Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลวงพ่อวัดไร่ขิง

หลวงพ่อวัดไร่ขิง

Published by ห้องสมุดประชาชน, 2021-03-10 07:36:24

Description: หลวงพ่อวัดไร่ขิง

Search

Read the Text Version

ประวัติหลวงพ่อวดั ไรข่ ิง ประวัติหลวงพ่อวดั ไร่ขงิ นับตั้งแต่เร่ิมสร้างกรุงรัตนโกสินทร์เม่ือปี พ.ศ. 2325 เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช รัชกาลท่ี 1 องค์ปฐมราชวงศ์จักรี พระองค์ได้อัญเชิญ พระพุทธรูปสาคัญจากหัวเมืองฝ่ายเหนือเข้ามาประดิษฐานไว้ที่ กรุงเทพมหานคร เป็นจานวนมากเช่น พระศาสดา พระชินสีห์ และพระศรีศากยมุนี เป็นต้น ซึ่งการอัญเชิญพระพุทธรูปสาคัญก็ยังมี ต่อมาจนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 6 ท่ีได้อัญเชิญพระเศียร พระหัตถ์ และพระบาทของพระพุทธรูปสาริด จากเมืองศรีสัชนาลัย มาบูรณะต่อเติมจนครบสมบูรณ์ มีลักษณะเป็น พระพุทธรูปปางห้ามญาติ โปรดเกล้าฯ ให้ถวายพระนามพระพุทธรูป องคน์ ี้ว่า “พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอนิ ทราทติ ยธ์ รรมโมภาส มหาวชิราวุธ ราชปูชนียบพิตร” และได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ท่ีซุ้ม พระวิหาร ทิศเหนือขององค์พระปฐมเจดีย์ เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2457 จนกลายเป็นสง่ิ ศกั ด์ิสิทธิ์ค่บู า้ นคู่เมอื งนครปฐมสบื มา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีพระพุทธรูปประจาเมืองที่สาคัญอยู่หลาย องค์ เช่น พระมงคลบพิตร หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง และพระพุทธรูป ทรงเคร่ืองภายในพระอุโบสถวัดหน้าพระเมรุ เป็นต้น ด้วยเหตุน้ีจึงมี การอัญเชญิ พระพุทธรูปทสี่ าคญั จากกรุงเกา่ บางองค์เขา้ มาประดิษฐาน

ไว้ที่กรุงเทพมหานคร เช่นกัน ได้แก่ หุ่นแกนของพระอัษฐารสจากวัด ศรีสรรเพชญ มาบรรจุไว้ภายในองค์พระเจดีย์สรรเพชญดาญาณ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพมหานคร ส่วนองค์หลวงพ่อ วัดไร่ขิงก็เช่นเดียวกัน สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ได้อัญเชิญมาจาก วัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อเริ่มสร้าง พระอุโบสถ เม่ือปีกุน พุทธศักราช 2394 ตรงกับต้นสมัยรัชกาลของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี และได้ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถวัดไร่ขิง พระอารามหลวง มานานถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2560) รวมนบั ได้ 167 ปี หลวงพ่อวดั ไร่ขิงเป็นพระพทุ ธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 น้ิวเศษ สูง 4 ศอก 16 น้ิวเศษ ประดิษฐานอยู่บนฐาน ชุกชี 5 ช้ัน เบ้ืองหน้ามีผ้าทิพย์ปูทอดลงมา องค์หลวงพ่อ วัดไร่ขิง ประดิษฐานเป็นพุทธประธานอยู่ภายในพระอุโบสถ หันพระพักตร์ไป ทางทิศอุดร (เหนือ) ซึ่งหน้าวัดมีแม่น้านครชัยศรี หรือแม่น้าท่าจีนไหล ผ่าน จากหนังสือประวัติของวัดไร่ขิง พระอารามหลวงได้กล่าวไว้ว่า สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ (พุก) ได้อญั เชิญมาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร โดย นาล่องมาทางน้า ด้วยการทาแพไม้ไผ่ หรือที่เรียกกันว่าแพลูกบวบ รองรับองค์พระปฎิมากร เม่ือถึงหน้าวัดไร่ขิง จึงได้อัญเชิญข้ึน ประดษิ ฐานไว้ภายในพระอุโบสถ ซ่งึ ตรงกับวันพระข้ึน 15 ค่า เดือน 5 และเป็นวันสงกรานต์พอดี จึงมีประชาชนมาชุมนุมกันมาก ในขณะที่ องค์หลวงพ่อขึ้นจากแพสู่ปะราพิธีน้ัน เกิดอัศจรรย์แสงแดดท่ีแผดจ้า กลับพลนั หายไป ความรอ้ นระอใุ นวันสงกรานตก์ บ็ ังเกดิ มเี มฆดามืดทะมนึ

ลมป่ันป่วน ฟ้าคะนองและบันดาลให้มีฝนโปรยลงมา ทาให้เกิดความ เย็นฉา่ และเกิดความปิติยินดีกันทั่วหน้า ผู้ทีม่ าต่างก็พากันจิตอธิษฐาน เป็นอันเดียวกันว่า “หลวงพ่อจักทาให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ดบั ความร้อนรา้ ยคลายความทกุ ขใ์ หห้ มดไป ดุจสายฝนทีเ่ มทนีดลให้ชุ่ม ฉ่า เจริญงอกงามดว้ ยธญั ญาหาร ฉะนัน้ ” กล่าวโดยสรุป องค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 น้ิว เศษ สูง 4 ศอก 16 น้ิวเศษ ประดิษฐานอยู่บนฐานอยู่บนฐานชุกชี 5 ช้ัน เบ้ืองหน้าผ้าทิพย์ปูทอด ลงมาองค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ภายใน อุโบสถ หันพระพักตร์ไปทางทิศอุดร (ทิศเหนือ) ซ่ึงหน้าวัดมีแม่น้า นครชัยศรีหรือแม่น้าท่าจีนไหลผ่าน จากหนังสือประวัติของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ได้อัญเชิญ มาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร โดยนาล่องมาทางน้าด้วยการทาแพไม้ไผ่ หรือท่ีเรียกกันว่าแพลูกบวบรองรับองค์พระปฏิมากร เม่ือถึงหน้า วัดไร่ขิง จึงได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ภายในอุโบสถ ตรงกับ วนั พระขึ้น 15 คา่ เดือน 5 ซ่ึงเป็นวนั สงกรานต์พอดี

ความสาคญั ของหลวงพ่อวัดไรข่ ิง ความเชือ่ ความศรทั ธา ความศกั ดสิ์ ิทธ์ิ ของหลวงพอ่ วัดไรข่ งิ หลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัด นครปฐมมาเป็นระยะ เวลาอนั ยาวนาน มีความเชื่อเร่ืองความศักดิ์สิทธ์ิ ของหลวงพอ่ วัดไรข่ งิ ดงั น้ี ชาวไร่ขิงมีความเช่ือว่า “ถ้ายกลูกให้หลวงพ่อวัดไร่ขิงแล้ว จะทา ให้เป็นเด็กเล้ียงง่าย มีสุขภาพแข็งแรง เติบโตเร็ว ว่านอนสอนง่าย เป็นเจ้าคนนายคน” อีกท้ังถ้าจะทาพิธีกรรมใด ๆ แก่เด็กก็จาเป็นต้อง บอกกล่าวแก่หลวงพ่อให้ทราบก่อน เพ่ือเป็นการขออนุญาต ในการทาพิธนี น้ั ๆ เช่น การบวช เปน็ ต้น นอกจากน้ี ชาวไร่ขิงยังมีความเชื่อว่า “หากบ้านใดมีการจัดงาน บุญ เช่น งานบวช งานแต่งงาน เจ้าของงานจะต้องบอกกล่าวหลวงพ่อ วัดไร่ขิง” ด้วยการเตรียมเคร่ืองเซ่นคาวหวาน ตั้งโต๊ะกลางแจ้ง วางหมอนอิง 1 ใบ สีใดก็ได้ ยกเว้นสีดาไว้บนโตะ๊ พร้อมกางร่มไว้ท่ีโต๊ะ จากน้ันเจ้าของงานจะจุดธูป กล่าวบอกแก่หลวงพ่อวัดไร่ขิง พิธีกรรม ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นความเช่ือท่ีว่า ชาวไร่ขิงทุกคนถือว่าตนเอง เป็นลูกของหลวงพ่อวัดไร่ขิง หากจะทาการงานมงคลใดจะต้องบอก กล่าวเพือ่ ความเป็นสิริมงคลแกง่ าน

ความศักดิ์สิทธ์ิของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ไม่เพียงแต่ชาวไร่ขิงเท่านั้น ที่มีความศรัทธา เลื่อมใส ผู้คนจากท่ัวสารทิศต่างมากราบไหว้ขอพร อธิษฐานขอให้ได้ดังสิ่งที่ปรารถนา หรือที่เรียกว่าเป็นการบนบานศาล กล่าว เม่ือได้รับพรจากหลวงพ่อแล้วสมปรารถนา ก็จะนาส่ิงของมา แก้บน ได้แก่ ประทัด ด้วยความเชื่อว่าจะให้มีชื่อเสียงดังกึกก้อง ละครยก ละครรา เพ่ือให้หลวงพ่อดูสนุกสนาน ว่าว เพ่ือให้ชีวิตมีความ สูงส่ง และพวงมาลัย ที่สาคัญมีความเช่ือว่าเรื่องท่ีห้ามบนบาน ศาลกล่าว ก็คือ เรื่องให้ไม่ถูกเกณฑ์ทหารกับเรื่องขอบุตร เพราะ หลวงพ่อท่านชอบให้คนเป็นทหาร เพื่อจะได้ปกป้องรักษาบ้านเมือง และคนท่ีเป็นทหารก็เป็นเสมือนลูกหลานของท่าน ดังนั้นใครท่ีมาขอ ไม่ให้ถูกเกณฑท์ หารเป็นต้องถกู เกณฑ์ทุกราย สาหรับคนท่มี าขอบุตร ก็ มักจะได้บุตรที่มีอาการไม่ครบ 32 เนื่องจากว่าท่านได้ส่งลูกหลานซ่ึง เป็นทหารท่ีบาดเจ็บล้มตายมาให้น่ันเอง เรื่องนี้เป็นเพียงเร่ืองเล่าสืบ ต่อมาเทา่ นนั้

กล่าวโดยสรุป ความเชื่อเร่ืองความศักด์ิสิทธ์ิของหลวงพ่อ วัดไรข่ ิงดงั นี้ 1 ถ้ายกลูกให้หลวงพ่อวัดไร่ขิงแล้ว จะทาให้เป็นเด็กเลี้ยงง่าย มีสขุ ภาพแข็งแรง เตบิ โตเรว็ ว่านอนสอนงา่ ย เป็นเจ้าคน นายคน 2 หากบ้านใดมีการจัดงานบุญ เช่น งานบวช งานแต่งงาน เจา้ ของงานจะต้องบอกกล่าวหลวงพ่อวัดไร่ขิง 3 การอธิษฐานขอให้ได้ดังส่ิงท่ีปรารถนา หรือท่ีเรียกว่าเป็นการ บนบานศาลกล่าว เม่ือได้รับพรจากหลวงพ่อแล้วสมปรารถนา ก็จะนา สิง่ ของมาแกบ้ น 4 หลวงพ่อท่านชอบให้คนเป็นทหาร เพื่อจะได้ปกป้องรักษา บา้ นเมอื ง และคนท่ีเป็นทหารก็เปน็ เสมอื นลูกหลานของทา่ น ดังนั้นใคร ทีม่ าขอไมใ่ หถ้ กู เกณฑท์ หารเปน็ ตอ้ งถกู เกณฑ์ทกุ ราย

คาบชู าหลวงพ่อวดั ไรข่ งิ (เรมิ่ ต้ัง “นะโมฯ….กอ่ น 3 จบ) “กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสาวา มะเหสักขายะ เทวะตายะ อะภปิ าถติ ัง อทิ ธปิ าฏหิ ารกิ ัง มงั คะละจินตารามะ พทุ ธะปาฏมิ ากะรงั ปูชามิหัง ยาวะชวี ญั จะ สุกัมมโิ ก สขุ ะปัตถิตายะ (สาธุ) กล่าวโดยสรุป ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ไม่เพียงแต่ชาวไร่ขิงเท่านั้นที่มีความศรัทธา เล่ือมใส ผู้คนจากทั่ว สารทิศต่างมากราบไหว้ขอพรอธิษฐานขอให้ได้ดังสิ่งที่ปรารถนา โดยกอ่ นการขอพรอธิษฐาน ผู้ที่มากราบไหว้จะมกี ารกลา่ วคาบชู าดัง ตัวอย่างข้างต้น

ตานานหลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อวัดไร่ขิง มีประวัติจากคาบอกเล่าหรือท่ีเรียกว่า “มุขปาฐะ” สบื ต่อกันมาหลาย ตานาน กล่าวคอื ตานานท่ี 1 ครั้งเม่ือสมเด็จพระพฒุ าจารย์ (พุก) ชาวเมืองนครชัย ศรี ได้มาตรวจเย่ียมวัดในเขตอาเภอสามพราน ได้เข้าไปในพระอุโบสถวัด ไร่ขิง พระอารามหลวง หลังจากกราบพระประธานแล้วมีความเห็นว่า พระประธานมีขนาดเล็กเกินไป จึงบอกให้ท่านเจ้าอาวาสพร้อมชาวบ้าน ไปอญั เชิญมาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยวาง ลงบนแพไม้ไผ่ และนาล่องมาตามลาน้า และอัญเชิญข้ึนประดิษฐานใน พระอุโบสถ ตรงกบั วนั พระขนึ้ 15 คา่ เดือน 5 ซงึ่ เปน็ วันสงกรานต์พอดี ตานานท่ี 2 วัดไร่ขิง พระอารามหลวง สร้างข้ึนเม่ือปีกุน พุทธศักราช 2394 ตรงกับปีสุดท้ายในรัชกาลท่ี 3 ต้นปีในรัชกาลที่ 4 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ซึ่งเป็นชาวนครชัยศรี ในขณะน้ันดารงสมณ ศักด์ิพระราชาคณะท่ี “พระธรรมราชานุวัตร” ปกครองอยู่ท่ีวัดศาลาปูน วรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กลับมาสร้างวัดท่ีบ้านเกิดของตนที่ ไร่ขิง เมื่อสร้างพระอุโบสถ วจึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปสาคัญองค์หน่ึงจาก กรุงเก่ามาเพื่อประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ แต่การสร้างยังไม่แล้วเสร็จ สมบูรณ์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ได้ถึงแก่มรณภาพก่อน งานท่ี คงเหลืออยู่ พระธรรม ราชานุวัตร (อาจ จนฺทโชโต) หลานชายของท่าน จึงดาเนินงานต่อจนเรียบร้อย และบูรณะดูแลมาโดยตลอดจนถึงแก่ มรณภาพ

ตานานที่ 3 เปน็ เรอ่ื งเล่าสืบต่อกนั มาเกย่ี วกับมีพระพุทธรูปลอยน้า มา 5 องค์ก็มี 3 องค์ ก็มี โดยเฉพาะในเรื่องท่ีเล่าว่ามี 5 องค์น้ันตรงกับ คาว่า “ปัญจภาคี ปาฎิหาริย์กสินธ์ุโน” ซ่ึงได้เล่าเป็นนิทานว่า ในกาลครั้งหน่ึงมีพ่ีน้องชาวเมืองเหนือ 5 คน ได้บวชเป็นพระภิกษุ ในพระพุทธศาสนา จนสาเร็จเป็นพระอริยบุคคลช้ันโสดาบันมีฤทธ์ิอานาจ ทางจิตมาก ได้พร้อมใจกันตั้งสัจอธิษฐานว่า เกิดมาชาตินี้จะขอบาเพ็ญ บารมีช่วยให้สัตว์โลกได้พ้นทุกข์ แม้จะตายไปแล้วก็จะขอสร้างบารมี ช่วยสัตว์โลกให้ได้พ้นทุกข์ต่อไปจนกว่าจะถึงพระนิพพานครั้นพระ อริยบุคคลทั้ง 5 องค์ได้ดับขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าไปสถิตในพระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ จะมีความปรารถนาท่ีจะช่วยคนทางเมืองใต้ที่อยู่ริมแม่น้าให้ได้พ้น ทุกข์ จึงได้พากันลอยน้าลงมาตามลาแม่น้าทั้ง 5 สาย เม่ือชาวบ้านตาม เมืองที่อยู่ริมแม่น้าเห็น จึงได้อัญเชิญและประดิษฐานไว้ความวัดต่าง ๆ มดี ังนี้ พระพุทธรูปองค์ท่ี 1 ลอยไปตามแม่น้านครชัยศรี (ท่าจีน) ขน้ึ สถิตทวี่ ัดไร่ขิง เมือง นครชยั ศรี ขนานนามวา่ “หลวงพ่อวัดไร่ขิง” พระพุทธรูปองค์ท่ี 2 ลอยไปตามแม่น้าเจ้าพระยา ข้ึนสถิต ทีว่ ดั บางพลี ขนานนามว่า “หลวงพ่อโตวัดบางพล”ี พระพุทธรูปองค์ท่ี 3 ลอยไปตามแม่น้าเพชรบุรี ข้ึนสถิต ทีว่ ดั เขาตะเครา เมอื งเพชรบุรี ขนานนามว่า “หลวงพอ่ วดั เขาตะเครา” พระพุทธรูปองค์ที่ 4 ลอยไปตามแม่น้าบางปะกง ขึ้นสถิต ท่วี ดั หงส์ เมืองแปดรว้ิ จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา ขนานนามวา่ “หลวงพอ่ โสธร” พระพุทธรูปองค์ที่ 5 ลอยไปตามแม่น้าแม่กลอง ขึ้นสถิต ท่วี ดั บา้ นแหลม เมืองแมก่ ลอง ขนานนามว่า “หลวงพ่อวดั บา้ นแหลม”

หลวงพ่อวดั ไรข่ งิ ก่อนปฏิสงั ขรณ์ องคห์ ลวงพอ่ วัดไร่ขิงในปัจจุบัน

กล่าวโดยสรุป (ตานานที่ 1) อัญเชิญมาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา โดยวางลงบนแพไม้ไผ่ และนาล่องมาตามลาน้า และอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพระอุโบสถ ตรงกับวันพระข้ึน 15 ค่า เดือน 5 ซ่ึงเป็นวันสงกรานต์พอดี (ตานานท่ี 2) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ซึ่งเป็นชาวนครชัยศรี ปกครองอยู่ท่ีวัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ได้กลับมาสร้างวัดท่ีบ้านเกิดของตนที่ไร่ขิง เมื่อสร้าง พระอุโบสถ จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปสาคัญองค์หน่ึงจากกรุงเก่ามา เพื่อประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ และ (ตานานที่ 3) มีพ่ีน้อง ชาวเมืองเหนือ 5 คน ได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา จนสาเร็จ เป็นพระอริยบุคคลช้ันโสดาบันมีฤทธ์ิอานาจทางจิตมาก ได้พร้อมใจกันตั้ง สัจอธิษฐานว่า เกิดมาชาติน้ีจะขอบาเพ็ญบารมีช่วยให้สัตว์โลกได้พน้ ทุกข์ แม้จะตายไปแล้วก็จะขอสรา้ งบารมชี ว่ ยสัตวโ์ ลก ครั้นพระอริยบุคคลท้ัง 5 องค์ได้ดับขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าไปสถิตในพระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ จงึ ได้พากัน ลอยน้าลงมาตามลาแม่น้าทั้ง 5 สาย เมื่อชาวบ้านตามเมืองท่ีติดอยู่ รมิ แมน่ า้ เห็น จงึ ได้อัญเชญิ และประดิษฐานไว้ความวดั ตา่ ง ๆ

บรรณานกุ รม กศน.อาเภอสามพราน. (ม.ป.ป.). หนังสอื เรียนสาระการพฒั นาสังคม รายวิชา สค 33136 หลวงพอ่ วัดไร่ขงิ มิง่ มงคล คนสามพราน ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย. (ม.ป.พ.).


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook