Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปั๊บผะหญา_ล้านนาสร้างสุขภาวะ

ปั๊บผะหญา_ล้านนาสร้างสุขภาวะ

Published by E-book Prasamut chedi District Public Library, 2019-09-04 04:55:01

Description: สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ)
หนังสือ,เอกสาร,บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อการศึกษา

Search

Read the Text Version

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ พ้ืนท่ี: องคการบริหารสวนตําบลบ้านกาด อําเภอแมวาง จังหวัด เชียงใหม วิทยากร: นายอินตวน เมืองดี ตําแหนง: ประธานชมรมผู้สูงอายุ เบอรโทรศัพท: ๐๘๖-๑๘๘-๑๘๘๖ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี ปั จจุบันต�าบลบ้านกาดมีประชากรทั้งหมด ๒,๒๕๕ คน เป็นชาย ๑,๑๐๔ คน หญิง ๑,๑๕๑ คน เป็นผสู้ งู อายุ ๔๖๐ คน ผูท้ อี่ ายุสูงสุดคอื ๙๗ ปี และในจา� นวนนเี้ ป็นผูท้ ีม่ คี วามพกิ าร รวมอยูด่ ว้ ย ๗๓ คน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ทีมสหวิชาชีพต�าบลบ้านกาดร่วมกับชมรมผู้สูงอายุต�าบลบ้านกาด ได้ออกเยี่ยมบ้าน ผู้สูงอายุ โดยแบ่งผู้สูงอายุออกเป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองได้ ผู้สูงอายุที่ ช่วยเหลอื ตนเองไดบ้ า้ ง และผสู้ งู อายทุ ปี่ ่ วยและช่วยเหลอื ตนเองไมไ่ ด้ พกิ าร ทพุ พลภาพ โดยขอ้ มลู จากการส�ารวจพบวา่ ผูส้ งู อายุในต�าบลบา้ นกาดมปี ั ญหาเจบ็ ป่ วยเร้ือรงั ความดันโลหติ เบาหวาน และเป็นโรคซมึ เศร้า จึงมคี วามตอ้ งการจดั ตงั้ ศูนยฟ์ ้ืนฟสู ุขภาพผูส้ งู อายเุ พ่อื ให้บริการแกผ่ ูส้ ูงอายุ ในตา� บล ดว้ ยการระดมทนุ ทงั้ จากหนว่ ยงานของรฐั การขอรบั บรจิ าค และการจดั ผา้ ป่ าสามคั คขี อง ชมรมผสู้ ูงอายุ จนเกดิ เป็นศูนยฟ์ ้ืนฟสู ขุ ภาพผสู้ ูงอายุทเี่ รยี กวา่ “ศนู ยป์ ั๋ นสุขฮ่วมใจ๋” เปิดให้บริการ แกผ่ สู้ งู อายุในพ้ืนทีต่ า� บลบา้ นกาด ทุกวันอังคารและศุกร์ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๒.๐๐ น. ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) ตอ้ งการจัดตงั้ ศนู ยฟ์ ้ืนฟูสขุ ภาพผูส้ ูงอายเุ พ่อื ให้บริการแกผ่ ูส้ ูงอายใุ นตา� บล ๒) ให้ทุกคนตระหนกั และพร้อมดแู ลผสู้ งู อายุให้ทัดเทยี มกบั การดูแลประชากรในกลมุ่ อ่นื ๑๕๐ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ให้บริการดา้ นสาธารณสุขแกผ่ ูส้ งู อายุ โดยชมรมผสู้ ูงอายุ อสม.และ อผส. ดว้ ยการจัด ให้มกี ารตรวจสุขภาพ วดั ความดันโลหติ ตรวจเบาหวาน เป็นตน้ ๒) ให้บรกิ ารดา้ นการพยาบาลดว้ ยกายอปุ กรณ์ และให้คา� ปรกึ ษาดา้ นสขุ ภาพกบั ผสู้ งู อายุ โดยพยาบาลวชิ าชพี ประจา� ตา� บล รวมทงั้ จดั ใหม้ กี ารอบรมเร่อื งการดแู ลสขุ ภาพรา่ งกายทเี่ หมาะสม ใหก้ บั ผสู้ งู อายุ อบรม อสม.และ อผส. ใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจ สามารถดแู ล ผสู้ งู อายไุ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ๓) อบรมให้ความร้เู ร่อื งยาสมุนไพรพ้ืนบา้ น ๔) ให้บริการด้านสาธารณสุขแกผ่ ู้สูงอายุนอกสถานที่ โดยผู้ดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ (care giver) ทผี่ า่ นการอบรมและไดร้ บั การรบั รองจากสาธารณสขุ จงั หวดั ดว้ ยการออกเยยี่ มบา้ น ดแู ลดา้ นสขุ ภาพ ตรวจวดั ความดนั ตรวจเบาหวาน พดู คยุ และให้คา� แนะนา� ดา้ นโภชนาการอาหาร และสอนท�ากายภาพทีบ่ า้ น ๕) ให้บรกิ ารดา้ นสงั คม โดยชมรมผสู้ งู อายตุ า� บลบา้ นกาด ดว้ ยการจดั ให้มกี ารศกึ ษาดงู าน เพ่ือให้ผูส้ ูงอายุมีประสบการณเ์ ปิดโลกทัศนภ์ ายนอก จัดกิจกรรมเขา้ วัดฟั งธรรม กิจกรรมเพ่ือน เยยี่ มเพ่อื น โดยผสู้ งู อายทุ มี่ สี ขุ ภาพแขง็ แรงไดร้ วมกลมุ่ กนั ลงเยยี่ มบา้ นผสู้ งู อายทุ อี่ ยใู่ นภาวะพง่ึ พงิ ทา� กจิ กรรมดแู ลความสะอาดบา้ นเรอื น พดู คยุ ให้กา� ลงั ใจ จดั หาสงิ่ ของอปุ โภคบรโิ ภค เช่น ขา้ วสาร อาหารแห้ง ผา้ อ้อมสา� เรจ็ รูป เป็นตน้ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) ทีมสหวิชาชีพต�าบลบ้านกาด ๒) โรงพยาลบาลแม่วาง ๓) ชมรมผู้สูงอายุต�าบล บา้ นกาด ๔) อสม. ๕) อผส. ๖) โรงพยาบาลแมว่ าง และ ๗) องคก์ ารบริหารสว่ นตา� บลบา้ นกาด ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ศูนยป์ ั๋ นสุขฮ่วมใจ๋ ให้บริการด้านสาธารณสุขแกผ่ ู้สูงอายุในพ้ืนที่ที่สามารถเดินทางมา รับบริการเองได้ โดยมีอุปกรณ์อ�านวยความสะดวกด้านการรักษาครบครัน หรือกรณีผู้ป่ วยที่ ไมส่ ามารถเดนิ ทางมาดว้ ยตนเองได้ กจ็ ะมชี มรมผสู้ งู อายุ แกนนา� จติ อาสา อสม. อผส. ทมี พยาบาล วิชาชีพจากโรงพยาบาลแม่วางออกเยี่ยมผู้ป่ วยด้วยตนเอง ถือเป็นการจัดสวัสดิการสังคมอีก รปู แบบหน่ึง เพ่อื พฒั นาทอ้ งถิน่ ให้ยงั่ ยนื ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ๑) แกนน�า จิตอาสา และอาสาสมัครมีความทมุ่ เท เสียสละ และมุง่ มัน่ ทีจ่ ะส่งเสริมการ ให้บรกิ ารแกผ่ สู้ งู อายุ ตลอดจนการให้ความรว่ มมอื และสนบั สนนุ การดา� เนนิ งานของหนว่ ยงานและ องคก์ รตา่ งๆ ในพ้นื ที่ ๒) มอี งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ สนบั สนนุ เช่น งบประมาณ บคุ ลากร สถานที่ การประสาน เครอื ขา่ ย ซ่ึงถือเป็นปั จจยั สา� คัญในการขับเคล่อื นงานให้ประสบความส�าเรจ็ ๑๕๑ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ |



๕ ประเด็นการจัดการ ระบบนิเวศชุมชน และลดโลกร้อน โดยชุมชนท้องถิ่น

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ที่ ชุมชนปลอดขยะระดับประเทศ บ้านดงอินตา หมู่ท่ี ๖ พ้ืนที่: เทศบาลตําบลบ้านเหลา อําเภอแมใจ จังหวัดพะเยา วิทยากร: นายสนั่น สายเครือวงษ ตําแหนง: ผู้ใหญบ้านดงอินตา หมูที่ ๖ เบอรโทรศัพท: ๐๘๗-๑๘๑-๑๗๒๒ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี เทศบาลต�าบลบา้ นเหลา่ เป็นองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ขนาดกลาง มีพ้ืนที่ ๙๙.๑๕๔ ตารางกิโลเมตร จดั เป็นพ้ืนทตี่ น้ นา มหี นองเล็งทราย แหลง่ นา ส�าคญั ของอา� เภอแมใ่ จ พาดผา่ น กอ่ นไหลลงสู่นาแมอ่ ิง และลงสู่กว๊านพะเยา แบ่งการปกครองออกเป็น ๑๔ หมูบ่ ้าน มีจ�านวน ครวั เรอื นทงั้ หมด ๑,๙๒๗ ครวั เรอื น ประชากรรวม ๖,๕๑๗ คน เป็นชาย ๓,๒๐๘ คน หญงิ ๓,๓๐๙ คน (ขอ้ มลู จาก TCNP ปี ๒๕๖๐) ในพ้ืนทีม่ โี รงเรียน ๔ แห่ง โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพต�าบล ๒ แห่ง วดั ๘ แห่ง ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง กอ่ นปี ๒๕๕๓ ประชาชนสว่ นใหญไ่ มค่ ัดแยกขยะ ทงั้ ยงั ก�าจัดขยะไมถ่ ูกวิธี เช่น เผา น�าไป ทิ้งขา้ งถนน และที่สาธารณะอ่ืนๆ กอ่ ให้เกิดปั ญหาตามมา ขณะที่เทศบาลก็ไมม่ ีเตาเผา หรือ บอ่ ขยะ ในทสี่ ดุ เทศบาลตา� บลบา้ นเหลา่ จงึ เรยี กประชมุ หารอื ระหวา่ งหนว่ ยงานในพ้นื ที่ และแกนนา� หมบู่ า้ นทกุ หมบู่ า้ น เพ่อื สรา้ งกระบวนการมสี ว่ นรว่ ม จติ สา� นกึ และปลกู ฝั งพฤตกิ รรมเชงิ สรา้ งสรรค์ บา้ นดงอนิ ตา หมูท่ ี่ ๖ เป็น ๑ ใน ๑๔ หมบู่ า้ น ทรี่ ่วมกันขบั เคล่อื นเร่อื งการจัดการขยะใน ชมุ ชนตงั้ แตป่ ี ๒๕๕๓ และมคี วามโดดเดน่ ทสี่ ดุ บา้ นดงอนิ ตาเป็นหมบู่ า้ นขนาดกลาง จา� นวน ๑๗๐ หลังคาเรือน ประชากร ๘๐๕ คน แบง่ การปกครองออกเป็น ๑๕ คุม้ มีปริมาณขยะโดยเฉลี่ย ๑๙๐ กิโลกรัมตอ่ วนั ปี ๒๕๕๓ มกี ารประชุมประชาคมหมบู่ า้ นกา� หนดแนวทางการด�าเนินงานชมุ ชนปลอดขยะ ๖ ขอ้ ไดแ้ ก่ ๑) งดใช้ถงุ พลาสตกิ และกลอ่ งโฟมบรรจอุ าหาร ในทกุ กจิ กรรมของชมุ ชน ๒) งดขนม กรบุ กรอบ นมหวาน นมเปรีย้ ว ในศนู ยพ์ ัฒนาเดก็ เล็ก ๓) ทุกครวั เรือนตอ้ งคดั แยกขยะ ๔) ทุก ครัวเรอื นตอ้ งเขา้ ร่วมกจิ กรรมบา้ นสวยเมอื งงามนามดงอนิ ตาพฒั นาสิง่ แวดลอ้ ม เดอื นละ ๑ ครงั้ ๕) ห้ามเผาขยะในหมบู่ า้ น และ ๖) ห้ามทงิ้ ขยะในทสี่ าธารณะ หากพบปรบั ๕๐๐-๒,๐๐๐ บาท ๑๕๔ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ

ปี ๒๕๕๔-๒๕๕๖ ชมุ ชนร่วมกับโรงเรียน โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพต�าบล วัด ตลาด ร้านคา้ ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก น�าขอ้ ตกลง ๖ ขอ้ สู่การปฏิบัติ สร้างกระแสโดยจัดผา้ ป่ าขยะ และ จัดตั้งธนาคารขยะในโรงเรียนบ้านดงอินตา ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุน�าภูมิปั ญญาด้านการจักสาน เช่น กลอ่ งขา้ ว ตะกร้า ชะลอม ให้ชุมชนใช้แทนถงุ พลาสติกในชวี ติ ประจา� วัน พร้อมทงั้ สง่ เสรมิ ให้ น�าขยะมาผลิตเป็นของใช้ เช่น ผา้ กันเป้ือน ดอกไม้ นอกจากนี้ชุมชนยังเริ่มท�าป๋ ุยนาหมักจาก ขยะอินทรีย์ สร้างจุดรองรับขยะอันตรายประจ�าหมู่บ้าน ส่งเสริมการอนุรักษ์พ้ืนที่ป่ าชุมชน โบราณสถานเวียงห้าว และปลูกตน้ ไมเ้ พมิ่ พ้นื ทสี่ เี ขยี ว ชุมชนยังออกมาตรการลดใช้พลังงาน ส่งเสริมให้ทุกบ้านเปลี่ยนมาใช้หลอดตะเกียบ ประหยัดไฟ รณรงค์ปิดไฟอยา่ งน้อย ๑ ดวง ทุกวันเสาร์ตัง้ แต่เวลา ๒๐.๐๐-๒๑.๐๐ น. บาง ครวั เรือนใช้พลงั งานแสงอาทิตยท์ ดแทน โดยในปี ๒๕๕๔ บา้ นดงอนิ ตาไดร้ ับรางวลั รองชนะเลิศ อันดับที่ ๒ ระดับประเทศ ชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste) และปี ๒๕๕๕ ได้รับรางวัลรอง ชนะเลศิ อนั ดบั ที่ ๑ ระดับประเทศ กระทงั่ ปี ๒๕๕๖ บา้ นดงอินตาไดร้ ับรางวัลชนะเลศิ ชมุ ชนปลอด ขยะระดบั ประเทศ เป็นแหลง่ เรยี นรู้แกช่ มุ ชนและหนว่ ยงานอ่นื ทัง้ ในและนอกพ้ืนที่ ปี ๒๕๕๗ จนถึงปั จจุบนั บา้ นดงอินตาด�าเนินงานจัดการขยะตามหลกั ๓R อยา่ งตอ่ เน่อื ง กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้สนับสนุนงบประมาณสร้างศูนย์เรียนรู้สังคมรีไซเคิล ขณะเดยี วกนั ชมุ ชนยงั ไดร้ บั คดั เลอื กเป็นตวั แทนเขา้ ร่วมประกวดหลายโครงการ เช่น การประกวด หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ประกวดหมู่บ้านแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ประกวดหมู่บ้าน ประชาธิปไตยดีเด่น โดยบา้ นดงอินตาได้รับรางวัลโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ชนะเลศิ หมบู่ า้ นเศรษฐกจิ พอเพยี งระดบั จงั หวดั ชนะเลศิ หมบู่ า้ นประชาธปิ ไตย ดเี ดน่ และเป็นหมูบ่ า้ นแผน่ ดนิ ธรรมแผน่ ดนิ ทองระดับดเี ดน่ ของจังหวดั พะเยา ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) บริหารจัดการขยะในชมุ ชนแบบมสี ว่ นร่วม ๒) สง่ เสรมิ และอนรุ กั ษภ์ มู ิปั ญญาในการจัดการขยะ ๓) สร้างพ้นื ทีต่ น้ แบบดา้ นการจดั การขยะ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน การดา� เนินงานสามารถแยกออกเป็น ๔ ระดับ ไดแ้ ก่ ๑) ระดับครัวเรือน ทุกครัวเรือนมีการคัดแยกขยะทัง้ ๔ ประเภทแล้วเขา้ สู่กระบวนการ จัดการ ขยะอินทรีย์ น�าไปเลี้ยงสัตว์ หมักในเสวียน หรือถังหมัก ขยะรีไซเคิล ขายให้พอ่ คา้ ใน หมบู่ า้ น ขยะทวั่ ไป เช่น พลาสตกิ โฟม กลอ่ งเคร่อื งด่ืม ให้ครวั เรือนเกบ็ รวมไว้ ทางเทศบาลจะมา รับทุกวนั ที่ ๑๐ ของเดอื น เพ่อื นา� ไปอัดกอ้ นสง่ ขายบรษิ ัทเอกชน และขยะอันตราย รวบรวมไวท้ ี่ ถังขยะสว่ นกลางประจ�าหมบู่ า้ น เทศบาลจะรับไปจดั การ ๑๕๕ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๒) ระดับกลมุ่ กลมุ่ ตา่ งๆ ในหมบู่ า้ น ไดแ้ ก่ กลมุ่ ผสู้ ูงอายุ กลมุ่ จกั สาน กลมุ่ ป๋ ยุ หมัก กลมุ่ นาด่ืม กลุ่มเสวียน กลุ่มแมบ่ ้าน กลุ่มร้านค้า กลุ่มเด็กและเยาวชน ร่วมกันขับเคล่ือน รณรงค์ สนบั สนุนการทา� งานโดยยดึ หลักการลดขยะ นา� ขยะมาใช้ใหม่ และคัดแยกขยะ ๓) ระดบั ชมุ ชน เป็นชุมชนตน้ แบบ ไดร้ บั รางวัลถ้วยพระราชทานชนะเลิศชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste) เฉลมิ พระเกยี รติ ๘๖ พรรษา ประจา� ปี ๒๕๕๖ จากกรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม ขยายผลการด�าเนนิ งานเป็นวทิ ยากรบรรยายแกห่ มูบ่ า้ นใกลเ้ คยี ง ๔) ระดับเครือขา่ ย เป็นศูนยเ์ รียนรู้สังคมรีไซเคิลของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม มกี ารแลกเปลีย่ นเรียนรู้ทัง้ ในและนอกพ้ืนที่ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) คณะผูบ้ รหิ ารเทศบาลต�าบลบา้ นเหลา่ ๒) กองสาธารณสขุ และสงิ่ แวดลอ้ ม เทศบาล ต�าบลบา้ นเหลา่ ๓) แกนนา� ทอ้ งที่ ก�านัน ผใู้ หญบ่ า้ น ๔) หนว่ ยงานภายใน เช่น โรงเรียน รพ.สต. วดั และ ๕) ภาคประชาชน ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) ชุมชนมขี อ้ ตกลงการจดั การขยะร่วมกนั ๖ ขอ้ สามารถจัดการขยะไดท้ กุ ประเภท ๒) ชมุ ชนมีนวัตกรรมการจัดการขยะโดยภมู ปิ ั ญญาทอ้ งถนิ่ ๓) ชุมชนได้รับรางวัลชนะเลิศระดับต�าบล และเป็นตัวแทนเขา้ ประกวดชุมชนปลอดขยะ ระดับประเทศ และได้รับรางวัลชนะเลิศในปี ๒๕๕๖ ได้เป็นศูนยเ์ รียนรู้คูช่ ุมชน มีหนว่ ยงานอ่ืน เขา้ มาศกึ ษาดูงานอยา่ งตอ่ เน่อื ง ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั เกดิ จาก ๒ สว่ น สว่ นที่ ๑ กองสาธารณสุขและสิง่ แวดลอ้ ม เทศบาลต�าบลบา้ นเหลา่ เป็น หนว่ ยงานหลักในการขับเคล่ือน ประสานการด�าเนินงาน สร้างโอกาสด้านงบประมาณ ส่ือสาร ประชาสมั พันธ์ และเขา้ ถงึ ประชาชนในพ้ืนทีอ่ ยา่ งตอ่ เน่ือง สนบั สนนุ ให้โรงเรยี น หนว่ ยงาน และ หมบู่ า้ นทงั้ ๑๔ หมู่ เกดิ กระบวนการจดั การขยะตามหลัก ๓ R โดยด�าเนนิ งานมาตงั้ แตป่ ี ๒๕๕๓ จนถึงปั จจุบัน ส่วนที่ ๒ เกิดจากคนในชุมชนมีการท�างานภายใต้เง่ือนไข ก-ข-ค-จ คือ ก-แกนน�า-กจิ กรรม-กองทนุ หมายถงึ ชุมชนมแี กนนา� ทีช่ ัดเจน มกี ิจกรรมทหี่ ลากหลายตอ่ เน่อื ง ภายใต้การหนุนเสริมจากกองทุนต่างๆ ในหมูบ่ า้ น ข-ขยายความ-ขับเคล่ือน-ขอ้ มูล หมายถึง มกี ารพดู คยุ ขยายความ ขบั เคล่อื นการทา� งานในทศิ ทางเดยี วกนั และถอดบทเรยี นคนื ขอ้ มลู ให้แก่ ประชาชนในพ้ืนที่ ค-คมุ้ -ความสามคั ค-ี เครอื ขา่ ย หมายถงึ มกี ารปกครองเป็นคุม้ กระจายอา� นาจ เกิดความสามัคคี และมีเครือข่ายการท�างานทั้งบ้าน วัด โรงเรียน และส่วนราชการต่างๆ จ-จิตอาสา-เขา้ ใจ-จริงใจ-ใส่ใจ หมายถึง คณะท�างานมีจิตอาสา มีความเขา้ ใจในกระบวนการ ท�างาน มีความจรงิ ใจและใสใ่ จ จึงเกดิ ความตอ่ เน่ือง เขม้ แขง็ และยงั่ ยนื ๑๕๖ | ปบผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ที่ การจัดการขยะโดยชุมชน พื้นที่: องคการบริหารสวนตําบลปาสัก อําเภอภูซาง จังหวัดพะเยา วิทยากร: นายฮวน กันทะเนตร ตําแหนง: ผู้ใหญบ้านเวียงแก หมูที่ ๑๐ เบอรโทรศัพท: ๐๙๓-๓๑๖-๑๙๒๖ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี ต�าบลป่ าสัก อา� เภอภซู าง จงั หวดั พะเยา มพี ้ืนทีป่ ระมาณ ๒๙ ตารางกิโลเมตร แบง่ การ ปกครองออกเป็น ๑๐ หมบู่ า้ น มคี รัวเรือนจ�านวน ๑,๒๔๑ ครัวเรอื น ประชากรรวม ๓,๙๔๒ คน แยกเป็นชาย ๑,๙๕๑ คน หญงิ ๑,๙๙๑ คน บา้ นเวยี งแก หมูท่ ี่ ๑๐ มคี รัวเรือนจ�านวน ๑๔๘ ครวั เรอื น ประชากร ๔๖๓ คน มีแนวโนม้ การเพิม่ ข้ึนของประชากรอยา่ งตอ่ เน่ือง โดยในปี ๒๕๕๖ มีประชากรจา� นวน ๔๕๐ คน ปี ๒๕๕๗ จ�านวน ๔๕๕ คน และปี ๒๕๕๘ จ�านวน ๔๖๐ คน (ฐานขอ้ มลู ทะเบียนราษฎรปี ๒๕๕๘) สง่ ผล ให้จ�านวนขยะครัวเรือนเพิ่มข้ึนตามไปด้วย ขณะนี้บา้ นเวียงแกมีปริมาณขยะโดยเฉลี่ยในชุมชน ประมาณ ๐.๕ ตันตอ่ วนั (ขอ้ มลู สถิติการเก็บและขนขยะมูลฝอยของผูป้ ระกอบการ) ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง จา� นวนขยะในหมบู่ า้ นเวยี งแก หมทู่ ี่ ๑๐ มีปริมาณมากข้นึ สง่ กลนิ่ เหมน็ มีแมลงวนั รบกวน จา� นวนมาก ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ชุมชนสร้างมาตรการลดปริมาณขยะในพ้ืนที่ ๑๕๗ปบผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ |

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน บา้ นเวียงแก หมทู่ ี่ ๑๐ รณรงคใ์ ห้ประชาชนมีสว่ นร่วมในการคัดแยกและจัดการขยะจาก ครวั เรือน โดยแกนนา� จัดท�าบนั ทึกขอ้ ตกลงร่วมกนั ในการคัดแยกขยะในครัวเรอื น ขณะทอี่ งคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลป่ าสกั จดั ทา� โครงการขอรบั การสนบั สนนุ งบประมาณจาก ส�านักงานกองทุนสิ่งแวดล้อม ส�านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ�านวน ๒๐๘,๘๔๐ บาท งบประมาณส่วนหน่ึงน�ามาฝึกอบรมให้ความรู้การคัดแยกขยะ โดยมี วทิ ยากรจากบรษิ ทั กรนี ไลน์ จา� กดั ซง่ึ เป็นเอกชนทรี่ บั ซ้อื ขยะในพ้นื ที่ และวทิ ยากรจากมหาวทิ ยาลยั พะเยา สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเชิญปราชญ์ชาวบ้านมาช่วยฝึกอบรมเชิงปฏิบัติ การทา� โคมไฟจากขวดพลาสติก และเย็บกระเป๋ าจากเศษผา้ งบประมาณอีกสว่ นนา� ไปจดั กจิ กรรมศกึ ษาดงู าน ณ เทศบาลตา� บลเกาะคา อ�าเภอเกาะคา จังหวัดล�าปาง เพ่ือศึกษาการบริหารจัดการขยะ และการเล้ยี งไส้เดือนดิน เม่ือกลับมาที่ชุมชน แกนน�าจงึ ประชาสัมพันธร์ ับครัวเรอื นตน้ แบบดา้ นการจดั การขยะ โดยมี ๓ กิจกรรม กิจกรรมละ ๑๐ ครวั เรือน คือ ๑) เลีย้ งไสเ้ ดือนดนิ ๒) ท�าป๋ ยุ หมกั และ ๓) ทา� นา หมกั นอกจากนี้ ทาง อบต.ป่ าสกั ยงั จดั ทา� ส่อื ประชาสมั พนั ธ์ เช่น แผน่ พบั ความรเู้ ร่อื งการบรหิ าร จดั การขยะในชมุ ชน ป้ ายไวนลิ ประชาสมั พนั ธโ์ ครงการ และสตกิ เกอร์รณรงคเ์ ชญิ ชวนคดั แยกขยะ เพ่ือสร้างกระแสความต่นื ตวั ในชุมชน ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) ทุนทางสงั คมทดี่ า� เนินการหลกั คอื ชุมชนบา้ นเวียงแก หมทู่ ี่ ๑๐ ๒) ทุนทางสังคมที่ด�าเนินการหนุนเสริม ประกอบด้วย ส�านักปลัด องค์การบริหาร ส่วนต�าบลป่ าสัก ส�านักงานกองทุนสิ่งแวดล้อม ส�านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดลอ้ ม บรษิ ัท กรนี ไลน์ จ�ากัด ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เกดิ บันทึกขอ้ ตกลงร่วมกันในการคัดแยกขยะในครัวเรือนของบา้ นเวียงแก หมทู่ ี่ ๑๐ โดย ทุกครัวเรือนจัดการขยะตัง้ แตต่ น้ ทาง สามารถลดปริมาณขยะในพ้นื ที่ และเกิดกลมุ่ อาชีพทสี่ ร้าง รายไดจ้ ากการคดั แยกขยะ เช่น กลุม่ ถักกระเป๋ าจากเศษผา้ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั บา้ นเวียงแก หมทู่ ี่ ๑๐ มีความตงั้ ใจบรหิ ารจดั การขยะ บูรณาการกับภาคีเครอื ขา่ ยตา่ งๆ ในพ้นื ที่ ขณะเดยี วกนั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลป่ าสกั ช่วยประสานหนว่ ยงานอ่นื ซง่ึ พรอ้ มสนบั สนนุ การบรหิ ารจดั การขยะในพ้ืนที่ โดยมงุ่ หวังให้เป็นหมบู่ า้ นตน้ แบบการคดั แยกขยะตอ่ ไป ๑๕๘ | ปบ ผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี กลมุ่ คดั แยกขยะบา้ นขามสมุ่ พ้ืนท่ี: เทศบาลตําบลเวียงพร้าว อําเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: นายจรัล เวชกิจ, นายนิราช มณีโยชน ตําแหนง: เจ้าของศูนยการเรียนรู้ เบอรโทรศัพท ๐๙๖-๙๙๖-๖๔๗๗, ๐๘๙-๕๕๗-๖๔๕๙ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี เทศบาลต�าบลเวยี งพร้าวมีจา� นวนประชากรในพ้นื ที่ ๒,๙๑๙ คน (เฉพาะทอี่ าศยั อยจู่ รงิ ) มีครัวเรือนที่มีปั ญหาจัดการขยะ ร้อยละ ๓๔.๙๘ ครัวเรือนไม่คัดแยกขยะ ร้อยละ ๘๕.๔๗ ครวั เรอื นทเี่ ผาขยะ ร้อยละ ๑๕.๖๓ ครวั เรอื นฝั งขยะ ร้อยละ ๗.๘๖ ครวั เรอื นทีม่ กี ารจดั การมลพษิ หรือมลภาวะ ร้อยละ ๓๖.๐๘ ครัวเรือนที่ป้ องกันอันตรายจากสารเคมี ร้อยละ ๓๑.๓๐ และ ครัวเรอื นทมี่ ีการจดั การนา เสยี ร้อยละ ๕๖.๙๖ ครัวเรือนสว่ นใหญย่ ังใช้บริการจัดเก็บขยะของเทศบาลต�าบลเวียงพร้าว มากถึงร้อยละ ๙๖.๖๑ และในจ�านวน ๑๐ หมบู่ า้ นในเขตเทศบาลต�าบลเวียงพร้าว มี ๒ หมูบ่ า้ นทีด่ �าเนินการ ธนาคารขยะ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง จากขอ้ มูลปี ๒๕๕๖ เทศบาลต�าบลเวียงพร้าวมีปริมาณขยะ ๔,๙๐๐ กิโลกรัมต่อวัน ในปีเดียวกันนี้ นายนิราช มณีโยชน์ อดีตผู้ใหญ่บ้านขามสุ่ม (ปั จจุบันเป็นก�านันต�าบลเวียง) พร้อมด้วยคณะเทศบาลต�าบลเวียงพร้าว ได้ไปศึกษาดูงานเร่ืองการจัดการขยะ แล้วเกิดแนวคิด ทจี่ ะนา� มาใช้ในหมูบ่ า้ น ทางเทศบาลต�าบลเวียงพร้าวเริ่มส่งเสริมให้คัดแยกขยะที่ต้นทาง โดยประสานขอ งบประมาณจากกองทนุ สงิ่ แวดลอ้ ม สา� นกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม จา� นวน ๑๙๒,๐๐๐ บาท แลว้ นา� เงนิ สว่ นหน่งึ มาจดั ตงั้ กองทนุ คดั แยกขยะบา้ นขามสมุ่ ซ่งึ มผี สู้ งู อายุ เป็นแกนน�า น�าขยะมารวมกัน เพ่ือคัดแยก และจ�าหนา่ ย ในวันรับเบีย้ ยังชีพเป็นประจ�าทุกเดือน รายได้จากการขายขยะน�ามาจัดสวัสดิการส�าหรับสมาชิกท่ีเจ็บป่ วยต้องนอนโรงพยาบาล หรือ เสยี ชีวติ นอกจากนี้ ทางเทศบาลยงั สนับสนนุ กจิ กรรมป๋ ยุ หมักในบอ่ ซเี มนต์ เพ่ือรองรบั การแยก ขยะอินทรยี จ์ ากครัวเรือน โดยน�ามาใสใ่ นบอ่ ซีเมนต์ และใช้นาหมกั จุลนิ ทรยี ช์ ่วยยอ่ ยสลาย เพ่อื เป็นป๋ ุยหมกั ไวใ้ ช้ในครัวเรือน ๑๕๙ปบผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ |

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ เทศบาลตา� บลเวยี งพรา้ วสามารถลดงบประมาณในการจดั การขยะ และสรา้ งการมสี ว่ นรว่ ม ของคนในชุมชน ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน หลงั กลับจากศึกษาดงู าน มกี ารประชมุ ประชาคม เริม่ ให้ความรู้เกีย่ วกับการคัดแยกขยะ ในครัวเรอื น เพ่อื ให้คนในชมุ ชนเหน็ ความสา� คัญ น�าไปสกู่ ารวางแผนจัดการขยะ ตอ่ มาเทศบาลตา� บลเวยี งพรา้ วสนบั สนนุ บอ่ ซเี มนตใ์ ห้ครวั เรอื นละ ๒ บอ่ เพ่อื ทา� ป๋ ยุ หมกั จากเศษอาหารเหลอื ในครวั เรอื น สว่ นขยะทขี่ ายไดใ้ ห้นา� มาขายในวนั รบั เบยี้ ผสู้ งู อายุ โดยเกบ็ เงนิ ทไี่ ดจ้ ากการขายขยะไวจ้ ัดสวัสดิการส�าหรบั สมาชิกทีเ่ จ็บป่ วย หรือสงเคราะห์ผูเ้ สยี ชวี ติ เม่ือบา้ นขามสมุ่ เริม่ มีความเขม้ แข็ง จึงขยายองคค์ วามรู้กระบวนการบริหารจัดการขยะ แบบมีสว่ นร่วมสชู่ มุ ชนอ่ืน โดยเป็นแหลง่ ศึกษาดงู านให้กลุม่ หรือองคก์ รตา่ งๆ ทสี่ นใจ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) นายนิราช มณโี ยชน์ อดีตผูใ้ หญบ่ า้ นขามสุม่ ผจู้ ุดประกายแนวคดิ การคดั แยกขยะ และเพิม่ มลู คา่ ขยะภายในชมุ ชน ๒) นายจรัล เวชกจิ ประธานกลมุ่ คดั แยกขยะ ผดู้ �าเนนิ งานการ คัดแยกขยะภายในชุมชน ๓) คณะกรรมการกลุ่มคัดแยกขยะ บริหารจัดการกลุ่ม ๔) สมาชิก สภาเทศบาลต�าบลเวยี งพร้าว มสี ว่ นร่วมในการสง่ เสริม สนับสนุน และประชาสมั พันธก์ ารจัดการ ขยะ ๕) กลมุ่ ผสู้ งู อายุ น�าขยะรีไซเคิลจากครัวเรอื นมารวมกันในวนั จ่ายเบีย้ ผสู้ ูงอายุ และคัดแยก เพ่อื ขายสรา้ งรายได้ ๖) ประชาชนบา้ นขามสมุ่ ทคี่ ดั แยกขยะในครวั เรอื น และ ๗) กองทนุ สงิ่ แวดลอ้ ม สนับสนนุ งบประมาณ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ประชาชนในชมุ ชนมคี วามรแู้ ละทกั ษะ สามารถคดั แยกขยะ และจดั การขยะแตล่ ะประเภท ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ช่วยลดปรมิ าณขยะในครวั เรือน จากครัวเรือนสู่กลุ่มคัดแยกขยะในชุมชน ที่ตระหนักและให้ความร่วมมือในการแกไ้ ข ปั ญหาขยะ โดยน�ามาคัดแยกและขาย เงินที่ได้น�ามาจัดสวัสดิการ ปั จจุบันมีเงินสะสมประมาณ ๑๕,๐๐๐ บาท และไดร้ บั การยอมรบั วา่ เป็นชุมชนตน้ แบบจัดการตนเอง สามารถถ่ายทอดความรู้ และทกั ษะการคัดแยกขยะสูช่ มุ ชนอ่นื ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั เทศบาลตา� บลเวยี งพรา้ ว ทอ้ งที่ ตลอดจนแกนนา� ภาคประชาชน เกดิ ความตระหนกั เหน็ ปั ญหาร่วมกัน น�าไปสกู่ ารหาแนวทางจัดการ และด�าเนินการภายในชุมชน โดยเนน้ ท�างานอยา่ ง บูรณาการ ๑๖๐ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี เครื่องกรองนา้ํ ด่มื ชมุ ชน พ้ืนท่ี: เทศบาลตําบลเวียงพร้าว อําเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: สิบเอกจีรเวศน หล้าปาวงค ตําแหนง: นักวิเคราะหนโยบายและแผนปฏิบัติการ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี ในพ้นื ทีเ่ ทศบาลตา� บลเวียงพร้าว มีครวั เรือนทีก่ ักเก็บนาฝนไวใ้ ช้ ร้อยละ ๖.๓๖ ครวั เรือน ทีใ่ ช้นา จากแหลง่ นาธรรมชาติ ร้อยละ ๑.๙๘ ครวั เรือนทใี่ ช้นาประปา ร้อยละ ๘๗.๖๓ ครวั เรอื น ทใี่ ช้นา กรอง รอ้ ยละ ๖๑.๓๔ ครวั เรอื นทมี่ นี า สะอาดบรโิ ภค รอ้ ยละ ๙๔.๙๑ และมชี มุ ชนทกี่ า� หนด กฎกตกิ าจดั การนา ภายในชมุ ชน ร้อยละ ๘๓.๓๘ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เดิมประชาชนส่วนใหญใ่ นเขตเทศบาลต�าบลเวียงพร้าวด่ืมนาจากบ่อนาต้ืน นาฝน แต่ ช่วงหลังแหลง่ นาธรรมชาติเรมิ่ ไมส่ ะอาดเหมือนกอ่ น ประชาชนตอ้ งซ้ือนาด่ืมไวบ้ ริโภคแทน ทาง เทศบาลต�าบลเวียงพร้าวเห็นเป็นความสิน้ เปลืองโดยใช่เหตุ และอยากช่วยลดภาระคา่ ใช้จ่ายใน ครัวเรือน จึงจัดส่งพนักงานเขา้ รับการอบรมการจัดท�าเคร่ืองกรองนาด่ืมของมหาวิทยาลัยแมโ่ จ้ แล้วกลับมาออกแบบเคร่ืองกรองนาด่ืมชุมชน ปรับขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งานของพ้ืนที่ จากนนั้ น�าไปติดตงั้ ยังพ้ืนทีต่ า่ งๆ ๕๔ จุด ครอบคลมุ ทงั้ ๑๐ หมูบ่ า้ น และปั จจุบันติดตงั้ เพิม่ อกี ๑๘ จดุ โดยเทศบาลมีขอ้ ตกลงร่วมกับชาวบา้ น วา่ ดว้ ยการใช้งาน และการดแู ลรกั ษา ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ลดคา่ ใช้จ่ายจากการซ้อื นาไวบ้ รโิ ภคในครัวเรอื น ๑๖๑ปบผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ |

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน เทศบาลต�าบลเวียงพร้าวเห็นปั ญหาค่าใช้จ่ายในครัวเรือน จึงส่งเจ้าหน้าที่เทศบาล เขา้ รับการอบรมจัดท�าเคร่ืองกรองนาด่ืมชุมชนของมหาวิทยาลัยแมโ่ จ้ แลว้ ออกแบบเคร่ืองกรอง นา ด่มื โดยปรบั ขนาดให้เลก็ ลงเพ่อื ความเหมาะสมแกก่ ารใช้งาน ทงั้ ยงั ใช้วสั ดทุ หี่ าไดใ้ นชมุ ชน เพ่อื ลดตน้ ทุน เม่อื น�าไปตดิ ตงั้ ตามทีต่ า่ งๆ ๕๔ จดุ ครอบคลุมทงั้ ๑๐ หมบู่ า้ นแลว้ ทางเทศบาลขอให้ ชุมชนส่งตัวแทนเข้าอบรมการใช้ และการบ�ารุงรักษา รวมทั้งก�าหนดข้อตกลงร่วมกันระหว่าง เทศบาลกบั ประชาชน ในยามทเี่ คร่ืองกรองนาชา� รดุ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) คณะผบู้ ริหารเทศบาลตา� บลเวียงพร้าว ๒) นายนิคม มหายศ แกนน�าในการบ�ารงุ รกั ษาเคร่อื งกรองนา ด่มื ชมุ ชน ๓) นายธนบรรณ สุภานชุ าต ปราชญช์ าวบา้ น ผูป้ ระดษิ ฐเ์ คร่ืองกรองนาด่มื ชมุ ชน ๔) ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ี่ ๑ เชยี งใหม่ ตรวจคณุ ภาพนา ทผี่ า่ นเคร่อื งกรองนา ด่มื ชมุ ชน ๕)กา� นนั ผใู้ หญบ่ า้ นเป็นแกนนา� ในการดแู ลรกั ษาและผลกั ดนั โครงการเครอ่ื งกรองนา ดม่ื ชมุ ชน ๖) ประชาชนในเขตเทศบาลตา� บลเวียงพร้าว เป็นผูด้ ูแลรกั ษาเคร่อื งกรองนาด่มื ชุมชน ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เคร่อื งกรองนา ด่มื ชมุ ชนสามารถลดคา่ ใช้จา่ ยของประชาชนในเขตเทศบาลตา� บลเวยี งพรา้ ว ๒,๕๕๔ คน จากทีต่ อ้ งซ้ือนา ด่ืมไวบ้ รโิ ภค ๓ ลิตรตอ่ คนตอ่ วนั คา่ ใช้จ่ายเดอื นละ ๙๐ บาทตอ่ คน รวมคา่ ใช้จ่ายทตี่ อ้ งซ้ือนาด่มื ไวบ้ รโิ ภคตอ่ เดอื นเป็นเงิน ๒๒๙,๘๖๐ บาท ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั คณะผู้บริหารตระหนักถึงปั ญหา จึงจัดท�าโครงการเคร่ืองกรองนาด่ืมชุมชน เพ่ือให้ ประชาชนในพ้ืนทีม่ นี าด่ืมสะอาดไวบ้ รโิ ภคในครัวเรอื น ลดรายจ่ายของครัวเรือน ๑๖๒ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี การจดั การขยะ ในเขตเทศบาลตําบลปาก่อดํา พื้นที่: เทศบาลตําบลปากอดํา อําเภอแมลาว จังหวัดเชียงราย วิทยากร: นายสุริยา ธรรมขันทา ตําแหนง: ผู้ชวยนักวิชาการสงเสริมสุขภาพ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี เทศบาลต�าบลป่ ากอ่ ด�ามีปริมาณขยะทีเ่ ก็บขนได้ประมาณ ๓.๕ ตันต่อวัน เม่ือเทียบกับ จ�านวนประชากร เฉลยี่ แลว้ ๑ คน สร้างขยะ ๑ กิโลกรมั ตอ่ วนั ทางเทศบาลมีรถเกบ็ ขนขยะ ๒ คัน พร้อมพนักงานขับรถ ๒ คน และพนักงานจ้างเหมาบริการเก็บขยะประจ�ารถอีก ๔ คน ท�างาน ทกุ วนั จนั ทรถ์ งึ วนั ศกุ ร์ โดยเกบ็ ขนขยะไปทง้ิ ยงั บอ่ ขยะของเทศบาล (พ้นื ทสี่ าธารณประโยชนส์ า� หรบั ทิง้ ขยะ) ขนาดพ้ืนที่ ๔๒ ไร่ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง แม้ว่าทุกวันนี้บ่อขยะยังสามารถรองรับขยะที่เก็บขนในแต่ละวันได้ แต่จ�าเป็นต้อง เตรยี มการรบั มอื อยา่ งยงั่ ยนื ทางเทศบาลตา� บลป่ ากอ่ ดา� จงึ สนบั สนนุ ให้จดั การขยะตงั้ แตค่ รวั เรอื น ต้นทางทั้ง ๗ ชุมชน เพ่ือคัดแยกขยะรีไซเคิลออกจากขยะทั่วไป แล้วจ�าหน่ายสร้างรายได้ให้ ครัวเรือน นอกจากนีย้ ังจัดตัง้ กลุม่ จัดการขยะอินทรียด์ ว้ ยการเลีย้ งไสเ้ ดือนดิน ท�าบอ่ ป๋ ุย และตัง้ จดุ รวบรวมขยะอันตรายประจ�าหมบู่ า้ น ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ วางแนวทางทยี่ งั่ ยนื ดว้ ยการลดปรมิ าณขยะในพ้นื ทชี่ มุ ชน โดยไมส่ ง่ ผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม และผลกั ดนั ให้ชุมชนหันมาใช้ประโยชนจ์ ากขยะ และเรยี นร้วู ธิ ีกา� จัดขยะดว้ ยตัวเอง ๑๖๓ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ |

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน เทศบาลต�าบลป่ ากอ่ ด�าจัดอบรมประชาชน ๗ ชุมชน โดยมีวิทยากรจาก มทร.ล้านนา เชียงราย มาให้ความรู้ จากนัน้ จึงเชญิ ชวนให้ครวั เรือนคดั แยกขยะรีไซเคลิ ขยะอนิ ทรยี ์ ขยะทัว่ ไป และขยะอนั ตราย โดยขยะรไี ซเคลิ นา� ไปขาย ขยะอนิ ทรยี ไ์ วท้ า� ป๋ ยุ หรอื เลยี้ งไสเ้ ดอื น สว่ นขยะทวั่ ไป และขยะอนั ตราย ทางเทศบาลรับไปก�าจัด กลุ่มแมบ่ า้ นแต่ละชุมชนเป็นแกนน�าจัดเก็บเศษอาหารในงานบุญต่างๆ ลงถัง ให้ทาง เทศบาลน�าไปท�าป๋ ยุ นาหมักไวแ้ จกจ่ายแกป่ ระชาชน นอกจากนยี้ ังเกิดกลุ่มจิตอาสาทีเ่ ขม้ แข็งใน หมูท่ ี่ ๙ จา� นวน ๑๐๕ ครัวเรือน รวมตัวกันคัดแยกขยะแลว้ นา� ไปจ�าหนา่ ย เกิดรายไดก้ ลบั คนื สู่ ชุมชน ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เทศบาลตา� บลป่ ากอ่ ด�า และประชาชนจาก ๗ ชมุ ชนในพ้นื ที่ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ประชาชนนา� ความรแู้ ละวธิ กี ารไปปรบั ใช้ไดจ้ รงิ ทงั้ ในครวั เรอื นและชมุ ชนของตนเอง มกี าร จดั การขยะทงั้ ๔ ประเภทอยา่ งถูกตอ้ ง ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ทุกภาคสว่ นตระหนักถงึ ปั ญหา และร่วมกันจดั การขยะตงั้ แตต่ น้ ทาง ๑๖๔ | ปบ ผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ที่ ศูนยข์ ้อมลู การใช้ประโยชน์ท่ดี นิ และทรัพยากรตําบลท่าผาปมุ พื้นที่: องคการบริหารสวนตําบลทาผาปุม อําเภอแมลาน้อย จังหวัด แมฮองสอน วิทยากร: นายอํานาจ สวางพร้อม ตําแหนง: รองปลัดองคการบริหารสวนตําบลทาผาปุม เบอรโทรศัพท: ๐๘๔-๓๗๘-๘๕๘๔ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี จากขอ้ มลู TCNAP คนทา่ ผาป้ มุ ทา� งานในพ้นื ทตี่ า� บล ๑,๕๖๑ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๕๕.๙๗ ของประชากรทงั้ หมดในต�าบล โดยทา� นาเป็นอาชพี หลัก ๘๔๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๐.๓๘ ทา� ไร่ ๔๑๗ คน คดิ เป็นร้อยละ ๒๐.๕๓ วา่ งงาน ๓๘๙ คน คดิ เป็นร้อยละ ๑๒.๒๔ ภาวะความเสี่ยงในการท�างานอันดับแรก คือการใช้สารเคมีในการเกษตรและไมป่ ้ องกัน ตนเองอยา่ งเหมาะสม จา� นวน ๗๙๓ คน คดิ เป็นร้อยละ ๗๕.๘๑ แลว้ ยังมปี ั ญหาหนีส้ นิ มากถึง ๕๕๖ ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๖๓.๙๘ ส่วนปั ญหาสิ่งแวดล้อมในพ้ืนที่ อันดับ ๑ ได้แก่ ปั ญหาขยะ ๒๓๙ ครัวเรือน คิดเป็น ร้อยละ ๖๔.๗๗ ถัดมาคือปั ญหาการใช้สารเคมี ๑๐๗ ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๒๙ ขณะที่ การส�ารวจการจัดการสิ่งแวดล้อมในครัวเรือนพบว่า ท�าแนวกันไฟ ๔๓๗ ครัวเรือน คิดเป็น ร้อยละ ๗๓.๓๒ และปลูกป่ า จ�านวน ๒๙๐ ครัวเรือน คดิ เป็นร้อยละ ๔๘.๖๖ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ช่วงปี ๒๕๔๙-๒๕๕๐ เครือขา่ ยคณะท�างานเสรมิ สร้างความเขม้ แข็งองคก์ รชมุ ชนจังหวัด แมฮ่ ่องสอน (คสข.มส.) ร่วมกับ ๓ ชุมชนบนพ้ืนที่ราบในต�าบลทา่ ผาป้ ุม ได้แก่ บา้ นทา่ ผาป้ ุม หมูท่ ี่ ๔ บา้ นแมเ่ ตยี๋ หมูท่ ี่ ๕ และบา้ นใหมพ่ ฒั นา หมูท่ ี่ ๘ จัดระบบการใช้ประโยชนท์ ดี่ ิน พ้ืนที่ สาธารณะ และวางระบบการพฒั นาของชมุ ชนเพ่อื รบั รองสทิ ธิชมุ ชน มกี ารส�ารวจรังวัด ใช้แผนที่ ท�ามือ ๑:๔,๐๐๐ เป็นเคร่ืองมือ และไดข้ ยายโครงการสูอ่ ีก ๕ หมบู่ า้ นบนพ้นื ทีส่ งู ตอ่ มาปี ๒๕๕๓ แกนน�าชมุ ชน คสข.มส. และสภาองคก์ รชุมชนต�าบลทา่ ผาป้ ุม ไดผ้ ลักดนั เร่อื งการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรรมชาตโิ ดยชมุ ชน ผา่ นกระบวนการขอ้ บญั ญตั ติ า� บล “ผงั ชมุ ชน” ต�าบลทา่ ผาป้ ุม โดยสถาบันพัฒนานักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน น�าโดยอาจารยว์ สันต์ พานิช และผูบ้ ริหารองคก์ ารบริหารส่วนต�าบลทา่ ผาป้ ุม ยกร่างขอ้ บัญญัติในปี ๒๕๕๔ ผา่ นการอนุมัติ จากสภาและประกาศใช้ในวันที่ ๒๗ กนั ยายน ๒๕๕๕ ๑๖๕ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ |

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) ส�ารวจขอ้ มูลทดี่ นิ ท�ากิน ทอี่ ยูอ่ าศัย ป่ าไม้ แหลง่ นา สงิ่ กอ่ สร้างตา่ งๆ ทมี่ ผี ูค้ รอบครอง (บคุ คล หนว่ ยงานรัฐ) ใช้ประโยชน์ เพ่อื จ�าแนกขอ้ มูลทดี่ ินรายแปลง ๒) จัดท�าร่างข้อบัญญัติการคุ้มครอง ดูแล และบ�ารุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ขององค์การบริหารส่วนต�าบลท่าผาป้ ุม ให้เป็นที่ยอมรับ และบังคับใช้กฎหมาย อยา่ งจรงิ จงั ๓) ส่งเสริมความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ท�ากินแกป่ ระชาชน เพ่ือ น�าไปสกู่ ระบวนการจดั ท�าโฉนดชมุ ชนในระยะตอ่ ไป ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ขนั้ ตอนที่ ๑ ส�ารวจตน้ ทนุ ของแตล่ ะชุมชน สร้างพลัง สร้างแกนนา� เช่น ผนู้ า� ชุมชน สภา องคก์ รชมุ ชน คณะกรรมการหมบู่ า้ น องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ เพ่อื ดา� เนนิ การประชมุ ประชาคม ทัง้ ๘ หมูบ่ า้ น ให้ชาวบา้ นมีสว่ นร่วมในการเสนอประเด็นปั ญหา คดิ วเิ คราะห์ ล�าดบั ความสา� คญั ขัน้ ตอนที่ ๒ จัดตัง้ คณะกรรมการขับเคล่ือนขอ้ บัญญัติฯ โดยมาจากตัวแทนชุมชน สภา องค์กรชุมชน ผูใ้ หญบ่ ้าน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต�าบล เจ้าหนา้ ที่สาธารณสุข และมี คณะกรรมการร่วม คอื ทีมกฎหมายจากคณะนติ ิศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ เครอื ขา่ ยอนรุ ักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแมฮ่ ่องสอน และองค์กรพัฒนาเอกชน เพ่ือยกร่าง ขอ้ บัญญัติฯ และท�าหน้าที่สร้างความรู้ ความเขา้ ใจ ขยายแนวคิด องค์ความรู้ต่างๆ สู่ชุมชน สร้างกระบวนการการมสี ว่ นร่วมให้กับชมุ ชน ขัน้ ตอนที่ ๓ ส�ารวจพ้ืนทีต่ ่างๆ โดยใช้แผนทีภ่ าพถ่ายทางอากาศ ร่วมกับแผนทีเ่ ดินดิน หรือแผนที่ท�ามือ ที่ชุมชนร่วมกันท�าไว้ เพ่ือเป็นหลักฐานขอบเขตที่ดิน แยกประเภทที่อยูอ่ าศัย ทีท่ �ากนิ ไร่หมุนเวียน ป่ าอนรุ ักษ์ ป่ าชมุ ชน ป่ าใช้สอย ขัน้ ตอนที่ ๔ ระดมความคดิ และวางกฎระเบยี บร่วมกนั ระดับตา� บล คณะกรรมการยกร่าง ขอ้ บัญญัตจิ ัดเวทีระดมความคดิ หรอื ทบทวน เรียบเรียงขอ้ มลู กนั อีกครงั้ โดยน�ากฎ กติกาชมุ ชน และแผนที่ท�ามือ มาร่วมกันวิเคราะห์ แล้วเรียบเรียงใหม่ เพ่ือให้เป็นกฎ กติการะดับต�าบล ให้ชาวบา้ นร่วมกนั ตรวจสอบขอ้ มูล ทบทวนอีกครงั้ ขัน้ ตอนที่ ๕ ประชาคมหมบู่ า้ น รายงานความคบื หนา้ การด�าเนินการทงั้ ๔ ขัน้ ตอน แลว้ ท�าการประชุมวางแผนในขั้นตอนต่อไป พร้อมกับจัดท�าเอกสารข้อมูลต่างๆ เพ่ือน�าเสนอต่อ เครอื ขา่ ยฯ รบั ฟั งขอ้ เสนอแนะ และปรบั ให้เหมาะกับพ้นื ที่ ขัน้ ตอนที่ ๖ จัดท�าร่างขอ้ บัญญตั ิตา� บลฯ โดยองคก์ ารบริหารสว่ นต�าบลทา่ ผาป้ มุ ร่วมกับ สภาองคก์ รชุมชนต�าบลทา่ ผาป้ ุม จัดเวทีประชุมสัมมนา จัดท�าร่างขอ้ บัญญัติต�าบลฯ ให้แกนน�า จากส่วนต่างๆ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทัง้ นี้ผูน้ �าหมูบ่ ้านแต่ละหมูบ่ ้านต้องน�าขอ้ มูลจากการ ประชาพิจารณใ์ นระดับหมูบ่ า้ นทัง้ ๘ หมูบ่ ้าน มาประกอบการจัดท�าร่างขอ้ บัญญัติฯ และเชิญ ภาครี ่วมตา่ งๆ มาช่วยกนั พิจารณาร่างขอ้ บญั ญตั ิตา� บลฯ ๑๖๖ | ปบผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ

ขั้นตอนที่ ๗ คณะกรรมการยกร่างข้อบัญญัติฯ ร่วมกับคณะผู้บริหารองค์การบริหาร สว่ นต�าบลทา่ ผาป้ ุม น�าขอ้ บัญญัติต�าบลฯ เสนอตอ่ สภาองคก์ ารบริหารสว่ นต�าบลทา่ ผาป้ มุ เม่ือ เหน็ ชอบ จงึ เสนอตอ่ นายอา� เภอแมล่ านอ้ ย ซ่งึ พจิ ารณาและลงช่อื อนมุ ตั ขิ อ้ บญั ญตั อิ งคก์ ารบรหิ าร ส่วนต�าบลท่าผาป้ ุมว่าด้วยผังชุมชน ในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศใช้ในวนั ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๕ ขนั้ ตอนที่ ๘ การประกาศใช้ขอ้ บญั ญตั อิ งคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลทา่ ผาป้ มุ นี้ ยงั ไมส่ ามารถ ดา� เนินการไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ เน่อื งจากขอ้ มลู ประกอบขอ้ บัญญตั ติ า� บลฯ ยงั ไมค่ รบถ้วน ขาดแผนที่ ชุมชนทีส่ มบูรณ์ คณะกรรมการยกร่างขอ้ บัญญัติร่วมกับองคก์ ารบริหารส่วนต�าบลทา่ ผาป้ ุม จึง ด�าเนนิ การจดั เก็บขอ้ มลู ตอ่ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง สภาองค์กรชุมชน อ�าเภอแมล่ าน้อย ที่สนับสนุนจัดตัง้ องค์กรชุมชนระดับหมูบ่ ้าน และ ระดบั ตา� บลทา่ ผาป้ มุ พร้อมกบั นา� องคค์ วามรู้ดา้ นตา่ งๆ มาสชู่ มุ ชน กระตนุ้ ให้ชุมชนมบี ทบาท มี สว่ นรว่ มทงั้ ภาคการเมอื ง ภาคการพฒั นา ชมุ ชนมคี วามเขม้ แขง็ ในการรวมตวั กนั ทา� งาน นอกจากนี้ ยงั สนับสนนุ งบประมาณการจดั ประชุมประชาคม และเวทเี รียนร้ตู า่ งๆ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) เกดิ ขอ้ บญั ญตั ติ า� บลทา่ ผาป้มุ วา่ ดว้ ยผงั ชมุ ชน ๒) เกดิ ระบบขอ้ มลู การใช้ประโยชนท์ ดี่ นิ ดว้ ยภูมิศาสตร์สารสนเทศ GIS และ ๓) เกิดการตอ่ ยอดพัฒนาพ้นื ทีร่ ายแปลงจากขอ้ มูลการใช้ ประโยชนท์ ดี่ นิ GIS สูก่ ารนอ้ มน�าศาสตร์พระราชา โคก หนอง นา โมเดล เพ่อื พัฒนาพ้ืนทีใ่ ห้เกิด ประโยชนส์ ูงสดุ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั ๑) ผนู้ า� ชุมชนกลา้ เปลีย่ นแปลง อดทน เสียสละ ทัง้ เวลา งบประมาณสว่ นตวั เพ่อื ร่วมเวที การแกป้ ั ญหาทีด่ นิ ตา่ งๆ ในระดับชุมชน ต�าบล จังหวัด ระดบั ภาค ๒) สภาองคก์ รชมุ ชน อา� เภอแมล่ านอ้ ย สนบั สนนุ การจดั ตงั้ องคก์ รชมุ ชนระดบั หมบู่ า้ นและ ระดับตา� บลทา่ ผาป้ มุ พร้อมนา� องคค์ วามรู้ดา้ นตา่ งๆ และงบประมาณมาสชู่ มุ ชน กระตนุ้ ให้ชุมชน มีบทบาท มสี ว่ นร่วมทัง้ ภาคการเมอื ง ภาคการพฒั นา ๓) สว่ นร่วมของประชาชน ตงั้ แตร่ ่วมกนั คดิ วเิ คราะห์ปั ญหา ร่วมตัดสนิ ใจ ร่วมปฏบิ ัตกิ าร ๔) วัฒนธรรมและความเช่อื ดว้ ยชาวปกาเกอะญอมีวิถีชีวติ ทพี่ ่ึงพาธรรมชาติ มคี วามเช่ือ ทสี่ ืบทอดกนั มาตงั้ แตบ่ รรพบรุ ุษวา่ ธรรมชาตมิ ผี ปี กปั กรักษา ซ่ึงเอ้อื ตอ่ การทา� งานอนุรักษ์ ๕) กฎหมาย ๕ ฉบบั คือกฎหมายป่ าไม้ กฎหมายป่ าสงวน กฎหมายป่ าอนรุ กั ษ์ กฎหมาย อุทยาน และกฎหมายอนุรักษพ์ ันธุส์ ัตว์ป่ า ซ่ึงเกิดข้ึนหลังจากชาวบา้ นถือครองท�ากิน กลายเป็น ปั ญหาวา่ ผทู้ มี่ าอยูก่ อ่ นละเมิดกฎหมายซ่งึ ออกมาหลงั จากนนั้ ๑๖๗ปบผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ กลุ่มการจัดการขยะบนพ้ืนที่สูง พ้ืนที่: องคการบริหารสวนตําบลทาผาปุม อําเภอแมลาน้อย จังหวัด แมฮองสอน วิทยากร: นายประสาท วันทนะ ตําแหนง: ผู้อํานวยการโรงเรียนบ้านห้วยผึ้ง เบอรโทรศัพท: ๐๘๘-๒๕๐-๘๐๘๕ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี โรงเรียนบา้ นห้วยผ้ึง หมทู่ ี่ ๒ ตัง้ อยูบ่ นพ้นื ทีด่ อย ชาวบา้ นตอ้ งบรหิ ารจดั การขยะกนั เอง จากขอ้ มูลการส�ารวจระบบฐานขอ้ มูลระดับครอบครัว (TCNAP) พบว่า บา้ นห้วยผ้ึง มี ๑๒๗ ครัวเรือน ประชากรทงั้ หมด ๔๗๘ คน แบง่ เป็นชาย ๒๔๓ คน หญงิ ๒๓๕ คน ในจา� นวนนีป้ ระสบ ปั ญหาสภาพแวดลอ้ มในครัวเรือน ร้อยละ ๒๘.๓๕ หรือ ๓๖ ครวั เรือน ปั ญหาสภาพแวดลอ้ มทมี่ าจากขยะ มากถงึ รอ้ ยละ ๘๓.๓๓ ขณะทชี่ าวบา้ นกพ็ ยายามจดั การ ขยะดว้ ยตนเอง โดยมี ๖๔ ครวั เรอื น หรอื คดิ เป็นรอ้ ยละ ๕๑.๒๐ ของครวั เรอื นทงั้ หมด ในจา� นวนนี้ ๕๐ ครัวเรือน เลือกวิธีฝั ง ๒๓ ครวั เรอื น เลอื กวิธเี ผา และมเี พียง ๕ ครวั เรือน ทใี่ ช้วธิ คี ดั แยกขยะ ดว้ ย (บางครัวเรอื นเลือกวิธีการจัดการขยะมากกวา่ หน่งึ วธิ )ี ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ตงั้ แตป่ ี ๒๕๕๘ โรงเรยี นบา้ นห้วยผ้งึ เกดิ แนวคดิ จดั การขยะแบบครบวงจรภายในโรงเรยี น ตงั้ แตต่ น้ ทางถงึ ปลายทาง โดยให้นกั เรยี นเป็นกลไกหลกั ในการขบั เคล่อื น และนา� ความรูน้ กี้ ลบั ไป ใช้ในครวั เรือน ปลกุ กระตุน้ การต่นื ร้ขู องบา้ น และชมุ ชนตอ่ ไป ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือสร้างจิตส�านึกให้นักเรียน ต่อยอดไปยังผูป้ กครอง และคนในชุมชน ให้ตระหนักถึง ปั ญหาขยะ และมคี วามร้เู กีย่ วกบั การจัดการขยะทคี่ รบวงจร ตงั้ แตต่ น้ ทางถึงปลายทาง ๑๖๘ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน โรงเรียนบ้านห้วยผ้ึงจัดจุดคัดแยกขยะ โดยมีถังขยะ ๓ ประเภท ได้แก่ ขยะทั่วไป ขยะรไี ซเคิล และขยะอนิ ทรีย์ ทัง้ ยังจัดตงั้ ธนาคารขยะโดยให้นักเรียนเป็นผูด้ �าเนนิ การรบั ซ้ือ นอกจากนี้ยังมีฟาร์มเพาะเลี้ยงไส้เดือนดิน เพ่ือก�าจัดเศษอาหาร และมูลของไส้เดือน สามารถตอ่ ยอดเป็นป๋ ุยหมัก ใช้บ�ารุงแปลงผักปลอดสารพิษ สร้างอาหารกลับสโู่ รงครัว เม่ือด�าเนินการภายในโรงเรียนแล้ว จึงเริ่มรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนหันมา คัดแยกขยะ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) โรงเรียนบา้ นห้วยผ้ึง ๒) ทมี สงิ่ แวดลอ้ ม อบต.ทา่ ผาป้ มุ ๓) ผนู้ า� ในชุมชน ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) ประชาชนตระหนักร้แู ละเรมิ่ บริหารจัดการขยะจากตน้ ทางถงึ ปลายทาง ๒) เกดิ ธนาคารขยะทบี่ รหิ ารโดยนกั เรยี น สามารถพฒั นาแนวคดิ พฒั นาศกั ยภาพนกั เรยี น ๓) นักเรียนลดการใช้ทรพั ยากร น�าขยะกลบั มาใช้ใหม่ โดยสร้างเป็นเคร่อื งใช้ เช่น โตะ๊ เกา้ อี้ ๔) สามารถสร้างวงจรอาหาร โดยเพาะเลีย้ งไสเ้ ดือนดิน เพ่ือจัดการขยะอินทรีย์ แลว้ ใช้ ประโยชนจ์ ากมูลไสเ้ ดอื น บา� รุงแปลงผกั ปลอดสารพษิ ในโรงเรยี น เพ่อื เป็นอาหารกลางวัน ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั ๑) ความร่วมมอื จากหนว่ ยงานทเี่ กีย่ วขอ้ งและคนในชมุ ชน ๒) การปลกู ฝั งแนวคิดทีย่ ัง่ ยนื ให้นักเรยี น เพ่อื เป็นรากฐานการพัฒนาตนเองตอ่ ไป ๓) ส่ือและเทคโนโลยีสมยั ใหมท่ ชี่ ่วยให้เขา้ ถงึ ขอ้ มูลมากข้ึน ๑๖๙ปบผะหญา ลา นนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี กลุ่มอนุรักษ์ปาชุมชนบ้านสันมะเค็ด พนื้ ท:ี่ องคก ารบรหิ ารสว นตาํ บลปา สกั อาํ เภอเชยี งแสน จงั หวดั เชยี งราย วิทยากร: นายขวัญชัย โกเสนตอ ตําแหนง: เลขานุการนายกองคการบริหารสวนตําบลปาสัก เบอรโทรศัพท: ๐๘๑-๔๗๓-๖๗๘๐ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี เดิมชาวบ้านในพ้ืนที่อพยพมาจากจังหวัดล�าพูนและเชียงใหม่ ส่วนใหญป่ ระกอบอาชีพ พอ่ คา้ วัวตา่ ง น�าสินคา้ ข้ึนไปขายยังหัวเมืองสิบสองปั นนา กอ่ นมาปั กหลักอยบู่ ริเวณบา้ นป่ าแดด เม่อื ปี ๒๓๔๔ กระทัง่ ในปี ๒๔๗๐ กระทรวงมหาดไทยประกาศตงั้ ตา� บลช่อื ตา� บลป่ าสกั เน่อื งจาก มตี น้ สกั ข้นึ อยูห่ นาแนน่ พอปี ๒๕๒๒ ไดเ้ ปลยี่ นช่ือต�าบลเป็นตา� บลปางหมอปวง กอ่ นทีป่ ีถัดมา จะเปลยี่ นกลบั เป็นตา� บลป่ าสักและใช้มาถงึ ปั จจุบนั ส�าหรับรูปแบบการปกครอง เดิมเป็นสภาต�าบล ก่อนยกฐานะข้ึนเป็นองค์การบริหาร สว่ นต�าบล เม่อื วันที่ ๒๙ มนี าคม ๒๕๓๙ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เม่ือปี ๒๕๓๓ เกิดเหตุนายทุนต่างถิ่นเข้ามากว้านซ้ือที่ดินและบุกรุกป่ าไม้ ชาวบ้าน สนั มะเคด็ จงึ รวมตวั กนั เพ่อื หาหนทางอนรุ กั ษป์ ่ า โดยเรมิ่ สา� รวจพ้ืนที่ กา� หนดแนวเขต และร้ือถอน หลกั โฉนดทนี่ ายทนุ ปั กไว้ พรอ้ มตงั้ กฎกตกิ าไวใ้ ช้ภายในหมบู่ า้ น จากนนั้ นา� กฎระเบยี บนไี้ ปย่นื ตอ่ อ�าเภอเชียงแสน ให้ช่วยท�าหนังสือขอความร่วมมือไปยังหมูบ่ า้ นใกล้เคียงว่า หากใครตัดไมไ้ ผ่ ต้องถูกปรับต้นละ ๕๐๐ บาท และถ้าเป็นไม้ใหญ่ปรับต้นละ ๑,๐๐๐-๒,๐๐๐ บาท ส�าหรับ ความผิดครงั้ แรกใช้การตักเตือนกอ่ น หากยังท�าผดิ ซาจงึ ดา� เนินการตามกติกา หลังด�าเนนิ กิจกรรมไปได้ ๓ ปี ป่ าเริม่ ฟ้ืนตัวกลับมา จนกลายเป็นป่ าชุมชนทีอ่ ุดมสมบูรณ์ มคี วามหลากหลายทางชีวภาพสงู และเป็นแหลง่ อาหารของชุมชน ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ สร้างแนวคิดการฟ้ืนฟูทรัพยากรป่ าไม้ และสร้างจิตสา� นึกในการอนรุ ักษป์ ่ าไมแ้ ละปลกู ป่ า ทดแทน ๑๗๐ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) นายบุญเรียน โนพะเสา้ เหน็ ปั ญหาการบุกรุกป่ า จงึ ชักชวนชาวบา้ นมาร่วมหารอื และ ตงั้ กลมุ่ อนุรกั ษป์ ่ าชุมชน ๒) กลุ่มตัง้ กฎระเบียบต่างๆ ข้ึนมา เพ่ือเป็นแนวปฏิบัติของคนในพ้ืนที่ เช่น การสร้าง ฝายนา ลน้ ฝายแมว้ ตลอดจนกจิ กรรมสาธารณประโยชน์ อยา่ งกจิ กรรมบวชป่ าและสบื ชะตาแมน่ า การเลีย้ งผฝี าย จนเกิดเป็นแหลง่ ตน้ นา ทอี่ ุดมสมบรู ณ์ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) องคก์ ารบริหารสว่ นตา� บลป่ าสกั ๒) วดั ๓) โรงเรียน ๔) โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพต�าบล ๕) ผนู้ า� ทอ้ งที่ ๖) กลุม่ คนอนรุ กั ษป์ ่ าชุมชนบา้ นสันมะเค็ด ๗) เด็ก เยาวชน และประชาชนในต�าบลป่ าสกั ๘) กรมทรพั ยากรนา กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม ๙) กรมป่ าไม้ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) เกิดกฎระเบียบและกตกิ าการอนุรักษป์ ่ าชุมชน ๒) ปั ญหาการบุกรกุ ป่ าชุมชนลดลง ๓) เกดิ จิตส�านกึ ในการอนรุ กั ษป์ ่ าตน้ นา ๔) เกิดกิจกรรมร่วมกบั กลุม่ และองคก์ รตา่ งๆ ในการอนุรักษป์ ่ าตน้ นา ๕) ป่ าไมม้ คี วามอุดมสมบูรณ์ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั การสร้างจติ สา� นกึ การอนรุ กั ษป์ ่ าให้เกดิ ข้นึ ในใจของประชาชน เพ่อื กระตนุ้ ให้เกดิ สว่ นรว่ ม และความสามัคคีข้ึนในพ้ืนที่ ซ่ึงจะกลายเป็นปั จจัยส�าคัญท่ีท�าให้งานอนุรักษ์เกิดผลสัมฤทธิ์ มากข้นึ โดยมีกฎระเบียบ กตกิ า เป็นแนวทางทีท่ ุกฝ่ ายยึดถอื ร่วมกัน ๑๗๑ปบผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ กลุ่มผู้ใช้น้ําฝายแก้วลูน/ทุ่งแพะ พนื้ ท:่ี องคก ารบรหิ ารสว นตาํ บลปา สกั อาํ เภอเชยี งแสน จงั หวดั เชยี งราย วิทยากร: นายศภุ สณั ห วิริยะ ตาํ แหนง: นายกองคก ารบรหิ ารสวนตาํ บลปา สกั เบอรโทรศพั ท: ๐๘๕-๐๔๕-๐๐๐๙ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี ชาวบา้ นในพ้นื ทีอ่ พยพมาจากจังหวัดล�าพูนและเชียงใหม่ สว่ นใหญป่ ระกอบอาชีพพอ่ คา้ วัวต่าง น�าสินคา้ ข้ึนไปขายยังหัวเมืองสิบสองปั นนา กอ่ นมาปั กหลักอยูบ่ ริเวณบา้ นป่ าแดดเม่ือปี ๒๓๔๔ กระทัง่ ในปี ๒๔๗๐ กระทรวงมหาดไทยประกาศตัง้ ต�าบลช่ือ ต�าบลป่ าสัก เน่ืองจากมี ตน้ สักข้นึ อยูห่ นาแนน่ พอปี ๒๕๒๒ ไดเ้ ปลยี่ นช่ือเป็นต�าบลปางหมอปวง กอ่ นทีป่ ีถัดมาจะเปลีย่ น กลับเป็นตา� บลป่ าสกั และใช้มาจนถึงปั จจุบัน ส�าหรับรูปแบบการปกครอง เดิมเป็นสภาต�าบล ก่อนยกฐานะข้ึนเป็นองค์การบริหาร สว่ นตา� บล เม่อื วันที่ ๒๙ มนี าคม ๒๕๓๙ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง เน่ืองจากต�าบลป่ าสักไม่มีแหล่งนาต้นทุนในการท�าการเกษตร พอถึงฤดูแล้งจึงมีนา ไมเ่ พยี งพอ สง่ ผลให้เกดิ ความขดั แยง้ ปั ญหาแยง่ ชงิ นา คนในชมุ ชนจงึ ปรกึ ษาหารอื กนั เพ่อื หาทาง แกไ้ ข นา� ไปสกู่ ารสรา้ งกฎกตกิ าในการจดั สรรนา อยา่ งเทา่ เทยี มกนั โดยเปิดโอกาสให้ทกุ ภาคสว่ น ในตา� บลมสี ว่ นร่วมบรหิ ารจดั การ ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ สร้างแนวคิดการบริหารจัดการทรัพยากรนา และหาวิธีลดความขัดแยง้ ระหวา่ งคนต้นนา กลางนา และปลายนา ๑๗๒ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) กลุ่มผูใ้ ช้นาท�าการเกษตรรวมตัวกัน ประชุมและจัดตัง้ คณะกรรมการ สร้างกฎกติกา และระเบยี บขอ้ บงั คบั ๒) ร่วมกับองค์การบริหารส่วนต�าบลป่ าสัก จัดท�าโครงการก่อสร้างฝายและขุดลอก คลองสง่ นา ๓) จัดกิจกรรมอนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาติและเสริมสร้างความสามัคคขี องผูใ้ ช้นา ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) องคก์ ารบริหารสว่ นต�าบลป่ าสัก ๒) วัด ๓) โรงเรยี น ๔) โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพต�าบล ๕) ผนู้ �าทอ้ งที่ ๖) กลมุ่ เกษตรกรผูใ้ ช้นาฝายแกว้ ลูน/ทงุ่ แพะ ๗) เกษตรกรในต�าบล ๘) เด็ก เยาวชน และประชาชนในต�าบลป่ าสัก ๘) กรมทรพั ยากรนา กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) ปั ญหาขาดแคลนนา ลดลง กลมุ่ เกษตรกรมนี าใช้ท�าการเกษตรตลอดทัง้ ปี ๒) เกิดเครือขา่ ยผูใ้ ช้นา และมรี ะบบกระจายนาทดี่ ตี อ่ การท�าการเกษตร ๓) เกดิ ความร่วมมือและความสามคั คใี นหมคู่ ณะ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ๑) ปั ญหาการแยง่ ชงิ นา ลดลง ๒) มีนา ใช้ท�าการเกษตรเพยี งพอตอ่ ความตอ้ งการของกลมุ่ เกษตรกร ๓) กลุม่ ผใู้ ช้นามีจติ ส�านกึ ในการรักษาทรัพยส์ ินของสาธารณะ ๑๗๓ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี กลุ่มผู้ใช้นํ้าบาดาลเพื่อการเกษตร จากพลงั งานแสงอาทติ ย์บ้านหล่ายทงุ่ พ้ืนที่: องคการบรหิ ารสว นตําบลวอแก้ว อําเภอห้างฉัตร จงั หวดั ลําปาง วทิ ยากร: นายสงิ หช ยั กันใจรส ตําแหนง : ผู้ใหญบ้าน เบอรโ ทรศัพท: ๐๖๒-๒๙๗-๙๖๕๐ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี ประชาชนสว่ นใหญใ่ นพ้ืนทีห่ มทู่ ี่ ๔ บา้ นหลา่ ยทงุ่ ตา� บลวอแกว้ ประกอบอาชพี เกษตรกร และปศสุ ัตวเ์ ลีย้ งโคนมและโคเน้ือ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง เน่ืองจากหมูบ่ า้ นตัง้ อยูบ่ นทสี่ งู ไมม่ พี ้นื ทกี่ ักเกบ็ นาไวใ้ ช้ในฤดูแลง้ ขณะทีแ่ หลง่ นาใตด้ ิน ใช้ได้ในฤดูฝนเทา่ นัน้ ปั ญหาขาดแคลนนาส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชน คณะกรรมการ หมูบ่ ้านจึงปรึกษากับองค์การบริหารส่วนต�าบลวอแกว้ เพ่ือหาแนวทางแกไ้ ข กอ่ นส่งเร่ืองไปยัง กรมทรพั ยากรนาบาดาล กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม เพ่อื ขออนุมัติงบประมาณ ขุดเจาะบอ่ บาดาล โดยใช้พลังงานแสงอาทิตยส์ ูบนาเพ่อื แจกจ่ายไปยังเกษตรกรตอ่ ไป ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือแกไ้ ขปั ญหาการขาดแคลนนา ใช้ในการเกษตร ๑๗๔ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) แตง่ ตงั้ คณะกรรมการกลุม่ เพ่อื ด�าเนนิ การจัดสรรนา ให้เกษตรกร พร้อมออกระเบยี บ ขอ้ บังคับตา่ งๆ ๒) แบง่ หนา้ ทคี่ วามรบั ผิดชอบตามภารกจิ งาน ดงั นี้ ฝ่ ายจดมาตรวดั นา ฝ่ ายเก็บเงนิ และ บัญชี ฝ่ ายซ่อมบ�ารุง และฝ่ ายตดิ ตามประเมนิ ผล ๓) เกบ็ คา่ ธรรมเนยี มจากผใู้ ช้นา คา� นวณจากมเิ ตอรท์ ตี่ ดิ ตงั้ ไว้ สว่ นรายไดห้ ลงั หกั คา่ ใช้จา่ ย กันไวเ้ ป็นกองทุนสา� หรบั การซ่อมบา� รงุ ดแู ลรกั ษาระบบให้สามารถใช้งานไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่อื ง ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) นายสิงห์ชัย กันใจรส ผูใ้ หญบ่ า้ นบา้ นหล่ายทุ่ง ท�าหนา้ ที่บริหารจัดการกลุ่มในการ จัดสรรนา ให้แกส่ มาชกิ ๒) นายกติ พิ นั ธ์ ขดั ตวิ งค์ ผชู้ ่วยผใู้ หญบ่ า้ นบา้ นหลา่ ยทงุ่ และคณะกรรมการกลุม่ ช่วยดแู ล การจัดสรรนาให้แกส่ มาชกิ ๓) องคก์ ารบริหารสว่ นต�าบลวอแกว้ ช่วยประสานงานกับหนว่ ยงานอ่ืนๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับ การจัดการดแู ลรกั ษาทรพั ยากรนา ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) เกษตรกรในกลุ่มมีนาใช้ส�าหรับท�าเกษตรตลอดทั้งปี มีรายได้จากการท�าเกษตร เพมิ่ ข้นึ เดอื นละประมาณ ๓,๐๐๐ บาท และสามารถลดตน้ ทนุ การท�าเกษตร โดยเฉพาะคา่ กระแส ไฟฟ้ า เฉลีย่ ครวั เรอื นละ ๕๐๐ บาท/เดอื น ๒) ฟาร์มเลีย้ งโคนมจา� นวน ๔ ฟาร์ม ลดคา่ ใช้จ่ายในการสูบนา ได้ ๑,๕๐๐ บาท/เดือน/ ฟาร์ม ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั คณะกรรมการกลุ่มจัดสรรนาให้สมาชิกได้อยา่ งเป็นระบบ โดยมีกฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ ตา่ งๆ ทสี่ มาชกิ ตอ้ งปฏิบัติตาม สง่ ผลให้กลมุ่ สามารถด�าเนินงานไดอ้ ยา่ งมัน่ คงและตอ่ เน่ือง ๑๗๕ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ กลุ่มผู้ใช้น้ําบาดาลเพ่ือการเกษตร ทุ่งหลวง พ้นื ท:่ี องคการบรหิ ารสวนตําบลวอแก้ว อาํ เภอห้างฉตั ร จงั หวัดลาํ ปาง วทิ ยากร: นายภูธเรศ โพทวี ตาํ แหนง : สมาชกิ สภาองคก ารบรหิ ารสวนตาํ บลวอแก้ว เบอรโทรศัพท: ๐๖๑-๘๐๖-๒๐๘๔ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี พ้ืนทบี่ า้ นวอแกว้ หมทู่ ี่ ๓ ประกอบดว้ ย ๔๒๔ ครัวเรือน ประชาชนสว่ นใหญเ่ ป็นเกษตรกร แบง่ เป็นเกษตรกรทที่ า� นา ๑๓๙ ครัวเรือน หรอื ร้อยละ ๓๒.๗๘ ทา� ไร่ ๒ ครัวเรอื น ร้อยละ ๐.๔๗ ทา� สวน ๘ ครวั เรือน ร้อยละ ๑.๘๙ และเลยี้ งสัตว์ ๑๑ ครัวเรอื น ร้อยละ ๒.๕๙ จะเหน็ วา่ คนทนี่ ี่ นยิ มปลกู ขา้ วเป็นหลกั นอกจากนยี้ ังทา� ไร่ยาสูบ ปลกู พชื ระยะสนั้ และพชื ผกั สวนครวั เช่น มะระ ฝั กทอง แตงกวา เป็นตน้ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เม่ือปี ๒๕๕๗-๒๕๕๘ ฝนทงิ้ ช่วงเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดภัยแล้งในพ้ืนที่ เกษตรกร ประสบปั ญหาขาดแคลนนาเพ่ือการเกษตร องค์การบริหารส่วนต�าบลวอแก้วจึงท�าเร่ืองขอ งบประมาณขุดเจาะบอ่ บาดาลเพ่อื การเกษตรจา� นวน ๒ บอ่ จากส�านกั ทรพั ยากรนาบาดาลเขต ๑ ลา� ปาง โดยไดร้ ับอนุมัตใิ นปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื แกไ้ ขปั ญหาการขาดแคลนนา เพ่อื การเกษตร ๑๗๖ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) แต่งตั้งคณะกรรมการจากตัวแทนเกษตรกรผู้ใช้นาบาดาลทุ่งหลวง จ�านวน ๙ คน เพ่ือขับเคล่อื นนโยบายให้เป็นไปตามวตั ถุประสงค์ ๒) ติดตัง้ มิเตอร์การใช้นาทุกแปลง โดยเก็บคา่ บ�ารุงรักษาระบบส่งนาในอัตราหนว่ ยละ ๓ บาท เพ่อื เป็นคา่ กระแสไฟฟ้ าและเก็บไวเ้ ป็นกองทุนส�าหรับซ่อมบา� รุง ๓) ก�าหนดกฎระเบยี บการใช้นา โดยให้ผลัดเปลีย่ นกันเปิดนา ตามโซนเหนอื -ใต้ ครงั้ ละ ๓-๕ วนั ตอ่ รอบการเปิดนา ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) นายภูธเรศ โพทวี สมาชิกสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�าบลวอแกว้ ในฐานะผูเ้ ชยี่ วชาญ ดา้ นการบริหารจัดการ ๒) สมาชิกกลุม่ มีหนา้ ทดี่ แู ลและบริหารจดั การนาให้มปี ระสทิ ธิภาพ ๓) องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลวอแกว้ ทา� หนา้ ทสี่ นบั สนนุ และประสานงานกบั หนว่ ยงานอ่นื ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เกษตรกรมีนาใช้อยา่ งพอเพียง ท�าให้สามารถปลูกพืชผักได้ตลอดทัง้ ปี และยังช่วยสร้าง รายไดเ้ พิม่ ข้นึ สง่ ผลให้คณุ ภาพชีวติ ดีข้นึ ตามไปดว้ ย ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั คณะกรรมการกลุ่มจัดสรรนาให้สมาชิกได้อยา่ งเป็นระบบ โดยมีกฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ ตา่ งๆ ทสี่ มาชิกตอ้ งปฏิบตั ิตาม สง่ ผลให้กลมุ่ สามารถด�าเนนิ งานไดอ้ ยา่ งมัน่ คงและตอ่ เน่อื ง ๑๗๗ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ที่ กลุ่มโรงน้ําด่ืมเสล่ียงคํา บ้านวอแก้ว พ้ืนท:่ี องคก ารบริหารสว นตาํ บลวอแก้ว อําเภอหา้ งฉตั ร จงั หวดั ลาํ ปาง วทิ ยากร: นางภาผอนู วงศแ กว้ ตาํ แหนง: รองนายกองคการบรหิ ารสวนตําบลวอแก้ว ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี บา้ นวอแกว้ หมทู่ ี่ ๓ ประสบปั ญหาขาดแคลนนาอยา่ งหนัก นายอาณันย์ พมิ พา จงึ กอ่ ตงั้ กลุ่มโรงนาด่ืมเสลี่ยงค�าบ้านวอแก้ว โดยใช้พ้ืนที่สาธารณะของหมู่บ้าน (ตลาดชุมชนเก่า) ขนาด ๔๐๐ ตารางวา กอ่ สร้างอาคารโรงนาด่มื โดยมีเป้ าหมายให้ทกุ ครวั เรอื นไดด้ ่ืมนาสะอาด อยา่ งพอเพยี ง ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง เม่อื ปี ๒๕๕๓ รัฐบาลมีนโยบายสง่ เสรมิ การลงทุนในชมุ ชน บา้ นวอแกว้ หมทู่ ี่ ๓ จึงดา� เนิน โครงการโรงนาด่มื เสลีย่ งคา� บา้ นวอแกว้ โดยไดร้ บั งบสนับสนุนจากโครงการพฒั นาศักยภาพของ หมูบ่ า้ นและชุมชน (SML) จ�านวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท เพ่ือจัดซ้อื อุปกรณท์ ีใ่ ช้ในการผลิตเพมิ่ เติม เช่น ขวดนา ลังนา เป็นตน้ และปั จจุบนั ไดข้ ยายการผลิตไปยงั พ้ืนทีใ่ กลเ้ คยี งดว้ ย ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ครัวเรอื นในพ้ืนทที่ งั้ ๔๒๔ ครัวเรือนไดด้ ่ืมนาสะอาดอยา่ งพอเพียง ๑๗๘ | ปบผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) แตง่ ตงั้ คณะกรรมการเพ่ือขับเคล่อื นนโยบายกลมุ่ โดยแบง่ เป็น ๔ ฝ่ าย คอื ฝ่ ายผลติ ฝ่ ายขาย ฝ่ ายตรวจสอบ ฝ่ ายการเงนิ และบญั ชี ๒) สมาชิกกลมุ่ ฝ่ ายผลิตมาผลติ นา ทกุ วนั มีคา่ แรงตอบแทนวนั ละ ๓๐๐ บาท ๓) รายไดจ้ ากการขายผลิตภัณฑแ์ บง่ ให้ผูป้ ฏิบัติงานตามจริง และแบง่ เงนิ ร้อยละ ๕ ของ ผลกา� ไรทัง้ หมด ไปช่วยเหลอื กิจกรรมสาธารณประโยชน์ ๔) นาด่ืมได้รับการรับรองมาตรฐานจากส�านักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพ่ือให้ เป็นทีเ่ ช่อื ถอื ตอ่ ผูบ้ รโิ ภค ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) นายอาณนั ย์ พมิ พา สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลวอแกว้ ในฐานะประธานกลมุ่ โรงนาด่ืมเสลีย่ งค�าบา้ นวอแกว้ ๒) คณะกรรมการกลุม่ ช่วยดูแลและบรหิ ารจัดการกลมุ่ ให้มีประสทิ ธภิ าพ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ประชาชนในหมบู่ า้ น รวมถึงหมบู่ า้ นใกลเ้ คียง ไดด้ ่มื นา ทีส่ ะอาดและราคาถูก ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั คณะกรรมการกลุม่ ปฏบิ ตั ิตามกฎ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ตา่ งๆ อยา่ งเคร่งครัด สง่ ผลให้กลุม่ สามารถด�าเนินงานไดอ้ ยา่ งมนั่ คงและมปี ระสทิ ธภิ าพ ๑๗๙ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ กลุ่มเยาวชนต้นกล้าจิตอาสากวาดถนน/ คัดแยกขยะชุมชน ตําบลบัวใหญ่ พ้ืนที:่ องคการบริหารสว นตําบลบวั ใหญ อําเภอนาน้อย จงั หวัดนาน วทิ ยากร: นางแววทิวา ยาใจดี ตําแหนง : เลขานุการนายกองคก ารบริหารสวนตําบลบวั ใหญ เบอรโ ทรศัพท: ๐๘๗-๖๗๙-๑๒๗๑ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี เดมิ ตา� บลบวั ใหญอ่ ยูใ่ นเขตตา� บลสันทะ อา� เภอนานอ้ ย จังหวัดนา่ น ตอ่ มาในปี ๒๕๒๕ ไดม้ กี ารแยกพ้นื ทบี่ างสว่ นออกมาจดั ตงั้ เป็นตา� บลใหม่ เรยี กวา่ ตา� บลบวั ใหญ่ โดยไดแ้ รงบนั ดาลใจ จากดอกบัวหลวงทขี่ ้นึ อยูเ่ ตม็ หนองปวน ซ่ึงเป็นหนองนาธรรมชาติในหมทู่ ี่ ๑ บา้ นอ้อย ปั จจุบนั ตา� บลบวั ใหญแ่ บง่ เขตปกครองออกเป็น ๘ หมูบ่ า้ น ดงั นี้ หมทู่ ี่ ๑ บา้ นอ้อย หมทู่ ี่ ๒ บา้ นใหมม่ งคล หมูท่ ี่ ๓ บา้ นนาแหน หมูท่ ี่ ๔ บา้ นทัพมา่ น หมูท่ ี่ ๕ บา้ นนาไค้ หมูท่ ี่ ๖ บา้ นตน้ มว่ ง หมูท่ ี่ ๗ บา้ นสนั พยอม และหมูท่ ี่ ๘ บา้ นหนองห้า ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ผบู้ ริหาร ผูน้ �า แกนน�าเดก็ และเยาวชน มีโอกาสเขา้ ร่วมกจิ กรรมคา่ ยเยาวชนจติ อาสา ที่ องค์การบริหารส่วนต�าบลหัวง้ม อ�าเภอพาน จังหวัดเชียงราย แล้วเห็นว่าธนาคารความดีเป็น กิจกรรมที่มีประโยชนแ์ ละสามารถน�ามาขยายผลในพ้ืนที่ได้ จึงกลับมาประยุกต์ใช้ โดยเริ่มจาก กลมุ่ ผสู้ งู อายุ กอ่ นขยายผลไปยงั กลมุ่ เดก็ และเยาวชน อสม.แตล่ ะหมบู่ า้ น ตลอดจนผนู้ า� ทอ้ งทแี่ ละ ทอ้ งถนิ่ ประกอบกบั ช่วงเวลาดงั กลา่ วตรงกบั ปีมหามงคลทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ล อดลุ ยเดช มีพระชนมพรรษาครบ ๘๘ พรรษา องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�าบลบวั ใหญจ่ งึ จัดกจิ กรรม นอ้ มสะสมความดี ๘,๘๘๘ ความดี ถวายเป็นพระราชกุศล ๑๘๐ | ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ สร้างการมีสว่ นร่วมของประชาชนทกุ ภาคสว่ นในพ้ืนที่ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ชกั ชวนผสู้ งู อายทุ มี่ ารบั เบยี้ ยงั ชพี ให้ช่วยกนั ทา� ความสะอาดหมบู่ า้ น กวาดถนน เกบ็ ขยะ ๒) จัดท�ากิจกรรมนอ้ มสะสมความดี ๘,๘๘๘ ความดี โดยมีสมุดคูม่ ือธนาความดี เพ่ือ บนั ทึกหลกั เกณฑแ์ ละคะแนนของผทู้ ีเ่ ขา้ ร่วมกิจกรรมแตล่ ะคน ๓) จัดประชุมสภาเด็กและเยาวชนต�าบลบัวใหญ่ เพ่ือจัดกิจกรรมอาสาท�าดี โดยตัง้ เป้ า ให้เยาวชนทงั้ ๘ หมบู่ า้ น รวมถึงนกั เรียนจากทงั้ ๓ โรงเรียนในพ้นื ที่ เขา้ มามสี ว่ นร่วมให้มากทสี่ ุด ๔) ประสานงานกับกลุ่ม อสม.ในพ้ืนที่ เพ่ือรณรงค์แกไ้ ขและป้ องกันปั ญหาเร่ืองลูกนา ยงุ ลาย ซ่งึ อาจกลายเป็นพาหะของโรคตดิ ตอ่ ตา่ งๆ ได้ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�าบลบัวใหญ่ ๒) กา� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ๓) ผูน้ �าชมุ ชน ๔) พระสงฆ์ ๕) ผปู้ กครอง ๖) เด็กและเยาวชน ๗) กลุม่ ผสู้ งู อายุ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เกิดกิจกรรมต่างๆ ในพ้ืนที่ เช่น การกวาดถนนและเก็บขยะในหมูบ่ ้านทุกเช้าวันเสาร์ การคัดแยกขยะ เพ่ือน�าไปจ�าหน่าย แล้วน�ารายได้ไปซ้ือของรางวัลสมทบให้ธนาคารความดี ต�าบลบวั ใหญ่ ซ่ึงสมาชกิ จะน�าคะแนนความดีมาแลกของรางวลั ตามเกณฑท์ ีก่ า� หนดไว้ นอกจากนี้ ยังแบง่ รายไดส้ ว่ นหน่งึ ไปซ้อื ของเยีย่ มผูป้ ่ วยติดเตยี ง และเป็นทุนซ้อื อปุ กรณต์ า่ งๆ เช่น ไมก้ วาด ดอกหญา้ ไมก้ วาดทางมะพร้าว ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั ๑) การคดั แยกขยะกอ่ นนา� ไปจ�าหนา่ ย หรือเกบ็ หรอื กา� จัด ๒) ความร่วมมือจากคนในชุมชน ร่วมคดิ ร่วมรับผิดชอบกจิ กรรมตา่ งๆ อยา่ งสร้างสรรค์ ๑๘๑ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ หมู่บ้านประดับดาวบ้านแพะขวาง พน้ื ท:่ี เทศบาลตําบลน้าํ แพรพัฒนา ตําบลนา้ํ แพร อาํ เภอหางดง จังหวัดเชยี งใหม วิทยากร: ส.อ.ไพรนิ ทร กาไวย ตําแหนง : ผู้ใหญบ้านหมูที่ ๓ บา้ นแพะขวาง เบอรโทรศพั ท: ๐๘๑-๓๖๖-๖๙๐๕ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี สภาพพ้นื ทขี่ องบา้ นแพะขวาง หมทู่ ี่ ๓ เป็นทรี่ าบเชงิ เขา และมพี ้นื ทปี่ ่ าไม้ หมบู่ า้ นแบง่ ออก เป็น ๒ ฝั่ งถนน เน่อื งจากมีถนนอ้อมเมืองสันป่ าตอง-หางดงคัน่ กลาง ปั ญหาหลกั ของพ้นื ทคี่ อื ขยะ กลายเป็นแหลง่ เพาะพนั ธเุ์ ช้อื โรค สง่ ผลตอ่ ภมู ทิ ศั น์ ตามมาดว้ ยปั ญหาหมอกควนั จากการเผาขยะ ใบไม้ กิง่ ไม้ หรือเศษวัสดุต่างๆ ชาวบา้ นหลายคนป่ วยเป็นโรคหอบหืด หรือโรคเกีย่ วกับระบบ ทางเดินหายใจ ชมุ ชนจงึ มแี นวคดิ จะแกไ้ ขปั ญหาดว้ ยการจัดการขยะอยา่ งเป็นรูปธรรม ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ยอ้ นกลับไปเม่ือปี ๒๕๔๙ นายอนุชา รีบเร่ง นายกองค์การบริหารส่วนต�าบลนาแพร่ ในขณะนัน้ มนี โยบายดา้ นสิง่ แวดลอ้ ม จดั ท�าโครงการรณรงคล์ ด คดั แยก และก�าจัดขยะอยา่ งถูก วธิ ี โดยเรมิ่ ตน้ ในพ้นื ทนี่ า� รอ่ ง ๒ แห่ง กอ่ นตอ่ ยอดเป็นทงั้ ตา� บล โดยหมทู่ ี่ ๓ ไดเ้ รมิ่ ดา� เนนิ โครงการ “หมบู่ า้ นประดบั ดาว” เพ่อื สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนดแู ลสขุ อนามยั ของตนเองใหป้ ลอดภยั จากโรคตา่ งๆ รวมทงั้ โครงการ “ตลาดนดั ซ้อื ขายขยะ” เพ่อื กระตุน้ ให้ประชาชนในพ้นื ทแี่ ยกขยะอยา่ งจริงจงั ตอ่ มาผนู้ า� ชมุ ชนเหน็ วา่ ทงั้ สองโครงการเช่อื มโยงกนั จงึ รวมเป็นโครงการเดยี ว ขณะเดยี วกนั มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหมเ่ ขา้ มาช่วยต่อยอดเร่ืองการท�าป๋ ุยหมักในครัวเรือน และสอนท�า นา ยาลา้ งจานและนายาซักผา้ เพ่อื แลกเศษใบไม้ กิง่ ไม้ เป็นวธิ ีหน่ึงทชี่ ่วยลดการเผาขยะ ทา� ให้ทีน่ ี่ กลายเป็นแหลง่ เรยี นรคู้ รบวงจร ทงั้ การจดั การขยะ การลดปั ญหาหมอกควนั และการบรหิ ารจดั การ ชุมชน จนเป็นที่สนใจของรายการสารคดีจ�านวนมาก และยังมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทวั่ ประเทศเดนิ ทางมาดงู าน เพ่อื นา� องคค์ วามร้ไู ปประยุกตใ์ ช้ในพ้ืนทีข่ องตัวเองตอ่ ไป ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่อื รว่ มกนั จดั การสงิ่ แวดลอ้ ม โดยให้ประชาชนและชมุ ชนเป็นศนู ยก์ ลางในการบรหิ าร จัดการ ควบคมุ ดูแล รกั ษา พฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม และใช้ประโยชนภ์ ายใตห้ ลักความยัง่ ยนื ๒) เพ่อื สร้างความเขม้ แข็งของชุมชน ควบคูก่ ับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ๓) เพ่ือบริหารจัดการสิง่ แวดล้อม อันเป็นประโยชนต์ ่อการลดรายจ่ายในครัวเรือน และ เป็นการปรบั ปรงุ คณุ ภาพชวี ติ ของคนในชมุ ชนให้ดีข้ึน ๑๘๒ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) งานบริการ เช่น เปิดตลาดนัดรับซ้ือขยะ โดยรับซ้ือเฉพาะขยะทีค่ ัดแยกประเภทแล้ว เทา่ นนั้ รวมทงั้ เปิดรบั สมคั รสมาชกิ โครงการ โดยมหี วั หนา้ เขต และอาสาสมคั รสาธารณสขุ มลู ฐาน ประจ�าหมูบ่ า้ น คอยดูแลและให้ค�าแนะน�าต่างๆ ทัง้ ยังตรวจสอบและประเมินกิจกรรมของแต่ละ หลงั คาเรือนทกุ ๓ เดือน ๒) งานเฝ้ าระวงั รณรงคใ์ ห้ประชาชนงดการเผาขยะ ใบไม้ กงิ่ ไม้ เพ่ือป้ องกนั โรคเกยี่ วกับ ทางเดนิ หายใจ โรคมะเรง็ หรอื โรคหอบหดื สง่ เสรมิ ให้ทา� ป๋ ยุ หมกั จากขยะเปียก ทา� หวั เช้อื นา หมกั เพ่ือช่วยดับกลิ่นขยะที่ท�าป๋ ุยหมัก และป้ องกันแมลงวันมาวางไข่ รณรงค์ให้ทุกหลังคาเรือนท�า หนา้ บา้ นให้นา่ มอง และสนบั สนนุ ให้ประชาชนปลกู พชื ผักสวนครัวรวั้ กนิ ไดใ้ นบา้ น ๓) งานแกไ้ ขปั ญหา ส่งเสริมการคัดแยกประเภทขยะในครัวเรือน และการก�าจัดอยา่ ง ถกู วิธี โดยประชาสัมพันธผ์ า่ นเสียงตามสายหมูบ่ า้ นและการประชมุ หมบู่ า้ นทุกเดอื น จดั โครงการ “Big Cleaning Day” ในหมบู่ า้ น พร้อมกับกจิ กรรม “Big Cleaning Day” ของเทศบาลต�าบล นา แพร่พัฒนา เพ่อื ร่วมกันก�าจดั ขยะจรทมี่ ีคนนา� มาทิง้ ตามไหลท่ างหรอื ทสี่ าธารณะในหมบู่ า้ น ๔) งานพฒั นา จดั อบรมให้ความรู้ ทงั้ เร่อื งการทา� ป๋ ยุ หมกั ป๋ ยุ อนิ ทรยี ์ การทา� นา ยาลา้ งจาน นายาซักผ้า การท�านามันไบโอดีเซลจากนามันเหลือใช้ในครัวเรือน รวมถึงต้อนรับคณะศึกษา ดงู านจากหนว่ ยงานตา่ งๆ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตา� บลนา แพร่ สนบั สนนุ งบประมาณและความรทู้ างวชิ าการ ๒) เทศบาลต�าบลนาแพร่พัฒนา สนับสนุนงบประมาณ และพัฒนากิจกรรมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ๓) ศูนยพ์ ฒั นาสังคมหนว่ ยที่ ๑๓ จงั หวัดเชียงใหม่ ๔) มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชยี งใหม่ สง่ บคุ ลากร มาให้ความรู้ดา้ นการคัดแยกขยะอยา่ งถูกวิธี และการท�าป๋ ุยหมักอินทรีย์ ๕) กลุม่ เกษตรอินทรีย์ เป็นทปี่ รกึ ษาดา้ นการทา� ป๋ ยุ หมกั นา ยา EM และ EM บอล ๖) อสม.บา้ นแพะขวาง ๗) มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ และ ๘) มหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ้ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ประชาชนสามารถคัดแยกขยะอยา่ งถูกวิธี เกิดตลาดนัดรับซ้อื ขยะ ป๋ ุยหมักจากขยะเปียก พชื ผกั สวนครวั รวั้ กนิ ไดป้ ลอดสารพษิ ประชาชนปรบั ภมู ทิ ศั นห์ นา้ บา้ นตนเองให้สะอาดและนา่ มอง รวมทัง้ ได้รับรางวัลจากหนว่ ยงานต่างๆ เป็นจ�านวนมาก เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวง ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม และสา� นกั นายกรฐั มนตรี นอกจากน้ี ความรทู้ เี่ กดิ ขน้ึ ยงั สามารถ น�าไปตอ่ ยอดเพ่อื แกป้ ั ญหาตา่ งๆ ในพ้ืนที่ ทงั้ ดา้ นเศรษฐกจิ สังคม และน�าไปสกู่ ารสร้างสมั พนั ธ์ กับเครอื ขา่ ยตา่ งๆ มากมาย ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ๑) คณะท�างานมจี ิตอาสา เสียสละ ตงั้ ใจทา� งานร่วมกับภาคสว่ นอ่นื ๆ ๒) บา้ นแพะขวาง เป็นหมูบ่ า้ นขนาดกลาง และยังคงเป็นสังคมชุมชนดัง้ เดิมท่มี ีความเขม้ แข็ง ๓) การส่งเสริมและ สนบั สนนุ ทัง้ องคค์ วามรู้ งบประมาณ และบุคลากรจากหนว่ ยงานตา่ งๆ และ ๔) กิจกรรมมคี วาม นา่ สนใจ เขา้ ใจงา่ ย ให้ประโยชนแ์ กท่ กุ ฝ่ าย และมีความตอ่ เน่ือง ๑๘๓ปบ ผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี การจดั การปา ชมุ ชนบา้ นดอยถา้ํ พ้ืนที่: เทศบาลตําบลน้ําแพรพัฒนา ตําบลน้ําแพร อําเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: นายสมจิต ใจบุญตัน ตําแหนง: ผู้ใหญบ้าน หมูที่ ๙ บ้านดอยถํ้า เบอรโทรศพั ท: ๐๘๖-๑๘๗-๑๗๔๐, ๐๘๕-๐๓๕-๙๕๓๔ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี บา้ นดอยถา หมูท่ ี่ ๙ มสี ภาพเป็นทีร่ าบเชิงเขาและมพี ้ืนทีป่ ่ าไมจ้ �านวนมาก แตท่ ผี่ า่ นมา ถกู บกุ รกุ ทา� ลาย ชาวบา้ นและผนู้ า� ชมุ ชนตระหนกั ถงึ ความสา� คญั ของทรพั ยากรธรรมชาติ ตอ้ งการ อนรุ กั ษไ์ วจ้ นถงึ รนุ่ ลกู รนุ่ หลาน จงึ ออกมาตรการตา่ งๆ เพ่อื ดแู ลรกั ษาผนื ป่ า โดยตงั้ คณะกรรมการ จ�านวน ๑๔ คน มาจากภาคส่วนต่างๆ ในชุมชน ท�าหน้าที่ด�าเนินกิจกรรมและขับเคล่ือนงาน ดา้ นการจดั การป่ าชุมชนบา้ นดอยถา ให้เกิดความยงั่ ยืนและตอ่ เน่อื ง ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง กอ่ นปี ๒๕๔๖ เกิดปั ญหาการบุกรุกท�าลายป่ าของบุคคลภายนอกหมูบ่ า้ น ประกอบกับ ชาวบ้านเองก็แผ้วถางป่ า เพ่ือใช้เป็นที่ท�ากิน และบางส่วนแผ้วถางเพ่ือขายต่อให้แก่นายทุน ชาวบ้านหมูท่ ี่ ๙ จึงจัดประชาคมหมูบ่ ้านเพ่ือหาทางแกไ้ ขปั ญหานี้ พร้อมทั้งส�ารวจบุคคลที่มี ทที่ �ากินในเขตป่ าของหมูบ่ า้ น มีการลงทะเบียนโดยการถ่ายรูป จดบันทึกช่อื ทอี่ ยู่ สภาพทีท่ �ากนิ เพ่ือป้ องกันการบุกรุกป่ าเพิ่มเติม ตลอดจนก�าหนดให้ผู้ที่มีที่ดินติดกับเขตป่ าช่วยดูแลผืนป่ า ใกล้เคียง ถ้าพบการบุกรุกให้แจ้งคณะกรรมการหมู่บ้าน ต่อมาได้ขยายมาตรการอนุรักษ์ให้ เข้มงวดข้ึน และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากเทศบาลต�าบลนาแพร่พัฒนา ท�าให้การ ขบั เคล่อื นเร่อื งการอนุรักษป์ ่ าเหน็ ผลมากข้นึ ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่อื รว่ มกนั จดั การป่ าไม้ โดยให้ประชาชนและชมุ ชนเป็นศนู ยก์ ลางในการบรหิ ารจดั การ ควบคุม ดูแล รกั ษา หรอื บ�ารุงป่ า พัฒนาสงิ่ แวดลอ้ ม และใช้ประโยชนภ์ ายใตห้ ลักความยัง่ ยืน ๒) เพ่อื พฒั นาป่ าไม้ และสรา้ งความเขม้ แขง็ ของชมุ ชนควบคูก่ นั ไป ตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพียง ให้ชุมชนสงบสขุ พร้อมดว้ ยความสมบูรณข์ องทรัพยากรป่ าไม้ ดิน และนา ๓) เพ่ือบริหารจัดการป่ า อันเป็นประโยชนต์ ่อการรับผลผลิตมาลดรายจ่ายในครัวเรือน และเป็นการปรับปรงุ คณุ ภาพชีวติ ของคนในชุมชนให้ดขี ้ึน ๑๘๔ | ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) รณรงคแ์ ละสง่ เสริมให้มกี ารดแู ลรกั ษาป่ าไม้ โดยการจัดเวรยามรักษาป่ า ๒) ก�าหนดบทลงโทษของชุมชน กรณีมีบุคคลมาตัดไม้ หรือเผาป่ าเพ่ือล่าสัตว์ เช่น ท�าทัณฑบ์ น วา่ กลา่ วตักเตือน ปรบั และแจ้งความด�าเนนิ คดี ๓) ด�าเนนิ กิจกรรมปลกู ป่ าในวันส�าคัญตา่ งๆ เช่น การปลูกป่ าวันแม่ ๔) ด�าเนินกิจกรรมสร้างฝายชะลอนา เพ่อื เก็บนาไวใ้ ช้ในฤดูแลง้ ๕) ดา� เนินการร่วมกบั หนว่ ยงานภาครัฐและเอกชนในการอนุรกั ษผ์ ืนป่ า ๖) มีกิจกรรมออกเวรยามรักษาป่ า โดยแบ่งชาวบ้านเป็น ๑๔ ชุด ตรวจพ้ืนที่ป่ าทุก วนั อาทิตย์ ๗) รณรงคแ์ ละสง่ เสรมิ การดูแลรกั ษาป่ าไม้ โดยประชาสัมพันธผ์ า่ นเสียงตามสายหมูบ่ า้ น และประชมุ หมบู่ า้ นทกุ เดอื น รวมถงึ ในโอกาสตา่ งๆ เช่น งานข้นึ บา้ นใหม่ งานแตง่ งาน และงานศพ ๘) ดา� เนินกิจกรรมอ่นื ๆ เช่น ทา� แนวกนั ไฟ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) นายสมจติ ใจบญุ ตนั ผใู้ หญบ่ า้ นบา้ นดอยถา หมูท่ ี่ ๙ ท�าหนา้ ทีก่ า� กบั ดูแลกฎระเบยี บ การจดั การป่ าชมุ ชน ๒) นายจติ ร ใจคา� ผรู้ เิ รมิ่ โครงการและช่วยอา� นวยความสะดวกในการทา� งาน ๓) เทศบาลต�าบลนา แพร่พัฒนา สง่ เสรมิ กจิ กรรมและสนบั สนุนงบประมาณตา่ งๆ ๔) นักศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั นอรท์ -เชยี งใหม่ รว่ มทา� กจิ กรรมตา่ งๆ ๕) กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั วป์ ่ า และพนั ธพุ์ ชื ร่วมด�าเนินการตรวจผูบ้ ุกรุกป่ า ท�าลายทรัพยากรธรรมชาติ ๖) เครือขา่ ย ทสม.ต�าบลนาแพร่ ๗) สภาเดก็ และเยาวชนตา� บลนา แพร่ ๘) ศนู ยไ์ กลเ่ กลยี่ ขอ้ พพิ าทชมุ ชนตา� บลนา แพร่ ให้คา� ปรกึ ษา ด้านกฎหมายแกก่ ลุ่ม และ ๙) ศาลาเอนกประสงคห์ มูบ่ า้ นดอยถา หมูท่ ี่ ๙ เป็นสถานทีร่ วมตัว ของสมาชิกกลมุ่ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เกิดกระแสการอนุรักษ์พ้ืนที่ป่ าของชุมชน เป็นตัวอยา่ งที่ดีแกห่ มูบ่ า้ นอ่ืนซ่ึงมีพ้ืนที่ติดกับ พ้นื ทปี่ ่ า สามารถเขา้ มาศกึ ษาการทา� งานอนรุ กั ษป์ ่ าของหมบู่ า้ นได้ นอกจากนยี้ งั สรา้ งความรว่ มมอื ระหว่างภาคส่วนต่างๆ ทัง้ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาของจังหวัด เชยี งใหม่ ทสี่ ง่ นกั ศกึ ษามาช่วยทา� ฝาย ตลอดจนเครอื ขา่ ยตา่ งๆ จนเกดิ ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ชมุ ชน และ นา� ไปสกู่ ารสร้างฝายตน้ นา เพ่อื ให้พ้นื ทปี่ ่ ามีความสมบรู ณย์ งิ่ ข้ึน ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ๑) บ้านดอยถามีคณะท�างานที่เข้มแข็ง และองค์ความรู้ที่ได้จากการลงมือปฏิบัติจริง สามารถถ่ายทอดไดอ้ ยา่ งชัดเจน ๒) บ้านดอยถาเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก การคมนาคมสะดวก อยูใ่ กล้กับเทศบาลต�าบล นา แพร่พัฒนา และสภาพภมู ิประเทศเอ้อื อา� นวยตอ่ การอนรุ กั ษป์ ่ าไม้ ๑๘๕ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี การบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร พ้นื ท:่ี เทศบาลตําบลเวยี งเทงิ ตาํ บลเวียง อาํ เภอเทงิ จังหวดั เชียงราย วทิ ยากร: นายไพรชั มหาวงศนันท ตําแหนง : ผอู้ าํ นวยการกองสาธารณสุขและสงิ่ แวดลอ้ ม เบอรโ ทรศพั ท: ๐๙๕-๔๓๔-๒๗๐๑ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี เทศบาลต�าบลเวียงเทิงมีพ้ืนที่ ๑๒ ตารางกิโลเมตร ลักษณะเป็นพ้ืนที่ราบลุ่มแมน่ าอิง ห่างจากตัวเมืองเชียงรายไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตามทางหลวงหมายเลข ๑๐๒๐ สายเชียงราย-เทิง ประมาณ ๖๔ กิโลเมตร และมีระยะทางห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ ๘๙๑ กิโลเมตร เทศบาลต�าบลเวียงเทิงรับผิดชอบ ๕ หมบู่ า้ นของต�าบลเวียง คือบา้ นเวียงเทิง หมูท่ ี่ ๑ บา้ นตัง้ ขา้ ว หมูท่ ี่ ๒ บา้ นพระเกิด หมูท่ ี่ ๑๔ บา้ นเวยี งใต้ หมทู่ ี่ ๑๕ และบา้ นเวยี งจอมจ้อ หมูท่ ี่ ๒๐ มีประชากรรวม ๕,๐๘๔ คน สว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกร และคา้ ขาย ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง จากสถานการณก์ ารขยายตวั ของเมอื ง ประชากรตา่ งถนิ่ เขา้ มาอยอู่ าศยั และประกอบอาชพี ในพ้ืนที่เทศบาลเพิ่มข้ึน ท�าให้ปริมาณขยะเพิ่มข้ึนตามไปด้วย ในปี ๒๕๕๔ เทศบาลต�าบล เวยี งเทิงไดร้ ับเร่ืองร้องเรยี นของประชาชน เกยี่ วกับสถานทกี่ �าจดั ขยะในพ้ืนทีห่ มูท่ ี่ ๑๒ ของตา� บล เวยี ง สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลเวยี งลงมตทิ ป่ี ระชมุ สภาสมยั สามญั ให้ปิดบอ่ ขยะ ทางเทศบาล จงึ ตอ้ งระดมทีมท�างาน เพ่ือหาทางจัดการขยะทีเ่ กดิ ข้ึนวันละ ๖.๓ ตัน โดยทา� โครงการการบรหิ าร จดั การขยะแบบครบวงจร ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ กลมุ่ เป้ าหมายในการทา� งาน คอื ครวั เรอื นตน้ แบบ ๒๕๐ ครวั เรอื น ชมุ ชนตน้ แบบ ๑ ชมุ ชน และหมูบ่ า้ นตน้ แบบ ๑ หมูบ่ า้ น โดยมุง่ หวังให้คนในชุมชนสามารถคัดแยกและใช้ประโยชนจ์ าก ขยะ ลดรายจ่าย เพมิ่ รายได้ และเพ่ือพัฒนาเป็นแหลง่ ศึกษาเรยี นรู้ดา้ นการจดั การขยะและรกั ษา สภาพแวดลอ้ มอยา่ งยัง่ ยนื ๑๘๖ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน เทศบาลต�าบลเวียงเทิงส�ารวจขอ้ มูล โดยชัง่ นาหนักขยะในครัวเรือนทุก ๓ เดือน และ จดั ทา� รายงานศกึ ษาความเหมาะสมในการบริหารจัดการขยะ คนื ขอ้ มูลทีไ่ ดส้ ชู่ มุ ชน ในทสี่ ุดมีการ แตง่ ตัง้ คณะท�างานจดั การขยะ ประกอบดว้ ย ๔ ภาคเี ครือขา่ ย คอื ทอ้ งถนิ่ ทอ้ งที่ หนว่ ยงานภาครัฐ และภาคประชาชน ก�าหนดแนวทางการจัดการขยะของแต่ละหมู่บ้าน และร่วมกันท�าข้อตกลง ความร่วมมอื ให้ทุกครัวเรือนคดั แยกประเภทขยะ ในช่วงแรกนนั้ ทางเทศบาลตา� บลเวยี งเทงิ สง่ เจา้ หนา้ ทเี่ ขา้ ไปอบรมให้ความรแู้ กช่ มุ ชน และ รณรงคก์ ารคัดแยกขยะตน้ ทางดว้ ยวธิ ี ๓Rs พร้อมทงั้ รบั สมัครบา้ นตัวอยา่ งคัดแยกขยะ โดยมีการ ติดตามและประเมินผล สว่ นขยะทวั่ ไป ทางเทศบาลรบั หนา้ ทีเ่ กบ็ ขนขยะมาก�าจดั ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) คณะผบู้ ริหารเทศบาลต�าบลเวียงเทิง ๒) กองสาธารณสุขและสิง่ แวดลอ้ ม ๓) กา� นัน ผใู้ หญบ่ า้ นของทกุ หมบู่ า้ น ๗. ผลการดา� เนนิ งาน หลังริเริม่ การบรหิ ารจดั การขยะตงั้ แตต่ น้ ทาง พบวา่ ช่วงปี ๒๕๕๕-๒๕๕๙ มีปริมาณขยะ เฉลยี่ ๓.๙ ตันตอ่ วัน และตงั้ แตป่ ี ๒๕๕๙ เป็นตน้ มา เหลือขยะเพียง ๑.๒ ตนั ตอ่ วนั ทงั้ นเี้ พราะ ประชาชนสามารถคัดแยกและใช้ประโยชนจ์ ากขยะ ต่อยอดสู่การท�าป๋ ุยหมัก ปลูกผักปลอดสาร ช่วยลดรายจ่ายเพมิ่ รายได้ ทัง้ ยังลดอัตราการเกดิ โรคไขเ้ ลือดออกในพ้นื ที่ โดยในช่วง ๑๐ ปีหลัง ไมพ่ บผปู้ ่ วยโรคไขเ้ ลอื ดออกในพ้นื ทเี่ ทศบาลต�าบลเวียงเทงิ นอกจากนยี้ ังตอ่ ยอดสู่ “กองทนุ ขยะสร้างสุข” ทีป่ ระชาชนช่วยกันน�าขยะมาบรจิ าค เพ่อื น�า ไปขาย แลว้ นา� เงนิ มาช่วยเหลอื ผดู้ อ้ ยโอกาสในชมุ ชน รวมกนั เป็นนวตั กรรมการบรหิ ารจดั การขยะ แบบยัง่ ยืน เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ด้านการจัดการขยะและรักษาสภาพแวดล้อม จนได้รับรางวัล จากหนว่ ยงานตา่ งๆ เช่น องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทมี่ กี ารจดั การอนามยั สงิ่ แวดลอ้ มดเี ดน่ จาก กรมอนามยั รางวลั ชมเชยการบรหิ ารบา้ นเมอื งทดี่ ี ปี ๒๕๕๙ จากสา� นกั นายกรฐั มนตรี และรางวลั ชนะเลศิ เทศบาลนา่ อยอู่ ยา่ งยงั่ ยนื ระดบั ประเทศ (เทศบาลขนาดกลาง) ปี ๒๕๕๙ จากกรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั ผนู้ า� ทมี่ คี วามเขม้ แขง็ นา� แนวทางลงสกู่ ารปฏบิ ตั ใิ นพ้นื ทไี่ ดจ้ รงิ ปลกุ กระตนุ้ การมสี ว่ นรว่ ม ของคนในชมุ ชนให้ลกุ ข้นึ มาจัดการขยะภายในชมุ ชน ๑๘๗ปบผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี โรงเรียนเทศบาลตําบลเวียงเทิง (โรงเรียนพอพียง) พ้นื ท่:ี เทศบาลตาํ บลเวียงเทิง ตาํ บลเวยี ง อําเภอเทงิ จงั หวัดเชียงราย วทิ ยากร: นางเทยี มแข ลีหัวสระ ตาํ แหนง: ผู้อํานวยการโรงเรยี นเทศบาลตาํ บลเวยี งเทงิ เบอรโทรศพั ท: ๐๘๘-๒๖๗-๖๒๖๐ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี นางเทียมแข ลหี วั สระ ผอู้ �านวยการโรงเรียนเทศบาลต�าบลเวียงเทงิ จัดกจิ กรรมโรงเรยี น พอเพียงสา� หรับนกั เรียนชนั้ อนุบาลศกึ ษาปีที่ ๑-๓ รวมถงึ ผปู้ กครองของนักเรยี น ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เน่อื งจากพ้นื ทเี่ ทศบาลมปี ั ญหาขยะ ทางผอู้ า� นวยการโรงเรยี นเทศบาลตา� บลเวยี งเทงิ จงึ มี แนวคดิ ปลกู ฝั งให้นักเรียนรู้จักจัดการขยะตงั้ แตต่ น้ ทาง โดยใช้กิจกรรมธนาคารขยะ และกจิ กรรม ออมทรัพย์ เป็นตวั ขับเคล่อื น เพ่อื ให้เดก็ รู้จกั คุณคา่ ของขยะและการออม และมงุ่ หวังให้กจิ กรรม นีต้ อ่ ยอดไปทบี่ า้ นของนักเรียนดว้ ย ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ นอ้ มนา� หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาสสู่ ถานศกึ ษา ปลกู ฝั งให้เดก็ ร้จู กั คณุ คา่ ของ ขยะ รู้จกั การออม และการใช้ทรัพยากรอยา่ งคมุ้ คา่ ๑๘๘ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน โรงเรยี นเทศบาลตา� บลเวยี งเทงิ นา� ขอ้ มลู เกีย่ วกบั การจดั การขยะในพ้ืนทมี่ าวเิ คราะห์ แลว้ ปรับให้เขา้ กับกิจกรรมของโรงเรียน และสอดรับกับแนวทางการพัฒนาของหนว่ ยงานต้นสังกัด อย่างเทศบาลต�าบลเวียงเทิง ที่ต้องการให้มีการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง โดยจัดท�ากิจกรรม ธนาคารขยะ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง นักเรยี น ผปู้ กครอง และครู ครัวเรือนตน้ แบบเศรษฐกิจพอเพียง ตลาดสด ๓ ข เทศบาล ตา� บลเวยี งเทิง ๗. ผลการดา� เนนิ งาน นกั เรยี นโรงเรยี นเทศบาลตา� บลเวยี งเทงิ ไดเ้ รยี นรแู้ ละทา� กจิ กรรมอยา่ งสมา เสมอ สามารถ ถ่ายทอดสูผ่ ปู้ กครอง และปรับใช้ในครัวเรือนของตนเอง ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั การมีสว่ นร่วมของนกั เรยี นและผูป้ กครอง ยินดีทจี่ ะเรียนร้แู ละทา� กจิ กรรมอยา่ งสมาเสมอ ๑๘๙ปบ ผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี การจัดการขยะ อบต.ร่องเคาะ พนื้ ท:ี่ องคก ารบรหิ ารสว นตาํ บลรอ งเคาะ อาํ เภอวงั เหนอื จงั หวดั ลาํ ปาง วทิ ยากร: นายเกษม สุจรติ / นางนงเยาว ประชุมชติ ตําแหนง : รองนายก อบต.รองเคาะ / นักจดั การงานทว่ั ไปปฏบิ ัตกิ าร เบอรโทรศพั ท : ๐๘๑-๘๘๕-๙๖๙๒ / ๐๘๖-๒๐๙-๙๖๗๒ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี ประชาชนส่วนใหญใ่ นต�าบลร่องเคาะคัดแยกขยะในครัวเรือน แต่ละครัวเรือนมีการดัก เศษขยะ เศษอาหาร กอ่ นปล่อยสู่รางระบายนาสาธารณะ หรือปล่อยซึมลงผิวดิน นอกจากนี้ มคี รวั เรอื นถงึ รอ้ ยละ ๖๐ ทที่ า� เกษตรอนิ ทรยี แ์ ละลดปรมิ าณการใช้สารเคมี และทกุ หมบู่ า้ นในตา� บล ร่องเคาะยงั ด�าเนินงานธนาคารขยะชมุ ชน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ปรมิ าณขยะในพ้นื ทตี่ า� บลรอ่ งเคาะเพมิ่ ขน้ึ อยา่ งตอ่ เน่อื ง ทา� ใหเ้ กดิ ปั ญหาสขุ ภาพและมลพษิ ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ลดปรมิ าณขยะภายในพ้ืนทตี่ า� บลร่องเคาะ ๑๙๐ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ประชุมประชาคมและให้ความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะที่ต้นทาง พร้อมจัดกิจกรรม รณรงคต์ ามนโยบายลา� ปางสะอาด และแตง่ ตงั้ คณะกรรมการ เพ่อื ออกตรวจครวั เรอื น สว่ นราชการ ชุมชน (หมบู่ า้ น) ๒) คัดเลือกบุคคลต้นแบบ ครัวเรือนต้นแบบ ส่วนราชการต้นแบบ และชุมชนต้นแบบ ในการคดั แยกขยะ เพ่อื สร้างแรงกระเพ่อื มในชมุ ชน ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) เจ้าหนา้ ทีจ่ าก อบต.ร่องเคาะ สนับสนนุ ความร้เู กยี่ วกบั การคัดแยกขยะทตี่ น้ ทาง ๒) คณะกรรมการของแต่ละหมูบ่ า้ น ท�าหนา้ ที่ออกตรวจครัวเรือน และด�าเนินกิจกรรม ธนาคารขยะ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ประชาชนมคี วามร้แู ละให้ความร่วมมอื คดั แยกขยะ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั อบต.ร่องเคาะ ก�านัน ผใู้ หญบ่ า้ น โรงเรียน วัด ชมุ ชน และหนว่ ยงานทเี่ กีย่ วขอ้ ง ร่วมกนั ท�างาน เพ่ือแกไ้ ขปั ญหาความเดือดร้อนของชาวบา้ นในพ้นื ที่ จนเกดิ นวัตกรรมธนาคารขยะ เกิด การรณรงคผ์ า่ นบุคคลตน้ แบบ ครัวเรือนตน้ แบบ และหมบู่ า้ นตน้ แบบ ๑๙๑ปบผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี ปาชุมชนบ้านสบลืน หมู่ท่ี ๗ พน้ื ท:ี่ องคก ารบรหิ ารสว นตาํ บลรอ งเคาะ อาํ เภอวงั เหนอื จงั หวดั ลาํ ปาง วิทยากร: นายบุญมี ปากหวาน ตําแหนง: ผใู้ หญบ า้ นสบลืน หมูที่ ๗ เบอรโ ทรศัพท: ๐๘๖-๑๙๔-๓๔๕๙ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี ในพ้ืนที่ต�าบลร่องเคาะมีป่ าชุมชน ๑๗ แห่ง ป่ าวัฒนธรรม ๑ แห่ง มีหมูบ่ า้ นที่อนุรักษ์ ทรัพยากร ๑๕ หมูบ่ ้าน มีครัวเรือนเขา้ ร่วมกิจกรรมปลูกป่ าถึงร้อยละ ๘๕ และครัวเรือนที่ท�า แนวป้ องกันไฟป่ าร้อยละ ๙๒ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ชุมชนแถบนี้ท�าไร่ ท�าสวน มีการบุกรุกป่ าเพ่ือท�าเป็นพ้ืนที่ท�ากิน และมีปั ญหานายทุน ลักลอบตดั ไมใ้ นพ้ืนที่ ขณะทชี่ าวบา้ นยงั ขาดความรู้เร่ืองการกักนา ไวใ้ ช้ประโยชนใ์ นฤดูแลง้ และ ไมม่ ีกฎกติกาเกยี่ วกับการใช้ประโยชนป์ ่ าชมุ ชน ทงั้ หมดถือเป็นปั ญหาทีส่ ัง่ สมมานาน ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ คนในชมุ ชนมคี วามรกั และหวงแหนป่ าชมุ ชน ช่วยกนั ดแู ลรกั ษา ปลกู ป่ าเพมิ่ เตมิ ตลอดจน ปฏิบตั ิตามกฎกตกิ าการใช้ประโยชนจ์ ากป่ าร่วมกัน ๑๙๒ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) จดั ตงั้ คณะกรรมการดูแลป่ า และจัดตงั้ พ้นื ทีป่ ่ าชุมชน รณรงคใ์ ห้ความร้เู ร่ืองประโยชน์ ของป่ าไมใ้ นชมุ ชน ๒) จดั ทา� กฎ กติกา ในการใช้ประโยชนจ์ ากป่ าชุมชนอยา่ งมคี ณุ คา่ ไมก่ อ่ ผลเสียตอ่ ระบบ นเิ วศในป่ าชุมชน ๓) แกนน�าและชาวบา้ นร่วมกันทา� ฝายชะลอนา ๔) แกนน�าและชาวบ้านร่วมกันปลูกป่ าเพิ่มเติมในวันส�าคัญต่างๆ บวชป่ า และสร้าง สถานปฏบิ ตั ธิ รรม เพ่อื เป็นกศุ โลบายในการอนรุ กั ษป์ ่ าชมุ ชน ๕) อนรุ กั ษง์ านประเพณสี รงนารอยพระพทุ ธบาทบา้ นสบลืนเป็นประจ�าทุกปี ๖) จดั กจิ กรรมเดนิ รณรงค์ พร้อมป้ ายเตอื นสติ คา� สอน หลักธรรม เพ่อื ให้ผูค้ นตระหนกั ถงึ ความสา� คญั ของป่ าชุมชน ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ทอ้ งถนิ่ ทอ้ งที่ หนว่ ยงานตา่ งๆ เช่น วดั โรงเรยี น รพ.สต. และภาคประชาชน ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) ป่ าชุมชนกลบั มาอุดมสมบรู ณ์ เช่นเดียวกบั ระบบนเิ วศโดยรอบ ๒) ประชาชนเกดิ ความรกั ความหวงแหนผนื ป่ า ๓) เกดิ ฝายชะลอนา ทชี่ ่วยชุบฟ้ืนผนื ป่ าให้มีความสมบรู ณ์ ๔) ชาวบา้ นเกิดความรักความสามัคคี ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั อบต.ร่องเคาะ ก�านนั ผใู้ หญบ่ า้ น โรงเรียน วดั ชุมชน และหนว่ ยงานทเี่ กีย่ วขอ้ ง ร่วมมอื กันออกกฎ กตกิ า และบงั คับใช้ทัง้ ตา� บล ๑๙๓ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี ธนาคารน้ําใต้ดิน ตําบลร่องเคาะ พน้ื ท:ี่ องคก ารบรหิ ารสว นตาํ บลรอ งเคาะ อาํ เภอวงั เหนอื จงั หวดั ลาํ ปาง วทิ ยากร: นายบญุ มี ปากหวาน ตาํ แหนง: ผู้ใหญบ ้านสบลนื หมูท่ี ๗ เบอรโ ทรศัพท: ๐๘๖-๑๙๔-๓๔๕๙ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี พ้ืนทีต่ �าบลร่องเคาะมีธนาคารนาใตด้ ิน ๕๔ แห่ง มคี รัวเรอื นทีก่ ักเกบ็ นา ฝนไวใ้ ช้ คดิ เป็น ร้อยละ ๘๗ หมูบ่ า้ นมีนาประปาหมูบ่ า้ น ร้อยละ ๑๐๐ ครัวเรือนทีใ่ ช้นาจากแหล่งนาธรรมชาติ ร้อยละ ๗๐ และครวั เรอื นทีก่ รองนาเพ่อื บริโภค ร้อยละ ๑๐๐ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ในพ้ืนที่ต�าบลร่องเคาะ เม่ือฝนตก หลายบ้านเกิดนาขังตรงพ้ืนที่ใต้ถุนบ้านและบริเวณ รอบบ้าน จนส่งกลิ่นเหม็น ทั้งยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย สาเหตุของโรคไข้เลือดออกและ โรคอ่ืนๆ ด้วยเหตุนี้ อบต.ร่องเคาะจึงให้ผู้น�าชุมชนไปศึกษาดูงานเร่ืองธนาคารนาใต้ดินจาก หลายพ้ืนที่ แลว้ กลบั มาปรบั ใช้กับปั ญหาในชมุ ชน ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ชุมชนร่วมกนั สร้างนวัตกรรมทเี่ ป็นประโยชนแ์ ละสามารถแกป้ ั ญหาเร่อื งนา ๑๙๔ | ปบผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน จัดกลุ่มแกป้ ั ญหา แกนน�าชุมชนออกส�ารวจพ้ืนที่ที่มีปั ญหานาขัง จากนัน้ ร่วมกับชุมชน ช่วยกันขุดเจาะท�าธนาคารนาใตด้ นิ เพ่ือกักเกบ็ นา ไวใ้ ช้ และลดปั ญหาการทว่ มขัง ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ทอ้ งถนิ่ ทอ้ งที่ หนว่ ยงานตา่ งๆ เช่น วดั โรงเรียน รพ.สต. และภาคประชาชน ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ชุมชนสามารถจัดการปั ญหานาท่วมขังใต้ถุนบ้านและบริเวณรอบบ้าน ด้วยนวัตกรรม ธนาคารนาใตด้ นิ ตะแกรงดกั เศษใบไม้ ถงั เก็บเศษอาหารในครัวเรอื น และยังสามารถดดู นาจาก ธนาคารนา ใตด้ นิ มาใช้รดพืชผักสวนครัวตอนฤดูแลง้ ได้ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั อบต.ร่องเคาะ ก�านนั ผใู้ หญบ่ า้ น โรงเรียน วัด ชุมชน และหนว่ ยงานทเี่ กีย่ วขอ้ ง ร่วมกัน ท�างาน เพ่อื แกไ้ ขปั ญหาความเดือดร้อนของชาวบา้ นในพ้นื ที่ ๑๙๕ปบ ผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ โรงเรียนพอเพียง ตําบลร่องเคาะ พน้ื ท:ี่ องคก ารบรหิ ารสว นตาํ บลรอ งเคาะ อาํ เภอวงั เหนอื จงั หวดั ลาํ ปาง วิทยากร: นางสภุ าพร ทองใบ ตาํ แหนง : ผู้อาํ นวยการโรงเรียนบา้ นห้วยกอด เบอรโทรศพั ท: ๐๙๕-๑๓๔-๐๘๕๙ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี ต�าบลร่องเคาะมีโรงเรยี นพอเพยี ง ๒ แห่ง มนี กั เรียนรวมกันประมาณ ๓๒๙ คน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วขอ้ ง โรงเรียนในสังกัด อบต.ร่องเคาะ ร่วมกับ อบต.ร่องเคาะ เห็นความส�าคัญของการน�า หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้เป็นฐานในการพัฒนาสถานศึกษา โดยบรู ณาการเขา้ กับ การเรียนการสอน เพ่อื เพิม่ ศกั ยภาพให้ผูเ้ รยี นมที กั ษะความรู้ทีจ่ า� เป็นตอ่ การใช้ชวี ิต ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ โรงเรยี นพอเพยี งตอ้ งการให้นกั เรยี นมที กั ษะความรทู้ จี่ า� เป็นตอ่ การใช้ชวี ติ นา� หลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี งเขา้ มาบรู ณาการกบั หลักสูตรสถานศกึ ษา ๑๙๖ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) จัดกจิ กรรมสตั วเ์ ลยี้ งนา่ รู้สูอ่ าชพี เช่น การเลยี้ งเป็ดไข่ ไกไ่ ข่ ปลาดกุ และกบ ๒) จดั กจิ กรรมปลกู พชื ปลอดสาร คนทานปลอดภยั เช่น เพาะเหด็ นางฟ้ า ปลกู ผกั สวนครวั และทา� ป๋ ุยหมกั ธรรมชาติ ๓) จดั กจิ กรรมรว่ มคดิ รว่ มทา� เพมิ่ พนู รายได้ เช่น นกั ประดษิ ฐน์ อ้ ย ธนาคารขยะในโรงเรยี น ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ภาคประชาชน (ผปู้ กครอง) อบต.ร่องเคาะ โรงเรียน ๗. ผลการดา� เนนิ งาน นักเรียนซึมซับการท�าเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียน ซ่งึ เป็นสถานการณจ์ ริง ได้ลงมือท�า แกป้ ั ญหา ไดค้ วามรู้และทักษะหลายดา้ น เช่น วงจรชีวติ ของไกไ่ ข่ เป็ดไข่ ปลาดุก กบ การปลูก พชื ผกั ตามฤดกู าล การเพาะเห็ด และการท�าป๋ ุยหมกั ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ผู้บริหารท้องถิ่นและโรงเรียนเห็นความส�าคัญของการสร้างแผนการเรียนรู้ ซ่ึงน�าหลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาบรู ณาการเขา้ กับรายวิชา ๑๙๗ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี ปาชุมชนบ้านเลี้ยว พื้นที่: เทศบาลตําบลงิม อําเภอปง จังหวัดพะเยา วิทยากร: นายบุญชวย ชํานาญ ตําแหนง: ประธาน อสม.บ้านเล้ียว เบอรโทรศัพท : ๐๕๔-๔๔๘-๓๑๙ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี ประชากรหมทู่ ี่ ๑๐ บา้ นเลีย้ ว ร้อยละ ๑๓.๖๒ ประกอบอาชีพเกษตรกร เดมิ ทนี่ มี่ ีป่ าสงวน ขนาด ๑๒๐ ไร่ เป็นป่ าเต็งรงั ประกอบดว้ ยไมช้ นิดตา่ งๆ เช่น สกั ประดู่ มะคา่ แดง เต็ง รงั เหียง และตึง แต่ต้องเผชิญกับหลายปั ญหา ทัง้ การแผว้ ถาง ลักลอบเผาป่ า ตัดไม้ และทิ้งขยะ สร้าง ความเสยี หายนานปั การ เกดิ สารพษิ และดนิ เส่อื มสภาพ ขาดแคลนแหลง่ นา สง่ ผลกระทบตอ่ ระบบ นิเวศของป่ า โดยเฉพาะสัตว์ป่ าและพืชที่เคยเป็นอาหารของคนในชุมชนลดลง นาในล�าห้วย เหือดแห้ง จนพ้ืนที่เข้าสู่ภาวะแห้งแล้ง น�าไปสู่การหามาตรการเพ่ือจัดการปั ญหาโดยอาศัย ความร่วมมอื จากทกุ ภาคสว่ น ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เม่ือปี ๒๕๓๐ ผูน้ �าชุมชนหารือกับคณะกรรมการในหมูบ่ า้ น โดยก�าหนดพ้ืนที่ป่ าชุมชน บา้ นเลีย้ ว จ�านวน ๘๐ ไร่ สว่ นทีเ่ หลือจดั สรรให้ผูย้ ากไร้ จา� นวน ๑๒ ราย พร้อมขอความร่วมมือ ชาวบ้านให้สงวนพ้ืนที่ป่ าตามธรรมชาติ ป่ าชุมชนบ้านเลี้ยวได้ข้ึนทะเบียนกับกรมป่ าไม้ เม่ือปี ๒๕๔๒ มีหนว่ ยงานตา่ งๆ ทงั้ NGOs มหาวทิ ยาลัยพะเยา โรงพยาบาลปง บริษัท โตโยตา้ จา� กัด ชมรมหมอเมอื งจังหวัดพะเยา และเทศบาลตา� บลงิม เขา้ มาช่วยดูแลและสนบั สนุนกลา้ ไม้ รวมถึง ปลกู ป่ าทดแทน ปลกู พชื สมนุ ไพรเป็นประจา� ทกุ ปี ปั จจบุ นั ป่ าชมุ ชนบา้ นเลีย้ วมคี วามอดุ มสมบรู ณ์ มีนา ในล�าห้วย สระเก็บนา และบอ่ ของชุมชนให้ใช้ตลอดทัง้ ปี ไมแ่ ห้งขอดอยา่ งในอดตี ทีส่ �าคญั ยงั เป็นแหลง่ อาหารและยาของชมุ ชน ๑๙๘ | ปบ ผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือแก้ปั ญหาการแผ้วถางป่ า ลักลอบเผาป่ า ตัดไม้ ทิ้งขยะ และบ่อนาใต้ดิน ขาดแคลนนา ๒) เพ่อื เป็นแหลง่ เรียนรู้ให้แกเ่ ด็ก เยาวชน และประชาชน ๓) เพ่อื เพิม่ พ้ืนทีส่ เี ขยี วให้ชมุ ชน ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) แต่งตั้งคณะกรรมการ จ�านวน ๘ คน มีหน้าที่ดูแลรักษาป่ าชุมชน ตรวจพ้ืนที่ใน หนา้ แล้งเพ่ือป้ องกันการเกิดไฟป่ า โดยผูใ้ หญบ่ า้ นเป็นประธานกรรมการโดยต�าแหนง่ ประธาน กรรมการของแตล่ ะหมูบ่ า้ นมาเป็นคณะกรรมการ ๗ ฝ่ าย ดังนี้ ฝ่ ายป้ องกัน ฝ่ ายปกครอง ฝ่ าย พัฒนา ฝ่ ายศึกษาวฒั นธรรม ฝ่ ายคลงั ฝ่ ายประชาสัมพันธ์ และฝ่ ายสวสั ดิการหมบู่ า้ น ๒) ออกสา� รวจป่ า สา� รวจสมนุ ไพร โดยจา� แนกสมนุ ไพรออกเป็น ๓ ประเภท ไดแ้ ก่ ประเภท ไมย้ ืนตน้ เช่น มะขาม มะขามป้ อม ฝาง หวา้ เปลา้ ตะแบก มะตูม ประเภทไมล้ ม้ ลุกและเถาวัลย์ เช่น สม้ ป่ อย บอระเพด็ รางจืด สาบเสือ และประเภทใช้หวั หรือราก เช่น ไพล ขา่ ขมิน้ ๓) ออกกฎระเบยี บการใช้ป่ าชมุ ชน ดงั นี้ ตดั ตน้ ไม้ ปรบั ตน้ ละ ๕๐๐-๕,๐๐๐ บาท ตามที่ คณะกรรมการพิจารณา ยกเวน้ สมุนไพร ไมใ้ ช้สอยตา่ งๆ เช่น ไมไ้ ผ่ ไมเ้ น้อื อ่อนขนาดเล็ก เป็นตน้ ห้ามลา่ สตั ว์ และทงิ้ ขยะปรบั ๕๐๐ บาท ๔) จดั ทา� แผนทตี่ น้ ไม้ ปลกู พืชสมุนไพรทกุ ปี บวชป่ าช่วงวนั เขา้ พรรษา ตงั้ ศาลเจ้าพระยา เวสสวุ รรณ เพ่อื ให้คนย�าเกรง บนเพ่ือป้ องกนั สัตวเ์ ป็นโรคห่า ป้ องกันอันตรายจากชวี ิตทรพั ยส์ ิน โดยเลยี้ งทกุ วันที่ ๒๐ เมษายนของทกุ ปี ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กลมุ่ หมอเมือง กลุม่ ผสู้ งู อายุ กลุม่ อสม. โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตา� บลบา้ นเลยี้ ว และ เทศบาลต�าบลงมิ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) เพมิ่ พ้นื ทีป่ ่ า เป็นแหลง่ ทีอ่ ยอู่ าศัยของสัตว์ เป็นแหลง่ ตน้ นา มีการใช้ประโยชนจ์ ากป่ า อยา่ งยงั่ ยืน ๒) เกดิ วทิ ยากรเด็ก ๕ คน เกิดแหลง่ เรยี นร้ทู สี่ ามารถถ่ายทอดความร้ใู ห้คนในชมุ ชนและ เครอื ขา่ ยจา� นวน ๒๐ แห่ง ๓) ประชาชนสามารถเก็บสมุนไพรและของป่ าจากป่ าชุมชนมาใช้ได้ตลอดทั้งปี เช่น ฤดูฝนมเี ห็ด หนอ่ ไม้ ใบตองตงึ กบเขยี ด อ่งึ อ่าง ฤดแู ลง้ มผี ักหวาน มดสม้ เป็นตน้ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั - ๑๙๙ปบ ผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ |


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook