ถกู ตวั หนอนซ่งึ ซอ่ นอยู่ในดนิ ีแลอาจแทรกนาํ้ ลงไปถกู ปลาในทอ้ งมหาสมทุ ร ฉนั ใดเลา่ มนษุ ย์ จะหนพ้นได ้ี ในเยน็ วนั ทจ่ ะประหารชวติ นกั โทษน้ัน เผอิญเกดิ ไฟไหม้ขึน้ ในบ้านเศรษฐภาคท่ เปน็ ทอ่ ยแู่ ห่งหญิง หญงิ ทั้งหลายรวมท้งั นางโศภนกต็ อ้ งหนออกจากหอ้ งทอ่ ยู่ภาคในบ้าน มา พักอยทู่ ห่ อ้ งรมิ ถนนีแลในถนนมคนแนน่ ไปทัง้ นน้ั เสยงคนแจจันพดู กันไปตามทางในพระนคร มคาํ กล่าวบอกกันวา่ โนน่ แน่โจรซง่ึ ไดล้ อบลกั ปล้นสะดมคนทัง้ หลายในพระนคร โจรจงสะทก สะทา้ นลาญใจเถิดีพระราชามรับสง่ั จะให้ประหารชวิตอยู่แลว้ ในเชิงรปู งามก็ดีมทรงโอ่อา่ กด็ ี มกาํ ลังความกล้ากด็ จะหาใครในกรงุ จนั ทรอ์ ทุ ยั ยง่ิ นายโจรไปน้ันหาไมไ่ ด้ เม่อื นายโจรไดแ้ ต่งกายดว้ ยเคร่ืองแต่งงดงามดงั นนั้ แมก้ ระบวนแห่เป็นเคร่ือง อจุ าดกจ็ ริง แต่นายโจรก็ยงั มทรวดทรงอาการประหนึง่ พระราชบุตรขอ่ ฐู ไปดว้ ยท่าทางงดงาม ผิวหนา้ มิไดเ้ สยีแลดว้ ยความไว้ตวั ีจะได้ยนิ คําเยาะเยย้ ของประชาราษฎร์กแ็ ทบไม่ไดย้ ิน แม้ ชาวพระนครทั้งหมดจะพากนั แตกตืน่ กระสับกระส่าย แลคล่งั เพราะจบั โจรไดจ้ ะประหารชวติ ี นายโจรมกิริยาเพิกเฉย มไิ ดพ้ ลอยกระสับกระส่ายไปด้วย แตค่ รนั้ เมอ่ื ได้ยินคนกลา่ วให้สะทก สะท้านริมฝปี ากโจรกข็ ยับ ตามแสงเหมือนแสงไฟด้วยความโกรธีหวา่ งคิ้วก็มุ่น ขณะนัน้ นางโศภนรอ้ งกรดขึ้นท่หนา้ ตา่ งท่แอบดูอยู่ นายโจรผา่ นหน้าตา่ งไปหน้า เสมอกับหน้านางีแลอย่หู ่างกับแกม้ อันซดไมก่ ค่ ืบ นางไดเ้ หน็ ลกั ษณะงามของนายโจรีแล ในขณะท่นายโจรแสดงเคา้ หน้าโกรธน้ัน นางรู้สึกสะดงุ้ เหมอื นหนึ่งรสู้ กึ ถูกสายฟูาีในทันใดนนั้ นางโศภนก็ว่งิ ไปหาบิดา บอกว่า \"บดิ าจงรบไปโดยเร็วแลขอโทษใหพ้ ระราชาปล่อยโจรนัน้ เถดิ \" เศรษฐบดิ าตกใจเพราะคําท่บุตรกลา่ วีตอบวา่ \"โจรคนนน้ั ได้เปน็ หวั หน้าทาํ การขโมยทุกประเภททัว่ พระนคร แลบดั น้ทหารศร ของพระราชามชยั จบั ตัวมาไดก้ โ็ ปรดให้ลงอาญาตามควรแกโ่ ทษ พอ่ เปน็ อะไรจะเขา้ ไปทูล ขอให้ทรงปลอ่ ยโจรน้ได้\" นางโศภนแสดงอาการทกุ ขี์ ซ่ึงดูประหนึง่ จะทําให้คลง่ั ไคลี้ ตอบบิดาวา่ \"ถา้ บิดาจะทูลขอโทษใหพ้ ระราชาปลอ่ ยโจรนั้นได้ดว้ ยยอมถวายสมบัตทิ ง้ั หลายี ของเรา บิดาจงสละทรพั ย์ท้ังหมดถวายเสยเถิดีถ้าข้าพเจา้ ไม่ไดน้ ายโจรนัน้ มา ขา้ พเจา้ จําตอ้ ง สละชวิต\" นางกล่าวแก่บดิ าฉะนแ้ ลว้ ก็ชกั ผา้ คลมุ ศรษะรอ้ งไห้ลัน่ ไปทง้ั ตัวราวกับหวั ใจจะ แตกลงไปกบั ท่ ฝาุ ยเศรษฐผูบ้ ดิ าเมอื่ ไดเ้ ห็นลกู สาวมอาการดังนน้ั แลรู้ใจวา่ ถา้ ไม่สมประสงค์ นาง กจ็ ะสละชวิตลงไปจริงดังกลา่ วแลท้ังทราบวา่ ตวั เศรษฐเอง เม่ือส้นิ บตุ รแล้วกจ็ ะทนรักษาชวิต ต่อไปไมไ่ ดเ้ พราะเหตคุ วามโศกเดอื ดรอ้ น ดว้ ยประการฉะนี้ เศรษฐจงึ รบเข้าเฝูาพระราชาทลู ด้วยสําเนยงอันสัน่ เพราะเศรา้ ว่า \"ข้าแตพ่ ระราชาผปู้ ระเสรฐิ ขา้ พเจา้ ขอถวายทรพั ยเ์ ป็นเงินตราส่แสน แลขอ ประทานโทษนายโจรใหห้ ลดุ พ้นพระราชอาชญาเสยเถิด\" พระราชาแปลกพระหฤทัยีทรงคิดวา่ คนบ้าหลดุ เขา้ ไปในพระราชวงั ทรงตริตรอง วา่ จะลงพระราชอาชญานายประตีู ด้วยวิธตดั ศรษะเสยบหรือผ่าอก หรือจะทาํ อย่างไหนดียงั ไม่ ทนั ตกลงในพระราชหฤทัยีแตค่ รน้ั ทรงสังเกตกริ ยิ าอาการต่อไป กไ็ ม่ทรงเหน็ ไดว้ ่าเศรษฐเป็น บา้ ีคร้ันทลู วิงวอนอกีก็รับสง่ั ตอบวา่ \"โจรคนน้ ไดท้ ําการปล้นสะดมย่องเบาฉกชิงวงิ่ ราวทุกประเภทโจรกรรมีแลได้ทํา ทั่วพระนคร ผู้มทรัพย์ได้รับทกุ ข์เพราะโจรนท้ ว่ั หน้า อน่ึงโจรนไ้ ดท้ ํารา้ ยทหารของเราจนย่อย ยบั ีการท่จะขอใหป้ ล่อยไปให้พ้นโทษน้นั ปลอ่ ยมิไดเ้ ป็นอนั ขาด\" เศรษฐไดฟ้ ๎งรับสง่ั ดงั นน้ั ควรจะเห็นได้แล้วว่าจะทลู ขอตอ่ ไปกไ็ ม่มประโยชนแ์ ตย่ ัง
ไม่หยดุ รําพันวิงวอนทง้ั นาํ้ ตา ด้วยทรัพย์สินบนดว้ ยเรอื่ งลกู สาวจะสละชวติ แลดว้ ยขอ้ ทต่ วั เอง จะตอ้ งตายไปตามกนั แต่ก็ไมม่ ประโยชน์ท้ังนั้น คร้นั เห็นได้แน่ว่าถึงจะอยา่ งไรีพระราชาก็ไม่ โปรด เศรษฐจงึ ออกจากท่เฝาู รา่ํ ไหไ้ ปสเู่ รอื นของตนีเล่าความใหบ้ ุตรฟ๎งว่า \"ลูกเอ๋ยีพอ่ ได้พยายามทุกลู่ทางแล้ว พระราชาก็ไม่โปรดตามท่เราประสงค์ีมาเรา จงตายไปดว้ ยกนั เถดิ \" ฝุายเจา้ พนักงานผู้คุมเมอ่ื ได้พานายโจรตระเวนรอบกรุงแลว้ กพ็ าไปนอกประตูพระ นครีแล้วจดั การลงโทษตามพระราชกาํ หนดีนายโจรทนเจ็บปวดดว้ ยความมั่นคง ในใจ ปราศจากอาการแสดงทกุ ข์ีแตเ่ ม่ือมผู้เล่าใหฟ้ ง๎ ถงึ นางโศภน นายโจรอดใจไว้ไมไ่ ดก้ ็ร้องไห้ขึน้ ด้วยเสยงอันดัง แสดงความเศร้าสงสารประหนึง่ หัวใจจะแตกออกไป อกคร่หู น่ึงกห็ ยุดรอ้ งไห้ กลบั หวั เราะด้วยสาํ เนยงอนั ดัง ประหน่งึ อยู่ในทร่ น่ื เรงิ ดว้ ยการเล้ยง คนทั้งหลายท่ประชมุ ดูการ ประหารชวิตอยนู่ น้ั พากนั แปลกใจทน่ ายโจรหัวเราะเหมอื นหนง่ึ เห็นอะไรสนกุ แลเมื่อหวั เราะใน เวลาท่เหล็กแหลมกาํ ลังแทงเข้าไปในเนอื้ จนคนดพู ากันเสยวไส้เช่นนั้น ใครเลยจะเหน็ เหตทุ ่ ควรรนื่ รมย์ ฝุายนางโศภนผ้ไู ดม้ ค่แู ลว้ โดยใจนึก ครน้ั นายโจรผ้สู ามโดยวิวาหะอันมิได้กระทาํ นน้ั ส้ินชวติ ไปแลว้ นางก็กลา่ วแกต่ วั เองตามคตโิ บราณีซ่งึ กวแต่งไวด้ ังน้ O ผมขนคนในกายีมประมาณหมายประมวลเป็น สามสิบหา้ ลา้ นเสน้ ีอาจจะนบั ถ้วนจาํ นวนม o หญิงใดได้เผาตวั ีเมื่อีณ เผาผัวจะได้ด สามสิบห้าล้านปีี นบั ฉนาํ ซง่ึ จะถงึ ฟาู o ฉนั ใดคนคล้องงู ดงึ ประจากรกู ข็ นึ้ มา ฉันน้นั นางเหนย่ วสาีมมิใหต้ กนรกแรง o แม้นเขาเนาขุมทกุ ข์ีเพลิงก็รอ้ นรกุ แลลุกแดง ถูกมดั รดั รงึ แทง พษิ จะเปรยบแหลนก็แสนอนั o เดอื ดร้อนเหลอื ผ่อนพกั ีโทษจะหนักนกั สาํ นักทณั ฑ์ เหตุหยาบบาปในบรรพี์ ทุกขะเหลือรอ้ นก็อ่อนเพลย o ผวั เปน็ เช่นน้ไซร้ อาจจะคนื ได้เพราะคณุ เมย เผาตัวเพลิงผวั เลยีตายจะเป็นบุณยะจุนผวั o หนา้ ทแ่ ห่งหญงิ หมา้ ยีกาละผวั ตายกเ็ ผาตัว ในใจไปุคิดกลวั ีธรรมะจารบ่มเยง O ตราบใดหญงิ ยังขาดีใจบ่อาจคาํ นงึ เกรง กริ่งกลัวเผาตัวเอง พร้อมกะศพผวั เพราะมัวมน o ตราบนัน้ แม้นเกดิ ใหม่ีคงจะไมใ่ ช่มนุษย์ชน จกั มสต่ นตนียอ่ มจะตา่ํ ตอ้ ยมนิ ้อยเลยฯ นางโศภนกล่าวแกต่ ัวเองดังน้แลว้ ีก็กาํ หนดใจจะเผาตนในกองเพลิงเผาศพสามผู้ มใิ ชผ่ วั เพือ่ จะให้นายโจรได้ความสขุ ในโลกหน้า นางกําหนดใจดงั นนั้ แล้วกแ็ สดงความกลา้ ดว้ ยวิธเผานว้ิ ด้วยคบเพลิง จนน้วิ นัน้ ไหมเ้ ปน็ ถา่ นไปทนั ทีแลว้ นางกล็ งลา้ งกายชําระมลทนิ ใน แมน่ า้ํ การเตรยมทําพิธเผาตัวนนั้ นางจัดใหม้ ผู้ขุดหลุมๆีหนึ่ง แลว้ เอากิง่ ไมส้ ดเรยงเป็นตารางีบนตารางวางฟืนแล เช้อื เพลงิ ีคือีปอีชนั แลฆเป็นต้น เมื่อจดั ตารางเผาศพแลว้ ีกเ็ อาศพนายโจรมาชโลมนา้ํ มนั ให้ สะอาดีแตง่ เครอื่ งเสอ้ื ผา้ ใหม่ เอาวางบนกองเชื้อเพลงิ ีนางโศภนกลา่ ววงิ วอนเทพเจ้า ขอให้ นางกบั สามไดอ้ ยเู่ ปน็ สขุ ดว้ ยกันในสวรรคี์ มนางระบําเปน็ ผู้ปฏิบตั ิด้วยด โดยจํานวนปเี ท่ากับ รัชกาลแหง่ พระอินทรี์ ๑๔ีองคี์ หรอื เทา่ กับจํานวนผมในเศยรแห่งนาง ครั้นเสรจ็ วิงวอนแลว้ นาง กใ็ หเ้ ครอื่ งประดับกายีแลข้าวปลากระยาหารแจกจา่ ยในหมู่มิตร แลว้ เอาดา้ ยพันขอ้ มอื ท้งั สอง
ข้างีเอาหวใหม่ปก๎ ในผมีแลทาหน้าผากด้วยแปงู ส แลว้ เอาขา้ วสารแลเบย้ ผูกทป่ ลายผ้าอนั เป็นเคร่อื งปกคลุมกาย ครั้นเสร็จแลว้ นางเดนิ ประทักษณิ ศพเจ็ดรอบ แลยน่ื ขา้ วสารแลเบย้ ให้แกผ่ ูท้ ่ยนื อยูใ่ นทใ่ กลใ้ นเวลาประทกั ษณิ นัน้ ครนั้ เสร็จประทักษิณแล้วีนางก็ข้นึ น่งั บนกองฟืน ทพ่ ร้อมด้วยเชื้อไฟ เอาศรษะแหง่ นายโจรวางหนุนตักนางแล้วส่งั ใหจ้ ดุ ไฟขนึ้ ีคนท่อยู่ใกลๆ้ ก็ ชว่ ยกันจดุ ไฟขน้ึ หลายแห่งีแลว้ ตกลองแลเปาุ สังข์เสยงสนัน่ ไป มผ้เู อาฟางโยนเติมเข้าไปใน กองเพลิงทั้งเทชนั และนาํ้ มนั เนยลงไปในกองไฟอกเป็นอันมาก แตค่ วามตายของนางโศภนน้นั เป็นสหมรณะย่อมจะตายเป็นสขุ เสมอแลเมอ่ื ไดจ้ ดุ ไฟขนึ้ แล้วผูใ้ ดจะได้เหน็ กายนางเขยื้อนก็ไม่ มแท้จรงิ ดูเหมอื นจะตายไปก่อนทเ่ ปลวไฟจะถงึ ตัว ฝุายเศรษฐผเู้ ปน็ บิดาน้นั ีเมอ่ื บตุ รถงึ แกค่ วามตายแลว้ ก็จัดให้ช่างเหลก็ ทําเหล็ก คมข้ึนอันหนง่ึ รูปเหมอื นพระจันทรค์ รึ่งซก คมเหมอื นมดโกนแลพอดกบั คอของตนีปลายสอง ขา้ งมโซ่รอ้ ยยาวพอเทา้ ยันได้ ตวั เศรษฐนงั่ ลงหลับตา แล้วใหม้ ผเู้ อาดินจากแม่นาํ้ ไวตรณมาถู ตวั ให้บริสุทธิ์แลร่ายมนตรอ์ ันควรแกพ่ ธิ แล้ว ก็เอาเท้ายันปลายโซ่หงายคอกระแทกไปด้วย กําลงั แรงศรษะก็ขาดตกกลิง้ อยู่กบั พน้ื เวตาลเลา่ มาจนถึงเพยงน้ก็หยุดนงิ่ อยคู่ รู่หนง่ึ มอาการเหมือนดงั ตรึกตรองถงึ ความสขุ ซง่ึ เศรษฐยอ่ มจะได้รบั เพราะการสละชวิตตนโดยประการซึง่ เลา่ มาน้ีตรงน้พระธรรม ธวัชพระราชบุตร ทูลถามพระราชาวา่ ีนายโจรหัวเราะด้วยเหตุใดีพระราชาไมท่ นั คดิ ีทรงตอบ พระราชบุตรวา่ \"หวั เราะเยาะหญิงสาวทบ่ า้ เหลอื เกนิ นั้นแหละ\" เวตาลกลา่ ววา่ \"ขา้ พเจ้าขอบพระคุณพระองคท์ ท่ รงปลอ่ ยขา้ พเจ้าจากย่ามอันเป็นท่ไมม่ สุขนอ้ ก ครั้งหน่งึ แต่ความเขา้ ใจของพระองคว์ า่ นายโจรหัวเราะเยาะนางโศภนน้นั ผดิ เสยอกแลว้ ถา้ ข้าพเจา้ ไม่ทลู อธิบายเสยก่อนจึงกลบั คืนไปยงั ต้นอโศก พระราชบุตรกจ็ ะทรงเขา้ ใจผิดวา่ เหตุ ใดนายโจรผ้กู ลา้ จึงร้องไห้ และเหตใุ ดจงึ หัวเราะในขณะท่บคุ คลไม่พึงหัวเราะเลยเป็นอันขาด เพราะฉะนั้นขา้ พเจ้าจะทูลช้แจงเสยก่อนจงึ จะทลู ลาไป \"เหตทุ น่ ายโจรรอ้ งไหน้ นั้ ีเพราะไม่เห็นทางอนั ใดทจ่ ะสนองคณุ นาง ในข้อท่นาง เตม็ ใจสละส่ิงซึ่งพึงสงวนทงั้ หลายเพ่อื จะช่วยชวติ นายโจร แลการตนั ความคิดเชน่ นเ้ ปน็ เหตใุ ห้ เศรา้ โศก\" \"แล้วนายโจรกลบั คดิ เห็นแปลกทส่ ุดทน่ างมาเรม่ิ รกั ในเวลาทช่ วติ ของนายโจรจวน จะสนิ้ อยแู่ ลว้ อนึง่ เทพยดาอาํ นวยการบางอยา่ งในการท่แปลกเหลือมนุษยจ์ ะเขา้ ใจได้ เปน็ ต้น อํานวยทรัพยม์ ากมายแก่คนตระหนซ่ ึ่งไม่รู้จกั ใชท้ รพั ย์ใหเ้ ป็นประโยชน์ได้ หรอื อาํ นวยปญ๎ ญา แก่คนมสนั ดานช่วั ีซ่ึงเมือ่ มปญ๎ ญาแล้วกใ็ ช้ในทางท่ผดิ หรืออาํ นวยเมยงามให้แก่คนโง่ซึ่งไม่ รู้จักปกปก๎ รักษาได้ หรอื อาํ นวยฝนในทซ่ ึ่งดาดด้วยหินคือเขาเป็นตน้ อันไมเ่ ป็นทาํ เลซึง่ พืช พันธ์ุจะงอกไดเ้ ลย นายโจรคิดถึงความแปลกๆีเชน่ น้ จงึ หัวเราะในเวลาทไ่ ม่นา่ จะหวั เราะ\" \"พระองค์ได้ทรงตอบปัญหาเน่อื งในเรื่องทขี่ า้ พเจ้าเลา่ ถวายน้ีแล้ว แม้ทรง ตอบอย่างเขลาๆ ก็เปน็ เหตุใหข้ า้ พเจา้ จะได้กลับคืนไปยงั ตน้ อโศกตามค้าสญั ญาท่ีมไี ว้ ตอ่ กัน แตก่ ่อนท่ขี ้าพเจ้าจะไปนน้ั ขา้ พเจ้าขอกล่าววา่ มนษุ ยอ์ าจหัวเราะแลรอ้ งไห้ อาจ ร้องไห้แลหวั เราะได้ด้วยเหตุทุกอยา่ งในโลก ตง้ั แตค่ วามตายแห่งเพ่ือนบ้านซ่ึงมักจะ ไมเ่ ก่ียวอะไรกบั ตวั เลย จนถงึ ความตายของตนเอง ซึง่ เกี่ยวกับตัวเป็นอนั มาก สว่ น ขา้ พเจา้ นั้นมธี รรมดาเป็นผู้หวั เราะเห็นขนั ทกุ อยา่ งทุกเวลา เพราการหวั เราะย่อมชว่ ย ใหม้ นั สมองมีอาการฉับไว ชว่ ยให้ปอดมีก้าลงั ขึ้น ช่วยให้เค้าหนา้ งดงามทวขี ้นึ แล.... ทูลลาที\" ครัง้ นพ้ ระราชาทรงรู้แล้วว่าเวตาลจะหน จงึ ทรงปลดย่ามจากพระอังสาเอาลงไว้ใต้ พระกรีทรงหนบไว้แนน่ แตก่ ไ็ มม่ ประโยชน์อะไร เวตาลหลุดจากยา่ มโดยงา่ ยตามเคยีแลลอย หัวเราะกอ้ งฟาู กลับไปยงั ตน้ อโศกตามเดมิ
The Vampire's Fifth Story นิทานเวตาลเรื่องท่ี ๖ เร่อื งที่ ๖ คร้ันพระวิกรมาทิตย์เสด็จกลับถึงต้นอโศก ทรงปนี ขึน้ ไปปลดเวตาลลงมา มดั ลงยา่ มตามเคย แลทรงพาพระราชบตุ รออกเดินไปหนอ่ ยหนึง่ เวตาลก็เล่าเร่อื งท่ี กล่าววา่ เป็นเรือ่ งจริงอกี เรือ่ งหน่งึ ดังน้ี เหนอื ฝ่ง๎ อันงามแห่งแมน่ ้าํ ยมนุ าีมกรงุ ชื่อ ธรรมสถล ในกรงุ ธรรมสถลมพราหมณ์ คนหนึ่งชือ่ เกศวะ เป็นคนมบญุ ปกติเปน็ ผู้ทําตบะแลบูชายัญีณีฝ่๎งแมน่ ้าํ ีเทวรูปทใ่ ช้บูชาก็ ปน้๎ เองด้วยดินเหนยว หาเทย่ วซ้ือจากผทู้ ําขายไม่ พราหมณ์ผนู้ ้เป็นผมู้ ความรู้เม่ืออายุมาก เมื่อยังเดก็ เป็นผูไ้ มม่ เพยรในทางเล่า เรยน ใช้เวลาเม่ือยังเปน็ หนุ่มในการบชู ากามเทพแลนางรตีมิใคร่สร่างความมัวเมาในกาม เป็น เหตุบดิ ามารดามเรอ่ื งรอ้ นใจบอ่ ยๆ วันหนง่ึ เกศวะกระทาํ ผดิ ใหเ้ ปน็ เครอ่ื งขุ่นใจบิดามารดาเป็นขอ้ ใหญ่ บิดามารดาจงึ ตเิ ตยนกลา่ วแสดงโทษแหง่ ความประพฤติของบตุ รอย่างรุนแรง เกศวะแคน้ ใจกห็ ลบหนออก จากหมบู่ า้ นของตนไปจนเขา้ ละแวกอน่ื พบต้นไม้ใหญก่ ข็ ึน้ ไปซ่อนตวั อยู่บนตน้ ไมใ้ หญ่ีแลใต้ ต้นไมน้ น้ั มเทวรูป ปัญจานน คือีรูปพระอิศวรี๕ีพักตร์ คนท้งั หลายในละแวกน้นั นับถอื ว่า ศกั ดสิ์ ิทธย์ิ ง่ิ นัก เทวรปู นัน้ มผเู้ ฝาู ระวังรกั ษาเพ่อื การหากินของเขาีแต่เวลานัน้ เผอญิ ผู้เฝูาไมอ่ ยู่ เกศวะอยูบ่ นตน้ ไม้เหน็ เทวรปู ต้งั อยขู่ ้างล่างก็เกิดความคิดลามก จึงถา่ ยปส๎ สาวะรดลงมาบน เทวรปู แลว้ ลงจากต้นไมผ้ ลักเทวรูปกล้งิ ตกลงในสระซึง่ อยูข่ า้ งหน้าน้ัน ร่งุ เช้าผ้เู ฝูาเทวรปู ไปถงึ ทต่ น้ ไม้ ไมพ่ บเทวรปู ซง่ึ เคยเปน็ เคร่ืองหากนิ ของตนก็ เดือดรอ้ นีตโพยตพายกลับไปบ้าน แลประกาศใหฝ้ ูงชนทราบ ไมช่ า้ ชาวบ้านก็ออกเกรยวกราว ชว่ ยกันออกตามเทวรปู ท่หายแลโจษจันแซ่ไปในหมู่บา้ น ในขณะนัน้ บดิ ามารดาของเกศวะ เท่ยวตามหาบุตรท่หลบหายไป ครั้นไปถามหาคนหนุ่มซ่งึ มลกั ษณะอยา่ งนั้นีๆีก็มคนกลา่ วว่า จําไดว้ ่า เมอ่ื วนั ก่อนมคนหนุ่มเชน่ ท่วา่ ไปน่ังอยูบ่ นต้นไมอ้ นั เปน็ ทส่ าํ นักของเทวรูปป๎ญจานน ร่งุ ข้ึนก็ทราบกันว่าเทวรูปหายไป ตอ่ มาไม่นานเกศวะกลบั เข้ามาในหมู่บ้านีชาวบา้ นท้งั หลายพากันชเ้ ป็นนวิ้ เดยวกันวา่ คนนค้ งจะขโมยเทวรปู เกศวะเหน็ จะปฏิเสธไม่ไหวกร็ บั เป็นสตั ย์แลชใ้ หค้ น้ ในสระ ซง่ึ ทิง้ เทวรูปลงไว้ ทัง้ บอกคนเหลา่ นนั้ ว่าได้ถ่ายป๎สสาวะรดเสยแล้ว คนทัง้ หลายไดฟ้ ๎งดังน้นั ก็ กลา่ วเปน็ เสยงเดยวกนั วา่ ีเกศวะกระทาํ บาปมโทษใหญ่หลวง มนษุ ยไ์ ม่จําตอ้ งลงโทษีเพราะ พระป๎ญจานนคงจะลงโทษถงึ ส้ินชวติ ทันทไม่ตอ้ งสงสัยเลย เกศวะไดท้ ราบว่าพระผเู้ ป็นเจ้าจะลงโทษถึงดังน้ันกต็ กใจกลวั เปน็ กาํ ลงั กลับเปน็ คนว่างา่ ยสอนง่ายีเชื่อถอ้ ยมารดาต้ังแต่นนั้ มา แลพากเพยรเรยนร้จู นไดช้ อ่ื วา่ เปน็ ผมู้ วิชา ยง่ิ ยวดในชนบท มคาํ กล่าววา่ ชะรอยจะเปน็ เพราะเกศวะกลบั ตวั ได้ในทันทีพระป๎ญจานนจงึ ไม่ ประหารชวติ เพราะกรรมทก่ ระทาํ บนต้นไม้ครงั้ น้ัน ตงั้ แตเ่ กศวะกลบั ตวั ได้แล้ว กจ็ าํ เริญในวชิ าสามารถทุกประการจนมเหย้าเรือน เปน็ หลกั แหล่งีภายหลังมบตุ รช่ือ มธมุ าลตีเป็นหญิงงามนกั ีมคาํ ถามว่าเทวดาไดส้ ่ิงใดมา จากไหน จึงปน๎้ หน้าคนได้งามถงึ เทา่ นั้นีได้แบ่งเอาภาคอันงามท่สดุ ในพระจันทรม์ าหรอื จึงทาํ ใหม้ รอยแหวง่ ซ่ึงคนอาจเหน็ ได้ในดวงเดือน นางมธมุ าลตมตาเหมือนนิโลตบลซึง่ บานเตม็ ที่ ม แขนเหมือนก้านบัว มผมยาวห้อยเหมอื นความมดื แหง่ กลางคืน ครัน้ นางงามผมู้ อายุสมควรวิวาหะีมารดาบดิ าแลพช่ ายก็ช่วยกันเปน็ ทกุ ขด์ ้วยการ หาคู่ เพราะปราชญ์ยอ่ มกล่าวว่า \"ลกู หญิงซงึ่ มอี ายุควรมคี ไู่ ม่มคี ู่ ยอ่ มเปน็ เช่นก้อนอุบาทว์ห้อยอยเู่ หนอื หลังคาเรอื น\" แล \"พระราชา ๑ หญิง ๑ ไม้เล้ือย ๑ ยอ่ มรกั ทีจ่ ะดแู ลสิง่ ทอ่ี ยู่ใกล้\" แล
\"ใครบ้างไมเ่ คยไดท้ ุกขเ์ พราะหญงิ เหตุว่าหญงิ น้นั ผใู้ ดจะบงั คับให้อยใู่ นถอ้ ยคา้ ก็ บังคับไม่ได้ แม้จะบงั คับดว้ ยให้ของทช่ี อบใจ หรอื บงั คบั ด้วยความกรณุ าหรอื บงั คบั ด้วยนติ ธิ รรม หรือบงั คบั ด้วยการลงโทษ ก็บังคับไม่ไดท้ ้ังนั้น เพราะหญิงไมร่ ูจ้ ักผดิ แล ชอบ\" วนั หนง่ึ พราหมณเ์ กศวะไปจากบา้ น เพื่อช่วยการแต่งงานบุตรของพราหมณไ์ ป บ้านอุปช๎ ฌาย์เพื่อการศึกษา แลในระหว่างทบ่ ิดาแลบตุ รไมอ่ ยู่บา้ นนนั้ มชายคนหน่งึ มาท่บา้ นของพราหมณ์ นางพราหมณภรยิ าเกศวะเขา้ ใจว่าชายคนน้ันเป็นคนมคณุ ด เพราะเหตุมรปู งามจึงบอกยกลูก สาวให้ ฝาุ ยพราหมณเ์ กศวะนนั้ ไปพบพราหมณห์ นุ่มคนหนง่ึ เปน็ ทช่ อบใจีกบ็ อกยกลกู สาวให้ แลส่วนบุตรชายนน้ั ไปพบชายเพ่อื นเรยนคนหน่งึ ท่บ้านอุปช๎ ฌาย์ ก็ยกน้องสาวใหเ้ หมอื นกนั ตอ่ น้นั มาบิดาแลบตุ รก็พาชายหนุ่มคนละคนมายงั บา้ นตน ครัน้ ถึงบ้านพบชาย หน่มุ อกคนหนงึ่ ทน่ างพราหมณยกลกู สาวใหี้ ชายหนุม่ ทัง้ ี๓ีคน นนั้ เสมอกนั ในวชิ าีในคุณดี ในรปู ีแลในอายีุ จงึ เกดิ ป๎ญหายุง่ ยากขน้ึ ในทนั ท ชายท้ังสามต่างคนรอ้ งทุกข์ีคนหนึ่งวา่ มาถงึ เรอื นก่อน คนหน่งึ วา่ บิดานางเปน็ ผู้ ยกให้ีแลบดิ าย่อมเปน็ ใหญ่ในครอบครวั อกคนหนง่ึ รอ้ งทุกขว์ ่ากระไรไมม่ ใครจาํ ได้ ปรากฏแต่ วา่ ตัวเปน็ คนท่ควรได้นางเท่านั้นีคนทง้ั สามร้องขอความเป็นธรรม แลความเป็นธรรมตาม ความเหน็ ของชายหนมุ่ คนหนง่ึ ๆ ก็คือให้นางแกต่ วั จึงเปน็ อันกล่าวได้วา่ ธรรมะในเวลาน้ันแยก ได้เป็นสามแพรง่ เพราะชายหน่มุ สามคน ฝุายพราหมณ์เกศวะผบู้ ดิ าคร้ันเกิดเหตเุ ช่นนี้ ก็ราํ พึงวา่ ี\"เจ้าสาวคนเดยว เจา้ หนุม่ สามคนเชน่ น้จะทาํ อย่างไรหนอีจะยกใหค้ นไหน จะไมย่ กให้สองคนสองคนไหนจึงจะ ถูกต้องตามธรรมนยิ ม เราผู้บิดามารดาแลพ่ชายกใ็ หค้ ําตกลงแกเ่ ขาท้งั สามแล้วคนละคน เหตุ ประหลาดเผอิญเปน็ ไปเช่นน้ีจะทาํ อยา่ งไรด\" พราหมณเ์ กศวะอา้ํ อึ้งอย่ชู า้ นานีไม่ตกลงในใจวา่ กระไร หารือกับภริยาแลบตุ รก็ ไมไ่ ด้ประโยชน์เพราะคนท้งั ี๒ีกไ็ ม่รจู้ ะวา่ กระไรเหมอื นกนั ส่วนชายหนุ่มทงั้ ี๓ีคนน้นั เมื่อบิดานางยงั ไมต่ ัดสินวา่ กระไรก็พากันน่ังนง่ิ ดเู ดือน เพญ็ คอื หนา้ แหง่ นางจนไม่กระพริบตาีดูประหนง่ึ จะประพฤตติ ัวเปน็ จโกระ คือนกซึ่งกล่าวกนั วา่ กนิ แสงจนั ทรเ์ ปน็ อาหาร พราหมณเ์ กศวะตรึกตรองอยูช่ า้ นาน นึกว่าเหน็ ช่องท่พอจะแกป้ ๎ญหาได้จงึ กลา่ ว แกช่ ายทัง้ สามวา่ จะต้องตัดสนิ ดว้ ยวธิ ให้สาํ แดงความรปู้ ระชนั กนั ใครยกเอาภาษติ ซึ่งกวผมู้ เกยรติแต่งไว้แต่โบราณมากล่าวให้ดกวา่ คนอ่นื คนน้ันจะได้รบั รางวลั คอื ลกู สาวพราหมณ์ ชายหนุ่มคนที่ ๑ ได้ยนิ ดงั นัน้ กล่าวภาษิตของกวโบราณโดยท่ไมต่ อ้ งตรึกตรอง ว่า O ชายหาญเหน็ ไดเ้ มอื่ ี สงคราม น้นั เนอ ความซือ่ ส่อถนัดยามี ส่งหน้ เห็นมิตรคดิ เหน็ ความ จรงิ เมื่อ ทุกข์แลีเมยสตั ยช์ ัดชอ่ื ชี้ เมื่อไขไ้ ร้สนิ ฯ ชายหนุ่มคนท่ี๒ียกภาษติ ขนึ้ กล่าววา่
O หญงิ ใด (๑) อยใู่ นเหยา้ แห่งพอ่ กจ็ รงิ อยแู่ หลี่ แตม่ ิฟ๎งบังคบั (๒) มกําชบั ใจตวั มัวแต่เท่ยวร่ืนเรงิ เชิงสนุกทกุ เบ้ือง (๓) ปลดเปล้อื งผา้ คลุมหน้าต่อหน้าชาย (๔) หลบั ราวตายมวิ ายง่วง (๕) ดม่ื เหล้าล่วงลําคอ (๖) พอใจอยู่หากจากสาม สตรน้นั ปราศจากธรรมนําจิตชอบประกอบด้วยใจบาปหยาบย่งิ ีจริงแลฯ ชายหนุ่มคนท่ ๓ีกล่าวภาษติ ซึ่งอ้างว่าเปน็ ของโบราณวา่ O ใครจะไว้ใจอะไรตามใจเถดิ แต่อยา่ เกดิ ไวใ้ จในส่งิ หา้ หนงึ่ อยา่ ไว้ใจทะเลทกุ เวลา สองสตั ว์เข้ยวเลบ็ งาอย่าวางใจ สามผ้ถู อื อาวุธสุดจกั รา้ ย ส่ผู้หญิงท้ังหลายอยา่ กรายใกล้ หา้ มหากษตั ริยท์ รงฉตั รชัย ถ้าแม้นใครประมาทอาจตายเอยีฯ พราหมณ์เกศวะไดฟ้ ง๎ ดังชายหนุ่มสามคนทอ่ งภาษิตซ่งึ กลา่ ววา่ เปน็ ของโบราณก็ จับใจแกทัง้ หมด ไมร่ ู้ว่าชอบภาษติ ไหนมากกวา่ อกสองภาษิตีก็ทําให้อํ้าอง้ึ ไปอก คราวนไ้ มใ่ ช่ ตรกึ ตรองว่าควรยกลูกสาวใหช้ ายคนไหนีตรกึ ตรองวา่ ควรยกให้ภาษติ บทไหน เป็นเร่อื งนกึ ถึง คําพูดีไมใ่ ช่นึกถึงคนีจงึ ลงั เลไปอกทางหนึง่ ขณะน้นั มงพู ษิ ตัวหนึง่ มาตดั ป๎ญหาทม่ ในใจพราหมณ์เกศวะ พราหมณย์ งั ตรึก ตรองรวนเรในใจีพองเู ลอ้ื ยเขา้ มากดั ลูกสาวตาย คนทั้งหกก็ร้องไห้ตโพยตพายเพราะทุกข์ สามัญ ครั้นไดส้ ตกิ ว็ ิ่งตามหมอแลแมม่ ดรวมทัง้ คนฉลาดทง้ั ปวง ท่ประกาศตัววา่ เรยก พษิ งอู อกจากกายผู้ถูกกัดได้ คนเหล่านนั้ เมื่อได้มาพบศพนางมธุมาลตีแล้วตา่ งคนก็สั่นศรษะี คนหนง่ึ กล่าวว่า คนทถ่ กู งูกัดี๕ีคํา่ ี๖ีคํา่ ี๘ีค่าํ ี๙ีคา่ํ ีแลี๑๔ีค่ําีนั้นไมม่ รอดีอกคนหนง่ึ กลา่ ววา่ คนท่ถูกงกู ดั วันเสารแ์ ลวนั องั คารต้องตายเสมอีคนท่ี๓ีกลา่ ววา่ คนทถ่ กู งกู ัดจะตาย หรือไมก่ ็แลว้ แต่ว่าพระจนั ทรส์ ถิตราศไหนในเวลาท่ถกู กดั ีคนที่ ๔ กล่าวว่าผใู้ ดถูกงูกัดทต่ าีหูี ลน้ิ ีจมูกีริมฝีปากลา่ งีแกม้ ีคอีแลทอ้ ง คนนั้นต้องตายีคนท่ี๕ีกลา่ วว่าีแมพ้ ระพรหมก็ไม่ อาจแกน้ างนใ้ ห้คนื ชวิตได้ ครั้นหมอทงั้ หลายกลบั ไปหมดแล้ว พราหมณเ์ กศวะกจ็ ัดการเผาศพลกู สาวแลว้ กลับบา้ นีฝุายชายหนมุ่ สามคนนั้นกล่าวแกก่ นั วา่ \"เราทัง้ ี๓ีคนหัวอกอนั เดยวกัน ได้ทุกขอ์ ยา่ งเดยวกนั ีซง่ึ เกดิ เพราะเหตุเดยวกัน เราจะตอ้ งเทย่ วไปหาความสขุ ทอ่ น่ื แลในการหาความสุขไมม่ ทางใดดกว่าทางท่พระอินทร์ผู้ เป็นเจ้าแห่งสวรรค์กล่าวไวค้ อื o ชายใดไมเ่ ท่ยว เทยวไป ทุกแคว้นแดนไพรี มอิ าจประสบพบสุข o ชายใดอย่เู หย้า เนาทุกข์ ไม่ด้นซนซุกี กช็ ือ่ ว่าชวั่ มัวเมา o จงจรเท่ยว เทยวบทไป
พงพนไพรี ไศละลาํ เนา o ดนั้ บถเดนิ เพลินจิตเรา แบ่งทุกเบาี เชาวนะไวฯ o ชายหาญชาญเชย่ ว เทยวไพร สองขาพาไปี บ่มวั บเ่ มาเขลาขลาด o ขาเขาคือก่ิง พฤกษชาติ ช่อชูดูดาษ และดกดว้ ยดอกออกระดะ o ไปุชา้ เปน็ ผล ปนคละ โตีๆีโอชะ รสาภิรสหมดมวล o โทษหลายกลายแก้ แปรปรวน เจือจุนคุณควร เพราะเหตุท่เท่ยวเทยวเดิน o จงจรเท่ยว เทยวบทไป พงพนไพรี ไศละดําเนนิ o ดุ่มบถดว่ น ชวนจิตเพลิน ใดบม่ ิเกินี เชญิ บทจรีฯ o เชญิ คะนงึ พระทินกร ฤาหลับฤานอนี ธเดนิ และดน้ บนสวรรค์ o เธอมความสุข ทุกวัน หม่ืนกปั แสนกลั ป์ บอ่ ่อนบเ่ ปลย้ เพลยองค์ o จงจรเทย่ วี เทยวบทไป ตง้ั จิตในี ไพรพนพง o ดูทนิ กรี จรจิรยง แสนสขุ ทรงี ทกุ ขะบม่ ีฯ ชายหนมุ่ ทัง้ สามตกลงใจว่าจะออกเทย่ วดน้ ดั้นไปตามบุญตามกรรม ดังนแ้ ลว้ ชาย คนท่ี๑ีก็เกบ็ กระดูกแห่งนางรวมเข้าเปน็ หอ่ ขน้ึ หอ้ ยบา่ ีแลว้ ประพฤตติ ัว เปน็ ไวเศษกิ ถือศล เวน้ บาปใหญท่ งั้ ี๘ีอย่างีคือีกนิ กลางคนื ี๑ีฆ่าชวติ ี๑ กินผลไม้เกิดบนต้นยางหรอื กนิ ฟ๎กทองี หรือหน่อไม้ไผี่ ๑ีกนิ น้ําผง้ึ หรอื เนือ้ สัตว์ี๑ ลักทรัพย์ของผู้อืน่ ี๑ีข่มขนื หญงิ มสามี๑ีกิน ดอกไมห้ รอื เนยเหลวหรอื เนยแขง็ ี๑ บชู าเทวดาในศาสนาอื่นี๑ีสว่ นการปฏบิ ัติดว้ ยด ชายผู้เป็นไวเศษกิ ย่อมตง้ั ใจมนั่ วา่ การไม่ทาํ รา้ ยคนแลสตั ว์อน่ื เป็นทางเวน้ ท่ชอบ แม้ผ้ทู าํ ความผดิ กไ็ มค่ วรเอาชวิตีอนง่ึ ศลทัง้ ี๕ีคอื ไม่กล่าวเท็จีไมก่ นิ เนอื้ สัตว์ ไม่ขโมยีไม่ดืม่ นา้ํ เมาีไม่มภรยิ าีนั้นตอ้ งถือมน่ั เปน็ นิตย์ ทรัพยท์ ัง้ หลายจะมไม่ไดี้ เวน้ แตผ่ า้ พนั กายีผา้ เชด็ ปากีภาชนะสําหรับรบั ทานคอื อาหาร แลแส้สาํ หรับกวาดดนิ ีด้วยเกรงจะเหยยบสง่ิ มชวิต เทา่ นั้น อนึง่ อาจารย์ไวเศษกิ สอนใหศ้ ิษยไ์ มไ่ ว้ใจในทางทน่ อกลทั ธิของตน ให้กลวั ความ ทุกข์ในภพหน้าีใหร้ บั ทานจากผอู้ ่ืนไม่เกนิ ทจ่ ะพอเป็นอาหารชว่ั วนั เดยว ไมก่ ินอาหารท่ เก่ยวกบั ชวติ สตั วแ์ ลใหท้ ําคณุ ตอ่ คนทั้งหลาย ชายหน่มุ คนที่ ๑ เมื่อเป็นไวเศษิกแลว้ ฉะนก้ ็เพยรจะลืมความรกั ท่เคยมีเพยรจะ ลืมนางท่หนตายไป กลา่ วแกต่ ัวเองว่า \"ท่เราได้เคยนกึ ว่า หญงิ อาจใหค้ วามสขุ ได้นัน้ ไม่ใช่เหตุอน่ื เปน็ ดว้ ยความทะนง แลความนกึ ถงึ ตวั เองฝาุ ยเดยวีเราได้เคยคิดว่า ริมฝีปากของนางเหมอื นผลไมส้ กุ ีอกเหมอื น บัวตูม พระจนั ทรย์ อ่ มจะซดเพราะเพยรจะเอาอย่างแสงหน้าแห่งนางีฯลฯีเชน่ นก้ ็เพราะหลง บดั นใ้ จเราออกหากจากโลกไปแล้วีถา้ เราได้เหน็ นางอก เราก็คงจะกล่าววา่ น่หรือรปู ทช่ าย หลงใหล สิ่งน้ไม่ใชอ่ ่ืนไกลคอื ตะกรา้ ซงึ่ มหนงั ห้มุ ภายนอก ข้างในคอื กระดกู เลือดเน้ือแลส่งิ โสโครกทงั้ หลายเท่านนั้ ธรรมดาคนหลงเม่ือเหน็ ส่งิ ประกอบข้นึ ดว้ ยของสกปรกกเ็ รยกวา่ หนา้
แลพิศชมดดู ด่ืมราวกบั คนข้เมากนิ เหล้าีเราไมค่ วรยินดยนิ รา้ ย ในรา่ งกายอันเตม็ ไปดว้ ยเลอื ด แลเน้อื ีหน้าทเ่ ราคอื เขา้ หาพระผู้เปน็ เจา้ ผเู้ ปน็ ต้นเหตุแห่งสงั ขารีเลิกเอาใจใสใ่ นสง่ิ ท้งั หลาย ซง่ึ เปน็ เหตุใหเ้ กดิ ความสาํ ราญหรือเรา่ รอ้ น\" ชายหนมุ่ คนที่ ๒ีนนั้ ีกวาดเอาเถ้าถา่ นท่เผาศพนางรวมกนั เปน็ ห่อแล้วกอ็ อกพา เข้าปาุ ทาํ ตวั เปน็ วานปรสั ถ์ีตามบญั ญตั ิของพระมนูีแม้อายยุ งั ไมส่ มควรก็ทําจนได้ พระมนบู ญั ญตั ิไวใ้ นธรรมศาสตร์วา่ เมือ่ ชายผเู้ ป็นพ่อบา้ นีรู้สึกวา่ กลา้ มเนื้อของ ตนอ่อนเทบิ ทาบีผมก็หงอก แลทงั้ ไดเ้ ห็นลกู แห่งลูกของตนก็ถงึ เวลาทค่ วรออกปาุ ีใหพ้ าเอา ไฟสําหรับบูชา (อคั นโหตร) ของตนกบั เคร่อื งใชใ้ นการบูชาไฟไปด้วยกบั ตน แลเม่อื ถงึ ปาุ ท่ สงดั แล้วกใ็ ห้อย่สู าํ รวมอินทรยใ์ นทน่ ั้น ใหก้ นิ ของสะอาดซึ่งเป็นอาหารฤาษีคอื มูลผลาหาร ต่างๆีแลใหก้ ระทาํ การบูชาท้ังี๕ีคือ (๑) สอนพระเวที(บูชาพระเวท) (๒) เซ่นดว้ ยขนมแลนํา้ ี (บชู าบดิ ร) (๓) เผาของในไฟ (บชู าเทวดา) (๔) ใหอ้ าหารเป็นทานี(บชู าสตั วท์ ง้ั หลาย) (๕) ตอ้ นรับแขกี(บูชาคน) แลให้น่งุ หนงั หรอื เปลอื กไมี้ ให้อาบนา้ํ เชา้ เยน็ ีใหผ้ มแลหนวดเล็บงอก ไมม่ กาํ หนด ใหน้ อนกล้ิงเกลอื กไปมาบนแผน่ ดินีหรือยืนเขยง่ บนนิ้วหวั แมเ่ ทา้ ตลอดวัน หน้า รอ้ นใหผ้ งิ ไฟี๕ีกองีคอื ไฟล้อมตัวี๔ีกองีไฟบนหัวคือพระอาทติ ยก์ องหน่งึ หน้าฝนใหต้ าก ฝนีหนา้ หนาวใหใ้ ชผ้ ้าเปยี กีแลทรมานตวั อยา่ งอ่ืนๆีอกมาก ชายหน่มุ คนท่ี๓ นน้ั บวชเปน็ โยคเทย่ วเร่ร่อนไปในท่ตา่ งๆีแลปฏบิ ตั ิตนตามควร แก่โยคทุกประการ วนั หนง่ึ โยคไปถงึ บ้านแหง่ หนึ่ง ก็แวะเขา้ ไปเพอ่ื จะขออาหารีชายเจ้าของบา้ นี ครัน้ เหน็ โยคก็ต้อนรบั เป็นอนั ด แลเชิญใหร้ บั เล้ยงอาหารในบา้ นีครน้ั เตรยมอาหารพร้อมเสร็จ เจา้ ของบา้ นกเ็ ชญิ โยคไปยังท่กินอาหารีแลเม่อื ไดล้ ้างมือลา้ งเทา้ แลว้ กก็ ล่าวแก่โยคว่า \"ธรรมดาเจา้ ของบา้ นจะขับให้แขกท่มาถงึ ในตอนเยน็ ไปพน้ บา้ นนัน้ ทําไม่ได้ แขกมาถึงเพราะพระอาทติ ยท์ ่กลับจากทางเดนิ น้นั เป็นผใู้ หม้ า และแมจ้ ะมาตามควรแกฤ่ ดูหรือ มิควรก็ด เจ้าของบา้ นจะให้เขา้ พักอยู่ในบา้ นโดยทม่ ิเลย้ งดูนนั้ มไิ ด้ ข้าพเจ้าไม่อาจกินอาหาร อันอรอ่ ยไดก้ อ่ นท่ได้เชิญแขกให้กิน เพราะการเล้ยงแขกใหอ้ ่มิ หนาํ สาํ ราญน้ันยอ่ มนําทรพั ย์ีนาํ เกยรติ นําความมอายยุ ืนมาสู่เจา้ ของบา้ นีแลทงั้ เตรยมท่ในสวรรคไ์ วใ้ ห้ดว้ ย\" เจ้าของบา้ นกล่าวดังนแ้ ล้วีภริยากน็ ําอาหารมาเลย้ ง คอื ขา้ วแลถว่ั กับน้าํ มนั แล เครอื่ งเทศตา่ งๆ ซง่ึ ผสมกันหุงในหม้อเหนือไฟซงึ่ ใช้ฟืนอันสะอาด ครน้ั เล้ยงอาหารได้ครึง่ หนึง่ ยงั ไม่สําเรจ็ การกนิ ภริยาเจา้ ของบา้ นจะยกอาหารมา เพม่ิ เติม ทารกผู้เป็นบตุ รร้องไห้ด้วยเสยงอนั ดังแลว้ เข้ายึดผา้ มารดาไวี้ ไมใ่ หย้ กอาหารไปต้ัง มารดาจะห้ามกไ็ มห่ ยดุ ย่งิ ร้องแลยิ่งยดึ ผา้ ดงึ ไว้ มารดาขดั ใจก็วางเครือ่ งเล้ยงลงแลว้ จบั ตัวลกู โยนเขา้ ไปในกองไฟีทารกก็ไหม้เปน็ จุณไป ฝาุ ยโยคเมอื่ เหน็ ดงั นั้นก็ลกุ ขึ้นจากทน่ ง่ั เจ้าของบา้ นจงึ ถามว่า \"เหตุใดอาจารยจ์ ึงไม่กนิ เลา่ \" โยคตอบวา่ ี\"ขา้ พเจา้ เปน็ แขกมารับเลย้ งของท่าน แตข่ า้ พเจา้ ไม่อาจกินอาหารไดใ้ นทเ่ ล้ยงของคนท่ประพฤตริ าวกบั รากษส คําโบราณย่อมกลา่ ว ว่าีคนท่สาํ รวมความยินดยินรา้ ยไมไ่ ด้น้ันีมชวิตปุวยการเปล่า\" \"แลพระราชาโง่ ๑ ผู้เยอ่ หย่งิ เพราะมีทรพั ย์มาก ๑ เด็กออ่ นแอ ๑ ทัง้ สาม นปี้ ระสงค์สิง่ ใดไม่อาจไดม้ าดังประสงค์\" \" แล พระราชายอ่ มทาํ ลายศัตรแู ม้เม่ือกําลงั หนีชา้ งแม้เพยงกระทบ แลงแู ม้เพยง หายใจรดีก็ยอ่ มนาํ มาซึ่งความตาย คนใจบาปแมก้ าํ ลงั หวั เราะก็อาจทาํ ลายผู้อน่ื ได ้\"ี ฝุายเจ้าของบ้านเมอื่ ได้ยินดงั นก้ ย็ ม้ิ แล้วลุกไปหยิบสมดุ เลม่ หน่ึงมาจากท่ซึง่ ซ่อนไว้คอื บนขือ่ สมุดนั้นคอื ตําราสงั ชวี นีวิทยา คือวิชาชุบคนตายให้คืนชวิต ครน้ั หยิบหนังสือลงมาแล้ว ชายเจา้ ของหนังสือกก็ างตาํ ราออกทําพิธชุบลูกให้ คืนเปน็ ไมช่ า้ เด็กก็กลับมาร้องไห้เสยงดงั อยูอ่ ยา่ งเก่า
ชายผเู้ ป็นบดิ าจึงกลา่ ววา่ \"บรรดาของมคา่ ทัง้ หลายจะหาสิง่ ใดมค่าเกนิ วิชาน้นั หาไดไ้ ม่ ทรพั ยอ์ ื่นๆีอาจถกู ขโมยลกั ีหรอื ลดนอ้ ยลงไปดว้ ยการจับจา่ ย แตว่ ิชานัน้ ไมม่ ความ ตายแลยิ่งจ่ายมากก็ย่ิงเพิ่มมากขน้ึ วิชานจ้ ะแบ่งใหแ้ ก่ใครใหเ้ ปลอื งไปกไ็ มไ่ ดี้ แลขโมยจะลกั ก็ ลกั ไม่ได้\" ฝุายโยคเมื่อไดเ้ ห็นอศั จรรย์ดังนัน้ กน็ ึกในใจว่าี\"ถ้าเราไดส้ มุดเลม่ น้ เราก็อาจชบุ นางผู้เปน็ ทร่ ักของเราให้คืนชวติ มาดงั เก่า แล้วเราจะเลกิ ประพฤติอยา่ งไม่สบายต่างๆีดังซึ่งเรา ทําอย่เู ด๋ยวน้\" โยคตรึกตรองดงั น้แล้วกก็ ลบั นงั่ ลงกนิ อาหารแลค้างอยใู่ นเรือนนนั้ ครัน้ เวลา กลางคนื เมอ่ื ได้เล้ยงกันอกมอ้ื หน่ึงแล้วีตา่ งคนก็ไปยงั ท่นอนของตน โยคนอนแลว้ ระวังตวั ไม่ ยอมให้หลบั ีจนเวลาเทย่ งคนื เห็นว่าคนท้งั หลายคงจะหลับสนทิ แน่แลว้ ีโยคกล็ กุ ขึน้ ย่องเขา้ ไปในห้องนอนเจ้าของบา้ น ลักหยิบเอาสมุดตาํ ราสังชวนลงมาจากขือ่ ไดแ้ ลว้ ก็ลอบออกจาก บ้านหนไปในเวลากลางคนื รบเดินตรงไปยังปาุ ช้าท่เผาศพนางผูเ้ ปน็ ท่รัก เผอิญพบชายหนุม่ อกสองคนกลับมาอยูใ่ นทเ่ ดยวกัน ตา่ งคนต่างเล่าความเปน็ ไปแห่งตนแลตนสู่กันฟ๎งอยู่ คร้นั ชายทงั้ สองนัน้ เห็นโยคกจ็ าํ ได้จึงรอ้ งทกั ขนึ้ ว่า \"ทา่ นเอย ท่านได้ไปเท่ยวในโลกแล้วได้ความรู้อันใดซงึ่ จะเปน็ ประโยชน์แก่เรา ท้ังสามบา้ งหรอื เปล่า\" ชายผ้เู ปน็ โยคตอบว่า \"ขา้ พเจา้ ได้เรยนวชิ าชบุ คนตายให้คืนชวิตได้\" ชายสองคนตอบวา่ \"ถ้าทา่ นมวิชาเช่นนัน้ ท่านจงชบุ นางผเู้ ปน็ ทร่ ักของเราให้คืนชวติ มาเถดิ \" ชายผู้เป็นโยคกจ็ ัดการตงั้ พิธชุบนาง เร่ิมการรา่ ยมนตร์ีซึง่ ทาํ ใหฟ้ ูาแลอากาศเต็ม ไปด้วยสิง่ ซงึ่ นา่ หวาดเสยว คือภูตผมรา่ งกายเปน็ ทพ่ งึ แสยงีสําแดงอาการให้เหน็ ปรากฏตา่ งๆ ทง้ั ตลบไปด้วยเสยงไมพ่ ึงฟง๎ ีคอื เสยงหมาหอนีเสยงนกฮูกแลสัตว์อน่ื ๆ ชายท้งั สามกแ็ ทง ตวั เองใหเ้ ลอื ดตกเป็นเครื่องบูชานางจัณฑีแล้วกล่าวสรรเสรญิ ว่า \"ขา้ แตพ่ ระแมผ่ ูเ้ ป็นเจา้ แห่งสากลโลก พระองคเ์ ป็นผู้กระทาํ ความสาํ เรจ็ ใหเ้ กิด ตามความประสงคข์ องชนท้ังหลาย ข้าพเจ้าขอถวายเลือดจากกายของขา้ พเจ้าเปน็ เครือ่ งบชู า พระองค์ ขอพระองคจ์ งโปรดอนกุ ลู ข้าพเจ้า\" ชายทัง้ สามกลา่ วอย่างข้างบนแลว้ ก็เชือดเน้อื เผาไฟบชู าอกช้นั หนง่ึ ีแลว้ กล่าวว่า \"ขา้ แต่พระเทว ขอพระองคจ์ งโปรดให้นางผู้เปน็ ทร่ ักของขา้ พเจ้าคืนชวิตมาเถิด ขอพระองค์จงโปรดกรณุ าข้าพเจา้ ตามสว่ นแห่งความจงรัก ซงึ่ เป็นเหตุใหข้ ้าพเจ้าถวายเนื้อของ ตนเปน็ เครอ่ื งบชู านัน้ เถิด ข้าพเจา้ ขอถวายนมัสการพระองคด์ ้วยความนับถอื แทจ้ ริงีโอม\" เมอื่ ไดก้ ลา่ วสรรเสรญิ แลบชู านางจัณฑดว้ ยเลอื ดแลเน้อื ของตนดงั นั้นแล้ว ชาย ทั้งสามกช็ ่วยกันรวมเถา้ แลอฐั ิแหง่ นางซงึ่ ชายคนท่ี๑ีแลคนท่ี๒ ไดเ้ ก็บรักษาไวน้ ัน้ ให้เป็นกอง เดยวกนั ีชายคนท่ี๓ ผเู้ ป็นเจา้ ของตาํ ราก็ร่ายมนตรจ์ นเกดิ ไอสขาวข้ึนมาจากดนิ ีแล้วเกิดเปน็ รปู ลอยอยู่ แลว้ เกิดความดูดีดูดเอาเถ้าแลอัฐซิ งึ่ กองอยนู่ ั้นเขา้ ไปในรปู อกครูห่ นงึ่ ก็เกดิ เปน็ นางมธุมาลตชวติ คืนมาอยา่ งเดิม แลนางขอให้ชายทัง้ สามพาไปส่งยังเรือนบดิ า ฝาุ ยชายทัง้ สามเม่อื นางคืนชวิตแลว้ ีกว็ ิวาทแย่งชิงนาง ต่างคนกล่าวว่าตนควร จะได้นางเปน็ ภรยิ าโดยความชอบธรรม ชายคนที่ ๑ีกลา่ ววา่ นางคนื ชวิตมาได้กเ็ พราะกระดกู ท่เขาได้รกั ษาไว้ีชายคนที่ ๒ กล่าวว่าเพราะเถา้ ถ่านต่างหากีชายคนท่ี๓ีหวั เราะเยาะคนทั้งสองวา่ กระดูแลเถ้าถ่าน ถา้ ไม่ได้ต้งั พธิ แลรา่ ยมนตรต์ ามตาํ ราจะมชวติ มาอย่างไรได้ ชายทั้งสามทุ่มเถยงกันีไม่มใครยอมใคร จงึ พากันไปหาบัณฑติ ผู้ปราดเปรอ่ื งให้ ตัดสินกไ็ มม่ ใครตดั สินไดี้ สว่ นพระราชานนั้ ใครบา้ งนึกวา่ จะไดป้ ญ๎ ญาจากพระราชา ใครบา้ งไป
หาพระราชาในขณะทต่ ้องการพบผูเ้ ฉลยวฉลาดีส่วนตวั ข้าพเจ้าี(เวตาล) น้ พศิ วงวา่ พระองค์ ผ้ทู รงนามวิกรมาทิตยเ์ ป็นพระราชาผูป้ ระกอบด้วยปญ๎ ญาย่ิงมหากษัตริย์ทั้งปวง พระองคจ์ ะ ตัดสนิ ได้บา้ งกระมังวา่ ีนางนน้ั ควรเปน็ ของชายคนไหนโดยทางท่ชอบ พระวิกรมาทติ ย์กําลงั ขุน่ พระหฤทัยในขอ้ ท่เวตาลกลา่ วดูหมิ่นป๎ญญาพระราชาท้งั ปวง ครน้ั เวตาลทูลใหต้ ดั สนิ กต็ รัสออกมาวา่ \"เอ็งมนั โง่ ไม่รจู้ ักอะไรีชายคนที่ ๒ีสคิ วรได้นางเปน็ ภรยิ า\" เวตาลถามวา่ ี\"เพราะเหตใุ ดจงึ ทรงตัดสินอยา่ งนั้น\" ตรสั ตอบว่าี\"เพราะเขาเปน็ ผูเ้ กบ็ เถ้าถา่ นไว้\" เวตาลกล่าวว่าี\"ถา้ ชายคนท่ี๑ีไม่ไดเ้ ก็บกระดูกไวบ้ ริบูรณ์ นางจะคนื ชวติ มา อย่างไรไดี้ และชายคนท่ี๓ีไม่ได้เรยนวิชาสังชวนร้รู ่ายมนตร์ แลตง้ั พธิ ถกู ต้องตามตาํ ราีการ ชุบนางก็ไม่อาจทําได้ีชายคนที่ ๒ีเก็บไวแ้ ตเ่ ถ้าถา่ น จะได้เปรยบชายี๒ีคนอย่างไรไม่เห็น เหตุ แต่พระราชาป๎ญญาลกึ ลํ้าเหน็ จะทรงอธบิ ายได้ดอกกระมัง\" พระราชาทรงตวาดว่าี\"เอ็งโง่แล้วยงั ดอื้ ด้วย ชายคนที่ ๑ีน้นั เกบ็ กระดูกของนาง รกั ษาไว้ีจึงอยู่ในตาํ แหน่งเสมอลูก ไม่ควรไดน้ างเป็นภรยิ าีชายคนที่ ๓ ได้ชุบนางใหค้ ืนชวิต คอื ใหช้ วติ แกน่ างจงึ อยู่ในตาํ แหน่งบิดาีไมค่ วรไดน้ างเป็นภรรยา สว่ นชายคนที่ ๒ีน้นั เปน็ แต่ เพยงเก็บเถ้าถ่านไวี้ จึงควรได้เปน็ ผัวนาง คาํ อธิบายเช่นน้จะทะลุความโงข่ องเอง็ เข้าไปีทําให้ เอง็ เขา้ ใจไดห้ รอื ยงั \" เวตาลตอบว่าี\"ความโงข่ องขา้ พเจ้าทะลแุ ลว้ แตข่ องพระองค์น้ันยงั จงึ เปน็ เหตุ ใหข้ ้าพเจา้ ได้กลับไปแขวนตัวอยู่ยังต้นอโศกในบัดน้\" คร้นั เวตาลหัวเราะกอ้ งฟาู ลอยไปแล้ว พระวกิ รมาทิตย์กับพระราชบตุ รก็เสด็จ กลบั ไปยงั ตน้ อโศก พระราชาทรงปนี ขึน้ ไปปลดเวตาลมาใสย่ ่ามก็ทรงรําพึงวา่ \"ถา้ เรานั่งลงวางอา้ ยตัวนไ้ วก้ บั ดนิ ใหม้ ันพดู ไปจนสนิ้ ฤทธิ์ของมนั ีบางทจะสําเรจ็ ได้ เมื่อเราเดินพลางีคดิ พลางนนั้ คงจะเหนอ่ื ยเกินไปจนทําให้เสยทมันรา่ํ ไป\" ทรงคิดดังนีก้ เ็ อายา่ มวางลงยังพืน้ ดนิ ทรงน่ังลงข้างๆ แล้วเอาเชอื กผกู ย่ามล่ามกับผ้ารัดสะเอวแน่นหนา รับสงั่ ให้พระราชบตุ รท้าอยา่ งเดียวกัน เวตาลรู้ดงั นนั้ กร็ ้องทกุ ข์ว่า ผิดระเบียบสัญญา พระราชาทรงตอบว่า สญั ญาไม่ได้กล่าววา่ เดินหรอื นั่ง เวตาลสาบานวา่ จะไม่อา้ ปากพดู อะไรอกี จนค้าเดยี ว แตไ่ ม่ช้ากอ็ ดไมไ่ ด้ เอ่ยเลา่ เรอื่ ง ขึ้นอกี เร่ืองหน่ึงซึง่ กลา่ ววา่ เป็นเรอ่ื งจริงตามเคย The Vampire's Sixth Story นทิ านเวตาลเรื่องที่ ๗ เรื่องที่ ๗ เวตาลเล่าว่า ยังมเมอื งชอื่ กุสมาวดีพระราชาคือทา้ ว สุพิจาร มพระราชธดิ า ทรงนามนาง จันทร์ประภา เป็นนางงามย่งิ หญิงทง้ั หลายและทรงชนมายุควรแกก่ ารวิวาหะ วันหนง่ึ ในวสนั ตฤดูีพระราชธดิ าแวดล้อมดว้ ยบริวาร เทย่ วชมพระราชอุทยานีฤดู นัน้ เป็นฤดูไม้เปลย่ นใบแลผลิดอกงามไปท้ังสวน พระราชธดิ าทรงเพลดิ เพลินชมพรรณไม้ีแล สนกุ ในการเยา้ หยอกของหมนู่ างทต่ ามเสด็จ บ้างกเ็ ก็บดอกไมไ้ ลซ่ ดั กันเป็นพวกๆีบา้ งกว็ ง่ิ แข่ง กันตามทางอนั ราบรนื่ บ้างกป็ ีนตน้ ไมเ้ ก็บดอกแลผลีบางพวกก็เพยรจบั เพือ่ นกนั ผลกั ลงสระ เปน็ เวลาท่รืน่ รมยท์ ง้ั พวกีส่วนพระราชธดิ านัน้ ทรงสนุกในการเลน่ ของนางทง้ั หลาย แลทรงเข้า ช่วยเก็บดอกไมซ้ ดั ีแลผลกั คนลงสระมากกวา่ คนอื่นกล้าทํา เพราะนางเปน็ ราชกุมารไมม่ ใคร ซัดดอกไมต้ อบหรอื ผลักลงสระได้
ในวันก่อนเจ้าหนา้ ท่เทย่ วไลค่ นให้ออกไปพ้นราชอุทยาน เพราะขา้ งในจะเสดจ็ ออกนั้นีเผอิญมชายหนมุ่ คนหนึ่งชอ่ื มนสั วี เป็นบุตรพราหมณี์ แลเปน็ ผู้มรปู รา่ งงดงามนัก เทย่ วเล่นในสวนแลมานอนหลับอยใู่ นท่กาํ บังใตร้ ม่ ไม้ เจา้ หนา้ ทไ่ มท่ นั เหน็ จงึ มไิ ดป้ ลกุ ให้ต่นื แลไลไ่ ปให้พ้นกอ่ นท่พระราชธดิ าเสดจ็ ออกชมราชอุทยาน แม้ในเวลาทน่ างจันทร์ประภาแล บรวิ ารมาเล่นอยู่แลว้ น้ัน มนัสวพราหมณห์ นุม่ กย็ งั หลับเป็นสุขอยู่ ฝาุ ยนางจันทรป์ ระภาพระราชธิดาทรงวิ่งแลขว้างดอกไม้จนเหนอ่ื ยแลว้ ก็หยุดเลน่ เสด็จทรงดาํ เนนิ ไปองค์เดยวห่างนางตามเสด็จทัง้ หลาย โดยหวงั จะเสด็จไปพักทต่ าํ หนกั ใน สวนีขณะน้นั มนสั วนอนอยู่ใกล้ทางดาํ เนิน แลได้นอนหลบั มานานจนใกลจ้ ะตืน่ อยู่แลว้ ครั้นได้ ยนิ เสยงนางทรงดาํ เนินร้องเพลงผ่านไปใกล้ๆีมนสั วก็ตืน่ แลลกุ ข้นึ นงั่ ตาสบพระเนตรพระราช ธดิ าตา่ งก็เกิดเสน่หาขน้ึ ในทนั ใด พระวกิ รมาทิตย์ตรสั แกเ่ วตาลว่า \"ไมจ่ ริงีหญงิ กับชายจะรกั กนั ในนาทแรกทส่ บตากันน้ันไม่มในโลก ข้าไมเ่ ช่อื เลย ว่าพระกามเทพจะทรงทาํ อย่างทเ่ อง็ ว่า\" พระราชาตรสั เช่นน้ เพราะข้อทไ่ มท่ รงเช่ือนั้นได้เกดิ แก่พระองคเ์ องหลายครงั้ แล้ว แลไมเ่ ป็นผลดเลยจนคร้ังเดยวี เวตาลตอบวา่ \"เสนห่ าท่เกดิ ในทันทท่หญิงกับชายไดเ้ หน็ กันเปน็ ครัง้ แรกนนั้ เปน็ ของมแนน่ อน จะปฏิเสธเสยอยา่ งไรได้\" พระวิกรมาทิตยต์ รสั ว่า \"ถา้ เชน่ นน้ั เอ็งจะอา้ งหลักฐานไดด้ อกกระมงั \" เวตาลตอบวา่ \"ขา้ พเจ้าไม่จําเป็นตอ้ งอ้างหลักฐาน เพราะมนุษย์ชายหญิงย่อมเปน็ อย่างนนั้ อยู่ มากด้วยกันแล้วีความโง่ของมนษุ ยท์ ้ังหลาย รวมท้ังของพระราชา....\" พระวิกรมาทิตยต์ รสั วา่ \"เอ็งจะเล่านิทานก็เล่าไปีหรือไมเ่ ล่าก็นิ่งเสย\" เวตาลเล่าต่อไปวา่ ีเม่อื พระราชธดิ าแลมนัสวพราหมณ์หนมุ่ ไดส้ บตากนั เปน็ ครง้ั แรก ดงั น้ันกม็ ผลแปลกทส่ ดุ ีคือีมนสั วทนความรักรมุ รงึ ในใจท่เกิดในทนั ทไมไ่ ด้ กล็ ม้ ลงสลบ ไปกับท่ีฝาุ ยพระราชธดิ าทรงเห็นดงั นั้นีพระชงฆ์กอ็ อ่ นแลพระกายก็สัน่ ทรงลม้ สลบไป เหมือนกันีมิช้าพวกสาวใช้ตามไปพบพระราชบตุ รเปน็ ดงั น้ัน กต็ กใจช่วยกนั เชิญพระองคไ์ ป ทรงวอกลบั คนื เข้าพระราชวัง ฝุายมนัสวสลบแนน่ ิง่ ไมร่ ้สู ึกตัวอยูช่ า้ นานจนมพราหมณผ์ มู้ วิชาี๒ีคนีชือ่ ศศีคน หนึ่ง มูลเทวะ คนหนึ่ง เดินเข้าไปในสวนหลวงพบพราหมณ์หน่มุ นอนสลบอยีู่ พราหมณม์ ลู เท วะจึงกลา่ วแกเ่ พ่อื นว่า \"ชายหนมุ่ มานอนสลบอยกู่ บั พ้ืนดินเช่นน้ีเพราะเหตุใด\" พราหมณศ์ ศกล่าววา่ \"คงจะเป็นด้วยมนางงามยิงศรคอื ตาจากธนคู อื ค้ิวถูกชายหน่มุ คนนล้ ม้ ลงสลบไป\" พราหมณ์มูลเทวะกลา่ ววา่ \"เราควรจะแก้ไขให้ฟน้ื ขน้ึ \" พราหมณศ์ ศถามวา่ \"ประโยชน์อะไร\" พราหมณ์มลู เทวะไม่ฟ๎งเพ่อื นทัดทานีว่งิ ไปทส่ ระนํ้าเอาปลาย ผ้าชบุ น้ํามารดพราหมณ์หนุ่ม แลเชด็ หนา้ ให้ีแลว้ พยงุ ตวั ใหน้ ่งั ขึ้นีสกั ครหู่ น่งึ พราหมณ์กไ็ ดส้ ติ คนื มา พราหมณท์ ้ังี๒ีสังเกตเห็นได้วา่ เป็นโรคใจยิ่งกว่าโรคกาย จึงถามว่าเหตใุ ดจงึ มานอน สลบอย่ใู นราชอทุ ยานีมนัสวกล่าววา่ \"บุรษุ พึงเลา่ ความทกุ ข์ให้ฟง๎ แต่เฉพาะผ้ทู จ่ ะช่วยแก้ทกุ ขไ์ ด้ การกลา่ วทกุ ขใ์ ห้ผู้ ซงึ่ เมื่อได้ฟ๎งแลว้ ช่วยระงบั ทุกข์ไม่ไดน้ ้นั หาประโยชน์มไิ ด้ ผ้มู ทกุ ข์ไมไ่ ดด้ อะไรจากคํากลา่ วว่า สงสารีหรอื วาจาเช่นกนั \" พราหมณ์ทงั้ สองได้ฟง๎ มนสั วกล่าวดงั นั้น กพ็ ูดจาประเลา้ ประโลมเอาใจจนเหน็ วา่ กรณุ าจรงิ ีมนัสวจึงเลา่ ว่า
\"พระราชธิดาเสด็จมาในสวนน้เมือ่ ตอนบ่ายวนั น้ ขา้ พเจ้าได้เหน็ นางก็เกดิ ความรกั รมุ รงึ ข้นึ ในใจทนั ทีมอิ าจทรงกายอยู่ได้ ก็ลม้ สลบลงอยู่ดังทท่ ่านมาพบนั้นีถ้าขา้ พเจ้าไม่ได้ นางผ้เู ปน็ พระราชธิดา ข้าพเจ้าก็คงตายีถา้ ได้จงึ จะคงชวิตตอ่ ไปได้\" พราหมณม์ ูลเทวะกล่าววา่ \"เจา้ จงมากบั เราเถิด ข้าจะพยายามดว้ ยอบุ ายทข่ ้าสามารถจะทําไดท้ ุกประการให้ เจา้ ได้นางดังประสงค์ แลถ้าขา้ ทาํ ไมส่ ําเร็จีข้าสญั ญาจะใหเ้ จ้าเปน็ ผูม้ ทรัพยม์ ากมาย ไม่ตอ้ ง พงึ่ ใครในโลกอกต่อไป\" มนัสวกล่าวว่า \"พระผ้เู ป็นเจ้าไดท้ รงสร้างมณขี ึน้ ในโลกนเี้ ปน็ อนั มาก โดยพระประสงคจ์ ะ ทรงอุปการะเหลา่ ชน แต่มุกดาคอื สตรีนนั้ เลศิ ยง่ิ มณที ง้ั หลาย บุรุษมคี วามใครท่ รัพยก์ ็ เพือ่ ใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ก่สตรี แลชายทีส่ ละภริยาเสียแลว้ แม้จะมสี มบัตกิ ใ็ ชอ้ ะไรไมไ่ ด้ ชายทีไ่ ม่มเี มยี สวยน้นั ดกี ว่าดริ จั ฉานท่ตี รงไหน จะต่า้ ช้าไปกวา่ สตั วเ์ ลวทรามเสียอีก ทรัพย์น้นั เป็นผลของความอยู่ในธรรม ความสขุ เป็นผลของความมีทรพั ย์ แลภริยาเปน็ ผลของความมีสขุ ชายไมม่ เี มยี จะมีความสขุ อย่างไรได้\" มนัสวพูดเพอ้ พรา่ํ ไปในทาํ นองน้ ชา้ นานีเพราะความหลงรักีเราทา่ นฟง๎ ดกู น็ ่าจะเหน็ แปลก แต่อาจเปน็ อาการธรรมดาของโรครัก ก็เป็นได้ พราหมณ์มลู เทวะกล่าววา่ ี\"สงิ่ ใดซ่ึงเจา้ ประสงค์ สิ่งน้ันข้าจะทาํ ใหส้ ําเร็จได้ด้วย ความกรณุ าของพระผ้เู ปน็ เจา้ \" มนัสวกล่าวว่า \"ข้าแต่ทา่ นผ้เู ปน็ บัณฑติ ขอทา่ นจงโปรดใหข้ า้ พเจา้ ได้นางสมประสงคเ์ ถดิ \" พราหมณม์ ลู เทวะรับสญั ญาจะจัดการใหส้ มหมายีแล้วพามนสั วกลับไปบ้านของ มลู เทวะ เมอ่ื ไปถึงบา้ นแล้วก็รับรองเป็นอันด เชญิ ให้นัง่ ในท่อนั ควรแลว้ มูลเทวะกไ็ ปหยิบลกู อม มาสองลูก แลว้ อธิบายทใ่ ช้แหง่ ลูกอมนน้ั ให้มนัสวฟ๎งว่า \"ในเรือนของเราน้ีมวชิ าลับซึง่ ไดส้ ง่ ตอ่ เปน็ มรดกกันมาหลายช่วั คน แลข้าใชว้ ชิ า น้กระทาํ ประโยชน์ใหเ้ กิดแก่มนุษย์ แต่การใชค้ วามรู้ของขา้ น้จะสําเรจ็ ประโยชน์กต็ อ่ เม่อื ผซู้ งึ่ มา ขอใหช้ ่วยนนั้ มใจบรสิ ุทธิ์แลต้งั ใจจรงิ ท่จะรบั ประโยชน์ ลูกอมลกู น้ถ้าเจ้าอมเขา้ ในปากีเจา้ จะ กลายเป็นหญิงอายุี๑๒ีปี ถ้าเอาออกจากปากจงึ จะคืนรูปเดิมีถา้ ขา้ ใหล้ กู อมน้แกเ่ จา้ เจ้าตอ้ ง ตง้ั ใจแนน่ อนวา่ จะเอาไปใช้แตท่ างทด่ มิฉะนั้นจะเกดิ เหตเุ ป็นทุกข์แกเ่ จ้าอย่างใหญ่ เหตฉุ ะน้นั เจ้าจงตรึกตรองในใจใหด้ เสยก่อนจงึ รบั ลกู อมน้ไปใช้ ถ้าไม่แน่ใจก็อย่ารับไปเลย\" เวตาลเล่าตอ่ ไปว่า เมือ่ พราหมณ์มูลเทวะกลา่ วเชน่ น้ ชายหนมุ่ ซึง่ กําลงั รักหญิง อย่างรนุ แรงย่อมจะนกึ แนใ่ จแลกลา่ วรับรองทันทวา่ ตนเป็นผมู้ ใจบรสิ ุทธิแ์ ลต้งั ใจจรงิ ท่สุดใน โลก แลมนัสวกไ็ ด้กล่าวยืนยนั เชน่ นนั้ ในทันท มูลเทวะจงึ ส่งลูกอมลกู หน่ึงใหม้ นสั วอมไวใ้ นปาก แตก่ าํ ชบั ให้ระวงั มใิ หก้ ลนื ลว่ งลําคอเข้าไปเป็นอันขาด สว่ นลกู อมอกลกู หนึ่งนนั้ มูลเทวะอมเองี คนท้งั สองก็มรูปเปลย่ นไป มนัสวเปน็ หญงิ สาวสวยีมูลเทวะเป็นพราหมณแ์ ก่อายไุ ม่ตาํ่ กวา่ ี๘๐ี ปี เมื่อแปลงตัวดังน้แลว้ ีคนทั้งสองก็เดนิ ไปสู่พระราชวัง เข้าเฝูาท้าวสพุ ิจาร พระราชา ตรงเข้าไปยังท่เสดจ็ ออกโดยท่มติ ้องมผู้ทูลเบิกเพราะพราหมณผ์ ูใ้ หญม่ เกยรตทิ ่จะ ทาํ เชน่ นนั้ ได้ ฝุายพระราชาเม่อื ทอดพระเนตรเหน็ พราหมณ์ผู้มอายมุ ากเข้าไปในท้องพระโรง ก็ เสดจ็ ลุกขึ้นต้อนรบั เป็นอันด เชือ้ เชญิ ใหพ้ ราหมณแ์ ลนางซึ่งปรากฏเหมอื นหนึ่งลกู สาวนัง่ ในท่ อนั ควร พราหมณ์มลู เทวะก็ท่องมนตร์แลถวายพระพรพระราชาว่า \"พระผู้เปน็ เจา้ องค์ใด เมื่อทรงรูปเปน็ คนคอ่ มไดล้ อ่ ลวงทา้ วพลผเู้ ปน็ ราชาทรง ศกั ดใ์ิ หญ่ เมอ่ื เปน็ นกั รบผูแ้ กล้วกล้าไดน้ ํากองทพั ลิงจองถนนขา้ มสมุทร เมื่อเปน็ โคบาลได้ยก เขาโควรรธนช์ ูไว้ในฝาุ พระหตั ถ์ เปน็ เคร่ืองปูองกันคนเลย้ งโคทง้ั ชายแลหญงิ ใหพ้ ้นภยั ีคือ สายฟูาอันมาแต่สวรรค์ ขอพระผูเ้ ปน็ เจ้าองคน์ ้ัน จงคุ้มครองพระองค์ผ้เู ปน็ พระราชาให้ทรง สวสั ด์มิ สขุ ทุกทิวาราตร\" ทา้ วสพุ จิ ารทรงฟง๎ เพลนิ ีจนพราหมณห์ ยุดพูดแล้วจงึ รบั ส่งั ถามวา่ \"ท่านผเู้ ปน็ อาจารยม์ าจากสาํ นักใด\" มลู เทวะทลู ว่า
\"เมอื งของขา้ พเจ้าอยฟู่ ากเหนือแห่งแมน่ ้าํ พระคงคา ข้าพเจา้ ได้เทย่ วไปจากบา้ น ถึงประเทศท่ไกล แลได้พบนางคนนส้ มควรเปน็ ภริยาแหง่ บตุ รข้าพเจา้ ีขา้ พเจา้ จึงพานางกลับ บา้ น แตใ่ นเวลาทข่ า้ พเจ้าไมอ่ ยนู่ ัน้ ีข้าวปลาอาหารไม่มพอคนกนิ คนในละแวกบ้านของ ข้าพเจา้ อดอาหารีจะอยไู่ ปในทน่ น้ั ไมไ่ ด้ ภรยิ าแลบตุ รขา้ พเจ้าก็อพยพไปอยทู่ ่อืน่ ีข้าพเจา้ ไม่รู้ ว่าท่ไหน แตข่ า้ พเจา้ มนางรุน่ สาวคนนเ้ ป็นเครอ่ื งห่วงอยู่ จะออกเทย่ วตามบตุ รแลภรยิ ากไ็ ม่ได้ แตข่ ้าพเจ้าไดย้ นิ ชนเลอ่ื งลือเกยรติพระองค์ผทู้ รงธรรมีมพระหฤทยั ประกอบดว้ ยกรุณา ข้าพเจา้ จึงกลา่ วแกต่ ัวเองว่าจะพานางมาถวายฝากไว้ีเพื่อได้ทรงดแู ลมใิ ห้ภยั ต่างๆ มมาถงึ นาง จนกวา่ ขา้ พเจ้าจะกลับ ขอพระองคจ์ งโปรดรับนางไวต้ ามปรารถนาของข้าพเจา้ เถดิ \" ทา้ วสุพิจารได้ทรงฟ๎งดงั น้ันีกท็ รงน่ังนิง่ ตรึกตรองอยคู่ รู่หน่ึง เพราะคําทพ่ ราหมณ์ กลา่ วนัน้ แม้เปน็ การยกยอถูกต้องตามพระราชหฤทัยกจ็ ริง แต่ทรงเหน็ ภยั มอยทู่ งั้ สองทางีทาง หนึง่ ถ้าทรงรบั ตามปรารถนาแหง่ พราหมณ์ ก็คอื รบั ฝากนางสาวซง่ึ รูปแลเคา้ หนา้ งดงามีพดู จา สาํ เนยงไพเราะ แลท้ังมตากระเดยดจะเปน็ นกั เลงอยดู่ ้วยีการรบั ฝากนางชนดิ น้ไวใ้ นเรือนนนั้ เปน็ ภยั อยใู่ นตัวไม่ต้องอธิบายีแต่ถ้าไม่รบั ฝากกม็ ภยั อกทางหน่งึ คือจะถกู พราหมณส์ าปให้ พระองค์แลบา้ นเมืองยอ่ ยยบั ไปดว้ ยอาํ นาจความโกรธของพราหมณ์ พระราชาทรงเทยบภยั ท้งั ี ๒ีข้างีเหน็ ว่าภัยขา้ งถกู สาปนนั้ หนักกว่า จงึ รับส่งั แก่พราหมณว์ ่า \"ข้าแตท่ า่ นผเู้ กิดจากเศยรแห่งพระพรหม ขา้ พเจา้ จะรับฝากนางรนุ่ สาวนไ้ ว้ตาม ปรารถนาของทา่ น\" พราหมณม์ ลู เทวะไดฟ้ ง๎ ดังน้นั ก็ถวายพระพรพระราชาดว้ ยถ้อยคาํ อนั ดแลว้ รับ พระราชทานพลแู ลออกจากท่เฝาู ไป (เป็นธรรมเนยมเจ้าของบ้านตอ้ งใหใ้ บพลูแลเครอ่ื งเทศให้ แขกเคย้ ว เม่ือเวลาจะแนะให้ลากลบั ) ครัน้ พราหมณแ์ ก่ออกจากท่เฝูาไปแล้ว พระราชารับสง่ั เรยกนางจนั ทร์ประภาพระ ราชบตุ รเขา้ มาเฝาู ีตรัสว่า \"นางน้เปน็ คู่หมัน้ กับพราหมณห์ นมุ่ คนหนึง่ แลพราหมณแ์ กผ่ ู้เปน็ พ่อผวั พามาฝาก ใหบ้ ิดาคุ้มครองรกั ษาไวจ้ นถงึ เวลาทพ่ ราหมณ์จะกลับมารับ เจ้าจงพานางเขา้ ไปข้างในให้อยู่ ด้วยกันกับเจา้ ีเจา้ จงเอาใจใสด่ แู ลดว้ ยด ไมใ่ ห้ไปพน้ จากตวั เจ้าท้งั กลางวนั แลกลางคืนีท้งั เวลาหลับเวลาต่นื เวลากิน ทั้งเมอ่ื อยู่ในแลไปนอกพระราชวัง\" นางจันทรป์ ระภาพระราชธดิ าได้ฟง๎ รับส่งั ดังนั้นกพ็ านางซ่งึ เปน็ สะใภพ้ ราหมณไ์ ป ยงั ตําหนกั แห่งนาง ตําหนกั นนั้ เดมิ เป็นท่สาํ ราญแลท่สนุก แต่บดั น้เป็นท่ซง่ึ มอาการเห่ยวแห้ง ทําให้เกดิ หงอยเหงาในใจ หน้าตา่ งก็ชักมา่ นใหม้ ดื ีแลสาวใช้ท่เดินไปมากร็ ะวังฝเี ทา้ มใิ หด้ ัง ประหนึง่ ว่า ความเดินดงั จะทาํ ใหเ้ กดิ ความปวดศรษะแกใ่ ครผอู้ ยู่ ฝุายพระราชธิดาีเมอื่ พาสะใภพ้ ราหมณไ์ ปถงึ ตําหนกั แลว้ ก็ทรงเอาใจใส่เป็นอันด แลตรสั กบั นางมากกวา่ ท่เคยตรสั เป็นปกตใิ นหมู่น้ัน จะเป็นด้วยนางสะใภ้พราหมณ์เป็นคนมตา เป็นนกั เลง หรือจะเปน็ ดว้ ยพระราชธิดาทรงรสู้ ึกด้วยไม่มเหตอุ ะไรท่จะทราบได้ ว่าการจะ เป็นไปดังซงึ่ จะเป็นไปก็ตามีพระองค์ี(พระวิกรมาทิตย์) ยอ่ มจะทรงทราบว่าอาจเป็นไดด้ ้วย เหตทุ ั้งี๒ีอย่าง แตข่ ้อทจ่ ะเปน็ ด้วยเหตใุ ดนนั้ ไม่สสู้ ําคัญนกั ีเพราะนางสะใภพ้ ราหมณส์ ังเกตเหน็ ไดว้ ่า พระราชธดิ ามความเศรา้ หฤทัยปรากฏอยูท่ พ่ ระนลาฏีครน้ั เม่ือเข้าท่บรรทมด้วยกันแลว้ นางสะใภ้พราหมณ์จึงทูลถามวา่ ีเพราะเหตใุ ดพระราชธดิ าจงึ มทุกข์ นางจันทรป์ ระภาจงึ ตรัส เล่าเรอ่ื งนา่ สงสารใหน้ างสะใภพ้ ราหมณฟ์ ง๎ วา่ \"วันหน่ึงในฤดูวสนั ต์ ข้ากับบรวิ ารพากันไปเดนิ เลน่ ในอทุ ยาน ข้าได้พบพราหมณ์ หนมุ่ คนหน่งึ รูปร่างงดงามยงิ่ นัก ครนั้ ตาเราทัง้ สองสบกันเข้าก็ล้มลงสลบไปีแลขา้ กล็ ้มแน่นง่ิ ไปเหมอื นกนั ฝุายนางทง้ั หลายซ่งึ เปน็ บรวิ ารของข้า เมอื่ เห็นข้าเปน็ ดงั นั้นก็พาข้าคืนเข้า พระราชวงั ีทง้ั ท่ข้ายงั ไมร่ ูส้ กึ ตวั เหตุดังนัน้ ข้าไม่รู้ว่าพราหมณ์หนมุ่ คนน้ันชื่อไรีบ้านอยูท่ ไ่ หน
แต่ความงามของเขาพมิ พไ์ วใ้ นความทรงจําของข้าีแลขา้ ไม่มปรารถนาจะดืม่ แลกินเลย เหตุ ฉะนผ้ วิ พรรณแห่งขา้ จงึ เผือดซดแลกายซูบผอมไป\" พระราชธดิ าตรสั ดังนแ้ ลว้ กท็ รงถอนใจใหญ่ มสาํ เนยงซ่งึ มนสั วผูแ้ ปลงเป็นสะใภ้ พราหมณ์ไดย้ ินไพเราะทส่ ุด แลพระราชธดิ าทรงพยากรณต์ ามซ่ึงหญงิ ผ้อู ยู่ในความอนั้ ปญ๎ ญา ในเร่อื งรัก มกั จะพยากรณ์วา่ คงจะสิ้นพระชนมด์ ว้ ยอาการฉบั พลนั ในตอนต้นเดอื นหน้าน้นั เอง นางสะใภ้พราหมณ์ไดฟ้ ๎งดังนนั้ ก็แสรง้ ก้มหนา้ ทลู ถามดว้ ยกริ ยิ าเอยงอายว่า \"ข้าพเจ้าทําให้พราหมณห์ นุ่มผเู้ ป็นทร่ ักของนางเขา้ มาเฝูาได้ในบดั น้ นางจะ ประทานอะไรแกข่ า้ พเจ้าเป็นรางวัล\" พระราชธิดาตรัสตอบวา่ \"ขา้ จะยอมเปน็ ทาสของนางรับใช้การอย่างตาํ่ ท่สดุ แลจะยืนพนมมือคอยปฏบิ ัติ นางผู้มคณุ \" นางสะใภ้พราหมณไ์ ดย้ นิ รบั สง่ั ดงั นัน้ ก็คายลูกอมออกจากปากกลายเปน็ มนัสว พราหมณห์ นมุ่ เข้าโลมพระราชธดิ า นางจันทร์ประภาก็ทรงละอายหฤทัยยิง่ นัก \"ขา้ พเจ้าจะเล่าถวายพิสดารวา่ ...\" พระวกิ รมาทิตยต์ รสั ตอบวา่ \"เอง็ ไมต่ ้องเลา่ เรือ่ งตรงนนั้ พิสดารีข้าไม่อยากฟ๎งของเอ็ง\" เวตาลเล่าต่อไปวา่ ีฝุายมนสั วพราหมณ์หน่มุ เมื่อไดเ้ ข้าถึงพระองค์พระราชธดิ า สมปรารถนาีดงั นั้น ก็คํานงึ ถงึ ลักษณะแห่งววิ าหะท้ังแปดอย่างีคอื (๑) ววิ าหะลักษณะพราหมณ์ คือบดิ ายกลกู สาวใหแ้ กพ่ ราหมณ์ (๒) วิวาหะโดยลักษณะเทวดา คอื บิดายกลกู สาวใหแ้ ก่พราหมณ์ผ้กู ระทาํ พิธบชู ายญั ีเป็น คา่ จา้ งในการกระทําพิธน้นั (๓) วิวาหะโดยลักษณะฤาษ คือบิดายกลูกสาวให้แก่ชายซ่ึงให้โคกระบอื แก่บดิ าคู่หน่ึงหรอื สอง คู่ (๔) ววิ าหะโดยลกั ษณะประชาบด คอื เมื่อบดิ าแห่งหญงิ ยกบุตรให้แกช่ ายแลกล่าวแก่คนทั้ง สองวา่ \"เจ้าจงรว่ มกนั ประพฤติธรรม\" (๕) วิวาหะโดยลักษณะอสูร คอื เมอ่ื ชายไดใ้ ห้ทรัพยแ์ กญ่ าตแิ หง่ หญิงจนเต็มทซ่ ่ึงจะใหไ้ ดแ้ ลว้ บดิ าหญงิ ยกบตุ รให้เปน็ ภรยิ า (๖) ววิ าหะโดยลกั ษณะรากษส คือชายแย่งหญงิ ไดใ้ นการรบสู้กบั ผ้ปู กครองของหญงิ (๗) ววิ าหะโดยลกั ษณะคนธรรพ์ คือเม่ือหญงิ กบั ชายไดก้ ันเองด้วยความเตม็ ใจทั้งสองฝุาย (๘) วิวาหะโดยลักษณะปศิ าจีคอื ชายลอบรกั หญงิ เมอ่ื เวลาหลบั หรอื เมาีหรอื สลบไมม่ สติ (มนู ธรรมศาสตร์ี๓:๒๐ีแลตอ่ ไป) มนัสวคํานึงถงึ ลกั ษณะววิ าหะทงั้ แปดน้ เหน็ ว่าลกั ษณะคนธรรพเ์ ปน็ ลักษณะท่ เหมาะกว่าอยา่ งอ่ืน เพราะพระราชธิดาเป็นนางสงู ศักด์ิีมพระชนมายสุ มควรแกก่ ารวิวาหะแล้ว แลมอํานาจโดยธรรมเนยมท่จะร้องขอใหพ้ ระราชบดิ าอํานวยการสยุมพร เม่ือพระราชธดิ าได้ เลือกพระสามตามแบบอย่างซง่ึ พระรามีพระอรชุนีพระนลเปน็ ตน้ ได้พระราชธดิ าแห่งกษัตรยิ ์ ทรงนามเล่ืองลือมาเป็นชายา การทม่ นสั วพราหมณ์หนุม่ นกึ เอาพระนามกษัตริยท์ รงมเกยรตใิ น โบราณกาลมาเข้าแถวกบั ตนเองเช่นน้ กแ็ สดงความกําเริบใจมิใช่น้อยีแตค่ วามฮกึ เหมิ เช่นนน้ั เป็นอาการของผ้ทู ก่ าํ ลังจะได้ลูกสาวของพระราชาเป็นภรยิ า เมื่อมนสั วไดพ้ ระราชธดิ าสมประสงคแ์ ล้วีกอ็ ยภู่ ายในพระราชวงั ประมาณห้าเดอื น เศษ เปล่ยนแปลงกายเป็นชายแลหญงิ ทกุ วันทกุ คืนีจนทราบได้วา่ ไมช่ า้ ก็จะได้เปน็ พอ่ ... เวตาลกลา่ วต่อไปวา่ ีข้าพเจ้ากร็ ้นู สิ ยั คนมากอยู่ แตน่ ิสัยของมนัสวนนั้ แปลกกบั นสิ ยั คนอืน่ ในความรูข้ องขา้ พเจ้าีคนอนื่ ๆ เมื่อได้เปล่ยนจากเพศชายเป็นเพศหญงิ ีแลเปลย่ น จากเพศหญิงเปน็ เพศชายทกุ ี๒๔ ช่วั โมงแล้วีก็คงจะเปน็ ความเปลย่ นท่มากพอในวนั หนึง่ ๆ แต่มนัสวยังต้องการเปลย่ นอิรยิ าบถใหย้ ิ่งกวา่ น้นั อก ไม่พอใจในการท่ต้องแอบซอ่ นอยู่ใน
ตาํ หนักทุกวันทุกคืน ต้องการจะเท่ยวเปลย่ นท่ไปบ้าง จนถึงแก่กล่าวโทษพระราชธิดาว่าไม่พา ออกเทย่ วเปลย่ นอากาศ ส่วนพระราชธิดานั้นีเราท่านน่าจะคิดเห็นว่าเมอ่ื ไดล้ ม้ สลบอยกู่ ับท่ เพราะความ เสนห่ าซงึ่ เกิดในนาทแรกทไ่ ด้พบชาย แลเมื่อฟน้ื จากสลบแล้วยงั ไดบ้ ําเพญ็ พระองคจ์ ะไปสู่ ยมโลก เพราะรกั ยังไม่สาํ เรจ็ ดังไดก้ ลา่ วมาแลว้ เช่นนี้ คร้นั เมือ่ ไดช้ ายท่รักมาสมหมาย ก็นา่ จะ ยงั ไม่เบ่ือีไมน่ ่งั หาวีแลไมแ่ สดงพิโรธเล็กๆีน้อยๆ กอ่ นปีหนึ่งจากวันท่ได้ชายนัน้ มาเปน็ สามี แต่การหาเปน็ เชน่ นน้ั ไม่ นางจันทร์ประภาพระราชธิดาทรงเบอ่ื มนสั วีแลเบ่ือความไมเ่ หน็ คนอนื่ นอกจากมนสั ว เสมอกบั มนสั วเบ่อื พระราชธิดาีแลความไมเ่ ห็นคนอ่นื นอกจากพระราชธดิ า จน นางใกล้จะชวนสามออกเท่ยวอยู่แล้วหลายคร้ัง แตค่ รน้ั เมือ่ สามกล่าวชวนนางไปเท่ยวให้พน้ ความอยดู่ ้วยกันโดยจาํ เพาะไปบ้าง นางก็กลับทรงคิดขนุ่ เคืองวา่ ีมนสั วเบอื่ ความอยดู่ ว้ ยกนั สองตอ่ สอง จึงตรสั ประชดว่าคนมคูแ่ ล้ว ถ้าแม้นหมกั หมมคลุกคลกนั อยู่สองต่อสองแลทะเลาะกันวนั ยังคํ่าๆีก็เปน็ คทู่ ่โง่ท่สุด มนสั วแก้ ว่าีเขาไมไ่ ด้คิดเบ่อื นาง เขาไม่ตอ้ งการอะไรยงิ่ กวา่ ทจ่ ะพานางออกแสดงให้รูก้ นั ท่วั โลกวา่ เป็น ภริยาของเขา แต่นางกย็ งั ไมเ่ ปน็ ท่พอหฤทัยีต้องการโต้ตอบกนั อยอู่ กชา้ นาน ในท่สดุ เป็นอนั ตกลงวา่ จะเลกิ ขงั ตวั เองและออกเทย่ วในทต่ า่ งๆ นางจงึ ไปเฝูาทลู ทา้ วสุพจิ ารพระราชบดิ าว่า นางแลหญิงสะใภ้พราหมณต์ อ้ งการออกเท่ยวกินลม แลไปในท่สําราญตา่ งๆีเพ่ือผาสกุ ทา้ วสพุ ิจารทรงยนิ ดทไ่ ดเ้ ห็นพระราชธิดามอาการนา้ํ นวลข้นึ ีจึงตรสั อาํ นวยว่า เสด็จเทย่ วเตรไ่ ปในทใ่ ดท่สมควรแกเ่ กยรตยิ ศีกแ็ ลว้ แต่นางจะประสงค์ ดงั นพ้ ระราชธดิ าแล มนสั วผ้สู ามี(ในรปู หญิงสะใภ้พราหมณ์) กอ็ อกเทย่ วในท่ตา่ งๆ ตามสาํ ราญ วันหน่งึ ทา้ วสุพจิ ารเสดจ็ ไปเปน็ เกยรติยศแก่การแตง่ งานท่บา้ นมหาอาํ มาตย์ ผู้ อยู่ในตําแหนง่ โกษาธิบดีพระราชธดิ าแลหญงิ สะใภ้พราหมณ์กต็ ามเสดจ็ ด้วย ฝาุ ยชายหนมุ่ ผูเ้ ปน็ บตุ รโกษาธบิ ด เมือ่ ได้เห็นหญงิ สะใภพ้ ราหมณม์ รปู ร่างแล หน้าตางดงามีก็หลงรกั ในทนั ใด เปน็ ครง้ั ท่สองในเรื่องน้ีท่ชายรักหญงิ ในนาทแรกทเ่ หน็ หนา้ ชายหนุ่มจงึ กลา่ วแกเ่ พอื่ นสนิทของตนตามเคยว่า \"ถ้าข้าได้นางนน้ั ีขา้ จะมสาํ ราญในโลกีถา้ ไมไ่ ดข้ า้ จะต้องสละชวติ เสย\" ฝุายพระราชานั้นเมอื่ ได้ทรงสําราญในการเลย้ งแลว้ กเ็ สด็จคืนเขา้ พระราชวัง พรอ้ มดว้ ยพระราชธิดาแลผู้อน่ื ๆีซ่ึงตามเสด็จ สว่ นบุตรโกษาธิบดนนั้ คร้นั นางสะใภพ้ ราหมณต์ ามเสดจ็ กลบั เขา้ พระราชวงั แลว้ ก็ เดือดรอ้ นกระวนกระวายเปน็ กําลัง ตัง้ แต่น้นั มาก็มอาการซบู ซดเพราะทิ้งข้าวท้ิงนา้ํ แลหลบั นอน ไมเ่ ปน็ ปกติ เพอ่ื นสนทิ รคู้ วามในใจเป็นการลับไม่บอกให้ใครทราบีแต่ไม่นงิ่ อยู่ได้นาน เพราะ อดไม่ได้นน้ั อย่างหนงึ่ ีอกอยา่ งหนึ่งอธบิ ายวา่ ีบตุ รโกษาธบิ ดปุวยอาการหนัก ถา้ ขนื นิ่งเสยกค็ ง จะถงึ ชวิต ดังน้ความลบั นน้ั กท็ ราบถงึ โกษาธบิ ดในสองสามวนั นนั้ เอง โกษาธิบดนกึ หนักใจใน การทบ่ ตุ รชายปุวยนน้ั อยแู่ ล้ว ครน้ั ไดท้ ราบสมุฏฐานแห่งโรคก็รบเข้าเฝูาพระราชาีทลู วา่ \"ข้าแตพ่ ระมหาราชาีบุตรชายของขา้ พเจา้ รกั หญิงสะใภพ้ ราหมณ์ คลัง่ ไคลม้ อาการปวุ ยปางตายีไมก่ นิ ไมน่ อนีเฝาู แต่พร่ําเพ้อละเมอฝน๎ ขอพระองค์จงโปรดกรุณาประทาน นางแก่บตุ รข้าพเจ้าเพ่อื ให้คงชวติ ไปเถิด\" ทา้ วสุพจิ ารไดท้ รงฟ๎งดังนนั้ ีก็ทรงแสดงกิริยาพิโรธตรัสวา่ \"เจ้าเป็นบา้ ไปเสยแลว้ หรอื จึงมากล่าวเช่นน้ ข้าเป็นพระราชาจะกระทาํ อยตุ ธิ รรม เชน่ นัน้ ดว้ ยประการใด เจา้ เปน็ ผ้ใู หญ่ยอ่ มจะทราบว่าเม่ือมผูพ้ าผ้อู ยู่ในความปกครองมาฝากให้ อยู่ในอารักขาแหง่ ผมู้ ิอาจใหอ้ ารักขาได้ ผูร้ บั ฝากจะยกผู้อยู่ในความฝากนน้ั ไปให้ผอู้ ่ืนไมไ่ ด้ เป็นอันขาด เจา้ ก็เป็นอาํ มาตยผ์ ้ใู หญ่มสติป๎ญญาีเหตไุ ฉนจงึ มาขอเชน่ น้\" โกษาธบิ ดทราบแจง้ อยใู่ นใจวา่ พระราชาทรงปกครองบา้ นเมอื งไดด้ ้วยเขาเป็นผู้ อดุ หนนุ ถา้ เขาไมไ่ ดอ้ ยรู่ บั ราชการเม่อื ใดีการบ้านเมอื งก็จะทรดุ โทรมไป แลพระราชากจ็ ะต้อง ทรงรับความเดอื ดรอ้ นีอน่งึ โกษาธิบดรจู้ กั พระหฤทัยพระราชาอยู่วา่ มกั จะโอนเอนไปได้เพอื่
ความสะดวกอันควรแก่รปู การณ์ีจึงนึกในใจวา่ \"พระหฤทยั ดังน้อกหนอ่ ยกค็ งเปลย่ น\" แต่มไิ ด้ กล่าวอะไร น่งั ก้มหน้าน่งิ แสดงกิริยาเหมือนผ้ทู ส่ ้นิ หวงั ฝุายทา้ วสพุ ิจารนนั้ ีประเดย๋ วกต็ รสั กร้วิ ีประเดย๋ วกต็ รสั ปลอบีติโทษบ้างียกยอ บา้ ง เพอื่ จะให้โกษาธบิ ดเปดิ ปากทูลขอคาํ อนั ใดท่จะทําใหท้ รงเหน็ ความเป็นไปในใจของเขา ได้ แต่เขากน็ ิง่ อง้ึ ีไมพ่ ดู จาอะไรเลยีจนในท่สุดกราบถวายบงั คมลาออกจากท่เฝูา เดินนา้ํ ตา คลอออกไีปจนถึงประตวู งั ีจงึ กลา่ วแก่ตนเองีแต่มผู้อนื่ ได้ยนิ ว่า \"ตัวกนู อ้ ดข้าวเสยสกั ี๑๐ีวันี กค็ งได้ไปโลกหน้าสมหวัง\" ครั้นเมอื่ โกษาธิบดกลับไปถึงบา้ นแล้ว กเ็ รยกบา่ วไพร่มาพรอ้ มกนั เขา้ ไปเย่ยมลูก ชายในหอ้ งีพบลกู ชายนอนอยบู่ นเสอื่ หนา้ ตาซบู ซดเพราะอดอาหารีบิดาจงึ จบั มอื บตุ รไวี้ แลว้ กระซิบดงั พอใหไ้ ด้ยินกนั ทว่ั วา่ \"ลูกเอย๋ ีพ่อจะแก้ไขอะไรกไ็ ม่ไดแ้ ลว้ จาํ เปน็ จะต้องตายไปตามกนั \" ฝุายพวกบ่าวไพร่เม่ือไดย้ นิ นายพดู ดังน้ัน ต่างคนกห็ ลกออกไปจากหอ้ งแลว้ เลา่ สู่ เพอ่ื นกนั ฟ๎งีแลเพอื่ นกเ็ ลา่ ตอ่ ๆีกนั ไปว่า โกษาธิบดมจํานงจะสละชวิตเสยแลว้ แลตา่ งคนต่างก็ เขา้ ไปดอ้ มมองคอยดวู ่านายจะทาํ จริงตามพดู หรอื ไม่ แลถา้ ยอมตายจะตายอย่างไรีตายทไ่ หนี แลตายเม่ือไร การทบ่ ่าวไพรไ่ ดท้ ราบความต้ังใจแหง่ นายเช่นน้ ถา้ จะกล่าวว่าพากนั เศรา้ โศก เสยใจก็ไม่เชงิ ีจะว่าไมร่ กั นายกว็ ่าไมไ่ ด้ เพราะนายเป็นผใู้ จดมกรณุ าต่อบา่ วแตถ่ งึ กระน้ันบ่าวก็ ใครร่ ้ใู คร่เห็นลงั เลครึ่งๆ กลางๆีในใจไม่แนว่ ่าอยากใหเ้ หตเุ กดิ หรือไม่ ท่เป็นเชน่ นก้ ็เพราะความ ต่นื เต้นในใจตามธรรมดามนษุ ย์ซ่งึ หาความยัง่ ยนื มไิ ด้ ตรงน้พระวกิ รมาทิตย์ทรงแค้นเคืองในพระหฤทัย เพราะเหตุเวตาลกลา่ วติเตยน ธรรมดาแห่งมนษุ ย์ ทรงแสดงพิโรธใหเ้ วตาลรู้สกึ แตม่ ันทําเปน็ ไม่รสู้ ึกีเล่าตอ่ ไปวา่ เมือ่ โกษาธิบดได้อดขา้ วอดนํา้ อยู่แล้วถึงสามวนั อาํ มาตย์ผู้ใหญก่ ป็ ระชุมปรึกษา กนั วา่ ีถา้ พระราชาไมย่ ินยอมตามคําร้องขอ ก็จะพากนั ไปถวายบงั คมลาออกจากราชการไป บวชเป็นโยคีหรอื ไปทาํ อะไรทแ่ ปลกๆีตา่ งๆ การท่เป็นเชน่ น้กเ็ พราะโกษาธิบดเปน็ หัวหนา้ จงู ราชการให้ดําเนนิ ไปนน้ั ข้อหนึง่ อกขอ้ หนงึ่ อํามาตย์เหลา่ น้ันเหน็ วา่ กเ็ มอ่ื ผใู้ หญอ่ ยู่ในตําแหน่ง สงู ถึงโกษาธบิ ดแล้วทลู ขอเทา่ น้ยงั ไมไ่ ด้ ตอ่ ไปขา้ งหน้าใครจะทูลอะไรได้เล่าีเมื่อเปน็ เชน่ น้จะ ทําราชการไปทาํ ไม เช้าวนั ร่งุ ข้ึนขา้ ราชการทั้งหลายก็พร้อมกันเขา้ ไปเฝาู ท้าวสพุ ิจาร ทูลวา่ บตุ รของ โกษาธบิ ดใกลจ้ ะถงึ ตายอย่แู ล้วีเพราะเหตุหวั ใจเต็มแลทอ้ งวา่ ง ถ้าบตุ รตายีบิดาซึง่ ไม่ได้กนิ แลดื่มมาถงึ สามวนั แลว้ ีก็จะพลอยตายดว้ ย ถ้าโกษาธบิ ดตาย ราชการบ้านเมืองก็จะเกิดยุง่ เหยิงเพราะเขาเปน็ นายคลงั ใหญร่ ้บู ญั ชทั้งปวง แลมคํากลา่ วา่ ในเวลานี้ บัญชของบ้านเมอื งน้นั ปลวกกนิ เสยครง่ึ หนง่ึ แลว้ ท่ยงั เหลอื อกครึ่งหนง่ึ กไ็ ม่เป็นประโยชน์ีเพราะกรดหมึกกัดกระดาษ ขาดไปมาก บญั ชหาตดิ ตอ่ กนั ได้ความประการใดไม่ีเหตดุ ังนน้ั ข้าราชการทั้งหลายจึงประชุมพร อม้ กัน ทลู ขอใหพ้ ระราชาประทานนางสะใภ้พราหมณ์แก่บุตรโกษาธิบดดังประสงค์ ความตั้งมน่ั ในพระหฤทัยของพระราชาน้ันทนข่าวปลวกแลกรดหมกึ ไมไ่ ด้ จึงทรงคิดโอนเอนไปข้างจะยอม แต่ยังมพระประสงคจ์ ะแสดงความม่นั คงในพระหฤทยั ใหค้ นท้งั หลายเห็น จงึ ตรัสวา่ โกษาธบิ ด แลบุตรชายเปน็ คนมคุณด เปน็ ประโยชน์แกร่ าชการเพยงไรก็ทรงทราบอย่แู ล้ว แลมพระราช ประสงค์จะช่วยบดิ าแลบุตรนั้นทุกทางท่จะทรงช่วยได้ปราศจากอสตั ย์ แตใ่ นเรอ่ื งน้ไดท้ รงรบั สญั ญาเสยแลว้ ว่าจะคมุ้ ครองนางท่พราหมณ์เฒ่านาํ มาฝากไว้ พระองคจ์ ะยอมสวรรคตเสยสิบ สองคร้งั ยิง่ กว่าท่จะกระทาํ การเป็นท่เสยสญั ญาหรอื ปฏบิ ตั ิหนา้ ทป่ ราศจากความสตั ย์ ท้งั ทรง แสดงธรรมะตา่ งๆ ซ่งึ ไมส่ ู้เก่ยวแก่การขอแลการใหห้ ญิงสะใภ้พราหมณอ์ ันเป็นปญ๎ หาอยูใ่ น เวลาน้นั แตข่ า้ ราชกรทเ่ ฝูาอยกู่ ็พากันตัง้ ใจฟ๎งคําตรสั เพราะไมม่ ใครรู้พระหฤทยั พระราชาเทา่ ท่ โกษาธิบดรู้ จึงพากนั เห็นจริงแลชมธรรมะทท่ รงแสดงใหฟ้ ง๎ ีแลต่างคนกน็ ง่ั นง่ิ อยู่ ฝุายพระราชาทรงคอยอยู่ครู่หนึ่งให้ธรรมะซมึ ซาบเข้าไปในใจผู้ฟง๎ แลว้ ก็ตรัสเสย ใหม่ให้ผลแหง่ คําสอนทม่ ในใจข้าราชการเหล่านัน้ ค่อยเบาบางลงไป โดยท่ตรสั วา่ ธรรมะซ่ึง
ทรงแสดงน้ัน ได้ทรงรบั เปน็ คําสั่งสอนของพระราชบดิ าแลพระราชมารดาซึ่งทรงธรรมอย่างสูง ท้ังสองพระองค์ แลเปน็ ธรรมะซงึ่ บรุ ษุ พงึ ประพฤติแลเคารพโดยปกติีแตถ่ ้าเกิดปญ๎ หาแปลก ธรรมดาแลผดิ ปกติ การดาํ เนินทางธรรมจะแผกเพย้ นไปจากรอยเดิมบ้างีถ้ายงั เปน็ ธรรมอยู่ ก็ อาจแผกเพย้ นไปไดี้ เพราะการดําเนนิ ตามรอยแคบนั้นีย่อมแสดงนาํ้ ใจแคบ พระองคม์ พระราช ประสงค์ให้ชนท้งั หลายเห็นวา่ ีพระองค์มิใชพ่ ระราชาท่มพระหฤทัยแคบ จงึ พระราชทาน อนุญาตใหข้ า้ ราชการทัง้ หลายกล่าวช้แจงให้ทรงเห็นชอบวา่ ในการเรื่องนเ้ ปน็ หน้าท่ของ พระองค์ทจ่ ะต้องเสยสญั ญาท่ประทานไวแ้ ก่พราหมณ์เฒ่า แลเป็นหนา้ ทข่ องพระองค์ท่จะต้อง ประทานเมยของคนอน่ื ให้แกบ่ ุตรชายโกษาธิบด ฝาุ ยเหล่าอาํ มาตยท์ เ่ ฝูาอยนู่ ้ัน เมื่อได้ยินพระราชารบั สั่งขา้ งท้ายน้กด็ ใจีจึง ช่วยกันทลู ชแ้ จงด้วยคําต่างๆ กนั ซ่ึงรวมอยใู่ นชอ่ื ว่านํา้ ท่วมทุ่งีรวมความวา่ พราหมณเ์ ฒา่ น้นั ก็ สญู หายไปชา้ นาน บัดนค้ งจะตายแลมผ้เู ผาเสยแล้ว อนง่ึ หญิงสะใภ้แหง่ พราหมณน์ ั้นกเ็ ปน็ แต่ ได้หม้ันคกู่ ันไว้กับบตุ รพราหมณ์ หาไดม้ วิวาหะไม่ เขาทง้ั หลายจึงเหน็ สมควรทจ่ ะประทานนาง ซึ่งผ้นู าํ มาฝากคงจะตายแลว้ แก่บตุ รโกษาธิบด เพอ่ื ใหร้ าชการบ้านเมอื งยืนยงต่อไป สว่ น พราหมณ์เฒา่ นั้นหากยงั ไม่ตายจะกลบั มาก็ควรประทานทรพั ยใ์ ห้มากมายจนเปน็ ทพ่ อใจ หรอื ถา้ ยังไม่พอใจีก็ประทานนางอนื่ ซงึ่ งามกวา่ น้ใหพ้ ราหมณ์เฒา่ พาไปเปน็ ภรยิ าบตุ ร กล่าวการ สละีคนควรสละบุคคลเพื่อประโยชน์แก่ครอบครวั สละครอบครัวเพ่อื ประโยชน์แกก่ รงุ ีสละกรงุ เพือ่ ประโยชนแ์ ก่พระราชา ทา้ วสพุ ิจารเม่อื ได้ฟ๎งอาํ มาตย์ทั้งหลายกราบทูลดงั นนั้ กต็ รัสว่าีป๎ญหานม้ ขอ้ ท่ ควรคาํ นงึ ท้ังสองฝาุ ยีจะทรงตรกึ ตรองดใู หร้ อบคอบในคนื นั้น รุง่ ข้นึ ขึงจะตรัสใหอ้ ํามาตยท์ งั้ ปวงทราบกระแสพระดําริ ตรัสดงั น้แล้วก็รบั สัง่ ให้อํามาตยท์ ้งั ปวงออกจากท่เฝูา ฝาุ ยพวกอาํ มาตย์เมือ่ ได้ยินรับสั่งดงั นนั้ ก็นกึ แนใ่ จว่าพระราชาคงจะเสด็จเขา้ ไป ปรึกษาพระมเหสีแลนางขา้ งใน เขาทัง้ หลายก็มความยินด เพราะหวงั ได้ว่านางท้งั ปวงคงจะ ตอ้ งการใหม้ วิวาหะเป็นการใหญ่ แลสว่ นนางสาวผเู้ ป็นสะใภพ้ ราหมณน์ ้ัน เม่ือจะไดแ้ ตง่ งานด เชน่ น้ก็คงไมท่ ิ้งโอกาสปจ๎ จุบันีคอยหาโอกาสอนาคต อาํ มาตยท์ ง้ั ปวงออกจากเฝูาแลว้ ก็รบไปเลา่ ความให้โกษาธบิ ดทราบ แลโกษาธิ บดกับบุตรก็กนิ ขา้ วด้วยกนั ในคนื นน้ั เปน็ ครง้ั แรกในเวลาหลายวัน ฝาุ ยทา้ วสพุ จิ ารเมือ่ เสดจ็ คนื เขา้ ขา้ งในแล้ว กเ็ สด็จตรงไปยงั ตาํ หนักพระราชธิดาี ตรัสแก่หญิงสะใภพ้ ราหมณ์ว่า \"เจา้ จงไปอยกู่ ับบตุ รชายโกษาธิบด\" เวตาลกล่าวต่อไปวา่ นางจันทรป์ ระภากับมนัสวในเวลากลางคนื ทะเลาะกันแทบ ไมเ่ ว้นคืน เพราะฉะนนั้ ในเวลากลางวนั ีนางจันทร์ประภาแลนางสะใภ้ีพราหมณ์เกอื บจะไม่พดู กนั ซึง่ ๆ หน้าีครน้ั เม่อื คนท้ังสองไดย้ นิ พระราชารบั สัง่ ใหพ้ รากกนั ดังนนั้ ต่างคนก็.... พระธรรมธวัชพระราชบุตรทรงฟง๎ เวตาลเพลิน คร้ันได้ยนิ เวตาลพูดถึงเพยงนี้ ยงั ไม่ทนั ขาดคําก็ทรงสอดถามขึ้นว่า \"ดใจใชห่ รอื ไม่\" เวตาลตอบว่า \"หามิได้ ไมใ่ ช่ดใจีเสยใจมากีพระราชบุตรยังอ่อนปญ๎ ญานกั \" พระวิกรมาทิตยต์ รัสกร้ิวพระราชบตุ รีแลห้ามไม่ใหต้ รัสถงึ เร่อื งท่ไม่รู้ แลว้ เวตาลก็ เลา่ ต่อไปว่าีนางจนั ทรป์ ระภาีหญิงสะใภพ้ ราหมณ์ เมื่อได้ฟง๎ ทา้ วสพุ จิ ารตรัสดงั น้นั กห็ น้าซดแลกนั แสงวิงวอนพระราชาด้วยถ้อยคาํ ตา่ งๆ ให้ทรงถอนคาํ ส่งั ีแต่พระราชาหายอมตามไมี่ นางสะใภพ้ ราหมณ์กลา่ วว่า \"ความทรงธรรมอันงามของหญิง ยอ่ มจะสลายไปดว้ ยรูปงามเหลือเกินนัก
พราหมณร์ บั ใช้พระราชาย่อมท้าความเสอื่ มใหแ้ กศ่ าสนาของตน นางโคถ้าไปกินหญ้า ไกลถนิ่ นักกเ็ กดิ ความเสอ่ื มเสีย ทรพั ย์ยอ่ มจะสญู เพราะเจ้าของไมป่ ระพฤตธิ รรม แล ความเจรญิ ยอ่ มจะส้นิ ไปในเรอ่ื งซึง่ เจ้าของไม่ทา้ ตามค้ามัน่ สญั ญา\" นางสะใภพ้ ราหมณก์ ลา่ วเช่นน้ ท้าวสุพิจารกท็ รงเหน็ ชอบทกุ ประการีมิได้ตรัส คัดคา้ นขอ้ ความท่กลา่ วนั้นประการใด แต่กย็ งั ทรงยนื คําท่จะใหห้ ญิงสะใภี้ พราหมณ์ไปเปน็ ภริยาแห่งบตุ รโกษาธบิ ดใหจ้ งได้ นางจันทรป์ ระภากลา่ วว่า พระราชบดิ าเปน็ พระราชาซงึ่ ทรงประพฤติเทย่ งธรรมอยู่ เป็นปกติ มาบดั น้มพระประสงคแ์ ผกเพย้ นไปจากคลองธรรม คงจะเปน็ ด้วยหวงั ประโยชน์แก่ พระองคอ์ ย่างเดยว แลเมอ่ื ใดความเห็นแกป่ ระโยชน์ตนเข้าครอบงาํ ตนีเมอ่ื น้ันขวากก็ ลับเปน็ ซา้ ย ซา้ ยกก็ ลายเป็นขวาีเหมอื นเงาในกระจกคันฉ่อง ทา้ วสุพจิ ารตรัสวา่ ีความเปรยบของนางนน้ั ถูกต้องหาตาํ หนมิ ไิ ด้ แต่ก็ยังมพระ ประสงคจ์ ะให้หญงิ สะใภ้พราหมณไ์ ปเปน็ ภรยิ าแหง่ บตุ รโกษาธบิ ดอยู่นัน่ เอง ฝุายนางสะใภ้ พราหมณ์ีเมือ่ เห็นพระราชามิไดล้ ดหย่อนพระราชประสงค์เช่นน้นั กเ็ พยรจะชักเวลาใหเ้ ยิน่ ออกไปีจึงทลู วา่ \"ขา้ แต่พระมหาราชา ถ้าพระองคท์ รงกําหนดในพระหฤทยั แนน่ อนแล้ว วา่ จะให้ ขา้ พเจ้าเปน็ ภรยิ าแหง่ บตุ รโกษาธิบดีพระองคจ์ งโปรดใหช้ ายหนุม่ น้ันสญั ญาวา่ จะทาํ การส่ิง หนง่ึ ตามความประสงคข์ องขา้ พเจ้าีถา้ เขาไมย่ อมทํา ขา้ พเจ้าก็ไมย่ อมไปอยกู่ บั เขาเปน็ อนั ขาด\" พระราชาตรสั วา่ \"เจา้ จะใหเ้ ขาทําอะไรก็จงวา่ ไปเถดิ \" นางทลู ว่า \"ข้าพเจ้าอยใู่ นตระกูลพราหมณ์ีเขาอยูใ่ นตระกูลนกั รบ ธรรมศาสตรบ์ ญั ญตั วิ ่าเรา ท้งั สองจะววิ าหะกันไม่ได้ เวน้ แต่เขาจะได้เท่ยวยาตราแลว้ ตามบณุ ยสถานทกุ ตาํ บล\" พระราชา ตรัสวา่ \"เจ้าพดู ถูกตอ้ งีเป็นความจริงดังหน่งึ พระเวท\" แลทรงคดิ ยินดท่มช่องทางจะ ยืดเวลาออกไปอกีแลในระหวา่ งเวลาทย่ ืดออกไปน้ัน พระองค์ยงั จะสาํ แดงความม่นั คงใน สัญญาใหย้ าวไปได้อกหนอ่ ยหน่ึง คนื วนั นน้ั ีนางจนั ทร์ประภาแลมนัสวระงับการทะเลาะประจําคนื ตา่ งคนต่างแสดง ความยนิ ดตอ่ กันท่ไดท้ ําอบุ ายให้ภยั ออกห่างไปไดโ้ ดยความนกึ แต่มิไดห้ ่างออกไปโดยความ จรงิ เลย รุ่งข้ึนเช้าทา้ วสพุ จิ ารเสด็จออกรับสง่ั ใหอ้ ํามาตย์ทั้งปวงเขา้ ไปในทเ่ ฝูา รวมทั้ง โกษาธิบดแลบตุ รชายดว้ ย แล้วรบั สงั่ บอกว่าหญงิ สะใภ้พราหมณไ์ ด้กล่าวถูกต้องเปน็ การ สมควรย่งิ นกั คนท้ังหลายไดท้ ราบก็เหน็ ชอบพรอ้ มกัน แต่บุตรโกษาธบิ ดทลู ขอว่าระหวา่ งทต่ ัวเขาไปเท่ยวยาตราอยนู่ ั้นีให้นางไปอยู่ คอยท่า ณีเรอื นแห่งบดิ าของเขาีจนกวา่ เขาจะกลับมาีคาํ ท่ทูลขอนพ้ ระราชาไม่สู้จะโปรด เพราะไม่พอพระหฤทยั ท่จะพรากหญงิ สะใภ้พราหมณไ์ ปจากพระราชธดิ า แต่โกษาธบิ ดแล บุตรชายทาํ ทเหมอื นจะกลับไปอดข้าวน้ําใหม่ พระราชาจึงจาํ เป็นจาํ ต้องตรสั อํานวยตาม ประสงค์ หญิงสะใภพ้ ราหมณ์ก็ถูกฉดุ ครา่ พาไปยังบา้ นโกษาธิบด โกษาธบิ ดพานางไปมอบไว้ กับภรยิ าของตนคนท่สาวแลสวยทส่ ุด แลกําชับวา่ ให้อยู่ด้วยกนั จงดต่างคนตา่ งเอาใจกนั ีอย่า ให้เกิดขนุ่ ข้องหมองใจขึ้นได้ ฝุายบุตรชายโกษาธิบดน้ันกอ็ อกเท่ยวไปตามบุณยสถานต่างๆ ตามกําหนดีฝุาย หญงิ สะใภ้พราหมณี์ ไดอ้ ยูร่ ่วมห้องกบั ภริยาสาวของโกษาธิบด ทนเปน็ หญิงอยู่ไม่ไดต้ ลอด ยส่ ิบส่ช่ัวโมงีกก็ ลายเปน็ มนสั วในกลางคนื แต่ก็ไมท่ าํ ดงั นนั้ ไปได้นานีเพราะบาปกรรมมาตาม ทนั ดงั คาํ ซึง่ มลู เทวะกล่าวไว้ คนื หน่ึงเมื่อได้เป็นมนัสวพราหมณห์ นุม่ อยูต่ ลอดคนื แล้ว จะแปลง ตัวเปน็ หญงิ สะใภพ้ ราหมณี์ เอาลกู อมใส่ปากโดยความเลินเล่อ ลกู อมเล่อื นเลยเข้าคอไปี มนัสวจะแปลงตวั เป็นหญิงก็แปลงไม่ได้ จงึ ต้องรบหนโจนจากหนา้ ต่างหอ้ งภริยาสาวของ โกษาธบิ ดีในเวลาทย่ งั ไม่สว่าง แลเหตุดว้ ยความมดื ีมนสั วโจนพลาดขาแพลงลม้ อยู่กบั ท่ลุก
ไปไม่ได้ ฝาุ ยพราหมณ์มลู เทวะน้นั ีเม่ือไดแ้ ปลงเป็นพราหมณ์เฒ่า พามนัสวซงึ่ ปลอมเป็น หญิงสะใภไ้ ปฝากพระราชาไว้แลว้ ออกจากทเ่ ฝาู กค็ นื รูปเป็นพราหมณม์ ูลีเทวะกลบั ไปหา พราหมณ์ศศ เล่าความใหฟ้ ๎งทกุ ประการีพราหมณศ์ ศไดย้ ินดงั น้ันกท็ าํ หนา้ ขุ่น ใชค้ าํ แขง็ กลา่ ว แก่พราหมณม์ ลู เทวะว่า ความมใจดแลใจอ่อนพาใหม้ ลู เทวะประกอบการเป็นบาปอย่างย่ิงีมลู เทวะเถยงว่า \"ขา้ ไดก้ ําชับชายหน่มุ นั้นแล้ววา่ จะทาํ การเปน็ ท่เรยบรอ้ ยไปได้กด็ ้วยความบริสทุ ธ์ เพราะฉะนั้นอันตรายอะไรจะมเลา่ \" พราหมณศ์ ศกลา่ ววา่ \"ท่านไดใ้ ห้อาวธุ อันคมไปแก่คนโงี่ มนั คงจะไปทาํ อะไรเกิดเหตุข้นึ จงได้ แล ขา้ พเจา้ จะขอพนนั กบั ทา่ นวา่ ีภายในหกเดอื นน้ ถา้ ชายหนมุ่ น้นั ไมไ่ ปทาํ เลอะเทอะให้เกดิ เหตุ ขนึ้ แลว้ ข้าพเจ้าจะยอมยกคัมภร์ทง้ั หลายของข้าพเจ้าให้เป็นทรัพย์ของทา่ น แตถ่ ้าชายหนุ่มนนั้ ไปทําให้เกิดความเปน็ เหตุเสอ่ื มเสย ทา่ นตอ้ งใช้วชิ าของท่านให้ข้าพเจ้าไดพ้ ระราชธดิ าของ ทา้ วสุพจิ ารมาเปน็ ภริยา\" พราหมณท์ ง้ั สองสญั ญากันม่ันคงแลว้ ต่างคนก็กล่าวตกลงแก่กันวา่ ีจะไม่พดู ถงึ เรือ่ งนไ้ ปอกจนใกล้กําหนดหกเดอื น ครั้นใกล้กําหนดพราหมณ์ท้งั สองกเ็ ทย่ วสืบข่าวในทใ่ กล้ พระราชวงั แลสืบต่อไปจนถงึ บา้ นโกษาธิบด ได้ทราบว่ามนสั วคือสะใภ้พราหมณเ์ ฒา่ หายไป จากบ้านโกษาธิบดในเวลากลางคนื ไมม่ ใครทราบร่องรอยวา่ ไปทางไหนีพราหมณม์ ลู เทวะสบื ขา่ วไดค้ วามต่อออกไปอกบา้ ง ตรกึ ตรองเหน็ แน่ชัดวา่ แพ้พนันเสยแล้ว จึงจัดการใชห้ นใ้ หแ้ ก่ พราหมณศ์ ศผเู้ ปน็ เพ่ือนคือส่งลูกอมอกลูกหนึง่ ใหแ้ กพ่ ราหมณ์ศศอม เขาก็กลายเปน็ พราหมณ์ หนมุ่ อ้วนีรูปร่างสะสวยีพราหมณม์ ูลเทวะกอ็ มลกู อมอกลูกหนึง่ กลายเป็นพราหมณเ์ ฒ่าถือไม้ เทา้ ีพาพราหมณ์หนุม่ เขา้ เฝูาพระราชา ฝุายทา้ วสุพิจารเสด็จออกอยู่ในทอ้ งพระโรง ทอดพระเนตรเห็นพราหมณ์เฒา่ เขา้ ไปก็จาํ ไดี้ ใหเ้ กิดกระวนกระวายในพระหฤทัย แต่กท็ รงนบนอบรับสัง่ ให้พราหมณน์ ั่งเปน็ อนั ด แลเมื่อทรงไดร้ บั พรจากพราหมณ์แล้วก็รับส่ังถามทกุ ขส์ ุขตามธรรมเนยม ในทส่ ดุ เม่อื ไดร้ ับสงั่ วกเวยนอยคู่ รู่ใหญ่แลว้ ีจงึ ตรสั ถามพราหมณว์ ่า ไปไหนมาจึงหายไปช้านานีพราหมณ์เฒา่ ทูล ว่า \"ข้าพเจ้าเทย่ วไปหลายแห่งเพื่อจะตามใหพ้ บบุตร ครน้ั เม่ือพบแลว้ กพ็ ากลับมา เฝูาในบดั นี้ ขอพระองคจ์ งโปรดประทานภริยาของเขาแก่เขา แลขา้ พเจ้าจะทูลลาพาบตุ รแล สะใภ้คนื ไปสาํ นักของขา้ พเจา้ ตามเดมิ \" ท้าวสพุ จิ ารรบั สง่ั ออ้ มแอม้ อยูช่ ้านานีตาจะปกปิดไวก้ ไ็ มไ่ ด้ จึงรบั ส่งั เล่าเรอ่ื งให้ พราหมณเ์ ฒา่ ทราบทกุ ประการีพราหมณเ์ ฒ่าแสดงอาการโกรธกล่าววา่ \"พระองค์ทําอะไรอยา่ งน้ พระองคไ์ ม่อยู่ในคาํ สัตย์สัญญาเอาภริยาแหง่ บุตรของ ขา้ พเจ้าไปยกใหว้ ิวาหะกับชายอน่ื พระองค์กระทําแลว้ ตามพระหฤทยั ประสงคี์ แลบัดนจ้ งฟ๎งคํา สาปของขา้ พเจา้ เถดิ \" ท้าวสพุ ิจารทรงตกประหมา่ เดือดร้อนีเกรงคําสาปเปน็ กาํ ลงั จงึ ตรัสแก่พราหมณ์ วา่ \"ทา่ นจงกรุณาแกข่ า้ พเจ้าีอย่าโกรธ แลอยา่ สาปเลยีท่านจะประสงคอ์ ะไรี ขา้ พเจา้ จะยอมตามทุกประการ\" พราหมณ์เฒา่ กล่าวว่า \"ถา้ พระองค์เกรงคําสาปของข้าพเจา้ แลเต็มพระหฤทยั จะประทานสงิ่ ใดไมว่าท่ ขา้ พเจ้าทูลขอ ก็จงประทานนางจนั ทร์ประภาพระราชธิดาให้เป็นภรยิ าบุตรข้าพเจา้ ีถ้าทรงยอม ดังน้ ข้าพเจ้าจะยกโทษถวายีสว่ นตัวข้าพเจ้าเองน้นั ีตั้งแตน่ ้ต่อไป สร้อยมุกดาหรืองูเหา่ มพิษ ก็ตามีฟกู ออ่ นนมุ่ หรือหนิ แขง็ ท่สุดก็ตาม ใบหญา้ ใบหน่งึ หรือหญงิ งามทส่ ุดกต็ ามีขา้ พเจ้าเหน็ เหมอื นกันทั้งนัน้ ความประสงคข์ องข้าพเจ้ามอยู่แต่ว่าจะหาบุณยสถานสกั แห่งหนง่ึ ซึ่งข้าพเจา้ จะไปอยูภ่ าวนาออกนามพระผูเ้ ป็นเจา้ ไปตราบเท่าเวลาตาย\"
ท้าวสพุ ิจารทรงฟง๎ ดังนั้น เห็นพราหมณเ์ ปน็ คนอยู่ในศลในสัตยย์ ิ่งขน้ึ ีกย็ ง่ิ กลัวคาํ สาปทวขนึ้ กว่าเก่า จึงรับสง่ั เรยกโหรเขา้ มา คํานวณถวายฤกษว์ ิวาหะพระราชธดิ ากบั พราหมณ์ อ้วนบตุ รพราหมณ์เฒ่า แลว้ รบั สั่งให้จัดการไปตามประเพณ แต่หาได้ประทานโอกาสใหพ้ ระ ราชธิดายินยอมหรอื โตแ้ ย้งการอันนไ้ ม่ อนั ทจ่ รงิ ถา้ รับสั่งถามพระราชธิดาีพระราชธดิ าก็คงจะ ไม่ขัด เพราะนางทรงทราบขา่ วว่านางสะใภ้พราหมณ์หายไปจากเรอื นโกษาธิบด แลความในจะ เปน็ อย่างไรีพระราชธิดาก็คงจะทรงเดาได้ อน่ึงนางจนั ทรป์ ระภาหยุดประชวรพระโรคลาํ ดบั เดอื นมาหลายเดอื นแล้ว แลนางสงสัยวา่ พระ ราชบดิ าคงจะไม่โปรดการววิ าหะแบบคนธรรพ์ กลา่ วคอื ไม่โปรดใหพ้ ระราชบตุ รมวิวาหะโดยวธิ นั้น ส่วนพระองคพ์ ระราชาเองนัน้ อกอย่างหน่ึง ดังน้พราหมณ์อว้ นีกไ็ ด้รับพระราชธดิ าไปเป็นภรยิ า พร้อมด้วยทรพั ย์ซึ่ง พระราชทานเป็นสินสมรสเป็นอันมาก ฝุายมนัสวนั้นเมือ่ ลุกขนึ้ ไดจ้ ากท่ซึ่งลม้ อยใู่ นเวลาท่โจน จากหนา้ ตา่ งน้นั แล้ว ก็เท่ยวเรน้ ซอ่ นตอ่ ไปีจนไดท้ ราบวา่ พราหมณศ์ ศได้วิวาหะกับพระราชธดิ าี พาไปบ้านแล้ว มนสั วกต็ ามไปท่บ้านพราหมณศ์ ศีกลา่ วแกเ่ จ้าของบา้ นว่า \"ทา่ นจงส่งภรรยาของข้าพเจ้าคืนใหข้ ้าพเจ้า\" พราหมณศ์ ศเถยงวา่ นางเป็นภรยิ า ของเขาตา่ งหาก แลอา้ งพยานคือโหรหลวงแลพราหมณใ์ นพระราชสาํ นักีรวมทง้ั พยานอกหก คนนน้ั ด้วย มนสั วสาบานโดยวิธรุนแรงทส่ ดุ ว่า นางเปน็ ภรยิ าของเขาโดยววิ าหะตามท่ชอบี แลกมุ ารในครรภน์ างก็คอื บุตรของเขา เหตฉุ ะนั้นนางจะเปน็ ภรยิ าของพราหมณ์ศศอยา่ งไรได้ อนง่ึ มนสั วเพยรจะอา้ งพราหมณ์มลู เทวะเปูนพยานีแต่มลู เทวะหลบหายไปเสย มนสั วจึงอา้ ง นางจนั ทร์ประภาเอง แต่นางกลับกลา่ วโดยอาการแค้นเคอื งว่าต้ังแต่เกดิ มายังไมเ่ คยเห็นมนัสว เลย เวตาลกลา่ วตอ่ ไปวา่ ีแต่ถึงมนสั วอ้างพยานไมไ่ ด้ดังนนั้ คนกย็ ังเหน็ จริง เพราะ เรือ่ งของมนสั วเปน็ เรอื่ งแปลกแลไม่น่าเชือ่ คนจงึ พากันเชอ่ื แมท้ กุ วันนก้ ็ยงั มคนหลายคนท่ เห็นว่ามนัสวเป็นผูท้ ไ่ ด้กระทาํ วิวาหะกับพระราชธิดาโดยวิธทถ่ ูกตอ้ งตามธรรมศาสตร์ พระวกิ รมาทิตยไ์ ม่โปรดการลอบรกั ครนั้ ไดย้ นิ เวตาลกล่าวดังนั้นกต็ รัสวา่ \"ถ้าใครเชื่ออย่างเอง็ กล่าวคนน้นั กเ็ ปน็ คนใจลามก เพราะไม่มใครรูเ้ ลยว่ามนัสว ชายชวั่ น้นั เป็นพ่อของกมุ ารในครรภ์ ส่วนพราหมณศ์ ศได้แตง่ งานต่อหนา้ พยานโดยวธิ ท่ถูกตอ้ ง ตามกฎหมายแลยุตธิ รรม เหตดุ งั นั้นนางจึงต้องเป็นภริยาของศศ แลบุตรทเ่ กดิ มานัน้ ก็อาจ กรวดนาํ้ ทําบญุ ไปให้บรรพบุรุษได้ีตามคมั ภรศาสตร์ กฎหมายแลยตุ ิธรรมเปน็ อย่างทข่ า้ วา่ น้\" เวตาลกลา่ วว่า \"ยุตธิ รรมนัน้ บางทกี ็ไมย่ ุติธรรม แลพระองค์จงรีบก้าวพระ บาทเถิด ลองดวู ่าพระองค์จะกลับไปถงึ ตน้ อโศกกอ่ นข้าพเจ้าได้บ้างหรอื ไม่\" เวตาล กลา่ วดังน้ันแลว้ กอ็ อกจากยา่ มลอยหัวเราะกอ้ งฟ้ากลบั ไป The Vampire's Seventh Story นิทานเวตาลเรอ่ื งท่ี ๘ เร่ืองท่ี๘ เวตาลกล่าวว่า ขา้ แต่พระราชาผทู้ รงคุณอันประเสริฐ ข้าพเจา้ มีภักดตี อ่ พระองค์เพราะทรงพยายามมิได้ยอ่ หยอ่ นแลความมพี ระเศยี รดือ้ เช่นน้ี บางทกี ไ็ ด้ผล สมหมาย จงึ เปน็ คณุ ท่ีบุคคลพงึ อดุ หนุนมใิ ห้เสือ่ มคลายไปได้ ข้าพเจ้ามปี ระสงค์จะ ฝึกฝนความเพียรของพระองค์ให้ทวยี ง่ิ ๆ ขึ้น จงึ จะเลา่ นิทานเรือ่ งจริงถวายอกี เร่อื งหนึ่ง เป็นเคร่ืองบา้ รงุ พระเศียรดื้อแลพระปัญญา ในแควน้ องคะ (องคราษฎร์) มพระราชาองคห์ นึง่ ทรงนาม พระยศเกตีุ ปรากฏ
พระรูปประหน่งึ พระอนงค์มาครององค์ เป็นเครื่องเพลินตานางทงั้ หลายีแลนางงามทั้งหลายก็ เป็นเครื่องเพลินพระเนตรพระราชา เพราะเธอทรงหมกไหม้ใฝฝุ ๎นในกามารมณี์ พระเนตรคอยจะ เพลินอยู่ง่ายๆ แลเพราะพระเนตรเพลินง่ายีจํานวนนางขา้ งในจึงไมน่ อ้ ยแลเพิม่ ร่าํ ไป พระยศเกตุมมุขมนตรชอื่ ทีรฆะทรรศนิ เป็นคนเฉลยวฉลาดีรับราชการเปน็ ทไ่ ว้ วางพระราชหฤทยั ไมใ่ ช่เพราะพระราชหฤทัยเปน็ สง่ิ ท่ทรงไวว้ างงา่ ยๆ เป็นเพราะมุขมนตรเป็น คนมปรชาสามารถีเหมอื นสารถซงึ่ เม่อื รูท้ างทน่ ายจะไปแล้ว ก็อาจขบั รถไปใหถ้ ึงท่ไดด้ งั ประสงค์ กล่าวความสามารถปฏบิ ัติราชการีบคุ คลพงึ สมมติวา่ ขา้ ราชการทกุ คนร้ปู ฏบิ ตั ิ มฉิ ะนน้ั ไม่เปน็ ขา้ ราชการได้ีแตค่ วามสามารถนั้นย่อมจะต่างกนั ตามตัวคน แลพระองคค์ งจะ ทราบประเภททก่ ล่าวแยกไวก้ วา้ งๆีวา่ O ธรรมดาขา้ ราชการหลาย อาจจาํ หนา่ ยจาํ แนกแยกเปน็ สอง เสนามาตยม์ นตรมเนืองนอง อยู่ในสองประเภทสังเกตไว้ ประเภทหนง่ึ สามารถรบั ราชกิจ เม่ือตดิ ตอ่ กันอยู่กับผใู้ หญ่ รวู้ ิธย่อหยอ่ นผอ่ นปรนไป ความรใู้ จนายตนไดผ้ ลด ประเภทสองสามารถรับราชกจิ โดยชนดิ วิชาสารถ อาจขับรถชักมา้ พาจรล ไม่ถึงทไ่ ด้ผลเพราะตนเองฯ ทรฆะทรรศนิ เปน็ ขา้ ราชการชนิดสารถทราบวถิ ทางท่ตนจะตอ้ งขับรถ คือพระราช ประสงค์แห่งพระราชาจะให้บา้ นเมืองจาํ เริญสุขีแลสามารถขับรถไปไดโ้ ดยวิถน้นั พระราชาจึง พระราชทานอํานาจใหด้ ูแลราชการบ้านเมอื งไดอ้ ย่างกวา้ งขวาง อย่มู าไมช่ ้าพระราชาทรงสําราญในศฤงคารย่งิ ๆีข้ึน จึงทรงมอบให้ทรฆะทรรศนิ ว่า ราชีการแทนพระองค์ทเดยว พระองค์เองทรงรื่นรมย์อยู่ในหมู่นางสนมีหาเวลาเสด็จออกว่า ราชการมไิ ด้ ฝุายทรฆะทรรศินครน้ั ได้รบั มอบให้ว่าราชการแทนพระองค์พระราชาีก็ปฏบิ ัติโดย ทางทช่ อบ ไดค้ วามเหน็ดเหนอื่ ยทงั้ กลางวนั แลกลางคืน มไิ ดแ้ สวงลาภย่งิ กว่าท่ไดร้ บั พระราชทานอยู่แลว้ โดยปกติ หรอื แสวงอํานาจเกนิ ท่จาํ เป็นจะตอ้ งมสําหรบั วา่ ราชการใน ตาํ แหน่งสงู แตถ่ ึงกระน้นั กไ็ ม่พน้ คําคนนนิ ทาีเพราะการนนิ ทาเป็นของเหลือทีม่ นุษย์จะเว้น ได้ คนบางคนเมอ่ื หันหน้าไปขา้ งขวา กช็ มมือขวานินทามอื ซ้าย เมอื่ หนั ไปขา้ งซา้ ยก็ ยา้ ยไปนนิ ทามอื ขวา มยุตธิ รรมในข้อทน่ ินทาหมดไม่เลือกหน้า สุดแตว่ า่ อยู่ลับหลงั แลว้ เป็น ใช้ได้ พระองคผ์ เู้ ปน็ พระราชาไดท้ รงฟง๎ คนทัง้ หลายยกยอพระองค์คอื เจา้ บทเจ้ากลอนท่เรยก แกว้ ทัง้ เกา้ น้นั เป็นต้น แตใ่ นขณะทถ่ ูกยอมากนัน้ ถ้าทรงคิดว่าถกู นนิ ทานอ้ ยีพระองค์กค็ ิดผิด ไกลทเดยว สว่ นทรฆะทรรศินผู้เป็นมขุ มนตรนน้ั คร้ันไดว้ ่าราชการต่างพระองคพ์ ระราชาไม่นานี กม็ คํากล่าวเลื่องลอื กนั ว่า ทรฆะทรรศินแกลง้ ชกั ชวนใหพ้ ระราชาีหมกมุ่นในกามคุณจนทรง ละเลยราชการบ้านเมอื ง พอพระหฤทัยเปน็ พระราชาแตช่ ่อื เพือ่ อิ่มในศฤงคารี(กาม) เปน็ เหตุ ใหท้ รฆะทรรศินมอาํ นาจเสมอพระเจา้ แผน่ ดินีแลเหตทุ ่ ทรฆะทรรศนิ ชกั พระราชาใหเ้ ป็นไป
ดงั นนั้ ีกค็ ือความประสงค์อํานาจนนั้ เอง ทรฆะทรรศนิ ได้ทราบคําลอื ดงั น้กเ็ กิดความนอ้ ยใจ ครั้นกลบั ไปถึงบ้านจึงกล่าวแก่ นาง เมธาวดีผู้ภรยิ าวา่ \"ดกู รนางผเู้ ปน็ เมยรกั ของขา้ ีพระราชาทรงเพลินในทางบํารุงกาม ละเวน้ ราชการ บ้านเมอื งไมท่ รงหันหาเลย ข้าเปน็ ผู้รบั มอบใหด้ ูแลราชการต่างพระองค์ก็ปฏิบัติการโดยสจุ ริต ไม่คิดแก่เหนด็ เหนอ่ื ย แตบ่ ดั น้มผเู้ ป็นอรขิ องข้าจดั ให้เกิดเล่อื งลอื ทัว่ ไปวา่ ข้าไดร้ วบอาํ นาจ พระราชาเขา้ ไวี้ เพ่ือประโยชนข์ องตนเสยแล้ว การลอื ว่าช่วั น้นั ถงึ จะเปน็ การใสไ่ คล้ีก็ยงั ให้ โทษแก่ผลู้ ือได้ แมค้ นมเกยรตโิ ด่งดังยังไม่พน้ โทษแหง่ ความลอื เท็จีพระรามต้องสละนางสดา เพราะความเลอื่ งลอื วา่ ชว่ั หรือมใิ ชี่ เมื่อการเป็นเช่นน้ข้าจะควรทําประการใด\" นางเมธาวดไมไ่ ดช้ อ่ื ว่าเมธาวดเปล่าๆีฉลาดจริงีๆีด้วย คร้ันไดย้ ินสามกล่าวดงั น้นั ี ก็ตอบว่า \"ข้าแตท่ า่ นผูม้ ใจสจุ รติ ีท่านจงทูลลาพระราชาไปเสยจากพระนคร อ้างเหตวุ า่ จะ ไปยงั ท่านาํ้ อันเป็นบณุ ยสถานต่างีๆีเพ่ืออาบนํ้าล้างบาป เมือ่ ท่านท่องเท่ยวไปต่างประเทศ เสยแลว้ คนทงั้ หลายก็จะเหน็ ได้วา่ ทา่ นมไิ ด้มงุ่ หมายจะหาอาํ นาจีคาํ เลา่ ลือกจ็ ะหมดไปเอง อน่ึงเมอื่ ท่านไมอ่ ยู่ีพระราชาจําตอ้ งทรงดแู ลราชการบา้ นเมืองเอง เพราะไม่มใครอ่นื จะเปน็ ผู้ ตา่ งพระองค์ไดี้ เมื่อได้ทรงว่าราชการจนเตม็ ท่ ความหมกม่นุ ในกายก็จาํ ตอ้ งสร่างีเพราะเวลา ไม่มพอเสยแลว้ ีเมอื่ ทา่ นกลับมา พระราชาอาจเปล่ยนเปน็ อย่างอน่ื ีแลทา่ นจะคืนเขา้ รับ ราชการตามตําแหนง่ เดิมได้ ปราศจากความนนิ ทา\" ทรฆะทรรศินได้ฟง๎ นางเมธาวดกล่าวดังน้นั กเ็ ห็นชอบีจึงเขา้ ไปเฝาู พระราชาทลู วา่ \"ขา้ แต่พระมหากษตั ริย์ ขา้ พจา้ ขอทลู ลาไปต่างประเทศเพื่ออาบน้ําตามท่าบุญ ต่างๆ นํ้าใจขา้ พเจา้ ปลงในการอนั นแ้ ลว้ \" พระยศเกตุตรัสวา่ \"ทา่ นอย่าต้องไปจากพระนครเลยีการทาํ บญุ ท่านอาจทาํ ไดใ้ น เรือนของทา่ น คอื การทาํ ทานเปน็ ตน้ ีซึ่งจะพาทา่ นไปสสู่ วรรคเ์ มือ่ พ้นโลกน้\" ทรฆะทรรศนิ ทูล ตอบวา่ \"ความบรสิ ทุ ธ์อนั เกิดได้ดว้ ยการจา่ ยทรัพย์น้ันบคุ คลพงึ แสวงดว้ ยวธิ ทาํ ทานเปน็ ต้น แต่การอาบนา้ํ ท่ท่าบุญนัน้ ใหค้ วามบริสุทธ์ิอันมิรูเ้ ส่อื มคลาย ผมู้ ปญ๎ ญาพงึ ไปสู่ท่าบุญก่อน ความชรามาเบยดเบยนตน มิฉะนน้ั ไมร่ ้แู น่ได้ว่าจะไปถึงเพราะจะไว้ใจรา่ งกายไมไ่ ดเ้ สยแลว้ พระองค์จงโปรดประทานอนุญาตแกข่ า้ พเจ้าในบดั น้เถิด\" ทรฆะทรรศินทูลดังนน้ั ีพระราชายังมไิ ดร้ บั สัง่ ตอบประการใดเด็ดขาด ปรากฏแต่ว่า ไม่เตม็ พระหฤทัยใหไ้ ปีแลยังไมไ่ ดป้ ระทานอนุญาต พอเจ้าพนักงานหอ้ งสรงเขา้ มาทูลว่า \"ขา้ แตพ่ ระราชา พระอาทิตยก์ าํ ลังตกลงีณีกลางทะเลสาบแห่งฟูาอยู่แลว้ เวลาน้ เปน็ โมงทก่ าํ หนดเวลาสรงแลโมงก็จะลว่ งไปีเชญิ เสด็จเข้าท่สรงเถดิ \" เมอื่ พระราชาไดท้ รงฟ๎ง ดงั น้ันกล็ กุ ขึน้ เสดจ็ สู่ท่สรง ทรฆะทรรศนิ กถ็ วายบังคมแล้วลากลบั บา้ น ครัน้ ถึงบ้านกส็ ัง่ ภรยิ าให้อยดู่ ูการเหยา้ ีแลว้ ลอบเดินทางออกจากพระนครไป แมแ้ ต่บา่ วในเรอื นก็มใิ หท้ ราบีครั้นพน้ พระนครไปแล้วก็เทย่ วไปตามทา่ น้าํ ตา่ งๆ จนเขา้ แควน้ เปาณฑระ ถงึ กรงุ ีๆีหน่ึงซง่ึ อยใู่ กลฝ้ ่ง๎ ทะเล มศาลพระศิวะเป็นท่คนไปบชู ามากีทรฆะทรรศิน ไปถงึ ศาลนนั้ ก็เข้าไปบูชาแลนัง่ พักอยู่ เผอญิ พอ่ ค้าคนหน่ึงช่ือ นิธิทัตต์ีไปบชู าพระศวิ ะท่ศาลนั้นีคร้ันเห็นทรฆะทรรศนิ นั่งพกั อยู่ เห็นได้ว่าอ่อนเพลยเพราะความร้อนดว้ ยแสงพระอาทิตย์ กายกม็ วั ดว้ ยฝนุ ท่เกาะตาม ทางเดินีนิธิทัตต์พอ่ ค้าเป็นคนใจอาร ครั้นเห็นคนเดินทางมอาการดังนน้ั ีทงั้ เหน็ สวมสังวาล พราหมณี์ แลเปน็ ผู้มลักษณะด เหน็ ไดว้ า่ เป็นพราหมณ์มเกยรติีนธิ ทิ ตั ต์จึงเชญิ ใหไ้ ปบ้านของ ตน
ทรฆะทรรศินรบั เชญิ ออกจากศาลตามไปยังบา้ นนิธิทตั ต์ ครัน้ ไปถึงเจ้าของบ้านก็ ต้อนรับเป็นอันดีเชิญให้อาบนํา้ แลเลย้ งอาหารอยา่ งด เสรจ็ แลว้ นธิ ิทัตต์ก็ถามวา่ \"ทา่ นช่อื ไรีมาแต่ไหน แลจะไปไหนต่อไป\" ทรฆะทรรศนิ ตอบความวา่ \"ข้าพเจา้ เปน็ พราหมณช์ อ่ื ทรฆะทรรศินีมาจากองคราษฎรเ์ ทย่ วอาบน้ําตามทา่ บญุ \" นิธทิ ัตตพ์ อ่ คา้ เป็นคนยินดในการรับแขก แลเมือ่ เหน็ แขกลกั ษณะดก็ย่งิ ชอบใจจงึ กล่าวว่า\" \"ข้าพเจา้ กําลงั จะไปค้าขายทเ่ กาะชื่อ สุวรรณทวปี ท่านจงพักอยูท่ ่บ้านขา้ พเจ้าน้ จนข้าพเจา้ กลับ มเวลาพอท่ท่านจะผ่อนกายให้สนิ้ ความเหนด็ เหนือ่ ยีแล้วท่านจึงเดนิ ทาง ต่อไป\" ทรฆะทรรศนิ ตอบวา่ \"ถา้ ทา่ นเตม็ ใจใหข้ า้ พเจา้ ไปด้วย ขา้ พเจ้าอยากจะไปสุวรรณทวปกบั ท่านยง่ิ กว่าท่ จะคอยท่านอยู่ในเรือนน้ แมเ้ รือนของท่านเป็นท่อยู่สบายีขา้ พเจา้ ก็ใครจ่ ะเท่ยวดทู ต่ า่ งๆ มากกวา่ พกั อย่กู บั ท่\" นธิ ทิ ัตตพ์ ่อคา้ ได้ยินดังน้ันกย็ อมตามประสงค์ ทรฆะทรรศินก็พกั อยูใ่ นเรือนน้นั คนื หน่ึง รงุ่ ข้นึ นิธิทตั ตก์ ็พาแขกไปลงเรอื ซงึ่ บรรทุกดว้ ยสินคา้ อันมค่า แลว้ ออกแล่นใบไปในทะเล ทรฆะทรรศนิ ได้เหน็ สมุทรซงึ่ เป็นท่นา่ กลวั แลนา่ พศิ วง มคาํ ถามว่ามขุ มนตรของ พระราชาครองกรุงใหญ่ มกิจอะไรเกย่ วขอ้ งกับการเดนิ เรอื คา้ ขายทางทะเล ถ้าไม่มไซรก้ าร เดินทางครั้งนั้นกไ็ ม่ใชก่ ารท่ทรฆะทรรศินพึงทาํ แต่มคาํ ตอบวา่ แมผ้ ู้เปน็ ใหญ่ถ้าถูกเอาความ ร้ายปาู ยช่ือ กอ็ าจทํานอกทางถึงเชน่ ทท่ รฆะทรรศนิ ทําคร้งั นนั้ ได้ ครัน้ ไปถึงสวุ รรณทวปีนธิ ทิ ตั ต์กท็ ําการค้าขายตามธรรมเนยม พกั อยทู่ เ่ กาะนนั้ จน เสรจ็ การจําหน่ายสินค้าีแลซอื้ สนิ ค้าบรรทุกเรอื ขากลบั ครน้ั เสร็จกิจแลว้ กอ็ อกจากเกาะแล่น เรือกลับมาตามทาง วันหน่งึ ีทรฆะทรรศนิ เห็นคลนื่ ลูกหนง่ึ เกดิ ข้ึนในทะเล แลว้ มต้นกัลปพฤกษ์ผุด ข้ึนมาจากนาํ้ ีกิ่งก้านเปน็ ทองท้งั ต้น มแกว้ ประพาฬประดับเปน็ ช่อีๆีลูกแลดอกล้วนแล้วด้วย มณมค่า ความงามทเ่ หลอื จะพรรณนาได้ีบนกิ่งีๆีหนงึ่ มอาสนะประดับดว้ ยแก้ว บนอาสนะม นางนั่งเอนพิงอย่ีู นางน้ันงามเปน็ ท่พิศวง ทรฆะทรรศินตกตะลึงอยู่ครหู่ นึ่ง นางก็หยิบพณิ ขน้ึ ดด แลขบั ด้วยสาํ เนยงไพเราะจบั ใจ O อนั ปวงกรรมทาํ ไว้แต่ปางหลังีเป็นพืชยงั ปางนใ้ หม้ ผล หว่านพชื ดผลดมแกต่ นีหว่านพืชชั่วกล้วั ผลทข่ ้นแคน้ อันความจรงิ ขอ้ น้มมาแล้ว ไม่คลาดแคลว้ เปน็ อ่นื ทกุ หม่ืนแสน จะเปล่ยนชวั่ ใหด้ มมาแทน ถงึ แม้นแมนแมน่ ไม่เปล่ยนได้เอยฯ เม่ือนางทิพยข์ ับกลอนดังน้ันแลว้ ก็กลับจมลงในทะเลทง้ั ต้นไมแ้ ลอาสนะอนั งาม ทรฆะทรรศนิ ยนื ตะลึงดูนาํ้ ในทะเลเหมอื นหนึ่งว่ามอะไรทพ่ ึงดยู ังผุดข้นึ มาเดน่ อยพู่ ลางรําพงึ ว่า \"วนั นเ้ ราได้เหน็ ส่ิงน่าพิศวงนัก ใครบา้ งคดิ ว่าจะได้เห็นตน้ ไมข้ ้ึนจากทะเลีมนาง ทพิ ยน์ ่งั ขบั กลอนอยบู่ นต้นไม้น้ัน แล้วจมหายไปทันทไมม่ อะไรเหลอื อยเู่ ป็นท่หมายีทะเลน้ เปน็ คลงั ใหญอ่ ยู่ตามเคย เปน็ ทอ่ ยแู่ หง่ สิ่งประเสริฐทง้ั หลายีพระลักษมีพระจนั ทร์ ต้นปาริชาต แลของเลศิ หลายอยา่ งได้ขนึ้ มาจากทะเลน้\" ทรฆะทรรศนิ ยืนตรึกตรองอยูเ่ ช่นน้ด้วยได้เห็นของประหลาด แตน่ ายท้ายแล ลูกเรือท้ังหลายท่ได้เคยเดินทะเลทางนั้นไมเ่ หน็ ประหลาดเลย จงึ กล่าวแก่ทรฆะทรรศนิ ว่า \"นางงามผุดข้นึ จากทะเลบนตน้ ไมน้ ั้นเสมอีแลกลบั จมลงไปเช่นเดยวกนั ทกุ คร้ัง
ทา่ นพึ่งเคยเหน็ จงึ พิศวงีพวกเราเคยเหน็ บ่อยๆ\" ทรฆะทรรศินไดฟ้ ๎งคนประจําเรอื บอกดงั นัน้ ก็ไมห่ ายพิศวง นง่ิ ตรกึ ตรองอยู่ ตลอดเวลาทเ่ รือเดนิ ทาง คร้ันถึงฝ๎่งซ่งึ เปน็ ท่าเรอื ของนธิ ทิ ัตต์พ่อคา้ ีนธิ ทิ ัตตข์ นสนิ คา้ ข้ึนบก พาทรฆะทรรศนิ กลบั บ้านแลมการเลย้ งดูกันตามเคย อยู่มาไมช่ ้าทรฆะทรรศินก็ลานิธทิ ัตต์จะกลับเมืองแหง่ ตน ต่างคนอวยพรแลแสดง ความอาลัยแกก่ นั แลว้ ีทรฆะทรรศนิ กอ็ อกเดินทางบา่ ยหนา้ สู่แควน้ องคะ ครั้นเขา้ ไปในกรงุ ี กองคอยเหตุของพระราชาเห็นทรฆะทรรศินมาแตไ่ กล กร็ บเขา้ ไปเฝาู ทลู ใหพ้ ระมหากษตั รยิ ์ ทรงทราบ พระยศเกตไุ ดร้ ับความลําบากในราชการเป็นอนั มากีในเวลาทม่ ขุ มนตรไมอ่ ยู่ คร้นั ไดท้ ราบวา่ ทรฆะทรรศนิ กลบั มาใกลจ้ ะถึงีกเ็ สดจ็ ออกไปรบั ถึงนอกพระนคร ทรงแสดงความ ยินดทม่ ุขมนตรกลบั มาถงึ ีแล้วเสด็จคืนเข้ากรุง ตรสั ใหท้ รฆะทรรศนิ ซึ่งมร่างกายซบู ผอมแล เปอ้ื นดว้ ยฝุนแลเปอื กตมตามเสด็จเขา้ ไปถงึ พระราชวัง แล้วตรสั ว่า \"เหตไุ รทา่ นจึงกระทาํ การปราศจากกรณุ าแกเ่ ราถึงเช่นน้ ทา่ นท้งิ เราไปเรากไ็ ด้ ความลําบากตา่ งๆ แลตัวทา่ นเองกไ็ ด้ความเดือดร้อนเพราะทรมานร่างกายจนเหน็ ได้ถงึ ปาน ฉะน้ แต่การท่ท่านออกเท่ยวเดนิ ทางเตรด็ เตรไ่ ปเช่นน้ีก็เปน็ ดว้ ยเทพยดาบญั ญตั ไิ ว้ มนษุ ยจ์ ะ แก้ไขใหเ้ ป็นไปอยา่ งอืน่ นัน้ ไม่ได้ ท่านจงเล่าให้เราฟง๎ ว่าทา่ นไดไ้ ปถงึ เมืองไหนบ้าง แลได้เหน็ อะไรแปลกประหลาดในเมืองตา่ งๆีแลระหว่างเดนิ ทาง\" ทรฆะทรรศินไดฟ้ ๎งรบั สง่ั ถามดังนน้ั ก็ทลู เล่าตลอดตัง้ แต่ออกจากพระนครไปจนถึง แลกลบั จากสวุ รรณทวป แลเล่าถงึ นางทิพยอ์ ันเป็นมณของโลกทัง้ สาม ซ่งึ นงั่ บนตน้ กลั ปพฤกษ์ ผุดข้ึนมาจากทะเลน้นั ดว้ ย ฝาุ ยพระราชา ครนั้ ได้ทรงยนิ ทรฆะทรรศนิ มุขมนตรเลา่ ถึงนางทิพยก์ ็มพระหฤทัย ใครท่ ราบยง่ิ ขน้ึ จงึ ตรัสไล่เลยงลกั ษณะความงามแหง่ นางีแลว้ บงั เกิดความรกั รุมรึงในพระ หฤทัย ทรงพระดาํ รวิ า่ ชวิตแลราชัยปราศจากนางเป็นสิ่งไม่มคา่ เสยแล้วีความสขุ ประการตา่ งีๆ จะมไม่ได้ีเวน้ แตน่ างจะเปน็ ผยู้ งั ให้เกิด เวตาลกล่าวต่อไปวา่ ความรักเป็นของมอี า้ นาจย่ิงยวด แม้บุรุษผู้ทรงไว้ซง่ึ อ้านาจกไ็ ม่พ้นความข่มขแี่ หง่ ความรกั ไปได้ ชายบางคนมียศมีเกยี รตมิ ีทรพั ยแ์ ลมีคุณ ความดที ุกประการ เปน็ ผ้ทู รงไว้ซงึ่ ความเป็นไทยแกต่ น จะประพฤตอิ ยา่ งไรประพฤติ ได้ท่ีไมผ่ ิดคลองธรรม จะท้าอะไรท้าได้ทไี่ มผ่ ิดกฎหมาย ชายเชน่ นจี้ ะเลือกมิตรเลือก สหายกเ็ ลอื กไดต้ ามใจชอบ หรอื เม่ือเลอื กไมไ่ ด้ดังนึก กค็ งจะเป็นด้วยฝา่ ยโนน้ ปราศจากลกั ษณะทจี่ ะเปน็ เพือ่ นสนิทกันได้ ไม่มอี นั ใดเปน็ เครือ่ งเส่อื มเสยี ความเปน็ ไทยแกต่ น ชายทมี่ อี ิสระเชน่ นเี้ มอื่ ความรกั เขา้ มาครอบงา้ ก็กลายหมด ความเปน็ ไทย แกต่ นก็เสอื่ มถอย เพราะหัวใจไปถูกมัดตรึงตราเสียแลว้ แมค้ นท่ไี ม่กลวั เทวดา แลไม่ เกรงเดชพระอินทร์ เพราะไม่ได้ท้าอะไรทพี่ ระสวรรคบดจี ะต้าหนิโทษไดก้ ก็ ลับมากลัว สตรตี ัวนดิ เดียวซ่งึ เปน็ ท่รี กั ของตน ไม่ใช่เพราะหญิงมีอ้านาจวาสนายิง่ กว่าเทวดาแล พระอินทร์ เปน็ เพราะตกเปน็ ทาสแหง่ ความรกั หวั ใจถกู ล่ามโซไ่ ว้แน่นหนา ตัวเปน็ ไทย ใจเป็นทาสเสียแล้ว คติแหง่ ความรกั มเี ชน่ น้ี แม้พระยศเกตเุ ป็นพระราชาทรงศักดใ์ิ หญ่ เป็นทน่ ิยมของนางท้งั หลายเพราะชาติ เพราะทรัพย์ีแลเพราะอํานาจ กย็ ังตกเป็นทาสแห่งความรกั ีไม่อาจหกั หา้ มความรุมรึงในพระ หฤทัยได้ จึงรับสัง่ ให้ทรฆะทรรศนิ เลื่อนเข้าไปใกล้พระองค์ีแล้วตรัสว่า \"ข้าจาํ เปน็ จะตอ้ งไปให้เห็นนางองค์น้ันเพราะถา้ จะอยเู่ ชน่ นต้ ่อไปก็จะทรงชวิตไว้ ไม่ได้ ข้าจะไปตามทางทท่ ่านไปีแลท่านอยา่ คิดเลยทจ่ ะหา้ มขา้ หรอื คดิ ท่จะตามขา้ ไปดว้ ย ข้า จะปลอมตัวไปโดยลาํ พังีแลท่านต้องอยู่รกั ษาราชการบ้านเมอื งไว้ ความประสงคข์ องข้า ดงั กล่าวน้ีท่านจะขดั ขืนทดั ทานนัน้ ไม่ได้เปน็ อนั ขาด\"
เม่ือพระราชารบั ส่ังแก่มขุ มนตรเด็ดขาดดังน้แลว้ ก็ตรสั ใหอ้ อกจากทเ่ ฝูา ทร ฆะทรรศนิ ถวายบงั คมลาไปบา้ น นาํ ความยินดมาสบู่ ุตรภริยาแลญาตพิ น่ ้องซงึ่ ตั้งใจคอยท่ามา ชา้ นาน แตท่ รฆะทรรศนิ กม็ ไิ ด้แสดงอาการรื่นเริงในเวลามการรน่ื เรงิ ในบา้ น เพราะอาํ มาตยท์ ด่ ไมอ่ าจเพลดิ เพลนิ ใจได้ในเวลาทจ่ รรยาแหง่ พระราชาของตนไมเ่ ป็นไปในทางท่ควร เวตาลกลา่ วตอ่ ไปวา่ ข้อทก่ ลา่ ววา่ พระราชจรรยาไมเ่ ป็นไปในทางทค่ วรนัน้ ไม่ใช่ ตเิ ตยนความรักหญิง ความรกั หญิงเป็นสงิ่ ท่บุคคลผ้ไู ม่ไดถ้ ือพรตพรหมจรรย์พึงแสวงแลพงึ สงวนไว้มิใหเ้ สื่อมคลายไปได้ บุรุษควรมีความรักเปน็ เคร่อื งน้าความมีภรยิ า ไม่ใช่มภี รยิ า เป็นเคร่ืองนา้ ความรัก เพราะวิธท่สองน้มทางแคลว้ คลาดมาก แลชายผู้มใจสะอาดยอ่ มจะ อยากมอบหวั ใจใหแ้ ก่ภรยิ าตนีเหตุฉะน้นั ท่กล่าววา่ พระราชจรรยาของพระยศเกตเุ ปน็ ไป ในทางท่ไม่ควรน้นั กเ็ ล็งความเพยงวา่ ทรงลุ่มหลงนางมจํานวนมากอยแู่ ล้วียงั จะแสวงตอ่ ไป อกเลา่ ครั้นกลางคนื วนั รุ่งข้ึนีพระยศเกตแุ ต่งพระองคเ์ ปน็ ดาบส เสดจ็ ออกเดนิ ทางไป พระองค์เดยวีตามทางทท่ รฆะทรรศนิ ได้ทลู ไว้ ไดพ้ บฤษองคห์ นงึ่ ชื่อ กศุ นาภะ พระยศเกตกุ ็ เขา้ ไปทาํ การเคารพ เล่าความประสงคท์ เ่ ดนิ ทางใหฤ้ ษทราบแลขอความรู้เพ่อื สาํ เรจ็ หมายีฤษ กุศนาภะตอบว่า \"ท่านจงตง้ั หน้าเดินทางไปดว้ ยความกล้า แลเม่อื ทา่ นลงเรือเดนิ ทะเลไปกบั พอ่ คา้ ชือ่ ลักษมทตั ต์ ท่านจะไดเ้ หน็ นางแลไดน้ างสาํ เรจ็ ประสงค์\" คาํ ท่ฤษกลา่ วน้ นาํ ความเบิกบานมาสหู่ ฤทยั พระราชาเป็นอันมากีจึงทรงนอบนอ้ ม ลาฤษ ออกเดนิ ทางผ่านแควน้ ต่างๆีหลายแควน้ แลทง้ั ได้ขา้ มแม่น้ําแลเขาเป็นอนั มากจนถงึ ฝ๎่งทะเล ได้พบลกั ษมทตั ตพ์ ่อคา้ กําลงั เตรยมการจะเดินทางไปค้าขายท่เกาะสวุ รรณทวป พระยศเกตุซ่งึ ปลอมเป็นดาบสีก็เสด็จเขา้ ไปหาลักษมทัตตพ์ ่อคา้ ลักษมทตั ต์ได้ เห็นดาบสมพระลักษณะเป็นพระราชาคอื รอยบาทมกงจกั รเปน็ ตน้ กก็ ระทําการเคารพรับรองเป็น อนั ดีแลว้ เชิญให้พระยศเกตเุ สดจ็ ลงเรอื ไปด้วย ครั้นไปถงึ กลางทะเล พระยศเกตุไดท้ อดพระเนตรเห็นตน้ กลั ปพฤกษผ์ ดุ ข้ึนมาม นางน่ังอยู่บนกิง่ เธอทอดพระเนตรดูนางเหมือนนกจะโกระเพ่งแสงเดอื นีนางถือพณิ ดดและขับ เพลง O อันปวงกรรมทําไวแ้ ตป่ างหลงั ีเป็นพืชยังปางนใ้ ห้มผล หวา่ นพืชดผลดมแกต่ น หวา่ นพืชชวั่ กลัว้ ผลทข่ ้นแคน้ อันความจรงิ ขอ้ น้มมาแล้วีไม่คลาดแคลว้ เปน็ อื่นทุกหม่นื แสน จะเปลย่ นชว่ั ให้ดมมาแทนีถงึ แม้นแมนแม่นไมเ่ ปลย่ นไดเ้ อยีฯ พระราชาได้ฟ๎งนางขับกลา่ วคติแหง่ กรรมดังน้ ก็เกิดความรกั กลดั กลุ้มในพระ หฤทัยย่ิงขนึ้ ทรงยนื ตะลึงพศิ ดนู างอยูค่ รู่หนง่ึ จงึ ตรสั บูชาทะเลว่า \"ขา้ แต่พระสมุทรผ้เู ป็นคลงั แห่งมณทง้ั หลายีผมู้ นํ้าใจอนั ลกึ บคุ คลไม่อาจหยั่งได้ เพราะเมอ่ื พระองค์ซอ่ นนางน้ไวใ้ นทะเลก็คือซอ่ นนางลักษมไวม้ ใิ หพ้ ระวิษณุเหน็ ขา้ พเจ้าขอ เอาพระองคเ์ ปน็ ทพ่ ึง่ เพือ่ สําเรจ็ ประสงค์ของขา้ พเจา้ \" พระราชาตรัสยังไม่ทันขาดคาํ ต้นกัลปพฤกษ์แลนางทิพย์ก็จมลงไปในทะเล พระราชาก็ทรงโจนตามลงไปประหนึง่ จะดับไฟราคะด้วยนาํ้ ในมหาสมุทร ในทันใดนน้ั ไดท้ อดพระเนตรเหน็ ีแลเสด็จไปถึงเมอื งีๆ หน่ึงงามนักีมแสงระยบั จากเรือนซ่ึงมมณเป็นเสาีทองเปน็ ผนัง หน้าตา่ งแลมา่ นล้วนแตม่ กุ ดาีมสวนซ่ึงมสระอันงามีม ขัน้ บันไดทําด้วยมณสต่างๆ สําหรับเดนิ ลงสระีแลมต้นกลั ปพฤกษห์ ลายตน้
พระราชาทรงเดนิ จากเรือนน้สู่เรือนโนน้ ในเมอื งนั้นจนไดเ้ ท่ยวเกือบจะทั่วทุกเรอื น แต่เรือนเหล่าน้ันแม้จะงดงามประกอบดว้ ยความมง่ั คั่งทุกประการก็ปราศจากคนอยู่ แลพระราชา จะหานางซึ่งเป็นทร่ กั แห่งพระองคก์ ห็ าไมพ่ บ ครัน้ ทรงเดนิ เทย่ วตอ่ ไปอกครู่หน่งึ ีพบวังสูงใหญ่ประดับด้วยมณอันงาม พระยศ เกตุจึงเสด็จเปิดประตูเขา้ ไปเท่ยวทอดพระเนตรขา้ งในพบคนีๆีหน่งึ นอนอยู่บนเตยงมผา้ คลุม อยตู่ ลอดตัวีพระองค์ทรงเปดิ ผา้ ขนึ้ ดูกเ็ หน็ นางผ้เู ปน็ ทร่ กั พักตร์แห่งนางซง่ึ เหมือนเพญ็ จันทร์ นั้นมเคา้ เหมอื นยมิ้ ในขณะท่ผ้าคลุมหลดุ พน้ ไปเหมือนความมดื หลบแสงพระจนั ทร์ พระราชาไดท้ อดพระเนตรดังนน้ั กม็ พระหฤทัยเหมือนหน่ึงคนทไ่ ดเ้ ดินผ่าน ทะเลทรายในฤดรู อ้ นไปพบแมน่ ํา้ ซึง่ เปน็ ท่ชุม่ ช่ืน ฝาุ ยนางน้นั เมือ่ ลืมเนตรขน้ึ เห็นบุรษุ งาม ประกอบด้วยลกั ษณะดเขา้ ไปยนื อย่ขู ้าง ทบ่ รรทมดงั น้นั ีกล็ กุ ขน้ึ ด้วยอาการฉบั ไว แลแสดงเคารพเชอ้ื เชญิ เป็นอันดีพระพักตร์นางกม้ ดู พื้น เหมือนหนง่ึ ให้เกยรตแิ ก่พระบาทพระราชาด้วยเอาบัวคอื พระเนตรลงปกคลมุ แล้วนางตรัส ถามวา่ \"ทา่ นนามอะไรีเปน็ อะไร แลมาในท่อนั มาถงึ ไดด้ ว้ ยยากนโ้ ดยประสงคอ์ ะไร อนึ่ง กายท่านมลกั ษณะเคร่ืองหมายอยา่ งกษัตรยิ ์ีเหตุใดจึงแตง่ เปน็ ดาบส ขอทา่ นจงช้แจงให้ ข้าพเจา้ ทราบ\" พระราชาตรัสตอบว่า \"ข้าเปน็ พระราชาครององคราษฎร์ีทรงนามยศเกตีุ ขา้ ไดย้ นิ จากเพือ่ นผูเ้ ป็น เชื่อถอื ว่า ถ้าใครเดินทางไปมาในทะเลน้ีกอ็ าจได้เหน็ นางผดุ ข้นึ จากทะเลบนตน้ กัลปพฤกษ์ ข้าจงึ แต่งปลอมกายเชน่ นี้ สละราชสมบตั ิเพือ่ จะไดเ้ หน็ นางีแลได้ตามนางลงมาในทะเล ขอ นางจงบอกขา้ ว่านางเป็นอะไร\" นางทลู ตอบด้วยความรู้สึกอาย รสู้ กึ รักีแลรสู้ ึกยินดวา่ \"มพระราชามวาสนาองคห์ นงึ่ เป็นใหญ่ในหมวู่ ิทยาธรีขา้ พเจา้ เป็นธิดาของ พระราชาองค์น้ัน พระบดิ าของข้าพเจ้าเสด็จไปจากกรงุ นพ้ รอ้ มด้วยวิทยาธรทั้งหลาย ทิ้ง ขา้ พเจ้าไวผ้ ู้เดยวีด้วยเหตุไรข้าพเจา้ หาทราบไม่ ข้าพเจา้ อยผู่ ู้เดยวก็มความงว่ งเหงา จงึ ผุดขึน้ ในทะเลแลนง่ั ร้องเพลงเลน่ บนตน้ กัลปพฤกษ์\" พระราชาไดท้ รงฟ๎งเพลิดเพลินสาํ เนยงนางีทงั้ รุมรึงรักรปู แลกิรยิ าทกุ ประการ จงึ ตรัสเชิญนางให้ยนิ ยอมววิ าหะกบั พระองคี์ นางก็ตกลงตามพระประสงค์ แต่ขอใหพ้ ระราชา ประทานคาํ มัน่ ข้อหนึง่ ว่าีเดือนละี๔ีวันีคอื ีวนั ี๘ีคํ่าีแลี๑๔ีคํา่ นางจะไปไหนหรอื ทาํ อะไรี พระราชาจะหา้ มปรามหรือแม้แต่ทัดทานก็ไมไ่ ด้ ถา้ พระราชาประทานคาํ ม่นั ดังน้ีนางจึงจะยอม ววิ าหะดว้ ย เราทา่ นทง้ั หลายเมอ่ื ได้ทราบวา่ การเป็นเช่นน้ ก็ไมต่ อ้ งสงสัยวา่ พระราชาจะ ประทานคําสญั ญาหรอื ไม่ พระยศเกตไุ ด้อยกู่ นิ กับนางวทิ ยาธรเป็นสขุ เหลือทจ่ ะพรรณนา จนวัน หนง่ึ นางทูลพระราชาว่า \"ขา้ พเจ้ามกิจจะต้องไปทอ่ ื่น พระองค์จะต้องคอยอยู่ท่นเ่ พราะวนั นเ้ ปน็ วันี๑๔ีคํ่า อนงึ่ ในเวลาท่ทรงคอยอย่พู ระองคเ์ ดยวนั้นีอยา่ เสด็จเขา้ ไปในหอ้ งน้เปน็ อันขาด เพราะในหอ้ ง นม้ อา่ งแก้วีซึ่งถ้าใครตกลงไปจะไปผดุ ข้ึนในโลกมนษุ ย์\" นางทลู พระราชาเชน่ น้แลว้ ีก็ทูลลาออกไปนอกกรุง พระราชาทรงพระแสงดาบ ด้อมตามนางไปมใิ หท้ ันรู้ีครน้ั ออกนอกนครไปหนอ่ ยหนึง่ พระราชาทอดพระเนตรเห็นรากษส ตัวหน่งึ กายใหญร่ ูปรา่ งนา่ กลวั เหมือนนรกซึ่งสําแดงรปู เป็นสัตวม์ ชวิต อ้าปากใหญ่ดาํ เหมอื น กลางคนื คร้นั เหน็ นางก็รอ้ งด้วยเสยงอนั ดงั แล้วตรงเข้าจับนางใสป่ ากกลืนเขา้ ไป พระราชาเหน็ ดงั นั้นก็พระองค์ส่ันดว้ ยเพลิงแห่งความโกรธ ชักพระแสงดาบตรง เข้าฟน๎ รากษสคอขาดศรษะตกจากตวั ีเลือดไหลนองไป เพลงิ แหง่ ความโกรธของพระราชาก็ ดับดว้ ยเลอื ดแหง่ อสูร แต่เพลงิ แห่งความทกุ ข์ท่ไมไ่ ดน้ างคนื นัน้ หาดับไม่ พระราชาเสยพระ หฤทัยสิน้ สติมิรูจ้ ะทําประการใด
พอนางออกจากกายรากษสไม่มอนั ตรายประการใด ปรากฏความงามตามเคย เหมอื นหนง่ึ แสงพระจนั ทร์ซง่ึ สอ่ งสวา่ งไปท่วั พระราชาทอดพระเนตรเหน็ นางคืนมาดงั น้นั กท็ รง ยินดวิง่ เข้าสวมกอดนาง พลางตรัสถามวา่ การเปน็ เช่นนเ้ พราะเหตุไรีเป็นความฝ๎นหรือความ เปน็ จรงิ นางวทิ ยาธรไดฟ้ ๎งรับสั่งถามดงั นน้ั กก็ ลับระลกึ ความเดมิ ขนึ้ มาได้ีจงึ เล่าถวาย พระราชาวา่ \"ขา้ แต่พระสวามีการท่เกดิ น้มิใช่มายาแลมใิ ชค่ วามฝน๎ เป็นเพราะคาํ สาปของ พระราชาผเู้ ป็นชนกแหง่ ขา้ พเจ้า พระราชานนั้ แตก่ อ่ นกท็ รงครองสมบตั ิอยู่ในกรุงน้ พระองคม์ บุตรหลายองค์แต่ไม่ทรงรกั ใคร่เท่าขา้ พเจ้าีแลในเวลาเสวย ถา้ ขา้ พเจา้ ไม่ได้อยู่เสวยดว้ ยกไ็ ม่ เสวยเปน็ อนั ขาด ส่วนข้าพเจ้าน้นั นับถอื พระศวิ ะดว้ ยความเล่ือมใสจริงๆีเคยมาีณีท่น้ทกุ วนั ี๘ี คาํ่ ีแล ๑๔ีคาํ่ ีวันหนง่ึ ขา้ พเจ้ามาบูชาพระเคารเพลนิ ไปตลอดวนั พระบิดาของขา้ พเจา้ ไม่ได้ เสวยอาหารีต้งั พระหฤทยั คอยข้าพเจา้ จนหิวโหย เกดิ พิโรธเปน็ กาํ ลงั แมค้ วามรกั ขา้ พเจา้ กไ็ ม่ อาจปูองกันไมใ่ หก้ ารเปน็ ไปตามคตแิ ห่งกรรมในปางก่อน คร้นั ขา้ พเจ้ากลับมาเฝูาในเวลาคาํ่ ก็ ทรงสาปว่า \"เพราะเจา้ ทําใหข้ ้าอดอาหารตลอดวนั ต่อไปขา้ งหนา้ เมอ่ื เจ้าออกไปนอกกรุงเพอื่ จะบชู าพระศวิ ะในวันี๘ีคํ่าีแลี๑๔ีค่าํ จงมรากษสมาจับตัวเจ้ากลืนเข้าไปในทอ้ งีแต่ให้เจา้ กลบั ออกมาได้ทางหัวใจรากษส อนง่ึ ไม่ใหเ้ จา้ จําเรอื่ งแลคําสาปน้ได้ ไมใ่ หค้ วามจาํ เจ็บปวดท่ ได้ถูกกลืนเขา้ ไปในทอ้ งรากษสนั้นได้ แลใหเ้ จา้ อย่ใู นกรุงน้ตอ่ ไปคนเดยวี\" เมื่อพระบิดาขา้ พเจ้าสาปดังน้แลว้ ขา้ พเจา้ ก็ค่อยอ้อนวอนจนเธอสงสารแลสาป เพ่ิมเตมิ ว่า 'เมอ่ื ใดพระราชาครององคราษฎรท์ รงนามพระยศเกตไุ ด้มาเปน็ สามของเจ้า เธอได้ ทอดพระเนตรเห็นรากษสกลนื เจา้ ีแลเธอฆ่ารากษสตาย จนเจ้ากลบั คืนออกมาจากหวั ใจ รากษสแลว้ ีเมอ่ื น้นั ให้สน้ิ คําสาปน้ ใหเ้ จ้าระลึกเรอื่ งแลคาํ สาปของข้าได้ีแลให้คนื ความรู้วิทยา ธรได้อย่างเก่า' เมื่อพระบิดาข้าพเจ้าได้สาปข้าพเจ้าเชน่ น้แลว้ กพ็ าบริวารไปอยูเ่ ขานษิ ธในโลก มนษุ ย์ ทง้ิ ขา้ พเจ้าไวใ้ นเมืองน้ีแลการก็เป็นไปตามคาํ สาปน้ันส้นิ แลว้ แลข้าพเจ้ากก็ ลับระลึก เหตกุ ารณท์ ัง้ ปวงได้ เพราะฉะน้นั ข้าพเจา้ จะไปเฝาู พระบิดาท่เขานษิ ธในทนั ท เพราะกฎของ พวกวิทยาธรมอยู่วา่ ีผูใ้ ดถูกสาป เม่อื สิน้ สาปแลว้ ต้องกลบั คนื ไปเข้าพวกโดยเร็ว สว่ นพระองค์ น้นั จะเสดจ็ อยทู่ ่นต่ ่อไป หรอื จะเสดจ็ คนื ครองนครของพระองค์กแ็ ลว้ แต่พระประสงค์\" เม่ือพระราชาทรงฟ๎งดังนี้ กเ็ ดือดร้อนในพระหฤทยั เป็นกาํ ลัง เพราะทกุ ข์วโิ ยค หญงิ ท่รกั นัน้ ีเปน็ ทุกข์หนกั เหลอื หนักีนับประสาแตใ่ คร แม้พระมเหศวรเมือ่ พรากจากพระอุมาี ยงั ทรงกระวนกระวายยวดย่งิ ไหนเลยมนษุ ยเ์ ดินดินจะหกั ห้ามความโศกเสยได้ พระยศเกตุทรงรับทุกขใ์ หญ่หลวงเพราะนางจะตอ้ งพรากไป แตท่ รงเหน็ อบุ ายจะ ยดื ความสขุ ออกไปไดี้ จงึ ตรัสแกน่ างวา่ \"ถ้าจําเป็นจะต้องพรากจากนางเพราะกรรมทําไวี้ ก็เหลอื ท่จะแก้ไขได้ แตข่ อนาง จงกรณุ าแกข่ า้ ผู้สามีอย่าพง่ึ ไปในทันทีหยดุ อยู่ท่นอ่ กี๗ีวนั ใช้เวลาน้ันทําใหค้ วามสุขยืดยาว ออกไปบา้ งีเมือ่ ครบี๗ีวันแล้ว นางจะไปเฝูาพระบดิ าก็ตามปรารถนาีข้ากจ็ ะคืนสู่นครของขา้ \" พระราชาวงิ วอนเชน่ น้จนนางสงสารยอมให้ยดื ความสุขออกไปดงั พระประสงค์ พระราชาก็ทรงสําราญอย่กู ับนางตลอดี๖ีวนั ีครัน้ วันที่ ๗ เธอทรงชวนนางเข้าไปในห้องซ่ึงม อา่ งแก้วอนั เป็นประตูคนื สู่โลกมนษุ ย์ เพอื่ ใหน้ างชใ้ ห้ทรงเหน็ ีแลอธบิ ายให้ทรงทราบวธิ ทจ่ ะ เสดจ็ กลบั คนื พระนคร ครนั้ พระองคแ์ ลนางยืนชะโงกดูอยดู่ ้วยกันท่ปากอา่ งแล้ว พระราชาก็กอดพระศอ นางพาโจนลงในอ่าง ในทนั ใดนั้นสององคก์ ็เสด็จผดุ ข้นึ ในสระแห่งพระราชอทุ ยานในนครของ พระยศเกตุ คนเฝูาสวนเห็นพระราชาเสดจ็ กลบั มากม็ ความยนิ ดรบสง่ ข่าวไปใหท้ รฆะทรรศิน
ผูร้ ักษาพระนครทราบ ทรฆะทรรศนิ กับหมูเ่ สนาอาํ มาตยี์ กพ็ ากนั รบไปรับเสด็จีณ พระราชอุทยานีแล้ว พากันแวดลอ้ มตามเสดจ็ เข้าพระราชวังีส่วนทรฆะทรรศิน เม่ือได้เหน็ พระราชาพานางทิพย์ กลับมาด้วยีกค็ ิดประหลาดแลกลา่ วแกต่ นเองว่า \"พระราชาทาํ อย่างไรหนอจงึ พานางวทิ ยาธรมาได้ นางองค์นเ้ จยวท่เราไดเ้ หน็ นงั่ ดดพิณแลขบั กลอนอย่บู นตน้ กัลปพฤกษ์ซง่ึ ผดุ ขึ้นจากทะเล แลว้ กลบั จมลงไปเรว็ ราวกบั สายฟาู ีการทั้งหลายแม้จะแปลกเกนิ ท่ป๎ญญามนุษย์จะเข้าใจได้ กอ็ าจเกิดแลอาจเป็นไปตามท่ เทพยดาบัญญัตไิ ว้ เหตฉุ ะน้นั แมม้ นุษย์จะได้นางวิทยาธรมาเปน็ ภริยาีกไ็ มค่ วรผอู้ ืน่ จะกระวน กระวายใจ แตค่ วามกระวนกระวายใจนัน้ เลา่ ีก็เกดิ ตามบัญญัตแิ หง่ เทพยดาฉันเดยวกนั จะ แก้ไขดว้ ยอุบายประการใดีเรากส็ ิน้ ป๎ญญาทจ่ ะทราบไดเ้ สยแล้ว ความอดั อ้ันตนั ป๎ญญาน้เลา่ ีก็ เปน็ เพราะเทพยดาบัญญตั เิ หมือนกนั ีเพราะฉะนั้นีฯลฯ\" การทท่ รฆะทรรศินซดั เทพยดาไปทุกอย่างไม่เหน็ ทา่ ทางวา่ จะหยุดเพยงไหนจน ตอ้ งกล่าว ฯลฯีเช่นน้ก็อาจจงู เราท้ังหลายไปในทางทเ่ หน็ ไดว้ า่ ีทรฆะทรรศินใกล้จะถงึ อะไร ส่วนขา้ ราชการอ่นื ๆ ตลอดถงึ ราษฎรพลเมอื งนนั้ ต่างกร็ นื่ เริงเอิกเกริกแสดงความสบายใจท่ พระราชาเสด็จกลบั สกู่ รุง แลท้ังได้พานางวทิ ยาธรมาด้วย ฝาุ ยนางวิทยาธรครน้ั มาถงึ นครของพระราชาผ้สู ามแลพ้นกําหนดี๗ีวันแลว้ ก็ คํานงึ จะกลบั คนื สู่พวกีแตค่ รน้ั จะเหาะกเ็ หาะไมข่ นึ้ ีเพราะลืมวชิ าน้ันเสยแล้ว เมื่อนางรสู้ ึกว่า นางเสื่อมความรู้ีกเ็ ดอื ดรอ้ นหฤทยั ีแสดงอาการเศร้าโศก พระสวามสังเกตเห็นก็ตรสั ถามว่า \"เหตไุ รจึงเปน็ เช่นนัน้ \" นางทลู ตอบวา่ \"เพราะขา้ พเจ้ารักพระองค์ ยอมอย่กู ับพระองค์นานเกนิ ควรไม่รบกลบั ไปเข้าหมู่ วทิ ยาธรในทันทท่สิน้ สาป จงึ ถกู ลงโทษคือลมื วชิ าเหาะเสยแล้วีขา้ พเจา้ จะกลบั ไปยงั ถิน่ ทพิ ยก์ ็ กลบั ไม่ได้\" พระราชาได้ทรงฟ๎งดังนั้นกท็ รงยนิ ดนกั ีตรัสว่า \"ครั้งน้ขา้ ได้นางวิทยาธรไว้แน่แลว้ \" ฝุายทรฆะทรรศนิ เม่อื ได้ทราบดงั นนั้ กต็ รึกตรองต่อไปตามแนวความคิดท่เริ่มแต่ วันทไ่ ปรับเสดจ็ พระราชาทพ่ ระราชอทุ ยาน ครัน้ กลับไปบา้ นกน็ อนคํานงึ ต่อไปอกจนดับชวิตไป ดว้ ยความเสยใจ รงุ่ เช้ามผนู้ าํ ความเขา้ ไปทลู ีพระราชาก็ทรงเศรา้ โศก แต่เมือ่ ไมม่ ใครช่วยแบง่ เบา ภาระปกครองราชการบ้านเมอื งีพระราชากต็ อ้ งทรงทาํ เอง ทรงพระชนม์ยนื ยาวมนางวทิ ยาธร เปน็ ทร่ กั ร่วมพระหฤทยั เวตาลเล่ามาดงั น้แลว้ กห็ ยุดอย่คู รหู่ น่งึ ีแล้วทลู ถามพระวกิ รมาทติ ยว์ ่า \"พระองคท์ รงทราบหรอื ไมว่ า่ ทรฆะทรรศนิ เสยใจตาย เพราะไมไ่ ดน้ างมาเป็นเมย ตวั เองดอกกระมังีถ้าทรงคดิ ดังนั้น ก็คงจะเป็นดว้ ยทรงเห็นว่าทรฆะทรรศินเสยใจเพราะตัวเอง เห็นนางก่อน ถา้ ไมน่ าํ ความมาเล่าถวายพระราชาีแลถา้ ตัวพากเพยรเองกอ็ าจได้นางมาเป็น เมย\" พระวิกรมาทติ ยไ์ มโ่ ปรดคาํ ท่เวตาลทายพระหฤทัยผิดๆีจงึ ตรสั ว่า \"ข้าไมไ่ ดค้ ิดอยา่ งเอ็งวา่ ีทรฆะทรรศนิ เปน็ คนด ไม่ใช่คนชนดิ นนั้ \" เวตาลทลู ว่า \"ถ้าเชน่ น้ันคงจะเป็นดว้ ยทรงเหน็ วา่ ทรฆะทรรศิน เสยใจท่พระราชาเสด็จกลับมา รับความเป็นใหญใ่ นบา้ นเมอื งคนื ไป ตวั ทรฆะทรรศนิ สิน้ อํานาจเสยแล้วีจงึ เสยใจถงึ ชวติ ธรรมดาคนเม่ือได้ชิมความมอํานาจแล้วีไหนเลยจะไมเ่ สยใจในเวลาทต่ ้องลดตวั ลงมา\" พระวิ กรมาทติ ย์ตรสั ตอบว่า
\"ไมใ่ ชอ่ ย่างนัน้ เป็นอนั ขาด ข้าได้กลา่ วแลว้ ว่าทรฆะทรรศินเป็นคนดีหาใชค่ น ชนดิ นน้ั ไม่ เหตุท่ทาํ ใหท้ รฆะทรรศินเสยใจจนตายนนั้ ีกเ็ พราะราํ ลกึ วา่ แต่นางมนุษย์พระราชา ยังล่มุ หลงละทิ้งราชการบา้ นเมืองเสยแล้ว ก็เม่ือไดน้ างวทิ ยาธรมาเชน่ นี้ จะเป็นอยา่ งไรตอ่ ไป อกเล่า ตัวทรฆะทรรศินเองไดเ้ หนด็ เหนื่อยมามาก จนถึงกับเท่ยวเดินทางตรากตรําโดยหวงั ว่า พระราชาจะคนื ดีการก็กลบั ตรงกนั ข้ามดังน้ เป็นท่นา่ เสยใจนกั ีทรฆะทรรศนิ คดิ ดงั นจ้ งึ ตายดว้ ย ความเศรา้ ใจ\" เวตาลหัวเราะทลู ว่า \"ถา้ พระองค์ต้องกลบั ไปต้นอโศกอีกหลายเทีย่ ว กอ็ ย่าทรงเศรา้ โศกเสีย พระชนมเ์ รว็ นกั \" ทูลเทา่ นนั้ แล้วกห็ ลุดลอยกลับไปอย่ตู น้ อโศกตามเดมิ The Vampire's Eighth Story นิทานเวตาลเรื่องท่ี ๙ เรอื่ งท่ี๙ เวตาลเล่าเรอ่ื งซึ่งยนื ยนั ว่าเป็นเร่ืองจรงิ อีกเรื่องหน่ึงวา่ กวา้ งแลไกลในประเทศอนั งามซ่งึ ชนอารยะผ้มู ถิน่ เดมิ ในแผ่นดินสงู ทางตะวนั ตก สาดกนั มาต้ังภูมิลําเนา เป็นปกึ แผน่ อย่นู ัน้ ีเกยรตแิ ห่งนาง มกุ ดาวลี บตุ รพราหมณ์ หรทิ าส เลอ่ื งลอื ทกุ ทศิ ีบณั ฑติ แลกวนบั จํานวนร้อยพากันแต่งกาพย์กลอนสําแดงความรัก บ้างกก็ ล่าว ว่านางอยูใ่ นท่ใดีทน่ ั้นย่อมสวา่ งเหมอื นแสงฉายในเดือนมดื บ้างกก็ ลา่ วสรรเสรญิ ความงาม แหง่ นางแลแสดงทุกขท์ เ่ กิดเพราะความรัก O อ้าอนงคท์ รงศกั ดดิ์ ว้ ยี ศรดอก ไมแ้ ฮ จากแหลง่ แผลงตรงตอกี อกขา้ โปรง่ ปรทุ ลเุ ล่หห์ อก ไล่ห่ัน O สาวสวรรค์ดัน้ จากดา้ ว แดนสวรรคี์ ใดฤา อา่ เอ่ยมองค์เอวอนั ี ออ่ นชออ้ น เพญ็ พกั ตร์ลกั ษณ์ลาวัณย์ ราววาด โอ้อกสทกทกุ ขส์ ท้อนี ท่าวสท้านลาญหลง O เดยวดอมกรอมทกุ ข์กลํ้าี กรงึ กมลีหม่นแล กองระกาํ ดาํ กล ก่นเศรา้ เพลิงร้อนจะผอ่ นปรนี พอปลด รอ้ นราคเราเรา่ ร้อนี รุ่มรอ้ นรอนทรวงฯ O เปล่าเปลย่ วเห่ยวอกโอ้ี โอ๋อก หนาวจติ คืออุทกี สทกสทอ้ น คดิ โฉมประโลมกกี กอดอุ่น กายแมเ่ ยน็ ยามรอ้ น อ่นุ เนือ้ ยามหนาวฯ O ใคร่สมสมใคร่ได้ี ทางใด แมเ่ อย เจ็บจิตอาจณิ ใจี จักขวา้ํ โหยหวนอ่วนอกไอ เปน็ เลอื ดีแล้วแม่
แรงรกั ชักชอกชา้ํ ใช่ชา้ ลาตายฯ บ้างก็แตง่ คาํ ฉันทล์ าํ ดบั ครลุ หีุ ซึ่งตนเหน็ ไปเองวา่ ไพเราะ กล่าวชมแลเชิญนางให้ ยนิ ยอมววิ าหะกบั ตน O อา้ อไุ รพธู พบพู บิ ูลย์ เฉลาแชลม่ แจรม่ จรญู เจรญิ ภาส O ตสู วงิ สวายเพราะสายสวาท รทวยบป่ ลด ระทดบ่ปราศ บ่ปลดิ โศก O แสนจะเสยวจะสร้านี ณีวารวโิ ยค จะขา้ มีณีหว้ งบ่ลว่ ง ณีโอฆกอ็ กกรม O ใคร่เสนห่ ะนิตย์ สนทิ สนม จะแนบจะนทิ รจ์ ะชดิ จะชมีณีเชิงรัก O เชญิ สมรสุมาลย์ สมานสมคั ี ประสานประสงคป์ ระจงประจักษ์ ประจวบใจฯ บา้ งกก็ ลา่ วลบหลตู่ นเองดว้ ยความขุ่นแค้นทไ่ ม่สมหมาย แลกระเดยดไปขา้ ง โลกจะแตกเพราะเหตนุ น้ั O โอ้อาตมะอกวติ กย่ิง เพราะวหญิงวยาภา ฉนั ใดจะไดส้ มรมาี นิทระแนบพนอชม O ใคร่สมบ่สมหทยะใคร่ี กไ็ ฉนจะได้สม โหยหวยระทวยอุระระทม ทุกขแ์ ทบถล่มลง O ใจผกู จะปลกู ปยิ ะมนัสี ทววิ ฒั นาทรง แคลว้ คลาดเพราะมาดมนทนงี นรตอ้ ยจะสอยดาว O ตํา่ ชาตแิ ละปราศนรุปถัม ภกชํ้าอรุ ายาว แร้นทรัพยะยับยศีณีคราวี ทุกขกวา้ งบบ่ างเบา O แคน้ ใจบใ่ ส่ชลกะโหลกี บ่ชโงกจะดเู งา น้าํ หนา้ กระลาศริ ษเรา ฤจะหมายตะกายสูง O คางคกผงกมขุ เผยอี จติ เห่อจะปีนยงู เปน็ หมจู ะคู่อศวจงู ี จรไดไ้ ฉนนา O ตกทุกข์จะลุกสกิ ็ถลํา ทุกข์ลํา้ จะไตรตรา หลกหล่มก็ล้มจะคมนา คมเกลื่อนบ่เหมือนใจ O นํา้ รักประจกั ษจ์ ติ บข่ าด กลบาศกระลงึ ไกร โซ่เหล็กกล็ ่ามหทยะไทยี ดุจทาสบ่อาจจร O อ้าตจู ะดสู กลภพี ก็สยบแสยงหยอน มืดมนก็จะด้นยนะซอน กแ็ ละเครือ่ งจะเคืองตา O ปราศหวงั กด็ ังสรุ ยะดบั ระวลับนริ าภา คิดีๆีระอดิ อรุ ะระอา อุรุโลกจะแหลกฤาฯ บ้างกก็ ล่าวลบหลู่พระจันทรว์ ่า O เพญ็ พระจันทร์นนั้ สว่างแตข่ า้ งข้ึน กระต่ายมึนเมาเพญ็ จนเป็นบา้ อนั ทรามวยั ใสสกุ ทกุ เวลา นาํ้ ใจข้ามึนเมาทงั้ ขึ้นแรม ไดย้ ลพักตร์รักเหลือไมเ่ บ่อื รกั อกจะหักเพราะอนงคศ์ รทรงแหลม
ใหแ้ ค้นคิดจติ เจบ็ ท่เหนบ็ แนม ไม่ย้ิมแย้มเยอ้ื นให้ชน่ื ใจเอยฯ บ้างก็กลา่ ววา่ นางมผวิ เหมือนดอกจาํ ปาีมผมเหมือนนางงู มบาทเหมือนทับทมิ ี (เพราะยอ้ ม) มตาเหมอื นตาเนอ้ื ตามเคยีคิ้วเหมอื นธนกู ่ง ตามอย่างค้วิ ทน่ ยิ มวา่ งามีเดนิ เหมือน หงสี์ ฯลฯ แลไมม่ ใครลืมกล่าววา่ นางมสาํ เนยงไพเราะ เหมือนนกกาเหว่าแลทุกคนกลา่ วว่า ถา้ นางอจั ฉราลงมาเปรยบประชันความงาม นางอจั ฉราจะไดอ้ าย แต่บณั ฑติ แลกวนบั จํานวนร้อยซึ่งประชนั กันแต่งกาพย์กลอนสรรเสริญความงาม นางมกุ ดาวลนนั้ จะจงู ใจให้นางรกั ผู้แต่งผูใ้ ดผหู้ นึ่งกห็ ามิได้ เพราะธรรมดาหญิงยอ่ มจะเคย ได้ยนิ ค้ายกยอความงามจนชินหู แมจ้ ะยอดว้ ยกาพย์กลอนไพเราะก็ไม่เปน็ ของแปลกีถา้ ย่ิง กาพย์กลอนเลวๆ อยา่ งท่กล่าวมาแลว้ ก็ยง่ิ เบื่อหนักขน้ึ แลพระองค์ผทู้ รงสติปญ๎ ญาสามารถ ย่อมจะทรงทราบว่า วธิ ียอหญิงงามต้องยอว่ามีวชิ าปราดเปร่อื ง หรือยกคณุ ทไ่ี ม่มขี นึ้ กล่าวจงึ จะเป็นเคร่ืองจบั ใจนางสวย กล่าวตรงกันขา้ ม ถา้ นางเป็นผู้ทห่ าความสวยยากีถึง หากจะเป็นคนมเชาวน์ กอ็ าจยอใหต้ อ้ งใจไดด้ ้วยกล่าวถึงความงามอันสขุ มุ อนั เป็นของไม่หา งา่ ยเหมือนความงามซ่งึ ลอ่ ตา ดังน้เปน็ ตน้ ความยอนน้ั เปรยี บเหมือนหนิ กบั เหล็ก ซ่ึงทา้ ให้ เพลิงแห่งความรกั เกิดได้ สว่ นนางมกุ ดาวลนนั้ เบ่ือกาพยก์ ลอนจนเกลยดกวไปท้ังหมดีวนั หนงึ่ จึงบอกแก่ บิดาวา่ ถา้ จะหาผัวให้ต้องหาชายทร่ ูปร่างดีไมเ่ คยแตง่ กาพย์กลอนเป็นอนั ขาด อนงึ่ ชายทจ่ ะ เปน็ สามนางน้ันีตอ้ งเป็นคนเชาวนไ์ วประกอบด้วยความรู้ ยงิ่ รมู้ ากย่งิ ดีขอแตอ่ ยา่ ให้เป็นความรู้ ในเชงิ กาพย์กลอนเทา่ นนั้ อยมู่ าชา้ นานมชายหน่มุ สค่ นมาจากส่ทิศ ต่างคนประกอบคณุ งามความดของตน เสมอกนั ีทัง้ ในเชงิ ปญ๎ ญาีในกําลงั ีแลในความรู้ คนท้งั สเ่ ขา้ ไปหาีพราหมณ์หรทิ าสีแสดง ประสงคจ์ ะไดบ้ ุตรพราหมณเ์ ปน็ ภรยิ า หริทาสจึงนัดให้มาพรอ้ มกนั ในวนั รงุ่ ข้นึ เพอ่ื จะได้ประกวด ความดกันในการเจรจาแสดงความรู้ วันร่งุ ขน้ึ ชายทงั้ สก่ ม็ าตามนดั ีชายคนหนึ่งทช่ ื่อ มหาเสนีกล่าวแสดงป๎ญญาว่า \"ชายใดมจาํ นงหาความไม่เปล่ยนแปลงในโลกน้ีชายนน้ั เป็นคนโง่ เพราะความ เปน็ ไปของโลกนน้ั อ่อนเหมอื นต้นกลว้ ยแตกดบั งา่ ยเหมอื นฟองทะเล\" \"สิง่ ทง้ั หลายในท่สงู ไม่ช้าจะลมื ส่ิงทงั้ หลายในทต่ ่ําคงจะสลายไปท้งั ส้นิ \" \"ญาติท่ตายไปแลว้ กินนํา้ ตาของญาตทิ ่คงมชวติ อยดู่ ว้ ยความไม่เตม็ ใจี เพราะฉะน้ัน จกั ทําบญุ กรวดน้ําีจงอยา่ ให้ชํ้าใจีอกดว้ นอาดรู พอ่ เอย\" นางมุกดาวลนง่ั ฟง๎ อยูห่ ลังฉากได้ยนิ มหาเสนกล่าวก็ว่า \"ชายคนนพ้ ดู ไม่มมงคลเลยีมหิ นําซํา้ กาํ เริบเอากลอนเลวีๆีมากลา่ วดว้ ย คนเป็น กวใชไ้ มไ่ ด้\" ชายคนท่สองกล่าววา่ \"หญงิ ใดปฏิบัติชายผซู้ งึ่ บดิ ามารดายกให้ด้วยด หญงิ นนั้ ไดช้ ือ่ วา่ เป็นหญิงดีแล คมั ภรศาสตร์กลา่ วว่า หญิงใดเป็นโยคนิ ในเวลาสามยังอยู่ีหญงิ นนั้ ทาํ ใหส้ ามอายุสน้ั แลจะตก ในกองไฟภายหลัง\" คาํ ท่ชายคนทส่ องกล่าวน้ นางมุกดาวลเหน็ โง่ทส่ ดุ ีจึงนกึ ในใจว่าีนางว่าจะไม่ ยอมคํานงึ ถึงชายคนนัน้ เปน็ อนั ขาด ชายคนทส่ ามเปน็ ตระกลู นกั รบชื่อ คุณากร กล่าวว่า \"มารดาคมุ้ ครองบุตรเมอ่ื เป็นทารก บิดาคุม้ ครองเมอื่ จาํ เรญิ วัยใหญข่ ้ึน แต่บุรุษซึง่
เปน็ ชาตนิ กั รบย่อมจะคมุ้ ครองรกั ษาสกลุ ของตนทกุ เมือ่ ธรรมเนยมแหง่ โลกแลหลักทต่ ัง้ ของ ข้าพเจา้ เปน็ เช่นน้\" คนท่ประชมุ ฟ๎งอยู่น้ันเมือ่ ได้ยินคุณากรกล่าวดังนี้ กพ็ ากันสรรเสริญว่า เป็นคนกล้า ควรเป็นทเ่ คารพ ส่วนชายคนทส่ เ่ ป็นตระกูลพราหมณ์ชอื่ รัตนทตั ต์ีเมอ่ื ไดย้ ินชายทง้ั สามคนกล่าว แสดงปญ๎ ญาดังนัน้ ก็น่ิงอยูม่ ไิ ด้พดู ประการใดจนชายทั้งสามคิดวา่ เปน็ เพราะเหตุโง่เขลาเบา ความรู้ แตค่ ร้นั พราหมณ์ผู้เป็นบดิ านางแลคนอ่ืนๆ ทป่ ระชมุ ฟ๎งกันอย่นู ้ันกล่าวคะยน้ั คะยอใหพ้ ูดี รตั นทตั ต์กพ็ ูดส้นั ๆีวา่ \"ความนิง่ นน้ั ดกว่าความพูด\" ครั้นเมือ่ เขาเตอื นใหพ้ ดู อกกก็ ลา่ วว่า \"คนฉลาดไมป่ ระกาศความมีอายุของตน ไม่ประกาศให้ใครทราบเม่อื ถูก หลอก ทงั้ ไม่ประกาศความมที รพั ย์หรือเสียทรพั ย์ ไมป่ ระกาศความบกพรอ่ งใน ครอบครวั ไมร่ ่ายมนตร์ให้คนได้ยนิ แลไม่ประกาศความรักภรยิ า หรือวธิ ปี ระสมยา หรือหน้าท่ปี ระพฤติธรรม หรือของให้ หรือค้ากล่าวโทษ หรอื ความไมม่ ีสัตยแ์ ห่งภริยา ตน\" เมอื่ ชายคนท่ส่ไดก้ ล่าวดงั น้แลว้ ีกเ็ ปน็ อันสิ้นการประลองปญ๎ ญาในวนั นัน้ พราหมณห์ รทิ าสเจา้ ของบ้านแสดงความเสยใจต่อชายคนท่หนึ่งแลทส่ องีแลใหข้ องเล็กนอ้ ย แลว้ ก็เอานาํ้ มันหอมประพรมเส้อื ผา้ ชายสองคนีแลรดน้ําดอกไมเ้ ทศท่ศรษะแลว้ ก็ใหพ้ ลู เชิญ ใหก้ ลบั สว่ นชายคนทส่ ามทส่ ่คอื คณุ ากรแลรัตนทัตต์นน้ั พราหมณห์ รทิ าสเชญิ ใหม้ าใหม่ใน วนั รงุ่ ขนึ้ ชายท้งั สองกม็ าตามนัดีครั้นนง่ั ลงพร้อมกนั แล้ว พราหมณห์ ริทาสจงึ ถามวา่ \"ทา่ นทงั้ สองมปญ๎ ญาดงั ท่แสดงโดยคาํ พูดเม่อื วานนี้ บัดนท้ า่ นจงแสดงให้เหน็ ว่า ป๎ญญาของท่านมผลเปน็ ความร้แู ลประโยชน์อะไรบา้ ง\" คณุ ากรกล่าวว่า \"ขา้ พเจ้าไดส้ รา้ งรถขนึ้ ไว้คนั หน่ึง รถนั้นอาจพาข้าพเจา้ ไปถึงไหนไดท้ กุ แหง่ ใน พรบิ ตาเดยว\" รตั นทตั ตก์ ลา่ วว่า \"ข้าพเจา้ มความร้ชู บุ คนตายใหฟ้ ืน้ คืนเปน็ มาได้ แลอาจสอนเพอ่ื นของข้าพเจ้าให้ สามารถเชน่ กนั \" เวตาลเลา่ มาเพยงน้กห็ ยุดไวี้ แลว้ ทลู ถามพระวกิ รมาทติ ย์วา่ ชายหน่มุ มความรู้ ประเสรฐิ ทั้งสองคนเช่นน้ พระราชาจะทรงดํารวิ ่าพราหมณห์ รทิ าสควรจะเลือกชายคนไหนเปน็ เขย แตพ่ ระวกิ รมาทติ ย์ไมท่ รงตอบีเหตไุ ม่ทรงทราบว่าจะตอบประการใด หรือเหตไุ ด้พระสตวิ ่า เปน็ กลเวตาลลวงถามีก็เป็นไดท้ ้ังสองประการ คร้ันพระวิกรมาทิตย์ไม่ทรงตอบ จนเวตาลเหน็ ได้ว่าจะลอ่ ใหต้ รัสตรงนไ้ มส่ าํ เรจ็ แล้วีกเ็ ลา่ ตอ่ ไปวา่ เมอ่ื ชายหนมุ่ ท้ังสองไดแ้ สดงความรู้ใหท้ ่ประชมุ ทราบดงั นแ้ ลว้ พราหมณห์ ริทาส ยังลงั เลในใจไมแ่ น่วา่ จะเลอื กคนไหนด จึงเรยกให้นางมกุ ดาวลออกมากลางท่ประชมุ ถามวา่ นางจะเลือกชายคนไหน นางมกุ ดาวลกม้ หน้านง่ิ ไมต่ อบว่ากระไรดว้ ยวาจาีแตช่ ายหางตาดรู ตั น ทตั ต์ พราหมณ์หริทาสเห็นดงั น้นั ีกก็ ล่าวภาษติ มความว่า มุกดาควรรอ้ ยเปน็ สร้อยกับ มกุ ดาดว้ ยกันีแลยกลูกสาวให้แกร่ ัตนทัตตต์ ามใจธิดาประสงค์ ฝาุ ยคณุ ากรชาตินักรบเห็นดงั นั้น กแ็ คน้ ใจ มอื จับหนวดบิดขน้ึ ไปจนถึงตาซึ่งแดงดว้ ยความโกรธีมือก็เวยนไปจบั ดาบร่ําไป แต่ คุณากรเปน็ คนเกิดในสกุลดมยุติธรรมในใจีถงึ แม้จะขนุ่ เคืองใจถงึ เชน่ น้ ไมช่ า้ ก็หายโกรธ ฝุายมหาเสนคอื ชายคนหนึง่ ซง่ึ ถูกคัดออกไปแตว่ นั แรกน้นั ีชะรอยจะเปน็ ดว้ ยกว
ดอกกระมัง จึงเปน็ คนไมม่ ความอายเลย ครน้ั เมอ่ื พราหมณห์ ริทาสได้หมัน้ กําหนดการววิ าหะ นางมกุ ดาวลแลว้ มหาเสนได้ทราบกก็ ระทาํ การอกุ อาจเข้าไปในท่ประชมุ ีพูดจาแสดงความ โกรธ แลกล่าวภาษติ กาพยก์ ลอนทไ่ มเ่ ข้าเรื่องดว้ ยเสยงดงั กลบไปในเรอื น ยกคณุ ชัว่ แหง่ หญิง ทั้งหลายขึ้นกลา่ ววา่ ีในโลกนห้ ญิงเป็นบอ่ เกดิ แห่งความทกุ ข์ เปน็ ยาพิษอยา่ งแรงีเป็นทอ่ ยู่ แหง่ ความกระวนกระวายีเป็นผสู้ ังหารความกาํ หนดแน่ในใจคน เปน็ ผู้กระทําใหเ้ กดิ ความมนึ เมา รักีแลเป็นโจรปล้นคุณความดท้ังหลายในโลก เมอื่ ไดก้ ล่าวประหตั ประหารหญิงเช่นนแ้ ล้ว ก็กล่าวต่อไปถงึ บิดาแห่งนางีเรยกหริ ทาสวา่ ี\"มหาพราหมณ\"์ ซ่ึงรับโคแลทองคาํ เป็นสินจา้ งีแลเปน็ คนบชู าลิง สว่ นพราหมณ์แลลูก แห่งพราหมณท์ ้งั หลายนนั้ ใช้ไม่ไดห้ มดีรวมทั้งรัตนทตั ต์ดว้ ย ครัน้ คนท่อยใู่ นทป่ ระชมุ น้ันช่วยกันหา้ มปราม มหาเสนก็ย่ิงแสดงความโกรธมาก ขึน้ จนพราหมณห์ รทิ าสตกใจกลวั สาํ เนยงแลอาการมหาเสนเปน็ กาํ ลงั ีในทส่ ุดมหาเสนสาบาน วา่ แมน้ างมุกดาวลจะไดห้ มน้ั แล้วก็ตาม ถา้ เขาไมไ่ ด้นางเปน็ ภรยิ าเขากจ็ ะฆา่ ตัวตายแล้วเปน็ ผ มากวนแลทาํ ร้ายคนในบา้ นนัน้ ท้ังบ้าน ฝุายคุณากรเปน็ ชาตินกั รบมใจกลา้ ครน้ั ไดย้ ินมหาเสนพูดดงั น้นั ก็แนะนําว่าให้รบ ฆ่าตัวตายเสยเถิด และเมือ่ เปน็ ผแลว้ จะทําอะไรกแ็ ลว้ แตส่ มัคร แต่พราหมณ์หรทิ าสหา้ ม คณุ ากรไมใ่ ห้พดู แสดงนาํ้ ใจรา้ ยกาจีมหาเสนยิง่ โกรธใหญ่ เกดิ ความกล้าเพราะเกลยดีเพราะ รักีแลเพราะโกรธ กช็ ักเชือกบ่วงออกจากอกว่งิ ออกไปจากเรือนแล้วผูกคอแขวนตวั ตายอยูก่ ับ ต้นไม้ขา้ งเรือนนนั้ คร้นั เวลาเท่ยงคนื ผมหาเสนก็ทําจริงดงั ทก่ ลา่ วไวเ้ ม่ือยังมชวติ แสดงตัวเป็น รากษสมาทเ่ รอื นพราหมณห์ รทิ าสีทาํ ให้พราหมณแ์ ลคนทัง้ หลายตกใจเปน็ กําลงั ครนั้ รากษส มาทําอาการคกุ คามีจนคนกลวั หลบซ่อนไปหมดแลว้ ก็พานางมกุ ดาวลเหาะหายไปเสยจาก เรอื นแลบอกกลา่ วไว้วา่ ถา้ จะตามให้พบให้ไปตามบนยอดสงู ทส่ ดุ แห่งเขาหมิ าลัย ฝุายพราหมณ์หริทาสเม่อื เกิดเหตดุ ังนก้ ว็ งิ่ ไปเรือนรตั นทตั ต์ ปลกุ ให้ต่ืนขนึ้ แลว้ พราหมณ์หรทิ าสก็ปากส่นั เล่าความให้ผู้จะเปน็ บตุ รเขยทราบทกุ ประการ รตั นทตั ตพ์ ราหมณ์ หน่มุ ทราบเรือ่ งกต็ กใจเปน็ กําลงั ออกว่ิงไปเรอื นคุณากรนักรบแลวิงวอนให้ช่วยีคณุ ากรเปน็ คน ใจด แม้จะได้ข่นุ เคอื งดว้ ยเหตแุ พ้รัตนทตั ตใ์ นทางรักกจ็ ริง แต่เมื่อผู้ชนะมาวานใหช้ ่วยก็ยอม ช่วยจึงจดั รถซ่ึงพาเหาะได้ีแล้งสองคนก็ขึ้นนงั่ บนรถ แลบอกพราหมณห์ ริทาสให้นอนใจวา่ ีจะ ไดล้ ูกสาวคืนมาในไมช่ ้า คุณากรกร็ า่ ยมนตร์ใหร้ ถลอยขึ้นในอากาศีรัตนทัตตก์ ็รา่ ยมนตร์ไล่ผมใิ หม้ ากดกัน้ ตตสวติ ุรวเรณยํีภโรคีเทวสยีธมหีิ ธิโยีโยีนะีปรโจทยาต รถก็พาลอยไปถงึ ยอดสูงสดุ แห่ง เขาหมิ าลัยีอันเป็นทซ่ งึ่ ผมหาเสนพานางไปทงิ้ ไวน้ นั้ ครนั้ ชายหน่มุ ทงั้ สองพานางมาส่งคนื ต่อบดิ าแล้ว พราหมณ์หริทาสเกรงจะเกิด เหตอุ น่ื ขึน้ อกีก็รบให้โหรหาฤกษท์ าํ การววิ าหะโดยเรว็ แลเม่อื ฤกษด์ ก็เอาขม้นิ ทามือลกู สาว ตามธรรมเนยมีการแตง่ งานคร้งั น้นั ครึกครืน้ นัก กวใหญน่ ้อยซ่งึ รกั นางไม่สมหมายีได้ความ ทกุ ข์ถึงอกหักมจาํ นวนสองโหลเศษ ฝุายรัตนทัตตเ์ จ้าบา่ วเมอื่ ไดว้ ิวาหะเสรจ็ ตามพิธแล้ว ก็ลาพราหมณ์หรทิ าสพา ภรยิ าจะกลบั ไปบ้านเดมิ ีคุณากรนักรบมความภักดตอ่ นาง แลต่อรัตนทตั ต์ผู้เพือ่ น กส็ าบานว่า จะไม่ท้ิงคนทั้งสองน้ันกอ่ นไปถึงบา้ นเดมิ แหง่ เจ้าบา่ ว นางแลชายหนุม่ ทงั้ สองกล็ าพราหมณ์หริทาสออกเดินทางไป แลทางเดนิ นั้นตอ้ ง ข้ามยอดเขาวินธยะีอนั เป็นท่มากดว้ ยภยั ประการตา่ งๆ เม่อื ถงึ หน้าผาแลดูลงไปก็ลกึ น่ากลัวี เมอ่ื ถงึ ลาํ ธารนาํ้ ก็เช่ยวไหลกระแทกหิน ยากทจ่ ะขา้ มไดป้ ราศจากอนั ตรายีประเดย๋ วก็เขา้ ปาุ รกชฏั ซึง่ มืดเหมือนมรณะ ยากท่จะหาทางเดนิ ไปไดี้ ประเดย๋ วสายฟาู ก็ฟาดสาดฝนลงมา จน
หนาวเย็นสะท้านท่วั สรรพางคก์ ายีเมอ่ื ยามรอ้ นก็รอ้ นจนนกตกตายลงมาจากอากาศ รอบขา้ งก็ กอ้ งด้วยเสยงสัตวร์ า้ ยตา่ งๆีซึ่งมิใช่มติ รแห่งมนษุ ย์ เมอื่ ทางเดนิ ลําบากถงึ เพยงน้ีเราทา่ นกน็ า่ สงสยั ว่า เหตุใดคุณากรจึงไม่พาบ่าว สาวขน้ึ รถเหาะไปส่งีเหตุจะอย่างไรกต็ าม การเดนิ ทางครั้งนนั้ ใชเ้ วลาเดนิ ดนิ ไม่ใชเ่ ดินอากาศ แลคนทง้ั สามกไ็ ด้ความลําบากดงั กล่าวมาแล้วีแลจะปรากฏต่อไปในเรือ่ งน้ แตค่ นทงั้ สามก็ทน เดินทางไปด้วยอานภุ าพพระกามเทพีจนพน้ ปุาใหญไ่ ปถึงท่ราบแลว้ คืนหน่ึงนางมกุ ดาวลฝ๎นวา่ นางเดนิ ลยุ ไปในหนองนํ้าขนุ่ โสโครกีนางอุม้ เดก็ คน หน่งึ ซงึ่ มอาการเหมือนเจ็บ เดก็ น้ันดน้ิ แลรอ้ งครวญครางีมเด็กอ่ืนเปน็ อนั มากได้ยนิ ร้องก็รอ้ ง บ้าง เดก็ เหล่านนั้ รปู รา่ งพกิ ลีบางคนกป็ ุองเหมอื นคางคกีบางคนกผ็ อมยดื นอนอยตู่ ามขอบ หนอง บางคนก็ลอยอยูเ่ หนือนาํ้ ีเด็กเหล่าน้ันมอาการเหมอื นหนึง่ ระดมกนั รอ้ งใส่เอานาง ประหน่งึ ว่านางเปน็ เหตใุ หร้ อ้ งไหี้ แลจะว่ากลา่ วปลอบโยนหรือขเู่ กร้ยวกราดประการใด ก็ไม่น่งิ ทง้ั นั้นีครัน้ นางตืน่ ข้นึ ก็เลา่ ความฝ๎นให้ชายท้งั สองฟ๎ง รตั นทตั ตผ์ สู้ ามไดฟ้ ๎งแล้วกน็ ง่ิ ตรองอยคู่ รู่หนึ่ง จึงบอกภริยาแลเพอ่ื นวา่ ีจะเกิด เหตุใหญ่เปน็ ภัยแกค่ นทง้ั สามในไมช่ ้า ครัน้ รัตนทัตตท์ าํ นายดงั น้แล้วกห็ ยบิ ด้ายออกมาเสน้ หน่ึงีตัดออกเป็นสามทอ่ น แจกกนั คนละทอ่ นีแลว้ อธิบายว่าีถา้ เกิดเหตเุ ปน็ ภัยแกร่ า่ งกาย ให้ เอาเชือกนนั้ ผูกเขา้ ทแ่ ผลๆีกจ็ ะหายไปในทันท คร้นั แจกเชือกแล้วรตั นทัตต์ก็สอนมนตรใ์ ห้ภริยาแลเพ่ือนท่องจําไว้ เป็นมนตร์ท่ ชุบคนตายให้คนื ชวติ ได้ มนตรน์ ัน้ เป็นอย่างไรขา้ พเจา้ ไมค่ วรนํามากลา่ วให้ทรงทราบีเวตาล เลา่ ต่อไปวา่ ตามท่รัตนทัตต์ทํานายฝน๎ ไว้น้ันไมช่ า้ ก็เกิดเหตุตามพยากรณ์คอื ในตอนเย็นเมอ่ื คนท้ังสามเดนิ พ้นจากปาุ ออกทุ่งกม็ คนพวกหน่ึงเรยกวา่ กิราตะ มจํานวนเป็นอันมากพากันเขา้ ทาํ รา้ ยมาเบ้อื งตน้ มกริ าตะคนหนง่ึ ร่างเล็กตวั ดําถือธนูแลศรทําดว้ ยหวาย ยืนขวางทางทํากริ ิยาเป็น สญั ญาณให้คนท้ังสามวางอาวธุ ีครั้นคนทงั้ สามไม่หยุด กริ าตะก็พูดเสยงโกรธดงั กอ้ งไปเหมอื น นกทต่ กใจกลัว ตากเ็ หลือกไปเหลอื กมาแลแดงดว้ ยความโกรธีมือถอื อาวธุ ชูขนึ้ แกว่งอยูบ่ น ศรษะ ในทันใดน้นั พวกกริ าตะกห็ ล่ังกันออกจากพุม่ ไม้ีแลท่กําบงั หลงั กอ้ นหนิ ต่างคนตา่ ง ชว่ ยกันยิงมาดงั หา่ ฝนีการต่อสู้ซงึ่ กาํ ลังไม่พอกันนัน้ เปน็ ไปไม่ไดน้ าน คุณากรนกั รบถือดาบใน มอื ขวาใชแ้ ขนอนั มกาํ ลังไลฟ่ าดฟน๎ ศตั รลู ้มตายลงหลายสบิ คน แตพ่ วกกิราตะกห็ นุนเนอื่ งกัน เข้ามาเหมือนหม่แู ตนซงึ่ มผ้ทู ําลายรัง ไมช่ า้ คณุ ากรก็ถูกอาวุธส้ินกําลังลม้ ลง ฝุายรตั นทัตต์น้ันเมอ่ื ศตั รมู มากก็พานางหลบไปซ่อนไวใ้ นโพรงไม้แห่งหนง่ึ แลว้ กลับมาตอ่ ส้กู บั พวกชาวปุา ไม่ช้ากถ็ ูกอาวธุ สนิ้ กาํ ลังลงเหมือนกันีฝาุ ยพวกกิราตะนั้นครั้นชาย ท้ังสองล้มลงแล้ว กช็ กั มดออกตัดศรษะให้ขาดออกจากตวั ทง้ั สองศพ แล้วปลดเอาของมค่า ทั้งหลายซ่ึงมอยูใ่ นตัวชายสองคนน้นั ีเสร็จแล้วก็พากันกลับไป หาตามไปทําร้ายนางซง่ึ ซ่อน อย่ใู นโพรงไม้น้นั ไม่ ฝาุ ยนางมุกดาวลตกใจเพยงจะสนิ้ ชวิตีคร้ันสงบเสยงลงไปีกอ็ อกจากโพรงไม้ เมยงมอง ไมเ่ ห็นพวกโจรชาวปาุ ีเห็นแต่ศพสามและเพอื่ นกล้ิงอยกู่ ลางดิน หัวตกอยหู่ า่ งตัวท้ัง สองหัวีนางก็น่ังลงร้องไห้ครวญครางอยู่ช้านานจนจวนคํ่า จึงคดิ ขึ้นได้ถึงวชิ าทเ่ รยนรจู้ ากสาม ในวันน้นั เองีนางจงึ หยบิ เอาดา้ ยวเิ ศษออกมา ยกเอาหัวท้ังสองหัวมาวางตอ่ กบั ตัวสองตวั แลว้ เอาด้ายผูกหัวกบั ตวั เข้าไวด้ ้วยกนั แตเ่ วลานน้ั เป็นเวลามดื เห็นไมถ่ นัด ทั้งเป็นเวลาทน่ างกําลังต่นื ตกใจไม่ทนั ได้ พิจารณาละเอยด หัวแลตวั ท่ตอ่ กันนน้ั ผิดสํารบั กันไป นางไมท่ ันสงั เกตกน็ ่งั ลงรา่ ยมนตร์สํชวน ซ่งึ สามได้สอนไว้
พอรา่ ยมนตร์จบชายสองคนกม็ ชวติ คนื มา ตา่ งคนตา่ งลมื ตาแลลุกข้นึ น่ังลบู คลาํ ตวั เองเหมอื นหนึ่งดวู า่ ร่างกายยงั อย่คู รบหรอื ไม่ แต่เมื่อลบู พบร่างกายเต็มท้งั ตวั แลว้ ก็ไม่หาย สงสยั ตา่ งคนเห็นว่าจะมอะไรผดิ สักแห่งหนึ่งีจึงเอามือคลําหน้าผากแลว้ แลดลู งไปตลอดถึง เทา้ แลว้ ตา่ งลุกขน้ึ ยืนมองดูแขนแลขาของตน แลดผู า้ นงุ่ ห่มซ่งึ พวกโจรเหลือทิ้งไว้ใหน้ ้อย ท่สุด ฝาุ ยนางมุกดาวล เมื่อเหน็ ชายทง้ั สองทาํ กริ ยิ าประหลาดดังน้นั ก็นกึ ว่าเป็นด้วย ความยงุ่ ในมนั สมองของคน ซึ่งเป็นโรคถกู ตัดหวั หายขึ้นใหมๆ่ ีนางจึงยืนดอู ยคู่ รูห่ น่งึ แล้ววิ่ง เขา้ ไปกอดชายซึ่งนางคดิ ว่าเปน็ สามีแตเ่ ขาไม่ยอมใหน้ างเข้าชดิ ตวั กลับผลกั เสยแล้วบอกวา่ นางเข้าใจผิดีนางมุกดาวลละอายในใจเปน็ กาํ ลัง ก็ว่ิงเขา้ กอดคอชายอกคนหนึง่ ซงึ่ นกึ วา่ เป็น สามของตนแน่ แต่ชายคนนนั้ กผ็ ลักนางไว้ให้ห่างแลบอกวา่ เข้าใจผดิ เหมอื นกัน ในขณะนน้ างรสู้ กึ ขนึ้ มาว่าไดต้ ่อหวั ผิดตวั เสยแล้วีไม่รู้วา่ จะทาํ อยา่ งไร กน็ ั่งลง รอ้ งไห้ราวกับอกจะแตกไปกับที่ หัวพราหมณร์ ัตนทัตต์กล่าววา่ \"นางน้เปน็ เมยของท่าน\" หวั คุณากรนกั รบกลา่ วว่า \"นางนเ้ ป็นเมยของทา่ นไม่ใช่ของข้า\" ตัวรัตนทตั ตก์ ับหวั คุณากรตอบวา่ \"หามไิ ดน้ างเปน็ เมยของข้าตา่ งหาก\" คณุ ากร-รัตนทตั ต์กล่าววา่ \"ถา้ เช่นนนั้ ขา้ คอื ผ้ใู ด\" รัตนทัตต์-คณุ ากรกลับถามวา่ \"กเ็ จ้านึกวา่ ข้าคอื ผู้ใด\" หัวพราหมณต์ ัวนกั รบกล่าวว่า \"นางต้องเป็นเมยของขา้ \" หวั นักรบตัวพราหมณ์กลา่ ววา่ \"เจา้ โกหกีนางเป็นเมยของขา้ ต่างหากีหวั ท้งั สองพดู พร้อมกันว่า \"เจ้าพูดอยา่ งคนพาลฟ๎งไม่ได้\" เวตาลกลา่ วตอ่ ไปว่า หวั สองหัวแลตวั สองตัวโตเ้ ถยงกันไม่มทางท่จะยนิ ยอมกนั ได้ ผูท้ ่จะตดั สินไดแ้ น่นอนกเ็ ห็นจะมแต่พระพรหมพระองค์เดยวีส่วนขา้ พเจ้านน้ั นอกจากจะตดั หวั ต่อเสยใหม่แล้วีกไ็ มร่ ู้จะวินิจฉัยอยา่ งไรได้ แลข้าพเจา้ เชื่อเป็นแน่ว่าีแมพ้ ระองคผ์ ู้เปน็ พระราชาอนั ประเสรฐิ ก็ไม่ทรงป๎ญญาพอตดั สนิ ไดว้ า่ ีนางมกุ ดาวลเปน็ ภริยาของหวั แลตวั สาํ รบั ไหน อนั ทจ่ ริงพวกข้าพเจ้าซง่ึ เป็นเวตาลดว้ ยกนั กระซบิ บอกตอ่ ีๆีกนั มาว่า เม่ือหัวแลตวั สอง สํารบั น้ันตายไปเฝาู ธรรมราชาี(คือพระยม) ปญ๎ หาอนั เดยวกันกเ็ กดิ ข้ึนในยมโลกีเพราะหวั ทั้ง สองต่างปฏิเสธบาปกรรมต่างๆ ซึง่ ตัวได้ทําไวใ้ นเมืองมนษุ ยี์ แม้ธรรมราชากพ็ ศิ วงีไมร่ ู้จะแจก คะแนนโทษอยา่ งไรได้ ตรงน้ พระธรรมธวัชพระราชบุตรทรงนกึ ขันข้อทห่ ัวตอ่ ผิดตัวแลเผลอ พระองค์ไม่ทนั นกึ ถึงพระราชบิดาก็ทรงพระสรวลขึ้นด้วยสาํ เนยงอนั ดงั พระวกิ รมาทติ ยพ์ ระราช บดิ าทรงขัดเคอื งพระราชบุตรก็ตรสั วา่ \"ความเห็นขันในขณะซึง่ ไม่มส่งิ ใดขนั นั้นเป็นเหตุใหค้ นดแู คลน แลทรงอา้ งภาษติ ซึง่ บิดามักจะชอบเอามากล่าวแก่บตุ รวา่ ความหวั เราะน้ันเปน็ เครือ่ งส่อน้าํ ใจปราศจากความคดิ ี แลว้ รับส่ังต่อไปวา่ \"คัมภรศาสตรแ์ สดงวา่ ...\" เวตาลกล่าววา่ \"ดูไม่สู้จําเปน็ ท่พระองคจ์ ะตอ้ งทรงอธบิ ายให้แจม่ แจ้งถึงเพยงนนั้ คําทร่ ับสัง่ ก็คง เป็นคําของชัยเทวะหรอื คนอื่นในหมู่กวแกว้ ทง้ั เกา้ แตค่ นเก้าคนน้นั รูก้ าพย์กลอนของตวั เองี ดกวา่ ร้คู มั ภรศาสตรเ์ ป็นอันมาก\" พระวิกรมาทติ ย์ทรงนงิ่ ช่ังพระหฤทยั ว่า จะลงโทษเวตาลทก่ ลา่ วคา้ นขึ้นกลางคันด หรือไม่ อกครู่หนึง่ จงึ รับส่ังแก่พระราชกุมารต่อไปวา่ \"คัมภรศาสตรก์ ล่าววา่ ีแมน่ าํ้ พระคงคาเปน็ ใหญใ่ นหมู่แม่นํา้ ทัง้ ปวง เขาพระสุเมรุ เป็นใหญก่ วา่ เขาทัง้ หลายีตน้ กลั ปพฤกษ์เปน็ ใหญก่ ว่าต้นไมท้ ้ังปวง แลในภาคแหง่ มนษุ ยน์ น้ั ี หัวเปน็ ใหญแ่ ลประเสริฐท่สุด กล่าวโดยความอันแสดงในคัมภรศาสตร์เชน่ น้ นางมกุ ดาวลตอ้ ง เปน็ ภริยาของชายสาํ รบั ซึ่งหวั เคยเป็นสามของนาง\" เวตาลหัวเราะแล้วทูลตอบวา่ \"ความเหน็ ของขา้ พเจ้าไม่ตอ้ งกบั คมั ภรศาสตรี์ แลไมต่ รงกบั พระราชดาํ รแิ หง่
พระองค์ คอื ข้าพเจา้ เห็นว่านางมกุ ดาวลเปน็ ภริยาของชายสาํ รับท่กายเคยเปน็ ผวั นาง เพราะ เหตุว่ากายนนั้ มอุทรีซ่ึงเปน็ ทอ่ ย่แู หง่ วญิ ญาณอันมความไม่รูด้ บั เปน็ สภาพ ส่วนหัวน้นั เสมอกบั หมอ้ กระดูกหม้อหนงึ่ ซงึ่ ไม่มอะไรอยขู่ า้ งในนอกจากมนั สมองซ่งึ เป็นเยอ่ื ขน้ เสมอกบั มนั สมอง แหง่ ลูกวัวเท่านัน้ \" พระวกิ รมาทิตย์รบั ส่ังด้วยสําเนยงพิโรธว่า \"เอง็ ไม่นกึ หรอื วา่ วิญญาณน้นั เมื่อเขา้ ไปในตัวมนษุ ยแ์ ลว้ ก็มสาํ นักอยูใ่ นมันสมอง แลพิจารณากายภายนอกเหน็ ไดจ้ ากสํานกั นัน้ \" เวตาลตอบวา่ \"วิญญาณจะมสาํ นกั อยูท่ ่อุทรคนก็ตามีหรือท่มันสมองกต็ าม สํานักของขา้ พเจ้า อย่ทู ต่ ้นอโศกเปน็ แน่\" พดู เทา่ นนั้ แลว้ เวตาลกอ็ อกจากยา่ มหวั เราะกอ้ งฟ้าลอยไป พระวิกรมา ทิตย์กับพระราชบตุ รก็เสด็จหนั พระพักตรค์ นื ไปยงั ตน้ อโศก ทรงปลดเวตาลลงมาใส่ ยา่ ม แล้วกร็ ับสงั่ แก่เวตาลว่า ใหเ้ ล่าเรอ่ื งจรงิ ไปอกี เร่ืองหน่ึง The Vampire's Ninth Story นิทานเวตาลเรื่องที่ ๑๐ เรื่องท่ี๑๐ เวตาลกล่าวว่าครง้ั นี้ข้าพเจ้าใหเ้ กิดเขม่นตาซ้าย หวั ใจเต้นแรงแลตาก็มืดมัว เปน็ ลางไม่ดเี สยี แล้ว แต่ข้าพเจา้ ก็จะเล่าเร่อื งจรงิ ถวายอกี เรอื่ งหน่ึง แลเพราะเหตุ ข้าพเจ้าเบ่อื หน่ายการถูกแบกสะพายไปมาเป็นหลายเท่ียวแล้ว แมพ้ ระองค์ไม่ทรงเบ่ือ เป็นผูแ้ บกก็จรงิ ข้าพเจา้ จะตง้ั ปญั หาท่อี ยากทลู ถามสกั ที ถ้าทรงตอบได้ พระปัญญาก็ มากยิ่งกว่าทข่ี า้ พเจา้ คิดว่าจะมีในพระราชาพระองค์ใด ในโบราณกาลเมอื งใหญเ่ มอื งหนงึ่ ช่ือ กรุงธรรมปุระ พระราชาทรงนาม ท้าวมหา พล มมเหสซึ่งแมม้ พระราชธดิ าจาํ เริญวัยใหญ่แลว้ กย็ ังเปน็ สาวงดงามถ้าจะเปรยบกบั พระราช บตุ รก็คลา้ ยพก่ บั นอ้ งยิ่งกวา่ แม่กับลกู ท่เปน็ เชน่ น้ไมใ่ ช่เพราะพระราชธิดามอาการแก่เกินอายุ ท่ จริงเปน็ ดว้ ยพระราชมารดาเปน็ สาวไมร่ ้จู ักแก่ แลความสาวของพระนางเปน็ เครื่องประหลาดของ คนทง้ั หลาย เม่ือทา้ วมหาพลจะสิ้นบญุ นนั้ ีเกิดศึกข้ึนทก่ รงุ ธรรมปรุ ะ ข้าศึกมกําลังมากแล ชาํ นาญการศกึ ีใชท้ ั้งทองคาํ แลเหลก็ เปน็ อาวุธ คือใชท้ องคําซอ้ื นา้ํ ใจนายทหารแลไพร่พลของ พระราชาให้เอาใจออกห่างจากพระองค์ แลใช้เหลก็ เปน็ อาวธุ ฆา่ ฟ๎นคนทซ่ ้ือนํา้ ใจไม่ได้ีขา้ ศึก ใชท้ องคาํ บา้ ง เหลก็ บา้ งเปน็ อาวุธดงั นี้ จนในทส่ ุดร้พลของท้าวมหาพลหรอรอ่ ยยอ่ ยยบั ไป ทา้ วมหาพลเห็นจะรกั ษาชวิตพระองค์ไวไ้ มไ่ ดด้ ้วยวธิ รบ ก็คิดจะรักษาดว้ ยวิธหน จึง พาพระมเหสแลพระราชธดิ าออกจากกรงุ ไปในเวลาเท่ยงคืนจาํ เพาะสามพระองค์ พระราชาทรง พานางทง้ั สองเล็ดรอดพ้นแนวทพั ขา้ ศกึ ไปแลว้ กต็ ้งั พระพกั ตรม์ ุง่ ไปยงั เมืองซ่ึงเปน็ เมืองเดมิ ของ พระมเหส วันรุ่งขนึ้ พระราชานาํ นางท้งั สองเดนิ ไปจนเวลาสาย ถึงทอ้ งทุ่งเห็นหมูบ่ ้านหม่หู น่ึงแตไ่ กลี ไม่ทรงทราบว่าเปน็ หมู่บ้านโจร แต่ทรงสงสยั ไมว่ างพระหฤทัยจึงตรัสใหพ้ ระมเหส แลพระราช ธดิ าหยดุ นั่งกําบังอยใู่ นแนวไม้ พระองคท์ รงถอื อาวุธเดินตรงเข้าไปสหู่ มู่บ้านเพอ่ื จะหาอาหาร เสวยแลสู่นางทง้ั สององค์ ฝุายพวก ภลิ ล์ ซึ่งอยใู่ นหมูบ่ า้ นน้นั ประพฤตติ วั เปน็ โจรอยโู่ ดยปกติ ครน้ั เห็นชายคน เดยวแต่งตัวดว้ ยของมค่าเดินเข้าไปเชน่ นนั้ ก็คุมกนั ออกมาจะเขา้ ชิงทรพั ยใ์ นพระองค์พระราชา ท้าวมหาพลทรงเห็นดังน้ันก็ทรงพระแสงธนยู งิ พวกโจรล้มตายเป็นอันมาก ฝาุ ยนายโจรไดท้ ราบ
ว่าผู้มทรพั ย์มาฆา่ ฟน๎ พวกตนลงไปเปน็ อันมากดังน้ันก็กระทาํ สัญญาณเรยกพลโจรออกมาทั้ง หมดแล้วเขา้ ล้อมรบพระราชา ทา้ วมหาพลองคเ์ ดยวเหลอื กาํ ลังจะตอ่ สปู้ ูองกันอาวธุ พวกโจรได้ กส็ ิ้นพระชนม์ลงในทน่ ้นั ีพวกภลิ ล์กช็ ่วยกันปลดเปล้อื งของมคา่ ออกจากพระองค์ แล้วพากันคืน เข้าสู่บ้านแห่งตน ฝาุ ยพระมเหสและพระราชธดิ าทรงแอบอยู่ในแนวไมเ้ ห็นพวกโจรเข้ากลุ้มรมุ รบ พระราชาก็ตกใจเปน็ กาํ ลังแต่ไม่รู้จะทาํ อย่างไรได้ ครนั้ เห็นพวกภิลลท์ าํ ลายพระชนม์พระราชา ลงไปแลว้ สองนางพระองคส์ ัน่ พากนั หนหา่ งออกไปจากหมู่บ้านโจรีทางจะไปทางไหนหาทราบ ไม่ ความมุ่งมาดมอยแู่ ตว่ ่าจะหนให้พน้ มือพวกภิลล์ซึ่งเปน็ คนชาติต่าํ ชา้ เทา่ นนั้ นางทัง้ สองทรง กาํ ลังน้อยแตอ่ ํานาจความกลัวพาใหเ้ สด็จไปเปน็ ทางถึงี๔ีโกรศ ออ่ นเพลยพระกําลังีทรง ดําเนนิ ตอ่ ไปไมไ่ ด้ีก็หยุดนัง่ พกั อยใู่ ต้รม่ ไม้รมิ ทาง เผอญิ มพระราชาอกพระองคห์ นึง่ ีทรงนาม ทา้ วจนั ทรเสน เสด็จออกยงิ สัตวป์ าุ กบั พระราชบุตรจาํ เพาะสองพระองค์ กษัตรยิ ์ทั้งสองทรงมา้ ไปตามแนวปาุ ีเห็นรอยเท้าหญงิ สองคน ก็ทรงชกั ม้าหยดุ ดู พระราชบดิ าตรสั ว่า \"รอยเทา้ คนทาํ ไมมอยู่ในปาุ แถบน้\" พระราชบุตรทลู ว่า \"รอยเทา้ เหล่านเ้ ปน็ รอยเทา้ หญงิ สองคน รอยเท้าชายคงจะโตกวา่ น้\" พระราชาตรัส วา่ \"เจ้าของรอยเท้าเหล่าน้เปน็ หญิงจรงิ อยา่ งเจา้ วา่ แลนา่ ประหลาดทม่ หญงิ มาเดนิ อยู่ในปุาีแตถ่ า้ จะพดู ตามเรือ่ งในหนงั สอื หญงิ ท่พระราชาพบในปาุ มกั จะงามกวา่ หญิงทจ่ ะหาได้ ในกรุงเหมือนดอกไมป้ าุ ทง่ ามกว่าดอกไมใ้ นสวน มาเราจะตามนางทง้ั สองนไ้ ปีถ้าพบนางงาม จรงิ ดังวา่ ีเจ้าจงเลอื กเอาเป็นเมยคนหน่ึง\" พระราชบุตรทูลตอบวา่ \"รอยเท้านางทั้งสองน้มขนาดไมเ่ ทา่ กนั แม้เท้ามขนาดย่อมทงั้ สองนางก็ยังกย็ งั ใหญก่ วา่ กนั อยู่คนหนงึ่ ขา้ พเจา้ จะเลือกนางเทา้ เลก็ เปน็ ภริยาขา้ พเจา้ ีเพราะคงจะเป็นสาวนอ้ ย ตามขนาดแห่งเทา้ สว่ นนางเท้าเขื่องนน้ั คงจะเป็นสาวใหญ่ีขอพระองคจ์ งรับไว้เป็นราชชายา\" ท้าวจนั ทรเสนตรัสว่า \"เหตไุ ฉนเจา้ จงึ กล่าวดงั น้ พระราชมารดาของเจ้าสิน้ พระชนมไ์ ปไม่ก่วนั เจ้าจะ อยากมแมเ่ ลย้ งเรว็ เท่าน้เจยวหรอื \" พระราชบุตรทูลตอบวา่ \"ขอพระองคอ์ ย่ารับสงั่ เช่นน้นั เพราะบ้านของผ้เู ปน็ ใหญใ่ นครอบครวั นน้ั ีถ้าไมม่ แม่ เรือนก็เปน็ บ้านท่วา่ ง อน่งึ พระองคย์ ่อมจะทรงทราบคาถาซง่ึ มูลเทวะบัณฑติ แต่งไว้ีมความวา่ 'ชายผไู้ มใ่ ชค่ นโง่ไมย่ อมคนื สเู่ รอื นซ่ึงไม่มนางท่รกั ผมู้ รปู งามคอยรับรองในขณะท่กลบั ถึงเรอื น นนั้ แมเ้ รยกว่าเรอื นกไ็ มใ่ ช่ีอน่ื ีคอื คุกซึง่ ไม่มโซเ่ ทา่ นนั้ เอง' พระองค์ยอ่ มทรงทราบได้ด้วย พระองค์เองวา่ ความสุขแห่งพ่อบา้ นซง่ึ อยู่โดดเดย่ วนน้ั มไมไ่ ด้ในบ้านีแลมไม่ไดน้ อกบ้าน เพราะไม่มหวงั ว่าจะไดค้ วามสุขีเม่อื กลับมาสเู่ รือนแหง่ ตน\" ทา้ วจนั ทรเสนทรงนิง่ ตรองอยคู่ รูห่ น่งึ ีแลว้ ตรสั ตอบพระราชบุตรว่า \"ถา้ นางเท้าเขื่องมลกั ษณะเปน็ ท่พงึ ใจีขา้ กจ็ ะทําตามคําเจ้าวา่ \" ครั้นกษตั รยิ ท์ ั้งสององคท์ รงกระทําสญั ญาแบ่งนางกนั ดังน้แล้ว ก็ทรงชกั ม้าตาม รอยเทา้ นางเข้าไปในปาุ ีสกั ครู่หนงึ่ เห็นสองนางนั่งพกั อยใู่ ต้ร่มไม้ กษตั รยิ ส์ ององคเ์ สด็จลงจาก มา้ เขา้ ไปถามนาง ท้ังสองนางกเ็ ล่าเรือ่ งให้ทรงทราบทุกประการ พระราชากบั พระราชบตุ รกเ็ ชญิ นางทงั้ สองขนึ้ หลงั ม้าองคล์ ะองค์ นางพระบาทเขื่องคอื พระราชธิดาขึ้นทรงม้ากบั ท้าวจนั ทรเสน นางพระบาทเล็กคือพระมเหสขึน้ ทรงม้ากับพระราชบุตรีสอ่ งคก์ เ็ สดจ็ เขา้ กรุง กลา่ วสั้นๆ ทา้ วจันทรเสนแลพระราชบตุ รก็ทาํ การววิ าหะทงั้ สองพระองค์แต่กลับคู่ กันไป คอื พระราชบดิ าทรงววิ าหะกบั พระราชบุตรีพระราชบุตรทรงววิ าหะกับพระมเหส แลเพราะ เหตุทค่ าดขนาดเท้าผดิ ีลูกกลบั เป็นเมยพอ่ ีแม่กลับเปน็ เมยลูก ลูกกลบั เป็นแม่เล้ยงของผัวแม่
ตวั เองีแลแม่กลับเปน็ ลูกสะใภข้ องผวั แห่งลกู ตน แลตอ่ มาบตุ รแลธิดากเ็ กดิ จากนางทัง้ สอง แล บุตรแลธดิ าแหง่ นางทั้งสองก็ก็มบุตรแลธดิ าต่อีๆีกนั ไป เวตาลเล่ามาเพยงนก้ ็หยุดอยู่ครู่หนึง่ แลว้ กล่าวต่อไปวา่ บดั นข้ ้าพเจา้ จะต้งั ป๎ญหา ทลู ถามพระองค์วา่ ลูกทา้ วจันทรเสนท่เกิดจากธิดาท้าวมหาพล แลลูกมเหสทา้ วมหาพลทเ่ กดิ กับพระราชบุตรท้าวจนั ทรเสนน้ันจะนบั ญาติกันอยา่ งไร พระวกิ รมาทิตยไ์ ดท้ รงฟ๎งปญ๎ หาเวตาลก็ ทรงตรกึ ตรองเอาเรอ่ื งพอ่ กับลูกีแม่กบั ลกู แลพ่กบั น้องมาปนกันย่งุ แลมหิ นาํ ซ้ํามเร่อื งแมเ่ ล้ยง กบั แม่ตัวแลลกู สะใภ้กับลูกตวั อกเลา่ พระราชาทรงตปญ๎ หายังไม่ทนั แตกีพอทรงนึกข้ึนไดว้ ่า การพาเวตาลไปส่งใหแ้ กโ่ ยคน้ัน จะสําเร็จไดก้ ด็ ้วยไมท่ รงตอบปญ๎ หาีจึงเป็นอนั ทรงน่งิ เพราะ จําเปน็ แลเพราะสะดวก แลรบสาวกา้ วทรงดําเนนิ เรว็ ขึน้ ีคร้ันเวตาลทลู เยา้ ให้ตอบปญ๎ หาดว้ ยวธิ กล่าววา่ โง่ จะรบั สัง่ อะไรไมไ่ ด้กท็ รงกระแอมีเวตาลทูลถามว่า \"รบั สั่งตอบปญ๎ หาแล้วไม่ใชห่ รือ\" พระราชาไม่ทรงตอบวา่ กระไร เวตาลกน็ ง่ิ อยคู่ รูห่ นึง่ แล้วทลู ถามวา่ \"บางทพระองคจ์ ะโปรดฟ๎งเร่อื งสัน้ ๆีอกสักเรื่องหน่ึงกระมงั \" คร้งั น้แม้แต่กระแอม พระวกิ รมาทิตย์กไ็ มท่ รงกระแอมีเวตาลจงึ กลา่ วอกครั้งหน่ึงวา่ \"เมอื่ พระองค์ทรงจนปญ๎ ญาถึงเพยงนแ้ ล้ว บางทพระราชบตุ รซึ่งทรงป๎ญญาเฉลยว ฉลาดจะทรงแก้ป๎ญหาไดบ้ ้างกระมัง\" แต่พระธรรมธวชั พระราชบุตรนิง่ สนทิ ทเดยว ปลายเรอ่ื ง เมื่อพระวิกรมาทติ ย์ทรงนิง่ อ้งึ มไิ ดอ้ อกพระโอษฐ์ตรัสประการใด ดงั น้ัน เวตาลก็แสดงวาจาอาการประหลาดใจเปน็ ท่สี ดุ กล่าวชมว่าทรงตัง้ ม่ันพระหฤทัยดนี กั พระปัญญาราวกบั เทวดาแลมนุษยอ์ ่นื ทม่ี ีปัญญา จะหามนุษยเ์ สมอมิได้ แตถ่ งึ เวตาลจะ เหน็ แล้ววา่ พระราชาตง้ั พระหฤทยั จะไม่รับสัง่ ก็ยงั ไม่ยอมสนิท ยงั กลา่ วย่วั โดยเพียรจะ ให้รบั สัง่ ใหจ้ งได้ เวตาลกลา่ ววา่ \"ขา้ พเจา้ ขอถวายพระพรใหท้ รงรับความสําราญ เปน็ ผลแหง่ การท่ทรงนิ่งคร้ังน้ พระองคไ์ ด้ทรงเพยรมาหลายคร้ังแลว้ ทจ่ ะห้ามความช่างพูดในพระองคี์ แต่ก็ไม่สาํ เร็จ ขา้ พเจ้า จะไม่ทูลถามว่าการทท่ รงระงบั ความชา่ งพูดนนั้ ีเปน็ ด้วยความถ่อมพระองค์ แลความสามารถกุม พระสติไวไ้ ด้ีหรือเป็นด้วยความโง่แลไมส่ ามารถเทา่ นั้นเอง การท่ข้าพเจ้าไม่ทลู ถามวา่ ีไม่ทรงตอบเพราะเหตุไรน้ัน ก็เพราะขา้ พเจ้าตอ้ งการจะ ไวพ้ ระพกั ตร์ีแลพระองค์ก็คงจะทรงทราบแล้วว่า ขา้ พเจา้ สงสยั วา่ ไม่ทรงตอบเพราะพระป๎ญญา ทบึ ีไมท่ รงทราบว่าจะตอบว่ากระไร หาใช่เป็นด้วยมพระป๎ญญาจะตอบได้ถูกตอ้ งีแต่ไมท่ รง ตอบเพราะกุมพระสตไิ วไ้ ดไ้ ม่ การท่ไมท่ รงตอบปญ๎ หาครั้งน้ีกก็ ล่าวได้ว่าเปน็ ด้วยทรงเช่อื คาํ แนะนาํ ของขา้ พเจ้า แลขา้ พเจ้ามความปลม้ื ทท่ รงเช่ือคาํ ส่งั สอนของเวตาลจงึ ไม่ทลู ซักถาม ว่า ทรงเชื่อเพราะความฉลาดกุมสตไิ ว้ได้ีหรอื เปน็ เพราะโงไ่ ม่รู้จะตอบวา่ กระไร แลความไม่ตอบ ก็เปน็ ความเชื่อคําสงั่ สอนของข้าพเจ้าไปในตัว\" พระวกิ รมาทติ ยท์ รงกัดรมิ พระโอษฐ์เพือ่ จะหา้ มพระองค์เองมใิ หต้ รสั ีแลกห็ า้ มไว้ ได้ เวตาลกลา่ วตอ่ ไปวา่ \"เมอ่ื พระองคท์ รงรู้สึกความทบึ แหง่ พระป๎ญญา แลไดร้ บั ทุกขค์ อื อดั อน้ั ตันพระ หฤทยั ถึงเพยงนแ้ ลว้ ีขา้ พเจา้ กเ็ กดิ สงสาร จงึ ยอมระงับความมุ่งหมายซ่ึงมมาแตใ่ นเบ้ืองต้นว่า จะทําให้ทรงดาํ เนินทวนไปทวนมาจนส้นิ พระชนม์ลงในระหวา่ งทางเพอื่ ขา้ พเจ้าจะไดม้ โอกาส สละศพท่สิงอยเู่ ดย๋ วน้ เขา้ สงิ ศพพระราชาลองดูว่ามรสชาตเิ ป็นอยา่ งไรบ้าง อน่งึ ข้าพเจา้ ได้
ถวายสญั ญาไว้แตใ่ นชัน้ เดมิ วา่ จะถวายประโยชน์อย่างหนงึ่ ซง่ึ ไมม่ ใครอื่นจะถวายได้ แต่กอ่ นท่ จะถวายน้ันีข้าพเจา้ ขอทูลถามวา่ พระองค์จะทรงขยับย่ามให้ขา้ พเจ้าหายใจสะดวกขนึ้ อกหน่อย จะได้หรือไม่\" พระธรรมธวชั พระราชบุตรได้ยนิ เวตาลทูลถามดงั นัน้ ก็จับแขนเสอ้ื ทรงพระราช บดิ ากระตุกเพ่ือจะเตือนให้รพู้ ระองคี์ มิให้ตรัสตอบเวตาล แต่พระราชบดิ ารู้สึกพระองค์อย่แู ลว้ แมใ้ ครจะเอาม้ามาลากหลายคกู่ ็ไม่ฉดุ ให้พระวาจาออกจากพระโอษฐ์ได้ ฝาุ ยเวตาลเมื่อเหน็ พระราชาทรงน่ิงอยูด่ ังน้นั ก็กล่าวต่อไปวา่ \"ข้าแต่พระองคผ์ ้เู ปน็ ใหญ่ในหมนู่ ักรบ พระองค์จงรําลกึ ถงึ คาํ ซึ่งอสรู ป๎ถพบาลได้ ทูลไวว้ ่าีผู้ใดมงุ่ จะฆ่าชวติ พระองค์ๆ อาจตดั หวั ผู้นนั้ เสยกอ่ นไดโ้ ดยคลองธรรมีแลในการ ข้างหนา้ ซงึ่ จะเปน็ ไปต้งั แต่บดั น้ พระองค์พงึ ปฏิบตั ติ ามคําทอ่ สรู กล่าวน้นั สว่ นพอ่ คา้ พลอยซง่ึ ถวายทบั ทิมแกพ่ ระองค์เปน็ อนั มาก แลโยคช่ือศานตศิ ลซงึ่ กระทําพธิ อย่ทู ่ปาุ ชา้ ริมฝง่๎ แม่นํ้าโค ทาวรนนั้ ีคือคนีๆ เดยวกนั ีแลมใิ ชใ่ ครอนื่ ีคือโยคซงึ่ พระราชบดิ าแหง่ พระองค์ไดก้ ระทําเหตุให้ โกรธ แลมาดหมายจะแก้แคน้ เปน็ เวรกันอยู่จนบัดน้ีสว่ นข้าพเจา้ ผูเ้ ปน็ ลูกพอ่ ค้าน้ํามนั นั้น โยค กลัวว่าจะกระทาํ การกดกน้ั ความเปน็ ใหญ่ในโลกของเขา จึงฆ่าข้าพเจ้าเสยดว้ ยอํานาจตบะแล พาศพข้าพเจา้ มาแขวนหอ้ ยหัวไว้ทต่ ้นอโศกเปน็ เคร่ืองล่อลวงพระองค์\" \"โยคนัน้ เปน็ ผูใ้ ชใ้ หพ้ ระองคม์ าปลดข้าพเจา้ แบกไปให้แกเ่ ขา แลเมื่อพระองค์ ทรงท้ิงขา้ พเจา้ ลงท่เทา้ เขาในคืนวันน้ เขาจะสรรเสริญความกล้าแลความเพยรของพระองคข์ ้ึน ไปจนถึงฟูา ข้าพเจ้าขอทูลให้รพู้ ระองคแ์ ลระวังพระองค์จงหนกั เพราะโยคคงพาพระองค์ไปท่ หนา้ เทวรปู นางทรุ คาีแลเมอื่ เขาไดบ้ ูชาแล้ว เขาจะเชญิ ใหพ้ ระองค์เคารพเทวรูปโดยอษั ฎางค ประณต\" ตรงนเ้ วตาลทูลกระซบิ ค่อยๆ ประหนึง่ เกรงว่าจะมผู้ไดย้ ินแลนําคาํ ทก่ ล่าวนัน้ ไป บอกโยคศานติศล ครัน้ ทูลเสรจ็ แลว้ ีเวตาลกอ็ อกจากศพ ทําให้ย่ามซ่ึงพระราชาทรงแบกนั้นเบา เขา้ เป็นอันมาก แต่เมือ่ ไดอ้ อกจากย่ามแลว้ ยงั ลอยกล่าวสรรเสรญิ พระราชาแลพระราชบุตรอยู่ อก คําสรรเสรญิ นัน้ เปน็ ไปในทางทช่ มวา่ รูส้ กึ ความโงแ่ ลลดหย่อนราชมานะอันเปน็ คุณ ความดีซึ่งถ้ามใี นตวั ใครผนู้ น้ั ยอ่ มมีความสขุ ในโลก ครัน้ เวตาลไปพ้นแลว้ พระวิกรมาทติ ยก์ ็รบทรงดําเนนิ ไปถึงปาุ ช้า พบโยคกาํ ลัง น่งั เคาะกะโหลกหวั ผกล่าวไม่หยดุ ปากว่า \"โหีกาล โหีทรุ คาีโหีเทว\" รอบตัวโยคน้นั มากไปดว้ ยรปู กายอันน่าเกลยดนา่ กลัวีคอื ผอสรู ทงั้ หลายสาํ แดง รปู ต่างๆีกนั บา้ งก็เปน็ นาคีบา้ งก็เปน็ ภูต บ้างกเ็ ป็นรูปแพะใหญ่ซึ่งผแห่งผู้ฆ่าพราหมณ์ไดเ้ ขา้ สิง อยู่ บา้ งกเ็ ป็นหนอนใหญ่ซึง่ ผแหง่ พราหมณก์ นิ เหลา้ เป็นผสู้ งิ บ้างก็เปน็ รูปคนหน้าเปน็ มา้ แลอูฐ แลลงิ ีบา้ งก็เปน็ รปู คนขาขา้ งเดยว หขู า้ งเดยวแลเป็นผดูดเลอื ดีเพราะเมอ่ื ยังไมต่ ายได้ขโมย ของวดั บ้างกม็ รปู เป็นแร้งแลเป็นผเลวีๆีเพราะเคยเป็นชู้กับเมยอุป๎ชฌาย์ หรือไดเ้ มยเป็นคนตาํ่ ชาติีหรือเปน็ ผทําบาปอนื่ ต่างีๆ บา้ งก็เป็นรปู สัตวอ์ ันนา่ เกลยดแลนา่ กลัวีกัดกนิ ทอ่ นแห่งศพ มนุษย์ แลทําเสยงกกึ กอ้ งไปทงั้ ปุาชา้ ครนั้ พระวิกรมาทิตยเ์ สด็จเข้าไปใกล้จะถงึ ตัวโยค โยคกย็ กแขนขึ้นเป็น สัญญาณเสยงทง้ั หลายก็หยดุ น่งิ หมด พระราชากท็ รงทิ้งย่ามศพลงตรงหนา้ โยคีโยคกแ็ สดง ความยนิ ด แลกลา่ วสรรเสริญความม่ันคงของพระราชาเปน็ อนั มาก แลว้ โยคก็หยบิ เอาศพซ่ึงเปน็ ศพเด็กออกมาจากย่ามีแลว้ หนั หนา้ ไปทางทิศใต้ รา่ ยมนตร์อยูค่ รหู่ นึง่ ีศพนั้นกม็ อาการเหมือน เปน็ แล้วโยคก็ถวายของเป็นเครอื่ งบชู าพระเทวีคอื ีพลีู ดอกไมี้ ไมจ้ นั ทนี์ ขา้ วีลูกไม้ แลเนื้อ มนษุ ย์ซง่ึ ไมเ่ คยถูกคมเหลก็
แลว้ เอาเช้อื เพลิงใส่ลงในกะโหลกหัวผ จุดไฟเปาุ จนลกุ เปน็ เปลวใช้ แทนโคมสอ่ งทาง นําพระราชาแลพระราชบุตรไปยงั เทวรูปนางกาลี เป็นรปู หญิงดา้ คอขาดจากตัวคร่งึ หนง่ึ ล้ินแลบออกมาจากปาก ซ่ึงอา้ กวา้ ง ตาแดงเหมอื นคนเมา ค้ิวแดง แลผมซึ่งเปน็ เสน้ หยาบ นนั้ หอ้ ยคลมุ ไปจนถึงเทา้ เสือ้ ผา้ ทค่ี ลุมนัน้ คอื หนังชา้ งแห้ง สะเอวรดั ดว้ ยมาลัยรอ้ ยด้วยมอื แห่งยักษ์ซ่งึ นางฆา่ ตายในขณะ รบ มีศพสองศพห้อยเป็นกณุ ฑลท่ีหูสองขา้ ง แลสร้อยคอนน้ั เปน็ โซ่กะโหลกหวั คน มือท้งั สถี่ อื ดาบ บาศ ตรี แลคทา เทา้ หนึง่ เหยียบอกพระศิวะผสู้ ามี อีกเทา้ หนง่ึ เหยยี บนอ่ ง หนา้ เทวรูปอนั น่า กลวั น้ีมเคร่อื งใชใ้ นการบูชาต่างๆ คือตะเกยงีหมอ้ ีแลภาชนะอื่นๆีกบั สังขแ์ ลฆ้องเป็นตน้ ของเหลา่ น้มกล่ินเลือดทง้ั นั้น คร้นั โยคพาพระราชาแลพระราชบตุ รไปถงึ หนา้ เทวรปู แลว้ ก็กม้ ลงวางกะโหลก ศรษะท่ถือเป็นโคมนาํ ทางมาน้ันลงกบั พ้นื แลว้ หยิบดาบมาถอื แอบหลงั ไว้ีแลทลู พะราชาวา่ \"ข้าแตพ่ ระราชา พระองคไ์ ดท้ รงกระทาํ ตามสญั ญาแลว้ โดยทางทช่ อบทกุ ประการ แลเพราะเหตุท่พระองค์เสด็จมาในท่น้ีพิธของข้าพเจ้าจะเปน็ อนั สาํ เรจ็ ดังหมาย พระ อาทติ ย์ก็จะขับรถข้ามเขาเบื้องตะวนั ออกอย่แู ล้ว เชญิ พระองค์ทรงเคารพพระผู้เป็นเจา้ โดย อัษฎางคประณต แลพระเกยรติของพระองค์จะร่งุ เรอื งยิง่ ีๆีขึ้นไปีสธิ ิท้ังแปดีแลนิธิทั้งเกา้ จะ ไดเ้ ป็นของพระองคี์ แลความจาํ เริญจะมยนื ยาวไปชว่ั กาลนาน\" พระวิกรมาทติ ยท์ รงฟ๎งดงั นั้นีราํ ลึกได้ถงึ คําเวตาล จึงรบั ส่ังแกโ่ ยคโดยอาการ เคารพว่า \"ข้าพเจา้ พระราชาไม่เคยกระทาํ อษั ฎางคประณต ขอท่านผู้เป็นอาจารยจ์ งทําให้ ขา้ พเจ้าดกู ่อนีแลว้ ข้าพเจา้ จะทําตาม\" โยคผูฉ้ ลาดขุดหลุมไว้ล่อพระราชา กต็ กหลุมทต่ ัวเองทาํ ไวี้ คร้ันโยคก้มตัวลง กระทาํ อัษฎางคประณต พระวกิ รมาทติ ยก์ ็ชักพระแสงดาบออกีฟาดถูกศรษะโยคขาดกระเด็นไป ขณะน้ันเทวรูปควา่ํ ลงมา หากพระธรรมธวัชพระราชบุตรจับพระกรพระราชบดิ าเหนย่ วพระองค์ กระชากไปโดยแรง พระราชาจงึ หลกพน้ เทวรูปรอดชวิตไปได้ีในทนั ใดน้นั มเสยงกล่าวใน อากาศวา่ \"บรุ ุษพึงฆ่าคนซึ่งตัง้ ใจจะฆา่ ตนไดโ้ ดยคลองธรรม\" แลมเสยงดนตรแลคาํ อวยชัยมาจากในฟาู ทง้ั ดอกไมท้ พิ ยก์ ต็ กกลน่ เกล่อื นไป พระอินทรแ์ วดล้อมด้วยเทพบรวิ ารก็เสด็จมาเฉพาะพระพักตรพ์ ระวิกรมาทิตย์ แลตรสั ให้ขอพรๆี หนง่ึ ีพระวิกรมาทติ ย์ทลู ว่า \"ข้าแตพ่ ระจอมสวรรค์ขอพระองค์จงประทานพรให้เรื่องของขา้ พเจา้ น้ ปรากฏไป ในโลกชวั่ กาลนาน\" พระอินทรต์ รสั วา่ \"เราให้พรแกท่ ่านดังขอีแลตราบใดพระอาทิตยแ์ ลพระจนั ทรย์ ังสอ่ งอย่ใู นฟาู แล ฟาู ยังครอบดินีตราบน้นั เรอ่ื งน้ปรากฏไปในโลก\" ครนั้ พระอินทร์เสด็จหายไปแล้วีพระวกิ รมาทิตย์ทรงยกศพทงั้ สองทิ้งเข้าไปใน กองไฟ กเ็ กิดมพระสองตนีพระวิกรมาทิตยต์ รสั วา่ \"เม่ือข้าเรยกเจ้าจงมาทันท\" แลว้ กพ็ าพระราชบตุ รคนื เขา้ พระราชวัง ทรงปกครองบ้านเมืองเป็นสขุ ชวั่ กาล นาน จนเมือ่ พระองค์ซง่ึ มคี วามตายเปน็ สภาพเสดจ็ สปู่ รโลกแล้ว พระเกียรติซ่ึงมิรู้ดบั ยัง ปรากฏตราบเท่าทกุ วนั นี้ The Vampire's Tenth Story
Search