Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมุดภาพ วัดมหาธาตุวรวิหาร ราชบุรี

สมุดภาพ วัดมหาธาตุวรวิหาร ราชบุรี

Published by Kewalin, 2021-05-24 05:56:07

Description: สมุดภาพ วัดมหาธาตุวรวิหาร ราชบุรี

Keywords: วัด

Search

Read the Text Version

สแกนเพ่อื เข้าถงึ ข้อมลู ทางออนไลนผ์ า่ นควิ อารโ์ คด้

วดั มหาธาตวุ รวิหาร ราชบุรี Wat Maha That Worawihan



วดั มหาธาตวุ รวหิ าร เปน็ พระอารามหลวงชน้ั ตรี ชนดิ วรวหิ าร เปน็ ศาสนสถานทส่ี ำ�คญั ทางดา้ นประวตั ศิ าสตร์ สถาปัตยกรรม และศิลปกรรม ตั้งอยู่เกือบใจกลางเมืองราชบุรี ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ�แม่กลอง เดิมเรียกว่า “วัดหน้าพระธาตุ” หรือ “วัดพระศรี รัตนมหาธาตุ” เป็นวัดเก่าแก่ อยู่ถนนเขางู ตำ�บลหน้าเมือง ในเขตเทศบาล เมืองราชบุรี วัดนี้สันนิษฐานว่าสร้าง ในสมัยทวารวดี ราวพุทธศตวรรษท่ี ๑๔-๑๖ ไล่เลี่ยกับการสร้างเมืองราชบุรี ต่อมาในราว พุทธศตวรรษท่ี ๑๘ วัฒนธรรมเขมรจากราชอาณาจักร กัมพูชาได้แพร่เข้าสู่ดินแดนราชบุรี จึงได้มี การก่อสร้างและดัดแปลงศาสนสถานกลางเมืองราชบุรีขึ้นเป็นปราสาท และสร้างกำ�แพงศิลาแลงล้อมรอบเพื่อให้ เป็นศูนยก์ ลางของเมอื งตามคติความเชือ่ เรือ่ งคตจิ กั รวาลของเขมร





วดั มหาธาตเุ ปน็ วดั โบราณ เนอ่ื งจากเปน็ วดั มากอ่ นสมยั อยธุ ยา เพราะไดพ้ บโบราณวตั ถุ โบราณสถาน และศลิ ปวตั ถุ สมัยทวารวดี ลพบุรี และอู่ทอง อยู่ในบริเวณวัดเป็นจำ�นวนมาก ในบริเวณวัดมีหินทรายแดงจำ�หลักรูปพระพุทธรูปปางสมาธิประทับในซุ้มเรือนแก้ว เดิมนั้นมีลักษะเป็นศิลปกรรม แบบบายน ซึ่งเจริญรุ่งเรืองก่อนสมัยอยุธยา จึงเป็นไปได้ว่า บริเวณน้อี าจเป็นศาสนสถานมาก่อน รปู แบบพระปรางค์ วัดมหาธาตุวรวหิ าร ราชบุรี ต.หนา้ เมอื ง อ.เมอื ง

ภาพพระปรางคก์ อ่ นการสร้างระเบียงคต ภาพวหิ ารกอ่ นการบูรณะ ศลิ ปะโบราณวตั ถุและโบราณสถานที่ไดร้ ับการข้นึ ทะเบียนมจี ำ�นวน ๗ รายการ ไดแ้ ก่ ๑.โคปุระและกำ�แพงแก้ว ๒. พระวิหารนอกระเบียงคต ๓. ระเบยี งคต ๔. พระปรางค์ ๕. พระมณฑป ๖. เจดยี ์รายหนา้ พระมณฑป และ ๗. พระอุโบสถ ภาพจากกระทรวงสาธารณะสขุ ราชบุรี

ยคุ ทวารวดี สถาปตั ยกรรมในยคุ ทวารวดีมลี ักษณะเปน็ เจดยี ์ ยอดแหลม ฐานสงู โดยรอบฐานมีเจดยี ์เล็กอยู่ ๔ มุม มีการตกแต่งโดยใช้ปูนปั้นประดับโดยรอบ และได้มีการพบร่องรอยวัฒนธรรมทวารวดี ที่ วัดมหาธาตุ ราชบุรี ตำ�บลหน้าเมือง อำ�เภอเมืองราชบุรี ปรากฏอยู่ที่ฐานล่างสุดของพระปรางค์ ประธานของวัด มกี ารใชอ้ ฐิ แบบทวารวดีเรียงเป็นแนวยาว ซึ่งนยิ มใช้ศิลาแรงในการกอ่ สร้าง พระอาทมิ งคล (ปางเสดจ็ จากดาวดึงส์) ทร่ี ะเบยี งคดพบชน้ิ สว่ นพระพทุ ธรปู ขนาดใหญ่ ลักษณะพุทธศิลป์แบบทวารวดี สลักจากหินสีเทา และสีดำ�ประดษิ ฐานอยู่ องค์ทสี่ ำ�คญั คือพระพุทธรปู ประทับยนื ปางแสดงธรรมท้งั สองพระหัตถ์ เรยี กวา่ “ปางเสด็จ จากดาวดงึ ส์” อายุประมาณพุทธศตวรรษท่ี ๑๒







ระเบียงคด เปน็ ระเบยี งทางเดนิ ทม่ี หี ลังคาคลมุ สร้างลอ้ มรอบพระปรางค์ เป็นอาคารเกบ็ พระพุทธรปู โดยที่วัดมหาธาตุ เป็นอารามสำ�คัญประจำ�เมือง ในอดีตเมื่อเมืองราชบุรีย้ายข้ามฝั่งไปแม่น้ำ� แม่กลองฝั่งซ้าย วัดต่าง ๆ จึงร้างโดยมากและร้างตลอดไป เว้นวัดมหาธาตุวรวิหารจะมีผู้ บูรณะขึ้นใหม่ ในขณะเดียวกันก็รวบรวมพระพุทธรูปจากวัดร้างต่าง ๆ มาเก็บไว้ ณ วัด มหาธาตุ ฉะนั้น พระพุทธรูปในระเบียงคด จึงมีหลากหลายศิลปะ มีทั้งศิลปะทวารวดี เขมร อยุธยา และรตั นโกสินทร์





ธรรมจกั รท่ีอยหู่ นา้ ปรางค์ประธานทางทิศตะวันออก ธรรมจักรมสี ่วนที่เป็นของเก่าเฉพาะ ส่วนบนบริเวณ ๑๒ นาฬิกาเท่านั้น ส่วนล่างที่เป็นฐานรองและส่วนที่เหลือทำ�ขึ้นทีหลัง โดย ธรรมจกั รเปน็ สัญลักษณแ์ ทนการประกาศพระพทุ ธศาสนาในยคุ ทวารวดี

ระฆงั หินโบราณ

กำ�แพงพระปรางค์ สร้างมาแต่สมัยเขมรยุคต้นล้อมปรางค์ (ปราสาท) มีรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ต่อมาเขมรยุคปลายได้เปลี่ยน ทับหลังกำ�แพงจากปาลาร (ปลายหอก) มาเป็นพระแผงครั้นถึงสมัยอยุธยาได้ขยายบริเวณปรางค์เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดย กำ�แพงครึ่งทอ่ งหลงั ใช้อิฐสรา้ งฉะนัน้ กำ�แพงปรางคว์ ัดมหาธาตจุ ึงเป็น ๒ ยุคคอื คร่งึ ทอ่ นหน้าเป็นเขมรครึ่งท่อนหลังเป็นอยุธยา





ยคุ ขอมเรอื งอำ�นาจ อิทธพิ ลวัฒนธรรมเขมรในเขตจังหวดั ราชบรุ คี งเจริญร่งุ เรอื งอยรู่ าว ๓๖๐ ปี ก็เสื่อมอิทธิพลลงเนื่องจากพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ เสด็จสวรรคตทำ�ให้บรรดาผู้นำ� ของเมืองและนครรัฐต่าง ๆ ในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำ�เจ้าพระยาเริ่มมีการรวมตัว กนั เขา้ เป็นปกึ แผ่น พรอ้ มทั้งมกี ารพฒั นาเอกลกั ษณท์ างวฒั นธรรมของตนเอง กำ�แพงแกว้ ก่อด้วยศิลาแลงรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ล้อมรอบองค์พระปรางค์ไว้ทั้งสี่ด้านเหนือกำ�แพงมีใบ เสมาทำ�ด้วยหินทรายสีชมพู จำ�หลักพระพุทธรูปปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว ลักษณะพุทธศิลปะขอมแบบ บายน (ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๘) ได้ขุดพบฐานปรางค์ศิลาแลงย่อมุมขนาดย่อม และพบชิ้นส่วน สถาปัตยกรรมส่วนยอดของพระปรางค์ สนั นิษฐานว่า สรา้ งขึ้นคราวเดยี วกับกำ�แพงแกว้





กำ�แพงพระปรางค์ตอนหน้า ตัวกำ�แพงก่อดว้ ยศลิ าแลงสร้างในยคุ เขมร โดยมีซุ้มเรือนแก้วรปู พระพทุ ธรปู ทไี่ ด้รบั อทิ ธพิ ลศลิ ปะเขมรแบบบายน (พุทธศตวรรษท่ี ๑๘) ด้านบนของกำ�แพงแก้ว

พระชยั พุทธมหานาถ (หลวงพอ่ พนั ปี) ในยุคสมัยเขมรจากศิลาจารึกปราสาทพระขรรค์ที่พระชัยวรมันที่ ๗ ที่ทรงโปรดเกล้าให้ จารกึ ขน้ึ วา่ “ไดท้ รงพระราชทานพระชยั พทุ ธมหานาถ ไปประดษิ ฐานยงั ศาสนสถานตามเมอื งตา่ ง ๆ จำ�นวน ๒๓ แห่ง ซึ่งมีชื่อเมืองตั้งอยู่ที่ราชบุรี ๒ แห่งด้วยกัน คือ ที่ชยราชปุรี โดย พระพุทธรูป นาคปรกปางสดุ้งมาร (พระชัยพุทธมหานาถ) สร้างด้วยหินทรายสีขาวปัจจุบันประดิษฐานไว้ประจำ� ปรางค์







ยุคสโุ ขทยั เจดีย์แถว เป็นเจดีย์ใหญก่ วา่ เจดยี บ์ รรจอุ ัฐขิ องคนทว่ั ไปและรปู ทรงลอ้ ลักษณะ เจดีย์ยุคสุโขทัย อยู่ด้านหน้ามณฑปเดิมมี ๘ องค์ ถูกรื้อถอนไป ๓ องค์ ถกู ดดั แปลงไป ๑ องค์สันนิษฐานว่า เป็นเจดีย์บรรจุอัฐิของบุคคลสำ�คัญ ของเมืองราชบรุ ี



ยคุ อยธุ ยา พระปรางค์ เปน็ สถาปตั ยกรรมทส่ี รา้ งขน้ึ ในสมยั อยธุ ยาตอนตน้ (พทุ ธศตวรรษท่ี ๒๐-๒๑) ด้วยปรากฏว่าได้สร้างพระศรีรัตนมหาธาตุไว้ อยู่ในวัดมหาธาตุตราบเท่าทุกวันนี้ พระศรีรัตนมหาธาตุสรา้ งเป็นแบบปรางค์ใหญ่ มีปรางค์เล็กต้งั อยูด่ ้านขา้ ง และดา้ น หลงั รวม ๓ ปรางค์ ส่วนด้านหน้ามีปรางคเ์ ลก็ อีก ๒ ปรางค์ แตถ่ ูกเปล่ยี นแปลงเป็น หอระฆังรูปเจดีย์ไว้ทั้งสององค์ ปัจจุบันนี้ได้หักพังไปแล้วทั้งสององค์ ปรางค์ใหญ่ สร้างลักษณะคล้ายพระปรางค์ ๓ ยอด จังหวัดลพบุรี โดยสร้างด้วยศิลาแลง (ในยุค ทวารวดี) เทปูนสูงจากพื้นดินถึงยอดประมาณ ๓๕ เมตร ตั้งอยู่บนฐาน ๔ เหลี่ยม มีบันไดสำ�หรับขึ้นสอู่ งคป์ รางคด์ ้านทิศตะวันออก เปน็ บนั ไดทางขนึ้ ลงทางเดยี วกนั







ประดิษฐานพระพุทธรูป การบรรจุ พระบรมสารรี กิ ธาตุ ยคุ โบราณนยิ มการฝงั ฉะนั้นพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ ณ ปรางค์ปัจจุบัน จึงบรรจุอยู่ที่ฐานปรางค์ สว่ นบน แลว้ ประดิษฐานพระพทุ ธรูปไวบ้ น ปากหลมุ ทบี่ รรจุหลกั ฐาน









ผนงั ภายในองคพ์ ระปรางค์ทกุ ด้าน มีภาพจติ รกรรมรปู อดีตพระพทุ ธเจ้า สนั นษิ ฐานวา่ เขยี นขึ้นในสมยั เดยี วกันกับการสร้างองคพ์ ระปรางค์

วหิ ารหลวง สร้าง ณ ตำ�แหนง่ ที่เปน็ วหิ ารทวารวดี และปรางค์เขมรเดมิ ความยาว ๙ ห้อง มีมุขเด็จ (มขุ เด็ด) มีบันไดขึ้น ๒ ขา้ งของมุขเด็จความยาว ๙ ห้อง วหิ าร ๙ หอ้ ง เรียกเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปปูนปั้นสมัยอยุธยาตอนต้น เรียกพระมงคลบุรี พระศรนี คร์ ศลิ ปะอยุธยาตอนต้น บา้ งก็เรียกอทู่ องยคุ หลัง อู่ทองหน้าหนุ่ม บ้างก็ เรยี กหนั หลงั ใหก้ ัน นอกจากเป็นท่ีสกั การะประจำ�เมอื งแล้วยังขออาราธนาใหช้ ว่ ย ระวังหน้าระวงั หลังตามความเช่ือของคนในสมัยนั้น



พระประจำ�เมอื ง พระประจำ�เมืองยุคอยุธยา พระพุทธรูปองค์ที่หันหน้าไปทิศตะวันออกเรียกพระมงคลบุรี เป็น พระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะอยุธยาตอนต้น พุทธลักษณะพระพักตร์สุโขทัย พระองค์ยาว พระชาณุสั้น (ตัวยาวเข่าสั้น) เป็นเอกลักษณ์ของพระอู่ทองยุคหลัง ขนาดหน้าตักกว้าง ๘ ศอก ๑ คืบ และอีกองค์ หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเรียกพระศรีนัคร์ ซึ่งประดิษฐาน ณ พระวิหารหลวง โดยหันหลังให้กัน ตามความเชื่อของคนสมัยอยุธยา เมื่อสร้างบ้านสร้างเมือง ก็จะสร้างพุทธสถาน เพื่อประดิษฐาน พระพุทธปฏิมาสำ�คัญสำ�หรับสักการะบูชาประจำ�เมือง ขณะเดียวกันก็ขออานุภาพแห่งพระปฏิมานั้น ช่วยปกปักรักษาเมืองด้วย



วิหารราย วหิ ารราย ต้งั อยู่หนา้ ปรางค์นอกระเบยี งคดมี ๔ หลังเป็นท่ีเก็บพระพทุ ธรูปประธาน ประจำ�โบสถ์ร้างเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นบ้างเป็นพระพุทธรูป สร้างด้วยศิลาแลงอยุธยา สันนิษฐานว่า นำ�มาจากโบสถ์ร้างวัดอุทัยวัดท่าพระทองวัดโพธิ์เขียวและวัดตารอด



กำ�แพงดา้ นหลังพระปรางค์ ใช้อฐิ ที่สรา้ งขึ้นในสมยั อยธุ ยา

บ่อผสมปนู ลกั ษณะเปน็ บอ่ ยาวรปู ทรงสีเ่ หลย่ี มผนื ผา้ ใช้อฐิ เพยี งช้ันเดียวก่อเรยี งในแนวต้ัง ด้านบนผายกว้าง ผิวอิฐด้านในมีคราบปูนเกาะติดอยู่พบอยู่ข้างแนวโบราณสถาน และรอบวิหารหลวงหลายบ่อ ในระดับพื้นที่แตก ตา่ งกนั สนั นิษฐานว่า บ่อผสมปนู น้ีใช้ในสมัยอยุธยา ท่ีมีการบรู ณะซ่อมแซมวหิ ารหลวงถึง ๓ คร้ัง

แท่นถอื น้ำ�สาบาน แท่นถือน้ำ�สาบาน เป็นแทนตัง้ เครอื่ งสังเวยในพิธีถือนำ้ �พิพัฒนส์ ัตยา (น้ำ�สาบาน) ประจำ�เมืองเปน็ แทน่ รูปยาวตาม (แท่นบูชาจะยาวขวางแทน่ ต้งั เคร่ืองสงั เวยจะยาวตาม) ตั้งอยู่ตรงประตูโคปุระด้านในหน้าวิหารหลวงออกไประหว่างวิหารรายทั้ง ๒ แท่นนี้ บรู ณะข้นึ เป็นคร้งั ที่ ๓ (พ. ศ. ๒๕๔๒)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook