังราคา การคิดผลก�ำ ไรหรอื ขาดทุน
สหกรณ์นักเรยี น : สรา้ งเยาวชน สรา้ งชมุ ชนม่ันคง 13 กิจกรรมต่อไปคือ การออมทรัพย์ เป็นเร่ืองสำ�คัญมาก เพราะ ถึงแม้ว่าหาได้มาก แต่ไม่ออมทรัพย์ สุรุ่ยสุร่ายจ่ายออกก็ไม่มีประโยชน์ อะไร เพราะการออมทรัพย์เป็นการช่วยวางแผนชีวิต ไม่ให้ใช้จ่าย เกินกว่าท่ีตนเองมี เพื่อให้มีพอใช้เมื่อจำ�เป็น เช่น เวลาเจ็บไข้ เป็นต้น ในพ้ืนที่ทุรกันดาร แม้นักเรียนส่วนใหญ่จะมีฐานะยากจน แต่ก็สามารถ ออมเงินนำ�มาฝากเป็นประจำ�ได้ ครั้งละ ๑ บาทบ้าง ๕ บาทบ้าง และจะปิดบัญชีเมื่อจบการศึกษาจากโรงเรียนนั้น ๆ จึงทำ�ให้นักเรียน มีเงินก้อนจำ�นวนหน่ึง แม้จะไม่มากนักแต่ก็นำ�ไปทำ�ประโยชน์ได้บ้าง เช่นเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อ การเก็บออมทรัพย์ทางกรมส่งเสริม เขาทำ�กระปุกออมสินน่ารัก ๆ เพ่ือเป็นแรงจูงใจให้เด็กอยากออมทรัพย์ และทางคณะกรรมการท่ีมีครูเป็นที่ปรึกษาจะนำ�เข้าฝากธนาคาร จรงิ ๆ ก็จะมดี อกเบย้ี ให้ กิจกรรมที่ ๓ กิจกรรม สง่ เสรมิ การผลติ ไดแ้ ก่ การผลติ ทาง การเกษตร โดยนักเรียนรวมกลุ่ม กันตามกจิ กรรมต่าง ๆ เชน่ ปลูกผกั เลีย้ งไก่ เลยี้ งปลา เพาะเห็ด แปรรปู อาหาร แต่ละกลุ่มขายผลผลิตเข้า สหกรณ์เพ่ือเข้าครัว จดบันทึกทำ�บัญชีทุกกิจกรรม รู้ว่าลงทุนไปเท่าไร ต้ังราคาเหมาะสม ขายมีรายได้เท่าไร คำ�นวณแล้วได้กำ�ไรหรือขาดทุน เงนิ กำ�ไรกจ็ ัดสรรไวเ้ ป็นทนุ ด�ำ เนินการต่อไป สว่ นมากได้ก�ำ ไร แตข่ าดทนุ ก็มีเหมือนกัน และมีเหตุผลต่าง ๆ ที่เขาขาดทุนกัน เร่ืองบัญชี ตอนน้ี มีรูปแบบบัญชีท่ีกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ช่วยกันคิด เดิมเก่ียวข้องกับนักเรียนและครู ต่อมาเราต้องพยายาม ทำ�บัญชีให้ผู้ปกครองหรือชาวบ้านดูเข้าใจ กรรมการของหมู่บ้าน เช่น องค์กรส่วนท้องถ่ินซึ่งเขาจะมีบทบาทมาก ต่อไปรัฐบาลจ่ายเป็นรายหัว จ่ายผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เขาจะได้เห็นว่ามีความสัมพันธ์ อย่างไร จะได้ใหง้ บประมาณหรือใช้จา่ ยชว่ ยเหลอื ด้านน้ใี หม้ ากย่งิ ขน้ึ
14 สหกรณน์ กั เรียน : สร้างเยาวชน สรา้ งชมุ ชนมน่ั คง มาถึงข้ันตอนท่ีสำ�คัญอีกขั้น คือ การทำ�บัญชี เรามีท้ัง บัญชปี ระจ�ำ วัน บญั ชีรับและจ่าย บญั ชีสินคา้ บัญชีสมาชกิ ฯลฯ สรุป บัญชี ผลกำ�ไร ขาดทุน และนำ�ข้อมูลมาวางแผนต่อไป นักเรียนได้ฝึก ทำ�บัญชีลงในสมุดบัญชี บางแห่งเริ่มมีการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย เพราะเด๋ียวน้ีใคร ๆ กใ็ ช้คอมพวิ เตอรก์ ันทั้งนนั้ แทนท่จี ะใชก้ ดเฉย ๆ กม็ า สัมพันธ์กับการทำ�บัญชีระบบสหกรณ์ พยายามให้ใช้คำ�นวณด้วยสมอง แล้วตรวจสอบ และใช้สมุดบัญชีอย่างเดิม ๒ อย่าง นักเรียนเสนอว่า ตามหลักบัญชี สำ�หรับของผู้ใหญ่เขาไม่ให้ใช้ดินสอเขียน เขาให้ใช้ ปากกาเขียน เขียนเสร็จ ถ้าผิดก็ให้ขีดและเซ็นชื่อ ไม่ใช่เอาสีขาว ๆ มาป้าย ๆ เร่ืองน้ีก็เป็นอุบายเหมือนกัน สิ่งท่ีตามมาคือ นักเรียนได้ฝึก ความละเอียด ความถ่ีถ้วน ความรอบคอบ และความเป็นระเบียบ นอกจากนี้การหัดทำ�บัญชียังช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะทาง คณิตศาสตร์ ฝึกหัดทำ�เลข และเป็นตัวเลขท่ีมีความหมาย นอกจาก แบบนี้แล้วยังมีแบบบันทึกว่า รายได้มาจากไหน จากสินค้า จาก กิจกรรมเกษตร รายไดอ้ นื่ ๆ สนิ ค้าท่วั ๆ ไป จา่ ยแลว้ ได้กำ�ไร ขาดทนุ แค่ไหน จะมีบนั ทกึ สรปุ ผลการดำ�เนินงานตามวาระของคณะกรรมการ สหกรณน์ กั เรียน
สหกรณ์นกั เรยี น : สร้างเยาวชน สร้างชมุ ชนม่นั คง 15 ขั้นตอนสุดท้าย คณะกรรมการสหกรณ์นักเรียนจะฝึก การปิดบัญชี สรุปผลการดำ�เนินงานตามวงรอบ จัดสรรผลกำ�ไร เป็นเงนิ ปันผลแก่สมาชิก บางส่วนสะสมไว้เปน็ เงนิ ทุนของสหกรณ์ และ เป็นเงินบริจาคสำ�หรับทำ�กิจกรรมสาธารณประโยชน์ ข้ันตอนน้ี จะช่วยฝึกการทำ�งานอย่างโปร่งใส ซ่ือสัตย์ และการท่ีว่าช่วยเหลือคน อน่ื เดี๋ยวนเ้ี ขาเรยี กกัน ๒ อยา่ ง คือจติ สาธารณะหรือจติ อาสากไ็ ด้ คำ�นึง ถึงส่วนรวม มีความรับผิดชอบต่อสังคม หรือการสร้างศรัทธาในเรื่อง สหกรณ์ใหแ้ กส่ มาชิกดว้ ย
16 สหกรณ์นักเรยี น : สรา้ งเยาวชน สรา้ งชุมชนมั่นคง มกี ารสง่ เสรมิ ความรใู้ หแ้ กค่ ณะกรรมการสหกรณน์ กั เรยี น และสมาชิก เช่น การศกึ ษาดูงานสหกรณจ์ รงิ ๆ สหกรณใ์ หญ่เปน็ กลมุ่ สหกรณ์การเกษตร หรือกลุม่ สหกรณ์แบบตา่ ง ๆ เพือ่ ใหม้ ีประสบการณ์ ในการทัศนศึกษาได้มีการเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิตในด้านอ่ืน ๆ เช่น ทางภาคเหนือ กรมส่งเสริมสหกรณพ์ านกั เรียนไปดูพชื สวนโลก เปน็ ต้น หรือบางทีเด็กที่อยู่บนภูเขาก็พาไปดูทะเล ดูพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ก็มี สวนสตั วก์ ม็ ี ไปดพู พิ ธิ ภณั ฑไ์ ดโนเสาร์ เวลาใหเ้ ลา่ วา่ ไปดอู ะไร ไปสมั ภาษณ์ เด็กไม่เห็นเล่าเรื่องว่าไปดูสหกรณ์เลย เล่าเรื่องไดโนเสาร์ เป็นการให้ ความร้ทู างดา้ นวทิ ยาศาสตรไ์ ปด้วย ในบางครัง้ สหกรณจ์ รงิ ๆ ที่อย่ใู นพน้ื ท่กี ็มาเปน็ พเี่ ลยี้ ง บางคร้งั เขาคิดการสร้างแรงจูงใจในการดำ�เนินงานสหกรณ์นักเรียน มีการ ประกวดและได้รางวัลประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติ การประกวดการ บันทึกบัญชี การประกวดวาดภาพหรือประกวดเรียงความ ผลพลอยได้ คือ เป็นการเสริมทักษะนักเรียนในด้านต่าง ๆ และทำ�ให้นักเรียนเกิด ความภาคภูมิใจในผลงานของตนเองด้วย เวลาไปเยี่ยมตามโรงเรียน ครูใหญ่มาบรรยายเขาจะบอกว่าความภาคภูมิใจของโรงเรียนมีเรื่อง ไดร้ างวลั การบนั ทกึ บญั ชแี ละการประชมุ ความภาคภมู ใิ จอยา่ งอนื่ ๆ เชน่ สขุ ภาพระดับทอง ปศสุ ัตว์ดีเด่น ยุวเกษตรดีเด่น ครูดเี ด่น นกั เรียนดีเดน่ เล่นกีฬาชนะ นอกจากนักเรียนคนท่ีสำ�คัญไม่ยิ่งหย่อนกว่านักเรียน คือ ครู เพราะเปน็ ผถู้ า่ ยทอดความรู้และเทคนคิ ต่าง ๆ ให้นกั เรียน ครูบางคน เป็นศิษย์เก่า ตอนสมัยท่ีเป็นเด็กนักเรียนเคยเป็นกรรมการของสหกรณ์ ก็จำ�เรื่องน้ีไว้สอนน้อง ๆ อีกต่อไป จำ�เป็นต้องมีการพัฒนาศักยภาพ ของครู เพอื่ ใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ ทจี่ ะก�ำ กบั ใหค้ �ำ แนะน�ำ ชว่ ยเหลอื
สหกรณน์ ักเรยี น : สรา้ งเยาวชน สรา้ งชุมชนม่นั คง 17 นักเรียนในการดำ�เนินงานสหกรณ์ได้ เช่น การฝึกอบรมครูในเรื่อง การจัดการเรียนการสอนวิชาสหกรณ์ วิชาบัญชี และการจัดการศึกษา ดูงาน การเช่อื มโยงกับโครงการอืน่ ๆ • การเกษตร สหกรณ์นักเรียนเป็นหน่วยรับซื้อผลผลิตจาก ฟาร์มของโรงเรียน หรือแม้แต่ของที่ผลิตได้ ปลูกได้ใน ท้องท่ี ผปู้ กครองปลูก แลว้ น�ำ มาวางจ�ำ หนา่ ยให้แก่โรงครวั เพราะบางทีโรงเรียนมีที่น้อย ไม่สามารถปลูกพืชผักให้พอ บริโภคได้ รายได้จากการขายผลผลิตทางการเกษตรกลับ คืนสู่ฟาร์มของโรงเรียน ทำ�ให้มีการทำ�เกษตรกรรมท่ี ย่งั ยนื ได้ • การประกอบอาหารกลางวัน ครัวของโรงเรียนก็สามารถ ใช้เงินท่ีได้รับจากกองทุนอาหารกลางวันของรัฐบาล ซ้ือ วัตถุดิบในการประกอบอาหารท่ีมีคุณภาพ ปลอดภัย และ ราคาถูกกว่าท้องตลาดจากสหกรณ์ ไม่ต้องเดินทางไปซ้ือ ในท่ีไกล ๆ สหกรณ์ทำ�บัญชี ออกใบเสร็จให้ นอกจากนี้ สหกรณ์ยังช่วยหาเคร่ืองปรุง หรือของแห้งมาวางจำ�หน่าย ด้วย • การฝึกอาชีพ เวลาจะประดิษฐ์ของหรือแปรรูปอาหาร ต้องซ้ือวัตถุดิบบางอย่าง แทนท่ีต่างคนต่างซ้ือ ก็เอามา รว่ มมาขายราคาขายสง่ แลว้ มาแบง่ กนั จะขนึ้ ราคาเลก็ นอ้ ย แล้วสหกรณ์ก็เป็นของเรากันเอง ขึ้นราคานิดหน่อยก็ไม่ เป็นไร มีการปันผล หรือผลงานท่ีผลิตได้ ก็นำ�มาขายผ่าน สหกรณ์ เพราะเป็นศนู ยร์ วม ท�ำ ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ กท่ ุกคน
18 สหกรณ์นักเรียน : สรา้ งเยาวชน สร้างชมุ ชนมัน่ คง การติดตามผลการดำ�เนนิ การ พ้ืนที่ดำ�เนินการทั้งหมด ในปีการศึกษา ๒๕๕๔ มีสถาน ศึกษาในโครงการท่ีจัดกิจกรรมสหกรณ์นักเรียนท้ังหมด ๗๔๖ แห่ง ท่ัวประเทศ น่ีเฉพาะในโครงการท่ีทำ�เอง แต่คนอื่นในพื้นที่อื่น ๆ เขา ก็ทำ�เหมือนกัน พระเณรก็ทำ�สหกรณ์เหมือนกัน มีสหกรณ์พระ สหกรณ์เณร แล้วท่านก็รายงานได้ดี ตัวช้ีวัดเพื่อใช้ดูความก้าวหน้า เช่น นักเรียนมีพฤติกรรมพ่ึงตนเอง ช่วยเหลือผู้อ่ืน นักเรียนมีความรู้ และทักษะในด้านสหกรณ์ การจัดกิจกรรมสหกรณ์ต่าง ๆ และการจัด ประชุม เวลาไปประเมนิ กด็ ตู วั ชี้วดั พวกน้ี
สหกรณ์นกั เรยี น : สร้างเยาวชน สร้างชุมชนมนั่ คง 19 ขยายสชู่ มุ ชน เชอ่ื มโยงกบั ครอบครวั ชมุ ชน นอกจากท�ำ ในโรงเรยี นแล้ว กม็ กี ารขยายสคู่ รวั เรือน นกั เรียน แต่ละคนจะต้องมีสมุดบัญชีส่วนตัว เขียนว่าวันน้ีได้เงินจากไหน ใช้จ่าย ไปในการทำ�อะไรบ้าง เม่ือสักครู่ทางด้านท่านปลัดกระทรวงเกษตร ได้เล่าว่าบางทีนักเรียนไปดูบัญชีที่ตัวเองทำ�เองแล้วไปบอกพ่อแม่ว่า รายจ่ายของพ่อแม่มาก มาให้หนูทำ�ไมเยอะแยะ ดูจากบัญชี ชักห่วง บัญชีครอบครัว คือนักเรียนเป็นตัวกลางซื้อขาย ผู้ปกครองนักเรียน หรือชาวบ้านมาช่วยกัน มาสู่ชุมชน เขาเรียกว่าต้นกล้าเศรษฐกิจ พอเพียง มาทำ�บัญชี บางทีซ้ืออะไร ขายอะไรแล้ว รายได้ รายจ่าย วันน้ีช่วยพ่อแม่ล้างจาน นอกจากสะสมเงินแล้ว ยังสะสมความดี หลังจากน้ันเขาจะมีเล่มใหญ่อีกเล่ม พอดีปีที่ผ่านมาเป็นปีท่ีพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระชนม์ ๘๔ ทางกรมฯ เขาทำ�โครงการทำ� ความดีเพ่ือพ่อ เขาก็เอาความดีพวกน้ีมาใส่ในเล่มใหญ่เพ่ือเตือนตัวเอง ว่าวันนี้เราได้ทำ�ความดี เป็นการปล้ืมใจให้กำ�ลังใจตัวเองด้วย นอกจาก บัญชีของนักเรียนแต่ละคน ก็เอาไปทำ�บัญชีในครัวเรือน สมัยก่อน พ่อแม่เคยบ่นเหมือนกันว่า พ่อแม่บางทีเป็นคนรุ่นเก่าเขียนหนังสือยัง ไมค่ ่อยเปน็ จะให้ลกู ชว่ ยทำ�หนอ่ ย ลูกก็ไปวิ่งเล่นเสียแลว้ แตว่ า่ ตอนหลงั นี่เท่าท่ีไปสอบถามมา ทุกคนร่วมกันทำ� มีบัญชีแม่ลูก บัญชีพ่อลูก บัญชีในครวั เรอื นว่าใช้จา่ ยอะไรบา้ ง บัญชีฟาร์ม แตล่ ะคนเป็นเกษตรกร มีฟาร์มของตัวเอง ก็ทำ�บัญชีฟาร์ม ทำ�ให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก อะไรท่ีไม่ควรซื้อ บางคร้ังใช้เงินไปกับการสูบบุหรี่ ดื่มสุรามากมาย ก็ลด แต่ทำ�ไปทำ�มาลดได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่มีคนเยอะท่ีคิดว่าของ บางอยา่ งฟ่มุ เฟือยไมซ่ ื้อกม็ ี ขยายผลไปถงึ ประชาชน
20 สหกรณ์นักเรยี น : สร้างเยาวชน สร้างชุมชนม่ันคง ขยายผลสู่ชมุ ชน นี่ก็เป็นอีกรูปแบบของการขยายผลสู่ชุมชน เกิดการพัฒนา อาชีพในชุมชนนักเรียนที่เป็นศิษย์เก่าที่เรียนเร่ืองสหกรณ์ไป เขาไป ขยายผลต่อ เช่นมีนกั เรยี นอย่คู น เขาจบประถมปที ่ี ๖ แลว้ ไปเรียนตอ่ ม. ๑ ในโรงเรียนท่ีไม่มีสหกรณ์ เขาก็ไปต้ังสหกรณ์ เด็กคนน้ันดูเป็นคน ที่มีภาวะเป็นผู้นำ�สูง ไปต้ังสหกรณ์ ครูยังไม่ค่อยเข้าใจเร่ืองสหกรณ์ เด็กคนนี้เขา้ ไปกไ็ ปสอนเพื่อน ๆ สอนครู และจดั ท�ำ ไดท้ กุ อย่าง แกกเ็ สีย อยู่อย่างเดียว คือแกไม่ประชุม แกบอกว่าคนอ่ืนไม่รู้เร่ือง แกทำ�อยู่ คนเดียว แล้วไม่มีคนว่าด้วย เลยบอกว่าก็เตือนสะกิด ๆ กันหน่อยว่า ที่เราสอน เราสอนประชาธิปไตย เรื่องน้ีไม่ค่อยเป็นประชาธิปไตย เทา่ ไร เขาเรยี กวา่ เปน็ เผดจ็ การ แตเ่ รยี กว่าเขานำ�ไปใช้ มีการพยายาม จะจัดการอบรมทั้งครูและนักเรียนในโรงเรียนท่ีนักเรียนไปเรียนต่อ อย่างมีคนหน่ึงเป็นนกั เรียนนับถือศาสนาอสิ ลาม พอจบจากช้ันประถม ๖ แล้วไปเรียนต่อในโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม ก็ไปตั้งสหกรณ์ เหมือนกัน คือ เป็นเร่ืองที่นักเรียนติดใจ ก็ไปต้ัง โต๊ะครูกับพวกครู ศาสนาอิสลามท่ีโรงเรียนน้ันเขาก็สนับสนุนกัน ทางราชการก็ไปช่วย สนบั สนนุ ส่วนคนที่เห็นในภาพก็เป็นการพัฒนาอาชีพที่รวมกลุ่มกันภายใน หมู่บ้านของผู้ประกอบอาชีพ คนเส้ือดำ�ชื่อ นางชัชรี พิริยะปรีชากุล จบจากโรงเรยี นต�ำ รวจตระเวนชายแดนกามาผาโด้ ทกุ คนนจ่ี บกามาผาโด้ ซึ่งเป็นโรงเรียนของชาวเขาเผ่ากะเหร่ียง อยู่ที่จังหวัดตาก จบชั้น ประถม ๔ ปี ๒๕๓๕ ปัจจุบันอายุ ๓๐ ปี เป็นสมาชิกกลุ่มทอผ้า ย้อมสีธรรมชาติบ้านกามาผาโด้ อำ�เภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ทำ� หน้าท่ีเป็นเหรัญญิกของกลุ่ม และเป็นผู้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่ มาติดต่อกับกลุ่ม ตอนท่ีไปเยี่ยมเขาเม่ือปลายปีที่แล้วเดือนธันวาคม ชัชรเี ป็นคนมารายงานผลการดำ�เนนิ งานของกลุ่มอาชพี นางอัญชลี สิงห์สิทธิกร จบการศึกษาจากโรงเรียนตำ�รวจ ตระเวนชายแดนกามาผาโด้ ช้ันประถม ๖ ปี ๒๕๓๙ ปัจจุบันอายุ ๒๖ ปี เป็นกรรมการกลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติ มีความรู้ดีกว่าคนอ่ืน มีความรู้สามารถอ่านเขียนภาษาไทยได้ดี ส่วนคนนี้ นางสาวฐิติชญา เกษยี รธารา เรียนทโ่ี รงเรยี นเดยี วกนั น้ี จบชัน้ ประถม ๒ ได้ทนุ ไปเรียน ท่โี รงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์ตาก ปัจจบุ ันอายุ ๒๘ ปี เป็นครูอาสาสมคั ร ท่ีศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านตะโต๊ะโกร ช่ือพวกน้ีอ่านไม่ค่อยออก สำ�นักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดตากรับผิดชอบกลุ่มอาชีพบ้านป่าสัก มี ๔ กลุ่มย่อย และเป็นนักศึกษาในโครงการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนา ครูเพื่อใหค้ รทู ี่มาสอนในถ่ินทรุ กนั ดารสามารถมวี ฒุ ถิ ึงปรญิ ญา
สหกรณ์นกั เรยี น : สรา้ งเยาวชน สรา้ งชุมชนม่นั คง 21 ขยายผลสู่ต่างประเทศ นอกจากโรงเรียนตำ�รวจตระเวนชายแดน โรงเรียนของ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ยงั มโี รงเรยี นวดั ในวดั ซงึ่ สามเณรและพระอาจารย์ เป็นผู้ดำ�เนินการอยู่ และโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลามก็ล้วนแต่ ท�ำ โครงการสหกรณ์อยา่ งนี้ ยังมีการขยายผลไปสู่ต่างประเทศ ปัจจุบันได้ไปทำ�โครงการ เกษตรเพ่ืออาหารกลางวันและโครงการสหกรณ์ในประเทศต่าง ๆ หลายประเทศ เช่น ลาว พม่า เวียดนาม กัมพูชา ท่ีไปไกลหน่อยก็ มองโกเลีย บังกลาเทศ ภูฏาน เร่ิมต้นให้ประเทศต่าง ๆ เหล่าน้ีได้มา ศกึ ษาดูงาน และน�ำ ไปทดลองใช้ อย่างเชน่ ในเวียดนามไดไ้ ปเปิดรา้ นค้า สหกรณ์ ตอนที่ไปเย่ียมเขาบอกนักเรียนทำ�อย่างจริงจังมาก จนผู้ปกครองกลัวว่าจะเสียเวลาเรียนเลยหยุดไป ที่จริงเมืองไทย ก็เคยเป็นอย่างนี้เหมือนกัน มีบางแห่งไม่ค่อยเรียน รู้สึกทำ�การค้า อย่างเดียว กิจการเจริญรุ่งเรืองมาก บอกว่าให้ทำ�สหกรณ์ ทำ�พอ ประมาณ วิชาอ่ืนก็ต้องเรียนด้วย ส่วนในเวียดนามไปอธิบายแล้วว่า ประโยชน์จะมีหลายอย่าง เท่าท่ีบรรยายมาต้องควบคุมจำ�กัดเวลาใน การปฏิบัติ ไม่ใช่ทำ�จนกระทั่งนักเรียนเสียการเรียน เห็นเขาพยักหน้า ไม่ทราบว่าจะทำ�ต่อหรือเปล่า ยังไม่ได้ไปติดตามผล ส่วนท่ีภูฏานหรือ ที่อื่น ๆ นำ�ไปประยุกต์ใช้กับการผลิตทางการเกษตร ที่ภูฏานยังไม่ได้ ไปเยี่ยมโรงเรียน เพราะเขาบอกว่าโรงเรียนที่เขากำ�หนดให้ทำ�กิจกรรม ของเราจะต้องเดินเท้าไปเป็นเวลา ๑ วัน ๑ วนั ของภฏู าน แตข่ องไทย อาจจะเยอะกวา่ เพราะฉะนน้ั เลยยังไมค่ ่อยกล้าไปเยย่ี ม ยงั ไม่แนใ่ จ
22 สหกรณ์นักเรียน : สร้างเยาวชน สรา้ งชุมชนมน่ั คง สรุป กล่าวโดยสรุป สหกรณ์นักเรียนน้ีพยายามท่ีจะให้เป็นพื้นฐาน ทจี่ ะด�ำ เนนิ กิจกรรมสหกรณแ์ ละกจิ กรรมอืน่ ๆ เชน่ ท่ฝี า่ ยไทยไดก้ ลา่ วมา และฝ่ายจีนได้บรรยายมานี้ อะไรท่ีแปลก ๆ ท่ีไทยยังไม่ได้ทำ� จะได้ ศึกษานำ�มาปฏิบัติเป็นบางเรื่องท่ีเรามีความสามารถที่จะทำ�ได้ สหกรณ์ นักเรียนน้ีเราไม่ได้มุ่งเน้นกำ�ไร และไม่ได้ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม อยา่ งรวดเรว็ ตอ้ งดี ตอ้ งดเี ลศิ ราํ่ รวยอยา่ งรวดเรว็ แตจ่ ะเปน็ กระบวน การปลูกฝังคุณธรรมในการดำ�รงชีวิตในสังคมร่วมกับผู้อ่ืน ท้ังความ ซอื่ สตั ย์ จรงิ ใจ ความเมตตากรณุ า การรจู้ กั ถอ้ ยทถี อ้ ยอาศยั กนั เออ้ื เฟอื้ ช่วยเหลอื กันและกัน มคี วามสำ�นึกตอ่ สว่ นรวม และรจู้ ักการท�ำ งาน รว่ มกบั ผอู้ น่ื อนั จะเปน็ การน�ำ ความสขุ ความสงบมาสทู่ กุ คนในสงั คม สหกรณ์นักเรียนจึงมีเป้าหมายท่ีจะสร้างคนรุ่นใหม่ท่ีจะวางรากฐาน ทม่ี ั่นคงให้แกช่ มุ ชนและประเทศชาติ เหมอื นกับโครงการจูงนอ้ งทีท่ าง กรมตรวจบญั ชสี หกรณเ์ ขาจะจา้ งศษิ ยเ์ กา่ ไดพ้ บบางคนทสี่ �ำ เรจ็ การศกึ ษา ดา้ นบญั ชี บางคนไมใ่ ชแ่ ต่มีความร้ดู ี จ้างเขามาทำ�งานช่วงหน่งึ ที่เขายัง ไมไ่ ด้งานประจำ�ทำ� เขาก็มาทำ�ให้นักเรยี นเรา
สหกรณ์นกั เรยี น : สรา้ งเยาวชน สรา้ งชมุ ชนมน่ั คง 23 ต้องยกพระราชด�ำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมา “สหกรณ์ แปลว่า การท�ำงานร่วมกัน การท�ำงานร่วมกันนี้ลึกซึ้งมาก เพราะว่าจะต้องร่วมมือกันใน ทกุ ด้านทัง้ ในดา้ นงานการที่ท�ำดว้ ยรา่ งกาย ทั้งในด้านงานการทท่ี �ำดว้ ยสมอง และ งานการที่ท�ำด้วยใจ ทุกอย่างนี้ขาดไม่ได้ ต้องพร้อม” สมองกับใจไม่เหมือนกันนะ สมองคอื ความรู้ ในทีน่ ้ีใจคอื ความตัง้ ใจความกระตอื รือร้น และอยากจะท�ำ น่ีคือที่เดียวกันท่ีเห็นมีเด็ก ๆ ยืนอยู่ พระเจ้าอยู่หัวท่านสนทนากับสมาชิก กแ็ ลกเปลี่ยนความคิดเห็น ไม่ใช่พระเจ้าอย่หู วั ไปเลกเชอร์หรอื ส่ังอะไร เขามปี ญั หา อะไรเขาก็ทูลถาม หรอื เขาจะแสดงความคดิ เห็น อนั น้สี หกรณก์ ารเกษตร สหกรณ์ นิคม แต่อันที่พระเจ้าอยู่หัวไปทำ� สหกรณ์ต่าง ๆ อันที่โปสเตอร์แสดงเป็นสหกรณ์ โคนมหลายแห่ง ต้องให้ทำ�กิจกรรม บางทีก็มีกิจกรรมนอกฝ่าย เร่ืองโคนม ถ้าดี ก็เก็บไว้ ไปเจอกิจการไม่ดีก็ขอให้เขาเลิกเสีย ดีกว่าขาดทุนทำ�ให้ล่มจม จะมีคนที่ ท�ำ และรบั ใช้พระเจา้ อยูห่ ัวอีกคนชือ่ หมอ่ มหลวงเดช สนิทวงศ์ ทา่ นไปท�ำ ทส่ี หกรณ์ เช่นสหกรณ์หนองโพ สหกรณ์โคนม ท่ีสหกรณ์ยังมีรูปท่านติดอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของ สหกรณ์ ตอนทไี่ ปไดพ้ ยายามไปคยุ วา่ นคี่ นโบราณเขาท�ำ กนั มา เราเปน็ คณะกรรมการ สหกรณ์รุ่นใหม่ ก็ควรจะรักษางานท่ีรุ่นพ่อรุ่นแม่ทำ�เอาไว้ เพ่ือให้เจริญรุ่งเรือง เป็นประโยชน์อย่างย่ังยืนต่อคนอ่ืนต่อไป ในที่น้ีขอเป็นตัวแทนของชาวสหกรณ์ทุก คนตงั้ แตผ่ ใู้ หญผ่ โู้ ตในวงการราชการ ไปจนกระทง่ั ถงึ นกั เรยี นเลก็ ๆ เหลา่ น้ี ขอบคณุ ท่สี นใจในกจิ การของเรา สวสั ดี
สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายเรื่อง สหกรณ์นักเรยี น: สร้างเยาวชน สรา้ งชุมชนมนั่ คง ในการสมั มนาความสมั พันธ์ไทย - จีน ครง้ั ที่ ๙ ประจ�ำ ปี ๒๕๕๕ “สหกรณ:์ พลงั พัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมท่ียง่ั ยืน” ISBN : 978-616-7975-13-9 จดั พิมพ์โดย ส�ำ นกั งานโครงการสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต กรงุ เทพฯ ๑๐๓๐๓ โทรศพั ท์ ๖๖ ๒๒๘๒ ๖๕๑๑, ๖๖ ๒๒๘๑ ๓๙๒๑ โทรสาร ๖๖ ๒๒๘๑ ๓๙๒๓ พิมพ์ครงั้ ที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙ จำ�นวน ๒,๐๐๐ เล่ม พมิ พ์ที่ บรษิ ทั อมรนิ ทร์พริน้ ตง้ิ แอนดพ์ บั ลิชชง่ิ จำ�กัด (มหาชน) ๓๗๖ ถนนชยั พฤกษ์ เขตตลงิ่ ชัน กรุงเทพฯ ๑๐๑๗๐ โทรศพั ท์ ๖๖ ๒๔๒๒ ๙๐๐๐ โทรสาร ๖๖ ๒๔๓๔ ๑๓๘๕
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: