Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานคอม ๖๐1 เนื้อหา

โครงงานคอม ๖๐1 เนื้อหา

Published by ห้องเรียนครูหยุ, 2018-12-20 04:43:05

Description: โครงงานคอม ๖๐1 เนื้อหา

Search

Read the Text Version

1 บทท่ี 1 บทนำ1. ทีม่ ำ และควำมสำคญั ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ต่อทุกวงการท่ัวโลก รวมท้ังวงการศึกษาไทยด้วย และผลพวงที่ติดตามมาในแง่เทคนิควิธีการเก่ียวกับกระบวนการเรียนรู้คือแนวโน้มในการเรียนรู้แบบโต้ตอบสองทาง (Interactive) ท่ีกาลังก้าวเข้ามาแทนท่ีกระบวนการเรียนรู้แบบเดิม ท่ีผู้รับได้แต่ “รับเอา” โดยไม่อาจ “เลือก” แต่อย่างใด จากแนวคิดดังกล่าวประเทศต่าง ๆ ทวั่ โลกตา่ งหนั มาใหค้ วามสนใจในการพฒั นาเทคโนโลยีสารสนเทศ เพอื่ ใช้ให้เกิดประโยชน์สงู สุดแก่ผู้เรยี นในทกุ ระดบั มกี ารใชเ้ ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์และส่ืออิเลก็ ทรอนิกสม์ ากข้นึ ผ้เู รียนรนุ่ ใหม่จะเป็นผูเ้ รียนท่ีมีความคิดรักการเรียนรู้ มีหลักในการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มีความรู้ทกั ษะทจ่ี าเป็นในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองมากข้ึน จึงเป็นทย่ี อมรับว่า เทคโนโลยสี ารสนเทศ ได้กลายเป็นปจั จยั ท่สี าคญั ในการพัฒนาประเทศ การจัดการศกึ ษาจึงต้องมีการปรับตัวในการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการจัดการเรียนการสอนนั้น ได้มีข้อกาหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ว่า รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนใหม้ ีการผลติ ส่ือเทคโนโลยีเพ่อืการศึกษา รวมท้ังให้มีการพัฒนาบุคลากรด้านการผลิต และผู้ใช้ให้มีความรู้ความสามารถ มีทักษะตลอดจนผู้เรียนให้มีสิทธิที่จะได้รับการพัฒนาเพ่ือให้มีความรู้และทักษะเพียงพอที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ในการแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเองได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชวี ิต ปัจจุบันเกมเข้ามามีบทบาทต่อเยาวชนต้ังแต่เด็กก่อนวยั เรียน หรือแม้กระทั้งวัยทางาน ทั้งนี้เน่ืองจากเกมเป็นส่ิงท่ีหาเล่นได้ไม่ยาก และมาพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน แทปเล็ต จึงเป็นเรอ่ื งทีส่ าคัญทีเ่ ราจะต้องเลอื กสรรเล่นเกมทีด่ ี มปี ระโยชน์กบั ผเู้ ลน่ เกม สง่ เสรมิ การเรยี นรูแ้ กผ่ เู้ ล่น การเรียนรู้ของผู้เรียนในยุคปัจจุบัน เป็นการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนต้องสามารถเรียนรู้ได้ทุกท่ี ทุกเวลา ตามศักยภาพ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ดังน้ันการเรียนรู้เพียงในช้ันเรียน จึงไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้เรียน ซึง่ สามารถเรียนรู้จากมอื ถือสมารท์ โฟน แทปเล็ต หรืออุปกรณค์ อมพิวเตอร์ โน้ตบกุ เป็นตน้ ศาสตร์พระราชา เปน็ องคค์ วามรู้ที่พระบาทสามเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ได้พระราชทานองค์ความรู้ ผ่านโครงการในพระราชดาริต่าง ๆ มากมาย ซ่ึงล้วนมีประโยชน์ และมีคุณค่าแก่การเรยี นรู้ ดังนั้นคณะผู้ศึกษามีความสนใจ ศึกษาเก่ียวกับองค์ความรู้ เรื่อง ศาสตร์พระราชา บูรณาการความรู้ผ่านเกม โดยสร้างแอปพลิเคช้ันเพื่อการศึกษา จัดทาเป็นส่ือการเรียนการสอน สามารถเล่นได้ท้ังระบบวินโดว์และแอนดรอยส์ เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ เพ่ือให้ผู้ที่สนใจ ได้เข้ามาศึกษาเล่นเกม ผ่อนคลายความเคลยี ดและเกดิการเรยี นรู้ ระหวา่ งการเล่นเกม2. วัตถุประสงค์ของโครงงำน 1. เพอ่ื พัฒนาแอปพลเิ คชั่นเกมเสริมทกั ษะการเรยี นรู้ ด้วยโปรแกรม RPG Maker MV และ Construct 2 2. เพื่อพัฒนาส่ือการเรยี นรู้ เรือ่ ง ศาสตร์พระราชา 3. เพอื่ สารวจความพงึ พอใจของผใู้ ชเ้ กม

23. ขอบเขตของโครงงำน 3.1. ตัวแปรทีศ่ กึ ษำ 1. ตวั แปรต้น ได้แก่ เกมเสรมิ ทักษะการเรียนรู้ ดว้ ยโปรแกรม RPG Maker MV และConstruct 2 เรอ่ื ง ศาสตรพ์ ระราชา 2. ตวั แปรตำม ได้แก่ ความพงึ พอใจของผู้เลน่ ตอ่ เกมเสรมิ ทักษะการเรียนรู้ด้วยโปรแกรม RPG Maker MV และ Construct 2 เรอ่ื ง ศาสตรพ์ ระราชา 3. ระยะเวลำในกำรจดั ทำโครงงำน ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2560 4. เนอ้ื หำท่ใี ช้ในกำรจดั ทำโครงงำน เร่ือง ศาสตร์พระราชา ได้แก่ โครงการแกล้งดนิโครงการแก้มลงิ โครงการชั่งหวั มนั โครงการฝนหลวง โครงการเกษตรทฤษฎใี หม่ โครงการกังหันน้าชยั พฒั นา4. นยิ ำมศัพท์เฉพำะ 1. แอปพลิเคชัน่ เกม เสริมทกั ษะกำรเรียนรู้ หมายถงึ เกมเสริมทกั ษะการเรียนรู้ เรอ่ื ง ศาสตร์พระราชา สามารถเล่นบนระบบแอนดรอย์และวินโดว์ 2. ศำสตร์พระรำชำ หมายถึง องคค์ วามรู้ขององค์พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดชโดยถ่ายทอดผา่ นโครงการในพระราชดาริ ประกอบดว้ ย โครงการแกล้งดิน โครงการแก้มลิง โครงการช่ังหัวมันโครงการฝนหลวง โครงการเกษตรทฤษฎใี หม่ โครงการกงั หันน้าชัยพัฒนา 3. ควำมพงึ พอใจ หมายถงึ ความรู้สกึ ของผูเ้ ล่น ตอ่ เกมเสริมทักษะการเรียนรู้ เรอ่ื ง ศาสตรพระราชา5. ประโยชน์ท่ีคำดวำ่ จะไดร้ ับ 1. นักเรยี นมคี วามรู้ เรือ่ ง ศาสตร์พระราชาสูงมากข้ึน 2. นกั เรียนมีความเพลดิ เพลินจากการเล่นเกมเสริมทักษะการเรียนรู้ 3. ผูจ้ ัดทามคี วามรู้เก่ยี วกบั การเขียนโปรแกรมเบ้ืองต้นในการพฒั นาแอปพลิเคชนั่ เกม

3 บทที่ 2 เอกสำรทเ่ี กยี่ วข้อง โครงงานการพฒั นาแอปพลเิ คชน่ั เกมเสริมทกั ษะการเรียนรู้ เร่อื ง ศาสตร์พระราชา ผู้จัดทาได้ศึกษาคน้ คว้าเอกสาร ตารา และงานที่เกีย่ วข้องดงั นี้ 1. เกมการศึกษา 2. โครงการแกลง้ ดนิ 3. โครงการแก้มลิง 4. โครงการช่ังหัวมัน 5. โครงการฝนหลวง 6. โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ 7. โครงการกงั หันน้าชยั พัฒนา 1. เกมกำรศึกษำ 1.1 ควำมหมำยของ เกม เกมคอมพวิ เตอร์ คือ เกมทถ่ี ูกสรา้ งข้นึ มาเพื่อเลน่ บนเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ สามารถแบ่งตาม ลักษณะการแสดงผลไดเ้ ป็น เกม 2 มิติ และเกม 3 มิติครับ เกม 2 มติ ิ เปน็ รูปแบบเกมทมี่ ีการใช้ภาพแบบ 2 มติ ิ ตัวละครหรือฉากสามารถเคล่ือนทไี่ ด้ เฉพาะในแนวแกน x และ y ไมส่ ามารถเปลยี่ นมมุ มองในการเลน่ ได้ เช่นเกมGhost เกม 3 มติ ิ เป็นรปู แบบเกมที่มกี ารใช้ภาพแบบ 3 มิติ ตวั ละครหรือฉากสามารถเคลอ่ื นที่ ได้ทงั้ ในแนวแกน x แกน y และ แกน z ผเู้ ล่นสามารถเปลี่ยนมุมมองในการเลน่ ได้ เชน่ เกม GTA V 1.2 ประเภทของเกม 1. เกมแอคชน่ั (Action Game) 2. เกมสวมบทบาท (Role-Playing Game) 3. เกมการจาลอง (Simulation Game) 4. เกมการยิง (Shooting Game) 5. เกมตอ่ สู้ (Fighting Game) 6. เกมวางแผนการรบ (Strategy Game) 7. เกมพซั เซิล (Puzzle Game) 8. เกมกีฬา (Sport Game) 9. เกมการศึกษา (Education Game)2. โครงกำรแกลง้ ดิน ควำมเป็นมำ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดาริ ให้ศูนย์ศกึ ษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ดาเนนิ การศึกษา ทดลอง เพ่ือหาวิธกี ารปรบั ปรงุ ดนิ เปร้ยี ว ใหส้ ามารถใชป้ ระโยชน์ทางการเกษตรได้ ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2527 เปน็ ต้นมา

4ผลกำรทดลอง การแกล้งดิน เป็นการเร่งทาให้ดินเปร้ียวเป็นกรดจัดรุนแรงท่ีสุด จนไม่สามารถปลูกพืช เศรษฐกิจได้จากนั้นหาวิธกี ารปรับปรงุ ดนิ เปรยี้ วจัดรนุ แรงทสี่ ดุ ใหส้ ามารถปลูกพืชเศรษฐกิจได้ โดยอาศยั วธิ ีการตา่ ง ๆ ดงั นี้ 1. การปรับปรุงดนิ เปรีย้ วจัดเพือ่ ปลูกข้าว• การใชน้ ้าล้างความเป็นกรด ในปแี รกข้าวเจริญเติบโต แตใ่ ห้ผลผลิตต่า และผลผลิตเพิ่มขึน้ เรื่อย ๆ ในปตี ่อมาช่วงเวลาของการขังนา้ และระบายนา้ ท้งิ ที่เหมาะสมคือ 4 สปั ดาห์• การใส่หินปูนฝุ่น ข้าวเจริญเติบโตและให้ผลผลติ ดีกวา่ การใส่หินปูนอัตราครึง่ หนง่ึ ของความตอ้ งการปนู (1.5ตัน/ไร่) ข้าวให้ผลผลติ เทยี บเท่ากับการใส่ปูนเตม็ อตั ราแนะนา• การใส่ปูนอัตราต่า (คร่ึงหนึ่งของความต้องการปูน) เพ่ือสะเทินกรด ควบคู่กับการขังน้า แล้วเปลี่ยนน้าทุก ๆ4 สปั ดาห์ ข้าวจะใหผ้ ลผลิตดีท่ีสุด 2. การปรับปรุงดินเปรี้ยวจัดเพอ่ื ปลูกพชื ไร่ พืชผกั• โดยใสห่ นิ ปูนฝ่นุ อัตรา 2 ตนั /ไร่ ร่วมกับการใสป่ ยุ๋ คอก ปุ๋ยหมกั และปยุ๋ เคมีอัตราแนะนา 3. การปรับปรงุ ดนิ เปรยี้ วจดั เพอ่ื ปลกู ไมผ้ ล• ควรขุดยกร่องเพื่อป้องกันน้าท่วมและช่วยล้างกรด บนคันดินลงสู่คูด้านล่างควรปรับปรุงดินบริเวณสันร่องก่อน โดยหว่านหินปูนฝุ่นอัตรา 2 ตัน/ไร่ เพื่อสะเทินกรด ก่อนปลูกพืชรองก้นหลุมด้วยปูนขาวหรือหินปูนฝุ่นร่วมกบั ปุย๋ หมกั ปุ๋ยคอก ไมผ้ ลท่ที ดลองปลูกไดผ้ ลดี คอื มะพรา้ วน้าหอม ละมุด กระทอ้ น ชมพู่ 4. จากการทดลองปรบั ปรุงดินแล้วไมใ่ ชป้ ระโยชนต์ ่อเน่อื ง พบว่าดนิ จะเปรยี้ วจดั รนุ แรงอีก 5. ดินเปรี้ยวจัดในสภาพที่ไม่ถูกรบกวน ความเป็นกรดจะเปล่ียนแปลงอย่างช้า ๆ และพืชพรรณธรรมชาติที่ทนทานความเปน็ กรดขึ้นได้หลายชนิดรำยละเอียดและวิธีกำร \"แกลง้ ดิน\"วตั ถุประสงค์• เพ่ือทาการศกึ ษาการเปลี่ยนแปลงทางเคมีท่เี กดิ ขึน้ ในดนิ เปรีย้ ว และหาวิธีการปรับปรงุ แกไ้ ขสภาพดนิ• เพือ่ ปรบั แก้ไขสภาพดินเปรย้ี วอันเกิดมาจากปา่ พรุ และดินเปร้ียวอืน่ ๆ ให้สามารถปลกู พืชได้ทำไมถึงต้อง \"แกลง้ ดนิ \" สืบเน่ืองจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดาเนินแปรพระราช ฐานและทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในภาคใต้ อย่างสม่าเสมอต้ังแต่ปี พ.ศ. 2516 เรื่อยมา ทาใหท้ รง ทราบว่าราษฎรในพื้นที่แถบจังหวัดนราธิวาส และจงั หวดั ใกล้เคียง ประสบปัญหาอยูน่ านัปการ ราษฎรขาดแคลนท่ีทากิน อันเปน็ สาเหตสุ าคัญใน การดารงชีพพ้นื ท่ีดนิ พรุท่มี ีการ ระบายน้าออกจะแปรสภาพเป็นดินเปร้ียวจัด เน่ืองจากสารไพไรท์ท่ีมีอยู่ในดินทา ปฏิกริยากับออกซิเจนในอากาศแล้วปลดปล่อย กรดกามะถันออกมามากจนถึงจุดท่ีเป็น อันตรายตอ่ พชื ที่ปลูกหรือทาใหผ้ ลผลิต ลดลงอยา่ งเหน็ ได้ชดั จึงได้มี พระราชดาริให้จดั ตัง้ \" โครงการศูนย์ศึกษา การพฒั นาพิกลุ ทองอันเน่ืองมาจากพระ ราชดาร\"ิ ข้นึ ณ จงั หวดั นราธวิ าส เมื่อปีพ.ศ. 2524 เพ่อื ศึกษา และปรบั ปรงุ แกไ้ ขปัญหาพ้นื ทพ่ี รุให้ สามารถใชป้ ระโยชน์ทางการเกษตรและด้าน อื่น ๆได้ ต่อมาเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2527 ณ ศูนย์ ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเน่ืองมาจาก พระราชดาริพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่ หัวไดม้ พี ระราชดาริเก่ยี วกบั เรื่อง \"แกลง้ ดิน\" ความว่า

5\"...ให้มีการทดลองทาดินให้เปร้ียวจัดโดย การระบายน้าให้แห้งและศึกษาวิธีการแกล้ง ดินเปรี้ยว เพ่ือนาผลไปแก้ปัญหาดินเปร้ียว ให้แก่ราษฎรท่ีมีปัญหาเรื่องนี้ในเขตจังหวัด นราธิวาสโดยให้ทาโครงการศึกษาทดลอง ในกาหนด2 ปี และพชื ทที่ าการทดลอง ควรเปน็ ขา้ ว...\"แกล้งดนิ ทำอย่ำงไร ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดาริ ได้ทาการศึกษาวิจัยและปรับปรุงดิน โดยวธิ ีการ \"แกลง้ ดนิ \" คอื ทาให้ดนิ เปรยี้ ว เปน็ กรดจัดรนุ แรงทีส่ ุด กลา่ วคือ การทาให้ดนิ แห้ง และเปียกโดยนาน้าเข้าแปลงทดลองระยะหนึ่ง และระบายน้าออกให้ดินแห้งระยะหน่ึงสลับกัน จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดกรดมากย่ิงขึ้น ด้วยหลักการน้ี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จึงทรงให้เลียนแบบสภาพธรรมชาติ ซึ่งมีฤดูแล้งและฤดฝู นเป็นปกติในแต่ละปี แต่ให้ใช้วิธีการร่นระยะเวลาชว่ งแลง้ และช่วงฝนในรอบปีให้ส้ันลง โดยปล่อยให้ดินแห้ง 1 เดือน และขังน้าให้ดินเปียกนาน 2 เดือน สลับกันไป เกิดภาวะดินแห้งและดินเปียก 4 รอบ ต่อ 1 ปี เสมือนกับมฤี ดูแลง้ และฤดฝู น 4 ครั้ง ใน 1 ปี หลงั จากน้นั จึงใหห้ าวธิ ีการปรบั ปรงุดิน ดังกลา่ วใหส้ ามารถปลูกพชื เศรษฐกิจได้แกลง้ ดนิ แลว้ ปรับปรงุ ดิน : วิธีกำรท่ีสำคัญ เม่ือดาเนินการตามกรรมวิธี \"แกล้งดิน\" แล้วก็ใช้วิธีการปรับปรุงดิน ซึ่งเปรี้ยวจัดให้สามารถใช้เพาะปลกู ได้ โดยมหี ลายวิธกี ารดว้ ยกันดังน้ี• ใช้ปนู เช่น ปูนขาว หินปนู ฝนุ่ ใสล่ งไปในดนิ แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปูนจะทาปฏกิ รยิ ากบั กรดกามะถนั ในดินเกดิ สารสะเทิน ปริมาณกรดในดินจะลดลง ซ่ึงหากใสใ่ นปรมิ าณทีม่ ากพอจะชว่ ย ใหด้ นิ มสี ภาพเป็นกลาง• ใช้น้าจืดล้างกรดและสารพิษออกจากดินโดยตรง วิธีการนี้ใช้เวลานานกว่าวิธีใช้ปูน เน่ืองจากกรดจะชะล้างออกไปอย่างชา้ ๆ แต่ได้ผลเชน่ กนั• ยกร่อง เพ่ือปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้น โดยมีคูน้าอยู่ด้านข้าง ให้นาหน้าดินจากดินในบริเวณท่ีเป็นคูมา เสริมหน้าดินเดิมท่ีเป็นคันร่อง ก็จะได้หน้าดินท่ีหนาขึ้น ส่วนดินท่ีมีสารไพไรท์จะใช้เสริมด้านข้าง เม่ือใช้น้าชะล้างกรดบนสันรอ่ ง กรดจะถูกน้าชะล้างไปยังคดู า้ นขา้ ง แลว้ ระบายออกไป• ควบคุมระดับน้าใต้ดิน ให้อยู่เหนือช้ันดินเลนตะกอนทะเล ป้องกันไม่ให้สารไพไรท์ทาปฎิกริยากับออกซิเจนกรดกามะถันจงึ ไมถ่ กู ปลดปล่อยเพ่ิมขน้ึ• ใชพ้ ืชพันธทุ์ นทานตอ่ ความเป็นกรด มาปลูกในดนิ เปร้ียว ใชว้ ธิ กี ารตา่ ง ๆ ข้างต้นร่วมกนักำรดำเนนิ งำนศึกษำทดลองในโครงกำรแกลง้ ดินได้มีการดาเนนิ การในช่วง ต่าง ๆ ตามแนวพระราชดารดิ งั น้ี ช่วงที่ 1 (มกรำคม 2529-กันยำยน 2530) เป็นการศึกษา การเปล่ียนแปลงทางเคมีของดินเปรียบเทียบระหว่างดินที่ปล่อยทิ้งไว้ตามธรรมชาติ กับดินที่ทาให้แห้งและเปียกสลับกัน โดยวิธีการสูบน้าเขา้ -ออก การทาดินให้แห้งและเปียกสลับกัน ดินจะเป็นกรดจัดรุนแรง และมีผล ต่อการเจริญเติบโตของพืช พบว่าขา้ วสามารถ เจรญิ เติบโตได้ แต่ใหผ้ ลผลิตตา่ ช่วงท่ี 2 (ตุลำคม 2530-ธันวำคม 2532) ศึกษาการเปล่ียน แปลงทางเคมีของดินโดยเปรียบเทียบระหว่างระยะเวลา ที่ทาให้ดินแห้งและ เปียกแตกต่างกัน การปล่อยให้ดินแห้งนานมากข้ึน ความเป็นกรดจะรนุ แรงมากกวา่ การใช้ นา้ แชข่ ังดินนาน ๆ และการให้นา้ หมุนเวยี นโดยไม่มกี ารระบายออก ทาให้ความเป็นกรดและ สารพิษสะสมในดินมากข้ึน ในการปลูกข้าวทดสอบความรุนแรงของกรด พบว่าข้าวตายหลังจากปักดาได้1 เดอื น

6 ช่วงที่ 3 (มกรำคม 2533-ปัจจบุ นั ) ศึกษาถึงวิธีการปรบั ปรงุ ดิน โดยใชน้ า้ ชะล้างความเป็นกรด ใชน้ า้ชะล้างควบคู่กับการใช้หินปูนฝุน่ ใช้หินปูนฝุ่นอัตราต่า เฝ้าติดตามการเปลยี่ นแปลงของดิน หลังจากท่ีปรบั ปรุงแล้วปล่อยทิ้งไว้ ไม่มีการใช้ประโยชน์ และศึกษาการเปลี่ยนแปลงของดินเปรี้ยวจัด เมื่ออยู่ในสภาพธรรมชาติในปริมาณเล็กน้อย พบว่าวิธีการใช้น้าชะล้างดิน โดยขังน้าไว้นาน 4 สัปดาห์ แล้วระบายออก ควบคู่กับการใช้หินปูนฝุ่นในปริมาณเล็ก น้อยจะสามารถปรับปรงุ ดินเปร้ียวจดั ได้เป็นอย่างดี ส่วนวิธีการใชน้ ้าชะล้างก็ใหผ้ ลดีเช่นเดียวกัน แตต่ ้องใชเ้ วลานานกว่า หลังจากมีการปรับปรุงดนิ แล้ว หากปล่อยท้ิงไว้ไม่มีการใช้ประโยชน์อย่างต่อเน่ือง จะทาให้ดินกลับเป็นกรดจัดรุนแรงขึ้นอีก สาหรับพ้ืนที่ดินเปรี้ยวจัดตามธรรมชาติ ท่ีไม่มีการปรับปรุงการเปลี่ยนแปลง ของความเปน็ กรดนอ้ ยมากเมือ่ ปี พ.ศ. 2535 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้มรี ับสัง่ เมอ่ื คราวเสด็จพระราชดาเนิน ตรวจแปลงศึกษาการเปล่ียนแปลงความเปน็ กรดของดินกามะถันวา่\"...นี่เป็นเหตุผลอย่างหนึ่ง ท่ีพูดมาสามปีแล้วหรือส่ีปี ว่าต้องการน้าสาหรับมาให้ดินทางาน ดินทางานแล้วดินจะหายโกรธ อันน้ไี มม่ ีใครเช่ือ แล้วก็มาทาทนี่ ้ีแลว้ มนั ได้ผล... อันน้ผี ลงานของเราทีท่ าที่นี่ เปน็ งานทสี่ าคัญที่สุดเชื่อว่าชาวตา่ งประเทศ เขามาดูเราทาอยา่ งน้แี ล้ว เขาก็พอใจ เขามปี ญั หาน่ีแล้วเขาก็ไมไ่ ด้ แกห้ าตาราไมไ่ ด้ ...\"ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเน่ืองมาจากพระราชดาริ จึงได้จัดทาคู่มือ การปรับปรุงดินเปรี้ยวจัด เพ่ือการเกษตรขน้ึ เม่ือปี พ.ศ. 2536แกลง้ ดนิ สำเร็จแล้วรำษฎรไดป้ ระโยชนอ์ ะไร เม่ือผลของการศึกษาทดลอง สาเร็จผลชั้นหน่ึง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ได้นาผลการศึกษาทดลองขยายผลสู่พ้นื ที่ทาการเกษตรของราษฎร ท่ีประสบปญั หาดนิ เปรี้ยวจัด ซึ่งในเร่ืองน้ไี ด้มีพระราชดารวิ า่\"...พน้ื ทีบ่ รเิ วณบ้านโคกอิฐ และโคกในเปน็ ดนิ เปรี้ยว เกษตรกรมีความต้องการจะปลูกข้าว ทางชลประทานได้จดั ส่งน้าชลประทานให้ ก็ให้พัฒนาดินเปรย้ี ว เหล่าน้ใี หใ้ ชป้ ระโยชน์ได้ โดยใหป้ ระสานงานกับชลประทาน...\"จากการพัฒนาบ้านโคกอิฐ และบ้านโคกใน ปรากฏว่าราษฎรในพ้ืนที่ดังกล่าว สามารถปลูกข้าวให้ได้ผล ผลิตเพมิ่ มากขึน้ จนเปน็ ท่พี อพระราชหฤทัย ถึงกับมีรับส่ังว่า \"...เราเคยมาโคกอิฐ โคกใน มาดเู ขาชีต้ รงนั้น ๆ เขาทาแตว่ ่าเขาไดเ้ พียง 5 ถงึ 10 ถงั แต่ตอนน้ีได้ขึน้ ไปถึง 40-50 ถงั ก็ใชไ้ ด้แลว้ เพราะว่าทาให้เปร้ียวเต็มท่ีแลว้ โดยท่ีขุดอะไร ๆ ทาให้เปร้ียวแล้วก็ระบาย รู้สึกว่านับวันเขาจะดีขึ้น... อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมาก ท่ีใช้งานได้แล้วชาวบ้านเขากด็ ีขึน้ ...แต่ก่อนชาวบ้านเขาตอ้ งซื้อ ขา้ ว เด๋ยี วนี้เขามีข้าวอาจจะขายได้\"อย่างไรก็ตาม \" โครงการแกล้งดิน \" มิได้หยุดลงเฉพาะที่ใดท่ีหนง่ึ แต่จะต้องดาเนินการต่อไป \"...งานปรับปรุงดินเปร้ียวควรดาเนินการต่อไป ทั้งในแง่การศึกษาทดลองและการขยายผล...\" ซ่ึงปัจจุบันได้นาผลการศึกษาทดลอง ไปขยายผลแก่ราษฎรในเขตจังหวัดนราธิวาส และจังหวัดอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิง ขณะน้ีจะมีการนาผลของการ \"แกล้งดิน\" นาไปใชใ้ นพนื้ ทจ่ี ังหวดั นครนายก และจังหวดั นครศรธี รรมราชอีกดว้ ย ดังน้นั \" โครงการแกล้งดิน \" จึงเป็นโครงการท่ีก่อให้เกิดประโยชน์กับราษฎรท่ัว ทั้งประเทศ สร้างความปล้ืมปิติ แก่เหล่าพสกนิกรเป็นล้นพ้นที่พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรง ยอมตรากตราพระวรกายลงมา \"แกล้งดิน\" เพ่ือให้พสกนกิ รของพระองค์ พ้นจากความยากจนกลบั มาเบกิ บานแจ่มใสกันท่วั หนา้3. โครงกำรแก้มลงิควำมเป็นมำของโครงกำรแกม้ ลงิ โครงการแก้มลิง เป็นแนวคิดในพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร เพ่ือแก้ปัญหาอุทกภัย โดยพระองค์ทรงตระหนักถึงความรุนแรงของอุทกภัยที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร เม่ือปี พ.ศ.2538 จึงมีพระราชดาริ \"โครงการแก้มลิง\" ข้ึน เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.

72538 โดยให้จัดหาสถานท่ีเกบ็ กักน้าตามจุดตา่ งๆ ในกรุงเทพมหานคร เพ่อื รองรับน้าฝนไว้ช่วั คราว เม่ือถงึ เวลาทค่ี ลองพอจะระบายนา้ ไดจ้ ึงค่อยระบายน้าจากสว่ นทีก่ ักเกบ็ ไวอ้ อกไป จงึ สามารถลดปัญหานา้ ท่วมได้ทั้งนี้ นอกจากโครงการแก้มลิงจะมีข้ึนเพื่อช่วยระบายน้า ลดความรุนแรงของปัญหาน้าท่วมในพื้นท่ีกรุงเทพมหานครและบริเวณใกล้เคียงแล้ว ยังเป็นการช่วยอนุรักษ์น้าและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โดยน้าที่ถูกกักเก็บไว้ เม่ือถูกระบายสู่คูคลอง จะไปบาบัดน้าเน่าเสียให้เจือจางลง และในที่สุดน้าเหล่านี้จะผลักดันน้าเสียให้ระบายออกไปได้แนวคิดของโครงกำรแก้มลงิ แนวคิดของโครงการแก้มลิง เกิดจากการท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร มีพระราชดาริถงึ ลิงที่อมกลว้ ยไว้ในกระพุ้งแก้มได้คราวละมากๆ จึงมพี ระราชกระแสอธบิ ายวา่ \"ลิงโดยท่ัวไปถ้าเราสง่ กล้วยให้ ลิงจะรีบปอกเปลือก เอาเข้าปากเคี้ยว แล้วนาไปเก็บไว้ที่แก้มก่อน ลิงจะทาอย่างน้ีจนกล้วยหมดหวีหรือเต็มกระพุ้งแก้ม จากนั้นจะค่อยๆ นาออกมาเคี้ยวและกลืนกินภายหลัง\" ด้วยแนวพระราชดาริน้ี จึงเกิดเป็น \"โครงการแก้มลิง\" ข้ึน เพ่ือสร้างพ้ืนที่กักเก็บน้า ไว้รอการระบายเพื่อใช้ประโยชนใ์ นภายหลงัลกั ษณะและวิธีกำรของโครงกำรแกม้ ลงิ ลักษณะของโครงการแก้มลิงจะดาเนินการระบายน้าออกจากพื้นท่ีตอนบน เพ่ือให้น้าไหลลงคลองพักนา้ ทช่ี ายทะเล จากนั้นเมอ่ื ระดับน้าทะเลลดลงจนต่ากว่าน้าในคลอง น้าในคลองจะไหลลงสู่ทะเลตามธรรมชาติต่อจากนั้นจะเรม่ิ สูบนา้ ออกจากคลองท่ีทาหน้าที่แก้มลิง เพอื่ ทาให้น้าตอนบนค่อยๆ ไหลมาเอง จึงทาให้เกิดน้าท่วมพื้นทลี่ ดน้อยลง จนในท่สี ุดเมอื่ ระดับน้าทะเลสูงกว่าระดับในคลอง จงึ ปดิ ประตูระบายน้า โดยใหน้ า้ ไหลลงทางเดยี ว (One Way Flow)ประเภทของโครงกำรแกม้ ลิงโครงการแกม้ ลิงมี 3 ขนาด คือ 1. แก้มลิงขนำดใหญ่ ( Retarding Basin) คือ สระน้าหรือบึงขนาดใหญ่ ท่ีรวบรวมน้าฝนจากพ้ืนท่ี บริเวณนั้นๆ โดยจะกักเก็บไว้เป็นระยะเวลาหน่ึงก่อนที่จะระบายลงสู่ลาน้า พื้นท่ีเก็บกักน้าเหล่าน้ี ได้แก่ เข่ือน อ่างเก็บน้า ฝาย ทุ่งเกษตรกรรม เป็นต้น ลักษณะสิ่งก่อสร้างเหล่าน้ีจะมีวัตถุประสงค์อื่น ประกอบด้วย เช่น เพอ่ื การชลประทาน เพื่อการประมง เปน็ ตน้ 2. แก้มลงิ ขนำดกลำง เปน็ พ้ืนท่ีชะลอนา้ ทีม่ ขี นาดเล็กกว่า กอ่ สร้างในระดบั ลุม่ น้า มกั เป็นพน้ื ท่ีธรรมชาติ เช่น หนอง บึง คลอง เปน็ ต้น 3. แก้มลิงขนำดเล็ก (Regulating Reservoir) คือแก้มลิงที่มีขนาดเล็กกว่า อาจเป็นพ้ืนที่สาธารณะ สนามเดก็ เล่น ลานจอดรถ หรือสนามในบา้ น ซึ่งต่อเขา้ กบั ระบบระบายนา้ หรอื คลอง

8ทั้งน้ี แก้มลิงท่ีอยู่ในพื้นท่ีเอกชน เรียกว่า \"แก้มลิงเอกชน\" ส่วนที่อยู่ในพ้ืนที่ของราชการและรัฐวิสาหกิจจะเรียกวา่ \"แกม้ ลิงสำธำรณะ\"4. โครงกำรชั่งหวั มัน ตำมพระรำชดำริวตั ถุประสงค์ 1. เพ่ือให้เปน็ แหลง่ รวบรวมพนั ธพ์ุ ชื เศรษฐกจิ พชื พันธด์ุ ขี องอาเภอทา่ ยาง และของจังหวัดเพชรบรุ ี 2. เพื่อเป็นแหล่งเรยี นรู้ด้านการเกษตรแกเ่ กษตรกร 3. เพือ่ ให้ประชาชนในพืน้ ทเ่ี ข้ามามีส่วนรว่ มในการจัดทาแปลงหรือมาชว่ ยงานพระองค์เป้ำหมำย โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดาริ มีเป้าหมายในการสนองพระราชประสงค์และพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้เป็นศูนย์รวมพันธุ์พืชเศรษฐกิจของอาเภอท่ายาง จังหวดั เพชรบุรี และพ้นื ท่ีใกลเ้ คียงรวมทงั้ การจัดการฟาร์มโคนม และโรงเลยี้ งไก่ไข่ โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑน์ ม ซ่ึงมผี ลิตภัณฑน์ มพาสเจอรไ์ รส์ และสเตอรไิ รส์ ตลอดจนมหี น่วยทดลองพลงั งานทดแทน เชน่ทุ่งกันหันลม พลังงานแสงอาทิตย์ และไบโอดีเซล ทั้งนี้หน่วยงานท้ังภาครัฐและเอกชน รวมถึงชาวบ้านที่อยู่พ้ืนที่ใกล้เคียงได้เข้ามาร่วมกันบารุงดูแลรักษา และแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นตามวิถีการดารงชีวิตเกษตรกรรมตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง “...โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดาริ ได้ดาเนินการผลิตผลิตภัณฑ์เกษตรที่ปลอดภัยจากสารพิษภายใต้การควบคุมกากับดูแลข้ันตอนการผลิตอย่างใกล้ชิดโดยนักวิชาการเกษตรที่มีความชานาญ เพ่ือให้ได้ผลติ ภณั ฑท์ ่ีมคี ณุ ภาพผ่านการเก็บเก่ยี วรวบรวมผลิตภัณฑท์ ่ถี ูกต้องตามหลักวชิ าการ การคัดเลอื ก คดั แยก และบรรจุ เพอื่ สง่ ถงึ ผ้บู ริโภค ใหม้ น่ั ใจได้ว่า ผบู้ รโิ ภคจะไดร้ บั ผลติ ภัณฑท์ มี่ คี ุณภาพ...”แนวทำงกำรบรหิ ำรงำน 1. บริหารทรัพยากรแบบบูรณาการ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติท่ีมีอยู่อย่างจากัดให้คุ้มค่า ได้แก่ การพัฒนาอ่างเก็บน้าหนองเสือเพื่อส่งน้าไปใช้ในโครงการ โดยมีสัตว์เก็บกักน้าไว้ 2 สระ ไว้รองรับและกระจายนาเข้าสู่ระบบการเพาะปลูก ฟาร์มปศุสัตว์ และโรงงานแปรรูปนม รวมทั้งการขุดเอาเจาะน้าบาดาลเพื่อนามาใชใ้ นการอุปโภคดว้ ย 2. ใช้ช่องทางการจาหน่ายผลผลิตทางการเกษตรของโครงการฯ ผ่านร้านโกลเด้นเพลส (GoldenPlace) ภายใต้การดาเนินงานของ บริษัท สุวรรณชาด จากัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพ่ือควบคุมผลผลิตให้มีคณุ ภาพและจาหนา่ ยถึงผู้บริโภคโดยตรง 3. เป็นแหล่งเรียนรู้ ในการนาพลังงานสะอาดจากธรรมชาติมาใช้เป็นพลังงานทดแทนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น ทุ่งกังหันลม (Wind Farm) และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cells) สามารถจาหน่ายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้เข้าสู่ระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซ่ึงนอกจากเป็นการเพ่ิมรายได้ให้แก่โครงการฯแล้ว ยังช่วยให้ราษฎรในหม่บู ้านต่าง ๆ ท่อี ยูใ่ กล้เคียง มกี ระแสไฟฟ้าใช้ได้อยา่ งพอเพยี ง และทวั่ ถงึ 4. เป็นแหล่งสาธิตทางการเกษตรของภาคเอกชนและวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อให้โครงการน้ีมีประโยชน์แก่เกษตรกรและประชาชนเพิ่มมากข้ึน เช่น บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จัดทาแปลงสาธิตการปลูกยางพาราที่ทันสมยั และนาขา้ วทดลองแบบใช้นาบังคับให้ไดผ้ ลผลิตสงู และลดตน้ ทุนการผลิต มหาวทิ ยาลัยแม่โจน้ าเสนอ

9แปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสานสาหรับการดาเนนิ ชีวติ ไดอ้ ยา่ งพอเพียงในพื้นทจ่ี ากัด เพยี ง 1 ไร่ และเงินลงทุน 100,000 บาท รวมทั้งการเพาะเลี้ยงไส้เดือน เพ่ือประโยชน์ในการผลิตปุ๋ยบารุงดินและเป็นรายได้เสริมของเกษตรกรทีส่ นใจ เปน็ ต้น ในปี 2556 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมอบหมายให้โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจการของโครงการฯ โดยจะส่งเจ้าหน้าท่ีเข้าร่วมพัฒนาและปฏิบัติงานร่วมกับกองงานส่วนพระองค์ เช่น การเลี้ยงโคนม การเล้ียงไก่ไข่ การผลติ น้านมพาสเจอไรซแ์ ละสเตอรไิ รส์ หน่วยพลังงานทดแทน ไบโอดีเซล รวมทั้งการเผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธ์ ปัจจุบัน โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดาริ ได้ก้าวเข้าสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตรอีกแห่งหน่ึง ท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาต ใหผ้ ูท้ ีส่ นใจเขา้ ศึกษาดูงาน และเปดิ ให้เข้าชมไดจ้ ากจุดเร่ิมต้นทมี่ าจากพื้นที่ที่แห้งแล้งและเสื่อมโทรม กลับกลายเป็นพื้นท่ีสีเขียว ท่ีสามารถเพาะปลูกพืชสวนครัวและ พันธ์ุพืชต่าง ๆรวมท้ังการปศุสัตว์ การแปรรูปผลิตภัณฑ์นม และหน่วยพลังงานทดแทน ซึ่งได้มีนักเรียน นิสิต นักศึกษาเกษตรกร และประชาชนทั่วไป รวมท้ังหน่วยงานต่าง ๆ ท้ังภาครัฐ และเอกชน ภิกษุ สามเณรตลอดจนชาวตา่ งชาติ เข้าเยยี่ มชมกิจกรรมของโครงการฯ เพ่มิ มากขึ้นเปน็ ลาดับกจิ กรรมโครงกำร• การใชก้ งั หนั ลมผลิตไฟฟ้าเพอื่ เปน็ พลังงานทดแทน• การผลิตพชื ปลอดภัยจากสารพิษ• การสาธติ การปลกู สบู่ดา• การปลูกข้าวสายพันธ์ตุ ่าง ๆ• แปลงศึกษาและสง่ เสรมิ การผลติ ชมพู่เพชรสายรุ้ง• แปลงศกึ ษาและส่งเสรมิ การผลิตหนอ่ ไมฝ้ รง่ั• การทาปยุ๋ หมัก• การปลูกไมผ้ ล พืชไร่ ประกอบด้วย แก้วมงั กร กลว้ ยนา้ วา้ กล้วยหักมกุ มะละกอ มะนาว ฟกั ทอง กล้วย อ้อยมะพร้าวนา้ หอม มะพร้าวหา้ ว ฯลฯ• การปลูกพืชผัก ประกอบด้วย มันเทศ กระเพรา โหระพา พริกพันธุ์ซูปเปอร์ฮอต มะเขือเทศราชินี กระเจี๊ยบเขียว วอเตอรเ์ ครส มะระขี้นก ผกั หวานบา้ น ฯลฯ5. ทฤษฎกี ำรพฒั นำทรัพยำกรแหลง่ นำ้ “ ฝนหลวง ” พระบำทสมเดจ็ พระปรมินทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนำถบพติ รไดท้ รงวิเครำะห์กรรมวิธีที่จะทำกำรผลติ ฝนหลวงว่ำมีขั้นตอนท่ีสำมำรถเข้ำใจกันไดง้ ำ่ ย 3 ขน้ั ตอน คือขัน้ ตอนท่ี 1 กอ่ กวน โดยการใช้สารเคมีไปกระตุ้นมวลอากาศทางด้านเหนือลมของพ้ืนท่ีเป้าหมาย ให้เกิดการลอยตัวข้ึนสู่เบ้ืองบนรวมตวั กันเป็นกลุ่มก้อนเมฆฝน ขั้นตอนแรกนี้เป็นขั้นตอนที่เมฆธรรมชาติเร่ิมก่อตัวทางแนวต้ัง การทาฝนหลวงในขั้นตอนนี้จึงมุ่งใช้สารเคมีไปกระตุ้นอากาศให้เกิดการลอยตัวข้ึนสู่เบ้ืองบน เพ่ือให้เกิดกระบวนการชกั นาไอน้าหรอื ความชืน้ เข้าสู่ระดับการเกิดเมฆ ระยะเวลาที่เหมาะสมในการปฏบิ ัติงานของข้ันตอนแรกนี้ ควรดาเนินการในช่วงเช้าของแต่ละวัน สารเคมีท่ีใช้ในขั้นตอนน้ี ได้แก่ สารแคลเซียมคลอไรด์ สารแคลเซียมคาร์ไบด์ สารแคลเซียมอ๊อกไซด์ หรือสารผสมระหว่างเกลือแกงกบั สารยูเรยี หรอื สารผสมระหว่างสาร

10ยเู รียกับสารแอมโมเนียไนเตรทซ่ึงสารผสมดังกล่าวน้ี แม้จะมีเปอร์เซ็นต์ความชน้ื สมั พัทธต์ า่ ก็ตาม แต่ก็สามารถดูดซับไอน้าจากมวลอากาศได้อันเป็นการกระตุ้นกลไกของกระบวนการกล่ันตัวของไอน้าในมวลอากาศ อีกทั้งยังเสริมสร้างให้เกิดสภาพแวดล้อมโดยรอบที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเมฆทางด้านเหนือลมของพื้นท่ีเป้าหมายอีกด้วย เมื่อเมฆเร่ิมเกิดมีการก่อรวมตัวและเจริญเติบโตทางต้ังแล้ว จึงใช้สารเคมีท่ีให้ปฏิกิริยาคายความร้อนโปรยเป็นวงกลมหรือเป็นแนว ถัดมาทางใต้ลมเป็นะระยทางส้ัน ๆ เข้าสู่ก้อนเมฆ เพ่ือกระตุ้นให้เกิดก้อนเมฆเป็นกลุ่มแกนร่วมในบริเวณพ้ืนท่ีปฏิบัติการ สาหรับใช้เป็นแกนกลางในการสร้างกลุ่มเมฆฝนในระยะต่อมา การวางแผนปฏบิ ตั ิการฝนหลวงในข้ันแรกนี้ ก่อนดาเนนิ การจะต้องทาการศกึ ษาข้อมลู สภาพอากาศและกาหนดพ้ืนที่เป้าหมายในแต่ละวันโดยใช้ทิศทางและความเร็วของลมเป็นตัวกาหนดบริเวณหรือแนวพิกัดท่ีจะโปรยสารเคมี อุณหภูมิและความช้ืนของบรรยากาศ แต่ละระดับจะถูกนามาคานวณและวิเคราะห์ตามวชิ าการทางอุตนุ ิยมวทิ ยา เพือ่ หาสาเหตุทขี่ ดั ขวางการกอ่ ตัวของเมฆท่ีอาจเกดิ ข้ึนระหว่างดาเนินการ เชน่ ปริมาณความช้นื ท่ตี ่าเกนิ ไป อากาศเกนิ ภาวะสมดุล ระดับท่ีความชนื้ อิม่ ตัว ระดับทเ่ี มฆฝนเร่มิ ก่อตัว ระดับที่หยดุ ยงั้ การเจริญเติบโตของยอดเมฆ ขอ้ มูลอน่ื ๆ ทต่ี ้องนามาพจิ ารณาประกอบด้วย คือ สภาพภูมิประเทศ เช่น แนวเขา ป่าไม้ แหล่งความช้ืน ฯลฯ ลักษณะของเมฆที่สงั เกตเห็น ข้อมลู แผนท่ีทางอากาศ พายโุ ซนร้อนและเหตุอ่นื ๆ ทอี่ าจจะมีอทิ ธพิ ลตอ่ สภาพอากาศในพน้ื ทเี่ ปา้ หมายทั้งหมดของข้อมูลและสาเหตุต่าง ๆ นี้ มีความสาคัญต่อการกาหนดชนิดและปริมาณของสารเคมีที่จะนามาใช้ในการทาฝนหลวง ซ่ึงจะต้องกระทาด้วยความชานาญควบคู่ไปกับการคานึงถึงระดับความสูงผนวกกับอัตราการโปรยสารเคมี รวมถึงลักษณะของแนวโปรยสารเคมีด้วย หากแตล่ ะวนั มีลกั ษณะขอ้ มูลทีแ่ ตกตา่ งกนั ออกไปกย็ อ่ มทาใหต้ อ้ งมกี ารปรับเปลี่ยนแผนปฏิบตั ิงานแต่ละคร้ังด้วยขั้นตอนท่ี 2 เล้ยี งให้อ้วน เป็นขั้นตอนสาคัญมากในการปฏิบัติการฝนหลวง เน่ืองจากเป็นระยะที่เมฆกาลังก่อตัวเจริญเติบโตจึงใชค้ วามรูท้ างเทคโนโลยแี ละประสบการณ์ผสมผสานกลยุทธในเชงิ ศลิ ปะแห่งการทาฝนหลวงควบคู่ไปพร้อมกันเพ่ือตัดสินใจโปรยสารเคมีฝนหลวงท่ีทรงค้นคว้าข้ึนมา โดยไม่มีสารอันเป็นพิษต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อม การปฏิบัติงานต้องพิจารณาอย่างถ่องแท้ว่าจะใช้สารเคมีชนิดใดและอัตราใดจึงจะเหมาะสมในการตัดสินใจโปรยสารเคมีฝนหลวง ณ ที่ใดของกลุ่มก้อนเมฆ เพ่ือให้สัมฤทธิผลท่ีจะทาให้ก้อนเมฆขยายตัวหรืออ้วนข้ึนและป้องกันมิให้ก้อนเมฆสลายตัวให้จงได้ การวางแผนปฏิบัติการในข้ันตอนนี้จาต้องอาศัยข้อมูล และความต่อเนื่องจากข้ันตอนท่ีหน่ึงประกอบการพิจารณาด้วย การสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพเมฆท่ีเกิดข้ึนจึงกล่าวได้ว่าข้ันตอนนี้การวางแผนปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของ เมฆท่ีเกิดขึ้นมีความสาคัญย่ิงสารเคมีท่ีใช้ในขั้นตอนน้ีมักได้แก่ เกลือแกง สารประกอบสูตร ท. 1 (เป็นสารละลายเข้มข้นที่ได้จากกระบวนการอิเลคโตรไลซิส ซึ่งเป็นผลงานค้นคว้าของ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล) สารยูเรีย สารแอมโมเนียไนเตรท แข็งแห้ง และบางครั้งอาจใช้สารแคลเซียมคลอไรด์ร่วมด้วย โดยพิจารณาลักษณะการเติบโตของเมฆ บริเวณเมฆและการเกิดฝนในวันนนั้ ๆ เป็นหลกั

11ขน้ั ตอนที่ 3 โจมตี เม่ือกลุ่มเมฆฝนมีความหนาแน่นมากพอที่จะสามารถตกเป็นฝนได้ โดยภายในกลุ่มเมฆจะมีเม็ดน้าขนาดใหญ่มากมาย โดยภายในกลุ่มเมฆจะมีเม็ดน้าขนาดใหญ่มากมาย สังเกตได้หากเคร่ืองบินเข้าไปในกลุ่มเมฆฝนนีแ้ ลว้ จะมีเมด็ น้าเกาะตามปีกและกระจังหนา้ ของเครอื่ งบนิ ดงั นัน้ ขั้นตอนสุดทา้ ยจงึ มีความสาคญั อย่างยิ่งยวดเพราะจะต้องอาศัยความชานาญและประสบการณ์เป็นอย่างมากเหนือสิ่งอ่ืนใดต้องรจู้ ักใช้เทคนิคในการทาฝนหลวงซ่ึงพระองค์ท่านทรงให้ข้อคิดว่าจะต้องพิจารณาจุดมุ่งหมายของการทาฝนหลวงด้วยว่า ในการทาฝนหลวงของแต่ละพ้ืนที่น้ันต้องตอบสนองความต้องการอันแท้จริงของราษฎรใน 2 ประเด็น คือ เพ่ือเพ่ิมปริมาณฝนตกให้กับพ้ืนท่ี (Rain Enhancement) และเพื่อให้เกิดการกระจายการตกของฝน (RainDistribution) ซง่ึ ทัง้ 2 วัตถปุ ระสงคน์ ้ีไดเ้ ป็นแนวทางในการบาบัดทุกข์บารุงสุขของพสกนิกรให้คลายความเด็ดร้อนยามขาดแคลนน้าเรื่อยมาตราบเท่าทุกวันนี้ เพราะความต้องการนา้ ของมนุษยชาตินับวันแตจ่ ะทวีข้ึนอย่างเกิดคาด สืบเนื่องมาจากผลกระทบท่ีเกิดจากปฏิกิริยาเรือนกระจกของโลก (Green House Effect) ทาให้ฝนไม่ตกตอ้ งตามฤดกู าลดังเช่นเคยในอดีต6. \"เกษตรทฤษฎีใหม่\" แนวพระรำชดำริกำรแบ่งสัดสว่ นพ้นื ท่ีทำกิน เพ่อื กำรอย่รู อดและพ่ึงตนเอง ปัญหาหลักของเกษตรกรในอดีต จนถึงปัจจุบันที่สาคัญประการหนึ่ง คือ การขาดแคลนน้าเพื่อเกษตรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นท่ีเกษตรท่ีอาศัยน้าฝน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศท่ีอยู่ในเขตที่มีฝนค่อนข้างน้อยและส่วนมากเป็นนาข้าวและพืชไร่ เกษตรกรยังคงทาการเพาะปลูก ได้ปีละครั้งในช่วงฤดูฝนเท่าน้ัน และมีความเส่ียงกับความเสียหาย อันเน่ืองมาจากความแปรปรวนของดินฟ้าอากาศและฝนท้ิงช่วงแม้ว่าจะมีการขุดบ่อหรือสระเก็บน้าไว้ใช้บ้างแต่ก็มีขนาดเพียงพอ หรือมีปัจจัยอื่น ๆ ท่ีเป็นปัญหาให้มีน้าใช้ไม่เพียงพอ รวมทงั้ ระบบการปลูกพืชไม่มหี ลกั เกณฑใ์ ด ๆ และสว่ นใหญป่ ลกู พชื ชนดิ เดียว ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จึงได้พระราชทานพระราชดาริ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรท่ีประสบความยากลาบาก ให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤติโดยเฉพาะการขาดแคลนนา้ ได้ โดยไม่เดือดร้อนและยากลาบากนัก พระราชดารินี้ ทรงเรยี กว่า \"ทฤษฎีใหม่\" ซ่ึงเป็นแนวทางหรือหลักการในการบริหารการจัดการท่ีดินและน้า เพ่ือการเกษตรในที่พ้ืนท่ีขนาดเล็กให้เกิดประโยชนส์ ูงสดุทฤษฎีใหม:่ ทำไมใหม่ ? มีการบริหารและจดั แบ่งท่ีดินแปลงเล็กออกเป็นสัดสว่ นที่ชดั เจน เพ่อื ประโยชน์สงู สดุ ของเกษตรกร ซ่งึ ไม่เคยมีใครคดิ มากอ่ น มีการคานวณโดยหลักวิชาการ เกีย่ วกับปริมาณน้าที่จะกักเกบ็ ให้พอเพยี งต่อการเพาะปลูกได้ตลอดปี มกี ารวางแผนทสี่ มบูรณ์แบบ สาหรับเกษตรกรรายยอ่ ยการจดั สรรพน้ื ทอี่ ยอู่ าศัยและ ทีท่ ากินทฤษฎีใหม่ข้นั ต้นใหแ้ บ่งพน้ื ที่ ออกเป็น 4 ส่วน ตามอตั ราสว่ น 30: 30: 30: 10 ซงึ่ หมายถงึ พ้ืนท่ีส่วนที่หน่ึง ประมาณ 30% ให้ขุดสระเก็บกักน้า เพื่อใช้เก็บกักน้าฝนในฤดูฝนและ ใช้เสริมการ ปลูกพืชในฤดูแล้ง ตลอดจนการเล้ียงสตั ว์นา้ และพชื น้าตา่ ง ๆ พืน้ ที่ส่วนท่สี อง ประมาณ 30% ให้ปลูกข้าวในฤดฝู น เพ่ือใช้เป็นอาหารประจาวนั สาหรับครอบครัวให้ เพียงพอตลอดปี เพ่ือตดั คา่ ใชจ้ า่ ยและสามารถพ่งึ ตนเองได้

12 พ้ืนท่ีส่วนที่สาม ประมาณ 30% ให้ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผัก พืชไร่ พืชสมุนไพร ฯลฯ เพื่อใช้เป็น อาหารประจาวัน หากเหลอื บริโภคกน็ าไปจาหนา่ ย พ้นื ทีส่ ่วนที่ส่ี ประมาณ 10% เปน็ ทีอ่ ยอู่ าศยั เลย้ี งสตั ว์และโรงเรอื นอนื่ ๆหลกั กำรและแนวทำงสำคัญ 1. เปน็ ระบบการผลิตแบบพอเพียง ท่เี กษตรกรสามารถเลี้ยงตวั เองได้ในระดับที่ประหยดั ก่อน ท้งั น้ชี ุมชน ต้องมีความสามัคคี ร่วมมือร่วมใจในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันทานองเดียวกับการ \"ลงแขก\" แบบ ดงั้ เดมิ เพอ่ื ลดค่าใชจ้ า่ ย 2. เน่ืองจากข้าวเป็นปจั จัยหลักที่ทุกครวั เรือนจะต้องบริโภค ดงั น้นั จึงประมาณวา่ ครอบครวั หนึง่ ทานา 5 ไร่ จะทาใหม้ ขี ้าวพอกนิ ตลอดปี โดยไม่ตอ้ งซื้อหาในราคาแพง เพอื่ ยึดหลักพึง่ ตนเองไดอ้ ยา่ งมอี สิ รภาพ 3. ต้องมีน้าเพ่ือการเพาะปลูกสารองไว้ใช้ในฤดูแล้ง หรือระยะฝนท้ิงช่วงได้อย่างพอเพียง ดังน้ัน จึง จาเป็นตอ้ งกนั ที่ดินส่วนหน่ึงไว้ขดุ สระนา้ โดยมีหลักวา่ ต้องมีน้าเพยี งพอทจี่ ะทาการเพาะปลูกได้ตลอด ปี ทั้งน้ไี ดพ้ ระราชทานพระราชดาริเปน็ แนวทางว่า ตอ้ งมีนา้ 1,000 ลกู บาศก์เมตร ตอ่ การเพาะปลูก 1 ไร่ โดยประมาณ ฉะนั้น เม่ือทานา 5 ไร่ ทาพืชไร่หรือไม้ผลอีก 5 ไร่ (รวมเป็น 10 ไร่) จะต้องมีน้า 10,000 ลกู บาศก์เมตรต่อปี ดังนั้น หากมพี นื้ ที่ 15 ไร่ จงึ มสี ตู รคร่าว ๆ วา่ แต่ละแปลงประกอบด้วย o นา 5 ไร่ o พชื ไร่พชื สวน 5 ไร่ o สระนา้ 3 ไร่ ลึก 4 เมตร จุประมาณ 19,000 ลกู บาศก์เมตร ซึง่ เป็น ปรมิ าณนา้ ท่ีเพยี งพอที่จะ สารองไวใ้ ชย้ ามฤดแู ลง้ o ทีอ่ ยู่อาศัยและอืน่ ๆ 2 ไร่ รวมทัง้ หมด 15 ไร่ 4. การจัดแบ่งแปลงท่ีดนิ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสดุ น้ี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงคานวณและคานึงจากอัตราถือครองที่ดินถัวเฉล่ีย ครัวเรือนละ 15 ไร่ อย่างไรก็ ตาม หากเกษตรกรมีพื้นที่ถือครองน้อยกว่าหรือมากกว่านี้ ก็สามารถใช้อัตราส่วน 30:30:30:10 ไป เป็นเกณฑ์ปรบั ใช้ได้ กลา่ วคือ 30% สว่ นแรก ขุดสระนา้ (สามารถเลีย้ งปลา ปลกู พชื นา้ เชน่ ผกั บงุ้ ผกั กะเฉด ฯลฯ ได้ดว้ ย) 30% สว่ นท่สี อง ทานา 30% ส่วนที่สำม ปลูกพืชไร่ พืชสวน (ไม้ผล ไม้ยืนต้น ไม้ใช้สอย ไม้สร้างบ้าน พืชไร่ พืชผัก สมุนไพรเปน็ ต้น) 10% สุดท้ำย เป็นที่อยู่อาศัยและอื่น ๆ (ถนน คันดิน กองฟาง ลานตาก กองปุ๋ยหมัก โรงเรือน โรงเพาะเห็ด คอกสัตว์ ไม้ดอกไมป้ ระดับ พืชผกั สวนครัวหลงั บ้าน เป็นต้น)อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวเป็นสูตรหรือหลักการโดยประมาณเท่านั้น สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยขึ้นอยู่กบั สภาพของพน้ื ที่ ดนิ ปรมิ าณนา้ ฝนและสภาพแวดล้อม เชน่ ในกรณภี าคใต้ที่มีฝนตกชกุ กวา่ ภาคอ่ืน หรือหากพ้ืนท่ีที่มีแหล่งน้ามาเติมสระได้ต่อเน่ือง ก็อาจลดขนาดของบ่อหรือสระนา้ ให้เล็กลง เพ่ือเก็บพ้นื ทไ่ี วใ้ ช้ประโยชนอ์ ื่นตอ่ ไปได้ทฤษฎใี หมข่ ้ันกำ้ วหน้ำ เม่ือเกษตรกรเข้าใจในหลักการและได้ลงมือปฏิบัติตามขั้นที่หน่ึงในที่ดินของ ตนจนได้ผลแล้ว ฉะนั้นเกษตรกรก็จะพัฒนาตนเองไปสู่ขั้นพออยู่พอกิน เพ่ือให้มีผลสมบูรณ์ยิ่งขนึ้ จึงควรท่ีจะต้องดาเนินการตามขั้นท่ีสอง และข้ันที่สาม ต่อไปตามลาดบั ดงั น้ี

13ทฤษฎใี หมข่ ้ันท่ีสอง เมื่อเกษตรกรเข้าใจในหลักการและได้ปฏิบัติในท่ีดินของตนจนได้ผลแล้ว ก็ต้องเริ่มขั้นที่สอง คือ ให้เกษตรกรรวมพลงั กนั ในรูป กลุ่ม หรอื สหกรณ์ รว่ มแรง ร่วมใจกันดาเนินการในดา้ น 1. การผลติ (พนั ธพุ์ ืช เตรยี มดนิ ชลประทาน ฯลฯ) เกษตรกรจะต้องร่วมมอื ในการผลิตโดยเร่ิมตง้ั แต่ ขัน้ เตรยี มดนิ การหาพนั ธพุ์ ชื ปยุ๋ การหานา้ และอืน่ ๆ เพ่ือการเพาะปลูก 2. การตลาด (ลานตากข้าว ย้งุ เคร่ืองสขี ้าว การจาหน่ายผลผลติ ) เม่ือมีผลผลิตแล้ว จะต้องเตรียมการต่าง ๆ เพ่ือการขายผลผลิตให้ได้ประโยชน์สูงสุด เช่น การเตรียม ลานตากข้าวร่วมกัน การจัดหายุ้งรวบรวมข้าว เตรียมหาเคร่ืองสีข้าว ตลอดจนการรวมกันขายผลผลิต ใหไ้ ด้ราคาดี และลดคา่ ใชจ้ ่ายลงดว้ ย 3. ความเปน็ อยู(่ กะปิ นา้ ปลา อาหาร เคร่ืองนุง่ หม่ ฯลฯ) ในขณะเดียวกันเกษตรกรต้องมีความเป็นอยู่ท่ีดีพอสมควร โดยมีปัจจัยพ้ืนฐานในการดารงชีวิต เช่น อาหารการกินตา่ ง ๆ กะปิ นา้ ปลา เส้อื ผ้า ท่พี อเพียง 4. สวสั ดิการ (สาธารณสุข เงินก)ู้ แต่ละชุมชนควรมีสวัสดิภาพและบริการท่ีจาเป็น เช่น มีสถานีอนามัยเม่ือยามป่วยไข้ หรือมีกองทุนไว้ กยู้ ืมเพอ่ื ประโยชนใ์ นกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของชุมชน 5. การศึกษา (โรงเรียน ทุนการศกึ ษา) ชุมชนควรมีบทบาทในการส่งเสริมการศึกษา เช่น มีกองทุนเพื่อการศึกษาเล่าเรียนให้แก่เยาวชนของ ชมุ ชนเอง 6. สงั คมและศาสนา ชุมชนควรเปน็ ท่รี วมในการพัฒนาสงั คมและจิตใจ โดยมศี าสนาเปน็ ทีย่ ึดเหนย่ี วกิจกรรมท้ังหมดดังกล่าวข้างต้น จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าส่วนราชการ องค์กรเอกชน ตลอดจนสมาชกิ ในชุมชนนน้ั เปน็ สาคญัทฤษฎใี หม่ขั้นท่สี ำมเม่ือดาเนินการผ่านพ้นข้ันที่สองแล้ว เกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกรก็ควรพัฒนาก้าวหน้าไปสู่ขั้นที่สามต่อไป คือตดิ ต่อประสานงาน เพอื่ จัดหาทุน หรอื แหล่งเงิน เช่น ธนาคาร หรือบรษิ ัท ห้างรา้ นเอกชน มาชว่ ยในการลงทุนและพฒั นาคุณภาพชวี ิต ท้ังนี้ ทง้ั ฝ่ายเกษตรกรและฝ่ายธนาคารกับบรษิ ัท จะไดร้ บั ประโยชน์ร่วมกัน กลา่ วคือ เกษตรกรขายข้าวได้ในราคาสูง (ไม่ถกู กดราคา) ธนาคารกับบริษัทสามารถซ้ือขา้ วบริโภคในราคาตา่ (ซือ้ ขา้ วเปลือกตรงจากเกษตรกรและมาสเี อง) เกษตรกรซื้อเคร่ืองอุปโภคบริโภคได้ในราคาต่า เพราะรวมกันซ้ือเป็นจานวนมาก (เป็นร้านสหกรณ์ ราคาขายส่ง) ธนาคารกบั บรษิ ัทจะสามารถกระจายบุคลากร (เพอ่ื ไปดาเนินการในกิจกรรมต่าง ๆ ใหเ้ กิดผลดยี งิ่ ขน้ึ )ประโยชน์ของทฤษฎใี หม่

14จากพระราชดารสั ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ท่ีได้พระราชทานในโอกาสต่าง ๆ นนั้ พอจะสรุปถึงประโยชนข์ องทฤษฎใี หม่ได้ ดังน้ี 1. ใหป้ ระชาชนพออยู่พอกนิ สมควรแก่อตั ภาพในระดบั ทีป่ ระหยัด ไม่อดอยาก และเลี้ยงตนเองได้ 2. ในหน้าแล้งมีน้าน้อยก็สามารถเอาน้าที่เก็บไว้ในสระ มาปลูกพืชผักต่าง ๆ ได้ แม้แต่ข้าวก็ยังปลูกได้ โดยไม่ตอ้ งเบยี ดเบียนชลประทาน 3. ในปีท่ฝี นตกตามฤดูกาลโดยมนี ้าดตี ลอดปี ทฤษฎใี หม่นกี้ ็สามารถสร้างรายได้ให้รา่ รวยข้ึนได้ 4. ในกรณีที่เกิดอุทกภัยก็สามารถที่จะฟื้นตัว และช่วยตัวเองได้ในระดับหน่ึง โดยทางราชการไม่ต้อง ช่วยเหลือมากเกนิ ไป อนั เปน็ การประหยดั งบประมาณดว้ ยทฤษฎใี หม่ที่สมบูรณ์ การที่จะทาให้ทฤษฎีใหม่สมบูรณ์ได้น้ันคือ สระเก็บกักน้าจะต้องทาหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มความสามารถ โดยต้องมีแหล่งน้าขนาดใหญ่ท่ีสามารถเพ่ิมเติมน้าในสระเก็บกักน้าให้เต็มอยู่ เสมอ ดังเช่นในกรณีของการทดลองท่ีวัดมงคลชัยพัฒนา จังหวัดสระบุรี ซ่ึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเสนอวิธกี ารดงั น้ีระบบทฤษฎีใหมท่ ่ีสมบรู ณ์ อ่างใหญ่ เตมิ อา่ งเลก็ อา่ งเล็ก เติมสระนา้จากภาพวงกลมเล็กคือสระน้าที่เกษตรกร ขุดข้ึนตามทฤษฎีใหม่ เม่ือเกิดช่วงขาดแคลนน้าในฤดูแล้ง เกษตรกรสามารถสูบน้ามาใช้ประโยชน์ได้ และหากน้าในสระน้าไม่เพียงพอก็ขอรับน้าจากอ่างห้วยหินขาว (อ่างเล็ก) ซึ่งไดท้ าระบบสง่ นา้ เชือ่ มตอ่ ลงมายังสระน้าท่ีได้ขุดไวใ้ นแต่ละแปลงซงึ่ จะ ชว่ ยให้สามารถมีนา้ ใชต้ ลอดปีกรณีท่ีเกษตรกรใชน้ ้ากันมาก อ่างห้วยหินขาว (อ่างเล็ก) ก็อาจมีปริมาณน้าไม่พอเพียง หากโครงการพัฒนาลุ่มนา้ ป่าสกั หรือมโี ครงการใหญท่ ่ีสมบูรณ์แลว้ ก็ใช้วิธีการผนั นา้ จากป่าสัก คืออา่ งใหญ่ ต่อลงมายังอา่ งเก็บน้าห้วยหินขาว (อ่างเลก็ ) กจ็ ะช่วยใหม้ ีปริมาณนา้ ใช้มากพอตลอดปีสาหรับสระของเกษตรกร7. โครงกำรกงั หันชัยพัฒนำ - บำบดั น้ำเสียพระรำชดำริ เมื่อวันท่ี 24 ธันวาคม พ.ศ. 2531 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรได้พระราชทานรูปแบบและพระราชดาริ เร่ืองการแก้ไขปัญหาน้าเสีย โดยการเติมออกซิเจนในน้า การเติมออกซิเจนในน้ามี 2 วิธี คือ วิธีหน่ึง ใช้อากาศอัดเข้าไปตามท่อเป่าลงไปใต้ผิวน้าแบบกระจายฟอง และอีกวิธีหน่ึง น่าจะกระทาได้โดยกังหันวดิ น้า วิดตักขึ้นไปบนผิวน้า แล้วปล่อยให้ตกลงไปยังผิวน้าตามเดิม โดยท่ีกังหันน้าดังกล่าวจะหมุนช้า ๆ ด้วยกาลังของมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นฝอย ซองน้าน้ีจะถูกขับเคล่ือนให้หมุนโดยรอบ ด้วยมอเตอรไ์ ฟฟา้ ขนาด 2 แรงมา้ ระบบแรงดัน 380 โวลต์ 3 เฟส 50 เฮิรท์ ผ่านระบบส่งกาลงั ดว้ ยเฟืองเกียร์ทดรอบและ/หรือจานโซ่ ซึ่งจะทาให้การหมุนเคลื่อนท่ีของซองน้าวดิ ตักนา้ ด้วยความเร็ว 5 รอบ/นาที สามารถวิดน้าลึกลงไปใต้ผิวน้า ประมาณ 0.50 เมตร ยกน้าข้ึนไปสาดกระจายเป็นฝอยเหนือผิวน้าด้วยความสูงประมาณ

151.00 เมตร ทาให้มีพื้นท่ีผิวสัมผัสระหว่างน้ากับอากาศกว้างขวางมากขึ้น เป็นผลทาให้ออกซิเจนในน้าละลายเข้าไปในน้าได้อย่างรวดเรว็ และในขณะท่ีนาเสียถูกยกขึน้ ไปสาดกระจายสัมผัสกับอากาศแล้วตกลงไปยังผิวน้านั้น จะเกิดการอัดอากาศภายในซองน้าภายใต้ผิวน้าจนกระทั่งซองน้าจมน้าเต็มท่ี ทาให้เพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายเทออกซิเจนได้สูงขึ้นตามไปด้วย หลังจากน้ันน้าที่ได้รับการเติมอากาศแล้ว จะเกิดการถ่ายเทของน้าเคล่อื นทีอ่ อกไปด้วยการผลักดันของซองน้าดว้ ยความเรว็ ของการไหล 0.20 เมตร/วนิ าที จึงสามารถผลกั ดันน้าออกไปจากเคร่ือง มีระยะทางประมาณ 10.00 เมตร และผลพลอยได้อีกประการหนึ่งได้แก่ การโยกตัวของทุนลอยในขณะทางานจะส่งผลให้แผ่นไฮโดรฟลอยที่ติดตั้งไว้ในส่วนขนาดเลก็ ไม่เกิน 2 แรงม้า หรืออาจจะใช้พลังน้าไหลก็ได้ จึงสมควรพิจารณาสร้างต้นแบบ แล้วนาไปติดต้ังทดลองใช้บาบัดน้าเสีย ท่ีภายในบริเวณโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า และวดั บวรนเิ วศวหิ ารกำรศึกษำ วิจยั และพฒั นำ กรมชลประทานรับสนองพระราชดาริในการศึกษาและสร้างต้นแบบโดยดัดแปลงเคร่ืองสูบน้าพลังน้าจาก \"กังหันน้าสบู น้าทนุ่ ลอย\" เปลี่ยนเป็น \"กงั หันน้าชัยพัฒนา\" และไดน้ าไปติดตั้งใช้ในกิจกรรมบาบัดน้าเสียที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า เมื่อวันท่ี 1 พฤษภาคม 2532 และท่ีวัดบวรนิเวศวิหาร เม่ือวันที่ 3 พฤษภาคม2532 เพื่อศึกษา วิจัย และพฒั นาระบบบาบดั น้าเสีย เปน็ ระยะเวลา 4-5 ปีคุณสมบตั ิ กังหันน้าชัยพัฒนา หรือ เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้าหมุนช้าแบบทุ่นลอย (Chaipattana LowSurface Aerator) ซึ่งเป็น Model RX-2 หมายถึง Royal Experiment แบบท่ี 2 มีคุณสมบัติในการถ่ายเทออกซิเจนได้สูงถึง 1.2 กิโลกรัมของออกซิเจน/แรงม้า/ช่ัวโมง สามารถนาไปใช้ในกิจกรรมปรับปรุงคุณภาพน้าได้อย่างอเนกประสงค์ ติดต้ังง่าย เหมาะสาหรับใช้ในแหล่งน้าธรรมชาติ ได้แก่ สระน้า หนองน้า คลอง บึง ลาหว้ ย ฯลฯ ทม่ี คี วามลึกประมาณ 1.00 เมตร และมคี วามกวา้ งมากกว่า 3.00 เมตร

16หลักกำรทำงำน เครื่องกลเติมอากาศ \"กังหันน้าชัยพัฒนา\" แบบทุ่นลอย สามารถปรับตัวขึ้นลงได้ตามระดับขึ้นลงของน้า ส่วนประกอบสาคัญ ได้แก่ โครงกังหันน้ารูป 12 เหล่ียม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.00 เมตร มีซองตักน้าขนาดบรรจุ 110 ลติ ร ตดิ ตงั้ โดยรอบ จานวน 6 ซอง เจาะรซู องน้าพรุน เพอ่ื ให้นา้ ไหลกระจายใต้น้า สามารถผลักดันน้าให้เคล่ือนท่ีผสมผสานออกซิเจนเข้ากับน้าในระดับความลึกใต้ผิวน้าเป็นอย่างดีอีกด้วย จึงก่อให้เกิดกระบวนการทั้งการเติมอากาศ การกวนแบบผสมผสานและการทาให้เกิดการไหลของน้าเสียไปตามทิศทางท่ีกาหนดโดยพรอ้ มกันรูปกงั หนั นำ้ ชัยพฒั นำ รปู แบบ A (ปี พ.ศ. 2535-2536) ซองน้าจะถูกขับเคลอ่ื นโดยใช้ระบบขับสง่ กาลังดว้ ยเฟอื งจานโซร่ ่วมกบั เกยี รม์ อเตอรข์ นาด 1 : 50 ใชม้ อเตอร์ 2 แรงมา้

17รปู กงั หนั นำ้ ชยั พฒั นำ รปู แบบ B (ปี พ.ศ. 2538) ซองน้าจะถูกขับเคลื่อนโดยใช้ระบบขับสง่ กาลงั ด้วยชดุ เกยี รท์ ดรอบขนาด 1:300 ใช้มอเตอร์ 1 แรงม้า ขบั 1 ขา้ งรปู กงั หันน้ำชยั พัฒนำ รปู แบบ C (ปี พ.ศ. 2537) เหมือนรูปแบบ Aแตใ่ ชใ้ นกรณที ่ตี อ้ งการขบั เคลอื่ นแล่นไปตามแหลง่ นา้ ด้วยตวั เองและแหล่งน้านั้นไม่มีพลงั งานไฟฟ้าเข้าถงึต้องใช้เคร่ืองยนต์ขับเคล่อื นโดยมเี จา้ หน้าที่บงั คบั ทิศทางรูปกังหันน้ำชัยพัฒนำ รูปแบบ D (ปี พ.ศ. 2538) ซองน้าจะถูกขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์ทดรอบขนาด 1:50 รว่ มกับเกยี ร์ทดแบบเฟอื งตรง 1: 6 ใช้มอเตอร์ 2 แรงมา้สทิ ธิบตั รในพระปรมำภไิ ธย เป็นท่ีน่าปิติยินดีเป็นล้นพ้นแก่ปวงพสกนิกรไทยท้ังมวล เมื่อเคร่ืองกลเติมอากาศ \"กังหันน้ำชัยพัฒนำ\" ได้รับการพิจารณาและทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย เม่ือวันท่ี 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2536 นับเป็นสิ่งประดิษฐ์เคร่ืองกลเติมอากาศเคร่ืองท่ี 9 ของโลกท่ีได้รับสิทธิบัตรและเป็นคร้ังแรกที่ได้รับการจดทะเบยี นและออกสิทธบิ ัตรถวายแด่พระมหากษตั ริย์ด้วย จงึ นบั ได้วา่ \"สทิ ธิบตั รเคร่อื งกลเติมอำกำศในพระปรมำภไิ ธยของพระมหำกษัตริยพ์ ระองค์แรกในประวัตศิ ำสตรช์ ำติไทยและเป็นครัง้ แรกของโลก\"

18 บทที่ 3 อปุ กรณ์และวิธีกำรดำเนินกำร โครงงานคอมพิวเตอร์ ประเภทซอฟตแ์ วร์ การพฒั นาแอปพลิเคชน่ั เกมเสริมทกั ษะการเรยี นรู้ ด้วยโปรแกรม RPG Maker MV และ Construct 2 เร่อื ง ศาสตรพ์ ระราชา มีวิธดี าเนินงานตามขั้นตอนดังต่อไปน้ี1. วสั ดุ อุปกรณ์ เครอ่ื งมือ โปรแกรมหรือที่ใชใ้ นกำรพฒั นำ1.1 เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์1.2 โปรแกรมทีใ่ ช้ในการดาเนินงาน ได้แก่- โปรแกรม RPG Maker MV - Construct 2- โปรแกรม Photo scape - โปรแกรม Google Form- โปรแกรม AVC - Format Factory1.3 สมาร์ทโฟน1.4 สมุดบนั ทึก2. ข้นั ตอนกำรดำเนินงำน 2.1 คดิ หวั ข้อโครงงาน และเลือกหวั ข้อทส่ี นใจ เพ่อื นาเสนอครทู ี่ปรกึ ษาโครงงาน 2.2 ศึกษาและคน้ คว้าข้อมลู ท่ีเก่ียวข้องกับเรื่องที่สนใจ ประกอบดว้ ย - การสรา้ งเกม - โปรแกรมการสร้างเกม RPG Maker MV และ Construct 2 - โปรแกรมตกแตง่ ภาพ PhotoScape - ศึกษา เร่ือง ศาสตร์พระราชา และโครงการในพระราชดาริ - การสรา้ งเคร่อื งมือประเมนิ ความพึงพอใจ 2.3 จัดทาเคา้ โครงเกมนาเสนอครูทีป่ รึกษา โดยทาสตอรีบ่ อร์ด รปู แบบการเลน่ วิธเี ลน่ เกม 2.4 พฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพฒั นาแอปพลิเคชั่นเกมเสรมิ ทกั ษะการเรียนรู้ เรอ่ื ง ศาสตร์ พระราชา ดังนี้ 1. ออกแบบเกม ดว้ ยโปรแกรม Construct 2 และ RPG Maker MV ตามสตอรี่บอรด์ 2. นาเกมทีส่ ร้างสมบูรณ์ให้ครูผู้เช่ยี วชาญ ประเมนิ ด้านการออกแบบบทเรียน และเน้ือหา 3. ปรบั ปรงุ พัฒนาตามคาแนะนาของครผู ู้เช่ียวชาญ 4. นาเกมที่ออกแบบเสร็จสมบรู ณ์ ใหน้ ักเรียนเล่น และตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ 5.วิเคราะหข์ ้อมูล การตอบแบบสอบถามแสดงความคดิ เหน็ ของผเู้ ลน่ 2.5 จัดทารายงานและเผยแพรผ่ ่านเวบ็ ไซต์ https://project6..banto.ac.th

19 บทท่ี 4 ผลกำรดำเนินงำนการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ประเภทซอฟต์แวร์ การพัฒนาแอปพลิเคช่ันเกมเสริมทักษะการเรียนรู้ เรื่อง ศาสตร์พระราชา มีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาแอปพลิเคช่ันเกมเสริมทักษะการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาส่ือการเรียนรู้ เร่ือง ศาสตร์พระราชา เพ่ือสารวจความพึงพอใจของผู้ใช้เกม มีผลการดาเนินงานโครงงาน ดังนี้1. ผลกำรวิเครำะหข์ อ้ มลู1. ความคดิ เห็นของผู้เชี่ยวชาญต่อแอปพลิเคช่นั เกมเสริมทักษะการเรียนรู้ เรอ่ื ง ศาสตร์พระราชา โดยใช้โปรแกรม Google Form ( https://goo.gl/CGtbFt ) จานวน 5 คน ปรากฏผลดังตาราง 1ข้อท่ี รำยกำรประเมิน ���̅��� ������������. แปลผลดา้ นการออกแบบบทเรียนเกม1 ความเหมาะสมของภาพประกอบในเกม 4.8 0.45 มากทีส่ ดุ2 ความเหมาะสมของดนตรปี ระกอบเกม 4.8 0.45 มากทส่ี ุด3 ความสอดคล้องของภาพและเสียง 4.2 0.45 มากทีส่ ุด4 รปู แบบของตัวอักษรทใี่ ชใ้ นการนาเสนอ 4 0.00 มากทส่ี ุด5 ความเหมาะสมของขนาดตัวอักษร 4.2 0.45 มากที่สุด6 ความเหมาะสมของการเลอื กใชส้ ตี วั อกั ษร 4.4 0.55 มากท่สี ุด7 ความต่อเน่ืองของการนาเสนอเนอื้ หา 4.8 0.45 มากทส่ี ุด8 ความเหมาะสมของการออกแบบหนา้ จอ 5 0.00 มากที่สุด9 การควบคมุ เกม เช่นการใช้เมาส์ 4.6 0.55 มากท่สี ุด10 ความนา่ สนใจของการตอบโต้ของเกม 5 0.00 มากท่สี ุด11 การเชื่อมโยงของแตล่ ะหน้าผลงงาน 5 0.00 มากทส่ี ุด เฉล่ยี ดำ้ นกำรออกแบบบทเรียน 4.62 0.36 มำกท่สี ดุด้านเนอื้ หา12 ความถกู ต้องขอเนื้อหา 4.8 0.45 มากทส่ี ุด13 ความสอดคล้องของจุดประสงค์และเนื้อหา 4.4 0.55 มากที่สุด14 ลาดบั ขัน้ ของการนาเสนอเน้ือหา 4.8 0.45 มากทีส่ ดุ15 ความเหมาะสมของระดับผเู้ รียน 5 0.00 มากทส่ี ดุ16 ความน่าสนใจของเนื้อหา 4.8 0.45 มากที่สดุ17 ระยะเวลาการนาเสนอเน้ือหา 4.2 0.45 มากทส่ี ดุ เฉลี่ยด้ำนเนอ้ื หำ 4.67 0.30 มำกที่สดุ N=5 2. นกั เรยี นมคี วามรู้ เรอื่ ง ศาสตร์ พระราชา เพ่ิมข้ึน ร้อยละ 100 จากการใชส้ อื่ 3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เลน่ เกม เรือ่ ง ศาสตร์พระราชา ผลการตอบแบบสอบถามความพงึ พอใจของนกั เรียนจากการเลน่ เกม โดยใช้โปรแกรม GoogleForm ( https://goo.gl/qLnGwR ) จานวน 63 คน ปรากฏผลดงั ตาราง 2

ข้อที่ รำยกำรประเมนิ ���̅��� ������������. 20 1 วิธกี ารเลน่ เกม สามารถเข้าใจง่าย 4.24 0.89 2 เวลาทีใ่ ชเ้ ลน่ เกมมีความเหมาะสม 3.95 0.82 แปลผล 3 สสี นั ของเกมมีความเหมาะสม 4.27 0.81 มากที่สดุ 4 คะแนนของเกมมีความเหมาะสม 4.29 0.63 5 อปุ สรรคในเกมมีความเหมาะสม 4.49 0.64 มาก 6 ความเหมาะสมของเกมกับช่วงวัยของผเู้ ลน่ 4.27 0.71 มากที่สดุ 7 ความทา้ ทายในการเลน่ 4.35 0.66 มากที่สุด 8 แนะนาวธิ ีการเลน่ ทด่ี ี 4.37 0.61 มากทส่ี ุด 9 ความเขา้ ใจในการเล่นเกม 4.41 0.73 มากทส่ี ุด10 ประสิทธภิ าพของเกมโดยรวม 4.46 0.71 มากทส่ี ุด 4.31 0.09 มากทส่ี ุด เฉลย่ี มากทีส่ ดุ มากท่สี ุด มำกทีส่ ุด N = 63

21 บทท่ี 5 สรุปผลกำรดำเนินงำน / อภิปรำยผลกำรดำเนินงำน การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ประเภทซอฟต์แวร์ การพัฒนาแอปพลิเคชั่นเกมเสริมทักษะการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ศาสตร์พระราชา สามารถสรุปผลการดาเนนิ โครงงาน และขอ้ เสนอแนะ ดงั น้ี 5.1 กำรดำเนนิ งำนจดั ทำโครงงำน 5.1.1 วัตถปุ ระสงคข์ องโครงงาน 1. เพอ่ื พฒั นาแอปพลิเคชนั่ เกมเสริมทกั ษะการเรียนรู้ ด้วยโปรแกรม RPG Maker MV และ Construct 2 2. เพ่อื พัฒนาสอื่ การเรยี นรู้ เรื่อง ศาสตร์พระราชา 3. เพอ่ื สารวจความพงึ พอใจของผใู้ ช้เกม5.2.2 วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา1.1 เครอื่ งคอมพวิ เตอร์1.2 โปรแกรมทใี่ ชใ้ นการดาเนินงาน ได้แก่- โปรแกรม RPG Maker MV - โปรแกรม Construct 2- โปรแกรม Photo scape - โปรแกรม Google Form- โปรแกรม AVC - โปรแกรม FileZella- โปรแกรม Google Sites1.3 สมารท์ โฟน1.4 สมุดบนั ทกึ 5.2 สรุปผลกำรดำเนนิ งำนโครงงำน การศึกษาผลการจัดทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ ประเภทซอฟต์แวร์ การพัฒนาแอปพลเิ คช่ันเกมเสริมทักษะการเรียนรู้ เร่ือง ศาสตร์พระราชา สามารถสรุปผลการศกึ ษาไดด้ งั นี้ 1. ผลการแสดงความคิดเห็นของผู้เชยี่ วชาญตอ่ แอปพลิเคชัน่ เกมเสริมทักษะการเรียนรู้ เร่อื ง ศาสตร์พระราชา ดา้ นการออกแบบเกม มคี า่ เฉลยี่ 4.62 อยู่ในระดับมากทสี่ ุด และด้านเน้ือหา มีค่าเฉลยี่ 4.67 อยู่ในระดับมากทส่ี ุด 2. มีนกั เรียนมคี วามรู้ เร่ือง ศาสตร์ พระราชา เพ่ิมขนึ้ รอ้ ยละ 100 จากการใช้สื่อ 3. ผลการศึกษาความพงึ พอใจของผู้เล่นเกม จากการตอบแบบสอบถาม โดยใชโ้ ปรแกรม GoogleForm ( https://goo.gl/CGtbFt และ https://goo.gl/qLnGwR ) จานวน 63 คน ท่ตี อบแบบสอบถามผลปรากฏว่า ผู้เลน่ มีความพงึ พอใจ มีค่าเฉล่ยี 4.31 อยูใ่ นระดบั มากท่สี ดุ5.3 ข้อเสนอแนะ 1. ควรศกึ ษาและผลิตเกมในกลมุ่ สาระอืน่ ๆ

22บรรณำนุกรมฉัตรลดา ปณุ ณขนั ธ.์ กำรพัฒนำแผนกำรจัดกำรเรียนรแู้ บบบูรณำกำร เรือ่ ง เพลงไทย กลุ่มสำระ กำรเรียนรูศ้ ลิ ปะ ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 4. การศกึ ษาค้นควา้ อสิ ระ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลยั มหาสารคาม, 2548.บญุ ธรรม กจิ ปรีดาบริสทุ ธ.ิ์ สถิติวิเครำะหเ์ พ่ือกำรวจิ ัย. พิมพค์ ร้งั ท่ี 3. กรุงเทพฯ : จามจุรี โปรดกั ท,์ 2546.สลุ ักษณ์ สุขแก้ว. กำรพัฒนำแผนกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรแู้ ก้โจทยป์ ัญหำคณติ ศำสตร์ เรอ่ื ง บทประยุกต์ ชั้นประถมศึกษำปที ี่ 5 โดยเน้นกำรเรียนรแู้ บบร่วมมอื STAD. วิทยานิพนธ์ ค.ม. บรุ ีรมั ย์ : มหาวิทยาลยั ราชภฏั บุรรี ัมย์, 2549.https://www.youtube.com/watch?v=HeDvxJIfuuU&t=4shttps://www.youtube.com/watch?v=7BmLyQhbtjs&t=2shttp://www.tsdf.or.th/th/royally-initiated-projects/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook