1 คู่มอื นกั ศกึ ษา หลักสตู รปรชั ญำดุษฎบี ณั ฑิต สำขำวิชำกำรจัดกำรทรพั ยำกรเกษตรเขตร้อน Doctor of Philosophy Program in Tropical Agricultural Resource Management (TARM) สำหรบั นักศกึ ษำรหสั 65106300xx – 69106300xx for Student under the approved curriculum on 2022
2 คู่มือนักศึกษำ หลักสูตรฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2565 for Student under the approved curriculum on 2022 หลักสตู รปรชั ญำดษุ ฎบี ัณฑติ สำขำวชิ ำกำรจดั กำรทรัพยำกรเกษตรเขตรอ้ น Doctor of Philosophy Program in Tropical Agricultural Resource Management (TARM) คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา Faculty of Natural Resources, Prince of Songkla University, Hat Yai, Thailand ข้อมูลกำรติดต่อ: สำนกั งำนหลกั สตู รฯ หอ้ ง 134 อาคาร 1 ช้นั 1 คณะทรพั ยากรธรรมชาติ โทร: 0-7428-6223 เวบ็ ไซต์: http://natres.psu.ac.th/FNR/TARM/ นกั วิชาการอดุ มศึกษา: คุณสดุ ธดิ า แซ่เบา่ (เจ) วนั ที่จดั ทำ: มถิ ุนายน 2565
3 ขอ้ มูลทั่วไปของหลักสตู ร ชือ่ หลักสูตร ภาษาไทย : ปรัชญาดุษฎบี ัณฑิต สาขาวิชาการจดั การทรัพยากรเกษตรเขตรอ้ น ภาษาองั กฤษ : Doctor of Philosophy Program in Tropical Agricultural Resource Management ช่ือปรญิ ญำและสำขำวชิ ำ ช่ือเตม็ : ปรชั ญาดุษฎีบณั ฑิต (การจดั การทรัพยากรเกษตรเขตร้อน) : Doctor of Philosophy (Tropical Agricultural Resource Management) ชอ่ื ย่อ : ปร.ด. (การจัดการทรพั ยากรเกษตรเขตร้อน) : Ph.D. (Tropical Agricultural Resource Management) รปู แบบหลกั สตู ร เปน็ หลกั สตู รระดับปรญิ ญาเอก มี 2 แบบ คือ แบบ 1.1 เป็นแผนการศึกษาท่ีเน้นการวิจัย โดยมีการทาวิทยานิพนธ์ที่ก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่เพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็น วิทยานิพนธ์ท่ีมีคุณภาพสูง ก่อให้เกิดความรู้ใหม่และความก้าวหน้าทางวิชาการและวิชาชีพ แต่คณะกรรมการท่ีปรึกษา วิทยานิพนธ์อาจเสนอให้มีการศึกษารายวิชาหรือทากิจกรรมทางวิชาการอ่ืนๆ ท่ีจาเป็นสาหรับวิทยานิพนธ์เพ่ิมข้ึนได้โดยไม่นับ หนว่ ยกิต
4 แบบ 2.1 เป็นแผนการศึกษาท่ีเน้นการวิจัยและมีการเรียนรายวิชาร่วมกับการทาวิทยานิพนธ์ โดยเป็นวิทยานิพนธ์ท่ีมี คุณภาพสงู ก่อใหเ้ กดิ องค์ความรูใ้ หม่และความก้าวหน้าทางวิชาการและวิชาชพี ระยะเวลำกำรศกึ ษำตลอดหลกั สูตร ระยะเวลาศกึ ษาตามหลักสูตร 3 ปีการศึกษา หมำยเหตุ 1. ข้อบังคับฯ วา่ ด้วยการศกึ ษาชนั้ บณั ฑิตศึกษา พ.ศ.2563 กาหนดระยะเวลาเรยี นไม่เกิน 6 ปีการศึกษา 2. หากนกั ศึกษาไมส่ ามารถสาเร็จการศกึ ษาไดภ้ ายในระยะเวลาที่กาหนด จะพน้ สภาพการเปน็ นักศึกษา 3. กรณีท่ีนักศึกษามกี ารลาพกั การศึกษาในภาคการศึกษาใดๆ ระยะเวลาทล่ี าพกั การศึกษาจะถกู นับรวมอยใู่ นระยะเวลาที่ศึกษามาแลว้ ท้ังหมดดว้ ย โครงสร้ำงหลกั สตู รและจำนวนหน่วยกติ หมวดวิชำ แบบ 1.1* แบบ 2.1 วิชาบังคบั - 12 วิทยานพิ นธ์ 48 36 รวม 48 48 หมายเหตุ * นักศึกษาแผนแบบ 1.1 ทุกคน ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาสัมมนา 1-3 และชุดวิชาการจัดการทรัพยากรเกษตรเขตร้อนแบบบูรณาการ โดยไม่นับ หนว่ ยกิต (Audit)
5 ปรชั ญำของหลกั สตู รฯ หลักสตู รปรชั ญาดุษฎบี ัณฑิต สาขาวิชาการจดั การทรัพยากรเกษตรเขตรอ้ น มุ่งผลิตดุษฎบี ณั ฑติ ที่มคี วามรขู้ ั้นสงู ทางดา้ นการจดั การ ทรัพยากรเกษตรในเขตร้อน โดยจัดการเรียนรเู้ ชิงรุก (Active learning) ผ่านการศึกษาวิจัยที่มุ่งสู่ระบบการผลติ ทางการเกษตรและการ จัดการทรัพยากรแบบบูรณาการ บนพื้นฐานความหลากหลายในภูมินิเวศของภาคใต้ ยึดหลักการพัฒนาท่ีย่ังยืน ( Sustainable development) หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency economy) และความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการพัฒนา ประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG (BCG economy model) เพื่อให้ดุษฎีบัณฑิตของหลักสูตรฯ มีความสามารถในการสร้างสรรค์ งานวิจัยและนวตั กรรมทางดา้ นการจดั การทรพั ยากรเกษตรเขตร้อนที่มคี ณุ ภาพระดับสากล ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนภาคใต้ สังคม ประเทศ และโลก เป็นดุษฎีบัณฑิตท่ีมีวินัยและมีคุณธรรม สามารถแก้ไขปัญหาหรือพัฒนางานได้อย่างมีหลักการ เหตุผล สามารถ ร่วมงานกับบุคลากรในสาขาอ่ืนท่ีเก่ียวข้องได้เป็นอย่างดี และสามารถค้นคว้า ส่ือสาร ถ่ายทอด ข้อมูลความรู้ทางวิชาการได้อย่ างมี ประสทิ ธิภาพ วัตถุประสงค์ของหลักสตู รฯ 1. เพ่ือผลิตนักวิชาการท่ีมีความรู้ความสามารถในการวิจัยระดับขั้นสูงท่ีมีคุณภาพด้านการจัดการทรัพยากรเกษตรเขต ร้อนอย่างเปน็ ระบบ เป็นสากล และทนั สมัยตอ่ สถานการณโ์ ลก 2. เพือ่ ผลิตนักวชิ าการทมี่ คี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณในการประกอบวชิ าชีพ สามารถทางานรว่ มกบั ผู้อ่นื ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ทัง้ ในฐานะผ้ตู ามและผู้นาองคก์ รทัง้ ในระดบั ทอ้ งถ่ินและระดบั ภมู ภิ าค 3. เพอื่ ผลติ นักวชิ าการที่สามารถสร้างองค์ความร้หู รือนวตั กรรมท่ีสามารถประยกุ ต์ใช้เพ่ือแก้ปัญหาหรือความต้องการของ สงั คมหรือชุมชน
6 เกณฑ์กำรสำเร็จกำรศกึ ษำของนกั ศกึ ษำในหลักสตู รฯ แบบ 1.1 1. ผา่ นการเรียนรายวชิ าสมั มนา 1, 2 และ 3 โดยได้ระดับคะแนน S 2. สอบผ่านการสอบวดั คุณสมบตั ิ (Qualifying examination) เพอื่ เปน็ ผู้มีสิทธ์ิขอทาวิทยานิพนธ์ 3. เสนอวิทยานพิ นธ์และสอบผา่ นการสอบปากเปล่าขนั้ สดุ ทา้ ย โดยคณะกรรมการสอบวทิ ยานิพนธ์ ซงึ่ จะตอ้ งประกอบไป ด้วยผู้ทรงคุณวุฒจิ ากภายในและภายนอกสถาบัน และต้องเปน็ ระบบเปดิ ให้ผสู้ นใจเข้าร้บฟังได้ 4. สาหรับวิทยานิพนธ์หรือส่วนหน่ึงของวิทยานิพนธ์ต้องได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่างน้อยได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ใน วารสารระดับชาติ หรือนานาชาติ อย่างน้อย 2 เร่ือง และ 1 เรื่อง ต้องเป็นผลงานวชิ าการระดับนานาชาติทม่ี ีคณุ ภาพ ตามประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสาหรับการเผยแพร่ ผลงานทางวิชาการ 5. ต้องนาเสนอวิทยานิพนธ์หรือส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ในที่ประชุมวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติ โดยบทความท่ี นาเสนอฉบบั สมบรู ณ์ (Full paper) ได้รับการตีพิมพใ์ นรายงานสืบเนอื่ งจากการประชมุ วิชาการ (Proceeding) 1 ครั้ง 6. ต้องสอบเทียบหรือสอบผ่านความรู้ภาษาต่างประเทศ มีคุณสมบัติอ่ืนและเป็นไปตามเงื่อนไขของผู้สาเร็จการศึกษาที่ กาหนดไว้ในประกาศบัณฑิตวิทยาลัย เรื่อง คุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้สาเร็จการศึกษาในหลักสูตรปริญญาโทและ ปรญิ ญาเอก
7 แบบ 2.1 1. ศึกษารายวิชาครบถ้วนตามที่กาหนดในหลักสูตร โดยจะต้องได้ระดับคะแนนเฉลย่ี ไม่ต่ากว่า 3.00 จากระบบ 4 ระดับ คะแนนหรอื เทียบเทา่ 2. สอบผา่ นการสอบวดั คุณสมบัติ (Qualifying examination) เพอ่ื เปน็ ผูม้ ีสิทธิ์ขอทาวทิ ยานิพนธ์ 3. เสนอวิทยานิพนธแ์ ละสอบผา่ นการสอบปากเปลา่ ขน้ั สดุ ทา้ ย โดยคณะกรรมการสอบวทิ ยานิพนธ์ ซงึ่ จะตอ้ งประกอบไป ดว้ ยผทู้ รงคณุ วฒุ จิ ากภายในและภายนอกสถาบัน และตอ้ งเปน็ ระบบเปิดใหผ้ ูส้ นใจเข้าร้บฟังได้ 4. สาหรับวิทยานิพนธ์หรือส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ต้องได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่างน้อยได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ใน วารสารระดับนานาชาติ 1 เรือ่ ง ที่มีคุณภาพ ตามประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรอื่ ง หลกั เกณฑก์ ารพิจารณา วารสารทางวิชาการสาหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ 5. ต้องนาเสนอวิทยานิพนธ์หรือส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ในท่ีประชุมวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติ โดยบทความที่ นาเสนอฉบบั สมบูรณ์ (Full paper) ได้รบั การตีพิมพใ์ นรายงานสืบเนอ่ื งจากการประชมุ วชิ าการ (Proceeding) 1 คร้ัง 6. ต้องสอบเทียบหรือสอบผ่านความรู้ภาษาต่างประเทศ มีคุณสมบัติอ่ืนและเป็นไปตามเง่ือนไขของผู้สาเร็จการศึกษาท่ี กาหนดไว้ในประกาศบัณฑิตวิทยาลัย เรื่อง คุณสมบัติและเง่ือนไขของผู้สาเร็จการศึกษาในหลักสูตรปริญญาโทและ ปรญิ ญาเอก
8 กำรดำเนินกำรตำมเกณฑก์ ำรสำเรจ็ กำรศกึ ษำของนกั ศึกษำในหลักสตู รฯ
9 กำรลงทะเบียนเรยี นรำยวิชำ 1 ขอ้ กำหนดทัว่ ไปที่เกยี่ วขอ้ งกับกำรลงทะเบยี นเรยี น - นักศึกษาลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 15 หน่วยกิต ในแต่ละภาคการศึกษา หากมีความจาเป็นจะต้องลงทะเบียนเกนิ 15 หนว่ ยกิต จะต้องดาเนนิ การสง่ คารอ้ งเพ่อื ลงทะเบียนเรยี นเกินมายังหลกั สตู รฯ โดยมีการรบั รองจากอาจารยท์ ่ปี รึกษา - การลงทะเบียนเรียนรายวิชาวิทยานิพนธ์ นักศึกษาจะต้องดาเนินการแต่งตั้งอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ก่อน (แบบฟอรม์ บว.1 NR) - ในกรณที นี่ ักศึกษาเรยี นรายวชิ าครบถ้วนตามที่หลักสตู รฯ กาหนดแลว้ และอย่ใู นระหว่างการทาวจิ ยั เพ่ือวิทยานิพนธ์ ให้มหี นว่ ยกติ วิชาวทิ ยานพิ นธค์ งเหลือไว้อย่างน้อย 3 หน่วยกติ เพอื่ รอสอบ - การลงทะเบียนเรียนรายวชิ าสัมมนานัน้ นักศึกษาจะต้องลงทะเบยี นเรียนและมีผลการเรียนผ่าน เป็นลาดับไป โดย จะต้องผ่านวิชาสัมมนา 1 กอ่ น จึงจะลงเรยี นวชิ าสัมมนา 2 ได้ และต้องผา่ นวิชาสัมมนา 2 จงึ จะเรียนวชิ าสมั มนา 3 ได้
10 2 แผนกำรลงทะเบียนเรยี นตลอดหลักสูตร หลกั สตู รแบบ 1.1 ภำคกำรศกึ ษำท่ี 1 ปที ี่ 1 8 หน่วยกติ 548-799 วิทยานิพนธ์ ภำคกำรศึกษำที่ 2 ไมน่ บั หน่วยกติ 548-701 ชดุ วิชาการจัดการทรพั ยากร 8 หนว่ ยกิต 548-799 วทิ ยานพิ นธ์ 8 หน่วยกิต เกษตรเขตร้อนแบบบูรณาการ ไมน่ บั หน่วยกติ 548-897 สัมมนา 2 548-797 สัมมนา 1 8 หนว่ ยกิต ไมน่ ับหนว่ ยกติ ภำคกำรศกึ ษำท่ี 1 ปที ่ี 2 548-799 วทิ ยานพิ นธ์ ภำคกำรศึกษำที่ 2 548-997 สมั มนา 3 8 หนว่ ยกติ 548-799 วทิ ยานพิ นธ์ ไมน่ บั หนว่ ยกติ ภำคกำรศกึ ษำท่ี 1 8 หน่วยกิต ปที ี่ 3 548-799 วิทยานพิ นธ์ ภำคกำรศกึ ษำที่ 2 548-799 วิทยานิพนธ์ รวมตลอดหลกั สูตร 48 หน่วยกิต
11 หลักสตู รแบบ 2.1 ภำคกำรศึกษำท่ี 1 9 หน่วยกิต ปที ่ี 1 8 หน่วยกติ 548701 ชุดวชิ าการจัดการทรพั ยากร ภำคกำรศึกษำที่ 2 1 หนว่ ยกิต 548-800 วทิ ยานพิ นธ์ เกษตรเขตร้อนแบบบูรณาการ 548-897 สัมมนา 2 8 หน่วยกิต 548-797 สมั มนา 1 1 หนว่ ยกิต 6 หน่วยกติ ภำคกำรศกึ ษำที่ 1 8 หน่วยกิต ปีที่ 2 548-800 วิทยานิพนธ์ 1 หน่วยกติ ภำคกำรศึกษำที่ 2 548-997 สมั มนา 3 548-800 วทิ ยานิพนธ์ ภำคกำรศึกษำที่ 1 6 หน่วยกติ ปที ่ี 3 548-800 วิทยานพิ นธ์ ภำคกำรศกึ ษำที่ 2 548-800 วทิ ยานพิ นธ์ รวมตลอดหลักสตู ร 48 หน่วยกติ
12 9((5)-8-14) 3. รำยวชิ ำ 3.1 หมวดวชิ ำบังคบั 548-701 ชุดวิชำกำรจดั กำรทรพั ยำกรเกษตรเขตร้อนแบบบรู ณำกำร (Module: Integrated Tropical Agricultural Resource Management) แนวคดิ พื้นฐานลกั ษณะทางชวี ภาพ กายภาพ และเศรษฐกจิ สงั คมของระบบ นิเวศเกษตรเขตร้อนในบริเวณคาบสมทุ รภาคใต้ของประเทศไทย ระบบการผลิตทาง การเกษตร การจัดการทรัพยากรทางการเกษตร แนวคิดและหลักการในการจัดการ ทรัพยากรเกษตรเขตร้อนแบบบูรณาการ แนวคิดและหลักการเกษตรคาร์บอนต่า การกักเก็บคาร์บอนและการลดการปล่อยกา๊ ซเรอื นกระจกสาหรับเกษตรเขตร้อน Concept of biological, physiological and socio-economic characteristics of tropical agricultural ecosystem in peninsula of southern Thailand; agricultural production system; management of tropical agricultural resources; concept and principle of integrated approach for management of tropical agricultural resources; concept and principle of net-zero emission in agriculture; carbon sequestration and reducing emission for tropical agricultural resources.
548-797 13 1(0-2-1) สัมมนำ 1 Seminar I การค้นคว้าข้อมูลและความก้าวหน้าทางวิชาการ การวิเคราะห์ วิจารณ์ การ เขียน และการนาเสนอสมั มนา Literature review of topics and advance in academic research; analysis, discussion, seminar writing and presentation 548-897 สมั มนำ 2 1(0-2-1) Seminar II รำยวชิ ำบังคบั กอ่ น : 548-797 สัมมนา 1 การค้นคว้าข้อมูลและความก้าวหน้าทางวิชาการเฉพาะเร่ือง ท่ีเกี่ยวกับโครง ร่างวิทยานิพนธ์ในสาขาวิชาและการจัดการทรัพยากรเกษตรเขตร้อน การวิเคราะห์ วิจารณ์ การเขยี น และการนาเสนอสมั มนา Literature review of topics and advance in tropical agricultural resource management related to thesis proposal; analysis, discussion, seminar writing and presentation
14 548-997 สัมมนำ 3 1(0-2-1) Seminar III รำยวชิ ำบงั คบั ก่อน : 548-897 สมั มนา 2 รวบรวม เขยี น และนาเสนอสัมมนาทไี่ ดจ้ ากสว่ นหน่ึงของการทาวทิ ยานพิ นธ์ Compiling, writing and presenting of seminar partially from thesis 3.2 หมวดวทิ ยำนพิ นธ์ 48(0-144-0) 548-799 วทิ ยำนพิ นธ์ Thesis การศึกษาวิจัยทางการจัดการทรัพยากรเกษตรเขตร้อนแบบบูรณาการ ท่ี ครอบคลุมมิติด้านชีวภาพ กายภาพ เศรษฐกิจ สังคมและส่ิงแวดล้อม เพื่อนาไปสูก่ าร สร้างองคค์ วามรูห้ รอื นวตั กรรม Research study on integrated tropical agricultural resource management covering biological, physical, economic, social and environmental dimensions leading to knowledge creation or innovation
548-800 15 36(0-108-0) วทิ ยำนพิ นธ์ Thesis การศึกษาวิจัยทางการจัดการทรัพยากรเกษตรเขตร้อนแบบบูรณาการ ที่ ครอบคลุมมิติด้านชีวภาพ กายภาพ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อนาไปสู่การ สรา้ งองคค์ วามรหู้ รอื นวตั กรรม Research study on integrated tropical agricultural resource management covering biological, physical, economic, social and environmental dimensions leading to knowledge creation or innovation 3.2 หมวดวิชำเลือก นักศึกษาสามารถเลือกเรียนวิชาเลือกได้จากรายวิชา/ชุดวิชา (Module) ของหลักสูตรในระดับบัณฑิตศึกษา หลักสูตรอื่น ๆ ที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ท้ังนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของอาจารย์ท่ีปรึกษาวิทยานิพนธ์ และ คณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตร
16 กำรแตง่ ตง้ั อำจำรยท์ ่ปี รกึ ษำวทิ ยำนพิ นธ์ 1. ยื่นขอแต่งต้ังอำจำรย์ท่ีปรึกษำวิทยำนิพนธ์หลัก/ร่วม (บว.1 NR) ท่ีสานักงานหลักสูตรฯ (ให้อาจารย์ที่ปรึกษา วทิ ยานพิ นธ์หลัก และอาจารยท์ ่ปี รกึ ษาวทิ ยานพิ นธ์ร่วม (ถ้าม)ี ลงนามกากับหลังสาขาชานาญการ) 2. นักศึกษาแผน 1.1 ให้ดาเนินการก่อนท่ีจะลงทะเบียน ในภาคการศึกษาที่ 1 ส่วนนักศึกษาแผนแบบ 2.1 ให้ ดาเนินการภายในภาคการศกึ ษาท่ี 1 หรอื 2 3. การแต่งตั้งอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก จะต้องดาเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนมีการลงทะเบียนในรายวิชา วิทยานิพนธ์ เน่ืองจากกองทะเบียนและประมวลผลฯ จะรับลงทะเบียนรายวิชาวิทยานิพนธ์เฉพาะนกั ศึกษาท่ีได้รับอนุมัติ บว.1 และได้รับสาเนา บว.1 เรยี บรอ้ ยแลว้ เทา่ นน้ั 4. ในกรณีท่ีมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก/ร่วม ในภายหลัง ให้นักศึกษาจัดทา แบบขออนุมตั เิ ปลี่ยนแปลงอำจำรยท์ ป่ี รกึ ษำวทิ ยำนิพนธห์ ลัก/รว่ ม (บว.1/1 NR) ส่งไปที่สานักงานหลกั สูตรฯ โดยใหอ้ าจารย์ท่ี ปรึกษาวิทยานพิ นธ์หลักและอาจารย์ทป่ี รกึ ษาวิทยานิพนธร์ ว่ ม (ถา้ มี) ลงนามกากบั หลงั สาขาชานาญการ 5. กรณีที่อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วมที่เสนอแต่งต้ังเป็นอาจารย์ภายนอกคณะฯ หรือภายนอกมหาวิทยาลัย นักศึกษาจะต้องจัดทาแบบเสนอช่ือบุคคลเพ่ือแต่งต้ังอำจำรย์พิเศษระดับบัณฑิตศึกษำ (บว.11/3) พร้อมแนบประวัติโดยย่อ (CV) ของอาจารย์ท่านน้ันๆ มาดว้ ย
17 กำรสอบวัดคุณสมบัติ (Qualifying Examination: QE) 1. กำรสอบข้อเขียน หลักสูตรฯ จัดสอบวัดคุณสมบัติส่วนข้อเขียนทุกภาคการศึกษา โดยจะมีประกาศกาหนดการสอบท่ีแน่นอน สาหรับ การประเมินผลการสอบขอ้ เขียนนั้น นักศกึ ษาต้องไดค้ ะแนนจากการสอบแตล่ ะขอ้ ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 และคะแนนรวมเฉล่ยี ไม่ น้อยกวา่ รอ้ ยละ 75 จงึ จะถือว่าสอบผา่ น สาหรับเนื้อหาของการสอบ จะเกี่ยวข้องกับการผลิตทางการเกษตรแต่ละสาขา และการจัดการทรัพยากรเกษตรเขต รอ้ นแบบบูรณาการ โดยนักศึกษาจะได้รับรายการเอกสารจากกรรมการผู้ออกข้อสอบ เพ่ือแนะนาให้อา่ นในการเตรียมตัวสอบ 2. กำรสอบปำกเปลำ่ การสอบวัดคุณสมบัติปากเปล่า นักศึกษาจะดาเนินการได้เม่ือผ่านการสอบข้อเขียนแล้ว โดยหลักสูตรฯ จะแต่งต้ัง คณะกรรมการสอบปากเปล่าให้กับนักศึกษา และนักศึกษาจะต้องทาการสอบให้เสร็จสิ้นภายใน 90 วันหลังจากการประกาศผล สอบขอ้ เขียน โดยมขี นั้ ตอนการดาเนนิ การ ดังน้ี (1) นกั ศกึ ษาตดิ ตอ่ หลกั สตู รฯ เพ่อื ย่นื เรอ่ื งขอแตง่ ต้งั คณะกรรมการสอบวดั คุณสมบัติ (แบบ บว.14) ประกอบดว้ ย 1) ประธานคณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตรฯ ทาหน้าทีเ่ ป็นประธานในการสอบ 2) อาจารยท์ ปี่ รึกษาวทิ ยานพิ นธห์ ลัก 3) อาจารย์ประจาหลักสูตรซึ่งเป็นคณะกรรมการสอบข้อเขยี น จานวนอย่างนอ้ ย 1 คน แต่ไมเ่ กนิ 3 คน
18 (2) นกั ศกึ ษานดั หมายกาหนดการสอบปากเปล่ากบั คณะกรรมการสอบทุกคนด้วยตนเอง และแจง้ กาหนดการสอบแก่ หลกั สูตรฯ เพอ่ื จัดเตรยี มการสอบล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาหก์ ่อนวันสอบ (3) เตรยี มสไลด์นาเสนอ (PPT) รายละเอยี ดทเี่ กยี่ วข้องดงั น้ี ประเดน็ สำคัญ ข้อแนะนำ ชือ่ หวั ข้อวิทยานิพนธ์ (ไทยและองั กฤษ) - ชือ่ ผ้วู ิจยั และอาจารย์ทป่ี รกึ ษา ทม่ี าและความสาคญั ของงานวิจยั ทีจ่ ะทา ชใ้ี หเ้ ห็นประเดน็ สาคัญและทเี่ ก่ียวขอ้ งกับห้วข้อวจิ ยั กรอบแนวคิดการทาวจิ ยั (Conceptual framework) ครอบคลุมแนวคิด/ทฤษฏีท่ีเก่ียวข้อง/ข้ันตอน/ตัวแปร/ กระบวนการ/ผลผลติ /ผลลัพธ์ วัตถุประสงค์ ชัดเจนและครอบคลุมประเดน็ ท่ีจะทาวจิ ัย คาสาคญั (Keyword) 3-5 คา อื่น ๆ จัดทาสไลด์เป็นภาษาอังกฤษ มีเวลานาเสนอไม่เกิน 30 นาที
19 (4) การประเมินผลสอบปากเปล่า คณะกรรมการสอบต้องมมี ติเปน็ เอกฉันทว์ า่ ผา่ น จงึ จะถอื วา่ สอบผา่ น (5) หากผลการสอบปากเปล่ายังไม่ได้รับมติเป็นเอกฉันท์ คณะกรรมการสอบอาจชะลอการประเมินผล และ กาหนดให้นกั ศึกษาไปศึกษาคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ และจดั ทาเปน็ รายงานส่ง (6) หลักสตู รฯ จะแจ้งผลการสอบปากเปล่า (บว.14/1) ภายใน 3 วันหลงั จากการสอบ และ/หรือการประเมนิ ผลของ คณะกรรมการสอบเสรจ็ สิ้น (7) นักศึกษาที่สอบวัดคุณสมบัติในส่วนของการสอบปากเปล่าไมผ่ า่ น ตอ้ งดาเนนิ การขอสอบใหมแ่ ละสอบใหเ้ สร็จสิ้น ภายในระยะเวลาไม่เกิน 45 วันหลังจากการสอบครัง้ แรก สาหรับการสอบวัดคุณสมบัติส่วนปากเปล่าน้ี จะวัดความรู้ความเข้าใจในแนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ วทิ ยานิพนธข์ องนกั ศึกษา ซ่ึงเป็นการวัดพรอ้ มในการทาวิจยั เพ่อื วิทยานิพนธ์
20 กำรสอบโครงร่ำงวิทยำนพิ นธ์ ตามข้อบังคับฯ ว่าด้วยการศึกษาช้ันบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2563 กาหนดให้นักศึกษาแบบ 1.1 ต้องได้รับอนุมัติโครงร่าง วิทยานิพนธ์ภายใน 6 ภาคการศึกษา และนักศึกษาแบบ 2.1 ภายใน 7 ภาคการศึกษา หากไม่สามารถดาเนินการได้ภายใน ระยะเวลาท่ีกาหนด จะพน้ สภาพการเปน็ นกั ศกึ ษา สาหรบั แนวปฏิบตั ิในการสอบและขออนุมัติโครงรา่ งวิทยานพิ นธ์ มีดงั ตอ่ ไปนี้ 1. นักศึกษายื่นแบบขอสอบและประเมินผลกำรสอบโครงร่ำงวิทยำนิพนธ์ (บว.1/2) ท่ีสานักงานหลักสูตรฯ เพ่ือแต่งต้ัง กรรมการสอบ โดยคณะกรรมการสอบตอ้ งมไี ม่น้อยกวา่ 3 คนแตไ่ มเ่ กิน 5 คน ประกอบด้วย - อาจารยท์ ่ปี รึกษาวิทยานิพนธ์หลักฯ ประธานกรรมการสอบ - อาจารย์ท่ีปรึกษาวิทยานิพนธร์ ่วม (ถา้ ม)ี กรรมการ - อาจารย์ประจาหลกั สตู ร/ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ กรรมการ 2. นักศกึ ษานดั วนั และเวลาสอบกบั กรรมการสอบ และแจ้งหลักสูตรฯ ทราบ พร้อมท้ังจัดส่งเอกสารโครงรา่ งวทิ ยานิพนธ์ เพื่อ หลกั สูตรฯ จะได้จดั ทาหนงั สือเชญิ กรรมการสอบ โดยตอ้ งดาเนินการอยา่ งนอ้ ย 2 สัปดาหก์ ่อนวนั สอบ 3. หลงั การสอบ ใหน้ ักศึกษาจดั ส่งแบบขออนุมัตโิ ครงรำ่ งวิทยำนิพนธ์ (บว.2) พรอ้ มหนังสือยนิ ยอมมอบลิขสทิ ธ์ิวทิ ยานพิ นธ์ และโครงรา่ งทีแ่ กไ้ ขเรยี บร้อยแล้ว ท่ีสานกั งานหลกั สูตรฯ ภายใน 30 วันหลังจากการสอบ 4. กรณีสอบโครงร่างวิทยานิพนธค์ รั้งแรกไม่ผ่าน ให้นักศึกษายื่นขอสอบคร้ังที่ 2 ภายใน 30 วันนับจากวันสอบครั้งแรก และ จะต้องดาเนินการสอบโครงร่างฯ ให้เสร็จส้ินภายใน 2 เดือนนับจากวันสอบคร้ังแรก มิฉะน้ัน ผลการเรียนวิชาวิทยานิพนธ์จะ สามารถผา่ น (ได้เกรด P) เพยี งครึง่ หนง่ึ หรอื อยา่ งน้อยไมผ่ า่ น 1 หน่วยกติ ของจานวนหน่วยกติ วิทยานิพนธท์ ่ลี งทะเบยี นเรยี น
21 กำรเปล่ยี นแปลงหัวขอ้ วทิ ยำนิพนธ์ หลงั อนุมัติโครงร่ำงวทิ ยำนพิ นธ์ หลังจากได้รบั อนมุ ัติโครงรา่ งวิทยานิพนธ์แล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงชื่อวทิ ยานพิ นธ์ ให้ดาเนนิ การดังน้ี 1. นักศึกษาจดั ทาแบบขอกำรเปลี่ยนแปลงชื่อวิทยำนิพนธ์ในโครงรำ่ งฯ (บว.2/1) พร้อมแนบโครงรา่ งวิทยานิพนธ์ท่ีแก้ไข เรยี บรอ้ ยแล้ว ย่นื ท่ีสานกั งานหลักสตู รฯ เพอ่ื เสนอคณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตรฯ พิจารณา 2. หลังจากผ่านการพจิ ารณาเหน็ ชอบจากคณะกรรมการบรหิ ารหลกั สตู รฯ แลว้ หลกั สูตรฯ จะแจง้ ผลไปยังบัณฑติ วิทยาลัย การขอเปลยี่ นแปลงชอ่ื วิทยานพิ นธ์ในโครงร่างฯ ตามข้อกาหนดน้ี เป็นการดาเนินการเฉพาะกรณีท่ีมีการเปลี่ยนแปลง หลังการสอบผา่ นโครงรา่ งวิทยานพิ นธ์แล้วเท่าน้ัน หากยงั ไมไ่ ดส้ อบโครงร่างวิทยานพิ นธ์ ไมต่ อ้ งจดั ทา บว.2/1 นักศกึ ษาสามารถ เปลยี่ นแปลงไดเ้ ลย
22 กำรสอบวิทยำนิพนธ์และกำรส่งเล่มวทิ ยำนพิ นธ์ฉบบั สมบรู ณ์ 1. กำรขอแตง่ ตง้ั คณะกรรมกำรสอบวิทยำนพิ นธ์ นักศกึ ษาย่ืนแบบขออนมุ ัติแตง่ ตั้งคณะกรรมกำรสอบวิทยำนพิ นธ์ (บว.3) ท่ีสานกั งานหลักสตู รฯ โดยยื่นล่วงหน้าอยา่ ง นอ้ ย 1 เดือนกอ่ นวนั สอบ ซง่ึ คณะกรรมการสอบฯ ต้องมีไม่นอ้ ยกว่า 5 คน ประกอบดว้ ย - ผู้ทรงคุณวุฒภิ ายนอกมหาวิทยาลยั ประธานกรรมการสอบ - อาจารย์ที่ปรึกษาหลกั กรรมการ - อาจารยท์ ป่ี รึกษาวทิ ยานิพนธร์ ่วม (ถ้าม)ี กรรมการ - อาจารยป์ ระจาหลักสตู ร กรรมการ - อาจารย์ประจาหลกั สตู ร กรรมการ พร้อมแนบประวัติบุคคล (CV) ของผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมาด้วยเพ่ือประกอบการพิจารณา โดยผู้ทรงคุณวุฒิจะต้องมี คุณสมบัติครบตำมเกณฑ์ท่ีกำหนดในเกณฑม์ ำตรฐำนหลักสูตรระดับบณั ฑติ ศึกษำ พ.ศ.2558 ดังน้ี - มคี ณุ วฒุ ปิ รญิ ญาเอกหรือเทียบเทา่ - มีผลงานทางวชิ าการท่ีได้รบั การตพี ิมพ์เผยแพรใ่ นวารสารท่มี ชี อื่ อยู่ในฐานขอ้ มลู ระดับนานาชาติ ซงึ่ ตรงหรอื สมั พนั ธ์กับ หัวขอ้ วทิ ยานพิ นธ์ ไมน่ ้อยกวา่ 5 เรือ่ ง
23 2. กำรขอสอบวิทยำนพิ นธ์ 2.1 นักศึกษานดั วนั และเวลาสอบกบั กรรมการดว้ ยตนเอง โดยกาหนดวนั สอบหลงั จากส่ง บว.3 แล้วอย่างนอ้ ย 2 สปั ดาห์ 2.2 นกั ศึกษายืน่ แบบขอสอบวิทยำนพิ นธ์ (บว.4) ท่ีบัณฑติ วิทยาลัยดว้ ยตนเอง 2.3 นักศึกษาแจ้งวันสอบให้หลักสูตรฯ พร้อมท้ังจัดส่งเล่มวิทยานิพนธ์ตามจานวนกรรมการสอบ เพื่อหลักสูตรฯ จะได้ จดั ทาหนังสอื เชญิ สง่ ใหแ้ ก่กรรมการสอบ อย่างน้อย 2 สปั ดาห์กอ่ นวันสอบ *** นักศึกษำสำมำรถศึกษำรปู แบบกำรจดั ทำเลม่ วิทยำนพิ นธ์ได้จำกเวบ็ ไซตบ์ ัณฑติ วิทยำลยั *** 3. กำรสอบวทิ ยำนิพนธ์และกำรแจง้ ผลกำรสอบ 3.1 นักศกึ ษาจดั เตรยี มไฟลน์ าเสนอวิทยานิพนธ์ ใชเ้ วลาประมาณ 30-40 นาที 3.2 เขา้ สอบวทิ ยานพิ นธ์ในวนั เวลา และสถานทท่ี ่กี าหนดในขนั้ ตอนการขอสอบ 3.3 หลักสูตรฯ จะจัดทาแบบฟอร์มแจ้งผลกำรสอบวิทยำนิพนธ์ (บว.5) ให้ประธานกรรมการในวันสอบ และรายงาน ผลการสอบใหน้ กั ศึกษาทราบ เพอื่ รายงานไปยงั บณั ฑติ วิทยาลยั ต่อไป 3.4 ในกรณที ่ีนกั ศกึ ษาสอบผา่ น แตก่ รรมการมมี ตใิ หม้ ีการแก้ไขเลม่ วิทยานิพนธ์ ใหจ้ ดั ทาวทิ ยานพิ นธ์ฉบับสมบรู ณใ์ ห้แลว้ เสร็จ โดยกาหนดเวลา 21 วันนับจากวันสอบวิทยานิพนธ์ (นับรวมวันหยุดราชการ/วันหยุดนักขัตฤกษ์) หรือภายใน 6 เดือนนับ จากวันสอบ หากไม่สามารถสง่ ภายใน 6 เดือนนับจากวันสอบวิทยานพิ นธ์ จะพ้นสภาพการเปน็ นักศึกษา ตามข้อบังคับฯ ว่าด้วย การศกึ ษาชั้นบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2563
24 3.5 ในกรณีนักศึกษาสอบไม่ผ่าน ให้ยื่นคาร้องภายใน 30 วันเพ่ือขอสอบครั้งที่ 2 และต้องดาเนินการสอบให้เสร็จสิ้น ภายใน 2 เดือนนับจากวันสอบคร้ังแรก และหากสอบคร้ังที่ 2 ไม่ผ่านจะพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา ตามข้อบังคับฯ ว่าด้วย การศกึ ษาชน้ั บัณฑิตศกึ ษา พ.ศ. 2563 4. กำรตรวจรูปแบบเลม่ วทิ ยำนิพนธ์ การตรวจรูปเล่มวิทยานิพนธ์ นักศึกษาสามารถดาเนินการได้ท้ังก่อนส่งเล่มวิทยานิพนธ์ให้คณะกรรมการสอบอ่าน หรือ ดาเนินการหลงั จากสอบวทิ ยานิพนธ์เรียบร้อยแล้ว แต่จะต้องดาเนนิ การให้แล้วเสร็จก่อนจัดทาเล่มวิทยานพิ นธ์ฉบับสมบูรณ์ โดย จะต้องยื่น บว.6 พร้อมแนบเอกสำรเพื่อตรวจรูปแบบ ได้แก่ (1) ปกนอก (2) ปกใน (3) หน้าอนุมัติ และ (4) ประวัติผู้วิจัย ยื่นด้วยตนเองที่บัณฑิตวิทยาลัย ซึ่งบัณฑิตวิทยาลัยจะตรวจสอบและแจ้งให้นักศึกษารับเอกสารพร้อมผลการพิจารณากลับใน ภายหลงั ** หำกไมม่ ีกำรยน่ื เอกสำรเพ่ือตรวจรูปแบบเล่มวทิ ยำนิพนธ์ นักศกึ ษำจะไมส่ ำมำรถสง่ เล่มวทิ ยำนพิ นธฉ์ บบั สมบรู ณไ์ ด้ **
25 5. กำรส่งวิทยำนพิ นธฉ์ บบั สมบูรณ์ 5.1 นักศึกษาตรวจสอบการคัดลอกผลงานด้วยโปรแกรม Turnitin และจัดทาแบบฟอร์มรายงานต้นฉบับแสดงผลการ ตรวจสอบการคดั ลอก (บว.14) พร้อมแนบผลการตรวจจากโปรแกรม 5.2 บัณฑิตวิทยาลัยจะแจ้งผลการตรวจสอบการคัดลอกผลงานข้อ 5.1 ไปยัง Email ของนักศึกษา กรณีผลการพจิ ารณา “ผา่ น” ใหน้ กั ศกึ ษาดาเนินการขอ้ 5.3 กรณผี ลการพิจารณา “ไมผ่ ่าน” ให้ดาเนนิ การแกไ้ ขตามข้อเสนอแนะ 5.3 นักศึกษาจดั ส่งวิทยานิพนธฉ์ บับสมบรู ณ์ไปยังบัณฑติ วิทยาลยั โดยมีเอกสารดงั นี้ 5.3.1 เลม่ วิทยานพนธฉ์ บับสมบูรณ์ 5.3.2 แบบขอสง่ วิทยานพิ นธ์ฉบบั สมบูรณ์ (บว.8) 5.3.3 หนา้ อนุมัติทม่ี ลี ายเซน็ จากคณะกรรมการสอบครบถ้วน 5.3.4 Yellow sheet ซ่งึ ไดร้ ับหลงั จากตรวจรูปแบบเลม่ วทิ ยานพิ นธใ์ นขอ้ 4 5.3.5 Upload ไฟลเ์ ล่มวทิ ยานิพนธ์ในระบบ PSU Knowledge Bank: https://kb.psu.ac.th/psukb/ นักศึกษำจะตอ้ งสง่ เล่มวทิ ยำนพิ นธ์ฉบบั สมบรู ณภ์ ำยใน 6 เดอื นหลงั กำรสอบวทิ ยำนิพนธ์ มิฉะนนั้ จะพน้ สภำพกำรเปน็ นกั ศกึ ษำ
26 กำรเผยแพรผ่ ลงำนวิจัยเพอื่ วิทยำนพิ นธ์ 1. นักศึกษำหลกั สูตรแบบ 1 (1) ตพี มิ พ์หรอื อย่างน้อยไดร้ ับการยอมรับให้ตพี ิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติ 1 เรอ่ื ง และระดับนานาชาติ 1 เรื่อง (2) นาเสนอผลงานวิจยั ในที่ประชมุ วชิ าการระดบั ชาติหรือนานาชาติ ท่มี รี ายงานการประชุมวิชาการ อยา่ งน้อย 1 ครัง้ 2. นักศึกษำหลักสตู รแบบ 2 (1) ตพี ิมพ์หรืออยา่ งน้อยไดร้ ับการยอมรบั ใหต้ ีพมิ พ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ 1 เร่ือง (2) นาเสนอผลงานวจิ ยั ในทป่ี ระชมุ วิชาการระดบั ชาตหิ รือนานาชาติ ท่ีมีรายงานการประชมุ วิชาการ อย่างน้อย 1 คร้งั ข้อกำหนดที่นักศึกษำพึงระมัดระวงั หรอื ใส่ใจ • วารสารวิชาการที่นักศึกษาส่งผลงานไปตีพิมพ์น้ัน จะต้องเป็นวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลที่บัณฑิตวิทยาลัยรับรอง ซ่งึ สามารถตรวจสอบขอ้ มูลนี้ได้จากเวบ็ ไซต์ของบัณฑติ วิทยาลยั • การนาเสนอผลงานวิจัยในที่ประชุมวิชาการน้ัน ต้องเป็นการนาเสนอแบบ Oral Presentation โดยรายงานการ ประชุมวิชาการจะต้องมีการตีพิมพ์บทความวิชาการของนักศึกษาแบบ full paper และมีการตรวจทานบทความโดยผู้เช่ยี วชาญ (peer review) ซ่ึงการตีพิมพ์บทความนั้น อาจมีการจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเอกสาร หรืออาจบันทึกในแผ่นซีดี หรืออุปกรณ์บันทึก ขอ้ มูลดจิ ิตัลรปู แบบอื่น
27 • อน่งึ หากนักศกึ ษามกี ารตพี ิมพ์บทความวิชาการมากกวา่ จานวนข้ันตา่ ท่หี ลักสตู รกาหนด สามารถนามาใชแ้ ทนการ เข้ารว่ มประชุมวิชาการได้ • สาหรับนกั ศึกษาท่ไี ด้รบั ทนุ การศึกษาจากแหลง่ ทนุ ใดๆ ให้พิจารณาแหลง่ เผยแพรผ่ ลงานให้สอดคล้องกับขอ้ กาหนด ของแหล่งทนุ ด้วย • สาหรบั การเผยแพร่ผลงานนน้ั มกี ารสนับสนุนคา่ ใชจ้ ่ายใหแ้ ก่นกั ศกึ ษา ดงั น้ี แหลง่ เผยแพร่ จำนวนเงนิ หมำยเหตุ การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ ไมเ่ กนิ 5,000.-บาท/คน - การประชุมวชิ าการ ระดบั นานาชาติ ไม่เกิน 20,000.-บาท/คน จานวน 10 คน/ปี การตพี ิมพ์ผลงานในวารสารวชิ าการ 50% ของค่าตพี มิ พ์ - แตไ่ มเ่ กนิ 10,000.-บาท/เรื่อง สาหรับการไปร่วมนาเสนอบทความในท่ปี ระชมุ วิชาการ นักศึกษาจะต้องแจ้งให้หลักสูตรฯ ทราบลว่ งหนา้ ก่อนการ เดนิ ทางอยา่ งน้อย 1 สปั ดาห์ เพอ่ื ดาเนินการขออนมุ ตั ิเดนิ ทางและคา่ ใชจ้ ่าย ส่วนการสนบั สนุนคา่ ใช้จา่ ยในการตีพมิ พบ์ ทความ ให้ นกั ศกึ ษาจดั ทาเอกสารขอรบั เงนิ สนับสนนุ หลังจากทไ่ี ดต้ พี มิ พ์บทความเรยี บร้อยแล้ว
28 กำรสง่ ผลผลงำนเผยแพรเ่ พ่ือสำเรจ็ กำรศกึ ษำ เมอ่ื นกั ศึกษามีผลการเผยแพรผ่ ลงานครบตามทก่ี าหนด ให้ดาเนินการดงั นี้ (1) นกั ศึกษากรอกขอ้ มลู การเผยแพร่ผลงานวทิ ยานพิ นธ์ (บว.4/1) ส่งมายงั หลักสตู ร พร้อมแนบเอกสาร ก. กรณที ี่เปน็ การเผยแพรผ่ ลงานในทปี่ ระชุมวชิ าการ เตรียมเอกสารแนบดังนี้ 1) หนา้ ปกรายงานการประชมุ วชิ าการ (Proceedings) ฉบบั full paper หรอื หนา้ ปกแผ่น CD 2) สาเนาบทความวชิ าการฉบับเต็ม (full paper) ของนักศึกษาทตี่ พี มิ พใ์ นรายงานการประชุมวิชาการน้ัน ข. กรณีที่เป็นการเผยแพร่ผลงานในวารสารวิชาการ เอกสารท่ีต้องแนบ คือ สาเนาบทความที่ตีพิมพ์ใน วารสารวิชาการน้ันๆ กำรขอสำเร็จกำรศกึ ษำ เมื่อนักศึกษาได้ดาเนินการต่าง ๆ ครบถ้วนตามเกณฑ์การสาเร็จการศึกษาท่ีได้กาหนดไว้แล้ว ให้ดาเนินการขอสาเร็จ การศึกษาผ่านทางเว็บไซต์ https://reg.psu.ac.th/isr/ และขอเอกสาระสาคัญทางการศึกษา (Transcript) ผ่านทางเว็บไซต์ https://reg.psu.ac.th/regcertificate_digital/
29 กำรรำยงำนควำมกำ้ วหนำ้ ขณะกำลังศกึ ษำ หลักสตู รฯ ไดก้ าหนดใหน้ กั ศกึ ษาทกุ คน ตอ้ งรายงานความก้าวหน้าของการศกึ ษาระหว่างท่กี าลงั ศกึ ษา และ/หรือดาเนนิ การ วิจัยเพ่อื วิทยานพิ นธ์ ดังน้ี (1) นักศึกษาจะตอ้ งรายงานความก้าวหน้าของการศกึ ษาและการทาวิทยานิพนธ์ (ตามแบบฟอร์มของหลกั สูตรฯ) โดยได้รบั ความเหน็ ชอบจากอาจารยท์ ่ปี รกึ ษาวิทยานิพนธ์หลัก โดยส่งเอกสารรายงานความก้าวหน้ามายังหลักสูตรฯ ภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง (2) นักศกึ ษาจะตอ้ งรายงานความก้าวหน้าของการศกึ ษาและการทาวิทยานิพนธ์ โดยนาเสนอตอ่ ที่ประชมุ ทห่ี ลักสูตรฯ จะ ได้กาหนดวัน เวลา และจัดให้มีขึ้นปีละ 1 คร้ัง (นอกเหนือจากการรายงานตามเอกสารในข้อ (1)) โดยหลักสูตรฯ จะแจ้ง กาหนดการในการนาเสนอให้นักศึกษาทราบลว่ งหน้าประมาณ 1 เดือน กำรประเมินทกั ษะภำษำต่ำงประเทศ (1) นักศึกษาทุกคนจะต้องสอบผ่านความรู้ภาษาอังกฤษตามเกณฑ์ท่ีบัณฑิตวิทยาลัยกาหนด ซ่ึงสามารถนาผลการสอบ จากแหล่งต่าง ๆ ที่สอบผา่ นมาแล้วไมเ่ กนิ 2 ปี ย่นื ไปยงั บัณฑติ วิทยาลยั ดงั ตอ่ ไปนี้ PSU-TEP หรอื CU-TEP คะแนนเฉล่ียทงั้ 3 ทกั ษะไมต่ า่ กว่า 60% TOEFL (Paper Based) ไมต่ า่ กวา่ 500 คะแนน TOEFL (revised Paper-delivered Test) ไม่ตา่ กว่า 46 คะแนน TOEFL (Institutional Testing Program) ไม่ต่ากวา่ 520 คะแนน TOEFL (Computer Based) ไม่ต่ากว่า 173 คะแนน
30 TOEFL (Internet Based) ไม่ตา่ กวา่ 61 คะแนน IELTS ไม่ต่ากวา่ 5.0 คะแนน (2) กรณีมีผลคะแนนนอกเหนือจากท่ีกาหนด หรือเป็นผู้ที่สาเร็จการศึกษาจากสถาบนั การศึกษาทมี่ ีการเรียนการสอนเป็น ภาษาองั กฤษในหลักสตู ร และมหี ลักฐานประกอบว่ามคี วามรูภ้ าษาอังกฤษเพียงพอ ใหอ้ ยู่ในดลุ พนิ จิ ของบณั ฑติ วิทยาลัย (3) นักศึกษาท่ีมีผลสอบความรู้ภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ท่ีกาหนดแล้ว ให้ย่ืนคาร้องท่ัวไปเพ่ือส่งผลสอบที่บัณฑิตวิทยาลัย ด้วยตนเอง ดูรำยละเอียดได้จำก https://grad.psu.ac.th/th/current-student/english-language-proficiency/regulation- other.html
1. เว็บไซต์สาขาวชิ า/หลักสตู ร 31 2. Download แบบฟอรม์ 3. บัณฑติ วทิ ยาลยั เวบ็ ไซต์ทเี่ ก่ยี วข้อง 4. คมู่ อื การเขียนวิทยานิพนธ์ https://sites.google.com/psu.ac.th/nr-aim/ 5. ฝ่ายทะเบียนและประมวลผล https://kyl.psu.th/B2rEl-0ar 6. ระบบสารสนเทศนักศกึ ษา https://grad.psu.ac.th/th/ 7. ฐานข้อมูลวารสารท่ยี อมรบั https://grad.psu.ac.th/th/current-student/thesis/thesis-manual- guidelines.html https://reg.psu.ac.th/reg/ https://sis-hatyai11.psu.ac.th/Default.aspx https://grad.psu.ac.th/th/current-student/thesis/journal- information.html
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: