Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการเรียนวิชา 20214-2007

เอกสารประกอบการเรียนวิชา 20214-2007

Published by nanboss2014, 2022-07-20 03:40:12

Description: 30214-2007 วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่องานโลจิสติกส์

Search

Read the Text Version

20214-2007 วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ เพือ่ งานโลจิสติกส์ ครูผสู้ อน : นางสาวชลธิชา คาหงษา สาขาวิชาการจดั การโลจิสติกส์และซพั พลายเชน

คานา E-Book ฉบบั นี้จดั ทาํ ขนึ้ เพือ่ ประกอบการเรียนการสอนรายวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ งานโลจสิ ติกส์ ระดับประกาศนยี บัตร วชิ าชีพ (ปวช.) วทิ ยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี ซึ่งมีเนือ้ หาสาระตรง ตามสาระการเรียนรู้ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2562 ประเภทวชิ าพณิชยกรรม สาขาวิชาโลจสิ ติกส์ ผู้จดั ทาํ หวงั เปน็ อย่างยิง่ ว่า E-BOOK ฉบบั นีจ้ ะเป็นประโยชน์ต่อ ตวั นักเรียนทุกคน ที่กําลังศึกษาในเรือ่ งเทคโนโลยีสารสนเทศ จะสามารถช่วยให้ นกั เรียน บรรลุตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ นางสาวชลธิชา คําหงษา

การวดั ผลและประเมินผล คะแนน เกรด เกณฑ์ 80 ขึ้นไป 4.0 ดีเยีย่ ม 75 - 79 3.5 ดีมาก 70 - 74 3.0 65 - 69 2.5 ดี 60 - 64 2.0 ดีพอใช้ 55 - 59 1.5 พอใช้ 50 - 54 1.0 ออ่ น 0 - 49 0.0 อ่อนมาก ตก

สารบัญ หนา้ 1 เรื่อง 5 1. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ 9 2. ระบบสารสนเทศ 13 3. กระบวนการทาํ งานของระบบสารสนเทศ 20 4. องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ 44 5. ระบบสารสนเทศทใ่ี ช้ในงานโลจสิ ติกส์ 45 แบบฝกึ หดั 46 เฉลยแบบฝึกหัด ประวตั ผิ จู้ ัดทํา

จดุ ประสงค์รายวิชา เพือ่ ให้ 1. มีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกบั ความหมายและความสําคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศในโลจิสติกส์ 2. มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในโลจสิ ติกส์ 3. มีความตระหนกั ถงึ ความสาํ คญั ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในโลจิสติกส์ 4. มีเจตคติและกจิ นิสยั ที่ดีในการใช้เทคโนโลยีในโลจสิ ติกส์ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกบั ความหมายและความสําคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศในโลจิสติกส์ 2. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานโลจสิ ติกส์ 3. แกป้ ญั หาเกี่ยวกบั การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในโลจิสติกส์

คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเกีย่ วกับความหมาย ความสาํ คญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศในโลจสิ ติกส์ การนาํ เทคโนโลยี สารสนเทศ ทีเ่ หมาะสมไปใช้ในโลจิสติกส์ การแลกเปลี่ยนข้อมลู อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (EDI) บาร์โค้ด (Barcode) รหัสบง่ ชี้โดยใช้ความถี่ของคลื่นวิทยุ (RFID) การกําหนดพกิ ดั ทีต่ ั้งดาวเทียม (GPS) การวางแผน ทรัพยากรองค์กร (ERP) การจัดการคลังสินค้า (WMS) ระบบการจดั การขนส่ง (TMS) พาณิชย์อเิ ล็กทรอนิกส์

รู้หรือไม่? เทคโนโลยี + สารสนเทศ คอื อะไร

เทคโนโลยีสารสนเทศในงานโลจิสติกส์ ความหมายและความสําคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบสารสนเทศในงานโลจสิ ติกส์ 1

1. ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) มาจากคํา 2 คํา คําหน่ึงคือ เทคโนโลยี (Technology) หมายถึงการนําเอาวิทยาการที่ก้าวหน้าทางด้าน วิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลประ โยชน์ในทาง ปฏิบัติและอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและ ประสทิ ธิผลในการทาํ งานน้ันๆให้มีผลดีมากยิง่ ขนึ้ 2

สารสนเทศ (Information) หมายถึง ผลลัพธ์ที่ได้จากการดําเนินการข้อมูลที่เก็บ รวบรวมไว้มาประมวลผลให้เหมาะสมกับการใช้งานให้ทันเวลาและอยู่ในรูปของ สารสนเทศที่ดีที่จะนําไปใช้ประโยชน์ได้ 3

ดั ง นั้ น เ ท ค โ น โ ล ยี ส า ร ส น เ ท ศ ห รื อ ไ อ ที (Information Technology) จึงหมายถึง เทคโนโลยี ที่เกี่ยวซ้องกับการประมวลผลข้อมูล ซ่ึงครอบคลุมถึง การใช้งานเทคโนโลยีต่างในการรวบรวม การจัดเก็บ การรับ - ส่ง หรือการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน รวมถึงขน้ั ตอนวิธีการดาํ เนนิ การที่จัดการข้อมลู เพื่อนํา สารสนเทศที่ได้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์สงู สดุ 4

2. ระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศเป็นการทํางานเกี่ยวกับข้อมูลและ สารสนเทศอย่างเป็นลําดับข้ันตอนจนทําให้เกิด ระบบสารสนเทศข้ึน ข้อมูลสารสนเทศ และระบบ สารสนเทศมีความหมาย ดังน้ี - ขอ้ มลู (Data) คือ ขอ้ เทจ็ จรงิ ที่ไดจ้ ากการรวบรวมข้อมลู ซ่งึ มีท้ังทีอ่ ยู่ในรปู แบบ ตวั อักษร, ขอ้ ความ, ตวั เลข, เสียง รูปภาพ และ ภาพเคลือ่ นไหว 5

- สารสนเทศ (Information) คือ ขอ้ มูลที่ผ่านการประมวลผล เพือ่ นาํ ไปใช้ในการ ตัดสินใจ เช่น เกรดเฉลีย่ ของนกั เรียน,ยอดขายประจาํ เดือน และ สถิติการขาดงาน 6

- ระบบสารสนเทศ (Information System) คือ ระบบที่สามารถจัดการข้อมูล ตั้งแต่การรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล การประมวลผลข้อมูล รวมถึงการดูแล รักษาข้อมูลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ถูกต้องและทันต่อความต้องการของผู้ใช้และผู้ใช้ สามารถนาํ สารสนเทศทีไ่ ด้ไปประกอบการตดั สินใจไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ 7

- ระบบสารสนเทศ (Information System) คือ ระบบที่สามารถจัดการข้อมูล ตั้งแต่การรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล การประมวลผลข้อมูล รวมถึงการดูแล รักษาข้อมูลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ถูกต้องและทันต่อความต้องการของผู้ใช้และผู้ใช้ สามารถนาํ สารสนเทศทีไ่ ด้ไปประกอบการตดั สินใจไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ 8

3. กระบวนการทางานของระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศประกอบด้วยกระบวนการทาํ งานหลักๆ ดังต่อไปนี้ 1. การนาเข้าข้อมลู (Input) เป็นการนาํ ขอ้ มูลดิบ (Data) ที่ไดจ้ ากการเก็บรวบรวม เขา้ สู่ระบบ เพือ่ นาํ ไปประมวลผลให้เป็นสารสนเทศ เช่น การบันทึกการขายรายวัน, บนั ทึกคะแนนเก็บของนักเรียน ฯลฯ 9

2.การประมวลผลข้อมูล (Process) เป็นการคิด คํานวณ หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูล ดิบให้เป็นสารสนเทศ อาจทําได้ด้วยการเรียงลําดับ การคํานวณ การจัดรูปแบบ และการเปรียบเทียบตวั อย่างการประมวลผล เชน่ การคํานวณรายไดข้ องผปู้ กครอง การนับจาํ นวนวนั หยดุ ราชการบนปฏิทิน ฯลฯ 10

3.การแสดงผล (Output) เป็นการนําผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลมาแสดงใน รปู แบบที่ผใู้ ช้ตอ้ งการ เพือ่ ส่งเสริมหรือช่วยในการตดั สินใจ 11

4.การจดั เกบ็ ข้อมูล (Storage) เปน็ การจัดเก็บข้อมูลดิบหรือสารสนเทศท้ังหมดที่ เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศ เนื่องจากการนําข้อมูลดิบเข้าสู่ระบบมีการจัดเก็บ จนถึงระยะยาวระยะหนง่ึ แล้วจึงนาํ ไปประมวลผล 12

4. องคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศ องค์ประกอบทีส่ าํ คญั ของระบบสารสนเทศมี 5 ส่วนคือ 1. ฮารด์ แวร์(เครือ่ งจักรอปุ กรณ)์ 2. ซอฟต์แวร์ 3. ขอ้ มลู 4. บคุ ลากร 5.ขน้ั ตอนการปฏิบัตงิ าน 13

1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง เครือ่ งคอมพิวเตอรซ์ ่งึ เปน็ เครื่องมือทีช่ ่วยในการ จัดการสารสนเทศ คอมพิวเตอรช์ ่วยประมวลผล คดั เลือก คํานวณ หรือพิมพ์รายงาน ผลตามที่ต้องการ คอมพิวเตอรเ์ ปน็ อุปกรณ์ทีท่ าํ งานไดร้ วดเรว็ มีความแม่นยาํ ในการ ทํางาน และทํางานได้ต่อเนื่อง คอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์ตา่ งๆ สามารถแบ่งเปน็ 3 หนว่ ย คือ - หนว่ ยรบั ข้อมลู (Input unit) ไดแ้ ก่ แป้นพมิ พ์ เมาส์ ไมโครโฟน 14

- หนว่ ยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) - หนว่ ยแสดงผล (Output unit) ไดแ้ ก่ จอภาพ ลําโพง เครือ่ งพิมพ์ 15

2. ซอฟต์แวร์ (Software) คือลาํ ดับขั้นตอนคําสง่ั ให้เครื่องคอมพิวเตอร์ ทาํ งาน ตามวตั ถุประสงคท์ ีว่ างไว้ ซอฟต์แวร์ จึงหมายถึงชุดคําสงั่ ที่เรยี ง เป็นลําดับขน้ั ตอนสงั่ ใหค้ อมพิวเตอรท์ ํางานตามต้องการ และประมวลผลเพือ่ ใหไ้ ดส้ ารสนเทศทีต่ ้องการ ซอฟตแ์ วร์หรือชดุ คําสั่งคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คือ - ซอฟต์แวร์ระบบ คือ ซอฟต์แวร์ทีใ่ ช้จัดการกับระบบคอมพิวเตอร์ และ อุป กร ณ์ต่า งๆ ที่มีอยู่ใน ระ บ บ เช่น ร ะ บ บ ป ฏิบั ติกา ร วิน โดว์ส ระบบปฏิบตั ิการดอส ระบบปฏิบตั ิการยนู ิกซ์ - ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานด้านต่างๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น ซอฟต์แวร์กราฟิกซอฟต์แวร์ประมวลคํา ซอฟต์แวร์ตารางทํางาน 16

3. ข้อมูล (Data) เป็นวัตถุดิบที่ทําให้เกิดสารสนเทศ ข้อมูลที่เป็นวัตถุดิบจะต่างกัน ข้ึนกับสารสนเทศที่ต้องการ เช่น ในสถานศึกษามักจะต้องการ สารสนเทศที่เกี่ยวข้อง กับข้อมูลนักเรียน ข้อมูลผลการเรียน ข้อมูลอาจารย์ ข้อมูลการใช้จ่ายต่าง ๆ ข้อมูล เปน็ ส่งิ ที่สําคัญประการหนง่ึ ทีม่ ีบทบาทต่อการใหเ้ กิด สารสนเทศ 17

4. บุคลากร (Peopleware) เป็นส่วนประกอบที่สําคัญ เพราะบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และเข้าใจวิธีการให้ได้มาซ่ึงสารสนเทศ จะเป็นผู้ดําเนินการ ในการ ทํางานท้ังหมด บุคลากรจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บคุ ลากรภายในองคก์ รเป็นส่วนประกอบที่จะทาํ ใหเ้ กดิ ระบบสารสนเทศด้วยกนั ทุกคน เช่น ร้านขายสินค้าแห่งหนึ่ง บุคลากรที่ดําเนินการในร้านค้าทุกคน ต้ังแต่ผู้จัดการถึง พนักงานขาย เป็นส่วนประกอบทีจ่ ะทาํ ใหเ้ กิดสารสนเทศได้ 18

5. ข้ันตอนการปฏิบัติงาน (Procedure) ข้ันตอนการปฏิบัติงาน เป็นระเบียบวิธีการ ปฏิบัติงานในการจัดเก็บรักษาข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่จะทําให้เป็นสารสนเทศได้ เช่น กําหนดใหม้ ีการป้อนข้อมลู ทกุ วนั ป้อนข้อมูลให้ทันตามกําหนดเวลา มีการแก้ไขข้อมูล ให้ถูกต้องอยู่เสมอ กําหนดเวลาในการประมวลผล การทํารายงาน การดําเนินการ ต่าง ๆ ต้องมีขั้นตอน หากขั้นตอนใดมีปญั หาระบบก็จะมีปัญหาด้วย เพราะทุกข้ันตอน มีผลตอ่ ระบบสารสนเทศ 19

5. ระบบสารสนเทศที่ใช้ในงานโลจสิ ติกส์ ระบบสารสนเทศท่ใี ชใ้ นงานโลจิสตกิ ส์มีระบบการทํางานดงั นี้ EDI : Electronic Data Interchange การแลกเปล่ยี นขอ้ มลู เอกสารในรปู แบบอเิ ล็คทรอนิกส์ Barcode : บาร์โค้ด หรือ รหสั แท่ง RFID : Radio Frequency Identification เทคโนโลยีในการบ่งชี้ GPS : Global Positioning System ระบบระบตุ าํ แหน่งบนพื้นโลก ERP : Enterprise Resource Planning การบริหารทรพั ยากรขององค์กร WMS : Warehouse Management System ระบบบริหารจัดการคลังสินค้า TMS : Transportation Management System ระบบบริหารจัดการการขนสง่ 20

ระบบการแลกเปล่ยี นข้อมลู ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange System: EDI) เป็นระบบเทคโนโลยีที่มีการแลกเปลี่ยนเอกสารทางธุรกิจระหว่างบริษัทคู่ค้า 2 ฝ่ายในรปู แบบมาตรฐานสากลจากคอมพิวเตอรเ์ ครื่องหนงึ่ ไปยังคอมพวิ เตอรอ์ กี เครอื่ ง หนึ่ง โดยจะมกี ารใช้เอกสารท่เี ปน็ อเิ ลก็ ทรอนิกสม์ าแทนเอกสารท่เี ปน็ กระดาษ เช่น ใบส่ังซ้ือสินค้าบัญชีราคาสินค้า ใบส่งของ รายงาน เป็นต้น ภายใต้ มาตรฐานท่ีกาหนดไว้ ซึง่ จะทาใหเ้ อกสารมกี ารแลกเปล่ียนกนั ได้ 21

ปจั จุบันองคก์ ารหลายแหง่ ได้ใชบ้ ริการของผู้ให้บริการ EDI (EDI Service Pro vider) มากกว่าท่ีจะสรา้ งเครอื ขา่ ยนี้มาเองเนอ่ื งจากตอ้ งใช้เงินลงทุนสงู ซ่งึ ผ้ใู หบ้ ริการ EDI จะเปน็ ตวั กลางบรกิ ารเชือ่ มโยงขอ้ มลู เรียกว่าเครอื ขา่ ยเพิม่ มลู คา่ VAN (Value Added Network : VAN) โดยจะมีการเกบ็ คา่ บรกิ ารเป็นการเช่าโครงสรา้ งพน้ื ฐาน ซง่ึ สามารถแสดงการสง่ ผา่ นข้อมลู ของผ้ใู หบ้ รกิ าร EDI ซึง่ สามารถแสดงการสง่ ผ่าน ข้อมลู ของผูใ้ ห้บรกิ าร EDI ได้ดังภาพ 22

สว่ นประกอบท่ีจาเป็นของระบบ EDI 23 1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) อปุ กรณค์ อมพิวเตอรเ์ ปน็ องคป์ ระกอบที่สาคัญใน การตดิ ตงั้ สาหรบั การตดิ ตอ่ สอื่ สาร โดย EDI จะเปน็ ตวั ทีช่ ่วยสง่ ผ่านขอ้ มลู ระหวา่ งคคู่ า้ ให้สามารถตดิ ตอ่ กนั ได้ 2. เครอื ข่ายโทรคมนาคม (Telecommunication Network) เครอื ข่ายจะ ใช้สายโทรศพั ท์ (Telephone Line) ในการส่งผ่านขอ้ มลู ระหว่างผู้สง่ และผรู้ ับ โดย อาจมกี ารติดตอ่ ผ่านดาวเทียมกไ็ ด้ 3. ซอฟตแ์ วร์การตดิ ตอ่ ส่ือสาร (Communication Software) เป็น โปรแกรมทีใ่ ชใ้ นการสง่ และรับขอ้ มลู ซ่ึงจะมกี ารใส่รหสั และถอดรหัสขอ้ มลู ระหว่าง คอมพวิ เตอร์ โดยท้ัง 2 ฝา่ ยจะสามารถตดิ ตอ่ กันได้ เนื่องจากมกี ารกาหนด มาตรฐานสากลในการใช้งาน

ประโยชน์ของ EDI 1. ช่วยลดขอ้ ผิดพลาดจากการบันทกึ ข้อมูล เขา้ ระบบ และเมอ่ื ผู้ทีเ่ ก่ียวขอ้ งนา ไปใชง้ าน ก็จะไดข้ ้อมูลท่ถี ูกตอ้ ง แมน่ ยาและรวดเรว็ มากขึน้ 2. ชว่ ยลดงบประมาณ ในเร่ืองของเอกสาร และคู่มอื การปฏิบัตงิ านที่ซา้ ซ้อน ขององคก์ าร 3. ชว่ ยเพ่ิมประสิทธภิ าพในการปฏิบตั ิงานสามารถทาใหผ้ ้ทู ่เี ก่ียวขอ้ งโตต้ อบ กับคู่คา้ ไดอ้ ย่างรวดเรว็ ซึ่งจะทาใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพที่ดีในการทางานทั้ง 2 ฝา่ ย 4. ช่วยเพ่ิมความสามารถในการแขง่ ขันองค์การทมี่ ีการนา EDI สามารถช่วยให้ ผบู้ รหิ ารตัดสินใจไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และถูกตอ้ งทาให้มคี วามไดเ้ ปรียบทางการแขง่ ขนั มากกวา่ คแู่ ขง่ ขัน 24

ระบบบารโ์ ค้ด (Barcode System) บาร์โค้ดหรือรหัสแท่งเป็นระบบบ่งช้ีท่ีมีการนามาใช้งานมากที่สุดเม่ือเทียบกับระบบ อ่ืนๆ เนื่องจากเป็นท่ีนิยมในการติดบนตัวสินค้า เพื่อต้องการทราบรหัสหมายเลขประจาตัว อันจะสง่ ผลให้กจิ การทราบข้อมลู อน่ื ๆ ของสินค้าได้รวดเร็ว เช่น ยอดขายจานวนสินค้าที่ขาย จานวนสินค้าทีอ่ ยใู่ นคลังสินคา้ 25

บารโ์ คด้ (Barcode) คอื รหสั แท่ง ประกอบด้วยเสน้ มืด (มักจะเปน็ สดี า) และเสน้ สวา่ ง (มกั เปน็ สขี าว) วางเรียงกันเปน็ แนวดิ่ง ใช้แทนตัวเลขและตวั อักษร ถูกนามาใช้เพ่อื อานวย ความสะดวกใหค้ อมพิวเตอรร์ ับเอาข้อมูลเข้าไปประมวลผลไดง้ ่าย รวดเรว็ ถกู ต้อง และ แม่นยาข้นึ การแยกความกว้างระหว่างพ้ืนท่ีมืดและพื้นท่ีสว่างออกมา 26 เป็นรหัสตัวเลข เม่ือแสงจากเครื่องอ่านบาร์โค้ดมากระทบ บาร์โค้ดในลักษณะวางพาดขวาง แสงสะท้อนท่ีออกจากเส้น มืดจะน้อยกว่าแสงท่ีสะท้อนออกจากพ้ืนที่สว่าง เครื่องอ่าน บาร์โค้ดจะแปลงแสงสะท้อนนี้เป็นรหัสส่งไปยังเครื่อง คอมพิวเตอร์ บาร์โค้ดจึงช่วยลดการผิดพลาดในการคีย์ ขอ้ มูลได้

ประเภทของบารโ์ คด้ บาร์โคด้ 1 มติ ิ (Barcode 1D) 27 บารโ์ คด้ 1 มติ มิ ีลักษณะเป็นแถบประกอบด้วยเส้นสีดาสลับกับเส้นสีขาว ใช้แทนรหัสตัวเลขหรือ ตัวอักษรโดยสามารถบรรจุข้อมูลได้ประมาณ 20 ตัวอักษร การใช้งานบาร์โค้ดมักใช้ร่วมกับฐานข้อมูลคือ เมื่ออ่านบารโ์ ค้ดและถอดรหัสแลว้ จึงนารหัสทีไ่ ดใ้ ช้เรียกขอ้ มลู จากฐานข้อมลู อกี ต่อหน่ึง ตวั อยา่ งประเภทของ บาร์โค้ด 1 มิติ เช่น Code 39, Code 128, Code EAN-13 ฯโดยข้อมูลในตัว บาร์โค้ด คือ \"123456789012\" แต่ลักษณะของบาร์โค้ดจะเปล่ียนแปลงตามประเภทของบาร์โค้ดน้ันๆ ตามรปู ตวั อย่าง

Barcode EAN-13 เป็นบาร์โค้ด ท่ีประเทศไทยเลือกใช้งาน ซ่ึงบาร์โค้ดดังกล่าวจะทาการลงทะเบียน บาร์โค้ดก่อน จึงจะสามารถไปใช้งานกับสินค้าได้โดยมีสถาบันสัญลักษณ์รหัสแท่งไทย (Thai Article Numbering Council) หรือ TANC เป็นองค์กรตัวแทน EAN ภายใต้การดูแลของ สภาอุตสาหกรรมกรรมแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ระบบ EAN ท่ีประเทศไทยใช้นั้นจะมีลักษณะ เป็นเลขชดุ 13 หลกั 28

องคป์ ระกอบท่ีสาคญั ของบารโ์ ค้ด Barcode หมายเลข 1 สัญลักษณ์แท่งสีเข้มสลบั สอี อ่ นสาหรับอา่ นดว้ ยเคร่อื งสแกนเนอร์ หมายเลข 2 885 : ตัวเลข 3 หลักแรก คอื รหสั ของประเทศไทย หมายเลข 3 0000 : ตัวเลข 4 ตัวถดั มา เป็นรหัสโรงงานทีผ่ ลิต หรอื รหสั สมาชิก หมายเลข 4 11111 : 5 ตัวถดั มาเป็นรหัสสนิ คา้ หมายเลข 5 2 : ตวั เลขหลกั สุดทา้ ยเปน็ ตัวเลขตรวจสอบเลข 12 ขา้ งหน้าว่ากาหนดถูกตอ้ งหรอื ไม่ ถา้ ตวั สุดท้ายผิด บาร์โคด้ ตัวน้นั จะอา่ นไม่ออกสอ่ื ความหมายไม่ได้ 29

บารโ์ คด้ 2 มิติ เป็นเทคโนโลยีท่ีพัฒนาเพ่ิมเติมจากบาร์โค้ด 1 มิติ โดยออกแบบให้บรรจุได้ทั้งในแนวต้ังและ แนวนอน ทาใหส้ ามารถบรรจขุ ้อมลู มากได้ประมาณ 4,000 ตัวอักษรหรอื ประมาณ 200 เท่าของบาร์โค้ด 1 มิติในพื้นที่เทา่ กันหรือเล็กกว่า บาร์โค้ด 2 มิติสามารถถอดรหัสได้แม้ภาพบาร์โค้ดบางส่วนมีการเสียหาย อุปกรณ์ที่ใช้อ่านและ ถอดรหัสบาร์โค้ด 2 มิติมีตั้งแต่เครื่องอ่านแบบซีซีดีหรือเคร่ืองอ่านแบบเลเซอร์เหมือนกับของบาร์โค้ด 1 มิติจนถึงโทรศัพทม์ อื ถอื แบบมกี ล้องถ่ายรูปในตัวซึ่งติดตงั้ โปรแกรมถอดรหสั ไว้ ในสว่ นลกั ษณะของบารโ์ คด้ 2 มติ มิ อี ยอู่ ยา่ งมากมายตามชนิดของบาร์โค้ด เช่น วงกลม ส่ีเหลี่ยม จตั ุรัส หรือส่ีเหลย่ี มผืนผ้าคล้ายกับบาร์โค้ด 2 มติ ิ ดงั รปู ท่ี 2 เป็นต้น ตัวอย่างบาร์โค้ด 2 มิติ ได้แก่ PD417, MaxiCode, Data Matrix, และ QR Code 30

บาร์โคด้ 3 มติ ิ เปน็ เทคโนโลยีทพ่ี ฒั นาเพ่ิมเติมจากบารโ์ ค้ด 2 มิตเิ พื่อบาร์โค้ดติดบนวัตถุได้นาน ทน ตอ่ สภาพสิง่ แวดล้อม โดยการยิงเลเซอร์ หรือทาการสลักตัวบาร์โค้ดลงไปบนเน้ือวัตถุโดยตรง ทาให้บารโ์ คด้ มลี ักษณะสงู หรือตา่ กวา่ พื้นผิวข้ึนมา โดยเราจะพบลักษณะบาร์โค้ดดังกล่าว ใน กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เครอื่ งมอื แพทย์ แผงวงจรอิเล็กทรอนกิ สต์ วั อย่างบาร์โคด้ 3 มิติ 31

ประโยชน์ของบาร์โคด้ 1. ทาให้กระบวนการทางานท่ีจาเป็นตอ้ งใช้ขอ้ มลู สินค้าสามารถทาไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ถูกต้อง มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้จัดจาหน่าย ผู้ซื้อ และผู้ให้บริการโลจิสติกส์สามารถใช้รหัส บาร์โคด้ ทาธุรกรรมร่วมกนั ได้ 2. คคู่ า้ ทุกระดับต้ังแต่ต้นน้าจนถึงปลายน้า สามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ลดระยะเวลาและ ปญั หาทอี่ าจเกิดจากข้อผิดพลาดในบนั ทึกขอ้ มลู ตวั สินคา้ ได้ 32

ประโยชน์ของบารโ์ ค้ด 3. สามารถต่อยอดขีดความสามารถทางด้านโลจิสติกส์ด้านอ่ืนๆ เช่น ระบบบริหาร คลังสินค้า ระบบการจัดซื้อ ระบบขนสง่ สินค้า เป็นตน้ 4. สามารถใชโ้ ปรแกรมระบบการจดั การโลจิสติกสส์ มยั ใหมไ่ ด้ เช่น Cross-Docking, Just- in-Time (JIT), Vendor Managed Inventory (VMI) เปน็ ต้น 5. สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับของสินค้า(Traceability) ทาให้ทราบว่าสินค้าทราบ นน้ั มีแหลง่ วตั ถดุ ิบ หรอื แหล่งผลติ จากทีใ่ ดตลอดท้ังระบบหว่ งโซ่อปุ ทาน 33

รหสั บ่งชีโ้ ดยใช้ความถีข่ องคล่ืนวทิ ยุ (Radio Frequency Identification: RFID) เป็นเทคโนโลยีทีร่ ะบุตาแหนง่ ของวตั ถุ เชน่ คน สตั วส์ ง่ิ ของ เป็นต้น ด้วยคลน่ื ความถี่วทิ ยุ โดยมีการตดิ ปา้ ย (RFID Tag) ทว่ี ัตถเุ หล่านน้ั นอกจากน้ี RFID จะเป็น เทคโนโลยีท่เี ขา้ มาแทนทบ่ี าร์โค้ดในอนาคต เนือ่ งจากมคี วามสะดวกและประสทิ ธภิ าพ การใชง้ านดกี ว่า 34

ส่วนประกอบของ RFID 1. ป้าย (RFID Tag) ป้ายนปี้ ระกอบดว้ ย ชปิ (Chip) หรอื หนว่ ยความจา สายอากาศ แบตเตอร่ี ( 35 อาจจะมีหรอื ไม่มกี ไ็ ด)้ 2. เคร่ืองอา่ น (RFID Reader) ประกอบดว้ ยสายอากาศโมดูลคลนื่ วทิ ยุและส่วนควบคุม 3. ตวั ควบคมุ (Controller) ทาหน้าท่เี ปน็ ฐานขอ้ มูลเชอ่ื มระหว่างเคร่อื งอ่านและซอฟตแ์ วร์ทใ่ี ช้ ในการอา่ นป้าย

ระบบกาหนดพิกดั ทีต่ ง้ั ดาวเทียม (Global Positioning System: GPS) เป็นระบบตดิ ตามยานพาหนะแบบเรียลไทม์ทใี่ ชก้ ันอย่างแพรห่ ลายในส่วนของ งานการขนสง่ สนิ คา้ ของธุรกิจ ซึ่งผู้บริหารอาจพบผู้ปฏิบัติงานมีการทางานท่ีไม่เป็นไป ตามแผนงานขององค์การ เช่น มีการจัดส่งสินค้าล่าช้า มีการขนส่งสินค้าน้อยกว่า เป้าหมาย มกี ารเบกิ ค่านา้ มันมากกวา่ ปกติ มกี ารนารถของธรุ กจิ ไปใช้ในงานส่วนตวั 36

การติดตั้งอุปกรณ์ GPS อยู่กับตัวรถบรรทุกสินค้า หรืออาจติดอยู่กับตัวตู้ บรรทุกสินคา้ เพอ่ื แสดงตาแหน่งท่ีต้ังของรถบรรทุกหรือตู้บรรทุกสินค้า เพือ่ ควบคุมให้ พนักงานขับรถปฏิบัติงานอยู่ในขอบเขตภารกจิ ขององค์การ การใช้เทคโนโลยีผ่าน ดาวเทียมทาให้สามารถทราบตาแหน่งยานพาหนะได้ตลอดเวลา24 ชั่วโมง ด้วย สัญญาณผ่านดาวเทียม และสัญญาณโทรศัพท์ GSM และมีการส่งข้อความผ่านทาง เครอื ขา่ ยโทรศพั ท์ 37

ระบบการจัดการการขนสง่ (Transportation Management System : TMS) ปจั จุบนั ระบบการจัดการขนส่งนิยมใช้ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยมีการใช้งานผ่าน ทางเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ต ซ่ึงซอฟต์แวร์ TMS มีระบบ ยอ่ ยทส่ี าคัญ ประกอบดว้ ย 38

1. การจัดการขนส่ง มีงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การวางแผนบรรทุก การเลือกวิธีการ ขนส่ง การจัดซื้อในงานขนส่ง การจัดการเส้นทางขนส่ง การควบคุมการขนส่ง การ ติดตามการจดั ส่ง การจดั ทารายงานและปรับตามความต้องการของลูกค้า 39

40

2. การจัดการยานพาหนะ มีงานที่เก่ียวข้อง เช่น การบริหารยานพาหนะ การจัดการ เช่ายานพาหนะ การจัดการน้ามันเช้ือเพลิง การจัดการอุบัติเหตุ การจัดการบุคคล การซ่อมบารงุ ภายใน การจดั การอะไหล่ และการจัดการเรียกเก็บเงิน 41

3. การจัดการผู้รับขน มีงานที่เก่ียวข้อง เช่น การวางแผนขนส่ง/เวลาในการบรรทุก การจัดตารางการขนส่ง การสรรหาพนักงานขับรถ การกาหนดชั่วโมงพนักงานขับรถ การบารงุ รกั ษายานยนต์ และการสนับสนุนการขนส่งสินคา้ ขากลับ 42

4. การออกแบบเครือข่าย มีงานท่ีเก่ียวข้อง เช่น การเลือกทาเลท่ีต้ัง การกระจาย สินค้าในระดับดีท่ีสุด การวางแผนกาลังการผลิต การให้บริการคลังสินค้าแต่ละพื้นที่ ใหด้ ีทส่ี ดุ และการประเมนิ ผลกลยทุ ธโ์ ลจสิ ติกส์ 43


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook