สถานการณป์ ญั หาสุขภาพของนกั เรยี น สขุ ภาพฟนั ไมม่ ี เหา ทุพโภชนาการ ร้อยละ ๓๐ โรคผวิ หนงั รอ้ ยละ ๒๕ (ส่วนสงู นำ�้ หนัก ตำ่� กวา่ เกณฑ)์ ความเป็นมา หลกั การและเหตุผล สถานการณ์ภาวะทุพโภชนาการของประเทศไทยจากรายงานการเฝ้าระวังภาวะ โภชนาการนกั เรียนอายุ ๖-๑๒ ปี จ�ำนวน ๑,๔๙๒,๐๘๙ คน ใน ๗๖ จังหวดั ของ กรมอนามัย ปี ๒๕๕๕ พบว่านกั เรียนมีภาวะอ้วน ร้อยละ ๑๒.๕ เต้ียรอ้ ยละ ๑๖.๘ และระบวุ ่านักเรียนอายุ ๖-๑๒ ปี ท่มี ีส่วนสูงระดบั ดีและรปู รา่ งสมส่วน มีเพยี ง รอ้ ย ละ ๕๑.๖ ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั การสำ� รวจขอ้ มลู พนื้ ฐานของสำ� นกั งานคณะกรรมการการ ศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน (สพฐ.) ปี ๒๕๔๔ พบวา่ เดก็ ไทยสดั ส่วนไม่ได้มาตรฐาน จ�ำนวน ๑.๒ลา้ นคน จำ� แนกเปน็ นำ้� หนกั ตำ�่ กวา่ เกณฑ์ จำ� นวน ๒๒๓,๒๘๘ คน นำ�้ หนกั สงู กวา่ เกณฑม์ าตรฐานจำ� นวน ๕๙๐,๐๘๗ คน และสว่ นสูงตำ�่ กวา่ เกณฑม์ าตรฐาน จ�ำนวน ๒๕๘,๑๔๙ คนซงึ่ จะสง่ ผลกระทบตอ่ ระดบั สตปิ ญั ญาและคณุ ภาพชวี ติ ของเดก็ ไทยหนง่ึ ในสาเหตสุ ำ� คญั คอื ๑) การพฤตกิ รรมการบรโิ ภคไมเ่ หมาะสมตามวยั โดยเฉพาะการ บริโภคผักน้อยกว่าปริมาณที่แนะน�ำ คือเฉล่ียวันละ ๖๐ กรัม (ปริมาณที่แนะน�ำ วนั ละ ๔๐๐ กรมั ) กนิ ขนมกรบุ กรอบและเครอื่ งดมื่ รสหวานจดั เกอื บทกุ วนั หรอื ทกุ วนั สงู ถงึ รอ้ ยละ ๖๗.๔ นอกจากนย้ี งั พบวา่ เดก็ ไทยในชว่ งวยั ประถมศกึ ษาจะไดร้ บั นำ�้ ตาล จากเครื่องด่ืมเฉล่ีย ๕-๗ ช้อนชา/วนั และนำ้� ตาลจากขนมกรบุ กรอบเฉลีย่ ๓ ชอ้ น ชา/วันซ่ึงปริมาณรวมในการบริโภคน้�ำตาลของเด็กมากถึง ๑๐ ช้อนชา และ ๒) สภาพแวดล้อมท่ีไม่เอื้อต่อสุขภาพผลกระทบของการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จะส่งผลให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาร่างกายและสติปัญญาท่ีช้าไม่เป็นไปตาม ศกั ยภาพท่คี วรจะเปน็ สถานการณ์ปัญหาการบริโภคอาหารและโภชนาการภายในโรงเรียน บา้ นบาโงย โดยภาพรวมเกดิ จากการบรโิ ภคอาหารและภาวะโภชนาการทไ่ี มเ่ หมาะสม มกี ลมุ่ ทมี่ ปี ญั หาภาวะโภชนาการทซ่ี ำ้� ซอ้ น ทง้ั ภาวะขาดสารอาหารและโภชนาการเกนิ { 250 }
ในปัจจุบันได้มีสัญญาณอันตรายท่ีบ่งช้ีว่าควรเร่งให้ความส�ำคัญในการส่งเสริมภาวะ โภชนาการท่ีเหมาะสมในเด็ก อัตราการป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเร้ือรังท่ีเพิ่มสูงข้ึนอัน เปน็ ปรากฏการณท์ ผี่ ดิ ปกติ โดยเปน็ ผลสะสมมาจากการปลกู ฝงั พฤตกิ รรมการบรโิ ภค อาหารทไี่ มเ่ หมาะสมของผปู้ กครองตง้ั แตว่ ยั เยาว์ โดยในแตล่ ะวนั นกั เรยี นชนั้ อนบุ าล จำ� นวน ๒๕ คน รบั ประทานผกั หรอื บรโิ ภคผกั นอ้ ยมาก คอื รบั ประทานผกั เพยี ง ๑๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๖๐ และนักเรียนชั้นประถมศึกษาจ�ำนวน ๗๖ คน รับประทานผกั เพยี ง ๖๕ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๘๕.๕๒ โดยเฉพาะนกั เรยี นช้นั อนบุ าล รับประทานผัก ผลไมแ้ ละอาหารปริมาณค่อนข้างนอ้ ย สง่ ผลกระทบตอ่ พัฒนาการ ของสมองและศกั ยภาพการเรียนรู้ จากสถานการณ์ดังกล่าว โรงเรียนบ้านบาโงยจึงได้ด�ำเนินงานบริหารจัดการ อาหารและโภชนาการในโรงเรียน เพอื่ ใหเ้ ด็กนกั เรียน มภี าวะโภชนาการดี สุขภาพ แขง็ แรง ไปพรอ้ มๆ กบั การจัดโครงการพฒั นานวัตกรรรมส่งเสริมความรอบรเู้ ร่ือง สุขภาวะผ่านการพัฒนาความสามารถด้านภาษาและพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ของนักเรยี น ผลการทดสอบทางการศกึ ษา ระดบั การศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน (O-NET) ปีการศึกษา ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ ของ โรงเรยี นบ้านบาโงย ปีการ ภาษา สงั คม ภาษา คณิต วิทยา เฉลีย่ คา่ ศึกษา ไทย ศึกษา อังกฤษ ศาสตร์ ศาสตร์ รวม ความตา่ ง ๒๕๕๘ ๔๑.๔๓ ๔๐.๘๖ ๓๒.๑๔ ๓๗.๘๖ ๓๔.๙๓ ๓๗.๔๔ ๐.๕๔ ๒๕๕๙ ๔๘.๒๕ ๔๕.๐๐ ๓๐.๐๐ ๓๒.๕๐ ๓๘.๕๐ ๓๘.๘๕ ๑.๔๑ กระบวนการเรยี นการสอน สอื่ จดั วา่ เปน็ องคป์ ระกอบสำ� คญั อยา่ งหนง่ึ ทท่ี ำ� ใหก้ ระบวนการเรยี นการสอนครบ บริบูรณ์และยงั อาจกล่าวไดว้ า่ เปน็ ตัวชีถ้ งึ ประสทิ ธิภาพของการเรยี นการสอน เพราะ ตวั สอื่ จะเปน็ ตวั การสำ� คญั ทนี่ ำ� เอาความรแู้ ละประสบการณเ์ ขา้ ไปสกู่ ารรบั รขู้ องผเู้ รยี น ให้ผู้เรียนเกิดความสนใจเน้ือหาและมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดการเรียนการสอน { 251 }
ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงท�ำให้เกิดความเข้าใจท่ีคงทนและเกิดการเรียน รู้ท่มี ปี ระสิทธภิ าพ อย่างไรกต็ ามสิ่งสําคญั คอื ผสู้ อนจะตอ้ งเลือกและใชส้ ่อื การสอน ใหเ้ หมาะกบั บทเรยี น สอื่ การสอนนนั้ จะตอ้ งใชไ้ ดอ้ ยา่ งสะดวกและทส่ี าํ คญั กค็ อื เมอื่ นาํ มาใชแ้ ลว้ ช่วยใหก้ ารเรยี นการสอนมีประสิทธิภาพ เปา้ หมายโครงการ พัฒนารปู แบบการเสรมิ สรา้ งความรอบรู้ดา้ นสขุ ภาพ (Health literacy) ผา่ น การเพิม่ ขดี ความสามารถด้านการอา่ น และเขยี นภาษาทใ่ี ช้ในชีวติ ประจำ� วนั วัตถุประสงค์ ๑) เพื่อพัฒนาเคร่ืองมือประเมินความสามารถด้านภาษาส�ำหรับนักเรียนระดับ ประถมศกึ ษา ๒) เพอื่ พฒั นาสื่อ นวตั กรรมการจดั การเรยี นรทู้ ส่ี ง่ เสริมความรอบรู้ ดา้ นสขุ ภาวะโดยผา่ นการพฒั นาความสามารถดา้ นภาษาสำ� หรบั นกั เรยี นระดบั ประถม ศกึ ษา ๓) เพอ่ื ใหเ้ ดก็ นกั เรยี นกลมุ่ เปา้ หมายไดร้ บั การพฒั นาความสามารถดา้ นภาษา และนกั เรยี นทุกคนได้รับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยสงู ขน้ึ ผลการดำ� เนนิ งานโครงการ การด�ำเนินงานโครงการพัฒนานวัตกรรมส่งเสริมความรอบรู้เร่ืองสุขภาวะผ่าน การพฒั นาความสามารถดา้ นภาษาโรงเรยี นบา้ นดอเฮะมกี ารดำ� เนนิ การกจิ กรรมหลกั ประกอบดว้ ย การสรา้ งทมี งานและเตรยี มการสรา้ งเครอื ขา่ ย การรวบรวมขอ้ มลู เพอ่ื การน�ำไปสู่การพัฒนา การใช้นวัตกรรมหรือวิธีสอนเพ่ือส่งเสริมความสามารถด้าน ภาษา การพฒั นาแผนการจัดการเรียนรู้และส่ือที่เหมาะสม ดำ� เนินกจิ กรรมสง่ เสรมิ ความสามารถด้านภาษา โดยมีรายละเอียดการด�ำเนินงาน ดังนี้ ๑) การสร้าง ทีมงานและเตรียมการสร้างเครือข่าย มีการลงนามความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มีคณะท�ำงานภายใน โรงเรยี นโดยมกี ารแตง่ ตง้ั คณะทำ� งานภายในโรงเรยี นรว่ มกบั ตวั แทนของชมุ ชน มกี าร ประชมุ คณะทำ� งานรว่ มกนั วางแผนในการดำ� เนนิ งานเดอื นละ ๑ ครงั้ ครผู รู้ บั ผดิ ชอบ โครงการเขา้ รว่ มกจิ กรรมเครอื ขา่ ย ๒) การรวบรวมขอ้ มลู เพอื่ การนำ� ไปสกู่ ารพฒั นา มีการส�ำรวจและรวบรวมข้อมูลสภาวการณ์ด้านความสามารถด้านภาษาร่วมกับ คณะท�ำงานจากมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา และเข้ารับการพัฒนาศักยภาพสามารถ { 252 }
บนั ทกึ ขอ้ มลู ใชข้ อ้ มลู ในการรายงานผลและตดิ ตามผลผา่ นระบบออนไลน์ ๓) การใช้ นวตั กรรมหรอื วธิ สี อนเพอื่ สง่ เสรมิ ความสามารถดา้ นภาษา โรงเรยี นไดม้ กี ารเลอื กใช้ นวัตกรรมและวิธีสอนที่เหมาะสมกับบริบทชุมชน และใช้นวัตกรรมเพ่ือส่งเสริม ความสามารถด้านภาษา นักเรียน ได้เรียนรู้โดยการใช้ส่ือนวัตกรรมเพ่ือส่งเสริม ความสามารถดา้ นภาษา ตลอดจนโรงเรยี นไดข้ ยายผลจากความสามารถด้านภาษา ไปสู่ความรู้ด้านสุขภาวะในเรื่องภูมิปัญญาท้องถ่ิน ๔) การพัฒนาแผนการจัดการ เรยี นรแู้ ละสอื่ ทเ่ี หมาะสม โรงเรยี นพฒั นาแผนการจดั การเรยี นรโู้ ดยใชน้ วตั กรรม ลาน เกมสรา้ งสรรค์ โตะ๊ หรรษาพาเพลนิ ในการสง่ เสรมิ ความสามารถดา้ นภาษาและรอบรู้ เรอ่ื งสขุ ภาวะของนักเรยี นผา่ นการเลน่ และ ผลิตส่อื ที่มคี วามเหมาะสมกับชมุ ชน ซง่ึ ไดจ้ ดั ท�ำสอ่ื การผลติ สอื่ การสอนของครู จ�ำนวน ๖ ประเภท รวม ๒๔ ชิ้น ได้แก่ บตั รภาพ บตั รคำ� ไมบ้ รรทดั หดั อา่ นสมดุ Pop Up สระลดรปู วงลอ้ สะกดคำ� ลกู เตา๋ แต่งประโยค และการผลิตส่ือของนักเรียนร่วมกับผู้ปกครอง จ�ำนวน ๑ ประเภท รวม ๑๐ ชิน้ ได้แก่ นิทานท�ำมอื อกี ทัง้ ได้พฒั นาและปรับปรุงแหลง่ เรียนรทู้ ี่ส่งเสรมิ ความรอบรู้เร่ืองสุขภาวะผ่านการพัฒนาความสามารถด้านภาษาเพื่อให้เกิดศูนย์ แหลง่ การเรียนรู้ ลานภาษาพาเพลนิ ๕) ดำ� เนนิ กิจกรรมสง่ เสริมความสามารถด้าน ภาษา ครูผู้สอนทุกคนใช้ส่ือ นวัตกรรมท่ีผลิตร่วมกับผู้ปกครองและชุมชน ในการ จัดการเรียนการสอนขอนักเรียนเพ่ือพัฒนาความสามารถด้านภาษาและรอบรู้เร่ือง สุขภาวะ ผลลัพธ์จากการท�ำงาน ๑) การเปลย่ี นแปลงของผเู้ รยี น ผลการประเมนิ ความสามารถดา้ นภาษา Baseline Endline ป.๑-ป.๖ ประถมศึกษาตอนต้น (ป.๑ - ป.๓) ดมี าก ๔๖ - ๕๕ การแปลผล ควรปรบั ปรุง ๐ - ๒๕ พอใช้ ๒๖ - ๓๕ ดี ๓๖ - ๔๕ สัญลักษณ์ ประถมศึกษาตอนปลาย (ป.๔ - ป.๖) ดมี าก ๓๑ - ๔๐ การแปลผล ควรปรบั ปรุง ๐ - ๑๐ พอใช้ ๑๑ - ๒๐ ดี ๒๑ - ๓๐ สญั ลักษณ์ { 253 }
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ครง้ั ท่ี การสะกดคำ� การอา่ นออกเสยี งคำ� การเขา้ ใจความหมายคำ� การพดู บรรยาย การเขยี นคำ� การแปรผล (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) (ทกุ ด้าน) Base Line : 1 (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) 0.88 - 0.00 - (คะแนนเตม็ 15 คะแนน) (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) End Line : 2 5.94 7.13 5.38 8.56 5.00 5.75 8.75 5.50 กราฟ 10 แบบประเมนิ โครงการ ระ ัดบ (คะแนน) 7.5 5 2.5 0 การสะกดคำ� การอ่านออกเสยี งคำ� การเขา้ ใจความหมายคำ� การพดู บรรยาย การเขียนคำ� Base Line : 1 End Line : 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ ครง้ั ท่ี การสะกดคำ� การอ่านออกเสยี งคำ� การเข้าใจความหมายคำ� การพูดบรรยาย การเขยี นคำ� การแปรผล (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) (ทุกดา้ น) Base Line : 1 (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) 5.92 5.77 (คะแนนเตม็ 15 คะแนน) (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) End Line : 2 8.67 9.11 7.00 6.62 1.69 8.44 10.67 8.00 12.5 กราฟ แบบประเมนิ โครงการ 10 ระ ัดบ (คะแนน) 7.5 5 การอา่ นออกเสยี งคำ� การเข้าใจความหมายคำ� การพูดบรรยาย การเขียนคำ� 2.5 Base Line : 1 End Line : 2 0 การสะกดคำ� ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง คร้ังท่ี การสะกดคำ� การอ่านออกเสยี งคำ� การเขา้ ใจความหมายคำ� การพูดบรรยาย การเขยี นคำ� การแปรผล (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) (ทุกด้าน) Base Line : 1 (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) 6.08 4.33 (คะแนนเต็ม 15 คะแนน) (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) End Line : 2 8.75 10.00 6.00 9.08 6.17 7.63 1.75 8.50 12.5 กราฟ แบบประเมนิ โครงการ 10 ระ ัดบ (คะแนน) 7.5 5 การอา่ นออกเสียงคำ� การเขา้ ใจความหมายคำ� การพดู บรรยาย การเขียนคำ� 2.5 Base Line : 1 End Line : 2 0 การสะกดคำ� { 254 }
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ครง้ั ท่ี การสะกดคำ� การอา่ นออกเสียงคำ� การเล่านทิ าน การเขยี นคำ� การแปรผล (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) (ทกุ ด้าน) Base Line : 1 (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) 4.50 (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) End Line : 2 8.30 3.81 4.31 3.44 8.80 7.10 8.50 กราฟ 10 แบบประเมนิ โครงการ ระ ัดบ (คะแนน) 7.5 5 2.5 0 การสะกดคำ� การอา่ นออกเสยี งคำ� การเลา่ นทิ าน การเขยี นคำ� Base Line : 1 End Line : 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ ครงั้ ที่ การสะกดคำ� การอ่านออกเสยี งคำ� การเล่านทิ าน การเขยี นคำ� การแปรผล (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) (ทกุ ด้าน) Base Line : 1 (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) 6.46 (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) End Line : 2 7.56 8.46 6.54 7.46 9.00 7.00 7.56 ระ ัดบ (คะแนน) กราฟ 10 แบบประเมินโครงการ 7.5 5 2.5 0 การสะกดคำ� การอ่านออกเสยี งคำ� การเล่านทิ าน การเขยี นคำ� Base Line : 1 End Line : 2 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ครั้งที่ การสะกดคำ� การอ่านออกเสียงคำ� การเล่านทิ าน การเขยี นคำ� การแปรผล (คะแนนเตม็ 10 คะแนน) (ทกุ ดา้ น) Base Line : 1 (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) 7.60 (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) End Line : 2 8.90 3.20 5.00 3.20 5.20 6.70 5.50 ระ ัดบ (คะแนน) กราฟ แบบประเมินโครงการ 10 7.5 5 2.5 0 การสะกดคำ� การอ่านออกเสียงคำ� การเลา่ นิทาน การเขยี นคำ� Base Line : 1 End Line : 2 { 255 }
ผลการเปลี่ยนแปลงในดา้ นการแก้ปญั หาสุขภาพ ชอ่ื ปญั หาสุขภาพท่ี การแก้ไขปัญหา ๑. สุขภาพฟนั - ไดจ้ ัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ การให้ความร้เู ร่ืองวิธกี ารแปรงฟันท่ี ถูกตอ้ ง ๒. เหา - ได้ใหใ้ ช้สมนุ ไพรก�ำจัดเหากบั นักเรียน - สง่ เสรมิ ใหน้ ักเรียนศกึ ษาภูมิปญั ญาสมนุ ไพรในทอ้ งถ่ินในการ รกั ษาโรคเหา ๔. ทพุ โภชนาการ - ได้เพิม่ อาหารเสริม (นม) (สว่ นสูง/น�ำ้ หนักต�ำ่ กวา่ - จดั อาหารกลางวันให้ครบ ๕ หมแู่ ละจัดประชุมผปู้ กครอง เกณฑ์) ตระหนักในเรอื่ งสขุ ภาพและอาหารการกินของนกั เรยี น การพฒั นาสอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ เพือ่ การสง่ เสริมความสามารถด้านภาษาและสง่ เสริมสขุ ภาพ ซึง่ ได้จดั ทำ� สื่อการผลิตสื่อการสอนของครู จำ� นวน ๖ ประเภท รวม ๒๔ ชนิ้ ได้แก่ บตั รภาพ บัตรคำ� ไมบ้ รรทัดหดั อ่านสมุด Pop Up สระลดรูป วงล้อสะกดค�ำ ลกู เตา๋ แตง่ ประโยค และการผลติ สอ่ื ของนกั เรยี นรว่ มกบั ผปู้ กครอง จำ� นวน ๑ ประเภท รวม ๑๐ ชิ้น ได้แก่ นิทานท�ำมอื และพฒั นาแหล่งเรียนรู้ ลานภาษาพาเพลนิ ปัญหา อปุ สรรค และข้อเสนอแนะ นอกจากงานสอนแล้วครูยังมีภาระงานอื่นท่ีนอกเหนือจากงานสอนเป็นจ�ำนวน มาก จึงส่งผลให้การด�ำเนินงานตามโครงการมีความล่าช้าและไม่ตรงตามปฏิทินท่ี กำ� หนดไว้ { 256 }
มหาวิทยาลัย ราชภัฏมหาสารคาม อำ�เภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม โรงเรียนบา้ นศรีสขุ ตำ� บลหวั ขวาง อ�ำเภอโกสมุ พิสยั จงั หวัดมหาสารคาม โรงเรยี นบา้ นโปง่ ประชาพัฒน์ ต�ำบลบ่งุ เลศิ อ�ำเภอเมยวดี จังหวัดรอ้ ยเอด็ โรงเรียนบ้านแกหวั แฮดสม้ โฮง ตำ� บลธญั ญา อำ� เภอกมลาไสย จงั หวดั กาฬสินธุ์ โรงเรียนประชาพัฒนาบ้านแฮด ตำ� บลบ้านแฮด อ�ำเภอบา้ นแฮด จงั หวดั ขอนแก่น โรงเรียนบ้านหนองขอนแก่น ต�ำบลหนองอบี ตุ ร จงั หวดั กาฬสินธ์ุ โรงเรยี นบ้านผกั หนาม ต�ำบลหนองกุงใหญ่ อำ� เภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น { 257 }
ภาพท่ี ๘ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏมหาสารคาม อำ� เภอเมอื ง จังหวดั มหาสารคาม
การจดั การเรยี นรู้ เพ่อื เสริมสรา้ งความรอบรู้ ดา้ นสขุ ภาพดว้ ยการอา่ นออกเขยี นได้ มหาวิทยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม อ�ำเภอเมือง จงั หวัดมหาสารคาม สว่ นที่ ๑ ภาพรวมการดำ� เนินงาน ๑. แนวคดิ หลกั การ การขับเคลื่อนและพัฒนาประเด็นพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ เพอื่ สง่ เสรมิ ความรอบรทู้ างดา้ นสขุ ภาพอยบู่ นฐานของการพฒั นาโดยเอา พนื้ ทเ่ี ปน็ ตวั ตงั้ พรอ้ มทงั้ มกี ระบวนการคน้ หาและเรยี นรทู้ นุ ทางสงั คมและ ศักยภาพของชุมชน เพ่ือน�ำมาใช้พัฒนาและต่อยอดการด�ำเนินงานของ แตล่ ะพ้ืนที่ อกี ทงั้ ยังมกี ระบวนการจัดการความรู้ การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ จากพน้ื ทตี่ น้ แบบ และการใช้กระบวนการวิจัยในการสรา้ งองคค์ วามรใู้ น ประเด็นตา่ งๆ ท่ีสนใจ การด�ำเนนิ การดังกลา่ วจงึ เป็นสิ่งสำ� คญั เพอ่ื การ พัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับพ้ืนที่ที่สามารถน�ำใช้ ประสบการณ์ที่ได้รับจากกระบวนการเรียนรู้และพัฒนา มาปรับใช้เพ่ือ จัดการกับประเด็นปัญหาและความต้องการของประชากรกลุ่มเป้าหมาย ต่างๆ ในการพัฒนาระบบการดูแลเด็กและเยาวชน โดยมีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพ่ือพัฒนาเครื่องมือประเมินความสามารถด้านภาษาส�ำหรับ นกั เรยี นระดบั ประถมศกึ ษา ๒) เพอื่ พฒั นาสอื่ นวตั กรรมการจดั การเรยี น รู้ท่ีส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาวะโดยผ่านการพัฒนาความสามารถ ดา้ นภาษาสำ� หรบั นกั เรยี นระดบั ประถมศกึ ษา ๓) เพอื่ ใหเ้ ดก็ นกั เรยี นกลมุ่ เป้าหมายได้รับการพัฒนาความสามารถด้านภาษาและนักเรียนทุกคนได้ { 259 }
รับการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนภาษาไทยสูงขึ้น มีพ้ืนที่เป้าหมาย ๔ จังหวัด คือ จังหวดั มหาสารคาม ๕ โรงเรยี น ไดแ้ ก่ โรงเรียนบ้านดอนกลอยหนองยาง โรงเรยี นบ้าน คุยโพธ์ิ โรงเรียนบ้านแก่งโกสุมท่างาม โรงเรียนบ้านศรีสุข โรงเรียนบ้านก�ำพ้ีเหล่ากา เจรญิ ศลิ ป์ จงั หวดั รอ้ ยเอด็ ๑ โรงเรยี น ไดแ้ ก่ โรงเรยี นบา้ นโปง่ ประชาพฒั นจ์ งั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ จำ� นวน ๔ โรงเรยี น ได้แก่ โรงเรยี นบา้ นแกหวั แฮดสม้ โฮงวิทยา โรงเรียนหนองอีบุตรไพร เวทย์ โรงเรียนบ้านหนองขอนแก่น โรงเรียนนิคมกุฉินารายณ์หมู่ ๓ จังหวัดขอนแก่น จำ� นวน ๙ โรงเรยี น ไดแ้ ก่ โรงเรยี นชมุ ชนบา้ นแฮด โรงเรยี นบา้ นหนองไฮขามเปย้ี โรงเรยี น ประชาพฒั นาบ้านแฮด โรงเรียนบ้านผักหนาม โรงเรียนบ้านเวยี งแก้ว โรงเรยี นชมุ ชนหน องกุงใหญ่ โรงเรียนชุมชนกระนวน โรงเรียนชุมชนดูนสาด โรงเรียนเทศบาลบ้านแฮด รวมทั้งสน้ิ ๑๙ โรงเรยี น ๒) วธิ ีด�ำเนินการ การดำ� เนนิ โครงการสานพลงั ภาคเี ครอื ขา่ ยสรา้ งนวตั กรรมพฒั นาการอา่ นออกเขยี นได้ สง่ เสรมิ ความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาวะ มหาวทิ ยาลยั ราชมหาสารคาม ประกอบดว้ ย การวเิ คราะห์ และสรปุ เรอ่ื งเดน่ นวตั กรรมของโรงเรยี นและชมุ ชนพน้ื ทเ่ี ปา้ หมาย ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั ปญั หา และความตอ้ งการของประชากรกลมุ่ เปา้ หมายในพน้ื ท่ี พรอ้ มทง้ั วเิ คราะหแ์ ละสรปุ งานและ กิจกรรมที่มีการน�ำไปเป็นการด�ำเนินงานประจ�ำโรงเรียนและชุมชนพื้นท่ีเป้าหมายของ องคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ ๓) กล่มุ เป้าหมาย ประกอบดว้ ย ๑. มหาวิทยาลยั ราชภฏั ุมหาสารคาม ๒. เขตพ้ืนท่ีการศึกษาจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดกาฬสินธุ์ และ จงั หวัดขอนแกน่ ๓. ผบู้ รหิ ารโรงเรียน/คณะครใู นโรงเรียน ใน ๑๙ โรงเรียน ๔. นักเรียน ๕. องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน ๖. ชุมชน { 260 }
๔) ผลผลิตและผลลัพธ์ ๑. เกิดระบบและกลไกการขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ เพ่ือ เสริมสร้างความรอบรู้ดา้ นสุขภาวะโดยศักยภาพของคณะท�ำงานมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ๒. มีระบบการพัฒนาเครื่องมือ คู่มือ และนวัตกรรมการเรียนรู้ และภูมิปัญญา ด้านสุขภาวะอย่างต่อเนอื่ ง และขยายผลสโู่ รงเรียน ใกล้เคียง ๓. เตรยี มองคค์ วามรู้ ถอดบทเรยี นการปฏบิ ตั ติ อ่ กจิ กรรมเพอ่ื พฒั นาทกั ษะการอา่ นอก เขยี นได้ เสรมิ สร้างความรอบรดู้ ้านสุขภาวะ ๔. ใช้เป็นขอ้ มูลในการพัฒนาตอ่ ยอดการพฒั นาเรือ่ งเดน่ นวตั กรรม และการพัฒนา ในโรงเรยี นและพื้นท่ี ๕) ขนั้ ตอนการด�ำเนนิ งานของมหาวทิ ยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ๑. ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด�ำเนินงาน (MOU) ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาสารคาม องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น และโรงเรยี นในพ้ืนท่เี ปา้ หมาย ๒. ลงพนื้ ท่ีสร้างความเขา้ ใจเก่ยี วกบั โครงการ ๓. โรงเรยี นเขยี นโครงการผลติ สอื่ นวตั กรรมพฒั นาการอา่ นออกเขยี นไดเ้ พอ่ื ขอรบั เงนิ สนบั สนนุ ๔. อบรมเชงิ ปฏิบัตกิ าร การผลิตส่อื นวัตกรรมแก่โรงเรยี นเครือข่าย ๕. สนบั สนนุ ทนุ ให้กบั โรงเรยี นเพอื่ ดำ� เนินการผลติ ส่อื และพฒั นานวตั กรรม ๖. แต่งตัง้ คณะกรรมการประเมนิ การใชส้ อ่ื นวัตกรรม แตล่ ะโรงเรยี น ๑๙ โรงเรยี น โรงเรียนละ ๓ คน และลงพื้นท่ีติดตามเสริมพลังการผลิตสื่อนวัตกรรมของโรงเรียน เครอื ขา่ ย ๑๙ โรงเรยี น ๗. จดั กิจกรรมเผยแพร่ผลงานโรงเรยี นเครือข่าย ๘. ประชมุ เพื่อออกแบบประเมนิ ผลการใชส้ อ่ื เกณฑก์ ารประเมนิ เกณฑ์การคดั เลอื ก ศนู ยต์ ้นแบบประจำ� ตำ� บลและรายงานความกา้ วหนา้ การผลิตสื่อ ๙. การคัดเลือกศูนย์ต้นแบบการจัดการเรียนรู้ฯ พัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ สง่ เสริมความรอบรู้ดา้ นสภุ าวะ ๑๐. การถอดบทเรยี นผลการผลติ สอื่ นวตั กรรมและผลการใชส้ อ่ื นวตั กรรมของโรงเรยี น เครือข่าย { 261 }
๖) ผลท่ีไดร้ ับเชิงรูปธรรมจากการด�ำเนินงาน ๑. ได้รับข้อมูลพ้ืนฐานด้านการอ่านออกเขียนได้ ส่ือนวัตกรรมส่งเสริมการอ่านการ เขยี นของโรงเรยี นและความตอ้ งการสอื่ และนวตั กรรมเพอ่ื สง่ เสรมิ การอา่ นออกเขยี นไดข้ อง แต่ละโรงเรียน ๒. ได้รับข้อมูลความต้องการ การผลิตส่ือนวัตกรรมพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ สง่ เสริมความรอบรู้ด้านสขุ ภาวะของแต่ละโรงเรียน ๓. ได้รับข้อมูลวิธีด�ำเนินการในการผลิตส่ือ/ประเภทของสื่อที่โรงเรียนต้องการและ แนวปฏบิ ัติในการผลิตส่อื ส่วนที่ ๒ เร่ืองเด่นและนวตั กรรมในการทำ� งาน ๑) เรอื่ งเด่นในการออกแบบสื่อและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน (สือ่ พฒั นาทักษะการอ่านออกเขียนไดแ้ ละความรอบรูด้ า้ นสุขภาวะ) โรงเรียน ส่ือการเรียนการสอน และนวัตกรรม ๑. โรงเรียนบา้ นดอนกลอย สื่อผสานอ่านสนกุ เพ่ือเสรมิ สร้างความรอบร้ดู ้านสุขภาวะดว้ ยการ พัฒนาการอ่านออกเขียนได้ หนองยาง นวตั กรรมการจดั การเรียนร้เู พื่อเสริมสร้างความรอบรู้ดา้ นสขุ ภาวะ ๒. โรงเรยี นบ้านคยุ โพธ์ิ ด้วยการพฒั นาการอา่ นออกเขียนได้ นวัตกรรมการจัดการเรียนรเู้ พือ่ เสรมิ สร้างความรอบรู้ด้านสขุ ภาวะ ๓. โรงเรียนบ้านแกง่ โกสุม ดว้ ยการพฒั นาการอ่านออกเขยี นได้ ทา่ งาม หอ้ งสมุดมชี วี ิตส่งเสรมิ นวตั กรรมการจัดการเรียนรูเ้ พื่อเสรมิ สรา้ ง ความรอบรดู้ ้านสุขภาวะ ด้วยการพฒั นาการอ่านออกเขียนได้ ๔. โรงเรยี นบ้านศรีสุข นวตั กรรมการจดั การเรยี นรเู้ พื่อสง่ เสริมความรอบร้ดู ้านสขุ ภาวะด้วย การพัฒนาการอ่านออกเขยี นได้ ๕. โรงเรยี นบ้านโป่ง สง่ เสริมนสิ ยั รกั การอ่านโดยกจิ กรรมห้องสมดุ โรงเรยี นเพอื่ เสรมิ ประชาพัฒน์ สรา้ งความรอบรู้ด้านสขุ ภาวะด้วยการพัฒนาการอา่ นออกเขยี นได้ นวัตกรรมการจัดการเรยี นรเู้ พ่อื เสริมสร้างความรอบรู้ด้านสขุ ภาวะ ๖. โรงเรยี นบา้ นแกหัวแฮด ด้วยการพฒั นาการอา่ นออกเขียนได้ ของนกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปี สม้ โฮงวทิ ยา ที่ ๑-๖ การพฒั นาการอา่ นออกเขียนได้ เพื่อเสรมิ สร้างความรอบรู้ด้านสุข ๗. โรงเรียนหนองอบี ตุ ร ภาวะ โดยการพัฒนาห้องสมดุ เปน็ ศนู ย์กลางการเรยี นรู้ ไพรเวทย์ ๘. โรงเรยี นบา้ นหนอง ขอนแก่น { 262 }
โรงเรียน ส่ือการเรยี นการสอน และนวัตกรรม ๙. โรงเรยี นชุมชนบา้ นแฮด นวัตกรรมการจดั การเรยี นรเู้ พือ่ เสรมิ สรา้ งความรอบรดู้ ้านสขุ ภาวะ ดว้ ยการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ ๑๐. โรงเรยี นบา้ นหนองไฮ นวัตกรรมการจดั การเรยี นรู้เพอ่ื เสริมสร้างความรอบรู้ดา้ นสขุ ภาวะ ขามเปีย้ ดว้ ยการพฒั นาการอา่ นออกเขยี นได้ โครงการพัฒนาการอา่ นออกเขียนได้ของนักเรียนระดบั ประถมศึกษา ๑๑. โรงเรียนประชาพัฒนา จากแหล่งเรียนรูใ้ นห้องเรยี น นอกหอ้ งเรยี น และหอ้ งสมุด บ้านแฮด นวัตกรรมการจดั การเรียนรู้ “ชดุ อ่านเรยี นเขียนค�ำ น�ำสขุ ภาวะทด่ี ี” เพ่ือเสรมิ สร้างความรอบรดู้ ้านสขุ ภาวะดว้ ยการพัฒนาการอ่านออก ๑๒. โรงเรียนบา้ นผกั หนาม เขียนได้ นวัตกรรมการจดั การเรยี นรเู้ พ่ือเสรมิ สรา้ งความรอบรดู้ ้านสุขภาวะ ๑๓. โรงเรียนบ้านเวยี งแกว้ ดว้ ยการพฒั นาการอา่ นออกเขียนได้ ตอกย�ำ้ ซำ้� ทวนเพื่ออ่านออกเขยี นได้ ๑๔. โรงเรียนชุมชนหนองกงุ ใหญ่ อ่านออกเขียนได้เพื่อสง่ เสรมิ ความรอบร้ดู ้านสุขภาพ ๑๕. โรงเรียนนิคมกฉุ ิ การผลิตส่อื นวัตกรรมการเรยี นการสอนเพือ่ พัฒนาการอ่านออก นารายณ์หมู่ ๓ เขยี นได้ของ”นักเรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๖ นวตั กรรมการจัดการเรยี นรู้เพือ่ เสรมิ สร้างความรอบรู้ด้านสขุ ภาวะ ๑๖. โรงเรียนชมุ ชนกระนวน ดว้ ยการพัฒนาการอ่านออกเขยี นได้ นวัตกรรมการจัดการเรียนรเู้ พอ่ื เสรมิ สร้างความรอบรดู้ ้านสขุ ภาวะ ๑๗. โรงเรยี นชมุ ชนดูนสาด ด้วยการพฒั นาการอ่านออกเขยี นได้ นวัตกรรมการจดั การเรียนรเู้ พือ่ เสริมสร้างความรอบร้ดู ้านสขุ ภาวะ ๑๘. โรงเรียนเทศบาล ด้วยการพฒั นาการอา่ นออกเขยี นได้ บา้ นแฮด ๑๙. โรงเรยี นบ้านกำ� พี้ เหล่ากาเจรญิ ศลิ ป์ ซึ่งโรงเรยี นตน้ แบบ ๖ โรงเรียน จาก ๑๙ โรงเรียน จะเนน้ ใหน้ ักเรียนฝึกอา่ นและ เขียน โดยใช้หอ้ งสมดุ โรงเรยี น และหอ้ งสมุดชุมชนเป็นหลัก มกี ารออกมาเลา่ นทิ านจาก การอา่ นหนงั สอื ในหอ้ งสมดุ ให้เพ่ือนๆ ฟัง มีการใหร้ างวลั ยอดนกั อ่านประจำ� เดอื น ซงึ่ จะ ท�ำใหน้ ักเรยี นมนี สิ ยั รักการอ่าน { 263 }
๒) เรอ่ื งเด่น/นวัตกรรมการพฒั นาทักษะการอา่ นออกเขียนได้ เพื่อสง่ เสริมความรอบร้ดู า้ นสขุ ภาพ เรือ่ งเด่น/นวตั กรรม ๑. ส่ือหนังสือเล่มเล็ก/ชุดหนังสืออ่านเพ่ิมเติม/หนังสือนิทาน/หนังสือพับ/หนังสือยืด กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนอ่านออกเขียนได้ ประโยชน์/ผลลัพธ์เชิงรูปธรรมท่ีเกิดขึ้นคือ ฝกึ การอ่านคล่องเขียนคล่อง ไดร้ ับความนยิ มเป็นอนั ดับ ๑ ของทกุ โรงเรยี น นักเรียนมี นสิ ยั รกั การอา่ นมากขึ้น ๒. สื่อชุดฝึกการอ่าน การเขียน/ชุดฝึกเรียงค�ำ/ฝึกทักษะการเขียน/ค�ำคล้องจอง/ ปรศิ นาคำ� ทายกลุ่มเปา้ หมาย คือ นกั เรียนอา่ นออกเขียนไม่ได้ พัฒนาเปน็ อ่านออกเขยี น ได้ ประโยชน/์ ผลลัพธเ์ ชิงรูปธรรมท่ีเกิดข้นึ นกั เรียนเข้ามาฝกึ อา่ นกับครปู ระจ�ำชนั้ มากข้ึน ยมื ไปที่อ่านทบ่ี ้านมากข้ึน ๓. สือ่ ชุดมาตราตัวสะกด/การฝกึ ฝนวรรณยุกต์/ชดุ ฝึกอ่านคำ� /ชดุ ฝึกอา่ นประโยค/ชุด ค�ำกลอนช่วยจ�ำ/แผน่ พับตา่ งๆ กลมุ่ เปา้ หมายคือ นกั เรียนอา่ นไม่ออกเขยี นไม่ได้ พัฒนา เปน็ อ่านออกเขียนได้ดีขนึ้ ประโยชน์/ผลลพั ธเ์ ชงิ รปู ธรรมท่ีเกิดขนึ้ คือ นักเรยี นยืมไปฝกึ ท่ี บา้ น และผ้ปู กครองร่วมควบคุม โดยการส่ือสารโดยตรงระหว่างครูและผปู้ กครอง ๓) การพฒั นาฐานขอ้ มูลระบบการตดิ ตามประเมนิ ผล ๑. ข้อมูลน�ำเข้าระบบจากการถอดบทเรียนพบว่า ๑) โรงเรียนมีส่ือ นวัตกรรม พฒั นาการอ่านคล่อง เขยี นคลอ่ ง อา่ นออกเขยี นได้ และพัฒนาการอา่ นการเขียน จ�ำนวน มากเพยี งพอตอ่ การบรกิ ารนกั เรยี นและชมุ ชน ๒) ผลการใชส้ อื่ พฒั นาการอา่ นออกเขยี นได้ ส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาวะของนักเรียนพบว่า จากการประเมินการอ่านเขียนโดยใช้ แบบประเมนิ ของ สพฐ. ประจ�ำปี นักเรยี นในโรงเรยี นเครือขา่ ยทกุ โรงเรยี นมีผลการอ่าน ออกเขยี นไดม้ ากขนึ้ และนกั เรียนมีนสิ ยั รักการอา่ นเพม่ิ ข้ึน ๒. เครื่องมือและกลไกที่ใช้ในการด�ำเนินงาน ได้แก่ ๑) แบบส�ำรวจข้อมูลพื้นฐาน โรงเรียนเครอื ข่ายเพอื่ เก็บข้อมลู โรงเรียนด้านสภาพการอ่านออกเขียนได้ ดา้ นความพรอ้ ม ของส่ือ ความตอ้ งการส่อื นวัตกรรม ๒) แบบรายงานผลการผลิตส่ือ ๓) แนวทางการจัด ท�ำคู่มือการใช้ส่ือ๔)แบบรายงานผลการใช้ส่ือ นวัตกรรม ๕) แบบประเมินผลการใช้ส่ือ เกณฑ์การประเมินผลการใช้ส่ือ ๖) แบบประเมินศูนย์ต้นแบบการจัดการเรียนรู้ฯ เกณฑ์ การประเมนิ ศนู ย์ตน้ แบบ ๗) ค�ำถามเพอื่ ถอดบทเรียนความส�ำเรจ็ กลไกท่ใี ช้ ประกอบด้วย การแต่งตั้งคณะท�ำงานของคณะครุศาสตร์/คณะกรรมการบริหารโครงการ การแต่งตั้ง คณะกรรมการประเมนิ สอื่ นวตั กรรมประจำ� โรงเรยี น การ.ลงพนื้ ทเี่ พอื่ ตดิ ตามเสรมิ พลงั อยา่ ง { 264 }
ต่อเน่ือง การติดต่อประสานงานกับโรงเรียนเครือข่ายอย่างต่อเน่ืองโดยการแบ่งพ้ืนที่ รบั ผดิ ชอบใหค้ ณะทำ� งานอย่างเดน่ ชัด การคณะทำ� งานประชุมเพอื่ ตดิ ตาม รายงานความ ก้าวหนา้ เปน็ ประจำ� อย่างน้อย เดือนละ ๑ คร้ัง ๔) ผลผลติ และผลลพั ธ์ทเี่ กิดขึ้น พร้อมท้ังรปู ธรรมผลกระทบ ที่เป็นการเปล่ียนแปลงที่เกิดขึน้ กบั โรงเรียนเป้าหมายการด�ำเนนิ งาน ผลผลิตจากการด�ำเนนิ งาน ได้แก่ ๑) โรงเรียนเครือข่ายทกุ โรงเรียนมสี ่ือพัฒนาการ อา่ นออกเขยี นไดส้ ง่ เสรมิ ความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาวะเพยี งทจ่ี ะใหบ้ รกิ ารแกน่ กั เรยี น ผปู้ กครอง และชุมชน ๒) นักเรียนมีพัฒนาการด้านการอ่านและการเขียนเพ่ิมขึ้นโดยมีคะแนน ผลสัมฤทธ์ิด้านการอ่านและการเขียนจากการวัด โดยใช้แบบประเมินของ สพฐ. สูงข้ึน ทกุ โรงเรยี น ผลลัพธ์จากการดำ� เนินงาน ได้แก่ ๑) นกั เรียนมนี ิสัยรกั การอ่านเพมิ่ ขึ้น ๒) นักเรยี น ได้เรยี นรู้อยา่ งต่อเน่ือง โดยการยืมสอ่ื ท่ีสนใจ ไปอ่านเพ่มิ เตมิ ทบ่ี ้านได้ โดยมกี ารเรยี นรู้ รว่ มกบั ผ้ปู กครองท�ำให้ผปู้ กครอง และชุมชนมีความรอบรดู้ ้านสุขภาวะเพ่มิ ข้ึน ผลกระทบจากการดำ� เนนิ งาน ไดแ้ ก่ ๑) โรงเรยี นเปน็ แหลง่ เรยี นรใู้ นชมุ ชน ๒) โรงเรยี น และชุมชนมีสมั พันธภาพท่ีดตี ่อกนั มากขึน้ ๕) ปัจจัยเงอื่ นไขของความส�ำเรจ็ ๑. ระบบการติดต่อประสานงานระหว่างมหาวิทยาลัยราชมหาสารคามและโรงเรียน เครือข่าย มีความสะดวก รวดเร็ว และต่อเนื่อง มีการลงพ้ืนที่ติดตามเสริมพลังอย่าง ต่อเนื่อง โดยมผี ้ปู ระสานงานในแต่ละพ้นื ที่ ทีช่ ัดเจน ๒. คณะทำ� งานมกี ารประชมุ เพอื่ ชแ้ี จงความกา้ วหนา้ และแลกเปลยี่ นขอ้ มลู เปน็ ประจำ� ทุกเดอื น ๓. มกี ารรายงานความกา้ วหนา้ ประจำ� เดอื นตอ่ ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ (อธกิ ารบด)ี และ ผ้เู กยี่ วขอ้ งอย่างสมำ�่ เสมอ ๔. การผลิตส่ือของโรงเรียนเป็นไปตามความต้องการของโรงเรียนท่ีสามารถเลือกได้ ใหเ้ หมาะสมตามบรบิ ทและความตอ้ งการของโรงเรยี นซงึ่ มคี วามเหมาะสมของนกั เรยี นแตล่ ะ โรงเรียน { 265 }
ภาพท่ี ๘.๑ โรงเรยี นบา้ นศรสี ุข ตำ� บลหวั ขวาง อำ� เภอโกสมุ พสิ ัย จงั หวดั มหาสารคาม
โรงเรียนบ้านศรีสขุ ต�ำบลหวั ขวาง อ�ำเภอโกสมุ พิสัย จังหวัดมหาสารคาม สรุปการด�ำเนินกิจกรรมโครงการส่งเสริมความรอบรู้สู้สุขภาพผ่านการ พฒั นาการอ่านออกเขียนได้ หอ้ งสมดุ มีส่งิ มีชวี ิตส่งเสรมิ นวัตกรรมการจัดการ เรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาวะ ด้วยการพัฒนาการอ่านออก เขียนได้ โรงเรียนบ้านศรีสุข ต�ำบลหัวขวาง อ�ำเภอโกสุมพิสัย จังหวัด มหาสารคาม ภายใตโ้ ครงการนวตั กรรมการจดั การเรยี นรเู้ พอื่ เสรมิ สรา้ งความ รอบรดู้ า้ นสุขภาวะ ดว้ ยการพฒั นาการอ่านออกเขยี นได้ ขอ้ มูลสถานการณ์โรงเรยี น โรงเรียนบ้านศรีสุข สังกัดส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา เขต ๓ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษานายมนตช์ ยั ไวมาตย์ จำ� นวนนกั เรยี น ชาย ๒๒ คน หญงิ ๒๗ คน รวม ๔๙ คน สถานการณ์ปัญหาสขุ ภาพของนักเรยี น ปัญหา แหล่ง นกั เรียน แนวทางการจดั การแก้ไขปญั หา สขุ ภาพทพ่ี บ ขอ้ มูล (ร้อยละ) สุขภาพฟนั ครู ๒๖ กำ� ชับใหน้ ักเรียนแปรงฟันหลังรับประทาน อาหารกลางวัน และแปรงฟันทีบ่ า้ นวันละ ๒ ครัง้ ภาวะอ้วน/ ครู ๑๖ จดั อาหารกลางวันให้ถกู ตอ้ งตามหลัก ผอม ครู โภชนาการ เหา ๔๘ ก�ำจดั เหาทกุ เดือน { 267 }
สถานการณป์ ญั หาดา้ นการอา่ น และปญั หาด้านการเขียน ระดับชนั้ ปัญหาดา้ นการอา่ น (ปีการ ปญั หาดา้ นการเขียน (ปีการ ศกึ ษา ๒๕๖๑) ศกึ ษา ๒๕๖๑) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ชาย หญิง รวม ชาย หญงิ รวม ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔ ๓ ๘ ๑๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ ๑๒ ๓ ๓๕๘ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๑๓๔ รวมทงั้ หมด ๑- ๑ ๓๖๙ ๒๕๗ -- - ๒ ๘ ๑๐ ๑๔ ๓๕ ๔๙ ๒๑ ๓ ๑- ๑ ๓- ๓ ๘ ๓ ๑๑ สถานการณ์ปญั หาการอา่ นไม่ออกเขยี นไม่ได้ ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ พบว่า ๑) ปญั หานกั เรียนอา่ นไม่ออก เขยี นไม่ได้ เกดิ จากครูผลติ สื่อการสอนน้อยเน่อื งจากงบประมาณมีจ�ำกัด ผู้ปกครองผลกั ภาระเรอื่ ง การเรียนให้ครูในการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน เมื่อกลับไปท่ีบ้านผู้ปกครอง ไม่ค่อยให้ความส�ำคัญกับการอ่านของนักเรียน จึงท�ำให้การอ่านขาดความต่อเน่ือง ในโรงเรยี นไมม่ แี หลง่ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู สอ่ื สงิ่ พมิ พท์ มี่ ใี นหอ้ งสมดุ มนี อ้ ยและลา้ สมยั ไมม่ ีส่งิ อำ� นวยความสะดวกใหห้ ้องสมดุ ๒) ปัญหานกั เรียนอา่ นจบั ใจความและเขยี น สรปุ ความไมไ่ ด้ เกดิ จากครไู ม่มปี ระสบการณใ์ นการสอนเกย่ี วกับวชิ าภาษาไทย ขาด ทกั ษะในการสือ่ ความหมายจึงท�ำใหส้ ือ่ สารกบั นกั เรยี นไม่รู้เรื่อง บทบาทและกระบวนการการพฒั นา กลุ่ม บทบาทท่มี ตี อ่ การพฒั นาทักษะการอ่านออกเขยี นได้ โรงเรียน เพอื่ สง่ เสรมิ ความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาวะของนกั เรยี น - จดั กิจกรรมการเรยี นรพู้ ัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ เพอ่ื สง่ เสริม ความรอบรู้ด้านสขุ ภาพ - ผลิตสอื่ นวัตกรรมพฒั นาทักษะการอ่านเพอื่ สง่ เสรมิ ความรอบรู้ดา้ น สุขภาพ - ส่งเสริมการใช้ห้องสมดุ ในการพฒั นาทักษะการอา่ น - กจิ กรรมแข่งขนั ทกั ษะการอ่านออกเขียนได้ ในวนั ส�ำคัญต่างๆ { 268 }
กลมุ่ บทบาทท่ีมตี ่อการพัฒนาทกั ษะการอ่านออกเขียนได้ ผูป้ กครอง เพ่ือส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาวะของนักเรียน - สง่ เสรมิ การอ่านท่ีบ้านต่อเนอื่ งจากโรงเรยี นทกุ วนั ชุมชน - สรา้ งความตระหนกั เกี่ยวกบั โภชนาการทบ่ี ้านใหน้ ักเรยี นรับประทาน มหาวิทยาลัย อาหารเช้าทุกวัน ราชภัฏ - ประสานความรว่ มมือระหวา่ งโรงเรยี นและทำ� ความเขา้ ใจกับผู้ปกครองสง่ มหาสารคาม เสรมิ การอ่านใหเ้ ป็นวาระของหมู่บ้าน ผู้บริหาร - สนับสนุนสง่ เสรมิ และใหค้ วามรว่ มมอื การอ่านออกเขียนได้ ครู นักเรยี น - มีนโยบายส่งเสรมิ การจัดซื้อสือ่ และนวัตกรรมเพ่ือส่งเสริมการอ่านไม่ออก เขยี นไมไ่ ด้ของนกั เรียน - พัฒนาสร้างสอ่ื และนวัตกรรมเพอ่ื จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนของ นกั เรียน - เขา้ ร่วมการจัดกจิ กรรม ผลท่ีไดร้ ับจากการดำ� เนนิ งานและความเปลี่ยนแปลง จากการจดั ทำ� พฒั นา นำ� สอื่ ไปใชแ้ ละทำ� การประเมนิ จากการอา่ นและการเขยี น ของนักเรียนหลังจากท่ีด�ำเนินการตามกลไกลของกระบวนการท�ำงาน พบว่า ๑) นกั เรยี น ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ นกั เรยี นสามรถอ่านออกคดิ เป็นร้อยละ ๑๐๐ ของนักเรียนทีเ่ ข่ารว่ มกจิ กรรม ๒) ครู มกี ารพฒั นาสร้างสื่อและนวัตกรรมเพอื่ จดั กิจกรรมการเรียนการสอนของนักเรียน คิดเป็นจ�ำนวนร้อยละ ๑๐๐ ของครูทั้ง โรงเรยี น ๓) โรงเรียน นกั เรียนไดเ้ ข้าร่วมการแข่งขนั คดั ลายมอื อา่ นท�ำนองเสนาะ การเขยี นยอ่ ความและการเขยี นเรยี งความกจิ กรรมวนั ภาษาไทยและไดร้ บั รางวลั ระดบั ทองของศนู ย์พัฒนาคุณภาพการศึกษา ๔) เครือข่าย เกิดความเปลี่ยนแปลง เช่น ผู้ปกครองและชุมชนใกล้เคียงให้ความสนใจและมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการอ่านใน การด�ำเนินกิจกรรมของครูและนักเรียนร่วมกัน เช่น มีการประเมินการอ่านของ นกั เรยี นโดยครแู ละผปู้ กครองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ๕) ความโดดเดน่ โรงเรยี นไดท้ ำ� โครงการ บรรณารกั ษน์ ้อยและโครงการสง่ เสรมิ การอ่านจึงส่งผลใหน้ กั เรยี นมนี สิ ยั รักการอ่าน เพิม่ ขนึ้ จำ� นวน ๒๖ คน จากนักเรยี นท้ังหมด จ�ำนวน ๔๙ คน และสามารถอ่าน ออกเขียนได้ร้อยละ ๑๐๐ รวมถึงมีความโดดเด่นในด้านการพัฒนานวัตกรรมสื่อ { 269 }
ส่งเสรมิ ทกั ษะการอ่านเป็นจำ� นวน ๕ กิจกรรม คือ (๑) ปรศิ นาฟา้ แลบ (๒) ภาษา ไทยวันละนิด ภาษาอังกฤษวันละค�ำ (๓) Fast and furious (๔) หลังชนฝา (๕) หนงั สือเดง้ ได้ ผลกระทบท่ีเกดิ จากการดำ� เนนิ งาน จากการดำ� เนินงานผา่ นมาพบผลกระทบเกดิ ขึ้น คือ ๑) ครมู ีการปรบั บทบาท จ�ำนวน ๓ คน ๒) ผปู้ กครองให้ความสนใจนกั เรียนมากขน้ึ กวา่ เดมิ (รอ้ ยละ ๗๒) ๓) โรงเรียนมีการท�ำงานร่วมกันชุมชนมากขึ้น ผู้ปกครองให้ความร่วมมือเอาใจใส่ กิจกรรมการเรียนการสอนเพิ่มข้ึน ๔) เวลาไม่เพียงพอต่อการท�ำกิจกรรมในบาง กิจกรรม { 270 }
ภาพที่ ๘.๒ โรงเรยี นบ้านโปง่ ประชาพฒั น์ ต�ำบลบ่งุ เลิศ อำ� เภอเมยวดี จงั หวัดรอ้ ยเอด็
โรงเรียนบา้ นโป่งประชาพัฒน์ ตำ� บลบงุ่ เลศิ อำ� เภอเมยวดี จังหวดั รอ้ ยเอ็ด สรุปการด�ำเนินกิจกรรมโครงการการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ เพ่ือ เสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาวะ โดยการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของ นกั เรยี น โรงเรยี นบา้ นโปง่ ประชาพฒั น์ ต�ำบลบงุ่ เลิศ อำ� เภอเมยวดี จังหวัด รอ้ ยเอด็ ภายใตโ้ ครงการนวตั กรรมการจดั การเรยี นรเู้ พอื่ เสรมิ สรา้ งความรอบรู้ ดา้ นสุขภาวะ ด้วยการพัฒนาการอ่านออกเขยี นได้ สถานการณ์โรงเรียน โรงเรยี นบา้ นโปง่ ประชาพฒั น์ สงั กดั สำ� นกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถม ศึกษาร้อยเอ็ดเขต ๓ ผู้บริหารสถานศึกษานายธีระวิทย์ เสมอโภค จ�ำนวน นกั เรยี น ชาย ๖๙ คน หญิง ๕๗ คน รวมท้งั หมด ๑๒๖ คน สถานการณป์ ญั หาสุขภาพของนกั เรียน ปัญหา แหล่ง นกั เรียน แนวทางการจัดการแก้ไขปัญหา สขุ ภาพท่ีพบ ข้อมลู (รอ้ ยละ) ภาวะ ครู โภชนาการ ๑.๕๘ ดแู ลการรับประทานอาหารกลางวัน/อาหาร ต่�ำกวา่ เกณฑ์ เสริมนม ภาวะอว้ น/ ครู ผอม ๗.๑๔ ใหค้ �ำแนะนำ� การรบั ประทานอาหาร จดั รวมทง้ั หมด กจิ กรรมออกกำ� ลงั กาย ๘.๗๒ { 272 }
สถานการณป์ ญั หาดา้ นการอา่ น และปญั หาด้านการเขยี น ระดับช้ัน ปัญหาดา้ นการอา่ น (ปีการ ปญั หาดา้ นการเขียน (ปกี าร ศกึ ษา ๒๕๖๑) ศกึ ษา ๒๕๖๑) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๒ ชาย หญิง รวม ชาย หญงิ รวม ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓ (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ๑๐๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ๓๐ ๓ ๐๐๐ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ ๑๐๑ รวมทั้งหมด ๑๑ ๒ ๑๐๑ ๐๑๑ ๒๐ ๒ ๐๐๐ ๓๑๔ ๐๐ ๐ ๐๐ ๐ ๐๐ ๐ ๖๑ ๗ สถานการณป์ ญั หาการอ่านไม่ออกเขยี นไม่ได้ ในปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ นกั เรยี นโรงเรียนบ้านโปง่ ประชาพฒั น์กว่ารอ้ ยละ ๓๐ อาศยั อย่กู ับผูป้ กครองท่ไี มใ่ ช่บิดามารดา เนอ่ื งจากบดิ ามารดาไปท�ำงานทีอ่ น่ื จงึ มี ปัญหาการควบคมุ ดแู ลการใช้อปุ กรณ์สือ่ สาร เช่น โทรศพั ท์ แท็ปเลต็ นักเรยี นจึงใช้ เวลาว่างส่วนมากไปกับการเล่นอุปกรณ์เหล่าน้ันความสนในในการเรียนจึงน้อยลง และนักเรียนส่วนมากจะขาดการดูแลการอ่านการเขียนท่ีบ้าน ซ่ึงส่งผลต่อการ พฒั นาการอ่านการเขียน บทบาทและกระบวนการการพัฒนา กลุม่ บทบาทท่มี ีตอ่ การพัฒนาทกั ษะการอา่ นออกเขยี นได้ โรงเรยี น เพือ่ ส่งเสรมิ ความรอบรูด้ า้ นสขุ ภาวะของนกั เรียน - ออกแบบกจิ กรรม จัดทำ� เอกสาร ค่มู อื การจดั กิจกรรม ผู้ปกครอง - ประชุมชแี้ จง ชมุ ชน - จดั กิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านออกเขยี นได้ - ประเมินการอ่านออกเขียนได้ของนกั เรยี น - รับการนิเทศติดตามโครงการ - สง่ เสริมสนับสนุน ควบคุมดแู ลการอา่ นการเขยี นท่บี ้านของนกั เรยี น - สนับสนนุ ให้ความรว่ มมอื การจัดหาสือ่ ทส่ี ง่ เสริมทักษะการอา่ น การเขียน { 273 }
กลุ่ม บทบาททม่ี ตี ่อการพัฒนาทักษะการอ่านออกเขยี นได้ เพอื่ ส่งเสริมความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาวะของนกั เรียน มหาวิทยาลยั - สนบั สนนุ งบประมาณการจดั ซ้ือสือ่ นวตั กรรมในโครงการการ ราชภฏั มหาสารคาม ผบู้ รหิ าร - รับผดิ ชอบโครงการและนโยบายการสนับสนนุ การด�ำเนินกจิ กรรม ครู - ดำ� เนินการจัดกิจกรรมพัฒนาการอา่ นออกเขียนได้ตามโครงการ นักเรียน - สนใจและเข้ารว่ มกจิ กรรมและชว่ ยการพฒั นาส่ือ ผลท่ีไดร้ บั จากการดำ� เนินงานและความเปลย่ี นแปลง จากการจดั ทำ� พฒั นา นำ� สอื่ ไปใชแ้ ละทำ� การประเมนิ จากการอา่ นและการเขยี น ของนักเรียนหลังจากที่ด�ำเนินการตามกลไกลของกระบวนการท�ำงาน พบว่า ๑) นักเรียน นกั เรียนรอ้ ยละ ๙๐ ผ่านการประเมินการอา่ นออกเขียนได้ ผา่ นการ ประเมนิ การอา่ นคดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี นสอ่ื ความ และสามารถอา่ นออกเขยี นไดร้ อ้ ยละ ๑๐๐ ๒) ครู ไดแ้ นวทางด�ำเนินงานการแก้ไขปัญหาและพฒั นาการอ่านออกเขยี นได้ เกิดรูปแบบกิจกรรมซ้�ำบ่อยท่ีเป็นแบบอย่างได้ รูปแบบกิจกรรมพัฒนาการอานการ เขยี นเพอ่ื ใชใ้ นปกี ารศกึ ษาตอ่ ไป ๓) โรงเรยี น ไดร้ ปู แบบกจิ กรรมพฒั นาการอานการ เขียนเพอ่ื ใชใ้ นปีการศึกษาต่อไป ๔) เครือขา่ ย มสี ว่ นรว่ มของผปู้ กครองในการดูแล การอ่านการเขียนท่ีบ้านจนเป็นผู้น�ำเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียนเพ่ือพัฒนาการอ่าน การเขยี น และมผี นู้ ำ� เครือขา่ ยผปู้ กครองพฒั นาการอา่ นการเขียน ชนั้ ประถมศึกษา ปที ี่ ๑-๖ จำ� นวน ๑๒ คน ๕) ความโดดเดน่ โรงเรยี นไดท้ ำ� โครงการ การพฒั นาการ อ่านออกเขียนได้ เพ่ือเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาวะ โดยการพัฒนาการอ่าน ออกเขยี นไดข้ องนกั เรยี น จนสง่ ผลใหน้ ักเรียนร้อยละ ๙๐ ผ่านการประเมินการอา่ น ออกเขียนได้ ผ่านการประเมนิ การอา่ นคดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี นสื่อความ และสามารถ อ่านออกเขียนได้ร้อยละ ๑๐๐ รวมถึงมีความโดดเด่นในด้านการพัฒนานวัตกรรม ส่ือส่งเสริมทักษะการอ่าน คือ การพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนเป็น รูปแบบการจัดกิจกรรมซ�้ำบ่อยเพื่อพัฒนาการอ่านการเขียนและพัฒนาการอ่านคิด วเิ คราะห์และเขียนสือ่ ความ ผลกระทบทเ่ี กิดจากการด�ำเนนิ งาน ครูมีการปรับบทบาท ผู้ปกครองให้ความสนใจนักเรียนมากข้ึนกว่าเดิมและ โรงเรยี นมีการทำ� งานร่วมกนั ผู้ปกครองมากขน้ึ { 274 }
ภาพที่ ๘.๓ โรงเรยี นบ้านแกหวั แฮดสม้ โฮง ต�ำบลธญั ญา อ�ำเภอกมลาไสย จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ
โรงเรยี นบ้านแกหวั แฮดสม้ โฮง ตำ� บลธัญญา อ�ำเภอกมลาไสย จงั หวดั กาฬสินธ์ุ สรุปการด�ำเนินกิจกรรมโครงการ ส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโดยกิจกรรม ห้องสมุดโรงเรียนเพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาวะด้วยการพัฒนาการ อ่านออก เขียนได้ โรงเรียนบ้านแกหัวแฮดส้มโฮงวิทยา โรงเรียนบ้านแก หวั แฮดสม้ โฮง ตำ� บลธญั ญา อำ� เภอกมลาไสย จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ภายใตโ้ ครงการ นวตั กรรมการจัดการเรยี นรูเ้ พือ่ เสรมิ สร้างความรอบรูด้ ้านสขุ ภาวะ ด้วยการ พัฒนาการอ่านออกเขยี นได้ ขอ้ มูลสถานการณ์โรงเรยี น โรงเรยี นบา้ นแกหวั แฮดส้มโฮงวทิ ยา สังกัดสำ� นักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา ประถมศกึ ษาจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ เขต ๑ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษานายประสงค์ บาลลา จำ� นวนนักเรียน ชาย ๑๐๖ คน หญงิ ๘๘ คน รวมท้ังหมด ๑๙๔ คน สถานการณ์ปญั หาสขุ ภาพของนกั เรียน ปัญหา แหล่ง นกั เรยี น แนวทางการจดั การแกไ้ ขปัญหา สุขภาพที่พบ ข้อมลู (รอ้ ยละ) เหา ครู ๑๐ รกั ษาความสะอาดด้วยการสระผมเปน็ ประจำ� ประจำ� ชนั้ { 276 }
สถานการณป์ ัญหาด้านการอ่าน และปญั หาด้านการเขยี น ระดบั ช้ัน ปัญหาดา้ นการอ่าน (ปีการ ปญั หาดา้ นการเขียน (ปีการ ศกึ ษา ๒๕๖๑) ศึกษา ๒๕๖๑) ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๒ ชาย หญิง รวม ชาย หญงิ รวม ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ๒-๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ๒- ๒ ๒-๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ รวมทงั้ หมด ๒- ๒ --- --- -- - --- --- -- - ๔๐๔ -- - -- - ๔- ๔ สถานการณป์ ัญหาการอ่านไมอ่ อกเขียนไม่ได้ ส่วนใหญม่ าจากนกั เรยี นท่ีอยู่กบั ตายายจ�ำนวน ๒ คน บิดามารดา หยา่ ร้าง จ�ำนวน ๓ คน ขาดการเอาใจใส่จากผู้ปกครองเนือ่ งจากต้องไปท�ำงานนอกบา้ นหรอื รับจ้างรายวัน ๖ คน ดังนั้นบุคคลในครอบครวั จงึ ดอ้ ยบทบาทต่อการชว่ ยสง่ เสริม การเรียนการอ่านอย่างต่อเน่ือง และในการเรียนการสอนที่ไม่สามารถดูแลได้อย่าง ถ่ีถว้ น สง่ ผลให้เกิดปัญหาการอา่ นไม่ออกเขยี นไมไ่ ด้เกดิ ขึน้ บทบาทและกระบวนการการพัฒนา กลุ่ม บทบาททีม่ ตี อ่ การพัฒนาทักษะการอ่านออกเขยี นได้ โรงเรียน เพือ่ สง่ เสริมความรอบรดู้ า้ นสุขภาวะของนกั เรียน - จดั กิจกรรมเพ่อื แกไ้ ขปญั หาการอ่านไม่ออก เขยี นไมไ่ ดข้ องนกั เรยี น และ ผูป้ กครอง รว่ มมือกับ ผู้ปกครองและเครอื ขา่ ย - ลงนามแบบบนั ทึกการอา่ นของนกั เรยี นจากการยืมหนงั สอื หอ้ งสมดุ ไป ชมุ ชน อ่านท่บี ้านและชว่ ยส่งเสรมิ โดยความร่วมมือของ บ้าน วัด และชุมชน มหาวทิ ยาลัย - ช่วยสนับสนนุ การจัดหาสอื่ ในการส่งเสริมการอ่าน ราชภฏั - สนับสนนุ งบประมาณในการจัดซอ้ื ส่อื นวตั กรรมสง่ เสรมิ การอา่ นออกเขียน มหาสารคาม ได้ ผู้บรหิ าร - มีนโยบายส่งเสริมการจดั ซอ้ื สอ่ื และนวตั กรรมเพื่อสง่ เสรมิ การอ่านไม่ออก เขียนไม่ไดข้ องนกั เรยี น { 277 }
กลมุ่ บทบาทที่มีตอ่ การพัฒนาทกั ษะการอา่ นออกเขียนได้ เพื่อสง่ เสริมความรอบรู้ดา้ นสุขภาวะของนกั เรยี น ครู - สง่ เสริมการเรยี นรู้พัฒนาส่อื และนวตั กรรมเพอ่ื การเรียนของนักเรียน นักเรียน - ใหค้ วามร่วมมอื เขา้ รว่ มการจดั กจิ กรรมและพฒั นาตนเอง ผลท่ีได้รับจากการด�ำเนนิ งานและความเปลย่ี นแปลง จากการจดั ทำ� พฒั นา นำ� สอื่ ไปใชแ้ ละทำ� การประเมนิ จากการอา่ นและการเขยี น ของนักเรียนหลังจากที่ด�ำเนินการตามกลไกลของกระบวนการท�ำงาน พบว่า ๑) นักเรยี น นกั เรียนทอ่ี า่ นไมอ่ อกเขยี นไม่ได้ซ่ึงมจี �ำนวน ๘ คนเข้ารว่ มในกิจกรรม และสามารถอ่านออกเขยี นไดร้ ้อยละ ๑๐๐ มคี วามเปลีย่ นแปลงจากเดิมเตม็ จ�ำนวน ๒) ครู มกี ารพฒั นาครู มกี ารสรา้ งสอ่ื และนวตั กรรมเพอ่ื การเรยี นของนกั เรยี น คดิ เปน็ จำ� นวนรอ้ ยละ ๑๐๐ ของครทู ง้ั โรงเรยี น ๓) โรงเรยี น นกั เรยี นไดเ้ ขา้ รว่ มการแขง่ ขนั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ น ยวุ บรรณารกั ษ์ ในปี ๒๕๖๐ ไดร้ บั รางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั ๒ ระดับจังหวัด จ�ำนวน ๓ คน และ ในปี ๒๕๖๑ ได้รับรางวลั รองชนะเลศิ อันดบั ๑ ระดบั จงั หวดั จำ� นวน ๓ คน ๔) เครอื ขา่ ย เกดิ ความเปลย่ี นแปลง เชน่ ผปู้ กครอง และชมุ ชนใกลเ้ คยี งใหค้ วามสนใจและมสี ว่ นรว่ มในการสง่ เสรมิ การอา่ นในการดำ� เนนิ กิจกรรมของครูและนกั เรยี นร่วมกัน เชน่ มกี ารประเมินการอ่านของนักเรยี นโดยครู และผปู้ กครองอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ๕) ความโดดเดน่ โรงเรยี นไดท้ ำ� โครงการ สง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอา่ นโดยกจิ กรรมหอ้ งสมดุ โรงเรยี นเพอ่ื เสรมิ สรา้ งความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาวะดว้ ย การพัฒนาการอา่ นออก เขียนได้ โรงเรียนบา้ นแกหวั แฮดสม้ โฮงวิทยา จนสง่ ผลให้ นกั เรยี นมีนิสัยรักการอ่านเพิ่มขึน้ จ�ำนวน ๔๗ คน จากนกั เรยี นท้งั ส้นิ จ�ำนวน ๑๙๔ คน และสามารถอ่านออกเขียนได้ร้อยละ ๑๐๐ มีความโดดเด่นในด้านการพัฒนา นวตั กรรมส่อื ส่งเสรมิ ทกั ษะการอา่ นเป็นจ�ำนวน ๓ กิจกรรม ไดแ้ ก่ ๑) ส่อื นวตั กรรม คอื เกมบิงโก ๒) กจิ กรรมแปลงคำ� เปน็ จำ� นวน ๓) กิจกรรมตบการด์ คำ� ศัพท์ ผลกระทบท่เี กิดจากการดำ� เนนิ งาน ครมู กี ารปรบั บทบาทในการดำ� เนนิ กจิ กรรมของนกั เรยี นทกุ คน ทกุ ชน้ั โดยมกี าร หมนุ เวยี นเกม กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ นทงั้ ๓ กจิ กรรมตามหอ้ งเรยี นสบั เปลยี่ นกนั เลน่ โดยบรู ณาการในชนั้ เรยี นครบทกุ ชน้ั ทำ� ใหน้ กั เรยี นรกั การอา่ นและเรยี นรจู้ ากกจิ กรรม สง่ เสรมิ การอ่านอย่างมีความสขุ { 278 }
ภาพท่ี ๘.๔ โรงเรยี นประชาพฒั นาบา้ นแฮด ต�ำบลบ้านแฮด อำ� เภอบา้ นแฮด จงั หวัดขอนแกน่
โรงเรียนประชาพัฒนาบา้ นแฮด ต�ำบลบ้านแฮด อ�ำเภอบา้ นแฮด จังหวัดขอนแก่น สรุปการด�ำเนินกิจกรรมโครงการการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของ นักเรยี นระดับประถมศกึ ษา จากแหลง่ เรียนรู้ในห้องเรยี นนอกหอ้ งเรียน และ หอ้ งสมดุ โรงเรยี นประชาพฒั นาบา้ นแฮด ภายใตโ้ ครงการนวตั กรรมการจดั การ เรียนรู้เพ่ือเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาวะ ด้วยการพัฒนาการอ่านออก เขยี นได้ สถานการณ์โรงเรียน โรงเรยี นประชาพัฒนาบา้ นแฮด สังกัด สพป. ขอนแกน่ เขต ๒ ผบู้ ริหาร สถานศกึ ษานายนวิ ฒั น์ สนิ ทรพั ย์ จำ� นวนนกั เรยี น ชาย ๗๕ คน หญงิ ๕๑ คน รวมทั้งหมด ๑๒๖ คน สถานการณ์ปญั หาสขุ ภาพของนกั เรยี น ปญั หา แหล่งขอ้ มูล นักเรยี น แนวทางการจัดการ สุขภาพทีพ่ บ (ร้อยละ) แก้ไขปญั หา สมาธสิ ั้น รพ.สิรินธร จังหวัดขอนแกน่ ๑๖.๖๗ - สอนซอ่ มเสริม ดูแล และ LD เอาใจใสอ่ ย่างใกลช้ ดิ ภาวะอ้วน อนามยั เทศบาลบา้ นแฮด ๑๓.๔๙ สานสัมพันธก์ บั ผู้ ข้อมูลคัดกรองนักเรยี นยากจน ปกครอง ภาวะผอม - จดั กจิ กรรมเพอื่ นสอน อนามัยเทศบาลบ้าน ๕๗.๑๔ เพื่อน พ่ีสอนนอ้ ง แฮด,ข้อมูลคัดกรองนักเรียน - ใหค้ ำ� แนะนำ� ปรึกษา ยากจน หารือร่วมกับผปู้ กครอง { 280 }
สถานการณ์ปญั หาด้านการอ่าน และปญั หาด้านการเขียน ระดับชน้ั ปัญหาด้านการอา่ น (ปกี าร ปัญหาด้านการเขียน (ปกี าร ศกึ ษา ๒๕๖๑) ศึกษา ๒๕๖๑) ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ ชาย หญงิ รวม ชาย หญงิ รวม ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ -- - --- ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ -- - --- รวมท้งั หมด ๑- ๑ ๑-๑ ๓- ๓ ๒-๒ ๔๓ ๗ ๔๓๗ ๔๒ ๖ ๒๒๔ ๑๒ ๕ ๑๗ ๙ ๕ ๑๔ สถานการณ์ปัญหาการอา่ นไมอ่ อกเขียนไม่ได้ ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ สถานการณ์ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ในปี ๒๕๖๑ สว่ นใหญม่ าจากนกั เรียนทีอ่ ย่กู บั ตายายหรือญาติ หรอื พอ่ แมท่ ่ที �ำงานรบั จา้ ง ท�ำงานนอกบา้ น จงึ ขาดการเอาใจใส่จากผู้ปกครองเท่าท่ีควร นอกจากนี้ นกั เรียน บางสว่ นมพี ฤติกรรมเลน่ โทรศัพทม์ ือถือ ตดิ เกมส์ออนไลน์ ส่งผลท�ำใหม้ สี มาธสิ ัน้ มี พฤตกิ รรมรนุ แรง ไม่เชือ่ ฟงั ผ้ปู กครอง ดังนัน้ บุคคลในครอบครวั จึงไมม่ ีบทบาทตอ่ การช่วยส่งเสริมการเรียนและการอ่านอย่างต่อเน่ือง และในการเรียนการสอนที่ไม่ สามารถดูแลไดอ้ ยา่ งท่ัวถึง สง่ ผลให้เกิดปญั หาการอ่านไมอ่ อกเขยี นไม่ได้เกิดขึน้ บทบาทและกระบวนการการพฒั นา กลุ่ม บทบาททม่ี ีต่อการพฒั นาทักษะการอ่านออกเขียนได้ โรงเรียน เพือ่ ส่งเสริมความรอบรู้ด้านสขุ ภาวะของนักเรยี น - รว่ มกนั วางแผนออกแบบ จดั กิจกรรม การเรยี นการสอน ผูป้ กครอง - จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ให้นกั เรียนอา่ นออกเขยี นได้ โดยใช้สือ่ จัด ชมุ ชน คำ� พื้นฐาน - รว่ มวางแผนและก�ำหนดข้อตกลงร่วมกับโรงเรยี น - ดแู ลนกั เรยี น ตอ่ ยอดจากโรงเรียน - สง่ เสรมิ สนับสนนุ กิจกรรมท่ีส่งผลตอ่ การอ่านเขยี นของประชากรในชุมชน { 281 }
กลมุ่ บทบาททม่ี ตี ่อการพัฒนาทักษะการอ่านออกเขยี นได้ เพือ่ สง่ เสรมิ ความรอบร้ดู า้ นสุขภาวะของนกั เรยี น มรภ. - มอบทุนสนับสนุนในการดำ� เนินโครงการ มหาสารคาม ผู้บริหาร - มนี โยบายส่งเสริมการจดั ซอ้ื สอ่ื และนวัตกรรมเพื่อสง่ เสริมการอา่ นไมอ่ อก เขียนไม่ไดข้ องนกั เรียน ครู - สร้างสอ่ื และนวัตกรรมเพ่ือการเรียนของนักเรียน นักเรยี น - ใหค้ วามร่วมมอื ในการเข้ารว่ มกิจกรรม ผลที่ไดร้ บั จากการดำ� เนนิ งานและความเปลี่ยนแปลง จากการจดั ทำ� พฒั นา นำ� สอื่ ไปใชแ้ ละทำ� การประเมนิ จากการอา่ นและการเขยี น ของนักเรียนหลังจากท่ีด�ำเนินการตามกลไกลของกระบวนการท�ำงาน พบว่า ๑) นักเรียนสามารถพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ มีจ�ำนวนเพ่ิมขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๖๐ ๒) ครู มกี ารพฒั นาครู มกี ารสรา้ งสอ่ื และนวตั กรรมเพอ่ื การเรยี นของนกั เรยี น คดิ เปน็ จำ� นวนรอ้ ยละ ๑๐๐ ของครทู ง้ั โรงเรยี น ๓) โรงเรยี น นกั เรยี นไดเ้ ขา้ รว่ มงาน มหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการและเทคโนโลยีของนักเรียน ระดับชาติ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ กิจกรรมการแขง่ ขันท่องอาขยานท�ำนองเสนาะ ได้ รบั รางวัลเหรียญทอง ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ – ๖ ๔) เครอื ขา่ ย ผูป้ กครอง และชมุ ชนใกลเ้ คยี งใหค้ วามสนใจและมสี ว่ นรว่ มในการสง่ เสรมิ การอา่ นในการดำ� เนนิ กิจกรรมของครแู ละนกั เรียนรว่ มกัน เช่น มกี ารประเมินการอ่านของนักเรียนโดยครู และผู้ปกครองอย่างตอ่ เน่ือง ๕) ความโดดเดน่ โรงเรยี นไดท้ �ำโครงการพัฒนาการ อ่านออกเขียนได้ของนกั เรียนระดบั ประถมศึกษา จากแหลง่ เรยี นรใู้ นหอ้ งเรยี นนอก หอ้ งเรยี น และห้องสมดุ โรงเรียนประชาพฒั นาบา้ นแฮด จนสง่ ผลใหน้ กั เรยี นมีนสิ ัย รักการอ่านเพิ่มขึ้น มีการพัฒนานวัตกรรม ส่ือส่งเสริมทักษะการอ่านเป็นจ�ำนวน ๓ ช้นิ คือ บญั ชคี �ำพื้นฐาน สอ่ื จัดคำ� พืน้ ฐาน เกมส์ปริศนาคำ� ทาย ผลกระทบทเี่ กิดจากการด�ำเนินงาน ครมู กี ารปรบั บทบาทในการดำ� เนนิ กจิ กรรมของนกั เรยี นทกุ คน ทกุ ชน้ั โดยมกี าร หมุนเวยี นเกม กจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่านทั้ง ๓ กจิ กรรมตามหอ้ งเรยี นสับเปลี่ยนกนั เล่น โดยบูรณาการในช้นั เรยี นครบทกุ ชัน้ ท�ำให้นกั เรยี นรักการอา่ นและเรยี นรู้จาก กจิ กรรมส่งเสริมการอ่านอยา่ งมคี วามสุข { 282 }
ภาพที่ ๘.๕ โรงเรยี นบ้านหนองขอนแกน่ ตำ� บลหนองอีบตุ ร อ�ำเภอหว้ ยผึ้ง จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ
โรงเรยี นบา้ นหนองขอนแก่น ตำ� บลหนองอีบุตร อ�ำเภอหว้ ยผ้งึ จังหวดั กาฬสินธุ์ สรุปการด�ำเนินกิจกรรมโครงการการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ เพื่อ เสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาวะ โดยการพัฒนาห้องสมุด เป็นศูนย์กลาง การเรียนรู้ ของโรงเรียนบ้านหนองขอนแก่น ต�ำบลหนองอีบุตร อ�ำเภอ ห้วยผ้ึง จังหวัดกาฬสินธุ์ ภายใต้โครงการนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เพ่ือ เสริมสร้างความรอบรู้ด้านสขุ ภาวะ ด้วยการพัฒนาการอ่านออกเขยี นได้ สถานการณ์โรงเรียน โรงเรยี นบา้ นหนองขอนแกน่ สงั กดั สพป.กาฬสนิ ธ์ุ เขต ๓ ผบู้ รหิ ารสถาน ศึกษานายไฉน ทมานนท์ จำ� นวนนักเรยี น ชาย ๑๑ คน หญิง ๑๑ คน รวม ทั้งหมด ๒๒ คน { 284 }
สถานการณ์ปัญหาสขุ ภาพของนักเรียน ปญั หาสุขภาพที่ แหลง่ ข้อมูล นักเรียน แนวทางการจดั การแกไ้ ขปญั หา พบ (ร้อยละ) ด�ำเนินโครงการอาหารกลางวันอย่าง ๑. นักเรยี น รายงานน�้ำหนัก - ภาวะอ้วน มปี ระสทิ ธภิ าพ ลดอาหารทมี่ ีรส ระดับชน้ั ส่วนสงู ของนกั เรยี น ร้อยละ หวาน เคม็ และลดอาหารทมี ไี ขมนั ประถมศึกษา จากเวปไซต์ปจั จัย ๙.๐๙ เพ่ือลดและป้องกนั ภาวะอ้วนในเดก็ ปที ่ี ๑-๖ มี พน้ื ฐานนักเรียน - ภาวะผอม นกั เรยี น รวมถึงการเพ่ิมอาหารเสรมิ ภาวะทพุ ยากจน ร้อยละ (นม) ในนกั เรียนท่ีมีภาวะผอม โภชนาการ ๑๓.๖๔ แนะนำ� วิธีการกำ� จดั เหาใหก้ บั นกั เรียน เพื่อป้องกนั และกำ� จัดเหา โดยไดร้ ัย ๒. นักเรยี น สภาพจรงิ ๓๖.๓๖ ความรวมมือจาก อสม.หมู่บ้าน ระดบั ชัน้ ประถมศึกษา ปีที่ ๑-๖ มภี าวะเหา สถานการณ์ปัญหาดา้ นการอ่าน และปญั หาดา้ นการเขยี น ระดับช้นั ปญั หาดา้ นการอา่ น (ปีการ ปัญหาด้านการเขยี น (ปกี าร ศกึ ษา ๒๕๖๑) ศึกษา ๒๕๖๑) ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๒ ชาย หญงิ รวม ชาย หญิง รวม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ๐๐๐ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ๐๐ ๐ ๐๐๐ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ๑๐๑ รวมทัง้ หมด ๐๐ ๐ ๐๐๐ ๐๑๑ ๑๐ ๐ ๐๐๐ ๑๑๒ ๐๐ ๐ ๐๐ ๐ ๐๐ ๐ ๑๐ ๑ สถานการณ์ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ ส่วนใหญ่มาจากนักเรียนที่อยู่กับตายายจ�ำนวน ๒ คน บดิ ามารดา โดยหยา่ รา้ งจำ� นวน ๑ คน และบดิ ามารดาไปทำ� งานทตี่ า่ งจงั หวดั จำ� นวน ๑ ราย อกี ท้ังนักเรยี นทัง้ ๒ ราย เปน็ นักเรยี นที่มีความบกพรอ่ งทางการ เรียนรู้ ท้ังน้ีตากับยายมีอายุมากแล้วและการอ่านการเขียนยังไม่คล่องนัก ดังน้ัน { 285 }
บคุ คลในครอบครวั จงึ ดอ้ ยบทบาทตอ่ การชว่ ยสง่ เสรมิ การเรยี นการอา่ นอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง และในการเรยี นการสอนทไ่ี มส่ ามารถดแู ลไดอ้ ยา่ งถถี่ ว้ น สง่ ผลใหเ้ กดิ ปญั หาการอา่ น ไมอ่ อกเขยี นไม่ได้เกิดข้นึ บทบาทและกระบวนการการพฒั นา กลุ่ม บทบาทท่มี ีต่อการพัฒนาทักษะการอา่ นออกเขียนได้ โรงเรยี น เพอ่ื ส่งเสริมความรอบรดู้ ้านสขุ ภาวะของนกั เรียน ผปู้ กครอง - จดั โครงการ การพฒั นาการอ่านออกเขียนได้ เพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ ชมุ ชน ดา้ นสุขภาวะ โดยการพฒั นาหอ้ งสมุดเป็นศูนย์กลางการเรยี นรู้ ของ มหาวิทยาลัย โรงเรยี นบ้านหนองขอนแกน่ ราชภัฏ - ส่งเสริมกิจกรรมการอ่านของนักเรยี นท่บี า้ น และผลิตสือ่ ในหอ้ งสมุดรว่ ม มหาสารคาม กับคณะครู นกั เรียน ผู้บริหาร - สนับสนนุ การจัดหาสอ่ื ท่สี ง่ เสริมทักษะการอา่ น การเขยี น นอกจากน้รี ่วม เปน็ เกียรตใิ นการประเมินหอ้ งสมดุ ชีวติ และโรงเรยี นรกั การอา่ นของ ครู โรงเรียน นกั เรียน - สนบั สนนุ งบประมาณการจดั ซ้อื สื่อนวตั กรรมในโครงการการพฒั นาการ อา่ นออกเขยี นได้ เพอ่ื เสริมสรา้ งความรอบรดู้ ้านสุขภาวะ โดยการพฒั นา ห้องสมดุ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ของโรงเรียนบ้านหนองขอนแก่น - ดำ� เนนิ โครงการ การพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ เพ่อื เสรมิ สร้างความ รอบร้ดู า้ นสุขภาวะ โดยการพฒั นาห้องสมดุ เปน็ ศนู ยก์ ลางการเรียนรู้ ของโรงเรยี นบา้ นหนองขอนแก่น - เขา้ ร่วมการประเมินหอ้ งสมดุ มีชีวิต โรงเรียนขนาดเลก็ สำ� นกั งานเขต พน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต ๓ - เข้ารว่ มการประเมินโรงเรียนรักการอ่าน โรงเรยี นขนาดเลก็ สำ� นกั งาน เขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษากาฬสนิ ธ์ุ เขต ๓ - จัดกิจกรรมสปั ดาหห์ ้องสมุด ทกุ เดือน (วนั ท�ำการสุดทา้ ยของเดอื น) - พัฒนาตนเองโดยด�ำเนนิ การสร้างสอื่ /นวัตกรรม เพอ่ื จดั โครงการ การ พฒั นาห้องสมดุ เปน็ ศูนย์กลางการเรียนรู้ ของโรงเรยี นบา้ นหนอง ขอนแก่น - สนใจและเขา้ ร่วมกจิ กรรมและชว่ ยการพฒั นาส่อื { 286 }
ผลที่ได้รับจากการด�ำเนนิ งานและความเปลยี่ นแปลง จากการจดั ทำ� พฒั นา นำ� สอื่ ไปใชแ้ ละทำ� การประเมนิ จากการอา่ นและการเขยี น ของนักเรียนหลังจากท่ีด�ำเนินการตามกลไกลของกระบวนการท�ำงาน พบว่า ๑) นักเรียน นกั เรยี นสามารถอา่ นออกเขยี นได้รอ้ ยละ ๑๐๐ ส่วนนักเรียนร้อยละ ๘๖.๓๖ มีความสามารถในการอา่ นคลอ่ ง เขยี นคล่อง และนักเรียนทมี่ ปี ัญหาจ�ำนวน ๓ คน โดยรวมนกั เรียนทีม่ คี วามบกพร่องทางการเรียนรู้รวมอยู่ดว้ ย จำ� นวน ๒ คน มีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมจ�ำนวน ๑ คน ๒) ครู ครูได้พัฒนาตนเองโดย ดำ� เนินการสร้างส่ือ/นวัตกรรม เพอ่ื จดั โครงการการพฒั นาห้องสมดุ เป็นศนู ย์กลาง การเรียนรู้ ของโรงเรียนบ้านหนองขอนแก่น ร้อยละ ๑๐๐ ของครูทั้งโรงเรียน ๓) โรงเรยี น ไดร้ บั รางวลั ดังน้ี (๑) โรงเรียนรกั การอ่าน (ขนาดเล็ก) ระดับยอดเยีย่ ม รางวัลชนะเลิศ จากส�ำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต ๓ (๒) ห้องสมุดมชี ีวติ (โรงเรียนขนาดเลก็ ) ระดบั ดีเดน่ รางวลั รองชนะเลิศ อนั ดบั ๑ จาก ส�ำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษากาฬสินธ์ุ เขต ๓ ๔) เครอื ขา่ ย เกิด ความเปลี่ยนแปลง โดยปกครองนักเรียนในความร่วมมือกับคณะครูด�ำเนินการ พัฒนาการอา่ นออกเขียนได้ เพอ่ื เสรมิ สรา้ งความรอบรดู้ า้ นสุขภาวะ โดยการพัฒนา หอ้ งสมดุ เปน็ ศนู ยก์ ลางการเรยี นรู้ ของโรงเรยี นบา้ นหนองขอนแกน่ ๕) ความโดดเดน่ โรงเรียนไดท้ ำ� โครงการ การพัฒนาการอ่านออกเขยี นได้ เพือ่ เสรมิ สร้างความรอบรู้ ด้านสุขภาวะ โดยการพัฒนาห้องสมุดเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของโรงเรียนบ้าน หนองขอนแกน่ จนสง่ ผลให้นักเรยี นมีนิสยั รักการอ่านเพิม่ ข้ึน จำ� นวน ๒๒ คน จาก นกั เรยี นท้ังสิ้น จำ� นวน ๒๒ คน และสามารถอ่านออกเขียนได้รอ้ ยละ ๑๐๐ รวมถึง มคี วามโดดเดน่ ในดา้ นการพฒั นานวตั กรรม สอ่ื สง่ เสรมิ ทกั ษะการอา่ น คอื (๑) แผน่ ชาร์จฝกึ การอา่ น (๒) นทิ านคณุ ธรรม (๓) คอนโดคำ� (๔) แผน่ ป้ายปรศิ นาค�ำทาย ผลกระทบทเ่ี กดิ จากการดำ� เนินงาน ครูมีการปรบั บทบาทผู้ปกครองใหค้ วามสนใจนักเรยี นมากขนึ้ กว่าเดมิ โรงเรยี น มกี ารทำ� งานร่วมกันชุมชนมากข้ึน { 287 }
ภาพท่ี ๘.๖ โรงเรยี นบา้ นผกั หนาม ตำ� บลหนองกงุ ใหญ่ อำ� เภอกระนวน จงั หวัดขอนแกน่
โรงเรียนบา้ นผกั หนาม ต�ำบลหนองกุงใหญ่ อำ� เภอกระนวน จงั หวดั ขอนแกน่ สรุปการด�ำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ “ชดุ อา่ นเรยี นเขยี นคำ� นำ� สขุ ภาวะทด่ี ”ี เพอื่ เสรมิ สรา้ งความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาวะ ด้วยการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้โรงเรียนบ้านผักหนาม โรงเรียนบ้าน ผักหนาม ตำ� บลหนองกุงใหญ่ อำ� เภอกระนวน จังหวดั ขอนแก่น สถานการณ์โรงเรยี น โรงเรียนบ้านผักหนาม สังกัดส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแกน่ เขต ๔ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษานางจงดี ราชมนตรี รกั ษาราชการแทน ผอู้ ำ� นวยการโรงเรยี นบ้านผกั หนาม จ�ำนวนนักเรียน ชาย ๖๐ คน หญงิ ๔๓ รวมท้งั หมด ๑๐๓ คน สถานการณป์ ัญหาสุขภาพของนักเรยี น ปญั หา แหลง่ ขอ้ มลู นักเรียน แนวทางการจัดการแก้ไขปัญหา สขุ ภาพที่พบ (รอ้ ยละ) ใหด้ ่มื นมเสรมิ เพิ่มจากเดิมอีกวันละ ๑ ๒.๕๗ กลอ่ ง ผอม การชง่ั นำ้� หนกั ๔.๑๒ เต้ยี การวัดสว่ นสงู { 289 }
สถานการณป์ ญั หาด้านการอ่าน และปญั หาดา้ นการเขียน ระดบั ช้นั ปญั หาด้านการอ่าน (ปีการ ปัญหาดา้ นการเขียน (ปกี าร ศึกษา ๒๕๖๑) ศึกษา ๒๕๖๑) ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๒ ชาย หญงิ รวม ชาย หญงิ รวม ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) (คน) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ ๑-๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕ ๑- ๑ ๑-๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ๑-๑ รวมท้ังหมด ๑- ๑ ๑-๑ ๑-๑ ๑- ๑ ๑-๒ ๗-๗ ๑- ๑ ๑- ๑ ๒- ๑ ๗- ๗ สถานการณป์ ัญหาการอ่านไม่ออกเขยี นไม่ได้ ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ ส่วนใหญ่มาจากนักเรียนท่ีอยู่กับตายาย จ�ำนวน ๑๑ คน บิดามารดา หย่าร้าง จ�ำนวน ๙ คน ขาดการเอาใจใส่จากผู้ปกครอง เนื่องจากต้องไปท�ำงานนอกบ้านหรือรับจ้างรายวัน ๒๖ คน ดังนั้น บุคคลใน ครอบครวั จงึ ดอ้ ยบทบาทตอ่ การชว่ ยสง่ เสรมิ การเรยี นการอา่ นอยา่ งตอ่ เนอื่ ง และใน การเรยี นการสอนทไ่ี มส่ ามารถดแู ลไดอ้ ยา่ งถถ่ี ว้ น สง่ ผลใหเ้ กดิ ปญั หาการอา่ นไมอ่ อก เขียนไมไ่ ด้เกดิ ขน้ึ บทบาทและกระบวนการการพัฒนา กลมุ่ บทบาทท่ีมตี ่อการพัฒนาทกั ษะการอา่ นออกเขียนได้ โรงเรียน เพื่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาวะของนกั เรียน ผู้ปกครอง - จัดกิจกรรมเพ่อื แกไ้ ขปัญหาการอ่านไมอ่ อก เขียนไม่ไดข้ องนักเรียน - ลงนามแบบบนั ทกึ การอา่ นของนกั เรยี นจากการยืมหนังสือห้องสมดุ ไป ชุมชน อ่านท่ีบา้ น - ชว่ ยสนับสนุนการจัดหาส่ือในการส่งเสรมิ การอ่าน มหาวิทยาลยั - สนับสนุนงบประมาณในการจัดซอื้ สื่อนวัตกรรมสง่ เสรมิ การอ่านออกเขียน ราชภฏั ได้ มหาสารคาม { 290 }
กลมุ่ บทบาทท่มี ตี ่อการพัฒนาทักษะการอา่ นออกเขียนได้ ผูบ้ ริหาร เพือ่ สง่ เสรมิ ความรอบรูด้ า้ นสขุ ภาวะของนกั เรียน - นโยบายส่งเสริมการจัดซ้อื สอ่ื และนวตั กรรมเพื่อสง่ เสรมิ การอ่านไม่ออก ครู เขียนไมไ่ ด้ของนกั เรียน นกั เรยี น - สร้างสื่อและนวตั กรรมเพ่อื การเรยี นของนกั เรยี น - ใหค้ วามร่วมมือในการรม่ กจิ กรรม ผลที่ไดร้ ับจากการด�ำเนนิ งานและความเปลีย่ นแปลง จากการจดั ทำ� พฒั นา นำ� สอ่ื ไปใชแ้ ละทำ� การประเมนิ จากการอา่ นและการเขยี น ของนักเรียนหลังจากที่ด�ำเนินการตามกลไกลของกระบวนการท�ำงาน พบว่า ๑) นกั เรยี น ไดร้ บั ความสนกุ สนานในการดำ� เนนิ กจิ กรรมและยงั สามารถพฒั นาตนเอง ให้สามารถอ่านออกเขียนได้เต็มจ�ำนวนท่ีเข้าร่วมกิจกรรม ๒) ครู มีการพัฒนาครู มีการสร้างสื่อและนวัตกรรมเพื่อการเรียนของนักเรียน ร้อยละ ๑๐๐ ของครูท้ัง โรงเรยี น ๓) โรงเรยี น นกั เรยี นไดเ้ ขา้ รว่ มการแขง่ ขนั กจิ กรรมสง่ เสรมิ รกั การอา่ นโดย ใชน้ วัตกรรม “ชุดอ่านเรียนเขียนค�ำ น�ำสุขภาวะที่ด”ี ในปีการศกึ ษา ๒๕๖๐ ได้รบั รางวลั ชนะเลศิ อันดับ ๑ ระดบั กลุ่มโรงเรยี น จำ� นวน ๕ คน และ ในปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ ไดร้ บั รางวัลรองชนะเลศิ อนั ดบั ๑ ระดับเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา จำ� นวน ๔ คน ๔) เครอื ขา่ ย เกดิ ความเปลย่ี นแปลง เชน่ ผปู้ กครองและชมุ ชนใกลเ้ คยี งใหค้ วามสนใจ และมีสว่ นร่วมในการสง่ เสรมิ การอา่ นในการด�ำเนนิ กิจกรรมของครูและนกั เรยี นร่วม กัน เช่น มีการประเมินการอ่านของนักเรียนโดยครูและผู้ปกครองอย่างต่อเน่ือง ๕) ความโดดเดน่ โรงเรยี นไดท้ ำ� โครงการ สง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอา่ นโดย ใชน้ วตั กรรม “ชดุ อา่ นเรยี นเขยี นคำ� นำ� สขุ ภาวะทดี่ ”ี และกจิ กรรมหอ้ งสมดุ โรงเรยี นเพอ่ื เสรมิ สรา้ ง ความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาวะดว้ ยการพฒั นาการอา่ นออก เขยี นได้ โรงเรยี นบา้ นผกั หนาม จนส่งผลให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านเพิ่มข้ึนจ�ำนวน ๖๓ คน จากนักเรียนท้ังส้ิน จำ� นวน ๑๐๓ คน และสามารถอา่ นออกเขยี นไดร้ อ้ ยละ ๑๐๐ มคี วามโดดเดน่ ในดา้ น การพัฒนานวัตกรรมสื่อส่งเสริมทักษะการอ่าน โดยการจัดการเรียนการสอนเพื่อ พัฒนาการอ่านออกเขียนได้ด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบบันได ๕ ข้ัน ของ สพป.ขอนแกน่ เขต ๔ นักเรยี นอา่ นออกเขียนได้อยา่ งชดั เจนใชภ้ าษาถูกตอ้ ง โดยใช้ กระบวนการออกแบบจัดการหลกั สตู รบทเรยี น ดงั น้ี ข้นั ท่ี ๑ หาเร่ืองใหส้ นกุ ข้นั ท่ี { 291 }
๒ แจกลกู สะกดคำ� ข้ันท่ี ๓ อ่านยำ�้ นำ� วถิ ี ข้นั ที่ ๔ คดั ลายมอื ให้ถูกวิธี ขน้ั ที่ ๕ เขยี น ตามคำ� บอกทกุ วัน ผลกระทบทเ่ี กิดจากการด�ำเนนิ งาน ๑) ครูมีการปรับบทบาทในการด�ำเนินกิจกรรมของนักเรียนทุกคน ทุกช้ัน ๒) นักเรียนรกั การอ่านและเรียนร้จู ากกิจกรรมสง่ เสรมิ การอา่ นอยา่ งมคี วามสขุ { 292 }
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294