Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เศรษฐกิจพอเพียง-

เศรษฐกิจพอเพียง-

Published by prayfar1, 2017-11-19 11:41:19

Description: เศรษฐกิจพอเพียง-

Search

Read the Text Version

เศรษฐกจิ พอเพียงนางสาวสุภาวรรณ์ ดาวงษ์ รหัส 60561174นางสาวสุวฒั นา เย็นคงคา รหสั 60561181นางสาวสษุ ิณี เอีย๊ บทวี รหสั 60561198นางสาวอภญิ ญา ดอกกุหลาบ รหสั 60561204นางสาวอภญิ ญาภรณ์ มาศรี รหสั 60561211นางสาวอภสิ รา กลัดแก้ว รหสั 60561228นางสาวอรทัย ปัญญาภู รหสั 60561235นางสาวอมั พวา ตาปลา รหัส 60561242นางสาวอาทิตญา ดวงทิพย์ รหสั 60561259นางสาวอาทิตยา แกน่ นาค รหัส 60561266นางสาวอาทิตยา ดานลิ รหัส 60561273โครงงานนเี้ สนอเปน็ สว่ นหนงึ่ ของรายวิชาสารสนเทศศาสตร์ เพือ่ การศกึ ษานคว้า 001221 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2560 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร

เศรษฐกิจพอเพยี งนางสาวสุภาวรรณ์ ดาวงษ์ รหสั 60561174นางสาวสวุ ัฒนา เย็นคงคา รหัส 60561181นางสาวสษุ ิณี เอย๊ี บทวี รหสั 60561198นางสาวอภญิ ญา ดอกกหุ ลาบ รหัส 60561204นางสาวอภิญญาภรณ์ มาศรี รหสั 60561211นางสาวอภสิ รา กลดั แก้ว รหัส 60561228นางสาวอรทยั ปญั ญาภู รหัส 60561235นางสาวอัมพวา ตาปลา รหัส 60561242นางสาวอาทิตญา ดวงทพิ ย์ รหัส 60561259นางสาวอาทิตยา แกน่ นาค รหัส 60561266นางสาวอาทิตยา ดานลิ รหสั 60561273โครงงานน้ีเสนอเปน็ ส่วนหนง่ึ ของรายวชิ าสารสนเทศศาสตร์ เพื่อการศกึ ษาคน้ คว้า 001221 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2560 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

กหวั เร่ืองโครงงาน ใบรบั รองโครงงานผ้ดู าเนินโครงงาน เศรษฐกิจพอเพียง นางสาวสภุ าวรรณ์ ดาวงษ์ รหัส 60561174 นางสาวสวุ ัฒนา เยน็ คงคา รหัส 60561181 นางสาวสษุ ณิ ี เอย๊ี บทวี รหัส 60561198 นางสาวอภิญญา ดอกกหุ ลาบ รหสั 60561204 นางสาวอภิญญาภรณ์ มาศรี รหัส 60561211 นางสาวอภสิ รา กลัดแกว้ รหสั 60561228 นางสาวอรทัย ปญั ญาภู รหัส 60561235 นางสาวอมั พวา ตาปลา รหัส 60561242 นางสาวอาทิตญา ดวงทิพย์ รหัส 60561259 นางสาวอาทิตยา แก่นนาค รหัส 60561266 นางสาวอาทติ ยา ดานลิ รหสั 60561273ปกี ารศกึ ษา 2560……………………………………………………………………………………………...... คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร อนมุ ตั ิให้โครงงานฉบับนเี้ ป็นสว่ นหนึง่ ของการศึกษารายวิชาสารสนเทศศาสตรเ์ พ่ือการศึกษาค้นควา้

ขหวั เรอ่ื งโครงงาน เศรษฐกจิ พอเพยี งผดู้ าเนนิ โครงงาน นางสาวสภุ าวรรณ์ ดาวงษ์ รหสั 60561174 นางสาวสวุ ฒั นา เย็นคงคา รหสั 60561181 นางสาวสษุ ณิ ี เอี๊ยบทวี รหสั 60561198 นางสาวอภญิ ญา ดอกกุหลาบ รหสั 60561204 นางสาวอภิญญาภรณ์ มาศรี รหสั 60561211 นางสาวอภสิ รา กลดั แกว้ รหสั 60561228 นางสาวอรทัย ปัญญาภู รหัส 60561235 นางสาวอมั พวา ตาปลา รหสั 60561242 นางสาวอาทติ ญา ดวงทพิ ย์ รหสั 60561259 นางสาวอาทิตยา แกน่ นาค รหัส 60561266 นางสาวอาทิตยา ดานิล รหสั 60561273ภาควชิ า สารสนเทศเพื่อการศึกษาปีการศกึ ษา 2560………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. บทคัดยอ่ โครงงานฉบับนี้มีวัตถุประสงคเ์ พือ่ ศกึ ษาความรู้เกยี่ วกบั ทม่ี าและความหมายของเศรษฐกิจพอเพยี งหลกั แนวคดิ หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง การนาปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยุกต์ใช้ พระราชดารสั ที่เกี่ยวกบั เศรษฐกิจพอเพียงและความแตกต่างระหว่างเศรษฐกิจพอเพยี งกบั ทฤษฎีใหม่ ซงึ่ เศรษฐกิจพอเพียงเปน็ ปรชั ญาชถ้ี งึ แนวการดารงอยแู่ ละปฏบิ ตั ิตนของประชาชนเป็นกรอบแนวคดิ ท่ีช้บี อกถึงหลกั การ เปน็แนวทางการปฏิบตั ิของทฤษฎีใหม่ ซ่ึงทฤษฎใี หม่ เปน็ แนวทางการพฒั นาการเกษตรอย่างเปน็ ขัน้ ตอนและเป็นตวั อยา่ งใชห้ ลกั เศรษฐกิจพอเพียงในการปฏบิ ัติ ซงึ่ ทฤษฎีใหมน่ ม้ี ี 3 ขนั้ ได้แก่ ทฤษฎีใหม่ขน้ั ต้น ทฤษฎใี หมข่ ้นั ที่2 และทฤษฎใี หมข่ ้นั ท่ี 3

ค กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานฉบับนเ้ี สรจ็ สมบรู ณไ์ ด้เพราะ การทาคน้ ควา้ ศกึ ษาหาขอ้ มลู และรวบรวมข้อมลู ผ่านทางเว็บไซตช์ ัยพฒั นา เว็บไซต์เศรษฐกิจพอเพียง.net และเวบ็ ไซต์pirun.ku.ac.th ขอขอบพระคุณอาจารย์ทีป่ รึกษาโครงการ ท่ไี ด้ให้คาแนะนาในการทาโครงการ ขอขอบพระคณุเพอ่ื นๆท่ีชว่ ยในการวิเคราะห์ รวบรวมข้อมลู เพอ่ื ใหโ้ ครงการฉบบั นเี้ สร็จสมบรู ณ์ และหวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ ว่าโครงงานน้จี ะเป็นประโยชน์ใหก้ บั ผูท้ ีส่ นใจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง คณะผ้จู ดั ทา นสิ ิตคณะพยาบาลศาสตร์

ง คานา ปริญญานิพนธ์เลม่ น้ีจัดทาข้ึนโดยมีเนอ้ื หาสาระความรู้ เกย่ี วกับเรอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพยี ง ซ่งึ เป็นโครงการในพระราชดาริในสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลท่ี9 โดยมีวตั ถุประสงค์ เพอ่ื ใหผ้ ทู้ ี่สนใจได้ศกึ ษาหาความรู้ และเพอ่ื เปน็ การนอ้ มราลึกในพระมหากรุณาธคิ ณุ อย่างหาทส่ี ุด มิได้ที่สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช รัชกาลท่ี 9 ได้มีพระราชดารโิ ครงการน้ีข้ึนมาเพ่อื เป็นประโยชน์แก่พสกนิกรชาวไทย คณะผจู้ ัดทาจึงไดค้ ้นคว้าและรวบรวมข้อมูลทเี่ กีย่ วข้องกบั หวั ข้อขา้ งต้น ซง่ึ ไดม้ ีการจัดทาและนาเสนอในรูปแบบรายงาน คณะผู้จดั ทาหวังเปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ โครงงานเล่มน้ีจะเปน็ ประโยชน์ ต่อผู้ท่สี นใจศึกษาและผู้สนใจไม่มากกน็ ้อย สดุ ทา้ ยนข้ี อขอบพระคณุ อาจารย์ประจารายวิชา สารสนเทศศาสตร์เพื่อการค้นคว้าทุกท่าน ทไี่ ดใ้ ห้คาแนะนาในการจัดทารายงานเล่มน้ี ผจู้ ัดทา คณะพยาบาลศาสตร์ พฤศจกิ ายน 2560

จสารบญัสารบญั หน้าใบรบั รองโครงงาน...................................................................................................................................กบทคดั ย่อ..................................................................................................................................................ขกติ ติกรรมประกาศ...................................................................................................................................คคานา........................................................................................................................................................งสารบญั .....................................................................................................................................................จบทท่ี 1 บทนา...........................................................................................................................................1 แนวคดิ ทม่ี าและความสาคญั .......................................................................................................1 วตั ถุประสงค์...............................................................................................................................1 ขอบเขตการทางานในการคน้ คว้าขอ้ มลู ......................................................................................2 ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะไดร้ ับ..........................................................................................................2บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ัยที่เก่ียวขอ้ ง..................................................................................................3 นิยามและความหมายเศรษฐกจิ พอเพียง.....................................................................................3 หลกั แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง..............................................................................................4 ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง.....................................................................................................4 หลักพิจารณาปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง................................................................................5

ฉ หลักแนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง...............................................................................................6 พระราชดารัสที่เก่ียวกบั เศรษฐกจิ พอเพียง.....................................................................7 ตัวอย่างเศรษฐกจิ พอเพยี ง..........................................................................................................10 ทฤษฎใี หม.่ ....................................................................................................................10 ความสาคญั ของทฤษฎใี หม่…………………………………………………………………….…………10 ทฤษฎใี หมข่ ้ันท่ีสอง………………………………………………………………………………………......11 ทฤษฎีใหมข่ น้ั ท่ีสาม…………………………………………………………………………………………...12 ประโยชนข์ องเศรษฐกจิ ทฤษฎใี หม่……………………………………………………………………...13บทที่ 3 วิธกี ารดาเนนิ งาน……………………………………………………………………………………………………………14 ขนั้ ตอนการดาเนินงาน……………………………………………………………………………………………………14บทที่ 4 ผลการดาเนนิ โครงงาน……………………………………………………………………………………….…….……15 ผลการดาเนินโครงงาน……………………………………………………………………………………………………15บทที่ 5 สรุปผลอภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ……………………………………………………………………..…………16 สรุปผลการศึกษาคน้ คว้า…………………………………………………………………………….…………………..16 อภปิ รายผล………………………………………………………………………………………….………………………..16 สรุปผลการดาเนินโครงการ………………………………………………………………….…………………………..17 ประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับ………………………………………………………………………………….………………………..17 ข้อเสนอ………………………………………………………………………………………………...……………………..17เอกสารอ้างอิง……………………………………………………………………………………………..……………….……………..18

สารบัญรูปภาพ ช หน้า1. ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง……………………………………………………………………………………………………………..52. การแบ่งพื้นท่ีตามหลักเกษตรทฤษฎใี หม่………………………………………………………………………………………………………………11

1 บทที่1 บทนาแนวคิดท่ีมาและความสาคญั ปัจจบุ ันผลจากการใชแ้ นวทางการพฒั นาประเทศไปส่คู วามทันสมัย ไดก้ อ่ ให้เกิดการเปลยี่ นแปลงแก่สงั คมไทยอยา่ งมากในทกุ ด้าน ไมว่ ่าจะเป็นดา้ นเศรษฐกิจ การเมอื ง วัฒนธรรม สังคมและสงิ่ แวดลอ้ ม จึงทาให้เกิดวธิ ีการการแก้ปัญหาเฉพาะหนา้ น้ันไดแ้ ก่ การเพ่ิมขึ้นของอัตราการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจ ความเจรญิ ทางวตั ถุ และสาธารณปู โภคต่างๆ ระบบสื่อสารท่ที ันสมัย หรอื การขยายปรมิ าณและกระจายการศกึ ษาอยา่ งทว่ั ถงึมากขึ้น แตก่ ารแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ เหล่านี้ส่วนใหญ่กระจายไปถึงคนในชนบท หรอื ผูด้ อ้ ยโอกาสในสังคมน้อยแต่ว่า กระบวนการเปล่ียนแปลงของสงั คมไดเ้ กดิ ผลลบตดิ ตามมาด้วยเชน่ การขยายตวั ของรัฐเข้าไปในชนบท ได้สง่ ผลให้ชนบทเกิดความออ่ นแอในหลายด้านทง้ั การตอ้ งพ่งึ พงิ ตลาดและพอ่ ค้าคนกลางในการสั่งสนิ คา้ ทุน ความเส่ือมโทรมของทรพั ยากรธรรมชาติ ระบบความสัมพันธแ์ บบเครือญาติ และการรวมกลมุ่ กนั ตามประเพณเี พ่ือการจัดการทรพั ยากรที่เคยมีอยู่แต่เดมิ แตกสลายลง ภูมคิ วามรู้ท่ีเคยใช้แกป้ ัญหาและสัง่ สมปรับเปล่ยี นกันมาถูกลมืเลือนและเรมิ่ สูญหายไป คณะผจู้ ัดทาจึงไดร้ วบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกับจดุ เร่มิ ต้นแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียงในการดารงชวี ิต เพ่อือธิบายให้เกิดความรู้และความเข้าใจเกย่ี วกบั แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเปน็ ปัจจยั พืน้ ฐานทท่ี าให้คนไทยสามารถพง่ึ ตนเอง และดาเนนิ ชีวติ ไปไดอ้ ย่างมีมคี ุณภาพและความมีอิสระในการกาหนด ชะตาชีวติ ของตนเองความสามารถในการควบคุมและจัดการเพือ่ ให้ตนเองไดร้ บั การสนองตอบตอ่ ความตอ้ งการต่างๆ รวมท้ังความสามารถในการจดั การปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเองวตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ใหผ้ คู้ นในสังคมเกดิ ความเข้าใจเกย่ี วกบั แนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. เพ่ือเปน็ แนวทางในการพฒั นาและปรบั ปรงุ ตนเอง

2ขอบเขตการทางานในการค้นควา้ ข้อมูล 1. ขอ้ มูลเกี่ยวกบั แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. ข้อมลู พระราชโอวาทแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง 3. ขอ้ มูลปรชั ญาแนวคดิ เศรษฐกิจพอพียง 4. ข้อมลู เกยี่ วกับทฤษฎีใหม่ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ บั 1. ผู้คนในสังคมมีความรูแ้ ละความเข้าใจเก่ียวกบั แนวคดิ เศรษฐกิจพอเพยี ง 2. ผู้คนในสังคมสามารถนาความรู้ที่ได้รบั มาพัฒนาตนเอง

3 บทที่ 2เอกสารและงานวจิ ัยที่เกยี่ วข้อง  เศรษฐกจิ พอเพยี ง 1.นยิ ามและความหมาย ความพอเพียง หมายถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตุผลรวมถงึ ความจาเปน็ ทจ่ี ะต้องมีระบบภมู คิ ุ้มกนั ในตัวทด่ี ีพอสมควรตอ่ การมผี ลกระทบใดๆ อนั เกิดจากการเปล่ยี นแปลงทงั้ ภายนอกและภายในท้งั น้ีจะต้องอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงั อย่างย่ิง ในการนาวิชาการตา่ งๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการทุกข้ันตอน และขณะเดยี วกันจะต้องเสริมสร้างพืน้ ฐานจติ ใจของคนในชาตโิ ดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐนกั ทฤษฎแี ละนักธุรกิจในทกุ ระดับใหม้ สี านกึ ในคุณธรรม ความซ่ือสัตย์สุจริตและให้มีความรอบรู้ท่เี หมาะสม ดาเนนิ ชวี ิตดว้ ยความอดทน ความเพยี ร มสี ติ ปญั ญา และความรอบคอบ เพอ่ื ใหส้ มดุลและพร้อมต่อการรองรบั การเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเรว็ และกวา้ งขวางทงั้ ด้านวตั ถุ สังคม ส่ิงแวดลอ้ ม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี(ประมวลและกลน่ั กรองจากพระราชดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เรอื่ งเศรษฐกิจพอเพยี ง ซึ่งพระราชทานในวโรกาสต่าง ๆ รวมทง้ั พระราชดารสั อน่ื ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง โดยไดร้ ับพระราชทานพระบรมราชาอนญุ าตให้นาไปเผยแพร่ เม่ือวันที่ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๒ เพ่ือเป็นแนวทางปฏบิ ตั ิของทกุ ฝา่ ยและประชาชนโดยทวั่ ไป) เศรษฐกิจพอเพยี งแปลวา่ Sufficiency Economy คาว่า Sufficiency Economy น้ี ไมม่ ีในตาราเศรษฐกจิ . จะมไี ด้อย่างไร เพราะว่าเปน็ ทฤษฎใี หม่ Sufficiency Economy น้นั ไม่มใี นตาราเพราะหมายความวา่ เรามีความคิดใหม่…และโดยท่ีท่านผูเ้ ชี่ยวชาญสนใจ ก็หมายความว่า เรากส็ ามารถที่จะไปปรับปรงุ หรือไปใช้หลักการเพือ่ ทีจ่ ะให้เศรษฐกจิ ของประเทศและของโลกพฒั นาดขี ึ้น”(พระราชดารัสเน่ืองในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๓ ธนั วาคม ๒๕๔๒)

4 2.หลกั แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพยี ง การพัฒนาตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ต้ังอยู่บนพ้นื ฐานของทางสายกลางและความไมประมาท โดยคานงึ ถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันทีด่ ีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการตัดสินใจ และการกระทา “ถา้ พอมพี อกนิ คือพอมพี อกนิ ของตวั เองนนั้ ไม่ใชเ่ ศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ เศรษฐกจิ สมัยหนิ . สมยั หินนั้นเป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกนั แตว่ ่าค่อยๆพัฒนาขึ้นมา ตอ้ งมีการแลกเปลีย่ นกัน มกี ารช่วยระหวา่ งหมบู่ า้ น หรือระหว่างจะเรียกวา่ อาเภอ จังหวดั ประเทศ จะต้องมีการแลกเปลีย่ น มีการไม่พอเพียง จึงบอกวา่ ถ้ามเี ศรษฐกิจพอเพยี ง เพยี งเศษหน่ึงสว่ นสกี่ ็จะพอแล้ว จะใชไ้ ด.้ ” (พระราชดารัสเนอ่ื งในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษา ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๒) 3.ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชีถ้ งึ แนวการดารงอยแู่ ละปฏิบตั ติ นของประชาชนในทกุ ระดับตัง้ แต่ระดับครอบครัวระดับชมุ ชน จนถึงระดบั รฐั ทง้ั ในการพัฒนาและบริหารประเทศใหด้ าเนินไปใน ทางสายกลางโดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกจิ เพ่อื ใหก้ า้ วทนั ต่อโลกยุคโลกาภวิ ัตน์ ความพอเพียง หมายถงึ ความพอประมาณความมเี หตุผล รวมถงึ ความจาเป็นท่ีจะตอ้ งมรี ะบบภมู คิ ุม้ กันในตัวทด่ี ีพอสมควร ต่อการมผี ลกระทบใดๆ อนั เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทัง้ ภายนอกและภายใน ทั้งน้ี จะตอ้ งอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงัอยา่ งยิ่งในการนาวิชาการต่างๆมาใชใ้ นการวางแผนและการดาเนินการทุกข้ันตอน และขณะเดยี วกันจะตอ้ งเสริมสรา้ งพ้นื ฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั นักทฤษฎแี ละนกั ธรุ กจิ ในทุกระดับให้มสี านกึ ในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตและให้มคี วามรอบรทู้ ่ีเหมาะสม ดาเนนิ ชวี ิตดว้ ยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญาและความรอบคอบเพือ่ ใหส้ มดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็วและกวา้ งขวางทงั้ ด้านวัตถุสังคม สง่ิ แวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกไดเ้ ป็นอยา่ งดี (ภาพ1)

5 ภาพ1 ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ที่มา: stock2morrow(2017) 4.หลักพิจารณาปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มีหลกั พิจารณาอยูด่ ว้ ยกนั 4 ส่วน ดงั น้ี 1. กรอบแนวคิด เปน็ ปรชั ญาทีช่ ี้แนะแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเปน็ โดยมีพน้ื ฐานมาจากวิถีชีวติ ด้ังเดิมของสังคมไทย สามารถนามาประยุกตใ์ ชไ้ ดต้ ลอดเวลาและเปน็ การมองโลกเชงิ ระบบทมี่ ีลกั ษณะพลวัตร มุ่งเนน้ การรอดพน้ จากภยั และวิกฤต เพ่อื ความมัน่ คงและความยัง่ ยืนของการพัฒนาคุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยกุ ตใ์ ช้กบั การปฏบิ ัติตนได้ในทุกระดบั โดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลาง และการพฒั นา อยา่ งเปน็ ข้นั ตอน 2. คานยิ าม ความพอเพยี ง (Sufficiency) จะตอ้ งประกอบด้วย ๓ คุณลกั ษณะ พรอ้ มๆ กนั ดงั น้ี 2.1) ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดี ทไี่ ม่น้อยเกนิ ไปและไม่มากเกนิ ไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผอู้ นื่ เชน่ การผลิตและการบริโภค ทีอ่ ยู่ในระดับพอประมาณ

6 2.2) ความมีเหตผุ ล หมายถงึ การตัดสินใจเกี่ยวกับระดบั ของความพอเพยี งนนั้ จะตอ้ งเปน็ ไปอยา่ งมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปจั จัยที่เก่ยี วข้อง ตลอดจนคานงึ ถงึ ผลทีค่ าดวา่ จะเกดิ ขนึ้ จากการกระทานน้ั ๆอย่างรอบคอบ 2.3) การมีภมู คิ มุ้ กันทดี่ ีในตวั หมายถงึ การเตรียมตัวใหพ้ ร้อมรับผลกระทบและการเปล่ยี นแปลงด้านตา่ งๆท่จี ะเกดิ ข้ึน โดยคานงึ ถึงความเป็นไปได้ของสถานการณต์ า่ งๆ ที่คาดวา่ จะเกิดขน้ึ ในอนาคตทัง้ ใกล้และไกล 3. เง่อื นไข การตดั สนิ ใจและการดาเนินกจิ กรรมต่างๆให้อย่ใู นระดบั พอเพียงนน้ั ตอ้ งอาศยั ทง้ั ความรู้และคณุ ธรรมเป็นพนื้ ฐาน กล่าวคอื - เงอ่ื นไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรเู้ ก่ยี วกบั วิชาการต่างๆ อยา่ งรอบด้าน ความรอบคอบทจี่ ะนาความรเู้ หลา่ นัน้ มาพิจารณาให้เช่อื มโยงกนั เพอ่ื ประกอบการวางแผน และความระมดั ระวังในขนั้ ปฏิบตั ิ - เง่ือนไขคุณธรรม ทจี่ ะต้องเสรมิ สรา้ ง ประกอบด้วย มคี วามตระหนักในคุณธรรม มีความซ่อื สัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนินชวี ิต 4. แนวทางปฏิบตั ิ/ผลทค่ี าดวา่ จะได้รบั จากการนาปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ต์ใช้ คอื การพัฒนาทส่ี มดุลและสามารถพร้อมตอ่ การเปลย่ี นแปลง ในทกุ ด้าน ทัง้ ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความรแู้ ละเทคโนโลยี 5.หลกั แนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การพัฒนาตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง คือ การพัฒนาที่ตง้ั อยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไมประมาท โดยคานงึ ถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกนั ที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการตัดสนิ ใจ และการกระทา

7 “ถ้าพอมีพอกนิ คอื พอมีพอกินของตวั เองนน้ั ไม่ใชเ่ ศรษฐกิจพอเพยี ง เปน็ เศรษฐกิจสมยั หิน. สมัยหินนนั้ เป็นเศรษฐกจิ พอเพยี งเหมือนกัน แต่ว่าคอ่ ยๆพัฒนาข้ึนมา ตอ้ งมกี ารแลกเปล่ียนกัน มีการชว่ ยระหว่างหมู่บา้ น หรือระหว่างจะเรียกว่าอาเภอ จังหวัด ประเทศ จะตอ้ งมีการแลกเปลี่ยน มกี ารไม่พอเพียง จึงบอกว่าถ้ามเี ศรษฐกิจพอเพียง เพียงเศษหน่งึ ส่วนสี่ก็จะพอแลว้ จะใช้ได.้ ”(พระราชดารัสเนื่องในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษา ๒๓ ธนั วาคม ๒๕๔๒)พระราชดารัสทเี่ ก่ียวกบั เศรษฐกิจพอเพียง “...เศรษฐศาสตรเ์ ป็นวชิ าของเศรษฐกิจ การท่ีตอ้ งใช้รถไถตอ้ งไปซ้อื เราต้องใชต้ ้องหาเงินมาสาหรับ ซ้อืนา้ มนั สาหรบั รถไถ เวลารถไถเกา่ เราตอ้ งย่ิงซอ่ มแซม แตเ่ วลาใชน้ น้ั เราก็ต้องป้อนนา้ มนั ใหเ้ ป็นอาหาร เสรจ็ แล้วมนั คายควัน ควันเราสูดเข้าไปแลว้ ก็ปวดหวั ส่วนควายเวลาเราใชเ้ ราก็ต้องป้อนอาหาร ตอ้ งให้หญ้าให้ อาหารมนักิน แตว่ ่ามันคายออกมา ท่ีมันคายออกมาก็เปน็ ปุ๋ย แล้วก็ใช้ได้สาหรับใหท้ ีด่ ินของเราไม่เสยี ...”(พระราชดารสั เนอ่ื งในพระราชพิธีพชื มงคลจรดพระนงั คลั แรกนาขวัญ ณ ศาลาดุสิดาลัย วนั ที่ ๙ พฤษภาคม๒๕๒๙) “...เราไม่เป็นประเทศร่ารวย เรามีพอสมควร พออย่ไู ด้ แตไ่ มเ่ ป็นประเทศท่ีกา้ วหน้าอยา่ งมาก เราไม่อยากจะเปน็ ประเทศก้าวหนา้ อยา่ งมาก เพราะถ้าเราเป็นประเทศกา้ วหน้าอย่างมากกจ็ ะมีแตถ่ อยกลับ ประเทศเหลา่ นนั้ ท่ีเปน็ ประเทศอุตสาหกรรมกา้ วหน้า จะมแี ต่ถอยหลังและถอยหลังอยา่ งนา่ กลัว แต่ถ้าเรามีการบริหารแบบเรยี กวา่ แบบคนจน แบบทไ่ี มต่ ิดกบั ตารามากเกินไป ทาอย่างมีสามคั คนี ่ีแหละคอื เมตตากนั จะ อย่ไู ด้ตลอดไป...”(พระราชดารัส เนื่องในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลยั วนั ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๔)

8 “...ตามปกติคนเราชอบดสู ถานการณใ์ นทางดี ท่เี ขาเรยี กว่าเล็งผลเลิศ ก็เห็นว่าประเทศไทย เรานี่กา้ วหน้าดี การเงนิ การอุตสาหกรรมการคา้ ดี มีกาไร อกี ทางหน่ึงก็ต้องบอกว่าเรากาลงั เสื่อมลงไปสว่ นใหญ่ทฤษฎีว่า ถ้ามีเงนิ เท่านนั้ ๆ มกี ารกู้เท่านัน้ ๆ หมายความว่าเศรษฐกจิ ก้าวหนา้ แล้วกป็ ระเทศกเ็ จรญิ มีหวงั ว่าจะเปน็ มหาอานาจ ขอโทษเลยต้องเตอื นเขาว่า จรงิ ตัวเลขดี แต่วา่ ถ้าเราไมร่ ะมดั ระวงั ในความต้องการพนื้ ฐานของประชาชนนนั้ ไมม่ ที าง...”(พระราชดารัส เนือ่ งในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษาณ ศาลาดุสิดาลยั วนั ท่ี ๔ ธันวาคม ๒๕๓๖) “...เดย๋ี วนีป้ ระเทศไทยกย็ งั อยู่ดพี อสมควรใช้คาวา่ พอสมควร เพราะเดี๋ยวมคี นเหน็ วา่ มคี นจน คนเดือดร้อน จานวนมากพอสมควร แตใ่ ช้คาว่า พอสมควรน้ี หมายความว่าตามอัตตภาพ...”(พระราชดารสั เนอ่ื งในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ดิ าลยั วนั ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙) “...ที่เปน็ หว่ งน้นั เพราะแม้ในเวลา ๒ ปี ท่ีเป็นปีกาญจนาภเิ ษกกไ็ ดเ้ หน็ สงิ่ ทที่ าให้เห็นไดว้ ่า ประชาชนยังมคี วามเดอื ดร้อนมาก และมสี ิง่ ท่คี วรจะแก้ไขและดาเนนิ การต่อไปทุกดา้ น มภี ัยจากธรรมชาติกระหนา่ ภัยธรรมชาตนิ ้เี ราคงสามารถท่จี ะบรรเทาไดห้ รือแก้ไขได้ เพยี งแตว่ ่าต้องใช้เวลาพอใช้ มีภัยที่มาจากจติ ใจของคน ซง่ึกแ็ ก้ไขไดเ้ หมอื นกนั แตว่ า่ ยากกว่าภัยธรรมชาติ ธรรมชาติน้ันเป็นสงิ่ นอกกายเรา แต่นสิ ัยใจคอของคนเป็นสง่ิ ท่ีอยู่ขา้ งใน อันนกี้ ็เป็นข้อหน่งึ ท่ีอยากให้จัดการใหม้ ีความเรียบรอ้ ย แตก่ ไ็ ม่หมดหวัง...”(พระราชดารสั เนือ่ งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๙) “...การจะเปน็ เสือน้ันไมส่ าคญั สาคัญอยทู่ เี่ รามีเศรษฐกิจแบบพอมีพอกนิ แบบพอมีพอกินนั้นหมายความว่า อุม้ ชตู วั เองได้ ใหม้ ีพอเพียงกับตนเอง ความพอเพยี งนี้ไมไ่ ด้หมายความว่าทกุ ครอบครัวจะตอ้ งผลิตอาหารของตวั เอง จะตอ้ งทอผ้าใส่เอง อย่างนนั้ มันเกนิ ไป แตว่ ่าในหมู่บา้ นหรอื ในอาเภอ จะตอ้ งมีความพอเพยี งพอสมควร บางสิง่ บางอยา่ งผลิตไดม้ ากกวา่ ความต้องการกข็ ายได้ แต่ขายในท่ีไมห่ ่างไกลเท่าไร ไม่ตอ้ งเสียคา่ขนสง่ มากนกั ...”(พระราชดารัส เนอื่ งในโอกาสวันเฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย วนั ท่ี ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๙.) “...เมอื่ ปี ๒๕๑๗ วนั น้นั ไดพ้ ูดถึงว่า เราควรปฏิบัติใหพ้ อมพี อกิน พอมีพอกินนก้ี แ็ ปลวา่ เศรษฐกจิพอเพียงนนั่ เอง ถ้าแตล่ ะคนมพี อมพี อกิน กใ็ ชไ้ ด้ ยงิ่ ถา้ ท้ังประเทศพอมีพอกินกย็ ิ่งดี และประเทศไทยเวลาน้นั ก็เรม่ิ จะเปน็ ไมพ่ อมีพอกนิ บางคนก็มีมาก บางคนก็ไมม่ เี ลย...”(พระราชดารัส เน่ืองในโอกาสวันเฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลยั วนั ที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๔๑)

9 “...พอเพียง มีความหมายกว้างขวางยิง่ กว่านีอ้ ีก คือคาว่าพอ กพ็ อเพยี งนก้ี ็พอแค่น้ันเอง คนเราถ้าพอในความต้องการกม็ ีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบยี ดเบยี นคนอน่ื น้อย ถ้าประเทศใดมคี วามคิดอนั น้ี มีความคดิ วา่ ทาอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ซ่ือตรง ไม่โลภอยา่ งมาก คนเรากอ็ ยูเ่ ป็นสุขพอเพยี งนี้อาจจะมี มมี ากอาจจะมีของหรูหรากไ็ ด้ แตว่ ่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอ่นื ...”(พระราชดารสั เนือ่ งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ดิ าลยั วันที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๔๑) “...ไฟดับถ้ามคี วามจาเป็น หากมเี ศรษฐกจิ พอเพียงแบบไม่เตม็ ที่ เรามีเครือ่ งป่ันไฟกใ็ ชป้ น่ั ไฟ หรอื ถา้ ขั้นโบราณกว่า มดื กจ็ ุดเทียน คือมที างที่จะแก้ปญั หาเสมอ ฉะน้ันเศรษฐกิจพอเพยี งก็มีเป็นขน้ั ๆ แตจ่ ะบอกว่าเศรษฐกิจพอเพยี งนี้ ใหพ้ อเพยี งเฉพาะตัวเองรอ้ ยเปอร์เซน็ ต์น่เี ปน็ ส่งิ ทาไมไ่ ด้ จะตอ้ งมกี ารแลกเปลย่ี น ต้องมีการช่วยกัน ถ้ามกี ารชว่ ยกัน แลกเปล่ยี นกนั ก็ไมใ่ ช่พอเพยี งแลว้ แต่วา่ พอเพียงในทฤษฎีในหลวงน้ี คือให้สามารถท่ีจะดาเนินงานได้...”(พระราชดารัส เน่อื งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ิดาลยั วันท่ี ๒๓ ธนั วาคม ๒๕๔๒) “...โครงการต่างๆ หรือเศรษฐกจิ ท่ใี หญ่ ตอ้ งมีความสอดคล้องกันดีทีไ่ มใ่ ช่เหมือนทฤษฎีใหม่ ท่ีใช้ทีด่ ินเพียง ๑๕ ไร่ และสามารถทจ่ี ะปลกู ข้าวพอกิน กิจการนใ้ี หญก่ วา่ แตก่ ็เป็นเศรษฐกจิ พอเพียงเหมือนกนั คนไม่เข้าใจว่ากิจการใหญๆ่ เหมือนสรา้ งเขอ่ื นป่าสักกเ็ ป็นเศรษฐกจิ พอเพยี งเหมือนกัน เขานกึ ว่าเปน็ เศรษฐกิจสมัยใหม่ เปน็ เศรษฐกิจที่หา่ งไกลจากเศรษฐกจิ พอเพยี ง แตท่ จี่ รงิ แลว้ เป็นเศรษฐกิจพอเพยี งเหมือนกัน...” “...ฉนั พดู เศรษฐกจิ พอเพยี งความหมายคือ ทาอะไรใหเ้ หมาะสมกบั ฐานะของตวั เอง คือทาจากรายได้๒๐๐-๓๐๐ บาท ขน้ึ ไปเปน็ สองหมืน่ สามหมื่นบาท คนชอบเอาคาพดู ของฉัน เศรษฐกิจพอเพียงไปพดู กันเลอะเทอะ เศรษฐกิจพอเพยี ง คอื ทาเป็น Self-Sufficiency มันไมใ่ ช่ความหมายไมใ่ ชแ่ บบทฉี่ ันคิด ท่ีฉันคิดคอื เปน็Self-Sufficiency of Economy เช่น ถา้ เขาต้องการดูทีวี กค็ วรใหเ้ ขามีดู ไมใ่ ช่ไปจากดั เขาไมใ่ หซ้ ือ้ ทีวดี ู เขาต้องการดเู พ่อื ความสนุกสนาน ในหม่บู า้ นไกลๆ ท่ีฉนั ไป เขามีทวี ีดแู ต่ใชแ้ บตเตอรี่ เขาไมม่ ีไฟฟ้า แต่ถา้Sufficiency นั้น มที ีวีเขาฟมุ่ เฟือย เปรียบเสมอื นคนไมม่ ีสตางคไ์ ปตดั สูทใส่ และยังใส่เนคไทเวอร์ซาเช่ อันน้กี ็เกินไป...”

10 6. ตวั อยา่ งเศรษฐกิจพอเพยี งทฤษฎีใหม่ ทฤษฎีใหม่ คือ ตัวอย่างท่ีเป็นรูปธรรมของ การประยกุ ตใ์ ชเ้ ศรษฐกิจพอเพยี งทเ่ี ดน่ ชดั ท่ีสดุ ซ่งึพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัวไดพ้ ระราชทานพระราชดาริน้ี เพ่อื เปน็ การช่วยเหลอื เกษตรกรท่มี ักประสบปญั หาทั้งภยั ธรรมชาติและปจั จยั ภาย นอกทีม่ ีผลกระทบตอ่ การทาการเกษตร ให้สามารถผ่านพ้นชว่ งเวลาวิกฤตโดยเฉพาะการขาดแคลนน้าได้โดยไมเ่ ดือดร้อนและยากลาบากนักความเส่ยี งท่ีเกษตรกร มักพบเปน็ ประจา ประกอบดว้ ย๑. ความเสีย่ งด้านราคาสินค้าเกษตร๒. ความเสี่ยงในราคาและการพึ่งพาปัจจยั การผลิตสมยั ใหม่จากต่างประเทศ๓. ความเสย่ี งด้านนา้ ฝนทิ้งชว่ ง ฝนแล้ง๔. ภยั ธรรมชาตอิ น่ื ๆ และโรคระบาด๕. ความเส่ยี งด้านแบบแผนการผลิต๖. ความเสย่ี งด้านโรคและศัตรูพชื๗. ความเสี่ยงดา้ นการขาดแคลนแรงงาน๘. ความเสย่ี งด้านหน้สี นิ และการสูญเสียที่ดิน ทฤษฎีใหม่ จึงเป็นแนวทางหรอื หลักการในการบริหารการจดั การที่ดนิ และนา้ เพ่ือการเกษตรในทด่ี ินขนาดเล็กให้เกดิ ประโยชนส์ งู สุดความสาคัญของทฤษฎใี หม่๑. มกี ารบริหารและจดั แบ่งที่ดนิ แปลงเล็กออกเป็นสดั ส่วนท่ชี ัดเจน เพ่ือประโยชน์สงู สดุ ของเกษตรกร ซ่งึ ไม่เคยมีใครคดิ มากอ่ น๒. มีการคานวณโดยใชห้ ลักวิชาการเก่ยี วกบั ปรมิ าณนา้ ทจ่ี ะกกั เก็บใหพ้ อเพยี งตอ่ การเพาะปลกู ได้อย่างเหมาะสมตลอดปี๓. มีการวางแผนทสี่ มบูรณ์แบบสาหรบั เกษตรกรรายย่อย โดยมีถงึ ๓ ขัน้ ตอนทฤษฎใี หม่ข้ันตน้ (ภาพ2)

11 ให้แบ่งพื้นที่ออกเปน็ ๔ สว่ น ตามอัตราสว่ น ๓๐:๓๐:๓๐:๑๐ ซ่งึ หมายถงึ- พน้ื ทส่ี ว่ นที่หนงึ่ ประมาณ ๓๐% ใหข้ ดุ สระเก็บกักนา้ เพ่อื ใชเ้ กบ็ กักนา้ ฝนในฤดฝู น และใช้เสรมิ การปลูกพชื ในฤดูแลง้ ตลอดจนการเลี้ยงสัตวแ์ ละพชื น้าตา่ งๆ- พน้ื ท่ีสว่ นที่สอง ประมาณ ๓๐% ให้ปลกู ข้าวในฤดฝู นเพื่อใช้เปน็ อาหารประจาวนั สาหรบั ครอบครวั ให้เพียงพอตลอด ปี เพ่อื ตัดคา่ ใช้จ่ายและสามารถพึง่ ตนเองได้- พนื้ ทสี่ ว่ นที่สาม ประมาณ ๓๐% ใหป้ ลูกไมผ้ ล ไม้ยนื ตน้ พืชผกั พืชไร่ พืชสมนุ ไพร ฯลฯ เพื่อใช้เป็นอาหารประจาวัน หากเหลือบริโภคกน็ าไปจาหน่าย- พน้ื ทีส่ ว่ นทีส่ ่ี ประมาณ ๑๐% เป็นทอี่ ยอู่ าศยั เลี้ยงสัตว์ ถนนหนทาง และโรงเรอื นอ่นื ๆ ภาพ2 การแบ่งพ้ืนทตี่ ามหลกั เกษตรทฤษฎใี หม่ ที่มา: www.kasetorganic.comทฤษฎใี หมข่ น้ั ทสี่ อง เมอื่ เกษตรกรเข้าใจในหลักการและไดป้ ฏบิ ตั ิในทีด่ ินของตนจนได้ผลแล้ว ก็ตอ้ งเริม่ ขั้นทสี่ อง คอื ให้เกษตรกรรวมพลงั กนั ในรปู กลมุ่ หรอื สหกรณ์ รว่ มแรงร่วมใจกันดาเนนิ การในดา้ น(๑) การผลิต (พันธพ์ุ ชื เตรยี มดนิ ชลประทาน ฯลฯ)- เกษตรกรจะต้องร่วมมอื ในการผลิต โดยเริม่ ตั้งแต่ขัน้ เตรียมดิน การหาพนั ธพ์ุ ชื ปยุ๋ การจัดหาน้า และอื่นๆเพ่อื การเพาะปลกู(๒) การตลาด (ลานตากข้าว ยุ้ง เครอ่ื งสขี ้าว การจาหน่ายผลผลติ )- เมื่อมผี ลผลติ แล้ว จะตอ้ งเตรียมการต่างๆ เพื่อการขายผลผลิตให้ไดป้ ระโยชน์สูงสดุ เช่น การเตรยี มลานตากข้าวร่วมกนั การจัดหายงุ้ รวบรวมขา้ ว เตรียมหาเครอ่ื งสีขา้ ว ตลอดจนการรวมกนั ขายผลผลิตให้ได้ราคาดี

12(๓) การเปน็ อยู่ (กะปิ นา้ ปลา อาหาร เครื่องนุง่ หม่ ฯลฯ)- ในขณะเดียวกนั เกษตรกรต้องมีความเปน็ อยูท่ ่ดี ีพอสมควร โดยมปี จั จยั พนื้ ฐานในการดารงชีวติ เช่น อาหารการกนิ ตา่ งๆ กะปิ นา้ ปลา เสอ้ื ผ้า ท่ีพอเพียง(๔) สวัสดิการ (สาธารณสขุ เงนิ กู้)- แต่ละชมุ ชนควรมีสวสั ดภิ าพและบริการที่จาเป็น เช่น มสี ถานอี นามัยเมอ่ื ยามป่วยไข้ หรือมีกองทนุ ไว้กยู้ ืมเพ่ือประโยชนใ์ นกิจกรรมตา่ งๆ ของชุมชน(๕) การศึกษา (โรงเรียน ทุนการศึกษา)- ชุมชนควรมีบทบาทในการสง่ เสรมิ การศกึ ษา เช่น มีกองทุนเพือ่ การศกึ ษาเล่าเรียนใหแ้ ก่เยาวชนของชมชนเอง(๖) สงั คมและศาสนา- ชุมชนควรเปน็ ท่ีรวมในการพฒั นาสงั คมและจิตใจ โดยมศี าสนาเป็นที่ยึดเหน่ยี วโดยกจิ กรรมทงั้ หมดดงั กล่าวขา้ งต้น จะต้องได้รับความรว่ มมอื จากทกุ ฝ่ายทีเ่ กี่ยวข้อง ไมว่ ่าส่วนราชการ องคก์ รเอกชน ตลอดจนสมาชิกในชมุ ชนนนั้ เปน็ สาคัญทฤษฎีใหม่ขั้นที่สาม เมือ่ ดาเนินการผา่ นพน้ ข้นั ทีส่ องแล้ว เกษตรกร หรอื กลมุ่ เกษตรกรก็ควรพฒั นากา้ วหนา้ ไปสขู่ ้นั ที่สามตอ่ ไป คือตดิ ตอ่ ประสานงาน เพื่อจัดหาทุน หรอื แหล่งเงนิ เชน่ ธนาคาร หรือบริษัท หา้ งรา้ นเอกชน มาชว่ ยในการลงทนุ และพฒั นาคุณภาพชวี ติทงั้ นี้ ทัง้ ฝา่ ยเกษตรกรและฝา่ ยธนาคาร หรือบรษิ ัทเอกชนจะได้รบั ประโยชนร์ ว่ มกัน กล่าวคอื- เกษตรกรขายขา้ วไดร้ าคาสูง (ไม่ถูกกดราคา)- ธนาคารหรอื บริษทั เอกชนสามารถซอ้ื ขา้ วบริโภคในราคาตา่ (ซือ้ ขา้ วเปลือกตรงจากเกษตรกรและมาสีเอง)- เกษตรกรซอื้ เคร่ืองอปุ โภคบริโภคได้ในราคาตา่ เพราะรวมกนั ซื้อเปน็ จานวนมาก (เปน็ ร้านสหกรณร์ าคาขายส่ง)- ธนาคารหรือบริษัทเอกชน จะสามารถกระจายบุคลากร เพอ่ื ไปดาเนนิ การในกิจกรรมตา่ งๆ ใหเ้ กดิ ผลดีย่ิงข้นึ

13ประโยชนข์ องทฤษฎใี หม่๑. ใหป้ ระชาชนพออยูพ่ อกนิ สมควรแกอ่ ตั ภาพในระดับที่ประหยัด ไมอ่ ดอยาก และเลยี้ งตนเองได้ตามหลักปรชั ญา “เศรษฐกิจพอเพียง”๒. ในหน้าแล้งมนี ้านอ้ ย กส็ ามารถเอานา้ ทีเ่ ก็บไว้ในสระมาปลกู พชื ผักต่างๆ ที่ใชน้ ้านอ้ ยได้ โดยไม่ต้องเบียดเบยี นชลประทาน๓. ในปีที่ฝนตกตามฤดกู าลโดยมีนา้ ดีตลอดปี ทฤษฎใี หม่นสี้ ามารถสรา้ งรายไดใ้ หแ้ ก่เกษตรกรไดโ้ ดยไมเ่ ดือดรอ้ นในเรือ่ งค่า ใช้จา่ ยต่างๆ๔. ในกรณที ่ีเกิดอทุ กภัย เกษตรกรสามารถที่จะฟน้ื ตัวและชว่ ยตวั เองไดใ้ นระดับหน่งึ โดยทางราชการไมต่ ้องช่วยเหลือมากนัก ซง่ึ เปน็ การประหยัดงบประมาณด้วย

14 บทที่3วิธีการดาเนินงานในการจัดทาโครงการเรื่องจุดเริม่ ต้นแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพียง ผู้จดั ทาโครงการมวี ิธกี ารดาเนนิ ตามขน้ั ตอนดังตอ่ ไปน้ี3.1 ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน 3.1.1 ศึกษาแลคน้ ควา้ ข้อมูลเกี่ยวกับเรอื่ งท่ไี ดร้ บั คอื เร่ืองจดุ เรมิ่ ต้นแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ผา่ นทางเวบ็ ไซต์ชัยพัฒนา.net และ pirun.ku.ac.th 3.1.2 รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลในการเรียบเรยี งเน้อื หา 3.1.3 นาเสนอรายงานความกา้ วหนา้ ให้กับอาจารย์ที่ปรกึ ษาโครงการ เพือ่ นามาปรบั ปรุงและแก้ไขในผลงานของตนเอง 3.1.4 จัดทาเอกสารรายงานโครงการ โดยนาเสนอในรูปแบบpower point พรอ้ มทง้ั รูปเลม่ โครงการและe book 3.1.4.1 ในการนาเสนอรูปแบบ e book และpower point ผู้จดั ทาจะวิเคราะหเ์ รยี บเรียงเน้อื หาจากรปู เล่มโรงการ

15 บทที่ 4ผลการดาเนินโครงงาน การจดั ทาโครงการเรือ่ งแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี ง มวี ัตถุประสงคเ์ พอ่ื ใหผ้ ู้คนในสงั คมเกดิ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง เปน็ แนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงตนเอง อีกทั้งยงั สามารถนาไปใช้ประโยชน์ในการพฒั นาตนเองและประเทศชาติ4.1 ผลการดาเนนิ โครงการ การนาเสนอเพื่อการพัฒนาความรขู องคนในสงั คมผูจ้ ดั ทาได้ปฏบิ ัติตามในขั้นตอนที่ 3.2.4แลว้ โดยมีการนาเน้อื หาสาระเผยแพร่ผา่ นทางe book

16 บทที่ 5สรปุ ผลอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ5.1 สรุปผลการศึกษาค้นควา้ จากการท่คี ณะผจู้ ดั ทาไดม้ กี ารศกึ ษาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ตามวตั ถุประสงค์ คือ เพื่อใหผ้ ู้คนในสังคมเกดิ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง และเปน็ แนวทางในการพฒั นาและปรับปรุงตนเอง สามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั เก่ียวกับเศรษฐกจิ พอเพยี ง ในเร่ืองของจดุ เรมิ่ ต้นแนวคิด เศรษฐกิจพอเพยี งปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ความหมายและคุณสมบัติของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ประเทศไทยกบั เศรษฐกิจพอเพียง การดาเนินชีวติ ตามแนวพระราชดาริพอเพยี ง และเกษตรทฤษฎใี หม่ เป็นตน้5.2 อภปิ รายผลจากการศึกษาคน้ คว้าโครงงาน เรอื่ งเศรษฐกิจพอเพียง จะได้วา่ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เป็นปรชั ญาชีถ้ ึงแนวการดารงอยูแ่ ละปฏิบตั ิตนของประชาชนในทกุ ระดบัตงั้ แต่ระดับครอบครัว ระดบั ชุมชน จนถึงระดับรฐั ทง้ั ในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดาเนนิ ไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกจิ เพ่ือให้กา้ วทนั ตอ่ โลกยุคโลกาภวิ ตั น์ ความหมายและคุณสมบตั ิของเศรษฐกิจพอเพียง ๑.ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีทีไ่ มน่ ้อยเกนิ ไปและไม่มากเกนิ ไป โดยไม่เบียดเบยี นตนเองและผู้อ่ืน ๒.ความมีเหตุผล หมายถงึ การตัดสินใจเก่ยี วกับระดบั ความพอเพยี งนนั้ จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล ๓.ภูมิค้มุ กนั หมายถึง การเตรียมตัวให้พรอ้ มรบั ผลกระทบและการเปลยี่ นแปลงด้านตา่ งๆที่จะเกิดขน้ึ โดยมเี งอ่ื นไขของการตัดสินใจและดาเนินกิจกรรมต่างๆใหอ้ ยใู่ นระดบั พอเพยี ง๒ ประการ ดงั นี้ ๑. เง่อื นไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรู้เกยี่ วกับวิชาการต่างๆทเี่ ก่ยี วขอ้ งรอบด้าน ๒.เงอื่ นไขคณุ ธรรม ประกอบด้วย มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนนิ ชีวติ ทฤษฎใี หม่ คือ ตัวอย่างทเี่ ป็นรปู ธรรมของ การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงที่เด่นชดั ท่ีสุด ซ่งึพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ไดพ้ ระราชทานพระราชดารินี้ เพอื่ เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรทมี่ ักประสบปัญหาท้ังภัยธรรมชาติและปัจจัยภาย นอกท่ีมีผลกระทบตอ่ การทาการเกษตร ให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตโดยเฉพาะการขาดแคลนนา้ ได้โดยไมเ่ ดือดรอ้ นและยากลาบากนัก

175.3 สรุปผลการดาเนนิ โครงการ การจัดทาโครงการจดุ เริ่มตน้ แนวคดิ เศรษฐกิจพอเพียง ผจู้ ัดทาได้ลงมอื ปฏิบัติตามข้นั ตอนท่ี 3.2.4 แล้วและทาการเผยแพรผ่ ่านทางe book เพือ่ ให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถงึ เนื้อหาสาระข้อมลู ไดส้ ะดวกมากยง่ิ ขนั้5.4 ประโยชน์ทไี่ ด้รับ 1. เกิดความสามคั คแี ละรจู้ กั ทางานรว่ มกนั ภายในกลุ่ม 2. มีความรู้เกยี่ วกับเศรษฐกิจพอเพยี ง 3. สามารถนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ส่กู ารปฏิบัตไิ ด้ 4. สามารถส่งเสรมิ ใหบ้ ุคคลที่ไดม้ าเรียนร้สู ามารถนาไปเผยแพร่ใหก้ บั บุคคลอนื่ ๆได้5.5 ข้อเสนอแนะ จากการศกึ ษาเรอื่ งเศรษฐกิจพอเพียง ผู้ศกึ ษามีข้อเสนอแนะเก่ยี วกับโครงงาน คอื1. เนื่องจากเนื้อหาของเศรษฐกจิ พอเพยี งอาจมีจานวนมาก ในการศกึ ษาคร้ังน้ีผูศ้ ึกษาอาจจะยกเน้อื หาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาบางส่วนเท่านั้น2. นาผลจากการศกึ ษาเร่ืองเศรษฐกิจพอเพียงไปสร้างเป็นสื่อในรปู แบบตา่ งๆ เชน่ นิทาน เรื่องสั้น บทละคร สมุดทามือ เป็นตน้ เพอื่ ให้เหมาะสมกบั ผรู้ บั สารทกุ เพศทกุ วัน

18 เอกสาร อา้ งองิมูลนิธิชัยพัฒน.(ม.ป.ป).เศรษฐกิจพอเพยี ง.สืบค้นเมอื่ 10 ตลุ าคม 2560,จากhttp://www.chaipat.or.th/site_content/34-13/3579-2010-10- 08- 05-24-39.htmlมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร.์ (ม.ป.ป).เศรษฐกิจพอเพียง.สืบค้นเม่อื 10 ตุลาคม 2560,จากhttp://www.eto.ku.ac.th/s-e/main-th.htmlมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.(ม.ป.ป).แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง.สบื ค้นเมอ่ื 10 ตลุ าคม 2560,จากhttp://pirun.ku.ac.th/~agrtnk/page2.html


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook