หลักการใหนัชง้สืภอเรียานษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๓ ผู้ เ รี ย บ เ รี ย ง : เ พ จ บุ ฟ เ ฟ ต์ ภ า ษ า ไ ท ย โ ด ย ค รู ฝ น แ ล ะ ค รู ป อ ย
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย หลักการใช้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มาเ รียนรู้ หลักการใ ช้ภาษาไทย ไปพ ร้อมกัน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒๕๕๑ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ห ลั ก ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ไ ท ย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ก ลุ่ ม ส า ร ะ ก า ร เ รี ย น รู้ ภ า ษ า ไ ท ย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ลิขสิทธิ์ของ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย สแกนคิวอาร์โคด สแกนคิวอาร์โคด เพื่อไปที่เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย เพื่ออ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
คำนำ หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย หลักการใช้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เป็น หนังสือที่เพจบุฟเฟต์ภาษาไทยจัดทำขึ้น เพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐา พุทธศักราช ๒๕๕๕ โดยมี อาจารย์อาจิยา หลิมกุล เป็นที่ปรึกษาในการจัดทำ แนวการนำเสนอเนื้อหาของหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย หลักการใช้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาหลักการใช้ภาษาไทยที่กำหนดไว้ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพื่อให้เรียนรู้หลักการใช้ภาษาไทยในเรื่อง การจำแนกคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ประโยคซับซ้อน ระดับภาษา คำทับศัพท์และศัพท์ บัญญัติ คำศัพท์ทางวิชาการ และโคลงสี่สุภาพ เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจและกระบวนการคิด วิเคราะห์อย่างมีเหตุผล และใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง โดยนำเสนอได้อย่างน่าสนใจและชวน ติดตาม เพจบุฟเฟต์ภาษาไทยหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามหลักการและบรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตร ถ้ามีข้อเสนอแนะ เพื่อปรับปรุงแก้ไข กรุณาแจ้งเพจบุฟเฟต์ภาษาไทย เพื่อการปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขอขอบพระคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำหนังสือเรียนนี้ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีไว้ ณ โอกาสนี้ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย
แนวการใช้หนังสือเรียน หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย หลักการใช้ภาษาไทย เป็นองค์ความรู้เรื่องหลัก การใช้ภาษาไทยพร้อมทั้งแบบฝึกหัดทบทวนท้ายบทที่เลือกและจะทำมาให้นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ได้ศึกษา โดยพิจารณาจากสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกน กลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาระที่ ๔ มาตรฐาน ๔.๑ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายให้ นักเรียนเข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษาและรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ เนื้อหาในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาไทยหลักการใช้ภาษาไทยเล่มนี้แบ่งเป็น ๖ บทเรียน ดังนี้ บทที่ ๑ การจำแนกและการใช้ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย บทที่ ๒ การวิเคราะห์ประโยคซับซ้อน บทที่ ๓ ระดับภาษา บทที่ ๔ การใช้คำทับศัพท์และศัพท์บัญญัติ บทที่ ๕ คำศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพ บทที่ ๖ โคลงสี่สุภาพ
สารบัญ เรื่อง หน้า บทที่ ๑ การจำแนกและการใช้คำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ....................... ๑ สาเหตุที่ทำให้เกิดการยืมภาษา ............................................................ ๒ อิทธิพลของภาษาต่างประเทศที่มีผลต่อภาษาไทย ................................... ๒ วิธีการนำคำภาษาต่างประเทศมาใช้ในภาษาไทย .................................... ๓ คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ .............................................................. ๔ ภาษาเขมร .................................................................................. ๔ ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต ........................................................ ๖ ภาษาอังกฤษ ............................................................................... ๙ ภาษาจีน ..................................................................................... ๑๐ ภาษาชวา–มลายู ......................................................................... ๑๑ ภาษาอื่น ๆ ที่มีใช้ในภาษาไทย ....................................................... ๑๒ กิจกรรมท้ายบทเรียน ......................................................................... ๑๓ เฉลยกิจกรรมท้ายบทเรียน ................................................................. ๑๘ ๑๙ บทที่ ๒ ประโยคซับซ้อน ................................................................................... ๒๑ ประโยคสามัญที่ซับซ้อน ..................................................................... ๒๑ ประโยครวมที่ซับซ้อน ........................................................................ ๒๒ ประโยคซ้อนที่ซับซ้อน ........................................................................ ๒๓ กิจกรรมท้ายบทเรียน ........................................................................ ๒๖ เฉลยกิจกรรมท้ายบทเรียน ................................................................. ๒๗ ๒๘ บทที่ ๓ ระดับภาษา ......................................................................................... ๒๘ ประเภทระดับภาษา ........................................................................... ๒๘ ภาษาระดับพิธีการ ....................................................................... ๒๙ ภาษาระดับทางการ ...................................................................... ๒๙ ภาษาระดับกึ่งทางการ .................................................................. ๒๙ ภาษาระดับไม่เป็นทางการ ............................................................ ภาษาระดับกันเอง ........................................................................
สารบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า ตารางสรุประดับภาษา ........................................................................ ๓๐ กิจกรรมท้ายบทเรียน ......................................................................... ๓๑ เฉลยกิจกรรมท้ายบทเรียน ................................................................. ๓๔ บทที่ ๔ ใช้คำทับศัพท์และศัพท์บัญญัติ ............................................................... ๓๕ คำทับศัพท์ ........................................................................................ ๓๖ ๓๖ หลักการทับศัพท์ .......................................................................... ๓๗ ศัพท์บัญญัติ ...................................................................................... ๓๗ ๓๘ หลักการบัญญัติศัพท์ขึ้นมาใหม่ ....................................................... ๓๙ กิจกรรมท้ายบทเรียน ......................................................................... ๔๑ เฉลยกิจกรรมท้ายบทเรียน ................................................................. ๔๒ บทที่ ๕ คำศัพท์ทางวิชาการ และวิชาชีพ ............................................................ ๔๔ คำศัพท์ทางวิชาการ ........................................................................... ๔๕ คำศัพท์วิชาชีพ .................................................................................. ๔๖ กิจกรรมท้ายบทเรียน ........................................................................ ๔๙ เฉลยกิจกรรมท้ายบทเรียน ................................................................. ๕๐ บทที่ ๖ แต่งบทร้อยกรอง โคลงสี่สุภาพ .............................................................. ๕๐ คณะของโคลงสี่สุภาพ ....................................................................... ๕๑ คำหรือพยางค์และคำสร้อย ................................................................ ๕๓ การสัมผัส คำเอกคำโท คำเอกโทษโทโทษ และคำเป็นคำตาย .................. ๕๖ กิจกรรมท้ายบทเรียน ........................................................................ ๕๗ เฉลยกิจกรรมท้ายบทเรียน ................................................................ ๕๘ ภาคผนวก ...................................................................................................... เอกสารอ้างอิง .................................................................................................
บทที่ ๑ การจำแนกและการใช้คำ ภาษาต่างประเทศ ที่ใช้ในภาษาไทย เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๒- ลักษณะของคำภาษาต่างประเทศที่ยืมมาใช้ในภาษาไทย สาเหตุที่ทำให้เกิดการยืมภาษา ด้านภูมิศาสตร์ เนื่ องจากอาณาเขตทางภูมิศาสตร์อยู่ใกล้เคียงกัน จึงทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางภาษา และมีลักษณะภาษาที่ใช้ใกล้เคียงกัน รวมถึงมีการยืมคำมาใช้ ด้านการค้า การติดต่อค้าขายระหว่างประเทศ มีการนำสินค้าต่าง ๆ เข้ามา ซึ่งสินค้าแต่ละชนิ ดนั้ นมีชื่อเรียกเเตกต่างกันไป จึงเป็ นเหตุให้มีการรับเอาคำศั พท์ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้านั้ น ๆ เข้ามา เช่น กุหลาบกากี กาลาสี เป็ นต้น ด้านศาสนาและวัฒนธรรม การรับศาสนาและวัฒนธรรมของต่างชาติ เข้ามา มีส่วนให้มีคำศั พท์ที่เกี่ยวข้องเข้ามาด้วยเช่นกัน เช่น คำศั พท์ด้านหลักธรรม คำสอนของศาสนานั้ น ๆ เป็ นต้น ด้านการศึ กษา การเดินทางไปศึ กษาต่างประเทศ ในศาสตร์แขนงต่าง ๆ ล้วนมีคำศั พท์ที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์ที่ศึ กษาและคำศั พท์ที่นิ ยมใช้ในประเทศนั้ น ๆ จึงทำให้มีการรับนำมาใช้และปรับใช้ในชีวิตประจำวันด้วย ด้านเทคโนโลยี ในปั จจุบันโลกมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ขึ้นมาใหม่มากมายและมีการเผยแพร่ไปทั่วโลก เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคน จึงทำให้มีการตั้งชื่อใช้เรียกสิ่ งเหล่านั้ น เพื่อให้เป็ นที่เข้าใจร่วมกัน อิทธิพลของภาษาต่างประเทศ ที่มีผลต่อภาษาไทย มีหลายพยางค์มากขึ้น จากเดิมภาษาไทยมักเป็ นคำพยางค์เดียว ปั จจุบันก็มีพยางค์เพิ่มขึ้น โดยผสมกับภาษาอื่น มีคำควบกล้ำมากขึ้น ปั จจุบันมีคำควบกล้ำที่มีเสียงควบต่างจากเดิมเพิ่มมากขึ้น มีตัวสะกดหลายตัวที่ไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด ทำให้มีการเขียนและการออกเสียงที่ หลากหลายมากขึ้น มีคำศั พท์ใช้มากขึ้น ทำให้มีคำศั พท์ที่เลือกใช้ได้เหมาะสมกับโอกาสต่าง ๆ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๓- วิธีการนำคำภาษาต่างประเทศมาใช้ในภาษาไทย ๑ ใช้ตามความหมายของคำเดิมที่ยืมมา เช่น เมตร (อังกฤษ) หมายถึง หน่ วยวัดความยาว แข (เขมร) หมายถึง ดวงเดือน ๒เปลี่ยนตัวสะกดไปจากเดิม เพื่อให้ ออกเสียงได้สะดวก เหมาะกับการออกเสียง ในภาษาไทย เช่น เผอิลฺ (เขมร) เปลี่ยนเป็ น เผอิญ ๓ เปลี่ยนรู ปและเสียงไปจากเดิม เพื่อให้ เหมาะกับการออกเสี ยงภาษาไทย เช่น ฮวงโล้ว (จีน) เป็ น อั้งโล่ ๔ ตัดคำให้ มีเสี ยงสั้ นลง เช่น อุโบสถ (บาลีสันสกฤต) เป็ น โบสถ์ ๕ แผลงสระและพยัญชนะให้ผิดไปจากเดิม เช่น กีรติ (บาลีสันสกฤต) ไทยใช้ เกียรติ ๖ เปลี่ยนความหมายให้เข้ากับความหมาย ของภาษาไทย เช่น โมโห (บาลีสันสกฤต) หมายถึง ความลุ่มหลง ความโง่เขลา ไทยใช้ โกรธ ๗ บัญญัติศั พท์ขึ้นมาใหม่ คือ การสร้างศั พท์ ใหม่ที่มีความหมายตรงกับภาษาเดิม เพื่อไม่ ทำให้ภาษาไทยวิบัติ ซึ่งการบัญญัติศั พท์มัก ใช้ กับคำภาษาบาลีสั นสกฤตและภาษาอังกฤษ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๔- คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ ๑. ภาษาเขมร ไทยได้รับอิทธิพลจากภาษาเขมรจากการค้า การสงคราม การเมือง และวัฒนธรรม โดยมีสาเหตุการนำมาใช้ดังนี้ สาเหตุที่ไทยนำคำเขมรมาใช้ รู ปแบบและการออกเสียง คนไทยและคนเขมรต่างนั บถือ คล้ายคลึงกัน และนิ ยมใช้ภาษาของกันและกัน อดีตเขมรมีความรุ่งเรือง นั กปราชญ์ราชบัณฑิต และมีสั มพันธไมตรีต่อกันกับไทย นำคำเขมรมาใช้ในวรรณกรรมด้านศาสนา และพิธีกรรม และยังใช้ในจารึกต่าง ๆ ไทยและเขมรมีการปกครอง แบบสมบูรณาญาสิ ทธิราชย์ จึงรับคำเขมรมาใช้เป็ นราชาศั พท์ ลักษณะคำเขมรที่นำมาใช้ในภาษาไทย ๑. ใช้ตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา เช่น แม่กด มักใช้ ด จ ส เป็ นตัวสะกด เช่น โปรด เผด็จ ตรัส แม่กน มักใช้ น ญ ร ล เป็ นตัวสะกด เช่น ผสาน เพ็ญ ขจร ตำบล ๒. พยัญชนะต้นมักเป็ นคำควบกล้ำและคำที่ใช้อักษรนำ คำควบกล้ำ เช่น ขลาด กระบือ เพลาไพร คำที่มีอักษรนำ เช่น ขจัด โขนง พนม เสวย ๓. นิ ยมเติมคำหน้ าหรืออุปสรรคลงหน้ าคำกริยาหรือวิเศษณ์ เพื่อให้ความหมายของคำ เปลี่ยนไปบ้าง ๓.๑ ใช้ บัง บัน บำ นำหน้ าคำต่าง ๆ ซึ่งขึ้นต้นด้วยพยัญชนะวรรค บัง นำหน้ าคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะวรรค ก และเศษวรรค เช่น เกิด เป็ น บังเกิด คม เป็ น บังคม บัน นำหน้ าคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะวรรค ต และเศษวรรค เช่น เทิง เป็ น บันเทิง ดาล เป็ น บันดาล บำ (บํ) นำหน้ าคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะวรรค ป เช่น บัด เป็ น บำบัด เพ็ญ เป็ น บำเพ็ญ ๓.๒ ใช้พยัญชนะ ป ผ นำหน้ าคำ เช่น ราบ เป็ น ปราบ จญ เป็ น ผจญ, ประจญ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๕- ๓.๓ ใช้ กำ นำหน้ าคำ เช่น บัง เป็ น กำบัง ๓.๔ ใช้พยัญชนะ ปร นำหน้ าคำ เช่น ชุม เป็ น ประชุม มูล เป็ น ประมูล ๔. ใช้คำเติมกลาง ลงในคำนาม คำกริยา หรือคำวิเศษณ์ เพื่อให้ความหมายเปลี่ยนไปบ้าง ๔.๑ ํน เช่น จอง เป็ น จำนอง ติ เป็ น ตำหนิ คัล เป็ น คำนั ล ๔.๒ ำ เช่น ตรง เป็ น ดำรง เปรอ เป็ น บำเรอ เสร็จ เป็ น สำเร็จ ๔.๓ หํ เช่น ฉัน เป็ น จังหัน (อาหารสำหรับพระสงฆ์) ๔.๔ น เช่น เกย เป็ น เขนย แผก เป็ น แผนก ๔.๕ บ เช่น เรียน เป็ น ระเบียน รำ เป็ น ระบำ ๔.๖ ม เช่น โลภ เป็ น ละโมบ วิธีนำคำเขมรมาใช้ในภาษาไทย ๑. เลือกคำที่ออกเสียงได้สะดวก สอดคล้องกับภาษาไทยโดยไม่ต้องเปลี่ยนรู ป และเสียงของคำ เช่น ฉบับ เขนย กราบ ปรุ ง ฉลอง ตรัส เกิด ๒. เปลี่ยนแปลงเสียงสระหรือพยัญชนะ ทั้งในด้านการออกเสียงและการสะกดคำ – เปลี่ยนแปลงการออกเสียง เช่น ฏํรา เขมรอ่าน ตอม-รา ไทยใช้ ตำรา – เปลี่ยนแปลงการสะกดคำ เช่น ถฺนล ไทยใช้ ถนน แขฺส ไทยใช้ กระแส (กระแสน้ำ) ๓. เปลี่ยนแปลงความหมาย เพื่อความเหมาะสมในภาษาไทย เช่น ฉฺลอง เขมร หมายถึง ข้าม ไทย หมายถึง พิธีฉลอง กรอง เขมร หมายถึง กำไล ไทย หมายถึง ถัก, ร้อย ๔. กำหนดความหมายขึ้นใหม่ แต่ยังใกล้เคียงความหมายเดิม เช่น ทบวง ความหมายเดิมคือ หัว ความหมายใหม่คือ หน่ วยงานที่มีฐานะต่ำกว่ากระทรวง แต่สู งกว่ากรม ๕. แผลงอักษรให้มีรู ปร่างต่าง ๆ ทั้งพยัญชนะ สระ ตัวสะกด และให้อ่านออกเสียง อย่างไทย เช่น โสฺวย แผลงเป็ น เสวย ผฺทม แผลงเป็ น ประทม,บรรทม ขฺจก แผลงเป็ น กระจอก ตัวอย่างคำยืม ภาษาเขมร กระทรวง กระบือ ขนม เขนย เขม่า ปรุ ง เพลิง ควาญ กระแส ทบวง เดิน โคม สำราญ สไบ เฉลียว ฉะเชิงเทรา กำเนิ ด กระโปรง ทลาย ทหาร บำเรอ บรรทัด ผลาญ กระเพาะ ฉลอง สนิ ม สำเนา จรวด ขจาย เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๖- ๒. ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตเข้ามาในไทยผ่านการเผยแผ่ศาสนา โดยภาษาบาลี ใช้ในงานเขียนทางศาสนา ส่วนภาษาสันสกฤตใช้เป็ นภาษาทางวรรณคดีและวิชาการ นอกจากนี้ ยังใช้ในคำราชาศั พท์อีกด้วย ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตมีลักษณะแตกต่างกัน ดังนี้ ภาษาบาลี ภาษาสั นสกฤต สระมี ๘ เสียง คือ ๑๔ เสียง คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ พยัญชนะ ๓๓ ตัว ไอ เอา ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ พยัญชนะ ๓๕ ตัว เพิ่ม ศ ษ ไม่นิ ยมพยัญชนะควบกล้ำ เช่น บาลี = ปชา นิ ยมพยัญชนะควบกล้ำ เช่น สกฤต = ประชา ใช้ ฬ เช่น กีฬา ใช้ ฑ, ท เช่น กรีฑา ไม่มี รร (ร หัน) ใช้ รร (ร หัน) กรรม ครรภ์ วิธีสั งเกตคำบาลี ๑. สังเกตจากพยัญชนะตัวสะกดและตัวตาม ตัวสะกด คือ พยัญชนะที่ประกอบอยู่ข้างท้ายสระประสมกับสระและพยัญชนะต้น เช่น ทุกข์ = ตัวสะกด เพลงประจำบท ตัวตาม คือ ตัวที่ตามหลังตัวสะกด เพลง การจำแนกและการใช้คำ ภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย เช่น สัตย สัจจ ทุกข เป็ นต้น เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย Youtube : 127ศุภกร ตองอบ
-๗- คำในภาษาบาลีจะต้องมีสะกดและตัวตามเสมอ โดยดูจากพยัญชนะบาลี มี ๓๓ ตัว แบ่งออกเป็ นวรรคดังนี้ แถวที่ ๑๒๓๔๕ วรรค กะ ก ข ค ฆ ง วรรค จะ จ ฉ ช ฌ ญ วรรค ฏะ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ วรรค ตะ ต ถ ท ธ น วรรค ปะ ป ผ พ ภ ม เศษวรรค ย ร ล ว ส ห ฬ อัง มีหลักสังเกต ดังนี้ ๑. พยัญชนะตัวที่ ๑, ๓, ๕ เป็ นตัวสะกดได้เท่านั้ น (ต้องอยู่ในวรรคเดียวกัน) ๒. ถ้าพยัญชนะตัวที่ ๑ สะกด ตัวที่ ๑ หรือตัวที่ ๒ เป็ นตัวตามได้ เช่น สักกะ ทุกข สัจจ ปั จฉิม สัตต หัตถ บุปผา เป็ นต้น ๓. ถ้าพยัญชนะตัวที่ ๓ สะกด ตัวที่ ๓ หรือ ๔ เป็ นตัวตามได้ในวรรคเดียวกัน เช่น อัคคี พยัคฆ์ วิชชา อัชฌา พุทธ คพภ (ครรภ์) ๔. ถ้าพยัญชนะตัวที่ ๕ สะกด ทุกตัวในวรรคเดียวกันตามได้ เช่น องค์ สังข์ องค์ สงฆ์ สัมปทาน สัมผัส สัมพันธ์ สมภาร เป็ นต้น ๕. พยัญชนะบาลี ตัวสะกดตัวตามจะอยู่ในวรรคเดียวกันเท่านั้ นจะข้ามไปวรรคอื่นไม่ได้ ๒. สังเกตจากพยัญชนะ “ฬ” จะมีใช้ในภาษาบาลีในไทยเท่านั้ น เช่น จุฬา ครุ ฬ อาสาฬห์ วิฬาร์โอฬาร์ พาฬ เป็ นต้น ๓. สังเกตจากตัวตามในภาษาบาลี จะมาเป็ นตัวสะกดในภาษาไทยโดยเฉพาะวรรค ฎ และวรรคอื่น ๆ บางตัว จะตัดตัว สะกดออกเหลือแต่ตัวตามเมื่อนำมาใช้ในภาษาไทย เช่น บาลี ไทย บาลี ไทย ยกเว้นคำโบราณที่นำมาใช้แล้ว รัฎฐ รัฐ อัฎฐิ อัฐิ ไม่ตัดรู ปคำซ้ำออก ทิฎฐิ ทิฐิ วัฑฒนะ วัฒนะ ปุญญ บุญ วิชชา วิชา เช่น ศั พท์ทางศาสนา ได้แก่ วิปั สสนา สั ตต สั ต เวชช เวช จิตตวิสุทธิ์ กิจจะลักษณะ เป็ นต้น กิจจ กิจ เขตต เขต นิ สสิต นิ สิต นิ สสัย นิ สัย เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๘- วิธีสั งเกตคำสั นสกฤต ๑. พยัญชนะสั นกฤต มี ๓๕ ตัว คือ ๓๓ ตัว + ๒ ตัว คือ ศ, ษ ฉะนั้ นจึง พยัญชนะบาลี สังเกตจากตัว ศ, ษ มักจะเป็ นภาษาสันสกฤต เช่น กษัตริย์ ศึ กษา เกษียร พฤกษ์ ศี รษะ เป็ นต้น ยกเว้นคำไทยบางคำที่ใช้เขียนด้วยพยัญชนะทั้ง ๒ ตัวนี้ เช่น ศอกศึ ก ศอ เศร้าโศก ดาษ กระดาษ ฝรั่งเศส ฝี ดาษ ฯลฯ ๒. ไม่มีหลักการสะกดแน่ นอน ภาษาสันสกฤต ตัวสะกดตัวตามจะอยู่ข้ามวรรคกันได้ไม่ กำหนดตายตัว เช่น อัปสร เกษตรปรัชญา อักษร เป็ นต้น ๓. สังเกตจากสระ สระในภาษาบาลี มี ๘ ตัว คือ อะอา อิ อีอุ อู เอโอ ส่วนสันสกฤต คือ สระภาษาบาลี ๘ ตัว + เพิ่มอีก ๖ ตัว คือ ฤ ฤา ภ ภา ไอ เอา ๔. ถ้ามีสระเหล่านี้ อยู่และสะกดไม่ตรงตามมาตราจะเป็ นภาษาสันสกฤต เช่น ตฤณมัย ไอศวรรย์ เสาร์ ไปรษณีย์ ฤาษี คฤหาสน์ เป็ นต้น ๕. สังเกตจากพยัญชนะควบกล้ำ ภาษาสันสกฤตมักจะมีคำควบกล้ำข้างท้าย เช่น จักร อัคร บุตร สตรี ศาสตร์ อาทิตย์ จันทร์ เป็ นต้น ๖. สังเกตจากคำที่มีคำว่า “เคราะห์” มักจะเป็ นภาษาสันสกฤต เช่น เคราะห์ พิเคราะห์ สังเคราะห์ อนุเคราะห์ เป็ นต้น ๗. สังเกตจากคำที่มี “ฑ” อยู่ เช่น จุฑา กรีฑา ครุ ฑ มณเทียร จัณฑาล เป็ นต้น ๘. สังเกตจากคำที่มี “รร” อยู่ เช่น สรรค์ ธรรม์ วรรณ บรรพต ภรรยา บรรณารักษ์ มรรยาท กรรม ทรรศนะ สรรพ เป็ นต้น ลักษณะการยืมคำภาษาบาลีและสั นสกฤต ภาษาบาลีและสันสกฤตเป็ นภาษาตระกูลเดียวกัน ลักษณะภาษาและโครงสร้างอย่างเดียวกัน ไทยเรารับภาษาทั้งสองมาใช้ พิจารณาได้ดังนี้ ๑. ถ้าคำภาษาบาลีและสันสกฤตรู ปร่างต่างกัน เมื่อออกเสียงเป็ นภาษาไทยแล้วได้เสียงเสียงตรง กันเรามักเลือกใช้รู ปคำสันสกฤต เพราะภาษาสันสกฤตเข้ามาสู่ภาษาไทยก่อนภาษาบาลี เราจึง คุ้นกว่า เช่น บาลี สั นสกฤต ไทย กมฺม กรฺ ม กรรม จกฺก จกฺร จักร ๒. ถ้าเสียงต่างกันเล็กน้ อยแต่ออกเสียงสะดวกทั้งสองภาษา มักเลือกใช้รู ปภาษาสันสกฤต มากกว่าภาษาบาลี เพราะเราคุ้นกว่าและเสียงไพเราะกว่า เช่น บาลี สั นสกฤต ไทย ครุ ฬ ครุ ฑ ครุ ฑ โสตฺถิ สฺ วสฺ ติ สวัสดี เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๙- ๓. คำใดรู ปสันสกฤตออกเสียงยาก ภาษาบาลีออกเสียงสะดวกกว่า จะเลือกใช้ภาษาบาลี เช่น บาลี สั นสกฤต ไทย ขนฺติ กฺษานฺติ ขันติ ปจฺจย ปฺรตฺย ปั จจัย ๔.รู ปคำภาษาบาลีสันสกฤตออกเสียงต่างกันเล็กน้ อย แต่ออกเสียงสะดวกทั้งคู่บางทีเรานำมาใช้ ทั้งสองรู ปในความหมายเดียวกัน เช่น บาลี สั นสกฤต ไทย กณฺหา กฺฤษฺ ณา กัณหา,กฤษณา ขตฺติย กฺษตฺริย ขัตติยะ,กษัตริย์ ๕.คำภาษาบาลีสันสกฤตที่ออกเสียงสะดวกทั้งคู่ บางทีเรายืมมาใช้ทั้งสองรู ป แต่นำมาใช้ในความ หมายที่ต่างกัน เช่น บาลี สั นสกฤต ไทย ความหมาย กิริยา กฺริยา กิริยา อาการของคน กริยา ชนิ ดของคำ โทส เทฺวษ โทสะ ความโกรธ เทวษ ความเศร้าโศก ตัวอย่างคำยืมภาษาบาลี และภาษาสั นสกฤต กบาล กมล การณ์ คณะ คุณ จร จีวร ชฎา ชล ชัย ชีวะ ชีวิต เดช ทวาร ทายาท ธน ธานี ธูป นคร นารี นิ ล นิ ติ บรม บาท บาป พสุธา พาณิช พิฆาต พิรุ ธ เพดาน ภาชนะ ภาพ โภค มณี มรณะ รัตนะ รส ราชา รู ป โรค ลิขิต เลขา โลก โลภ วาจา วาตะ วาทะ วานร วารี วาสนา วิมล วิลาส วิหาร เวลา สมัย สมาธิ สาธารณะ สาโรช สุข หงส์ หิมะ เหตุ โหร อดีต อภัย อาฆาต อาวรณ์ อุดม อุทัย อุบาย อุปกรณ์ อุปมา ๓. ภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษสำห รับคนไทยมีบทบาทมากขึ้นควบคู่กับความเจริญก้าวหน้ าทาง เทคโนโลยี โดยมีหลักการยืมคำต่าง ๆ มาใช้ ดังนี้ ๑. เปลี่ยนเสียงภาษาอังกฤษที่ไม่มีใช้ในภาษาไทย ให้ออกเสียงสะดวกขึ้น เช่น sign เป็ น เซ็น ๒. ลากเข้าความเพื่อเปลี่ยนเสียงภาษาอังกฤษให้คุ้นหูคนไทย หรือแปลความหมาย ได้ด้วย เช่น coffee เป็ น กาแฟ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๑๐- ๓. ใช้ตามคำเดิมโดยไม่เปลี่ยนรู ปและเสียง เช่น fasion เป็ น แฟชั่น ๔. บัญญัติศั พท์โดยกำหนดคำภาษาไทยขึ้นใช้แทนคำภาษาอังกฤษ เช่น bank บัญญัติว่า ธนาคาร ๕. ตัดคำให้สั้นลงเพื่อสะดวกในการออกเสียง เช่น champion เป็ น แชมป์ ๖. เปลี่ยนความหมายของคำให้กว้าง แคบ หรือเปลี่ยนความหมายไป เช่น free ความหมายเดิม คือ อิสระ, ไม่ต้องเสียเงิน, ว่างจาก ไทยใช้หมายถึง สะดวก, ได้เปล่า ตัวอย่างคำยืม ภาษาอังกฤษ กราฟ การ์ตูน กิ๊บ กลูโคส กัปตัน แก๊ส กุ๊ก เกียร์ แก๊ง แกลลอน คริสต์มาส ไดนาโม ไดโนเสาร์ ครีม คลอรีน คอนกรีต คลินิ ก คอนเสิร์ต คอนโดมิเนี ยม คอมพิวเตอร์ คุกกี้ เคเบิล เครดิต เค้ก แคปซูล เคาน์ เตอร์ แคลอรี โควตา ชอล์ก ช็อกโกเลต เช็ค เชิ้ต เชียร์ โชว์ ซีเมนต์ เซลล์ ไซเรน ดีเซลดอลลาร์ ดีเปรสชั่น เต็นท์ เทนนิ ส ทอนซิล เทอม แท็กซี่ แทรกเตอร์ เทคโนโลยี นิ โคติน นิ วเคลียร์ นี ออน นิ วเคลียส โน้ ต ไนลอน บาสเกตบอล บล็อก เบนซิน แบคทีเรีย เบเกอรี ปลั๊ก ปิ กนิ ก เปอร์เซ็นต์ พลาสติก พีระมิด ฟิ ล์ม ฟลูออรีน แฟลต ฟอร์ มาลีน ฟั งก์ชัน ฟาร์ม ฟิ สิกส์ มอเตอร์ มัมมี่ มาเลเรีย โมเลกุล ไมล์ ไมโครโฟน ไมโครเวฟ ยิปซัม ยีน ยีราฟ ริบบิ้น เรดาร์ ลิกไนต์ ลิปสติก เลเซอร์ วัคซีน วิตามิน ไวโอลิน สไตล์ ไอศกรีม ๔. ภาษาจีน ภาษาจีนเข้ามีอิทธิพลกับภาษาไทยผ่านการเจริญสั มพันธไมตรีและการค้า โดยเฉพาะภาษาจีนแต้จิ๋วและภาษาจีนฮกเกี้ยน ภาษาจีนมีลักษณะคล้ายคลึงกับภาษาไทยมาก คือ เป็ นภาษาคำโดด มีเสียง วรรณยุกต์ เมื่อนำคำภาษาจีนมาใช้ในภาษาไทย ซึ่งมีวรรณยุกต์และสระประสมใช้ จึงทำให้สามารถออกเสียงวรรณยุกต์และสระตามภาษาจีนได้อย่างง่ายดาย คำภาษาจีน ยังมีคำที่บอกเพศในตัวเช่นเดียวกับภาษาไทยอีกด้วย เช่น เฮีย (พี่ชาย) ซ้อ (พี่สะใภ้) เจ๊ (พี่สาว) นอกจากนี้ การสะกดคำภาษาจีนในภาษาไทยยังใช้ตัวสะกดตรงตามมาตรา ตัวสะกดทั้ง ๘ มาตราและมีการใช้ทัณฑฆาตกำกับ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๑๑- หลักการสั งเกตคำ ที่มาจากภาษาจีน ๑. นำมาเป็ นชื่ออาหารการกิน เช่น ก๋วยเตี๋ยว เต้าทึง แป๊ ะซะ เฉาก๊วย จับฉ่าย เป็ นต้น ๒. เป็ นคำที่เกี่ยวกับสิ่ งของเครื่องใช้ที่เรารับมาจากชาวจีน เช่น ตะหลิว ตึก เก้าอี้ เก๋ง ฮวงซุ้ย เป็ นต้น ๓. เป็ นคำที่เกี่ยวกับการค้าและการจัดระบบทางการค้า เช่น เจ๋ง บ๋วย หุ้น ห้าง โสหุ้ย เป็ นต้น ๔. เป็ นคำที่ใช้วรรณยุกต์ตรี จัตวา เป็ นส่วนมาก เช่น ก๋วยจั๊บ กุ๊ย เก๊ เก๊ก ก๋ง ตุ๋น เป็ นต้น ตัวอย่างคำยืม ภาษาจีน กงสี กงฉิน กงไฉ่ กงเต็ก ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ เกาหลา กุ๊ย เก๊ เก๊ก เกี้ยว เกี๊ยว เกี๊ยะ กุยเฮง เก๊ก ก๋ง เก้าอี้ ขาก๊วย เข่ง จับกัง จับฉ่าย จับยี่กี จันอับ เจ๊ง เจี๋ยน เจ เฉาก๊วย เซ้ง เซียน แซ่ แซยิด เซ็งลี้ ซาลาเปา ซิ้ม ตะหลิว เต๋า ตุน ตุ๋น แต๊ะเอีย เต้าหู้ เต้าฮวย เต้าเจี้ยว โต๊ะ ไต้ก๋ง ตังเก บ๊วย บะฉ่อ บะหมี่ บู๊ ปุ้ งกี๋ ปอเปี๊ ยะ แป๊ ะเจี๊ยะ พะโล้ เย็นตาโฟ หวย ยี่ห้อ ลิ้นจี่ ห้าง หุ้น เอี๊ยม โสหุ้ย เฮงซวย ฮวงซุ้ย ฮ่องเต้ อั้งโล่ ๕. ภาษาชวา–มลายู ภาษาชวาเข้ามาในช่วงสมัยอยุธยาและเด่นชัดผ่านบทละครเรื่องดาหลัง (เจ้าฟ้ ากุณฑล) และอิเหนา (ฉบับเจ้าฟ้ ามงกุฎ และ ร.๒) ตามลำดับ ส่วนภาษา มลายูนั้ นเริ่มเผยแพร่เข้ามาทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภาษาชวา ปั จจุบันเรียกว่า ภาษาอินโดนี เซีย เป็ นภาษาตระกูลคำติดต่อ ตระกูล เดียวกับภาษามลายู ภาษาชวาที่ไทยยืมมาใช้ส่วนมากเป็ นภาษาเขียน ซึ่งรับมาจาก วรรณคดีเรื่อง ดาหลังและอิเหนาเป็ นส่วนใหญ่ ถ้อยคำภาษาเหล่านี้ ใช้สื่ อสารใน วรรณคดี และในบทร้อยกรองต่าง ๆ มากกว่าคำที่นำมาใช้สื่ อสารในชีวิตประจำวัน เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๑๒- ภาษามลายูหรือภาษามาเลย์ ปั จจุบันเรียกว่า ภาษามาเลเซีย เป็ นภาษาคำติดต่อ อยู่ในตระกูลภาษาชวา-มลายู คำส่วนใหญ่จะมีสองพยางค์และสามพยางค์เข้ามา ปะปนในภาษาไทยเพราะมีเขตแดนติดต่อกัน จึงติดต่อสัมพันธ์กัน ทั้งทางด้าน การค้าขาย ศาสนา วัฒนธรรม มาเป็ นเวลานาน โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา สงขลา ปั ตตานี นราธิวาส และสตูล ยังคงใช้ภาษามลายูสื่ อสารในชีวิต ประจำวันอยู่เป็ นจำนวนมาก ตัวอย่างคำภาษา ชวา-มลายูในภาษาไทย กะพง กระจูด กะลาสี กะลุมพี กำยาน กำปั่ น กระยาหงัน (สวรรค์) กรรไกร กะละปั งหา กระแชง จับปิ้ ง จำปาดะ ตลับ ทุเรียน บูดู ปาเต๊ะ มังคุด สละ สลัก สลาตัน สลัด สุจหนี่ โสร่ง หนั ง ยะลา เบตง น้ อยหน่ า กริช กิดาหยัน (มหาดเล็ก) กุหนุง (เขาสูง) กุญแจ การะบุหนิ ง (ดอกแก้ว) กระดังงา อิเหนา อังกะลุง อสัญแดหวา (เทวดา) ตุนาหงัน (คู่หมั้น) ยิหวา (ดวงใจ) บุหรง (นกยูง) บุหลัน (ดวงจันทร์) คำภาษาอื่น ๆ ที่มีใช้ในภาษาไทย ภาษาทมิฬ เช่น กะไหล่ กุลี กานพลู กำมะหยี่ จงกลนี ตรียัมปวาย ตะกั่ว ปะวะหล่ำ ยี่หร่า สาเก อาจาด กะละออม กะหรี่ (ชื่อแกงชนิ ดหนึ่ ง) ภาษาเปอร์เชีย เช่น กากี กาหลิบ กุหลาบ เกด (องุ่นแห้ง) เข้มขาบ (ชื่อผ้า) คาราวาน ชุกชี (ฐานพระประธาน) ตาด (ผ้าไหมปั กเงินหรือทองแล่ง) ตรา (เครื่องหมาย) ตราชู (เครื่องชั่ง) บัดกรี (เชื่อมโลหะ) ปสาน (ตลาด) ปั้ นหยา ฝรั่ง (คำเรียกชาวยุโรป) ราชาวดี (พลอยสีฟ้ า) สุหร่าย (คนโทน้ำคอแคบ) องุ่น สักหลาด ส่าน (ผ้าคลุมกายหรือหน้ า) เยียรบับ (ผ้าทอยก ดอกเงินหรือทอง) วิลาศ ภาษาญี่ปุ่ น เช่น กิโมโน เกอิชา คาราเต้ คามิคาเซ่ เคนโด้ ชินโต ซากุระ ซามูไร ซูโม่ ยูโด สาเก สุกียากี้เทมปุระ ฟูจิ ภาษาอาหรับ เช่น การบูร กะลาสี กั้นหยั่น กะไหล่ โกหร่าน ฝิ่ น อัตลัด อำพัน ภาษาฝรั่งเศส เช่น กงสุล กรัม กาแฟ กาเฟอีน กาสิโน ครัวซองต์ คูปอง ชีฟอง ปาร์เกต์ กิโยติน กิโลกรัม กิโลลิตร โก้เก๋ เชมเปญ โชเฟอร์ คูปอง เปตอง ปาร์เกต์ คาเฟ่ ครัวซองท์ บุฟเฟต์ มองสิเออร์ ภาษาโปรตุเกส เช่น สบู่ กัมปะโด ปิ่ นโต กะละแม กะละมัง จับปิ้ ง เลหลัง บาทหลวง ปั ง ปิ่ นโต เหรียญ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๑๓- กิจกรรมท้ายบทเรียน แบบฝึ กหัด ๑.๑ คำชี้แจง : จงทำเครื่องหมาย X ตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุด ๑. ข้อใดกล่าวถึงสาเหตุของการยืมคำภาษาต่างประเทศมาใช้ในภาษาไทยไม่ถูกต้อง ก. เนื่ องจากอาณาเขตทางภูมิศาสตร์อยู่ใกล้เคียงกัน จึงทำให้ได้มีการแลกเปลี่ยนทางภาษา ข. เนื่ องจากมีการติดต่อค้าขายระหว่างประเทศ จึงเป็ นเหตุให้มีการรับเอาคำศั พท์ที่เกี่ยวข้อง กับสินค้าต่าง ๆ เข้ามาใช้ ค. เนื่ องจากมีการรับเอาศาสนาและวัฒนธรรมของต่างชาติเข้ามา จึงมีส่วนช่วยให้ได้รับ คำศั พท์ของต่างชาติเข้ามาด้วย ง. เนื่ องจากภาษาต่างประเทศเป็ นภาษาที่สวยงามน่ าใช้ จึงมีการรับนำมาใช้ร่วมกับภาษาไทย เพื่อให้ภาษาไทยสวยงามยิ่งขึ้น ๒. อิทธิพลของภาษาต่างประเทศที่มีผลต่อภาษาไทยยกเว้นข้อใด ก. คำมีหลายพยางค์มากขึ้น ข. มีคำศั พท์ใช้มากขึ้น ค. มีคำควบกล้ำมากขึ้น ง. มีตัวสะกดตรงตามมาตรามากขึ้น ๓. ลักษณะของคำเขมรในภาษาไทยข้อใดถูกต้อง ก. ใช้ตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา ข. พยัญชนะไม่มีตัวควบกล้ำ ค. เป็ นคำที่ไม่ใช้อักษรนำ ง. นิ ยมเติมคำหน้ าหรือคำอุปสรรคลงหลังคำกริยาหรือคำวิเศษณ์ ๔. ข้อใดกล่าวถึงวิธีการนำคำเขมรมาใช้ในภาษาไทยได้ถูกต้อง ก. เลือกคำที่ออกเสียงได้สะดวกสอดคล้องกับภาษาไทยโดยต้องเปลี่ยนรู ปและเสียงของคำ ข. เปลี่ยนแปลงเสียงสระหรือพยัญชนะทั้งในด้านการออกเสียงและการสะกดคำ ค. ไม่เปลี่ยนแปลงความหมาย เพื่อคงความเป็ นภาษาเขมร ง. กำหนดขึ้นมาใหม่ให้แตกต่างจากความหมายเดิม ๕. ข้อใดต่อไปนี้ เป็ นคำเขมรทุกคำ ก. ฉลอง สนิ ม การะบุหนิ ง ข. เฉลียว ฉะเชิงเทรา บ้าน ค. กำเนิ ด กระโปรง บำเรอ ง. บรรทัด กระเพาะ ปิ่ นโต เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๑๔- ๖. ข้อใดต่อไปนี้ กล่าวถึงลักษณะของภาษาบาลีได้ถูกต้อง ก. มีสระ ๘ เสียง มีพยัญชนะ ๓๓ ตัว ไม่นิ ยมพยัญชนะควบกล้ำ ใช้ ฬ ข. มีสระ ๘ เสียง พยัญชนะ ๓๕ ตัว ไม่นิ ยมพยัญชนะควบกล้ำ ใช้ ฬ ค. มีสระ ๑๔ เสียง พยัญชนะ ๓๕ ตัว นิ ยมพยัญชนะควบกล้ำ ใช้ ฑ ง. มีสระ ๘ เสียง พยัญชนะ ๓๕ ตัว นิ ยมพยัญชนะควบกล้ำ ใช้ ฑ ๗. ข้อใดกล่าวถึงลักษณะภาษาสันสกฤตได้ไม่ถูกต้อง ก. ใช้ รร (รอหัน) ข. นิ ยมพยัญชนะควบกล้ำ ค. มีพยัญชนะ ๓๕ ตัว ง. ใช้ ฬ ๘. ข้อใดต่อไปนี้ เป็ นคำยืมภาษาบาลีและสันสกฤตทุกคำ ก. โลภ วาจา มณี มรณะ ข. รัตนะ กาหลา ดอกแก้ว กุญชร ค. อาวรณ์ ก๋วยเตี๋ยว ปิ่ นโต เวรกรรม ง. เก้าอี้ หมอน ม้านั่ ง ชิงช้า ๙. ข้อใดไม่ใช่หลักสำคัญของการยืมคำภาษาอังกฤษมาใช้ในภาษาไทย ก. เปลี่ยนเสียงภาษาอังกฤษที่ไม่มีใช้ในภาษาไทยให้ออกเสียงสะดวกขึ้น ข. ใช้ตามคำเดิมโดยไม่เปลี่ยนรู ปและเสียง ค. เพิ่มวรรณยุกต์เพื่อให้ออกเสียงสะดวกขึ้น ง. ตัดคำให้สั้นลงเพื่อสะดวกในการออกเสียง ๑๐.ข้อใดไม่ใช่คำยืมจากภาษาอังกฤษทุกคำ ก. พีระมิด ฟลูออรีน นิ วเคลียร์ ข. สไตล์ คอนเสิร์ต คุกกี้ ค. กากี กะลาสี กุหลาบ ง. ยีราฟ ริบบิ้น คลอรีน เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๑๕- แบบฝึ กหัด ๑.๒ คำชี้แจง : ให้นำคำในช่องว่างไปเติมในตารางให้ถูกต้อง กราฟ เบเกอรี่ พิรุ ธ เพดาน ฉลอง กระแส ฟิ สิกส์ ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ การะบุหนิ ง คาราเต้ กากี สบู่ ฝิ่ น สักหลาด หวย คอมพิวเตอร์ เฉาก๊วย บุหลัน บุฟเฟต์ สาเก กำมะหยี่ แชมเปญ ชินโต จงกลณี เบนซิน สาธารณะ ภาษาเขมร ภาษาบาลี สั นสกฤต ภาษา อังกฤษ ภาษาจีน ภาษา ชวา–มลายู ภาษาทมิฬ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๑๖- ภาษา เปอร์เซีย ภาษา ญี่ปุ่ น ภาษา อาหรับ ภาษา ฝรั่งเศส ภาษา โปรตุเกส เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๑๗- เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๑๘- เฉลยกิจกรรมท้ายบทเรียน แบบฝึ กหัด ๑.๑ ๑. ง ๒. ง ๓. ก ๔. ข ๕. ค ๖. ก ๗. ง ๘. ก ๙. ค ๑๐. ค แบบฝึ กหัด ๑.๒ ภาษาเขมร พิรุ ธ เพดาน ฉลอง กระแส ภาษาบาลีสันสกฤต สาธารณะ ภาษาอังกฤษ กราฟ เบเกอรี่ ฟิ สิกส์ คอมพิวเตอร์ เบนซิน ภาษาจีน ก๋วยเตี๋ยว หวย เฉาก๊วย ภาษาชวา-มายู การะบุหนิ ง บุหลัน ภาษาทมิฬ กำมะหยี่ จงกลณี ภาษาเปอร์เซีย กากี สักหลาด ภาษาญี่ปุ่ น คาราเต้ สาเก ชินโต ภาษาอาหรับ ฝิ่ น ภาษาฝรั่งเศส กาแฟ บุฟเฟต์ เชมเปญ ภาษาโปรตุเกส สบู่ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
บทที่ ๒ การวิเคราะห์ ประโยคซับซ้อน ประโยคสามัญที่ ซั บซ้ อน ประโยครวมที่ ซั บซ้ อน ประโยคซ้ อนที่ ซั บซ้ อน เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๒๐- ประโยคซั บซ้ อน ประโยคซับซ้อน คือ ประโยคที่มีรู ปประโยคซับซ้อน เนื่ องจากมีการขยายความ หลายจุดในประโยค โดยสามารถแบ่งได้เป็ น ๓ รู ปแบบ คือ ๑. ประโยคสามัญที่ซับซ้อน ๒. ประโยครวมที่ซับซ้อน ๓. ประโยคซ้อนที่ซับซ้อน ประโยคซับซ้อนเกิดจากประโยคที่แบ่งเป็ น ประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซ้อน จากประโยคทั้ง ๓ นี้ เพิ่มคำขยายหรือข้อความขยาย การรวมประโยค ดังกล่าวเข้าด้วยกันทำให้กลายเป็ นประโยคซับซ้อนขึ้น และทำให้สามารถสื่ อสารชัดเจน และสละสลวย เพิ่มข้อความขยายโดยมีหลักสำคัญ ดังนี้ ๑. ตำแหน่ งคำขยายในประโยค การขยายความในประโยคภาษาไทยนั้ น ส่วนขยายจะอยู่ด้านหลังข้อความ ที่จะไปขยาย เช่น “ตำรวจจำนวนห้านายประจำสถานี ตำรวจนครเชียงใหม่จับผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ ที่ทางการเคยทราบเบาะแสมาก่อนได้เมื่อเช้าตอนสายวันอาทิตย์ที่ ๒๑ เดือนนี้ เอง” ประโยคนี้ ประธาน คือ ตำรวจ ส่วนขยาย คือ จำนวนห้านายประจำสถานี นครเชียงใหม่ ตัวแสดงหรือคำกริยา คือ จับ ส่วนขยาย คือ ได้เมื่อเช้าตอนสายวันอาทิตย์ที่ ๒๑ เดือน นี้ เอง กรรม คือ ผู้ค้ายาบ้า ส่วนขยายกรรม คือ รายใหญ่ที่ทางการเคยทราบเบาะแส มีข้อสังเกตอย่างหนึ่ ง คือ ส่วนขยายกริยาที่บอกช่วงเวลา สามารถนำไปเรียงหน้ า ประธานในประโยคได้ด้วยประโยคข้างต้นนี้ เปลี่ยนแปลงได้ คือ “เมื่อตอนสายวันอาทิตย์ที่ ๒๑ เดือนนี้ เอง ตำรวจจำนวนห้านายประจำสถานี ตำรวจ นครเชียงใหม่ จับผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ที่ทางการทราบเบาะแสมาก่อน” ๒. ข้อระมัดระวังการวางคำขยาย การเรียงคำขยายเพื่อไม่ให้ความกำกวม หรือความคลาดเคลื่อน เพื่อสื่ อสารได้ชัดเจน ควรให้คำขยายอยู่ใกล้กับคำที่จะไปขยาย ถ้าไม่เป็ นเช่นนี้ แล้วจะมีผลดังกล่าว เช่น “ผู้หญิงที่อุ้มลูกหมาหน้ าตาคล้ายคุณพึ่งเดินออกไปเมื่อครู่นี้ เอง” ควรแก้เป็ น “ผู้หญิงหน้ าตาคล้ายคุณที่อุ้มลูกหมาเพิ่งเดินออกไปเมื่อครู่นี้ เอง” เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๒๑- ประโยคสามัญที่ ซั บซ้ อน ประโยคสามัญที่ ซั บซ้ อนสามารถทำได้ ดั งนี้ ๑. ความซับซ้อนในภาคประธาน ตัวประธานมีส่วนขยายที่เป็ นคำและกลุ่มคำ ทำให้ ประโยคสามัญมีข้อความซั บซ้ อนขึ้น - ประธานที่เป็ นตัวเอน เป็ นคำนำหน้ าด้วย “การ” หรือ “ความ” หรือคำอาการนาม ตามด้วยส่วนขยาย เช่น “การเฝ้ าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มดาวยามค่ำคืนทำให้พบดาวดวงใหม่” “ความขยันหมั่นเพียรอย่างยิ่งยวดเป็ นผลให้ถึงจุดหมายปลายทาง” - ประธานที่เป็ นตัวเอน มีคำและกลุ่มคำขยายประธาน ทำให้ความซับซ้อนเพิ่มขึ้น เช่น “บ้านพักคนงานบริษัทหลังใหม่บนเนิ นเขาสร้างเสร็จแล้ว” “รถเมล์สาย ๔๐ คันสีแดงเข้มคาดสีเหลืองวิ่งเร็วมาก” ๒. ความซับซ้อนในภาคแสดง - มีคำกริยาเป็ นกลุ่มคำหลายคำ เช่น “คนป่ ากลุ่มนั้ นต่างกระโดดโลดเต้นร่ายรำและร้องเพลงไปตามจังหวะกลอง” - มีคำกริยาเป็ นส่วนขยายอยู่หลายแห่งในประโยค เช่น “เขาพยายามพายเรือลำเล็ก ๆ มาทางริมสระน้ำโดยไม่รีบร้อนนั ก” ข้อควรระมัดระวังประการหนึ่ ง ในประโยคมีประธานอย่างเดียว แต่คำกริยาประกอบ หลายอย่างต้องใช้วิภาคสรรพนาม คือ คำว่า “บ้าง” หรือ “บาง” มาช่วย เช่น “ผู้โดยสารเข้าคิวกันซื้อตั๋วออกันขึ้นรถมองหาผู้นั ดหมายและซื้อของฝากญาติมิตร” ควรแก้เป็ น “ผู้โดยสารเข้าคิวกันซื้อตั๋ว บ้างออกันขึ้นรถ บ้างมองหาคู่นั ดหมาย และบ้างซื้อ ของฝากญาติมิตร” วิภาคสรรพนาม คือ “บ้าง” หมายถึง ผู้โดยสารนั่ นเอง และทำหน้ าที่เป็ นประธานใน ประโยคสั้นๆ ดังกล่าว ประโยครวมที่ ซั บซ้ อน ประโยครวมที่ซับซ้อน คือ ประโยครวมที่มีส่วนขยายเพิ่มขึ้นเนื่ องจากมีประโยครวมซ้อน กันหลายชั้น เช่น “ปรีชาไม่ชอบเล่นฟุตบอลแต่เขาชอบพนั นฟุตบอล ดังนั้ นเขามีปั ญหาเรื่องการเงินและใน ที่สุดปรีชาหยุดการเรียนไปอย่างน่ าเสียดาย” จากตัวอย่างดังกล่าว “ดังนั้ น” เป็ นคำสันธานเชื่อมประโยคความรวมทั้ง ๒ คู่เข้าด้วยกัน เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๒๒- “บุญยืนเป็ นเด็กกำพร้าพ่อแม่ ฉันจึงรับเขามาเลี้ยงดูด้วยความรักและส่งบุญยืนเรียนหนั งสือ แต่ภายหลังเด็กคนนี้ ขาดความเชื่อฟั งฉันและไปคบเพื่อนที่เลว ดังนั้ นเขาจึงติดยาเสพติดไป เมื่อเร็วๆ นี้ เอง” จากตัวอย่างดังกล่าว “แต่” เป็ นคำสันธานเชื่อมประโยคความรวมทั้งหมดประโยคซ้อน ที่ ซั บซ้ อน ประโยคซ้ อนที่ ซั บซ้ อน ประโยคซ้อนที่ซับซ้อน คือ ประโยคความซ้อนที่มีประโยคย่อยมากกว่าหนึ่ ง ประโยค โดยประโยคย่อยอาจเป็ นนามานุประโยค คุณานุประโยค หรือวิเศษณานุ ประโยคก็ได้ - ประโยคซ้อนที่ซับซ้อน แบบที่รวมประโยคซ้อนเข้าด้วยกัน เช่น “ประเสริฐเดินทางไปสงขลาโดยรถด่วนสายใต้ขบวนยาวเหยียด เพราะช่วงนั้ นเป็ น เทศกาลสงกรานต์ที่ทุกคนพากันเดินทางท่องเที่ยว” จากตัวอย่างดังกล่าว “เพราะ” เป็ นคำสันธานเชื่อมระหว่างประโยคซ้อนเข้าด้วยกัน - ประโยคซ้อนที่ซับซ้อน แบบที่ประกอบด้วย ประโยคสามัญและประโยคซ้อน เช่น “พระราชาองค์นี้ ทรงทศพิธราชธรรมดียิ่ง ดังนั้ นราษฎรจึงรักพระองค์จนพวกเขา สละชีพเพื่อพระองค์ได้” จากตัวอย่างดังกล่าว ประโยคสามัญ คือ “พระราชาองค์นี้ ทรงทศพิธราชธรรมดียิ่ง” ประโยคซ้อน คือ “ราษฎรจึงรักพระองค์จนพวกเขาสละชีพเพื่อพระองค์” โดยมีคำเชื่อมระหว่างประโยคสามัญและประโยคซ้อนคือ “ดังนั้ น” เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย เพลงประจำบท เพลง การวิเคราะห์ประโยคซับซ้อน Youtube : Nishar Thara
-๒๓- กิจกรรมท้ายบทเรียน แบบฝึ กหัด ๒.๑ คำชี้แจง : จงทำเครื่องหมาย X ตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุด ๑. ประโยคซับซ้อนหมายถึงข้อใด ก. ประโยคที่มีรู ปประโยคความเดียว ข. ประโยคที่มีรู ปประโยคซับซ้อน ค. ประโยคที่มีรู ปประโยคความรวม ง. ประโยคที่มีรู ปประโยคความซ้อน ๒. ประโยคซับซ้อนเกิดจากประโยคใดบ้าง ก. ประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซ้อน ข. ประโยคสามัญ ประโยครวม ค. ประโยครวม ประโยคซ้อน ง. ประโยคซ้อน ประโยคสามัญ และประโยคปฏิเสธ ๓. การเพิ่มคำขยายหรือข้อความขยายมีหลักสำคัญใดบ้าง ก. ลักษณะของคำขยายหรือข้อความ และ ตำแหน่ งคำขยายหรือข้อความ ข. ชนิ ดของคำขยายหรือข้อความขยาย และ การวางคำ ค. ตำแหน่ งคำขยายหรือข้อความ และ การวางคำ ง. ลักษณะของคำขยายหรือข้อความขยายและการวางคำ ๔. ประโยคสามัญซ้ำซ้อนสามารถทำได้ยกเว้นข้อใด ก. ประโยคสามัญซ้ำซ้อนในภาคประธานที่ประธานมีส่วนขยายเป็ นคำและกลุ่มคำ ข. ประโยคซ้ำซ้อนในภาคแสดงที่มีคำกริยาเป็ นกลุ่มคำหรือหลายคำ ค. ประโยคสามัญซ้ำซ้อนในภาคแสดงที่สวนกริยาขยายอยู่หลายแห่งในประโยค ง. ประโยคสามัญซ้ำซ้อนในภาคประธานที่ไม่มีกลุ่มคำขยายประธาน ๕. ประโยครวมที่ซับซ้อนหมายถึงข้อใด ก. เป็ นประโยคที่มีส่วนขยายเพิ่มขึ้นเนื่ องจากมีประโยครวมซ้อนกันหลายชั้น ข. เป็ นประโยคที่ไม่มีส่วนขยายเพิ่มพืชเนื่ องจากเป็ นประโยคที่สมบูรณ์แล้ว ค. เป็ นประโยคที่มีคำกริยาเพิ่มขึ้นเป็ นส่วนขยายของประโยค ง. เป็ นประโยคที่ไม่มีคำกริยาเป็ นส่วนขยาย ๖. ประโยคซ้อนที่ซับซ้อนหมายถึงข้อใด ก. เป็ นประโยคซ้อนที่มีประโยคยาว ๆ หลายประโยคมารวมกัน ข. เป็ นประโยคความซ้อนที่มีคำกริยามากกว่าหนึ่ งคำ ค. เป็ นประโยคที่มีประโยคย่อยมากกว่าหนึ่ งประโยคมารวมกัน ง. เป็ นประโยคที่มีประโยคย่อยเป็ นมานานุประโยคอย่างเดียว เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๒๔- ๗. ลักษณะเด่นของประโยคคำซ้อนคือข้อใด ก. มีคำกริยามากกว่าหนึ่ งคำ ข. มีคำสันธานเชื่อมระหว่างประโยค ค. มีประโยคความรวมรวมกันสองประโยค ง. มีประโยคความซ้อนรวมกันสองประโยค ๘. ข้อใดไม่เป็ นประโยคความเดียวที่ซับซ้อน ก. น้ องของเพื่อนของพี่ฉันเห็นมากับตาของเขา ข. รถยนต์ที่มีสีแดงคันใหม่นั้ นชนหญิงชราตาย ค. การส่งออกสินค้าประเภทไม้สักของไทยระยะนี้ กำลังทำรายได้แก่ประเทศชาติ ง. แม่กำลังไปตลาดโต้รุ่ง ๙. ข้อใดเป็ นประโยคความรวมที่ซับซ้อน ก. อ้อยทำการบ้านและร้องเพลงเบา ๆ ข. ครู สุเทพพูดเสียงดังลั่นจนนั กเรียนหนวกหู ค. การออกกำลังกายมิได้ให้ประโยชน์ เฉพาะด้านร่างกายเท่านั้ น แต่ยังเป็ นยาขนานพิเศษ สำหรับจิตใจอีกด้วย ง. อนงค์นั่ งวาดรู ปริมหน้ าต่าง ๑๐.ข้อใดเป็ นประโยคความซ้อนที่ซับซ้อน ก. สุนั นท์เลี้ยงลูกฟุตบอลอย่างรวดเร็วเข้าไปในแดน ข. ข่าวแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าสินค้าเกษตรของไทยไม่เป็ นที่นิ ยมของต่าง ประเทศเพราะต่างประเทศเห็ นว่าสิ นค้าเกษตรของไทยไม่มีคุณภาพจึงไม่ยอมซื้ อ ง. โจรปิ ดถนนปล้นธนาคารและทำร้ายผู้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แบบฝึ กหัด ๒.๒ คำชี้แจง : ให้ทำประโยคต่อไปนี้ ให้เป็ นประโยคซับซ้อนยิ่งขึ้น ๑.ข้าวในนากำลังสุ ก ......................................................................................................................................................................... ๒.เสื อดำทุ่งใหญ่นเรศวรถูกฆ่าตาย ......................................................................................................................................................................... ๓.พ่อหรือแม่ที่จะมารับลูกสาว ......................................................................................................................................................................... ๔.เสื้ อกันฝนขายดี เพราะเริ่มเข้าฤดูฝน ......................................................................................................................................................................... เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๒๕- ๕.ลูกสุนั ขวิ่งเล่น ......................................................................................................................................................................... ๖.โต๊ะล้ม ......................................................................................................................................................................... ๗.คุณครู ตรวจข้อสอบ ......................................................................................................................................................................... ๘.น้ องสาวไปเชียงใหม่หรือเชียงราย ......................................................................................................................................................................... ๙.พ่อทานข้าวเย็นแล้วก็ทานยาหลังอาหาร ......................................................................................................................................................................... ๑๐.เจ้าหน้ าที่อนุญาตให้ถ่ายภาพได้ ......................................................................................................................................................................... เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๒๖- เฉลยกิจกรรมท้ายบทเรียน แบบฝึ กหัด ๒.๑ ๑. ข ๒. ก ๓. ค ๔. ง ๕. ก ๖. ค ๗. ข ๘. ง ๙. ค ๑๐. ค แบบฝึ กหัด ๒.๒ แนวทางการตอบคำถาม มีตัวอย่างดังนี้ ๑.ข้าวพันธุ์ กข.๑ ปทุมธานี ในนาของคุณลุงข้างบ้านกำลังสุกสีเหลืองเต็มทุ่งนา ๒.เสือดำทุ่งนเรศวรตัวใหญ่ที่เพิ่งค้นพบเมื่อปี ที่แล้ว ถูกพรานป่ าฆ่าตายโดย ไม่ได้ตั้งใจ ๓.พ่อของนวลอนงค์หรือแม่ของน้ องปลายฟ้ า ที่จะมารับลูกสาวกับคุณครู ประจำชั้นมัธยมศึ กษาปี ที่ ๓/๓ ๔.เสื้อกันฝนที่ทำจากพลาสติกหนาสีลูกกวาดกำลังขายดีมาก เพราะเริ่มเข้าฤดู ฝนเร็วกว่าทุกปี ที่ผ่านมา ๕.ลูกสุนั ขพันธุ์บางแก้วสีน้ำตาลดำกำลังวิ่งเล่นอยู่กับเจ้าของอย่างสนุกสนาน ๖.โต๊ะไม้สี น้ำตาลตัวใหญ่ห้ องประชุ มของหมวดภาษาไทยล้มลงตั้งแต่เมื่อวาน ตอนเย็น ๗.คุณครู ผู้สอนประจำวิชาภาษาไทยชั้นม. ๓ กำลังตรวจข้อสอบวัดผลกลาง ภาคเรียนวิชาภาษาไทยอย่างขมักเขม้น ๘.น้ องสาวคนสุดท้องของศุภนั นท์ทาเจ้าของร้านขายขนมไทยในตลาดประจำ อำเภอ ไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงรายเมื่อวานนี้ ๙.พ่อของภรรยาพี่ชาย รับประทานข้าวเย็นที่ริมระเบียง แล้วก็รับประทาน หลังอาหาร ๑๐.เจ้าหน้ าที่ประจำห้องสมุดอนุญาตให้ถ่ายภาพภายในห้องหนั งสือได้ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
บทที่ ๓ ระดับภาษา เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๒๘- ระดับภาษา ระดับของภาษา หมายถึง ความลดหลั่นของถ้อยคำ และการเรียบเรียงถ้อยคำที่ใช้ โดยพิจารณาตามโอกาส หรือกาลเทศะ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เป็ นผู้สื่ อสาร ประเภทระดับภาษา ภาษาระดับพิธีการ ๑. เป็ นภาษาที่สมบูรณ์แบบ รู ปประโยค ตัวอย่าง ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ มีความประณีต งดงาม อาจใช้ประโยคที่ซับซ้อน และใช้คำ \"การแสดงมุทิตาจิตและอวยพร ระดั บสู ง ให้แก่ข้าพเจ้า เป็ นสมานฉันท์ เพิ่มความปี ติยินดีให้กับข้าพเจ้า\" ภาษาระดับพิธีการ จะใช้ในโอกาสสำคัญ ๆ เช่น การเปิ ดประชุมรัฐสภา การกล่าวรายงาน พิธีมอบปริญญาบัตรหรือประกาศนี ยบัตร วรรณกรรมชั้นสูง เป็ นต้น ๒. ตัวอย่าง ภาษาระดับทางการ \"การประชุ มวิชาการเรื่องโรคอ้วนครั้งนี้ ภาษาทางการ/ภาษาราชการ เป็ นภาษาที่ จัดขึ้น เนื่ องจากโรคอ้วนเป็ นปั ญหา มีแบบแผนในการใช้ รู ปประโยคถูกต้องตาม ทางสุ ขภาพที่ ทุกประเทศทั่ วโลกกำลัง หลักไวยากรณ์ เน้ นความชัดเจน ตรงประเด็น ประสบอยู่\" ภาษาระดับทางการ ใช้ในโอกาสสำคัญที่ เป็ นทางการ เช่น หนั งสือราชการ วิทยานิ พนธ์ รายงานทางวิชาการ การกล่าวปราศรัย การกล่าวเปิ ดงานสำคัญๆ เป็ นต้น เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๒๙- ภาษาระดับกึ่งทางการ ๓. คล้ายกับภาษาระดับทางการ แต่ลดความ ตัวอย่าง เป็ นการเป็ นงานลง โดยทั่วไปจะมีถ้อยคำสำนวน ที่ ทำให้ รู้สึ กคุ้นเคยมากกว่าภาษาระดับทางการ \"ไม่เคยแม้สั กครั้งที่ ไปถึงเมืองไหน เพื่อแสดงความใกล้ชิดระหว่างผู้สงสาร แล้ว จะไม่ได้ออกไปชมบรรยากาศ กับผู้ใช้สารให้กระชับมั่น ยามเช้าของเมืองนั้ น\" การใช้ภาษาระดับนี้ มักใช้ในการประชุม กลุ่มเล็ก การบรรยายในห้องเรียน ข่าว และ บทความในหนั งสือพิมพ์ ๔. ตัวอย่าง ภาษาระดับไม่เป็ นทางการ \"กวินเธอเป็ นคนน่ ารัก ใคร ๆ เป็ นภาษาที่ไม่เคร่งครัดตามแบบแผน ก็ต้องเอ็นดูเธอแน่ นอน \" เพื่อใช้ในการสื่ อสารทั่วไปในชีวิตประจำวัน หรือโอกาสทั่ว ๆ ไปที่ไม่เป็ นทางการ ใช้ในการสนทนาระหว่างบุคคลหรือกลุ่ม เล็กๆ ในสถานที่และโอกาสที่ไม่เป็ นการส่วนตัว เช่น ในการเขียนจดหมายระหว่างเพื่อน ภาษาที่ใช้อาจมีถ้อยคำที่เคยใช้กันเฉพาะกลุ่ม ๕. ตัวอย่าง ภาษาระดับกันเอง \" ชอบทำอะไรเฟอะฟะอยู่เรื่อย\" (เฟอะฟะ หมายถึง แสดงกริยา ภาษาปาก เป็ นภาษาพูดที่ใช้สนทนากับ บุคคลที่สนิ ทคุ้นเคย ใช้สถานที่ส่วนตัว หรือ ไม่น่ าดู) ในโอกาสที่ต้องการความสนุกสนานครื้นเครง ภาษาที่ใช้เป็ นภาษาพูดที่ไม่เคร่งครัด อาจมีคำตัด คำสแลง คำด่า คำหยาบ ปะปน โดยทั่วไปไม่นิ ยมใช้ในภาษาเขียน ยกเว้นงานเขียนบางประเภท เช่น เรื่องสั้น นวนิ ยาย ภาษาข่าวหนั งสือพิมพ์ ฯลฯ มีคำขานรับและคำลงท้าย = คะ ครับ สินะ เถอะ นิ ยมใช้คำอุทานเสริมบทในการพูด = อาบน้ำอาบท่า เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๓๐- ตารางสรุ ประดับภาษา เพลงประจำบท Youtube : Nishar Thara เพลง ระดับภาษา โอกาสและสถานที่ ลักษณะภาษาที่ใช้ ระดับภาษา การเปิ ดประชุมสภา มีลักษณะพิธีรีตอง การกล่าวรายงานในพิธีมอบ ภาษาไพเราะ สละสลวย ๑. พิธีการ ปริญญาบัตร การกล่าวเปิ ดงาน ๒. ทางการ และปิ ดงานพิธีการ ๓. กึ่งทางการ การอภิปราย หรือการประชุม ภาษาทางการ ถ้อยคำตรง รายงานวิชาการ ประกาศทางการ ไปตรงมา มีศั พท์เทคนิ ค ๔. ไม่เป็ นทางการ จดหมายราชการ จดหมายธุ รกิจ หรือศั พท์วิชาการบ้าง ๕. กันเอง การประชุ มกลุ่มย่อย มีถ้อยคำสำนวน การอภิปราย การเสวนา ที่ ทำให้ รู้สึ กคุ้นเคย การบรรยายในห้องเรียน มากกว่าภาษาระดับ ทางการ เพื่อแสดงความ ใกล้ชิดระหว่างผู้สงสาร การเขียนจดหมายระหว่างเพื่อน ใช้ ภาษาพู ดและสุ ภาพ บทความแสดงความคิดเห็นใน การสนทนาโต้ตอบไม่เกิน นิ ตยสาร หรือหนั งสือพิมพ์ ๕ คน ในสถานที่ไม่ใช่ รายการสาระบันเทิงทาง ส่ วนตัว โทรทัศน์ การปรึกษาหารือกัน การสนทนาเรื่องส่ วนตัว ใช้ในการพูดไม่นิ ยมบันทึก การทักทายระหว่างเพื่อนสนิ ท เป็ นลายลักษณ์อักษร อาจมีคำคะนอง หรือภาษาถิ่น เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๓๑- แบบฝึ กหัด ๓.๑ กิจกรรมท้ายบทเรียน คำชี้แจง : จงทำเครื่องหมาย X ตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุด ๑. ระดับภาษามีกี่ประเภท ๗. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับภาษาระดับ ไม่เป็ นทางการ ก. ๕ ประเภท ข. ๖ ประเภท ก. ภาษาที่ใช้เป็ นคำชี้แจงหรือเป็ นคำที่ ค. ๗ ประเภท ค. ๘ ประเภท เข้าใจความหมายตรงกันได้ในกลุ่มเท่านั้ น ๒. ภาษาที่ไม่เคร่งครัดตามแบบแผนคือระดับ ต้องไม่เป็ นคำหยาบคาย และไม่สุภาพ ภาษาใด ข. เป็ นภาษาที่พูดกับเพื่อนสนิ ท และเป็ นภาษาเฉพาะกลุ่มในท้องถิ่น ก. ระดับภาษากันเอง ค. เป็ นภาษาที่ใช้ในการบรรยายหรือ ข.ระดับภาษาพิธีการ อภิปรายอย่างเป็ นทางการในที่ประชุมใหญ่ ค. ระดับภาษาไม่เป็ นทางการ ง. นิ ยมใช้คำอุทานเสริมบทในการพูด ง.ภาษาระดับกึ่งทางการ ๘. การเปิ ดประชุมรัฐสภา เป็ นการใช้ภาษา ๓. “ภูมิแพ้อาหาร: ภัยเงียบที่ไม่ควรประมาท” ระดับใด จากบทความข้างต้นเป็ นการใช้ภาษาระดับใด ก. ระดับภาษาพิธีการ ก. ระดับภาษากันเอง ข. ภาษาระดับทางการ ข. ระดับภาษาไม่เป็ นทางการ ค.ระดับภาษาไม่เป็ นทางการ ง. ระดับภาษาพิธีการ ค. ระดับภาษากันเอง ๙. คำนำหนั งสือ เป็ นการใช้ภาษาระดับใด ก. ระดับภาษากันเอง ง. ภาษาระดับทางการ ข. ภาษาระดับทางการ ๔. “เกรดเทอมนี้ พวกเราจะตุ้บไหมนะ” ค.ระดับภาษาไม่เป็ นทางการ ก. ระดับภาษาพิธีการ ง. ระดับภาษาพิธีการ ๑๐. “คนไทยขาดความมั่นใจและศรัทธาใน ข. ระดับภาษาไม่เป็ นทางการ ความกล้าหาญของนายก” จากบทความดังกล่าว เป็ นการใช้ภาษาระดับใด ค. ระดับภาษากันเอง ก. ระดับภาษากันเอง ข. ภาษากึ่งทางการ ง. ภาษาระดับทางการ ค. ระดับภาษาไม่เป็ นทางการ ๕. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับระดับภาษา ง. ระดับภาษาพิธีการ พิธีการ ก. ผู้ส่งสารต้องเป็ นบุคคลสำคัญหรือตำแหน่ ง สู งในวงการ ข. การกล่าวรายงานในพิธีมอบปริญญาบัตร ค. ใช้ภาษาพูด อาจมีคำคะนอง ง. มีความประณีตงดงาม อาจใช้ประโยค ที่ซับซ้อน และใช้คำระดับสูง ๖. ข้อใดเป็ นการแสดงถึงระดับภาษากึ่ง ทางการ ก. ไม่เคยแม้สักครั้งที่ไปถึงเมืองไหนแล้ว จะไม่ได้ออกไปชมบรรยากาศยามเช้าของ เมืองนั้ น ข. กวินเธอเป็ นคนซื่อสัตย์ใคร ๆ ก็ปลื้มเธอ ในเรื่องนี้ ค. ความตั้งใจในการเดินทางของผมครั้งนี้ ขึ้นอยู่ที่ การหาเส้ นทางซอกแซก ง. การแสดงมุทิตาจิตและอวยพรให้แก่ ข้าพเจ้าเป็ นสมานฉันท์เพิ่มความปี ติยินดี ให้กับข้าพเจ้า เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๓๒- แบบฝึ กหัด ๓.๒ คำชี้แจง : จงพิจารณาระดับภาษาที่กำหนดให้ โดยเลือกตอบระดับภาษา ที่มีความสอดคล้องกัน แล้วเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ก. ภาษาระดับพิธีการ ข. ภาษาระดับทางการ ค. ภาษาระดับกึ่งทางการ ง. ภาษาระดับไม่เป็ นทางการ จ. ภาษาระดับกันเอง ............ ๑. มีลักษณะพิธีรีตอง ภาษาไพเราะ สละสลวย ............. ๒. ภาษาที่ใช้เป็ นภาษาพูดที่ไม่เคร่งครัด อาจมีคำคะนอง หรือภาษาถิ่นในวงจำกัด ............ ๓. การเปิ ดประชุม กล่าวรายงาน การกล่าวสุนทรพจน์ ............ ๔. การสนทนาเรื่องส่วนตัว การทักทายระหว่างเพื่อนสนิ ท ............ ๕ การบรรยายในห้องเรียน ............ ๖. รายการสาระบันเทิงทางโทรทัศน์ บทความแสดงความคิดเห็น ในนิ ตยสาร ............ ๗. หนั งสือราชการ รายงานทางวิชาการ ............ ๘. งานราชพิธี วรรณกรรมชั้นสูง ............. ๙. บทความแสดงความคิดเห็น ............. ๑๐. วิทยานิ พนธ์ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๓๓- แบบฝึ กหัด ๓.๓ คำชี้แจง : จงพิจารณาบทความที่กำหนดให้ แล้วตอบคำถามให้ถูกต้อง ๑. บทความต่อไปนี้ เป็ นการใช้ภาษาระดับใด “...ขอพระบรมเดชานุภาพมหึมาแห่งสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราช จงคุ้มครองประเทศชาติ และประชาชาวไทย ให้ผ่านพ้นสรรพอุปั ทวพิบัติทั้งปวง อริราชศั ตรู ภายนอกอย่าล่วงเข้าทำอันตรายได้ ศั ตรู หมู่พาลภายในให้ วอดวายพ่ายแพ้ภัยตัว บันดาลความสุขความมั่นคงให้บังเกิดทั่วภูมิมณฑล บันดาลความร่มเย็นแก่อเนกนิ กรชนครบคามเขตขอบขัณฑสีมา...” ๒. บทความต่อไปนี้ เป็ นการใช้ภาษาระดับใด “เธอพูดอะไรของเธอเนี่ ย ฉันไม่รู้เรื่องที่เธอพูดเลยนะ” ๓. จงยกตัวอย่างบทความที่ใช้ภาษาระดับทางการ ๔. จงยกตัวอย่างบทความที่ใช้ภาษาระดับกึ่งทางการ ๕. จงยกตัวอย่างบทความที่ใช้ภาษาระดับไม่เป็ นทางการ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๓๔- เฉลยกิจกรรมท้ายบทเรียน แบบฝึ กหัด ๓.๑ ๑. ก. ๒. ค. ๓. ง ๔. ค ๕. ค ๖. ก ๗. ก ๘. ง ๙. ข ๑๐. ข แบบฝึ กหัด ๓.๒ ๑. ก ๒. จ ๓. ก ๔. จ ๕. ค ๖. ง ๗. ข ๘. ก ๙. ง ๑๐. ข แบบฝึ กหัด ๓.๓ ๑. แนวคำตอบ ระดับภาษาพิธีการ ๒. แนวคำตอบ ระดับภาษากันเอง ๓. แนวคำตอบ การประชุมวิชาการเรื่องโรคอ้วนครั้งนี้ จัดขึ้น เนื่ องจากโรค อ้วนเป็ นปั ญหาทางสุขภาพที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังประสบอยู่ ๔. แนวคำตอบ ไม่เคยแม้สักครั้งที่ไปถึงเมืองไหนแล้ว จะไม่ได้ออกไปชม บรรยากาศยามเช้าของเมืองนั้ น ๕. แนวคำตอบ ความตั้งใจในการเดินทางของผมครั้งนี้ ขึ้นอยู่ที่การหาเส้น ทางซอกแซก ไปที่น้ำตกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
บทที่ ๔ การใช้คำทับศัพท์ และศัพท์บัญญัติ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๓๖- การใช้คำทับศั พท์ และศั พท์บัญญัติ ไทยมีความสัมพันธ์กับต่างชาติ จากการติดต่อทำการค้า การทูต การสอนศาสนา ศิ ลปวัฒนธรรมมาช้านาน จึงมีการยืมคำภาษาต่างประเทศมาใช้ อาจด้วยวิธีการทับศั พท์ หรือสร้างคำศั พท์ใหม่ขึ้นมาใช้ ทั้งในวงวิชาการและทั่วไป การศึ กษาเรื่องการใช้คำใน ภาษาไทย จะช่วยให้สามารถใช้คำทับศั พท์และศั พท์บัญญัติต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง การยืมคำภาษาต่างประเทศมาใช้ในภาษาไทยมี ๒ วิธีคือ ใช้คำในภาษานั้ น ๆ เรียกว่า “คำทับศั พท์” และการบัญญัติศั พท์ขึ้นใหม่ เรียกว่า “ศั พท์บัญญัติ” คำทับศั พท์ คำที่ถ่ายเสียงมาจากรู ปคำในภาษาอื่น และนำมา เขียนในรู ปแบบของภาษาไทย เพื่อให้คนที่ใช้ภาษา สามารถออกเสี ยงได้ อย่างถูกต้อง หลักการทับศั พท์ ตัวอย่าง 1. ถอดอักษรในภาษาเดิมพอควร Clinic ทับศั พท์เป็ น คลินิ ก แก่การแสดงที่มาของรู ปศั พท์ Computer ทับศั พท์เป็ น คอมพิวเตอร์ Free ทับศั พท์เป็ น ฟรี 2. เขียนในรู ปที่อ่านได้สะดวกใน TV (television) ทับศั พท์เป็ น ทีวี ภาษาไทย Print ทับศั พท์เป็ น พรินต์ Wasabi ทับศั พท์เป็ น วาซาบิ 3. คำทับศั พท์ที่ใช้มานานให้ใช้แบบ เดิม เช่น เชิ้ต ก๊าซ แก๊ส เป็ นต้น 4. ถ้าตัว T อยู่หน้ าคำแทน ตัว “ท” ถ้าตัว T อยู่ท้ายคำแทน ตัว “ต” 5. ถ้าตัว P อยู่หน้ าคำแทน ตัว “พ” ถ้าตัว P อยู่ท้ายคำแทน ตัว “ป” เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
ศั พท์บัญญัติ -๓๗- คำที่บัญญัติขึ้นใหม่ในภาษาไทย โดยราชบัณฑิตยสถาน เป็ นผู้รับรอง เพื่อรองรับศั พท์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นตามเทคโนโลยี และความก้าวหน้ าด้านต่าง ๆ ของโลก ซึ่งมักจะเป็ นคำที่มาจาก ภาษาต่างประเทศ เป็ นคำที่บัญญัติขึ้นเพื่อใช้แทนคำต่างประเทศ หลักการบัญญัติศั พท์ขึ้นใหม่มี ๒ ประการ ๑. สร้างคำขึ้นมาใหม่ ใช้การแปลความหมายจากศั พท์เดิม หรือหาคำใหม่มาแทน ตัวอย่าง ๒. ถ้าหาคำไทยที่เหมาะสมไม่ได้ ก็สร้างคำใหม่โดยใช้คำภาษาบาลีและ Frost ศั พท์บัญญัติคือ น้ำค้างแข็ง สันสกฤต บางคำอาจใช้วิธีผูกคำแบบ คำสมาสก็ได้ ซึ่งต้องเป็ นคำที่มีใช้ Boy scout ศั พท์บัญญัติคือ ลูกเสือ มาก่อน และสามารถออกเสียงได้ง่าย Acid rain ศั พท์บัญญัติคือ ฝนกรด VDO ศั พท์บัญญัติคือ วีดิทัศน์ ตัวอย่าง Network ศั พท์บัญญัติคือ เครือข่าย Theory ศั พท์บัญญัติคือ ทฤษฎี Submarine ศั พท์บัญญัติคือ เรือดำน้ำ Activity ศั พท์บัญญัติคือ กิจกรรม Acid rain ศั พท์บัญญัติคือ ฝนกรด Science ศั พท์บัญญัติคือ วิทยาศาสตร์ Radioactive ศั พท์บัญญัติคือ กัมมันตรังสี University ศั พท์บัญญัติคือ มหาวิทยาลัย TV เพลงประจำบท เพลง คำทับศั พท์และศั พท์บัญญัติ ศั พท์บัญญัติคือ โทรทัศน์ Youtube : Nishar Thara เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๓๘- กิจกรรมท้ายบทเรียน แบบฝึ กหัด ๔.๑ คำชี้แจง : จงตอบคำถามให้ถูกต้อง ๑. จงบอกความหมายของคำทับศั พท์ตามความเข้าใจของนั กเรียนพอสังเขป ๒. จงยกตัวอย่างคำทับศั พท์มา ๕ คำ ๓. มีหลักเกณฑ์การทับศั พท์อย่างไรบ้าง ๔. จงบอกความหมายของศั พท์บัญญัติตามความเข้าใจของนั กเรียนพอสังเขป ๕. จงยกตัวอย่างคำทับศั พท์บัญญัติมา ๕ คำ แบบฝึ กหัด ๔.๒ คำชี้แจง : จงเขียนคำทับศั พท์ในรู ปแบบคำภาษาไทยให้ถูกต้อง ๑. Application ทับศั พท์คือ .............. ๒. Chat ทับศั พท์คือ ........................ ๓. Clinic ทับศั พท์คือ ......................... ๔. Game ทับศั พท์คือ ....................... ๕. Like ทับศั พท์คือ ............................ ๖. Link ทับศั พท์คือ .......................... ๗. Lipstick ทับศั พท์คือ ..................... ๘. Notebook ทับศั พท์คือ ............... ๙. Percent ทับศั พท์คือ ..................... ๑๐. Quota ทับศั พท์คือ ..................... แบบฝึ กหัด ๔.๓ คำชี้แจง : จงเขียนศั พท์บัญญัติในภาษาไทยให้ถูกต้อง ๑. วีดิโอ บัญญัติเป็ น ......................... ๒. ทีวี บัญญัติเป็ น .............................. ๓. คอมพิวเตอร์ บัญญัติเป็ น ............ ๔. อพาร์ตเม้นต์ บัญญัติเป็ น ................ ๕. คีย์บอร์ด บัญญัติเป็ น .................. ๖. Telephone บัญญัติเป็ น ...................... ๗. Printer บัญญัติเป็ น ..................... ๘. Air-conditioner บัญญัติเป็ น ........... ๙. Science บัญญัติเป็ น ................... ๑๐. Network บัญญัติเป็ น .......................... เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๓๙- เฉลยกิจกรรมท้ายบทเรียน แบบฝึ กหัด ๔.๑ ๑. แนวคำตอบ คำที่ถ่ายเสียงมาจากรู ปคำในภาษาอื่น และนำมาเขียนในรู ป แบบของภาษาไทย ๒. แนวคำตอบ ๑. Link ทับศั พท์ คือ ลิงก์ ๒. Lipstick ทับศั พท์ คือ ลิปสติก ๓. Notebook ทับศั พท์ คือ โน้ ตบุ๊ก ๔. Percent ทับศั พท์ คือ เปอร์เซ็นต์ ๕. Quota ทับศั พท์ คือ โควตา (อาจารย์ผู้สอนเป็ นผู้ตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบ โดยพิจารณาถึงความ สมบูรณ์ของเนื้ อหาและภาษาที่ใช้เขียน) ๓. แนวคำตอบ ๑. ถอดอักษรในภาษาเดิมพอควรแก่การแสดงที่มาของรู ปศั พท์ ๒. เขียนในรู ปที่อ่านได้สะดวกในภาษาไทย ๓. คำทับศั พท์ที่ใช้มานานให้ใช้แบบเดิม เช่น เชิ้ต ก๊าซ แก๊ส ๔. ถ้าตัว T อยู่หน้ าคำแทน ตัว “ท” ถ้าตัว T อยู่ท้ายคำแทน ตัว “ต” ๕. ถ้าตัว P อยู่หน้ าคำแทน ตัว “พ” ถ้าตัว P อยู่ท้ายคำแทน ตัว “ป” ๔. แนวคำตอบ คำที่บัญญัติขึ้นใหม่ในภาษาไทย โดยราชบัณฑิตยสถานเป็ น ผู้รับรอง เป็ นคำที่บัญญัติขึ้นเพื่อใช้แทนคำต่างประเทศ ๕. แนวคำตอบ ๑. แฟลต, อพาร์ตเม้นต์ บัญญัติเป็ น ห้องชุด ๒. คีย์บอร์ด บัญญัติเป็ น แผงแป้ นอักขระ ๓. Telephone บัญญัติเป็ น โทรศั พท์ ๔. Printer บัญญัติเป็ น เครื่องพิมพ์ ๕. Air-conditioner บัญญัติเป็ น เครื่องปรับอากาศ (อาจารย์ผู้สอนเป็ นผู้ตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบ โดยพิจารณาถึง ความสมบูรณ์ของเนื้ อหาและภาษาที่ใช้เขียน) เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๔๐- แบบฝึ กหัด ๔.๒ ๑. Application ทับศั พท์คือ แอปพลิเคชัน ๒. Chat ทับศั พท์คือ แชต ๓. Clinic ทับศั พท์คือ คลินิ ก ๔. Game ทับศั พท์คือ เกม ๕. Like ทับศั พท์คือ ไลก์ ๖. Link ทับศั พท์คือ ลิงก์ ๗. Lipstick ทับศั พท์คือ ลิปสติก ๘. Notebook ทับศั พท์คือ โน้ ตบุ๊ก ๙. Percent ทับศั พท์คือ เปอร์เซ็นต์ ๑๐. Quota ทับศั พท์คือ โควตา แบบฝึ กหัด ๔.๓ ๑. วีดิโอ บัญญัติเป็ น วิดีทัศน์ ๒. ทีวี บัญญัติเป็ น โทรทัศน์ ๓. คอมพิวเตอร์ บัญญัติเป็ น คณิตกรณ์ ๔. อพาร์ตเม้นต์ บัญญัติเป็ น ห้องชุด ๕. คีย์บอร์ด บัญญัติเป็ น แผงแป้ นอักขระ ๖. Telephone บัญญัติเป็ น โทรศั พท์ ๗. Printer บัญญัติเป็ น เครื่องพิมพ์ ๘. Air-conditioner บัญญัติเป็ น เครื่องปรับอากาศ ๙. Science บัญญัติเป็ น วิทยาศาสตร์ ๑๐. Network บัญญัติเป็ น เครือข่าย เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
บทที่ ๕ คำศัพท์ทางวิชาการ และวิชาชีพ เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
-๔๒- คำศั พท์ทางวิชาการ และวิชาชีพ คำศั พท์ที่ใช้เฉพาะวงการวิชาการและวงการอาชีพ ส่วนมากจะพบในงานเขียน ทางวิชาการ เช่น ตำรา บทความ หนั งสืออ้างอิง หรือในการประชุมทางวิชาการ เช่น การอภิปราย การสัมมนา มักเป็ นคำที่ผู้ศึ กษาวิชาการนั้ น ๆ เข้าใจร่วมกันอย่างดี ส่วนผู้ที่ไม่ได้ศึ กษาอาจไม่เข้าใจ คำศั พท์ทางวิชาการ คำศั พท์ทางวิชาการ ศั พท์เฉพาะที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในศาสตร์ แขนงต่าง ๆ จำเป็ นต้องศึ กษาเรียนรู้เพื่อให้เข้าใจความหมาย เรียกสั้น ๆ ว่า ศั พท์วิชาการ ใช้ในทางวาทกรรมวิชาการ ลักษณะ มักเป็ นคำสำคัญ (Keyword) ของศั พท์วิชาการ มีทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน คำจำกัดความของศั พท์วิชาการ อาจแตกต่างกันตามบริบท สาขา ตัวอย่างศั พท์วิชาการ คำศั พท์ -เจตคติ (Attitude) = ท่าที ความรู้สึกนึ กคิด การศึ กษา -นิ ทรรศการ (Exhibtion) = การแสดงผลงาน สินค้า หรือผลิตภัณฑ์ให้คนทั่วไปชม -บุคลิกภาพ (Personality) = สภาพนิ สัยจำเพาะคน -ประสบการณ์ (Experience) = ความจัดเจนที่เกิดจากการกระทำหรือได้พบเห็นมา -อาจารย์ที่ปรึกษา (Adviser) = อาจารย์ผู้ให้ คำแนะนา หรือดูแลทางการศึ กษาแก่ นั กศึ กษา -วิชาชีพ = อาชีพที่ต้องอาศั ยวิชาความรู้ความชำนาญ -สารเสพติด = สารเคมีที่มีฤทธิ์เมื่อเสพเข้าร่างกายแล้ว ทำให้ผู้เสพเลิกไม่ได้ คำศั พท์ -ตัวประกอบ (Factor) = จำนวนที่คูณกันแล้ว ทำให้เกิดอีกจำนวนหนึ่ ง คณิ ตศาสตร์ เช่น ๒ x ๓ = ๖ จำนวน ๒ และ ๓ เป็ นตัวประกอบของ ๖ -มัธยฐาน (Median) = ค่าที่มีตำแหน่ งอยู่กึ่งกลางของข้อมูลทั้งหมด -สมมาตร (Symmetry) = ลักษณะรู ปร่างของวัตถุหรือรู ปภาพ เมื่อแบ่งเส้น หรือจุดอ้างอิง แล้วจะได้สองซีกซึ่งมีรู ปร่างเหมือนกันแต่กลับกัน - เศษส่วน ทศนิ ยม เซต ตรรกยะ อตรรกยะ จำนวนจริง จำนวนเต็ม แคลคูลัส ตรีโกณมิติ ฟั งก์ชัน พาราโบลา โคไซน์ ทฤษฎีบท เรขาคณิต องศา เพจบุฟเฟต์ภาษาไทย โดย ครูฝนและครูปอย
Search