Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1B4FC823-1ED9-4179-8D52-6F171FCD4179

1B4FC823-1ED9-4179-8D52-6F171FCD4179

Published by Guset User, 2022-07-08 07:04:21

Description: 1B4FC823-1ED9-4179-8D52-6F171FCD4179

Search

Read the Text Version

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุค กลาง

1. โคลอสเซียม (COLOSSEUM) หรือ ทวิอัฒจันทร์ฟลาเวียน (FLAVIAN AMPHITHEATRE) ประเทศอิตาลี โคลอสเซียม สนามกีฬากลางแจ้งขนาดมหึมา ตั้งตระหง่านกลางกรุงโรม ประเทศอิตาลีมาตั้งแต่ช่วงคริสตศักราชที่ 72 สร้าง เสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส และกลายมาเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในยุคปัจจุบัน เป็นศูนย์รวมความบันเทิงของชาวโรมันใน ยุคนั้น และยังเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดของอาณาจักรโรม อัฒจันทร์ถูกสร้างเป็นรูปทรงวงรี เพื่อให้ผู้ชมมีความรู้สึกอยู่ใกล้กับตัวนักกีฬา สร้างด้วยอิฐ และหินทราย วัดโดยรอบ ได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขัง ในสนามขณะเกิดฝนตก ใต้อัฒจรรย์มีห้องใต้ดินที่สร้างขึ้นเพื่อขังสิงโต และนักโทษก่อนปล่อยให้ออกมาต่อสู้กันในสนาม นอกจากนี้ยังใช้เป็นสถานที่ประลองฝีมือของเหล่าอัศวิน และนักรบแกลดิเอเตอร์ (Gladiator) ในยุคนั้นด้วย

2. หลุมฝังศพแห่งอเล็กซานเดรีย (The Catacombs of Kom el Shoqafa) สุสานใต้ดินเมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ สถานที่ฝังพระศพของกษัตริย์อียิปต์อีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ใช่พีระมิด แต่จะอยู่ใต้ดินลึกเข้าไปในภูเขาหินทรายเป็นชั้นๆ บางตอนมี ความลึกถึง 70-80 ฟุต มีทางเดินกว้าง 3-4 ฟุต ทางเดินจะวกไปเวียนมาเป็นระยะทางนับร้อยไมล์ สำหรับสุสานนี้มัถึง 3 ชั้นด้วยกัน ชั้นที่ 1 มีไว้สำหรับเตรียมการปลงศพ ชั้นที่ 2 เป็นที่เก็บรักษา และชั้นที่ 3 ใช้เป็นที่รวมญาติเพื่อระลึกถึงผู้ตาย ที่บรรจุดพระศพจะอยู่บนผนังอุโมงค์ที่เจาะเป็นช่องลึกเข้าไป มีแท่นบูชาและตะเกียงดวงเล็ก ๆ แขวนไว้ และมีการตกแต่งสุสานอย่าง วิจิตรงดงาม แต่ทั้งนี้ยังไม่ปรากฏว่าสุสานแห่งนี้ใครเป็นผู้สร้าง สร้างไว้ให้ผู้ใด และสร้างไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นในช่วงประ มาณคริสตศตวรรษที่ 2

3. กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) ประเทศจีน หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีการพูดถึงเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นในนวนิยายหรือภาพยนต์หลายๆ เรื่อง เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ สำหรับป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ เริ่มต้นสร้างประมาณปีพ.ศ.338 การก่อสร้างกินเวลายาวนานต่อมาเรื่อยๆ อีกหลายรัชสมัย ถึงปัจจุบัน กำแพงเมืองจีนยังคงครองตำแหน่งกำแพงอิฐที่มีความยาวที่สุดในโลก จากการสำรวจพบว่ายาวประมาณ 22,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว ความสูงประมาณ 8-9 เมตร ความกว้างตั้งแต่ 4.5 เมตร ถึง 7.5 เมตร เพียงพอให้ทหารม้ายืนเข้า แถวเรียง 8 สบายๆ มีป้อมรักษาการทุกๆ 200 เมตร และมีระฆังแขวน เพื่อตีบอกสัญญาณเกิดเหตุไว้ประจำทุกหอ รวมทั้งหมดมี ไม่ต่ำกว่า 20,000 หอ

4. สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ประเทศอังกฤษ หนึ่งในโบราณสถานลึกลับที่ยังคงหาคำตอบที่แน่ชัดไม่ได้ ว่าใครเป็นผู้สร้าง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วง 2,000 – 3,000 ปีก่อ นคริศตกาล ตั้งอยู่กลางทุ่งราบซัลลิสเบอร์รี (Salisbury Plain) ห่างจากลอนดอนไปเพียง 10 ไมล์ กองหินสโตนเฮนจ์ ประกอบไปด้วย ก้อนหินทรงสูงขนาดใหญ่จำนวน 112 ก้อนวางตั้งเรียงเป็นรูปวงกลมซ้อนกันสามวง บางก้อนล้มนอน บางก้อนวางทับซ้อนอยู่บนยอด วงหินรอบนอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 100 ฟุต มีน้ำหนักกว่า 30 ตัน ที่แปลกก็คือแถบนี้เป็นทุ่งราบกว้างใหญ่ ไม่มีร่องรอยการขนก้อนหินหนักเป็นตันมาตั้งไว้ตรงนี้เลย แถมยังวางซ้อนกัน ได้ด้วย สันนิษฐานกันว่ามันถูกสร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หรือเพื่อใช้ดูตำแหน่งดวงดาว และฤดูกาล

5. เจดีย์กระเบื้องเคลือบ เมืองนานกิง (Porcelain Tower of Nanjing) ประเทศจีน น่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางเพียงแห่งเดียวที่ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว ในช่วงเหตุการณ์กบฏไท่ผิงในราวคริสตศตวรรษ ที่ 19 ส่วนเจดีย์ที่เราเห็นในปัจจุบันเป็นหอที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่แทนที่แล้วในปี ค.ศ. 2010 เจดีย์กระเบื้องเคลือบเมืองนานกิงนี้สร้างขึ้นเมื่อคริสตศตวรรษที่ 15 สมัยราชวงศ์หมิง เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมจำนวน 9 ชั้น ความ สูงประมาณ 79 เมตร ตัวเจดีย์สร้างด้วยอิฐและกระเบื้องเคลือบ ชายคาแขวนกระดิ่ง 80 ลูกโดยรอบ องค์เจดีย์ก่ออิฐประดับ กระเบื้องเคลือบ ยอดแหลมเป็นทรงกลมต่อขึ้นไปเคลือบทอง

6. หอเอนเมืองปิซา (Leaning Tower of Pisa) ประเทศอิตาลี หอเอนเมืองปิซา อยู่บริเวณจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) สร้างด้วยหินอ่อนสูง 8 ชั้น น้ำหนักรวม ประมาณ 14,500 ตัน เริ่มก่อสร้างปี ค.ศ. 1173 แต่เมื่อสร้างถึงชั้นที่ 3 ฐานด้านหนึ่งของหอเริ่มมีการยุบตัว สถาปนิกจึง พยายามสร้างต่อโดยให้หอเอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อถ่วงสมดุล แต่อีกไม่นานการก่อสร้างก็ชะงักเนื่องจากสงคราม โดยสรุปก็ สร้างสำเร็จในปี ค.ศ.1372 (รวมส่วนของหอระฆังด้วย) สิริเวลาในการสร้างทั้งหมด 177 ปี

. 7. ฮาเกียโซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) คอนสแตนติโนเปิล (ปัจจุบันคือ กรุงอีสตันบูล) ประเทศตุรกี ฮาเกียโซเฟีย มหาวิหารสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ ที่เคยเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาเกือบพันปี ปัจจุบันนี้ยังคงได้รับการ รักษาไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ แต่ก่อนหน้านั้นฮาเกียโซเฟียถูกปรับเปลี่ยนสถานะไปมามากมายตามแต่สถานการณ์ และผู้ปกครองในแต่ละยุค ตั้งแต่ ค.ศ. 532-537 ที่นี่เป็นโบสถ์ศูนย์กลางของนิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ ต่อมาปี ค.ศ. 1453 ก็ถูกดัดแปลงให้เป็นสุเหร่า จนถึงปี ค.ศ. 1935 รัฐบาลตุรกีจึงได้เปลี่ยนจากสุเหร่ามาเป็นพิพิธภัณฑ์ ฮาเกียโซเฟีย มีเนื้อที่ 700 ตารางเมตร มีเสาสลักอย่างงดงามถึง 108 ต้น ประดับประดาด้วยกระจกหลากสี และยอด โดมขนาดใหญ่กลางวิหาร ด้วยความที่เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบคริสเตียน และอิสลามนี่เองจึงทำให้ที่มีมี ความงามในแบบที่หาชมที่อื่นไม่ได้จริงๆ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook