Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ไก่ชน

ไก่ชน

Published by Tadthep Thepnakit, 2019-06-05 04:44:56

Description: ไก่ชน

Search

Read the Text Version

การเล้ยี งไก่ ภาคเหนือ ศนู ยก์ ารเรียนรู้ชุมชนสวนแสงประทปี ต้ังอย่เู ลขท่ี 197 หมทู่ ่ี 10 ตาบลกลางเวียง อาเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ไกไ่ ข่ ประโยชน์ การฝกึ อบรมเชงิ ปฏิบตั กิ าร “ การเล้ียงไก่ไข่ระบบเกษตรธรรมชาติ ” จึงเป็นแนวทาง ท่ีจะช่วยสานต่อให้ระบบการเลี้ยงไก่ในชุมชนย่ังยืน เป็นการจัดการความรู้ทางวิชาการและภูมิ ปัญญาท้องถิ่น ภายใต้กรอบแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดาริ ซ่ึงคาดหวังจะสร้าง ความเข้มแข็งของชุมชน การพัฒนาท่ีย่ังยืน การพ่ึงพาตนเองในด้านแหล่งอาหารโปรตีนคุณภาพดี การสร้างอาชีพ และรายได้เสริมให้กับครัวเรือนและชุมชน ส่ิงสาคัญที่จาเป็นก็คือการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี ให้เหมาะสมกับสภาพการเล้ียงและเศรษฐกิจของในชุมชน การใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น ไม้ไผ่ แฝก หญ้าคา มาทาโรงเรือนเป็นต้น การผลิตอาหารไก่โดยวัตถุดิบอาหารสัตว์จากพืช เศรษฐกิจท่ีปลูกในท้องถ่ิน เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง การใช้สมุนไพรในการเล้ียงสัตว์ เช่น ไพล ฟ้า ทะลายโจร และขมิ้นชัน วธิ ีทาโรงเรือนไก่ไข่ การเลือกสถานที่สร้างโรงเรือน ให้อยู่ห่างจากท่ีอยู่อาศัย และอยู่ปลายทิศทางลม น้า ไม่ท่วมขัง วัสดุที่ใช้ควรเป็นวัสดุท่ีหาง่ายในท้องถิ่น ราคาไม่แพง มีความแข็งแรงทนทาน แบบ โรงเรือนให้เหมาะสมกับสภาพภมู อิ ากาศ แบบทเ่ี หมาะสม คอื แบบหน้าจว่ั

การเตรยี มรับไกไ่ ขม่ าเล้ียง ตอ้ งเตรยี มสงิ่ ตา่ งๆ ดงั นี้ 1. ต้องทาความสะอาดเล้าไก่และอปุ กรณ์ในการเลีย้ งใหส้ ะอาด กอ่ นนาไก่เข้ามาเล้ียง อยา่ งน้อย 7 วัน 2. ไก่ไข่ที่นามาเล้ียงควรเป็นไก่ ท่ีได้รับการดูแลและบันทึกรายงานอย่างดี มีน้าหนัก ตัวท่ไี ด้ตามมาตรฐาน และไดร้ บั การทาวัคซนี อยา่ งครบถ้วน 3. เมอ่ื รบั ไก่เข้ามาในเลา้ แล้วควรใหไ้ ก่อยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เริ่มให้น้า หลังจากน้ัน ไก่ไข่อยไู่ ดป้ ระมาณ 3 ชว่ั โมง ใหอ้ าหารตามลาดบั การเลี้ยงไกไ่ ขร่ ะยะให้ไข่ การเลี้ยงไก่ไข่ในระยะให้ไข่ เป็นข้ันตอนที่สาคัญ เพราะเป็นระยะที่บ่งชี้ว่า ไก่จะให้ ผลตอบแทนมากน้อยเพียงใด ระยะให้ไข่ของแม่ไก่จะเร่ิมให้ไข่เม่ืออายุ 21 สัปดาห์มีหลักสาคัญที่ ต้องเอาใจใส่ดงั นี้ การให้แสงสวา่ ง ต้องคานึงถึงแสงธรรมชาติด้วยระยะเวลาของแสงธรรมชาติ จะเปล่ียนไปตามฤดูกาล และแตกต่างกันไปในแต่ละภาค ให้ยึดหลักว่าแม่ไก่ไข่ต้องการแสงสว่างนานติดต่อกันวันละ 14-16 ชวั่ โมง ความเขม้ ของแสง 5 ลัษซ์ หรอื หลอดไฟ 1 วัตต์ ตอ่ ตารางเมตร ความหนาแนน่ ของไก่  บนพ้นื ดนิ ปแู กลบควรเล้ยี งไกไ่ ข่จานวน 5 ตัว ตอ่ 1 ตารางเมตร  ควรพจิ ารณาเพิ่มลดความหนาแนน่ ตามสภาพภูมอิ ากาศและฤดกู าล การใหน้ า้  ให้ก่อนให้อาหาร และหลังจากกินอาหารไก่จะไดก้ นิ น้าทนั ที  เตมิ นา้ สะอาดทกุ วนั และผสมน้าหมกั จลุ ินทรีย์ชีวภาพ  ทาความสะอาดกระป๋องนา้ วันละคร้งั  ตรวจสอบระดับน้าในกระป๋องน้าเสมอ  ปรบั ระดับกระปอ๋ งน้าให้สงู เท่าระดับหลงั ไก่  ตรวจสอบรอบๆ ถงั นา้ บอ่ ยๆ ไม่มีการหกหลน่ รัว่ ไหลของน้า

การใหอ้ าหารไก่ไข่ ไก่ตอ้ งการอาหารเพอ่ื ประโยชน์ตา่ งๆ เชน่  ใช้ในชีวิตประจาวนั เชน่ หายใจ เดิน วิง่ และการกนิ อาหาร  ใช้ในการสรา้ งกระดูก เนือ้ หนัง ขน เล็บ และสว่ นต่างๆ ของร่างกาย  ใช้ในการสร้างไข่ และผลิตลกู ไก่  ดังนั้น ไกจ่ ะเจริญเติบโตไดด้ ี ต้องได้กนิ อาหารเพยี งพอ และได้กนิ อาหารดี โดย สมา่ เสมอทกุ วนั อาหารเสรมิ สาหรบั ไก่ไข่ 1. ใหห้ ญ้าสด ใบกระถิน หรือผักสดใหไ้ ก่กินทุกวนั 2. เพาะขา้ วเปลอื กหรือถั่วเขยี วใหไ้ กก่ ิน โดยเพาะถัว่ เขยี วในกระปอ๋ งนม และรดนา้ ทุกวัน พอครบ 3 วนั นาให้ไก่กิน หลกั การปอ้ งกนั โรค และการดแู ลสขุ ภาพไก่ 1. ทาความสะอาดเครอื่ งมือ / อุปกรณท์ ่ใี ชใ้ นฟาร์มอยเู่ สมอ 2. ใชเ้ สือ้ คลุมและรองเทา้ บตู๊ ขณะปฏบิ ตั งิ านในฟารม์ 3. ทาวัคซนี ปอ้ งกนั โรคไกต่ ามโปรแกรม 4. ให้อาหารไก่อย่างเพยี งพอ 5. หมัน่ ทาความสะอาดอุปกรณ์ให้นา้ 6. นาไกต่ าย หรือ ไขแ่ ตกออกจากเลา้ ทันทีท่พี บ 7. กลบั แกลบหรือวัสดุรองพน้ื บ่อยๆ 8. เมอ่ื ยา้ ยฝูงไกต่ ้องพกั เล้า และทาความสะอาดอยา่ งนอ้ ย 2 สัปดาห์

ไกพ่ ื้นเมอื ง ความต้องการสารอาหารของไกพ่ ืน้ เมอื ง ไกพ่ ื้นเมืองตอ้ งการเพือ่ นาไปใช้ในการดารงชพี การเจริญเติบโต และการใหผ้ ลผลิตน้ัน แบ่งออกเปน็ หมวดหมตู่ า่ งๆ 5 หมู่ 1. โปรตีน เป็นกรดอะมิโนชนิดต่างๆ ไก่ต้องการนาไปใช้ในการสร้างเป็นโปรตีนตาม ส่วนตา่ งๆ ของรา่ งกาย เช่น เป็นกล้ามเนื้อ อวัยวะภายในต่างๆ เมด็ เลือดแดงและผลผลติ ไข่ 2. คาร์โบไฮเดรท เป็นสารอาหารจาพวก แป้งและน้าตาล ให้พลังงานแก่ร่างกาย เพ่ือนาไปใชใ้ นการทางานของอวัยวะต่างๆ เพอื่ การดารงชีพการเจรญิ เตบิ โต 3. ไขมัน เป็นแหล่งให้พลังงานแก่ร่างกาย เช่นเดียวกับคาร์โบไฮเดรทแต่มากกว่า 2 เทา่ ยังใหก้ รดไขมันบางชนิดทจ่ี าเป็นร่างกายด้วย 4. ไวตามิน แร่ธาตุ จาเป็นย่ิงแต่ร่างกายต้องการในปริมาณที่น้อยมาก หากขาดจะ ทาใหไ้ กโ่ ตชา้ และเปน็ โรคขาดไวตามิน แรธ่ าตุชนดิ น้นั ๆ 5. น้า จาเป็นและมีความสาคญั ทสี่ ุด เพราะถ้าไก่ขาดจะทาให้ไม่อยากกินอาหารและ ถงึ ตายไดใ้ นทส่ี ดุ วตั ถดุ บิ อาหารสัตว์สาหรับเล้ยี งไก่พื้นเมือง 1. วตั ถุดิบอาหารประเภทโปรตีน โดยทว่ั ไปแล้วมักจะเป็นพวกท่ีให้โปรตีนค่อนข้าง สงู กวา่ ความตอ้ งการสตั ว์ ไดแ้ ก่ - ปลาป่น มีโปรตนี 50 – 60 % - กากถว่ั เหลือง มีโปรตนี 44 % - ใบกระถิน มโี ปรตีน 12 – 23 % - ใบมนั สาปะหลงั มีโปรตีน 25 – 27 % - กากเมลด็ ยางพารา มโี ปรตีน 16 % - กากปาล์มน้ามนั มโี ปรตีน 16 – 18 % นอกจากนั้นก็ยังมีวัตถุดิบอ่ืนๆ อีกหลายชนิดที่สามารถนามาใช้เป็นแหล่งให้ สารอาหารโปรตีนได้ ได้แก่ กากมะพร้าว กากเมล็ดฝ้าย กากเมล็ดนุ่น กากถ่ัวลิสง เป็นต้น และยังมี อาหารธรรมชาติ ได้แก่ พวกหนอน แมลง ไส้เดอื น เปน็ ตน้

หลกั การปอ้ งกนั โรค และการดแู ลสขุ ภาพไก่ 1. ทาความสะอาดเครื่องมอื / อปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นฟารม์ อยเู่ สมอ 2. ใช้เสอ้ื คลุมและรองเทา้ บตู๊ ขณะปฏิบัติงานในฟารม์ 3. ทาวคั ซีนป้องกนั โรคไกต่ ามโปรแกรม 4. ให้อาหารไกอ่ ยา่ งเพยี งพอ 5. หมน่ั ทาความสะอาดอปุ กรณ์ให้นา้ 6. นาไกต่ าย หรอื ไขแ่ ตกออกจากเลา้ ทันทีท่ีพบ 7. กลบั แกลบหรอื วัสดรุ องพืน้ บ่อยๆ 8. เม่อื ยา้ ยฝูงไกต่ ้องพักเลา้ และทาความสะอาดอยา่ งน้อย 2 สัปดาห์ 2. วตั ถุดบิ อาหารประเภทแปง้ ให้สารอาหารพวกแป้งและน้าตาล เป็นส่วนใหญ่ ใช้เป็นแหล่งในการให้พลังงานแก่ร่างกาย วัตถุดิบ ประเภทนี้ ไดแ้ ก่ ปลายขา้ ว ให้โปรตีน 8 % ราข้าว ให้โปรตีน 6 – 7 % ราละเอียด ให้โปรตีน 12 % ข้าวเปลือก ใหโ้ ปรตนี 6 % ข้าวโพด ให้โปรตนี 8 % ข้าวฟ่าง ใหโ้ ปรตีน 11 % มันสาปะหลัง ให้โปรตีน 2 % ต้นสาคู ใหโ้ ปรตีน 1 – 2 % 3.วัตถดุ ิบอาหารประเภทพลงั งานสูง ใช้เป็นแหล่งให้พลังงานแต่เพียงอย่างเดียว โดยเสริมลงในสูตรอาหารเมื่อสูตรนั้นขาด พลังงานมาก ได้แก่ น้ามนั พชื ไขมันสตั ว์ น้าตาลทราย และกากน้าตาล 4. วัตถดุ บิ อาหารประเภทไวตามิน และแร่ธาตุ ใช้เป็นแหล่งให้ไวตามินและแร่ธาตุ ซึ่งจะมีส่วนผสมของสารอาหารเหล่าน้ีพอกับ ความต้องการของสัตว์ เช่น พรีมิกซ์ (วิตามินรวม) ไดแคลเซียมฟอสเฟต (แร่ธาตุรวม) กระดูกป่น เปลอื กหอยปน่ หรือไวตามนิ แรธ่ าตบุ างส่วนไดจ้ ากแสงแดด หญ้า และผักสด

5. วตั ถุดิบอาหารประเภทกรดอะมิโนสงั เคราะห์ เป็นสารเคมีท่ีมีคุณค่าทางอาหารเท่ากับกรดอะมิโนชนิดนั้นๆ มักจะเสริมลงในสูตร อาหารในกรณีท่ีขาดเฉพาะกรดอะมิโน เพียง 1 หรือ 2 ชนิด เท่านั้น ได้แก่ ไลซีน เมทไธโอนีน ความต้องการสารอาหารต่างๆ ของไกพ่ ื้นเมือง แบ่งออกเป็น 3 ระยะ 1. ลูกไก่เลก็ ระยะแรกเกดิ จนถงึ อายุ 6 สัปดาห์ ควรใหอ้ าหารท่ีมโี ปรตีน 21 % 2. ไกร่ ่นุ ต้งั แตอ่ ายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป จนถงึ ขายส่งตลาด มีโปรตีน 16 % 3. ไกพ่ อ่ แม่พันธุ์ อายุ 23 สัปดาห์ ควรใหอ้ าหารที่มโี ปรตนี ประมาณ 15 - 16 % สูตรอาหารไกพ่ ื้นเมืองระยะต่างๆ  สตู ร 1 อายุ 6 สัปดาห์ ถึงจาหนา่ ย ลาดับ วัตถดุ ิบอาหาร จานวน (กก.) 1 ปลายขา้ วหรือขา้ วโพด 68 2 ราละเอยี ด 15 3 ปลาป่น 5 4 กากถ่ัวเหลือง 10 5 เปลอื กหอยปน่ 1 6 พรมี กิ ซ์ 1 รวม 100  สตู ร 2 อาหารสาเรจ็ รปู ไก่พื้นเมอื ง ลาดับ หวั อาหาร/วตั ถดุ บิ สูตร 1 สูตร 2 (กก.) (กก.) (กก.) 10 10 1 หวั อาหารไกพ่ น้ื เมือง 20 20 10 20 2 ปลายข้าวหรือข้าวโพด 40 50 3 ราละเอยี ด รวม

เล้ยี งสัตวใ์ หไ้ ด้ผลดี จะต้องมี 1. สตั วพ์ นั ธดุ์ ี 2. อาหารดี 3. โรงเรอื นดี 4. การจดั การ (การเลย้ี งด)ู ดี 5. การควบคมุ ป้องกันโรคดี 6. ตลาด

ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ศนู ยเ์ รยี นรปู้ ราชญ์เกษตรอินทรยี ์ตาบลในเมอื ง ตั้งอยูเ่ ลขที่ 53 หมูท่ ี่ 1 ตาบลในเมอื ง อาเภอบ้านไผ่ จังหวดั ขอนแก่น การเล้ยี งไก่พ้ืนเมอื ง พันธ์ุไก่พื้นเมือง ไกพ่ ืน้ เมอื งในชนบทหมู่บ้านต่างๆ มหี ลากหลายพนั ธุ์ เช่น ไกแ่ จ้ ไก่อู ไก่ตะเภา ไก่เบ ตง และไก่ชน โดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้ว ไก่พื้นเมืองในหมู่บ้านจะเป็นสายพันธ์ุไก่ชน สังเกตได้จากแม่ ไกจ่ ะมีขนสดี า หน้าดาและแข้งดา หงอนหิน แต่จะมีพันธุ์บางส่วนที่มีสีเทา สีทอง แต่หงอนก็ยังเป็น หงอนหนิ ซ่งึ ก็เป็นลักษณะหงอนของไกช่ นอยู่ดี เหตุที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงไก่พ้ืนเมืองสายพันธุ์ไก่ชน เพราะว่าไก่ชนจะมีรูปร่างใหญ่และยาว เจริญเติบโตได้ดีและแม่พันธุ์ก็ไข่ดก เนื่องมาจากนักผสม พันธ์ุไก่ชนได้คัดเลือกลักษณะดีเด่นไว้อย่างต่อเนื่องนับร้อยปีมาแล้ว เกษตรกรเพื่อนบ้านจะขอซื้อ ขอยืมหรือขอไปขยายพันธุ์แบบเป็นคนรู้จักมันคุ้นกันและกัน ก็ทาให้สายพันธ์ุศาสตร์พบว่าไก่ พนื้ เมืองในหมู่บา้ นทางภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทเี่ ลย้ี งปล่อยตามธรรมชาติการเจริญเติบโตในระยะ อายุ 4 เดือนแรก เฉล่ียใกล้เคียงกันมาก คือ เติบโตวันละประมาณ 9 - 10 กรัมเท่าน้ันแสดงให้เห็น วา่ ไก้พื้นเมอื งเหล่านี้เป็นสายพันธุ์ไก่ชนจาก17 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่การปรับปรุง พันธุ์ไมไ่ ดเ้ น้นในดา้ นการชนเกง่ แต่เนน้ ในด้ายการเจรญิ เตบิ โต และไขด่ กเพอื่ ใหส้ ามารถขยายพนั ธ์ไุ ด้ รวดเรว็ สาหรับไก่ชนไทยแท้สีขนแยกได้หลากหลายถึง 17 สีขน เช่น เหลืองหางขาว ประดู่หางดา เหลืองเลา ประดู่เลา แสมดา เปน็ ตน้ สายพันธเ์ุ หลอื งหางขาว สายพันธ์เุ หลืองหางขาว เปน็ สายพนั ธไุ์ ก่ชนลักษณะปากสีขาวอมเหลือง หรือสีงาช้าง ปากส้ัน อวบใหญ่คล้ายปากนกแก้ว และมีร่องน้าชัดเจน กลางปากนูนเป็นสันข้างๆ เป็นร่องน้า ตาเป็นเหยี่ยว หัวตาแหลม ตาดาคว่า ตาดาเล็กและรี รอบๆ ตาดาสีขาวอมเหลือง หงอนหิน ด้านบนของหงอนบางเรียบปลายหงอนยาวเลยตา โคนหงอนโค้งติดกับศีรษะ ตุ้มหูสีแดงเดียวกับ หงอนเล็กไม่หย่อนยานรัดรับกับใบหน้า เหนียงเล็กรัดติดคาง รูปใบหน้าแหลมยาว มีเน้ือแน่น ผิวหน้าเรียบมัน กะโหลกศีรษะหนายาว ลักษณะลาตัวอกแน่นกลมมีเนื้อเต็ม กระดูกอกยาวตรง หลังเป็นแผ่นกว้าง มีกล้ามเนื้อมาก หลังเรียบตรงไม่โค้งนูน ไหล่กว้างยกต้ังตรง คอใหญ่ กระดูก คอถี่ ป้ันขาใหญ่ กลมมเี นอื้ เตม็ เนือ้ แน่น แขง็ แรง ผิวหนังขาวอมเหลือง ขาวอมแดง สีขนลาตัวดา จะมีแซมขาวบ้างท่ีหัว หัวปีก ข้อขา สร้อยคอเหลืองชัดเจน ยาวประบ่า สร้อยหลังเป็นสีเดียวกับ สรอ้ ยคอเรียงกันเต็มแผน่ หลัง เรมิ่ จากโคนคอถึงโดนหาง เส้นขนละเอียดยาวระย้า สรอ้ ยปีกสี

เดียวกับสร้อยคอ เห็นเด่นชัดเจนย่ิงขาวและยาวมากๆ ย่ิงดี ขนหางควรพุ่งตรงและยาว ปลายหาง โค้งตกลงเล็กน้อย ขาแข้งและเดือยขาวอมเหลืองสีเดียวกับสีปาก เกล็ดแข็งแน่นหนาเรียบ เดือย ใหญ่แข็งแรง เล็บสีขาวอมเหลืองทุกเล็บและไม่มีสีดาปน เพศเมียลาตัวสีดา หงอนและใบหน้าสี เดยี วกบั ไกต่ วั ผู้ สายพันธ์ุประดูห่ างดา ประดู่หางดาเป็นสายพันธุ์ไก่ชนท่ีมีปากสีดา ปากอูมใหญ่ โดยปากใหญ่คล้าย ปากนกแก้ว ปากบนจะมีร่องน้าทั้งสองข้าง ระหว่างร่องน้าท้ังสองข้างจะเป็นสันราง ตาสีประดู่ หรือแดงอมมว่ งหรอื ตาออกสดี า หรือตาสแี ดงหงอนหินไม่มีจักเลย สร้อยคอมีประดู่ยาวประบ่า ปีก ใหญ่ยาวสร้อยปีกสีเดียวกับสร้อยคอ สร้อยหลังสีประดู่ยาวระย้าประก้น ขนลาตัว ขนปีกและหาง พัดสีดา กะลวยหางดา โคนขาใหญ่ หน้าอกกว้างและยาวเน้ือเต็มแน่น ขาแข้ง เล็บและเดือยสีดา เพศเมยี สเี ดียวกับเพศผูแ้ ต่ไม่มีสร้อย สายพนั ธ์เุ ขยี วกา เขยี วกาหรือเขยี วหางดา ลักษณะทั่วๆไป คล้ายๆกบั ประดู่หางดา ปากดา หงอนหิน หน้าหงอนบาง กลางหงอนสูง ท้ายหงอนจะตกกดกระหมอ่ ม สรอ้ ยคอหลงั และสร้อยหางสเี ขยี ว ขนปีและลาตัวเขยี ว หางดาแข้งดา และเล็บดา

โรงเรอื น อุปกรณก์ ารเล้ยี งไก่พ้ืนเมอื ง ลักษณะของโรงเรือนไก่พ้ืนเมือง โรงเรือนการเล้ียงไก่พื้นเมืองนั้น ไม่มีรูปแบบที่ ตายตัวแน่นอน โรงเรือนอาจจะทาเป็นเพิงหมาแหงนกลาย แบบหน้าจั่วและอื่น ๆ การที่จะเลือก แบบใดนัน้ ข้นึ อยกู่ บั รปู แบบและวตั ถุประสงค์ของการเลย้ี ง วัสดุอุปกรณ์ ตน้ ทุน โรงเรอื น สภาพของโรงเรืองไก่พนื้ เมอื งท่ีดคี วรมลี กั ษณะ ดังนี้ 1) สามารถปอ้ งกันแดดกนั ฝนไดด้ ี 2) ภายในโรงเรือนควรโปร่ง ไม่อับทึบ ไม่ช้ืน และระบายอากาศดีแต่ไม่ถึงกับมีลม โกรก 3) ควรสร้างโรงเรือนแบบประหยัด ใช้ส่ิงก่อสร้างท่ีหาได้ง่ายในท้องถิ่น รักษาความ สะอาดง่าย ใชน้ ้ายาฆ่าเช้อื โรคได้ท่ัวถึง 4) ปอ้ งกันศตั รูต่าง ๆ ไดด้ ี เช่น สนุ ขั แมว นก และหนู 5) ห่างจากท่ีพักพอสมควร สะดวกต่อการเข้าปฏิบัติงานดูแลไก่พื้นเมือง มีท่ีให้ อาหารและน้า วัสดอุ ปุ กรณ์ในการเล้ียงไก่พน้ื เมือง หลงั จากท่ผี ู้เลีย้ งไก่พื้นเมอื งสร้างโรงเรือนแลว้ ส่วนประกอบ อย่างอนื่ ทข่ี าดไม่ได้ คอื อุปกรณ์ในการเล้ยี งไกพ่ ื้นเมอื ง อุปกรณท์ ี่จาเป็นมดี งั นี้

1) ภาชนะใส่อาหาร ผู้ที่เล้ียงไก่พื้นเมืองส่วนใหญ่จะให้อาหารไก่พื้นเมืองโดยวิธีการ โปรยหว่านลงบนลานหรอื พน้ื ดิน แลว้ ปลอ่ ยให้ไกพ่ น้ื เมอื งจิกกนิ เอง ทาใหไ้ กพ่ ้ืนเมอื งตัวเล็ก ๆ ได้รับ อาหารไม่ค่อยเพียงพอเพราะไก่พื้นเมืองที่ใหญ่กว่าจะแย่งจิกกินเสียจนหมดก่อน ดังน้ัน ผู้ท่ีเล้ียงไก่ พื้นเมืองควรแยกไก่พ้ืนเมืองตัวใหญ่และตัวเล็กออกจากกัน จัดภาชนะใส่อาหารให้ ท้ังนี้เพื่อไม่ให้ อาหารหกเรยี่ ราดตัวไก่พนื้ เมือง ไกพ่ นื้ เมืองเองก็ปลอดภัยจากเช้อื โรคต่าง ๆ ที่อยู่บนพ้ืนดิน ภาชนะ ใส่อาหารไก่พื้นเมืองในชนบทควรเลือกใช้อุปกรณ์ราคาถูกจากวัสดุในท้องถิ่นท่ีทาง่ายทนทานรักษา ความสะอาดได้ง่าย เช่น กระบอกไม้ไผ่ผ่าซีก หรือยางรถยนต์ผ่าซีกก็ได้ แต่ถ้ามีเงินทุนมากหน่อยก็ อาจซื้อท่ีให้อาหารไก่แบบแขวนถังกลมที่นิยมกัน สาหรับภาชนะใส่อาหารเล้ียงลูกไก่พ้ืนเมืองใน ระยะ แรก ๆ ควรใช้ถาดหรือภาชนะต้ืน ๆ และให้เพียงพอกับจานวนไก่พื้นเมืองที่เลี้ยง เพราะตาม ธรรมชาตแิ ล้ว ไกพ่ ้ืนเมอื งจะกินอาหารพร้อม ๆ กนั 2) ภาชนะใส่น้า ควรจัดหามาให้ไก่พนื้ เมอื งได้กินน้าตลอดเวลาภาชนะใส่น้านี้อาจใช้ ไมไ้ ผ่ผา่ ซีก ถ้วย จาน อ่างดิน หรอื จะซอื้ ภาชนะใส่น้าแบบขวดสาเร็จรปู ก็ได้ 3) รังไข่ รังไข่เป็นสิ่งจาเป็นและต้องมีให้ครบตามจานวนแม่ไก่พ้ืนเมือง มิฉะน้ันจะ เกดิ ปัญหาแม่ไกพ่ นื้ เมอื งแยง่ รังไข่กัน ขนาดของรังไขค่ วรกว้าง 1ฟุต ยาว 1 ฟุต สูง 8 นิว้ แล้วใช้ฟาง หญ้าแห้งรองเพ่ือป้องกันไข่แตก รังไข่ที่ใช้กันอยู่ท่ัว ๆ ไป อาจจะใช้เข่ง ปุ้งก๋ี หรือตะกร้าเก่า ๆ ไป วางไว้ให้ไก่พื้นเมืองไข่ก็ได้ ที่สาคัญท่ีตั้งของรังไข่ควรอยู่ในท่ีมิดชิด ไม่ถูกแดดและฝน มิฉะน้ันไข่ไก่ พน้ื เมืองจะเน่าเสยี ฟักไมอ่ อกเปน็ ตัวก็ได้ เมอ่ื มีการฟักไข่ไปครอกหน่งึ ควรเปล่ียนวัสดรุ องไขเ่ สยี ทีหน่ึง 4) คอนนอน ตามธรรมชาติไก่พ้ืนเมืองจะไม่นอนบนพ้ืนดิน แต่ชอบนอนบนต้นไม้ หรือคอนไม้ ดงั น้ัน การสร้างโรงเรอื นเล้ยี งไก่พืน้ เมืองควรมีคอนนอนใหไ้ กพ่ ้ืนเมืองไว้มมุ ใดมุมหน่ึงได้ พักผ่อนในเวลากลางคืน ข้อสาคัญไม่ควรสร้างให้แคบจนเกินไป เพราะจะทาให้ไก่พื้นเมืองนอน แออดั หรือแย่งทน่ี อนกันได้ 5) สุ่มหรือกรง ในกรณีที่ต้องการอนุบาลลูกไก่พื้นเมืองในระยะแรก เพ่ือให้ลูกไก่ พ้ืนเมืองมีความแข็งแรงพอที่จะว่ิงหรือเดินตามแม่ไก่พื้นเมืองน้ัน ควรเตรียมสุ่มไว้ 1 - 2 ใบ เพื่อใช้ ขังแม่ไก่พนื้ เมอื งและลูกไก่พนื้ เมอื งใน 1 - 2 สัปดาห์แรก หากจะใช้กรงควรทาเป็นกรงขนาดเล็กโดย ยกให้สูงจากพ้ืนประมาณ 20 - 30 เซนติเมตร โรคและการป้องกันโรคไกพ่ ้นื เมอื ง หลักวธิ ีการสุขาภิบาลท่คี วรปฏิบัติไก่พื้นเมืองในการเล้ียงไก่พ้ืนเมือง ผู้ที่เล้ียงควรยึดหลัก \"กัน ไว้ดีกว่าแก้\" เพราะปญั หาโรคเป็นปัญหาสาคัญท่ีจะทาให้ผทู้ ีเ่ ล้ยี งไก่พน้ื เมอื งไมป่ ระสบผลสาเร็จ ในปี หน่งึ ๆ จะสูญเสียไก่พ้นื เมอื งจงึ ตอ้ งมกี ารสุขาภิบาลทีด่ ี และการให้วัคซนี ป้องกันโรค ดงั น้ี

การสขุ าภบิ าลการเลี้ยงไก่พน้ื เมืองทด่ี ี ควรปฏิบัติดังนี้ 1) ต้องดูแลทาความสะอาดโรงเรือนและภาชนะต่าง ๆ ด้วยน้ายาฆ่าเช้ือโรค พยายามอย่าปล่อยใหโ้ รงเรือนช้ืนแฉะ 2) สรา้ งโรงเรอื นให้อากาศถา่ ยเทได้สะดวก 3) กาจัดแหลง่ น้าสกปรก รอบ ๆ บรเิ วณโรงเรอื นและบริเวณใกล้เคียง 4) อาหารไกต่ ้องมคี ณุ ภาพ อาหารท่กี ินไม่หมดใหท้ ้งิ อย่าปลอ่ ยให้เนา่ บดู เสีย 5) มีน้าสะอาดใหไ้ กก่ ินตลอดเวลา 6) ถ้ามีไก่พื้นเมอื งปว่ ยไมม่ ากนักให้กาจัดเสยี และจัดการเผาหรือฝังให้เรียบร้อย จะ ชว่ ยป้องกันโรคได้เปน็ อยา่ งดี 7) อย่าท้ิงซากไก่พื้นเมืองท่ีเป็นโรคลงแหล่งน้าเป็นอันขาดเพราะเช้ือโรคจะแพร่ ระบาด 8) ไก่พื้นเมืองท่ีซื้อมาใหม่ ควรแยกเลี้ยงไว้ต่างหาก โดยกักขังไว้ประมาณ 15 วัน หากไม่เปน็ โรคจงึ นามาเลี้ยงในบรเิ วณเดยี วกนั ได้ 9) เม่ือมีโรคระบาดไก่พื้นเมืองเกิดขึ้น ผู้ที่เลี้ยงไก่พ้ืนเมืองไม่สามารถจะดูแลหรือ ปอ้ งกันรกั ษาเองได้ ควรปรึกษาผรู้ ู้ การใหว้ คั ซีนปอ้ งกันโรคระบาดไก่พื้นเมือง ควรปฏบิ ัตดิ ังน้ี การเลี้ยงไก่พื้นเมือง แม้ว่าจะมีการสุขาภิบาลท่ีดี แต่โดยปกติส่ิงแวดล้อมจะมีเช้ือโรคอยู่ ซึ่ง สามารถทาใหไ้ ก่พน้ื เมอื งเป็นโรคได้ทุกเวลา ดังน้ัน ผู้เล้ียงไก่พ้ืนเมืองจึงต้องสร้างความต้านทานโรค โดยการให้วัคซีนป้องกันโรค ซึ่งควรให้ตั้งแต่ไก่พ้ืนเมืองอายุยังน้อยและสม่าเสมอตามตารางที่ กาหนด การใหว้ ัคซนี จะให้ผลดที ่ีสุดต่อเมอ่ื - สุขภาพของไกพ่ ืน้ เมืองแขง็ แรง ไม่เปน็ โรค - วคั ซนี ทใ่ี ชม้ คี ุณภาพดี - เครื่องมอื ทีใ่ ช้กับวัคซีนสะอาด และผา่ นการตม้ ฆ่าเชอื้ โรคแล้ว - ใหว้ คั ซีนไกพ่ ้ืนเมอื งครบตามขนาดทกี่ าหนด - ให้วัคซีนอย่างสม่าเสมอและพยายามให้วัคซีนไก่พื้นเมืองท่ีมีสุขภาพดีทุกตัวในฝูง เดยี วกนั - การให้วคั ซีนแตล่ ะชนดิ ควรเว้นระยะห่างกนั ประมาณ 5 - 7 วัน

(1 .) 1-3 1-2 3 7 1-2 1-2 ( 1) 21 1-2 3 2-3 1-2 6 (2 .) 2-3 1 . .3 14 1-2 3 ( . .) 28 1-2 3 ( 1) ( 2) โรคระบาดไกพ่ ื้นเมืองท่สี าคัญและวิธปี ้องกนั รกั ษา โรคนิวคาสเซิล (โรคห่า) ถ้าไจลาบาก น้ามูกไหล ไก่พ้ืนเมืองเป็นโรคน้ีแล้ว ไก่ พน้ื เมืองจะมีอาการทางระบบหายใจและระบบประสาท คือ ไก่จะหายใจดัง ชักกระตุก คอบิดเบี้ยว ขาปีกเป็นอันพาต เดินเป็นวงกลม เบ่ืออาหาร และภายใน 2-4 วัน ไก่พื้นเมืองอาจจะตายหมด เป็นไดท้ ั้งไก่พนื้ เมืองตัวเลก็ และตัวใหญ่ การป้องกัน ใช้วัคซีน สเตรนเอฟ. หยอดจมูกหรือตาลูกไก่พื้นเมืองที่มีอยู่ 1 - 3 วัน ทาวัคซีน เสตรนเอฟ. ซ้าอีกเมือไก่พ้ืนเมืองมีอายุ 21 วัน สามารถป้องกันโรคได้ 3 เดือน เม่ือไก่ พน้ื เมอื งมอี ายุ 2 - 3 เดือน ใช้วัคซีนสเตรนเอ็ม.พี. แทงผนังปีก 1 - 2 ครั้ง สามารถป้องกันโรคได้ 6 เดือน โรคหลอดลมอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ ถ้าไก่พ้ืนเมืองเป็นโรคน้ีแล้ว ไก่พ้ืนเมืองจะมีอาการทาง ระบบหายใจ หายใจไมส่ ะดวก อา้ ปากหายใจ หายใจเสยี งดังน้ามูกไหล ตาแฉะ

การป้องกัน ทาวัคซีนหลอดลมอักเสบโดยหยอดจมูกหรือตา 1-2 หยดในลูกไก่ พ้ืนเมืองเม่ือมีอายุ 14 วัน และทาวัคซีนหลอดลมอักเสบซ้าอีกเมื่อลูกไก่พื้นเมืองมีอายุ 28 วัน สามารถป้องกันโรคได้ 3 เดือน ข้อควรระวัง ห้ามใช้วัคซีนป้องกันโรคหลอดลมอักเสบ พร้อมกับ วัคซนี ปอ้ งกันโรคนิวคาสเซิล ควรใชว้ คั ซีนชนดิ นหี้ า่ งกนั ไม่นอ้ ยกว่า 1 อาทติ ย์ โรคฝดี าษ ถ้าไกพ่ ื้นเมอื งเปน็ โรคนี้แลว้ ไก่พ้ืนเมืองจะมเี มด็ ขนึ้ ตามใบหนา้ หรือหงอน บางคร้ังพบเม็ด สเี หลอื งในบรเิ วณปากและลน้ิ ไก่พนื้ เมอื งจะเจ็บปากและลนิ้ กนิ อาหารไม่ได้ ถ้าเกิดมีโรคแทรกก็จะ ตายไปในทีส่ ดุ วิธีป้องกัน ทาวัคซีนฝีดาษไก่โดยการแทงผนังปีก 1-2 ครั้ง กับลูกไก่พื้นเมืองท่ีมีอายุ 7 วัน สามารถ ปอ้ งกนั โรคได้ 1 ปี โรคอหวิ าต์ จะพบมากในไก่พื้นเมอื งท่ีมีอายุเกิน 2 เดือนข้ึนไปถ้าเป็นข้ันรุนแรง ไก่พ้ืนเมืองจะตาย โดยไม่ทราบสาเหตุ ถ้าเป็นชนิดธรรมดาไก่พ้ืนเมืองจะแสดงอาการตัวร้อนจัด หายใจไม่สะดวก หงอนเหนยี งเปลีย่ นเปน็ สีดาคล้า การป้องกัน ทาวัคซีนอหิวาต์ไก่พ้ืนเมืองโดยฉีดเข้ากล้ามเน้ือ 1 ซี.ซี. กับไก่พ้ืนเมืองท่ีมีอายุ 2 เดือน การรักษา ช่วยได้โดยการใช้ยาปฏิชีวนะหรือซัลฟาควิ น็อกซาลีนละลายน้าให้กิน โรคพยาธไิ ก่พนื้ เมืองท่ีสาคญั และวธิ ปี ้องกนั รักษา พยาธิภายนอกไก่ มีหลายชนิด เช่น ไร เหา และหมัด ถ้าไก่พื้นเมืองเป็นโรคน้ีแล้ว พยาธิเหล่าน้จี ะคอยรบกวนไกพ่ น้ื เมอื งตลอดเวลาทาใหผ้ ลผลติ ลดลง โดยเฉพาะไกพ่ ้นื เมอื งตวั เมียจะ ทาใหไ้ ข่ลดลง ฉะนน้ั จงึ ควรกาจัดโรคนเี้ สยี โดยมวี ธิ ีการควบคุมและกาจดั ดังนี้ 1) ก่อนนาไก่พื้นเมืองเข้าขังในโรงเรือน ควรทาความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ราง อาหาร รางนา้ โรงเรอื นเลย้ี งไก่พื้นเมือง โดยการพ่นนา้ ยาฆา่ เชอ้ื โรค เช่น มาลาไธออนและโรทิโนน 2) ควรใช้วัสดุปูฟ้ืนโรงเรือน เช่น แกลบท่ีใหม่และไม่ชื้น เพราะบริเวณพ้ืนโรงเรือน มกั จะมีไรไก่พน้ื เมืองอาศยั อยมู่ าก 3) ในขณะทเี่ ล้ยี งไกพ่ ื้นเมอื ง เมื่อพบว่ามีไร เหา และหมัดเกิดข้ึนกับไก่พื้นเมือง ควร รบี กาจดั ทันทโี ดยใชย้ าตามคาแนะนาที่ฉลากยา 4) ใชส้ มนุ ไพร เช่น โล่ตน๊ิ หรือยาฉุนละลายนา้ นาไก่พืน้ เมืองมาจมุ่ ฆ่าพยาธิกไ็ ด้ พยาธิภายใน มีหลายชนิด เช่น พยาธิตัวแบน พยาธิตัวกลมและพยาธิเส้นด้าย ถ้าไก่พื้นเมืองเป็น โรคน้ีแล้ว พยาธเิ หล่านจ้ี ะรบกวนไกพ่ ้นื เมอื ง ทาใหแ้ คระแกรน็ เจรญิ เติบโตชา้ และไขล่ ด บางคร้ังไก่ พ้ืนเมืองอาจตายได้ สามารถกาจัดได้โดยใช้ยาเปปเปอราซีน ไดไฮโดรคลอไรด์ผสมกับอาหารให้ไก่ กินทุก 1 - 2 เดอื น

ศู ์ ู ล ฟ ฟู ษ ภ แ ท่ ู ู ล ท่ 108 ูท่ 6 ส ลล ภแ จ แ ล ประโยชน์ เกษตรกรมเี นื้อและไข่ไกเ่ ปน็ อาหารเพิม่ โปรตีน และเพิม่ พูนรายไดข้ องเกษตรกร คุณสมบตั ิท่ีดีของไก่พนื้ เมอื ง (1) ไก่พ้นื เมอื งปลอ่ ยเล้ียงได้ไม่เสียเวลาในการเลยี้ งดูมาก (2) ไก่พ้ืนเมืองสามารถฟักไข่และเล้ียงลูกเองได้ ในปีหน่ึงแม่ไก่จะไข่อย่างน้อยรุ่นๆ หนึ่งจะฟักออกประมาณ 8-10 ตัว ตลอดท้ังปีแม่ไก่จะให้ลูกประมาณ 30-40 ตัว ถ้าเลี้ยงไว้ 3-4 แม่ เกษตรกรจะมไี ก่กินตลอดปี (3) รสชาตขิ องไกพ่ นื้ เมืองมีรสอร่อย เนือ้ แนน่ มีมนั น้อย (4) สามารถเลี้ยงเป็นอาชีพได้ ขายได้ราคาดีทั้งตัวผู้และตัวเมีย ถ้าเกษตรกรสามารถ ขายไกร่ นุ่ ได้เดือนละ 5 ตวั ในปหี นงึ่ จะมรี ายไดถ้ งึ 2,400-3,000 บาท การเตรียมการในการเลี้ยงไกพ่ ้ืนเมอื ง ควรจดั เตรียม ดังน้ี (1) โรงเรือนหรือเล้าไก่ มีหลังคากันแดดกันฝนได้ สถานท่ีต้ังควรให้ห่างจากตัวบ้าน พอสมควร พน้ื เลา้ อาจปดู ว้ ยแกลบหรอื ขเี้ ลื่อย เล้ากวา้ ง 3 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 2 เมตร เล้ียงไก่ได้ ประมาณ 30-40 ตัว รางน้า สาหรับใส่น้าสะอาดให้ไก่กิน อาจใช้รางไม้ไผ่ผ่าครึ่งก็ได้ รางอาหาร สาหรบั ใหอ้ าหารไก่ เพราะการให้ไก่จิกกนิ อาหารบนพืน้ ดนิ ทาให้ไก่เป็นโรคพยาธิได้ง่าย รางใส่กรวด และเปลือกหอยป่นผสมเกลือป่น ไก่ทุกขนาดต้องกินกรวดและเปลือกหอย เพ่ือนาไปสร้างกระดูก และเปลือกไข่ กรวดและเปลือกหอยต้องต้ังท้ิงไว้ให้กินตลอดเวลา รังไข่ ปกติแม่ไก่พื้นเมืองจะไข่ ในรงั ไข่ ต้องมีจานวน รังไข่เท่ากับจานวนแม่ไก่ที่ไข่เพื่อไม่ให้ไก่แย่งกัน คอนนอน สาหรับให้ไก่นอน ควรจะพาดไวม้ ุมใดมุมหนึง่ ของเล้า คอนนอนควรเป็นไมก้ ลมดีกวา่ ไมเ้ หล่ยี ม ไก่จะจบั คอนนอนได้ดี (2) อาหารไก่พื้นเมือง นอกจากไก่จะหากินตามธรรมชาติแล้ว ต้องให้การเอาใจใส่ เรื่องอาหารและนา้ ให้เพียงพอ ดังนี้ (2.1) ให้น้าสะอาดตงั้ ไว้ใหไ้ กก่ ินตลอดวนั และคอยเปล่ยี นนา้ ทกุ วัน (2.2) ใหอ้ าหารผสมทกุ เช้าเย็น เพิม่ เติมจากอาหารทไ่ี กห่ ากนิ ได้ตามปกติ (2.3) ให้อาหารไกห่ ลาย ๆ ชนิดผสมกัน เช่น ปลายข้าว ราข้าว ข้าวโพดป่น ปลา ปน่ ข้าวเปลอื ก กากถ่ัว กากมะพรา้ ว หัวอาหารไก่สาเรจ็ รปู ชนดิ เมด็ หรือชนิดผง

(2.4) มเี ปลือกหอยป่นผสมเกลอื ป่นต้งั ทงิ้ ไวใ้ หไ้ ก่กินตลอดเวลา (2.5) ให้หญ้าสด ใบกระถนิ หรือผกั สดใหไ้ ก่กินทกุ วัน (2.6) สังเกตความผดิ ปกตขิ องไก่ เช่น เบือ่ อาหาร หงอยซึม หากพบให้รีบคัดแยก ออกทันที เตรมี ยารักษาและปอ้ งกันส่วนทีเ่ หลอื โดยดว่ น (3) การฟักไข่ แม่ไก่พื้นเมืองจะเร่ิมให้ไข่ เม่ืออายุประมาณ 6 - 8 เดือน การไข่มี ลักษณะเป็นชุด เฉลี่ยแล้วจะไข่ปีละประมาณ 4 ชุด ๆ ละประมาณ 10 - 12 ฟอง แม่ไก่เมื่อไข่หมด ชดุ แลว้ กจ็ ะเร่ิมฟกั ไข่ โดยใชเ้ วลาประมาณ 21 วัน (4) การเลี้ยงแม่ไก่และลูกไก่ เม่ือลูกไก่ออกจากไข่หมดแล้วควรให้แม่ไก่เล้ียงลูกเอง โดยการย้ายทั้งแม่และลกู ไกม่ าขงั ในสมุ่ หรือกรงบนพน้ื ดินที่แห้ง ระยะแรกควรมีถาดอาหารสาหรบั ใส่ รา ปลายข้าวหรือเศษข้าวสุกให้ลูกไก่กิน และมีถ้วยหรืออ่างน้าต้ืนๆ ใส่น้าสะอาดให้กินตลอดเวลา เม่ือลูกไก่อายุประมาณ 2 อาทิตย์ แข็งแรงดีแล้ว ปล่อยให้ลูกไก่ไปหากินกับแม่ไก่ โดยธรรมชาติ แมไ่ ก่จะเลี้ยงลูกประมาณ 1-2 เดือน จงึ จะแยกจากลูกเพื่อผสมพันธุ์และวางไข่ ลูกไก่ระยะน้ีเป็นช่วง มักจะมีการตายมากทส่ี ดุ ต้องดูแลเอาใจใส่อย่างใกลช้ ิด เร่อื งนา้ อาหาร และการปอ้ งกนั โรค (5) การคัดเลือกพันธ์ุไก่ ควรคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ท่ีมีลักษณะดีไว้ขยายพันธ์ุต่อไป จะ ชว่ ยให้ไก่ฝูงมีขนาดตัวโต ให้ไข่ดก เล้ยี งลกู ดี ลูกรอดมาก และลกู ไกโ่ ตเร็ว ทาใหไ้ ดผ้ ลตอบแทนสงู (6) โรคที่สาคัญ ได้แก่ นิวคาสเซิล อหิวาต์ ฝีดาษ หลอดลมอักเสบ ไข้หวัดนก เพื่อ ลดการตายของไก่ ควรให้วัคซีนตามโปรแกรมทก่ี รมปศสุ ตั ว์แนะนา

ภาคใต้ ศูนยเ์ รียนรูเ้ ศรษฐกจิ พอเพียงบา้ นเขากลม 63 หมู่ 7 ตาบลหนองทะเล อาเภอเมอื ง จังหวดั กระบี่ การเลย้ี งเป็ด ไก่ (ไกค่ อลอ่ น) การเลย้ี งไกใ่ หถ้ ูกวธิ ี จะตอ้ งเลย้ี งเปด็ ,ไก่ ให้มันพึ่งตนเองให้มากที่สุด แต่ผลที่ออกมา ดที สี่ ดุ เพราะฉะนัน้ จะต้องเลี้ยงแบบใชภ้ มู ิปญั ญาไทย มีรายละเอียดพอเปน็ สังเขปดังต่อไปน้ี อปุ กรณ์ 1. ไกพ่ ืน้ เมอื งทโี่ ตเรว็ เนื้อมาก (ไก่คอล่อน) 2. อปุ กรณส์ าหรับทาเล้าไก่ วิธีการเลี้ยง 1. ท่พี กั การเป็นอยู่ตลอดการนอนใหท้ าแบบอศั จรรย์ 2. รงั ไข่ใหใ้ ชภ้ ูมิปญั ญา คือ นาใบตะไคร้และใบสะเดามารองรงั (กาจัดตวั ไร) 3. ให้อนุบาลลูกไกอ่ ย่างน้อย 3 อาทติ ย์ 4. เลี้ยงปลวกให้ไกก่ นิ ใหไ้ กใ่ ช้วถิ ีชีวติ แบบดั้งเดิม ประโยชน์ 1. มโี รคน้อยโดยใชย้ าภมู ปิ ัญญาไทย 2. ไก่พง่ึ ตนเองได้ 3. ชว่ ยทางานให้กบั ผเู้ ลยี้ งก่อน (ตามภมู ปิ ญั ญาไก่) ก่อนทดแทนเนอื้ 4. อยู่ตามภมู ปิ ระเทศไดด้ ไี มม่ ีโรค 5. รสชาติอรอ่ ยดี เม่อื มีแกง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook