Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กลางวัน กลางคืน อ.2

กลางวัน กลางคืน อ.2

Published by น้ําฝน สมสะอาด, 2021-03-30 14:51:00

Description: กลางวัน กลางคืน อ.2

Search

Read the Text Version

การวเิ คราะหโ์ ครงสร้างหนว่ ยการจัดประสบการณ์ตามหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ หนว่ ยที่ 21 กลางวัน กลางคืน ช้นั อนบุ าลปีท่ี ๑ – ๓ ภาคเรียนท่ี 2 รายการ อนบุ าลปีที่ ๑ อนุบาลปีท่ี ๒ อนุบาลปีที่ ๓ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ๑. ความแตกต่างระหว่างกลางวัน กลางคืน 1. ลกั ษณะของดวงอาทติ ย์ 1. ความแตกต่างของเวลากลางวัน-กลางคนื 2. ลักษณะของดวงอาทติ ย์ 2. ลักษณะของดวงจนั ทร์ 2. ลักษณะของดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ ดวงดาว 3. ลกั ษณะของดวงจนั ทร์ 3. ความแตกต่างระหว่างกลางวันและ 3. การปฏิบัตกิ จิ วัตรประจาวันตามหนา้ ทค่ี วาม 4. การปฏบิ ัติกิจวัตรประจาวนั กลางคืน รบั ผิดชอบ 5. สตั ว์ทีห่ ากนิ ในเวลากลางวนั และกลางคืน 4. การปฏิบตั ิกิจวัตรประจาวันในเวลา 4. ความสัมพันธข์ องคน พืช สตั ว์ และ กลางวนั และกลางคืน การเจริญเติบโตของพืช 5. สตั วท์ อ่ี อกหากนิ ในเวลากลางวันและ 5. สตั ว์ทอ่ี อกหากินในเวลากลางคืนและสตั ว์มีพษิ กลางคนื มาตรฐาน มฐ. 1 ตบช ๑.๓ (๑.๓.๑) มฐ. 1 ตบช ๑.2 (๑.2.3) มฐ.1 ตบช. 1.2 (1.2.3) ตบช ๑.๓ (๑.๓.๑) ตบช. 1.3 (1.3.1) ตัวบ่งชี้ มฐ. 2 ตบช 2.1 (2.1.1) (๒.๑.๔) มฐ. 2 ตบช 2.1 (2.1.1) (2.1.2) (๒.๑.๔) มฐ.2 ตบช. 2.1 (2.1.1) (2.1.4) สภาพทพ่ี ึงประสงค์ มฐ. ๓ ตบช ๓.1 (๓.1.๑) ตบช 2.2 (2.2.1) (2.2.3) ตบช. 2.2 (2.2.1) (2.2.2) ตบช ๓.๒ (๓.๒.2) มฐ. ๓ ตบช ๓.๒ (๓.๒.๑) (3.2.2) มฐ.3 ตบช. 3.1 (3.1.1) มฐ. 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (๔.๑.๓) ตบช. 3.2 (3.2.2) มฐ. 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (๔.๑.๓) มฐ. ๕ ตบช ๕.๒ (๕.๒.๒) มฐ.4 ตบช. 4.1 (4.1.3) มฐ. ๕ ตบช ๕.๒ (๕.๒.๒) ตบช ๕.4 (๕.4.1) มฐ.5 ตบช. 5.2 (5.2.2) มฐ. 6 ตบช ๖.๒ (๖.๒.๑) ตบช ๕.4 (๕.4.1) มฐ. ๗ ตบช ๗.๑ (๗.๑.๑) ตบช. 5.4 (5.4.1) มฐ. ๘ ตบช ๘.๒ (๘.๒.๑) มฐ.6 ตบช. 6.2 (6.2.1) มฐ. 6 ตบช ๖.๒ (๖.๒.๑) (๖.๒.๒) มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๑) มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๑) (๑๐.๑.๒) ตบช. 6.3 (6.3.1) ตบช ๖.3 (๖.3.๑) มฐ.7 ตบช. 7.1 (7.1.1) (10.1.3) มฐ.8 ตบช. 8.1 (8.1.1) มฐ. ๗ ตบช๗.๑ (๗.๑.๑) ตบช. 8.2 (8.2.2) มฐ. ๘ ตบช ๘.๒ (๘.๒.๑) ตบช ๘.๓ (๘.๓.๒) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.๑) ตบช 9.2 (9.2.๑)

มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.1 (๑๐.๑.๒) (๑๐.๑.๔) มฐ ๑2 ตบช 12.2 (12.2.1) ตบช. 8.3 (8.3.2) ตบช ๑๐.2 (๑๐.2.๒) มฐ.9 ตบช. 9.1 (9.1.2) ตบช ๑๐.3 (๑๐.3.๒) ตบช. 9.2 (9.2.1,9.2.2) มฐ ๑1 ตบช ๑1.1 (๑1.๑.1) (๑๐.๑.๔) มฐ.10 ตบช. 10.1(10.1.1,10.1.2,10.1.3) มฐ ๑2 ตบช ๑2.1 (๑2.๑.๒) ตบช. 10.2 (10.2.1) ตบช ๑2.2 (๑2.2.๒) ตบช. 10.3 (10.3.2) มฐ.11 ตบช.11.2 (11.2.1) ประสบการณ์ ร่างกาย ร่างกาย ร่างกาย สาคญั 1.1.1 (๑) การเคล่อื นไหวอยู่กับท่ี 1.1.1 การใชก้ ล้ามเนื้อใหญ่ 1.1.2 การใช้กล้ามเนือ้ เล็ก (2) การเคลื่อนไหว เคลอ่ื นที่ (1) การเคลื่อนไหวอย่กู ับที่ (2) การเขยี นภาพ (๓) การเคลือ่ นไหวพร้อมวัสดอุ ปุ กรณ์ (2) การเคลอื่ นไหวเคล่ือนท่ี (5.) การหยบิ จับการใชก้ รรไกร การฉีก การตัด (๔) การเคลื่อนไหวที่ใช้การประสาน (3) การเคลื่อนไหวพร้อมวสั ดอุ ปุ กรณ์ การปะ และการร้อยวัสดุ สัมพันธ์ของการใช้กลา้ มเนื้อใหญ่ในการจบั (4) การเคลอื่ นไหวท่ีใช้การประสาน 1.1.3 การรักษาสขุ ภาพอนามยั การโยน สัมพนั ธ์ของการใช้กล้ามเนื้อใหญใ่ นการขว้าง (1) การปฏิบตั ิตนตามสขุ อนามยั สุขนสิ ัยทด่ี ี (๕) การเลน่ เครือ่ งเล่นสนามอย่าง การจบั การโยน การเตะ ในกิจวัตรประจาวนั อิสระ 1.1.2 การใชก้ ล้ามเนื้อเล็ก 1.1.4 การรักษาความปลอดภยั 1.1.2 (2) การเขียนภาพและการเลน่ กับสี (2) การเขยี นภาพและการเลน่ กบั สี (1) การปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภัยในกิจวตั ร (3) การป้ัน (3) การป้นั ประจาวัน (๕) การฉกี ปะ (4) การประดษิ ฐส์ ง่ิ ตา่ งๆด้วยเศษวสั ดุ 1.1.5 การตระหนักร้เู กย่ี วกบั ร่างกายของตนเอง ๑.๑.๔ (๓) การเล่นเครือ่ งเลน่ อย่างปลอดภัย (5) การหยบิ จบั การใชก้ รรไกร การฉีก (1) การเคล่ือนไหวโดยควบคมุ ตนเองไปใน การตัด การปะ ทิศทางระดับและพ้นื ท่ี 1.1.3 การรกั ษาสุขภาพอนามยั สว่ นตน (1) การปฏิบตั ติ นตามสขุ อนามยั สุขนิสัย ท่ีดใี นกจิ วัตรประจาวนั

อารมณ์ อารมณ์ อารมณ์ 1.2.๑ สุนทรียภาพ ดนตรี 1.2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี 1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์ (๓) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ (1) การฟังเพลง ร้องเพลง และแสดง (1) การพูดสะท้อนความรู้สกึ ของตนเองและ ดนตรี ปฏกิ ริ ิยาโตต้ อบเสยี งดนตรี ผอู้ น่ื (๕) การทากิจกรรมศลิ ปะตา่ งๆ (3) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (3) การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี ๑.๒.๒ (๓) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์/มุม (4) การเลน่ บทบาทสมมติ (5) การทางานศิลปะ เล่น ต่างๆ (5) การทากิจกรรมศลิ ปะตา่ งๆ 1.2.2 การเลน่ ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ 1.2.1 สุนทรภี าพ ดนตรี (1) การเลน่ อิสระ (1) การฟังเพลงร้องเพลง และการแสดง (2) การเล่นรายบคุ คล (1) การพดู สะท้อนความรู้สกึ ของตน ปฏกิ ิรยิ าโตต้ อบเสยี งดนตรี (3) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์/มุมเลน่ และผู้อื่น 1.2.2 การเลน่ ตา่ งๆ (1) การเลน่ อสิ ระ (๕) การทางานศลิ ปะ (2) การเล่นรายบคุ คล กลุ่มยอ่ ย และ สงั คม ๑.๒.5 (1) การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆตาม กลุ่มใหญ่ 1.3.1 การปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจาวนั (3) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์/ ความสามารถของตนเอง มมุ เล่นตา่ ง ๆ (1) การชว่ ยเหลอื ตนเองในกิจวตั รประจาวัน (4) การเลน่ นอกห้องเรยี น (2) การปฏิบัติตนตามแนวทางหลกั ปรชั ญาของ สงั คม 1.2.3 คณุ ธรรมจริยธรรม เศรษฐกิจพอเพียง ๑.๓.๔ (๒) การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดขี อง (2) ฟังนทิ านเก่ียวกับคณุ ธรรมจริยธรรม 1.3.2 การดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม (3) การสนทนาและแลกเปลย่ี นความ ห้องเรยี น คดิ เหน็ เชงิ จรยิ ธรรม (3) การให้ความรว่ มมือในการปฏิบัติ สงั คม 1.3.2 การดแู ลรักษาธรรมชาติและ กิจกรรมต่างๆ ส่ิงแวดลอ้ ม (4) การดแู ลหอ้ งเรียนร่วมกัน (1) การมีสว่ นร่วมรบั ผดิ ชอบดแู ลรกั ษา สงิ่ แวดล้อมท้งั ภายในและภายนอกห้องเรยี น 1.3.4 การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ วินยั มสี ว่ นรว่ มและ

๑.๓.๕ (๒) การเล่นและทางานร่วมกบั ผอู้ ื่น บทบาทสมาชกิ ของสงั คม (1) การมสี ่วนรว่ มรับผดิ ชอบดูแลรกั ษา (3) การทาศิลปะแบบร่วมมือ (2) การปฏิบัตติ นเปน็ สมาชิกทดี่ ขี อง ส่งิ แวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรยี น ๑.๓.๗ (๑) การเล่นหรือทากิจกรรมรว่ มกบั หอ้ งเรียน 1.3.5 การเล่นและทางานแบบรว่ มมือร่วมใจ กลมุ่ เพ่ือน (3) การใช้ความรว่ มมือในการปฏิบัติ (2) การเลน่ และทางานร่วมกบั ผอู้ ่นื กิจกรรมตา่ ง ๆ สติปัญญา สตปิ ญั ญา สติปัญญา 1.4.1 การใชภ้ าษา 1.4.1 การใช้ภาษา 1.4.1 การใช้ภาษา (3) การฟงั เพลง คาคลอ้ งจอง (2) การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา (5) การพดู กับผู้อ่ืนเกีย่ วกับประสบการณ์ของ (๔) การพูดแสดงความคิดเห็น (4) การพดู แสดงความคิดเหน็ ตนเองหรือพดู เลา่ เร่ืองราวเกี่ยวกับตนเอง ความรู้สึก (๕) การพูดอธบิ ายเกีย่ วกบั เหตกุ ารณ์และ (10) การอ่านหนงั สอื ภาพ นทิ านหลากหลาย (16) การสงั เกตตวั อักษรทป่ี ระกอบเปน็ ความสัมพนั ธข์ องส่งิ ตา่ ง ๆ ประเภท/รปู แบบ คาผ่านการอา่ น 1.4.2 การคิดรวบยอด คิดเชิงเหตผุ ล การ 1.4.2 (๒) การสังเกตสงิ่ ต่างๆ จากมมุ มองท่ี ตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา ตา่ งกนั (1) การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบโดย (5) การจาแนกส่ิงต่างๆตามลกั ษณะ ใชป้ ระสาทสัมผสั อย่างเหมาะสม (6) การตอ่ ของชนิ้ เลก็ เติมในช้นิ ใหญ่ (5) การคดั แยก การจดั กลุ่ม และ ใหส้ มบูรณ์ การจาแนกสิ่งต่าง ๆ ตามลักษณะ และรูปรา่ ง (8) การนบั และแสดงจานวนของส่งิ รูปทรง ตา่ งๆ (6) การต่อของช้ินเล็กเติมในชน้ิ ใหญ่ให้ (13) จับคูเ่ ปรยี บเทยี บและ สมบูรณ์ และการแยกชนิ้ สว่ น เรียงลาดับส่งิ ต่าง ๆ ตามลักษณะความยาว/ (8) การนับและแสดงจานวนของส่ิงต่าง ๆ ความสงู นา้ หนัก ในชวี ิตประจาวัน ปริมาตร (17) คาดเดาหรือคาดคะเนสง่ิ ทอ่ี าจจะ (14) การบอกและเรียงลาดบั เกิดขึ้นอย่างมีเหตผุ ล กิจกรรมหรือเหตุการณต์ ามช่วงเวลา 1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ (2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผ่าน

ภาษาทา่ ทาง การเคลื่อนไหว ๑.๔.๔ (๒) การตั้งคาถามในเร่ืองท่ตี นเอง สนใจ (3) การสืบเสาะหาความรู้เพื่อค้นหา คาตอบข้อสงสัยตา่ งๆ คณิตศาสตร์  นับและแสดงจานวน 1 – 4  นบั และแสดงจานวน 6  นบั และแสดงจานวน 11 วิทยาศาสตร์  ระบตุ วั เลขฮนิ ดูอารบิกแสดงจานวนของสิ่ง  ระบตุ วั เลขฮินดูอารบิกแสดงจานวนของสงิ่  อ่านและเขยี นตัวเลขฮินดูอารบกิ 1 – 11  เปรยี บเทียบจานวนของสงิ่ ตา่ งๆ สองกลุม่ แตล่ ะ ตา่ งๆ 1 – 5 ต่างๆ 1 – 6  เปรยี บเทยี บจานวนของส่งิ ต่างๆ สองกลุ่ม  เปรยี บเทียบจานวนของส่ิงต่างๆ สองกลุ่ม กลมุ่ มจี านวนไมเ่ กนิ 11  บอกจานวนทงั้ หมดที่เกดิ จากการรวมสิ่งต่างๆ แตล่ ะกลุม่ มจี านวนไม่เกนิ 3 แตล่ ะกลุ่มมีจานวนไม่เกนิ 6  บอกกิจกรรมหรือเหตกุ ารณ์ใน  บอกจานวนทง้ั หมดท่ีเกิดจากการรวมสงิ่ สองกลมุ่ ที่มีผลรวมไม่เกนิ 11  บอกจานวนทเี่ หลือเมื่อแยกกลุ่มย่อยออกจาก ชีวิตประจาวันทเี่ กิดขึ้นในช่วงเวลากลางวัน ต่างๆ สองกลุม่ ที่มีผลรวมไมเ่ กนิ 5 และกลางคนื  บอกจานวนทเ่ี หลือเมื่อแยกกลมุ่ ยอ่ ยออก กลมุ่ ใหญท่ ี่มจี านวนไม่เกนิ 11  บอกตาแหน่งของสิ่งต่างๆ ทกี่ าหนดโดยใช้  เรียงลาดบั ชอื่ วันในหนงึ่ สปั ดาห์ คาข้างบน ข้างลา่ ง ขา้ งใน ขา้ งนอก จากกล่มุ ใหญ่ทมี่ จี านวนไม่เกิน 5  บอกกิจกรรมหรือเหตุการณ์ท่ีเกดิ ขึน้ เม่ือวานน้ี  บอกกิจกรรมหรือเหตุการณใ์ น วนั น้ี พรุ่งนี้ ชวี ติ ประจาวันที่เกดิ ข้ึนในช่วงเวลา เชา้  บอกตาแหนง่ ทิศทางและระยะทางของสิ่ง เทย่ี ง เยน็  สารวจสถานทแ่ี ละวาดภาพแสดงตาแหน่ง ต่างๆ ท่ีกาหนด โดยใชค้ าขา้ งซ้าย ข้างขวา ของสถานท่ี ระหว่าง ใกล้ ไกล  สารวจสถานทีแ่ ละเขียนแผนผังแสดงตาแหน่ง ของสถานที่ ๑. ทกั ษะการสังเกต 1. ทักษะการสังเกต ๑. ทักษะการสงั เกต 2. ทักษะการสังเกตโดยใชป้ ระสาทสมั ผสั 2. ทกั ษะการสังเกตโดยใชป้ ระสาทสมั ผัส ๒. ทักษะการสงั เกตโดยใช้ประสาทสัมผัส

พัฒนาการทาง ๑. การฟงั และปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา ๑. การฟงั และปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา 1. การฟงั และการปฏบิ ตั ติ ามคานะนา ภาษาและการรู้ 2. การฟังเพลง คาคลอ้ งจอง/บทรอ้ ยกรอง ๒. การฟงั เพลง นทิ าน คาคล้องจอง 2. การคาดคะเน เรอ่ื งจากปก หนังสอื หรอื เร่อื งราวตา่ งๆ บทร้อยกรองหรือเร่อื งราวต่างๆ 3. การเหน็ แบบอยา่ งการอ่านที่ถกู ต้อง 3. การรอจังหวะท่เี หมาะสมในการพูด ๓. การรอจงั หวะทเ่ี หมาะสมในการพดู กับ 4. การรู้จักสว่ นประกอบของหนังสือ ปกหน้า 4. การอ่านหนงั สอื ภาพ นิทานหลอกหลาย ผอู้ ่ืนเกย่ี วกับประสบการณ์ของตนเองหรือพดู ปกใน ชอื่ ผแู้ ตง่ ผวู้ าด เนอื้ เร่ือง ประเภท เกย่ี วกบั เรือ่ งราวของตนเอง 5. การรอจงั หวะท่ีเหมาะสมในการพูด 4. การสงั เกตทศิ ทางการอา่ นตวั อักษร คา 6. การต้งั คาถามในเรอ่ื งทส่ี นใจ และข้อความ 7. การเหน็ แบบอยา่ งการเขียนทถี่ กู ต้อง

แผนการจัดประสบการณท์ ่ี 21 หน่วยกลางวัน กลางคืน ชน้ั อนุบาลปที ่ี ๒ แนวคิด กลางวันกลางคนื เป็นปรากฏการณธ์ รรมชาติ กลางวนั เปน็ เวลาทีด่ วงอาทติ ยส์ ่องแสงสวา่ งทาใหม้ องเห็นส่งิ ต่างๆรอบตัว ทอ้ งฟา้ จะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาและ อากาศแตล่ ะวัน เราปฏบิ ตั ิกิจวตั รประจาวนั แตกต่างกันตามหน้าทค่ี วามรบั ผิดชอบ กลางคนื คอื ระยะเวลาตัง้ แต่ท้องฟ้าไม่มีแสงอาทิตยแ์ ลว้ ซง่ึ เหมาะสาหรับการพักผ่อน กลางวนั -กลางคืนมีความสมั พันธก์ บั ชวี ติ คน สัตว์ การประกอบอาชีพและการดารงชีวติ ประจาวนั มสี ตั ว์บางชนิดออกหากนิ ในเวลากลางคืน เราจึงควรระมัดระวงั สตั ว์ ทมี่ ีอันตราย มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ มาตรฐานท่ี 1 ร่างกายเจริญเตบิ โตตาม 1.3 รกั ษาความ 1.3.1 เลน่ และทา 1. เลน่ และทากิจกรรม 1.2.2 การเล่น 1. ลกั ษณะของดวงอาทติ ย์ วัยและมีสุขนสิ ัยทดี่ ี อยา่ งปลอดภยั ด้วย ปลอดภัยของตนเองและ กิจกรรมอย่างปลอดภัย ตนเอง (1) การเล่นอสิ ระ 2. ลักษณะของดวงจนั ทร์ มาตรฐานที่ 2 กลา้ มเนือ้ ใหญ่และ ผู้อ่นื ด้วยตนเอง 2. เดินตอ่ เท้าไป (2) การเลน่ รายบุคคล 3. ความแตกต่างระหวา่ ง กล้ามเนอ้ื เล็กแข็งแรง ข้างหน้าเปน็ เส้นตรงได้ ใชไ้ ด้อย่างคลอ่ งแคลว่ โดยไม่ตอ้ งกางแขน กลุม่ ยอ่ ย และกลุ่มใหญ่ กลางวันและกลางคนื และประสานสัมพันธก์ ัน 3. กระโดดขาเดียวอยู่ (3) การเลน่ ตามมมุ 4. การปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจาวัน กับทโี่ ดยไม่เสยี การทรง ตวั ประสบการณ/์ มมุ เล่นต่างๆ ในเวลากลางวนั และกลางคนื (4) การเลน่ นอก 5. สตั ว์ทอี่ อกหากนิ ในเวลา หอ้ งเรยี น กลางวันและกลางคืน 2.1 เคลอ่ื นไหวร่างกาย 2.1.1 เดนิ ต่อเทา้ ไป 1.1.1 การใชก้ ล้ามเน้ือใหญ่ 6. การเล่นและทากจิ กรรมด้วย อย่างคล่องแคล่ว ขา้ งหนา้ เปน็ เส้นตรงได้ ประสานสัมพนั ธแ์ ละ โดยไม่ต้องกางแขน (4) การเคล่อื นไหวท่ีใช้ ตนเองและกับผู้อ่ืนได้อยา่ ง ทรงตวั ได้ 2.1.2 กระโดดขาเดยี วอยู่ การประสานสัมพันธ์ของการ ปลอดภัย กบั ท่ีโดยไม่เสียการทรงตัว ใชก้ ล้ามเนือ้ ใหญ่ในการขว้าง การจับ การโยน การเตะ ๗. การพูดแสดงความคิด ความร้สู ึก และความต้องการ

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ 2.1.4 รบั ลกู บอล 4. รบั ลูกบอลโดยใช้มือ 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนื้อเล็ก โดยใชม้ ือทั้งสองข้าง ท้ังสองขา้ ง (5) การหยิบจบั การใช้ กรรไกร การฉกี การตัด 2.2 ใชม้ ือ - ตา 2.2.1 ใชก้ รรไกรตัด 5. ใช้กรรไกรตดั การปะ และการร้อยวัสดุ ประสานสมั พันธก์ ัน กระดาษตามแนวเส้นตรง กระดาษตามแนว ได้ เส้นตรงได้ 2.2.3 ร้อยวสั ดุทมี่ ี รู 6. รอ้ ยวัสดุทีม่ รี ขู นาด ขนาดส้นผ่าศนู ย์กลาง 0.5 สน้ ผ่าศนู ย์กลาง 0.5 เซนตเิ มตรได้ เซนติเมตรได้ มาตรฐานที่ 3 3.2 มีความรสู้ ึกท่ดี ตี ่อ 3.2.1 กล้าพดู กลา้ 7. กลา้ พูดกล้า 1.4.1 การใชภ้ าษา มีสขุ ภาพจติ ที่ดีและมี ตนเองและผ้อู น่ื (2) การฟงั และปฏิบตั ิ ความสขุ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม แสดงออกอย่าง ตามคาแนะนา ตามสถานการณ์ เหมาะสมตาม (4) การพูดแสดงความ 3.2.2 แสดงความพอใจใน สถานการณ์ได้ คดิ เหน็ (๕) การพดู อธิบาย ผลงานและความสามารถ 8. แสดงความพอใจใน เก่ยี วกบั เหตกุ ารณแ์ ละ ของตนเอง ผลงาน และ ความสมั พนั ธ์ของสง่ิ ต่างๆ ความสามารถของ ตนเอง

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 4 4.1 สนใจ มีความสุข 5.1.1 สนใจมคี วามสุข 9. สนใจ มีความสขุ 1.1.2 การใช้กลา้ มเน้ือเล็ก และแสดงออกผ่านงาน และแสดงออกผา่ นงาน (2) การเขียนภาพและ ชื่นชมและแสดงออกทาง และแสดงออกผา่ นงาน ศลิ ปะ ศิลปะ 4.1.3 สนใจมคี วามสุข 10. สนใจมคี วามสขุ การเลน่ กับสี ศลิ ปะ ดนตรี และ การ ศิลปะ ดนตรี และ และ แสดงท่าทาง/ และแสดงท่าทาง / (3) การป้ัน เคลื่อนไหวประกอบเพลง เคลอ่ื นไหวประกอบ (4) การประดิษฐ์ส่งิ ต่าง ๆ เคลื่อนไหว การเคล่ือนไหว จงั หวะและดนตรี เพลง จงั หวะ และ ดนตรี ดว้ ยเศษวสั ดุ มาตรฐานที่ 5 5.2 มคี วามเมตตา 5.2.2 ช่วยเหลือและ 1.1.1 การใช้กลา้ มเนือ้ ใหญ่ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม กรณุ า มีน้าใจ และ แบง่ ปนั ผู้อ่ืนได้เมื่อมผี ู้ 11. ชว่ ยเหลือและ และมจี ิตใจทีด่ งี าม ช่วยเหลอื แบ่งปัน ชี้แนะ แบ่งปนั ผู้อืน่ ไดเ้ ม่ือมผี ู้ (1) การเคลื่อนไหว ชี้แนะ อยู่กับท่ี (2) การเคล่อื นไหว เคลอื่ นที่ (3) การเคล่อื นไหว พร้อมวัสดุอุปกรณ์ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี (1) การฟังเพลง รอ้ งเพลง และแสดงปฏิกิรยิ า โตต้ อบเสยี งดนตรี (3) การเคล่อื นไหว ตามเสียงเพลง/ดนตรี (4) การเล่นบทบาท สมมติ (5) การทากจิ กรรม ศลิ ปะต่างๆ

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ มาตรฐานท่ี 6 5.4 มีความรบั ผดิ ชอบ 5.4.1 ทางานที่ได้รบั 12. ทางานทไ่ี ด้รับ 1.2.3 คุณธรรมจริยธรรม มีทกั ษะชวี ติ และปฏบิ ัติ 6.2 มีวนิ ัยในตนเอง ตนตามหลกั ปรัชญาของ มอบหมายจนสาเรจ็ เม่อื มีผู้ มอบหมายจนสาเรจ็ (2) ฟังนทิ านเกย่ี วกับ เศรษฐกิจพอเพียง ช้ีแนะ เมอื่ มผี ู้ชแ้ี นะ คุณธรรมจรยิ ธรรม (3) การสนทนาและ 6.2.1 เกบ็ ของเล่นของใช้ 13. เก็บของเลน่ ของใช้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เข้าทดี่ ้วยตนเอง เข้าทีด่ ้วยตนเองได้ เชงิ จรยิ ธรรม มาตรฐานท่ี 7 7.1 ดูแลรักษาธรรมชาติ 7.1.1 มสี ว่ นรว่ ม ในการ 14. มสี ่วนรว่ มในการ 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ วนิ ยั มีสว่ นร่วมและบทบาท รกั ธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อม และส่ิงแวดล้อม ดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละ ดแู ลรักษาธรรมชาติ สมาชิกของสังคม วฒั นธรรม และความเป็น สง่ิ แวดลอ้ ม เมอ่ื มผี ู้ และสงิ่ แวดล้อม (2) การปฏิบตั ิตนเป็น สมาชิกท่ดี ีของห้องเรยี น ไทย ชแ้ี นะ เมือ่ มีผู้ชี้แนะ (3) การใช้ความรว่ มมือ ในการปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ ง ๆ มาตรฐานที่ 8 8.2 มีปฏิสมั พนั ธ์ทด่ี ีกับ 8.2.1 เล่นหรือทางาน 15. เล่นหรอื ทางาน 1.3.2 การดแู ลรกั ษา อยู่ร่วมกบั ผู้อืน่ ได้อย่างมี ผู้อนื่ รว่ มกับเพื่อนเปน็ กลุ่ม ร่วมกับเพ่ือนเป็นกลุ่ม ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม ความสขุ และปฏบิ ัติตน ได้ เป็นสมาชิกทีด่ ีของสังคม (1) การมสี ว่ นร่วม ในระบอบประชาธิปไตย รับผิดชอบดูแลรักษา อนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรง ส่ิงแวดล้อมทง้ั ภายในและ เป็นประมุข ภายนอกหอ้ งเรยี น

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 9 9.1 สนทนาโต้ตอบและ 9.1.1 ฟงั ผู้อ่ืนพูดจนจบ 16. ฟงั ผ้อู นื่ พูดจนจบ 1.3.5 การเล่นและทางาน ใชภ้ าษาส่อื สารได้ เล่าเรื่องให้ผู้อ่นื เขา้ ใจ และสนทนาโตต้ อบ และสนทนาโต้ตอบ แบบร่วมมือรว่ มใจ เหมาะสมกบั วัย สอดคลอ้ งกบั เรื่องท่ีฟงั สอดคลอ้ งกบั เร่ืองที่ฟงั ได้ (2) การเล่นและทางาน ร่วมกบั ผู้อ่นื มาตรฐานที่ 10 10.1 มีความสามารถ 10.1.1 บอกลกั ษณะและ 17. บอกลักษณะและ 1.4.1 การใช้ภาษา มคี วามสามารถในการคิด ในการคดิ รวบยอด ท่ีเป็นพน้ื ฐาน ใน สว่ นประกอบของส่งิ ต่างๆ ส่วนประกอบของสงิ่ (2) การฟงั และปฏบิ ตั ิ การเรยี นรู้ จากการสังเกตโดยใช้ ตา่ ง ๆ จากการ ตามคาแนะนา ประสาทสัมผสั สงั เกต โดยใช้ (18) การเล่นเกม ประสาทสัมผสั ทางภาษา 10.1.2 จับคูแ่ ละ 18. จับคแู่ ละ 1.4.2 การคดิ รวบยอด คิด เปรียบเทียบความแตกตา่ ง เปรยี บเทยี บความ เชงิ เหตุผล การตัดสนิ ใจและ หรอื ความเหมือนของสงิ่ แตกต่างหรือความ แก้ปัญหา ตา่ งๆโดยใชล้ ักษณะท่ี เหมอื นของสง่ิ ตา่ งๆโดย (1) การสงั เกตลักษณะ สังเกตพบเพยี งลักษณะ ใชล้ ักษณะทส่ี งั เกตพบ สว่ นประกอบโดยใชป้ ระสาท เดยี ว เพียงลกั ษณะเดียว สัมผัสอย่างเหมาะสม (5) การคัดแยก การจัด กลุ่ม และการจาแนกสง่ิ ต่างๆ ตามลกั ษณะ และรปู รา่ ง รปู ทรง 10.1.3 จาแนกและจดั 19. จาแนกและจัด (6) การต่อของชิ้นเลก็ กลมุ่ สิ่งตา่ ง ๆ โดยใชอ้ ย่าง กลุ่มส่งิ ต่าง ๆ โดยใช้ เตมิ ในช้ินใหญ่ให้สมบรู ณ์ นอ้ ยหนง่ึ ลักษณะเป็น อย่างน้อยหน่งึ ลกั ษณะ และการแยกชิน้ สว่ น เกณฑ์ เปน็ เกณฑ์

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 12 12.2 มคี วามสามารถใน 12.2.1 คน้ หาคาตอบของ 20. คน้ หาคาตอบของ (8) การนับและแสดง มเี จตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้ จานวนของส่งิ ต่างๆใน และมีความสามารถใน การแสวงหาความรู้ ขอ้ สงสัยตา่ งๆตามวิธกี าร ขอ้ สงสยั ต่างๆตาม ชวี ติ ประจาวนั การแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสมกับวยั ของตนเอง วิธกี ารของตนเอง (17) คาดเดา หรือ คาดคะเนส่ิงท่ีอาจจะเกิดข้นึ อย่างมีเหตุผล

ผังความคิดแผนการจดั ประสบการณห์ นว่ ยกลางวนั กลางคืน ช้นั อนุบาลปีที่ ๒ ๑. กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ ๒. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ๓. กจิ กรรมสร้างสรรค์ ๑. เคล่ือนไหวรา่ งกายแบบผนู้ า - ผ้ตู าม 1. ลักษณะของดวงอาทิตย์ 1. ประดิษฐพ์ ระอาทิตย์ 2. เคลอื่ นไหวรา่ งกายพรอ้ มอุปกรณ์ 2. ลกั ษณะของดวงจันทร์ - ปั้นดินน้ามันอิสระ (พระอาทิตย์) เพลง พระอาทิตย์ยมิ้ แฉ่ง 3. ความแตกตา่ งระหว่างกลางวนั และกลางคืน 3. เคลือ่ นไหวร่างกายประกอบเพลง 4. การปฏบิ ัตติ นในเวลากลางวันและกลางคนื 2. โมบายพระจนั ทร์ กลางวัน - กลางคนื 5. สตั วท์ ีอ่ อกหากินในเวลากลางวนั และกลางคืน - การพับสี 4. เคล่อื นไหวรา่ งกายตามคาบรรยาย 5. เคลื่อนไหวตามจินตนาการ เลียนแบบ หนว่ ย 3. ฉีก ตดั ปะ ภาพพระอาทติ ยแ์ ละวาดภาพตอ่ เติม ท่าทางสัตว์ต่างๆ กลางวัน กลางคนื - พิมพ์ภาพจากรูปทรง ช้ันอนุบาลปที ่ี ๒ ๔. กิจกรรมเลน่ ตามมุม 4. ร้อยลกู ปดั - วาดภาพด้วยสนี ้า - การเล่นตามมุมประสบการณ์ 5. ประดิษฐ์หนา้ กากสัตว์ - ปั้นดินน้ามันอิสระ ๕. กิจกรรมกลางแจง้ ๖. เกมการศึกษา ๑. เกมจัดหมวดหมูภ่ าพสงิ่ ของที่มรี ูปร่างคลา้ ยกนั 1. การเดนิ ต่อเทา้ ไปข้างหน้า ๒. เกมจับคูภ่ าพกบั สญั ลักษณ์ตามลาดับท่ีกาหนด 2. เกมกระต่ายขาเดยี ว ๓. เกมจดั หมวดหม่รู ายละเอียดของภาพ 3. เล่นเครือ่ งเลน่ สนาม ๔. เกมโดมโิ นภาพของใช้ 4. เกมว่งิ สลับฟันปลา ๕. เกมจับคู่ภาพกบั จานวน (1 - 6) 5. เกมรับ – สง่ ลูกบอล

การวางแผนกิจกรรมรายหน่วยการจัดประสบการณ์ ช้ันอนุบาลปที ่ี ๒ หน่วยกลางวัน กลางคืน วันท่ี เคล่ือนไหวและจงั หวะ เสริมประสบการณ์ ศลิ ปะสร้างสรรค์ กิจกรรม การเล่นตามมมุ การเล่นกลางแจง้ เกมการศกึ ษา - เกมจัดหมวดหมู่ 1 - การเคลื่อนไหวพนื้ ฐาน ลกั ษณะของดวงอาทิตย์ 1. ประดิษฐพ์ ระอาทิตย์ เล่นมมุ ประสบการณ์ เดนิ ต่อเท้าไปข้างหน้า ภาพ ส่งิ ท่ีมี - เคล่ือนไหวรา่ งกาย 2. ปั้นดินน้ามันอิสระ ในหอ้ งเรียน รูปร่างคล้ายกนั แบบผ้นู า - ผู้ตาม 2 - การเคล่ือนไหวพ้นื ฐาน ลักษณะของดวงจันทร์ 1. โมบายพระจันทร์ เลน่ มุมประสบการณ์ เกมกระตา่ ยขาเดียว เกมจบั คู่ภาพสัญลักษณ์ - เคลอื่ นไหวร่างกาย 2. การพบั สี ในหอ้ งเรียน ตามลาดับที่กาหนด พรอ้ มอุปกรณ์ (ภาพพระอาทติ ย์) เพลง พระอาทติ ย์ยิม้ แฉ่ง 3 - การเคลอ่ื นไหวพื้นฐาน ความแตกตา่ งระหว่าง 1. ฉกี ตัด ปะ ภาพพระ เล่นมมุ ประสบการณ์ เล่นเคร่อื งเล่นสนาม เกมจัดหมวดหมู่ - เคล่อื นไหวรา่ งกาย กลางวนั และกลางคนื อาทติ ย์และวาดภาพ ในห้องเรยี น รายละเอยี ดของภาพ ประกอบเพลง ตอ่ เตมิ กลางวัน - กลางคืน 2. พมิ พ์ภาพจากรูปทรง 4 - การเคล่อื นไหวพน้ื ฐาน การปฏบิ ตั ิตนในเวลา 1. ร้อยลูกปัด เลน่ มุมประสบการณ์ ว่งิ สลับฟนั ปลา เกมโดมโิ นภาพของใช้ - เคลื่อนไหวรา่ งกาย กลางวนั และกลางคืน 2. วาดภาพดว้ ยสีน้า ในห้องเรียน ตามคาบรรยาย 5 - การเคลอื่ นไหวพ้ืนฐาน สัตว์ทอี่ อกหากนิ ในเวลา 1. ประดษิ ฐ์หนา้ กาก เล่นมุมประสบการณ์ เกมรับ – ส่งลกู บอล เกมจบั คูภ่ าพกับ - เคลื่อนไหวตาม กลางวนั และกลางคืน สตั ว์ ในห้องเรียน จานวน (1 - 6) จินตนาการ เลยี นแบบ 2. ปั้นดินน้ามันสัตว์ ท่าทางสัตว์ตา่ งๆ ท่อี อกหากนิ ในเวลา กลางคนื

แผนการจดั ประสบการณ์รายวนั วันที่ 1 หนว่ ยที่ 21 กลางวัน กลางคืน ช้ันอนบุ าลปีที่ 2 จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน การเรยี นรู้ พัฒนาการ ประสบการณ์ สาระทีค่ วรเรียนรู้ สาคัญ กจิ กรรมเคล่อื นไหวและ (1) การเคลื่อนไหว 1. กิจกรรมพน้ื ฐาน ให้เด็กเคล่ือนไหวรา่ งกาย 1. บัตรภาพกจิ วตั ร สังเกต จงั หวะ อยูก่ บั ที่ ไปท่วั บรเิ วณอย่างอิสระตามจังหวะ เม่อื ได้ยนิ ประจาวัน กลางวนั ความสนใจ สนใจ มคี วามสุขและแสดง (2) การเคล่ือนไหว สญั ญาณ “หยุด “ ใหห้ ยุดเคลอ่ื นไหวในทา่ น้นั และกลางคืน มีความสขุ และแสดง ทา่ ทาง/เคลื่อนไหวประกอบ เคล่ือนที่ ทนั ที 2. เคร่ืองเคาะจังหวะ ท่าทาง/เคลือ่ นไหว เพลง จังหวะ ดนตรี 2. ครใู หเ้ ด็กอาสาสมัครออกมาหนา้ ห้องเรียน ประกอบเพลง 1 คน ดบู ัตรภาพกจิ วัตรประจาวนั และแสดง จังหวะ ดนตรี ทา่ ทางกจิ วตั รประจาวันตามบัตรภาพ แลว้ ให้ เพือ่ นๆทาตาม เชน่ อาบนา้ ลา้ งหน้า แปรงฟัน 3. ให้อาสาสมัครคนต่อไปสลับกันเป็นผนู้ า ในการเคล่ือนไหวทา่ ทางเกย่ี วกบั กิจวัตร ประจาวัน กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ (2) ฟงั นิทาน ลักษณะของ 1. เดก็ และครูร่วมกันร้องเพลง และทาท่าทาง 1. เพลงดวงอาทติ ย์ สงั เกต 1. กลา้ พูดกลา้ แสดงออก เกย่ี วกบั คุณธรรม ดวงอาทิตย์ ประกอบเพลง ดวงอาทิตย์ 2. นทิ านไกก่ บั พระ 1. การกลา้ พูด อย่างเหมาะสมตาม จรยิ ธรรม 2. ใหเ้ ดก็ ฟงั นิทานเร่ือง ไก่กับพระอาทิตย์ และ อาทิตย์ กลา้ แสดงออก สถานการณ์ (6) การพูดอธิบาย ร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยใชค้ าถามต่อไปนี้ อย่างเหมาะสม 2. ฟงั ผ้อู ่ืนพดู จนจบและ เกย่ี วกบั เหตุการณ์ - นิทานเรอ่ื งนี้มีตัวละครอะไรบา้ ง ตามสถานการณ์ สนทนาโตต้ อบสอดคล้อง และความสัมพันธ์ - ถา้ โลกนี้มีดวงอาทิตยส์ อ่ งแสงสวา่ ง 2. การฟังผู้อน่ื พูด กบั เรื่องทีฟ่ งั ของส่ิงตา่ งๆ ท้ังกลางวนั และกลางคนื จะเกิดอะไรข้นึ จนจบและสนทนา - ดวงอาทติ ย์ข้นึ และตกในเวลาใด โตต้ อบสอดคล้อง - แสงแดดมีประโยชนแ์ ละโทษอย่างไรบา้ ง กบั เรอื่ งท่ฟี ัง ๓. ครูและเดก็ ร่วมกันสรปุ ลกั ษณะของเวลา กลางวัน ประโยชน์และโทษของแสงแดด

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ การประเมิน การเรียนรู้ พฒั นาการ ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ สงั เกต 1. สนใจ มคี วามสขุ และ สาคญั 1. จานกระดาษ 1. ความสนใจ แสดงออกผ่านงานศิลปะ 2. กระดาษสี มคี วามสุขและ 2. กล้าพูดกลา้ แสดงออก (5) การทากจิ กรรม 1. ครแู นะนากจิ กรรมสรา้ งสรรค์งานประดิษฐ์ 3. กาว แสดงออกผา่ นงาน 3. แสดงความพอใจใน 4. สเี ทียน ศิลปะ ผลงานและความสามารถ ศิลปะ พระอาทติ ย์จากจานกระดาษ 5. กรรไกร 2. การกล้าพูดกล้า ของตนเอง แสดงออก (2) การเล่นและ 2. ในระหว่างทเ่ี ด็กทากิจกรรม ครคู อยให้ 3. การแสดง ความพอใจในผลงาน ทางานรว่ มกับผู้อนื่ คาแนะนา การใช้กรรไกรและการใชส้ ีเทยี น และความสามารถ ของตนเอง 3. ให้เด็กนาเสนอผลงานของตนเอง และบอก ความรู้สึกท่ีมีต่อผลงาน กจิ กรรมการเลน่ ตามมุม (1) การเล่นอิสระ 1. ครแู นะนามมุ ประสบการณ์ กติกาและ มมุ ประสบการณ์ใน สังเกต หอ้ งเรยี น 1. การเล่นหรือ 1. เลน่ หรอื ทางานกบั เพื่อน (2) การเลน่ วิธีการเลน่ ในแตล่ ะมุม และให้เด็กเลอื กเล่น ทางานกับเพื่อนเป็น กลุ่ม เปน็ กลมุ่ ได้ รายบุคคลกลุ่มย่อย ตามความสนใจ 3. การเก็บของเล่น เข้าท่ีด้วยตนเอง 2. เก็บของเลน่ ของใช้ กล่มุ ใหญ่ 2. เด็กเลอื กกิจกรรมการเลน่ ตามมมุ เข้าท่ีด้วยตนเองได้ (2) การปฏบิ ตั ติ น ประสบการณ์ตามความสนใจ เชน่ เปน็ สมาชกิ ทีด่ ีของ - มมุ ธรรมชาติศึกษา - มมุ หนงั สือ ห้องเรียน - มมุ บล็อก - มุมบทบาทสมมติ 3. เมอ่ื หมดเวลาครูให้สญั ญาณหยดุ เลน่ เดก็ ชว่ ยกนั เก็บของ

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ พฒั นาการ ประสบการณ์ สาระที่ควรเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื กิจกรรมการเลน่ กลางแจ้ง สงั เกต เดนิ ต่อเท้าไปข้างหนา้ สาคญั ๑. เส้นตรง การเดินต่อเทา้ เปน็ เสน้ ตรงไดโ้ ดยไมต่ ้อง ๒. นกหวีด ไปขา้ งหนา้ เป็น กางแขน (2) การเล่น 1. ครูแนะนาและสาธติ การ การเดนิ ต่อเท้า 3. เกมเดินตอ่ เท้า เส้นตรงไดโ้ ดยไม่ตอ้ ง 4. สนามเด็กเลน่ กางแขน รายบคุ คลกลุ่มย่อย 2. เดก็ เลน่ เกมการเดินต่อเท้า โดยมคี รูดแู ล และกลุ่มใหญ่ อยา่ งใกล้ชิดและใช้เวลาตามสมควรหลังจากน้นั (4) การเล่นนอก ใหเ้ ด็กเลน่ ในสนามอยา่ งอสิ ระ ห้องเรียน 3. เม่อื ครใู ห้สญั ญาณหมดเวลาเดก็ เขา้ แถวและ ทาความสะอาดรา่ งกาย กจิ กรรมเกมการศึกษา (5) การคดั แยก ๑. ครูแนะนาวิธกี ารเลน่ เกมเกมจดั หมวดหมู่ ๑. เกมจดั หมวดหมู่ สงั เกต จาแนกและจัดกลุ่ม การจัดกลมุ่ และ ภาพส่งิ ของทม่ี รี ูปรา่ งคลา้ ยกัน สงิ่ ตา่ ง ๆ โดยใชอ้ ยา่ งน้อย การจาแนกสงิ่ ต่างๆ ๒. แบ่งเด็กออกเป็นกล่มุ ตามความเหมาะสม ภาพสง่ิ ของที่มรี ปู รา่ ง การจาแนกและ หนึง่ ลกั ษณะเปน็ เกณฑ์ ตามลักษณะ ให้เดก็ กลุม่ หน่ึงรบั เกมจัดหมวดหม่ภู าพไปเลน่ เด็กกลุ่มอื่นเล่นเกมการศกึ ษาชดุ เดมิ หลงั จาก คลา้ ยกนั จดั กลุ่มสิ่งตา่ ง ๆ นนั้ ใหห้ มนุ เวยี นเลน่ เกมใหม่จนครบทุกกลุ่ม ๓. เม่ือหมดเวลาใหเ้ ดก็ เก็บเกมการศึกษาเขา้ ที่ 2. เกมการศึกษา โดยใชอ้ ย่างนอ้ ย ให้เรียบรอ้ ย ชดุ เดิม หนึ่งลักษณะ เปน็ เกณฑ์

แผนการจดั ประสบการณ์รายวนั วันท่ี 2 หนว่ ยที่ 21 กลางวัน กลางคืน ชน้ั อนุบาลปีท่ี 2 จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ การเรียนรู้ พัฒนาการ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. กิจกรรมพืน้ ฐาน ให้เด็กเคล่ือนไหวรา่ งกาย 1. เพลงพระอาทติ ย์ สาคัญ ไปทวั่ บรเิ วณอย่างอสิ ระตามจังหวะ เมอื่ ไดย้ ิน ยม้ิ แฉ่ง สงั เกต สญั ญาณ “หยุด “ ให้หยดุ เคล่อื นไหวในทา่ น้นั 2. เครื่องเคาะจังหวะ ความสนใจ กิจกรรมเคล่ือนไหวและ (1) การเคล่ือนไหว ทันที 3. ภาพพระอาทิตย์ที่ มคี วามสุขและแสดง 2. ครเู ปดิ เพลงพระอาทติ ยย์ ้ิมแฉ่ง ใหเ้ ด็ก เด็กประดิษฐ์ ทา่ ทาง/เคลอื่ นไหว จังหวะ อยูก่ ับท่ี เคลือ่ นไหวท่าทางตามจินตนาการ พรอ้ มถือ ประกอบเพลง ภาพพระอาทติ ย์ทเ่ี ด็กประดิษฐ์ไว้ ๑. ปริศนาคาทาย จังหวะ และดนตรี สนใจ มีความสขุ และแสดง (๑) การฟังเพลง ๒. รปู ภาพพระจันทร์ 1. ใหเ้ ด็กฟงั และตอบคาถามปรศิ นาคาทาย กบั ดวงดาว สังเกต ทา่ ทาง/เคล่ือนไหวประกอบ การรอ้ งเพลง และ เกยี่ วกับดวงจนั ทร์ เชน่ ๓. คาคล้องจอง การฟงั ผู้อนื่ พูดจนจบ \"จันทรเ์ อ๋ยจนั ทร์เจา้ \" และสนทนาโต้ตอบ เพลง จงั หวะ และดนตรี แสดงปฏิกริ ยิ า - อะไรเอ่ย กลางวันหายหน้า ส่องแสงมา สอดคล้องกบั เร่ือง เวลากลางคนื (พระจนั ทร์) ทฟี่ งั โตต้ อบเสียงดนตรี - อะไรเอ่ย ส่องแสงแวววาว กระจายอยูเ่ ต็ม (๓) การเคลื่อนไหว ท้องฟ้า(ดาว) ๒. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถงึ ลักษณะของ พร้อมอปุ กรณ์ เวลากลางคนื โดยใชค้ าถามดังนี้ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ (6) การสนทนา ลกั ษณะของ - ในเวลากลางคนื เด็กๆมองเหน็ อะไรบน ทอ้ งฟา้ ฟังผู้อื่นพดู จนจบและ เหตกุ ารณท์ ี่ ดวงจันทร์ - พระจนั ทร์มลี กั ษณะเปน็ อยา่ งไร สนทนาโต้ตอบสอดคล้อง เกยี่ วกบั ธรรมชาติ - ในเวลากลางคนื เราควรปฏิบัติตนอย่างไร กบั เร่อื งท่ฟี งั และส่งิ แวดลอ้ มใน ชวี ติ ประจาวนั (18) การเล่นเกม ทางภาษา

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ พัฒนาการ ประสบการณ์ สาระทคี่ วรเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื สาคัญ - การนอนพกั ผ่อนเป็นเวลา มปี ระโยชน์ อย่างไร ๓. ครแู นะนา คาคล้องจอง “จนั ทร์เอย๋ จันทร์เจ้า” จากนั้นเด็ก ๆ ฝึกทอ่ งคาคล้องจอง ตามครูจนคล่อง 4. ครแู ละเดก็ ร่วมกันสรุปเกยี่ วกับลกั ษณะ ของดวงจันทร์ กิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ (2) การเขยี นภาพ 1. ครูและเด็กร่วมกันทอ่ งคาคล้องจอง “จันทร์ 1. คาคล้องจอง สังเกต 1. สนใจ มีความสขุ และ และการเล่นกับสี เอย๋ จันทร์เจ้า” จันทรเ์ อ๋ยจนั ทร์เจ้า 1. ความสนใจ แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ (3) การปนั้ 3. ครแู นะนากิจกรรมสรา้ งสรรค์ประกอบด้วย 2. กระดาษร้อย มคี วามสขุ และ 2. ร้อยวสั ดุที่มีรูขนาดเส้น ปอนด์ แสดงออกผ่านงาน ผ่าศูนย์กลาง 0.5 ซ.ม.ได้ - โมบายพระจนั ทร์ 3. สเี ทยี น ศิลปะ 3. แสดงความพอใจใน - การพบั สี 4. กรรไกร 2. การร้อยวัสดุ ผลงานและความสามารถ 3. เด็กทากิจกรรมสร้างสรรค์ทัง้ 2 กจิ กรรม 5. ลูกปัด ๒ ขนาด ที่มรี ขู นาด ของตนเอง 4. ในระหว่างทเ่ี ด็กทากจิ กรรม ครูคอยให้ ใหญ่ - เลก็ เส้นผา่ ศูนย์กลาง 4. ชว่ ยเหลอื และแบง่ ปนั คาแนะนา วิธีร้อยลกู ปดั และการพบั สี 6. สีน้า 0.5 ซ.ม. ผู้อ่ืนได้เมื่อมผี ชู้ ี้แนะ 5. ให้เดก็ นาเสนอผลงานของตนเอง และบอก ๗. กระดาษ เอ ๔ 3. การแสดงความ ความรู้สึกท่มี ีต่อผลงาน พอใจในผลงานแสดง ความสามารถ ของตนเอง 4. การช่วยเหลือและ แบง่ ปนั เมื่อมีผชู้ ีแ้ นะ

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน การเรยี นรู้ พฒั นาการ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ มมุ ประสบการณ์ สาคัญ ในหอ้ งเรียน สังเกต 1. การเล่นหรือ กจิ กรรมการเลน่ ตามมุม (1) การเล่นอสิ ระ 1. ครแู นะนามุมประสบการณ์ กติกาและ ทางานกับเพื่อน เป็นกลุม่ 1. เลน่ หรือทางานกับเพอ่ื น (2) การเล่น วิธีการเล่นในแตล่ ะมุม และให้เด็กเลือกเล่น 2. การเก็บของเล่น ของใช้เข้าท่ี เป็นกลุ่มได้ รายบคุ คลกลุ่มย่อย ตามความสนใจ 2. เก็บของเล่นของใช้ กลุ่มใหญ่ 2. เดก็ เลอื กกจิ กรรมการเล่นตามมมุ เข้าทีไ่ ด้ (2) การปฏิบัติตน ประสบการณ์ตามความสนใจ เชน่ เป็นสมาชิกที่ดขี อง - มมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา - มมุ หนังสอื หอ้ งเรยี น - มมุ บล็อก - มุมบทบาทสมมติ 3. เมื่อหมดเวลาครูใหส้ ญั ญาณหยุดเลน่ เด็กช่วยกันเกบ็ ของ กจิ กรรมการเลน่ กลางแจ้ง (2) การเลน่ 1. ครูแนะนาข้อตกลงในการเล่นและวิธกี ารเล่น สงั เกต 1. กระโดดขาเดียวอยู่กบั ที่ รายบุคคล เกมกระตา่ ยขาเดยี ว พร้อมท้ังแนะนาวิธีการ 1. การกระโดดขา ไดโ้ ดยไม่เสียการทรงตัว กล่มุ ยอ่ ย และ เลน่ อยา่ งปลอดภยั เดียวอยูก่ บั ทโี่ ดยไม่ 2. เล่นและทากจิ กรรม กล่มุ ใหญ่ 2. ครูใหเ้ ดก็ ทดลองเล่นเกมกระต่ายขาเดียว เสยี การทรงตัว อยา่ งปลอดภยั ดว้ ยตนเองได้ โดยมีครูดแู ลอยา่ งใกลช้ ิดเพอื่ ให้เดก็ ฝึกความ 2. การเล่นและทา พร้อมในการเล่น กิจกรรมอยา่ ง 3. ให้เด็กทุกคนเลน่ เกมกระต่ายขาเดียว ปลอดภยั ดว้ ยตนเอง ครูคอยดูแลอย่างใกลช้ ิด 4. เมื่อครูให้สญั ญาณหมดเวลา เดก็ เกบ็ ของ และทาความสะอาดรา่ งกาย

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ การเรยี นรู้ พฒั นาการ ประสบการณ์ สาระที่ควรเรียนรู้ ๑. ครูแนะนา เกมจบั คู่ภาพสัญลกั ษณ์ กจิ กรรมเกมการศกึ ษา สาคญั ตามลาดบั ท่ีกาหนด ๑. เกมจับคู่ภาพ สงั เกต จบั คู่และเปรียบเทยี บความ ๒. แบง่ เด็กออกเป็นกลมุ่ ตามความเหมาะสม สญั ลกั ษณ์ตามลาดับ การจบั ค่แู ละ แตกต่างหรือความเหมอื น (5) การคัดแยก ให้เด็กทุกกลมุ่ รบั เกมจับคูภ่ าพสัญลักษณ์ ทีก่ าหนด เปรียบเทยี บความ ของส่งิ ตา่ ง ๆ โดยใช้ และการจัดกลุ่ม ตามลาดับที่กาหนดไปเลน่ จนครบทกุ คนเสร็จ ๒. เกมการศึกษา แตกต่างหรือความ ลกั ษณะทสี่ ังเกตพบเพียง แลว้ ให้เด็กเล่นเกมการศึกษาชุดเดมิ ชุดเดิม เหมือนของสงิ่ ต่าง ๆ ลกั ษณะเดยี ว ๓. ใหเ้ ดก็ เก็บเกมการศึกษาเข้าที่ใหเ้ รียบร้อย โดยใชล้ กั ษณะที่ สังเกตพบเพียง ลกั ษณะเดยี ว

แผนการจัดประสบการณร์ ายวนั วนั ท่ี 3 หนว่ ยที่ 21 กลางวนั กลางคนื ชัน้ อนบุ าลปที ี่ 2 จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล การเรยี นรู้ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ สาคญั กิจกรรมเคลอื่ นไหวและ (1) การเคล่ือนไหว 1. กจิ กรรมพ้ืนฐาน ให้เด็กเคล่ือนไหวรา่ งกาย 1. เครือ่ งเคาะจงั หวะ สงั เกต จังหวะ อยูก่ ับที่ ไปทัว่ บริเวณอย่างอสิ ระตามจังหวะ เม่อื ได้ยนิ 2. เพลง กลางวนั - ความสนใจ สนใจ มคี วามสุขและแสดง (2) การเคล่ือนไหว สัญญาณ “หยดุ “ ให้หยดุ เคลื่อนไหวในทา่ นน้ั กลางคืน มีความสขุ และแสดง ท่าทาง/เคล่ือนไหวประกอบ เคลื่อนที่ ทันที ท่าทาง/เคลอื่ นไหว เพลง จังหวะ และดนตรี (๑) การฟังเพลง 2. ให้เดก็ เคล่ือนไหวโดยทาท่าทางประกอบ ประกอบเพลง การรอ้ งเพลง และ เพลง กลางวนั - กลางคืน โดยใหแ้ ตล่ ะคนคดิ จังหวะ และดนตรี แสดงปฏกิ ิรยิ า ท่าทางอยา่ งอสิ ระ โตต้ อบเสียงดนตรี กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ (2) การฟังและ ความแตกต่าง 1. ใหเ้ ด็กรอ้ งเพลง “กลางวนั กลางคนื ” 1. เพลง กลางวัน สังเกต ฟังผูอ้ ่นื พดู จนจบและ ปฏิบตั ิตาม ระหวา่ งกลางวัน 2. ครปู ดิ หน้าต่างห้องเรยี นทุกบาน และปดิ กลางคนื การฟงั ผู้อื่นพูดจนจบ สนทนาโตต้ อบสอดคลอ้ ง คาแนะนา และกลางคืน ไฟฟา้ ในห้องให้อยู่ในความมดื ประมาณ 2 นาที 2. ภาพกลางวนั และสนทนาโต้ตอบ กบั เร่ืองทีฟ่ งั ได้ แลว้ ให้เดก็ ช่วยกนั เปดิ หนา้ ตา่ งโดยใชค้ าถาม กลางคนื สอดคลอ้ งกบั เร่ือง ดงั น้ี ที่ฟงั - ขณะปิดหน้าต่าง และปดิ ไฟเด็ก ๆ รู้สึก อยา่ งไร - เด็กๆชอบเวลาใดมากท่ีสดุ เพราะเหตใุ ด - ช่วงท่ีเปดิ หน้าต่างกับปิดหน้าตา่ งเด็กชอบ ชว่ งไหนเพราะเหตุใด 3. ครใู ห้เด็กดูภาพชว่ งเวลากลางวนั กลางคนื 4. เดก็ และครรู ว่ มกันสนทนาเปรยี บเทยี บ ความแตกต่างระหว่างกลางวัน กลางคนื โดยใช้ภาพประกอบ และใช้คาถามต่อไปนี้

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล การเรยี นรู้ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรียนรู้ สาคัญ - กลางวันกลางคืนต่างกันอยา่ งไร - เด็กๆชอบเวลาใดมากที่สุด เพราะเหตุใด - ถ้าโลกน้มี ีแต่กลางวัน ไม่มกี ลางคนื เดก็ จะเปน็ อย่างไร - ถา้ โลกเรามีดวงอาทิตยเ์ พมิ่ ขึ้น 2 ดวง อะไรจะเกดิ ขนึ้ 5. ครแู ละเดก็ รว่ มกันสรปุ ความแตกตา่ ง ระหวา่ งกลางวนั กลางคืน กิจกรรมศลิ ปะสร้างสรรค์ (2) การเขียนภาพ 1. ครูและเดก็ รว่ มกันร้องเพลง 1. เพลง สังเกต 1. ใช้กรรไกรตดั กระดาษ และการเลน่ กับสี “ดวงจนั ทร์” “ดวงจนั ทร์” 1. การใชก้ รรไกร ตามแนวเสน้ ตรงได้ (5) การหยิบจบั 2. ครูแนะนากิจกรรมสร้างสรรค์ประกอบด้วย 2. กระดาษ เอ4 ตัดกระดาษ 2. สนใจ มคี วามสุขและ การใช้กรรไกร 3. สเี ทยี น ตามแนวเสน้ ตรง แสดงออกผ่านงานศิลปะ การฉกี การตดั - ฉีก ตดั ปะ ดวงจนั ทร์และวาดภาพต่อเตมิ 4. กาว 2. ความสนใจ 3. แสดงความพอใจใน การปะ - พิมพ์ภาพจากรูปทรงเรขาคณิต 5. กรรไกร มีความสุขและ ผลงานและความสามารถ 3. ใหเ้ ดก็ ทากจิ กรรมสร้างสรรค์ท้งั 2 กิจกรรม 6. สีน้า แสดงออกผา่ นงาน ของตนเอง 4. ในระหวา่ งที่เดก็ ทากจิ กรรม ครูคอย 7. กระดาษสี ศิลปะ ให้คาแนะนา การใช้กรรไกร และการใช้สีน้า 8. รปู ทรงเรขาคณิต 3. แสดงความพอใจ 5. ให้เด็กนาเสนอผลงานของตนเอง และ ตา่ ง ๆ ในผลงานและ บอกความรูส้ ึกที่มตี ่อผลงาน ความสามารถ ของตนเอง

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ การเรียนรู้ กิจกรรมการเล่นตามมุม ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล 1. เล่นหรือทางานร่วมกับ มุมประสบการณ์ เพื่อนเปน็ กลุม่ ได้ สาคัญ ในห้องเรียน สังเกต 2. เก็บของเล่นของใช้ 1. การเลน่ หรือ เข้าท่ไี ด้ (1) การเลน่ อิสระ 1. ครแู นะนามุมประสบการณ์ กตกิ าและ 1. เคร่ืองเล่นสนาม ทางานรว่ มกับเพ่ือน 2. นกหวดี เป็นกล่มุ กิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง (2) การเลน่ วธิ กี ารเล่นในแตล่ ะมุม และให้เดก็ เลอื กเลน่ 2. การเกบ็ ของเลน่ เล่นและทากิจกรรมอยา่ ง 1. เกมจดั หมวดหมู่ ของใช้เขา้ ที่ ปลอดภัยได้ รายบุคคลกล่มุ ย่อย ตามความสนใจ รายละเอียดของภาพ 2. เกมการศึกษาชุด สังเกต กิจกรรมเกมการศกึ ษา กลุม่ ใหญ่ 2. เด็กเลอื กเลน่ ในมุมประสบการณต์ ามความ เดิม การเล่นและ จาแนกและจัดกลุม่ ทากจิ กรรม สงิ่ ต่าง ๆ โดยใช้อย่างน้อย (2) การปฏบิ ตั ิตน สนใจ เชน่ อยา่ งปลอดภัย หนงึ่ ลกั ษณะเป็นเกณฑ์ เป็นสมาชกิ ทด่ี ขี อง - มมุ ธรรมชาติศกึ ษา - มุมหนงั สือ สังเกต การจาแนกและ ห้องเรียน - มุมบล็อก - มุมบทบาทสมมติ จดั กลุ่ม ส่ิงต่าง ๆ โดยใช้อย่างน้อย 3. เมื่อหมดเวลาครูใหส้ ญั ญาณหยุดเล่น หน่งึ ลกั ษณะ เปน็ เกณฑ์ เด็กช่วยกนั เก็บของ (2) การเลน่ 1. ครแู นะนาข้อตกลงในการเล่นเครื่องเล่น รายบคุ คล สนาม กลมุ่ ย่อย และ 2. เดก็ เล่นเลน่ เคร่ืองเล่นสนามโดยมีครูดแู ล กลุ่มใหญ่ อย่างใกลช้ ดิ 3. เมอ่ื ครใู ห้สัญญาณหมดเวลาเด็กเข้าแถวและ ทาความสะอาดรา่ งกาย (5) การคดั แยก 1. ครูแนะนาเกมจัดหมวดหมู่รายละเอยี ด การจดั กลุ่ม และ ของภาพ การจาแนกสิง่ ต่างๆ 2. แบ่งเด็กออกเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ตามลกั ษณะ และ ให้เดก็ กลุม่ หน่ึงรับเกมจัดหมวดหมูภ่ าพไปเล่น รปู ร่างรปู ทรง เดก็ กลุม่ อน่ื เลน่ เกมการศึกษา หลงั จากน้ันให้ หมุนเวยี นเลน่ เกมใหมจ่ นครบทกุ กลมุ่ 3. ครใู หส้ ัญญาณหมดเวลา เดก็ เกบ็ เกม การศึกษา

แผนการจดั ประสบการณ์รายวัน วนั ท่ี 4 หนว่ ยท่ี 21 กลางวนั กลางคืน ชน้ั อนุบาลปีที่ 2 จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล การเรยี นรู้ ประสบการณ์ สาระท่ีควรเรียนรู้ สาคัญ กิจกรรมเคล่ือนไหวและ (1) การเคลื่อนไหว 1. กจิ กรรมพื้นฐาน ใหเ้ ด็กเคลอื่ นไหวร่างกาย 1. เคร่ืองเคาะจังหวะ สังเกต จงั หวะ อยูก่ ับท่ี ไปท่ัวบรเิ วณอย่างอิสระตามจังหวะและเพลง 2. คาบรรยาย การรว่ มกจิ กรรม สนใจ มีความสุขและแสดง (2) การเคลื่อนไหว “ยามเชา้ ตรู่” เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณ “หยดุ ” 3. เพลง การเคล่ือนไหว ทา่ ทาง/เคลอ่ื นไหวประกอบ เคล่อื นท่ี ให้หยดุ เคลื่อนไหวในท่านน้ั ทันที “ยามเช้าตรู่” รา่ งกายตาม เพลง จังหวะ และดนตรี (3) การเลน่ 2. ใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายตามคาบรรยาย คาบรรยาย บทบาทสมมติ “เดก็ เดนิ ไปท่องเที่ยวปา่ เหน็ ตน้ ไมส้ งู ใหญ่ และ ลงวา่ ยนา้ ในลาธาร ต่อมาปนี เนินเขาอยา่ งช้าๆ เหน็ นกบินอย่บู นทอ้ งฟา้ เด็กเดนิ ลงเขาอย่าง รวดเรว็ พอถึงท่ีพักกน็ ่ังลง ดมื่ น้าแลว้ กนิ อาหาร ค่า แล้วเด็กนอนหลบั อย่างมีความสุข กิจกรรมเสริมประสบการณ์ (2) การฟังและ การปฏบิ ัติตน 1. ให้เด็กเล่าประสบการณข์ องตนเอง ๑. เพลง สังเกต ฟงั ผอู้ ่นื พดู จนจบและ ปฏบิ ัติตาม ในเวลากลางวนั ในวันหนึ่งตอ้ งทาอะไรบา้ ง “ดวงอาทิตย์ การฟังผู้อ่ืนพูดจนจบ สนทนาโตต้ อบสอดคล้อง คาแนะนา และเวลากลางคืน 2. ใหเ้ ด็กบอกสิ่งท่ที าในเวลากลางวันและ ดวงจนั ทร์” และสนทนาโต้ตอบ กบั เรือ่ งทฟี่ งั กลางคนื 2. ภาพกิจกรรม สอดคล้องกับเร่ือง 3. เดก็ และครรู ่วมกนั สนทนาถึงกิจกรรมตา่ ง ๆ ท่คี วรทาในเวลา ที่ฟงั ท่ที าและสิง่ ทค่ี วรปฏิบตั ิในเวลากลางวันและ กลางวนั และ กลางคืนโดยใชภ้ าพประกอบและใช้คาถามดงั น้ี กิจกรรมที่ควรทา - ถ้าคนเราทางานตลอดโดยไมไ่ ด้พักผ่อนจะ เวลากลางคืน เป็นอย่างไร - ทาไมเด็กจึงไมม่ าโรงเรียนในเวลากลางคืน - เดก็ ๆคดิ วา่ ควรออกไปเดินเลน่ ในเวลา กลางคนื หรอื ไม่ เพราะอะไร

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ การเรียนรู้ ประสบการณ์ สาระที่ควรเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล สาคัญ - ในเวลากลางคนื เดก็ ควรทาอะไรมากทส่ี ดุ (นอนหลับ,ดทู ีวี,วิ่งออกกาลงั กาย) 4. ใหเ้ ด็กเล่นทายภาพกิจกรรมทีค่ วรทาในเวลา กลางคืน 5. เดก็ และครรู ่วมกันร้องเพลงและทาทา่ ทาง ประกอบเพลง “ดวงอาทติ ย์ ดวงจันทร์” กิจกรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ (5) การหยบิ จับ 1. ครูและเดก็ รว่ มกนั ทอ่ งบทรอ้ ง “จันทรเ์ อ๋ย 1. บทร้อง “จันทร์ สังเกต 1. สนใจ มีความสุขและ การใชก้ รรไกร การ จันทร์เจ้า” เอ๋ยจนั ทร์เจา้ ” 1. ความสนใจ แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ ฉกี การตัด การปะ 2. ครแู นะนากจิ กรรมสร้างสรรคป์ ระกอบดว้ ย 2. ลกู ปดั ขนาดเสน้ มีความสุขและ 2. แสดงความพอใจใน และการร้อยวัสดุ ผ่านศูนยก์ ลาง แสดงออกผ่านงาน ผลงานและความสามารถ - การรอ้ ยลกู ปัด 0.5 ซ.ม. ศิลปะ ของตนเอง - วาดภาพดว้ ยสีน้า 3. เชอื กร้อยลูกปัด 2. การแสดงความ 3. รอ้ ยวัสดุที่มีรขู นาดเส้น 3. ให้เด็กทากจิ กรรมสร้างสรรค์ท้ัง 2 กิจกรรม 4.สนี ้า พอใจในผลงานและ ผา่ นศนู ย์กลาง 0.5 ซ.ม. 4. ในระหวา่ งทเ่ี ดก็ ทากิจกรรม ครคู อยให้ 5. จานสี ความสามารถ คาแนะนา การร้อยลูกปัด และการใชส้ ีนา้ 6. พู่กนั ของตนเอง 5. ให้เดก็ นาเสนอผลงานของตนเอง และบอก 7. กระดาษ เอ 4 3. การร้อยวสั ดุ ความร้สู ึกที่มีต่อผลงาน ท่ีมรี ูขนาด เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง 0.5 ซ.ม.

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรยี นรู้ ประสบการณ์ สาระท่ีควรเรียนรู้ สังเกต สาคัญ 1. การเลน่ หรือ ทางานกับเพ่ือน กิจกรรมการเลน่ ตามมุม (1) การเลน่ อิสระ 1. ครูแนะนามุมประสบการณ์ กติกาและ มุมประสบการณ์ เปน็ กลุ่ม 2. เก็บของเล่น 1. เลน่ หรอื ทางานกับเพื่อน (2) การเล่น วิธีการเล่นในแตล่ ะมุม และให้เดก็ เลอื กเล่นตาม ในหอ้ งเรยี น ของใช้เขา้ ท่ี เปน็ กลุม่ ได้ รายบุคคลกลมุ่ ย่อย ความสนใจ 2. เก็บของเลน่ ของใช้ กลุ่มใหญ่ 2. เด็กเลือกกจิ กรรมเสรตี ามมุมประสบการณ์ เขา้ ทไี่ ด้ (2) การปฏบิ ัติตน ตามความสนใจ เช่น เปน็ สมาชกิ ที่ดขี อง - มุมธรรมชาติศกึ ษา - มมุ หนังสอื หอ้ งเรยี น - มุมบลอ็ ก - มุมบทบาทสมมติ 3. เมอื่ หมดเวลาครใู หส้ ัญญาณหยดุ เลน่ เดก็ ช่วยกันเก็บของ กจิ กรรมการเลน่ กลางแจ้ง (2) การเลน่ 1. ให้เด็กอบอ่นุ รา่ งกาย ยืดกล้ามเนือ้ 1. ระฆงั สามเหลยี่ ม สงั เกต เลน่ และทากจิ กรรมอย่าง รายบุคคล (กายบริหาร) หรอื นกหวดี การเลน่ และ ปลอดภยั ด้วยตนเองได้ กล่มุ ยอ่ ย และ 2. ครูแนะนาข้อตกลงและอุปกรณ์ในการวิ่ง 2. ขวดพลาสตกิ ทากจิ กรรม กลุ่มใหญ่ สลบั ฟนั ปลา โดยการวางขวดพลาสตกิ ใส่น้า ใส่นา้ อยา่ งปลอดภัย สลบั ฟันปลาระยะห่างกันประมาณหน่งึ เมตร ด้วยตนเอง พรอ้ มท้ังแนะนาวธิ กี ารเลน่ อย่างปลอดภัย 3. เด็กเล่นวง่ิ สลับฟนั ปลาโดยมคี รดู แู ลอย่าง ใกล้ชิด 4. เม่ือครูใหส้ ัญญาณหมดเวลา เด็กเก็บของ และทาความสะอาดรา่ งกาย

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ การเรียนรู้ ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล กิจกรรมเกมการศึกษา จับค่แู ละเปรยี บเทยี บความ สาคญั ๑. เกมโดมิโน สังเกต แตกตา่ งหรือความเหมือน ภาพของใช้ การจับคู่และ ของส่งิ ต่าง ๆ โดยใช้ (5) การจาแนก ๑. ครแู นะนา เกมโดมิโนภาพของใช้ ๒. เกมการศึกษา เปรียบเทียบความ ลักษณะที่สังเกตพบเพียง ชุดเดมิ แตกตา่ งหรือความ ลกั ษณะเดยี ว สิ่งตา่ ง ๆ ๒. แบง่ เดก็ ออกเปน็ กล่มุ ตามความเหมาะสม เหมือนของสงิ่ ต่าง ๆ โดยใช้ลกั ษณะท่ี ตามลกั ษณะ ให้เดก็ กลุ่มหน่ึงรับเกมโดมิโนภาพของใช้ไปเลน่ สังเกตพบเพยี ง ลกั ษณะเดียว เดก็ กลุม่ อน่ื เลน่ เกมการศกึ ษา หลงั จากน้นั ให้ หมนุ เวียนเลน่ เกมใหมจ่ นครบทกุ กลุ่ม ๓. ใหเ้ ด็กเก็บเกมการศกึ ษาเข้าท่ีให้เรยี บรอ้ ย

แผนการจดั ประสบการณร์ ายวัน วันที่ 5 หน่วยที่ 21 กลางวัน กลางคนื ช้ันอนบุ าลปที ่ี 2 จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล การเรียนรู้ ประสบการณ์ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ 1. กิจกรรมพ้ืนฐาน ให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกาย 1. เครือ่ งเคาะ สังเกต กิจกรรมเคลื่อนไหวและ สาคัญ ไปทว่ั บริเวณอย่างอสิ ระตามจังหวะ เมอื่ ได้ยิน จังหวะ ความสนใจ มคี วามสขุ จังหวะ สัญญาณ “หยดุ “ ให้หยดุ เคลื่อนไหวในทา่ นัน้ 2. บตั รภาพสัตว์ และแสดงออกท่าทาง/ สนใจ มคี วามสขุ และ (1) การ ทนั ที ทีอ่ อกหากนิ เวลา เคล่อื นไหวประกอบ แสดงออกท่าทาง/ เคลอ่ื นไหว 2. ใหเ้ ดก็ ทาท่าเลียนแบบสัตวท์ ีอ่ อกหากนิ เวลา กลางวันและเวลา เพลง จังหวะ และ เคลือ่ นไหวประกอบเพลง อย่กู บั ท่ี กลางวันและเวลากลางคนื โดยครูกาหนด กลางคนื เชน่ นก ดนตรี จังหวะ และดนตรี (2) การ ใชบ้ ตั รภาพ ฮูก งู นก ชา้ ง ฯลฯ เคลอื่ นไหว 3. ครูเคาะจังหวะให้เด็กเคลอ่ื นไหวร่างกาย เคล่ือนที่ ไปรอบ ๆ บรเิ วณอยา่ งอิสระ เมือ่ ไดย้ ินสัญญาณ 1. คาคล้องจอง สงั เกต (3) การเล่น หยุด ให้เดก็ ทาท่าทางเลยี นแบบสัตวท์ ี่ครูกาหนด “วาวๆหงิ่ ห้อย” 1. การมสี ว่ นร่วมในการ บทบาทสมมติ จากบัตรภาพแลว้ ให้เด็กทาท่าตามคาสั่ง เชน่ 2. ภาพสตั ว์ ไก่ นก ดแู ลรักษาธรรมชาติ ขยับปกี 9 ครงั้ พร้อมนับปากเปลา่ 1 - 9 คา้ งคาว นกฮูก งู และส่ิงแวดลอ้ ม กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ (1) การมสี ว่ น สตั วท์ ี่ออกหากนิ 4. ปฏิบัตติ ามขอ้ 3 ซา้ อีก 3. ปริศนาคาทาย 2. การคน้ หาคาตอบ 1. ครแู ละเด็กรว่ มกันทอ่ งคาคลอ้ งจอง 1. มสี ว่ นรว่ มในการดูแล รว่ มในการ ในเวลากลางวัน “วาว ๆ ห่ิงหอ้ ย” และสนทนาถงึ ชนดิ ของสัตว์ ของข้อสงสัยต่าง ๆ ทอ่ี อกหากนิ ในเวลากลางคนื และกลางวันโดยใช้ ตามวธิ กี ารของตนเอง รักษาธรรมชาตแิ ละ รับผดิ ชอบดแู ล และกลางคนื คาถามดังน้ี สงิ่ แวดล้อม รกั ษาส่ิงแวดล้อม - นอกจากหิ่งห้อยแล้วมสี ัตว์ชนดิ ใดทอี่ อก หากนิ ในเวลากลางคืน 2. คน้ หาคาตอบของ ทั้งภายในและ - เด็ก ๆ คิดว่ามีสตั วอ์ ะไรบ้างที่ออกหากนิ ข้อสงสัยต่าง ๆ ตามวิธีการ ภายนอก ในเวลากลางวัน ของตนเอง (17) คาดเดา หรือคาดคะเน สงิ่ ท่ีอาจจะ

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ การเรียนรู้ ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล สาคัญ เกดิ ขน้ึ อยา่ งมี - เด็ก ๆ คดิ ว่ามสี ัตวอ์ ะไรบ้างทอี่ อกหากนิ ใน เหตุผล เวลากลางคืน 2. ครนู าภาพสัตวช์ นิดตา่ งๆท่ีออกหากินในเวลา กลางวันและกลางคนื ให้เด็กดูและบอกชือ่ สัตว์ แตล่ ะชนดิ ตามภาพและทีอ่ ยู่อาศัย 3. ครแู นะนาและใหค้ วามรู้เก่ียวกับการอนุรักษ์ และรกั ษาธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม เพื่อให้เด็กๆ นาความรู้ไปปฏิบตั ใิ นชวี ิตประจาวัน เชน่ การ ปลกู ต้นไม้ การไม่ทาร้ายสัตว์ การไม่ท้ิงขยะ ลงในแม่น้า 4. เด็กร่วมกันทายภาพ ปรศิ นาคาทาย - ชอบต่ืนแตเ่ ชา้ ตรู่ บอกใหร้ ้โู ดยทั่วกัน ทกุ คน ไดย้ นิ พลัน กต็ ่นื กันในทันที (ไก)่ - นกมีหู หนูมปี ีก ออกหากนิ ในเวลากลางคนื (คา้ งคาว) - ฉนั เปน็ ตัวอะไร ไม่มขี า เล้ือยไปเลือ้ ยมา มพี ษิ เหลือร้าย (ง)ู - ฉันมตี าโต ๆ ชอบบนิ เกาะบนตน้ ไม้ ออกหากนิ ในเวลากลางคนื (นกฮูก) 5. เดก็ และครรู ่วมกันสรปุ เก่ียวกบั การอนรุ ักษ์ สัตว์และสิง่ แวดล้อม

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล การเรยี นรู้ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรียนรู้ สาคัญ กจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์ (5) การทา 1. ครูแนะนากิจกรรมสรา้ งสรรคป์ ระกอบด้วย 1. กระดาษ 100 สังเกต ปอนด์ 1. ความสนใจ 1. สนใจ มคี วามสขุ และ กจิ กรรมศิลปะ - ประดิษฐห์ น้ากากสัตว์ 2. กระดาษสี มีความสุขและ 3. กรรไกร แสดงออกโดยงาน แสดงออกโดยงานศิลปะ ตา่ ง ๆ - ปั้นดินน้ามันอสิ ระ 4. กาว ศลิ ปะ 5. ดินน้ามัน 2. แสดงความพอใจ 2. แสดงความพอใจ (3) การป้ัน 2. ให้เดก็ เลือกทากิจกรรมสร้างสรรค์ตามความ 6. แผ่นรองปัน้ ในผลงานและ 7. จานวางผลงาน ความสามารถ ในผลงานและความสามารถ (4) การประดิษฐ์ สนใจ ของตนเอง 3. ทางานทร่ี บั ของตนเอง สงิ่ ตา่ ง ๆ 3. ในระหวา่ งทเี่ ด็กทากิจกรรม ครูคอยให้ มอบหมายจนสาเร็จ 3. ทางานที่รับมอบหมาย ดว้ ยเศษวัสดุ คาแนะนา การใช้กรรไกร และการใชด้ ินน้ามนั จนสาเรจ็ 4. ใหเ้ ดก็ นาเสนอผลงานของตนเอง และ บอกความรู้สกึ ที่มตี ่อผลงาน กจิ กรรมการเลน่ ตามมุม (1) การเลน่ 1. ครแู นะนามุมประสบการณ์ กติกาและวิธีการ มมุ ประสบการณใ์ น สงั เกต 1. เลน่ ร่วมกันกับเพ่ือนได้ อสิ ระ 2. เกบ็ ของเล่นของใช้ (2) การเลน่ เล่นในแต่ละมุม และใหเ้ ด็กเลือกเลน่ ตามความ ห้องเรยี น 1. การเล่นร่วมกัน เขา้ ที่ได้ รายบุคคลกลุ่ม ย่อยกล่มุ ใหญ่ สนใจ กับเพื่อน (2) การปฏบิ ตั ิ ตนเป็นสมาชกิ ที่ 2. เด็กเลือกกจิ กรรมการเลน่ ตามมมุ 2. การเก็บของเล่น ดีของห้องเรยี น ประสบการณ์ตามความสนใจ เช่น ของใช้เขา้ ท่ี - มุมธรรมชาติศกึ ษา - มมุ หนังสอื - มมุ บล็อก - มมุ บทบาทสมมติ 3. เมือ่ หมดเวลาครูให้สัญญาณหยุดเล่น เด็ก ชว่ ยกันเก็บของ

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ การเรียนรู้ กจิ กรรมการเลน่ กลางแจ้ง ประสบการณ์ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล รับลูกบอลโดยใช้มือทัง้ สอง 1. นกหวดี ขา้ ง สาคัญ 2. ลกู บอล สังเกต เบอร์ 4 การรับลูกบอลโดยใชม้ ือ กจิ กรรมเกมการศึกษา (2) การเลน่ 1. ครูแนะนาและสาธติ การเล่นเกมรบั - สง่ ทั้งสองข้าง จับคแู่ ละเปรยี บเทยี บ ๑. เกมการจบั คู่ ความแตกตา่ งหรือความ รายบุคคล ลกู บอลและแนะนาวิธีการเลน่ อยา่ งปลอดภยั ภาพกับจานวน สังเกต เหมอื นของสง่ิ ตา่ ง ๆ ตัวเลข การจบั คแู่ ละ โดยใช้ลกั ษณะทส่ี ังเกต กลุ่มยอ่ ย และ โดยให้เดก็ จับมือกันเป็นวงกลม วงละ 5-7 คน ๒. เกมการศึกษา เปรียบเทยี บ พบเพียงลักษณะเดียว ชดุ เดิม ความแตกต่างหรือ กลุ่มใหญ่ แต่ละคนยืนห่างกนั ประมาณหนึ่งช่วงแขน ใชม้ ือ ความเหมอื นของ สิง่ ต่าง ๆ โดยใช้ จับลูกบอลสง่ ให้เพอื่ นทีอ่ ยู่ตรงขา้ มสลบั กันไป ลกั ษณะทสี่ งั เกต พบเพยี งลักษณะเดยี ว จนครบ 2. เดก็ เล่นเกมรับ - ส่งบอล โดยมคี รดู ูแล อย่างใกลช้ ดิ 3. เมื่อครูใหส้ ญั ญาณหมดเวลา เด็กเกบ็ ลกู บอล และทาความสะอาดรา่ งกาย (8) การนับและ ๑. ครแู นะนาภาพเกมการจับคภู่ าพกบั จานวน แสดงจานวน ตัวเลข ของส่งิ ตา่ ง ๆ ๒. แบง่ เด็กออกเปน็ กล่มุ ตามความเหมาะสม ในชวี ิตประจาวนั ใหเ้ ดก็ กลุม่ หน่ึงรับเกมจับค่ภู าพไปเลน่ เด็กกลุ่ม อน่ื เลน่ เกมการศึกษา หลงั จากนัน้ ให้หมุนเวียน เล่นเกมใหมจ่ นครบทุกกลุ่ม ๓. ใหเ้ ด็กเก็บเกมการศึกษาเข้าที่ใหเ้ รียบรอ้ ย

1. เลขที่ ชอ่ื -สกลุ 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 1. การเลน่ และทากจิ กรรมอย่างปลอดภยั ดว้ ยตนเอง ด้านร่างกาย แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเดก็ หน่วยการจดั ประสบการณ์ท่ี 21 กลางวนั กลางคืน ช้นั อนบุ าลปที ี่ ๒ 2. การเดินต่อเทา้ ไปข้างหน้าเปน็ เส้นตรงโดยไม่ต้องกางแขน ด้านอารมณ-์ จติ ใจ ประเมินพฒั นาการ 3. การกระโดดขาเดยี วอยู่กับทโ่ี ดยไม่เสยี การทรงตัว ดา้ นสงั คม 4. การรบั ลกู บอลโดยใชม้ อื ทัง้ สองข้าง ดา้ นสตปิ ัญญา 5. การใชก้ รรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้นตรง 6. การร้อยวสั ดุทม่ี ีรูขนาดเส้นผ่านศนู ย์กลาง 0.5 เซนตเิ มตร 7. การกลา้ พดู กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสมตามสถานการณ์ 8. การแสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของ ตนเอง 9. สนใจ มคี วามสขุ และแสดงออกผ่านงานศิลปะ 10. สนใจ มีความสขุ และแสดงทา่ ทาง/เคลอื่ นไหวประกอบ เพลง จังหวะ และดนตรี 11. การช่วยเหลือและแบ่งปนั ผู้อนื่ ได้เม่ือมผี ชู้ ี้แนะ 12. การทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมายจนสาเรจ็ เมอื่ มีผู้ชแ้ี นะ 13. การเก็บของเลน่ ของใชเ้ ขา้ ท่ีด้วยตนเอง 14. การมสี ่วนร่วมในการดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม เม่อื มผี ู้ชีแ้ นะ 15. การเลน่ หรือทางานรว่ มกบั เพอื่ นเปน็ กลมุ่ 16. การฟังผู้อื่นพดู จนจบและสนทนาโต้ตอบสอดคล้องกบั เรือ่ งท่ีฟัง 17. การบอกลกั ษณะและสว่ นประกอบของสงิ่ ตา่ งๆจากการ สังเกตโดยใช้ประสาทสมั ผสั 18. การจับคู่และเปรียบเทยี บความแตกตา่ งหรอื ความเหมือน ของสิง่ ต่างๆโดยใชล้ ักษณะทสี่ ังเกตพบเพยี งลักษณะเดียว 19. การจาแนกและจัดกลุ่มสงิ่ ต่างๆ โดยใช้อย่างนอ้ ยหนง่ึ ลกั ษณะเป็นเกณฑ์ 20. การคน้ หาคาตอบของขอ้ สงสยั ต่างๆ ตามวิธีการของ ตนเอง หมาย เหตุ

1. ดา้ นรา่ งกาย 2. เลขที่ ชอื่ -สกลุ 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. คาอธบิ าย ครูสงั เกตพฤตกิ รรมเด็กรายบคุ คล จดบันทึกสรปุ เปน็ รายสปั ดาห์ระบลุ าดบั คณุ ภาพเปน็ ๓ ระดบั คือ 1. การเล่นและทากจิ กรรมอย่างปลอดภัยดว้ ยตนเอง ด้านอารมณ-์ จิตใจ ประเมนิ พฒั นาการ ระดับ ๓ ดี ระดบั ๒ พอใช้ ระดบั ๑ ควรสง่ เสริม 2. การเดินต่อเทา้ ไปข้างหน้าเปน็ เส้นตรงโดยไม่ต้องกางแขน ด้านสังคม 3. การกระโดดขาเดยี วอยู่กับทโ่ี ดยไม่เสยี การทรงตวั ด้านสติปญั ญา 4. การรบั ลกู บอลโดยใชม้ อื ทัง้ สองข้าง 5. การใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนวเสน้ ตรง 6. การร้อยวสั ดุทม่ี ีรูขนาดเส้นผ่านศนู ย์กลาง 0.5 เซนติเมตร 7. การกลา้ พดู กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสมตามสถานการณ์ 8. การแสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของ ตนเอง 9. สนใจ มีความสขุ และแสดงออกผ่านงานศิลปะ 10. สนใจ มีความสขุ และแสดงทา่ ทาง/เคลอื่ นไหวประกอบ เพลง จังหวะ และดนตรี 11. การช่วยเหลือและแบ่งปนั ผู้อน่ื ได้เมอื่ มผี ชู้ แี้ นะ 12. การทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมายจนสาเรจ็ เมอื่ มีผู้ช้ีแนะ 13. การเก็บของเลน่ ของใชเ้ ขา้ ท่ีดว้ ยตนเอง 14. การมสี ่วนร่วมในการดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม เม่อื มผี ู้ชีแ้ นะ 15. การเลน่ หรือทางานรว่ มกบั เพอ่ื นเปน็ กลมุ่ 16. การฟังผูอ้ ื่นพดู จนจบและสนทนาโต้ตอบสอดคลอ้ งกบั เรือ่ งท่ีฟัง 17. การบอกลกั ษณะและสว่ นประกอบของสงิ่ ต่างๆจากการ สังเกตโดยใช้ประสาทสมั ผสั 18. การจบั คู่และเปรียบเทยี บความแตกตา่ งหรอื ความเหมือน ของสิง่ ต่างๆโดยใชล้ ักษณะทสี่ ังเกตพบเพยี งลักษณะเดียว 19. การจาแนกและจัดกลุ่มสงิ่ ต่างๆ โดยใช้อย่างนอ้ ยหนง่ึ ลกั ษณะเปน็ เกณฑ์ 20. การค้นหาคาตอบของขอ้ สงสยั ต่างๆ ตามวิธีการของ ตนเอง หมาย เหตุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook