Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore activity-68

activity-68

Published by ห้องเรียนครูหยุ, 2018-09-09 09:01:17

Description: activity-68

Search

Read the Text Version

เกณฑก์ ารแข่งขันงานศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น ครง้ั ที่ 68 ปกี ารศึกษา 2561 กลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น เขตพนื้ ท่ี /ระดบั ช้นั หมาย เหตุชอื่ กิจกรรม สพป. สพม. ประเภท ป.๑-๓ ป.๔-๖ ม.๑-๓ ม.๑-๓ ม.๔-๖๑. กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผบู้ าเพญ็ ประโยชน์1.1 การผกู เงื่อน เดนิ ทรงตวั และโยนบอล  ทมี ละ 6 คน 1.2 การใชเ้ ข็มทิศและการคาดคะเนและ  ทีมละ 6 คน สะกดรอย  ทมี ละ 8 คน 1.3 การจัดการคา่ ยพกั แรม 1.4 การสร้างอปุ กรณ์เพ่ือใหบ้ ริการ   ทมี ละ 6 คน2. กิจกรรมสภานักเรียน   ทีม7-10 คน3. กิจกรรมนักเรยี นเพ่อื นที่ปรกึ ษา    ทมี ไม่เกนิ 5คน (YC : Youth Counselor)     ทมี ละ 3 คน4. กจิ กรรมสง่ เสริมนสิ ยั รกั การอ่าน     ทีมละ 3 คน 4.1 การแขง่ ขนั การทาหนังสือเลม่ เลก็ 4.2 การแข่งขันยวุ บรรณารกั ษส์ ่งเสริม 13 4 44 การอ่าน 1 1 1 รวม 10 9 รวม 4 กิจกรรม 19 รายการศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น ครง้ั ที่ ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น หน้า ๑

1. กิจกรรมลูกเสอื เนตรนารี ยวุ กาชาด ผูบ้ าเพญ็ ประโยชน์ 1.๑ การผกู เงอื่ น เดนิ ทนู ของบนศรี ษะและโยนลูกบอล 1. คณุ สมบัตผิ เู้ ขา้ แข่งขนั เปน็ ลูกเสือ – เนตรนารี หรือ ยุวกาชาด ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 – 3 1. ประเภทและจานวนผู้เข้าแขง่ ขัน ๑) แข่งขันเป็นทีม ทีมละ 6 คน แต่ละทีมอาจประกอบด้วยลูกเสือ เนตรนารีหรือยุวกาชาด อย่ใู นทีมเดยี วกนั ได้ ๒) จานวนผเู้ ขา้ แขง่ ขัน สถานศึกษาละ 1 ทีม 3. วิธดี าเนินการและรายละเอียดหลกั เกณฑ์การแขง่ ขัน ผู้เข้าแข่งขันปฏิบัติกิจกรรมการแข่งขันในการเดินทรงตัววางของบนศีรษะ โยนลูกบอล และผูกเงือ่ นตามใบงาน ดงั ตอ่ ไปน้ี 3.1 วางสมุดลูกเสือปกแข็งบนศีรษะ มือทั้งสองข้างกอดอก แขนแนบลาตัว เดินเท้าเหยียบเส้นท่ีกาหนดออ้ มส่งิ กดี ขวาง ระยะทาง 14 เมตร ไปและกลับ 3.2 โยนลกู บอล(ใชล้ กู เทนนสิ ) ลงตะกรา้ ทีผ่ กู ติดกับไมก้ ้ันระยะ 3 เมตร 3.3 ผูกเงื่อน 4 เง่อื น 1) เงือ่ นกระหวดั ไมส้ องชน้ั 2) เงอื่ นพิรอด 3) เงื่อนขัดสมาธิ 4) เงื่อนบว่ งสายธนู 3.4 ใหผ้ ้จู ัดการแข่งขันจัดเตรียมเชอื กผูกเงอ่ื นทีม่ ขี นาดเทา่ กัน ยาว 2 เมตร จานวน 5 เส้นและเชอื กไนลอนขนาดเลก็ กว่าเชือกผกู เง่ือน ยาว 2 เมตร จานวน 1 เสน้ 3.5 ผู้เข้าแขง่ ขันต้องแต่งเครอ่ื งแบบลกู เสือ - เนตรนารี หรอื ยุวกาชาด4. เกณฑก์ ารให้คะแนน4.1 เกณฑก์ ารให้คะแนน 100 คะแนน 1) ผลสาเร็จของการปฏบิ ตั ิงาน (75 คะแนน) 1.1 เดนิ วางของบนศรี ษะ คนละ 5 คะแนน 30 คะแนน 1.2 โยนลูกเทนนิสลงตะกร้า คนละ 3 ลูก ลกู ละ 1 คะแนน 18 คะแนน 1.3 ความถูกต้องของการผูกเงอ่ื น เงือ่ นละ 2 คะแนน 1๔ คะแนน 1.4 ประสทิ ธภิ าพของเชือกท่ผี กู ตอ่ กนั 1๓ คะแนน 1.4.1 ประสิทธิภาพของการผูกเงื่อน ๔ คะแนน ให้ผู้เข้าแข่งขันคนสุดท้ายดงึ เชือกที่ผูกกับไม้ก้ันต่อกนั มา และเชือกบ่วงสายธนูที่ผูกกับตัวระดับเข็มขัด ถ้าดึงแล้วเชือกหลุดให้ได้คะแนนเป็น ๐ คะแนน 1.4.2 ความเรยี บรอ้ ยของเง่อื น ๗ คะแนน โดยดจู ากปลายเชือกทใ่ี ช้ผกู เง่ือนเงือ่ นละ ๑ คะแนน ทัง้ นจี้ ะต้องเหลือปลายเชือกแตล่ ะเง่ือน ๓ – ๕ ซม. 1.4.3 วัดความยาวของเชอื กท่ผี กู จากหลกั ถึงตวั ผ้เู ข้าแข่งขนั คนสุดท้ายทมี ใดต่อเชอื กได้ยาวท่สี ุดได้ ๒ คะแนน และลดคะแนนทมี ที่ไดค้ วามยาวลดลงมาทกุ 5 ซม. ตอ่ ๐.๕ คะแนนศลิ ปหัตถกรรมนักเรียน ครง้ั ที่ ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน หน้า ๒

2) ความเปน็ ผู้นา ผู้ตาม เคร่ืองแต่งกาย (20 คะแนน) 2.1 บทบาทของหวั หน้าทีมในการสงั่ การ การควบคุมทมี 5 คะแนน 2.2 ลูกทีมเช่ือฟงั และปฏบิ ตั งิ านตามคาส่ังอย่างมีวนิ ยั 5 คะแนน 2.3 การแต่งเครอื่ งแบบครบและถกู ต้องตามประเภท 5 คะแนน 2.4 ความแคล่วคล่องวอ่ งไว ความมีวินยั 5 คะแนน3) เวลาทใ่ี ช้ ( 5 คะแนน) 3.1 ทีมทป่ี ฏบิ ัติกจิ กรรมเสรจ็ โดยใชเ้ วลานอ้ ยทส่ี ุด ได้คะแนน 5 คะแนน 3.2 ทีมท่ปี ฏบิ ตั กิ ิจกรรมเสรจ็ ใชเ้ วลามากขน้ึ ลดคะแนนลงตามส่วนทุก 1 นาที ตอ่ 1 คะแนน4.2 ผลการตัดสนิ ของคณะกรรมการถือเป็นทส่ี ิ้นสุด5. เกณฑ์การตัดสนิร้อยละ 80 – 100 ไดร้ ับรางวัลระดับเหรียญทองรอ้ ยละ 70 – 79 ไดร้ ับรางวัลระดบั เหรียญเงินร้อยละ 60 – 69 ไดร้ ับรางวลั ระดับเหรยี ญทองแดงได้คะแนนตา่ กวา่ รอ้ ยละ 60 ไดร้ บั เกียรติบตั ร เว้นแต่กรรมการมีความเห็นเปน็ อย่างอน่ื6. คณะกรรมการตดั สิน - จานวนไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๐ คน คุณสมบัตกิ รรมการ - เปน็ ผ้ทู รงคุณวฒุ ิที่มคี วามชานาญในกจิ กรรมลูกเสอื - ครผู สู้ อนลกู เสอื ทีไ่ ดร้ ับเครื่องหมายวดู แบดจ์ 2 ท่อนข้นึ ไป - ครูผ้สู อนยวุ กาชาดโดยผา่ นการฝึกอบรมหลักสูตรผนู้ าขนึ้ ไป - เปน็ ศึกษานเิ ทศกท์ รี่ บั ผิดชอบกจิ กรรมลูกเสอื ขอ้ ควรคานงึ - กรรมการต้องไมต่ ัดสินในกรณสี ถานศึกษาของตนเข้าแข่งขนั - กรรมการท่มี าจากครูผูส้ อนควรแตง่ ต้ังใหต้ ดั สนิ ในระดับชนั้ ทท่ี าการสอน - กรรมการควรมีทม่ี าจาก สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาอืน่ อย่างหลากหลาย - กรรมการควรใหข้ ้อเสนอแนะเติมเตม็ ให้กบั นกั เรยี นทเ่ี ขา้ แข่งขนั สถานทแี่ ข่งขัน สถานทจ่ี ัดแข่งขนั ควรเป็นลานกลางแจ้ง หรือหอ้ งประชุม พืน้ ราบศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียน ครง้ั ที่ ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน หน้า ๓

แผนผงั สนามแข่งขนั เดินทรงตัวทนู ของบนศีรษะและโยนบอล ตะกร้าแชรบ์ อลผูกติดกบั ไม้กั้นจดุ ผกู เง่อื น ๓ ม. ไมก้ ั้น สงู จากพ้นื 20 ซม. ซม. ๑ ม. ๕ ม. ๑ ม. ๑ ม. ๑ ม. ๑ ม. ระยะห่างระหว่างกรวย กับเสน้ 50 ซม. ๕ ม. ๑ ม. จุดเรมิ่ ๓ ม. เส้นรอ จดุ ผูกเงื่อน กรวย ตะกรา้ แชรบ์ อล สมาชกิ ในทีมผูเ้ ขา้ แข่งขนั โต๊ะ เส้นเริ่มตน้ และส้นิ สุดการเดนิ ทรงตัว กว้าง 1 น้ิว เสน้ ทางเดินทรงตัว กวา้ ง ๔ นิ้ว เส้นหยดุ รอและยืนโยนลูกบอล กว้าง 1 นิว้ศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น ครั้งที่ ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน หน้า ๔

7. การเขา้ แขง่ ขันระดับภาค 7.1 ในกรณีท่ีมีทีมชนะลาดับสูงสุดได้คะแนนเท่ากันมากกว่า 3 ทีม ให้พิจารณาลาดับท่ีตามลาดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน เช่น มีทีมท่ีได้คะแนนข้อที่ 1.1 เท่ากันให้ดูคะแนนข้อที่ 1.2 ทีมใดได้คะแนนข้อท่ี 1.2 มากกว่าถือเป็นผู้ชนะแต่ถา้ ข้อท่ี 1.2 เท่ากัน ใหด้ คู ะแนนในข้อถดั ไป กรณีคะแนนเท่ากนั ทกุ ขอ้ ใหใ้ ช้วธิ ีจับฉลาก คาแนะนาสาหรับคณะกรรมการ๑.การตัดสนิ ๑.๑ คณะกรรมการใหค้ ะแนนตามเกณฑท์ ี่กาหนด ๑.๒ การใหค้ ะแนนเคร่อื งแบบ ดคู วามถกู ต้องของการแตง่ เครอื่ งแบบตามประเภทของผู้เขา้ แขง่ ขัน ๑.๓ ทมี ที่เข้าแข่งขนั อาจจะประกอบดว้ ยลกู เสือ เนตรนารี และยวุ กาชาด อยู่ในทมี เดียวกันก็ได้ ๑.๔ คณะกรรมการมีอานาจในการส่ังการให้ผูเ้ ข้าแข่งขัน แก้ไข เปลี่ยนแปลงการแต่งกายและทรงผมหรอื พฤตกิ รรมอื่นใด ทจ่ี ะก่อให้เกดิ การได้เปรยี บเสยี เปรียบในการแข่งขัน ก่อนอนุญาตให้เข้าแขง่ ขนั ๑.๕ คณะกรรมการรวบรวมผลการแข่งขนั สรปุ และรายงานผลการแขง่ ขนั๒.การจัดเตรยี มอุปกรณ์ใชใ้ นการแขง่ ขัน ๒.๑ ลกู เทนนิสสาหรบั ใช้ในการแข่งขัน จานวนล่ลู ะ 18 ลกู ๒.๒ ตะกร้าแชร์บอล ขนาดเท่ากนั ๒.๓ สมุดลกู เสือปกแข็ง ๒.๔ นาฬิกาจบั เวลา ๒.๕ เชือกผูกเงอื่ น ขนาดเท่ากัน ยาว 2 เมตร ๒.๖ เชือกไนล่อน เส้นเลก็ กว่าเชอื กผูกเง่ือน ความยาว 2 เมตร ๒.๗ ไม้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1- 2 น้ิว ยาว 5 – 6 เมตร 2 อัน นามาต่อกัน ผูกกับหลักไว้เพือ่ ให้ผู้เขา้ แข่งขันใชผ้ กู เงอื่ นและผูกตะกรา้ แชร์บอลสาหรับการโยนลูกเทนนสิ ๒.8 โต๊ะนักเรียนหรือโตะ๊ อื่นท่ีมีขนาดใกล้เคยี ง ไว้สาหรับวางสมุดและลกู เทนนิส ลูล่ ะ ๒ ตวั ๒.9 ฉลากหมายเลข 1 - 6 ใสก่ ลอ่ งทึบแสง ๒.10 กรวยยางหรืออุปกรณ์อย่างอื่นทมี่ ลี กั ษณะเดียวกัน ๒.11 วสั ดสุ าหรบั ทาเสน้ ใช้เดนิ ทรงตวั 2.12 กระดาษกาวสีแดงและสเี หลอื งขนาดกวา้ ง 1 นิ้ว 2.13 ตะกรา้ ใส่ลกู เทนนสิ ลลู่ ะ 1 ใบ๓.การจัดเตรยี มสถานทีแ่ ข่งขนั ๓.๑ สถานทส่ี าหรับการแขง่ ขัน เป็นลานซเี มนต์พนื้ ราบ ๓.๒ จัดทาลู่ไม่น้อยกว่า 3 ลู่ ความยาวลู่ละ 22 เมตร กว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร แต่ละลู่ขีดเส้นทาเครื่องหมายและวางอุปกรณ์ดงั นี้ - ระยะ 3 เมตรแรก ตเี ส้นทบึ สีแดงกว้าง 1 นิ้ว เปน็ จดุ ยืนรอของสมาชกิ ทมี ทเี่ ขา้ แขง่ ขัน - ระหวา่ งจดุ รอถงึ จดุ เร่ิมตน้ ระยะ 1 เมตร ตีเสน้ สเี หลอื งกว้าง 1 นิ้ว วางโต๊ะ 1 ตัว สาหรบั วางสมดุ ลกู เสอื ปกแขง็ 1 เล่ม - จากจุดเริม่ ตน้ ถึงจุดส้ินสุดการเดินทรงตวั ระยะ ๑๔ เมตร ตีเส้นทึบขนาดกว้าง ๔ นิ้ว ดังรูปศิลปหัตถกรรมนักเรยี น ครั้งที่ ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน หนา้ ๕

- จากจุดสิ้นสุดการเดินทรงตัว วางโต๊ะ 1 ตัวชิดเส้นสีแดง ไว้สาหรับวางสมุดและวางตะกร้าใสล่ กู เทนนสิ ตะกรา้ ละ 18 ลกู - จากจดุ ส้ินสดุ การเดนิ ทรงตัว ระยะ 1 เมตร ตีเส้นทบึ สแี ดงกว้าง 1 นิว้ เป็นจดุ ก้นั ยืนโยนลกู บอล - จากจุดไม้ก้ัน ระยะ 3 เมตร ปักหลักผูกไม้ก้ันย่าวไม่น้อยกวา่ 9 เมตร สูงจากพ้ืน 20 เซนติเมตรไว้ให้ผู้เข้าแข่งขันคนที่ 2 ผูกเง่ือนยึดติดกับไม้และผูกตะกร้าแชร์บอลลู่ละ 1 ใบ ให้วางตะกร้าแชร์บอลลู่ละ 1 ใบโดยอาจจะนาหินหรอื อิฐ ผูกไว้นอกกน้ ตะกรา้ เพอ่ื ถ่วงยดึ กับพนื้ กันล้มได้ แต่ห้ามใช้วสั ดุอนื่ ใดใสไ่ วใ้ นตะกรา้ ๓.3 ให้ผู้เข้าแข่งขันยืนเข้าแถวที่จุดรอห่างจากจุดเริ่มต้น 1 เมตร ห้ามผู้เข้าแข่งขันล้าเส้นจากจุดรอจนกวา่ ผู้เขา้ แข่งขันคนก่อนจะกลบั มาสมั ผสั มือ 3.4 หา้ มผูเ้ ขา้ แข่งขนั ยนื เหยียบเส้นจดุ กนั้ ยนื โยนลูกบอล ๓.5 ขณะแขง่ ขนั ให้ผเู้ ขา้ แขง่ ขันถอดหมวก๔. การดาเนินการแข่งขนั ๔.๑ ผจู้ ัดการแข่งขนั ควรดาเนินการจดั การแข่งขนั ให้เสร็จส้ิน ภายใน 1 วัน ๔.๒ แจกใบงานให้ผู้เข้าแข่งขันทุกทีมพร้อมๆกัน ให้เวลาแต่ละทีมอ่านใบงาน และสังเกตการส่ังงานการปฏิบัตงิ าน ความเป็นผู้นาผ้ตู าม ๔.๓ ให้ผ้เู ข้าแข่งขันแต่ละทีม (ทุกคน) มาจบั ฉลากหมายเลข เม่ือจับไดแ้ ล้วให้ถือไวก้ ่อน หา้ มเปิดออกดูจนกว่าจะได้ยนิ สัญญาณ ให้สงั เกตการสงั่ งานของหวั หน้าทมี การปฏบิ ัติงาน ความเป็นผ้นู าผู้ตาม ๔.๔. มอบเชือกที่จัดเตรียมไว้ให้แก่หัวหน้าทีม ทีมละ 6 เส้น (ประกอบด้วยเชือกผูกเง่ือน 5 เส้นและเชอื กไนลอ่ น 1 เสน้ ) เพอ่ื ให้หวั หน้าทีมดาเนนิ การมอบเชือกใหส้ มาชกิ คนละ 1 เส้น เพ่อื ใชใ้ นการแขง่ ขัน เมื่อได้เชือกประจาตัวแล้ว ให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนเก็บเชือกประจาตัวแบบลูกเสือ เสร็จแล้วให้ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงหรือกระโปรงของแต่ละคน ๔.๕ เมอื่ ไดย้ นิ สัญญาณนกหวีด จึงเริ่มปฏบิ ัตติ ามใบงานและเริม่ จับเวลา ๔.๖ เร่ิมการแข่งขัน ให้ผู้เข้าแข่งขันคนท่ี 1 เดินจากจุดรอมาท่ีโต๊ะวางสมุด หยิบสมุดลูกเสือปกแข็งวางบนศีรษะ เอามือทั้งสองข้างกอดอกแขนแนบลาตัว เดินจากจุดเร่ิมต้นเหยียบไปบนเส้นท่ีกาหนดจนถึงจุดสิ้นสุด แล้วหยิบสมุดจากศีรษะวางไว้บนโต๊ะตัวที่ 2 หยุดและยืนหลังเส้นสีแดง หยิบลูกเทนนิสในตะกร้าครั้งละ ๑ ลูก โยนลูกเทนนิสลงตะกร้า จนครบ ๓ ลูก เสร็จแล้วให้ดึงเชือกประจาตัวจากกระเป๋าเดินข้ามเส้นสีแดงไปผูกเงื่อนกระหวัดไม้ 2 ชั้น กับไม้กั้นตรงจุดท่ีกาหนด แล้วดึงปลายเชือกไปทางจุดเร่ิมต้นให้ตึง ท้ิงปลายเชือกไว้ เดินไปหยบิ สมุดปกแข็งจากบนโต๊ะตัวที่ 2 วางบนศีรษะ เอามือกอดอกแขนแนบลาตัวเดินย้อนกลับไปตามเส้นทางเดิมจนถึงจุดเร่ิมต้น หยิบสมุดจากศีรษะวางบนโต๊ะ แล้วไปสัมผัสมือกับสมาชิกผ้เู ขา้ แขง่ ขนั คนตอ่ ไปเพ่ือเขา้ ปฏิบัติกิจกรรมดังเช่นผเู้ ข้าแข่งขันคนแรก ผูเ้ ขา้ แขง่ ขันคนใดทาสมดุ ตกระหว่างทาง ใหห้ ยดุ ตรงจุดทส่ี มุดตก หยิบสมดุ วางบนศีรษะแลว้ เดินต่อไป กรรมการตดั คะแนนผเู้ ข้าแขง่ ขนั ครงั้ ละ 1 คะแนน ทกุ ครัง้ ในกรณตี ่อไปนี้ - ทาสมดุ ตกจากศีรษะ ครง้ั ละ ๑ คะแนน - ทากรวยลม้ กรวยละ 1 คะแนน - เทา้ เดินออกนอกเส้น กา้ วละ 1 คะแนน - ใช้มือจับหรอื หยบิ สมดุ กอ่ นถึงจดุ ทีก่ าหนด ครัง้ ละ ๑ คะแนน - เทา้ เหยยี บเส้นสแี ดงขณะยนื รอและโยนลกู บอล ครัง้ ละ 1 คะแนนศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครง้ั ท่ี ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน หน้า ๖

- กรณีผู้เข้าแข่งขัน ปฏิบัติผิดขั้นตอนตามท่ีกาหนด ให้ทาการแก้ไขและแข่งขันต่อไปได้ แต่ให้ตัดคะแนน ครงั้ ละ ๑ คะแนน ๔.๗ เมื่อผเู้ ข้าแข่งขันคนต่อไปสัมผัสมือกับผู้เข้าแข่งขนั คนก่อนแล้วให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งขันคนแรกจากจุดเร่ิมต้นไปจนถึงจุดสิ้นสุดการเดินทรงตัว หยิบสมุดปกแข็งบนศีรษะวางไว้บนโต๊ะ แล้วหยิบลูกเทนนิสในตะกร้า ครั้งละ ๑ ลูก โยนลูกเทนนิสลงตะกร้า จนครบ 3 ลูก เสร็จแล้วดึงเชือกประจาตัวจากกระเป๋า ไปผูกเง่ือนกับปลายเชือกท่ีผู้เข้าแข่งขันคนก่อนท้ิงปลายเชือกไว้ เสร็จแล้วดึงปลายเชือกไปทางจุดเร่ิมต้นให้ตึงท้ิงปลายเชือกไว้ แล้วไปหยิบสมุดปกแข็งจากโต๊ะตัวที่ 2 วางบนศีรษะเดินกลับตามเส้นทางเดิมไปที่จุดเริ่มต้น หยิบสมุดปกแข็งบนศีรษะวางบนโต๊ะ แล้วไปสัมผัสมือผู้เข้าแข่งขันคนต่อไป เพ่ือปฏิบัติกจิ กรรมตามลาดบั ๔.๘ ผู้เข้าแข่งขันคนสุดทา้ ยเม่ือผูกเง่ือนตามท่ีกาหนดท้ัง 2 เงอ่ื นเสร็จสิ้นแล้ว ไม่ตอ้ งไปหยิบสมดุ จากโต๊ะตัวท่ี 2 แต่ให้ดึงปลายเชือกให้ตึง และร้องไชโยขึ้น ถือเป็นการส้ินสุดการแข่งขัน กรรมการบันทึกเวลาท่ีปฏบิ ตั ิกิจกรรมของแต่ละทมี ไว้เพื่อใชป้ ระกอบการใหค้ ะแนน ๔.๙ การวัดความยาวของเชอื ก ให้วดั จากจุดที่ผูกเชอื กไปจนถงึ สน้ เท้าของผู้เข้าแขง่ ขนั คนสุดทา้ ยทย่ี ืนในลกั ษณะท่าตรงศลิ ปหตั ถกรรมนักเรยี น ครั้งท่ี ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน หนา้ ๗

ใบงาน กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 3 การผูกเง่ือน เดินทนู ของบนศีรษะและโยนลูกบอล 1. ใหผ้ ู้เข้าแข่งขันไปยืนตั้งแถวในจุดทก่ี าหนดให้ อ่านใบงาน เมอ่ื เขา้ ใจแล้วให้ส่งใบงานคนื กรรมการกรรมการจะมอบเชอื กให้แกห่ วั หน้าทมี ทมี ละ 6 เส้น 2. ให้ทกุ คนในทีมจบั ฉลากหมายเลขลาดบั เพอื่ ปฏิบตั ิกิจกรรม 3. เม่ือได้ยินสัญญาณจากกรรมการ ให้ทุกคนเปิดอ่านหมายเลขท่ีจับฉลากได้ แล้วต้ังแถวตอนเรียงตามลาดบั หมายเลขทีจ่ บั ฉลากได้ 4. หัวหน้าทีมมอบเชือกให้สมาชิก คนละ 1 เส้น ให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจัดการเก็บเชือกประจาตัวแบบลูกเสือ เสร็จแล้วให้ใสไ่ ว้ในกระเป๋ากางเกงหรือกระโปรงแล้วปฏิบตั ดิ ังตอ่ ไปนี้ หมายเลข 1 เดินจากจุดรอหลังเส้นสีแดงไปท่ีจุดเริ่มต้น หยิบสมุดปกแข็งบนโต๊ะวางบนศีรษะ เอามือกอดอกแขนแนบลาตัว เดินจากเส้นสีเหลืองทูนสมุดปกแข็งบนศีรษะเท้าเหยียบไปตามเส้นท่ีกาหนดจนถึงเส้นสีเหลืองหยิบสมุดปกแข็งบนศีรษะวางบนโต๊ะตัวที่ 2 หยิบลูกเทนนิสในตะกร้า คร้ังละ ๑ ลูก ยืนหลังเส้นสีแดงโยนลูกเทนนิสลงตะกร้า จนครบ 3 ลูก แล้วหยบิ เชอื กจากกระเป๋าออกมาแก้ออก นาปลายเชือกข้างหนึ่งไปผูกกับไม้ก้ันด้วยเงื่อนกระหวัดไม้ 2 ช้ัน ตรงจุดที่กรรมการกาหนด ดึงปลายเชือกไปทางจุดเริ่มต้นให้ตึงปล่อยเชือกทิ้งไว้ แล้วไปหยิบสมุดปกแข็งจากโต๊ะวางบนศีรษะ มอื กอดอกแขนแนบลาตัว เดินจากเสน้ สเี หลืองกลับไปตามเส้นทางเดิม ถึงเส้นสีเหลืองให้หยิบสมุดปกแข็งบนศีรษะวางบนโต๊ะ แล้วว่ิงไปสัมผัสมือกับผู้เขา้ แข่งขันคนต่อไป เสร็จแล้วใหอ้ อกจากลู่แขง่ ขัน หมายเลข 2 ปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 1 แต่ให้นาเชือกไปผูกต่อกับปลายเชือกของหมายเลข 1 ด้วยเงอื่ นพริ อด หมายเลข 3 ปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 2 และให้นาเชือกไปผูกต่อกับปลายเชือกของหมายเลข 2 ดว้ ยเงอื่ นพริ อด หมายเลข 4 ปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 2 และให้นาเชือกไปผูกต่อกับปลายเชือกของหมายเลข 3 ดว้ ยเงอ่ื นขัดสมาธิ หมายเลข 5 ปฏิบตั ิเช่นเดียวกบั ผเู้ ขา้ แข่งขนั หมายเลข 2 และใหน้ าเชอื กไปผูกตอ่ กบั ปลายเชือกของหมายเลข 4 ด้วยเงอ่ื นขัดสมาธิ หมายเลข 6 ปฏิบัติเช่นเดียวกบั ผูเ้ ขา้ แข่งขันหมายเลข 2 และให้นาปลายเชือกดา้ นหน่ึงไปผูกตอ่ กับปลายเชือกของหมายเลข 5 ด้วยเงื่อนพิรอด เสร็จแล้วนาปลายเชือกอีกด้านหน่ึงผูกเง่ือนบ่วงสายธนูกับตัวระดับเข็มขัด ดึงปลายเชือกท่ีคล้องตนเองไปทางจุดเร่ิมต้นให้ตึง เมื่อเชือกตึงแล้วให้ร้อง “ไชโย” ถือเป็นการส้ินสุดการแข่งขัน ไม่ต้องไปหยิบสมุดเดินย้อนมาทีจ่ ุดเริ่มต้น แต่ให้ยืนน่ิงไว้จนกว่ากรรมการจะตรวจใหค้ ะแนนเสรจ็ จึงออกจากล่แู ข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครง้ั ท่ี ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น หน้า ๘

1.2.การใช้เขม็ ทิศ การคาดคะเนและสะกดรอย1. คุณสมบัติผเู้ ข้าแขง่ ขัน เป็นลกู เสอื -เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บาเพ็ญประโยชน์ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 - 62. ประเภทและจานวนผเู้ ขา้ แข่งขนั 2.1 การแข่งขันใช้ระบบการแข่งขันแบบทีม แต่ละทีมอาจประกอบด้วยลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาดหรอื ผบู้ าเพ็ญประโยชนอ์ ยใู่ นทีมเดยี วกนั ได้ 2.2 ทีมเข้าร่วมแข่งขัน มจี านวนผู้เข้าแข่งขนั ทมี ละ ๖ คน 2.3 สถานศกึ ษาสามารถส่งทีมเขา้ รว่ มการแขง่ ขนั ไดส้ ถานศึกษาละ 1 ทมี3. วธิ ดี าเนนิ การและรายละเอยี ดหลักเกณฑก์ ารแขง่ ขนั 3.1 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันปฏิบัติตามคาสั่งในใบงานที่กาหนดให้ โดยใช้เข็มทิศ การคาดคะเนและการสะกดรอยประกอบการหาตาแหนง่ และเป้าหมาย 3.2 ใหท้ มี เข้าร่วมการแข่งขันเดินทางโดยใช้เข็มทศิ และเคร่ืองหมายสะกดรอย ไปตามจุดทก่ี าหนดให้และตอบคาถามในใบงานใหค้ รบถว้ น 3.3 คณะกรรมการจดั การแข่งขัน เป็นผูจ้ ดั เตรียมอุปกรณ์ให้ครบถ้วนทกุ รายการ 3.4 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันต้องแต่งเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บาเพ็ญประโยชน์ให้ถูกต้องตามกฎกระทรวงว่าด้วยเครือ่ งแบบ4. เกณฑก์ ารให้คะแนน (100 คะแนน)4.1 ความสาเร็จของงาน ( 54 คะแนน)1) คน้ พบเป้าหมาย จานวน 10 จดุ 30 คะแนน2) ตอบคาถามคาดคะเนระยะทาง จานวน 2 จุด 6 คะแนน3) ตอบคาถามคาดคะเนความสงู จานวน 2 จดุ 6 คะแนน4) ตอบคาถามการหามุมแอซิมทั (Azimuth) จานวน 2 จุด 6 คะแนน5) ตอบคาถามจากการสะกดรอย จานวน 2 จดุ 6 คะแนน4.2 การใชเ้ ขม็ ทิศ 10 คะแนน4.3 การคานวณระยะทาง 10 คะแนน๔.๔ การคาดคะเน ๑๐ คะแนน4.๕ การแตง่ กายและระบบหมู่ (๑๑ คะแนน)1) บทบาทหัวหน้าทีม 5 คะแนน๒) การแตง่ เคร่ืองแบบถูกตอ้ ง ครบถว้ น ความมีวนิ ยั และเป็นระเบียบเรียบร้อย ๖ คะแนน4.๖ เวลาทใี่ ชใ้ นการทากจิ กรรม 45 นาที ( 5 คะแนน)1) ทีมเขา้ ร่วมการแข่งขันปฏบิ ัติกิจกรรมเสร็จภายในเวลาทก่ี าหนด ๕ คะแนน2) ทมี เข้าร่วมการแข่งขนั ใช้เวลาเกินจากทก่ี าหนด ตดั คะแนน 1 คะแนน ต่อ 2 นาทีศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครง้ั ที่ ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น หนา้ ๙

5. เกณฑก์ ารตัดสินไดค้ ะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80-100 ได้รบั รางวัลระดับเหรียญทองไดค้ ะแนนเฉล่ียร้อยละ 70-79 ไดร้ ับรางวัลระดับเหรยี ญเงนิได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 60-69 ไดร้ ับรางวลั ระดับเหรียญทองแดงได้คะแนนตา่ กวา่ รอ้ ยละ 60 ได้รบั เกียรติบัตร เว้นแตค่ ณะกรรมการจัดการแข่งขันมีความเหน็ เป็นอย่างอน่ื6. คณะกรรมการตดั สิน จานวนไมน่ อ้ ยกว่า ๑5 คน 6.1 คณุ สมบัตกิ รรมการ 1) ผทู้ รงคณุ วุฒทิ มี่ ที กั ษะและประสบการณใ์ นการใชเ้ ขม็ ทิศ การคาดคะเน การสะกดรอย 2) ครผู ูส้ อนกิจกรรมลกู เสือ-เนตรนารี ทีไ่ ดเ้ ครื่องหมายวดู แบดจ์ 2 ท่อนข้ึนไป 3) ครสู อนยวุ กาชาด โดยผ่านการฝึกอบรมหลกั สตู รผูน้ าขึ้นไป 4) ครผู ูส้ อนผู้บาเพ็ญประโยชน์ โดยผา่ นการฝกึ อบรมหลักสตู รหัวหน้าหน่วยข้นึ ไป 5) กรรมการอย่างนอ้ ย 1 คน ควรผ่านการอบรมวชิ าแผนท่ี-เข็มทศิ หรอื มปี ระสบการณใ์ นการสอนวชิ าเข็มทิศ การคาดคะเน การสะกดรอย 6.2 ขอ้ ควรคานงึ 1) กรรมการตดั สนิ ตอ้ งไมต่ ัดสินในกรณีที่สถานศึกษาของตนเขา้ แข่งขัน 2) กรรมการตดั สินควรมาจากสถานศึกษาหรือสานกั งานเขตพ้นื ทที่ หี่ ลากหลาย7. การเขา้ แข่งขันระดบั ภาค 7.1 ในกรณีที่มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันชนะลาดับสูงสุด ได้คะแนนเท่ากันมากกว่า 3 ทีม ให้พิจารณาลาดับท่ีตามลาดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน คือ ถ้าคะแนนรวมเท่ากัน ให้ตัดสินด้วยคะแนนรวมในข้อที่4.1 ถ้าคะแนนรวมในข้อท่ี 4.1 เท่ากัน ให้ตัดสินด้วยคะแนนรวมในข้อท่ี 4.1 รวมกับคะแนนรวมในข้อที่4.2 และ ๔.๓ ทีมใดได้คะแนนมากกวา่ ให้ถอื เป็นผู้ชนะ แต่ถ้าคะแนนยังคงเทา่ กันอกี ใหใ้ ช้คะแนนรวมในขอ้ ถัดไปตดั สิน กรณีคะแนนรวมเทา่ กนั ทุกขอ้ ใหต้ ดั สินด้วยวธิ ีการจับฉลากศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียน ครงั้ ท่ี ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน หนา้ ๑๐

คาแนะนาสาหรับกรรมการ๑.การตดั สนิ ๑.๑ คณะกรรมการให้คะแนนตามเกณฑท์ ี่กาหนด ๑.๒ การใหค้ ะแนนเครอ่ื งแบบ ดคู วามถกู ตอ้ งของการแต่งเครอ่ื งแบบตามประเภทของผู้เขา้ แข่งขนั ๑.๓ ทมี ทีเ่ ขา้ แข่งขัน อาจจะประกอบด้วยลกู เสอื เนตรนารี ยวุ กาชาดและผูบ้ าเพ็ญประโยชน์ อยู่ในทมี เดยี วกันก็ได้ ๑.๔ คณะกรรมการมีอานาจในการสัง่ การใหผ้ เู้ ข้าแข่งขนั เก็บอุปกรณเ์ ครื่องมือสอื่ สารของผเู้ ข้าแข่งขันเปลี่ยนอาวุธประจากาย และอปุ กรณ์อ่นื ใด ที่จะกอ่ ให้เกิดการได้เปรยี บเสยี เปรียบในการแขง่ ขนั ก่อนอนญุ าตใหเ้ ขา้ แข่งขนั ๑.๕ คณะกรรมการรวบรวมผลการแขง่ ขัน สรุป และรายงานผลการแข่งขนั๒.การจัดเตรียมอุปกรณ์ใช้ในการแข่งขัน ๒.1 เข็มทศิ แบบซิลวา จานวน 2 เรือน/ทมี และเป็นเขม็ ทศิ รุ่นเดียวกันท้ังหมดทใ่ี ช้ในการแขง่ ขัน ๒.๒ ผา้ สแี ดง สเี หลือง สฟี า้ สลี ะ ๒ ผืน : ทีม ๒.๓ ไมพ้ ลอง สารองสาหรับผู้เขา้ แขง่ ขันทใี่ ช้ไมพ้ ลองผิดกติกา จานวนไม่น้อยกว่า ๓๐ อนั ๒.๔ นาฬกิ าจบั เวลา ๒.๕ ไมแ้ ละธงสี สาหรบั เป็นเครือ่ งหมายในการคาดคะเนความสูง และความกวา้ ง ๒.๖ แผน่ รองเขียนกระดาษใบงานและคาตอบ ทมี ละ ๑ แผน่๓.การจดั เตรยี มสถานทใี่ ชใ้ นการแข่งขนั ๓.๑ จดั เตรียมสถานทก่ี ารแขง่ ขนั ใหเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม และมีต้นไมเ้ ปน็ ทว่ี างจุดอยา่ งน้อย5 เส้นทาง ๓.๒ แต่ละเสน้ ทางให้มจี ดุ ในการเดนิ เขม็ ทิศและปฏบิ ตั ิกิจกรรม จานวน ๑๐ จุด ระหว่างจดุใหม้ ีระยะทางและกิจกรรม ดังน้ี ๓.๒.๑ ระยะทางระหวา่ งจดุ ตง้ั แต่ 35 – 45 เมตร จานวน ๓ ระยะทาง ใหม้ กี ิจกรรมสะกดรอย ๒ จุด ๓.๒.๒ ระยะทางระหวา่ งจุด ต้ังแต่ ๔๕ – 60 เมตร จานวน 4 ระยะทาง ให้มีกจิ กรรมคาดคะเนความสงู ของวตั ถุ ๑ จดุ และคาดคะเนความกวา้ ง ๑ จุด ๓.๓.๓ ระยะทางระหวา่ งจุด ต้ังแต่ ๗๕ – 90 เมตร จานวน ๓ ระยะทาง ให้มกี จิ กรรมคาดคะเนความสูงของวัตถุ ๑ จดุ และคาดคะเนความกวา้ ง ๑ จดุ ๓.๓.๔ จุดท่มี ีกิจกรรมคาดคะเนความสูงของวัตถุ ใหบ้ อกตาแหน่งท่ตี ้งั ของวตั ถุน้ันเป็นคา่ มุมแอซิมทั (Azimuth) ด้วย ๓.๓ การจัดทาสนามแขง่ ขัน ๓.๓.๑ กาหนดเส้นทางโดยบอกค่ามุมแอซิมัท (Azimuth) และกาหนดระยะทางเป็นเมตรให้ผู้เข้าแข่งขันเดินไปสู่เป้าหมายเพื่อบันทึกรหัสคาตอบ จานวน 10 จุด รหัสคาตอบแต่ละจุดควรติดต้ังให้สามารถมองเห็นได้ในระดับสายตา แต่ไม่ควรใช้รหัสคาตอบที่เป็นอักษรหรือตัวเลขเรียงลาดับที่ผู้เข้าแข่งขันคาดเดาได้ ๓.๓.๒ เสน้ ทางท่ีกาหนดให้มีกิจกรรมสะกดรอย ใหท้ าเคร่ืองหมายสะกดรอย ใหผ้ ู้เข้าแขง่ ขันหาคาตอบ และปฏิบัตติ ามคาส่ังในรหสั คาตอบนั้น เพือ่ เดนิ ทางตอ่ ไป เครื่องหมายสะกดรอยท่กี าหนดนี้ ใหเ้ ว้นชว่ ง ไม่ควรวางต่อเนื่องกันศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น คร้งั ท่ี ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น หนา้ ๑๑

๔. การดาเนนิ การแขง่ ขัน ๔.๑ ทีมที่เขา้ แขง่ ขนั รายงานตัวลงทะเบยี น ๔.๒ กรรมการตรวจเคร่ืองแบบ ๔.๓ หวั หน้าทมี จบั ฉลากลาดับทเี่ ขา้ แข่งขัน และเส้นทางที่จะเข้าแข่งขัน ๔.๔ กรรมการดาเนินการแข่งขนั โดยปฏิบัตติ ามข้ันตอนต่อไปนี้ ๔.๔.๑ กรรมการให้สมาชกิ ในทีมทุกคนจบั ฉลาก ผทู้ าหนา้ ทปี่ ระจาทีม - ผูใ้ ชเ้ ข็มทศิ จานวน ๒ คน ให้ผูกผา้ สีแดง - ผคู้ านวณระยะทาง จานวน ๒ คน ใหผ้ กู ผ้าสเี หลอื ง - ผู้คาดคะเนและสะกดรอย จานวน ๒ คน ให้ผูกผ้าสีฟา้ ๔.๔.๒ กรรมการมอบใบงาน กระดาษคาตอบ และเข็มทิศ ๔.๔.๓ กรรมการจบั เวลา และให้สญั ญาณเรมิ่ ต้นการแขง่ ขนั ๔.๕ กรรมการให้คะแนนความเป็นผู้นา การใช้เข็มทิศ การคานวณระยะทาง การคาดคะเน และการสะกดรอย ต้องติดตามและสังเกตการทางานของทุกทีมท่ีเข้าร่วมการแข่งขัน โดยให้คะแนนตามเกณฑ์การแขง่ ขัน ๔.๖ เวลาท่ีใช้ในการแข่งขัน ไม่เกิน ๔๕ นาที การให้คะแนนเวลาท่ีใชใ้ นการแข่งขนั เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีกาหนด เมื่อหมดเวลาแข่งขัน ให้กรรมการเป่านกหวีดให้สัญญาณยุติการปฏิบัติกิจกรรม และเร่ิมตัดคะแนนเวลา ๔.๗ ควรจะจัดการแข่งขันให้เสร็จส้ินภายใน ๑ วัน หากไม่สามารถดาเนินการได้ ให้กรรมการปรบั เปลยี่ นใบงาน เสน้ ทาง และกจิ กรรมการแข่งขันศลิ ปหัตถกรรมนักเรียน ครง้ั ที่ ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน หนา้ ๑๒

ใบงาน กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี นชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 การใชเ้ ข็มทิศ การคาดคะเนและสะกดรอย ............... ทีมของท่านได้รับมอบหมายให้เดินทางสารวจตามเส้นทางท่ีกาหนด ภายในเวลา ๔๕ นาทีโดยใช้เข็มทิศ และทักษะทางลูกเสือในการคาดคะเน และการสะกดรอย ให้ปฏิบัติกิจกรรมตามคาสั่งและบันทึกคาตอบลงในกระดาษคาตอบ เมื่อปฏิบัติกจิ กรรมเสร็จให้รอ้ ง “ไชโย” แล้วเดินทางไปพบกรรมการท่จี ดุ รบั คาสงั่ ส่งกระดาษคาตอบและเขม็ ทิศคนื คณะกรรมการจดั การแข่งขัน .......................................ตวั อย่างคาส่ังและกระดาษคาตอบ เสน้ ทางท่ี .....ทมี โรงเรียน..................................................เขตพื้นท่ีการศกึ ษา...........................................................................ลาดบั ที่ คาสงั่ คาตอบ๑ จากจดุ เริ่มต้น ใช้เข็มทิศตง้ั มุม......องศา เดินทางไป รหสั คาตอบ ท่ี ๑ คือ .........ระยะทาง.......เมตร จะพบรหัสคาตอบที่ ๑๒ จากจุดท่ีพบรหสั คาตอบท่ี ๑ ใช้เข็มทิศต้งั มมุ ......องศา รหัสคาตอบท่ี ๒ คือ .........เดินทางต่อไประยะทาง.......เมตร จะพบรหัสคาตอบที่ ๒ ความกว้าง.......เมตรและใหค้ าดคะเนความกวา้ งระหว่าง......ถงึ .......๓ จากจุดท่ีพบรหสั คาตอบที่ ๒ ใช้เข็มทิศตงั้ มุม......องศา เครอื่ งหมายสะกดรอยท่ี ๑ คือ....เดินทางไประยะทาง...๓๘....เมตร จะพบเคร่ืองหมาย คาสงั่ ใหป้ ฏิบตั ิ.............................สะกดรอย ที่ ๑ และคาสง่ั ให้ปฏิบัติต่อไป (เดนิ ทางไป......เมตร มุม......องศา)๔ จากคาสงั่ ของเครื่องหมายสะกดรอยท่ี ๑ ออกเดินทาง รหสั คาตอบที่ ๓ .........ต่อไป จะพบรหัสคาตอบที่ ๓ และใหค้ าดคะเนความสงู ความสงู .......เมตรของ.............และตาแหนง่ ที่ตงั้ ของ........ มมุ .......องศาฯลฯศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครัง้ ท่ี ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน หน้า ๑๓

1.3 การจัดค่ายพักแรม (Pre - Camping) 1. คณุ สมบัติผเู้ ขา้ แขง่ ขัน เปน็ ลกู เสือ เนตรนารี ยุวกาชาด หรือ ผ้บู าเพญ็ ประโยชน์ ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 – 3 2. ประเภทและจานวนผู้เข้าแขง่ ขนั 2.1 การแขง่ ขนั ใชร้ ะบบการแขง่ ขันแบบทีม แต่ละทีมอาจประกอบดว้ ยลูกเสอื เนตรนารียวุ กาชาดหรอื ผบู้ าเพ็ญประโยชนอ์ ยใู่ นทมี เดียวกันได้ 2.2 ทมี เขา้ ร่วมแขง่ ขัน มจี านวนผู้เขา้ แข่งขันทีมละ 8 คน 2.3 สถานศกึ ษาสามารถสง่ ทีมเข้าร่วมการแขง่ ขนั ไดส้ ถานศึกษาละ 1 ทมี 3. วธิ ีดาเนินการและรายละเอียดหลกั เกณฑก์ ารแขง่ ขนั 3.1 ผเู้ ขา้ แขง่ ขันจดั เตรยี มอุปกรณก์ ารแข่งขนั มาเอง ตามรายการต่อไปนี้ 1) ผ้าใบหรือผา้ ยางขนาดกวา้ ง 4-5 เมตร ยาว 6-8 เมตร จานวน 1 ผืน 2) จาน ชาม ช้อนสาหรบั สมาชิกในทมี ใชร้ ับประทานอาหาร 3) ธงชาติ 1 ผนื และเชอื กผกู ธง ยาว 9 เมตร 1 เส้น 4) ไมง้ ่ามประจาตวั ผูเ้ ขา้ แขง่ ขัน คนละ 1 อัน 5) ไม้ไผ่สีธรรมชาติท่ีไม่มีกิ่งก้าน ไม่ตกแต่ง ไม่ลิดข้อ หรือทาเคร่ืองหมายใด ๆขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 2 - 4 นว้ิ ยาว 2 เมตร จานวน 28 อัน 6) เขยี งและมีดทาครวั 2 เลม่ 7) เคร่ืองมือท่ีจาเป็นเหมาะสมกับการทากิจกรรมตามใบงาน จานวนรวมไม่เกิน 20 ช้ิน(หา้ มใช้เคร่ืองมอื ท่ีใช้ไฟฟา้ หรือแบตเตอร)ี่ 8) เชือกมะนิลาหรือเชือกไยยักษ์ (ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์โพลีโพรพีลีน) ขนาดเสน้ ผ่าศูนยก์ ลาง 4 – 8 มลิ ลิเมตร ยาว 3 เมตร จานวน 80 เส้น 9) ไขไ่ ก่หรือไขเ่ ปด็ จานวน 8 ฟอง 10) ไก่สดทั้งตัวที่ควักเอาเคร่ืองในออกแล้วแต่ยังไม่ได้ชาแหละ จานวน 1 ตัวและเครอ่ื งปรุง 11) ขา้ วสารใชห้ งุ ขา้ วสาหรับสมาชิก 8 คน 12) ไฟเช็คหรือไม้ขดี ไฟ และขีไ้ ต้ 1 กอ้ น/แทง่ 13) ไมฟ้ ืนผ่าและผูกเปน็ มดั หนกั ไมเ่ กนิ 6 กโิ ลกรมั 14) ใบตองหรอื ใบไม้ 1 พบั หนกั ไมเ่ กินคร่งึ กโิ ลกรมั 15) น้าขวด ขนาด 6 ลิตร จานวน 5 ขวด 16) กะละมงั พลาสติกปากกว้างไมเ่ กนิ 40 เซนตเิ มตร ใช้ลา้ งอุปกรณ์การครวั 1 ใบ 17) ถงุ มอื /ถุงแขนกนั แดด 18) กาวลาเท็กซ์ ขนาดไม่เกิน 8 ออนซ์ หรือกาวร้อน ขนาดไม่เกิน ๑๐๐ ซีซี.จานวน 2 หลอด/ขวด 3.2 กรรมการเป็นผกู้ าหนดพน้ื ทีไ่ มน่ ้อยกว่า 80 ตารางเมตรให้ผเู้ ขา้ แข่งขันแตล่ ะทมี 3.3 ผู้เข้าแข่งขันนาอุปกรณ์ที่จัดเตรียมไปวางไว้ในพื้นที่แข่งขันก่อนเริ่มการแข่งขัน ให้กรรมการตรวจอปุ กรณ์และเครื่องแบบพร้อมกัน อปุ กรณใ์ ดท่ไี มไ่ ด้ระบุในข้อ 3.1 ใหน้ าออกจากพืน้ ท่แี ข่งขนั 3.4 กรรมการมอบใบงานให้ผู้เขา้ แข่งขนั เสร็จแลว้ ให้เป่านกหวีดเรมิ่ จบั เวลาการแขง่ ขนัศิลปหัตถกรรมนักเรยี น ครงั้ ท่ี ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น หน้า ๑๔

3.5 ให้ทีมผู้เข้าแข่งขันร่วมกันนาอุปกรณ์ท่ีจัดเตรียมไปดาเนินการจัดกิจกรรมตามใบงานให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 3 ชวั่ โมงโดยใหม้ อี งค์ประกอบตามใบงาน3.6 ผแู้ ขง่ ขนั ต้องแต่งเครื่องแบบลูกเสอื เนตรนารี ยุวกาชาด หรอื ผูบ้ าเพ็ญประโยชน์4. เกณฑก์ ารให้คะแนน4.1 เกณฑ์การใหค้ ะแนน 100 คะแนน1) ความถูกตอ้ งและประสิทธภิ าพใชง้ าน 75 คะแนน1.1 เสาธงลอย ขนาด รปู แบบ การผูกเง่ือนและประสทิ ธิภาพใช้งาน 10 คะแนน1.2 เคร่ืองมือ ทเี่ ก็บเคร่ืองมือ การใช้ ความปลอดภัย การบารงุ รกั ษา 10 คะแนน1.3 การหุงข้าวและประกอบอาหารชาวค่ายโดยใชไ้ ม้ไผ่เป็นภาชนะหุงตม้ 10 คะแนน1.4 เตาประกอบอาหาร รปู แบบและประโยชนใ์ ชง้ าน 10 คะแนน1.5 ประตูค่ายและรัว้ รูปแบบ สดั สว่ น ประโยชน์ใช้งาน 10 คะแนน1.6 เพงิ พัก รูปแบบและประโยชน์ใชง้ าน 10 คะแนน1.7 โต๊ะสนามและม้าน่ังสาหรบั รับประทานอาหาร 15 คะแนน2) ความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ และความสะอาด 10 คะแนน2.1 ความเป็นระเบยี บเรียบรอ้ ยและความคดิ สรา้ งสรรค์ในการจัดการค่ายพักแรม 5 คะแนน2.2 ความสะอาด การจัดการขยะมลู ฝอย 5 คะแนน3) ความเปน็ ผนู้ า ผตู้ าม เครอื่ งแบบ 10 คะแนน3.1 บทบาทของหัวหน้าทมี การวางแผน การสง่ั งาน ความร่วมมอื ของสมาชิก ตั้งแต่เริ่มวางแผนจนสิ้นสุด 5 คะแนน3.2 การแตง่ เคร่ืองแบบ ความมวี ินัยและความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ยของเคร่ืองแบบ ในขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม 5 คะแนน4) เวลาท่ีใช้ 3 ช่ัวโมง 5 คะแนน4.1 เสร็จภายในเวลาท่กี าหนด 5 คะแนน4.2 เสรจ็ เลยเวลาที่กาหนด ตัดคะแนน 1 คะแนนต่อ 2 นาที4.2 ผลการตดั สนิ ของคณะกรรมการถอื เป็นทส่ี นิ้ สุด5. เกณฑ์การตัดสนิคะแนนร้อยละ 80 – 100 ไดร้ ับรางวัลระดบั เหรียญทองคะแนนร้อยละ 70 – 79 ไดร้ ับรางวลั ระดับเหรยี ญเงนิคะแนนร้อยละ 60 – 69 ไดร้ ับรางวลั ระดบั เหรยี ญทองแดงไดค้ ะแนนต่ากว่ารอ้ ยละ 60 ได้รบั เกยี รตบิ ตั ร เวน้ แตก่ รรมการมีความเหน็ เป็นอยา่ งอ่นืศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น ครั้งท่ี ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น หนา้ ๑๕

6. คณะกรรมการตดั สิน จานวนอยา่ งนอ้ ย 15 คน คุณสมบตั ขิ องกรรมการ - เป็นผ้ทู รงคุณวุฒิท่มี ที ักษะและประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมลูกเสือ - ครูผูส้ อนกจิ กรรมลูกเสือทีไ่ ด้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ 2 ทอ่ นข้ึนไป - ครผู สู้ อนยุวกาชาดโดยผา่ นการฝกี อบรมหลกั สูตรผู้นาขึน้ ไป - ครผู ้สู อนผ้บู าเพญ็ ประโยชน์โดยผา่ นการฝกึ อบรมหลักสตู รหวั หนา้ หนว่ ยขนึ้ ไป - กรรมการอย่างน้อย 1 คนควรผ่านการอบรมวิชาการบุกเบิกหรือมีประสบการณ์ในการสร้างงาน บกุ เบิกและการจดั ค่ายพกั แรม ข้อควรคานงึ - กรรมการตอ้ งไม่ตดั สินในกรณสี ถานศึกษาของตนเข้าแข่งขัน - กรรมการควรมาจากสถานศึกษาหรือสานักงานเขตพืน้ ทที่ ีห่ ลากหลาย - กรรมการควรใหก้ ารเสนอแนะเตมิ เต็มใหก้ บั ทีมที่เข้าแขง่ ขนั และผู้ชนะในลาดบั ที่ 1 – 37. การเข้าแขง่ ขนั ระดบั ภาค 7.1 ในกรณีที่มีทีมชนะลาดับสูงสุดได้คะแนนเท่ากันมากกว่า 3 ทีม ให้พิจารณาลาดับที่ตามลาดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน คือ ถ้าคะแนนรวมเท่ากันให้ดูทีมท่ีได้คะแนนข้อท่ี 1) มากกว่าเป็นผู้ชนะถ้าคะแนนข้อท่ี 1) เท่ากันให้ดูคะแนนรวมข้อที่ 1) และ 2) ทีมใดคะแนนมากกว่าถือว่าเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าคะแนนเท่ากนั อกี ใหด้ ูคะแนนข้อถัดไป กรณคี ะแนนเท่ากันทุกขอ้ ให้ใชว้ ิธจี บั ฉลากศลิ ปหตั ถกรรมนักเรยี น ครั้งที่ ๖8 ปีการศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หน้า ๑๖

คาแนะนาสาหรับกรรมการ๑.การตดั สนิ ๑.๑ คณะกรรมการใหค้ ะแนนตามเกณฑ์ท่ีกาหนด ๑.๒ การใหค้ ะแนนเครือ่ งแบบ ดูความถูกตอ้ งของการแตง่ เคร่ืองแบบตามประเภทของผู้เข้าแขง่ ขันรวมถึงความเรยี บร้อยของเคร่ืองแบบขณะปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ๑.๓ ทมี ท่เี ข้าแข่งขนั อาจจะประกอบด้วยลกู เสือ เนตรนารี ยวุ กาชาดและผู้บาเพ็ญประโยชน์ อย่ใู นทมี เดียวกันก็ได้ ๑.๔ คณะกรรมการมีอานาจในการสั่งการห้ามผู้เข้าแข่งขันใช้อุปกรณ์ที่ไม่กาหนดในเกณฑ์ เช่น เชือกประจาตัว เครื่องมือสื่อสาร และอุปกรณ์อ่ืนใด ที่จะก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขันกอ่ นอนญุ าตใหเ้ ข้าแขง่ ขนั ๑.๕ คณะกรรมการรวบรวมผลการแขง่ ขนั สรุป และรายงานผลการแขง่ ขัน๒.การจัดเตรยี มสถานที่ใชใ้ นการแขง่ ขัน ๒.๑ จัดเตรียมสถานทส่ี นามแข่งขันให้ทุกทีมสามารถแขง่ ขันไดใ้ นบรเิ วณเดยี วกนั ๒.๒ ขนาดของพน้ื ทแ่ี ขง่ ขัน ทีมละไมน่ อ้ ยกวา่ 80 ตารางเมตร๓. การดาเนนิ การแขง่ ขนั ๓.๑ ทมี ทเ่ี ข้าแขง่ ขันรายงานตัวลงทะเบียน จบั ฉลากพ้ืน นาอุปกรณ์เข้าไปวางในพืน้ ทแี่ ข่งขัน ๓.๒ กรรมการตรวจเคร่ืองแบบพรอ้ มกับการตรวจอปุ กรณ์ ๓.๓ กรรมการดาเนินการแข่งขัน โดยปฏิบัติตามขน้ั ตอนตอ่ ไปนี้ ๓.๓.๑ กรรมการมอบใบงานใหแ้ กห่ วั หนา้ ทมี ๓.๓.๒ กรรมการใหส้ ัญญาณเร่ิมการแขง่ ขนั ๓.๓.๓ กรรมการเดินตรวจ สงั เกต ตดิ ตามการปฏิบัตงิ านของทมี โดยใกลช้ ิดเพือ่ ประกอบการใหค้ ะแนนตามเกณฑก์ ารตดั สิน ๓.๓.๔ กรรมการใหส้ ัญญาณหมดเวลา ๓.๓.๕ กรรมการตรวจ ใหค้ ะแนน รวมคะแนนและรายงานผล ๓.๔ ควรจะจดั การแข่งขันให้เสร็จสน้ิ ภายใน ๑ วนั๔. คาแนะนาทั่วไป 4.๑ กรรมการตรวจนบั อุปกรณข์ องผเู้ ข้าแขง่ ขนั แต่ละทีมใหเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์ท่ีกาหนด หา้ มผเู้ ขา้ แขง่ ขันนาวัสดอุ ุปกรณ์อ่นื ใดนอกจากที่กาหนดใหเ้ ขา้ ไปในพนื้ ที่แข่งขนั ๔.๒ กรรมการให้ผ้เู ขา้ แข่งขนั ขนย้ายอุปกรณ์ทีไ่ มเ่ ปน็ ไปตามเกณฑ์ออกจากพน้ื ทแ่ี ขง่ ขัน ๔.๓ กรรมการไม่ควรอนญุ าตใหผ้ ู้เข้าแขง่ ขนั นาอุปกรณส์ ื่อสารทุกชนดิ เขา้ ไปในพน้ื ที่แข่งขนั ๔.๔ กรรมการติดตามสังเกตการปฏิบัติงาน การสั่งงาน การวางแผน ความเป็นผู้นาผู้ตาม ตลอดเวลา ๔.๕ การให้คะแนนความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์และความสะอาด ให้พิจารณาจากการนาเศษวัสดุท่ีเกิดการทางานมาออกแบบ จัดเก็บหรือนากลับมาใช้ประโยชน์ในการจัดกิจกรรม รวมถึงความสะอาดและความเรียบร้อยในการจัดวางตาแหน่ง และองค์ประกอบของค่าย การตกแต่งประตู ร้ัว เตา การประกอบอาหาร ที่วางเครื่องมือ การจัดทาเพิงพักและที่รับประทานอาหาร เสาธงลอย การจัดสขุ าภิบาลและอ่นื ๆ โดยใช้อุปกรณ์ที่จัดเตรยี มมาตามกตกิ าเทา่ น้ันศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ ๖8 ปีการศึกษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน หนา้ ๑๗

๔.๖ เวลาที่ใช้ในการแข่งขัน 3 ชั่วโมง นับจากเริ่มต้นการแข่งขันจนสร้างงานตั้งค่ายพักแรมและประกอบอาหารเสรจ็ สนิ้ หลังจากผู้เขา้ แข่งขนั ร้อง “ไชโย” ให้กรรมการไปตรวจใหค้ ะแนน เสรจ็ แล้วจึงให้ผเู้ ขา้ แขง่ ขนั รับประทานอาหารและร้ือเกบ็ ๔.๗ กรรมการควรใหค้ าแนะนาเติมเตม็ แกผ่ ้เู ขา้ แขง่ ขันเพื่อการพฒั นาภายหลังการตัดสนิ ๔.๘ กรณมี ีทมี เข้าแขง่ ขันหลายทมี ตอ้ งจัดการแขง่ ขันหลายรอบ กรรมการใหค้ ะแนนทกุ รอบควรเปน็ กรรมการชุดเดยี วกนัศลิ ปหัตถกรรมนักเรียน ครงั้ ท่ี ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น หนา้ ๑๘

ใบงาน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3 การจดั คา่ ยพกั แรม ............................. ในวันสุดสัปดาห์ ท่านและสมาชิกในทีมร่วมกันฝึกทบทวนทักษะทางลูกเสือเพ่ือสร้างอุปกรณ์ในการอยู่ค่ายพักแรม ให้ทีมของท่านใช้วัสดุอุปกรณ์ตามท่ีกาหนดดาเนินการจัดสร้างค่ายพักแรมจาลอง 1 ค่ายและประกอบอาหารตามรายการทก่ี าหนด ให้เสรจ็ ส้นิ ในเวลา 3 ชว่ั โมง เมื่อจัดต้ังค่ายพักแรมเสร็จแล้ว ให้ส่งเสียง “ไชโย” พร้อมกัน แจ้งให้กรรมการทราบ เพ่ือตรวจให้คะแนน แล้วรับประทานอาหารที่จัดเตรียมตามข้อ 4. เสร็จแล้วให้ร้ือถอนและจัดเก็บทุกอย่างให้เรียบร้อยระหว่างปฏิบัติกิจกรรม หา้ มออกไปจดั หาอปุ กรณเ์ พ่ิมเตมิ องคป์ ระกอบของชน้ิ งานในการสร้างคา่ ยพักแรม มี 7 รายการ ดงั น้ี 1. เสาธงลอยสาหรับกิจกรรมเคารพธงชาติ 1 ตน้ สร้างดว้ ยไม้งา่ ม 8 อนั สงู ไมน่ ้อยกว่า 3.50 เมตร 2. ประตูทางเขา้ ค่าย รวั้ ดา้ นหน้าค่าย มีป้ายช่ือหมู่ลูกเสือหรอื เนตรนารี ทาดว้ ยไม้ไผ่ เชอื กและกาว 3. เตาประกอบอาหารชนดิ ตัง้ สูงจากพน้ื ไม่น้อยกว่า 60 เซนตเิ มตร และมที เี่ กบ็ ฟืนใต้เตา 4. หงุ ขา้ วและประกอบอาหารชาวคา่ ยไมน่ อ้ ยกว่า 3 อย่าง โดยใชไ้ ม้ไผเ่ ป็นภาชนะหุงตม้ เมือ่ เสร็จแล้วให้ นาไปวางบนโต๊ะอาหารโดยไมต่ ้องถา่ ยข้าวและอาหารออกจากอปุ กรณ์หงุ ต้ม 5. ท่จี ัดเก็บเครอื่ งมือ 6. เพงิ พกั กนั แดดฝน 7. โต๊ะสนาม ม้านัง่ สาหรับรบั ประทานอาหารศิลปหตั ถกรรมนักเรียน คร้งั ท่ี ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น หนา้ ๑๙

1.4 การสร้างอุปกรณแ์ ละใหบ้ รกิ าร 1. คุณสมบัติผู้เข้าแข่งขัน เป็นลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผูบ้ าเพ็ญประโยชน์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 หรอื ปวช. 2. ประเภทและจานวนผ้เู ขา้ แขง่ ขนั 2.1 การแข่งขันใช้ระบบการแข่งขันแบบทีม แต่ละทีมอาจประกอบด้วยลูกเสือ เนตรนารียวุ กาชาด ผูบ้ าเพญ็ ประโยชน์ อยู่ในทีมเดยี วกนั ได้ 2.2 ทีมเขา้ ร่วมแขง่ ขัน มจี านวนผู้เข้าแขง่ ขนั ทมี ละ 6 คน 2.3 สถานศกึ ษาสามารถส่งทมี เขา้ ร่วมการแขง่ ขันได้สถานศึกษาละ 1 ทมี 3. วธิ ีดาเนินการ รายละเอยี ด และหลักเกณฑ์การแข่งขัน ให้ผู้เข้าแข่งขันแสดงบทบาทสมมุติตามสถานการณ์ท่ีกาหนดไว้ในใบงาน เม่ือได้รับสัญญาณให้เร่ิมตน้ การแขง่ ขันจนแล้วเสรจ็ ทกุ ข้ันตอน ภายในเวลา 75 นาที โดยมรี ายละเอียดดังนี้ 3.1 ใหอ้ อกแบบสร้างอปุ กรณ์สาหรบั การส่งอาหารและนา้ ด่มื ข้ามเหวลึกที่มีความกวา้ ง15 เมตรทอดเป็นแนวยาวขวางอยู่ โดยอาศัยแรงส่งที่เกิดจากเครื่องผ่อนแรง เช่น คาน รอก ล้อและเพลา ล่ิมสกรู เป็นตน้ อุปกรณส์ าหรับส่งอาหารนต้ี ้องมีฐานรองรบั ทม่ี ่ันคงแข็งแรง สามารถเคลอ่ื นยา้ ยได้ 3.2 ห้ามผู้เข้าแข่งขันใช้แรงส่งท่ีเกิดจากการอัดลม อัดน้า หรือแรงระเบิดจากสารเคมีและห้ามใชค้ นกด ผลกั หรือ ดนั โดยตรงทีป่ ลายคานด้านใดดา้ นหนึ่งของเครอ่ื งส่งประเภทคานดีด ดงั ตวั อย่างหา้ มใช้คนกด ห้ามใชค้ นดันศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียน คร้ังที่ ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หน้า ๒๐

3.3 ผู้เข้าแข่งขันต้องจัดเตรียมวัสดุและเคร่ืองมือนามาวัด ตัด เจาะ ผ่าฯลฯและสร้างงานในพ้ืนที่การแข่งขนั ระหวา่ งทาการแขง่ ขนั เทา่ นั้น หา้ มทาเคร่อื งหมายหรือสญั ลกั ษณใ์ ด ๆ มาก่อน รายการอปุ กรณ์ให้มีดงั น้ี 1) ไม้ไผท่ ี่มีความยาวเท่ากนั ทกุ อนั ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 2 – 4 นิ้ว ความยาว 3 - 4 เมตรจานวนไมเ่ กนิ 8 อนั 2) ไมถ้ ่วงนา้ หนกั รอก เชือกคลอ้ งรอก 3) เชือกมะนลิ าหรือไยยกั ษ์ (ผลิตจากเสน้ ใยสังเคราะห์โพลโี พรพีลีน) ใหม้ ีจานวน ขนาดและความยาวตามความเหมาะสมของรปู แบบท่ีจะจดั สร้าง แต่อปุ กรณ์ทจ่ี ดั สร้างต้องมตี าแหนง่ ผูกเง่ือนผูกแน่นไมน่ อ้ ยกวา่ 10 จดุ 4) ใช้ถุงผ้าสีขาว บรรจุทรายให้มีน้าหนักถุงละ 1 กิโลกรัม จานวน ๗ ถุง และถุงผ้าสีเข้ม บรรจุทรายให้มีน้าหนกั ถุงละ ๒ กิโลกรัม จานวน ๗ ถงุ (ใช้แทน“อาหารและน้าดื่ม”) 5) ห้ามนาวสั ดสุ าเรจ็ รปู อื่น ๆ เช่น ตะกรา้ ลวด ตาข่าย ฯลฯ มาใช้ประกอบอปุ กรณ์ทจ่ี ดั สรา้ งขนึ้ หากจาเป็นต้องมี ใหจ้ ดั ทาข้นึ เองจากไม้และเชือกที่กาหนดให้ 3.4 เม่ือสร้างอุปกรณ์“ส่งอาหารและน้าดืม่ ชว่ ยเหลือผู้ประสบภัย” เสรจ็ แล้ว ให้ผู้เข้าแขง่ ขนั แจ้งให้กรรมการทราบ และขออนุญาตทดลองใชอ้ ปุ กรณส์ ่งถงุ ทราย ไปยงั เปา้ หมายเพ่อื หาพิกดั และปรับอุปกรณ์ได้ ๔ ครั้ง โดยใช้ถงุ ทราย ๑ กโิ ลกรมั ๒ คร้ัง และใช้ถุงทราย ๒ กิโลกรมั ๒ ครั้ง โดยไมน่ ับคะแนน และห้ามนาถุงทรายน้ันกลบั มาใชอ้ ีก หลังจากนั้นจึงใช้อปุ กรณ์ส่งถุงทรายท่ีเหลืออีกอย่างละ ๕ ถงุ ไปยังเปา้ หมาย ผูเ้ ข้าแข่งขนั สามารถปรบั ตาแหน่งท่ีต้ังของอปุ กรณ์ได้ตลอดเวลา แต่ต้องไม่ลา้ เส้นที่กรรมการกาหนดไว้ 3.5 เมือ่ การดาเนนิ การใชอ้ ุปกรณ์สง่ ถงุ ทรายไปยังที่หมายครบ 10 ถงุ แล้ว ใหผ้ ู้เขา้ แขง่ ขนัร้อง“ไชโย” พร้อมกัน 1 คร้งั ถือเป็นการส้ินสุดการแข่งขนั กรรมการจะบนั ทึกเวลาท่ีใช้ในการแข่งขนั 3.6 ผ้เู ข้าแขง่ ขันตอ้ งแต่งเครื่องแบบลกู เสอื เนตรนารี ยุวกาชาดหรอื ผบู้ าเพญ็ ประโยชน์4. เกณฑ์การให้คะแนน (100 คะแนน) 4.1 บทบาทผ้นู าและกระบวนการกลุม่ (20 คะแนน) 4.1.1 บทบาทหัวหนา้ ทีม 5 คะแนน 4.1.2 การวางแผนและความรว่ มมือในการปฏบิ ตั งิ านของทีม 5 คะแนน 4.1.3 การแสดงบทบาทสมมุติ 10 คะแนน 4.2 การแต่งเครื่องแบบถกู ต้องครบถว้ น ความมีวนิ ยั และความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ยของเคร่อื งแบบ(10 คะแนน) 4.3 ความมน่ั คง แข็งแรง และการใช้งานอปุ กรณ์ (20 คะแนน) 4.3.1 อปุ กรณ์มคี วามม่ันคง แข็งแรง และใชง้ านไดจ้ ริง 10 คะแนน 4.3.2 การเลอื กใช้เชอื กมคี วามเหมาะสมและผกู เงือ่ นถูกตอ้ ง 10 คะแนน 4.4 ความปลอดภยั ในการปฏิบัติงานและความคดิ ริเร่มิ (20 คะแนน) 4.4.1 ความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ในการออกแบบอปุ กรณ์ 10 คะแนน 4.4.1 ความปลอดภยั ในการทางาน การใชเ้ คร่อื งมือ และการใช้อุปกรณ์ส่งอาหารและนา้ ดืม่ 10 คะแนน 4.5 เวลาการปฏบิ ตั งิ าน (10 คะแนน) 4.5.1 เปน็ ไปตามระยะเวลาท่กี าหนด 10 คะแนน 4.5.2 ใช้เวลาในการแข่งขนั มากกว่า 75 นาที ให้ตัดคะแนน 1 คะแนน ต่อเวลา 2 นาที 4.6 ความสาเรจ็ ในการ “ส่งอาหารและน้าดม่ื ช่วยเหลอื ผู้ประสบภัย” จานวน 10 คร้ัง (20 คะแนน)ศลิ ปหัตถกรรมนักเรียน คร้ังท่ี ๖8 ปีการศึกษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน หน้า ๒๑

4.6.1 เกณฑค์ ะแนน ถงุ ทรายหยุดนง่ิ ในเป้าหมายวงรศั มี 50 เซนติเมตร จากขอบระยะ 20 เมตรจากจดุ ส่งถุงละ 10 คะแนน ถงุ ทรายหยุดน่งิ ในวงรศั มี 1 เมตร ถุงละ 8 คะแนน ถุงทรายหยดุ นิ่งในวงรศั มี 1.5 เมตร ถุงละ 6 คะแนน ถุงทรายหยุดนงิ่ ในวงรัศมี 2 เมตร ถุงละ 4 คะแนน ถุงทรายหยุดน่ิงนอกวงรัศมี 2 เมตร ถุงละ 0 คะแนน กรณีส่งถงุ ทรายไปตกในระยะไมถ่ งึ 15 เมตรจากจดุ สง่ ถือว่าถุงทรายน้นั ตกเหว ไม่ใหค้ ะแนนถึงแม้ถงุ ทรายน้ันจะไถลไปหยุดน่งิ ในวงรศั มีที่ได้คะแนน กรณถี งุ ทรายตกทบั เสน้ วงรัศมี ใหพ้ ิจารณาสดั ส่วนของถุงทราย หากมีสัดส่วนเข้าไปในวงรัศมใี ดมากกวา่ 50 % ให้คะแนนตามน้าหนักคะแนนในวงรัศมนี ั้น 4.6.2 การคานวณคะแนนความสาเร็จ ดงั นี้คะแนนทไี่ ด้ = ผลรวมคะแนน “การสง่ อาหารและเครอื่ งดม่ื ฯ” จานวน 10 ครั้ง ×20 1005. เกณฑก์ ารตัดสินไดค้ ะแนนเฉลีย่ ร้อยละ 80-100 ไดร้ ับรางวัลระดับเหรยี ญทองไดค้ ะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 70-79 ไดร้ บั รางวัลระดบั เหรียญเงินไดค้ ะแนนเฉล่ียร้อยละ 60-69 ไดร้ บั รางวัลระดับเหรยี ญทองแดงไดค้ ะแนนตา่ กวา่ รอ้ ยละ 60 ไดร้ บั เกยี รติบตั รเว้นแตก่ รรมการมคี วามเห็นเปน็ อย่างอนื่6. คณะกรรมการตัดสิน จานวนไมน่ ้อยกวา่ ๑๐ คนคณุ สมบตั ิกรรมการ (1) เปน็ ผ้ทู รงคุณวฒุ ิที่มีทักษะและประสบการณ์ทางลูกเสือ (2) เป็นครผู ู้สอนกิจกรรมลกู เสือที่ได้เคร่อื งหมายวูดแบดจ์ 2 ท่อนข้ึนไป (3) เป็นครูสอนยุวกาชาดโดยผา่ นการฝกึ อบรมหลกั สูตรผู้นาขนึ้ ไป (4) เป็นครผู ูส้ อนผ้บู าเพ็ญประโยชนโ์ ดยผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรหวั หน้าหนว่ ยขึน้ ไป (5) เปน็ ผูร้ ับผิดชอบกจิ กรรมลูกเสือ (6) กรรมการอยา่ งน้อย 1 คน ควรเปน็ ผู้บงั คบั บัญชาลูกเสือทผ่ี ่านการอบรมในหลักสตู ร “วิชาการบกุ เบกิ \" หรือมีประสบการณใ์ นการสรา้ งงานบุกเบกิขอ้ ควรคานงึ (1) กรรมการต้องไม่ตัดสินในกรณีที่สถานศึกษาของตนเขา้ แข่งขนั (2) กรรมการควรมาจากสถานศกึ ษาหรือสานักงานเขตพื้นทที่ หี่ ลากหลาย7. การเขา้ แขง่ ขันระดับภาค 7.1 ในกรณีท่มี ที มี ชนะลาดบั สงู สุดไดค้ ะแนนเท่ากนั มากกวา่ 3 ทมี ใหต้ ดั สินดว้ ยคะแนนรวมในข้อ 4.6 ถา้ คะแนนรวมในข้อท่ี 4.6 เทา่ กันให้ตัดสินดว้ ยคะแนนรวมในข้อท่ี 4.3 รวมกบั คะแนนรวมในข้อที่ 4.4 ทมี ใดได้คะแนนมากกว่าใหถ้ อื เป็นผู้ชนะแต่ถา้ คะแนนยงั คงเท่ากันอกี ใหต้ ัดสินดว้ ยคะแนนรวมในข้อท่ี 4.1รวมกับคะแนนรวมในข้อท่ี 4.5 ทีมใดได้คะแนนมากกว่าให้ถือเป็นผู้ชนะกรณีคะแนนรวมเท่ากันทกุ ข้อใหต้ ดั สินด้วยวธิ กี ารจับฉลากศิลปหตั ถกรรมนักเรียน ครัง้ ที่ ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน หน้า ๒๒

คาแนะนาสาหรับกรรมการ๑.การตดั สิน ๑.๑ คณะกรรมการให้คะแนนตามเกณฑ์ที่กาหนด ๑.๒ การใหค้ ะแนนเครอ่ื งแบบ ดูความถูกต้องของการแต่งเครือ่ งแบบตามประเภทของผเู้ ขา้ แข่งขนั ๑.๓ ทีมท่ีเขา้ แข่งขัน อาจจะประกอบดว้ ยลูกเสอื เนตรนารี ยุวกาชาดและผ้บู าเพ็ญประโยชน์ อยใู่ นทมี เดียวกันก็ได้ ๑.๔ คณะกรรมการมีอานาจในการสั่งการให้ผูเ้ ขา้ แข่งขนั เก็บอปุ กรณ์เคร่ืองมือสอื่ สารของผูเ้ ข้าแข่งขนัเปล่ยี นอาวุธประจากาย และอปุ กรณ์อน่ื ใด ทจ่ี ะก่อให้เกดิ การได้เปรยี บเสียเปรยี บในการแขง่ ขนั ก่อนอนญุ าตใหเ้ ข้าแข่งขนั ๑.๕ คณะกรรมการรวบรวมผลการแข่งขัน สรปุ และรายงานผลการแขง่ ขัน๒.การจดั เตรียมสถานที่ใช้ในการแขง่ ขัน จัดเตรียมสถานทสี่ นามแข่งขนั ใหเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์ ดงั รูป 15 ม. จดุ ตกทไี่ ม่ได้ คะแนน๓. การดาเนนิ การแข่งขัน ๓.๑ ทมี ท่ีเข้าแขง่ ขนั รายงานตวั ลงทะเบียน จบั ฉลาก นาอปุ กรณ์เขา้ ไปวางในพ้นื ท่ีแขง่ ขัน ๓.๒ กรรมการตรวจเครื่องแบบพรอ้ มกบั การตรวจอปุ กรณ์ ๓.๓ กรรมการดาเนนิ การแขง่ ขัน โดยปฏิบัตติ ามขนั้ ตอนตอ่ ไปนี้ ๓.๓.๑ กรรมการมอบใบงานใหแ้ ก่หัวหนา้ ทีม ๓.๓.๒ กรรมการจับเวลาและให้สัญญาณเริ่มการแขง่ ขนั แตล่ ะชดุ ๓.๓.๓ กรรมการเดนิ ตรวจ สังเกต ตดิ ตามการปฏิบัติงานของทมี โดยใกลช้ ดิเพื่อประกอบการใหค้ ะแนนตามเกณฑ์การตดั สนิ ๓.๓.๔ กรรมการให้สญั ญาณหมดเวลา ๓.๓.๕ กรรมการให้คะแนนทุกรายการ ควรตรวจให้คะแนนผู้เข้าแข่งขันแต่ละรายการตามภารกิจในเกณฑ์การให้คะแนน ๓.๓.๖ คณะกรรมการรวบรวมผลการแข่งขัน สรปุ และรายงานผลการแขง่ ขนั ๓.๔ ควรจะจดั การแข่งขันให้เสร็จสิ้นภายใน ๑ วันศิลปหตั ถกรรมนักเรียน คร้งั ที่ ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น หนา้ ๒๓

๔. คาแนะนาทว่ั ไป ๔.๑ กรรมการควรจัดตาแหน่งทีมเข้าแขง่ ขันเรยี งตามลาดับโดยวธิ กี ารจับฉลาก หากมีทมี เข้าร่วมการแข่งขนั จานวนมากอาจแบ่งการแขง่ ขนั ออกเปน็ ชดุ ๆ และเว้นระยะเวลาเร่ิมต้นการแข่งขนั แต่ละชุดไว้ไมน่ ้อยกว่า 30 นาที ๔.๒ กรรมการตรวจสอบความถกู ต้องของอปุ กรณ์ ได้แก่ ไม้ เครือ่ งมือ เชือก รอก ฯลฯ ให้ครบถ้วนและเป็นไปตามเกณฑ์ก่อนการใหส้ ัญญาณเรม่ิ จับเวลาการแขง่ ขนั ๔.๓ กรรมการต้องจัดใหผ้ เู้ ขา้ แข่งขนั แสดงบทบาทสมมุติอย่างต่อเน่ืองตามใบงาน ๔.๔ กรรมการใหค้ ะแนนถงุ ทรายแต่ละถงุ ในจุดที่ตกหยดุ นิ่ง ขานและบันทึกคะแนน แล้วนาเอาถุงทรายออกนอกพืน้ ทีเ่ ป้าหมายทันที กรณีทีถ่ งุ ทรายแตก ให้กรรมการขานและบันทกึ คะแนน ในตาแหน่งที่ถงุ ผา้หยุดนง่ิ ๔.๕ กรรมการอยา่ งน้อย 10 คน ควรแบง่ หนา้ ที่สังเกตการทางานของทุกทีมและให้คะแนนทีมแข่งขนัตามเกณฑ์การให้คะแนน ๔.๖ เมื่อผเู้ ข้าแขง่ ขันจดั สรา้ งอุปกรณ์เสรจ็ และขออนุญาตทดลองใช้อุปกรณ์ ให้กรรมการเกบ็ ถุงทรายทผี่ ู้เข้าแขง่ ขนั ใช้ทดลอง จานวน ๔ ถงุ ออกนอกพ้นื ที่เป้าหมายทนั ที และไม่ใหค้ ะแนนในส่วนนี้ ๔.๗ ผู้เข้าแข่งขันสามารถเลือกถงุ ทราย ๑ หรือ ๒ กิโลกรัม ส่งไปยังเป้าหมายได้ตามการตัดสินใจของทีม กรณีท่ีผู้เข้าแขง่ ขันตอ้ งการปรับตาแหน่งที่ต้ังหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ระหว่างการแข่งขนั สามารถดาเนินการได้ตลอดเวลา แตต่ ้องอยู่ในเวลาทกี่ าหนดศิลปหัตถกรรมนักเรยี น ครง้ั ท่ี ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน หนา้ ๒๔

ใบงาน กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 หรือ ปวช. การสร้างอปุ กรณ์และให้บรกิ าร ........................ สมมุติว่า ทีมของท่านไดร้ ับมอบหมายให้นาอาหารและน้าดื่มไปช่วยเหลอื ผู้ประสบภยั แผ่นดินถล่มทข่ี าดอาหารและนา้ ดมื่ แตท่ มี ของท่านไม่สามารถนาอาหารและน้าดื่มเข้าไปถงึ พน้ื ทท่ี ผี่ ูป้ ระสบภยั รอรบัความช่วยเหลอื ได้ เนอ่ื งจากแผ่นดนิ ถล่มมแี นวยาวเป็นเหวลกึ กวา้ ง 15 เมตร ขวางก้ันอยู่ พน้ื ท่ีสองฝ่ังปากเหวเปน็ พืน้ ราบ ไมม่ ีต้นไมส้ ูง ให้ทีมของท่านคิดสร้างอุปกรณ์สาหรับการส่งอาหารและน้าดื่มขนาดบรรจุถุงละ 1 และ 2 กิโลกรัมขา้ มเหวไปให้ผู้ประสบภัยโดยอาศัยแรงส่งท่เี กดิ จากเครอื่ งผ่อนแรง ทาด้วยไม้ไผ่ และสรา้ งฐานที่ม่ันคงแข็งแรงรองรับอปุ กรณ์ทีส่ ามารถเคล่ือนย้ายได้ ภายในเวลา 75 นาที ให้ทีมแสดงบทบาทสมมุติเหมาะสมกับสถานการณ์ที่กาหนดและปฏิบัติกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตามลาดับขั้นตอนต่อไปน้ีทันทีที่ได้รบั สัญญาณจากกรรมการ ๑. วางแผนการทางานและปฏบิ ัติงานตามแผนในการสร้างอุปกรณ์ ๒. สร้างอุปกรณ์ เม่ือเสร็จแล้วให้แจ้งกรรมการเพื่อขออนุญาตทดลองส่งถุงบรรจุ “อาหารและน้าดม่ื ” นา้ หนัก ๑ และ ๒ กโิ ลกรมั ชนดิ ละ ๒ ถงุ ๓. ดาเนินการส่งถุงบรรจุ “อาหารและน้าด่ืม” น้าหนัก ๑ และ ๒ กิโลกรัม ไปยังจุดเป้าหมายจานวนทงั้ ส้นิ 10 ถงุ อย่างตอ่ เนอื่ ง ๔. เมื่อสิ้นสุดการดาเนินการ“ส่งอาหารและน้าดื่มช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” แล้วเสร็จโดยสมบูรณ์ให้ “ไชโย” พรอ้ มกนั 1 คร้งัหมายเหตุ ๑. ให้ใช้ถงุ บรรจุทราย นา้ หนกั 1 และ ๒ กิโลกรัม แทนถงุ บรรจุอาหารและนา้ ด่ืม ๒. ผู้เข้าแข่งขันสามารถเลือกถุงทราย ๑ หรือ ๒ กิโลกรัม ส่งไปยังเป้าหมายได้ตามการตัดสินใจของทมี กรณีที่ผู้เข้าแขง่ ขันต้องการปรับตาแหน่งที่ต้งั หรือซ่อมแซมอุปกรณ์ระหวา่ งการแข่งขนั สามารถดาเนินการไดต้ ลอดเวลา แต่ต้องอยู่ในเวลาที่กาหนดศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียน ครัง้ ท่ี ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน หนา้ ๒๕

๒. กจิ กรรมสภานักเรยี น หลกั เกณฑก์ ารประกวด 1. คณุ สมบัติผูเ้ ข้าประกวด 1.๑ โรงเรยี นมีเพยี งสภาเดยี ว เทา่ นั้น 1.๒ เป็นคณะกรรมการสภานักเรยี นของโรงเรียนตามระดับและประเภทที่โรงเรยี นสมัครเข้าประกวด ระดับละ 7 – 10 คน 1.๓ ผเู้ ขา้ ประกวดตอ้ งเป็นตวั แทนสภานักเรยี นท่ปี รากฏอยู่ในใบสมคั รและผงั รปู ถา่ ย (ท่ีแนบทา้ ย) 2. ระดบั การประกวด แบง่ ออกเป็น ๓ ระดบั ดังนี้ 2.1 ระดับประถมศึกษา (เปดิ สอนต้ังแต่ อนุบาล – ป.6 เทา่ นนั้ ) 2.2 ระดับขยายโอกาสทางการศึกษา (เปิดสอนตั้งแต่อนุบาล – ม.3 สังกัด สพฐ. และ อปท.เทา่ น้นั ) 2.3 ระดับมัธยมศึกษา (เปดิ สอนตั้งแต่ ม.1 – ม.3, ม.1 – ม.6 รวมถึงโรงเรยี นท่เี ปดิ สอนอนุบาลถึง ม.6 ทุกสังกัด) 3. ข้นั ตอนการประกวด 3.1 จัดทาเอกสารรายงานผลการดาเนนิ งานโดยใชข้ ้อมูลย้อนหลงั ไม่เกนิ 3 ปี จานวนไม่เกิน 1๒๐หนา้ นับตง้ั แต่ปกหนา้ ถึงปกหลัง (หากเกนิ จะไมร่ ับพิจารณา) โดยจดั รูปเล่มเอกสารตามหัวข้อทีก่ าหนดให้จัดทาเปน็ รูปเลม่ จานวน 1 เล่ม พรอ้ มสาเนา จานวน 4 เล่ม (รวมท้งั หมด 5 เลม่ ) 3.2 จัดสง่ เอกสาร ตามข้อ 3.1 ดังน้ี 3.2.1 ระดับเขตพืน้ ท่ีการศึกษา ให้โรงเรียนที่เขา้ ประกวด จัดส่งเอกสารใหส้ านักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ตามวนั เวลา ทกี่ าหนด เพ่ือคัดเลือกตวั แทนเข้าประกวดในระดับภมู ภิ าคต่อไป 3.2.2 ระดบั ภมู ภิ าค ให้โรงเรยี นที่เป็นตัวแทนเขตพ้นื ที่การศกึ ษา จดั ส่งเอกสารให้สานกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาทเ่ี ป็นเจา้ ภาพในระดบั ภมู ิภาค ตามวัน เวลา ทีก่ าหนด 3.2.3 ระดับชาติ ให้โรงเรียนทเี่ ป็นตัวแทนระดบั ภมู ภิ าค จัดส่งเอกสารใหส้ านักพัฒนากจิ กรรม นักเรียน อาคาร สพฐ.5 ช้นั 9 สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ ารเขตดสุ ติ กรงุ เทพมหานคร 10300 (สภานักเรียน) โดยประทับตราไปรษณียด์ ว่ นพิเศษ (EMS) ล่วงหน้าไม่นอ้ ยกวา่ 15 วัน นบั ถงึ วันแรกของการประกวด ทง้ั นี้ สามารถจัดสง่ โดยตรงหรอื จัดส่งทางไปรษณีย์ตามระยะเวลาที่กาหนด เทา่ นน้ั4. เกณฑ์การประกวดตอนที่ 1 พิจารณาเอกสารรายงานผลการดาเนินงานของสภานกั เรยี น 60 คะแนน 1. ทม่ี าของสภานกั เรียน และบทบาทหนา้ ที่ ตามโครงสร้างของสภานกั เรียน ๕ คะแนน ๒. โครงการ/งาน/กจิ กรรมที่ส่งเสรมิ การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ โดยการมสี ว่ นร่วมของสภานักเรียน 10 คะแนน 3. จัดกจิ กรรมทสี่ ่งเสริมวิถปี ระชาธิปไตยโดยการมสี ่วนรว่ มของสภานักเรียน 10 คะแนนประกอบด้วย - คารวธรรม - สามัคคีธรรม - ปญั ญาธรรมศิลปหัตถกรรมนักเรียน คร้งั ท่ี ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น หน้า ๒๖

4. มจี ิตอาสาและมีสว่ นร่วมของสภานกั เรียนในโรงเรียน 10 คะแนน 5. มกี ารประสานงานกับองค์กรและการสรา้ งเครือขา่ ยของสภานักเรยี นกบั ชมุ ชนและองค์กรต่างๆ รวมทัง้ ประโยชน์ท่ีได้รับ 10 คะแนน 6. มผี ลการปฏบิ ตั ิงานของสภานกั เรียนทเี่ ปน็ เลศิ (Best Practice) ๑๐ คะแนน ๗. มีการประเมนิ ผลและรายงานผลการดาเนนิ งาน ๕ คะแนน ตอนท่ี 2 พิจารณาจากการนาเสนอผลงานและการตอบคาถาม 40 คะแนน 1. ที่มาของสภานักเรยี น และบทบาทหนา้ ที่ ตามโครงสร้างของสภานักเรียน ๓ คะแนน ๒. โครงการ/งาน/กจิ กรรมทสี่ ่งเสริมการปกครองในระบอบ ๓ คะแนนประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการมสี ่วนร่วมของสภานกั เรยี น ๓ คะแนน 3. จัดกจิ กรรมทส่ี ่งเสริมวถิ ีประชาธิปไตยโดยการมสี ว่ นร่วมของสภานกั เรยี น ๓ คะแนนประกอบด้วย - คารวธรรม ๓ คะแนน - สามคั คธี รรม ๔ คะแนน - ปญั ญาธรรม ๖ คะแนน 5 คะแนน 4. มีจติ อาสาและมสี ่วนร่วมของสภานกั เรียนในโรงเรียน 10 คะแนน 5. มีการประสานงานกับองค์กรและการสรา้ งเครือขา่ ยของสภานกั เรียนกับชุมชนและองค์กรต่างๆ รวมทง้ั ประโยชน์ท่ีได้รบั 6. มกี ารประเมินผลและรายงานผลการดาเนนิ งาน ๗. มผี ลการปฏิบตั ิงานของสภานักเรยี นท่ีเปน็ เลิศ (Best Practice) ๘. วิธีการนาเสนอท่ีน่าสนใจ ๙. การตอบคาถาม หมายเหตุ ๑. การนาเสนอผลงานหา้ มใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทกุ ประเภท และไม่ต้องจดั นิทรรศการ หลังจากจบการนาเสนอ คณะกรรมการจะซักถาม ๒. การนาเสนอผลงานไม่เกิน 10 นาที หากนาเสนอเกินเวลาทีก่ าหนดจะถูกตัด 1 คะแนน(เศษของนาทีให้คิดเป็น 1 นาที) ๓. การตอบคาถาม ไมน่ บั รวมในเวลาท่นี าเสนอผลงาน5. เกณฑก์ ารตดั สนิ การประกวด รอ้ ยละ 80 - 100 ไดร้ ับรางวลั ระดบั เหรยี ญทอง รอ้ ยละ 70 – 79 ไดร้ ับรางวลั ระดบั เหรยี ญเงิน ร้อยละ 60– 69 ได้รบั รางวัลระดบั เหรยี ญทองแดง ตา่ กว่าร้อยละ 60 ไดร้ ับเกยี รตบิ ัตร เว้นแต่กรรมการจะเห็นเป็นอย่างอนื่ ผลการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นสิ้นสุดศิลปหตั ถกรรมนักเรียน ครงั้ ท่ี ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน หน้า ๒๗

6. การเข้าประกวดระดบั ภูมิภาคและระดบั ชาติ ๖.๑ ให้โรงเรียนทเ่ี ปน็ ตัวแทนของเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาท่เี ขา้ ประกวดในระดับภูมิภาค ต้องได้คะแนนระดับเหรียญทอง ลาดับที่ ๑ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป) ๖.๒ ให้โรงเรียนที่เป็นตัวแทนระดับภมู ภิ าคทเี่ ข้าประกวดในระดบั ชาติ จะต้องไดค้ ะแนนระดับเหรยี ญทอง ลาดบั ที่ 1 - 3 (คะแนนร้อยละ 8๐ ขน้ึ ไป) 7. คณะกรรมการตดั สนิ 7.1 คณะกรรมการแบ่งเป็น 3 ระดับ ระดบั ละ 5 คน ตอ้ งมีคณุ สมบตั ิเปน็ ผู้มีความรู้และประสบการณเ์ กยี่ วกับกจิ กรรมสภานกั เรียน 7.2 ขอ้ ควรคานึงของกรรมการ - ตอ้ งไม่เปน็ ผมู้ ีสว่ นไดเ้ สยี กับโรงเรยี นท่ีเขา้ ประกวด  - ควรประเมนิ ดา้ นเอกสารให้แล้วเสร็จก่อนวันประกวด 7.3 สถานท่ปี ระกวด เปน็ ห้องประชมุ หรือสถานที่ขนาดกว้างเพยี งพอทจ่ี ะนาเสนอและให้ผสู้ นใจกจิ กรรมเข้ารับฟังและรับชมได้ ๗.๔ ในกรณีทม่ี ีทีมชนะเลิศระดบั สูงสุดได้คะแนนเท่ากันมากกวา่ ๑ ทมี ใหพ้ ิจารณาคะแนนรวมในตอนท่ี 2 การนาเสนอผลงานและตอบคาถาม 7.๕ ผลการตดั สนิ ของคณะกรรมการทุกระดบั ถอื เปน็ ทีส่ ้นิ สดุ การเตรียมการจดั การประกวดกจิ กรรมสภานกั เรียนในงานศิลปหตั ถกรรมนกั เรยี น 1. สถานท่จี ัดการประกวด เปน็ หอ้ งโถงพร้อมเวทที ส่ี ามารถใหน้ กั เรียน 7-10 คน นาเสนอผลงานได้ พร้อมดว้ ยเก้าอส้ี าหรับใหน้ กั เรยี นครแู ละผ้สู นใจเข้าร่วมฟังการนาเสนอได้ 2. วัสดุอุปกรณ์ท่ตี ้องใช้ 2.1 โตะ๊ เกา้ อส้ี าหรับคณะกรรมการตัดสนิ 2.2 เครอื่ งเสียง 1 ชุด พรอ้ มไมโครโฟนอยา่ งน้อย ๕ ตวั 2.3 โต๊ะเก้าอี้สาหรบั คณะกรรมการดาเนินการและรับรายงานตัวตามความเหมาะสม ๒.๔ นาฬิกาจับเวลา 3. การบรหิ ารจัดการประกวดที่ประสบผลสาเร็จ - การจัดการประกวดใหเ้ ป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารที่กาหนด - ความยตุ ิธรรมในการจดั ทาขอ้ คาถามท่เี ปน็ ความลับและคาถามต้องไม่ชา้ กนั มกี ารจับสลาก คาถามศิลปหตั ถกรรมนักเรยี น ครัง้ ที่ ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน หน้า ๒๘

รปู แบบการจัดสถานท่ีประกวด โตะ๊ เวทีการนาเสนอ เกา้ อ้ีสาหรบัคณะกรรมการดาเนนิ ง าน โต๊ะ เกา้ อี้ สาหรับกรรมการ เก้าอี้ สาหรบั นักเรียน, ครแู ละผู้สนใจศลิ ปหัตถกรรมนักเรียน ครัง้ ท่ี ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หน้า ๒๙

ผังรปู ถา่ ยคณะกรรมการสภานักเรยี น โรงเรียน......................................................... อาเภอ..........................................จังหวดั ......................................สพป............................................................. สพม. เขต...............(จังหวัด.................................)๑. ชื่อ/สกลุ ...................................................................... ชน้ั ................ ๒. ชื่อ/สกุล..................................................................ช้ัน................ ตาแหน่ง........................................................................................... ตาแหนง่ .......................................................................................๓. ชือ่ /สกุล...................................................................... ชน้ั ................ ๔. ช่ือ/สกุล...................................................................ชน้ั ................ ตาแหนง่ ............................................................................................ ตาแหนง่ ........................................................................................๕. ชือ่ /สกุล...................................................................... ช้นั ................ ๖. ชือ่ /สกลุ ...................................................................ชน้ั ................ ตาแหนง่ ........................................................................................... ตาแหนง่ ........................................................................................๗. ช่อื /สกุล...................................................................... ชน้ั ................ ๘. ชอ่ื /สกลุ ...................................................................ชั้น................ ตาแหนง่ ........................................................................................... ตาแหน่ง.......................................................................................๙. ชื่อ/สกุล...................................................................... ช้นั ................ ๑๐. ชือ่ /สกุล...................................................................ชัน้ ................ ตาแหน่ง........................................................................................... ตาแหน่ง................................................................................... ลงช่ือ........................................................ผรู้ บั รอง (..........................................................) ผอู้ านวยการโรงเรยี น................................................................ศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น ครงั้ ที่ ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน หนา้ ๓๐

3. กจิ กรรมนักเรยี นเพอ่ื นท่ีปรกึ ษา (YC : Youth Counselor)  หลกั เกณฑก์ ารแขง่ ขัน ๑. คุณสมบตั ผิ ้เู ขา้ แข่งขนั - เป็นนักเรียนเพ่ือนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor) ของโรงเรยี น ๒. โรงเรยี นทเี่ ข้าแขง่ ขนั แบ่งออกเปน็ ๓ ระดับ ดังน้ี ๒.๑ มธั ยมศึกษาตอนต้น : โรงเรยี นท่เี ปิดสอนตงั้ แต่มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑-๓ ๒.๒ มัธยมศึกษาตอนตน้ : โรงเรยี นทเี่ ปดิ สอนต้ังแต่อนุบาล – มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ๒.๓ มัธยมศึกษาตอนปลาย : โรงเรียนทเ่ี ปิดสอนตัง้ แตม่ ัธยมศกึ ษาปีที่ ๑-๖ ทกุ สังกดั และ โรงเรียนทเ่ี ปิดสอนตง้ั แต่อนุบาล – มธั ยมศึกษาปีท่ี ๖ ๓. ประเภทและจานวนของการแข่งขนั ๓.๑ แขง่ ขนั เป็นทีม จานวนทีมละ ๕ คน ๓.๒ โรงเรยี นสามารถสง่ เข้าแขง่ ขัน ไดร้ ะดบั ละ ๑ ทมี เทา่ น้ัน  วธิ ีดาเนนิ การและรายละเอยี ดการแขง่ ขนั ๑. การจดั เตรียมเอกสาร ๑.๑ โรงเรียนที่เข้าแขง่ ขนั กิจกรรมนักเรยี นเพื่อนที่ปรกึ ษา (YC : Youth Counselor) ตอ้ งจัดเตรียม เอกสาร ประกอบดว้ ย ๑.๑.๑ บันทึกข้อมูลการทางานและการใหค้ าปรึกษาของนกั เรียน YC ๑.๑.๒ การประสานงานเครือข่ายความร่วมมือในการดาเนินงาน ๑. ๑.๓ การเชือ่ มโยงโครงการนกั เรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor) กับระบบการดูแล ช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียน ทั้งน้ี จะต้องแสดงข้อมูลการดาเนินงานของนักเรียนเพื่อนท่ีปรึกษา เกี่ยวกับแบบรายงานผลการปฏิบัติงาน คาสั่ง บันทึกการปฏิบัติงาน รายงานการประชุม หนังสือแจ้ง-เวียน แผ่นพับ โปสเตอร์ ภาพถ่าย CD DVD และสื่ออื่น ๆ ท่ีช่วยให้คณะกรรมการ ฯ ประเมินผลการดาเนินงาน เห็นถึงความพยายามและคุณภาพของการ ปฏิบตั ิงานได้อย่างชัดเจน ในกรณีที่โรงเรียนเดียวกนั ส่งแข่งขนั ๒ ระดับ เอกสารที่สง่ มาเพ่ือพิจารณาจะต้อง มีเน้อื หาหรือผลการดาเนนิ งานของนักเรียน YC ที่ไมซ่ ้าซอ้ นกนั ๑.๒ เอกสารหลักฐาน ตามข้อ ๑ มีจานวนหน้า ไม่เกิน ๘๐ หน้า นับจากสารบัญจนถึงหน้าสุดท้าย ของภาคผนวก หากเกินจากที่กาหนดจะมีผลต่อการพิจารณาของคณะกรรมการ ฯ และเอกสาร หลักฐานที่นาเสนอต้องเป็นข้อมูลย้อนหลัง ๓ ปี (ปีการศึกษา ๒๕๕๙ – ๒๕๖๑) โดยมีผู้บริหารโรงเรียน ลงนามรบั รองความถกู ต้องเอกสารหลักฐานท่นี าเสนอนั้น ๒. การจัดสง่ เอกสาร ๒.๑ ระดบั เขตพ้ืนท่ีการศึกษา โรงเรียนทเ่ี ข้าแขง่ ขนั ตอ้ งจดั ส่งเอกสาร จานวน ๕ เล่ม ให้สานกั งาน - เขตพื้นทก่ี ารศึกษา ตามวัน เวลา ที่กาหนด เพ่อื คัดเลอื กผู้แทนเขา้ แข่งขนั ในระดับภมู ภิ าคต่อไป ๒.๒ ระดับภูมิภาค ให้โรงเรยี นที่ผา่ นการคัดเลือกจากระดบั เขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษา ต้องจัดสง่ เอกสาร จานวน ๕ เล่ม ให้กับสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาที่เป็นเจ้าภาพ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน ก่อนถึง วันแรกของการแข่งขนั ทัง้ น้ี สามารถจัดส่งโดยตรง หรือ จดั ส่งทางไปรษณีย์ ตามระยะเวลาท่ีกาหนดเท่านนั้ศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียน ครั้งท่ี ๖8 ปีการศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น หนา้ ๓๑

๒.3 ระดบั ชาติ ใหโ้ รงเรียนทผี่ า่ นการคัดเลือกและเปน็ ผู้แทนระดับภมู ภิ าค จัดสง่ เอกสารทไ่ี ดแ้ กไ้ ขตามข้อแนะนาของคณะกรรมการ ฯ ระดับภูมิภาค จานวน 5 เล่ม ให้กับสานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษากลุ่มพัฒนาระบบการแนะแนว อาคาร สพฐ.3 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการถนนราชดาเนินนอก เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10300 (กิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา)ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน ก่อนถึงวันแรกของการแข่งขัน ท้ังน้ี สามารถจัดส่งโดยตรง หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ตามระยะเวลาทกี่ าหนดเทา่ น้นั เกณฑก์ ารแขง่ ขนัเกณฑก์ ารพิจารณาระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับภมู ภิ าค และระดับชาติ คณะกรรมการฯ จะพิจารณา 3 ดา้ น คอืด้านท่ี 1.เอกสารรายงานผลการดาเนนิ งานกจิ กรรมนกั เรยี นเพ่ือนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor)ด้านท่ี 2.การนาเสนอผลงานและการตอบคาถามดา้ นที่ 3.ความสามารถในการให้คาปรึกษาเกณฑก์ ารให้คะแนน๑. ระดับเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาและระดับภูมภิ าคระดับเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาและระดับภมู ิภาค คะแนนเต็ม 100 คะแนน โดยมีสัดส่วนของคะแนน ในแตล่ ะด้านคอื 30 : 30 : 40 รายละเอียดดังนี้๑.๑ พจิ ารณาจากเอกสารรายงานผลการดาเนินงานกจิ กรรมนักเรียนเพื่อนทีป่ รกึ ษา (30 คะแนน) - การจดั ทาบนั ทึกข้อมลู การทางานและการให้คาปรกึ ษา 10 คะแนน - การประสานงานเครือขา่ ยความรว่ มมือในการดาเนินงานพร้อม 10 คะแนน เอกสารหลักฐานแสดงข้อมลู การดาเนนิ งาน ได้อยา่ งเหมาะสมและเหน็ ชดั - เอกสารหลักฐานแสดงข้อมูลการดาเนนิ งานการเช่ือมโยงโครงการ ๑๐ คะแนน นักเรยี นเพ่ือนท่ปี รึกษากับระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรียนของโรงเรียน อย่างชดั เจน๑.๒ การนาเสนอผลงานและตอบคาถาม (30 คะแนน) - ผลการดาเนินงานของโครงการนักเรียนเพื่อนทป่ี รึกษาในโรงเรียน 5 คะแนน - ผลงานที่ทีมงานนกั เรียนเพ่ือนท่ปี รึกษามีความประทับใจ/ประสบ ความสาเรจ็ 10 คะแนน - แนวทางการดาเนินงานกิจกรรมนักเรยี นเพ่อื นท่ีปรกึ ษาที่จะทาต่อไป 10 คะแนน - การตอบคาถามของคณะกรรมการได้อย่างสอดคล้อง ถูกต้อง ครบถ้วน 5 คะแนนศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียน ครงั้ ท่ี ๖8 ปีการศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน หนา้ ๓๒

๑.๓ พจิ ารณาความสามารถในการใหค้ าปรกึ ษาเพ่อื น (40 คะแนน) กระบวนการให้การปรกึ ษาโดยพจิ ารณาจากขัน้ ตอนการใหค้ าปรึกษา ๑๐ คะแนน ท้งั 5 ขั้นตอน คอื - การสร้างสัมพนั ธภาพ - การสารวจและทาความเขา้ ใจปัญหา - การหาแนวทางแก้ไขปญั หา - การวางแผนเพือ่ นาไปสู่การปฏิบตั ิ - การยตุ ิการให้การปรกึ ษาเพ่ือน๑.๔ ทกั ษะการให้การปรึกษาพจิ ารณาจากการเลือกใชท้ ักษะการใสใ่ จ 10 คะแนน การฟงั การถาม การเงยี บ การทวนซา้ การให้กาลงั ใจ การสรปุ ความ การให้ขอ้ มลู และคาแนะนา รวมท้ังทกั ษะการชี้ผลที่ตามมาได้อย่าง หลากหลายและเหมาะสมกับปญั หาและสถานการณ์๑.๕ แนวทางการชว่ ยเหลอื เพ่ือน พจิ ารณาจากความเหมาะสมกบั ปัญหา 10 คะแนน และการนาไปใช้ได้จริง รวมทั้งเปน็ แนวทางทเ่ี พ่ือนมีสว่ นร่วม ในการกาหนด / แสดงความคิดเหน็๑.๖ บคุ ลิกภาพของผใู้ ห้การปรกึ ษา 10 คะแนนโดยพิจารณาจากสีหน้า 10 คะแนน ท่าทาง การพูดจาน้าเสียงความรู้สกึ ทแ่ี สดงออกและการแต่งกาย๒. ระดับชาติระดับชาติ คะแนนเต็ม 100 คะแนน โดยมสี ัดสว่ นของคะแนนในแตล่ ะดา้ นคอื 20 : 20 : 60รายละเอยี ดดงั นี้๒.1 พจิ ารณาจากเอกสารรายงานผลการดาเนินงานกจิ กรรมนักเรียนเพ่ือนทปี่ รึกษา (20 คะแนน)- การจดั ทาบนั ทึกข้อมูลการทางานและการให้คาปรกึ ษา ๑๐ คะแนน- การประสานงานเครอื ข่ายความร่วมมือในการดาเนินงานพรอ้ ม ๕ คะแนน เอกสารหลกั ฐานแสดงข้อมูลการดาเนนิ งาน ได้อย่างเหมาะสมและเหน็ ชดั- เอกสารหลักฐานแสดงข้อมูลการดาเนินงานการเชอ่ื มโยงโครงการนกั เรยี น ๕ คะแนน เพอื่ นทป่ี รกึ ษา(YC : Youth Counselor) กับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ของโรงเรียนอย่างชดั เจน๒.2 การนาเสนอผลงานและตอบคาถาม (20 คะแนน)- ผลการดาเนนิ งานของโครงการนักเรียนเพือ่ นทปี่ รึกษาในโรงเรยี น ๕ คะแนน- ผลงานทที่ มี งานนักเรยี นเพอ่ื นท่ีปรกึ ษามีความประทบั ใจ/ประสบความสาเร็จ ๕ คะแนน- แนวทางการดาเนินงานกิจกรรมนักเรียนเพอ่ื นทปี่ รึกษาทจี่ ะทาต่อไป ๕ คะแนน- การตอบคาถามของคณะกรรมการไดอ้ ย่างสอดคล้อง ถูกต้อง ครบถว้ น ๕ คะแนน ทงั้ นี้ ขอใหน้ าเสนอผลงานและตอบคาถามให้ตรงประเดน็ และไมอ่ นุญาตให้มีวสั ดุ / อุปกรณ์ หรือ สื่อตา่ ง ๆ ประกอบการนาเสนอศลิ ปหัตถกรรมนักเรียน ครัง้ ที่ ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น หน้า ๓๓

๒.๓ พิจารณาความสามารถในการใหค้ าปรึกษาเพื่อน (60 คะแนน) ๒.๓.๑ กระบวนการให้การปรกึ ษาโดยพจิ ารณาจากขน้ั ตอนการให้คาปรึกษา 10 คะแนน ทัง้ 5 ขัน้ ตอน คอื - การสรา้ งสมั พนั ธภาพ 20 คะแนน - การสารวจและทาความเข้าใจปัญหา - การหาแนวทางแก้ไขปัญหา - การวางแผนเพื่อนาไปสู่การปฏบิ ตั ิ - การยุตกิ ารให้การปรกึ ษาเพอื่ น ๒.๓.๒ ทักษะการให้การปรกึ ษาโดยพจิ ารณาจากการเลอื กใช้ทักษะการใส่ใจการฟงั /การถาม/การเงียบ/การทวนซ้า/การให้กาลังใจ/การสรุปความ/การใหข้ ้อมูลและคาแนะนา รวมท้งั ทกั ษะการชี้ผลทีต่ ามมาไดอ้ ย่างหลากหลายและเหมาะสมกบั ปัญหา๒.3.๓ แนวทางการชว่ ยเหลือเพื่อน โดยพิจารณาจากความเหมาะสมกับปญั หา 20 คะแนนและการนาไปใช้ได้จริง รวมทัง้ เปน็ แนวทางท่เี พื่อนมสี ่วนร่วมในการกาหนด / แสดงความคดิ เหน็๒.3.๔ บุคลิกภาพของผูใ้ ห้การปรึกษา โดยพจิ ารณาจาก สีหน้า ท่าทาง 10 คะแนนการพูดจา น้าเสยี ง ความรู้สึกทแ่ี สดงออกและการแต่งกาย เกณฑ์ตัดสินการแขง่ ขนั รอ้ ยละ 80 - 100 ได้รับรางวลั ระดบั เหรยี ญทอง รอ้ ยละ 70 – 79 ได้รบั รางวลั ระดับเหรียญเงนิ รอ้ ยละ 60– 69 ได้รับรางวัลระดบั เหรยี ญทองแดง ตา่ กว่ารอ้ ยละ 60 ไดร้ ับเกียรติบตั ร เว้นแตก่ รรมการจะเห็นเปน็ อยา่ งอ่นื ผลการตดั สนิ ของคณะกรรมการถือเปน็ ส้ินสุด การมอบรางวลั ๑.รางวัลประเภทเหรยี ญโรงเรียนที่ไดค้ ะแนนสงู สุด ๓ ลาดับแรก รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป จะไดร้ บั เหรยี ญทอง เหรียญเงนิและเหรยี ญทองแดง ตามลาดบั๒.รางวลั ประเภทเกียรตบิ ัตรร้อยละ 80 – 100 ได้รับรางวลั เกียรติบตั รเหรียญทองร้อยละ 70 – 79 ได้รับรางวัลเกียรตบิ ตั รเหรียญเงินร้อยละ 60 – 69 ได้รับรางวัลเกยี รติบัตรเหรยี ญทองแดงคะแนนต่ากว่าร้อยละ 60 ไดร้ ับเกียรติบัตรชมเชยศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น คร้งั ที่ ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน หนา้ ๓๔

 คณะกรรมการตดั สนิ การแข่งขันกจิ กรรมนกั เรยี นเพ่อื นทปี่ รกึ ษา (YC : Youth Counselor) ๑. คณุ สมบตั ิคณะกรรมการ ฯ ๑.๑ คณะกรรมการฯ ควรเปน็ ผูม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ และมปี ระสบการณ์ทเี่ กีย่ วกบั เร่อื งนักเรยี น เพอื่ นทปี่ รกึ ษา (YC : Youth Counselor) กระบวนการให้การปรกึ ษา และระบบการดูแล ช่วยเหลอื นักเรียน ๑.๒ กรรมการฯ ควรมาจากสถานศึกษา หรือสานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาทห่ี ลากหลาย อาจจะเป็น บุคคลภายนอก เช่น บุคลากรจากมหาวิทยาลัย นักจิตวิทยาจากโรงพยาบาล หรือ นกั แนะแนว ๒. คณะกรรมการ ฯ ๒.๑ คณะกรรมการ ฯ แบ่งเป็น ๓ ระดบั ระดบั ละ ๕ คน ๒.๒ คณะกรรมการ ฯ ควรประเมินดา้ นเอกสารของโรงเรียนที่เข้าแข่งขันในแตล่ ะระดบั ให้แลว้ เสรจ็ ก่อนวนั แขง่ ขัน ๒.๓ คณะกรรมการ ฯ ต้องเตรียมขอ้ คาถาม สาหรบั ให้ผู้เขา้ แขง่ ขันไดร้ ว่ มกันตอบตอ่ หน้าคณะกรรมการ ฯ ๒.๔ คณะกรรมการ ฯ ต้องไม่ตัดสนิ ในกรณีเขตการศกึ ษา / สถานศกึ ษาของตนเขา้ แข่งขัน ๒.๕ คณะกรรมการ ฯ ควรให้ข้อเสนอแนะเพื่อการพฒั นากบั นักเรยี นทช่ี นะการแข่งขนั ในลาดบั ท่ี 1 - 3 การเขา้ แข่งขนั ระดบั ภาค และระดบั ชาติ ๑. ทีมท่เี ป็นตวั แทนของเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาเข้าแขง่ ขันในระดบั ภาค ตอ้ งได้คะแนนระดบั เหรียญทอง ลาดับที่ ๑ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป) และทีมท่เี ปน็ ตวั แทนระดับภาคเข้าแข่งขันในระดบั ชาติ จะต้องได้ คะแนนระดบั เหรียญทอง ลาดับที่ ๑ – ๓ (คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป) ๒. ในกรณีแขง่ ขันระดบั เขตพื้นทก่ี ารศึกษา มีทีมชนะในลาดบั สูงสุดไดค้ ะแนนเทา่ กัน และในระดับภาคมี มากกวา่ ๓ ทีม ใหพ้ ิจารณาลาดบั ทีต่ ามลาดบั ข้อของเกณฑก์ ารให้คะแนน เช่น มีทมี ท่ไี ด้คะแนนด้านท่ี ๑ เทา่ กนั ให้ดดู ้านท่ี ๒ ทมี ท่ีได้คะแนนดา้ นท่ี ๒ มากกวา่ ถือเปน็ ผู้ชนะ แต่ถ้าด้านท่ี ๒ เทา่ กัน ให้ดใู นด้านที่ ๓ กรณคี ะแนนเท่ากันทกุ ดา้ นให้ประธานกรรมการตัดสินเปน็ ผู้ชขี้ าด การเผยแพร่ผลงานทไ่ี ด้รับรางวัล ผลงานของนักเรียนทีไ่ ด้รับคะแนนสูงสุดอันดับที่ ๑ – ๓ ถือเป็นลขิ สทิ ธ์ิของสานักงานคณะกรรมการการศึกษา- ขัน้ พื้นฐาน ในการนาไปเผยแพรใ่ นเว็บไซต์และประชาสัมพันธ์ต่อไป รายละเอยี ดกิจกรรมในการจัดเตรียมการแข่งขนั กจิ กรรมนักเรียนเพื่อนท่ปี รึกษา (YC : Youth Counselor) ผู้จัดการแขง่ ขันต้องดาเนนิ การเพิ่มเตมิ ดังน้ี ๘.๑ ประชุมช้ีแจงคณะกรรมการตัดสนิ ผลการแข่งขันทุกระดับ ๘.๒ จดั ใหม้ กี ารตรวจสอบและประเมินดา้ นเอกสารของโรงเรยี นทเี่ ข้าแขง่ ขันให้แล้วเสร็จกอ่ นวนั แขง่ ขนั ๘.๓ จดั แฟม้ แบบฟอรม์ การใหค้ ะแนนของกรรมการฯ ทุกคน (ซง่ึ คณะผ้จู ดั การแขง่ ขนั ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า ก่อนการแข่งขัน) ๘.๔ จัดเตรยี มห้องสาหรับการแขง่ ขนั กิจกรรมนักเรียนเพ่อื นทปี่ รกึ ษาท่ีเหมาะสม ควรเป็นสถานท่ีเงยี บ ไมม่ ีคนเดินพลกุ พล่าน มคี วามเป็นสว่ นตวั ปลอดการรบกวนจากเสยี งหรอื ผู้คน เพือ่ ให้ผู้เขา้ แข่งขันมสี มาธิ ในการให้การปรกึ ษาศิลปหัตถกรรมนักเรียน คร้งั ที่ ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น หน้า ๓๕

๘.๕ จัดเตรยี มห้องเก็บตวั ของผเู้ ข้าแข่งขัน ซ่งึ เป็นผใู้ หค้ าปรกึ ษา (Counselor) และหอ้ งฝึกซ้อมนกั เรยี นท่ี แสดงบทบาทสมมติเปน็ ผ้ขู อรบั คาปรกึ ษา (Counselee) ๘.๖ จดั เตรยี มนกั เรยี นแสดงบทบาทสมมติ โดย ๑) ผู้จดั การแข่งขนั ตอ้ งเตรยี มกรณีศึกษาที่เนน้ ให้ผเู้ ข้าแข่งขนั ต้องใช้ความสามารถในการ คิดวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหา ไม่น้อยกว่า 5 เร่ือง ของแต่ละระดับการแข่งขัน และจัดเตรียม นักเรียนแสดงบทบาทสมมติเป็นผู้ขอรับคาปรึกษา (Counselee) กรณีศึกษาละ 1 คน โดยให้ เหมาะสมกับระดับชั้น (รวม 5 คน) เพอื่ ขอรบั คาปรึกษาจากผูใ้ ห้คาปรกึ ษา (Counselor) ในเวที การแข่งขนั ทั้งระดบั เขตพน้ื ที่การศกึ ษา ระดับภาค และระดบั ชาติ ๒) ทีมท่ีเข้าแข่งขัน คัดเลือกสมาชิกมา 1 คน ทาหน้าท่ีเป็นผู้ให้คาปรึกษา (Counselor) เพื่อให้ ผู้แข่งขนั ไดแ้ สดงถึงความสามารถในการให้การปรึกษาแกผ่ ู้ท่ีมาขอรับคาปรกึ ษา (Counselee)8.๗ ก่อนการแข่งขนั ควรมเี จ้าหน้าทช่ี ี้แจงรายละเอียด ทาความเข้าใจให้ผู้เข้าแข่งขันรับทราบถึงกระบวนการ และขั้นตอนในการแข่งขันอย่างชัดเจน๘.๘ มีเจ้าหน้าทจ่ี ัดลาดบั และเชญิ ให้ผเู้ ขา้ แขง่ ขนั และนักเรยี นที่แสดงบทบาทสมมตเิ ขา้ ไปยงั ห้องแขง่ ขนั๘.๙ ให้ผู้เขา้ แข่งขันจับสลากกรณีศึกษาต่อหน้าคณะกรรมการ ฯ ก่อนการแขง่ ขัน๘.๑๐ ในการแข่งขนั แตล่ ะทีมจะใชเ้ วลา ดงั น้ี - การนาเสนอโดยทมี ใชเ้ วลา 5 นาที - การนาเสนอบทบาทสมมุติ ใช้เวลา 10 นาที หากใชเ้ วลาเกินกวา่ ทก่ี าหนด จะมผี ลต่อการพจิ ารณาของคณะกรรมการ ฯ8.๑๑ มีคณะทางาน / เจา้ หน้าท่นี าผลการใหค้ ะแนนของกรรมการ ฯ แตล่ ะคนมาประมวลผลหลังสน้ิ สุด การแขง่ ขนั8.1๒ การประกาศผลการแขง่ ขันและการมอบรางวลั ให้แล้วเสรจ็ ภายในวันแข่งขันของแต่ละระดับ ************************************ศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น คร้ังท่ี ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน หน้า ๓๖

4. กจิ กรรมส่งเสริมนสิ ยั รกั การอ่าน 4.1. การจดั ทาหนงั สือเล่มเลก็ 1 คุณสมบัตผิ เู้ ขา้ แขง่ ขัน 1.1 นักเรียนระดับช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 - 6 (สพป./ทุกสงั กดั ) 1.2 นกั เรียนระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 - 3 (สพป./สพม./ทุกสังกดั ) 1.3 นักเรยี นระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 - 6 (สพป./สพม./ทกุ สังกัด) 2 ประเภทและจานวนผู้เข้าแข่งขนั 2.1 รปู แบบในการแข่งขันเป็นทมี ทีมละ 3 คน 2.2 จานวนทมี ทีเ่ ขา้ แข่งขัน แบง่ เปน็ 4 ระดบั ดังน้ี 2.2.1 นกั เรยี นระดับชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 - 6 จานวน 1 ทีม (สพป./ทุกสงั กดั ) 2.2.2 นกั เรยี นระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 - 3 จานวน 1 ทมี (สพป./ทุกสงั กดั ) 2.2.3 นักเรยี นระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 - 3 จานวน 1 ทมี (สพม./ทุกสงั กัด) 2.2.4 นักเรียนระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 - 6 จานวน 1 ทมี (สพป./สพม./ทกุ สงั กัด) 3 วิธีดาเนินการและรายละเอยี ดหลกั เกณฑก์ ารแขง่ ขนั 3.1 ลักษณะของการจัดทาหนังสือเล่มเล็ก เป็นหนังสือบันเทิงคดี มีภาพประกอบ มีแก่นของเรื่อง (Theme) หรือหัวขอ้ เรอ่ื งท่ีใชแ้ ขง่ ขัน ซง่ึ คณะกรรมการจะแจ้งใหท้ ราบในวนั แข่งขัน 3.2 รปู แบบของหนงั สอื เลม่ เลก็ 3.2.1 นักเรียนระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 - 6 1) ชนิดกระดาษ เนื้อในและปกของหนังสือใช้กระดาษวาดเขียน100 ปอนด์ ปกหนังสือทาเปน็ ปกอ่อนหรือปกแข็งกไ็ ด้ และเตรียมตัดกระดาษใหเ้ รยี บร้อยพร้อมเขา้ แข่งขัน 2) รูปเล่มของหนังสือ ขนาด A4 พับครึ่ง หรือ 14.8 x 21 เซ็นติเมตรลักษณะแนวตั้ง มอี งคป์ ระกอบเรยี งลาดบั ดงั นี้  ส่วนหน้าของหนังสือ ประกอบด้วย ปกหน้า (บอกช่ือหนังสือและคณะผู้จัดทา) หน้าปกใน (บอกช่ือหนังสือและคณะผู้จัดทา) และหน้าคานา (บอกถึงวัตถุประสงค์และแรงบนั ดาลใจ ที่มาของเรอ่ื งหรอื การนาเสนอเนื้อหา และคาขอบคุณผ้มู ีส่วนเกยี่ วข้องในการจัดทาหนังสอื )  ส่วนเน้ือหาของหนังสือ ประกอบด้วย เน้ือเรื่อง และภาพประกอบพร้อมทง้ั กาหนดเลขหน้าให้ชัดเจน  ส่วนท้ายของหนังสือ ประกอบด้วย หน้าคณะผู้จัดทา (บอกชื่อหนังสอื ช่อื ผูจ้ ดั ทา ชือ่ โรงเรยี น อาเภอ จังหวัด และชอื่ เขตพื้นที่การศกึ ษา) และปกหลงั ของหนงั สอื 3) ความหนาของเนือ้ เร่อื งและภาพประกอบ จานวน 8 หน้า 4) เนอ้ื เรื่องของหนังสือ ต้องเป็นเรื่องทีแ่ ต่งข้นึ เอง มีความเหมาะสมกับวัยระดบั ชั้น และมแี นวคดิ เชงิ สร้างสรรค์ เขยี นในรูปแบบรอ้ ยแกว้ และ หรอื รอ้ ยกรอง คาคลอ้ งจอง กลอนเปลา่ 5) ขนาด/รูปแบบ/สีของตัวอักษร มีความเหมาะสมสาหรับเด็กระดับช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 - 6ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครงั้ ที่ ๖8 ปีการศึกษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน หน้า ๓๗

6) ภาพประกอบ มีความสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง ขยายรายละเอียดให้เข้าใจเน้ือเรื่องท่ีนาเสนอ และเสริมให้หนังสือมีความสวยงาม และน่าอ่าน ไม่อนุญาตให้จัดทาเป็นภาพสามมิติ(Pop Up) 7) ชนิดของสีที่ใช้ในการวาดภาพประกอบ ใช้สีไม้ ถ้าต้องการเน้นภาพประกอบใช้ปากกาตดั เสน้ ได้ 8) เขียนกรอบแสดงเรื่องราวของหนังสือ (Story Board) บอกข้ันตอนการจัดวางเน้ือเร่ือง ภาพประกอบ และรูปเล่มของหนังสือ ต้ังแต่ปกหน้าจนถึงปกหลังไว้ในแต่ละกรอบอย่างชดั เจน 9) ทารูปเล่ม ให้มคี วามสวยงามตลอดท้ังเล่ม สามารถเขา้ เลม่ แบบเย็บอก(มุงหลังคา) หรือสันหนังสือทากาว หรือเทปเยื่อกาวสองหน้า ห้ามใช้สเปรย์แล็กเกอร์, แล็กเกอร์เคลือบเงาหนังสือ แตอ่ นญุ าตใหใ้ ช้สต๊กิ เกอรใ์ สได้ 3.2.2 นักเรียนระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 - 3 1) ชนิดกระดาษ เน้ือในและปกของหนังสือใช้กระดาษวาดเขียน100 ปอนด์ ปกหนงั สือทาเป็นปกอ่อนหรือปกแขง็ กไ็ ด้ และเตรยี มตัดกระดาษใหเ้ รยี บรอ้ ยพรอ้ มเขา้ แขง่ ขนั 2) รูปเล่มของหนังสือ ขนาด A4 พับครึ่ง หรือ 14.8 x 21 เซ็นติเมตรลักษณะแนวต้งั มีองค์ประกอบเรียงลาดบั ดงั น้ี  ส่วนหน้าของหนังสือ ประกอบด้วย ปกหน้า (บอกชื่อหนังสือและคณะผู้จัดทา) หน้าปกใน (บอกชื่อหนังสือและคณะผู้จัดทา) และหน้าคานา (บอกถึงวัตถุประสงค์และแรงบนั ดาลใจ ทีม่ าของเร่ืองหรือการนาเสนอเนอ้ื หา และคาขอบคุณผู้มีสว่ นเกี่ยวข้องในการจัดทาหนังสือ)  สว่ นเนอื้ หาของหนังสอื ประกอบด้วย เน้ือเรอื่ ง และภาพประกอบพร้อมท้ังกาหนดเลขหนา้ ให้ชัดเจน  ส่วนท้ายของหนังสือ ประกอบด้วย หน้าคณะผู้จัดทา (บอกช่ือหนังสือ ชือ่ ผู้จัดทา ชือ่ โรงเรียน อาเภอ จงั หวดั และชอ่ื เขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษา) และปกหลังของหนงั สอื 3) ความหนาของเน้ือเร่ืองและภาพประกอบ จานวน 12 หนา้ 4) เนอ้ื เรอ่ื งของหนังสือ ต้องเป็นเรอ่ื งท่ีแต่งขน้ึ เอง มีความเหมาะสมกับวัยระดับชนั้ และมีแนวคดิ เชิงสรา้ งสรรค์ เขียนในรูปแบบร้อยแกว้ และ หรือร้อยกรอง คาคลอ้ งจอง กลอนเปลา่ 5) ขนาด/รูปแบบ/สีของตัวอักษร มีความเหมาะสมสาหรับเด็กระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 6) ภาพประกอบ มีความสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง ขยายรายละเอียดให้เข้าใจเนื้อเรื่องท่ีนาเสนอ และเสริมให้หนังสือมีความสวยงาม และน่าอ่าน ไม่อนุญาตให้จัดทาเป็นภาพสามมิติ(Pop Up) 7) ชนิดของสีที่ใช้ในการวาดภาพประกอบ ใช้สีไม้ระบายน้าหรอื สีแสตมป์ถา้ ต้องการเน้นภาพประกอบใช้ปากกาตดั เสน้ ได้ 8) เขียนกรอบแสดงเร่ืองราวของหนังสือ (Story Board) บอกขั้นตอนการจัดวางเน้ือเร่ือง ภาพประกอบ และรูปเล่มของหนังสือ ตั้งแต่ปกหน้าจนถึงปกหลังไว้ในแต่ละกรอบอยา่ งชดั เจนศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียน คร้งั ท่ี ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น หน้า ๓๘

9) ทารูปเล่ม ให้มีความสวยงามตลอดท้ังเล่ม สามารถเข้าเล่มแบบเย็บอก(มุงหลังคา) หรือสันหนังสือทากาว หรือเทปเย่ือกาวสองหน้า ห้ามใช้สเปรย์แล็กเกอร์, แล็กเกอร์เคลือบเงาหนงั สือ แตอ่ นญุ าตใหใ้ ชส้ ติก๊ เกอรใ์ สได้ 3.2.3 นกั เรยี นระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 - 6 1) ชนิดกระดาษ เนื้อในและปกของหนังสือใช้กระดาษวาดเขียน100 ปอนด์ ปกหนังสอื ทาเป็นปกออ่ นหรือปกแข็งก็ได้ และเตรยี มตดั กระดาษให้เรียบรอ้ ยพร้อมเขา้ แข่งขัน 2) รูปเล่มของหนังสือ ขนาด A4 พับครึ่ง หรือ 14.8 x 21 เซ็นติเมตรลักษณะแนวตัง้ มีองค์ประกอบเรียงลาดบั ดงั น้ี  ส่วนหน้าของหนังสือ ประกอบด้วย ปกหน้า (บอกช่ือหนังสือและคณะผู้จัดทา) หน้าปกใน (บอกช่ือหนังสือและคณะผู้จัดทา) และหน้าคานา (บอกถึงวัตถุประสงค์และแรงบันดาลใจ ทมี่ าของเร่ืองหรือการนาเสนอเนอ้ื หา และคาขอบคณุ ผมู้ ีสว่ นเกี่ยวข้องในการจัดทาหนังสอื )  ส่วนเนื้อหาของหนังสือ ประกอบด้วย เนื้อเร่ือง และภาพประกอบพร้อมทัง้ กาหนดเลขหน้าใหช้ ดั เจน  ส่วนท้ายของหนังสือ ประกอบด้วย หน้าคณะผู้จัดทา (บอกช่ือหนงั สือ ชื่อผู้จดั ทา ชือ่ โรงเรียน อาเภอ จังหวัด และชื่อเขตพื้นท่ีการศึกษา) และปกหลงั ของหนงั สือ 3) ความหนาของเน้อื เร่ืองและภาพประกอบ จานวน 16 หนา้ 4) เน้ือเรื่องของหนังสือ ต้องเป็นเรื่องทแ่ี ต่งขึ้นเอง มคี วามเหมาะสมกับวัยระดับชั้น และมแี นวคิดเชงิ สรา้ งสรรค์ เขียนในรูปแบบร้อยแก้ว และ หรอื รอ้ ยกรอง คาคลอ้ งจอง กลอนเปล่า 5) ขนาด/รูปแบบ/สีของตัวอักษร มีความเหมาะสาหรับเด็กระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 - 6 6) ภาพประกอบ มีความสอดคล้องกับเน้ือเรื่อง ขยายรายละเอียดให้เข้าใจเนื้อเร่ืองที่นาเสนอ และเสริมให้หนังสือมีความสวยงาม และน่าอ่าน ไม่อนุญาตให้จัดทาเป็นภาพสามมิติ(Pop Up) 7) ชนิดของสีที่ใช้ในการวาดภาพประกอบ ใช้สีไม้ระบายน้าหรือสีแสตมป์ถ้าต้องการเนน้ ภาพประกอบใชป้ ากกาตัดเส้นได้ 8) เขียนกรอบแสดงเร่ืองราวของหนังสือ (Story Board) บอกขั้นตอนการจัดวางเน้ือเร่ือง ภาพประกอบ และรูปเล่มของหนังสือ ตั้งแต่ปกหน้าจนถึงปกหลังไว้ในแต่ละกรอบอย่างชดั เจน 9) ทารูปเล่ม ให้มีความสวยงามตลอดท้ังเล่ม สามารถเข้าเล่มแบบเย็บอก(มุงหลังคา) หรือสันหนังสือทากาว หรือเทปเยื่อกาวสองหน้า ห้ามใช้สเปรย์แล็กเกอร์, แล็กเกอร์เคลือบเงาหนงั สอื แต่อนุญาตให้ใชส้ ตกิ๊ เกอรใ์ สได้ 3.3 ผลงานทส่ี ่งเขา้ แข่งขันจะไมส่ ง่ คนื 3.4 เวลาท่ีใชใ้ นการแข่งขนั จานวน 6 ช่ัวโมง 3.5 วสั ดุอปุ กรณใ์ นการแขง่ ขนั ผู้แข่งขันเปน็ ผู้จดั เตรียมมาเองให้พร้อมศิลปหตั ถกรรมนักเรยี น ครงั้ ที่ ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน หนา้ ๓๙

4 เกณฑก์ ารให้คะแนน (100 คะแนน)4.1 เนอ้ื หาสาระ 30 คะแนน4.2 ภาพประกอบ/การนาเสนอ 20 คะแนน4.3 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 10 คะแนน4.4 การใชส้ านวนภาษา 10 คะแนน4.5 การเขยี นกรอบแสดงเรื่องราวของหนังสอื (Story Board) 10 คะแนน4.6 การทารูปเล่ม 10 คะแนน4.7 การต้งั ช่ือเร่อื ง 5 คะแนน4.8 ขนาด/รูปแบบ/สขี องตัวอกั ษร/ตวั สะกด/การวางวรรณยุกต์ 5 คะแนน ในกรณีที่ผู้เข้าแข่งขันใช้เวลาแข่งขันเกินระยะเวลาท่ีกาหนด คณะกรรมการจะตัดคะแนนนาทลี ะ 1 คะแนน (นบั เวลาส่วนทเี่ ปน็ เศษเกินกว่า 30 วินาที ให้นบั เป็น 1 นาที)5 เกณฑก์ ารตัดสนิรอ้ ยละ 80 - 100 ได้รบั รางวัลระดับเหรยี ญทองรอ้ ยละ 70 – 79 ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงนิร้อยละ 60– 69 ได้รับรางวลั ระดับเหรยี ญทองแดงต่ากว่ารอ้ ยละ 60 ไดร้ บั เกียรติบตั ร เวน้ แต่กรรมการจะเห็นเป็นอย่างอืน่ผลการตดั สนิ ของคณะกรรมการถอื เป็นสน้ิ สุด6 คณะกรรมการแข่งขนั 6.1 คณะกรรมการดาเนินการแข่งขัน แบ่งออกเป็น 4 ระดับช้ัน ระดับชั้นละไม่น้อยกว่า3 คน ซ่ึงเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าท่ีดาเนินงานจัดการแข่งขันให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการทก่ี าหนดดว้ ยความโปรง่ ใส และความเป็นธรรมแกท่ ุกฝา่ ย 6.2 คณะกรรมการตัดสนิ การแขง่ ขัน แบ่งออกเป็น 4 ระดบั ชั้น ระดบั ช้ันละ 3 - 5 คน โดยมีคุณสมบตั ดิ งั ต่อไปน้ี 6.2.1 ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับวรรณกรรมสาหรับเด็กและเยาวชน 6.2.2 ศึกษานิเทศก์ที่รับผิดชอบกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน หรือการพัฒนาหอ้ งสมดุ หรอื ศึกษานิเทศกท์ มี่ คี วามรูแ้ ละประสบการณเ์ กีย่ วกับวรรณกรรมสาหรบั เด็กและเยาวชน 6.2.3 ครูบรรณารักษ์ หรือครูผูท้ าหน้าท่ีบรรณารักษ์ หรือครูผสู้ อน หรือผอู้ านวยการโรงเรียนท่ีมคี วามรู้และประสบการณเ์ ก่ียวกับวรรณกรรมสาหรบั เด็กและเยาวชน 6.2.4 ขอ้ ควรคานงึ ถงึ ในการสรรหากรรมการ 1) กรรมการท่ีเป็นครูผู้สอน หรือศึกษานิเทศก์ไม่ควรตัดสินในกรณีโรงเรียนของตนเข้าแข่งขัน ถ้ามีคาส่ังแต่งตั้งคณะกรรมการไปแล้ว ขอให้งดออกเสียง หรือมีคาส่ังแต่งตั้งเปล่ียนแปลงได้เพอ่ื ความโปรง่ ใส และยตุ ธิ รรม 2) กรรมการที่เป็นครูผู้สอนควรเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ในการจดั ทาหนังสือ 3) กรรมการควรมาจากหน่วยงาน/องค์กรท่หี ลากหลาย (กรณีการแข่งขันระดับภาค)ศิลปหตั ถกรรมนักเรยี น ครัง้ ท่ี ๖8 ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น หน้า ๔๐

4) กรณีการแข่งขันระดับเขตพื้นท่ีการศึกษา กรรมการไม่ควรเป็นผู้ที่อยู่ในโรงเรียนเดยี วกนั กบั โรงเรียนทเี่ ข้าแขง่ ขัน 5) กรรมการอาจใหข้ อ้ เสนอแนะเพื่อปรับปรงุ ผลงานให้เป็นไปอย่างถกู ต้องและมคี ณุ ภาพให้กับทีมผเู้ ขา้ แขง่ ขนั ท่ีคะแนนระดับเหรยี ญทองในลาดับ 1 - 3 ในระดบั ภาค และระดับชาติ 6.3 แนวทางการพจิ ารณาของคณะกรรมการตัดสิน 6.3.1 คณะกรรมการควรให้คะแนนเปน็ ไปตามเกณฑ์ท่ีกาหนด 6.3.2 คณะกรรมการควรประชุมปรึกษาหารือก่อนการตดั สินเพ่ือให้เข้าใจเกณฑ์การตดั สินให้เปน็ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ย 6.3.3 การให้คะแนนกรรมการควรพจิ ารณา ดังนี้  เน้ือหาสาระ พิจารณาตามแก่นของเร่ือง (Theme) หรือหัวข้อเร่ืองที่ใช้แข่งขัน ซึ่งคณะกรรมการแจ้งให้ทราบในวันแข่งขัน ความคิดรวบยอดเหมาะสมกับระดับชั้น และกลวิธีการดาเนินเรือ่ งน่าสนใจ สอดคล้องกันอย่างมรี ะบบและมีความเหมาะสมกลมกลืนเป็นอย่างดี  ภาพประกอบ พิจารณาความเหมาะสม ส่ือความหมายได้สอดคล้องกับเนื้อเรอ่ื ง มคี วามสวยงามในการสร้างสรรค์ของตัวละคร ฉาก สง่ เสริมความเข้าใจและจินตนาการ  ความคิดสร้างสรรค์ พิจารณาเน้ือเรื่อง ภาพประกอบ รูปเล่ม ปก การจัดวางตัวอกั ษร การจัดหน้า และสว่ นประกอบอนื่ ๆ ทีม่ ีแนวคิดสรา้ งสรรคไ์ ดเ้ หมาะสมกบั ระดับช้นั  การใช้สานวนภาษา พิจารณาการใช้สานวนโวหารถ้อยคาที่นามาใช้ถูกต้องตามหลกั ภาษาไทย วิธีเรยี บเรียงเหมาะสมกบั ระดับชน้ั  การเขียนกรอบแสดงเรื่องราวของหนังสือ (Story Board) พิจารณาการนาเสนอการจัดวางองค์ประกอบของหนังสือแต่ละกรอบ ต้ังแต่หน้าปกจนถึงหน้าสุดท้ายได้อย่างถูกต้องและชดั เจน สอดคลอ้ งกบั ผลงานทีจ่ ัดทาขนึ้  การทารูปเล่ม พิจารณาคุณค่าความงามเชิงศิลปะ ความประณีตแข็งแรงทนทาน และสะอาดเรียบร้อย  การตั้งช่ือเร่ือง พิจารณาความสัมพันธ์กับแก่นของเร่ือง วลีหรือข้อความทไ่ี ดค้ วามหมายในตวั เอง มีความน่าสนใจ และนา่ ติดตามอา่ น  ขนาด/รูปแบบ/สีของตัวอักษร/ตัวสะกด/การวางวรรณยุกต์ พิจารณาขนาดตัวอักษรที่ใช้ของปกหนังสือ เน้ือเร่ืองมีขนาดเหมาะสมกับระดับช้ัน รูปแบบและสีของตัวอักษรชัดเจนอา่ นง่าย และเขยี นถูกตอ้ งตามหลกั ภาษาไทย 7 รายละเอยี ดในการจดั การแข่งขัน 7.1 การจดั เตรียมอุปกรณใ์ นการแข่งขนั 7.1.1 ป้ายตัง้ โตะ๊ บอกเลขท่ีทีมทเ่ี ข้าแข่งขนั 7.1.2 นาฬิกาบอกเวลา 7.1.3 เครื่องเสียง 7.2 การจัดเตรยี มสถานทใี่ นการแข่งขนั 7.2.1 สถานท่ี หรือห้องท่ีใช้ในการแข่งขันให้สามารถดาเนินการแข่งขันพร้อมกันได้ทกุ ทมี ในระดบั เดยี วกนัศิลปหตั ถกรรมนักเรยี น คร้ังที่ ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น หนา้ ๔๑

7.2.2 โต๊ะ - เก้าอี้ ให้มีขนาดเหมาะสมและสะดวกต่อการปฏบิ ตั ิงานกลุ่มทมี่ ีนกั เรยี นจานวน 3 คน พรอ้ มปา้ ยต้ังโต๊ะบอกเลขทท่ี ีมทเ่ี ข้าแขง่ ขัน 7.2.3 นาฬกิ าบอกเวลา ใหผ้ ู้เข้าแขง่ ขันทกุ ทมี สามารถมองเห็นได้อยา่ งชัดเจน 7.2.4 เครื่องเสียง ให้ผู้เข้าแข่งขันทุกทีมสามารถได้ยินเสียงคาชี้แจงจากกรรมการไดอ้ ยา่ งชัดเจน และเขา้ ใจตรงกนั 7.3 การดาเนินการจัดการแข่งขัน 7.3.1 ลงทะเบียนรายงานตัวผู้เข้าแข่งขัน ในกรณีท่ีผู้เข้าแข่งขันมารายงานตัว ช้ากว่าเวลาที่กาหนดให้สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ แต่เวลาส้ินสุดการเข้าแข่งขันต้องเป็นไปตามท่ีคณะกรรมการดาเนนิ งานกาหนดพรอ้ มกันทุกทมี 7.3.2 ตรวจอุปกรณ์และเครอื่ งมือท่ใี ช้ในการแข่งขันก่อนเวลาการแข่งขนั 7.3.3 การเตือนเวลาการแข่งขัน ให้เตือนครั้งที่ 1 เหลือเวลา 30 นาที เตือนคร้ังที่2 เหลือเวลา 15 นาที เตือนครงั้ ที่ 3 หมดเวลา กรณีที่ทีมผู้เข้าแข่งขันเกินระยะเวลาที่กาหนดจะถูก ตัดคะแนนนาทลี ะ 1 คะแนน โดยนับเวลาส่วนท่เี ป็นเศษเกินกว่า 30 วนิ าที ให้นบั เปน็ 1 นาที 7.3.4 ผแู้ ขง่ ขันหา้ มนาเคร่อื งมือสอ่ื สารทกุ ประเภทเข้าในการแข่งขัน 7.3.5 การเข้าห้องน้า ผู้เข้าแข่งขันต้องขออนุญาตจากกรรมการ และอยู่ภายใต้การดแู ลของกรรมการดาเนินการแข่งขนั 7.3.6 การส่ง-มอบอาหาร/น้า หรืออุปกรณ์การแข่งขันอื่นใดต้องส่ง-มอบผ่านกรรมการดาเนนิ การแข่งขันเทา่ นั้น 8 การแข่งขันระดบั ภาค และระดบั ชาติ 8.1 ทีมท่ีเป็นตัวแทนของเขตพื้นที่การศึกษาเข้าแข่งขันในระดับภาค ทุกกิจกรรมต้องได้คะแนนระดับเหรียญทอง ลาดับท่ี 1 (คะแนนร้อยละ 80 ขึน้ ไป) และทีมท่ีเป็นตวั แทนระดบั ภาคเข้าแขง่ ขันในระดบั ชาติ จะต้องได้คะแนนระดบั เหรียญทอง ลาดบั ที่ 1 - 3 (คะแนนรอ้ ยละ 80 ข้ึนไป) 8.2 ในกรณีท่ีแข่งขันระดับเขตพ้ืนที่การศึกษามีผู้ชนะลาดับสูงสุดได้คะแนนเท่ากันและในระดับภาคมีมากกว่า 3 ทีม ให้พิจารณาลาดับที่ตามลาดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน เช่น มีผู้ที่ได้คะแนนข้อท่ี 1 เท่ากันให้ดูคะแนนข้อที่ 2 ทีมใดได้คะแนนข้อที่ 2 มากกว่าถือเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าข้อท่ี 2 เท่ากันให้ดูคะแนนในขอ้ ถดั ไป กรณีคะแนนเท่ากันทุกขอ้ ให้ประธานกรรมการตดั สนิ เปน็ ผ้ชู ขี้ าด 9 การเผยแพร่ผลงานทไ่ี ด้รับรางวัล ผลงานของนักเรียนที่ได้รับคะแนนสูงสุดอันดับที่ 1 - 3 คณะกรรมการพิจารณาและนาไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ หรือส่ืออื่น ๆ ต่อไป ซึ่งผลงานของผู้แข่งขันถือเป็นลิขสิทธิ์ของสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน เพอื่ ใช้ในการเผยแพร่และประชาสัมพนั ธ์ศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น ครงั้ ท่ี ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น หน้า ๔๒

คาแนะนาสาหรบั กรรมการตดั สินการจดั ทาหนงั สือเล่มเล็ก หนังสอื บันเทิงคดี หมายถึง หนงั สือท่ีแตง่ ขน้ึ เพ่ือความสนุกสนานเพลิดเพลนิ มีจินตนาการ สอดแทรกคุณธรรม คติธรรม เน้ือหาสาระของบันเทิงคดีเป็นเร่ืองราวที่ผู้แต่งสมมติข้ึน ทั้งตัวละคร เหตุการณ์ สถานท่ีและเวลา ส่วนสาคญั ของหนงั สอื บันเทิงคดี ๑. เค้าโครงเรื่อง (Plot) คือ การลาดับเหตุการณ์หรือเร่ืองราวที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกันอย่างสมเหตุสมผล เมื่ออ่านเหตุการณ์หน่ึงก็อยากทราบว่าเรื่องราวจะจบอย่างไร ขณะอ่านผู้อ่านจะรู้สึกเพลิดเพลินหรอื สบั สนวา่ ตวั ละครนค้ี ือใครมาจากไหน ๒. ตัวละคร (Characters) เป็นศูนย์กลางของเรื่อง เร่ืองราวและเหตุการณ์ท่ีผู้แต่งสร้างเป็นเคา้ โครงเร่ืองข้นึ จะผกู พันวนเวียนอยทู่ ี่ตวั ละคร ถ้าไม่มตี ัวละครกค็ งไม่มีเรอ่ื งราวทจ่ี ะบอกเล่าแก่ผู้อา่ น ๓. ฉาก (Setting) คอื เวลาและสถานท่ีทีเ่ รื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดข้ึนตามเค้าโครงเรอื่ งมีเรื่องราว เหตุการณ์ ตัวละคร ส่ิงท่ีตัวละครทา คิด และรู้สึก อาจจะเกิดข้ึนทั้งในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตตามจินตนาการ ๔. แก่นของเรื่อง (Theme) คือ สาระสาคัญหรือหัวใจของเร่ืองท่ีผู้เขียนสะท้อนหรือแสดงให้ผู้อ่านเข้าใจและสรุปความหมายแก่นของเร่ืองได้ เม่ืออ่านเหตุการณ์ เร่อื งราว และชีวิตของตัวละคร ตั้งแต่ต้นจนจบ ๕. สานวนภาษา ผู้เขียนเลือกใช้คาและประโยคเรียบเรียงเป็นเร่ืองราว ซ่ึงทาให้ผู้อ่านเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน การใช้ภาษาท่ีเหมาะสม มีบทสนทนาให้เห็นพฤติกรรมของตัวละคร สร้างฉากท่ปี ระทบั ใจ สรา้ งความรสู้ ึกและอารมณต์ ่าง ๆ แก่ผ้อู ่านตามเหตกุ ารณท์ ีเ่ กิดขึ้น 6. กรอบแสดงเร่ืองราวของหนังสือ (Story Board) คือ การเขียนกรอบแสดงเรื่องของหนังสือแต่ละเรื่อง โดยนาเค้าโครงเรื่องมาเขียนลงในแต่ละกรอบ บอกว่ามีเร่ืองและภาพสัมพันธ์กันตามลาดับจนจบเล่ม มอี งค์ประกอบ ดงั นี้ศลิ ปหัตถกรรมนักเรียน ครัง้ ที่ ๖8 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น หน้า ๔๓

ปกหลัง ปกหน้า *กระดาษ *กระดาษ หนา้ หน้า ผนึกปก ผนึกปก วา่ ง ปกใน ว่าง คานา *เนื้อเร่ือง *เนอื้ เรือ่ ง *เนื้อเรอ่ื ง *เนอ้ื เร่อื ง *เนื้อเรอื่ ง *เนอ้ื เรอ่ื ง *เน้อื เร่ืองว่าง 23 45 67 1*เนื้อเร่ือง *เนื้อเรื่อง *เนอ้ื เรอ่ื ง *เนื้อเรอื่ ง *เนื้อเรอื่ ง *เนื้อเรอ่ื ง *เนือ้ เรอ่ื ง *เนอื้ เรอ่ื ง 89 10 11 12 13 14 15*เนื้อเร่ือง หนา้ คณะ *กระดาษ *กระดาษ 16 ผู้จดั ทา ผนกึ ปก ผนกึ ปก หมายเหตุ : ๑. *เนอื้ เร่อื ง : จานวนหนา้ ขึน้ อยกู่ บั ระดับชั้นของผ้เู ข้าแข่งขันตามเกณฑ์การแข่งขัน ๒. *กระดาษผนึกปก : จะมหี รอื ไม่มีกไ็ ด้ เปน็ สิทธิข์ องผู้จัดทา ๗. เน้ือเรื่อง และ หรือภาพประกอบ การนับจานวนหน้า ให้คณะกรรมการเร่ิมนับเน้ือเร่ืองรวมทั้งหนา้ ที่มภี าพประกอบแต่ไมม่ ีเนื้อเร่ืองทุกหน้า จนถงึ หน้าสุดท้ายของเนอื้ เรื่อง ไม่รวมหน้าคณะผจู้ ัดทา ในกรณีทภ่ี าพประกอบตอ่ เน่ืองกัน ๒ หน้า (Double space) ให้นบั เป็น ๒ หน้าศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียน ครง้ั ท่ี ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน หน้า ๔๔

4.2 การจดั กิจกรรมยุวบรรณารกั ษเ์ พือ่ ส่งเสริมการอ่าน1 คณุ สมบตั ิผู้เขา้ แข่งขนั 1.1 นกั เรยี นระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 - 6 (สพป./ทกุ สงั กดั ) 1.2 นักเรียนระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 - 3 (สพป./สพม./ทุกสังกัด) 1.3 นักเรียนระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 - 6 (สพป./สพม./ทกุ สงั กดั )2 ประเภทและจานวนผเู้ ขา้ แข่งขนั 2.1 รูปแบบในการแข่งขนั เป็นทมี ทมี ละ 3 คน 2.2 จานวนทมี ท่ีเขา้ แขง่ ขัน แบง่ เปน็ 4 ระดบั ดงั นี้ 2.2.1 นักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 จานวน 1 ทมี (สพป./ทุกสงั กัด) 2.2.2 นักเรยี นระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 จานวน 1 ทีม (สพป./ทุกสังกดั ) 2.2.3 นกั เรยี นระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1 - 3 จานวน 1 ทมี (สพม./ทุกสงั กดั ) 2.2.4 นักเรียนระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 - 6 จานวน 1 ทมี (สพป./สพม./ทกุ สังกัด)3 วธิ ีดาเนนิ การและรายละเอยี ดหลกั เกณฑ์การแขง่ ขัน 3.1 การจัดกิจกรรมยุวบรรณารักษ์เพื่อส่งเสริมการอ่าน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเป็นนักเรียนชว่ ยงานห้องสมุดโรงเรียน (ยวุ บรรณารักษ์) หรือนักเรียนที่เป็นสมาชิกชมรม ชุมนุม/ห้องสมุด/ส่งเสริมการอ่านโดยทาหน้าที่ช่วยงานห้องสมุดและจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในโรงเรียน หรือชุมชนอย่างต่อเน่ืองและสมา่ เสมอ 3.2 กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ต้องเป็นกิจกรรมที่นักเรียนสร้างสรรค์ข้ึน โดยมี ครูบรรณารักษ์เป็นที่ปรกึ ษา และสามารถนาไปปฏิบัติได้จริง กิจกรรมควรเป็นกิจกรรมทแี่ สดงแนวคิด ในรูปแบบใหม่ ๆ ท่ีชัดเจนว่าสามารถช่วยกระตุ้นให้นักเรียนท่ีร่วมกิจกรรมเกิดความสนใจการอ่านและเข้าใช้ห้องสมุดเพ่มิ ข้ึน รวมทง้ั บรกิ ารชมุ ชนเพอื่ สรา้ งสังคมแหง่ การอา่ น จานวน 1 - 3 กิจกรรม 3.3 กิจกรรมทนี่ าเสนอต้องมคี วามเหมาะสมกับวัย ระดับชน้ั และกลมุ่ เปา้ หมาย 3.4 ผู้เข้าแข่งขันแต่ละทีมจะต้องจัดทาข้อมูลกิจกรรมที่นาเสนอ โดยสรุปเป็นลักษณะข้อความและภาพ (Infographic) ลงบนกระดาษ A4 จานวน 1 แผ่น (หน้าเดียว) พร้อมส่งให้แก่คณะกรรมการตามจานวนคณะกรรมการ เพ่ือพจิ ารณาประกอบการนาเสนอกิจกรรมในวันแขง่ ขนั 3.5 ข้อมูลกิจกรรมท่ีสรุปเป็นลักษณะข้อความและภาพ (Infographic) ควรมีการสร้างสรรค์ภาพและเนือ้ หาให้อ่านในเวลารวดเร็ว เข้าใจง่าย และชัดเจน โดยบอกช่ือกิจกรรม วัตถุประสงค์ กล่มุ เป้าหมายสอ่ื และอปุ กรณ์ กระบวนการจดั กิจกรรม และการประเมนิ ผล 3.6 สือ่ และอุปกรณ์ ผู้เข้าแข่งขันจัดเตรียมและสร้างสรรค์ขึ้นเอง แต่ควรเป็นสื่อและอุปกรณ์ท่ีเรียบง่าย กะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก ประหยัด มีความเหมาะสมกับกิจกรรมท่ีนาเสนอและใช้ประโยชน์ได้อย่างคุม้ ค่าทกุ ชนิ้ โดยมีจานวนไมเ่ กนิ 7 ช้นิศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียน ครงั้ ท่ี ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน หน้า ๔๕

3.7 รูปแบบการนาเสนอกจิ กรรม 3.7.1 ผู้เข้าแข่งขันนาเสนอกิจกรรม แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์กิจกรรมรูปแบบ กลวธิ ีในการดาเนนิ การ โดยเป็นไปตามลาดบั และสอดคล้องกบั ส่อื ทใี่ ช้อย่างเหมาะสม 3.7.2 ผู้เข้าแข่งขันต้องใช้เสียงจริงในการนาเสนอ ไม่ใช้การบันทึกเสียง และนาเสนอดว้ ยภาษาไทยเป็นหลัก และอาจใช้ภาษาต่างประเทศประกอบไดบ้ ้าง 3.7.3 ผู้เข้าแข่งขันใช้เวลาในการนาเสนอทีมละ 15 นาที แบ่งออกเป็น การจัดเตรียมส่ือ/อุปกรณ์ 5 นาที และการนาเสนอกจิ กรรม 10 นาที (ไม่รวมเวลาตอบคาถาม)4 เกณฑ์การใหค้ ะแนน (100 คะแนน)4.1 รปู แบบและเนือ้ หากิจกรรม (40 คะแนน) ความคดิ สร้างสรรค์ 10 คะแนน ลาดบั เนื้อหา ความต่อเนือ่ งของกิจกรรม 10 คะแนน กจิ กรรมนาไปปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ 10 คะแนน ประโยชน์ที่ไดร้ ับ 10 คะแนน4.2 ความสามารถในการพูดนาเสนอและตอบคาถาม (30 คะแนน) บุคลิกท่าทาง สีหน้า สายตา 5 คะแนน การใช้ภาษา/อกั ขรวิธี 5 คะแนน การใชเ้ สยี ง 5 คะแนน การใชส้ ือ่ ประกอบการพดู 5 คะแนน การลาดบั เนื้อหา 5 คะแนน ปฏิภาณไหวพรบิ ในการตอบคาถาม 5 คะแนน4.3 ขอ้ มลู นาเสนอกิจกรรมลกั ษณะข้อความและภาพ (Infographic) (20 คะแนน) การนาเสนอเนอ้ื หากิจกรรม 10 คะแนน การออกแบบรปู แบบนาเสนอกจิ กรรม 10 คะแนน4.4 ส่ือและอปุ กรณ์ประกอบกจิ กรรม (10 คะแนน) รปู แบบสื่อและอุปกรณ์ 5 คะแนน จานวน/การจัดวางสอ่ื และอุปกรณ์ 5 คะแนนในกรณีท่ีผู้เข้าแข่งขันใช้เวลาการแข่งขันเกินระยะเวลาที่กาหนด คณะกรรมการจะตัดคะแนนนาทีละ 1 คะแนน (นบั เวลาสว่ นที่เปน็ เศษเกนิ กวา่ 30 วินาที ใหน้ ับเปน็ 1 นาที)5 เกณฑก์ ารตัดสินร้อยละ 80 - 100 ไดร้ ับรางวัลระดบั เหรียญทองร้อยละ 70 – 79 ไดร้ บั รางวัลระดบั เหรยี ญเงนิร้อยละ 60– 69 ได้รับรางวัลระดับเหรียญทองแดงต่ากวา่ รอ้ ยละ 60 ได้รับเกยี รตบิ ัตร เวน้ แต่กรรมการจะเห็นเป็นอย่างอน่ืผลการตัดสนิ ของคณะกรรมการถือเป็นสน้ิ สุดศลิ ปหตั ถกรรมนักเรยี น ครง้ั ท่ี ๖8 ปีการศึกษา ๒๕๖1 กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น หน้า ๔๖

6 คณะกรรมการแข่งขนั 6.1 คณะกรรมการดาเนินการแข่งขัน ระดับชั้นละไม่น้อยกว่า 3 คน ซ่ึงเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าท่ีดาเนินงานจัดการแข่งขันให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดด้วยความโปร่งใสและความเป็นธรรมแกท่ กุ ฝา่ ย 6.2 คณะกรรมการตัดสนิ การแข่งขัน แบง่ ออกเป็น 4 ระดบั ชั้น ระดับช้ันละ 3 - 5 คน โดยมีคุณสมบตั ดิ งั ตอ่ ไปนี้ 6.2.1 ผู้ทรงคุณวฒุ ทิ ี่มคี วามรู้และประสบการณ์เก่ียวกับการส่งเสริมการอ่านและงานห้องสมดุ 6.2.2 ศึกษานิเทศก์ที่รับผิดชอบกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน หรือการพัฒนาหอ้ งสมดุ หรือศกึ ษานเิ ทศกท์ ่ีมคี วามรูแ้ ละประสบการณ์เกย่ี วกบั การสง่ เสรมิ การอ่านและงานห้องสมดุ 6.2.3 ครบู รรณารักษ์ หรือครผู ทู้ าหนา้ ทีบ่ รรณารกั ษ์ หรอื ครูผูส้ อน หรือผอู้ านวยการโรงเรยี นท่ีมคี วามรู้และประสบการณเ์ กี่ยวกับการส่งเสริมการอ่านและงานห้องสมุด 6.2.4 ข้อควรคานึงถึงในการสรรหากรรมการ 1) กรรมการท่ีเป็นครูผู้สอน หรือศึกษานิเทศก์ไม่ควรตัดสินในกรณีโรงเรียนของตนเข้าแข่งขัน ถ้ามีคาสั่งแต่งต้ังคณะกรรมการไปแล้ว ขอให้งดออกเสียง หรือมีคาส่ังแต่งต้ังเปลย่ี นแปลงได้เพื่อความโปร่งใส และยุติธรรม 2) กรรมการที่เป็นครูผู้สอนควรเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมปี ระสบการณใ์ นการจดั กิจกรรมส่งเสรมิ การอ่าน 3) กรรมการควรมาจากหน่วยงาน/องค์กรที่หลากหลาย (กรณกี ารแข่งขันระดบั ภาค) 4) กรณีการแข่งขันระดับเขตพื้นที่การศึกษา กรรมการไม่ควรเป็นผู้ที่อยู่ในโรงเรยี นเดียวกันกับโรงเรียนท่ีเข้าแขง่ ขนั 5) กรรมการอาจให้ข้อเสนอแนะเพ่ือปรบั ปรุงผลงานให้เป็นไปอยา่ งถูกต้องและมีคณุ ภาพให้กบั ทมี ทคี่ ะแนนระดบั เหรียญทองในลาดับท่ี 1 - 3 ในระดบั ภาค และระดบั ชาติ 6.3 แนวทางการพจิ ารณาของคณะกรรมการตดั สนิ 6.3.1 คณะกรรมการให้คะแนนตามเกณฑ์ที่กาหนด 6.3.2 คณะกรรมการถามคาถามไดไ้ ม่เกิน ๓ คาถาม 6.3.๓ คณะกรรมการควรประชุมปรึกษาหารือเพ่ือทาความเข้าใจเกณฑ์การตัดสินร่วมกนั ก่อนการแขง่ ขัน 6.3.๔ การใหค้ ะแนนกรรมการควรพจิ ารณา ดงั นี้  รูปแบบและเนื้อหากิจกรรม พิจารณาความคิดสร้างสรรค์ของรูปแบบกจิ กรรม ลาดบั เนื้อหา ความตอ่ เน่ืองของกจิ กรรม นาไปปฏบิ ตั ิได้จรงิ ประโยชน์ที่ไดร้ ับ  ความสามารถในการพูดนาเสนอและตอบคาถาม พิจารณาบุคลิกภาพท่าทางที่ใช้สุภาพเหมาะสมสอดคล้องกับเร่ืองที่นาเสนอ การแสดงความรู้สึกทางสีหน้าและสายตา การพูดออกเสียง ระดับเสียง จังหวะการพูด การใช้ภาษา/อักขรวิธี การลาดับเน้ือหาได้เข้าใจมีการเน้นย้าชวนให้ติดตาม และลักษณะการใช้ส่ือประกอบการพูด รวมทั้งปฏิภาณไหวพริบในการตอบคาถามแสดงให้เห็นถึงความคดิ ทศั นคติ อารมณ์ ความรู้ และความสามารถ  ข้อมูลนาเสนอลักษณะข้อความและภาพ (Infographic) ให้พิจารณาเน้ือหาของกิจกรรมอธิบายได้ถูกต้อง ข้อความกระชับ ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย ชัดเจน และน่าสนใจ มีความคิดศิลปหตั ถกรรมนักเรยี น ครั้งท่ี ๖8 ปีการศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น หนา้ ๔๗

ริเริ่มสร้างสรรค์ ในการออกแบบข้อความและภาพมีความสอดคล้องเหมาะสม จัดแบ่งลาดับชั้นของข้อมูลถา่ ยทอดกจิ กรรมทน่ี าเสนอไดอ้ ย่างน่าติดตาม และสวยงาม  สื่อและอุปกรณ์ที่นามาใช้ในการแข่งขัน ให้พิจารณาความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ รูปแบบ จานวน เลือกใช้ได้เหมาะสมกับกิจกรรมและปรับเปล่ียนได้ตามขนาดของพ้ืนท่ีการใช้งานจัดวางสอ่ื และอุปกรณ์เป็นระเบียบ สวยงาม สะดวก ปลอดภยั และใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ยา่ งคุม้ คา่ ทกุ ชนิ้ 7 รายละเอยี ดในการจดั การแข่งขนั 7.1 การจดั เตรียมอปุ กรณใ์ นการแขง่ ขนั 7.1.1 ป้ายเตือนเวลา 7.1.2 นาฬิกาจบั เวลา 7.1.3 เครอ่ื งเสยี ง 7.2 การจดั เตรียมสถานท่ีในการแข่งขัน 7.2.1 เวที หรือพื้นท่ีต่างระดับสาหรับผู้เข้าแข่งขันในการจัดเตรียมส่ือและอุปกรณ์และการพดู นาเสนอกจิ กรรมสง่ เสรมิ นิสยั รกั การอ่าน 7.2.2 โตะ๊ - เกา้ อ้ี สาหรับกรรมการ 7.2.3 สถานทเ่ี ก็บตัวสาหรบั ผูเ้ ข้าแขง่ ขนั ก่อนการแข่งขนั 7.2.4 เคร่ืองเสียงใหม้ คี วามพร้อมสาหรับผ้เู ข้าแขง่ ขันนาเสนอกจิ กรรม 7.2.5 สถานท่ีแข่งขันควรเปิดให้ผู้ร่วมงานได้ชม แต่ควรกาหนดอาณาเขตพื้นท่ีไม่ให้รบกวนผูเ้ ข้าแขง่ ขันระหวา่ งแขง่ ขัน 7.3 การจดั ดาเนนิ การในการแขง่ ขนั 7.3.1 รับลงทะเบยี นรายงานตวั ทมี ผู้เขา้ แข่งขนั 7.3.2 ตรวจสอบจานวนสื่อและอปุ กรณต์ ามทก่ี าหนด และสรุปเสนอคณะกรรมการตดั สนิ 7.3.3 การเตือนเวลาการแข่งขัน ใช้ป้ายเตือนครั้งท่ี 1 เหลือเวลา 3 นาที เตือนคร้ังที่ 2 เหลือเวลา 1 นาที เตือนครั้งท่ี 3 หมดเวลา กรณีที่ทีมผู้เข้าแข่งขันเกินระยะเวลาท่ีกาหนดจะถูกตัดคะแนนนาทีละ 1 คะแนน โดยนบั เวลาส่วนท่เี ปน็ เศษเกินกว่า 30 วนิ าที ใหน้ บั เปน็ 1 นาที 7.3.4 ผู้เข้าแข่งขันต้องแต่งกายชุดนักเรยี น หรือชุดพลศึกษา หรือชุดประจาโรงเรียนเทา่ นนั้ 7.3.5 หา้ มนาเคร่ืองมอื ส่ือสารทกุ ประเภทเขา้ ไปในพน้ื ทแี่ ข่งขนั 8 การแขง่ ขันระดับภาค และระดับชาติ 8.1 ทีมที่เป็นตัวแทนของเขตพ้ืนที่การศึกษาเข้าแข่งขันในระดับภาค ทุกกิจกรรมต้องได้คะแนนระดับเหรียญทอง ลาดบั ที่ 1 (คะแนนรอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป) และทีมท่ีเปน็ ตัวแทนระดบั ภาคเข้าแข่งขันในระดับชาติ จะตอ้ งได้คะแนนระดับเหรยี ญทอง ลาดบั ท่ี 1 - 3 (คะแนนร้อยละ 80 ขนึ้ ไป) 8.2 ในกรณีท่ีแข่งขันระดับเขตพื้นที่การศึกษามีผู้ชนะลาดับสูงสุดได้คะแนนเท่ากันและในระดับภาคมีมากกว่า 3 ทีม ให้พิจารณาลาดับที่ตามลาดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน เช่น มีผู้ที่ได้คะแนนข้อท่ี 1 เท่ากันให้ดูคะแนนข้อที่ 2 ทีมใดได้คะแนนข้อท่ี 2 มากกว่าถือเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าข้อที่ 2 เท่ากันให้ดูคะแนนในข้อถดั ไป กรณีคะแนนเทา่ กนั ทกุ ขอ้ ให้ประธานกรรมการตดั สินเปน็ ผ้ชู ีข้ าดศลิ ปหตั ถกรรมนักเรยี น ครงั้ ที่ ๖8 ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หน้า ๔๘

9 การเผยแพร่ผลงานทไี่ ด้รบั รางวัล ผลงานของนักเรียนที่ได้รับคะแนนสูงสุดอันดับที่ 1 - 3 คณะกรรมการพิจารณาและนาไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ หรือสื่ออ่ืน ๆ ต่อไป ซึ่งผลงานของผู้แข่งขันถือเป็นลิขสิทธ์ิของสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน เพือ่ ใช้ในการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ศิลปหตั ถกรรมนักเรียน คร้งั ท่ี ๖8 ปีการศึกษา ๒๕๖1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น หน้า ๔๙


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook