Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภูมิปัญญาเมษายน จริง (ซ่อมแซม,,,,,,,)

ภูมิปัญญาเมษายน จริง (ซ่อมแซม,,,,,,,)

Description: ภูมิปัญญาเมษายน จริง (ซ่อมแซม,,,,,,,)

Search

Read the Text Version

ทำเนยี บแหลง่ เรยี นรู้ อำเภอสวุ รรณคหู ำ จงั หวดั หนองบวั ลำภู ประจำเดือน เมษำยน ๒๕๖๓ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอสุวรรณคหู า สานักงาน กศน. จังหวัดหนองบัวลาภู สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คำนำ สารสนเทศทาเนยี บแหล่งเรียนรู้ อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบวั ลาภู ฉบับ นี้ จดั ทาขน้ึ เพื่อรวบรวมแหลง่ เรยี นรู้ เชน่ แหล่งเรยี นรู้ทางการเกษตร ปราชญ์ชาวบา้ น ภูมิปัญญาท้องถน่ิ ในเขตอาเภอสวุ รรณคหู า จังหวดั หนองบัวลาภู เพ่ือเป็นแหล่งรวบรวม ขององค์ความรู้ท่ีหลากหลาย พร้อมที่จะให้ผู้สนใจเข้าไปศึกษาค้นคว้าด้วยกระบวนการ จดั การเรียนรทู้ ีแ่ ตกต่างกันของแต่ละบุคคล เป็นการส่งเสริมการเรยี นรู้ตลอดชีวติ เป็น แหล่งเชื่อโยงใหส้ ถานศึกษาและชมุ ชนมีความสมั พนั ธใ์ กล้ชดิ กัน การจัดทาข้อมูลแหล่งเรียนรู้ อาเภอสุวรรณคูหา จังหวดั หนองบัวลาภู ในครั้งน้ี ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากชุมชน จึงขอขอบคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสน้ี และ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสารสนเทศทาเนียบแหล่งเรียนรู้นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อบุคคล หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการดาเนินงานให้มีประสิทธิภาพและเกิด ประสิทธผิ ลยิ่งขึน้ ไป หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอสวุ รรณคหู า กศน.อาเภอสวุ รรณคหู า เมษายน 2563

สำรบญั หนา้ 4 ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ ตาบลสวุ รรณคหู า 8 ภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ ตาบลดงมะไฟ 12 ภูมิปัญญาท้องถน่ิ ตาบลนาด่าน 16 ภูมิปัญญาท้องถ่ินตาบลกดุ ผ้ึง 25 ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ ตาบลบุญทนั 29 ภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ ตาบลบ้านโคก 33 ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ตาบลนาดี 39 ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ ตาบลนาสี

ประวตั ิและผลงานครภู ูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ต.สวุ รรณคูหา อ.สวุ รรณคหู า จ.หนองบัวลาภู ดา้ นอุตสาหกรรม สาขาชา่ งไม้ นายสมศกั ด์ิ กองพล



ประวตั ิและผลงานครูภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ ต.สุวรรณคูหา อ.สวุ รรณคหู า จ.หนองบวั ลาภู ดา้ นอุตสาหกรรม สาขาชา่ งไม้ .1ประวตั ิและผลงาน ชื่อปราชญ์ชาวบ้าน นายสมศกั ดิ์ กองพล องคค์ วามรู้ของแหล่งเรียนรู้ มคี วามรู้ความสามารถด้านการแปรรไู้ มท้ กุ ชนดิ เชน่ การสร้างบา้ นเรือนไทย งานเฟอร์นิเจอร์ เก่าอี้ โตะ๊ ตู้ เตียง สถานที่ตง้ั บ้าน หนองกงุ เหนือ หมูท่ ี่ 7 ตาบลสุวรรณคูหา อาเภอสุวรรณคูหา จังหวดั หนองบวั ลาภู เบอร์โทรศัพท์ 0645327537 .2องคค์ วามรแู้ ละความเชย่ี วชาญ มคี วามรคู้ วามสามารถด้านการแปรรไู้ มท้ กุ ชนดิ เชน่ การสร้างบา้ นเรือนไทย งานเฟอรน์ ิเจอร์ เก่าอ้ี โตะ๊ ตู้ เตยี ง ต้องมีความคดิ สร้างสรรค์ เพ่ือให้ แปลก จากคนอ่นื เพ่อื ใหเ้ ป็นจุดสนใจของลูกคา้ และตอ้ งควบคุมกระบวนการผลิตทุกขนั้ ตอนให้ ไดม้ าตรฐาน วสั ดตุ กแตง่ ตอ้ งตดิ แนน่ ไมห่ ลุดได้งา่ ย .3การถา่ ยทอดความรู้และความเชี่ยวชาญ ถ่ายทอดความรูเ้ ร่ืองมีความรคู้ วามสามารถดา้ นการแปรรูไ้ ม้ทกุ ชนิด เช่น การ สรา้ งบา้ นเรอื นไทย งานเฟอรน์ ิเจอร์ เกา่ อี้ โตะ๊ ตู้ เตียง ต้องมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ เพ่ือให้ แปลกจากคนอ่นื เพอ่ื ใหเ้ ป็นจดุ สนใจของลกู ค้าและต้องควบคมุ กระบวนการ ผลิตทกุ ขน้ั ตอนใหไ้ ดม้ าตรฐาน วสั ดตุ กแตง่ ตอ้ งติดแน่น ไมห่ ลดุ ได้งา่ ย .4ลักษณะของเครอื ข่ายและการสร้างเครอื ข่าย มคี วามรคู้ วามสามารถด้านการแปรร้ไู ม้ ทกุ ชนดิ เชน่ การสร้างบ้านเรือนไทย งานเฟอรน์ ิเจอร์ เก่าอี้ โต๊ะ ตู้ เตยี ง ตอ้ งมคี วามคิดสร้างสรรค์ เพือ่ ให้ แปลกจากคนอน่ื เพอื่ ให้เป็นจุดสนใจของลูกคา้ และต้องควบคมุ กระบวนการผลิตทุก ขนั้ ตอนให้ได้มาตรฐาน วสั ดตุ กแตง่ ตอ้ งติดแนน่ ไมห่ ลดุ ได้ง่าย และรบั สอนและให้ ความรู้สาหรบั กลุ่ม หรอื บุคคลที่มคี วามสนใจในการทางานเก่ยี วกบั ชา่ งไมม่ าศกึ ษา ค้นควา้ และมาเรยี นไดเ้ ลยไม่มีคา้ ใช้จา่ ย

.5ผลงานทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อชมุ ชนและสงั คม ผลิตสว่ นใหญ่ก็จะเป็นการสรา้ งบ้านเรอื นไทย งานเฟอรน์ เิ จอร์ เก่าอ้ี โต๊ะ ตู้ เตยี ง ตอ้ งมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ เพอื่ ให้ แปลกจากคนอน่ื เพือ่ ให้เป็นจุดสนใจของ ลูกค้าและต้องควบคุมกระบวนการผลิตทกุ ขัน้ ตอนให้ได้มาตรฐาน วัสดตุ กแต่งตอ้ งตดิ แนน่ ไมห่ ลดุ ได้ง่าย และรบั สอนและให้ความรสู้ าหรับกลุม่ หรอื บคุ คลที่มคี วาม สนใจในการทางานเกย่ี วกับช่างไม่มาศกึ ษาค้นควา้ และมาเรยี นไดเ้ ลยไม่มีค้าใช้จา่ ย .6รางวัลหรอื เกียรติคุณทไ่ี ดร้ ับ กลมุ่ วสิ าหกิจชมุ ชน ไดเ้ ปน็ กลุ่มการแปรรูปจากตอ่ ไมม้ ากอ่ น ต่อมาได้จดั ต้ังกล่มุ วสิ าหกจิ ชมุ ชนตามพระราชบัญญตั ิส่งเสริมวิสาหกจิ ชมุ ชน พ .ศ.2548 ขน้ึ เพอ่ื ร่วมกนั ผลิตสินค้าออกจาหนา่ ยให้ทันตามความต้องการ คือ “กลุ่มการแปรรปู จากตอ่ ไม้” สินค้าสว่ นใหญด่ ว้ ยการทอมอื ไดผ้ า่ นมาตรฐานชุมชน ผลิตภัณง์บางอย่างมี ).มผช( สามารถเพิ่มเติมหัวข้ออ่นื ส **หมายเหตุ**ลูกค้าสง่ั ึ้อื เปน็ จานวนมากและเพิม่ ข้นึ เร่อื ย ส ไดต้ ามความเหมาะสม

ประวตั ิและผลงานครภู มู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ ต.ดงมะไฟ อ.สวุ รรณคหู า จ.หนองบัวลาภู ด้านการเกษตร สาขาเกษตรกรรม นายเออื้ น จันทรท์ ิพย์

ข้นั ตอนการทา ข้นั ตอนการทา ตวั อย่างขา้ วฮางแตล่ ะชนิด

ประวตั แิ ละผลงานครภู ูมิปญั ญาท้องถน่ิ ต.ดงมะไฟ อ.สวุ รรณคหู า จ.หนองบัวลาภู ดา้ น การเกษตร สาขาเกษตรกรรม 1. ประวตั ิและผลงาน การรวมกลุ่มทาข้าวฮางของนายเอือ้ น จนั ทรท์ พิ ย์ ทาไห้ชาวบ้านมีงานทาและ เพิ่มมลู ค่าของขา้ วให้สงู ขึ้น ตอนทางกลุ่มนม้ี กี ารพัฒนาทาเปน็ ข้าวฮางงอกโดยนาขา้ วเจ้า หอมมะลปิ ลอดสาร ที่มีกลน่ิ หอม และวติ ามินสงู ช่วยในการบารุงรา่ งกายไดส้ ารพดั นายเอ้ือน จนั ทรท์ พิ ย์ ประธานกลุ่มทาข้าวฮางงอกบ้านวังหนิ ึา ถือเป็นการฟน้ื ฟู วฒั นธรรมเกา่ ส ท่มี มี าแตร่ ุน่ ปู่รุ่นย่า โดยจะนาขา้ วเปลอื กมาแชไ่ ว้ในนา้ ประมาณ 1-2 วนั นาข้ึนมาพกั ไว้ 2 วัน จากน้นั ก็นามานึ่ง และตากเอาไวใ้ หแ้ ห้ง แล้วนาไปตาดว้ ย ครกกระเดือ่ งึ่ึงจะไดเ้ มล็ดข้ )ครกมอง(าวสารสีเหลอื งทอง และจมูกขา้ วอยคู่ รบ เหตทุ ่ี ยังเป็นสเี หลอื งทองน้ันกเ็ พราะยงั มีวิตามนิ เหลืออยู่ครบโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ คอื จมูกข้าว .2 องคค์ วามรแู้ ละความเชย่ี วชาญ เป็นแหลง่ เรียนร้ใู นการแปลรูปขา้ วฮางงอก ขา้ วหอมนลิ ข้าวไรึเ์ บอรี่ ข้าว ฮางเปน็ ข้าวสารแปรรปู ทีผ่ ลิตข้นึ ตามกรรมวิธี ข้าวฮางงอกเปน็ ข้าวที่เพาะงอกจาก ขา้ วเปลือก จะมีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และมีกลน่ิ หอม และการทา ผงนา้ นมจากจมูกข้าวไวร้ ับประทานเพื่อสขุ ภาพ .3การถ่ายทอดความรู้และความเช่ียวชาญ เป็นศนู ยเ์ รยี นรเู้ รอื่ งของการทาข้าวฮางงอก การทาน้านมจกจมูกข้าว ขั้นตอนการทาข้าวฮางงอกของกล่มุ แม่บ้านโนนรงั นน้ั มีวธิ ีและข้นั ตอนดงั ต่อไปน้ี 1.การนาข้าวเปลือกมาบม่ พกั ไว้ 2 คืน 2.จากนน้ั นาไปแช่นา้ ประมาณ 2 วนั 3.และนาข้ึนมาพกั ไวอ้ กี 2 วัน เพอื่ กระตุน้ ใหเ้ กดิ การงอกของจมูกขา้ ว แล้วนาข้าวไป ตากใหแ้ ห้ง 2แดด 4. หลงั จากน้ันนาข้าวเปลือกที่ไดไ้ ปน่งึ ใช้เวลาในการนึ่งประมาณ 40 นาที โดยใช้ มวยนงึ่ ข้าวหรอื หมอ้ นึ่งความดัน

5. นาข้าวสกุ ที่นึ่งเสร็จใหม่ มาราดด้วยนา้ เย็นทนั ทีให้ท่ัว ทาึ้า 2 ครงั้ คือ ครั้งที่ 1 หลงั การนง่ึ เสร็จ ครั้งที่ 2 ห่างจากครัง้ ที่ 1 ประมาณ 20 นาที 6. นาข้าวนงึ่ ไปตากผง่ึ ลม แห้งพอประมาณ ข้อควรระวังไม่ควรนาตากแดด 7. การแปรรปู เปน็ กระบวนการสุดท้วยของการผลติ ขา้ วฮางงอก ึึง่ จะต้องอาศัยความ ชานาญมากเพอ่ื ไมใ่ หเ้ มลด็ ข้าวแตกหัก มวี ิธีการปฏิบตั ิ คอื ก*ารตาด้วยครก ครกตา( )มือ หรือครกกระเดย่ี ง 8. การคดั แยกเมล็ดขา้ ว เพอ่ื ความบรสิ ทุ ธ์ิ และให้ไดเ้ มล็ดท่สี วยงาม จะต้องมีการ คดั เลือกเมลด็ หกั และสง่ิ เจือปนออก 9. การบรรจุหีบห่อถ้าบรรจใุ นภาชนะธรรมดาเกบ็ รักษาไวใ้ นห้องอุณหภูมปิ กติ เกบ็ ได้ นาน 3 เดือน ถา้ บรรจรุ ะบบสญุ ญากาศ สามารถ คุณสมบัติของขา้ วฮางงอก คอื มสี ารอาหารต่างส สงู มาก โดยเฉพาะสาร GABA ึึ่ง ชว่ ยลดความดนั โลหิตและปรมิ าณคลอเรสเตอรอล มีสว่ นชว่ ยในการควบคมุ น้าหนกั และ ลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคอัลไึเมอร์ อกี ทง้ั มีธาตแุ มงกานีส ในปริมาณสงู ึ่ึงจะ ช่วยตอ่ ต้านอนุมูลอสิ ระอันเปน็ สาเหตุของโรคมะเรง็ นอกจากนัน้ ข้าวฮางงอกมีคา่ การ เปลี่ยนเป็นน้าตาลในกระแสเลือดต่าจึงเหมาะสาหรบั ผ้ปู ว่ ยโรค เบาหวาน และคื่อเป็น สารสื่อประสาททสี่ าคัญทีม่ นุษยจ์ าเป็นตอ้ งใช้ในการควบคุมระบบประสาทรวมทั้ง กลา้ มเนอื้ จุดเด่นของขา้ วฮางงอกนมิ่ อรอ่ ยใกลเ้ คียงข้าวขาว สามารถหงุ ไดเ้ หมอื นกบั ขา้ วขาวทั่วไป และมกี ลนิ่ หอมออ่ นสของเปลือกข้าว และได้สารอาหารจากจมกู ขา้ วและราข้าว 4งเครอื ข่ายและการสร้างเครือขา่ ยลกั ษณะขอ . เปน็ ศนู ยก์ ารเรียนท่ีรู้ ที่กศนตาบลดงมะไฟ และ องคก์ ารบริหารสว่ น. ตาบลดงมะไฟ เกษตรอาเภอสุวรรณคหู า เขา้ ไปใหก้ ารสนบั สนุน 5. ผลงานทีเ่ ป็นประโยชนต์ ่อชุมชนและสงั คม พนื้ ท่ี มาแปรผลงานท่เี ปน็ ประโยชนต์ ่อชมุ ชน คอื การรับึ้ือขา้ วท่ชี มุ ชนปลกู ใน รูปผ่านกระบวนการผลิตให้เปน็ ขา้ วฮางงอก เพือ่ เพ่มิ มูลค่าทางการผลิตใหก้ บั คนใน ชุมชนและคนในชุมชนไดม้ ีรายได้ลดค่าใช้จา่ ยในครวั เรอื น

ประวตั ิและผลงานครภู ูมิปญั ญาทอ้ งถนิ่ ตนาด่าน. อ.สวุ รรณคหู า จ.หนองบวั ลาภู ดา้ น อตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม สาขา การทอเส่ือกก นางพร อนุรักษ์ประชา สถานทีต่ งั้ บ้านสม้ ปอ่ ย บา้ นเลขท่ี 150 หมทู่ ี่ 2 ตาบลนาด่าน อาเภอสวุ รรณคูหา จงั หวัดหนองบัวลาภู



ประวตั ิและผลงานครูภูมิปัญญาท้องถน่ิ ตนาด่าน. อ.สวุ รรณคูหา จ.หนองบวั ลาภู ด้าน อตุ สาหกรรมและหัตถกรรม สาขา การทอเสอื่ กก 1. ประวัตแิ ละผลงาน นางพร อนรุ กั ษ์ประชา บ้านสม้ ป่อย บา้ นเลขท่ี 150 หมู่ 2 ตาบลนาด่าน อาเภอ สวุ รรณคหู า จังหวดั หนองบวั ลาภู 39270 จบการศึกษาสูงสุดระดบั ประถมศึกษา ผลงานของนางพร อนรุ ักษ์ประชาได้รับเชิญเป็นวิทยากร 2. องคค์ วามรแู้ ละความเชีย่ วชาญ นางพร อนรุ ักษป์ ระชา มีองค์ความรแู้ ละความเชี่ยวชาญ ทนี่ าไปถา่ ยทอดใหแ้ ก่ ผ้เู รยี น และผู้คนท่สี นใจ โดยใช้กระบวนการถา่ ยทอดความรู้ทห่ี ลากหลาย เช่น การ อธบิ าย การสาธติ และให้ผเู้ รียนฝึกปฏบิ ัตจิ รงิ อีกท้ังมีความรคู้ วามสามารถด้านการทอ เส่ือกก 3. การถ่ายทอดความรู้และความเชยี่ วชาญ นางพร อนรุ ักษป์ ระชา มีการถ่ายทอดความรแู้ ละความเชยี่ วชาญใหก้ ับชมุ ชนตา่ งส 4. ลกั ษณะของเครือข่ายและการสร้างเครอื ข่าย นางพร อนรุ ักษ์ประชา มเี ครือข่ายและมีวธิ กี ารสร้างเครือขา่ ยดงั นี้ - เครอื ขา่ ยภาครฐั และเอกชนประกอบดว้ ย - สานกั งานเกษตรจังหวดั - อาเภอ - สานกั งานพฒั นาชุมชนจงั หวัด - อาเภอ - ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั - อาเภอ - เทศบาลตาบล - กล่มุ เกษตรอาเภอ

วธิ ีการสรา้ งเครอื ข่าย นางพร อนุรกั ษ์ประชา มีวิธกี ารสร้างเครือข่าย โดยการเปน็ วทิ ยากรหลักสูตรต่างส เชน่ การทอเสื่อกกโดยการได้รับเชิญจากหนว่ ยงานตา่ งสทไ่ี ดร้ บั การประสานมา และได้ จดั ทาแผ่นพบั ประชาสมั พันธ์ แจกจา่ ยให้กบั เครอื ข่าย และประชาชนผูส้ นใจได้ศึกษา 5. ผลงานทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ ชุมชน นางพร อนรุ ักษ์ประชา มผี ลงานทเี่ ป็นประโยชนต์ ่อชุมชน โดยไดอ้ ทุ ิศตนในการเปน็ วทิ ยากรใหค้ วามรู้ให้แก่บุคคล/ชุมชน/หน่วยงาน เปน็ ตน้ มา 6. รางวัลหรอื เกียรตคิ ณุ ท่ไี ด้รบั นางพร อนุรกั ษป์ ระชา - ไดร้ บั เกยี รตคิ ณุ เปน็ วทิ ยากรการศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง

ประวัตแิ ละผลงานครูภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ ต.กุดผง้ึ อ.สวุ รรณคหู า จ.หนองบัวลาภู ด้าน เศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ สาขา ทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ ม นายสุริยัน ปลัดศรี

นายสรุ ยิ นั ปลดั ศรี ประวัติและผลงานครภู มู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น ต.กดุ ผึ้ง อ.สุวรรณคหู า จ.หนองบัวลาภู ด้านเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎใี หม่ สาขาทรัพยากรและส่งิ แวดลอ้ ม 1. ประวัตแิ ละผลงาน นายสรุ ิยัน ปลัดศรี ปัจจุบันนายสุริยัน ปลัดศรี เป็นผู้ใหญ่บ้านนาคาน้อย หมู่ที่ ตาบลกุดผ้งึ อาเภอ 8 สุวรรณคูหา จังหวดั หนองบัวลาภู เรยี นจบการศึกษาระดับัธยมศึกษาตอนปลายจากศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตาอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา มีผลงานการบริหารจัดการขยะในชุมชน เปน็ เวลา 3 ปี จนปัจจุบัน เรยี กว่า “ กองทนุ ฌาปนกจิ ขยะชุมชนนาคาน้อย” นายสุริยนั ปลดั ศรี เป็นบุคคลท่ีอุทิศตน เสียสละกาลังกาย กาลังทรพั ย์ในการเป็นวิทยากรให้ความรู้กับผู้สนใจ และหนว่ ยงานท่ใี ห้ความสนใจ นายสุริยัน ปลัดศรี มีแนวความคิด ว่า จากการข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ปริมาณขยะในปี ปัจจุบัน มีมากขึ้น นับว่าเพ่ิมข้ึนจากปีก่อนหน้าน้ีมาก โดย ทงั้ หมดถูกนาไปกาจัดอย่างถูกต้อง และไม่ได้ รับการกาจัดอย่างไม่ถูกต้อง ซ่ึงกลายเป็น ต้น เห ตุท่ี ส ร้า ง ปั ญ หา ให้ กั บ ชุ มช น แ ล ะ สิ่งแวดล้อมอย่างมาก ไม่ว่าจะทาให้เกิดควัน ห รื อ ม ล พิ ษ ท า ง อ า ก า ศ จ า ก ก า ร เ ผ า ข ย ะ กลางแจ้ง มีน้าเสียหรอื มลพิษทางน้าจากการที่ ขยะตกค้างไหลลงสู่แม่น้า ทาให้บรรยากาศไม่ น่าอยู่เนื่องจากมีขยะเกล่ือนพื้นและส่งกลิ่น เหม็น หรือแม้กระท่ังเป็นท่ีอยู่อาศัยของสัตว์ พ าห ะ น า โร ค เ ช่น หนู แม ลง วั น แล ะ แมลงสาบ ดังนั้นนายสุริยัน ปลัดศรีและชุมชนบ้านนาคาน้อย จึงได้จัดต้ังกิจกรรมหรือโครงการ กองทุน ฌาปนกิจขยะชมุ ชนนาคาน้อย เป็นการช่วยรณรงค์ให้ผคู้ นในชมุ ชนรจู้ กั คดั แยกขยะ และนาขยะมาใช้ประโยชน์ให้ มากที่สดุ ข้นึ เช่น การจัดหาสถานที่ทิ้งขยะแบบแยกประเภท การรณรงค์ลดใชโ้ ฟมและพลาสติก ศนู ยว์ ัสดรุ ไี ซเคิล ของชมุ ชน ธนาคารขยะรีไซเคิล ผ้าปา่ รไี ซเคลิ ขยะแลกไข่ และการผลิตเช้ือเพลงิ เขียว

ธนาคารขยะ คือ การซ้อื -ขายขยะภายในโรงเรียนหรอื ชุมชน มกี ระบวนการคล้ายกับธนาคารทัว่ ไป โดยให้ผู้ฝากนาขยะ รไี ซเคิลหรือของเก่ามาใหธ้ นาคารแทนเงนิ สด หลงั จากนั้นเจ้าหนา้ ท่กี ็จะคิดคานวณตามเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการได้ทาการ ตกลงไวก้ ับรา้ นรบั ซื้อของเกา่ จากนั้นก็แลกเปลีย่ นเป็นเงินเข้าบัญชขี องผฝู้ าก สว่ นขยะที่ธนาคารรับฝากมาก็จะทาการ คัดแยกและรวบรวมไวข้ ายให้กับซาเลง้ หรอื ร้านรบั ซอื้ ของเกา่ ตอ่ ไป กองทุนฌาปนกจิ ขยะชุมชนนาคานอ้ ย คือ การซอื้ -ขายขยะภายในชมุ ชนมกี ระบวนการคล้ายกับ ธนาคารทั่วไป โดยให้ผฝู้ ากนาขยะรีไซเคลิ หรอื ของเก่ามา ใหธ้ นาคารแทนเงนิ สด แตช่ มุ ชนนาคานอ้ ย เปลีย่ นจากเงนิ สดเป็นกองทนุ เพ่ือเป็นการกระตุน้ ให้คนในชมุ ชนมีสว่ น รว่ มในการแก้ไขปัญหาขยะกันมากข้ึน ทงั้ ยงั เปน็ การ ส่งเสรมิ ใหเ้ ยาวชนและคนในชุมชนรจู้ ักคัดแยกขยะ หา รายได้เสริม และฝกึ นสิ ยั การออมไปในตัว ท่สี าคัญคือเปน็ การลดปรมิ าณขยะมลู ฝอยชมุ ชนลงอย่างถูกตอ้ งและ เหมาะสมนั่นเอง 2. องคค์ วามรูแ้ ละความเชยี่ วชาญ นายสรุ ิยนั ปลัดศรี เริม่ ดาเนนิ งานว่า อยา่ ง แรกคือ จัดตั้งคณะกรรมการโครงการฌาปนกิจขยะ ชุมชนนาคาน้อย และขอให้ ประชาชนทุกหลงั คาเรือน เขา้ มารว่ มขับเคลอื่ น จากนนั้ ก็พาชาวบ้านไปดูงานการ คัดแยกขยะท่ีชุมชนตัวอย่าง กลับมาก็มาเรมิ่ ทาการคัด แยกขยะบ้านใครบ้านมัน ที่ขายได้ก็คัดแยกไว้ ส่วน ขยะเปียกพวกเศษผัก เศษอาหาร บ้านไหนที่เลย้ี งหมู่ก็ เอาไปให้เป็นอาหาร หรือทาเป็นปุ๋ยหมัก น้าหมัก ชวี ภาพ เอาไปใส่โคนต้นมะพร้าว มะพร้าวท่ีได้ก็จะลูก โต เน้อื เยอะ หรือผลไมก้ ็ได้ หรือจะเอาไปรดแปลงผักที่มีอยู่แทบจะทุกครัวเรือนก็ได้ ผักก็จะสวยงามมาก โดยจะส่งเสริมให้ทุก หลังคาเรือนไดป้ ลกู ผักไวก้ นิ เองเพือ่ พึงพาตนเองตามหลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง สว่ นขยะอนั ตรายกใ็ ห้เปน็ หนา้ ทีข่ อง อบต. ดงั นน้ั จึงให้แตล่ ะหลังคาเรือนเหลือขยะทีท่ ง้ิ ลงถังใหน้ ้อยทีส่ ดุ

เปล่ียนขยะที่ดูไร้ค่าให้เป็นเงินฝากกับกองทุนขยะ และ สามารถแปลงทุนการศึกษาสร้างอนาคตให้กับลูกหลาน ของคนในชุมชน ผใู้ หญ่บ้านบา้ นนาคาน้อย เผยในสว่ นน้ี ว่า หลังจากเราส่งเสริมให้ครัวเรือนคัดแยกขยะแล้ว ก็ จัดต้ังกองทุนขยะ ดาเนินงานเหมือนธนาคารการเงิน มี สมุดบัญชี ฝาก ถอน ได้ โดยให้แต่ละครัวเรือนนาขยะไป ขายแล้วค่อยนาเงินมาฝากกับธนาคารขยะ เพียงแต่ เปล่ียนจากเงินสด เป็นกองทุนฌาปนกิจ ปัจจุบันมี ยอดเงินรวมแล้วจานวน 20,000 บาท คนทั่วไปอาจจะ มองว่าแค่เศษขยะ แต่พอสะสมเอามาขายแล้วมันเห็น เป็นตัวเงิน มันจะเป็นแรงจูงใจให้ชาวบ้านรู้สึกอยากจะ คัดแยกขยะ

ขัน้ ตอนการดาเนินงานกองทนุ ฌาปนกิจขยะชมุ ชนนาคานอ้ ย 1. ชว่ งกอ่ นเปิดโครงการกองทนุ ฌาปนกจิ ขยะชมุ ชนนาคาน้อย การจดั ตงั้ กองทนุ ขยะ เร่มิ จากการคัดเลอื กคณะกรรมการประมาณ 8-10 คน เพอ่ื ทาหนา้ ทบ่ี รหิ ารจัดการธนาคารในทุก ๆ ด้าน พรอ้ มทั้งประเมนิ ผลกจิ กรรมเป็นประจาทุก ๆ เดอื น ท่ีสาคัญควรแตง่ ตงั้ คณะกรรมการสารองเผื่อไว้อกี หนึง่ ชุด เพ่ือให้สามารถปฏบิ ัตหิ นา้ ท่แี ทนกันได้ โดยคณะกรรมการธนาคารขยะจะประกอบไปดว้ ย ► ที่ปรกึ ษา จานวน 1-2 คน : มีหนา้ ที่ให้คาปรึกษา ให้ความชว่ ยเหลอื และคอยดูแลกองทุนฌาปนกจิ ขยะ ชมุ ชนนาคานอ้ ยใหน้ า่ เช่อื ถอื และตรวจสอบได้ ► ผู้จัดการ จานวน 1 คน : มหี น้าทค่ี วบคมุ การทางานของพนกั งาน พร้อมท้ังดูแลการดาเนนิ งานภาพรวม ของกองทุนฌาปนกิจขยะชุมชนนาคานอ้ ย ► รองผูจ้ ัดการ จานวน 1 คน : มีหน้าที่ช่วยดูแลการดาเนินงานภาพรวมของกองทุนฌาปนกิจขยะชุมชนนา คานอ้ ยแทนผู้จัดการ ► เจา้ หนา้ ทค่ี ดั แยกและช่งั น้าหนัก จานวน 2 คน : มหี น้าที่คดั แยกและช่ังนา้ หนกั ขยะรีไซเคลิ หรอื ของเกา่ ที่ สมาชิกนามาฝาก ► เจา้ หน้าท่ีจดบนั ทึก จานวน 2 คน : มีหนา้ ทจี่ ดบนั ทกึ รายละเอียดเกย่ี วกับสมาชิก ทง้ั ชอ่ื นามสกลุ และ เลขสมาชกิ รวมถึงประเภทและปริมาณขยะด้วย ► เจ้าหน้าทคี่ ดิ เงิน จานวน 1-2 คน : มหี น้าทเี่ ปรียบเทียบประเภทและปริมาณขยะกับราคาทก่ี าหนดไว้ จากนนั้ ก็คานวณออกมาเป็นเงินฝาก นอกนีจ้ ากนย้ี งั ดูแลเรื่องการถอนเงินของสมาชกิ ด้วย ► เจา้ หน้าทบ่ี ญั ชี จานวน 1-2 คน : มีหนา้ ทีร่ บั ผิดชอบเอกสารท่ีเกย่ี วข้องกบั การเงนิ เช่น เอกสารสรปุ ยอดเงินฝาก เอกสารสรปุ ยอดรายรับ-รายจ่าย เอกสารยอดคงเหลอื ของขยะรีไซเคิล และอกี มากมาย หลังจากได้สมาชิกเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ประชุมเพ่ือแบ่งหน้าท่ีในการเตรียมงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาสถานท่ีในการเก็บ ขยะ ซึ่งควรเลือกเป็นบริเวณท่ีไม่โดนแดด โดนฝน และมีพื้นท่ีเพียงพอสาหรับรองรับขยะรีไซเคิลแต่ละประเภท ประกอบด้วย แกว้ กระดาษ พลาสตกิ โลหะและอโลหะ การจดั หาอุปกรณ์ทีจ่ าเป็น เช่น เครอ่ื งชั่ง สมุดคู่ฝาก ใบฝาก ใบ ถอน และเอกสารการทาบญั ชีตา่ ง ๆ การจดั หาร้านรับซือ้ ของเก่าเพื่อกาหนดราคาซ้ือ-ขาย และวันเขา้ มารับขยะ รวมถึง การประชาสัมพันธ์ อบรม และให้ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกับกองทุนฌาปนกจิ ขยะชมุ ชนนาคานอ้ ยด้วย 2. ช่วงระหวา่ งเปดิ กองทนุ ฌาปนกิจขยะชมุ ชนนาคานอ้ ย วิธีการดาเนินงานระหว่างการเปิดกองทุนฌาปนกิจขยะ ชมุ ชนนาคาน้อย ข้ันตอนแรกต้องรับสมัครสมาชิกของ กองทุนฌาปนกิจขยะชุมชนนาคาน้อยก่อน โดยให้ ผู้สมัครกรอกข้อมูลต่าง ๆ ลงในแบบฟอร์มใบสมัคร จากนั้นเจ้าหน้าท่ีก็คัดลอกข้อมูลลงในทะเบียนคุมลูกค้า แล้วส่งเลขสมาชิกให้กับผู้สมัคร พร้อมลงรายละเอียดใน สมุดคู่ฝาก ซ่ึงทางกองทุนฌาปนกิจขยะชุมชนนาคาน้อย จะเปน็ ฝ่ายเกบ็ สมุดค่ฝู ากเอาไว้เอง

ข้นั ตอนการฝาก 1. ใหส้ มาชิกนาขยะพรอ้ มกบั ใบฝาก ส่งใหเ้ จ้าหน้าทคี่ ดั แยกและชงั่ น้าหนัก 2. เจ้าหน้าท่ีคัดแยกและชั่งน้าหนักให้ถูกต้อง พร้อมส่งใบฝากต่อให้เจ้าหน้าท่ีจดบันทึก ซ่ึงจะคอยจดบันทึก ประเภทและปรมิ าณขยะลงไปตามความจริง โดยจะเรียกให้สมาชกิ มาดไู ปพร้อม ๆ กนั 3. สง่ ใบฝากต่อให้เจ้าหนา้ ท่คี ดิ เงนิ เพ่อื เปรียบเทียบราคาและคานวณลงในใบฝาก 4. เสรจ็ แล้วก็มอบให้กับเจ้าหน้าทบ่ี ญั ชเี พอ่ื ลงข้อมูลในสมดุ คู่ฝากและเกบ็ ไวเ้ ป็นหลกั ฐาน 5. จากนนั้ นาไปใหผ้ ู้จดั การกองทนุ ฌาปนกิจขยะชมุ ชนนาคานอ้ ยตรวจสอบความถูกต้องตอ่ พรอ้ มทงั้ ใหส้ มาชิก เชก็ ความเรยี บร้อยอีกคร้งั 6. เม่อื ถูกต้องครบถว้ นแลว้ ท้ังสมาชิกและผู้จัดการก็จะเซน็ ลงในใบฝากและสมดุ คูฝ่ ากเพ่อื เปน็ การยืนยัน ข้ันตอนการถอน สมาชิกสามารถถอนเงินไดใ้ นคร้ังถัดไปหลังจากกองทนุ ฌาปนกิจขยะชุมชนนาคาน้อยนาขยะ ไปขายต่อแล้ว แต่มขี ้อแม้ว่า สามาชิกต้องเหลือเงินในบัญชีไว้ เพ่ือสมทบเปน็ กองทุนฌาปนกิจขยะชุมชนนา คาน้อย สมาชิกทจี่ ะถอนเงนิ ต้องนาขยะมาฝากใหม่ในวนั น้ัน ๆ ดว้ ย

3. ชว่ งหลังเปิดกองทนุ ฌาปนกจิ ขยะชมุ ชนนาคานอ้ ย วิธกี ารดาเนนิ งานช่วงหลังเปิดกองทุนฌาปนกิจขยะชุมชนนาคาน้อยส่วนใหญ่จะเป็นการสรปุ รวบรวม และประเมินผล โดยเจ้าหน้าท่ีจะต้องสรุปผลการฝาก-ถอนแต่ละวัน รวมถึงแต่ละเดือน แล้วแจ้งรายละเอียดให้สมาชิก ทราบ นอกจากนี้ยังต้องรวบรวมข้อมูลและประเมินผลการทางาน ผ่านการนายอดสมาชิก ปริมาณขยะ จานวนเงิน และค่าใชจ้ ่ายต่าง ๆ มาพิจารณาและสังเกตการณ์เป็นประจาทกุ เดือน รวมถึงคอยประชุมและวางแผนประชาสัมพันธ์ กจิ กรรมใหเ้ ป็นทรี่ ู้จักเพ่ิมขนึ้ ด้วย ที่สาคัญอย่าลืมทาการขายขยะให้กับร้านรับซื้อของเก่าที่ติดต่อไว้ให้เรียบร้อยภายใน วนั และราคาท่กี าหนด ทง้ั นี้ ราคาของขยะแต่ละประเภทสามารถเปล่ยี นแปลงไดอ้ ยตู่ ลอด เช็กราคากลางไดจ้ ากทไี่ หน เพอ่ื เปน็ การเปรยี บเทียบราคาครา่ ว ๆ ทง้ั สมาชกิ กองทุนฌาปนกจิ ขยะชุมชนนาคานอ้ ย และร้านรบั ซ้ือของเก่า สามารถเช็กราคากลางของการซื้อ-ขายขยะได้ที่ ร้านรับซือ้ ขยะของเศษ หลายๆที่ มาเพือ่ พิจารณา เพ่อื อานวยความ สะดวกและสรา้ งความโปรง่ ใสใหก้ บั ทัง้ ผู้ซ้ือและผู้ขาย ขยะรีไซเคลิ และของเกา่ ออกเป็นหมวดหมู่และชนดิ อยา่ งชดั เจน โดยแบ่งออกเปน็ ประเภท ไดแ้ ก่ แกว้ กระดาษ พลาสตกิ เหลก็ และโลหะ โดยแจ้งราคาและทาปา้ ยราคาให้ทราบโดยทวั่ กัน ประโยชน์ของกองทนุ ฌาปนกิจขยะชุมชนนาคา น้อย 1. ช่วยกระตุ้นให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการ จัดการขยะอย่างถูกตอ้ ง 2. ช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอยในชุมชน ส่งผลให้ สภาพแวดล้อมน่าอยู่ขึ้น และบรรเทาภาระการ จดั การขยะลง 3. ช่วยสร้างรายได้เสริมพร้อมท้ังฝึกนิสัยการออม ให้กบั คนในชมุ ชน ทาให้ผ้คู นมเี งินเก็บ เยาวชนมีเงิน ใช้ และสามารถแบ่งเบาภาระของพอ่ แม่ได้ 4. ช่วยให้คนในชุมชนเห็นคุณค่าของการคัดแยก และการรีไซเคิลขยะ พร้อมท้ังปลูกจิตสานึกเรื่อง การลดปริมาณขยะและรกั ษาส่ิงแวดลอ้ มไปในตัว

5. การส่งเสริมโครงการธนาคารขยะในโรงเรียน ยัง ช่วยให้เยาวชนมีการเรยี นรูก้ ารทางานเป็นกลุ่ม เขา้ ใจ ระบบการทางานของธนาคารหรือการทาธุรกิจขนาด เล็ก อีกท้ังยังฝึกให้คิด วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาไป พร้อม ๆ กัน 6. เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดีให้กับคนในชุมชน รวมถึง เปน็ ตวั อยา่ งท่ีดีใหก้ บั ชุมชนอื่นดว้ ย นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะและช่วยจัดการขยะ อย่างถูกต้องแล้ว กองทุนฌาปนกิจขยะชุมชนนาคา น้อย ยังเป็นโครงการทีช่ ่วยปลูกฝังนสิ ัยการออม ปลูก จิตสานึกรักษ์โลก ช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับ ครอบครัว และช่วยเพ่ิมมูลค่าให้กับของเหลือใช้ได้ ด้วย ฉะนั้นต่อไปนี้แทนที่จะท้ิงขยะรวมกันจนทาให้ เกดิ ปัญหาตามมา มาคดั แยกขยะและนาไปขายใหเ้ กิด ประโยชน์สงู สดุ กนั 3. การถา่ ยทอดความรู้และความเช่ียวชาญ นายสุริยนั ปลัดศรี ถ่ายทอดความรู้กองทุนฌาปนกจิ ขยะชุมชนนาคานอ้ ย ทง้ั รูปแบบการใหค้ วามรู้ การ สาธิตและการปฏิบัตจิ ริง สามารถถ่ายทอดความรู้ เรือ่ งกองทนุ ฌาปนกจิ ขยะชมุ ชนนาคานอ้ ยได้

4. ลกั ษณะของเครอื ขา่ ยและการสร้างเครือข่าย นายสรยุ นั ปลดั ศรี มเี ครอื ข่ายและมกี ารสรา้ งเครือข่าย มีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ดงั นี้ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอสุวรรณคหู า กศนตาบลกุดผึ้ง. รพกุดผงึ้ .สต. องค์การบริหารสว่ นตาบลกุดผง้ึ สานกั งานเกษตรอาเภอสวุ รรณคหู า สานักงานพฒั นาชมุ ชนอาเภอสวุ รรณคูหา นาสริยนั ปลดั ศรี มีการสร้างเครอื ข่าย โดยการเป็นวิทยากรกองทุนฌาปนกิจขยะชุมชนนาคานอ้ ย ตลอดจนได้เชญิ ชวนผู้สนใจเพ่ือใหม้ าศกึ ษาดูงาน และมกี ารประชาสมั พันธใ์ หก้ ับภาคีเครอื ข่าย และประชาชนผสู้ นใจได้ เรียนร้อู ยา่ งต่อเนื่อง 5. ผลงานที่เปน็ ประโยชน์ต่อชมุ ชนและสังคม นายสรุ ิยนั ปลัดศรี เปน็ บคุ คลที่เป็นประโยชน์ตอ่ ชุมชนสงั คม โดยได้อุทิศตนในการเปน็ วิทยากรใหแ้ กบ่ ุคคลและ ชมุ ชน ตง้ั แต่ปี พ 9552 .ศ.เป็นต้นมา 6. รางวัลหรอื เกยี รตคิ ณุ ท่ีได้รบั พ 9552 .ศ.ได้รบั เกยี รติบัตร เกษตรกรดเี ดน่ พ 9552 .ศ.ไดร้ บั เกยี รติบตั ร วิทยากรดเี ด่น ของ กศนอาเภอสวุ รรณคูหา.

ประวตั ิและผลงานครภู มู ิปัญญาท้องถนิ่ ตบญุ ทัน อ.สวุ รรณคหู า จ.หนองบัวลาภู. ดา้ น การเกษตร สาขาเกษตรกรรม นายสงา่ สารพฒั น์

การปลูกเงาะ การปลกู ปาล์ม

ประวัตแิ ละผลงานครภู มู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ ต.บญุ ทนั อ.สุวรรณคุหา จังหวดั หนองบวั ลาภู ดา้ น การเกษตร สาขาเกษตรกรรม 1. ประวตั แิ ละผลงาน เดิมนายสง่า สารพัฒน์ ไดเ้ รม่ิ อาชีพทาอาชีพการเกษตรเพ่อื เลย้ี งครอบครัว ด้วยการปลูกข้าว และสวนยางพารา ในดา้ นการเกษตรแบบผสมผสานตามแนว พระราชดาริฯ เมื่อทาการเกษตรท่ตี อ้ งพึง่ พาการใชป้ ุย๋ เคมี และประกอบกบั ราคาปุ๋ยท่ีเพมิ่ สงู ขึน้ ทกุ สปี ตั้งแต่นั้นมา นายสงา่ สารพฒั น์ กไ็ ด้นาความรทู้ ีต่ นเองไดร้ บั การ ฝึกอบรมมาใชใ้ นการประกอบอาชพี การเกษตร ในการทาปยุ๋ หมักไว้ใชใ้ นการบารุงพชื ผล ทางการเกษตร และไดท้ าการปลูกพืชผลไมพ้ นั ธ์ต่าง ส หลายอย่าง เชน่ เงาะโรงรียน ,ขนุน,มะมว่ ง,มะปราง เปน็ ต้นโดยยดึ หลักตง้ั มน่ั อยู่บนพ้ืนฐานของความพอเพียง .2 องค์ความรู้และความเช่ียวชาญ - ได้นาความรู้มาประยกุ ต์ใช้ในการทาการเกษตรแบบผสมผสานและการทาเกษตร ทฤษฎใี หมต่ ามแนวพระราชดาริฯ ของในหลวง ร.9 .3การถา่ ยทอดความรแู้ ละความเชยี่ วชาญ รูปแบบและลักษณะการถา่ ยทอด การประชาสมั พนั ธ์ เผยแพร่ ภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน (ที่สะท้อนความหนา้ เชือ่ ถือ การยอมรับผา่ นบุคคล/ชุมชน/องคก์ ร/รางวัล/ใบประกาศ/ การจดทะเบยี นลขิ สทิ ธิ์ สือ่ ดจิ ทิ ัล/เอกสารเผยแพร่ แผ่นพบั คลิปVDO ฯลฯ ) ( ยงั ไม่เคยมีการเผยแพร่/ใชเ้ ฉพาะบคุ คล ) ( เคยเผยแพรเ่ ฉพาะในชมุ ชน ) ( มกี ารเผยแพร่ผา่ นส่อื มวลชนและสือ่ อืน่ อย่างแพร่หลาย ) / ( มกี ารดงู านจากบุคคลภายนอก จานวน 20 ครง้ั จานวน 200 คน ) / ( มีการนาไปใช้ ในพืน้ ที่ 20 คนนอกพน้ื ที่ 100 คน ) ( อ่ืนส )ระบุ(

เป็นศูนย์เรยี นรเู้ ร่อื งของการ - การปลูกเงาะโรงเรยี น - การปลูกขนุน - การปลูกทุเรยี น - การปลูกปาลม์ - การปลกู มะปราง - การปลูกมะมว่ ง 4ลักษณะของเครอื ข่ายและการสรา้ งเครอื ข่าย . เปน็ ศนู ย์การเรียนท่รี ู้ ท่ี กศน ตาบลบุญทัน และ. เทศบาลตาบลบญุ ทัน เกษตรอาเภอสวุ รรณคูหา เข้าไปใหก้ ารสนับสนุน 5. ผลงานทีเ่ ป็นประโยชนต์ ่อชมุ ชนและสงั คม เป็นผู้นาในเรื่องการทาเกษตรผสมผสาน ึึ่งทาใหค้ รอบครัวมีหลายไดต้ ่อเดือน มาศึกษาวธิ ีการหลายแสนบาท สามารถเป็นสถานที่หรอื แหล่งเรยี นรใู้ หค้ นในชุมชนได้ ปลูก

ประวตั ิและผลงานครูภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ต.สวุ รรณคหู า จ.บ้านโคก อ.หนองบวั ลาภู ด้าน ปรชั ญาศาสนาและประเพณี สาขา การทาบายศรสี ู่ขวญั นายนิยม ศรีจลุ โพธ์ิ

รูปที่ .1แหลง่ เรยี นรู้ประจาตาบลบ้านโคก รูปท่ี .2การทานาเกษตรอินทรยี ์ รูปที่ .3การทาป๋ยุ หมกั รูปท่ี ศนู ย์เรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎีใหม่ ตาบลบา้ นโคก .4

ประวตั ิและผลงานครภู ูมิปญั ญาท้องถน่ิ ตส.บา้ นโคก อ.วุ รรณคูหา จ.หนองบัวลาภู ดา้ น ปรัชญาศาสนาและประเพณี สาขา การทาบายศรสี ู่ขวญั .1ประวตั ิและผลงาน นายนยิ ม ศรีจุลโพธ์ิ เกดิ เมอื่ วันท่ี 2 มกราคม 2504 เกิดท่ีบา้ นโนนปอแดง ตาบลบา้ นโคก อาเภอสุวรรณคหู า จงั หวัดหนองบวั ลาภู บดิ าช่ือ นายบญุ ศรี ศรีจลุ โพธ์ิ มารดาช่อื นางสมบท ศรีจุลโพธิ์ ปัจจบุ ัน นายนิยม ศรีจุลโพธิ์ ประกอบอาชพี ทานา ท่ีอยปู่ จั จุบัน บ้านเลขที่ 563 หมู่ 14 ตาบลบ้านโคก อาเภอสุวรรณคหู า จงั หวัดหนองบวั ลาภู นายนิยม ศรจี ุลโพธ์ิ เกดิ ในตระกูลชาวนา เรียนจบชัน้ ม.6 จาก กศนอาเภอสุวรรณ. คูหา มีผลงาน เป็นวิทยากร ถ่ายทอดความร้ดู า้ นการทาเกษตรทฤษฎีใหม่มาตั้งแต่พ ศ .2540 ถึงปัจจุบัน และไดอ้ ทุ ิศตน เพอ่ื ชุมชน และสงั คม โดยตลอด .2องคค์ วามรแู้ ละความเชย่ี วชาญ นายนิยม ศรจี ุลโพธิ์ มีความเช่ียวดา้ นการเกษรต ในดา้ นของการทาการทา เกษตรทฤษใี หม่ สามารถถ่ายทอดองคค์ วามรู้ใหก้ ับผ้สู นใจ ด้วยวิธีท่ีหลากหลาย เช่น การอธิบายบอกเลา่ การสาธิต วิธกี ารเกษตรแบบอินทรีย์ เป็นตน้ .3การถ่ายทอดความรแู้ ละความเชยี่ วชาญ นายนิยม ศรีจุลโพธ์ิ ถา่ ยทอดความรู้ดงั น้ี เป็นวิทยากร ถา่ ยทอดความรูใ้ นโรงเรียนผู้สูงอายุ .1 .2เป็นวิทยากร ถา่ ยทอดความรใู้ ห้กับนกั ศึกษา กศนและผู้คนทัว่ ไป . เป็นวิทยากร ถ่ายทอกความร้ใู ห้กับหน่วยงานราชการ.3

.4ลักษณะของเครอื ขา่ ยและการสร้างเครอื ข่าย นายนยิ ม ศรจี ลุ โพธิ์ เครอื ข่ายดังนี้ เครือขา่ ยภาครฐั และเอกชน ประกอบด้วย .2 กศนอาเภอสุวรรณคูหา.1โรงเรยี นผู้สูงอายุอบตบ้านโคก .3กลุ่มเยาวชนตาบลบ้าน โคก 5. ผลงานทีเ่ ปน็ ประโยชนต์ ่อชมุ ชนและสังคม นายนยิ ม ศรจี ลุ โพธ์ิ มีผลงานทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ ่อชุมชนและสงั คม โดยไดอ้ ทุ ศิ 2540 .ตน เป็นวิทยากรให้แก่บุคคลบุคคล ในเขตอาเภอสุวรรณคหู า ตง้ั แต่ พศ เปน็ ต้นมา .6รางวลั หรือเกียรติคณุ ที่ไดร้ ับ .1บุคคลผู้มผี ลงานดีเดน่ ดา้ นภาษา วัฒนธรรม จากหนว่ ยงาน กศน . .2เครือขา่ ยพนั ธมิตร ธกส จังหวดั หนองบวั ลาภู . คณะกรรมการสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นโคกทุ่งนอ้ ย .3 ไดร้ บั เกียรติบัตรในการอบอรมเป็นวิทยากรดา้ นการเกษตร.4

ประวตั ิและผลงานครูภูมิปญั ญาทอ้ งถนิ่ ต.นาดี อ.สวุ รรณคูหา จ.หนองบวั ลาภู ด้าน ศิลปหัตถกรรม สาขา การทอผ้าพ้นื เมอื ง นางแทน พดั แกว้



ประวตั แิ ละผลงานครภู มู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ ต.นาดี อ.สุวรรณคหู า จ.หนองบวั ลาภู ด้าน ศิลปหัตถกรรม สาขา การทอผ้าพื้นเมือง 1. ประวัตแิ ละผลงาน นางแทน พัดแกว้ เกิดเมอ่ื วันที่ 2504 .ศ.เดอื น กมุ ภาพนั ธ์ พ 13 เดิมทีเป็นคนบ้านโนนปา่ หวา้ น ตาบลกดุ ผงึ้ แต่ไดย้ ้ายท่อี ยูม่ าทตี่ าบลนาดี ึ่งึ ปัจจบุ นั อยบู่ ้านเลขท่ี บา้ นคา่ ยสวา่ ง ตาบลนาดี 6 หม่ทู ่ี 168อาเภอสวุ รรณคูหา จังหวัด หนองบวั ลาภู เบอร์โทรศัพท์ 4 จบช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3407-464-093 นางแทน พดั ได้เร่มิ ทาการทอผ้าตั้งแต่สมยั เป็นเดก็ ดว้ ยผปู้ กครองได้ถา่ ยทอดความรู้ใน การทอผา้ ให้ จึงทาใหม้ ีความสามารถในการทอผา้ ได้เปน็ อยา่ งดี และยังถ่ายทอดความรู้ ในการทอผ้าใหก้ ับคนทมี่ ีความสนใจ ทอี่ ยากจะเข้ามาศึกษาหาความรู้อยู่เปน็ ประจา และ ยงั สามารถสรา้ งรายไดใ้ ห้กับครอบครวั อกี ทาง 2. องคค์ วามร้แู ละความเชีย่ วชาญ นางแทน พัดแก้ว มคี วามรู้ความเชยี่ วชาญ ท่นี าไปถ่ายทอดให้แกผ่ ้เู รยี น และผูค้ นท่สี นใจ โดยใช้กระบวนการถา่ ยทอดความรูท้ ่หี ลากหลาย เชน่ การอธบิ าย การสาธิต และให้ผู้เรียนได้ปฏิบตั จิ ริงตามหัวข้อดังตอ่ ไปนี้ 2.1 การทอผา้ พื้นเมอื ง นยิ มทากนั มาชา้ นานในบรเิ วณภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ชาวบ้านจะใชเ้ วลาวา่ งจากการทานาและการเกบ็ เก่ียวมาทอผ้าไวใ้ ช้ในครวั เรือน หรือทอผ้า เอาไว้ใชใ้ นงานประเพณีต่างส ลวดลายสว่ นใหญม่ าจากอิทธิพลของธรรมชาตแิ ละ ส่งิ แวดลอ้ มรอบตัว สว่ นใหญ่นยิ มทาจากฝา้ ยและไหมไหมศลิ ปะการทอน้นั ทาได้โดยการ มดั ยอ้ มเสน้ ฝ้ายให้เกดิ สแี ละลวดลายกอ่ นแลว้ จงึ นาไปเรยี งทอบนกอ่ี อกมาเป็นผนื ผา้ การย้อมคราม 2.2 การย้อมคราม คือ การนาเส้นใยมาย้อมกบั นา้ ย้อมครามที่มคี า่ PH ทีเ่ หมาะสมึ่งึ น้า ยอ้ มนั้นได้มาจากธรรมชาติ ขนั้ ตอนการยอ้ ม

1. ทาการโจกครามเพื่อดลู ักษณะของน้ายอ้ มครามท่ีเตรียมไว้ 2. นาเสน้ ใยท่ผี า่ นการทาความสะอาดแล้วมาเตรียมไว้ โดยมีการจบั เป็นวง 3. ทาการย้อมเส้นใยในนา้ ครามโดยมกี ารคลายเสน้ ใยและหมนุ ไปรอบส 4. เมอื่ ยอ้ มเสร็จแล้วควรบิดเสน้ ใยใหห้ มาด แลว้ นาเสน้ ใยขึน้ จากหม้อยอ้ ม ระยะเวลาในการแชเ่ ส้นใยกับน้ายอ้ มคราม การแชเ่ สน้ ใยไว้ในหม้อย้อม ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที หรือ สังเกตสีของน้าย้อมจะใสข้นึ สเี หลืองจางลง สเี ขยี วเขม็ ขึ้น จึงหยุดย้อม การกระตกุ เส้นใยหลงั ยอ้ ม การกระตกุ เส้นใยหลังย้อมนั้นเพ่ือเป็นการทาใหเ้ ส้นใยทุกเส้นทผ่ี า่ นการยอ้ ม แลว้ ได้สัมผัสกบั แก๊สออกึเิ จนเพื่อจะเปล่ียนจากสีเขยี วเปน็ สีนา้ เงินเขม้ การย้อมครามซา้ คือ การนาเส้นใยที่ผ่านการยอ้ มแล้ว มายอ้ มึา้ เพ่ือให้ได้เส้นใยทีม่ ีสเี ขม้ ข้นึ ตาม ต้องการ โดยการย้อมึา้ ตอ้ งดูนา้ ย้อมเพ่ือใหอ้ ยูใ่ นภาวะทีพ่ ร้อมจะย้อมดว้ ย เมื่อผา่ น การยอ้ มจนไดส้ ีทีต่ อ้ งการ หอ่ ด้วยถุงพลาสติกคลุมไว้ นาน 5-4 ชั่วโมง การลา้ งเส้นใยหลงั ยอ้ ม การล้างเส้นใย นาเสน้ ใยทีไ่ ด้จากการย้อมน้ันมาล้างในนา้ ให้สะอาด โดย การึกั เส้นใยจนหมดสคี รามท่ีน้าลา้ งเส้นใย เมอื่ ล้างเส้นใยเสรจ็ แลว้ ก็นาไปตากให้ เส้นใยแหง้ การตากเส้นใยหลงั ย้อม การตากในร่ม การตากเสน้ ใยครามหลงั การยอ้ มในที่รม่ จะชว่ ยให้เส้นใย แห้งเสมอกนั และสขี องเส้นใยยังคงจะสดอยู่ การตากในแดด การตากเสน้ ครามหลังยอ้ มในท่ีแดดส่องถงึ จะทาให้ เส้นใยแหง้ เรว็ และลกั ษณะสีของเส้นใยจะเกิดรอยดา่ งทีเ่ สน้ ใย การเกบ็ เส้นใยหลังย้อม เมื่อได้เสน้ ใยท่ีพร้อมจะนาไปทอแลว้ ควรเก็บในทีร่ ่ม 2.3 อุปกรณท์ ีใ่ ช้ในการทอผ้า

1. หกู เป็นเครอื่ งมอื สาหรับทอผา้ มีหลายขนาดและชนิด แตม่ ีหลกั การพน้ื ฐาน อย่างเดียวกนั คือ การขัดประสานระหวา่ งด้ายเสน้ พ่งุ และด้ายเสน้ ยืน จนแนน่ เป็น เนื้อผา้ .2 ฟืม หรอื ฟนั หวี มลี ักษณะคลา้ ยหวี ยาวเทา่ กับความกวา้ งของหน้าผา้ ทาด้วย โลหะ มลี ักษณะเปน็ ึเ่ี ลก็ ส มกี รอบทาด้วยไม้หรือโลหะ แตล่ ะึขี่ องฟมื จะเป็นชอ่ ง สาหรับสอดด้ายยนื เขา้ ไป เป็นการจดั เรียงดา้ ยยนื ให้หา่ งกนั ตามความละเอยี ดของ เน้ือผ้า เป็นส่วนท่ใี ช้กระทบให้เส้นดา้ ยทท่ี อเรยี งติดกนั แน่นเปน็ ผนื ผา้ .3 กง ใชส้ าหรับใสไ่ จหมี่ .4อกั ใช้สาหรบั กวักหมอี่ อกจากกง หลกั ตีนกง.5 )ไมท้ ่ใี ชย้ ึดทง้ั สองขา้ งในการกวักดา้ ย( 6. หลา เปน็ เคร่ืองมอื ที่ใชส้ าหรับปน่ั หลอด จากอกั มาสู่โบกเพอื่ ทาเปน็ ทางตา่ เขน็ หรอื ปน่ั หม่ี )เสน้ พงุ่ ( 2 เส้นรวมกัน เรียกว่า เขน็ รังกัน เขน็ ควบกันหรอื เขน็ คุร กนั ถ้าเป็นหมี่คนละสี เขน็ รวมกนั แล้ว เรียกวา่ มบั ไม ใชแ้ กวง่ หม่ี ขัน้ ตอนน้เี ป็นการ เกบ็ ปมุ่ ที่เรยี กว่า ขี้หมอี่ อกจากเส้นหม่ี และยังทาใหเ้ ส้นหม่บี ิดตัวแน่นข้ึน ใช้ทาเป็นทาง เครือ 7.กระสวย ใช้บรรจหุ ลอดหม่ีพุ่งสอดไประหว่างชอ่ งว่างของเส้นหมีย่ ืน ตน้ และปลายเรียวตรงกลางเจาะเป็นช่องสาหรับใส่หลอดดา้ ย 8. หลอดใส่ดา้ ย หลอดด้ายค้น เป็นอปุ กรณส์ าหรบั ใช้ในการคน้ )ลูกค้น( เส้นด้าย โดยเส้นด้ายทกุ เส้นจะถกู ม้วนหรือพนั เก็บไว้ในหลอดค้น ึงึ่ มลี กั ษณะเป็น หลอดยาวประมาณ 8 น้ิว เส้นผ่าศนู ยก์ ลาง ประมาณ 1 นิว้ หลอดคน้ ทาจากไม้ไผ่ 9.หลกั เฝยี ใชใ้ นการคน้ ฝ้าย 10. โฮงม่ี ใช้สาหรับมดั หม่ี 3. การถ่ายทอดความรแู้ ละความเชยี่ วชาญ นางแทน พดั แก้ว มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรกู้ ารทอผ้าพน้ื เมอื ง ทัง้ รูปแบบการใหค้ วามรู้ การสาธิต แบะการปฏิบตั จิ ริง และยังเป็นวิทยากรให้ ความร้เู รื่องการทอผา้ พืน้ เมือง ให้กับผทู้ มี่ คี วามสนใจในรูปแบบของกลมุ่ อกี ด้วย

4. ลกั ษณะของเครอื ข่ายและการสร้างเครอื ข่าย นางแทน พัดแก้ว มีเครือขา่ ยในการดาเนินงาน มที ้งั เอกชนและหน่วยงานของรฐั ที่ให้ความสนใจในการสงั่ ผลติ ภัณง์ผา้ ทอพนื้ เมือง ดังนี้ 1. ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคหู า 2. กศน.ตาบลนาดี สังกัดศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อาเภอสวุ รรณคูหา 3. เทศบาลตาบลนาดี 4. หน่วยงานของเอกชนต่างส นางแทน พัดแก้ว เป็นวิทยากรการการทอผา้ พื้นเมอื ง ใหก้ บั ทง้ั ภาครฐั และ ภาคเอกชน ตลอดจนได้เชญิ ชวนผสู้ นใจเพื่อให้มาศึกษาดูงาน และมีการประชาสมั พนั ธ์ ใหก้ บั ภาคีเครือข่าย และประชาชนผสู้ นใจได้เรียนรู้อย่างตอ่ เนอ่ื ง 5. ผลงานทีเ่ ปน็ ประโยชนต์ ่อชมุ ชนและสงั คม นางแทน พดั แก้ว เป็นบคุ คลท่ีมคี วามรู้ ความสามรถ ในการทอผา้ พนื้ เมือง ทง้ั ยังสามารถออกแบบลวดลายของผา้ ได้ึึง่ เปน็ ประโยชนต์ อ่ ผูท้ ่มี ีความสนใจในชมุ ชน และยงั เป็นวทิ ยากรใหก้ บั กศน.อาเภอสวุ รรณคูหา เรอื่ งการทอผ้าพืน้ เมอื งอกี ด้วย 6. รางวัลหรอื เกียรติคณุ ที่ไดร้ บั 6.1วุฒิบตั รผผู้ ่านการอบรมวิทยากรการศกึ ษาต่อเนือ่ งของ สานักงาน กศน. จงั หวัดหนองบวั ลาภู 6.2เกียรติบตั รวทิ ยาการ ผ้สู อนหลกั สตู รการทอผา้ พ้นื เมือง จาก กศนอาเภอ. สวุ รรณคหู า

ประวัตแิ ละผลงานครภู มู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ ต.นาสี อ.สวุ รรณคูหา จ.หนองบวั ลาภู ดา้ น วัฒนธรรมประเพณี สาขา ดนตรพี ้ืนบา้ น นายยงยุทธ อาเคน



ประวัติและผลงานครูภมู ิปัญญาท้องถนิ่ ต.นาสี อ.สวุ รรณคหู า จ.หนองบวั ลาภู ดา้ น วัฒนธรรมประเพณี สาขา ดนตรพี น้ื บ้าน 1. ประวตั ิและผลงาน นายยงยุทธ อาเคน เป็นข้าราชการครู มคี วามสนใจในเรื่องการเป่าแคน ทุกประเภท เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๖ ไดเ้ กษยี ณอายุราชการ และได้เปดิ สอนการเป่าแคน ใหก้ บั เดก็ เยาวชนทมี่ คี วามสนใจในเรื่องการเปา่ แคน ึ่งึ เป็นดนตรีพื้นบา้ นทางภาค อสี าน โดยเร่ิมต้นการเป่าแคนตง้ั แตต่ อนเป็นเดก็ ได้เดินทางไปกับคณะหมดลาไป ทุกทิศทว่ั ไทย จนกระทงั้ สอบและไดบ้ รรจุเป็นขา้ ราชครู ได้ย้ายมาประจาท่โี รงเรียน ในอาเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบวั ลาภู จงึ ไมไ่ ด้ไปเป่าแคนใหก้ ับคณะหมอลา ต่อไป หลงั จากนน้ั กท็ าหนา้ ทีส่ อนนักเรยี นและพยายามที่จะสืบทอดการเป่าแคนให้กบั ผู้ทมี่ ีความสนใจมาโดยตลอด และผลงานทถี่ ่ายทอดลา่ สดุ คอื คณะโปงลาง โรงเรยี นบ้านโนนสมบรู ณ์ ตาบลนาสี อาเภอสวุ รรณคูหา จงั หวัดหนองบวั ลาภู ึงึ่ เปน็ คณะโปงลางของนกั เรยี น และมกี ารรบั งานแสดงด้วย 2. องคค์ วามร้แู ละความเช่ียวชาญ ลายแคนพนื้ บา้ นอสี าน เป็นลายแคนด้ังเดิมท่ีหมอแคนพ้ืนบ้านได้จดจาและสืบ ทอดต่อสกนั มาตั้งแตใ่ นอดตี และบางทกี ไ็ ด้มกี ารดัดแปลงหรอื เติมแตง่ ทานองให้มี ลูกเลน่ หรือกลเม็ดเดด็ พลายแตกตา่ งออกไปบ้างเพอ่ื ให้เปน็ เอกลักษณ์ของตนเอง ถ้าเรา ฟงั และสังเกตให้ดกี จ็ ะเหน็ ข้อแตกต่างในการบรรเลงของหมอแคนแต่ละคน แต่ถงึ อยา่ งไรก็ตามกย็ ังคงไว้ในสว่ นเหมอื นกันทเ่ี ปน็ แนวทานองของลายแคนนน้ั ส น่นั คอื กลมุ่ เสียงหรือระดับเสยี งในการเดนิ ทานองน่นั เอง จึงอาจกลา่ วได้วา่ ไมม่ ีทานองใดถูกตอ้ ง ทส่ี ดุ หรอื ดที ี่สดุ แตจ่ ะอยู่ทีค่ วามชนื่ ชอบหรอื ความถูกใจในความไพเราะของผฟู้ งั เปน็ สาคัญ ลายแคนพ้ืนบา้ นอีสานจึงมคี วามผกู พนั และสะทอ้ นให้เห็นสภาพวถิ ชี ีวติ ความ เปน็ อยู่ ขนบธรรมเนยี มประเพณีและความอดุ มสมบูรณ์ทางธรรมชาติของกลมุ่ คนในแถบ ลุม่ นา้ โขง)ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ของไทยและฝงั่ ึ้ายในประเทศลาวปจั จุบนั ( เปน็ อย่าง ดี

3. การถา่ ยทอดความรู้และความเชยี่ วชาญ การเปา่ แคน ึึง่ เป็นดนตรที างภาคอีสานทเ่ี ก่าแก่มมี าแตโ่ บราณ เปน็ เครอื่ ง ดนตรที ี่ใช้ปากเป่าให้เปน็ เพลง 4. ลักษณะของเครือข่ายและการสร้างเครอื ขา่ ย เป็นภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ ทพ่ี ร้อมถ่ายทอดความรู้ใหก้ ับคนรุน่ หลัง เพื่อสบื ทอด สบื สานวฒั นธรรมประเพณีเครื่องดนตรที ่มี คี วามเกา่ แก่ตง้ั แต่สมยั โบราณ 5. ผลงานท่ีเป็นประโยชนต์ ่อชุมชนและสังคม เปน็ ผถู้ า่ ยทอดศิลปะวัฒนธรรมให้กบั เยาวชนและคนรนุ่ หลงั

ท่ปี รึกษา ไชยพรมมา คณะผจู้ ัดทา นายวรวฒุ ิ ตาแหนง่ ครู รกั ษาการในตาแหน่ง นายวชรพล เพียเทพ ผอ.กศน.อาเภอสุวรรณคูหา ตาแหนง่ ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน นายอภิชาต สทุ ธโิ สม ตาแหน่ง ครูอาสาสมัครการศกึ ษานอกโรงเรยี น ตาแหนง่ ครูอาสาสมัครการศกึ ษานอกโรงเรียน นางสวุ รรณา สุทธิโสม ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล คณะทางาน ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล นางอัครอนงค์ สมทอง ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล นายพสิ ษิ ฐ์พล ปญั ญาพทุ ธิกลุ ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล นายรัชพล ยาพนั ธ์ ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล นางสาวยศพร จงั พล ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล นายไมตรี สีทาสังข์ ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล นางสภุ าวดี ไชยโพธิ์ ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล นางสาววงคเ์ ดอื น พันธ์ลี ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล นายอฒั ชา คาสีทา ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล นายนิพนธ์ บารงุ ภักดี ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล นายพิชยั รัตน์ วงคอ์ นนั ท์ ตาแหนง่ ครู ศรช. ตาแหนง่ ครู ศรช. นางสาวหทยั รตั น์ พิมพจ์ ่อง ตาแหนง่ ครผู ู้สอนคนพิการ นางสาวนรนิ ทรา บญุ หนา ตาแหน่ง บรรณารกั ษ์ นายจตุพนธ์ ประครองญาติ นางสาวศุภชั ญา พรชยั นายทรงศักด์ิ พรชัย นางสาวพรปวณี ์ อาเคน นายพิสษิ ฐ โคตุราช นายทวีวิทย์ ชาวดอน นางยุพรตั น์ ทุมวัน นางฐิติพรรณ ใหม่วงษ์ นายอฒั ชา คาสีทา นางสาวปรียารัตน์ ทนุ่ ใจ นางสาววาสกุ รี ศรีใชย นางสาวรัตนาภรณ์ หลาวเหล็ก ผรู้ วบรวม/เรียบเรยี ง/จัดทารูปเล่ม นางสาวเบญจมาศ โคตรเพชร