Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานคอมพิวเตอร์

โครงงานคอมพิวเตอร์

Published by สุภาพร ศรียา, 2022-08-28 23:23:31

Description: โครงงานคอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

ขอ้ มลู และความหมาย ของคอมพิวเตอร์

สารบญั ความหมาย-ขอ้ มลู คอมพิวเตอร์ การทางานของคอมพิวเตอร์ ลกั ษณะเด่นของคอมพิวเตอร์ ประโยชนข์ องคอมพิวเตอร์ ขอ้ มลู ของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอรย์ คุ แรกท่ีมฟี ังกช์ นั จากดั ประเภทของคอมพิวเตอร์ วีดีโอ ผจู้ ดั ทา

ความหมาย คอมพวิ เตอร์ คอื เครื่องคานวณในรปู ของอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ท่ีสามารถรับขอ้ มลู และคาสงั่ ผา่ นอปุ กรณร์ ับขอ้ มลู แลว้ นาขอ้ มลู และคาสงั่ นนั้ ไปประมวลผลดว้ ยหนว่ ย ประมวลผลเพื่อใหไ้ ดผ้ ลลพั ธท์ ่ตี อ้ งการและแสดงผลผา่ นอปุ กรณแ์ สดงผล ตลอดจน สามารถบันทึกรายการตา่ งๆไวเ้ พือ่ ใชง้ านไดด้ ว้ ยอปุ กรณบ์ ันทกึ ขอ้ มลู สารอง ขอ้ มลู ขอ้ มลู คอื ขอ้ เท็จจรงิ ของสงิ่ ท่ีเราสนใจ ขอ้ เท็จจริงท่เี ป็ นตวั เลข ขอ้ ความ หรือ รายละเอยี ดซง่ึ อาจอยใู่ นรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ ภาพ เสยี ง วีดโิ อไมว่ ่าจะเป็ นคน สตั ว์ สง่ิ ของ หรอื เหตกุ ารณท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สง่ิ ตา่ ง ๆ ขอ้ มลู เป็ นเร่อื งเกยี่ วกบั เหตกุ ารณท์ ี่เกดิ ขน้ึ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง และตอ้ งถกู ตอ้ งแมน่ ยา ครบถว้ น ขนึ้ อย่กู บั ผดู้ าเนนิ การท่ีใหค้ วามสาคัญ ของความรวดเร็วของการเกบ็ ขอ้ มลู ดงั นน้ั การเก็บขอ้ มลู จงึ เป็ นการเกบ็ รวบรวม เกยี่ วกบั ขอ้ เท็จจริงของสงิ่ ท่เี ราสนใจนนั่ เอง ขอ้ มลู จงึ หมายถึงตวั แทนของขอ้ เท็จจริง หรือความเป็ นไปของสงิ่ ของท่ีเราสนใจ

คอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอรท์ างานดว้ ยหลกั การทางอเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ ่ีใชส้ ญั ญาณทาง ไฟฟ้ าแทนตวั เลขศนู ยแ์ ละหนง่ึ ซงึ่ เป็ นตวั เลขในระบบเลขฐานสอง แตล่ ะหลกั เรียกว่าบติ (binary digit : bit) และเมอ่ื นาตวั เลขหลายๆ บติ มาเรยี งกนั จะใชส้ รา้ งรหัส แทนจานวน อกั ขระหรือสญั ลกั ษณท์ ง้ั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษได้ และเพือ่ ใหก้ าร แลกเปลยี่ นขอ้ ความระหว่างมนษุ ยก์ บั คอมพวิ เตอรเ์ ป็ นไปในแนวเดยี วกนั จงึ มีการ กาหนดมาตรฐานรหัสแทนขอ้ มลู ในระบบเลขฐานสองขน้ึ โดยรหัสมาตรฐานท่ีนยิ มใชก้ นั มากมสี องกลมุ่ คือ รหัสแอสกแี ละรหัสเอ็บซิดกิ คอมพิวเตอรค์ ืออะไร คอมพวิ เตอรเ์ ขา้ มามบี ทบาททีส่ าคัญยิง่ ตอ่ สงั คมของมนษุ ยเ์ ราในปัจจบุ นั แทบทกุ วงการลว้ นนาคอมพวิ เตอรเ์ ขา้ ไปเกย่ี วขอ้ งกบั การใชง้ าน จนกลา่ วไดว้ า่ คอมพิวเตอรเ์ ป็ น ปัจจยั ที่สาคัญอย่างยง่ิ ตอ่ การดาเนนิ ชวี ิตและการทางานในชวี ติ ประจาวัน ฉะนนั้ การ เรียนรเู้ พอ่ื ทาความรจู้ กั กบั คอมพวิ เตอรจ์ งึ ถือเป็ นสง่ิ ที่มคี วามจาเป็ นเป็ นอย่างย่งิ เพอ่ื ที่จะทราบว่าคอมพิวเตอรค์ อื อะไร ทางานอยา่ งไร และมคี วามสาคัญตอ่ มนษุ ย์ อย่างไร เราจงึ ควรทาการศกึ ษาในหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้ ความหมายของคอมพิวเตอร์ การทางานของคอมพิวเตอร์ ลกั ษณะเดน่ ของคอมพวิ เตอร์ ประโยชนข์ องคอมพวิ เตอร์

การทางานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอรไ์ มว่ า่ จะเป็ นประเภทใดก็ตาม จะมลี กั ษณะการ ทางานของสว่ นตา่ งๆ ทีม่ คี วามสมั พนั ธก์ นั เป็ น กระบวนการ โดยมอี งคป์ ระกอบ พืน้ ฐานหลกั คือ Input Process และ output ขน้ั ตอนท่ี 1 : รบั ขอ้ มลู เขา้ (Input) ขน้ั ตอนท่ี 2 : ประมวลผลขอ้ มลู (Process) เริม่ ตน้ ดว้ ยการนาขอ้ มลู เขา้ เครือ่ ง คอมพิวเตอร์ ซ่ึงสามารถผา่ นทางอปุ กรณช์ นดิ ตา่ งๆ แลว้ แตช่ นดิ ของขอ้ มลู ท่จี ะป้ อนเขา้ ไป เมอ่ื นาขอ้ มลู เขา้ มาแลว้ เครื่องจะดาเนนิ การ เชน่ ถา้ เป็ นการพมิ พข์ อ้ มลู จะใชแ้ ผงแป้ นพิมพ์ กบั ขอ้ มลู ตามคาสงั่ ทไี่ ดร้ ับมาเพ่ือใหไ้ ดผ้ ล (Keyboard) เพอื่ พิมพข์ อ้ ความหรือโปรแกรมเขา้ ลพั ธต์ ามทตี่ อ้ งการ การประมวลผลอาจจะ เครือ่ ง ถา้ เป็ นการเขยี นภาพจะใชเ้ คร่อื งอา่ น มไี ดห้ ลายอยา่ ง เชน่ นาขอ้ มลู มาหาผลรวม พิกดั ภาพกราฟิ ค (Graphics Tablet) โดยมปี ากกา นาขอ้ มลู มาจดั กลมุ่ นาขอ้ มลู มาหาค่ามาก ชนดิ พเิ ศษสาหรบั เขยี นภาพ หรอื ถา้ เป็ นการ ทส่ี ดุ หรอื นอ้ ยทสี่ ดุ เป็ นตน้ เลน่ เกมก็จะมกี า้ นควบคมุ (Joystick) สาหรับ เคลอื่ นตาแหนง่ ของการเลน่ บนจอภาพ เป็ นตน้ ขน้ั ตอนที่ 3 : แสดงผลลพั ธ์ (Output) เป็ นการนาผลลพั ธจ์ ากการประมวลผลมา แสดงใหท้ ราบทางอปุ กรณท์ ีก่ าหนด ไว้ โดยทวั่ ไปจะแสดงผา่ นทางจอภาพ หรือ เรียกกนั โดยทวั่ ไปวา่ \"จอมอนเิ ตอร\"์ (Monitor) หรือจะพิมพข์ อ้ มลู ออกทาง กระดาษโดยใชเ้ คร่อื งพิมพก์ ไ็ ด้

ลกั ษณะเดน่ ของคอมพิวเตอร์ เคร่ืองคอมพิวเตอรถ์ กู สรา้ งขน้ึ มาเพื่อใหม้ ี จดุ เดน่ 4 ประการ เพ่ือทดแทนขอ้ จากดั ของมนษุ ย์ เรยี กว่า 4 S special ดงั นี้ 1. หนว่ ยเกบ็ (Storage)หมายถึง ความสามารถในการเก็บ ขอ้ มลู จานวนมากและเป็ นเวลานาน นบั เป็ นจดุ เดน่ ทาง โครงสรา้ งและเป็ นหัวใจของการทางานแบบอัตโนมตั ขิ อง เครือ่ งคอมพิวเตอร์ ทัง้ เป็ นตวั บง่ ชป้ี ระสทิ ธภิ าพของ คอมพิวเตอรแ์ ตล่ ะเครือ่ งดว้ ย 2. ความเรว็ (Speed)หมายถึง ความสามารถในการ ประมวลผลขอ้ มลู (Processing Speed) โดยใชเ้ วลานอ้ ย เป็ นจดุ เดน่ ทางโครงสรา้ งที่ผใู้ ชท้ ัว่ ไปมสี ว่ น เกย่ี วขอ้ งนอ้ ยทีส่ ดุ เป็ นตวั บ่งชป้ี ระสทิ ธภิ าพของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ทสี่ าคญั สว่ นหนง่ึ เชน่ กนั 3. ความเป็ นอตั โนมตั ิ (Self Acting)หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลขอ้ มลู ตามลาดบั ขน้ั ตอนได้ อย่างถกู ตอ้ งและตอ่ เนอ่ื งอยา่ งอตั โนมตั ิ โดยมนษุ ยม์ สี ว่ น เกยี่ วขอ้ งเฉพาะในขน้ั ตอนการกาหนดโปรแกรมคาสัง่ และ ขอ้ มลู กอ่ นการประมวลผลเทา่ นนั้ 4. ความนา่ เช่ือถือ (Sure)หมายถึง ความสามารถในการ ประมวลผลใหเ้ กดิ ผลลพั ธท์ ี่ถกู ตอ้ ง ความนา่ เชอ่ื ถือนบั เป็ น สง่ิ สาคัญทส่ี ดุ ในการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ความสามารถนเี้ กย่ี วขอ้ งกบั โปรแกรมคาสงั่ และขอ้ มลู ท่ี มนษุ ยก์ าหนดใหก้ บั เครอื่ งคอมพวิ เตอรโ์ ดยตรง กล่าวคือ หากมนษุ ยป์ ้ อนขอ้ มลู ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ งใหก้ บั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ กย็ ่อมไดผ้ ลลพั ธท์ ีไ่ มถ่ กู ตอ้ งดว้ ยเชน่ กนั

ประโยชนข์ องคอมพิวเตอร์ จากการท่ีคอมพวิ เตอรม์ ลี กั ษณะเดน่ หลายประการ ทาใหถ้ กู นามาใชป้ ระโยชน์ ตอ่ การดาเนนิ ชวี ติ ประจาวันในสงั คมเป็ นอยา่ งมาก ทพี่ บเห็นไดบ้ ่อยทส่ี ดุ ก็คือ การใชใ้ นการพิมพเ์ อกสารตา่ งๆ เชน่ พิมพจ์ ดหมาย รายงาน เอกสารตา่ งๆ ซงึ่ เรียกว่างานประมวลผล ( word processing ) นอกจากนยี้ ังมกี ารประยกุ ตใ์ ช้ คอมพิวเตอรใ์ นดา้ นตา่ งๆ อกี หลายดา้ น ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. งานธรุ กจิ เชน่ บริษทั รา้ นคา้ หา้ งสรรพสนิ คา้ ตลอดจนโรงงานตา่ งๆ ใช้ คอมพิวเตอรใ์ นการทาบัญชี งานประมวลคา และตดิ ตอ่ กบั หนว่ ยงานภายนอก ผา่ นระบบโทรคมนาคม นอกจากนง้ี านอตุ สาหกรรม สว่ นใหญ่กใ็ ช้ คอมพวิ เตอรม์ าชว่ ยในการควบคมุ การผลติ และการประกอบชนิ้ สว่ นของ อปุ กรณต์ า่ งๆ เชน่ โรงงานประกอบรถยนต์ ซึ่งทาใหก้ ารผลติ มคี ณุ ภาพดขี นึ้ บริษทั ยงั สามารถรบั หรืองานธนาคาร ท่ใี หบ้ รกิ ารถอนเงนิ ผา่ นตฝู้ ากถอนเงนิ อัตโนมตั ิ ( ATM ) และใชค้ อมพวิ เตอรค์ ดิ ดอกเบี้ยใหก้ บั ผฝู้ ากเงนิ และการโอน เงนิ ระหวา่ งบัญชี เชอ่ื มโยงกนั เป็ นระบบเครือขา่ ย 2. งานวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และงานสาธารณสขุ สามารถนา คอมพวิ เตอรม์ าใชใ้ นนามาใชใ้ นสว่ นของการคานวณทคี่ อ่ นขา้ งซับซอ้ น เชน่ งาน ศกึ ษาโมเลกลุ สารเคมี วถิ ีการโคจรของการสง่ จรวดไปสอู่ วกาศ หรอื งาน ทะเบยี น การเงนิ สถิติ และเป็ นอปุ กรณส์ าหรับการตรวจรกั ษาโรคได้ ซึ่งจะ ใหผ้ ลทแ่ี มน่ ยากวา่ การตรวจดว้ ยวธิ เี คมแี บบเดมิ และใหก้ ารรกั ษาไดร้ วดเร็ว ขนึ้

4. งานวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม สถาปนกิ และวิศวกรสามารถใช้ คอมพิวเตอรใ์ นการออกแบบ หรอื จาลองสภาวการณ์ ตา่ งๆ เชน่ การรบั แรงสนั่ สะเทอื นของอาคารเมอ่ื เกดิ แผน่ ดนิ ไหว โดยคอมพิวเตอรจ์ ะคานวณและ แสดงภาพสถานการณใ์ กลเ้ คยี งความจริง รวมท้ังการใชค้ วบคมุ และตดิ ตาม ความกา้ วหนา้ ของโครงการตา่ งๆ เชน่ คนงาน เคร่อื งมอื ผลการทางาน 5. งานราชการ เป็ นหนว่ ยงานท่ีมกี ารใชค้ อมพิวเตอรม์ ากที่สดุ โดยมกี ารใช้ หลายรปู แบบ ทง้ั นข้ี น้ึ อย่กู บั บทบาทและหนา้ ทขี่ องหนว่ ยงานนน้ั ๆ เชน่ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร มกี ารใชร้ ะบบประชมุ ทางไกลผา่ น คอมพิวเตอร์ , กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดจ้ ดั ระบบเครอื ขา่ ย อินเทอรเ์ นต็ เพื่อเชอื่ มโยงไปยังสถาบนั ตา่ งๆ , กรมสรรพากร ใชจ้ ดั ในการ จดั เกบ็ ภาษี บนั ทึกการเสยี ภาษี เป็ นตน้ 6. การศกึ ษา ไดแ้ ก่ การใชค้ อมพิวเตอรท์ างดา้ นการเรียนการสอน ซ่งึ มกี าร นาคอมพิวเตอรม์ าชว่ ยการสอนในลกั ษณะบทเรยี น CAI หรืองานดา้ นทะเบียน ซง่ึ ทาใหส้ ะดวกตอ่ การคน้ หาขอ้ มลู นกั เรียน การเกบ็ ขอ้ มลู ยมื และการสง่ คืน หนงั สอื หอ้ งสมดุ

ขอ้ มลู คอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ (อังกฤษ: computer) หรือในภาษาไทยว่า คณิตกรณ์ เป็ นเครอ่ื งจกั รแบบ สงั่ การไดท้ ่ีออกแบบมาเพ่ือดาเนนิ การกบั ลาดบั ตวั ดาเนนิ การทางตรรกศาสตรห์ รือ คณติ ศาสตร์ โดยอนกุ รมนอ้ี าจเปลย่ี นแปลงไดเ้ มอื่ พรอ้ ม สง่ ผลใหค้ อมพวิ เตอรส์ ามารถ แกป้ ัญหาไดม้ ากมาย คอมพวิ เตอรถ์ กู ประดษิ ฐอ์ อกมาใหป้ ระกอบไปดว้ ยความจารปู แบบตา่ ง ๆ เพื่อเกบ็ ขอ้ มลู อย่างนอ้ ยหนงึ่ สว่ นท่มี หี นา้ ท่ดี าเนนิ การคานวณเกยี่ วกบั ตัวดาเนนิ การทาง ตรรกศาสตร์ และตวั ดาเนนิ การทางคณติ ศาสตร์ และสว่ นควบคมุ ทใ่ี ชเ้ ปลย่ี นแปลง ลาดบั ของตวั ดาเนนิ การโดยยดึ สารสนเทศท่ถี กู เกบ็ ไวเ้ ป็ นหลกั อปุ กรณเ์ หลา่ นจี้ ะยอมให้ นาเขา้ ขอ้ มลู จากแหลง่ ภายนอก และสง่ ผลจากการคานวณตวั ดาเนนิ การออกไป หนว่ ย ประมวลผลของคอมพิวเตอรม์ หี นา้ ทีด่ าเนนิ การกบั คาสงั่ ตา่ งๆ ที่คอยสัง่ ใหอ้ า่ น ประมวล และเกบ็ ขอ้ มลู ไว้ คาสงั่ ตา่ งๆ ทมี่ เี งอื่ นไขจะแปลงชดุ คาสงั่ ให้ระบบและ สงิ่ แวดลอ้ มรอบๆ เป็ นฟังกช์ นั ทส่ี ถานะปัจจบุ นั

คอมพิวเตอรอ์ ิเลก็ ทรอนกิ สเ์ ครอ่ื งแรกถกู พฒั นาขนึ้ ในชว่ งกลางคริสตศ์ ตวรรษ ท่ี 20 (ค.ศ. 1940 – ค.ศ. 1945) แรกเร่มิ นนั้ คอมพิวเตอรม์ ขี นาดเทา่ กบั หอ้ งขนาด ใหญ่ ซ่ึงใชพ้ ลงั งานมากเทา่ กบั เครือ่ งคอมพิวเตอรส์ ว่ นบคุ คล (พีซี) สมยั ใหมห่ ลายรอ้ ย เคร่ืองรวมกนั คอมพิวเตอรใ์ นสมยั ใหมน่ ผ้ี ลติ ขน้ึ โดยใชว้ งจรรวม หรอื วงจรไอซี (Integrated circuit) โดยมคี วามจมุ ากกว่าสมยั กอ่ นลา้ นถึงพนั ลา้ นเท่า และขนาดของตวั เครอื่ งใชพ้ น้ื ทเี่ พียง เศษสว่ นเล็กนอ้ ยเท่านน้ั คอมพิวเตอรอ์ ยา่ งงา่ ยมขี นาดเล็กพอท่ีจะถกู บรรจไุ วใ้ นอปุ กรณ์ โทรศพั ทม์ อื ถือ และคอมพิวเตอรม์ อื ถือนใ้ี ชพ้ ลงั งานจากแบตเตอร่ีขนาดเล็ก และหากจะมี คนพดู ถึงคาวา่ \"คอมพิวเตอร\"์ มกั จะหมายถึงคอมพิวเตอรส์ ว่ นบคุ คลซึง่ ถือเป็ น สญั ลกั ษณข์ องยคุ สารสนเทศ อย่างไรกด็ ี ยงั มคี อมพิวเตอรช์ นดิ ฝังอีกมากมายที่พบได้ ตงั้ แตใ่ นเครือ่ งเลน่ เอ็มพีสามจนถึงเคร่ืองบนิ บังคบั และของเลน่ ชนดิ ต่างๆ จนถึง ห่นุ ยนตอ์ ตุ สาหกรรม

คอมพิวเตอรย์ คุ แรกท่ีมีฟังกช์ นั จากดั ประวัตขิ องคอมพวิ เตอรส์ มยั ใหมน่ นั้ เริ่มตน้ จากเทคโนโลยี สองชนดิ ทีแ่ ตกตา่ งกนั ไดแ้ ก่ การคานวณโดยอตั โนมตั ิ กบั การ คานวณที่สามารถโปรแกรมได้ (หมายถึงสรา้ งวิธกี ารทางานและ ปรับแตง่ ได)้ แตร่ ะบแุ นช่ ดั ไมไ่ ดว้ า่ เทคโนโลยีชนดิ ใดเกดิ ขนึ้ กอ่ น สว่ นหนงึ่ เป็ นเพราะการคานวณแตล่ ะชนดิ นนั้ ไมม่ คี วามสอดคลอ้ ง กนั อปุ กรณบ์ างชนดิ กม็ คี วามสาคญั ทจ่ี ะเอย่ ถึง อย่างเชน่ เครื่องมอื เชงิ กลเพื่อการคานวณบางชนดิ ทป่ี ระสบความสาเร็จ และยังใชก้ นั อย่หู ลายศตวรรษกอ่ นทจี่ ะมเี คร่อื งคิดเลข อิเล็กทรอนกิ ส์ อาทิลกู คิดของชาวสเุ มเรยี นท่ถี กู ออกแบบขนึ้ ราว 2,500 ปี กอ่ นคริสตกาลชนะการแขง่ ขนั ความเร็วในการ คานวณตอ่ เครอ่ื งคานวณตง้ั โตะ๊ เมอ่ื ค.ศ. 1946 ทีป่ ระเทศ ญปี่ ่ ุน ตอ่ มาในครสิ ตท์ ศวรรษ 1620 มกี ารประดษิ ฐส์ ไลดร์ ลู ซงึ่ ถกู นาขน้ึ ยานอวกาศในภารกจิ ของโครงการอะพอลโลถึง 5 ครั้ง รวมถึงเมอ่ื ครงั้ ทสี่ ารวจดวงจนั ทรด์ ว้ ยนอกจากนย้ี ังมี เคร่ือง ทานายตาแหนง่ ดาวฤกษ์ (Astrolabe) และ กลไกอันตคิ ือเธรา ซ่ึง เป็ นเครื่องคานวณ (คอมพวิ เตอร)์ เกย่ี วกบั ดาราศาสตรย์ คุ โบราณท่ีชาวกรกี เป็ นผสู้ รา้ งขนึ้ ราว 80 ปี กอ่ นคริสตกาลทีม่ า ของระบบการสงั่ การโปรแกรมเกดิ ขน้ึ เมอ่ื ฮโี รแห่งอเล็กซานเดรีย (c.10-70 AD) นกั คณิตศาสตรช์ าวกรีกสรา้ งโรงละครที่ ประกอบดว้ ยเครื่องจกั ร ใชแ้ สดงละครความยาว 10 นาที และ ทางานโดยมกี ลไกเชอื กและอิฐบล็อกทรงกระบอกทซี่ ับซอ้ น ซ่งึ สามารถตดั สนิ ใจเลอื กไดว้ ่าจะชน้ิ สว่ นกลไกใดใชใ้ นการแสดงฉาก ใดและเมอื่ ใด

ราวๆ ปลายศตวรรษท่ี 10 สมเดจ็ พระสนั ตะปาปาซลิ เวสเตอร์ ท่ี 2 นกั บวชชาวฝรงั่ เศส ไดน้ าลน้ิ ชกั บรรจอุ ปุ กรณ์ชนดิ หนงึ่ ทจี่ ะ ตอบคาถามไดว้ า่ ใช่ หรือ ไมใ่ ช่ เมอ่ื ถกู ถามคาถาม (ดว้ ย เลขฐานสอง)ซ่ึงชาวมวั รป์ ระดษิ ฐไ์ วก้ ลบั มาจากประเทศสเปน ใน ศตวรรษที่ 13 นกั บญุ อัลแบรต์ สุ มาญสุ และโรเจอร์ เบคอน นกั ปราชญช์ าวองั กฤษ ไดส้ รา้ งห่นุ ยนตแ์ อนดรอยด์ (android) พดู ได้ โดยไมไ่ ดพ้ ัฒนาใดๆ ตอ่ อกี (นกั บญุ อัลแบรต์ สุ มาญสุ บน่ ออกมาว่าเขาเสยี เวลาเปลา่ ไป 40 ปี ในชวี ิต เมอื่ นกั บญุ โทมสั อควีนาสตกใจกบั เครอ่ื งนแี้ ละไดท้ าลายมนั เสยี ) ในปี ค.ศ. 1642 แห่งยคุ ฟ้ื นฟูศลิ ปวิทยา มกี ารประดษิ ฐ์ เครอ่ื งคานวณของปาสคาลซ่ึงเป็ นเครอ่ื งคานวณตวั เลข เชงิ กล เป็ นอปุ กรณท์ ี่จะสามารถคานวณโดยใชต้ วั ดาเนินการทาง คณติ ศาสตรโ์ ดยไมต่ อ้ งพึง่ สตปิ ัญญามนษุ ย์ เครอ่ื งคานวณ เชงิ กลนย้ี ังถือเป็ นรากฐานของการพัฒนาคอมพิวเตอรใ์ นสอง ทาง แรกเรม่ิ นน้ั ความพยายามท่ีจะพัฒนาเครอ่ื งคานวณท่มี ี สมรรถภาพสงู และยดื หยนุ่ ซึ่งทฤษฎีนถ้ี กู สรา้ งโดยชารล์ ส แบบ เบจ และไดร้ ับการพฒั นาในเวลาตอ่ มานาไปสกู่ ารพัฒนา เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (คอมพิวเตอรข์ นาดใหญ่) ขนึ้ ในคริสต์ ทศวรรษ 1960 และในขณะเดยี วกนั อินเทล กส็ ามารถประดษิ ฐ์ ไมโครโพรเซสเซอร์ ซง่ึ ถือเป็ นจดุ กาเนดิ การเปลย่ี นแปลงคร้ังใหญ่ ของคอมพิวเตอรส์ ว่ นบคุ คล และเป็ นหัวใจสาคัญของระบบ คอมพวิ เตอรห์ ากไมค่ านงึ ถึงขนาดและวัตถปุ ระสงคข์ นึ้ ไดโ้ ดย บงั เอิญ ระหว่างการพฒั นาเครื่องคานวณอเิ ล็กทรอนกิ ส์ บซิ ิ คอม ที่พัฒนาสบื ตอ่ จากเครือ่ งคานวณเชงิ กลโดยตรง

ประเภทของคอมพิวเตอร์ ในปัจจบุ ัน คอมพวิ เตอรไ์ ดใ้ ชว้ งจรเบ็ดเสร็จขนาดใหญ่มาก (very large scale integrated circuit) ซ่ึงสามารถบรรจทุ รานซิสเตอรไ์ ดม้ ากกว่าสบิ ลา้ นตวั เราสามารถแบ่ง คอมพวิ เตอรใ์ นรนุ่ ปัจจบุ นั ออกเป็ น 4 ประเภทดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ซเู ปอรค์ อมพิวเตอร์ (supercompute) ซเู ปอรค์ อมพิวเตอร์ ถือไดว้ า่ เป็ นคอมพิวเตอรท์ ีม่ คี วามเร็วมาก และมปี ระสทิ ธภิ าพ สงู สดุ เมอ่ื เปรียบเทยี บกบั คอมพิวเตอรช์ นดิ อนื่ ๆ เครอ่ื งซเู ปอรค์ อมพิวเตอรม์ รี าคาแพง มาก มขี นาดใหญ่ สามารถคานวณทางคณติ ศาสตรไ์ ดห้ ลายแสนลา้ นครั้งตอ่ วินาที และ ไดร้ ับการ ออกแบบ เพือ่ ใหใ้ ชแ้ กป้ ัญหาขนาดใหญม่ ากทางวิทยาศาสตรแ์ ละทาง วิศวกรรมศาสตรไ์ ดอ้ ยา่ งรวดเร็ว เชน่ การพยากรณอ์ ากาศลว่ งหนา้ เป็ นเวลาหลายวัน การศกึ ษาผลกระทบของมลพิษกบั สภาวะแวดลอ้ มซ่งึ หากใชค้ อมพิวเตอรช์ นดิ อื่นๆ แกไ้ ข ปัญหาประเภทน้ี อาจจะตอ้ งใชเ้ วลาในการคานวณหลายปี กวา่ จะเสร็จสนิ้ ในขณะที่ ซเู ปอรค์ อมพิวเตอรส์ ามารถแกไ้ ขปัญหาไดภ้ ายในเวลาไมก่ ชี่ วั่ โมงเท่านนั้ เนอ่ื งจากการ แกป้ ัญหาใหญ่ ๆ จะตอ้ งใชห้ นว่ ยความจาสงู ดงั นนั้ ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอรจ์ งึ มี หนว่ ยความจาที่ใหญม่ าก ซเู ปอรค์ อมพิวเตอรม์ หี ลายประเภท ตงั้ แตร่ ่นุ ที่มหี นว่ ย ประมวลผล

2.เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (mainframe computer) เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มสี มรรถภาพที่ตา่ กวา่ ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอรม์ าก แตย่ ังมี ความเร็วสงู และมปี ระสทิ ธภิ าพสงู กวา่ มนิ คิ อมพิวเตอรห์ รือไมโครคอมพวิ เตอร์ เมนเฟรมคอมพวิ เตอรส์ ามารถใหบ้ ริการผใู้ ชจ้ านวนหลายรอ้ ยคนพรอ้ ม ๆ กนั ฉะนนั้ จงึ สามารถใชโ้ ปรแกรมจานวนนบั รอ้ ยแบบในเวลาเดยี วกนั ได้ โดยเฉพาะถา้ ตอ่ เครื่องเขา้ เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ผใู้ ชส้ ามารถใชไ้ ดจ้ ากทวั่ โลก ปัจจบุ ัน องคก์ รใหญ่ๆ เชน่ ธนาคาร จะใชค้ อมพิวเตอรป์ ระเภทนใ้ี นการทาบญั ชลี กู คา้ หรอื การใหบ้ ริการจากเครอื่ ง ฝากและถอนเงนิ แบบอตั โนมตั ิ (automatic teller machine) เนอื่ งจากเคร่ือง เมนเฟรมคอมพวิ เตอรไ์ ดถ้ กู ใชง้ านมากในการบริการผใู้ ชพ้ รอ้ ม ๆ กนั เมนเฟรมคอมพวิ เตอรจ์ งึ ตอ้ งมหี นว่ ยความจาทีใ่ หญ่มาก 3.มนิ คิ อมพวิ เตอร์ (minicomputer) มนิ คิ อมพวิ เตอร์ คอื เมนเฟรมคอมพิวเตอรข์ นาดเล็ก ๆ ซ่งึ สามารถบรกิ ารผใู้ ชง้ าน ไดห้ ลายคนพรอ้ ม ๆ กนั แตจ่ ะไมม่ สี มรรถภาพเพยี งพอทีจ่ ะบรกิ ารผใู้ ชใ้ นจานวนท่ี เทยี บเทา่ เมนเฟรมคอมพิวเตอรไ์ ด้ จงึ ทาใหม้ นิ คิ อมพวิ เตอรเ์ หมาะสาหรบั องคก์ รขนาด กลาง หรอื สาหรับแผนกหนง่ึ หรือสาขาหนงึ่ ขององคก์ รขนาดใหญ่เท่านนั้

4.ไมโครคอมพวิ เตอร์ (microcomputer) หรือ พซี ี (personal computer หรอื PC) ไมโครคอมพวิ เตอร์ คือ คอมพวิ เตอรข์ นาดเลก็ แบบขนาดตงั้ โตะ๊ (desktop computer) หรือขนาดเล็กกว่านน้ั เชน่ ขนาดสมดุ บนั ทกึ (notebook computer) และ ขนาดฝ่ ามอื (palmtop computer) ไมโครคอมพิวเตอรไ์ ดเ้ ริ่มมขี น้ึ ในปี พ.ศ. 2518 ถึงแมว้ า่ ในระยะหลงั เครื่องชนดิ นจ้ี ะมปี ระสทิ ธภิ าพท่ีสงู แต่ เนอ่ื งจากมรี าคาไมแ่ พงและมขี นาดกะทดั รัด ไมโครคอมพิวเตอรจ์ งึ ยงั เหมาะ สาหรับใชส้ ว่ นตวั ไมโครคอมพวิ เตอรไ์ ดถ้ กู ออกแบบสาหรับใชท้ ่บี า้ น โรงเรียน และสานกั งานสาหรบั ที่บา้ น เราสามารถใชไ้ มโครคอมพิวเตอรใ์ นการทา งบประมาณรายรบั รายจา่ ยของครอบครัวชว่ ยทาการบา้ นของลกู ๆ การคน้ ควา้ ขอ้ มลู และขา่ วสาร การสอ่ื สารแบบอิเล็กทรอนกิ ส์ (electronic mail หรือ E - mail) หรอื โทรศพั ทท์ างอินเทอรเ์ นต็ (internet phone) ในการตดิ ตอ่ ทงั้ ในและนอก ประเทศ หรอื แมก้ ระทงั่ ทางบันเทงิ เชน่ การเลน่ เกมบนเครือ่ งไมโครคอมพวิ เตอร์ สาหรับที่โรงเรียน เราสามารถใชไ้ มโครคอมพิวเตอรใ์ นการชว่ ยสอนนกั เรยี นใน การคน้ ควา้ ขอ้ มลู จากทวั่ โลกสาหรบั ทส่ี านกั งาน เราสามารถใช้ ไมโครคอมพวิ เตอรใ์ นการชว่ ยพมิ พจ์ ดหมายและขอ้ มลู อน่ื ๆ เก็บและคน้ ขอ้ มลู วเิ คราะห์และทานายยอดซื้อขายลว่ งหนา้

องคป์ ระกอบของระบบคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอรท์ างานอยา่ งเป็ นระบบ (System) หมายถึง ภายในระบบงานคอมพวิ เตอร์ ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบ ย่อยที่มหี นา้ ท่เี ฉพาะ ทางานประสานสมั พนั ธก์ ัน เพ่อื ให้ งานบรรลตุ ามเป้ าหมาย ในระบบงานคอมพวิ เตอร์ การที่ มเี คร่ืองคอมพวิ เตอรเ์ พยี งอยา่ งเดยี ว จะยงั ไมส่ ามารถ ทางานไดด้ ว้ ยตวั เอง ซ่ึงหากจะใหค้ อมพิวเตอรท์ างานได้ อยา่ งเป็ นระบบและมปี ระสทิ ธภิ าพแลว้ ระบบ คอมพิวเตอรค์ วรจะประกอบไปดว้ ยองคป์ ระกอบคือ บคุ ลากร (Peopleware) ฮารด์ แวร์ (Hardware) ซอฟตแ์ วร์ (Software) ขอ้ มลู (Data) สารสนเทศ(Information)และ กระบวนการทางาน ( Procedure)

วดี โี อ

ผจู้ ดั ทา เด็กหญิง สภุ าพร ศรียา ม.3/6 เด็กหญิง สริ ิมา ศรีครฑุ ม.3/6 เด็กหญิง ศิริกลั ยา เซี่ยงหย็อง ม.3/6 เด็กหญิง ชนาพร บวั เพชร ม.3/6 เด็กหญิง กรวลยั โพธ์ิสงู ม.3/6 เด็กชาย สิทธิชยั สินทรพั ย์ ม.3/6 เด็กชาย ทวิ านนท์ สดุ ใจ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook