Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม 5

เล่ม 5

Published by ห้องเรียนครูหยุ, 2018-08-24 00:21:37

Description: เล่ม 5

Search

Read the Text Version

ไอหยุ หมดั ชูดชูโรงเรยี นบ้านโต ตาบลแมห่ วาด อาเภอธารโต จงั หวัดยะลา สานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษายะลา เขต ๓

คำนำ การพัฒนาความสามารถในการอา่ นและการคดิ เป็นเปา้ หมายที่สาคัญของการศึกษา เน่ืองจากการอา่ นโดยไม่ใช้วิจารณญาณในการพินิจพิเคราะห์ (Critical) หรือไม่พิจารณาแยกแยะ (Analytical)ขอ้ เท็จจริง อาจทาใหก้ ารอ่านนน้ั รบั ขอ้ มูลหรือส่ือสารผดิ วตั ถปุ ระสงค์ แ บ บ ฝึ ก ทั ก ษ ะ ก า ร อ่ า น คิ ด วิ เ ค ร า ะ ห์ มี วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ ที่ จ ะ พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ก า ร อ่ า น แ ล ะการคิดวิเคราะห์ให้กับนักเรียนโดยเฉพาะนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ท้ังนี้เพื่อท่ีจะเป็นพ้ืนฐานในการอ่านในระดับสูงไม่ว่าจะเป็นการอ่านเพื่อการคิดวิพากษ์ ( Critical Thinking )การคิดสังเคราะห์ (Synthesis Thinking) และการอ่านเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ (CreativeThinking) แบบฝึกทกั ษะการอ่านคิดวิเคราะห์ได้นาเนื้อหาท่ีหลากหลายมาใช้เป็นเน้ือหาท่ียังเป็นปัญหาในการอ่านของนกั เรยี นในบทเรียน ทั้งทเี่ ปน็ ประเด็นความสนใจตามเหตุการณ์ปัจจุบัน วัฒนธรรมและประเพณีในท้องถิ่นของนักเรียน และเน้ือหาที่มีการสอดแทรกแง่คิดในการใช้ชีวิตตามวัยของนักเรียนโดยแบ่งออกเปน็ ๘ เรื่องดว้ ยกัน คอื ๑) โคลงโลกนิติ (เนอื้ หาท่ีนักเรียนมีปญั หา) ๒) กาพยเ์ ห่ชมเคร่ืองคาวหวาน (เนื้อหาท่นี ักเรยี นมีปัญหา) ๓) ตากใบ (นิทานในท้องถิน่ ) ๔) สุขแสนล้น ทุกขแ์ สนนาน (ให้แง่คิดและเตือนสติ) ๕) ลเิ กฮูลู (ประเพณีและวฒั นธรรมในท้องถน่ิ ) ๖) ภยั พิบตั โิ ลกร้อน (ตระหนักถงึ ความสาคญั ของเหตกุ ารณ์โลกปจั จุบัน) ๗) กฎแหง่ กรรม (ใหแ้ งค่ ิดและมมุ มองในการปฏบิ ัตติ นในชีวิตประจาวัน) ๘) พระอจั ฉริยะภาพทางดนตรี (บุคคลสาคัญ) แบบฝึกการอ่านคิดวิเคราะห์อาจไม่นาเสนอเน้ือหาท้ังหมดโดยเฉพาะในส่วนของหลักภาษาต่าง ๆ เพราะมีในหนังสือเรียนและหนังสือต่างๆ ท่ีมีอยู่แล้ว เพียงแต่ได้ใช้แนวคิดต่าง ๆ มาช่วยให้นักเรียนได้เกิดทักษะดังกล่าว ผู้จัดทาขอขอบพระคุณสาหรับทุกๆ ท่าน รวมท้ังนักเรียนที่มีส่วนให้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์เล่มน้ีสาเร็จลง สิ่งใดท่ีไม่เหมาะ ไม่ควรหรือแม้แต่ข้อติชม ผู้จัดทาขอน้อมรับด้วยความยินดี โดยฝากข้อความดังกล่าวผ่านมาที่ [email protected] ผู้จัดทาจักขอบพระคณุ อยา่ งย่ิง ไอหยุ หมดั ชูดชู

แนวทำงในกำรใช้๑. แนวทำงของครู ๑.๑ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์น้ันครูควรทาความเข้าใจส่วนประกอบของแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และการจัดกิจกรรมการเรี ยนรู้ที่พฒั นาการอา่ นคิดวิเคราะหใ์ หเ้ ขา้ ใจ โดยมี ๖ ขนั้ ตอนดังตอ่ ไปน้ีกาหนดส่งิ ท่ี กาหนดปญั หา กาหนดตอ้ งวิเคราะห์ หลกั การสรปุ และ ตรวจสอบ พิจารณานาเสนอ โครงสร้าง แยกแยะ ๑.๒ บทบาทของครูในการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์นั้นควรเป็นลักษณะเคร่ืองช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ (Scaffolding) เป็นการสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้(Facilitator) และเป็นผเู้ รยี นร้รู ่วมไปกับนกั เรียน (Learner) ๑.๓ ครูต้องเข้าใจว่านี่ไม่ใช่การเรียนหลักภาษา จุดเน้นอยู่ที่การอ่านและคิดวิเคราะห์ และการอ่านไม่ใช่อ่านออกเสียง แต่เป็นการอ่านจับใจความ สรุปความ และทาความเข้าใจเก่ียวกับบทความหรือเนือ้ หา ๑.๔ ครูตอ้ งให้ความยตุ ิธรรมและความเป็นธรรมในการวัดและประเมินผลเพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคติท่ดี ตี ่อการเรยี นรูแ้ ละควรใหบ้ รรยากาศเปน็ ไปอย่างผ่อนคลาย

๒. แนวทำงของนักเรยี น เพือ่ ท่จี ะให้เกดิ ผลในการอ่านคิดวิเคราะห์น้นั มีแนวทางในการเรียนรูด้ งั ตอ่ ไปนี้ ๒.๑ นักเรียนต้องทาความเข้าใจว่านี่ไม่ใช่การอ่านสะกดคา แต่เป็นการอ่านเพ่ือทาความเข้าใจ โดยเน้นท่ีการทาความเข้าใจเน้ือหาหรือสารท่ีต้องการสื่อ ดังนั้นถ้านักเรียนไม่สามารถอ่านคาใดคาหนง่ึ ได้ควรท่จี ะขา้ มไปก่อนโดยไมต่ ้องกังวลและมาทาความเข้าใจภายหลัง โดยในแบบฝึกทกั ษะการอ่านคดิ วิเคราะหจ์ ะมี “อภธิ านศัพท”์ อยู่ดา้ นหลังใหน้ ักเรยี นได้ศึกษา ๒.๒ นักเรียนสามารถศึกษาเน้ือหาได้เพิ่มเติม ทั้งจากทางเว็บไซต์ ( Web Site ) หรือแหลง่ เรยี นรู้อื่น ๆ โดยดไู ด้จากบรรณานุกรม ๒.๓ ขณะที่นักเรียนอ่านไม่ควรเคร่งเครียด ควรผ่อนคลายและไม่ต้องกังวลเก่ียวกับคาศัพท์หรือหลักภาษามากนกั ๒.๔ นกั เรียนควรให้เกียรติและเคารพสิทธิของผู้อื่น โดยให้ความร่วมมือ ความช่วยเหลือและเอื้อเฟื้อในขณะดาเนนิ กิจกรรมในช้ันเรยี น ๒.๕ นกั เรียนสามารถใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ท้ังในและนอกเวลาเรียน โดยต้องระวงั ไมใ่ หเ้ กิดความชารุดเสยี หาย ๒.๖ ถ้านักเรียนมีปัญหาและไม่สบายใจใด ๆ ในขณะดาเนินกิจกรรมให้นักเรียนบอกกับครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ทนั ที

๓. แนวทำงในกำรวัดและประเมินผลกำรอำ่ นคดิ วิเครำะห์ การวดั ประเมินผลการอ่านคิดวเิ คราะห์นน้ั ได้แยกออกเป็น ๔ ประเดน็ ด้วยกนั โดยใชเ้ กณฑ์การประเมินเชิงคุณลักษณะ (Rubrics) ซง่ึ มรี ายละเอยี ดดงั ต่อไปน้ี หัวข้อในกำร เกณฑ์กำรประเมนิ เชงิ คณุ ลกั ษณะ ประเมนิ ๔ (ดีมำก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง)การระบุปญั หา สาม ารถ อ่านแล้ว ระ บุ สามารถอ่านแล้วระบุ สามารถอ่านแล้วระบุ เมื่อนักเรียนอ่านเน้ือการแยกแยะ ประเด็น/หัวข้อ/ชื่อเร่ืองท่ี ประเด็น/หัวข้อ/ชื่อ ประเด็น/หัวข้อ/ช่ือ เรอื่ งแล้วไม่สามารถระบุการเปรยี บเทยี บ สื่อถึงเน้ือหาหรือบทความ เรอ่ื งทสี่ ่อื ถงึ เน้อื หาหรือ เร่อื งท่ีส่ือถึงเน้ือหาหรือ ประเด็น/หัวข้อ/ช่ือเรื่องการเชอ่ื มโยงสมั พันธ์ ที่ได้ศึกษา ได้ครบถ้วน บทความที่ได้ศึกษาได้ บทความที่ได้ศกึ ษาได้ ที่ ส่ื อ ถึ ง เ น้ื อ ห า ห รื อ สมบูรณ์ พร้อมให้เหตุผล ครบถว้ นสมบรู ณ์ บทความทศี่ กึ ษาได้ ประกอบ สามารถอ่านแล้วจาแนก ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ไม่ ส า ม า รถ อ่า นแ ล้ ว ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง ร ะ บุ จาแนกความแตกต่าง จาแนกความแตกต่าง จาแนกความแตกต่าง ใจความสาคัญเก่ียวกับ ร ะ บุ ใจ ค วา ม ส า คั ญ ร ะ บุ ใ จ ค ว า ม ส า คั ญ ระบุใจความสาคัญจาก ข้ อ มู ล จ า ก เ นื้ อ ห า ไ ด้ เ กี่ ย ว กับ ข้อ มู ล จ า ก เ กี่ ย ว กั บ ข้ อ มู ล จ า ก เน้ือหาทศ่ี กึ ษาได้ ถูกต้องครบถว้ นสมบรู ณ์ เนอ้ื หา ได้ถูกต้อง เน้ือหา สามารถอ่านแล้วจัดลาดับ ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ไม่ ส า ม า รถอ่า นแ ล้ ว รวบรวมตีความ ให้เหตุผล จั ด ล า ดั บ ร ว บ ร ว ม จั ด ล า ดั บ ร ว บ ร ว ม จั ด ล า ดั บ ร ว บ ร ว ม ป ร ะ ก อ บ แ ล ะ เ ขี ย น ตี ค ว า ม ใ ห้ เ ห ตุ ผ ล ตี ค ว า ม ใ ห้ เ ห ตุ ผ ล ตี ค ว า ม ใ ห้ เ ห ตุ ผ ล แผนภาพโครงเรื่องของ ประกอบ และเขียน ประกอบ และเขียน ป ร ะ ก อ บ แ ล ะ เ ขี ย น ข้ อ มู ล จ า ก เ น้ื อ ห า ไ ด้ แผนภาพโครงเรื่องของ แผนภาพโครงเร่ืองของ แผนภาพโครงเร่ืองจาก ถกู ตอ้ ง ครบถว้ นสมบรู ณ์ ข้อมูลจากเน้ือหาได้ ขอ้ มลู จากเนอื้ หาได้ ข้ อ มู ล จ า ก เ น้ื อ ห า ท่ี ถูกต้อง ศกึ ษาได้ สามารถอ่านแล้วเชื่อมโยง ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ไม่ ส า ม า รถ อ่า นแ ล้ ว สรปุ และนาเสนอเน้อื หาได้ เ ชื่ อ ม โ ย ง ส รุ ป แ ล ะ เ ชื่ อ ม โ ย ง ส รุ ป แ ล ะ เ ช่ื อ ม โ ย ง ส รุ ป แ ล ะ ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ น า เ ส น อ เ นื้ อ ห า ไ ด้ นาเสนอเน้ือหาได้ นาเสนอเนื้อหาจากท่ี พร้อมท้ังให้ข้อคิดเห็น ถู ก ต้ อ ง ค ร บ ถ้ ว น ศึกษาได้ ประกอบ สมบรู ณ์ หมำยเหตุครูผู้จดั กิจกรรมการเรียนรแู้ ละนกั เรยี นควรทีจ่ ะศึกษาเกณฑ์ดงั กลา่ วให้ละเอยี ดเพ่ือผลประโยชน์และเกดิ ความสัมฤทธ์ผิ ลดังจดุ ประสงค์ท่ีได้ตงั้ ไว้

มำตรฐำนและตัวชวี้ ัด ในแบบฝกึ ทักษะการอา่ นคิดวิเคราะห์ เรือ่ ง “ลิเกฮูลู” เล่มนีไ้ ด้วเิ คราะห์มาตรฐานและตัวชว้ี ดัรวมทั้งสังเคราะหเ์ ป็นจดุ ประสงคใ์ นการเรยี นรู้ โดยมีรายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้๑. มำตรฐำนและตวั ชี้วัดมำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตวั ช้วี ัดท ๑.๑ การใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละ ๑. อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถกู ตอ้ งความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน เหมาะสมกับเร่ืองท่ีอ่านการดาเนนิ ชวี ติ และมนี ิสยั รักการอ่าน ๒. จับใจความสาคญั จากเร่ืองท่อี า่ น ๓. ระบุเหตุและผล และข้อเท็จจรงิ กับข้อคิดเหน็ จาก เรื่องที่อา่ น ๕. ตีความคายากในเอกสารวชิ าการ โดยพจิ ารณาจากบรบิ ท ๘. วิเคราะห์คุณคา่ ทีไ่ ด้รับจากการอ่านงานเขียนอย่าง หลากหลายเพอื่ นาไปใชแ้ ก้ปญั หาในชวี ิต ๙. มีมารยาทในการอ่านท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอยา่ งมี ๑. พดู สรปุ ใจความสาคญั ของเรือ่ งที่ฟงั และดูวจิ ารณญาณและพดู แสดงความรู้ ความคิดและ ๒. เลา่ เร่อื งย่อจากเรื่องที่ฟงั และดูความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวิจารณญาณ ๕. พูดรายงานเรอ่ื งหรือประเด็นที่ศกึ ษาคน้ ควา้ จากการฟังและสรา้ งสรรค์ การดู และการสนทนา ๖. มมี ารยาทในการฟงั การดูและการพูดท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณ์ ๓. อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณค่า ๔. สรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอ่านไปประยุกตใ์ นชีวิตจริงและนามาประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จรงิ๒. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถอา่ นออกเสียงคาศพั ท์ในเร่ืองลเิ กฮูลูได้ถูกตอ้ ง ๒.๒ นกั เรยี นสามารถอา่ นแล้วระบุหัวขอ้ และใจความสาคญั ๒.๓ นักเรยี นสามารถอ่านแลว้ สรปุ เน้ือหาและอธบิ ายรายละเอียดจากเน้อื เรอ่ื งท่อี า่ นไดถ้ ูกต้อง ๒.๔ นักเรียนสามารถทาแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์เน้ือหาได้ถูกต้องผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๒.๕ นกั เรยี นสามารถนาเสนอและสรปุ ใจความสาคญั จากเน้ือเร่อื งท่ีอ่านได้ ๒.๖ นักเรยี นมีมารยาทในการอา่ น ฟัง การดูและการพูดโดยให้ความร่วมมือ เคารพสิทธิผู้อื่นพร้อมใหค้ วามช่วยเหลอื และร่วมมอื ในขณะทากิจกรรมการเรียนร้ทู ้งั ใหห้ ้องเรียนและนอกหอ้ งเรยี น

แบบทดสอบกำรอำ่ นคดิ วิเครำะห์ก่อนเรยี น: ลิเกฮลู ูคำชแี้ จง: ให้นักเรียนอา่ นคาถามในแต่ละข้อให้ละเอยี ดแลว้ เลือกข้อที่ถูกท่สี ดุ เพียง ๑ ข้อ ลงในกระดาษคาตอบ๑. โอกาสใดเหมาะสมที่จะมกี ารแสดงพนื้ เมือง “ลิเกฮลู ู” ก. งานมาแกปูโละ ข. พิธเี ข้าสุนัต ค. งานฮารีรายอ ง. ถกู ทงั้ สามข้อขา้ งต้น๒. การละเลน่ “ลเิ กฮูลู”เพื่อวัตถุประสงค์ใด ก. เพ่ือบวงสรวงเทพเจา้ ท่ีเคารพนบั ถือ ข. เพื่อให้ความรู้ และความบันเทิง ความสนุกสนาน ค. เพ่ือรบั แขกบ้านแขกเมือง ง. เพอ่ื แสดงความเคารพ ความกตัญญูตอ่ บรรพบรุ ุษ๓. ขอ้ ใดไมใ่ ชเ่ ครอ่ื งดนตรีในการละเลน่ “ลเิ กฮูลู” ก. รามะนา ข. ขล่ยุ ค. แตร ง. ฆอ้ ง๔. ข้อใดเป็นลักษณะเดน่ ของการละเล่น “ลิเกฮูลู” ก. มกี ารราเขา้ พระเขา้ นาง ข. ผูเ้ ลน่ เปน็ ชายล้วน ข้นึ บทเปน็ เพลงประกอบดนตรแี ละจังหวะตบมือ ค. มตี ้นกาเนิดจากทางภาคเหนือของไทย ง. เปน็ การแสดงที่ต้องอาศัยนักแสดงมากกว่าสามสบิ คน๕. “ลิเกฮูลู”เป็นการละเล่นพื้นบ้านท่ีมีสว่ นเก่ยี วข้องกบั ทางศาสนาอสิ ลามอย่างไร ก. เปน็ สว่ นหน่ึงของการทาละหมาด ข. เกยี่ วกับโชคลาง ขจดั ปัดเป่าสิง่ ชั่วร้าย ค. เสริมสรา้ งบารมี เสริมดวงและต่ออายใุ ห้มชี ีวติ ทย่ี ืนยาว ง. เป็นเพลงสวดสรรเสริญพระเจ้า

๖. เนื้อร้องในการละเล่น “ลเิ กฮูลู” จะเป็นเนื้อหาทเี่ กี่ยวกับเรื่องใดมากท่ีสุด ก. เหตุการณบ์ ้านเมอื ง ข. ปัญหาท้องถน่ิ ค. เรื่องตลกโปกฮา ง. เปน็ เน้อื หาในการละเลน่ ทุกขอ้ ทก่ี ลา่ วมา๗. การละเล่น “ลเิ กฮูลู” เป็นการละเลน่ พนื้ บ้านของภาคใด ก. ภาคใต้ ข. ภาคเหนอื ค. ภาคกลาง ง. ภาคอีสาน๘. ขอ้ ใดเป็นคาทม่ี ีความหมายเดียวกันกับคาวา่ “ฮลู ู” ก. การอา่ นทานองเสนาะ ข. ทิศเหนือ ค. ทศิ ใต้ ง. ตบมอื๙. เนอื้ เพลงในข้อใดไมน่ ิยมมารอ้ งในการละเลน่ พืน้ บา้ น “ฮลู ู” ก. เหตกุ ารณ์บา้ นเมือง ข. เกย้ี วพาราสีระหว่างหน่มุ สาว ค. การให้ความรู้ ง. เรอื่ งตลกโปกฮา หรอื เร่ืองในทอ้ งถน่ิ๑๐. ผทู้ ่ีมบี ทบาทสาคญั ของการละเลน่ “ลิเกฮลู ู” คือบุคคลในขอ้ ใด ก. คนให้จงั หวะ ข. นกั รอ้ ง ค. หัวหนา้ วง ง. ทุก ๆ คนในวง

กิจกรรมท่ี ๑ให้นกั เรยี นอา่ นเนือ้ หาทก่ี าหนดให้แล้วใหน้ ักเรียนอภิปรายกบั เพอ่ื นในห้อง แล้วเขยี นคาตอบลงในผงั มโนทศั น์ ท่ีกาหนดให้ตอนที่ ๑ ลเิ กฮลู ู หรอื ดเี กฮลู ู เป็นการละเลน่ พน้ื บ้านทางภาคใต้ มกี ารขึน้ บทเป็นเพลงประกอบดนตรีและจงั หวะตบมอื มีรากฐานเดมิ มาจากคาวา่ ลเิ ก คือการอ่านทานองเสนาะ และคาว่า ฮูลู ซึ่งหมายถึงทิศใต้ ซึ่งเม่ือรวมความแล้ว คือ การขับกลอนเป็นทานองเสนาะจากทิศใต้ บทกลอนที่ใช้ขับเรียกว่าปันตน หรอื ปาตง ในภาษามลายูถนิ่ ปัตตานี ผ้รู บู้ างทา่ นได้กลา่ วไว้วา่ ลเิ กฮูลู เกิดขึ้นเริ่มแรกท่ีอาเภอรามัน ซ่ึงไม่ทราบแน่นอนว่าผู้ริเริ่มนี้คือใคร ชาวปัตตานีเรียกคนในอาเภอรามันว่า คนฮูลู แต่ชาวมาเลเซียเรียกศิลปะชนิดนี้ว่า ดีเกปารัตซึ่ง ปารัต แปลว่า เหนือ จึงเป็นที่ยืนยันได้ว่า ลิเกฮูลู หรือ ดีเกปารัต นี้มาจากทางทิศเหนือของประเทศมาเลเซียและอยทู่ างตอนใตข้ องปตั ตานี จากการศึกษาของประพนธ์ เรืองณรงค์ ในหนังสือ \"บุหงาปัตตานี คติชนไทยมุสลิมชายแดนภาคใต้\" คาว่า ดิเก หรือลิเก ในพจนานุกรม Kamus Dewan พิมพ์โดยสมาคมภาษาและหนังสือประเทศมาเลเซียเรียก ลิเก เป็น ดิเกร์ เป็นศัพท์เปอร์เซีย มีสองความหมายคือ เพลงสวดสรรเสริญพระเจ้า ปกติเป็นการขับร้องเน่ืองในเทศกาลวันกาเนิดพระนะบี ชาวมุสลิมเรียกงานเมาลิด เรียกการสวดดังกล่าวนี้ว่า \"ดิเกเมาลิด\" และ การแสดงประเภทน้ีน่าจะมีขึ้นครั้งแรก ณ ท้องท่ีเหนือลาน้าอนั เป็นตน้ กาเนิดแมน่ า้ ปตั ตานี ซ่ึงชาวบ้านเรียกฮูลู หรือทิศฮูลู (ฝ่ายใต้ลาน้าเรียกฮิเล) ตรงทิศฮูลูเป็นแหล่งกาเนิดฮูลูน้ัน เข้าใจว่าคือท้องที่อาเภอมายอ จังหวัดปัตตานี และอาเภอบันนังสตา อาเภอเบตงจงั หวัดยะลา ประเดน็ คาอธบิ ายความหมายของลเิ กฮูลู ถิน่ กาเนิดลเิ กฮูลกู ับศาสนาอสิ ลาม ลเิ กฮลู กู ับความเชื่อ ~๑~

ตอนที่ ๒ลกั ษณะการแสดง ลิเกฮูลคู ณะหน่ึง ๆ จะมปี ระมาณ 10 คน เป็นชายลว้ น มตี น้ เสยี ง 1-3 คน ทเ่ี หลือจะเป็นลูกคู่เวทีลิเกฮูลู จะยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร เปิดโล่งไม่มีม่าน ไม่มีฉาก ลูกคู่ข้ึนไปนั่งล้อมวงร้องรับและตบมือโยกตัวให้เข้ากับจังหวะดนตรี ส่วนผู้ร้องหรือผู้โต้กลอนจะลุกขึ้นยืนข้าง ๆ วงลูกคู่ ถ้ากรณีมีการประชันกัน แต่ละคณะจะข้ึนนั่งบนเวทีด้วยกัน แต่ล้อมวงแยกกันพอสมควร การแสดงที่ผลัดกันร้องทลี ะรอบทง้ั รกุ และรบั เปน็ ทคี่ รึกครื้นสบอารมณ์ของผู้ชม ลิเกฮูลู เริ่มต้นด้วยการแสดงด้วยดนตรีที่ใช้โหมโรงเป็นการเรียกผู้ชม ต่อจากนั้นนักร้องออกมาร้องเพลงในจังหวะต่าง ๆ ทีละคน เนื้อร้องกล่าวถึงความประสงค์ในการเล่น แล้วจึงเร่ิมแสดงซ่ึงอาจจะเป็นเรื่องราวของเหตุการณ์บ้านเมือง ปัญหาท้องถิ่นหรือเรื่องตลกโปกฮา ผู้แสดงจะต้องใช้คารมและปฏิภาณ ใหท้ ัง้ ความรู้และความบนั เทิงแกผ่ ู้ชม ลักษณะการแสดง เนื้อหา๑. จานวนผูเ้ ล่น๒. เวที๓. การเล่นประชนั ~๒~

ตอนที่ ๓การแตง่ กาย การแตง่ กายของผู้เลน่ ดเิ กฮลู ู สมยั กอ่ นมักแตง่ ชุดอยา่ งชาวบ้านท่ัวไปคือ โพกหัว สวมเสื้อคอกลม นุ่งโสร่ง บางคร้ังเหน็บขวานไว้ข่มขวัญคู่ต่อสู้ ต่อมามีการแต่งกายแบบเล่นสิละ (ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตวั ของชาวใต้) คอื นอกจากจะนงุ่ กางเกงขายาวธรรมดาเหมือนแต่เดิม ก็นุ่งผ้าโสร่งซอเกต ลายสวยสดทับขา้ งนอกส้นั เหนือเขา่ เขา้ ไปอีกชั้นหนึ่ง พร้อมกับมีผ้าลือปักคาดสะเอว นอกนั้นก็สวมเสื้อคอกลมมีผ้าโพกศีรษะเหมือนเดิม ปัจจุบันนิยมแต่งกายแบบสมัยนิยม หรือไม่ก็ข้ึนอยู่กับการออกแบบของแต่ละคณะให้มีสสี ันสดใสสะดุดตาเคร่ืองดนตรีประกอบ การละเลน่ ลิเกฮลู ู ประกอบดว้ ยรามะนา อยา่ งน้อย ๒ ใบ ใชต้ ดี าเนนิ จังหวะในการแสดง ฆ้องเป็นเคร่อื งกากับจังหวะ ตสี ม่าเสมอประกอบการรอ้ ง นอกจากนีย้ งั มีเคร่ืองดนตรีที่ใช้ประกอบและเป็นที่นิยมกันว่า ทาให้ครึกครื้น สนุกสนานไพเราะมากย่ิงขึ้น เช่น ขลุ่ย ลูกแซก แต่จังหวะที่ใช้เป็นประเพณีในการละเลน่ คอื การตบมือโอกาสท่แี สดง ลิเกฮูลูนิยมแสดงในงานมาแกปูโละ พิธีเข้าสุนัต และงานฮารรี ายอ ~๓~

การแตง่ กายของลเิ กฮูลูมลี กั ษณะ .................................................................................อย่างไร ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. .................................................................................เครอ่ื งดนตรีประกอบมีอะไรบ้าง ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. .................................................................................มีการแสดงลิเกฮูลูในโอกาสใดบา้ ง ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ~๔~

กจิ กรรมที่ ๒ให้นักเรียนช่วยกันอภปิ รายและสรุปเกีย่ วกับการละเลน่ “ลิเกฮูล”ู ลงในผังมโนทัศน์ทก่ี าหนดให้วตั ถุประสงคข์ องการละเล่น อุปกรณ์และการแตง่ กาย .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. .................................................. ลกั ษณะเน้อื รอ้ ง ลกั ษณะการเล่นและโอกาส.................................................. .................................................................................................... .................................................................................................... .................................................................................................... .................................................................................................... .................................................................................................... .................................................. ~๕~

กจิ กรรมที่ ๓ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั อภิปรายประเด็นตา่ ง ๆ ในผงั มโนทัศน์แลว้ เขยี นข้อคดิ เห็นเหล่านน้ั ลงในผังมโนทศั น์ เม่ือนักเรียนอ่านเนือ้ หาเรื่อง “ลเิ กฮูล”ู แลว้ นกั เรียนคิดวา่ นกั เรียนจะตง้ั ชื่อการละเลน่ ลเิ กใหมใ่ นความคดิ ของนักเรยี น คือ ชื่อใดนักเรียนคิดว่าการละเล่น “ลิเกฮลู ”ู เหมอื นหรือคลา้ ยกบั การละเลน่ หรอื ประเพณีใด และสว่ นใดท่ี เหมือนหรือต่างชอ่ื ประเพณี/การละเลน่ ความเหมือน ความแตกตา่ งให้นกั เรยี นเลา่ เก่ยี วกับประสบการณ์ของประเพณีในท้องถนิ่ ทนี่ กั เรยี นชอบชอ่ื ประเพณี/การละเล่น สาเหตทุ ีช่ อบ วธิ กี ารเล่น/พธิ ีกรรม ~๖~

แบบทดสอบการอ่านคิดวเิ คราะห์หลังเรยี น : ลิเกฮลู ูคาชแ้ี จง: ให้นกั เรียนอา่ นคาถามในแตล่ ะข้อให้ละเอียดแลว้ เลอื กข้อท่ีถูกทีส่ ดุ เพียง ๑ ข้อ ลงในกระดาษคาตอบ๑. การละเลน่ “ลเิ กฮลู ู”เพื่อวัตถุประสงค์ใด ก. เพื่อบวงสรวงเทพเจ้าที่เคารพนบั ถือ ข. เพ่ือให้ความรู้ และความบันเทงิ ความสนุกสนาน ค. เพ่อื รบั แขกบา้ นแขกเมือง ง. เพ่ือแสดงความเคารพ ความกตัญญูต่อบรรพบุรษุ๒. ขอ้ ใดไม่ใช่เครื่องดนตรีในการละเล่น “ลเิ กฮูลู” ก. รามะนา ข. ขลุ่ย ค. แตร ง. ฆ้อง๓. โอกาสใดเหมาะสมท่จี ะมีการแสดงพนื้ เมือง “ลเิ กฮูลู” ก. งานมาแกปูโละ ข. พิธเี ข้าสุนัต ค. งานฮารรี ายอ ง. ถูกทัง้ สามข้อขา้ งต้น๔. เนื้อรอ้ งในการละเลน่ “ลเิ กฮูลู” จะเป็นเนือ้ หาทีเ่ กีย่ วกับเร่ืองใดมากทีส่ ดุ ก. เหตุการณบ์ ้านเมอื ง ข. ปัญหาทอ้ งถน่ิ ค. เรือ่ งตลกโปกฮา ง. เปน็ เนื้อหาในการละเลน่ ทุกข้อท่ีกล่าวมา๕. “ลิเกฮูลู”เปน็ การละเลน่ พื้นบ้านที่มีส่วนเก่ยี วข้องกับทางศาสนาอสิ ลามอย่างไร ก. เปน็ ส่วนหนงึ่ ของการทาละหมาด ข. เก่ียวกบั โชคลาง ขจัดปดั เป่าสิง่ ชัว่ รา้ ย ค. เสริมสรา้ งบารมี เสรมิ ดวงและตอ่ อายใุ ห้มีชีวิตท่ยี ืนยาว ง. เป็นเพลงสวดสรรเสรญิ พระเจ้า ~๗~

๖. ข้อใดเป็นลกั ษณะเดน่ ของการละเลน่ “ลเิ กฮูลู” ก. มกี ารราเข้าพระเขา้ นาง ข. ผู้เลน่ เป็นชายลว้ น ข้ึนบทเป็นเพลงประกอบดนตรีและจังหวะตบมือ ค. มตี ้นกาเนดิ จากทางภาคเหนือของไทย ง. เป็นการแสดงที่ต้องอาศัยนักแสดงมากกว่าสามสิบคน๗. เน้ือเพลงในข้อใดไม่นิยมมาร้องในการละเลน่ พนื้ บ้าน “ฮลู ู” ก. เหตุการณ์บา้ นเมือง ข. เก้ียวพาราสีระหวา่ งหน่มุ สาว ค. การให้ความรู้ ง. เร่อื งตลกโปกฮา หรอื เรื่องในทอ้ งถิน่๘. ผ้ทู ่ีมีบทบาทสาคญั ของการละเลน่ “ลเิ กฮูลู” คอื บุคคลในข้อใด ก. คนให้จังหวะ ข. นักรอ้ ง ค. หัวหน้าวง ง. ทกุ ๆ คนในวง๙. ข้อใดเป็นคาท่มี คี วามหมายเดียวกนั กับคาวา่ “ฮูลู” ก. การอา่ นทานองเสนาะ ข. ทศิ เหนือ ค. ทศิ ใต้ ง. ตบมือ๑๐. การละเลน่ “ลิเกฮลู ู” เปน็ การละเล่นพ้ืนบา้ นของภาคใด ก. ภาคใต้ ข. ภาคเหนือ ค. ภาคกลาง ง. ภาคอสี าน ~๘~

บรรณานกุ รมกระทรวงศึกษาธกิ าร. (๒๕๕๓). หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษา ปที ่ี ๑ : วิวธิ ภาษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว.กระทรวงศึกษาธกิ าร. (๒๕๕๓). หนังสอื เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ.์ พิมพ์คร้งั ท่ี ๒. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว.จุฬาลักษณ์ ดอกเขม็ . (๒๕๕๐). ผลสัมฤทธิ์และทักษะการอา่ นเชิงวเิ คราะห์ กลุ่มสาระการ เรยี นรูภ้ าษาไทยของนักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ดว้ ยรูปแบบการสอนแบบร่วมมอื กันเรยี นรู้ (เทคนิค STAD). วิทยานพิ นธป์ รญิ ญาศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต (ศษ.ม.) (หลักสูตรและการสอน). ขอนแก่น : บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลัยขอนแกน่ .ประพนธ์ เรืองณรงค์. (๒๕๔๐). บหุ งาปัตตานี คตชิ นไทยมุสลิมชายแดนภาคใต้. กรุงเทพฯ : มตชิ น.ปรางทอง แก้วหล่ายูง อิศเรศ พิพัฒน์มงคลพร และ สถาพร ขนั โต. (เมษายน – มถิ นุ ายน ๒๕๔๙). รายงานการวิจยั เร่อื ง การพฒั นากิจกรรมสง่ เสรมิ การอา่ นสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เพอื่ สร้างความเข้าใจและแรงจงู ใจในการอา่ นของนักเรยี น ช่วงชั้นท่ี ๓ (ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๒), วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ๒๖ (๒) : ๖๗ – ๗๖.ราชบัณฑติ ยสถาน. (๒๕๔๖). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน พุทธศกั ราช ๒๕๔๒. กรงุ เทพฯ : นานมีบุ๊คส์พับลิเคชัน่ ส์._______. (ม.ป.ป.). พจนานุกรมฉบบั บณั ฑติ ราชตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. (ออนไลน์). Source : http://rirs3.royin.go.th/dictionary.aspโรงเรยี นบา้ นโต. (๒๕๕๓). หลกั สตู รการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑). ยะลา : สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๓.สารยี ์ เจรญิ จิต และ คณะ. (มถิ นุ ายน ๒๕๔๖). “การสรา้ งแบบทดสอบวินิจฉัยการอ่านจับ ใจความสาหรับนกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ อาเภอปราสาท จงั หวัดสุรนิ ทร์”, วารสารวิจัย มข. (บศ.). ปีที่ ๓ (๑) : ๗๖ – ๘๓. แหลง่ ท่ีมา : http://kanchanapisek, or.th/oncc-cgi/text.cgi?no=3694 ~๙~

อภิธานศพั ท์คาที่ คาศัพท์ ความหมาย๑ ลเิ ก การแสดงชนดิ หนึ่งมาจากชาวมลายู เรยี ก ย่เี ก ก็มี๒ ฮูลู ทศิ ใต้๓ ปนั ตน หรอื ปาตง บทกลอนทใ่ี ช้ขับ๔ ปารตั เหนือ๕ ดเี ก ลิเก๖ เมาลดิ สถานทเ่ี กดิ ของท่านนบี๗ งานมาแกปูโละ ประเพณกี ารกนิ เหนียวของชาวไทย ท่ีนับถือศาสนาอสิ ลาม (งาน แตง่ งาน)๘ พธิ เี ขา้ สุนตั พิธกี ารขริบหนงั หุ้มปลายอวยั วะเพศชาย เปน็ คาทย่ี ืมจากภาษา มลายู ซนู ตั ซงึ่ มคี วามหมายเดยี วกัน ยมื มาจากภาษาอาหรับ ซุน นะหฺ แปลว่า แนวทางศาสนทูต๙ ฮารรี ายอ วนั ใหญ่ หรอื วันอีด เปน็ วันเฉลิมฉลองเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของ ชาวมสุ ลิม ~ ๑๐ ~

แนวทางในการตอบกจิ กรรมท่ี ๑ ตอนที่ ๑ ประเดน็ คาอธบิ ายความหมายของลเิ กฮูลู การละเล่นพนื้ บ้านทางภาคใต้ มีการข้ึนบทเปน็ เพลงประกอบดนตรี ถ่นิ กาเนิด และจงั หวะตบมือ หรอื การขบั กลอนเป็นทานองเสนาะจากทศิ ใต้ เร่มิ แรกท่ีอาเภอรามนั , ทางทิศเหนอื ของประเทศมาเลเซียและอยู่ลเิ กฮูลูกบั ศาสนาอิสลาม ทางตอนใต้ของปัตตานี ลเิ กฮลู ูกบั ความเชือ่ สวดสรรเสริญพระเจา้ ปกติเป็นการขับร้องเน่ืองในเทศกาลวันกาเนิด พระนะบี , เลน่ ในงานมาแกปูโละ พิธีเขา้ สุนตั และงานฮารีรายอ เป็นการสวดสรรเสรญิ พระเจ้าตอนท่ี ๒ เนือ้ หา เนอื้ ร้องกล่าวถึงความประสงคใ์ นการเลน่ ลักษณะการแสดง แลว้ จงึ เรม่ิ แสดง ซึ่งอาจจะเป็นเรอ่ื งราวของ๑. จานวนผู้เลน่ มปี ระมาณ ๑๐ คน เปน็ ชาย เหตุการณบ์ ้านเมอื ง ปญั หาท้องถ่ิน หรอื เร่ืองตลก โปกฮา ลว้ น มตี น้ เสยี ง ๑-๓ คน ทีเ่ หลือเป็นลกู คู่๒. เวที ยกพ้ืนสงู ประมาณ 1 เมตร เปดิ โล่งไมม่ มี า่ น ไม่มฉี าก๓. การเล่นประชนั แต่ละคณะจะขึน้ นั่งบน เวทดี ้วยกนั แตล่ อ้ มวงแยกกนั พอสมควร การแสดงทีผ่ ลัดกันร้องทีละรอบท้งั รุก และรับเปน็ ท่ีครึกคร้ืนสบอารมณ์ของผชู้ ม ~ ๑๑ ~

ตอนที่ ๓ สมัยกอ่ นมักแต่งชดุ อยา่ งชาวบ้านทว่ั ไป คือ โพกหัว สวมเสือ้ คอกลม นงุ่ โสร่ง บางครงั้ เหน็บขวานไว้ข่มขวญั คู่การแต่งกายของลเิ กฮลู ูมลี ักษณะ ตอ่ สู้ ตอ่ มามกี ารแตง่ กายแบบเลน่ สลิ ะ คอื นอกจากจะนุ่งอย่างไร กางเกงขายาวธรรมดาเหมือนแตเ่ ดิม กน็ งุ่ ผา้ โสร่งซอเกต ลายสวยสดทับข้างนอกสัน้ เหนือเข่าเขา้ ไปอีกชั้นหน่ึง พรอ้ มกบั มผี า้ ลือปักคาดสะเอว นอกนั้นกส็ วมเส้อื คอกลมมี ผ้าโพกศรี ษะเหมือนเดิม ปจั จุบันนิยมแตง่ กายแบบสมัยนิยม หรอื ไมก่ ็ขึ้นอยู่กบั การออกแบบของแตล่ ะคณะใหม้ ีสสี ันสดใสสะดุดตาเครอ่ื งดนตรปี ระกอบมีอะไรบา้ ง รามะนา อยา่ งน้อย ๒ ใบ ฆอ้ ง ขลยุ่ ลูกแซก และ การตบ มือมกี ารแสดงลเิ กฮูลใู นโอกาสใดบ้าง นิยมแสดงในงานมาแกปูโละ พิธีเข้าสุนตั และงานฮารรี ายอ ~ ๑๒ ~

กิจกรรมท่ี ๒ อปุ กรณ์และการแต่งกาย วัตถปุ ระสงคข์ องการละเล่น สมยั ก่อน ผา้ โพกหวั สวมเส้อื คอกลม นงุ่ โสร่ง มกี าร สวดสรรเสรญิ พระเจา้ งาน แตง่ กายแบบเล่นสลิ ะ นงุ่ ผ้า พิธตี า่ ง ๆ เกยี่ วกับศาสนา โสรง่ ซอเกตลายสวยสดทับข้าง อสิ ลาม เชน่ งานมาแกปูโละ พิธี นอกส้นั เหนือเข่าเขา้ ไปอีก เขา้ สุนตั และงานฮารีรายอ ชั้นหนึ่ง ลักษณะเนือ้ ร้อง ลักษณะการเลน่ และโอกาส แลว้ แต่จดุ ประสงค์ใน การเลน่ เป็นการเลน่ เปน็ เพลง การละเล่น สว่ นมากจะเปน็ ประกอบดนตรีและจงั หวะตบมือ ผู้ เน้ือหาเก่ียวกับเหตกุ ารณ์ เลน่ ชายลว้ น ประมาณ ๑๐ คน ตน้ บ้านเมอื ง เหตุการณ์ในท้องถิ่น เสียง ๑-๓ คน ทีเ่ หลือเปน็ ลูกคู่ เวที เปน็ ตน้ ยกสงู ประมาณ ๑ เมตร เปดิ โลง่ ไมม่ ี ม่าน ไม่มีฉาก ลกู คู่ข้นึ ไปนง่ั ล้อมวง รอ้ งรับและตบมือโยกตวั ให้เข้ากบั จงั หวะดนตรี ส่วนผ้รู อ้ งหรอื ผู้โต้ กลอนจะลุกขึ้นยื่นข้าง ๆ วงลูกค่กู รณี มีการประชันกนั แตล่ ะคณะจะขึ้นน่ัง บนเวทีดว้ ยกนั แต่ล้อมวงแยกกนั พอสมควร การแสดงท่ผี ลัดกันรอ้ งที ละรอบท้ังรกุ และรบั เป็นที่ครกึ คร้นื สบอารมณ์ของผู้ชม ~ ๑๓ ~

กจิ กรรมที่ ๓ ตามวิจารณญาณของครู โดยใช้เกณฑ์คุณภาพเก่ียวกับ “การระบปุ ญั หา” “การจาแนกแยกแยะ” “การเปรยี บเทียบ” และ “การเชอ่ื มโยง” ประเด็น เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนระบชุ ื่อเรื่องเปรยี บเทยี บ ๔๓๒๑เชื่อมโยง นักเรียนสามารถ นักเรยี นสามารถ นกั เรยี นสามารถ นกั เรียนต้ังชื่อ ตง้ั ช่ือเร่อื งท่ี ตง้ั ชอ่ื เรื่องที่ ตง้ั ช่ือเรอ่ื งที่ เร่ืองไมส่ อดคลอ้ ง สอดคลอ้ งกับ สอดคลอ้ งกบั สอดคลอ้ งกับ กบั เนือ้ หา เนอ้ื หาได้ครบถว้ น เน้อื หาได้ครบถว้ น เน้อื หาได้ สมบูรณ์ และให้ สมบูรณ์ เหตผุ ลประกอบ นกั เรียนสามารถ นักเรียนสามารถ นกั เรียนสามารถ นักเรียนไม่ บอกความเหมือน บอกความเหมือน บอกความเหมือน สามารถบอก และความต่าง และความต่างของ และความตา่ งของ ความเหมือนและ การละเล่นท่ี ประเพณี/ ประเพณี/ ความแตกตา่ งของ เหมือนหรอื คลา้ ย การละเล่นท่ี การละเล่นที่ การละเลน่ ที่ ไดถ้ ูกตอ้ ง เหมือนหรือคล้าย เหมอื นหรือคลา้ ย เหมือนหรอื คลา้ ย ครบถว้ น สมบรู ณ์ ได้ถูกต้อง ได้ ได้ ครบถ้วน นักเรียนสามารถ นักเรียนสามารถ นักเรียนสามารถ นักเรยี นไม่ เชือ่ มโยง เชอื่ มโยง เช่ือมโยง สามารถบอก ประสบการณ์ ประสบการณ์ ประสบการณ์ ประสบการณ์ ประเพณีใน ประเพณใี น ประเพณใี น เก่ยี วกับประเพณี ทอ้ งถน่ิ ที่ชอบได้ ทอ้ งถิ่นท่ชี อบได้ ท้องถน่ิ ทช่ี อบได้ ทช่ี น่ื ชอบได้ ถูกต้อง พร้อมให้ ถกู ต้อง เหตุผลประกอบ ~ ๑๔ ~

เฉลยแบบทดสอบวดั การอ่านคดิ วเิ คราะห์ ก่อนเรยี น หลงั เรยี นขอ้ ท่ี คาตอบ ขอ้ ท่ี คาตอบ ๑ง ๑ข ๒ข ๒ค ๓ค ๓ง ๔ข ๔ง ๕ง ๕ง ๖ง ๖ข ๗ก ๗ข ๘ค ๘ง ๙ข ๙ค ๑๐ ง ๑๐ ก~ ๑๕ ~

แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านคิดวเิ คราะห์ สาหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย เลม่ ที่ ๕ เรือ่ ง“ลิเกฮูล”ู โดย ไอหยุ หมัดชดู ชูเกี่ยวกบั ผแู้ ต่งชอ่ื นายไอหยุ หมัดชูดชูการศกึ ษา ศึกษาศาสตรมหาบัณฑติ (ศษ.ม.) การบรหิ ารการศึกษา ครุศาสตรบัณฑิต (คบ.) ภาษาไทยตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการสถานทที่ างาน โรงเรยี นบ้านโต ตาบลแมห่ วาด อาเภอธารโต จงั หวัดยะลา สงั กัดสานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๓ขอ้ มูลทางบรรณานกุ รมนายไอหยุ หมัดชดู ชู ๑. แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านคิดวเิ คราะห์ สาหรบั นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เลม่ ท่ี ๕ เรื่อง “ลิเกฮลู ู” (ชื่อเร่ือง) ๒.พิมพค์ ร้ังท่ี ๒ ปพี ทุ ธศักราช ๒๕๕๖พิมพ์ที่ โรงเรยี นบ้านโต ตาบลแมห่ วาด อาเภอธารโต จังหวัดยะลา สงั กัดสานกั งานเขตพื้นที่ การศกึ ษาประถมศึกษายะลา เขต ๓ภาพประกอบ โดย นายไอหยุ หมดั ชดู ชู ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ โรงเรียนบา้ นโต สังกดั สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๓ทปี่ รกึ ษา๑.นายประสทิ ธ์ิ จนิ ากุล ตาแหน่ง ผ้อู านวยการโรงเรียนบา้ นโต๒.นางอรวรรณ เรอื งหิรญั ตาแหนง ผูอ้ านวยการโรงเรียนบา้ นใหม่ (วันครู ๒๕๐๓)๓.นายวัชระ จันทรัตน์ ตาแหน่ง ศึกษานิเทศก์ สพป ยะลา.๓ ( วดั ผล )๔.นางสาวสุรางค์ ศุกรวรรณ ตาแหนง่ ครูชานาญการพิเศษ ( ภาษาไทย )๕.นางสุขศริ ิ ทกั ษะกวิน ตาแหนง ครชู านาญการพิเศษ ( ภาษาไทย ) ตดิ ตอ่ : โรงเรยี นบา้ นโต อาเภอธารโต จังหวัดยะลา ๙๕๑๗๐ Email : [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook