บนั ทึกองคค์ วามรู้รายบุคคล เร่ือง การเพิ่มประสทิ ธิภาพวธิ ีการตรวจประเมนิ และรับรอง มาตรฐานการพฒั นาชมุ ชนด้วยสื่อดจิ ิทลั E – book และ QR Code เจ้าขององค์ความรู้ นางสาวอจั ฉรา เจียมตน ตาแหนง่ นกั วชิ าการพฒั นาชมุ ชนชานาญการ กลมุ่ งานสง่ เสริมการพฒั นาชมุ ชน สงั กดั สานกั งานพฒั นาชมุ ชนจงั หวดั นราธิวาส
~1~ แบบบนั ทกึ องคค์ วามรู้รายบคุ คล 1. ชื่อองค์ความรู้ : การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพวิธีการตรวจประเมนิ และรบั รองมาตรฐานการพัฒนาชุมชนดว้ ยสอ่ื ดจิ ทิ ัล E – book และ QR CODE 2. ชอ่ื เจา้ ของความรู้ : นางสาวอจั ฉรา เจยี มตน นักวิชาการพฒั นาชมุ ชนชานาญการ กลมุ่ งานสง่ เสรมิ การพฒั นาชุมชน สานักงานพฒั นาชมุ ชนจงั หวดั นราธวิ าส 3. องค์ความรทู้ ี่บ่งช้ี : (เลอื กไดจ้ านวน 1 หมวด) หมวดที่ 1 สร้างสรรค์ชมุ ชนพึ่งตนเองได้ หมวดที่ 2 ส่งเสรมิ เศรษฐกจิ ฐานรากใหข้ ยายตัวอยา่ งสมดุล หมวดท่ี 3 เสรมิ สร้างทนุ ชุมชนให้มธี รรมาภบิ าล หมวดท่ี 4 เสริมสรา้ งองค์กรใหม้ ขี ดี สมรรถนะสงู 4. ท่มี าและความสาคญั ในการจัดทาองค์ความรู้ : (อธบิ ายโดยละเอียด) ปัจจุบันโลกอยู่ในยุคสังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นรูปแบบการสื่อสารข้อมูลท่ีเข้าถึงผู้คน ทุกระดับในปัจจุบัน โดยมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ภายใต้การพัฒนาตลอดเวลาของเทคโนโลยีทางด้าน คอมพิวเตอร์ซึ่งมีแนวโน้มจะกลายเป็นส่ือหลักสาคัญสาหรับผู้คนในโลกอนาคต และเพ่ือเป็นการรณรงค์ ให้สานักงานใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ทางเลือกใหม่ของสานักงาน ไร้กระดาษ ที่ลดปัญหาการส้ินเปลือง ทรัพยากรกระดาษเกินความจาเป็น และประหยัดงบประมาณเก่ียวกับอุปกรณ์สานักงาน กรอปกับ กรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบหมายให้จังหวัด/อาเภอส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของ ประชาชน โดยมอี านาจหน้าท่ีในการจัดทาและพัฒนาระบบมาตรฐานการพัฒนาชุมชน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ สาหรบั ประเมนิ ความกา้ วหน้าและมาตรฐานการพัฒนาของชุมชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้นาชุมชน ผู้นาสัมมาชีพชุมชน ครัวเรือนสัมมาชีพชุมชน กลุ่ม/องค์กรชุมชน เครือข่ายองค์การชุมชน และชุมชน เป็นประจาทกุ ปี โดยมีกระบวนการและขน้ั ตอนที่สาคัญ ดงั น้ี ขนั้ เตรียมการ ขัน้ สร้างความรู้ ขัน้ การพฒั นา ขัน้ การประเมนิ รบั รอง ขัน้ ประกาศเชิดชู -จดั ทาคาสง่ั คณะทางาน - ประชมุ สร้างความรู้ - ประเมนิ ตนเองของ - โดยคณะอนุกรรมการ -ประกาศผลการ ดาเนินงาน มชช. ความเข้าใจแก่ กลุ่มเปา้ หมายฯ ตรวจประเมนิ มชช. รบั รองมชช. กลุม่ เป้าหมายฯ อาเภอ -ประชาสมั พันธ์ - ประชมุ - จัดทาแผนการพัฒนา - โดยคณะอนกุ รรมการ - มอบเกียรตบิ ตั ร ผ้ทู ่ี การรับสมัคร คณะอนุกรรมการตรวจ ตนเองของ ตรวจประเมนิ เพ่ือการ ผ่านเกณฑ์ มชช. กลมุ่ เป้าหมาย ประเมิน มชช. อาเภอ กลมุ่ เปา้ หมายฯ รบั รอง มชช. จงั หวัด - รบั สมคั ร - รายงานผลการ - ประชาสัมพันธ์ กลุม่ เป้าหมายฯ พฒั นาตนเองของ กล่มุ เปา้ หมายทโ่ี ดด กลุ่มเปา้ หมาย เดน่ ในสือ่ ตา่ งๆ /ซง่ึ ผลการ...
~2~ ซึ่งผลการดาเนนิ งานมาตรฐานการพฒั นาชุมชนในปีทผ่ี า่ นมา ประสบปญั หาในเรื่องการนารปู เลม่ หรือ หลกั ฐานเชิงประจักษ์ของกลุ่มเป้าหมายฯ จานวนไม่ต่ากว่า 60 เลม่ ไปใช้ประโยชน์ เมื่อมกี ารตรวจประเมิน และรบั รองในระดบั จงั หวัดแลว้ จงั หวดั ต้องมีภาระในการจดั เกบ็ รูปเลม่ เพอื่ ใชเ้ ปน็ ตวั อยา่ งในการพฒั นางาน มาตรฐานการพัฒนาชมุ ชนในรปู แบบกระดาษส้ินเปลอื ง และไม่สามารถนามาใช้ประโยชนใ์ นรูปแบบทท่ี ันสมัย ในโลกสอ่ื ดิจทิ ลั อืน่ ๆ ได้ ขา้ พเจา้ จงึ มแี นวคิด ในการนาสอ่ื ดจิ ิทัล E – book และ QR Code มาใช้ประโยชน์ในการพฒั นา งานมาตรฐานการพฒั นาชุมชน (มชช.) ในขั้นตอนการประเมินรบั รองโดยคณะอนกุ รรมการตรวจประเมินเพอ่ื การรบั รอง มชช. ในระดบั จงั หวัด 5. รปู แบบ กระบวนการ วธิ ดี าเนนิ งาน หรือลาดับขั้นตอน : (อธบิ ายโดยละเอยี ด) กระบวนการและขั้นตอนในการในการนาสอ่ื ดิจทิ ลั E – book และ QR Code มาใชป้ ระโยชน์ใน การพัฒนางานมาตรฐานการพฒั นาชมุ ชน (มชช.) ในขน้ั ตอนการประเมินรบั รองโดยคณะอนกุ รรมการตรวจ ประเมนิ เพื่อการรบั รอง มชช. ในระดบั จงั หวดั มดี ังน้ี อาเภอจดั สง่ รูปเลม่ หลกั ฐาน จงั หวดั สร้าง E – book จงั หวดั นา QR Code ไป เชิงประจกั ษ์ในรูปแบบ ของกลมุ่ เปา้ หมายแตล่ ะ ลงิ ค์ กบั E – book ไฟล์word ไปใช้ประโยชน์ ประเภท จังหวดั สง่ ลิงค์ QR Code จงั หวัดจัดเก็บ QR Code คณะกรรมการตรวจประเมนิ ใหอ้ าเภอเพ่ือจัดทาโปรไฟล์ เป็นทะเบยี นแตล่ ะ และรับรองจังหวดั สแกน ของกลุ่มเปา้ หมายเพ่ือใชใ้ นการ QR Code ผ่านสมาร์ทโฟน ประชาสมั พนั ธผ์ ลงานของ กลุ่มเปา้ หมายเพอ่ื จดั ทาเปน็ กลมุ่ เปา้ หมายใหป้ ระชาชน ขอ้ มูลตน้ แบบในการพัฒนา เพ่อื เปดิ ดู ตนเองแก่กลุ่มเป้าหมายต่อไป E – book หลักฐาน ท่วั ไปทราบ เชิงประจักษข์ องกลุม่ เปา้ หมาย /ข้ันตอนการ...
~3~ 5.1 ขั้นตอนการเตรียมขอ้ มูล จังหวัดแจ้งให้อาเภอจัดส่งขอ้ มลู รูปเลม่ หลักฐานเชิงประจักษ์ การายงานผลการพัฒนาตนเองตามระบบ มชช. ของกลุ่มเป้าหมายแต่ละประเภทให้จังหวัด ในรูปแบบ ไฟล์ word 5.2 ขน้ั ตอนการสร้าง E –book เมือ่ ได้ข้อมูลครบถว้ นแล้ว ให้จังหวัดสร้าง E – book ของ กลุม่ เปา้ หมายแต่ละประเภทครบทุกหนว่ ยนับ จัดเรยี งเป็นไฟลท์ ่สี ามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ 5.3 ขน้ั ตอนการสร้าง QR Code นาขอ้ มูล E – Book ตามข้อ 5.2 มาลิงค์เป็น QR Code และนามาตดิ ไว้ในกระดาษ ขนาด A 4 1 แผน่ ตอ่ 1 หนว่ ยนบั ฉะนั้นถา้ กลุ่มเปา้ หมายมี 60 หน่วยนับ ก็จะมี เอกสารใหค้ ณะกรรมการตรวจประเมินและรบั รอง มชช. จานวนเพยี ง 60 แผน่ เท่านั้น ซึ่งเดมิ เราจะใชก้ ระดาษ ถึง 60 เลม่ ๆละ ไม่ต่ากวา่ 30 แผน่ ซ่งึ จะส้นิ เปลอื งวสั ดุไปถึง 1,800 แผ่น 5.4 ขั้นตอนการตรวจประเมินเพื่อรับรอง มชช.จังหวัด เมื่อนา QR Code มาติดไว้ใน กระดาษ A4 เรยี บรอ้ ยแลว้ คณะกรรมการตรวจประเมินสามารถใช้สมาร์ทโฟนของตนเองสแกน QR Code เพื่อดเู อกสารจาก E – book ซ่ึงจะมรี ูปเล่มท่ที นั สมยั น่าสนใจไม่น่าเบอื่ สีสนั สดใส 5.5 ขั้นตอนการจัดเก็บ QR Code ไปใช้ประโยชน์ เม่ือคณะกรรมการตรวจประเมิน เรยี บรอ้ ยแลว้ เอกสารท่ผี ่านการประเมนิ และรับรอง มชช. จะถูกนามาจัดเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลของหน่วยงาน โดยไมส่ ร้างภาระในการเคล่ือนยา้ ยและจดั เกบ็ รูปเล่มเปน็ จานวนมากอีกต่อไป 5.6 ข้ันตอนการเผยแพร่ประชาสมั พันธ์ จังหวัดจะนา QR Code ส่งใหอ้ าเภอเพอื่ ให้อาเภอ นาไป link ไนโปรไฟล์แตล่ ะกลุ่มเปา้ หมายเพ่อื ใชใ้ นการประชาสัมพนั ธ์ผลงานในระดบั อาเภอตอ่ ไป 6. เทคนิคในการปฏิบัติงาน : (อธิบายโดยละเอียด) 6.1 การนาเทคโนโลยีสื่อดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพลดค่าใช้จ่ายวัสดุส้ินเปลือง ของประเทศ 6.2 การแลกเปล่ียนเรยี นรใู้ นองคก์ ร โดยการใหค้ วามรู้ใหบ้ คุ ลากรมที กั ษะในการใชส้ ือ่ ดจิ ิทัลมาพฒั นา งานใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ 6.3 การสร้างสรรค์ผลงาน/นวัตกรรมเพ่ือใช้ในการพัฒนางาน เพ่ือกระตุ้นให้บุคลากรสร้างงาน ทม่ี ีประสทิ ธภิ าพและเป็นประโยชน์แก่องค์กร การประยกุ ต์ใช้ เทคโนโลยี การแลกเปลีย่ น เรี ยนร้ ู การสร้ างสรรค์ ผลงาน /7.ปัญหาที่พบ...
~4~ 7. ปัญหาทีพ่ บและแนวทางการแกไ้ ขปัญหา : (อธิบายโดยละเอยี ด) บุคลากรของหน่วยงานยังยึดติดรูปแบบการแสดงผลงานในรูปแบบเดิมๆ ทาให้ไม่เกิดการพัฒนา ตามการเปลี่ยนแปลงของโลกยุค 4.0 หน่วยจึงควรสร้างทศั นคตใิ นการทางานให้บุคลากรโดยการนาผลงานท่ี พัฒนาและปรับปรงุ คณุ ภาพมาแลกเปล่ียนเรียนรู้แก่บุคคลากรในองค์กรอย่างสม่าเสมอ อาทิ มีการอบรมให้ ความรู้ทักษะการใช้เทคโนโลยีใหม่ท่ีช่วยทางานให้ง่ายขึ้น โดยมีการถ่ายทอดระหว่างเพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชากับลูกน้อง โดยไม่ถือว่าเป็นการขโมยวิชากัน หรือการเก็บภูมิรู้ไว้เพียงคนเดียว แต่ถ้าหากนา ความรู้มาแลกเปล่ียนเรียนรรู้ ว่ มกัน กอ่ ใหเ้ กิดองค์กรแห่งการเรยี นรู้อยา่ งย่งั ยืน 8. ประโยชนข์ ององค์ความรู้ : (อธิบายโดยละเอยี ด) 8.1 ลดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง ในงบประมาณของประเทศ 8.2 นาองคค์ วามรู้ไปใชใ้ นการประชาสมั พนั ธใ์ นรปู แบบอื่นๆทเ่ี ป็นประโยชนไ์ ด้ง่ายดาย 8.3 บุคลากรสามารถประยุกต์ใช้ในงานด้านอ่ืนๆ อาทิการทาผลงานของตนเองเพื่อเล่ือนตาแหน่ง ทสี่ ูงขึ้นๆได้ 8.4 กลุ่มเป้าหมายท่ีเป็นภาคีพัฒนามีการเสนอผลงานของตนเองใน Social network เพ่ือเป็น ตน้ แบบในการพัฒนาตนเองตามระบบมาตรฐานการพฒั นาชุมชน และเปน็ ท่ียอมรับในสงั คมในวงกวา้ ง ----------------------------------------------------------
สำนักงำนพัฒนำชุมชนจงั หวดั นรำธิวำส ถนนศนู ย์รำชกำร ตำบลโคกเคยี น อำเภอเมืองนรำธิวำส จังหวัดนรำธิวำส 96000
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: