Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 4

บทที่ 4

Published by darinee, 2016-07-05 05:08:13

Description: บทที่ 4

Keywords: darinee

Search

Read the Text Version

บทท่ี 4 อ. ดาริณี สมศรีภาวะผู้นาทางการพยาบาล ผู้สอน ผนู้ ำ (Leader) หมำยถึงตวั บุคคล ซ่ึงมีอิทธิพลต่อคนในหน่วยงำน มีบทบำทเหนือผอู้ ื่น ภำวะผนู้ ำ (Leadership) หมำยถึงกำรใชค้ วำมเป็นผนู้ ำ สร้ำงอิทธิพลต่อบุคคลอ่ืนใหท้ ำงำน หรือปฏิบตั ิตำมดว้ ยควำมเตม็ ใจ เพอื่ ใหง้ ำนบรรลุเป้ำหมำย 1. ทฤษฎภี าวะผู้นาตามสถานการณ์ 1.1 ทฤษฎผี ู้นาตามสถานการณ์ของฟี ดเลอร์ ตวั แปรหลกั 1. แบบภำวะผนู้ ำ ระหวำ่ งพฤติกรรมภำวะผนู้ ำ(leadershipbehavior)และแบบภำวะผนู้ ำ(leadershipstyle) เป็นกำรกระทำของผนู้ ำในกำรช้ีนำและประสำนงำนในกำรทำงำนของสมำชิกในองคก์ ร ส่วนแบบภำวะผนู้ ำจะเป็นโครงสร้ำงควำมตอ้ งกำรของผนู้ ำท่ีจะจูงใจใหเ้ กิดพฤติกรรมในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ 2. สถำนกำรณ์ท่ีเอ้ือต่อผนู้ ำ ระบุองคป์ ระกอบสำคญั 3 ส่วนคือ ควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งผนู้ ำกบั สมำชิก โครงสร้ำงภำรกิจและอำนำจในตำแหน่งของผนู้ ำ 3.ประสิทธิผลของผนู้ ำ 1.2ทฤษฎภี าวะผู้นาตามสถานการณ์:ทฤษฎวี ถิ ีทาง-เป้าหมาย (Path-Goal Theory) ของHouse&Mitchell เนน้ ผลกระทบของพฤติกรรมผนู้ ำที่มีต่อแรงจูงใจ ควำมพึงพอใจ ควำมพยำยำม และกำรปฏิบตั ิงำนของ ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำ ซ่ึงจะเช่ือมโยงกบั ปัจจยั ของสถำนกำรณ์และสภำพแวดลอ้ ม องคป์ ระกอบสำคญั 1. พฤติกรรมผนู้ ำ (Leader behaviors) 2. คุณลกั ษณะส่วนบคุ คลของผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำ (Subordinate characteristics) 3. คุณลกั ษณะของงำน (Task characteristics) 4. กำรจูงใจ (Motivation)

2พฤตกิ รรมผู้นา (Leader Behavior)ทฤษฎีวถิ ีทำง-เป้ำหมำย ไดน้ ำเสนอลกั ษณะพฤติกรรมผนู้ ำออกเป็น 4 แบบ คือ รูปท่ี 4.1 ลกั ษณะพฤติกรรมผนู้ ำ 1.3 ทฤษฎภี าวะผู้นาตามสถานการณ์ของเฮอร์เซย์และแบลนชาร์ด (Hersey และ Blanchard) “ประสิทธิผลของผนู้ ำข้ึนอยกู่ บั ควำมสอดคลอ้ งท่ีเหมำะสมของพฤติกรรมผนู้ ำและวฒุ ิภำวะของกลุ่มหรือบุคคล” พฤตกิ รรมผู้นา (Leader Behavior) 1. พฤติกรรมที่เนน้ งำน (Task Behavior) ผนู้ ำจะใชก้ ำรส่ือสำรทำงเดียว เพื่อใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิงำนทรำบว่ำจะตอ้ ง ทำอะไร ท่ีไหน เม่ือไร และอยำ่ งไร 2. พฤติกรรมที่เน้นควำมสัมพนั ธ์ (Relationship Behavior) ผูน้ ำจะใชก้ ำรสื่อสำร 2 ทำง โดยมีกำร สนบั สนุนท้งั ดำ้ นอำรมณ์และสงั คม เป็นกำรสร้ำงแรงจูงใจในกำรทำงำน ปัจจยั ดำ้ นพฤติกรรมผนู้ ำและวฒุ ิภำวะของผปู้ ฏิบตั ิงำนน้ีเป็นส่วนท่ีนำมำกำหนดเป็นแบบของภำวะของผนู้ ำ 4 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. ภาวะผู้นาแบบส่ังการ เป็นพฤติกรรมผนู้ ำท่ีตอ้ งกำรเนน้ กำรทำงำนสูง แต่ควำมสมั พนั ธต์ ่ำและจะใชไ้ ด้ อยำ่ งมีประสิทธิผลเมื่อผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำมีแรงจูงใจและควำมสำมำรถนอ้ ย

3 2. ภาวะผู้นาแบบสอนแนะ เป็นพฤติกรรมผนู้ ำที่เนน้ กำรทำงำนสูง และควำมสมั พนั ธส์ ูงดว้ ย และใชไ้ ด้ อยำ่ งมีประสิทธิผลเม่ือผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำมีแรงจูงใจและควำมสำมำรถในระดบั ปำนกลำง 3. ภาวะผู้นาแบบสนับสนุน เป็นพฤติกรรมผนู้ ำท่ีเนน้ กำรทำงำนต่ำ แต่เนน้ ควำมสมั พนั ธส์ ูง และใชไ้ ด้ อยำ่ งมีประสิทธิผลเม่ือผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำมีควำมสำมำรถระดบั ปำนกลำง แต่มีแรงจูงใจต่ำ 4. ภาวะผู้นาแบบมอบอานาจ เป็นพฤติกรรมผนู้ ำท่ีเนน้ กำรทำงำนต่ำ และควำมสมั พนั ธ์ต่ำดว้ ย ใชไ้ ดอ้ ยำ่ ง มีประสิทธิผลเม่ือผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำมีควำมสำมำรถและแรงจูงใจสูง 2. กลุ่มทฤษฎพี ฤติกรรมของผู้นา กำรศึกษำภำวะผนู้ ำของมหำวทิ ยำลยั มิชิแกน มุ่งเนน้ หำควำมสมั พนั ธ์ระหวำ่ งพฤติกรรมของผนู้ ำกบักระบวนกำรกลุ่มและผลกำรปฏิบตั ิงำนของกลุ่ม ซ่ึงผลงำนของกลุ่มจะใชเ้ ป็นเกณฑใ์ นกำรแยกผนู้ ำที่มีประสิทธิภำพและผนู้ ำท่ีไม่มีประสิทธิภำพหรือมีประสิทธิภำพนอ้ ย กำรศึกษำสรุปพฤติกรรมผนู้ ำเป็น 3 แบบ – พฤติกรรมมุ่งงำน (Task-Oriented Behavior) – พฤติกรรมมุ่งควำมสมั พนั ธห์ รือมุ่งคน (Relationship-Oriented Behavior) – ภำวะผนู้ ำแบบมีส่วนร่วม (Participative Leadership) 1) พฤติกรรมมุ่งงำน (Task-Oriented Behavior) มุ่งไปท่ีภำระหนำ้ ที่ของผนู้ ำ ไดแ้ ก่ กำรวำงแผน กำรประสำนกิจกรรมต่ำงๆ ของผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำ จดั หำวสั ดุอุปกรณ์ เครื่องมือ รวมท้งั เทคนิควธิ ีกำรทำงำนยง่ิ กวำ่ น้นั ผนู้ ำที่มีประสิทธิภำพจะแนะนำให้ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำต้งั เป้ำหมำยของงำนท่ีทำ้ ทำยและเป็นไปได้ 2) พฤติกรรมมุ่งควำมสมั พนั ธห์ รือมุ่งคน (Relationship-Oriented Behavior) ผนู้ ำจะสนบั สนุน และช่วยเหลือผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำ ท้งั ยงั ศรัทธำเช่ือมน่ั และมีควำมเป็นเพอ่ื น ช่วยใหม้ ีกำรพฒั นำและสนบั สนุนใหป้ ระสบควำมสำเร็จ จะไม่ควบคุมใกลช้ ิด ดูแลอยหู่ ่ำง ๆ อยำ่ งใหเ้ กียรติ 3) ภำวะผนู้ ำแบบมีส่วนร่วม (Participative Leadership) เปิ ดโอกำสใหผ้ ใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำ เขำ้ มำมีส่วนร่วมในกำรพิจำรณำและตดั สินใจ 2.1 การศึกษาวจิ ัยของมหาวทิ ยาลยั แห่งรัฐโอไฮโอ นกั วจิ ยั ของมหำวทิ ยำลยั แห่งรัฐโอไฮโอ ไดท้ ำกำรศึกษำแบบเจำะลึก เพ่ือหำพฤติกรรมผนู้ ำในกำรปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีต่ำง ๆ พบวำ่ พฤติกรรมผนู้ ำเกี่ยวกบั กำรปฏิบตั ิหนำ้ ที่น้นั แยกออกไดเ้ ป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ - พฤติกรรมผนู้ ำที่มุ่งสร้ำงโครงสร้ำง (Initiating Structure) - พฤติกรรมผนู้ ำท่ีมุ่งสร้ำงน้ำใจ (Consideration ) 1) พฤติกรรมมุ่งสร้ำงโครงสร้ำงหรือมุ่งงำน (Initiating Structure) คือพฤติกรรมที่ผนู้ ำจดั โครงสร้ำงและขอบเขตงำนของตนเองและผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำเพอื่ ใหบ้ รรลุผลสำเร็จตำมวตั ถุประสงคไ์ ดแ้ ก่ - กำรมอบหมำยงำน - กำรจดั ทำมำตรฐำนงำน - กำรประเมินกำรปฏิบตั ิงำน - กำรเสำะหำวธิ ีกำรทำงำนและแกไ้ ขปัญหำท่ีดี

4 2) พฤติกรรมมุ่งสร้ำงน้ำใจหรือมุ่งคน (Consideration) เป็นพฤติกรรมผนู้ ำที่แสดงควำมเป็นเพอ่ื นสนบั สนุน และสนใจในควำมเป็นอยแู่ ละสวสั ดิกำรต่ำงๆ ของผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำ รวมท้งั กำรยอมรับ รับฟังปัญหำและขอ้ เสนอแนะต่ำง ๆ ใหค้ ำปรึกษำ และปฏิบตั ิต่อผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำทุกคนเหมือนกนั 2.2 ทฤษฎผี ้นู าบารมแี บบคุณลกั ษณะ (Attribution Theory of charismatic leadership) ผตู้ ำมเกิดควำมประทบั ใจและมองผนู้ ำวำ่ เป็นบุคคลที่มีควำมสำมำรถพิเศษ จะอทุ ิศตนกบั กำรทำงำนยอมรับควำมเส่ียง ทุ่มเทใหก้ บั วิสยั ทศั น์ท่ีวำงไว้ ใหค้ วำมเช่ือถือแก่ผนู้ ำแบบน้ีโดยเฉพำะผนู้ ำที่เอำใจใส่ผตู้ ำมมำกกวำ่ คำนึงถึงผลประโยชนข์ องตนเองลกั ษณะและพฤตกิ รรมทสี่ าคญั ของผ้นู าแบบบารมี ผนู้ ำแบบน้ีจะมีควำมปรำรถนำอยำ่ งแรงกลำ้ ถึงอำนำจ มีควำมมนั่ ใจในตนเองสูง ยดึ มน่ั ในควำมคิดและควำมเช่ือของตน พฤติกรรมของผนู้ ำท่ีมีอิทธิผลต่อทศั นคติและพฤติกรรมของผตู้ ำมมีดงั น้ี 1. มีวิสยั ทศั นท์ ่ีชดั เจนและดึงดูดใจ 2. ใชร้ ูปแบบกำรนำเสนอที่เขม้ แขง็ ดุดนั เพอื่ แสดงวิสยั ทศั น์ที่ชดั เจนของตนเอง 3. กลำ้ เสี่ยง และเสียสละตนเอง เพอื่ ที่จะทำใหว้ ิสยั ทศั น์น้นั บรรลุผลสำเร็จ 4. สื่อสำรเพือ่ แสดงใหเ้ ห็นถึงควำมคำดหวงั ที่สูงส่ง 5. แสดงควำมมนั่ ใจในตวั ผตู้ ำม 6. แสดงบทบำทและพฤติกรรมเพ่อื เป็นตวั อยำ่ งใหเ้ ห็นถึงกำรไปสู่วิสยั ทศั นท์ ่ีวำงไว้ 7. ทำใหผ้ ตู้ ำมเกิดควำมประทบั ใจ 8. สร้ำงเอกลกั ษณ์ใหก้ ลุ่มและองคก์ ำร 9. มอบหมำยอำนำจใหก้ บั ผตู้ ำม 2.3 ทฤษฎภี าวะผู้นาในองค์การตัดสินใจของวูร์ม และเยสตัน ไดก้ ำหนดรูปแบบภำวะผนู้ ำในแง่แบบของกำรตดั สินใจ (Decision-Making Style) ข้ึน รูปแบบที่กำหนดข้ึนน้ีเป็นภำวะผนู้ ำตำมสถำนกำรณ์เพรำะบรรยำยรูปแบบที่แตกต่ำงกนั ตำมสถำนกำรณ์ที่ผจู้ ดั กำรจะตอ้ งเผชิญหนำ้ และตดั สินใจ ผนู้ ำแต่ละคนจะตอ้ งสำมำรถแสดงพฤติกรรมผนู้ ำท้งั 5 แบบ ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภำพกำรณ์ ดงั ต่อไปน้ี AI ผนู้ ำตดั สินใจตำมลำพงั AII ผนู้ ำขอสำรสนเทศจำกผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำแต่ตดั สินใจตำมลำพงั CI ผนู้ ำเปิ ดโอกำสใหผ้ ใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำแสดงควำมคิดเห็นต่อปัญหำต่ำงๆ เป็นรำยบุคคล รับควำมคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะเหลำ่ น้นั ไปประกอบกำรตดั สินใจ CII ผนู้ ำและผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำประชุมร่วมกนั เพื่ออภิปรำยแกป้ ัญหำ แต่ผนู้ ำเป็นผตู้ ดั สินใจเอง GII ผนู้ ำและผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำประชุมร่วมกนั เพอ่ื อภิปรำยปัญหำ ประเมินทำงเลือกในกำรแก้ปัญหำและร่วมกนั ตดั สินใจแกป้ ัญหำของกลุ่ม กำรตดั สินใจแต่ละรูปแบบ ซ่ึงเป็นแบบของกำรตดั สินใจแต่ละอยำ่ ง A (Autocratic) หมำยถึง กำรตดั สินใจแบบเผดจ็ กำร C (Consultation) หมำยถึง กำรตดั สินใจท่ีขอคำปรึกษำหำรือจำกผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำ G

5(Group) หมำยถึง กำรตดั สินใจโดยกลุ่ม สำหรับตวั เลขโรมนั (I,II) หมำยถึง ควำมแตกต่ำงของกระบวนกำรตดั สินใจแต่ละอยำ่ ง เช่น A I และ A II เป็นกำรตดั สินใจแบบเผดจ็ กำรในลกั ษณะท่ี 1 และลกั ษณะท่ี 2 เป็นตน้ แบบของผนู้ ำ (Leadership styles) สำมำรถจำแนกแบบของผนู้ ำออกเป็น 3 ประกำร คือ 1. กำรไดม้ ำซ่ึงอำนำจของผนู้ ำ 2. กำรใชอ้ ำนำจของผนู้ ำ 3. พฤติกรรมที่แสดงออกของผนู้ ำในกำรทำงำน 1. แบบของผ้นู าจาแนกตามประเภทการได้มาซ่ึงอานาจ 1.1 ผนู้ ำตำมกฎหมำย (Legalleader)คือผนู้ ำท่ีมีตำแหน่งเป็นหวั หนำ้ มีอำนำจบงั คบั บญั ชำตำมกฎหมำย 1.2 ผนู้ ำบำรมี (Charismatic leader) เป็นผนู้ ำที่มิไดม้ ีตำแหน่งอำนำจหนำ้ ท่ีตำมกฎหมำย แต่เป็นผทู้ ่ีสำมำรถเอำชนะใจคนอื่น จนเกิดควำมรัก ควำมศรัทธำ ใหค้ วำมยกยอ่ งนบั ถือ มีอำนำจบำรมี ซ่ึงสร้ำงมำดว้ ยตนเอง 1.3 ผนู้ ำตำมสญั ญลกั ษณ์ (symbolic leader) ผนู้ ำแบบน้ีมีลกั ษณะเป็นสญั ลกั ษณ์ของผทู้ ี่อยใู่ นตำแหน่งที่ควรแก่กำรเคำรพนบั ถือ เป็นผนู้ ำที่มีตำแหน่งทำงสงั คม กำรเมือง กำรบริหำรท่ีน่ำยกยอ่ ง 2. แบบของผู้นาจาแนกตามการใช้อานาจ 2.1 พฤติกรรมควำมเป็นผนู้ ำแบบเผด็จกำร (Autocratic leader behavior) - ผนู้ ำจะเป็นผกู้ ำหนดแผนกำรดำเนินงำน และตดั สินใจสงั่ กำรใหผ้ รู้ ่วมงำนปฏิบตั ิตำม - ผรู้ ่วมงำนไมม่ ีส่วนร่วมในกำรแสดงควำมคิดเห็น - เหมำะสำหรับองคก์ ำรที่ผรู้ ่วมงำนมีควำมเฉ่ือยชำ ไม่มีควำมสำมำรถ ขำดควำมรับผดิ ชอบหรือในสถำนกำรณ์ที่เร่งด่วน ฉุกเฉิน 2.2 พฤติกรรมควำมเป็นผนู้ ำแบบประชำธิปไตย (Democratic leader behavior) - เช่ือและไวว้ ำงใจในควำมสำมำรถของผรู้ ่วมงำน ยอมรับฟังควำมคิดเห็น ใหค้ วำมช่วยเหลือแนะนำ - ผรู้ ่วมงำนมีส่วนร่วมวำงแผนกำรดำเนินงำน และตดั สินใจแกป้ ัญหำร่วมกนั - เหมำะสำหรับผรู้ ่วมงำนที่มีควำมรู้ควำมสำมำรถ มีควำมรับผดิ ชอบ ชอบอิสระในกำรทำงำน 2.3 พฤติกรรมควำมเป็นผนู้ ำแบบเสรี (Laissez-faire leader Behavior) - ปล่อยใหผ้ รู้ ่วมงำนปฏิบตั ิงำนตำมอิสระเสรี หรือตำมสบำย - ผรู้ ่วมงำนมีอิสรภำพในกำรปฏิบตั ิงำนอยำ่ งมำก 3. แบบของผู้นาจาแนกตามพฤติกรรมทแี่ สดงออกของผู้นา Blake and Mouton เสนอแนวคิดในกำรทำงำนของผบู้ ริหำรไว้2 แบบ คือ 3.1 มุ่งคนเป็นหลกั (Concern for people) เป็นกำรบริหำรของผนู้ ำที่ยดึ หลกั ในกำรสร้ำงมนุษยสมั พนั ธ์อนั ดีกบั ผรู้ ่วมงำน หรือผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำ 3.2 มุ่งงำนเป็นหลกั (Concern for production) เป็นกำรบริหำรของผนู้ ำที่ยดึ งำนเป็นหลกั โดยใช้กฏเกณฑ์ ระเบียบต่ำง ๆ ตำมอำนำจที่มี ตำมตำรำงกำรบริหำรดงั น้ี

Concern 9 1,9 Manegerial Grid 6 For 8 people 7 5,5 9,9 6 5 9,1 4 3 2 1 1,1 Concern for Productionแบบของกำรบริหำรตำมตำรำงอธิบำยไดด้ งั น้ี แบบ 1,1 ใครใคร่ทำทำ ( Imporerished management ) บุคลำกรข้ีเกียจทำงำน ผลงำนท่ีไดต้ ่ำ ผบู้ ริหำรไม่คำนึงวำ่ คนหรืองำนดีหรือไม่ แบบ 9,1 จำไวง้ ำนมำก่อน (Task management) คำนึงถึงคนทำงำนนอ้ ย ใหค้ วำมสำคญั กบั งำนมำกกวำ่ คนจึงเปรียบเสมือนเครื่องจกั ร ผบู้ ริหำรจะเป็นผวู้ ำงแผนและควบคุมกำรทำงำนทุกอยำ่ ง ขวญั กำลงั ใจบุคลำกรต่ำ แบบ 1,9 สังสรรคส์ โมสร (Country club management) คำนึงถึงคนมำกกวำ่ งำน ขวญั กำลงั ใจสูง แต่ผลงำนต่ำ แบบ 5,5 อำทรคนและงำน (Middle of the road) เป็นกำรบริหำรระบบทำงสำยกลำง คือคำนึงถึงผลงำนพร้อมกบั ขวญั กำลงั ใจของคนทำงำน แบบ 9,9 สมคั รสมำน สำมคั คี (Team management) เป็นกำรบริหำรงำนร่วมกนั ระหวำ่ งผบู้ ริหำรและผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชำ ไดท้ ้งั ขวญั ของคน และผลงำนสูง4.3 คุณลกั ษณะผู้นา 1. รู้จกั ตนเอง (Self realization) ปรับตวั ใหเ้ ขำ้ กบั กำรเปล่ียนแปลงและยอมรับควำมจริงได้ 2. นกั วเิ ครำะห์หำเหตแุ ละผล (Analytical Mind) มองสถำนกำรณ์อยำ่ งลึกซ้ึง คำดคะเนผลที่อำจเกิดข้ึนได้ 3. เรียนรู้ตลอดกำล (Life Long Learning) ตระหนกั ถึงควำมเป็นผใู้ ฝ่รู้ตลอดเวลำ เขำ้ ใจกำรเปล่ียนแปลงของโลก เปิ ดใจกวำ้ ง และรับฟัง ร่วมแรงร่วมใจ มีทกั ษะกำรวเิ ครำะห์ เป็นสิ่งจำเป็นอยำ่ งยงิ่ ในสงั คมโลกยคุใหม่ (New Society) ที่มีกำรเปลี่ยนแปลงอยำ่ งรุนแรง รวดเร็ว และไม่สิ้นสุด 4. มีจิตวิทยำกำรบริหำร เขำ้ ใจจิตใจของมนุษย์

75. กำรเป็นคนดี \"Good Person\" เก่งในกำรปฏิบตั ิงำนผบู้ ริหำรทุกระดบั ตอ้ งมีควำมสำมำรถในทกั ษะ 3 ประกำร ประกอบดว้ ย1. ทกั ษะดำ้ นเทคนิค (Technical skills) ควำมชำนำญในกำรใชอ้ ุปกรณ์ เคร่ืองมือ วิธีกำรและเทคนิค2. ทกั ษะดำ้ นมนุษยส์ ัมพนั ธ์ (Human skills) หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรติดต่อกบั ผอู้ ื่น ทกั ษะดำ้ นมนุษยส์ มั พนั ธม์ ีควำมจำเป็นสำหรับผบู้ ริหำรทุกระดบั3. ทกั ษะดำ้ นควำมคิด หรือควำมคิดรวบยอด (Conceptual skills) มีควำมสำมำรถในควำมเขำ้ ใจสิ่งต่ำงๆ ได้รวดเร็วฉบั ไว พบปัญหำสำมำรถแกไ้ ขและตดั สินใจอยำ่ งรวดเร็ว ถูกตอ้ งผบู้ ริหำรระดบั สูง ผบู้ ริหำรระดบั กลำง ผบู้ ริหำรระดบั ล่ำงทกั ษะดำ้ นควำมคิด ทกั ษะดำ้ นมนุษยส์ มั พนั ธ์ ทกั ษะดำ้ นเทคนิค4.4 การพฒั นาภาวะผู้นาทางการพยาบาล ขณะท่ีเป็นนกั ศึกษำพยำบำล 1. หลกั สูตรกำรศึกษำพยำบำลศำสตรบณั ฑิต ควรตอ้ งบรรจุเน้ือหำวชิ ำที่เกี่ยวขอ้ งกบั กำรพฒั นำและเสริมสร้ำงควำมเป็นผนู้ ำทำงกำรพยำบำล เพื่อใหน้ กั ศึกษำพยำบำลไดเ้ รียนรู้และไดร้ ับประสบกำรณ์ที่พฒั นำและเสริมสร้ำงควำมเป็นผนู้ ำ 2. กระบวนกำรเรียนกำรสอน เนน้ ใหผ้ เู้ รียนไดม้ ีโอกำสแสดงควำมคิดเห็น เสริมสร้ำงควำมคิดสร้ำงสรรค์ เสริมสร้ำงและสนบั สนุนพฤติกรรมกลำ้ แสดงออกที่เหมำะสม (Assertive behavior) 3. กำรจดั ระบบที่ปรึกษำหรือระบบพ่ีเล้ียง (Preceptorship) พ่ีเล้ียงตอ้ งเป็นผทู้ ่ีเป็นแบบอยำ่ งที่ดี (Rolemodel) แก่นกั ศึกษำพยำบำลไดม้ ีควำมพร้อมในกำรกำ้ วเขำ้ สู่กำรปฏิบตั ิงำนในตำแหน่งพยำบำลวชิ ำชีพ ขณะท่ีเป็นพยำบำลวิชำชีพ กระทำไดด้ งั น้ี 1. จดั กำรศึกษำต่อเนื่อง เช่น จดั เปิ ดสอนหลกั สูตรเฉพำะทำงกำรพยำบำลเพอ่ื ใหพ้ ยำบำลไดเ้ รียนรู้และเพิ่มพนู ควำมรู้เกี่ยวกบั หลกั กำรบริหำรพยำบำลในระดบั ท่ีลึกซ้ึงข้ึน ไดพ้ ฒั นำแนวควำมคิดใหม่ๆ เพอื่ ประยกุ ตใ์ ช้ในกำรพฒั นำตนเองสู่ควำมเป็นผนู้ ำทำงกำรพยำบำล 2. จดั ทำโครงกำรพฒั นำบุคลำกร เนน้ เน้ือหำที่เก่ียวขอ้ งกบั หลกั กำรบริหำรทำงกำรพยำบำล ควำมรู้และแนวคิดใหม่ๆ เพือ่ ใหไ้ ดร้ ับควำมรู้ท่ีทนั สมยั ทดั เทียมกบั ควำมกำ้ วหนำ้ ทำงกำรแพทย์ และกำรพยำบำล 3. จดั ทำระบบท่ีปรึกษำหรือระบบพ่ีเล้ียง (Mentorship) โดยกำรใหพ้ ยำบำลไดม้ ีโอกำสเขำ้ ร่วมในกำรวำงแผน เรียนรู้และฝึกทกั ษะกำรเป็นผนู้ ำท่ีมีประสิทธิภำพ เพอื่ เตรียมควำมพร้อมในกำรกำ้ วเขำ้ สู่ตำแหน่งผบู้ ริหำรทำงกำรพยำบำลต่อไปในอนำคต แนวทำงกำรพฒั นำผนู้ ำทำงกำรพยำบำล ขณะที่ดำรงตำแหน่งผบู้ ริหำรทำงกำรพยำบำลกระทำไดด้ งั น้ี

8 1. ส่งเสริมและสนบั สนุนใหศ้ ึกษำต่อในระดบั ท่ีสูงข้ึนไป คือ ในระดบั ปริญญำโทและปริญญำเอก 2. จดั ทำระบบที่ปรึกษำหรือพี่เล้ียง โดยใหห้ วั หนำ้ หอผปู้ ่ วยซ่ึงเป็นผบู้ ริหำรระดบั ตน้ ไดม้ ีโอกำสศึกษำและเรียนรู้งำนของผตู้ รวจกำรพยำบำล และงำนของพยำบำลผชู้ ำนำญทำงคลินิก และใหผ้ ตู้ รวจกำรพยำบำลและพยำบำลผู้ชำนำญทำงคลินิกไดม้ ีโอกำสศึกษำและเรียนรู้งำนของหวั หนำ้ ฝ่ำยกำรพยำบำล และผอู้ ำนวยกำรพยำบำล เป็นตน้

9


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook