1 ไอหยุ หมัดชูดชูโรงเรยี นบ้านโต ตาบลแม่หวาด อาเภอธารโต จงั หวัดยะลา สานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษายะลา เขต ๓
คำนำ การพฒั นาความสามารถในการอา่ นและการคิดเป็นเป้าหมายทีส่ าคญั ของการศึกษา เนื่องจากการอ่านโดยไมใ่ ช้วิจารณญาณในการพินิจพิเคราะห์ (Critical) หรือไม่พิจารณาแยกแยะ (Analytical)ขอ้ เทจ็ จรงิ อาจทาใหก้ ารอา่ นนั้นรับขอ้ มลู หรอื สือ่ สารผิดวตั ถุประสงค์ แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาทักษะการอ่านและการคิดวิเคราะห์ให้กับนักเรียนโดยเฉพาะนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ท้ังน้ีเพ่ือที่จะเป็นพ้ืนฐานในการอ่านในระดับสูงไม่ว่าจะเป็นการอ่านเพื่อการคิดวิพากษ์ ( Critical Thinking )การคิดสังเคราะห์ (Synthesis Thinking) และการอ่านเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ (CreativeThinking) แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ได้นาเนื้อหาที่หลากหลายมาใช้เป็นเน้ือหาท่ียังเป็นปัญหาในการอ่านของนักเรียนในบทเรยี น ท้ังทเี่ ป็นประเด็นความสนใจตามเหตุการณ์ปัจจุบัน วัฒนธรรมและประเพณีในท้องถิ่นของนักเรียน และเน้ือหาท่ีมีการสอดแทรกแง่คิดในการใช้ชีวิตตามวัยของนักเรียนโดยแบง่ ออกเป็น ๘ เรอ่ื งด้วยกนั คือ ๑) โคลงโลกนิติ (เน้ือหาที่นกั เรยี นมีปญั หา) ๒) กาพยเ์ หช่ มเครอื่ งคาวหวาน (เน้อื หาท่ีนกั เรยี นมีปญั หา) ๓) ตากใบ (นิทานในท้องถนิ่ ) ๔) สขุ แสนลน้ ทุกขแ์ สนนาน (ใหแ้ ง่คิดและเตือนสติ) ๕) ลิเกฮูลู (ประเพณแี ละวฒั นธรรมในท้องถ่ิน) ๖) ภัยพบิ ัติโลกร้อน(ตระหนกั ถึงความสาคัญของเหตกุ ารณโ์ ลกปจั จบุ ัน) ๗) กฎแห่งกรรม(ให้แงค่ ิดและมุมมองในการปฏิบตั ิตนในชวี ติ ประจาวัน) ๘) พระอจั ฉริยะภาพทางดนตรี (บคุ คลสาคัญ) แบบฝึกการอ่านคิดวิเคราะห์อาจไม่นาเสนอเนื้อหาทั้งหมดโดยเฉพาะในส่วนของหลักภาษาต่าง ๆ เพราะมีในหนังสือเรียนและหนังสือต่างๆ ท่ีมีอยู่แล้ว เพียงแต่ได้ใช้แนวคิดต่าง ๆ มาช่วยให้นักเรียนไดเ้ กดิ ทักษะดังกลา่ ว ผ้จู ดั ทาขอขอบพระคุณสาหรบั ทกุ ๆ ทา่ น รวมทงั้ นักเรยี นท่ีมีส่วนให้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์เล่มนี้สาเร็จลง ส่ิงใดท่ีไม่เหมาะ ไม่ควรหรือแม้แต่ข้อติชม ผู้จัดทาขอน้อมรับด้วยความยินดี โดยฝากข้อความดังกล่าวผ่านมาที่ [email protected] ผู้จัดทาจักขอบพระคุณอย่างย่ิง ไอหยุ หมดั ชูดชู
แนวทำงในกำรใช้๑. แนวทำงของครู ๑.๑ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์นั้นครูควรทาความเข้าใจส่วนประกอบของแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทพี่ ัฒนาการอา่ นคิดวเิ คราะห์ใหเ้ ขา้ ใจ โดยมี ๖ ขน้ั ตอนดงั ต่อไปน้ีกาหนดสิ่งที่ กาหนดปญั หา กาหนดต้องวเิ คราะห์ หลกั การสรปุ และ ตรวจสอบ พจิ ารณานาเสนอ โครงสร้าง แยกแยะ ๑.๒ บทบาทของครูในการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์น้ันควรเป็นลักษณะเคร่ืองช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ (Scaffolding) เป็นสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้(Facilitator) และเปน็ ผู้เรียนรูร้ ว่ มไปกบั นักเรียน (Learner) ๑.๓ ครูต้องเข้าใจว่าน่ีไม่ใช่การเรียนหลักภาษา จุดเน้นอยู่ท่ีการอ่านและคิดวิเคราะห์ และการอ่านไม่ใช่อ่านออกเสียง แต่เป็นการอ่านจับใจความ สรุปความ และทาความเข้าใจเกี่ ยวกับบทความหรือเน้ือหา ๑.๔ ครตู อ้ งใหค้ วามยตุ ธิ รรมและความเป็นธรรมในการวัดและประเมินผลเพ่ือให้นักเรียนเกิดทศั นคติที่ดตี ่อการเรยี นรู้และควรใหบ้ รรยากาศเป็นไปอย่างผอ่ นคลาย
๒. แนวทำงของนักเรียน เพอื่ ทจี่ ะให้เกิดผลในการอ่านคดิ วิเคราะหน์ ้ัน มีแนวทางในการเรยี นรดู้ ังต่อไปน้ี ๒.๑ นักเรียนต้องทาความเข้าใจว่าน่ีไม่ใช่การอ่านสะกดคา แต่เป็นการอ่านเพ่ือทาความเข้าใจ โดยเน้นท่ีการทาความเข้าใจเน้ือหาหรือสารที่ต้องการส่ือ ดังน้ันถ้านักเรียนไม่สามารถอ่านคาใดคาหน่งึ ไดค้ วรท่ีจะขา้ มไปก่อนโดยไมต่ ้องกังวลและมาทาความเข้าใจภายหลัง โดยในแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะหจ์ ะมี “อภิธานศัพท”์ อยูด่ ้านหลังให้นักเรียนได้ศึกษา ๒.๒ นักเรียนสามารถศึกษาเนื้อหาได้เพ่ิมเติม ท้ังจากทางเว็บไซต์ (Web Site) หรือแหลง่ เรียนรู้อ่ืน ๆ โดยดไู ดจ้ ากบรรณานุกรม ๒.๓ ขณะที่นักเรียนอ่านไม่ควรเคร่งเครียด ควรผ่อนคลายและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับคาศัพท์หรอื หลักภาษามากนัก ๒.๔ นกั เรียนควรให้เกียรติและเคารพสิทธิของผู้อ่ืน โดยให้ความร่วมมือ ความช่วยเหลือและเอ้อื เฟ้อื ในขณะดาเนินกจิ กรรมในชั้นเรยี น ๒.๕ นักเรยี นสามารถใช้แบบฝึกทกั ษะการอ่านคิดวิเคราะห์ท้ังในและนอกเวลาเรียน โดยต้องระวังไม่ใหเ้ กิดความชารุดเสยี หาย ๒.๖ ถ้านักเรียนมีปัญหาและไม่สบายใจใด ๆ ในขณะดาเนินกิจกรรมให้นักเรียนบอกกับครูผู้จดั กิจกรรมการเรยี นรูไ้ ดท้ นั ที
๓. แนวทำงในกำรวัดและประเมินผลกำรอ่ำนคดิ วิเครำะห์ การวัดประเมินผลการอ่านคิดวิเคราะห์นั้นได้แยกออกเป็น ๔ ประเด็นด้วยกัน โดยใช้เกณฑ์การประเมินเชิงคุณลกั ษณะ (Rubrics) ซง่ึ มรี ายละเอียดดงั ต่อไปน้ีหวั ข้อในกำร เกณฑก์ ำรประเมินเชงิ คุณลกั ษณะประเมิน ๔ (ดีมำก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรบั ปรุง)การระบปุ ญั หา สาม ารถ อ่านแล้ว ระ บุ สามารถอ่านแล้วระบุ สามารถอ่านแล้วระบุ เมื่อนักเรียนอ่านเนื้อ ประเด็น/หัวข้อ/ชื่อเรื่องท่ี ประเด็น/หัวข้อ/ช่ือ ประเด็น/หัวข้อ/ชื่อ เรือ่ งแล้วไม่สามารถระบุ ส่ือถึงเน้ือหาหรือบทความ เรือ่ งทสี่ ่ือถงึ เน้ือหาหรือ เรอื่ งท่ีส่ือถึงเน้ือหาหรือ ประเด็น/หัวข้อ/ช่ือเรื่อง ท่ีได้ศึกษา ได้ครบถ้วน บทความท่ีได้ศึกษาได้ บทความทีไ่ ดศ้ กึ ษาได้ ที่ สื่ อ ถึ ง เ นื้ อ ห า ห รื อ สมบูรณ์ พร้อมให้เหตุผล ครบถ้วนสมบรู ณ์ บทความทศี่ ึกษาได้ ประกอบการแยกแยะ สามารถอ่านแล้วจาแนก ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ไม่ ส า ม า รถ อ่า นแ ล้ ว ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง ร ะ บุ จาแนกความแตกต่าง จาแนกความแตกต่าง จาแนกความแตกต่าง ใจความสาคัญเกี่ยวกับ ร ะ บุ ใจ ค วา ม ส า คั ญ ร ะ บุ ใ จ ค ว า ม ส า คั ญ ระบุใจความสาคัญจาก ข้ อ มู ล จ า ก เ นื้ อ ห า ไ ด้ เ กี่ ย ว กับ ข้อ มู ล จ า ก เ ก่ี ย ว กั บ ข้ อ มู ล จ า ก เน้ือหาที่ศกึ ษาได้ ถูกตอ้ งครบถว้ นสมบูรณ์ เน้ือหา ไดถ้ ูกตอ้ ง เน้อื หาการเปรยี บเทียบ สามารถอ่านแล้วจัดลาดับ ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ไม่ ส า ม า รถอ่า นแ ล้ ว รวบรวมตีความ ให้เหตุผล จั ด ล า ดั บ ร ว บ ร ว ม จั ด ล า ดั บ ร ว บ ร ว ม จั ด ล า ดั บ ร ว บ ร ว ม ป ร ะ ก อ บ แ ล ะ เ ขี ย น ตี ค ว า ม ใ ห้ เ ห ตุ ผ ล ตี ค ว า ม ใ ห้ เ ห ตุ ผ ล ตี ค ว า ม ใ ห้ เ ห ตุ ผ ล แผนภาพโครงเรื่องของ ประกอบ และเขียน ประกอบ และเขียน ป ร ะ ก อ บ แ ล ะ เ ขี ย น ข้ อ มู ล จ า ก เ น้ื อ ห า ไ ด้ แผนภาพโครงเร่ืองของ แผนภาพโครงเร่ืองของ แผนภาพโครงเรื่องจาก ถูกตอ้ ง ครบถว้ นสมบรู ณ์ ข้อมูลจากเน้ือหาได้ ข้อมูลจากเน้ือหาได้ ข้ อ มู ล จ า ก เ นื้ อ ห า ท่ี ถูกตอ้ ง ศึกษาได้การเชือ่ มโยง สามารถอ่านแล้วเชื่อมโยง ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ไม่ ส า ม า รถ อ่า นแ ล้ วสมั พันธ์ สรุปและนาเสนอเนือ้ หาได้ เ ชื่ อ ม โ ย ง ส รุ ป แ ล ะ เ ชื่ อ ม โ ย ง ส รุ ป แ ล ะ เ ชื่ อ ม โ ย ง ส รุ ป แ ล ะ ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ น า เ ส น อ เ น้ื อ ห า ไ ด้ นาเสนอเนอ้ื หาได้ นาเสนอเน้ือหาจากที่ พร้อมทั้งให้ข้อคิดเห็น ถู ก ต้ อ ง ค ร บ ถ้ ว น ศกึ ษาได้ ประกอบ สมบูรณ์ หมำยเหตุ ครผู ้จู ดั กิจกรรมการเรยี นร้แู ละนกั เรยี นควรท่จี ะศกึ ษาเกณฑ์ดงั กลา่ วใหล้ ะเอียดเพือ่ ผลประโยชน์และเกดิ ความสมั ฤทธิ์ผลดงั จดุ ประสงคท์ ่ีไดต้ ้ังไว้
มำตรฐำนและตวั ชวี้ ัด ในแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ เรื่อง “ภัยพิบัติโลกร้อน” เล่มน้ีได้วิเคราะห์มาตรฐานและตวั ชวี้ ดั รวมทงั้ สงั เคราะห์เป็นจุดประสงคใ์ นการเรียนรู้ โดยมีรายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี๑. มำตรฐำนและตวั ชี้วัดมำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ตัวช้วี ัดท ๑.๑ การใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และ ๑. อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องความคิดเพ่ือนาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการ เหมาะสมกบั เร่ืองท่ีอ่านดาเนินชวี ติ และมีนิสัยรักการอ่าน ๒. จับใจความสาคัญจากเรื่องทอี่ ่าน ๓. ระบุเหตแุ ละผล และข้อเทจ็ จรงิ กับข้อคิดเหน็ จาก เรื่องที่อ่าน ๕. ตีความคายากในเอกสารวชิ าการ โดยพิจารณาจากบรบิ ท ๘. วเิ คราะหค์ ุณคา่ ท่ีไดร้ บั จากการอา่ นงานเขียนอย่าง หลากหลายเพ่ือนาไปใชแ้ ก้ปญั หาในชีวิต ๙. มีมารยาทในการอา่ นท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมี ๑. พดู สรุปใจความสาคญั ของเร่อื งที่ฟงั และดูวจิ ารณญาณและพูดแสดงความรู้ ความคดิ และ ๒. เลา่ เรื่องยอ่ จากเรื่องที่ฟงั และดูความรู้สกึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณ ๕. พดู รายงานเรือ่ งหรือประเดน็ ที่ศึกษาค้นควา้ จากการฟงัและสร้างสรรค์ การดู และการสนทนา ๖. มมี ารยาทในการฟงั การดูและการพูดท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์ ๓. อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมทอ่ี ่านวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณคา่ ๔. สรปุ ความรู้และขอ้ คิดจากการอา่ นไปประยุกต์ในชีวติ จริงและนามาประยุกต์ใชใ้ นชีวติ จริง๒. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ ๒.๑นกั เรียนสามารถอ่านออกเสียงคาศัพท์ในเน้ือเรื่องภาวะโลกร้อนได้ถูกต้อง ๒.๒นกั เรียนสามารถอ่านแลว้ ระบหุ ัวขอ้ และใจความสาคัญ ๒.๓ นักเรียนสามารถอ่านแล้วสรุปเนอื้ หาและอธบิ ายรายละเอยี ดจากเน้ือเรอ่ื งท่ีอ่านได้ถูกตอ้ ง ๒.๔นกั เรียนสามารถทาแบบฝึกทักษะการอ่านคดิ วิเคราะห์เน้ือหาได้ถกู ต้องผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ ๘๐ ๒.๕ นักเรยี นสามารถนาเสนอและสรุปใจความสาคญั จากเนื้อเรื่องทีอ่ ่านได้ ๒.๖ นักเรียนมมี ารยาทในการอ่าน ฟัง การดแู ละการพดู โดยให้ความร่วมมือ เคารพสทิ ธผิ ู้อน่ืพร้อมให้ความช่วยเหลอื และร่วมมือในขณะทากิจกรรมการเรยี นร้ทู ้ังให้ห้องเรียนและนอกห้องเรียน
แบบทดสอบกำรอำ่ นคิดวเิ ครำะห์กอ่ นเรยี น: ภยั พิบตั ิโลกรอ้ นคำชี้แจง: ให้นกั เรียนอา่ นคาถามในแต่ละข้อให้ละเอียดแล้วเลอื กข้อท่ีถกู ท่ีสดุ เพียง ๑ ข้อ ลงในกระดาษคาตอบ๑. ข้อใดไมใ่ ชส่ าเหตุท่ีทาให้เกิดภาวะโลกรอ้ น ก. แยกประเภทของขยะมูลฝอย ข. บา้ นทุกหลงั ควรติดเครื่องปรบั อากาศ ค. ตดั ตน้ ไมใ้ หญ่ท่ไี ม่มีประโยชน์ทงิ้ ให้หมด ง. เผากระปอ๋ งสเปรย์ หลอดไฟ หลังจากหมดอายุการใชง้ าน๒. พฤตกิ รรมของสตั วใ์ ดที่ก่อให้เกิดภาวะโลกรอ้ นมากทีส่ ดุ ก. สตั ว์ใหญก่ ินสัตว์เล็ก ข. การเรอของววั ค. สตั วก์ ินหญ้าแล้วปลอ่ ยมูล ง. สัตว์ใหญ่บรโิ ภคนา้ ปริมาณมาก๓. ข้อใดท่ีไมจ่ ดั เป็นผลกระทบท่เี กดิ จากภาวะโลกร้อนต่อสภาพแวดล้อม ก. การเกิดอทุ กภัย ข. ยุงก่อตัวไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ค. แผน่ ดินไหวทีร่ นุ แรง ง. การคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซดจ์ ากพชื ในช่วงเวลากลางคนื๔.ขอ้ ใดไมใ่ ชห่ ลกั 3R ของการลดภาวะโลกรอ้ น ก. ลดการใช้ Reduce ข. การใช้ซ้า Reuse ค. การซ่อมแซม Repair ง. การนากลบั มาใชใ้ หม่ Recycle๕. วธิ กี ารใดทเ่ี ปรียบเสมือนว่าเราช่วยสรา้ งเครอ่ื งฟอกอากาศให้กับโลก ก. การติดเคร่ืองปรบั อากาศ ข. ช่วยกนั ปลูกตน้ ไม้ ค. ใช้รถยนต์ท่ีประหยัดพลังงาน ง. ใชน้ ้ากรองทส่ี ะอาดเทา่ นัน้
๖. ในฐานะท่เี ราเป็นนกั เรยี น มีวธิ ีการใดทจี่ ะช่วยลดภาวะโลกรอ้ นได้เหมาะสมทสี่ ุด ก. ปิดไฟทุกคร้ังหลังจากการใช้งาน ข. แยกประเภทของขยะให้คนทัง้ หมบู่ า้ น ค. ขัดขวางนายทนุ ทีท่ าการค้าขายต้นไม้ ง. ตดั ตน้ ไม้ใหญ่ไปใชป้ ระโยชนแ์ ล้วปลูกปา่ ทดแทน๗. ยานพาหนะปล่อยก๊าซใดแล้วส่งผลให้เกดิ ภาวะเรือนกระจก ก. ก๊าซมเี ทน ข. กา๊ ซออกซิเจน ค. ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ ง. กา๊ ซคาร์บอนมอนอกไซด์๘. การกระทาของบคุ คลใดที่สามารถลดภาวะโลกรอ้ นได้อยา่ งเหมาะสมที่สดุ ก. เสรเี ดินทางไปกรุงเทพโดยการโดยสารเคร่อื งบินเท่าน้นั เพอื่ ความรวดเรว็ ข. วชริ ะซอ้ื รถยนตใ์ หล้ กู ชายครบทั้งสามคนและบังคบั ใหล้ ูกเติมนา้ มัน E20 ค.มารเี ก็บฟนี ในปา่ มาไว้ใชก้ ่อไฟเพื่อหุงตม้ อาหาร ง. ภาคภมู ชิ ว่ ยพ่อเผาไรน่ าฆ่าเชอื้ โรคบนดนิ ทุกครงั้ หลังจากการเก็บเก่ียว๙. จากท่อี ณุ หภมู ิสูงขน้ึ ทาให้ภเู ขาน้าแข็งละลาย ภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาตทิ ตี่ ามมาคืออะไร ก. น้าท่วม ข. สนึ ามิ ค.ลมพายุหมนุ ง. ต้นไม้บนภเู ขาแห้งตาย๑๐. ในอนาคตถา้ หากว่าเราไม่ชว่ ยกันประหยดั พลังงาน จะก่อใหเ้ กิดผลเสียอย่างไร ก. ต้นไม้จะมมี ากข้ึนเนื่องจากไมม่ ีการกาจัดบางส่วนให้หมดไป ข. เครื่องใช้ไฟฟ้าในครวั เรือนจะมีน้อยลง เครอ่ื งอานวยความสะดวกจะน้อยลง ค. ภัยพิบัติทางธรรมชาตจิ ะเกิดข้ึน และทรัพยากรทางธรรมชาตจิ ะหมดไป ง. ผลติ ภัณฑ์สนิ คา้ ราคาแพง มนี ้อยลง ผลิตภณั ฑ์ราคาถูกมีเพม่ิ มากข้ึน
กจิ กรรมที่ ๑ใหน้ ักเรียนอา่ นเนอื้ หาทีก่ าหนดให้แลว้ ให้นกั เรยี นอภิปรายกบั เพอ่ื นในห้อง แล้วเขียนคาตอบลงในผงั มโนทศั น์ ทกี่ าหนดให้ตอนท่ี ๑ ภาวะโลกร้อน หมายถึง การเปลี่ยนแปลงของอากาศบนโลกจากการกระทาของมนุษย์ทาใหหอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศสูงขึ้น ทั้งบริเวณใหกลผิวโลกและน้าใหนมหาสมุทรใหนช่วง๑๐๐ปีท่ีผ่านมาอุณหภมู ิเฉลีย่ ของโลกสงู ขึ้นประมาณ ๐.๘ องศาเซลเซียสและคาดการณ์ว่าระหว่างปี ๒๐๐๑ - ๒๑๐๐อณุ หภูมิเฉล่ียของโลกจะสูงขนึ้ อีก ๑.๑ – ๖.๔ องศาเซลเซียส จากสภาวการณ์ดังกล่าวทาใหหเกิดภาวะท่ีเรียกว่า “ก๊าซเรือนกระจก” ซึ่งเกิดจากการทากิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ที่เป็นสาเหตุหลักท่ีทาใหหเกิดสภาวะโลกรอนไม่ว่าจะเป็นการเผาไหมเชื้อเพลิง การเผาป่า รวมถึงการใหชสารเคมีท่ีมีก๊าซเรือนกระจกเป็นส่วนประกอบ ก๊าซเรือนกระจกจะขึ้นไปสะสมอยบู่ นชน้ั บรรยากาศของโลก ทาใหหความรอนจากดวงอาทิตย์ไม่สามารถสะทอนออกไปนอกโลกได อุณหภมู ิของโลกจงึ สงู ข้ึนจากเดมิ คาถาม คาตอบ๑. ภาวะโลกรอนหมายถงึ๒. ประเด็นสาคญั ทเี่ นื้อหา ตองการจะส่ือ๓. กา๊ ชเรือนกระจกทาใหห เกดิ เหตกุ ารณ์ใหด๔. อะไรเปน็ สาเหตุทาใหห เกิดก๊าชเรอื นกระจก ~๑~
ตอนที่ ๒ สาเหตุที่ทาใหหเกิดภาวะโลกรอนก็เกิดจากเรื่องง่าย ๆ ท่ีเราอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อนตัวอย่างเช่น การไม่แยกขยะก่อนทิ้งเป็นสาเหตุหน่ึงท่ีทาใหหเกิดภาวะโลกรอน เพราะขยะที่เป็นอันตราย เช่น บรรจุภัณฑ์ กระป๋องสเปรย์ หลอดไฟ เป็นตน ลวนมีสารเคมีฉาบไว หากเราไม่นาขยะเหล่านี้ไปท้ิงโดยไม่แยกก่อนสารเคมีก็จะไหลลงสู่พ้ืนดิน หากเผาหรือฝังก็จะทาใหหเกิดก๊าซพิษลอยขึ้นไปใหนอากาศ การทาลายและเผาป่าหรือพ้ืนที่เกษตรเพื่อกาจัดวัชพืชและเตรียมพ้ืนที่สาหรับเพาะปลูกน้ันก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งท่ีทาใหหก๊าซเรือนกระจกเพิ่มมากข้ึนนอกจากน้ีการทาลายและเผาป่ายังเป็นการทาลายแหล่งผลิตก๊าซออกซิเจนท่ีสาคัญอีกดวย นอกจากน้ันยังมีก๊าซเรือนกระจกท่ีเกิดจากยานพาหนะ เช่น รถยนต์หรือเคร่ืองบิน ซ่ึงความตองการใหนการใหชยานพาหนะเพิ่มขึ้นนีเ้ องทาใหหอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงข้ึนรอยละ ๒ ตอ่ ปี และมแี นวโนมจะสงู ข้ึนเรือ่ ย ๆ อีกประเด็นท่ีเป็นสาเหตุที่น่าสนใหจแต่เราอาจจะไม่ค่อยไดสนใหจมากนัก ก็คือ อุตสาหกรรมการผลิตเน้ือวัวก็เป็นสาเหตุหน่ึงที่ทาใหหเกิดภาวะโลกรอนไดเช่นกัน สาเหตุที่เป็นเช่นน้ีเพราะว่าวัวเป็นสัตว์ที่ทาใหหเกิดก๊าซเรือนกระจกไดอย่างมหาศาล โดยวัว ๑ ลานตัวสามารถเรอเป็นก๊าซเรือนกระจกไดถึง ๒๒๐ ตันต่อวัน มูลของวัวประกอบดวยก๊าซมีเทนรอยละ ๕๕ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รอยละ ๓๐ ซ่ึงการผลิตเน้ือวัวทาใหหเกิดก๊าซเหล่าน้ีมากขึ้น ดังน้ันการลดการบริโภคเนอ้ื วัวจงึ เป็นวธิ หี น่งึ ท่ีชว่ ยลดภาวะโลกรอนสาเหตุของภาวะ .............................................................................. โลกร้อน .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. ~๒~
ตอนท่ี ๓ ส่วนผลกระทบจากโลกนั้นก็จะเกิดขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความแปรปรวนดินฟ้าอากาศ ภยั พบิ ัติทางธรรมชาติทร่ี นุ แรงมากขน้ึ เกิดโรคระบาดชนิดใหหม่ ๆ หรือโรคระบาดท่ีเคยหายไปกก็ ลบั มาเกิดใหหมอ่ กี คร้งั รวมท้ังพาหะนาโรคที่เพ่ิมจานวนขึน้ เปน็ ตน ภาวะโลกรอนยงั สง่ ผลตอ่ สภาพแวดลอมบรเิ วณขวั้ โลก โดยอณุ หภูมิท่ีสูงข้ึนทาใหหภูเขาน้าแข็งละลายลงอย่างรวดเร็ว น้าทะเลเพิ่มขึ้นและอาจทาใหหน้าท่วมไดทุกทวีป มียุงลายเพ่ิมมากข้ึนเพราะปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใหนน้าเพิ่มมากขึ้น ทาใหหลูกน้าใหนยุงลายฟักตัวไดเร็วข้ึน นอกจากน้ันยังมีภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น มีแผ่นดินไหวที่รุนแรงมากขึ้น น้าท่วม ความแหงแลงจากปรากฏการณ์ธรรมชาติเอลนีโญ เลนีญา ภัยจากสึนามิ พายุที่มีความรุนแรงและบ่อยขึ้น เกิดไฟป่าทาใหหสูญเสียพน้ื ที่ป่าเพม่ิ ขึน้ ผลกระทบทีเ่ กิดจากความแปรปรวนดนิ ฟ้าอากาศ ............................................................................................................ .......................................................................................................... .. ............................................................................................................ ผลกระทบของภาวะ โลกร้อน ผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมข้ัวโลก ............................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................................................................ ~๓~
ตอนท่ี ๔ จากปญั หาจากภาวะโลกรอนดังกล่าวทาใหหเราตองมาช่วยกันลดก๊าซเรือนกระจกและช่วยกันทากิจกรรมที่จะลดสภาวะดังกล่าว กิจกรรมที่ช่วยทาใหหลดภาวะดังกล่าว ก็อย่างเช่น การลดการใหชถุงพลาสตกิ การลดปรมิ าณการใหชเครอื่ งปรบั อากาศ การลดการใหชยานพาหนะ การใหชเคร่ืองไฟฟ้าหรือหลอดไฟท่ีประหยัดพลังงาน รวมท้ังการใหชหลัก 3R คือ การลดการใหช (Reduce) การใหชซ้า (Reuse) และการนากลับมาใหชใหหม่ (Recycle) แคน่ กี้ ็สามารถทาใหหเรานั้นช่วยลดภาวะโลกรอนไดอย่างง่าย ๆ แถมยังชว่ ยลดค่าใหชจ่ายที่ไมจ่ าเป็นอีกดวย การปลูกตนไมก็เป็นวิธีหน่ึงท่ีจะช่วยลดภาวะโลกรอนได อย่างที่เรารูกันดีว่าใหนเวลากลางวันตนไมน้ันจะช่วยหายใหจเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เขาไป และหายใหจออกมาเป็นก๊าซออกซิเจนเปรยี บเสมอื นเครือ่ งฟอกอากาศใหหกบั โลกของเราโดยแท แต่ทว่าปัจจุบันป่าไมถูกทาลายและมีจานวนลดลงไปอย่างมาก ฉะนั้นถาเราทุกคนช่วยกันปลูกตนไม ก็เหมือนกับช่วยเพิ่มเครื่องฟอกอากาศใหหกับโลกของเรา กจิ กรรมใดบ้างที่สามารถป้องกนั ภาวะโลกรอ้ น (ใหน้ กั เรียนเขียนเป็นข้อ ๆ) ~๔~
กิจกรรมท่ี ๒ให้นักเรียนสรปุ เนื้อหาทง้ั หมดเก่ียวกับเนอ้ื หาลงในผงั มโนทัศน์ ภาวะโลกรอ้ น คือ สาเหตทุ ท่ี าให้เกิดภาวะโลกร้อน ผลกระทบของภาวะโลกรอ้ น แนวทางปอ้ งกันหรือแกไ้ ข ~๕~
กิจกรรมท่ี ๓ ใหน้ กั เรยี นเขยี นวาดรูปเกี่ยวกับวิธีการท่จี ะชว่ ยลดภาวะโลกรอ้ นและเขียนบรรยายประกอบ ใต้รูปภาพส้นั ๆ พอเข้าใจ ~๖~
แบบทดสอบการอ่านคดิ วเิ คราะห์หลังเรียน : ภัยพิบัติโลกรอ้ นคาช้แี จง: ใหหนักเรียนอ่านคาถามใหนแตล่ ะขอใหหละเอียดแลวเลือกขอท่ีถูกทีส่ ุดเพียง ๑ ขอ ลงใหนกระดาษคาตอบ๑. วธิ ีการใหดทีเ่ ปรยี บเสมือนวา่ เราช่วยสรางเครอ่ื งฟอกอากาศใหหกับโลก ก. ชว่ ยกันปลูกตนไม ข. การตดิ เคร่ืองปรับอากาศ ค. ใหชรถยนตท์ ่ปี ระหยัดพลังงาน ง. ใหชนา้ กรองท่ีสะอาดเทา่ น้นั๒. พฤติกรรมของสัตว์ใหดท่ีก่อใหหเกดิ ภาวะโลกรอนมากที่สดุ ก. การเรอของวัว ข.สัตวใ์ หหญ่กินสัตว์เลก็ ค. สัตวก์ นิ หญาแลวปล่อยมลู ง. สตั ว์ใหหญ่บริโภคน้าปริมาณมาก๓. ใหนอนาคตถาหากวา่ เราไม่ช่วยกันประหยัดพลังงาน จะก่อใหหเกดิ ผลเสียใหด ก. ตนไมจะมมี ากขนึ้ เน่ืองจากไม่มีการกาจดั บางสว่ นใหหหมดไป ข. ภัยพิบัตทิ างธรรมชาตจิ ะเกิดขึ้น และทรัพยากรทางธรรมชาตจิ ะหมดไป ค. ผลติ ภัณฑ์สนิ คาราคาแพง มีนอยลง ผลิตภัณฑ์ราคาถูกมีเพมิ่ มากขึ้น ง. เครอ่ื งใหชไฟฟ้าใหนครัวเรือนจะมีนอยลง เครอื่ งอานวยความสะดวกจะนอยลง๔. ขอใหดที่ไมจ่ ดั เปน็ ผลกระทบทีเ่ กดิ จากภาวะโลกรอนต่อสภาพแวดลอม ก. การเกดิ อทุ กภัย ข. ยุงก่อตัวไดอย่างรวดเร็ว ค. การคายกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์จากพืชใหนช่วงเวลากลางคืน ง. แผ่นดนิ ไหวทร่ี ุนแรง๕. การกระทาของบุคคลใหดท่ีสามารถลดภาวะโลกรอนไดเหมาะสมที่สุด ก. เสรเี ดินทางไปกรุงเทพโดยการโดยสารเคร่ืองบนิ เท่านน้ั เพ่อื ความรวดเรว็ ข. วชิระซื้อรถยนต์ใหหลกู ชายครบทัง้ สามคนและบังคบั ใหหลูกเติมนา้ มัน E20 ค.ภาคภูมิชว่ ยพ่อเผาไรน่ าฆา่ เชือ้ โรคบนดินทกุ ครั้งหลงั จากการเก็บเก่ยี ว ง. มารีเกบ็ ฟนี ใหนป่ามาไวใหชก่อไฟเพ่ือหุงตมอาหาร ~๗~
๖.ขอใหดไมใ่ หช่หลัก 3R ของการลดภาวะโลกรอน ก. ลดการใหช Reduce ข. การซ่อมแซม Repair ค. การใหชซา้ Reuse ง. การนากลับมาใหชใหหม่ Recycle๗. ใหนฐานะท่เี ราเปน็ นกั เรียน มีวิธกี ารใหดท่ีจะชว่ ยลดภาวะโลกรอนไดเหมาะสมทีส่ ุด ก. ขัดขวางนายทนุ ทท่ี าการคาขายตนไม ข. แยกประเภทของขยะใหหคนทงั้ หมูบ่ าน ค. ปดิ ไฟทุกคร้งั หลงั จากการใหชงาน ง. ตดั ตนไมใหหญ่ไปใหชประโยชน์แลวปลกู ปา่ ทดแทน๘. ขอใหดไม่ใหชส่ าเหตทุ ท่ี าใหหเกิดภาวะโลกรอน ก. บานทกุ หลงั ควรติดเครอื่ งปรับอากาศ ข. แยกประเภทของขยะมลู ฝอย ค. ตัดตนไมใหหญ่ที่ไมม่ ีประโยชนท์ ิง้ ใหหหมด ง. เผากระป๋องสเปรย์ หลอดไฟ หลงั จากหมดอายุการใหชงาน๙. ยานพาหนะปล่อยก๊าซใหดแลวส่งผลใหหเกดิ ภาวะเรือนกระจก ก. ก๊าซมีเทน ข. ก๊าซออกซิเจน ค. กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ ง. ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์๑๐. จากทอ่ี ุณหภูมสิ ูงข้ึนทาใหหภูเขาน้าแขง็ ละลาย ภยั พิบัติทางธรรมชาติทีต่ ามมาคืออะไร ก.ลมพายหุ มุน ข. สนึ ามิ ค.นา้ ท่วม ง. ตนไมบนภเู ขาแหงตาย ~๘~
บรรณานุกรมกระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (๒๕๕๓). หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษา ปีที่ ๑ : วิวธิ ภาษา. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพราว.กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๕๓). หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิจกั ษ.์ พมิ พ์ครง้ั ที่ ๒. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพราว.จุฬาลักษณ์ ดอกเข็ม. (๒๕๕๐). ผลสัมฤทธแิ์ ละทกั ษะการอา่ นเชิงวเิ คราะห์ กลุ่มสาระ การเรยี นรูภ้ าษาไทยของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ด้วยรปู แบบการสอนแบบรว่ มมือ กนั เรยี นรู้ (เทคนิค STAD). วิทยานพิ นธ์ปรญิ ญาศึกษาศาสตรมหาบณั ฑติ (ศษ.ม.) (หลักสูตรและการสอน). ขอนแกน่ : บัณฑิตวิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ .บ๊คุ เวฟ. (ม.ป.ป). ภัยพิบัตภิ าวะโลกรอ้ น. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพบ์ ุค๊ เวฟ.)ปรางทอง แกวหลา่ ยงู อิศเรศ พพิ ฒั น์มงคลพร และ สถาพร ขนั โต. (เมษายน – มิถนุ ายน ๒๕๔๙). รายงานการวิจยั เร่อื ง การพฒั นากิจกรรมสง่ เสริมการอ่านสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เพอื่ สรา้ งความเข้าใจและแรงจูงใจในการอ่านของนักเรยี น ช่วงชัน้ ที่ ๓(ชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒), วารสารศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น. ๒๖ (๒) : ๖๗ – ๗๖.ราชบณั ฑติ ยสถาน. (๒๕๔๖). พจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พุทธศกั ราช ๒๕๔๒. กรงุ เทพฯ : นานมบี ุ๊คส์พบั ลิเคชนั่ ส์.______. (ม.ป.ป.). พจนานกุ รมฉบับบณั ฑติ ราชตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. (ออนไลน์). Source : http://rirs3.royin.go.th/dictionary.aspโรงเรียนบานโต. (๒๕๕๓). หลักสตู รการศกึ ษาขัน้ พื้นฐานกล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑). ยะลา : สานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษายะลา เขต ๓.สารยี ์ เจรญิ จติ และ คณะ. (มถิ นุ ายน ๒๕๔๖). “การสร้างแบบทดสอบวนิ จิ ฉัยการอ่านจับ ใจความสาหรับนกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔อาเภอปราสาท จังหวดั สรุ นิ ทร์”, วารสารวิจัย มข. (บศ.). ปีที่ ๓ (๑) : ๗๖ – ๘๓.วกิ ีพีเดีย. (ม.ป.ป.). เอลนโี ย-ความผันแปรของระบบอากาศในซีกโลกใต้. คนเม่ือ : ๑๘/ ๐๓/๒๕๕๕. แหล่งขอมูล : http://www.th.wikipedia.org/wiki/เอลนโี ญ._______. (ม.ป.ป.).คล่นื สนึ ามิ. คนเม่อื : ๑๘/๐๓/๒๕๕๕. แหลง่ ขอมูล : http://www.th.wikipedia.org/wiki/สึนาม.ิ_______. (ม.ป.ป.). ลานญี า. คนเม่ือ : ๑๘/๐๓/๒๕๕๕. แหล่งขอมูล : http://www.th.wikipedia.org/wiki/ลานีญา.GeentheEarth.(๒๐๐๑). ภาวะโลกรอ้ น: Global Warning. (ออนไลน์). คนเม่อื : ๑๘/ ๐๓/๒๕๕๕. แหลง่ ขอมลู : http://www.greentheearth.info. ~๙~
อภิธานศัพท์คาท่ี คาศัพท์ ความหมาย ๑ ก๊าซเรอื นกระจก ไดแก่ ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซค์ มเี ทน และไนทรสั ออกไซค์ ซ่งึ จะ ๒ วัชพชื ดูดกลืนรังสคี วามรอนใหนกลางวันและแผร่ ังสคี วามรอนออกมาตอน ๓ พาหะ กลางคืน ๔ เอลนีโญ พชื ทีไ่ ม่ตองการ ๕ สนึ ามิ ๖ ลานีญา/เลนีญา ตัวนา เช่น ยงุ กนปล่องเปน็ พาหะไขมาลาเรยี ความผันแปรของระบบอากาศใหนซีกโลกใหต คลน่ื ท่าเรอื หรือคลื่นชายฝั่ง ปรากฏการณบ์ รรยากาศมหาสมุทรคู่กนั ซ่ึงเกิดขน้ึ คู่กับเอลนโี ญอัน เปน็ ส่วนหน่ึงของเอลนิโญ ~ ๑๐ ~
แนวทางในการตอบกิจกรรมที่ ๑ แนวคาตอบ ๑. ตอนท่ี ๑ การเปลย่ี นแปลงอากาศบนโลกทมี่ อี ุณหภมู ิสูงข้ึน ภาวะโลกรอนเกดิ จากภาวะอณุ หภมู สิ งู ขึ้น เนื่องจากการกระทาของมนุษย์ คาถาม เปน็ สาเหตุหลกั การกระทาตา่ ง ๆ ของมนุษย์๑.ภาวะโลกรอนหมายถึง การเผาไหม เผาป่า การใหชสารเคมี๒. ประเด็นสาคัญทเ่ี น้อื หาตองการ จะสื่อ๓. กา๊ ซเรือนกระจกทาใหหเกิด เหตุการณใ์ หด๔. อะไรเปน็ สาเหตทุ าใหหเกดิ ก๊าซ เรือนกระจา ๒. ตอนท่ี ๒ แนวคาตอบ คาถาม ๑.การไมแ่ ยกขยะก่อนท้งิสาเหตขุ องการเกดิ ภาวะโลกรอน ๒. การทาลายและเผาป่า ๓. การเผาไมจากยานพาหนะ ๔. การผลติ เนือ้ วัว ๓. ตอนท่ี ๓ แนวคาตอบ คาถาม เกิดภัยพบิ ัติทางธรรมชาติผลหระทบทีเ่ กิดจากความแปรปรวน เกิดโรคระบาดชนดิ ใหหม่ ๆดนิ ฟ้าอากาศ มพี าหะนาโรคเพ่มิ มากข้ึน อณุ หภมู สิ ูงทาใหหนา้ แข็งละลายผลกระทบตอ่ สภาพแวดลอมขัน้ โลก มยี งุ ลายเพ่มิ มากขึน้ มีภยั พิบตั ิต่าง ๆ เช่น ไฟป่า ๔. ตอนที่ ๔ แนวคาตอบ คาถาม ลดใหชถุงพลาสติก ลดการใหชเครือ่ งปรบั อากาศกิจกรรมใหดบางท่สี ามารถป้องกนั ลดการใหชรถยนต์ภาวะโลกรอน ใหชไฟฟา้ ประหยดั พลงั งาน ใหช 3R ปลกู ตนไม ~ ๑๑ ~
กิจกรรมที่ ๒ สรปุ จากกจิ กรรมท่ี ๑กิจกรรมที่ ๓ ๔ ๓ ๒ ๑นกั เรยี นวาดภาพ นกั เรียนวาดภาพ นกั เรียนวาดภาพ นักเรยี นวาดภาพไม่สอดคลองกบั ขอความ สอดคลองกับขอความ สอดคลองกับขอความ สอดคลองกับขอความทบี่ รรยายเก่ียวกบั ท่ีบรรยายเกย่ี วกับ ทีบ่ รรยายเกี่ยวกบั ที่บรรยายวธิ ีการลดโลกรอนได วิธกี ารลดโลกรอนได วิธกี ารลดโลกรอนไดถกู ตอง สวยงาม ถูกตองสมบรู ณ์ ครบถวน แบบทดสอบวดั การอ่านคิดวเิ คราะห์ ก่อนเรียน หลังเรยี น ขอ้ ท่ี คาตอบ ขอ้ ที่ คาตอบ ๑ก ๑ข ๒ข ๒ข ๓ง ๓ค ๔ค ๔ง ๕ข ๕ค ๖ก ๖ค ๗ง ๗ก ๘ค ๘ก ๙ก ๙ง ๑๐ ค ๑๐ ก ~ ๑๒ ~
แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นคดิ วเิ คราะห์ สาหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เลม่ ท่ี ๖ เร่อื ง“ภัยพบิ ัติโลกร้อน” โดย ไอหยุ หมดั ชูดชูเกี่ยวกับผ้แู ต่งช่ือ นายไอหยุ หมดั ชูดชูการศึกษา ศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑติ (ศษ.ม.) การบรหิ ารการศกึ ษา ครุศาสตรบัณฑติ (คบ.) ภาษาไทยตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการสถานทีท่ างาน โรงเรียนบา้ นโต ตาบลแม่หวาด อาเภอธารโต จังหวัดยะลา สังกดั สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๓ข้อมูลทางบรรณานกุ รมนายไอหยุ หมดั ชดู ชู ๑. แบบฝึกทักษะการอา่ นคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เล่มที่ ๖ เร่อื ง “ภัยพบิ ัตโิ ลกร้อน” (ชื่อเรอื่ ง) ๒.พิมพค์ รั้งที่ ๒ ปีพทุ ธศักราช ๒๕๕๖พิมพ์ที่ โรงเรียนบา้ นโต ตาบลแมห่ วาด อาเภอธารโต จงั หวดั ยะลา สังกัดสานกั งานเขตพื้นท่ี การศกึ ษาประถมศกึ ษายะลา เขต ๓ภาพประกอบ โดย นายไอหยุ หมดั ชูดชู ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ โรงเรียนบ้านโต สังกัดสานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๓ทีป่ รึกษา๑.นายประสิทธ์ิ จนิ ากลุ ตาแหนง่ ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านโต๒.นางอรวรรณ เรอื งหิรญั ตาแหนง ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านใหม่ (วันครู ๒๕๐๓)๓.นายวชั ระ จันทรัตน์ ตาแหนง่ ศึกษานิเทศก์ สพป ยะลา.๓ ( วดั ผล )๔.นางสาวสรุ างค์ ศุกรวรรณ ตาแหน่ง ครชู านาญการพิเศษ ( ภาษาไทย )๕.นางสขุ ศริ ิ ทกั ษะกวิน ตาแหนง ครชู านาญการพิเศษ ( ภาษาไทย ) ตดิ ตอ่ : โรงเรยี นบา้ นโต อาเภอธารโต จงั หวัดยะลา ๙๕๑๗๐ Email : [email protected]
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: