ระยะส้ัน การอบรมต่างๆ ได้แก่ การอบรมส�ำหรับผู้บริหารระดับสูง การอบรมส�ำหรับผู้บริหารอาวุโส โปรแกรมพิเศษด้านเจ้าหน้าท่ีรับรอง ฮาลาล (Islamic Affairs Officers: JAKIM) การพัฒนาภาวะผู้น�ำ ภาษาองั กฤษ ภาษาญป่ี นุ่ เป็นต้น การอบรมและการพัฒนาเป็นกระบวนการหนึ่งในการเพิ่มผลผลิต ต่อหัว และเป็นการสื่อสารเป้าหมายองค์การให้พนักงาน และมาเลเซีย ได้ใช้การอบรมเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักที่จะน�ำพาประเทศให้บรรลุ วิสัยทัศน์ พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) การวางแผนและการสร้างโปรแกรมอบรม การวางแผนและการสร้างโปรแกรมการอบรมส�ำหรับบุคลากร ในภาครฐั มขี น้ั ตอนการด�ำเนนิ งานดงั น้ี 1. จดั ตง้ั ทศิ ทางด้านกลยุทธ์ 2. เพิ่มความสามารถขององค์การ 3. จัดการบุคลากรใหม้ ีคณุ ภาพ 4. พัฒนาแรงงานใหม้ คี วามสามารถ 5. จัดการผลการปฏิบัตงิ าน 6. รางวลั 7. สร้างองค์การให้เป็นองค์การที่มีวัฒนธรรมผลการปฏิบัติงาน ยอดเยยี่ ม นอกจากน้ี หน่วยงานข้าราชการพลเรือน (Public Services Department: PSD) ได้มีการจัดโครงสร้างพ้ืนฐานเพ่ือเข้าสู่มาตรฐาน 150
ระดับโลก เช่น มีการประสานกับสถาบันการศึกษากว่า 60 แห่ง เพื่อจัดโปรแกรมการอบรมท่ีเหมาะสมในการพัฒนาแรงงานและ ความเป็นมอื อาชพี ไดแ้ ก่ สถาบนั การบรหิ ารรฐั กจิ แห่งชาติ (National Institute of Public Administration: INTAN), (Institute Latihan Kehakiman dan Perundangan: ILKAP), (Institute Diplomasidan Hubungan Luar Negeri: IDHL), (Institute Kefahaman Islam Malaysia: IKIM) และอน่ื ๆ โดย INTAN จะเปน็ สถาบนั ทมี่ บี ทบาทส�ำคญั ในการอบรมข้ันพ้ืนฐานส�ำหรบั ขา้ ราชการ การอบรมเพอื่ การพฒั นาในการเลอื่ นต�ำแหนง่ (Career Promotion) การอบรมเพื่อการพัฒนาในการเลื่อนต�ำแหน่งเป็นวิธีการเตรียม ความพรอ้ มใหแ้ กข่ า้ ราชการในระดบั ตา่ งๆ เพอ่ื ใหข้ า้ ราชการมที กั ษะและ ความสามารถพร้อมท่ีจะเลื่อนขึ้นไปสู่ต�ำแหน่งที่สูงขึ้น ซึ่งสามารถสรุป แนวทางการพฒั นาได้ดงั นี้ 1. การอบรมส�ำหรับผู้บริหารระดับสูง มีการส่งผู้บริหารระดับสูง ไปศึกษาต่อด้านการบริหารจัดการ ที่ Harvard Business School, Harvard University, Templeton College และ Oxford 2. การประชมุ สัมมนา โดยมงุ่ จะพฒั นาความร้ดู า้ นการจดั การ 3. การอบรมส�ำหรบั การเลือ่ นข้ึนสู่ต�ำแหน่งทสี่ �ำคญั 4. โปรแกรมการอบรมดา้ นอตุ สาหกรรมและเทคนิค 5. โปรแกรมหลังจบการศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกทั้งใน และตา่ งประเทศ ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรฐั มาเลเซีย 151
6. โปรแกรมการบริหารจัดการส�ำหรบั ผบู้ รหิ าร การมงุ่ ส่ผู ลลพั ธเ์ พ่ือเพ่มิ ผลการปฏิบัติงาน ในส่วนของการประเมินต่างๆ ที่หน่วยงานข้าราชการพลเรือน (Public Service Department: PSD) ก�ำหนดแก่ข้าราชการมาเลเซยี มีดังน้ี 1. การก�ำหนดตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน (Key Performance Indicator - KPIs) ส�ำหรับข้าราชการระดับสูง เพื่อเป็นการวัดผล การปฏิบัติงานหลังจากท่ีได้ผ่านการอบรม นอกจากน้ี ยังได้ก�ำหนด KPIs ส�ำหรบั หวั หนา้ แผนกในการใหค้ วามส�ำคญั ในการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพ ขา้ ราชการ 2. การประเมินขีดความสามารถ เพ่ือที่จะได้มั่นใจว่าผู้เข้ารับ การอบรมสามารถน�ำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาความสามารถ โดยรัฐบาล ได้เริ่มประเมินขีดความสามารถตั้งแต่วันท่ี 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 โดยมจี ดุ ประสงค์ ดังน้ี w เพอ่ื กระต้นุ การพฒั นาตัวเอง w เพื่อกระตุ้นการใชค้ วามรู้ ทกั ษะ และความคดิ สร้างสรรค์ w เพอื่ สรา้ งการท�ำงานเปน็ ทีม w เพ่อื สรา้ งองคก์ ารแหง่ การเรียนรู้ w เพอื่ ผสมผสานการพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ยผ์ า่ นขดี ความสามารถ w เพอื่ ใช้ในการปรับเงินเดอื น และการเลื่อนต�ำแหนง่ w เพื่อสรา้ งภาครฐั ให้มผี ลการปฏบิ ตั ิงานทด่ี เี ยี่ยม 152
การประเมนิ ขดี ความสามารถซงึ่ มที ง้ั การประเมนิ ขดี ความสามารถทวั่ ไป และขีดความสามารถในงาน จะมีกิจกรรมการประเมินที่แตกต่างกัน เช่น การประเมินขีดความสามารถท่ัวไปจะมีการสอบข้อเขียนและ การมอบหมายงาน การประเมินความสามารถในงานจะมีการสอบ ข้อเขียน การบริหารงาน และบุคลิกภาพ ผลการประเมินจะแบ่งเป็น เกรด A = ยอดเย่ียม (Excellence) B = ดี (Good) C = น่าพอใจ (Satisfaction) D = ปานกลาง (Fair) และแบ่งเป็นระดับดังนี้ ระดบั 4 = ผา่ น และมีขดี ความสามารถในระดบั ยอดเยยี่ ม 3 = ผา่ น และมขี ดี ความสามารถในระดับสงู 2 = ผา่ น แตม่ เี งอ่ื นไข 1 = ไมผ่ า่ น การที่จะเล่ือนต�ำแหน่งได้นั้นผลการประเมินต้องอยู่ในระดับ 3 ขึ้นไป หากต�่ำกว่าน้ันการเล่ือนต�ำแหน่งอาจต้องมีเง่ือนไขอื่น เช่น หากผล การประเมินเท่ากัน ผู้ที่อาวุโสอาจมีโอกาสได้เล่ือนต�ำแหน่ง กรรมการ ท่ีท�ำหน้าท่ีในการเล่ือนต�ำแหน่งข้าราชการ ได้แก่ ผู้อ�ำนวยการ กรมบริการสาธารณะ เลขาธิการกรมคลังและหัวหน้าส�ำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี ในเดอื นกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2554 ไดม้ ีการเปลย่ี นจากการประเมิน ขดี ความสามารถเปน็ การประเมนิ แบบ 360 องศา [24]เนอ่ื งจากพบจดุ ออ่ น ของการประเมินขีดความสามารถ เช่น การต้ังข้อสงสัยในผู้ที่ผ่าน การประเมนิ เชน่ มขี า้ ราชการบางกลมุ่ ทไี่ มผ่ า่ นการประเมนิ แตเ่ ปน็ ผทู้ มี่ ี ประสทิ ธภิ าพ และยงั ไดร้ บั รางวลั ยอดเยย่ี มดา้ นการบรกิ าร แตไ่ มส่ ามารถ เล่อื นต�ำแหนง่ ได้เพราะไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ การประเมินอาจไมไ่ ด้ เชื่อมโยงกับงานที่ท�ำ นอกจากน้ีการประเมินขีดความสามารถ ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรัฐมาเลเซยี 153
จะท�ำการประเมินปีละ 2 ครั้ง ซ่ึงเกิดความยุ่งยากและการรอผล การประเมินขดี ความสามารถใช้เวลานาน เปน็ ต้น 6.3 หน่วยงานท่รี ับผดิ ชอบด้านการพัฒนาขา้ ราชการ การพัฒนาข้าราชการภาครัฐเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรมนุษย์ (The Ministry of Human Resource: MOHR) หน่วยงานข้าราชการพลเรอื น (Public Service Department: PSD) ภายใตก้ ารก�ำกบั โดยส�ำนกั นายกรฐั มนตรี (The Prime Minister’s Office) กระทรวงศกึ ษาธิการ (The Ministry of Educations: MOE) กระทรวงศึกษาธิการช้ันสูง (The Ministry of Higher Education: MOHE) กระทรวงการพัฒนาส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น (The Ministry of Rural and Regional Development: MRRD) กระทรวงเยาวชน และการกฬี า (The Ministry of Youth and Sports: MOYS) กระทรวง การคา้ และอตุ สาหกรรม (The Ministry of Trade and Industry: MITI) และกรมสถติ ิ (Department of Statistics (DOS) ดงั ภาพท่ี 8 โดยหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลทรัพยากรบุคคลในส่วนของภาครัฐ จะรบั ผิดชอบโดยหนว่ ยงานข้าราชการพลเรือนเปน็ หลกั หนว่ ยงานขา้ ราชการพลเรอื น (PSD) มวี สิ ยั ทศั น์ คอื การเปน็ องคก์ าร ยอดเยย่ี มในดา้ นการวางแผน การพฒั นา และการจดั การทรพั ยากรมนษุ ย์ ส่วนเป้าหมายหลักของ PSD คือ การพัฒนา การอบรมข้าราชการ 154
เพอ่ื สนองนโยบายของรฐั บาลไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและบรรลเุ ปา้ หมาย นอกจากนี้ PSD ยังรบั ผิดชอบในการโยกย้าย สบั เปล่ยี นบุคลากรภาครฐั การบรหิ ารเงนิ บ�ำนาญและสวสั ดกิ ารหลังเกษยี ณ [41] คณะกรรมการดา้ นการพฒั นาการวางแผน (Narional Developmcnt Planning Committee) การวางนโยบาย (Policy Making) หนว่ ยวางแผนดา้ นเศรษฐกจิ (Economic Planning Unit) การวางแผน การประสานงาน และ ติดตามผล (Planning, Coordinating, & Monitoring) หนว่ ยงานจัดหาบคุ ลากร หน่วยงาน สนบั สนนุ หน่วยงานวางแผนบุคลากร หนว่ ยงานวางแผนบุคลากร (HR Providers) (Suppcrting agencies) ส�ำหรับภาครฐั บาล ส�ำหรบั ภาคเอกชน MOE MITI (HR Planning for MOHE DOS (HR Planning for public privatesector) MOHR sector) MRRD กระทรวงทรัพยากรมนุษย์ MOYS กรมบรกิ ารสาธารณะ (Ministry of Human (Public Serviee Department: PSD) Resource) บุคลากรท่ีตอ้ งการ (HR requiremcnt at agency lcvel) หน่วยงานของรัฐ (Public sector agencies) ภาพที่ 8 หนว่ ยงานท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการพฒั นาขา้ ราชการภาครฐั ที่มา: Ghazali, 2011 quoted in Ismail and Osman-Gani, 2011: 43 ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรฐั มาเลเซยี 155
ส�ำหรบั หนา้ ทห่ี ลกั ของหนว่ ยงานขา้ ราชการพลเรอื น (Public Services Department: PSD) ทเี่ ก่ยี วกบั การพัฒนาขา้ ราชการภาครัฐ ไดแ้ ก่ 1. นโยบายการสรรหา การแตง่ ตัง้ การเลอ่ื นต�ำแหน่ง กฎระเบยี บ และการเลิกจา้ ง 2. จดั ระบบโครงสร้างและอัตราก�ำลงั ในทุกส่วนของภาครฐั 3. นโยบายการจ่ายค่าตอบแทน และส่ิงอ�ำนวยความสะดวก แก่บุคลากรในภาครฐั 4. เจรจาต่อรองกับผเู้ สยี หายทเ่ี รยี กรอ้ งตอ่ ภาครฐั 5. จดั การอบรมส�ำหรบั บุคลากรในภาครฐั 6. การจัดการด้านกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ตลอดจน เงินบ�ำนาญและสวัสดกิ ารหลงั เกษยี ณ 156
7 กฎหมายส�ำ คญั ที่ควรรู้ ระบบบริหารราชการของสหพนั ธรัฐมาเลเซยี 157
7.1 กฎระเบียบข้าราชการ คณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื นมาเลเซีย หรอื Public Services Commission (PSC) ได้ถูกก่อตัง้ ขึ้นเมอ่ื วันท่ี 31 สงิ หาคม พ.ศ. 2500 ซงึ่ เปน็ วนั เดยี วกบั วนั ชาตขิ องมาเลเซยี ทไ่ี ดป้ ระกาศเอกราชจากประเทศ องั กฤษอยา่ งเป็นทางการ ส�ำหรับรัฐธรรมนูญของประเทศมาเลเซียในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 15 ตอน รวมท้ังส้ิน 181 มาตราดังนี้ [48] ตอน 1 รัฐต่างๆ ศาสนา และกฎหมายสหพนั ธรฐั ตอน 2 เสรีภาพขน้ั พ้ืนฐาน ตอน 3 สัญชาติ ตอน 4 สหพันธรฐั ตอน 5 รฐั ต่างๆ ตอน 6 ความสมั พันธ์ระหวา่ งสหพนั ธรัฐกับรฐั ตา่ งๆ ตอน 7 งบประมาณ ตอน 8 การเลือกตงั้ ตอน 9 ศาล ตอน 10 ขา้ ราชการพลเรือน ตอน 11 อ�ำนาจของผ้ปู กครองสงู สุด ตอน 12 บททว่ั ไป ตอน 14 สถานภาพของเจ้าผู้ครองรัฐ ตอน 15 การรักษาอ�ำนาจอธิปไตย 158
จากรัฐธรรมนูญข้างต้น กฎระเบียบข้าราชการได้ถูกบัญญัติไว้ ในตอนท่ี 10 ของรฐั ธรรมนูญมาเลเซยี โดยมีวตั ถปุ ระสงคก์ ารบังคบั ใช้ ตามมาตราที่ 132 ดังนี้ [48] 1. วตั ถปุ ระสงคข์ องรัฐธรรมนญู ในหมวดขา้ ราชพลเรือน เพอื่ (ก) บังคับทางการทหาร (ข) บริการพิจารณาคดตี ามกฎหมาย (ค) ข้าราชการพลเรอื นท่ัวไปของสหพนั ธรฐั (ง) ขอ้ บังคับต�ำรวจ (จ) บรกิ ารทางรถไฟ (ช) ข้าราชการพลเรือนตามมาตรา 133 (ซ) ขา้ ราชการพลเรือ่ นในแตล่ ะรัฐ และ (ฎ) บริการด้านการศกึ ษา 2. ข้อยกเว้นท่ีระบุไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ คุณสมบัติ ในการแตง่ ตงั้ และเงอื่ นไขในการใหบ้ รกิ ารประชาชนของขา้ ราชการพลเรอื น นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในวรรค (ซ) ของข้อ (1) ซ่ึงจะถูกควบคุม โดยกฎหมายของรฐั บาลกลางและภายใตบ้ ทบญั ญตั ขิ องกฎหมายดงั กลา่ ว โดย สมเด็จพระราชาธิบดี (Yang di-Pertuan Agong) และคุณสมบตั ิ ในการแต่งตั้งและข้อก�ำหนดในการให้บริการประชาชนของข้าราชการ พลเรอื นรฐั ใดๆ จะถกู ควบคมุ โดยกฎหมายแหง่ รฐั และภายใตบ้ ทบญั ญตั ิ ของกฎหมายดังกลา่ ว โดยผวู้ า่ การรฐั (Yang di-Pertua Negeri) (2ก) ข้อยกเว้นที่ระบุไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญส�ำหรับบุคคล ท่ีเป็นสมาชิกของข้าราชการที่ให้บริการประชาชน ที่กล่าวถึง ระบบบรหิ ารราชการของสหพนั ธรัฐมาเลเซยี 159
ในวรรค (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) (ช) และ (ฎ) ของข้อ (1) จะอยู่ภายใต้ การดูแลของสมเด็จราชาธิบดี (Yang di-Pertuan Agong) ยกเว้น ข้าราชการพลเรือนในแตล่ ะรัฐตามวรรค (ซ) ของข้อ (1) จะอยภู่ ายใต้ การดแู ลของผ้วู ่าการรัฐ (Yang di-Pertua Negeri) 3. ข้าราชการพลเรอื นจะไม่สังกดั ในส่วนประกอบดงั ต่อไปน้ี (ก) ส�ำนกั งานบรหิ ารในสหพนั ธรัฐหรอื รัฐ หรือ (ข) ส�ำนักนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาการแทนประธานาธิบดี สมาชกิ ของสภาผแู้ ทนราษฎร และสภานติ บิ ญั ญตแิ หง่ รฐั หรอื (ค) ศาลฎกี า หรอื (ง) ส�ำนักงานสมาชิกคณะกรรมการ หรือคณะกรรมการ ท่ีจดั ตง้ั ขึน้ ตามรฐั ธรรมนญู หรือ (จ) การทูต 4. การอ้างอิงในส่วนนี้ จะยกเว้นไว้ในมาตรา 136 และ 147 ใหแ้ กบ่ คุ คลทเี่ ปน็ ขา้ ราชการพลเรอื นหรอื ทกุ คนทเ่ี ปน็ สมาชกิ ของขา้ ราชการ พลเรือนที่ไมค่ วรน�ำไปเกย่ี วขอ้ ง (ก) พนักงานในสภาผู้แทนราษฎรหรอื สมาชกิ ของรฐั สภา (ข) อัยการสูงสุด (ค) สมาชิกท่ีเป็นพนักงานส่วนบุคคลของสมเด็จราชาธิบดี (Yang di-Pertuan Agong) และผู้ว่าการรัฐ (Yang di Pertua Negeri) (ง) ในกรณขี องมะละกาและปนี งั ถกู จดั ท�ำโดยกฎหมายของรฐั ส�ำหรับการแต่งตงั้ ต�ำแหนง่ 160
(จ) ประธานกรมการศาสนา (ช) เลขานกุ ารกรมการศาสนา (ซ) ดะโตะ๊ ในศาสนาอสิ ลาม (ฎ) ผตู้ ัดสนิ ความ (กาดี เบซาร)์ หรือ (ฏ) ผูต้ ดั สินความ (กาด)ี คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนมาเลเซีย (PSC) ได้ถูกก่อต้ังข้ึน ตามมาตรา 144 (1) ของรฐั ธรรมนญู สหพนธรฐั มาเลเซยี ภายใตบ้ ทบญั ญตั ิ ของกฎหมายและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญนี้ ได้ก�ำหนดหน้าที่ ของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนมาเลเซีย (PSC) ในการแต่งต้ัง การยืนยัน การสร้างข้อก�ำหนดบทลงโทษทางวินัย การเล่ือนต�ำแหน่ง เงนิ บ�ำนาญเกษยี ณอายุ การโอนย้ายของสมาชิกขา้ ราชการพลเรอื น ส�ำหรบั บทบาทและหนา้ ทหี่ ลกั ของคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น มาเลเซีย (PSC) ภายใต้มาตรา 144 (1) ประกอบด้วย 6 หน้าท่ีหลัก ดงั นี้ [47] 7.1.1 การบรรจุ แต่งต้งั และการสรรหา (Appointment and Recruitment) คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนมาเลเซีย (PSC) มีหน้าท่ี ในการจัดการบุคลากรทั้งประจ�ำและช่ัวคราว หรือสัญญาจ้าง ในส่วนข้าราชการพลเรือน รวมท้ังอ�ำนาจหน้าที่ในการยุติการจ้าง ของบุคลากรในส่วนข้าราชการพลเรือนให้เป็นไปตามค�ำสั่ง นอกจากนี้ ระบบบริหารราชการของสหพนั ธรัฐมาเลเซีย 161
คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนยังมีอ�ำนาจเช่นเดียวกับกระทรวง และหน่วยงานสหพนั ธรฐั ในด้านนโยบายการรับสมัครข้าราชการพลเรือนของมาเลเซีย คือ การดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถสูงในภาครัฐ นโยบาย และขั้นตอนการรับสมัครท่ีระบุไว้ในค�ำส่ังท่ัวไป (การนัดหมายและ การเลื่อนข้ัน) แห่งปี พ.ศ. 2516 ส�ำหรับลักษณะเด่นของนโยบาย การรับสมัคร ไมว่ า่ จะเปน็ การจา้ งแบบถาวรหรอื ช่ัวคราวจะตอ้ งมาจาก พลเมืองของประเทศมาเลเซีย และมีคุณสมบัติเป็นไปตามโครงการ รบั สมคั ร ซึ่งมีข้อก�ำหนดของกระบวนการคดั เลอื ก ดงั นี้ [41] 1. การเรมิ่ ตน้ คัดเลอื ก (Initial Screening) เป็นกระบวนการแรกท่ีมีความส�ำคัญมากในการคัดเลือกผู้สมัคร ผ่านช่องทางการสมัครแบบออนไลน์ ทั้งนี้ผู้สมัครจะถูกคัดกรอง ตามความเหมาะสมของคุณสมบตั ิ 2. การสอบ (Examination) การคัดกรองผู้สมัครขั้นตอนต่อมาเป็นการทดสอบที่ประกอบด้วย ความรทู้ ว่ั ไป ทกั ษะการแกป้ ญั หาและทกั ษะดา้ นภาษาดว้ ยแบบทดสอบ บคุ ลกิ ภาพและขอ้ สอบวัดความถนดั 3. การประเมินสมรรถนะ (Competency Assessment) ผสู้ มคั รทผ่ี า่ นการสอบแลว้ จะถกู ประเมนิ สมรรถนะ ซงึ่ สมรรถนะหลกั จะถูกประเมินจากความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skill) และทัศนคติ (Attitude) 4. การสัมภาษณ์ (Interview) 162
การประเมนิ ดว้ ยการสมั ภาษณจ์ ะเปน็ เครอ่ื งมอื สดุ ทา้ ยของการประเมนิ ศักยภาพโดยรวมของผู้สมัคร และเพ่ือตรวจสอบศักยภาพโดยรวม ของผู้สมัครในด้านความรู้ ทักษะ และบุคลิกภาพ การสัมภาษณ์ จะท�ำให้ตัดสนิ ได้ว่าผ้สู มัครเหมาะสมกับงานน้หี รอื ไม่ 7.1.2 การยนื ยนั การใหบ้ รกิ าร (Confirmation of Service) คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนมาเลเซีย (PSC) มีอ�ำนาจในการ ตรวจสอบบุคลากรในสว่ นของข้าราชการพลเรอื น ในการขยายช่วงเวลา การทดลองหรือยุติการให้บริการ เน่ืองจากความล้มเหลวที่จะได้รับ ของการให้บริการ ซ่ึงจะได้รับอ�ำนาจจากกระทรวงและหน่วยงาน รฐั บาลกลาง เช่นเดยี วกับการบริหารจดั การของรัฐบาลแห่งรัฐ 7.1.3 การหารือเรอื่ งรปู แบบของบ�ำ เหนจ็ บ�ำ นาญ และค่าตอบแทน (Conferment into Pension Status and Remuneration) ข้าราชการมาเลเซียทุกประเภทจะมีวันเกษียณอายุตามวันเกิด เม่ืออายุครบ 55 ปี หากมีความจ�ำเป็นจะต้องให้ข้าราชการผู้น้ัน ปฏิบัติงานต่อ อาจจ้างผู้นั้นด�ำรงต�ำแหน่งต่อไป โดยท�ำสัญญาจ้าง เปน็ รายปี แตไ่ ม่เกนิ อายุ 60 ปี และหน่วยงานขา้ ราชการพลเรือน (PSD) เปน็ หนว่ ยงานทท่ี �ำหนา้ ทคี่ วบคมุ การเกษยี ณอายขุ องขา้ ราชการมาเลเซยี ระบบบริหารราชการของสหพนั ธรฐั มาเลเซีย 163
และมีระบบฐานข้อมูลข้าราชการในการบริหารทรัพยากรบุคคล อย่างมีประสิทธิภาพ จึงไม่ประสบปัญหาเร่ืองการวางแผนก�ำลังคน การสรรหา และการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการแทนผู้ท่ีเกษียณอายุ ราชการ [9] ส�ำหรับประเภทการเกษียณอายุข้าราชการประเทศมาเลเซีย มรี ะเบยี บ ดังนี้ 1. การเกษียณอายุราชการแบบปกติ ข้าราชการทั้งหญิงและชาย จะเกษยี ณอายรุ าชการในวนั เกดิ ทมี่ อี ายคุ รบ 56 ปี การเกษยี ณอายรุ าชการ แบบทางเลอื ก หนว่ ยงานขา้ ราชการพลเรอื น (PSD) ก�ำหนดใหข้ า้ ราชการ มาเลเซยี สามารถเลอื กเกษยี ณอายุ แบบทางเลอื กไดน้ นั้ ตอ้ งมอี ายตุ งั้ แต่ 40 ปีข้ึนไป โดยสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมโครงการบ้านแบ่งเช่าหรือ พนักงานกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพโครงการ 2. การเกษยี ณอายรุ าชการแบบไมส่ ามารถปฏบิ ตั งิ านได้ อาจตอ้ งยตุ ิ การท�ำงานหากมีเหตุหรือกรณีต่างๆ เช่น มีความผิดปกติทางร่างกาย หรือจติ ใจ ในสว่ นของการแตง่ ตงั้ ขา้ ราชการเพอ่ื ด�ำรงต�ำแหนง่ ทม่ี กี ารเกษยี ณอายุ มีระเบียบดงั น้ี 1. ข้าราชการท่ีเกษียณอายุตามวันเกิดมิได้มีจ�ำนวนมากนัก ท�ำให้ สามารถควบคมุ การแตง่ ตง้ั ขา้ ราชการสตู่ �ำแหนง่ ทวี่ า่ งลงได้ โดยประเทศ มาเลเซยี มีระบบการแต่งตั้งขา้ ราชการส่ตู �ำแหน่งท่ีวา่ งลง 2 ระบบ ไดแ้ ก่ ระบบเปดิ เป็นการย้ายข้าราชการจากหน่วยงานหน่ึงไปอีก หนว่ ยงานหนึง่ 164
ระบบปิด เป็นระบบท่ีใช้กับงานด้านบริการ ดังนั้นการย้ายระบบ กระทรวงจึงเป็นไปได้ยาก จ�ำเป็นต้องมีการวางแผนก�ำลังคนท่ีดี และ สามารถรองรบั ต�ำแหนง่ ท่วี ่างลงได้ 2. การย้ายข้าราชการนั้นจ�ำเป็นต้องมีระบบฐานข้อมูลท่ีดีและ มปี ระสทิ ธภิ าพสามารถแสดงใหเ้ หน็ ลว่ งหนา้ วา่ ในวนั หนง่ึ จะมขี า้ ราชการ ท่ีจะเกษียณอายุจ�ำนวนเท่าใด และมีใครท่ีควรจะได้รับการแต่งตั้ง เขา้ สูต่ �ำแหน่งท่วี ่างลงได้ 3. ผลตอบแทนการเกษียณอายุท่ีจ่ายให้แก่บุคลากรภาครัฐ ได้แก่ 1) บ�ำเหน็จ 2) เงินบ�ำนาญรายเดือนตลอดชีวิต 3) การได้รับรางวัล เงินสดแทนการปล่อยให้สะสม เงินจ่ายเหล่าน้ีจะมอบให้แก่พนักงาน เมื่อออกจากบ�ำนาญ ส�ำหรับผู้ท่ีเกษียณตัวเลือกเพียงบ�ำเหน็จและ เงนิ รางวลั แทนการออกสะสมจะไดร้ บั เงนิ เมอ่ื ออกจากงานเมอ่ื บรรลอุ ายุ 45 ส�ำหรบั หญิง และ 55 ส�ำหรบั ชาย ผ้ดู �ำรงต�ำแหน่งใหม่ในการบริการ สาธารณะในวันท่ีหรือหลังวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2534 จะได้รับเงิน บ�ำนาญเมอื่ อายุ 55 ปี และเมอื่ มกี ารเสยี ชวี ติ องผรู้ บั บ�ำนาญ เงนิ บ�ำนาญ ท่ียังเหลืออยู่จะอุปการะ แม่ม่ายหรือพ่อม่ายที่มีสิทธิ และเด็กที่มีสิทธิ ถกู ตอ้ งตามข้อก�ำหนด ในส่วนค่าตอบแทนของข้าราชการ ประกอบด้วย เงินเดือนคงท่ี และมีการช�ำระเงินท่ีแปรสภาพได้หลายรูปแบบ เช่น ท่ีอยู่อาศัย และ คา่ ตอบแทนฉกุ เฉนิ ข้าราชการยงั มีสทิ ธปิ ระโยชน์ต่างๆ เชน่ การรักษา ทางการแพทย์ โรงพยาบาล และสวสั ดิการในกรณีฉกุ เฉิน เช่น ไฟไหม้ และสถานีต�ำรวจ วัตถุประสงค์ของการจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าว ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรฐั มาเลเซีย 165
เพ่ือให้มั่นใจว่าสมาชิกของบริการสาธารณะได้รับค่าจ้างท่ีเป็นธรรม และเหมาะสมเปน็ คา่ ตอบแทนในการปฏิบัตหิ นา้ ที่ 7.1.4 การเลอ่ื นตำ�แหนง่ (Promotion) ระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานถูกน�ำมาใช้ในการก�ำหนด ความก้าวหน้า เงนิ เดอื นประจ�ำปี และการเลือ่ นขน้ั ระบบนี้จะแนะน�ำ การประเมินผลอย่างเป็นระบบมากข้ึน และมีความน่าเชื่อถือเพราะมี องค์ประกอบน้อย ระบบนี้จะให้น้�ำหนักมากขึ้นในแง่มุมที่แตกต่างกัน ส�ำหรบั กลมุ่ บรกิ ารทแ่ี ตกตา่ งกนั ดา้ นตา่ งๆ ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ มีดงั นี้ (ก) ผลงานตามความรู้ คุณภาพการท�ำงาน ความตรงต่อเวลา ความสามารถในการจัดการ และการตดั สินใจ (ข) คา่ นิยมท่ีดี เชน่ ความซอ่ื สัตย์ และความน่าเชื่อถือ (ค) ศักยภาพในการเป็นผนู้ �ำ และ (ง) เปา้ หมายประจ�ำปตี ามทต่ี กลงกนั โดยทงั้ สองฝา่ ยทมี่ กี ารประเมนิ และรายงานเจ้าหน้าท่ีภายใต้ระบบค่าตอบแทนใหม่ หรือ New Remuneration Systems - NRS) ผู้อาวุโสในข้าราชการพลเรือน จะไมไ่ ดร้ บั การใหค้ วามส�ำคญั สงู สดุ กระบวนการคดั เลอื กส�ำหรบั เจา้ หนา้ ที่ ที่จะได้รบั การเลือ่ นขั้น รวมถึงการประเมนิ คุณภาพ เชน่ ความเปน็ ผนู้ �ำ นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ท่ีนอกเหนือไปจากคุณสมบัติเดิม มปี ระสบการณ์ การฝกึ อบรม การประเมนิ ผล การรายงานผลการปฏบิ ตั งิ าน ทห่ี ลกั สตู รการจดั การบงั คบั ด�ำเนนิ การในสถาบนั การบรหิ ารรฐั กจิ แหง่ ชาติ 166
หรือ National Institute of Public Administration - INTAN) และ การสมั ภาษณ์ การเลอื่ นขน้ั จากทหี่ นง่ึ ไปยงั อกี ขน้ั จะขน้ึ อยกู่ บั ความพรอ้ ม ของต�ำแหน่งงานว่าง แต่อย่างไรก็ตาม ส�ำหรับนักวิจัย คณาจารย์ มหาวทิ ยาลยั และผเู้ ชยี่ วชาญทางการแพทยแ์ ละทนั ตกรรม การด�ำเนนิ งาน ของการเลอ่ื นขน้ั จะด�ำเนนิ การตามขน้ั ตอนทรี่ ะบไุ วใ้ นโครงการทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ในการให้บริการ คือ 1. การพิจารณาของคณะทมี่ ตี ัวแทนจากกรมบรกิ ารประชาชน 2. การใชร้ ะบบการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานตามทรี่ ะบไุ ว้ขา้ งต้น 7.1.5 การโอนยา้ ย (Transfer) คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนมาเลเซีย (PSC) มีอ�ำนาจ ในการโอนย้ายเจ้าหน้าท่ีประจ�ำในสังกัดข้าราชการพลเรือนไปยัง หนว่ ยงานหรอื โครงการอน่ื ๆ ทอ่ี ยใู่ นระดบั เดยี วกนั นอกจากนย้ี งั มอี �ำนาจ ในการโอนเจ้าหน้าที่ประจ�ำไปด�ำรงต�ำแหน่งแทนพนักงานช่ัวคราวหรือ สัญญาจา้ งไดเ้ ชน่ กัน 7.1.6 การควบคุมระเบยี บวินยั (Exercise Disciplinary Control) การด�ำเนินการทางวินัยเป็นมาตรฐาน และการสร้างให้ข้าราชการ มแี นวทางประพฤตปิ ฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ ไปในทศิ ทางเดยี วกนั โดยไดก้ �ำหนดโทษ ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรัฐมาเลเซยี 167
ทางวินัยไว้ 3 สถาน คือ 1) การตักเตือน 2) การไม่ข้ึนเงินเดือน 3) การไล่ออกการด�ำเนินการลงโทษทางวินัยจะข้ึนอยู่กับความร้ายแรง ของการกระท�ำนั้นๆ ซึ่งการด�ำเนินการทางวินัย 3 สถาน มีนัยถึง ความเดด็ ขาดของการบังคบั ใชก้ ฎหมาย 7.2 กฎหมายแรงงาน พระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิประโยชน์คนงาน พ.ศ. 2495 (Workman’s Compensation Act 1952) ระบุว่า แรงงานต่างชาติ ได้รบั ความคมุ้ ครองภายใตพ้ ระราชบญั ญตั ฯิ นี้เชน่ เดยี วกบั ชาวมาเลเซีย โดยประเทศมาเลเซียจะก�ำหนดให้นายจ้างท�ำประกันให้กับแรงงาน โดยมคี า่ เบยี้ ประกนั 86 รงิ กติ ตอ่ ปี ซงึ่ จะไดร้ บั ผลประโยชนจ์ ากเงนิ ประกนั และการจา่ ยเงินทดแทนในลกั ษณะต่างๆ ดงั นี้ [17] 1. กรณีเสียชีวิต (รวมถึงการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุนอกเวลาท�ำงาน แตไ่ มร่ วมการเสยี ชวี ติ ตามธรรมชาติ การฆา่ ตวั ตาย และการตายเนอ่ื งจาก เสพยาเสพติด) ได้รับค่าทดแทนไม่เกิน 18,000 ริงกิต หรือ 60 เท่า ของเงินเดอื น แลว้ แต่จ�ำนวนใดจะตำ่� กวา่ 2. กรณบี าดเจบ็ w พิการทุพพลภาพจนไม่สามารถท�ำงานได้ หรือเป็นอัมพาต ไดร้ ับคา่ ทดแทนไม่เกนิ 23,000 รงิ กิต 168
w พกิ ารบางส่วนคดิ เปน็ สัดสว่ นตามสภาพความพกิ าร ไดร้ บั เงิน ทดแทนสูงสุดไมเ่ กนิ 20,000 ริงกิต w ทุพพลภาพชั่วคราว ได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 183 ริงกิต หรือ 1 ใน 3 ของค่าจา้ งรายเดือน แล้วแตจ่ �ำนวนใดจะตำ่� กวา่ w คา่ รกั ษาพยาบาล ในวงเงนิ ไมเ่ กนิ 520 รงิ กติ ตอ่ ครง้ั (คา่ รกั ษา พยาบาล คา่ ผ่าตดั ค่าเอก็ ซเรย์ คา่ ฉายรงั สี และอืน่ ๆ) 3. การสง่ คนงานกลบั ประเทศภูมิล�ำเนา w กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จะได้รับสิทธิประโยชน์ 48,000 รงิ กติ 4. สิทธปิ ระโยชน์จากการประสบอุบตั ิเหตุนอกเวลาท�ำงาน w กรณีถึงแก่ชีวิตและทุพพลภาพถาวร ได้รับเงินค่าชดเชย 20,000 รงิ กิต การพิจารณาสิทธิประโยชน์ตามพระราชบัญญัติการคุ้มครอง สิทธิประโยชน์คนงาน พ.ศ. 2495 ส�ำนักงานแรงงานประจ�ำรัฐ จะเป็นผู้พิจารณาตามค�ำวินิจฉัยของแพทย์ และตรวจสอบกับแรงงาน ประกอบการพิจารณา และใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 เดือน โดยท่ีส�ำนักงานแรงงานประจ�ำรัฐส่ังให้บริษัทประกันจ่ายเงินทดแทน ใหแ้ กแ่ รงงานทไ่ี ดร้ บั บาดเจบ็ โดยตรง แตใ่ นกรณนี ายจา้ งไมไ่ ดท้ �ำประกนั ให้แรงงาน ส�ำนักงานแรงงานประเทศมาเลเซียจะบังคับให้นายจ้าง เปน็ ผ้จู ่ายเงินค่าทดแทนนัน้ ๆ ระบบบรหิ ารราชการของสหพนั ธรฐั มาเลเซยี 169
7.2.1 บทลงโทษแรงงานท่ไี ม่มีใบอนญุ าตท�ำ งาน การเข้าไปท�ำงานในประเทศมาเลเซียทุกอาชีพและทุกประเภท จะต้องได้รับอนุญาตท�ำงาน (Work Permit) โดยจะประทับตรา การอนญุ าตท�ำงานในหนงั สอื เดนิ ทาง ซง่ึ หากถกู ตรวจพบวา่ เขา้ มาท�ำงาน โดยไม่มีใบอนุญาตท�ำงานจะถูกจับกุมและด�ำเนินคดีในข้อหาใช้วีซ่า หรือเข้าเมืองผิดประเภท มีโทษจ�ำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับตามระยะเวลา ของโทษ คือ 6 เดือน - 1 ปี ปรบั 2,100 ริงกิต มากกว่า 2 - 6 ปี ปรบั 3,000 รงิ กิต (สงู สุด) หรอื ทงั้ จ�ำท้งั ปรบั [17] 7.2.2 วันหยดุ ตามพระราชบัญญตั ิแรงงาน พ.ร.บ. แรงงานก�ำหนดให้ใน 7 วนั คนงานสามารถมีวันหยุดได้ 1 วัน สว่ นวันหยดุ ท่สี องถอื ว่าเป็นวนั หยุดภายใต้ พ.ร.บ. แรงงานปี พ.ศ. 2498 มาตรา 59 (1) พ.ร.บ. แรงงาน มาตรา 60 (D) ปี พ.ศ. 2498 ได้ก�ำหนดใหม้ ีวนั หยดุ 10 วนั โดยไดร้ บั เงนิ คา่ จา้ ง 4 วนั ก�ำหนดโดย พ.ร.บ. และอกี 6 วนั ทเี่ หลอื ก�ำหนดโดยนายจ้าง วนั หยดุ ดงั กล่าวน้ี คือ 1. วนั ชาติ 2. วนั เกิดพระราชาธิบดี 3. วันเกิดสุลต่านหรือผู้ว่าการรัฐที่แรงงานท�ำงานเต็มเวลาหรือ เวลาสว่ นใหญ่ในรฐั น้นั ๆ 170
4. วันสหพันธรัฐส�ำหรับแรงงานเต็มเวลาหรือเวลาส่วนใหญ่ ในดนิ แดนสหพันธรัฐ (กัวลาลัมเปอร์ ปตุ ราจายา ลาบวน) 5. วนั แรงงาน 6. หากวนั หยดุ วนั หนงึ่ วนั ใดใน 10 วนั นเ้ี ปน็ วนั หยดุ ปกติ จะตอ้ งถอื วนั ถดั มาเปน็ วนั หยดุ ทไี่ ดร้ บั คา่ จา้ ง และถา้ วนั หยดุ ทไี่ ดร้ บั คา่ จา้ ง ตรงกับวันหยุดประจ�ำปีและวันหยุดลาป่วย นายจ้างจะต้องให้ วันหยุดอื่นเพอ่ื ทดแทนวนั หยดุ (Cuti Umum) แก่แรงงาน 7. วันหยุดประจ�ำปีตามมาตรา 60 (E) พ.ร.บ. แรงงาน แรงงาน สามารถหยุดประจ�ำปีทุกๆ 12 เดือนของการปฏิบัติงาน ตดิ ต่อกนั โดย w ลาหยุด 8 วนั ในกรณเี วลาปฏิบตั งิ านนอ้ ยกว่า 2 ปี w ลาหยุด 12 วัน ในกรณเี วลาปฏิบัติงานระหวา่ ง 2 - 5 ปี w ลาหยดุ 16 วัน ในกรณเี วลาปฏิบัติงานมากกวา่ 5 ปี แรงงานต้องใช้เวลาวันหยุดดังกล่าว เมื่อครบเวลา 12 เดือน ของการปฏิบัตงิ าน ในกรณแี รงงานไม่ใชว้ นั ดังกลา่ วเปน็ วนั หยุดแรงงาน จะสูญเวลาของวนั หยดุ ดังกล่าว แต่จากการแก้ไขกฎหมายปี พ.ศ. 2532 แรงงานที่ได้รับค่าทดแทนในกรณีแรงงานยินยอมท�ำงานในวันดังกล่าว โดยการรอ้ งขอของนายจา้ ง ระบบบริหารราชการของสหพนั ธรฐั มาเลเซีย 171
7.2.3 เวลางาน แรงงานไมส่ ามารถท�ำงานไดเ้ กนิ กวา่ 5 ชวั่ โมงตดิ ตอ่ กนั โดยไมห่ ยดุ พกั ไม่น้อยกว่า 30 นาที (ส�ำหรับผู้ท�ำงาน 8 ชั่วโมง เวลาพักไม่น้อยกว่า 45 นาที) นอกจากนี้นายจ้างสามารถเพิ่มเวลาท�ำงานเป็น 12 ชั่วโมง แตไ่ ม่เกิน 48 ชัว่ โมงตอ่ สปั ดาห์ 7.2.4 การท�ำ งานลว่ งเวลา นายจา้ งไมอ่ นญุ าตใหแ้ รงงานท�ำงานมากกวา่ 64 ชว่ั โมงในหนง่ึ เดอื น ค่าจา้ งในวนั ธรรมดาตอ้ งไมน่ อ้ ยกวา่ 1.5 เทา่ ตอ่ คา่ จา้ งในวนั หยุด 7.2.5 ลาป่วย ตาม พ.ร.บ. แรงงาน มาตรา 60 F (1) แรงงานท่ีมีสิทธิลาป่วย ในกรณีได้รับการตรวจจาก 1. ทนั ตแพทย์ 2. แพทยท์ ่ีนายจา้ งจดทะเบยี นไว้ หรอื 3. ในกรณีไม่อาจพบแพทย์ที่นายจ้างจดทะเบียนไว้ ด้วยเหตุจาก เวลาและระยะทาง แรงงานสามารถพบแพทย์ใดๆ ก็ได้ ค่าใช้จ่าย จากการรกั ษาหรอื การตรวจนายจา้ งจะเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบ ใน 1 ปี แรงงาน มสี ิทธ์ิลาปว่ ย 12 - 20 วนั โดยได้รบั คา่ จา้ งตามเงื่อนไขของระยะเวลา การปฏบิ ตั ิงาน 172
7.2.6 การจา่ ยค่าแรง ใน พ.ร.บ. แรงงาน มีค�ำว่าอัตราค่าจา้ ง ซ่งึ หมายถงึ คา่ จา้ งท่นี ายจา้ ง ต้องจา่ ยแก่แรงงานในวนั ตอ่ ไปนที้ �ำงานล่วงเวลา 1. วนั หยดุ (Cuti Umum) 2. ลาปว่ ย 3. ลาคลอด 4. ลาประจ�ำปี 5. ท�ำงานในวันหยุด (Hari Rehat) 6. ท�ำงานในวนั หยุด (Cuti Umum) รัฐบาลมาเลเซียก�ำหนดค่าแรงข้ันต�่ำให้แรงงานภาคเอกชน เป็นครั้งแรกโดยแรงงานในคาบสมทุ รมาเลเซยี จะได้ 900 รงิ กิตตอ่ เดอื น หรอื 4.33 รงิ กติ ตอ่ ชว่ั โมง สว่ นแรงงานในรฐั ซาราวคั ซาบาห์ และลาบวน ไดร้ บั 800 รงิ กติ ตอ่ เดอื น หรอื 3.85 รงิ กติ ตอ่ ชว่ั โมง โดยมผี ลบงั คบั ใชแ้ ลว้ เมอื่ วนั ท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2556 โดยบางสถานประกอบการทเ่ี ปน็ ขนาด กลาง และขนาดเลก็ ได้มีการอุทธรณข์ อเลื่อนออกไปอกี 3 - 6 เดือน ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรัฐมาเลเซยี 173
ตารางท่ี 2 อตั ราค่าจ้างมาตรฐานข้นั ต่ำ�และเง่ือนไข ส�ำ หรบั การจา้ งงานแรงงานไทยในประเทศมาเลเซยี ท่ีมา: ส�ำ นักงานแรงงานในมาเลเซีย, 2556 7.2.7 การเลกิ สญั ญา ตาม พ.ร.บ. แรงงาน ปี พ.ศ. 2498 มาตรา 11 (1) กลา่ วว่า ระยะ เวลาของการหมดสัญญา คอื ระยะเวลาทีก่ �ำหนดไวต้ ามสญั ญา และใน กรณที ที่ �ำสญั ญาโดยก�ำหนดการแลว้ เสรจ็ ของงาน เมอื่ งานแลว้ เสรจ็ กถ็ อื ได้วา่ สัญญาไดย้ ุตลิ ง 174
ในมาตรา 11 (2) ได้ก�ำหนดว่า สัญญาที่ไม่ได้ก�ำหนดเวลา จะต้องด�ำเนนิ ต่อไปจนกวา่ จะแล้วเสร็จตามงานทีไ่ ดท้ �ำ ตาม พ.ร.บ. แรงงาน มาตรา 12 (1) ได้กล่าวว่านายจ้างสามารถ จะยตุ ิสญั ญาได้ โดยแจง้ ตอ่ ลูกจา้ งในกรณี ดังน้ี 1. เม่ือลูกจ้างขาดทักษะในการท�ำงาน ไม่ว่าจะเกิดจากฝีมือหรือ ความสามารถ 2. เมือ่ ลูกจ้างขาดคณุ สมบตั ิ แจ้งคณุ วุฒิไมต่ รงกบั ความจรงิ 3. เมื่อลูกจา้ งมปี ญั หาสขุ ภาพ การกระท�ำความผิด ลกู จา้ งสามารถถูกยกเลิกสัญญาไดเ้ มือ่ 1. นอนในขณะปฏบิ ัตหิ น้าท่ี 2. ประมาทขณะปฏบิ ัติหนา้ ที่ 3. ขโมยทรพั ยส์ ินของนายจ้างหรอื แรงงานอื่น 4. เมาขณะปฏบิ ัติหนา้ ที่ 5. ไม่ปฏบิ ัติตามค�ำสัง่ ท่ีถูกตอ้ งของนายจา้ ง 7.2.8 การยกเลกิ สัญญาจ้าง โดยแจ้งประกาศตาม พ.ร.บ. แรงงาน มาตรา 12 (2) ได้กล่าวว่า นายจา้ งสามารถแจง้ ประกาศยกเลกิ สญั ญาตอ่ ลกู จา้ งได้ และมาตรา 12 (2) ไดก้ �ำหนดระยะเวลาของการแจ้งประกาศยกเลกิ สัญญา โดยไม่นอ้ ยกว่า ดงั น้ี 1. ต้องแจ้ง 4 สัปดาห์ ในกรณีแรงงานท�ำงานน้อยกว่า 2 สัปดาห์ นับแต่การแจง้ ประกาศ ระบบบรหิ ารราชการของสหพนั ธรัฐมาเลเซยี 175
2. ต้องแจ้ง 6 สัปดาห์ ในกรณีแรงงานท�ำงาน 2 ปี หรือมากกว่า แตไ่ ม่เกนิ 5 ปี นับแตก่ ารแจ้งประกาศ 3. ต้องแจ้ง 8 สัปดาห์ ในกรณีแรงงานท�ำงาน 5 ปี หรือมากกว่า นับแตก่ ารแจง้ ประกาศ การยกเลิกสัญญาจ้าง โดยไม่แจ้งประกาศตาม พ.ร.บ. แรงงาน มาตรา 14 (1) นายจา้ งสามารถท่จี ะด�ำเนนิ การได้ต่อไปนี้ 1. ยกเลิกสัญญาจ้างโดยไมแ่ จ้งประกาศ 2. ลดขั้นของแรงงาน หรอื 3. ลงโทษสถานเบาตามทีเ่ หน็ สมควร 7.2.9 พ.ร.บ. ประกนั คนงาน (Akta Pampasan pekerja/ Workmen’s Compensation Act) เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขณะท�ำงาน ลูกจ้างจะต้องท�ำ กรมธรรม์ประกันตนเอง อันจะได้รับค่าทดแทนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ จากการท�ำงาน และนายจ้างจะต้องท�ำประกันให้แก่แรงงาน โดยมี ค่าเบ้ียประกัน 86 ริงกิตต่อปี ซ่ึงจะได้รับผลประโยชน์จากเงินประกัน และการจ่ายเงนิ ทดแทนในลกั ษณะตา่ งๆ ดังนี้ 1. กรณีเสียชีวิต (รวมถึงการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุนอกเวลาท�ำงาน แตไ่ มร่ วมการเสยี ชวี ติ ตามธรรมชาติ การฆา่ ตวั ตาย และการตายเนอื่ งจาก เสพยาเสพติด) w ได้รับค่าทดแทนไม่เกิน 18,000 ริงกิต หรือ 60 เท่า ของเงินเดือนแลว้ แตจ่ �ำนวนใดจะตำ�่ กวา่ 176
2. กรณบี าดเจ็บ w พิการทุพพลภาพจนไม่สามารถท�ำงานได้ หรือเป็นอัมพาต ได้รับคา่ ทดแทนไมเ่ กนิ 23,000 ริงกติ w พกิ ารบางสว่ นคดิ เปน็ สดั สว่ นตามสภาพความพกิ าร โดยไดร้ บั เงินทดแทนสูงสุดไมเ่ กิน 20,000 รงิ กิต w ทุพพลภาพช่ัวคราว ได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 183 ริงกิต หรอื 1 ใน 3 ของค่าจ้างรายเดือน แล้วแตจ่ �ำนวนใดจะตำ�่ กวา่ w ค่ารกั ษาพยาบาลในวงเงินไม่เกนิ 520 รงิ กติ ต่อครง้ั (ค่ารกั ษา พยาบาล ค่าผา่ ตดั คา่ เอกซเรย์ คา่ ฉายรังสี และอ่นื ๆ) 7.2.10 กองทนุ เงนิ สะสม (Kumpulan Wang Sempanan /Provident Fund) มีกองทุนคล้ายกองทุนประกันสังคมของไทย โดยนายจ้างออกเงิน สมทบกองทุนดังกล่าว ในสิงคโปร์มกี ารจดั ตัง้ กองทนุ นใี้ นปี 2498 7.2.11 การพจิ ารณาสทิ ธิประโยชน์ตามพระราชบญั ญตั กิ าร คมุ้ ครองสิทธิประโยชน์แรงงานปี พ.ศ. 2495 w ส�ำนักงานแรงงานประจ�ำรัฐจะเป็นผู้พิจารณาตามค�ำวินิจฉัย ของแพทย์และตรวจสอบกับแรงงานประกอบการพิจารณา ใช้เวลาพจิ ารณาประมาณ 1 เดอื น w ส�ำนักงานแรงงานประจ�ำรัฐสั่งให้บริษัทประกันจ่ายเงินทดแทน ใหแ้ ก่แรงงานทไ่ี ด้รับบาดเจ็บโดยตรง ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรัฐมาเลเซยี 177
w กรณนี ายจา้ งไมไ่ ดท้ �ำประกนั ใหแ้ รงงาน ส�ำนกั งานแรงงานประเทศ มาเลเซยี จะบงั คับใหน้ ายจา้ งเป็นผูจ้ า่ ยเงินคา่ ทดแทนนนั้ ๆ w สิทธปิ ระโยชน์และการคุม้ ครองแรงงานตา่ งชาติ 7.3 กฎหมายเข้าเมือง ด้านกฎระเบียบและข้ันตอนการน�ำเข้าแรงงานของมาเลเซียพบว่า ข้ันตอนการจ้างแรงงานต่างชาติของมาเลเซียน้ัน หากเป็นงานระดับสูง นายจ้างจะต้องประกาศรับสมัครแรงงานท้องถิ่นเป็นอันดับแรก โดยการประกาศรับสมัครงานทางหนังสือพิมพ์ท้ังภาษามาเลเซียและ ภาษาอังกฤษ และหากไม่มีผู้สมัครภายใน 2 สัปดาห์ และเป็นงาน ในสาขาอาชพี ทไี่ ดร้ บั อนญุ าตใหแ้ รงงานตา่ งชาตทิ �ำงานได้ จงึ จะสามารถ ขออนุญาตต่อกระทรวงมหาดไทยมาเลเซียเพ่ือจ้างแรงงานต่างชาติได้ แตห่ ากเปน็ แรงงานระดบั ลา่ งสามารถขออนญุ าตไดท้ นั ที ในการขออนญุ าต นายจา้ งตอ้ งมหี ลกั ฐานเอกสารจากกรมการจดั หางานมาเลเซยี กระทรวง ทรพั ยากรมนษุ ย์ ทแี่ สดงวา่ ไมส่ ามารถจดั หาแรงงานตามทนี่ ายจา้ งตอ้ งการ มาประกอบการขออนมุ ตั ดิ ว้ ย และเมอื่ ไดร้ บั อนมุ ตั จิ ากกระทรวงมหาดไทย ของประเทศมาเลเซียแล้ว นายจ้างต้องน�ำหลักฐานท่ีแสดงรายละเอียด แรงงาน (ถา่ ยส�ำเนาหนงั สอื เดนิ ทางของแรงงาน ใบตรวจโรค และรปู ถา่ ย) และต�ำแหน่งงานท่ีได้รับอนุญาตให้น�ำเข้าแรงงานไปติดต่อท่ีส�ำนักงาน ตรวจคนเข้าเมือง เพ่ือขออนุมัติวีซ่าประเภทท�ำงานให้แรงงาน และ 178
ช�ำระเงินประกันค่าวีซ่า ค่าภาษีในการจ้างแรงงานต่างชาติ รวมท้ัง ท�ำประกนั เงนิ ทดแทนให้กับแรงงานดว้ ยส�ำหรบั ค่าใชจ้ า่ ยตา่ งๆ ในการขออนุญาตเข้าท�ำงานในมาเลเซียแบ่งอัตราค่าใช้จ่าย ในการขออนุญาตท�ำงานตามประเภทงานดงั นี้ ตารางท่ี 3 คา่ ใชจ้ ่ายสำ�หรับขออนญุ าตนำ�แรงงานต่างชาติ เขา้ มาท�ำ งานในมาเลเซีย ท่ีมา: หนังสอื แจง้ จากกระทรวงมหาดไทยประเทศมาเลเซยี ท่ี KHEDN: 100/637/1 Jld.31 (2) ลว., 2550 หมายเหตุ * ธรุ กิจสปาและนวดเทา้ ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งจา่ ยคา่ ธรรมเนยี มเพิ่มอีก 3,000 รงิ กติ /คน ซ่ึงจะไดร้ บั คนื เมื่อครบสญั ญา หรือมีการยกเลิกใบอนญุ าตทำ�งาน * ภาคบริการประกอบด้วยธรุ กจิ ด้านสปาและนวดเทา้ รา้ นอาหาร ซกั รีด โรงแรม และอื่นๆ ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรฐั มาเลเซีย 179
7.3.1 บทลงโทษเกี่ยวกบั การเข้าเมอื งผิดกฎหมาย ทางการมาเลเซยี จะด�ำเนนิ การกบั ผเู้ ขา้ เมอื งและอาศยั อยใู่ นมาเลเซยี โดยผิดกฎหมายให้มีการลงโทษสูงข้ึน โดยตรากฎหมายเข้าเมือง ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันท่ี 1 สิงหาคม พ.ศ. 2545 เปน็ ตน้ ไป ทางการมาเลเซยี เรม่ิ ด�ำเนนิ การเอาผดิ กบั คนตา่ งดา้ วทเ่ี ขา้ เมอื ง โดยผิดกฎหมายและผู้เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง โดยก�ำหนดบทลงโทษ แก่ผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายโทษปรับไม่เกิน 10,000 ริงกิต (ประมาณ 100,000 บาท) หรือจ�ำคุกไมเ่ กนิ 5 ปี หรือทัง้ จ�ำท้ังปรับ และถกู เฆ่ยี น ไม่เกิน 6 ที ส�ำหรับนายจ้างท่ีรับคนงานผิดกฎหมายมีโทษปรับต้ังแต่ 10,000 - 50,000 ริงกิต หรือจ�ำคุกไม่เกิน 1 ปี (ต่อลูกจ้าง 1 คน) รวมถึงผ้ใู หท้ ่พี กั พงิ แก่ผ้เู ข้าเมอื งผิดกฎหมายมีโทษสงู สุด 60,000 ริงกิต หรอื จ�ำคุกไมเ่ กิน 2 ปีต่อผ้เู ขา้ เมอื งผิดกฎหมาย 1 คน หรือท้งั จ�ำทั้งปรบั โดยสรปุ แลว้ การเขา้ เมอื งโดยไม่ถกู กฎหมายมีโทษดงั น้ี [48] w ผเู้ ขา้ เมืองผดิ กฎหมาย ปรับ 10,000 รงิ กติ หรอื จ�ำคุก 5 ปี หรอื ทง้ั จ�ำทงั้ ปรบั และถกู เฆ่ยี น 6 ครง้ั w นายจ้างทีไ่ ดร้ ับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 1 - 5 คน ปรับ 10,000 - 50,000 ริงกิต หรอื จ�ำคกุ 1 ปตี อ่ ลูกจา้ ง 1 คน หรอื ทัง้ จ�ำทง้ั ปรับ w นายจ้างทรี่ บั แรงงานตา่ งด้าวผดิ กฎหมายมากกว่า 5 คน ถกู เฆยี่ น และจ�ำคุก 5 ปี w เจ้าของอาคารท่ีอนุญาตให้ผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายพักอาศัย 180
มโี ทษปรับไมน่ ้อยกว่า 30,000 รงิ กิต หรอื จ�ำคุกไม่เกิน 1 ปี ต่อคนเขา้ เมอื งผดิ กฎหมาย 1 คน หรือท้ังจ�ำท้งั ปรบั w ผู้ปกป้องหรือใหค้ วามคุม้ ครองผู้ทีเ่ ขา้ เมอื งผดิ กฎหมาย ปรบั ไม่นอ้ ยกวา่ 10,000 ริงกติ ไม่เกิน 50,000 ริงกิต หรือจ�ำคุก 6 เดอื น ถงึ 5 ปี และถูกเฆี่ยนไมเ่ กนิ 6 คร้ัง w อยู่เกนิ เวลาท่ไี ดร้ ับอนุญาติ (Over Stay) ปรบั วนั ละ 30 - 50 รงิ กิต และกักกนั รอส่งกลับ นอกจากนี้ ยังมโี ทษในส่วนของการปลอมแปลงเอกสารดงั น้ี w การแก้ไข ปลอมแปลงใบอนุญาตท�ำงาน ปรับไม่เกิน 1,000 ริงกิต หรอื จ�ำคุกไม่เกนิ 6 เดือน หรอื ท้งั จ�ำทง้ั ปรับ w การแก้ไข ปลอมแปลงใบอนญุ าตเขา้ เมอื ง ปรบั ไม่เกนิ 30,000 รงิ กติ แต่ไมเ่ กิน 100,000 รงิ กิต หรือจ�ำคุกไมน่ ้อยกวา่ 5 ปี แตไ่ ม่เกิน 10 ปี และถูกเฆีย่ นไม่เกนิ 6 ครัง้ 7.3.2 ศุลกากร หา้ มน�ำเขา้ ยาเสพตดิ เนอื่ งจากมาเลเซยี ก�ำหนดโทษส�ำหรบั ผลู้ กั ลอบ น�ำเข้ายาเสพติดสูง และเข้มงวดถึงขั้นประหารชีวิต และห้ามน�ำเข้า อาวุธปืน กระสุน อุปกรณ์ขุดเจาะ และนิตยสารหรือวัสดุใดๆ ท่ีเป็น ภาพอนาจาร ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรัฐมาเลเซีย 181
7.3.3 การทำ�วีซ่าเขา้ เมือง ประเทศไทยไดท้ �ำข้อตกลงยกเว้นวีซา่ ใหแ้ กผ่ ูถ้ อื หนังสือเดนิ ทางไทย โดยสามารถเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียได้ โดยใช้เพียงพาสปอร์ต ไมต่ อ้ งขอวซี า่ เพยี งประทบั ตราเปน็ หลกั ฐานการเขา้ ประเทศทด่ี า่ นตรวจ คนเขา้ เมอื ง โดยสามารถพ�ำนกั ไดไ้ ม่เกิน 30 วัน ส�ำหรับเอกสารการยื่นขอท�ำวซี ่า กรณพี �ำนกั เกนิ 30 วนั 1. หนงั สือเดนิ ทางท้ังเลม่ เกา่ และเล่มใหม่ (ถ้ามี) พรอ้ มส�ำเนา 2. รูปสพี ืน้ หลงั ขาว 2 นิ้ว 2 รปู (รูปถ่ายหนา้ ตรงไม่สวมแวน่ ถา่ ยไว้ ไม่เกิน 6 เดือน) 3. จดหมายรบั รองการท�ำงาน (ภาษาองั กฤษ) ระบตุ �ำแหนง่ เงนิ เดอื น และวันเดอื นปีท่เี ร่ิมเข้าท�ำงาน (ฉบบั จริง) (ธุรกิจ) 4. ส�ำเนาหนา้ วซี า่ ในประเทศไทย 5. ใบอนุญาตท�ำงานตัวจรงิ พรอ้ มส�ำเนา 6. ใบจองต๋วั เครอ่ื งบิน 7. ใบจองโรงแรม หรอื ท�ำรายละเอียดในการเดนิ ทาง (Itinerary) 8. หมายเลขโทรศพั ท์บ้าน และมือถอื (ของผู้เดินทาง) 182
8 ลักษณะเด่นของระบบราชการทนี่ า่ เรยี นรู้ ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรฐั มาเลเซีย 183
8.1 นโยบายภูมบิ ุตร (Bumiputera) รัฐธรรมนญู มาเลเซีย มาตรา 153 บญั ญัตใิ ห้ “ฐานะพิเศษ” แกก่ ลุ่ม เช้อื ชาติชาวมาเลยท์ ี่เปน็ ประชากรส่วนใหญข่ องประเทศ หรอื ท่เี รียกวา่ “ภมู บิ ตุ ร” (Bumiputeras) นายกรฐั มนตรี นาจิบ ราซคั ของมาเลเซีย ได้ประกาศสานต่อนโยบาย “ภูมิปุตรา” ต่อไปอีก ท้ังที่เคยแสดงท่าที กอ่ นหน้าวา่ จะยกเลิก นโยบายภูมิปุตรา หรือภูมิบุตรลูกของแผ่นดิน ให้ “สิทธิพิเศษ” แก่คนเช้ือสายมาเลย์ในการท�ำธุรกิจ ศึกษาเล่าเรียน รับราชการ หรือ ประมูลงานของรัฐ ฯลฯ เพ่ือให้สามารถท�ำมาหากินได้เท่าเทียมกับ กลมุ่ คนเชื้อสายจีนและอนิ เดีย ปัจจุบันข้าราชการมาเลเซียทุกกระทรวง ทบวง กรม (ยกเว้น ครอู าจารย)์ เปน็ คนเชอ้ื สายมาเลยถ์ งึ รอ้ ยละ 85 รฐั บาลมาเลเซยี ประกาศ ใช้นโยบายนเี้ มอ่ื กว่า 40 ปกี ่อน หลังเกิดเหตุการณ์วนั ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2512 ม็อบชาวมาเลย์ก่อจลาจลเผาท�ำลายบ้านเรือนร้านค้า ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน รัฐบาลจึงประกาศ “นโยบายเศรษฐกิจใหม่” หรือ เอ็นอีพี (New Economic Policy: NEP) เรม่ิ ใชใ้ นฐานะมาตรการชวั่ คราวตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2514 จนกลายเปน็ ภมู ปิ ตุ รา ในเวลาต่อมาชาวมาเลเซียเช้ือสายจีนและเช้ือสายอินเดียกล่าวว่า น่ีคือนโยบาย “สองมาตรฐาน” ของแท้ เป็นมาตรการเอาเปรียบ กดขคี่ นรว่ มสงั คมเดยี วกนั นโยบายนที้ �ำใหก้ ลมุ่ คนเชอ้ื สายจนี และอนิ เดยี กลายเปน็ พลเมืองชั้น 2 โดยปรยิ าย 184
มาเลเซียมีประชากรทั้งประเทศ จากการส�ำรวจล่าสุดประมาณ 29 ล้านคน เป็นคนเช้ือสายมาเลย์ร้อยละ 60 เชื้อสายจีนร้อยละ 24 อนิ เดยี รอ้ ยละ 7 หลงั จากขนึ้ ครองต�ำแหนง่ นายกรฐั มนตรใี นปี พ.ศ. 2552 นายกรฐั มนตรนี าจบิ แสดงออกถงึ ความเปน็ คนทนั สมยั จะยกเลกิ นโยบาย ภูมิปุตราท่ีขัดขวางการลงทุน และท�ำให้เกิดความแตกแยกในกลุ่มคน เช้ือสายจีนและอินเดีย โดยนายกรัฐมนตรีนาจิบประกาศว่า รัฐบาล จะจัดสรรความช่วยเหลือโดยยึดหลักความต้องการตามความเป็นจริง มากกวา่ ยดึ เชอ้ื ชาติ ความพยายามด�ำเนนิ การตามค�ำพดู ของนายกรฐั มนตรี นาจิบประสบความล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากได้รับการต่อต้าน อย่างหนักจากกลุ่มการเมืองสายอนุรักษ์นิยมของพรรคอัมโนแกนน�ำ ของรฐั บาลผสม 13 พรรค ที่รวมตวั กันในนาม “แนวร่วมแห่งชาติ” นโยบายภูมิปุตราประสบความส�ำเร็จในด้านท�ำให้คนเช้ือสายมาเลย์ ยกฐานะขนึ้ เปน็ ชนชนั้ กลางจ�ำนวนมาก สว่ นผลกระทบทางลบทเี่ หน็ ไดช้ ดั นอกจากสรา้ งความแตกแยกในสงั คมแลว้ ยงั ท�ำใหเ้ กดิ ปญั หา “สมองไหล” คนเก่งระดับมันสมองท่ีเป็นกลุ่มคนเชื้อสายจีนและอินเดียหนีไปท�ำงาน และตั้งรกรากใหม่ในต่างแดนเป็นจ�ำนวนมาก รัฐบาลมาเลเซียถึงกับ ตั้งส�ำนักงาน Talent Corp จัดท�ำโปรแกรมผู้เช่ียวชาญกลับบ้านเกิด (Returning Experts Program) เพื่อดึงคนดีคนเก่งชาวมาเลเซีย ในต่างแดนกลับประเทศด้วยการเสนอแรงจูงใจ เช่น ซื้อรถยนต์ ไม่ตอ้ งเสียภาษี งดเวน้ เก็บภาษีเงนิ ไดเ้ ป็นเวลา 5 ปี เป็นต้น ระบบบรหิ ารราชการของสหพนั ธรฐั มาเลเซยี 185
8.2 การรวมกลุม่ ขา้ ราชการในประเทศมาเลเซีย หลงั จากทปี่ ระเทศมาเลเซยี ไดร้ บั เอกราชในเดอื นสงิ หาคม พ.ศ. 2500 รฐั บาลมาเลเซยี ไดแ้ ถลงนโยบายใหก้ ารสนบั สนนุ การจดั ตงั้ สหภาพแรงงาน ทเี่ ขม้ แขง็ และไรก้ ารแทรกแซง ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ กรมแรงงานและอตุ สาหกรรม สัมพันธ์ขึ้นมาใหม่ เพ่ือท�ำหน้าที่แทนกรมท่ีปรึกษาของสหภาพ และ ในปี พ.ศ. 2502 ไดม้ กี ารตรากฎหมายสหภาพแรงงาน (Trade Union Act 1959) เพือ่ ก�ำหนดหลักเกณฑ์ รปู แบบการจดทะเบียน ตลอดจนเง่ือนไข ในการจัดต้ังสหภาพแรงงาน ในปี พ.ศ. 2551 ประเทศมาเลเซียมีสหภาพแรงงานทั้งหมด 695 แห่ง และมีสมาชกิ ของสหภาพแรงงานทั้งหมดรวม 805,570 คน โดยจ�ำนวนนเี้ ปน็ สหภาพของขา้ ราชการทงั้ หมด 224 สหภาพ ซง่ึ สหภาพ ของขา้ ราชการนี้ ไดแ้ ก่ สหภาพของผปู้ ระกอบวชิ าชพี ครู (The National Union of Teaching Profession) สหภาพของผปู้ ระกอบวชิ าชพี พยาบาล (The Malaysia Nurse Services Union) เปน็ ต้น ท้ังนี้พระราชบัญญตั ิ แรงงาน พ.ศ. 2502 (Trade Union Act 2502) ได้ก�ำหนดให้ขา้ ราชการ สามารถก่อต้ังสหภาพโดยสมาชิกต้องอยู่ในหน่วยงานเดียวกันเท่านั้น เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐแต่ละหน่วยงานมีขนาดใหญ่ และส่วนใหญ่ จะเป็นปัญหาเฉพาะด้าน ดังนั้น เพื่อให้การด�ำเนินงานเป็นไปได้ อยา่ งมเี หตมุ ผี ล สมาชกิ ของแตล่ ะสหภาพจงึ ตอ้ งอยใู่ นหนว่ ยงานเดยี วกนั 186
ตารางท่ี 4 จ�ำ นวนสหภาพแรงงานจ�ำ แนกตามประเภท ของหนว่ ยงานในประเทศมาเลเซยี ปี พ.ศ. 2545 - 2551 ประเภทหน่วยงาน 2545 2546 2547 2548 2549 2551 เอกชน 373 380 380 390 396 421 รฐั บาล 128 127 130 127 130 132 เจา้ หนา้ ท่ที อ้ งถิ่น 80 88 87 91 92 92 นายจา้ ง 14 14 14 13 13 14 รวม 595 609 611 621 631 659 ที่มา: The official website of Department of Trade Union Affair, Ministry of Human Resource. ปัจจุบันพบว่าจ�ำนวนสมาชิกของสหภาพราชการมิได้มีอัตราเพ่ิมข้ึน เหมอื นในอดีต เนื่องจากอัตราสว่ นจ�ำนวนข้าราชการไดล้ ดลงจากการที่ หนว่ ยงานใหญห่ ลายหนว่ ยงานในสว่ นราชการไดเ้ รม่ิ มกี ารออกนอกระบบ และกลายเป็นหน่วยงานภาคเอกชนมากขน้ึ 8.2.1 แนวคดิ ในการรวมกลุ่มขา้ ราชการ การรวมกลมุ่ ขา้ ราชการในประเทศมาเลเซยี นน้ั เกดิ ขนึ้ เพอ่ื วตั ถปุ ระสงค์ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. เพื่อเพ่ิมความอุตสาหะ สิทธิประโยชน์ทางด้านสังคม และ ความร้คู วามสามารถแก่สมาชกิ ของสหภาพ ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรัฐมาเลเซยี 187
2. เพอ่ื ใหส้ มาชกิ ของสหภาพไดร้ บั ความเปน็ ธรรมเรอ่ื งความปลอดภยั ในการท�ำงาน ก�ำหนดเวลาท�ำงาน และสหภาพการจ้างงาน 3. เพื่อเพิ่มสวสั ดิการทางดา้ นสังคมและการศึกษาของข้าราชการ 4. เพ่ือเพิ่มบทบัญญัติที่คุ้มครองสิทธิประโยชน์ของข้าราชการ โดยเฉพาะเรอื่ งแรงงานสมั พันธ์ สหภาพแรงงานข้าราชการมขี อบเขตการใชส้ ทิ ธดิ า้ นแรงงานสัมพนั ธ์ ทแ่ี ตกตา่ งจากสหภาพลกู จา้ งในภาคเอกชน กลา่ วคอื สหภาพขา้ ราชการ จะไมส่ ามารถเขา้ รว่ มการเจรจาตอ่ รองเกย่ี วกบั เรอื่ งคา่ จา้ ง สหภาพการจา้ ง และสวสั ดกิ ารของขา้ ราชการได้ ดงั นน้ั ในเรอื่ งคา่ จา้ งและสวสั ดกิ ารตา่ งๆ จะเปน็ ประเดน็ ทมี่ กี ารปรกึ ษาหารอื ระดบั ประเทศ โดยรฐั บาลจะปรกึ ษา หารอื กบั สภาองคก์ ารลูกจา้ งของรฐั และข้าราชการ (The Congress of Union of Employees in the Public and Civil Service, CUEPACS) เพอ่ื ก�ำหนดค่าตอบแทนและสวัสดกิ ารให้แก่ขา้ ราชการ โดยไมต่ อ้ งผา่ น ความตกลงกบั ข้าราชการ สภาองคก์ ารลกู จา้ งขา้ ราชการ เปน็ สภาองคก์ ารแรงงานของขา้ ราชการ โดยเฉพาะ แยกต่างหากจากสภาสหภาพมาเลเซีย (Malaysia Union Congress) ซ่ึงสภาองค์การลูกจ้างข้าราชการ ก่อต้ังในปี พ.ศ. 2502 โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเพิ่มและปรับปรุงการท�ำงานของสหภาพแรงงาน ในกลุ่มปกป้องผลประโยชน์ของสมาชิกและสหภาพแรงงานในกลุ่ม รวมทง้ั เพมิ่ บทบญั ญตั ทิ คี่ มุ้ ครองสทิ ธปิ ระโยชนข์ องขา้ ราชการ โดยเฉพาะ ในเร่ืองของแรงงานสัมพันธ์ อยา่ งไรกต็ าม ขา้ ราชการบางประเภทยงั ถกู จ�ำกดั สทิ ธใิ นการรวมกลมุ่ 188
กอ่ ต้ังสหภาพโดยเด็ดขาด ไดแ้ ก่ ข้าราชการต�ำรวจ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ขา้ ราชการทหาร และขา้ ราชการทที่ �ำงานเกยี่ วขอ้ งกบั การรกั ษาความมนั่ คง และความปลอดภยั ของประเทศ โดยสทิ ธขิ องขา้ ราชการเหลา่ นไ้ี ดถ้ กู จ�ำกดั เพ่ือประโยชน์ต่อความม่ันคงและปลอดภัยของประเทศ เนื่องจาก หากให้สิทธิข้าราชการเหล่านี้ในการรวมตัวแล้วการเรียกร้องไม่ส�ำเร็จ อาจน�ำไปสกู่ ารนดั หยดุ งานของขา้ ราชการเหลา่ น้ี ซงึ่ จะสง่ ผลตอ่ ความมน่ั คง ของประเทศได้ 8.2.2 หลกั เกณฑใ์ นการรวมกลมุ่ ของข้าราชการ รูปแบบโครงสร้างการรวมตัวของสหภาพแรงงานระดับชาติ ส่วนใหญ่น้ันมีโครงสร้างคล้ายคลึงกัน ประกอบด้วยคณะกรรมการ และสมาชกิ โดยคณะกรรมการสหภาพแรงงานนน้ั ไดร้ บั เลอื กจากสมาชกิ เพ่ือให้ท�ำหน้าที่จัดการงานของสหภาพแทนสมาชิก รวบรวมข้อมูล ปัญหาด้านต่างๆ ของสมาชิก และเป็นตัวแทนเพ่ือส่งเร่ืองราวร้องทุกข์ ขึ้นไปเจรจาต่อรอง หากสหภาพมีสมาชิกมากพอแล้ว กลุ่มของสมาชิก ในภมู ภิ าคเดยี วกนั จะจดั ตงั้ สาขาและเลอื กคณะกรรมการเพอ่ื จดั การงาน ในสาขาต่างๆ นอกจากนี้ประเทศมาเลเซียยังได้ก�ำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้ง สหพันธ์แรงงานในส่วนที่ 12 ของพระราชบัญญัติสหภาพแรงงาน ท้ังน้ีในส่วนของสหภาพแรงงานระดับชาติจะมีคณะกรรมการ เป็นคณะกรรมการพิเศษ (Executive Council) ซ่ึงได้รับเลือก ระบบบริหารราชการของสหพนั ธรฐั มาเลเซีย 189
จากสมาชิกที่เข้าร่วมการประชุมระดับชาติของกลุ่มผู้แทน ทั้งน้ีจ�ำนวน ของคณะกรรมการพิเศษน้ันจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับโครงสร้าง ของสหภาพน้ันๆ เช่น สหภาพแรงงานลูกจ้างที่ท�ำงานธนาคาร (The National Union of Bank Employee) จะมคี ณะกรรมการพเิ ศษ เป็นเจ้าหน้าท่ีจ�ำนวน 8 คน และตัวแทนจากแต่ละสาขาๆ ละ 2 คน ซ่ึงก็คือผู้ที่ด�ำรงต�ำแหน่งประธานและเลขานุการของสาขาแต่ละสาขา ส่วนสหภาพลูกจ้างที่ท�ำงานด้านคมนาคม (The Transport Worker Union) จะมรี ะบบทคี่ ลา้ ยคลงึ กนั ซงึ่ มคี ณะกรรมการพเิ ศษเปน็ เจา้ หนา้ ท่ี และตัวแทนจากสาขา เป็นต้น ทั้งนี้โครงสร้างของสหภาพแรงงาน ระดับชาติจะเป็นไปตามแผนผงั ดังน้ี Works Committee Union Branch National Executive Council ภาพที่ 9 โครงสร้างการรวมกลมุ่ ของข้าราชการ 190
8.2.3 วธิ กี ารในการรวมกลมุ่ ของข้าราชการ ส�ำหรับการก่อต้ังสหภาพแรงงานนั้น ก�ำหนดให้ข้าราชการที่มี ความประสงคจ์ ะตั้งสหภาพแรงงานตอ้ งย่ืนขอจดทะเบียนจดั ตัง้ สหภาพ ตอ่ อธบิ ดภี ายใน 1 เดอื น และสามารถยน่ื ตอ่ อธบิ ดเี พอ่ื ขอขยายออกไปได้ ไม่เกิน 6 เดือน ค�ำย่ืนขอจดทะเบียนจะต้องย่ืนพร้อมค่าธรรมเนียม และส�ำเนากฎหรือข้อบังคับของสหภาพ ในค�ำขอจดทะเบียนจัดตั้ง สหภาพแรงงานจะตอ้ งระบชุ อ่ื และท่อี ยขู่ องสหภาพ ชอื่ ที่อยู่ และอาชพี ของสมาชกิ ทยี่ นื่ ขอจดั ตงั้ และอายุ ทอี่ ยู่ และอาชพี ของเจา้ หนา้ ทสี่ หภาพ ซึง่ กรมสหภาพแรงงานอาจจะก�ำหนดให้ตอ้ งยื่นขอ้ มลู อื่นๆ เช่น ส�ำเนา รายงานการประชุมการจัดตั้งของข้าราชการที่ประสงค์จะจัดต้ังสหภาพ เปน็ ต้น อย่างไรก็ตาม กฎหมายสหภาพแรงงานมาเลเซียมิได้ตัดสิทธิ ในการจัดต้ังสหภาพแรงงานของข้าราชการในประเทศมาเลเซีย แต่กระบวนการต่อรองเพื่อเรียกร้องเร่ืองค่าใช้จ่ายและสวัสดิการ ของสหภาพขา้ ราชการมาเลเซยี จะกระท�ำมิได้ ท�ำใหต้ งั้ แต่ปี พ.ศ. 2503 เปน็ ตน้ มา ขา้ ราชการในมาเลเซยี ไมม่ อี �ำนาจตอ่ รองกบั รฐั บาลในเรอื่ งคา่ จา้ ง และสวสั ดกิ าร เหตผุ ลทท่ี �ำใหข้ า้ ราชการไดร้ บั การปฏบิ ตั แิ ตกตา่ งจากลกู จา้ ง ในภาคเอกชน เนอื่ งมาจากประชาชนสว่ นใหญใ่ นประเทศเปน็ ขา้ ราชการ ท่ีท�ำงานให้กับรัฐบาล ดังน้ันหากมีการเปล่ียนแปลงอัตราค่าจ้างหรือ สวัสดิการก็จะส่งผลกระทบต่ออัตราค่าจ้างของภาคเอกชนด้วย กล่าวคือ การขึ้นอัตราเงินเดือนข้าราชการจะมีผลกระทบอย่างมาก ระบบบริหารราชการของสหพันธรฐั มาเลเซยี 191
ตอ่ สภาพการเงนิ ของประเทศทงั้ ในแงอ่ ตั ราคา่ จา้ งของลกู จา้ งในภาคเอกชน ท่ีต้องปรับข้ึนตาม อีกท้ังการเพ่ิมของอัตราเงินเดือนข้าราชการจะมีผล ท�ำให้รัฐต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อจ่ายเงินเดือนข้าราชการมากขึ้น ท�ำให้ท้ายท่ีสุดแล้วประชาชนต้องแบกรับภาระในการเสียภาษีในอัตรา ที่สูงขึ้นตามล�ำดับ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะไม่มีกฎหมายท่ีให้อ�ำนาจ สหภาพข้าราชการในการเจรจาตอ่ รองเรอ่ื งค่าจ้างและสวัสดกิ าร แต่กม็ ี การต้ังคณะกรรมการพเิ ศษข้ึนมาหลายคณะ เพ่ือท�ำหนา้ ท่ใี นการเจรจา ต่อรองเรื่องดังกล่าว เช่น คณะกรรมการค่าจ้าง กรมบริการสาธารณะ สภาสมานฉนั ทแ์ หง่ ชาติ (National Joint Councils) และศาลดา้ นบรกิ าร สาธารณะ (Public Service Tribunal) เปน็ ตน้ และนอกจากน้ี กฎหมาย ยังยกเว้นให้ข้าราชการบางระดับในองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สามารถเจรจาตอ่ รอง และท�ำขอ้ ตกลงเกยี่ วกบั คา่ จา้ งกบั สหภาพการจา้ ง และท�ำงานได้ กล่าวโดยสรุปได้ว่า ระบบแรงงานสัมพันธ์ของข้าราชการมาเลเซีย ไดม้ รี ะบบในการก�ำหนดอตั ราคา่ จา้ งและสวสั ดกิ ารทเ่ี รยี กวา่ “ระบบเอกภาคี (Unilateral System)” ซ่ึงรัฐบาลจะเป็นผู้ก�ำหนดอัตราค่าจ้าง และสวัสดิการเองฝ่ายเดียว โดยไม่ต้องผ่านการตกลงกับข้าราชการ เน่ืองจากรัฐบาลเช่ือว่าการเจรจาต่อรองเรื่องค่าจ้างและสิทธิประโยชน์ ของข้าราชการนั้นไม่ควรเกดิ ขน้ึ ในงานราชการ 192
บรรณานุกรม [1] กรมส่งเสรมิ การส่งออก กระทรวงพาณชิ ย.์ 2555. คมู่ ือการค้าและการลงทุน สหพันธรฐั มาเลเซีย. กรงุ เทพฯ: ส�ำนกั ขา่ วพาณชิ ย์ กรมสง่ เสรมิ การสง่ ออก. [2] กระทรวงพาณชิ ย์. 2557. สถติ กิ ารคา้ ระหวา่ งประเทศของไทย. ค้นเมอ่ื 15 เมษายน 2557, จาก http://www2.moc.go.th/main.php?filename =index_design4 [3] ชาญวทิ ย์ ไกรฤกษ์ และคณะ. 2548. ระบบขา้ ราชการระดบั สูงของต่างประเทศ. กรงุ เทพฯ: บริษัท พ.ี เอ.ลีฟวง่ิ จ�ำกดั . [4] ชัยโชค จุลศิริวงศ์. 2542. การพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองในเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้: การพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองมาเลเซยี . กรุงเทพฯ: โครงการจัดพมิ พ์คบไฟ. [5] ชวชัย ก้องกติ กิ ลุ . 2556. การศกึ ษาปจั จัยการปรบั ตัวทางวฒั ธรรมของการไปทำ� งาน ในประเทศมาเลเซีย. สารนิพนธ์คณะพฒั นาทรพั ยากรมนษุย:์ สถาบนั บัณฑติ พัฒนบริหารศาสตร.์ [6] นครินทร์ เมฆไตรรัตน์และคณะ. 2546. บทบาทอำ� นาจหนา้ ทข่ี องกำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ นและการปกครองทอ้ งท.่ี รายงานการศกึ ษาวจิ ยั เสนอตอ่ ส�ำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า. ระบบบรหิ ารราชการของสหพันธรฐั มาเลเซีย 193
[7] ไพลนิ ภูจ่ นี าพนั ธ.ุ์ 2556. ระบบการปกครองท้องถ่นิ ของประเทศสหพันธรัฐมาเลเซยี . กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้าฯ. [8] มนสั เกยี รติธารัย. 2551. ประวตั ิศาสตร์มาเลเซีย. กรงุ เทพฯ: โครงการต�ำราสังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์. [9] เบญจวรรณ สรา่ งนิทร. 2550. การเกษยี ณอายุราชการมาเลเซยี . วารสารขา้ ราชการปีที่ 52 ฉบับท่ี 2 (ม.ี ค. - เม.ย. 2550) หน้า 19-23. [10] วชิ ติ วงศ์ ณ ปอ้ มเพชร. 2556. เศรษฐกิจอาเซียน. กรุงเทพฯ: ส�ำนักพมิ พ์แสงดาว. [11] วทิ ย์ บัณฑติ กุล. 2555. มาเลเซยี . กรุงเทพฯ: ส�ำนกั พมิ พส์ ถาพรบุคส์. [12] วรี วทิ คงศักด.์ิ 2552. แผนพฒั นาความซื่อตรงแห่งชาตมิ าเลเซยี . โพสตท์ เู ดย์ วนั ที่ 19 ตุลาคม 2552. [13] วราภรณ์ บวรศิริ. 2543. การปฏริ ปู อดุ มศกึ ษาของประเทศสงิ คโปรแ์ ละมาเลเซยี . กรงุ เทพฯ: ส�ำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาแห่งชาตสิ �ำนกั นายกรัฐมนตรี. [14] สกล กาญจน์วเิ ศษ. 2555. สาระอาเซียน. กรุงเทพฯ: ภมู ิปัญญา [15] สดี า สอนศรี. 2546. เอเชียตะวันออกเฉยี งใต:้ นโยบายตา่ งประเทศในยุคโลกาภิวตั ิน.์ กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์แหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . [16] สมาน รงั สิโยกฤษฏ์. 2540. การปฏิรปู ภาคราชการ: แนวคิดและยทุ ธศาสตร์. กรงุ เทพฯ: สวสั ดิการส�ำนักงาน ก.พ. 194
[17] ส�ำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซยี . 2556. สถานการณ์แรงงานในประเทศมาเลเซยี . สถานทตู ไทยประจ�ำกวั ลาลัมเปอร.์ [18] ส�ำนกั พฒั นาระบบการศกึ ษาและวางแผนมหภาค. 2539. ยุทธศาสตร์การพัฒนาของมาเลเซีย. ส�ำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาแห่งชาติ ส�ำนักนายกรัฐมนตรี. [19] อดีตทูต (ว)ิ สามญั . 2557. เสย้ี วหนงึ่ ของการทตู ไทยร่วมสมยั : อยากเป็นทตู ก็ไมย่ าก. กรงุ เทพฯ: จดั พมิ พ์โดย ทัศนยี ์ โกกิลานนท์ [20] ASEAN-Malaysia National Secretariat (AMNS). 2014. The main objectives of AMNS. Retrieved 20 March 2014, From http://www.kln.gov.my/web/guest/ overview-asean [21] Development, I. F. 2013. IMD World Competitiveness Yearbook 2013. lausanne, Switzerland: the World Competitiveness Center. [22] Department of Statistics Malaysia. 2004. Compendium of Environment Statistics. Retrieved 27 March 2014 From http://www.statistics.gov.my/portal/index. php?option=com_content&view=article&id =774&Itemid=155&lang=en ระบบบรหิ ารราชการของสหพนั ธรัฐมาเลเซีย 195
[23] International Cooperation Study Center Thammasat University. 2555. ประเทศสหพันธรัฐมาเลเซีย. ค้นเม่อื วันที่ 19 กุมภาพนั ธ์ 2557, จาก http://www.apecthai.org/apec/th/profile1.php? continentid=2&country=p9 [24] Ismail and Osman-Gani. 2013. Establishing linkages between religiosity and spirituality on employee performance. Emerald Group Publishing Limited [25] Malaysia Administrative Modernisation and Management Planning Unit (MAMPU). 2014. Government Service. Retrieved 27 March 2014 From http://www.mampu.gov.my/web/en/ government-services [26] Ministry of Agriculture and Agro-Base Industry Malaysia. 2014. POLICY THRUST OF THE 9TH MALAYSIA PLAN. Retrieved 20 March 2014, From http://www.moa.gov.my/web/guest/ agensi-polisi [27] Ministry of Communication and Multimedia. 2014. Policies. Retrieved 12 March 2014, From http://www.kkmm.gov.my/index.php? option=com_content&view=article&id =280:policies&catid=102:pengenalan&Itemid = 200&lang=en 196
[28] Ministry of Domestic Trade Cooperatives and Consumerism. 2014. Strategy Thrust. Retrieved 5 May 2014 From http://www.kpdnkk.gov.my/en/7-teras- strategik-kpdnkk [29] Ministry of Foreign Affairs. 2014. Objectives of the Policy and Strategy Planning Department. Retrieved 20 March 2014, From http://www.kln.gov.my/web/guest/dd_policy- and-strategic-planning [30] Ministry of Education and Higher Learning. 2014. National Higher Education Strategic Plan (NHESP). Retrieved 6 June 2014, From http://www.moe.gov.my/v/pelan-strategik - pengajian-tinggi-negara [31] Ministry of Energy, Green Technology and Water. 2014. Policy Planning & International Relations Division. Retrieved 23 March 2014, From http://www.kettha.gov.my/portal/index.php?r =kandungan/index&menu1_id=1&menu2_id =11&menu3_id=8#.U-nYvmMgWEo [32] Ministry of Federal Territories. 2014. Vision & Mission. Retrieved 3 June 2014, From http://www.kwpkb.gov.my/index.php?option=com_ content&view=article&id= 61&Itemid=310&lang=en ระบบบรหิ ารราชการของสหพนั ธรฐั มาเลเซยี 197
[33] Ministry of Human Resources. 2014. MOHR Policy. Retrieved 30 April 2014, From http://www.mohr.gov.my/index.php/en/ 2012-11-01-21-01-13/policy [34] Ministry of International Trade and Industry. 2014. Asean Community 2015. Retrieved 12 March 2014, From http://www.miti.gov.my/cms/content.jsp?id =com.tms.cms.section.Section_a57642f0-c0a81573- 26b77801-8d6b7639 [35] Ministry of Rural and Regional Development. 2014. Corperate Information. Retrieved 27 June 2014, From http://www.rurallink.gov.my/objektif [36] Ministry of Science, Technology and Innovations. 2014. Introduction. Retrieved 18 April 2014, From http://www.mosti.gov.my/index.php? option=com_content&view= article&id =1764&Itemid=57&lang=en [37] Ministry of Tourism and Culture Malaysia. 2014. Strategic Planning and International Affairs Division. Retrieved 12 March 2014, From http://www.motour.gov.my/en/ministrys-profile/ division-unit/strategic-planning-and-international- affairs-division.html 198
[38] Ministry of Urban Wellbeing, Housing and Local. 2014. Stategic Thrust. Retrieved 17 June 2014, From http://www.kpkt.gov.my/kpkt_bi_2013/index. php/pages/view/346 [39] Ministry of Women, Family & Society Development. 2014. About MWFCD. Retrieved 11 June 2014, From http://www.kpwkm.gov.my/visi-misi-dan-objektif [40] Prime minister’s office of Malaysia. 2014. Cabinet Members. Retrieved 12 March 2014, From http://www.pmo.gov.my/?menu=cabinet&page =1797 [41] Public Service Department of Malaysia. 2014. Information for Malaysian civil servant. Retrieved 23 March 2014, From http://www.jpa.gov.my/?lang=en [42] The Economic Transformation Programme. 2010. Overview of ETP Retrieved 20 April 2014, From http://etp.pemandu.gov.my/About_ ETP-@-Overview_of_ETP.aspx [43] The Government Transformation Programme (GTP). 2014. Overview of GTP May 23 March 2014, From http://www.pemandu.gov.my/gtp/ What_Are_NKRAs%5E-@-NKRAs_Overview. aspx#sthash.vtLTZ3zH.dpuf ระบบบริหารราชการของสหพนั ธรฐั มาเลเซยี 199
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202