Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้ที่ 3.1-เค้าโครงของโครงงาน

ใบความรู้ที่ 3.1-เค้าโครงของโครงงาน

Published by saipaengpaphawarin, 2023-08-08 07:32:24

Description: ใบความรู้ที่ 3.1-เค้าโครงของโครงงาน

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ที่ 3.1 เรอ่ื ง เค้าโครงของโครงงาน เคำ้ โครงของโครงงำน คอื โครงกำรเพ่อื ขอเสนอทำโครงงำน ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ตำ่ ง ๆ ดงั น้ี 1. ชอ่ื โครงงาน 2. ผู้จัดทาโครงงาน 3. ชอื่ ครูทป่ี รกึ ษาโครงงาน 4. ท่ีมาและความสาคญั ของโครงงาน 5. วัตถุประสงคข์ องการทาโครงงาน 6. สมมติฐานของการศึกษา 7. ของเขตของการทาโครงงาน 8. วิธดี าเนนิ การ 9. ผลทีค่ าดวา่ จะได้รับ 10. แผนการกาหนดเวลาปฏิบตั ิงาน 11. เอกสารอ้างองิ ********************** 1. ช่อื โครงงาน ชอื่ โครงงำนเป็นสง่ิ สำคญั ประกำรแรก เพรำะชอื่ โครงกำรจะชว่ ยโยงควำมคดิ ไปถงึ วตั ถปุ ระสงค์ ของกำรทำโครงงำนและควรกำหนดช่ือโครงกำรใหส้ อดคล้องกับวตั ถุประสงคห์ ลกั ด้วย กำรตัง้ ชอื่ โครงงำนของนกั เรียนในระดบั ประถมศกึ ษำและมัธยมศึกษำ นิยมต้ังช่ือให้มีควำม กะทัดรดั และดึงดูดควำมสนใจจำกผู้อำ่ น ผฟู้ ัง แตส่ ิ่งท่ีควรคำนึงถึง คอื ผู้ทำโครงงำน ต้องเขำ้ ใจปญั หำทีส่ นใจ ศึกษำอยำ่ งแท้จริง อนั จะนำไปสกู่ ำรเข้ำใจวัตถุประสงค์ของกำรศึกษำอย่ำงแท้จริงดว้ ย เช่น โครงงำน ชื่อ “ถุงพลำสติกพชิ ติ แมลงวนั ตัวน้อย” ซึ่งปัญหำเร่ืองท่สี นใจศึกษำคือ ถุงน้ำพลำสติก สำมำรถไล่แมลงวนั ทม่ี ำตอมอำหำรได้จรงิ หรอื จำกเรื่องดังกล่ำวผ้ทู ำโครงงำนบำงคนหรือบำงกลุ่มอำจสนใจตั้งช่อื โครงงำนวำ่ “กำรศึกษำกำรไล่แมลงวนั ด้วยถงุ นำ้ พลำสติก” หรือ “ผลกำรใช้ถุงน้ำพลำสติกต่อกำรไลแ่ มลงวัน” เปน็ ตน้ อย่ำงไรก็ตำมจะตง้ั ชื่อโครงกำรในแบบใด ๆ น้ัน ตอ้ งคำนึงถึงควำมสำมำรถทีจ่ ะส่ือควำมหมำยถงึ วัตถุประสงค์ท่ตี ้องกำรศึกษำไดช้ ัดเจน ครูดำรงค์ คันธะเรศย์ ร.ร. ปัว จ.นำ่ น Page 1

2. ผจู้ ดั ทาโครงงาน กำรเขยี นช่อื ผรู้ บั ผิดชอบโครงงำน เปน็ สิง่ ดีเพือ่ จะไดท้ รำบวำ่ โครงงำนนั้นอยู่ในควำมรบั ผดิ ชอบ ของใครและสำมำรถติดตำมไดท้ ใ่ี ด 3. ชอื่ อาจารยท์ ี่ปรกึ ษาโครงงาน กำรเขยี นชือ่ ผู้ให้คำปรึกษำควรใหเ้ กียรติยกย่องและเผยแพร่ รวมทั้งขอบคณุ ที่ไดใ้ หค้ ำแนะนำกำร ทำโครงงำนจนบรรลเุ ป้ำหมำย 4. ท่มี าและความสาคญั ของโครงงาน ในกำรเขยี นทมี่ ำและควำมสำคัญของโครงงำน ผู้ทำโครงงำนจำเปน็ ต้องศกึ ษำ หลักกำรทฤษฎี เกย่ี วกับเรือ่ งทีส่ นใจจะศกึ ษำ หรอื พูดเข้ำใจง่ำย ๆ ว่ำเร่ืองท่ีสนใจจะศึกษำนั้นต้องมีทฤษฎีแนวคดิ สนับสนนุ เพรำะ ควำมรู้เหลำ่ น้จี ะเปน็ แนวทำงสำคญั ในเร่อื งตอ่ ไปนี้ - แนวทำงตั้งสมมตฐิ ำนของเรื่องที่ศึกษำ - แนวทำงในกำรออกแบบกำรทดลองหรือกำรรวบรวมข้อมลู - ใช้ประกอบกำรอภิปรำยผลกำรศกึ ษำ ตลอดจนเสนอแนะเพ่ือนำควำมรู้และส่งิ ประดิษฐ์ใหม่ท่ี คน้ พบไปใชป้ ระโยชน์ต่อไป กำรเขยี นทมี่ ำและควำมสำคญั ของโครงงำน คอื กำรอธิบำยให้กระจ่ำงชัดว่ำทำไม ตอ้ งทำ ทำแล้วไดอ้ ะไร หำกไม่ทำจะเกดิ ผลเสียอย่ำงไร ซงึ่ มหี ลกั กำรเขียนคลำ้ ยกำรเขยี นเรยี งควำม ทว่ั ๆ ไป คอื มีคำนำ เนอื้ เรอ่ื ง และสรุป สว่ นท่ี 1 คานา : เปน็ กำรบรรยำยถงึ นโยบำย เกณฑ์ สภำพทวั่ ๆ ไป หรอื ปญั หำท่มี สี ่วนสนบั สนุนให้ริเริ่มทำโครงงำน ส่วนท่ี 2 เน้ือเร่อื ง : อธิบำยถงึ รำยละเอียดเช่ือมโยงให้เหน็ ประโยชน์ของกำรทำโครงงำนว โดยมี หลกั กำร ทฤษฎี สนับสนุนเรอื่ งทศี่ ึกษำ หรือกำรบรรยำยผลกระทบ ถำ้ ไม่ทำโครงงำนเร่ืองนี้ สว่ นท่ี 3 สรุป : สรปุ ถงึ ควำมจำเป็นทต่ี ้องดำเนินกำรตำมสว่ นที่ 2 เพ่อื แก้ไขปัญหำ ค้นข้อควำมรูใ้ หม่ คน้ ส่ิงประดิษฐ์ ใหมใ่ หเ้ ป็นไปตำมเหตุผลสว่ นท่ี 1 ครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์ ร.ร. ปัว จ.นำ่ น Page 2

5. วตั ถุประสงคข์ องการทาโครงงาน วตั ถุประสงค์ คือ กำหนดจุดมงุ่ หมำยปลำยทำงท่ีต้องกำรให้เกดิ จำกกำรทำโครงงำน ในกำรเขยี น วตั ถุประสงค์ ต้องเขยี นให้ชัดเจน อำ่ นเขำ้ ใจง่ำยสอดคลอ้ งกับชือ่ โครงงำน หำกมวี ัตถุประสงค์หลำยประเดน็ ให้ ระบุเป็นข้อ ๆ กำรเขียนวัตถุประสงค์มีควำมสำคญั ต่อแนวทำง กำรศึกษำ ตลอดจนข้อควำมรทู้ ี่ค้นพบหรือ สงิ่ ประดษิ ฐท์ ี่ค้นพบน้ันจะมีควำมสมบูรณค์ รบถ้วน คอื ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั วัตถปุ ระสงค์ทกุ ๆ ข้อ 6. สมมติฐานของการศกึ ษา สมมตฐิ ำนของกำรศกึ ษำ เป็นทักษะกระบวนกำรทีผ่ ูท้ ำโครงงำน ตอ้ งให้ควำมสำคญั เพรำะจะ ทำให้เปน็ กำรกำหนดแนวทำงในกำรออกแบบกำรทดลองได้ชดั เจนและรอบคอบ ซึ่งสมมตฐิ ำนก็คือ กำรคำดคะเน คำตอบของปัญหำอยำ่ งมหี ลกั และเหตผุ ล ตำมหลักกำร ทฤษฎี รวมท้งั ผลกำรศึกษำของโครงงำนท่ไี ด้ทำมำแล้ว 7. ขอบเขตของการทาโครงงาน ผ้ทู ำโครงงำนวทิ ยำศำสตร์ ต้องให้ควำมสำคัญต่อกำรกำหนดขอบเขตกำรทำโครงงำน เพื่อให้ ได้ผลกำรศึกษำทีน่ ำ่ เชือ่ ถือ ซ่ึงได้แก่ กำรกำหนดประชำกร กลุ่มตวั อย่ำง ตลอดจนตัวแปรท่ีศกึ ษำ 1. กำรกำหนดประชำกร และกลุม่ ตวั อย่ำงทีศ่ ึกษำ คือ กำรกำหนดประชำกรท่ศี ึกษำอำจเป็นคน หรือสตั ว์หรอื พืช ชอื่ ใด กลุม่ ใด ประเภทใด อยู่ที่ไหน เมื่อเวลำใด รวมทงั้ กำหนด กลุ่มตวั อย่ำงที่มีขนำดเหมำะสม เป็นตวั แทนของประชำกรที่สนใจศกึ ษำ 2. ตวั แปรท่ศี กึ ษำ กำรศึกษำโครงงำนส่วนมำกมักเปน็ กำรศึกษำควำมสมั พันธเ์ ชิงเหตแุ ละผล หรือ ควำมสมั พันธร์ ะหว่ำงตัวแปรตั้งแต่ 2 ตวั แปรขนึ้ ไป กำรบอกชนิดของ ตัวแปรอย่ำงถกู ต้องและชัดเจน รวมทง้ั กำร ควบคมุ ตัวแปรที่ไมส่ นใจศกึ ษำ เปน็ ทักษะกระบวนกำร ที่ผู้ทำโครงงำนต้องเขำ้ ใจ ตวั แปรใดที่ศึกษำเปน็ ตัวแปร ต้น ตัวแปรใดที่ศึกษำเปน็ ตัวแปรตำม และตัวแปรใดบำ้ งเปน็ ตัวแปรท่ตี ้องควบคมุ เพื่อเป็นแนวทำงกำรออกแบบ กำรทดลอง ตลอดจนมผี ลต่อกำรเขียนรำยงำนกำรทำโครงงำนทถ่ี ูกต้อง ส่ือควำมหมำยให้ผูฟ้ งั และผู้อ่ำนให้เข้ำใจ ตรงกัน ครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์ ร.ร. ปัว จ.น่ำน Page 3

8. วิธีดาเนนิ การ วธิ ีดำเนินกำร หมำยถงึ วธิ กี ำรทีช่ ว่ ยให้งำนบรรลุตำมวัตถุประสงคข์ องกำรทำโครงงำน ต้ังแต่เร่ิม เสนอโครงกำรกระท่ังสน้ิ สดุ โครงกำร ซง่ึ ประกอบดว้ ย 1. กำรกำหนดประชำกร กลุ่มตัวอยำ่ งท่ีศกึ ษำ 2. กำรสรำ้ งเครือ่ งมือเก็บรวบรวมข้อมลู 3. กำรเก็บรวบรวมขอ้ มลู 4. กำรวเิ ครำะหข์ ้อมูล ในกำรเขยี นวิธดี ำเนนิ กำรใหร้ ะบุกจิ กรรมท่ตี ้องทำให้ชดั เจนวำ่ จะทำอะไรบ้ำง เรยี งลำดบั กจิ กรรม กอ่ นและหลังให้ชัดเจน เพื่อสำมำรถนำโครงกำรไปปฏิบตั ิอยำ่ งต่อเน่ืองและถูกต้อง 9. ผลท่ีคาดว่าจะไดร้ บั ผลท่คี ำดว่ำจะไดร้ ับ คือ กำรคำดหวังถึงผลกำรดำเนินกำรตำมโครงกำร ในกำรเขียนต้องคำดคะเน เหตกุ ำรณ์วำ่ เม่ือได้ทำโครงงำนสนิ้ สุดลง ใครเปน็ ผู้ได้รับประโยชนอ์ ยำ่ งไรและได้รบั มำกน้อยเพยี งใด ผลทีไ่ ดร้ บั สอดคลอ้ งกบั วัตถปุ ระสงค์ท่ศี ึกษำ 10. แผนการกาหนดเวลาปฏิบตั ิงาน กำรทำโครงงำน ตอ้ งกำหนดตำรำงเวลำดำเนนิ กำรทุกขน้ั ตอน เพรำะ กำรทำตำรำงเวลำจะเป็น ประโยชนใ์ หด้ ำเนินกำรอยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง เปน็ ประโยชน์ตอ่ กำรตดิ ตำมประเมนิ ผลกำรดำเนินงำนแตล่ ะข้นั ตอน จน สิ้นสุดกำรทำโครงงำนนน้ั 11. เอกสารอ้างอิง เอกสำรอ้ำงอิง คือ รำยช่อื เอกสำรที่นำมำอำ้ งอิงเพ่ือประกอบกำรทำโครงงำน ตลอดจนกำรเขียน รำยงำนกำรทำโครงงำน ควรเขียนตำมหลักกำร ที่นิยมกัน ****************** ครูดำรงค์ คันธะเรศย์ ร.ร. ปัว จ.นำ่ น Page 4


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook