Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สารสำนักทรัพย์สินมีค่าของเเผ่นดิน ฉบับที่ 36

สารสำนักทรัพย์สินมีค่าของเเผ่นดิน ฉบับที่ 36

Published by pipittanarak, 2020-03-13 02:30:03

Description: สารสำนักทรัพย์สินมีค่าของเเผ่นดิน ฉบับที่ 36

Search

Read the Text Version

เ ปิ ด ส า ร สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกับสารส�ำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินฉบับท่ี ๓๖ ประจ�ำเดือน เมษายน – กันยายน ๒๕๖๒ โดยฉบับนี้คณะผูจ้ ดั ทำ� จะขอน�ำพาท่านผ้อู า่ นร่วมย้อนประวัติศาสตร์พระราช พิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นโบราณราชประเพณีที่สืบทอดมายาวนานเพ่ือการเสด็จข้ึนครองราชย์โดยสมบูรณ์ ของพระมหากษัตริยไ์ ทย พร้อมสอดแทรกเร่ืองราวของเหรยี ญท่ีระลกึ พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยูห่ ัว จากนน้ั ชวนกนั ไปทพี่ พิ ธิ ภณั ฑเ์ หรยี ญกษาปณานรุ กั ษ์ เพอ่ื รว่ มกจิ กรรมเสวนาธนารกั ษ์ ภมู วิ ฒั นธรรม ชาวกรุง (รัตนโกสินทร์) ท่ีได้จัดข้ึนต่อเนื่องเป็นปีที่ ๒ แล้ว ในหัวข้อเสวนา “จากก�ำแพงเมือง - คูเมือง สู่ พระต�ำหนักปลายเนิน” โดยภายในงานได้มีกิจกรรมเสวนาเก่ียวกับอนาคตใหม่ของก�ำแพงเมือง - คูเมือง ซง่ึ เป็นท่ีราชพัสดุในความดูแลของกรมธนารักษ์ รวมถึงหัวข้อการอนุรักษ์พระต�ำหนักปลายเนินของสมเด็จ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ และก่อนจะจากกันคณะผู้จัดท�ำก็ยังไม่ลืมแนะน�ำ ผลิตภัณฑ์ใหม่ท่ีน่าสนใจของส�ำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน เพ่ือให้ท่านผู้อ่านได้เลือกซื้อหาเป็นของขวัญ ของฝากในเทศกาลส�ำคัญต่างๆ ปดิ ท้ายสารส�ำนกั ฯ ฉบบั น้ีกันอกี ดว้ ย คณะผู้จัดท�ำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสาระความรู้ ข่าวสาร และความบันเทิงต่างๆ ที่ได้คัดเลือกมานี้ จะเปน็ ประโยชนก์ บั นกั เรยี น นกั ศกึ ษา นกั สะสมเหรยี ญ และผทู้ สี่ นใจประวตั ศิ าสตรไ์ ทยไมม่ ากกน็ อ้ ย พรอ้ มจะ ออกเดนิ ทางกนั หรือยังคะ คณะผ้จู ัดท�ำ

สารบัญ วตั ถุประสงค์ เหรียญท่ีระลึกพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก รชั กาลท่ี ๕ ......................๔ เสวนาธนารักษ์ “ภูมิวฒั นธรรมชาวกรงุ (รัตนโกสินทร์) ปีท่ี ๒ n เผยแพรข่ ่าวสารความรู้ จากก�ำแพงเมอื งคเู มือง....สูพ่ ระตำ� หนกั ปลายเนิน..............................๑๐ ความคิดเหน็ และงานค้นควา้ ผลิตภณั ฑท์ น่ี ่าสนใจ................................................................................๑๕ เกี่ยวกับทรัพย์สินของแผ่นดิน กจิ กรรมขา่ วประชาสัมพันธ.์ ...................................................................๑๖ n เพ่ือเป็นสื่อกลางแลกเปล่ียน ความรู้ ความคดิ เหน็ ทางวชิ าการ ที่ปรกึ ษา ส�ำหรับนักวิชาการและผู้สนใจ ท่ัวไปเกี่ยวกบั ทรพั ยส์ นิ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ของแผน่ ดนิ ผู้เช่ียวชาญด้านอนุรักษ์ทรัพย์สิน n เพ่อื ส่งเสริมการสะสมเหรยี ญ ผู้เช่ียวชาญเฉพาะด้านนโยบายและแผน (งานภัณฑารักษ์) ผู้อ�ำนวยการส่วนอ�ำนวยการ คณะทำ� งานกองบรรณาธกิ าร ผู้อ�ำนวยการส่วนเก็บรักษาและอนุรักษ์ทรัพย์สิน ประกอบดว้ ย บรรณาธิการ ผู้อ�ำนวยการส่วนจัดการผลิตภัณฑ์ ผู้อ�ำนวยการส่วนบริหารเงินทุน ผู้อ�ำนวยการสว่ นเผยแพร่ ผู้อ�ำนวยการส่วนจัดแสดงทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ทรพั ย์สนิ มีค่าของแผ่นดิน ผู้อ�ำนวยการศาลาธนารักษ์ ๑ จังหวัดเชียงใหม่ ผู้อ�ำนวยการศาลาธนารักษ์ ๒ จังหวัดสงขลา ผชู้ ่วยบรรณาธกิ าร จัดท�ำโดย นายมานติ หละบลิ ลา ถสนำ� นนกั เจทา้ รฟัพ้าย์สแินขวมงคี ชา่ นขะอสงงแคผร่นาดมนิ เขกตรพมธระนนารคักรษก์ รุงเทพฯ ๑๐๒๐๐ นายช่างศิลปอ์ าวโุ ส นางสาวนุศรา ปานนาค Tel : ๐ ๒๒๘๒ ๐๒๓๖ นักวิชาการเผยแพร่ปฏบิ ตั ิการ Website : http://emuseum.treasury.go.th Facebook : พพิ ิธภณั ฑเ์ หรียญกษาปณานรุ ักษ์ และพพิ ิธบางลำ� ภู นายสัจจะ ปันแกว้ โดยกรมธนารกั ษ์ นายชา่ งศลิ ปป์ ฏบิ ตั ิงาน Instragram : BNT.MUSEUMS นายสถาปนา โอสถานนท์ Twitter : พพิ ธิ ธนารกั ษ์ เจ้าหน้าที่วิเทศสัมพันธ์ Youtube : พิพธิ ธนารักษ์ E-mail : [email protected] ออกแบบ พิมพท์ ่ี โทร. ๐ ๒๕๓๘ ๓๐๓๓ โทรสาร ๐ ๒๕๓๙ ๓๒๑๕ โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพรา้ ว ถนนลาดพร้าว แขวงสะพานสอง เขตวงั ทองหลาง กรงุ เทพฯ ๑๐๓๑๐

เหรียญทีร่ ะลกึ พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก รัชกาลท่ี ๕ นางสาวณฐั กิ านต์ จนั ตะ๊ ยอด* (ภณั ฑารักษ์ช�ำนาญการ) ส�ำนักทรัพยส์ นิ มีคา่ ของแผน่ ดิน พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพระราชพิธีส�ำคัญส�ำหรับประเทศท่ีมีพระมหากษัตริย์เป็นพระมุข ซง่ึ ไดร้ บั อทิ ธพิ ลมาจากคตคิ วามเชอื่ จากอนิ เดยี โบราณทผี่ นู้ ำ� หรอื พระมหากษตั รยิ ต์ อ้ งผา่ นพธิ กี ารทสี่ ำ� คญั เรยี กวา่ “พธิ รี าชสรู ยะ”๑ จงึ จะเปน็ พระมหากษตั รยิ โ์ ดยสมบรู ณ ์ ในประเทศไทยพธิ นี เ้ี รยี กชอื่ แตกตา่ งกนั ในแตล่ ะสมยั เช่น สมัยอยธุ ยา สมยั รตั นโกสินทรต์ อนต้น เรยี กวา่ “พระราชพธิ รี าชาภเิ ษก” หรือ “พธิ ีราชาภเิ ษก” ปัจจบุ นั เรยี กวา่ “พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก” ประเภทของพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก พระราชพิธบี รมราชาภิเษกมตี ้นเคา้ มาจากต�ำราปัญจราชาภิเษก กล่าวถงึ พธิ อี ภิเษกเปน็ พระราชา ว่า มอี ยู่ ๕ ประเภท ได้แก่ ๑. มงคลอินทราภิเษก คือ ผู้ท่ีปกครองแผ่นดินได้เข้าพิธีราชาภิเษกมีพระอินทร์น�ำเคร่ืองปัญจ กกธุ ภณั ฑม์ าถวาย โดยมพี ระบษุ ยพระพชิ ยั ราชรถกบั ฉตั รทพิ ยไ์ ดบ้ งั เกดิ ขน้ึ การมสี งิ่ มงคล ๓ ประการนี้ เรยี กวา่ อินทราภเิ ษก ๒. มงคลโภคาภเิ ษก คอื ผทู้ จี่ ะเขา้ พธิ รี าชาภเิ ษก มเี ชอื้ สายเปน็ ตระกลู พราหมณ์ ทเ่ี ปน็ มหาเศรษฐี มสี มบตั บิ ริวารมาก รู้จักราชธรรม ตราชูธรรม กับทศกศุ ล และร้จู กั แบง่ ปนั ดับรอนทุกข์ของราษฎร เรยี กวา่ โภคาภิเษก ๓. มงคลปราบดาภิเษก คอื ผู้ท่ีเข้าพิธรี าชาภเิ ษก มีเชือ้ สายตระกูลกษัตริยม์ อี ำ� นาจกล้าหาญใน การสงคราม ได้ราชฐานบ้านเมืองและราชสมบัติมชี ัยแก่ศัตรู เรยี กวา่ ปราบดาภิเษก ๔. มงคลราชาภเิ ษก คอื ผู้ท่ีจะเข้าพธิ ีราชาภเิ ษกขน้ึ เปน็ กษตั รยิ ด์ ้วยการไดร้ บั มอบราชสมบัตจิ าก พระราชบดิ าใหส้ บื พระวงศา เรียกวา่ ราชาภิเษก ๕. มงคลอภุ เิ ษก คอื ผทู้ เ่ี ปน็ เชอื้ สายกษตั รยิ ม์ พี ระราชบดิ าและพระราชมารดามชี าตติ ระกลู เสมอกนั ไดอ้ ภเิ ษกสมรสกบั ผมู้ ีเชอ้ื สายกษตั รยิ ์ แม้วา่ จะเป็นกษตั รยิ ์จากแดนไกล แต่มีลกั ษณะสขุ มุ ขตั ตยิ ชาตจิ ัดเป็น สวสั ดิชาติ เรยี กว่า อุภเิ ษก๒ ๑ พธิ ีบรมราชาภเิ ษกของอนิ เดียโบราณ ๒ สมชาย ณ นครพนม และคณะทำ� งาน กระทรวงวฒั นธรรม, ประมวลองค์ความร้พู ระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก, (กรุงเทพฯ: ร่งุ ศลิ ป์การพมิ พ์ (๑๙๗๗) จำ� กัด), ๒๕๖๒ หนา้ ๙. 4 สารส�ำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ฉบับท่ี ๓๖

ในประวตั ศิ าสตร์ไทยตั้งแตส่ มัยสโุ ขทยั เปน็ ตน้ มา จนถึงสมัยรัตนโกสนิ ทร์พระมหากษัตรยิ ์ของไทย ทรงประกอบพระราชพธิ รี าชาภิเษก และปราบดาภเิ ษกเทา่ นัน้ จากหลักฐานในสมัยสุโขทัยมีการกล่าวถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ปรากฏในหลักศิลาจารึกหลักที่ ๒ หรือศิลาจารึกวัดศรีชุม ด้านท่ี ๑ บรรทัดที่ ๓๑ และพระมหาธรรมราชา ที่ ๑ (ลิไท) ปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ ๔ ด้านท่ี ๑ บรรทัดท่ี ๑๒ ๓ ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาพบหลักฐาน เกย่ี วกบั พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก ในพงศาวดารกรงุ ศรอี ยธุ ยาเพยี ง ๑๔ พระองค์ คอื ขนุ วรวงศาธริ าช สมเดจ็ พระมหาจกั รพรรดิ สมเดจ็ พระมหาธรรมราชาธิราช สมเดจ็ พระเอกาทศรถ สมเด็จพระเชษฐาธริ าช สมเดจ็ พระอาทิตย์วงศ์ สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สมเด็จพระนารายณ์ สมเด็จพระเพทราชา สมเด็จพระท่ีน่ัง ทา้ ยสระ เจา้ ฟา้ อภยั สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั บรมโกศ สมเดจ็ พระเจา้ อทุ มุ พร และสมเดจ็ พระทน่ี ง่ั สรุ ยิ าศนอ์ มรนิ ทร์ ๔ ในสมยั กรงุ ธนบรุ ไี มม่ เี อกสารทบ่ี รรยายเกยี่ วกบั พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช มีเพยี งหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรบ์ างชน้ิ ท่ีแสดงถงึ ชว่ งเวลาท่ีพระองค์ทรงปราบดาภเิ ษก ในปี พ.ศ. ๒๓๑๑ เช่น จดหมายโหรในประชมุ พงศาวดาร ภาคที่ ๘ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยูห่ ัวในพระราชพธิ ี บรมราชาภเิ ษก พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้า เจ้าอยหู่ วั ในพระราชพิธี บรมราชาภิเษก คร้ังท่ี ๒ ทีม่ า: หนงั สือบรมราชาภิเษก กระทรวงวัฒนธรรม ๓ คณะกรรมการพจิ ารณาและจดั พมิ พเ์ อกสารทางประวตั ศิ าสตร์ สำ� นกั นายกรฐั มนตร,ี ประชมุ จารกึ ภาคที่ ๑, (กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ส�ำนกั เลขาธิการคณะรฐั มนตร,ี ๒๕๒๑), หนา้ ๓๘. ๔ ศราวฒุ ิ วชั ระปนั ต,ี พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกสมยั รตั นโกสนิ ทร,์ สารนพิ นธ์ หลกั สตู รปรญิ ญาศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ (ไทยศกึ ษา), ๒๕๔๙, หน้า ๒. 5ประจ�ำเดือน เมษายน - กันยายน ๒๕๖๒

การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ยึดถือแบบอย่างการ พระราชพิธีท่ีเคยได้กระท�ำกันมาแต่ครั้งสมัยอยุธยา เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รชั กาลที่ ๑ แหง่ ราชจกั รวี งศ์ ทรงกระทำ� พธิ ปี ราบดาภเิ ษกเมอ่ื พ.ศ. ๒๓๒๕ แลว้ จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหข้ า้ ราชการผรู้ แู้ บบราชประเพณคี รง้ั กรงุ เกา่ โดยมเี จา้ พระยาเพชรพชิ ยั เปน็ ประธาน ประชมุ ปรกึ ษาหารอื กบั สมเด็จพระสังฆราชและพระราชาคณะผใู้ หญ่ ท�ำการสอบสวนคน้ ควา้ คัมภรี แ์ ละแบบแผนพธิ บี รมราชาภเิ ษก และใน พ.ศ. ๒๓๒๘ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้มีการพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษกใหส้ มบูรณต์ ามแบบแผน อันได้เคยมีมาแต่เก่าก่อนอกี คร้ัง และเป็นแบบอยา่ งในการพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษกในรชั กาลตอ่ มา โดยใน สมัยกรงุ รัตนโกสินทรไ์ ดจ้ ดั พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษกมาแลว้ ทงั้ ส้ิน ๑๑ คร้ัง ประกอบด้วย พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ๒ ครั้ง พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั ๑ ครัง้ พระบาทสมเด็จพระน่ังเกลา้ เจา้ อยู่หัว ๑ คร้ัง พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั ๑ ครง้ั พระบาท สมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั ๒ ครง้ั พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อย่หู ัว ๒ คร้งั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจา้ อยูห่ ัว ๑ คร้ัง พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ล บรมนาถบพติ ร ๑ คร้งั เหรยี ญท่ีระลกึ พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก จ.ศ. ๑๒๓๕ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ มีการประกอบพระราชพิธี บรมราชาภิเษกขึ้น ๒ คร้ัง โดยทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกคร้ังแรก เมื่อวันท่ี ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๑๑ ขณะมพี ระชนมายเุ พยี ง ๑๕ พรรษา โดยในระยะเวลาดงั กลา่ วไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตง้ั สมเดจ็ เจา้ พระยาบรมมหาศรสี รุ ยิ วงศ์ (ชว่ ง บนุ นาค) เปน็ ผสู้ ำ� เรจ็ ราชการแทนพระองค์ ตอ่ มาในปี พ.ศ. ๒๔๑๖ เมอื่ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงมพี ระชนพรรษาครบ ๒๐ พรรษา จงึ ไดป้ ระกอบพระราชพธิ ี บรมราชาภเิ ษก ครงั้ ท่ี ๒ ขน้ึ เมอ่ื วนั ท่ี ๑๖ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๑๖ ในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกในครงั้ น้ี ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั สรา้ งเหรยี ญทร่ี ะลกึ เพอ่ื พระราชทานแกพ่ ระบรมวงศานวุ งศ์ คอื เหรยี ญทรี่ ะลกึ พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก สัญลักษณ์และลวดลายบนเหรียญท่ีระลกึ พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ เสวกเอก หม่อมเจ้า ประวชิ ชุมสาย (ตำ� แหน่งเสวกเอก ขนุ นางกระทรวงวงั เทียบเทา่ Master of the Household ของอังกฤษ) พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมสาย กรมขุนราชสีหวิกรม ผูกตราประจ�ำแผ่นดินข้ึนเป็น คร้ังแรกใน พ.ศ. ๒๔๑๖ โดยองิ กบั หลักการผกู ตราของทางยโุ รปท่เี รียกกันว่า Heraldry ๕ ๕ ตราแผ่นดินหรอื ตราอารม์ ถูกสร้างในตามหลัก Heraldry ซึ่งเป็นศาสตรใ์ นการสร้างและให้ความหมายตราอารม์ มาจาก ภาษาแองโกล-นอร์มัน คำ� ว่า “Herald” มรี ากมาจากภาษาเจอรม์ านิค “Harja-waldaz” ท่ีแปลว่า ผ้นู ำ� ทัพ หมอ่ มราชวงศ์คกึ ฤทธิ์ ปราโมช แปลคำ� ว่า “herald” ในหนังสือฝรง่ั ศักดนิ าวา่ “มทุ ราศาสตร”์ ซงึ่ ค�ำวา่ “มทุ รา” ใน ภาษาสันสกฤต แปลวา่ ทา่ ทางแสดงสญั ลกั ษณ์ เช่น เป็นปางตา่ ง ๆ ของพระพทุ ธรูป 6 สารส�ำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ฉบับท่ี ๓๖

ดŒานหนŒา เป็นอักษรพระปรมาภิไธย “จจจ” อยู่ในวงกรอบ ดา้ นหนา้ นอกวงกรอบมขี อ้ ความว่า “การบรมราชาภเิ ศก ในสมเด็จพระจุฬจอม เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ปรี กา เบญจศก ศกั ราช ๑๒๓๕” คา� วา่ “จจจ” ไดป้ รากฏ เป็นหลักฐาน หมายถึง “จุฬาลงกรณ์จุลจอมเกล้า” ซึ่งพบในพระราช บญั ญตั เิ ครื่องราชอิศริยยศจลุ จอมเกลา้ สา� หรับตระกูล ปรี ะกาเบญจศก จลุ ศกั ราช ๑๒๓๕ เกยี่ วกับเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณจ์ ลุ จอมเกล้าว่า “..แลมีดวงตราใหญ เปนรัศมีเงินแปดแฉก กลางตัวมี “จ.” ทองคาํ สามตัวไขวกนั คือ (จุฬาลงกรณจุลจอมเกลา ...) ๖ ดŒานหลัง เปน็ ตราแผน่ ดิน ออกแบบโดย เสวกเอก หมอ่ มเจ้า ดา้ นหลงั ประวิช ชุมสาย มีคาถาภาษามคธ (บาลี) จารึกบนแพรแถบด้วย เหรยี ญที่ระลึกพระราชพธิ ี อักษรไทย เปน็ ขอ้ ความว่า “สพฺเพส � สงฆฺ ภูตาน � สามคฺค ี วุฑฺฒิสาธิกา” บรมราชาภเิ ษก จ.ศ. ๑๒๓๕ แปลว่า “ความพร้อมเพรียงของบุคคลทั้งปวงผู้อยู่เป็นหมวดหมู่กัน ยอ่ มเป็นเครื่องทา� ความเจริญใหส้ า� เร็จ” เหรียญท่ีระลึกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจัดสร้างขึ้น ในปี จ.ศ. ๑๒๓๕ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ม ี ๒ ชนดิ คอื เนอื้ เงนิ และเน้ือทองแดง ขนาดเสน้ ผ่าศนู ย์กลาง ๖๖ มลิ ลเิ มตร ในพธิ บี รมราชาภเิ ษก ครง้ั ท ี่ ๒ รชั กาลท ี่ ๕ ไดเ้ ปลยี่ นพระนาม กลอ่ งหมากปฐมจุลจอมเกล้า เป็น เปน็ “พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ” แตข่ อ้ ความในเหรยี ญ เคร่อื งยศสา� หรบั พระราชทานฝายใน ทรี่ ะลกึ พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก ไมป่ รากฏมคี า� วา่ “พระบาท” นา� หนา้ พระนาม “สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว” ซงึ่ อาจเป็นไปตามพระราชประเพณีท่ี กา� หนดไวว้ า่ จะใชค้ า� วา่ “พระบาท” นา� หนา้ ไดต้ อ่ เมอื่ ไดผ้ า่ นพระราชพิธี บรมราชาภิเษกไปแล้ว นอกจากนี้ อักษรพระปรมาภิไธย “จจจ.” ยงั ปรากฏบนกลอ่ งหมาก เปน็ เครอ่ื งยศสา� หรบั พระราชทานฝา ยในทา� นอง เดียวกันกับเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าส�าหรับพระราชทาน ฝา ยหนา้ เชน่ กลอ่ งหมากปฐมจลุ จอมเกลา้ ซง่ึ เปน็ กลอ่ งหมากทา� ดว้ ยเงนิ กะไหลท่ องจา� หลกั เปน็ ลายชยั พฤกษพ์ นื้ ลงยาสขี าบ ฝากลอ่ งมดี วงดารา ปฐมจลุ จอมเกลา้ อยกู่ ลาง มขี อบนอกเปน็ อกั ษรวา่ “การบรมราชาภเิ ศก ในสมเด็จพระจฬุ จอมเกล้าเจา้ อย่หู วั ปีรกา เบญจศก ศกั ราช ๑๒๓๕” มตี ลบั ข้างใน ๔ ใบ ๖ ดา� รงราชานภุ าพ, สมเดจ็ กรมพระยา, ตา� นานเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณจ์ ลุ จอมเกลา้ , ในงานพระราชทานเพลงิ ศพ เจา้ จอม มารดาออ่ น ในรชั กาลท ่ี ๕, พมิ พ์คร้ังท่ี ๒, (โรงพิมพพ์ ระจันทร:์ พระนคร, ๒๕๑๒), หน้า ๘ – ๙. ๗ประจ�าเดือน เมษายน - กันยายน ๒๕๖๒

ความหมายของตราแผน‹ ดินบนเหรียญท่ีระลึกพระราชพิธบี รมราชาภิเษก พระมหาพิชัยมงกฎุ ธารพระกร พระแสงขรรค์ ฉตั ร พระแส้จามรี จกั รและตรศี ูล ราชสีห์ คชสหี ์ พระมหาสังวาลนพรัตนราชวราภรณ์ โล ่ ๓ ชอ่ งได้แก ่ ช้างสามเศียร ช้างยืนแท่น และกรชิ ไขว้ พระบาทเชิงงอน เครอื่ งราชอสิ ริยาภรณจ์ ุลจอมเกลา้ คาถา \"สพเฺ พ�ส สงฺฆภตู าน� สามคฺค ี วฑุ ฒฺ ิ สาธิกา\" ฉลองพระองคค์ รุย เหรยี ญทรี่ ะลกึ พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก รชั กาลท ี่ ๕ มรี ปู แบบทสี่ รา้ งตามคตคิ วามเชอื่ ตามโบราณ ราชประเพณี รวมถึงการปกครองของไทยสมัยโบราณ ซึ่งประกอบด้วย พระมหาพิชัยมงกุฎ เปรียบเสมือน ยอดเขาพระสเุ มรโุ ดยมฉี ตั รทท่ี า� หนา้ ทเี่ สมอื นเขาวงแหวน ๗ ชนั้ ทว่ี นอยรู่ อบเขาพระสเุ มร ุ องคป์ ระกอบของเหรยี ญ มฉี ตั รทงั้ ๒ ขา้ ง เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสมดลุ อกี ความหมายหนงึ่ คอื พระมหาพชิ ยั มงกฎุ เปลง่ รศั ม ี หมายถงึ ความเปน็ พระมหากษตั รยิ ์ ภายใตพ้ ระมหาพชิ ยั มงกฎุ เปน็ ตราจกั รและตรศี ลู อนั เปน็ สญั ลกั ษณข์ องราชวงศจ์ กั ร ี ถัดลงเป็น รปู โล่ที่แบง่ ออกเป็นสามส่วน ซง่ึ หมายถึง ดินแดนของสยาม ชา้ งสามเศยี ร หมายถงึ สยามเหนอื สยามกลาง และสยามใต้ ช้างเผือก หมายถงึ ประเทศราชลาวลา้ นชา้ ง ภาพไขว้กัน หมายถึง หวั เมอื งประเทศราชมลายู ความหมายโดยรวมของรูปสัญลักษณ์ภายในโล่จึงหมายถึงขอบดินแดนท้ังหมดของประเทศสยามในเวลานั้น ฉัตร อันหมายถึง เศวตฉัตร คือสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งแสดงถึงพระราชอิสริยศของ พระมหากษัตริย์ โดยมีราชสีห์และคชสีห์ประคองฉัตรขนาบซ้ายขวา ราชสีห์ซึ่งเป็นตัวแทนของสมุหนายก ควบคุมหัวเมืองทางฝายเหนือ ส่วนคชสีห์อันเป็นตัวแทนของสมุหกลาโหมควบคุมหัวเมืองทางฝายใต้ ดังน้ัน การใช้รูปดังกล่าวจึงเป็นการประกาศให้รู้ว่า ท้ังสองฝายน้ีมีหน้าท่ีป้องกันพระราชอาณาจักรและค้�าจุน พระราชบลั ลงั ก ์ ขอบโลด่ า้ นลา่ งสดุ ลอ้ มรอบดว้ ยพระมหาสงั วาลนพรตั นราชวราภรณ ์ ซง่ึ เปน็ เครอ่ื งตน้ สา� หรบั พระมหากษตั รยิ ใ์ นพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกมาแตค่ รง้ั สมยั อยธุ ยา สว่ นใตพ้ ระมหาสงั วาลนพรตั นราชวราภรณ ์ คอื สายสรอ้ ยจลุ จอมเกลา้ พรอ้ มดวงตรา หมายถงึ การบา� รงุ ตระกลู วงศใ์ หเ้ จรญิ เพอ่ื เปน็ บา� เหนจ็ ความชอบแก่ ผู้ที่ปฏิบตั ริ าชการดว้ ยความซ่อื สตั ยต์ ่อแผ่นดิน และสามคั คีกนั รับใชช้ าติให้เจริญร่งุ เรืองตอ่ ไป สว่ นลา่ งสุด คอื คาถาภาษามคธ (บาล)ี จารกึ บนแพรแถบดว้ ยอักษรไทย เปน็ ข้อความว่า “สพเฺ พส� สงฺฆภูตาน� สามคฺคี วฑุ ฒฺ ิ สาธกิ า” คาถาบทนี้เปน็ ของสมเดจ็ พระสงั ฆราช (สา ปสุ ฺสเทโว) วดั ราชประดษิ ฐสถิตมหาสีมาราม เปน็ การจัด องค์ประกอบของตราแผน่ ดินตามหลกั Heraldic Tradition อันเป็นรูปแบบที่มาจากตะวันตก ๘ สารส�านักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ฉบับท่ี ๓๖

นอกจากน ้ี ยงั มสี ญั ลกั ษณท์ แ่ี ทรกอยใู่ นตราแผน่ ดนิ คอื เครอ่ื งราชกกธุ ภณั ฑท์ ง้ั ๕ อนั เปน็ เครอ่ื งหมาย แห่งการเปน็ พระเจา้ แผน่ ดินโดยสมบรู ณ ์ ประกอบดว้ ย พระมหาพชิ ัยมงกฎุ พระแสงขรรคช์ ยั ศร ี พระแส้จามรี ธารพระกร และพดั วาลวชิ น ี ฉลองพระบาทเชิงงอน เบอ้ื งหลังตราแผน่ ดิน คือ ฉลองพระองค์ครยุ สา� นกั ทรพั ยส์ นิ มคี า่ ของแผน่ ดนิ ไดร้ ะลกึ ถงึ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ในพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทที่ รงบา� เพญ็ พระราชกรณยี กจิ ตา่ ง ๆ ทงั้ ภายในภายและภายนอกประเทศ อนั กอ่ ใหเ้ กดิ คณุ ประโยชน์ แก่ประเทศชาติให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ และสามารถธ�ารงเอกราชไว้ตราบจนทุกวันน้ี จึงได้คัดเลือก เหรยี ญทรี่ ะลกึ พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก จ.ศ. ๑๒๓๕ มาจดั แสดง ณ หอ้ งกษาปณร์ ตั นโกสนิ ทร ์ ชนั้ ๒ อาคาร พพิ ธิ ภณั ฑเ์ หรยี ญกษาปณานรุ กั ษ ์ ซงึ่ คาดวา่ จะเปดิ ใหผ้ ทู้ สี่ นใจเขา้ ชมการจดั แสดงประมาณปลายป ี พ.ศ. ๒๕๖๒ หนังสืออาŒ งองิ กรมธนารักษ.์ เหรียญที่ระลกึ กรุงรัตนโกสนิ ทร์ พ.ศ. ๒๓๒๕ - ๒๕๒๕. กรุงเทพฯ: ศรบี ญุ พบั ลเิ คชัน่ . ๒๕๒๕ คณะกรรมการพิจารณาและจดั พมิ พเ์ อกสารทางประวตั ิศาสตร์ สา� นักนายกรัฐมนตรี. ประชมุ จารกึ ภาคท่ี ๑. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พส์ �านกั เลขาธิการคณะรฐั มนตรี. ๒๕๒๑. ชวลิต วอ่ งวารที ิพย์. สญั ลกั ษณบ์ นเหรยี ญกระษาปณ์และเหรยี ญท่รี ะลกึ ของประเทศไทยและประเทศสาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาว (ค.ศ. ๑๘๕๕-๑๙๕๔). วทิ ยานพิ นธ์ หลกั สูตร ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑิต (ภูมภิ าคศกึ ษา). มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่. ๒๕๕๐. ดา� รงราชานภุ าพ, สมเด็จกรมพระยา. ต�านานเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณ์จลุ จอมเกล้า. ในงานพระราชทานเพลิงศพ เจ้าจอม มารดาอ่อน ในรชั กาลท ี่ ๕. พิมพค์ ร้งั ท ่ี ๒. พระนคร: โรงพิมพ์พระจันทร์. ๒๕๑๒. . ต�านานเครื่องราชอิสรยิ าภรณ์สยาม. พระนคร: โสภณพิพรรฒธนากร. ๒๔๖๘. ผาสขุ อนิ ทราวุธ. ทวารวด ี การศึกษาเชิงวิเคราะห์จากหลักฐานทางโบราณคด.ี กรงุ เทพฯ: อักษรสมยั . ๒๕๔๒. วรี ะพนั ธ ์ บางทา่ ไม ้ และคณะ. เหรยี ญทร่ี ะลกึ กรงุ สยาม. กรงุ เทพฯ: กองโรงพมิ พ ์ กรมสารบรรณทหารเรอื . ๒๕๕๖ ศราวฒุ ิ วชั ระปนั ต.ี พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษกสมัยรตั นโกสนิ ทร.์ สารนพิ นธ์ หลกั สตู รปริญญาศิลปศาสตร มหาบณั ฑติ (ไทยศึกษา). ๒๕๔๙. สมชาย ณ นครพนม และคณะท�างาน กระทรวงวัฒนธรรม. ประมวลองค์ความร้พู ระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก. กรุงเทพฯ: รุ่งศลิ ป์การพมิ พ ์ (1977) จ�ากดั . ๒๕๖๒. แสงสูรย ์ ลดาวลั ย์, ม.ร.ว. ผู้เรยี บเรยี ง. พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกสมัยกรงุ รตั นโกสินทร์. กรุงเทพฯ: สา� นกั งานเลขาธิการนายกรฐั มนตรี. ๒๕๒๗. ๙ประจ�าเดือน เมษายน - กันยายน ๒๕๖๒

เสวนาธนารกั ษ์ ภมู วิ ฒั นธรรมชาวกรงุ (รตั นโกสนิ ทร)์ ปท‚ ่ี ๒ \"จากก�าแพงเมืองคเู มอื ง....สพ‹ู ระต�าหนกั ปลายเนนิ \" ประภพ อนนั ตกลู นกั วชิ าการเผยแพรช่ า� นาญการ ส�านกั ทรัพย์สนิ มีค่าของแผ่นดนิ ทม่ี า: มลู นิธนิ ริศรานุวัตติวงศ์ ภารกจิ หนง่ึ ทส่ี า� คญั ของสา� นกั ทรพั ยส์ นิ มคี า่ ของแผน่ ดนิ กรมธนารกั ษ ์ นอกเหนอื จากเผยแพรค่ วามรู้ และจดั แสดงทรพั ยส์ นิ มคี า่ ทพ่ี พิ ธิ ภณั ฑใ์ นสว่ นกลางและสว่ นภมู ภิ าค และการจา� หนา่ ยผลติ ภณั ฑเ์ หรยี ญ คอื การ จดั งานเสวนาทางวชิ าการ กลา่ วคอื งานเสวนาธนารกั ษ ์ เพอ่ื เผยแพรค่ วามรทู้ างประวตั ศิ าสตร ์ ศลิ ปวฒั นธรรม เงนิ ตรา และทรพั ยส์ นิ มคี า่ โดยเชญิ วทิ ยากรผทู้ รงคณุ วฒุ ติ ามสาขาวชิ าชพี และราษฎรอาวโุ ส มานา� เสนอเรอ่ื งราว และความท้าทายในการบริหารจัดการภูมิวัฒนธรรม (Cultural Landscape) ของไทยในปัจจุบันและเม่ือปี ท่ีผา่ นมาได้มกี ารจดั เวทเี สวนาธนารกั ษภ์ ายใต้หัวข้อ ภมู วิ ฒั นธรรมชาวกรุง (รตั นโกสินทร)์ “อยู่-กนิ -นงุ่ หม่ ” ระหวา่ งวนั ท ่ี ๑๗-๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ โดยแตล่ ะวนั มหี วั ขอ้ การเสวนาทแ่ี ตกตา่ งกนั คอื ประเพณแี ละความ เปน็ อย ู่ วฒั นธรรมดา้ นอาหาร และววิ ฒั นาการแตง่ กายในสมยั รตั นโกสนิ ทร ์ โดยไดร้ บั เกยี รตจิ ากวทิ ยากรทเี่ ปน็ กูรดู ้านตา่ ง ๆ อาทิ ศาสตราจารยพ์ ิเศษ ธงทอง จนั ทรางศ ุ คณุ ยศพล บุญสม ภมู ิสถาปนิก และผรู้ ว่ มก่อต้ัง กลมุ่ Friends of the River (FOR) อาจารยธ์ นิสา อมาตยกลุ อาจารยป์ ระจ�าวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัย ศลิ ปากร และเจา้ ของรา้ นอาหารบา้ นย่า คณุ ไพโรจน ์ ประไพรกั ษ์ หรือ “เชฟ บอมเบย์” Executive Chef ประจ�าห้องอาหาร มิสสยาม โรงแรมหัวช้างเฮอริเทจ กรุงเทพฯ อาจารย์ธีรพันธุ์ จันทร์เจริญ ผู้อ�านวยการ ส�านักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฏร์ธานี ฯลฯ มาขึ้นเวทีเสวนากันอย่างออกรส ตลอดช่วง ๓ คืนที่มีงาน พร้อมด้วยการชมพิพิธภัณฑ์ยามค�่าคืน การออกร้านของชุมชุมบางล�าพู และการ ฉายหนังกลางแปลง 1๐ สารส�านักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ฉบับท่ี ๓๖

ส�ำหรับปีน้ี ส�ำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินได้รับโจทย์ใหม่จากกรมธนารักษ์ในการเผยแพร่ และ ประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์ก�ำแพงเมือง-คูเมือง อันเป็นที่ราชพัสดุอยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์ และ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์และร่องรอยทางอารยธรรมของการตั้งถ่ินฐานของเมืองเก่าที่ตั้งกระจาย ทวั่ ประเทศ ปจั จบุ นั ประสบปญั หาจากการเสอ่ื มสภาพ ทงั้ จากการขาดการบรู ณการดา้ นผงั เมอื ง การบกุ รกุ พนื้ ท่ี ของประชาชน อนั สะทอ้ นถงึ ปญั หาการบรู ณาการการทำ� งานระหวา่ งภาครฐั และภาคประชาสงั คม และในปนี ้ี ยงั ได้ หยิบยกกรณีศึกษาของการอนุรักษ์บ้านปลายเนินของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรา นวุ ดั ตวิ งศ์ ทตี่ งั้ อยบู่ นถนนพระรามท่ี ๔ เขตคลองเตย กลมุ่ อาคารเรอื นไมต้ ามแบบสถาปตั ยกรรมไทยทมี่ คี ณุ คา่ และเปน็ อาคารทม่ี คี วามสำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตร์ ดว้ ยเปน็ ท่ีประทับและทรงงานของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมนริศฯ รวมถึงเป็นท่ีเก็บผลงานศลิ ปะแขนงตา่ ง ๆ ของพระองคท์ า่ นทท่ี รงคณุ คา่ และเปน็ มรดกทางวฒั นธรรมทสี่ ำ� คญั ปัจจุบันบ้านปลายเนินได้รับผลกระทบจากสภาพผงั เมอื งทเ่ี ปลย่ี นไป และโครงการพฒั นาและกอ่ สรา้ งอาคาร แนวสงู สง่ ผลต่อภูมิทัศน์และระบบนิเวศวิทยาของพื้นที่โดยรอบ โดยกลุ่มทายาทบ้านปลายเนินจึงมีแนวคิด ในการบรู ณะและพัฒนาเป็นพพิ ธิ ภณั ฑแ์ ละศูนยก์ ารเรยี นรู้ การเสวนาในปีนี้ได้จัดขึ้นในระหว่างวันท่ี ๒๙-๓๐ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ เวทีกลางแจ้ง พิพิธภัณฑ์ เหรยี ญกษาปณานรุ กั ษ์ ภายใตแ้ นวคดิ “จากกำ� แพงเมอื ง-คเู มอื ง...สพู่ ระตำ� หนกั ปลายเนนิ ” โดยหยบิ ปญั หา ความทา้ ทายของการบรหิ ารจดั การโบราณสถานและอาคารทมี่ คี วามสำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตร์ รวมถงึ เปน็ การ สร้างการรับรู้คุณค่าของการอนุรักษ์และการฟื้นฟูให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศให้กับคนรุ่นใหม่ การเสวนาในวนั แรกกำ� หนดภายใตห้ วั ขอ้ “อนาคตใหมก่ ำ� แพงเมอื ง-คเู มอื ง” ไดร้ บั เกยี รตจิ าก นายสด แดงเอยี ด อดีตอธิบดกี รมการศาสนา และอดีตรองอธบิ ดีกรมศิลปากร ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ คณะกรรมการเพ่อื พจิ ารณากำ� หนด ขอบเขตท่ีดินก�ำแพงเมือง-คูเมือง กรมธนารักษ์ และ ผศ.ทิวา ศุภจรรยา ผู้อ�ำนวยการสถาบันถิ่นฐานไทย ทปี่ รกึ ษาวเิ คราะหก์ ำ� หนดขอบเขตทด่ี นิ เมอื ง-คเู มอื ง โดยวทิ ยากรทงั้ สองทา่ นเปน็ ผเู้ ชยี่ วชาญทางประวตั ศิ าสตร์ มนษุ ยวทิ ยา และภมู ศิ าสตร์ ไดข้ น้ึ เวทเี สวนาธนารกั ษม์ าถา่ ยทอดประสบการณก์ ารสำ� รวจและกำ� หนดแนวเขต เมืองโบราณ หรือ “เมืองเก่า” ซึ่งค�ำนิยามของระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการอนุรักษ์และพัฒนา กรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า พ.ศ. ๒๕๔๖ ก�ำหนดให้เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์และรปู แบบสถาปตั ยกรรม ทอ้ งถนิ่ รวมถงึ ววิ ฒั นาการทางสงั คมทสี่ บื มาของยคุ ตา่ ง ๆ และทม่ี อี งคป์ ระกอบเมอื งอนั เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม 11ประจ�ำเดือน เมษายน - กันยายน ๒๕๖๒

ได้แก่ คูเมือง ก�ำแพงเมือง โครงข่ายสัญจร หรือ ศาสนาสถาน ซ่ึงปัจจุบันได้มีการประกาศเขตเมืองเก่าแล้ว ๓๑ เมอื ง โดย ผศ.ทิวา ผู้เช่ยี วชาญด้านภมู ศิ าสตร์แผนที่ ได้เลา่ ประสบการณก์ ารศกึ ษารอ่ งรอยทางกายภาพ ของเมอื งเกา่ ๆ ผา่ นทางรปู ถา่ ยทางอากาศ แผนทแี่ ละเอกสารทางประวตั ศิ าสตรโ์ บราณคดี เพอ่ื กำ� หนดขอบเขต ทดี่ นิ กำ� แพงเมอื ง-คเู มอื ง ทง้ั นี้ ยงั ไดน้ ำ� เสนอววิ ฒั นาการและการเปลยี่ นแปลงทางภมู ศิ าสตรข์ องบา้ นปลายเนนิ ดว้ ยรูปถา่ ยทางอากาศตง้ั แตอ่ ดตี จนถึงปจั จุปันใหผ้ ูเ้ ข้าฟงั บรรยายได้เห็นอกี ดว้ ย นอกจากนัน้ คณุ ทวีชัย ลิย่เี ก ผอู้ ำ� นวยการกองเทคโนโลยกี ารสำ� รวจและฐานขอ้ มลู ทรี่ าชพสั ดุ กรมธนารกั ษ์ ไดม้ าบอกเลา่ ประสบการณแ์ ละ ความท้าทายของการส�ำรวจพื้นที่ เพ่ือก�ำหนดขอบเขตพ้ืนที่ก�ำแพงเมือง-คูเมือง โดยมีการด�ำเนินงานต้ังแต่ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๙ และให้การรบั รองขอบเขตทีด่ นิ กำ� แพงเมอื ง-คูเมอื งแลว้ จำ� นวน ๒๔๖ แหง่ การเสวนาในวนั เสารท์ ี่ ๓๐ มนี าคม ๒๕๖๒ สำ� นกั ทรพั ยส์ นิ มคี า่ ของแผน่ ดนิ ไดร้ บั เกยี รตจิ าก พระปนดั ดา ในสมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้ กรมพระยานนริศรานวุ ดั ติวงศ์ ผรู้ ับผิดชอบโครงการซอ่ มบ�ำรุง อนรุ ักษ์ และพฒั นาบา้ นปลายเนนิ มาถา่ ยทอดเรอ่ื งราว อนาคตพระตำ� หนกั ปลายเนนิ : ความทา้ ทายของการอนรุ กั ษ์ พระต�ำหนกั ปลายเนนิ ของ โดย ม.ล. ตรีจกั ร จิตรพงศ์ ไดใ้ ห้เกียรติเล่าถงึ พระราชประวัติของสมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ว่าทรงเป็นพระราชโอรสล�ำดับท่ี ๖๒ ในพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั รัชกาลที่ ๔ พระองคท์ ่านเป็นทร่ี ้จู ักกันในฐานะ “นายช่างใหญแ่ หง่ กรงุ สยาม” และ ทรงเปน็ “สมเดจ็ คร”ู ของชา่ งศลิ ปกรรมทกุ แขนง ทรงเปน็ ปราชญท์ างอกั ษรศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ โบราณคดี และศิลปกรรมเกือบทุกแขนง ทั้งดา้ นจติ รกรรม ประตมิ ากรรม สถาปัตยกรรม มัณฑนศลิ ป์ และดุริยางคศ์ ลิ ป์ นอกจากนยี้ งั มผี ลงานทท่ี รงออกแบบไวม้ ากมายทงั้ งานออกแบบปกหนงั สอื และภาพแทรกหนงั สอื ทท่ี รงนพิ นธ์ พระราชลัญจกร ตราสญั ลักษณ์ ตาลปัตร พดั รอง แผ่นป้ายจารึก ธงประจำ� กองลูกเสอื แบบตัวอักษร ตัวอกั ษร ประกอบลาย เครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณไ์ ทย และเหรยี ญทร่ี ะลกึ ซง่ึ นบั วา่ มคี วามสำ� คญั ตอ่ งานดา้ นเหรยี ญกษาปณ์ และ ทรพั ยส์ นิ มคี า่ ของแผน่ ดินของกรมธนารกั ษ์ ทงั้ นี้ จากการทีไ่ ด้เสด็จมาประทบั ทบี่ า้ นปลายเนนิ อนั เปน็ สถานท่ี ทที่ รงงานศลิ ปะในดา้ นตา่ ง ๆ นอกจากนน้ั ม.ล. ตรจี กั ร ยงั ไดเ้ ลา่ ถงึ ความประทบั ใจในการคน้ พบงานศลิ ปะทที่ รง สะสมไว้ รวมถงึ แบบร่างงานศิลปะตา่ ง ๆ ขณะทีเ่ ก็บของระหวา่ งการบรู ณะบ้านปลายเนนิ และ ม.ล. จิตตวดี จิตรพงศ์ ผู้รับผิดชอบหลักโครงการซ่อมบ�ำรุง อนุรักษ์ และพัฒนาบ้านปลายเนิน ไดม้ าถา่ ยทอดเรอ่ื งราวของ ความทา้ ทาย และกระบวนการการอนรุ กั ษบ์ า้ นปลายเนนิ อนั เปน็ การบรู ณะครงั้ ที่ ๒ 12 สารส�ำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ฉบับท่ี ๓๖

พร้อมทั้งได้แทรกเรื่องราวและเกล็ดทางสถาปัตยกรรมท่ีส�ำคัญท่ีได้ค้นพบ รวมถึงการค้นพบตัวชันโรง แมลงขนาดเลก็ ลักษณะคล้ายผง้ึ ท่ีใกลส้ ูญพันธ์ อาศัยในโพรงไมใ้ นบ้านปลายเนนิ โดยท่ตี วั ชนั โรงเป็นแมลงท่ี พิทกั ษ์รกั ษาไมแ้ ละปอ้ งกนั ไม่ให้ปลวกหรอื แมลงชนิดอน่ื มาท�ำลายเนอ้ื ไม้ของบ้านปลายเนนิ นอกจากนนั้ พพิ ธิ ภณั ฑเ์ หรยี ญกษาปณานรุ กั ษไ์ ดม้ กี ารจดั นทิ รรศการพเิ ศษ (Temporary Exhibition) ท่ีเกี่ยวข้องกับหัวข้อการเสวนาถึง ๒ นิทรรศการ คือ นิทรรศการงานออกแบบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรยี ญทร่ี ะลกึ ฝพี ระหตั ถ์ (Royal Thai Decorations and Royal Commemorative Medals designed by HRH Prince Narisaranuvattiwongse Exhibition) อนั เปน็ การจดั แสดงนทิ รรศการเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ ์ ที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงออกแบบ โดยทรงเริ่มออกแบบ เครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นครั้งแรกในกลางรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นับเป็นการจัดแสดงนิทรรศการที่หาดูได้ยาก และได้มีการจัด นิทรรศการก�ำแพงเมือง-คูเมือง (City Walls and Moats Exhibition) เล่าเรื่องราวของโครงการอนุรักษ์ พฒั นา และบริหารจัดการท่ีดินก�ำแพงเมือง-คูเมือง อันเป็นหนึ่งในภารกิจของกรมธนารักษ์ในด้านการ บริหารจัดการที่ราชพัสดุ พร้อมท้ังจัดแสดงเหรียญที่ระลึกประจ�ำจังหวัดที่ต้ังของเมืองโบราณส�ำคัญต่าง ๆ ทว่ั ประเทศ ประเภททองแดงรมด�ำ มีขนาดเสน้ ผ่าศูนย์กลางขนาด ๗ ซม. มาจัดแสดง จำ� นวน ๕ จังหวดั ได้แก่ ๑. เวยี งกาหลง จังหวัดเชียงราย (เวียงกาหลง เป็นชอื่ หน่งึ ในตัวอยา่ งเมอื งในความคดิ ความเช่ือ เก่ยี วกับการเข้ามาของคนไทยในดินแดน) ๒. กำ� แพงเมอื ง-คูเมอื ง เมอื งนา่ น ๓. เมืองเพชรบูรณ์ จงั หวัดเพชรบูรณ ์ ๔. เมืองรอ้ ยเอ็ด จังหวัดร้อยเอด็ ๕. เมอื งสงขลา (หัวเขาแดง) จงั หวัดสงขลา 13ประจ�ำเดือน เมษายน - กันยายน ๒๕๖๒

รวมถึงภายในงาน ยังมีกิจกรรมการออกร้านของดี ของเด่น ของชมุ ชนบางลำ� พู ไดแ้ ก่ นำ้� แข็งใส-ข้าวตม้ น�้ำวนุ้ และน�ำ้ สมุนไพรของ ชุมชนวดั สามพระยา ผัดไทยป้าบุญเรอื นทเี่ รื่องชอื่ ขนมเบื้องแมป่ ระภา รวมถงึ รา้ นขายของทร่ี ะลกึ ของชมรมเกสรลำ� พู และมกี จิ กรรมตบทา้ ยใน แตล่ ะคำ่� คนื ดว้ ยการฉายหนงั กลางแปลง ดา้ ยเครอ่ื งฉายหนงั แบบเตาถา่ น ท่หี าชมได้อยา่ ง โดยมีฉายหนงั ไทย Vintage จำ� นวน ๒ เรื่องควบของ ภาพยนตรท์ ีไ่ ดร้ ับความนยิ มในอดีตและหนงั สยองขวญั แล้วพบกันใหม่ ในงานเสวนาธนารักษ์ปีหน้า ส่วนหัวข้อจะเป็นเรื่องใดโปรดติดตามต่อ ไปครับ กำ� แพงเมอื ง-คเู มอื ง คืออะไร หลายคนอาจเรม่ิ สงสยั แลว้ วา่ กำ� แพง-คเู มอื ง คอื อะไร? กำ� แพงเมอื ง-คเู มอื ง เปน็ สง่ิ ทม่ี นษุ ยส์ รา้ งขน้ึ หรือดดั แปลงสิง่ ท่ีมอี ย่ตู ามธรรมชาตเิ พ่อื ประโยชน์ของบา้ นเมือง เชน่ ปอ้ งกนั ข้าศกึ ศัตรู หรอื ระบบระบายนำ�้ ของเมอื งในอดตี หรอื บางเมอื งใชอ้ ยใู่ นปจั จบุ นั มไิ ดใ้ ชป้ ระโยชนส์ ว่ นตนของประชาชนคนใดคนหนงึ่ โดยเฉพาะ จงึ มสี ถานะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดนิ เปน็ โบราณสถานตามกฎหมาย พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๔ ขณะเดียวกันขอบเขตท่ีดินท่ีโบราณสถานนั้นต้ังอยู่ ถอื เปน็ ท่ีราชพสั ดใุ นความดแู ลของกรมธนารกั ษ์ โดยโครงการอนรุ ักษ์ พัฒนา และบรหิ ารจดั การท่ดี ินก�ำแพง เมอื ง- คูเมือง เป็นหนง่ึ ในภารกจิ ของกรมธนารกั ษ์ในดา้ นการบริหารจัดการท่รี าชพัสดุ ซ่งึ การก�ำหนดขอบเขต ที่ดินก�ำแพงเมือง-คูเมือง ให้ชัดเจนถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อการปกครอง ดูแล และบริหารจัดการ การใชป้ ระโยชนท์ ดี่ นิ กำ� แพงเมอื ง-คเู มอื ง รวมถงึ การออกเอกสารสทิ ธใิ์ นทดี่ นิ และรบั รองแนวเขตใหแ้ กร่ าษฎร ในทดี่ นิ ขา้ งเคยี ง โดยมนี โนบายมงุ่ เนน้ ใหส้ ว่ นราชการทอ้ งถนิ่ เทศบาล มบี ทบาทเปน็ ผนู้ ำ� การพฒั นาการอนรุ กั ษ์ ปรบั ปรงุ ฟ้ืนฟูสภาพแวดลอ้ มด้านตา่ ง ๆ รวมทั้งส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนทุกกลุ่มองคก์ รหันมาสนใจและใหค้ วาม รว่ มมือในการชว่ ยกนั รักษาคุณคา่ ความเป็นกำ� แพงเมอื ง-คเู มืองให้คงสภาพแวดลอ้ มที่ดสี ืบไป โดยตง้ั แตป่ งี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๙-๒๕๖๑ กรมธนารกั ษไ์ ดม้ กี ารสำ� รวจและใหก้ ารรบั รองขอบเขต ทีด่ ินก�ำแพงเมือง-คเู มืองแล้ว จำ� นวน ๒๔๖ แห่ง โดยเม่ือดำ� เนินการแล้วเสรจ็ จะมีการด�ำเนินการจดั ทำ� ปา้ ย สือ่ ความหมาย (Interpretation Sign) ซึง่ เป็นแผนท่มี รดกทางวฒั นธรรมของพืน้ ที่เมืองเก่า และจัดพิธลี งนาม บนั ทกึ ข้อตกลง (Memorandum of Understanding : MOU) กบั สว่ นราชการทอ้ งถ่ิน พรอ้ มทั้งจัดเสวนา เรอ่ื ง “กำ� แพงเมอื ง-คูเมือง กับการพัฒนาทอ้ งถน่ิ ” เพ่ือเปน็ การเผยแพรค่ วามรู้เก่ยี วกับก�ำแพงเมือง-คเู มือง และทรี่ าชพัสดใุ ห้เป็นทีร่ ู้จักกนั รวมถงึ เปน็ สถานพักผอ่ นและแหล่งทอ่ งเท่ียวทสี่ ำ� คญั ของชุมชน 14 สารส�ำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๖

ผลติ ภัณฑท์ น่ี ‹าสนใจ หนงั สือชุด เหรียญรัชกาลที่ ๙ l ผลิต ๕,๐๐๐ ชดุ ๑ ชดุ บรรจุ ๒ เล่ม l จ�าหน่ายในราคาชดุ ละ ๑,๕๐๐ บาท จดั ทา� ขน้ึ เพอื่ รว่ มเทดิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร รอ้ ยเรยี งเรอ่ื งราวเหตกุ ารณต์ า่ งๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ตลอดรชั กาล ผา่ นเหรยี ญกษาปณห์ มนุ เวยี น เหรยี ญกษาปณท์ รี่ ะลกึ และเหรยี ญทร่ี ะลกึ ทกี่ รมธนารกั ษจ์ ดั ทา� ขน้ึ โดยหวงั วา่ หนงั สอื เลม่ นจี้ ะเปน็ หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร ์ อนั ทรง คณุ คา่ ใหอ้ นชุ นรนุ่ หลงั ไดน้ า� ไปใชศ้ กึ ษาคน้ ควา้ และอา้ งองิ เพม่ิ เตมิ ถงึ เรอื่ งราวและเหตกุ ารณต์ า่ งๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ ใน รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รัก และเคารพยิ่งของปวงชนชาวไทย 15ประจ�าเดือน เมษายน - กันยายน ๒๕๖๒

กิจกรรมข‹าวประชาสมั พนั ธ์ เม่ือวันศุกร์ท ่ี ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๒ นายอ�านวย ปรมี นวงศ ์ อธบิ ดกี รมธนารกั ษ์ ให้เกียรตเิ ปน็ ประธานเปดิ โครงการเสวนาธนารกั ษ์ ประจา� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ “ภูมวิ ัฒนธรรมชาวกรุง (รตั นโกสินทร)์ ปีที่ ๒ จาก ก�าแพงเมอื ง - คเู มอื ง สูพ่ ระต�าหนกั ปลายเนนิ ” ซ่ึงจัดขึ้นระหวา่ งวันท ี่ ๒๙ - ๓๐ มนี าคม ๒๕๖๒ ณ พิพธิ ภณั ฑ์ เหรยี ญกษาปณานุรกั ษ ์ ถนนจกั รพงษ์ กรุงเทพมหานคร โดยมีนางสาวกาญจนา ศรธี นางกลู ผ้อู า� นวยการสา� นัก ทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน เป็นผู้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยภายในงานมีกิจกรรมเสวนา ในหวั ขอ้ อนาคตใหม่กา� แพงเมือง - คูเมอื ง และหัวข้ออนาคตพระต�าหนักปลายเนิน : ความท้าทาย ในการอนรุ ักษ์ พระต�าหนักปลายเนินของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ รวมท้ังก�าหนดให้มี กจิ กรรมสนั ทนาการ เพอื่ เปน็ การสนบั สนนุ ศลิ ปวฒั นธรรมและเศรษฐกจิ ชมุ ชน ไดแ้ ก ่ การออกรา้ นจา� หนา่ ยอาหาร และของดีจากประชาคมบางล�าพูและนกั ศกึ ษา การชม Night Museum และการฉายหนังกลางแปลง ซงึ่ งานใน คร้งั น้ีได้รับความสนใจจากประชาชนและนกั ท่องเทย่ี วเขา้ รว่ มกจิ กรรมเปน็ จ�านวนมาก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook