Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือบริหารงานงบประมาณโรงเรียนบ้านพลวง

คู่มือบริหารงานงบประมาณโรงเรียนบ้านพลวง

Published by KroorachaneChanel, 2022-08-22 04:48:58

Description: คู่มือบริหารงานงบประมาณโรงเรียนบ้านพลวง

Search

Read the Text Version



ข คมู่ อื การปฏบิ ัติงาน โรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กลมุ่ บริหารงานงบประมาณ โรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ เครือข่ายการจัดการศึกษาปราสาท สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษา สุรินทร์ เขต 3 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ค คำนำ การบริหารและการจัดการศึกษาของโรงเรียนนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อให้โรงเรียนจัดการศึกษา อย่างเป็นอิสระ คล่องตัว สามารถบริหารการจัดการศึกษาได้สะดวด รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและมีความ รับผิดชอบโรงเรียนนิติบุคคล นอกจากมีอำนาจหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ข้างต้นแล้ว ยังมีอำนาจหน้าที่ตามที่ กฎระเบยี บกระทรวงศึกษาธิการวา่ ดว้ ยการบริหารจัดการและขอบเขตการปฏิบัติหนา้ ที่ของโรงเรียนขัน้ พื้นฐาน ที่เป็นนิติบคุ คลสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ ๒๕๔๖ ลงวันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ การกำหนดแผนการ ใช้จ่ายเงินหรือประมาณการรายรับ-รายจ่ายล่วงหน้า การจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจํากัดให้เกิดประโยชน์ สูงสุด ซ่ึงแสดงในรปู ตัวเงินมรี ะยะเวลากำหนดท่ีแน่นอน โดยแสดงกจิ กรรมหรือโครงการท่จี ะปฏิบัติ ซึ่งแผนนี้ จะรวมถึงการกะประมาณ บริการ กิจกรรม/โครงการ และค่าใช้จ่าย ตลอดจนทรัพยากรท่ีจําเป็นในการ สนับสนุน การดาํ เนินงานใหบ้ รรลุตามแผนงบประมาณมีประโยชน์โดยตรงต่อฝ่ายบรหิ าร เพราะวา่ งบประมาณ มีส่วนสำคัญทำให้การทำงานสำเร็จไปสู่วัตถุประสงค์หลักขององค์กรส่งผลให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ และยงั สามารถเป็นเคร่ืองมอื ในการตรวจสอบ กำกบั ติดตาม และประเมินผลการปฏิบตั งิ านด้าน อื่นทเี่ กยี่ วข้อง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือการบริหารงานงบประมาณนี้ จะเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางในการ บริหารงานการพัฒนางานงบประมาณในโรงเรียนให้เกิดประสิทธิภาพตามเจตนารมณ์ตามพระราชบัญญัติ การศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และท่แี ก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 สืบไป (นายศกั ดช์ิ ยั เลศิ อรณุ รตั น์) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์)

ง หนา้ 1 สารบญั 1 2 แนวคิดหลักในการบริหารงานงบประมาณ 2 วัตถุประสงค์ 2 วิสัยทัศน์ พนั ธกจิ เปา้ หมาย อตั ลกั ษณ์ และเอกลักษณ์ของสถานศึกษา 2 วิสัยทศั น์ 3 วสิ ยั ทศั น์วิชาการ 3 พันธกิจ (MISSION) 4 เปา้ ประสงค์ (Goal) 4 กลยทุ ธ์ 4 นโยบายของโรงเรยี น 6 แนวทางการดำเนนิ งานยกระดับคุณภาพการศึกษา ปฐมวยั /ภาคบงั คับ 16 เปา้ หมายในการพฒั นาการศึกษา 21 ขอบข่ายและภารกิจผรู้ ับผดิ ชอบ ด้านการบรหิ ารงานงบประมาณโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ คณะผู้จดั ทำ

1 การบรหิ ารงานงบประมาณ โรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ แนวคิดหลักในการบรหิ ารงานงบประมาณ การบริหารและการจัดการศึกษาของโรงเรียนนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อให้โรงเรียนจัดการศึกษา อย่างเป็นอิสระ คล่องตัว สามารถบริหารการจัดการศึกษาได้สะดวด รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและมีความ รับผิดชอบโรงเรียนนิติบุคคล นอกจากมีอำนาจหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ข้างต้นแล้ว ยังมีอำนาจหน้าที่ตามท่ี กฎระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการว่าด้วยการบริหารจดั การและขอบเขตการปฏิบัติหนา้ ทขี่ องโรงเรยี นขน้ั พ้ืนฐาน ที่เป็นนิติบคุ คลสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ ๒๕๔๖ ลงวันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ การกำหนดแผนการ ใช้จ่ายเงินหรือประมาณการรายรับ-รายจ่ายล่วงหน้า การจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจํากัดให้เกิดประโยชน์ สูงสุด ซ่ึงแสดงในรูปตัวเงินมีระยะเวลากำหนดท่ีแน่นอน โดยแสดงกจิ กรรมหรือโครงการท่ีจะปฏิบัติ ซ่ึงแผนนี้ จะรวมถึงการกะประมาณ บริการ กิจกรรม/โครงการ และค่าใช้จ่าย ตลอดจนทรัพยากรที่จําเป็นในการ สนับสนนุ การดําเนนิ งานใหบ้ รรลุตามแผนงบประมาณมปี ระโยชน์โดยตรงต่อฝ่ายบรหิ าร เพราะว่างบประมาณ มีส่วนสำคัญทำให้การทำงานสำเร็จไปสู่วัตถุประสงค์หลักขององค์กรส่งผลให้การปฏิบัติงานเป็ นไปอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ และยังสามารถเปน็ เครอื่ งมือในการตรวจสอบ กำกบั ตดิ ตาม และประเมินผลการปฏบิ ัติงานด้าน อนื่ ที่เกย่ี วขอ้ ง กฎหมายการศกึ ษาแห่งชาติ และกฎหมายระเบยี บบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ จึงกำหนดให้ โรงเรียนนติ บิ ุคคลมีอำนาจหน้าที่ ดงั น้ี ๑. ให้ผู้อำนวยการโรงเรยี นเป็นผูแ้ ทนนิตบิ ุคคลในกิจการทัว่ ไปของโรงเรียนทีเ่ กี่ยวกบั บุคคลภายนอก ๒. ให้โรงเรียนมีอำนาจปกครอง ดูแล บำรุง รักษา ใช้และจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีผู้ บริจาคให้ เว้นแตก่ ารจำหนา้ ยอสังหาริมทรัพย์ที่มผี ู้บรจิ าคให้โรงเรียน ต้องได้รับความเห็นชอบ จากคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐานของโรงเรียน ๓. ให้โรงเรียนจดทะเบียนลิขสิทธิ์หรือดำเนินการทางทะเบียนทรัพย์สินต่างๆ ที่มีผู้อุทิศให้หรือ โครงการซือ้ แลกเปล่ียนจากรายได้ของสถานศึกษาให้เปน็ กรรมสิทธิ์ของสถานศึกษา ๔. กรณีโรงเรียนดำเนินคณดีเป็นผู้ฟ้องร้องหรือถูกฟ้องร้อง ผู้บริหารจะต้องดำเนินคดีแทน สถานศกึ ษาหรือถูกฟ้องรว่ มกบั สถานศึกษา ถา้ ถูกฟอ้ งโดยมไิ ด้อยู่ในการปฏบิ ัติราชการ ในกรอบ อำนาจ ผบู้ รหิ ารต้องรบั ผิดชอบเป็นการเฉพาะตวั ๕. โรงเรยี นจัดทำงบดลุ ประจำปีและรายงานสาธารณะทกุ ส้ินปีงบประมาณ

2 วิสัยทศั น์ พันธกิจ เปา้ หมาย อัตลกั ษณ์ และเอกลักษณ์ของสถานศกึ ษา วิสยั ทัศน์ โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) นำองค์กรสู่มาตรฐานสากล เปี่ยมความรู้ คู่คุณธรรม ดำรง ความเปน็ ไทย ใส่ใจหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เคยี งคู่เทคโนโลยี (VISION) Banpluang(Prombamrungrat) School aims to reach international standard, to develop students with knowledge and morality, to preserve Thai cultures and to consider the sufficiency economy philosophy together with the use of technology. วิสัยทัศน์วชิ าการ โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ส่งเสริม และพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาชาติ พันธกิจ (MISSION) 1. ผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และมาตรฐานสากล มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตท่ี สมบูรณ์ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม รกั ความเปน็ ไทย และรับผดิ ชอบตอ่ สังคม 2. สง่ เสรมิ ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาให้มีความรู้ ความสามารถ มีคณุ ภาพตามมาตรฐานวชิ าชพี 3. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคล ให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานสากล สู่ความเป็นเลศิ ทางวิชาการอย่างยง่ั ยนื 4. พฒั นาสอื่ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา เพือ่ พฒั นาคุณภาพทางการศึกษา 5. จัดกระบวนการการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลที่หลากหลายอย่างมีคุณภาพ เอื้อต่อ การพัฒนาผูเ้ รยี นอยา่ งรอบด้าน 6. พฒั นาการบรหิ ารจดั การศึกษาอยา่ งมีระบบตามหลักธรรมาภิบาล 7. พฒั นาสถานศึกษาให้เปน็ แหล่งเรยี นรแู้ ละมสี ภาพแวดลอ้ มทเ่ี อ้ือต่อการเรียนรอู้ ย่างมีคุณภาพ 8. ประสานความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และสร้างภาคีเครือข่าย เพื่อ สนับสนุนการจัดการศกึ ษา

3 เป้าประสงค์ (Goal) 1. ผู้เรียนเป็นผู้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา เป็นคนเก่ง คนดี มีความสุข มีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานสากล มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบ ต่อตนเองและสังคม บนพื้นฐาน ความเปน็ ไทย น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งสู่การดำรงชีวิต 2. ครู และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาศักยภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ และสามารถ จัดการเรยี นการสอนตามมาตรฐานสากล 3. โรงเรยี นมีหลักสูตรสถานศึกษาทส่ี ง่ เสริมความเปน็ เลิศทางวชิ าการตามมาตรฐานสากล ตอบสนอง ความถนดั และความต้องการของผเู้ รียน ชุมชน และสงั คม 4. โรงเรียนพัฒนาสื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูและ นักเรยี นใช้ในการจดั การศกึ ษาทีม่ ีคุณภาพ 5. โรงเรียนมีการจัดกระบวนการเรียนการสอน กิจกรรมการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลที่มี คุณภาพ ทเ่ี ออ้ื ตอ่ การพฒั นานักเรียนอย่างรอบดา้ น 6. โรงเรยี นมกี ารบรหิ ารจัดการศึกษาอยา่ งมีระบบตามหลักธรรมาภิบาล 7. โรงเรยี นพัฒนาแหลง่ เรยี นรู้ และสภาพแวดล้อมใหเ้ อ้ือต่อการเรียนรู้อย่างมคี ุณภาพ 8. ชุมชน ผู้ปกครอง และภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาที่มี คุณภาพ กลยทุ ธ์ 1. พัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนตามมาตรฐานสากล เปน็ ผู้มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม ตามคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และดำรงชวี ิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. พัฒนาศกั ยภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา 3. พัฒนาหลกั สตู รสถานศกึ ษา กระบวนการจัดการเรียนรทู้ ่เี นน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคญั ตามมาตรฐานสากล 4. พฒั นาระบบการบริหารการจัดการศกึ ษาด้วยหลกั ธรรมาภิบาล เนน้ กระบวนการมสี ่วนร่วม 5. พัฒนาอาคารสถานท่ี สิ่งแวดล้อม แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมี คณุ ภาพ นโยบายของโรงเรยี น 1. ระบบบริหารการจดั การศกึ ษาได้มาตรฐานการศึกษาชาติ การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ที่เน้นผู้เรยี น เป็นสำคญั โดยเน้นกระบวนการคิดวเิ คราะห์ 2. ยกระดับคุณภาพของผู้เรียนให้มีความสามารถตามมาตรฐานการจัดการศึกษา และมีทักษะการ แขง่ ขันทางวชิ าการ 3. จัดการศกึ ษาแบบมีสว่ นร่วมระหว่างบ้าน วัด โรงเรยี น

4 แนวทางการดำเนินงานยกระดับคณุ ภาพการศึกษา ปฐมวยั /ภาคบังคบั 1. พัฒนาระบบการกำกับติดตาม การตรวจสอบ ประเมนิ วิจัย พัฒนาและรายงาน 2. ส่งเสริมระบบประกนั คุณภาพภายใน ตามมาตรฐานคุณภาพการศึกษา 3. ปรับปรุงหลักสตู รและจัดการเรียนการสอน 4. สง่ เสรมิ คุณธรรมนำความรู้ 5. นำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สูก่ ารเรียนการสอน 6. พฒั นาศักยภาพดา้ นการอ่าน การเขียนและคดิ เลข 7. เพ่มิ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน (คณิต วทิ ย์ ไทย สงั คม อังกฤษ) 8. พฒั นาครสู คู่ รมู ืออาชีพ เป้าหมายในการพัฒนาการศึกษา ด้านปริมาณ • นกั เรยี นท่ีจบชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 ศกึ ษาต่อในระดับชั้นมธั ยมศกึ ษา 100 % • เกณฑเ์ ดก็ ในการศึกษาภาคบังคบั เขา้ เรยี นชน้ั ป.1 ได้ครบทกุ คน • ลดอัตราการออกกลางคนั ของนกั เรียน • นักเรียนมสี ขุ ภาพดี มีน้ำหนกั ตามเกณฑม์ าตรฐาน • จดั สง่ บุคลากรในโรงเรยี นเข้ารับการอบรม ทศั นศึกษา ดูงานเพือ่ พัฒนาคุณภาพของ บุคลากร • ลดการขาดเรยี นของนักเรยี นทกุ ชน้ั มาตรการในการจดั การศึกษา • โรงเรยี นใชแ้ ผนงานและโครงการปฏิบัติงานเป็นเคร่ืองมือในการบรหิ ารงาน • โรงเรียนดำเนนิ งานตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธกิ าร • พฒั นาคุณภาพการศึกษาโดยเนน้ และสง่ เสริมกิจกรรมการอ่านคลอ่ ง เขียนคล่อง คิด เลขเรว็ และกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ • กิจกรรมการเรียนการสอนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยพัฒนาทักษะการอ่านคิด วเิ คราะห์ • โรงเรยี นดำเนนิ การนิเทศ ตดิ ตาม กำกับ การดำเนินงานอย่างตอ่ เนื่อง โดยเนน้ การ นเิ ทศภายใน • ยกระดับผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนใหส้ งู ขน้ึ เพื่อสู่ความเป็นเลศิ ทางวชิ าการ

5 ตราประจำโรงเรยี น ปรัชญา วิริเยน ทกุ ขมจฺ เจติ (บุคคลลว่ งทุกข์ไดด้ ว้ ยความเพยี ร) คำขวญั “เรยี นดี มวี ินัย พลานามัยสมบรู ณ์” จุดเนน้ ฉลาดใช้เทคโนโลยี ภาษาดี ดนตรเี ดน่ เน้นทักษะชวี ติ อัตลกั ษณ์ของสถานศกึ ษา “ย้มิ งาย ไหวส้ วย” เอกลกั ษณข์ องสถานศึกษา “สะอาด บรรยากาศร่มรื่น” ศนู ย์รวมจติ ใจ พระพทุ ธพรหมบำรุงราษฎร์) พระพทุ ธรปู ประจำโรงเรยี น พระพุทธพรหมบำรงุ ราษฎร)์ สีประจำโรงเรยี น แดง-ขาว ประธานกรรมการสถานศึกษาขัน้ พน้ื ฐานคนปจั จุบนั นายมติ ร พะงาตนุ ัด

6 ขอบข่ายและภารกิจผรู้ บั ผดิ ชอบ การบริหารและการจัดการศึกษาของโรงเรียนนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อให้โรงเรียนจัดการศึกษา อย่างเป็นอิสระ คล่องตัว สามารถบริหารการจัดการศึกษาได้สะดวด รวดเร็ว มีประสิทธิภาพแ6ละมีความ รบั ผดิ ชอบโรงเรยี นนิติบคุ คล นอกจากมอี ำนาจหน้าที่ตามวตั ถปุ ระสงค์ข้างตน้ แลว้ ยังมอี ำนาจหน้าทต่ี ามท่ีกำ ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธิการว่าด้วยการบริหารจัดการและขอบเขตการปฏิบัตหิ น้าที่ของโรงเรียนขั้นพื้นฐานท่ี เป็นนิติบุคคลสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา กฎหมายการศึกษาแห่งชาติ และกฎหมายระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธกิ าร งบประมาณท่สี ถานศกึ ษานำมาใชจ้ า่ ย ๑. แนวคดิ การบริหารงานงบประมาณของสถานศึกษามุ่งเน้นความเป็นอิสระ ในการบริหารจัดการมีความ คล่องตัว โปร่งใส ตรวจสอบได้ ยึดหลักการบริหารมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์และบริหารงบประมาณแบบมุ่งเน้น ผลงาน ใหม้ ีการจัดหาผลประโยชนจ์ ากทรัพย์สิทของสถานศึกษา รวมทัง้ จัดหารายไดจ้ ากบริการมาใช้บริหาร จดั การเพื่อประโยชนท์ างการศกึ ษา ส่งผลใหเ้ กิดคุณภาพท่ดี ีข้ึนต่อผเู้ รยี น ๒. วัตถปุ ระสงค์ เพื่อใหส้ ถานศกึ ษาบรหิ ารงานด้านงบประมาณมีความเปน็ อสิ ระ คล่องตัว โปร่งใสตรวจสอบได้ 1. เพอ่ื ให้ได้ผลผลิต ผลลัพธ์เปน็ ไปตามขอ้ ตกลงการให้บริการ 2. เพอื่ ให้สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการทรัพยากรท่ีได้อย่างเพยี งพอและประสทิ ธภิ าพ ๓. ขอบข่ายภารกจิ ๑. พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และทีแ่ ก้ไขเพิ่มเติม(ฉบบั ที่ ๒) ๒. พระราชบัญญตั ิบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ ๓. พระราชบญั ญตั ิ การจัดซ้ือจัดจา้ งและการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๔. หลกั สูตรการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๕. แนวทางการกระจายอำนาจการบรหิ ารและการจดั การศึกษาและสถานศกึ ษาตาม กฎกระทรวง กำหนดหลกั เกณฑ์และวิธกี ารกระจายอำนาจการบริหารและการจดั การศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๐

7 รายจา่ ยตามงบประมาณ จำแนกออกเปน็ ๒ ลักษณะ ๑. รายจา่ ยของส่วนราชการและรัฐวิสาหกจิ - งบบคุ ลากร - งบดำเนนิ งาน - งบลงทุน - งบเงนิ อดุ หนนุ - งบร่ายจา่ ยอนื่ งบบคุ ลากร หมายถึง รายจ่ายทีก่ ำหนดใหจ้ ่ายเพ่ือการบริหารงานบุคคลภาครฐั ไดแ้ ก่รายจา่ ยท่จี า่ ย ในลักษณะเงินเดือน ค่าจ้างประจำ ค่าจ้างชั่วคราว และค่าตอบแทนพนักงานราชการ รวมถึงราจจ่ายท่ี กำหนดให้จา่ ยจากงบรายจ่ายอืน่ ใดในลักษณะราจจา่ ยดังกลา่ งบดำเนนิ งาน หมายถงึ รายจ่ายที่กำหนดให้จา่ ยเพอ่ื การบริหารงานประจำ ได้แก่ รายจ่ายทจ่ี ่ายใน ลกั ษณะค่าตอบแทน คา่ ใชส้ อย คา่ วัสดุ และค่าสาธารณูปโภค รวมถงึ ราจา่ ยท่ีกำหนดใหจ้ ่ายจากงบรายจ่าย อื่นใดในลกั ษณะรายจา่ ยดงั กล่าว งบลงทุน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการลงทุน ได้แก่ รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่า ครุภัณฑ์ ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะรายจ่าย ดังกลา่ ว งบดำเนินงาน หมายถงึ รายจา่ ยท่กี ำหนดให้จา่ ยเพ่ือการบรหิ ารงานประจำ ไดแ้ ก่ รายจา่ ยทจี่ า่ ยใน ลักษณะค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ และค่าสาธารณูปโภค รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบ รายจา่ ยอื่นใดในลกั ษณะรายจา่ ยดังกล่าว งบลงทุน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนให้จ่ายเพื่อการลงทุน ได้แก่ รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่า ครุภัณฑ์ ค่าที่ดินและสิ่งก่อนสร้าง รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะรายจ่าย ดังกล่าว งบเงินอุดหนุน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเป็นค่าบำรุงหรือเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนงานของ หน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญหรอื หน่วยงานของรัฐ ซึ่งมิใชส่ ่วนกลางตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการ แผ่นดิน หน่วยงานในกำกับของรัฐ องค์การมหาชน รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงเงิน อุดหนนุ งบพระมหากษตั ริย์ เงนิ อุดหนุนศาสนา งบรายจ่ายอื่น หมายถึง รายจ่ายที่ไม่เข้าลักษณะประเภทงบรายจ่ายใดงบรายจ่ายหนึ่ง หรือ รายจา่ ยที่สำนักงานงบประมาณกำหนดให้ใช้จ่ายในงบรายจ่ายนี้ เช่น เงนิ ราชการลับ เงินค่าปรับ ท่ีจ่ายคืน ใหแ้ ก่ผูข้ ายหรอื ผรู้ ับจ้าง ฯลฯ อตั ราเงินอุดหนุนรายหวั นักเรียนตอ่ ปกี ารศกึ ษา ระดับก่อนประถมศกึ ษา ๑,๗๐๐ บาท ระดับประถมศึกษา ๑,๙๐๐ บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ ๓,๕๐๐ บาท ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ๓,๘๐๐ บาท การจดั สรรเงินอุดหนนุ รายหวั นักเรียน แบง่ การใชต้ ามสดั ส่วน ดา้ นวิชาการ : ดา้ นบรหิ ารทว่ั ไป : สำรองจ่ายทงั้ ๒ ด้านคือ

8 ๑. ด้านวชิ าการ ให้สัดสว่ นไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐ นำไปใช้ไดใ้ นเรือ่ ง ๑.๑ จดั หาวัสดแุ ละครภุ ณั ฑ์ที่จำเป็นตอ่ การเรียนการสอน ๑.๒ ซ่อมแซมวสั ดอุ ุปกรณ์ ๑.๓ การพฒั นาบคุ ลาการด้านการสอน เช่น ส่งครเู ข้าอบรมสัมมนา คา่ จา้ งชว่ั คราว ของครูปฏบิ ตั ิการสอน ค่าสอนพิเศษ ๒. ดา้ นบริหารทว่ั ไป ใหส้ ดั สว่ นไม่เกนิ ร้อยละ ๓๐ นำไปใช้ไดใ้ นเรื่อง ๒.๑ คา่ วัสดุ ครภุ ัณฑแ์ ละค่าที่ดนิ สิ่งกอ่ สรา้ ง คา่ จา้ งช่วั คราวท่ีไมใ่ ช่ปฏิบัตกิ ารสอน คา่ ตอบแทน คา่ ใช้สอย ๒.๒ สำรองจา่ ยนอกเหนือด้านวชิ าการและด้านบริหารทวั่ ไป ให้สดั ส่วนไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๒๐ นำไปใช้ในเร่อื งงานตามนโยบาย เงนิ อุดหนุนปจั จยั พืน้ ฐานสำหรบั นกั เรยี นยากจน ๑. เปน็ เงนิ ทจ่ี ัดสรรใหแ้ กส่ ถานศึกษาที่มนี ักเรยี นยากจน เพ่ือจดั หาปัจจยั พืน้ ฐานท่ีจำเปน็ ต่อการดำรงชีวติ และเพม่ิ โอกาศทางการศึกษา เปน็ การช่วยเหลือนกั เรียนนทยี่ ากจน ชน้ั ป.๑ ถึง ม.๓ ให้มีโอกาสไดร้ ับการศึกษาในระดับท่ีสงู ข้ึน (ยกเวน้ สถานศึกษาสงั กัด สำนกั บรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ) ๒. นกั เรียนยากจน หมายถงึ นักเรยี นทผี่ ปู้ กครองมีรายได้ต่อครัวเรอื นไม่เกิน ๔๐,๐๐๐บาท ๓. แนวการใช้ให้ใชใ้ นลกั ษณะ ถัวจา่ ย ในรายการต่อไปนี้ 1) คา่ หนงั สือและอุปกรณ์การเรียน(ยืมใช้) 2) ค่าเส้ือผ้าและวัสดุเครอ่ื งแตง่ กายนักเรยี น(แจกจ่าย) 3) คา่ อาหารกลางวนั (วตั ถุดบิ จา้ งเหมา เงินสด) 4) คา่ พาหนะในการเดินทาง (เงินสด จา้ งเหมา) 5) กรณจี ่ายเป็นเงินสด โรงเรยี นแตง่ ต้งั กรรมการ ๓ คน ร่วมกันจา่ ยเงินโดยใช้ใบสำคญั รับเงินเป็นหลกั ฐาน 6) ระดบั ประถมศึกษา คนละ ๑,๐๐๐ บาท/ปี 7) ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น คนละ ๓,๐๐๐ บาท/ปี รายจา่ ยงบกลาง รายจา่ ยงบกลาง หมายถึง รายจา่ ยทตี่ ้ังไวเ้ พอื่ จัดสรรให้ส่วนราชการและรฐั วิสาหกจิ โดยท่ัวไปใช้ จา่ ยตามรายการดังตอ่ ไปนี้ ๑. “เงินเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ” หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อจ่ายเป็นเงินบำนาญ ข้าราชการ เงินบำเหน็จลูกจ้างประจำ เงินทำขวัญข้าราชการและลูกจ้าง เงินทดแทน ข้าราชการวิสามัญ เงินค่าทดแทนสำหรับผู้ได้รับอันตรายในการรักษาความมั่นคงของ ประเทศ เงินช่วยพิเศษข้าราชการบำนาญเสียชีวิต เงินสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากการ ช่วยเหลือ ข้าราชการ การปฏิบัติงานของชาติหรือการปฏิบัติตามหน้าที่มนุษยธรรม และ เงนิ ชว่ ยคา่ ครองชีพผูร้ บั เบีย้ หวดั บำนาญ

9 ๒. “เงินช่วยเหลือข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ” หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้ งไว้ เพื่อจ่ายเป็นเงินสวัสดิการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ให้แก่ข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงาน ของรัฐ ได้แก่ เงินช่วยเหลอื การศึกษาของบุตร เงินช่วยเหลือบุตร และเงินพิเศษในการณี ตายในระหวา่ งรับราชการ ๓. “เงินเลอื่ นข้ันเลื่อนอันดบั เงินเดือนและเงินปรับวุฒิขา้ ราชการ หมายความว่ารายจ่ายท่ีตั้งไว้ เพื่อจ่ายเป็นเงินเลื่อนขั้นเลื่อนอันดับเงินเดือนข้าราชการประจำปี เงินเลื่อนขั้นเลื่อนอันดับ เงินเดือนข้าราชการที่ได้รับเลื่อนระดับ และหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระหว่างปีและเงิน ปรบั วุฒขิ า้ ราชการ ๔. “เงินสำรอง เงินสมทบ และเงนิ ชดเชยของขา้ ราชการ” หมายความวา่ รายจ่ายท่ีตัง้ ไว้เพ่ือ จ่ายเป็นเงินสำรอง เงินสมทบ และเงินชดเชยที่รัฐบาลนำส่งเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญ ขา้ ราชการ ๕. “เงินสมทบของลูกจ้างประจำ” หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อจ่ายเป็นเงินสมทบท่ี รัฐบาลนำส่งเขา้ กองทนุ สำรอง เลย้ี งชีพลกู จา้ งประจำ ๖. “ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนและต้อนรับประมุขต่างประเทศ หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนพระราชภารกิจในการเสด็จพระราชดำเนิน ภายในประเทศ และหรือต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายในการต้อนรับประมุขต่างประเทศท่ี มายาเยือนประเทศไทย ๗. “เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น” หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งสำรองไว้เพ่ือ จัดสรรเปน็ ค่าใช้จา่ ยในกรณฉี ุกเฉินหรอื จำเปน็ ๘. “ค่าใช้จา่ ยในการดำเนนิ การรักษาความมนั่ คงของประเทศ” หมายความว่า รายจ่ายที่ต้ังไว้ เพอ่ื เป็นคา่ ใช้จ่ายในการดำเนินงานรักษาความม่ันคงของประเทศ ๙. “เงินราชการลับในการรักษาความมั่นคงของประเทศ” หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อ เบิกจ่ายเปน็ เงินราชการลบั ในการดำเนนิ งานเพอื่ รกั ษาความมั่นคงของประเทศ ๑๐.“ค่าใช้จ่ายตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อ เปน็ คา่ ใช้จ่าในการดำเนินงานตามโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดำริ ๑๑.“ค่าใช้จ่ายในการรำษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ” หมายความว่า รายจ่ายที่ตั้งไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานของรัฐ

10 เงินนอกงบประมาณ ๑. เงินรายได้สถานศึกษา ๒. เงนิ ภาษีหัก ณ ทีจ่ ่าย ๓. เงนิ ลูกเสอื เนตรนารี ๔. เงินยุวกาชาด ๕. เงินประกันสญั ญา ๖. เงนิ บรจิ าคท่ีมวี ตั ถุประสงค์ ๗. เงินรายได้สถานศึกษา หมายถึง เงินรายได้ตามมาตรา ๕๙ แห่ง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซง่ึ เกิดจากผลประโยชน์จากทรพั ย์สนิ ทีเ่ ป็นราชพสั ดุ ๑. คา่ บริการและค่าธรรมเนียม ทีไ่ ม่ขดั หรือแยง้ นโยบาย วัตถปุ ระสงค์และภารกิจหลักของสถานศกึ ษา ๒. เบีย้ ปรับจากการผิดสัญญาลาศึกษาต่อและเบ้ยี ปรับการผิดสัญญาซื้อทรัพยสินหรือจา้ งทำของจากเงิน งบประมาณ ๓. ค่าขายแบบรปู รายการ เงนิ อดุ หนุน อปท. รวมเงนิ อาหารกลางวัน ๔. ค่าขายทรพั ย์สนิ ทไี่ ดม้ าจากเงินงบประมาณ งานพสั ดุ “การพัสดุ” หมายความว่า การจัดทำเอง การซื้อ การจ้าง การจ้างที่ปรึกษา การจ้างออกแบบ และควบคุมงาน การแลกเปล่ียน การเชา่ การควบคุม การจำหนา่ ย และการดำเนินการอื่นๆ ที่กำหนดไว้ ในระเบียบน้ี “พัสดุ” หมายความว่า วัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ที่กำหนดไว้ในหนังสือ การจำแนก ประเภทรายจ่ายตามงบประมาณของสำนักงบประมาณ หรือการจำแนกประเภทรายจ่าย ตามสัญญาเงินกู้ จากต่างประเทศ “การซื้อ” หมายความว่า การซื้อพัสดุทุกชนิดทั้งที่มีการติดตั้ง ทดลอง และบริการที่เกี่ยวเนื่อง อืน่ ๆ แต่ไม่รวมถงึ การจัดหาพสั ดุในลักษณะการจา้ ง “การจ้าง” ให้หมายความรวมถึง การจ้างทำของและการับขนตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ และการจ้างเหมาบริการ แต่ไม่รวมถึงการจ้างลูกจ้างของส่วนราชการตามระเบียบของ กระทรวงการคลัง การับขนในการเดินทางไปราชการตามกฎหมายว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ การจ้างที่ปรึกษ การจ้างออกแบบและควบคุมงาน และการจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ ขอบขา่ ยภารกจิ ๑. กฎหมาย ระเบยี บ และเอกสารทเี่ กีย่ วขอ้ ง ๒. พระราชบัญญตั ิ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๓. ระเบียบกระทรวงการคลงั ว่าด้วยการจดั ซอื้ จัดจา้ งและการบริการพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. 2560

11 หน้าทีแ่ ละความรับผดิ ชอบ ๑. จัดวางระบบและปฏิบัติงานเกี่ยวกับจัดหา การซื้อ การจ้าง การเก็บรักษา และการเบิก พัสดุ การควบคมุ และการจำหน่ายพัสดใุ ห้เปน็ ไปตามระเบียบที่เกย่ี วข้อง ๒. ควบคมุ การเบิกจา่ ยเงนิ ตามประเภทเงนิ ใหเ้ ปน็ ไปตามแผนปฏิบัติราชการรายปี ๓. จดั ทำทะเบียนทีด่ นิ และสง่ิ ก่อสรา้ งทกุ ประเภทของสถานศึกษา ๔. ประสานงานและวางแผนในการใช้พน้ื ที่ของสถานศึกษา ใหเ้ ปน็ ไปตามแผนพัฒนาการศึกษา ๕. กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและดำเนินการเกี่ยวกับการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุการใช้และ การขอใช้อาคารสถานที่ของสถานศึกษาให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ควบคุมดู ปรับปรุง ซ่อมแซม บำรุงรักษาครุภัณฑ์ ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยต่อการใช้งาน และพัฒนาอาคารสถานที่ การอนุรักษ์พลังงาน การรักษาสภาพแวดล้อม และระบบ สาธารณูปโภคของสถานศกึ ษาใหเ้ ปน็ ระเบียบและสวยงาม ๖. จดั เวรยามดแู ลอาคารสถานทข่ี องสถานศกึ ษาใหป้ ลอดภัยจากโจรภยั อัคคภี ยั และภยั อ่ืนๆ ๗. จัดวางระบบและควบคุมการใช้ยานพาหนะ การเบิกจา่ ยน้ำมันเช้ือเพลิงการบำรงุ รักษาและ การพัสดตุ า่ งๆ ท่เี กย่ี วกับยานพาหนะของสถานศกึ ษาให้เปน็ ไปตามระเบยี บท่เี กย่ี วขอ้ ง ๘. ให้คำแนะนำ ชี้แจง และอำนวยความสะดวกแก่บุคลากรในสถานศึกษาเกี่ยวกับงานใน หน้าท่ี ๙. เก็บรักษาเอกสารและหลักฐานต่างๆ ไว้เพื่อการตรวจสอบและดำเนินการทำลายเอกสาร ตามระเบียบท่ีเกีย่ วขอ้ ง ๑๐.ประสานงานและใหค้ วามรว่ มมอื กบั หน่วยงานต่างๆ ทงั้ ภายในและภายนอกสถานศึกษา ๑๑.เสนอโครงการและรายงานการปฏิบัติงานในหน้าทต่ี ามลำดับข้ัน ๑๒.ปฏิบัตอิ ืน่ ตามที่ได้รบั มอบหมาย สวสั ดกิ ารและสทิ ธปิ ระโยชน์ ๑. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ 1.1 กฎหมายและระเบียบท่ีเก่ียวข้อง 1.2 พระราชกฤษฎกี าค่าใชจ้ ่ายเดนิ ทางไปราชการ (ฉบบั ท่ี 9) พ.ศ.2560 และท่ีแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ 1.3 ระเบียบกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยการเบิกค่าใชจ้ ่ายในการเดนิ ทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕60 ๒. ค่าใช้จา่ ยในการเดนิ ทางไปราชการ การอนมุ ัติเดินทางไปราชการ ผู้มอี ำนาจอนมุ ัตใิ หเ้ ดินทางไปราชการ อนุมตั ริ ะยะเวลาในการเดินทาง ลว่ งหนา้ หรอื ระยะเวลาหลังเสรจ็ ส้ินการปฏิบตั ิราชการไดต้ ามความจำเป็น ๓. การนบั เวลาเดนิ ทางไปราชการเพ่ือคำนวณเบีย้ เลย้ี ง กรณพี ักค้าง 3.1 ให้นับ ๒๔ ชวั่ โมงเป็น ๑ วนั 3.2 ถ้าไม่ถึง ๒๔ ชั่วโมงหรือเกิน ๒๔ ชั่วโมง และส่วนที่ไม่ถึงหรือเกิน ๒๔ ชั่วโมง นับได้เกิน ๑๒ ชัว่ โง ใหถ้ อื เป็น ๑ วนั ๔. การนบั เวลาเดินทางไปราชการเพ่อื คำนวณเบ้ยี เลี้ยงเดนิ ทาง กรณีไมพ่ กั คา้ ง 4.1 หากนบั ได้ไมถ่ งึ ๒๔ ช่ัวโมงและส่วนทไี่ มถ่ งึ นบั ไดเ้ กนิ ๑๒ ชว่ั โมง ให้ถือเป็น ๑วัน

12 4.2 หากนบั ได้ไมเ่ กนิ ๑๒ ชั่วโมง แต่เกนิ ๖ ชว่ั โมงขึ้นไป ใหถ้ อื เป็นคร่งึ วัน ๕. การนับเวลาเดินทางไปราชการเพอื่ คำนวณเบี้ยเลย้ี งเดินทาง ๖. กรณีลากจิ หรือลาพักผ่อนก่อนปฏบิ ัติราชการ ใหน้ บั เวลาตัง้ แต่เร่ิมปฏบิ ตั ริ าชการเป็นต้นไป ๗. กรณีลากิจหรือลาพักผ่อนหลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติราชการ ให้ถือว่าสิทธิในการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยง เดินทางสน้ิ สุดลงเมือ่ สน้ิ สดุ เวลาการปฏิบตั ริ าชการ ๘. หลักเกณฑก์ ารเบิกค่าเชา่ ท่ีพักในประเทศ การเบิกคา่ พาหนะ ๑. โดยปกติใหใ้ ช้ยานพาหนะประจำทางและใหเ้ บิกค่าพาหนะโดยประหยดั ๒. กรณไี มม่ ยี านพาหนะประจำทาง หรอื มแี ตต่ ้องการความรวดเรว็ เพอื่ ประโยชน์แก่ทางราชการ ให้ ใช้ยานพาหนะอืน่ ได้ แต่ตอ้ งชี้แจงเหตุผลและความจำเปน็ ไว้ในหลกั ฐานขอเบกิ ค่าพาหนะนัน้ ๓. ข้าราชการระดับ ๖ ข้นึ ไป เบกิ ค่าพาหนะรับจ้างได้ ในกรณีตอ่ ไปนี้ 3.1 การเดินทางไป-กลับ ระหวา่ งสถานท่อี ยู่ ท่ีพัก หรอื สถานทป่ี ฏบิ ตั ริ าชการกับสถานี ยานพาหนะประจำทาง หรอื สถานท่ีจัดพาหนะท่ีใช้เดินทางภายในเขตจงั หวดั เดียวกนั 3.2 การเดนิ ทางไป-กลบั ระหวา่ งสถานทีอ่ ยู่ ท่ีพัก กบั สถานทป่ี ฏบิ ตั ิราชการภายในเขตจงั หวัด เดียวกนั วนั ละไมเ่ กิน ๒ เที่ยว 3.3 การเดนิ ทางไปราชการในเขตกรุงเทพมหานคร กรณีเปน็ การเดนิ ทางข้ามเขตจังหวัด ให้เบิก ตามอัตราทีก่ ระทรวงการคลงั กำหนด คอื ให้เบิกตามทจี่ ่ายจริง ดังนี้ ระหว่างกรุงเทพมหานครกบั เขตจังหวัดตดิ ต่อกรุงเทพมหานคร ไมเ่ กนิ เที่ยวละ่ ๔๐๐ บาท เดินทางข้ามเขตจงั หวัดอื่น นอกเหนือกรณีดังกลา่ วข้างต้นไมเ่ กินเท่ียวละ ๓๐๐ บาท 3.4 ผไู้ มม่ ีสิทธิเบิก ถ้าต้องนำสัมภาระในการเดนิ ทาง หรือส่งิ ของเครือ่ งใช้ของทางราชการไปดว้ ย และเปน็ เหตุให้ไมส่ ะดวกท่จี ะเดินทางโดยยานพาหนะประจำทาง ใหเ้ บิกค่าพาหนะรับจา้ งได(้ โดย แสดงเหตุผลและความจำเป็นไว้ในรายงานเดนิ ทาง) 3.5 การเดนิ ทางลว่ งหน้า หรือไม่สามารถกลบั เมอื่ เสรจ็ สนิ้ การปฏิบัตริ าชการเพราะมเี หตสุ ่วนตวั (ลากิจ - ลาพกั ผอ่ นไว)้ ใหเ้ บกิ ค่าพาหนะเท่าที่จา่ ยจริงตามเส้นทางที่ได้รบั คำสงั่ ให้เดนิ ทางไป ราชการ กรณมี ีการเดินทางนอกเสน้ ทางในระหว่างการลาน้ัน ให้เบิกคา่ พาหนะไดเ้ ท่าทจ่ี ่ายจริงโดย ไม่เกินอัตราตามเส้นทางทไ่ี ด้รับคำสัง่ ใหเ้ ดินทางไปราชการ 3.6 การใชย้ านพาหนะสว่ นตวั (ใหข้ ออนุญาตและได้รับอนญุ าตแลว้ ) ให้ไดร้ ับเงินชดเชย คือ รถยนต์กโิ ลเมตรละ ๔ บาท

13 คา่ ใชจ้ า่ ยในการฝกึ อบรม การฝึกอบรม หมายถึง การอบรม ประชุม/สัมมนา (วิชาการเชิงปฏิบัติการ) บรรยายพิเศษ ฝกึ งาน ดูงาน การฝึกอบรม ประกอบด้วย ๑. หลกั การและเหตุผล ๒. โครงการ/หลกั สูตร ๓. ระยะเวลาจัดที่แนน่ อน ๔. เพ่อื พฒั นาหรอื เพ่ิมประสิทธภิ าพในการปฏิบตั งิ าน คา่ รักษาพยาบาล ค่ารักษาพยาบาล หมายถึง เงินที่สถานพยาบาลเรียกเก็บในการรักษาพยาบาลเพือ่ ให้รา่ งกายกลับสู่ สภาวะปกติ (ไมใ่ ชเ่ ปน็ การปอ้ งกนั หรอื เพือ่ ความสวยงาม) ๑. ระเบียบและกฎหมายที่เกยี่ วข้อง 1.1 พระราชกฤษฎกี าเงินสวสั ดิการเกีย่ วกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๒๓ และแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (๘ ฉบับ) 1.2 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบกิ จา่ ยเงนิ สวสั ดิการเกีย่ วกบั การรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ๒. ผทู้ ่ีมีสทิ ธิรบั เงนิ ค่ารักษาพยาบาล คอื ผมู้ ีสิทธิและบุคคลในครอบครัว 2.1 บิดา 2.2 มารดา 2.3 คสู่ มรสที่ชอบดว้ ยกฎหมาย 2.4 บตุ รท่ีชอบด้วยกฎหมาย ซ่ึงยงั ไม่บรรลุนิตภิ าวะ หรือบรรลุนิติภาวะแล้ว แตเ่ ป็นคนไร้ ความสามารถ หรือเสมอื นคนไรค้ วามสามารถ(ศาลสง่ั ) ไม่รวมบตุ รบญุ ธรรมหรือบตุ รซึ่งได้ยก เปน็ บุตรบญุ ธรรมบุคคลอื่นแล้ว ๓. ผูม้ สี ิทธิ หมายถึง ข้าราชการ ลูกจา้ งประจำ ผุร้ ับเบ้ยี หวดั บำนาญ และลูกจา้ งชาวต่างประเทศซง่ึ ได้รบั ค่าจา้ งจากเงนิ งบประมาณ คา่ รักษาพยาบาล แบ่งเป็น ๒ ประเภท ประเภทไขน้ อก หมายถึง เข้ารบั การรกั ษาในสถานพยาบาลของทางราชการโดยไมไ่ ดน้ อนพัก รกั ษาตวั นำใบเสร็จรับเงินมาเบิกจ่าย ไมเ่ กิน ๑ ปี นบั จากวันทจี่ ่ายเงิน ประเภทไข้ใน หมายถึง เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของเอกชน หรือสถานพยาบาลของทาง ราชการ สถานพยาบาลเอกชน ใช้ใบเสร็จรับเงินนำมาเบิกจ่ายเงิน พร้อมให้แพทย์รับรอง “หากผู้ป่วยมิได้ เจ้ารับการรกั ษาพยาบาลในทันทที ันใด อาจเป็นอันตรายถงึ ชวี ิต” และสถานพยาบาลทางราชการ ใชห้ นังสือ รับรองสทิ ธิ กรณยี งั ไมไ่ ด้เบิกจ่ายตรง

14 การศึกษาบุตร ค่าการศึกษาของบตุ ร หมายความวา่ เงนิ บำรุงการศกึ ษา หรือเงนิ ค่าเลา่ เรยี น หรือเงินอ่นื ใดท่ี สถานศกึ ษาเรียกเก็บและรัฐออกให้เป็นสวสั ดกิ ารกบั ขา้ ราชการผู้มสี ิทธิ ๑. ระเบยี บและกฎหมายทเี่ กี่ยวข้อง ๑.๑ พระราชราชกฤษฎีกาเงินสวสั ดกิ ารเกี่ยวกบั การศกึ ษาของบตุ ร พ.ศ. ๒๕๒๓ ๑.๒ ระเบียบกระทรวงการคลังวา่ ด้วยการเบิกจา่ ยเงินสวัสดิการเกยี่ วกับการศึกษาของบตุ ร พ.ศ. ๒๕๔๗ ๑.๓ หนังสือเวียนกรมบัญชกี ลาง กค ๐๔๒๒.๓/ว ๑๖๑ ลงวันท่ี ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๒ เรือ่ ง ประเภทและอัตราเงนิ บำรุงการศึกษาในสถานศึกษาของทางราชการ และคา่ เลา่ เรียนในสถานศึกษา ของเอกชน และกรมบัญชกี ลาง ที่ กค ๐๔๒๒.๓/ว ๒๒๖ ลงวนั ที่ ๓๐ มถิ ุนายน ๒๕๕๒ เร่ือง การเบกิ เงนิ สวัสดิการเกย่ี วกับการศึกษาของบตุ ร ๒. ผู้ทม่ี ีสทิ ธริ บั เงนิ ค่าการศึกษาของบตุ ร ๒.๑ บตุ รชอบโดยกฎหมายอายไุ ม่เกิน ๒๕ ปีบรบิ ูรณ์ ในวนั ที่ ๑ พฤษภาคมของทกุ ปี ไมร่ วมบุตร บุญธรรม หรือบุตรซ่ึงได้ยกให้เปน็ บุตรบุญธรรมคนอนื่ แลว้ ๒.๒ ใช้สิทธิเบกิ ได้ ๓ คน เว้นแต่บตุ รคนที่ ๓ เปน็ ฝาแฝดสามารถนำมาเบิกได้ ๔ คน ๒.๓ เบกิ เงนิ สวัสดกิ ารเกี่ยวกับศึกษาบุตรภายใน ๑ ปี นบั ตั้งแต่วันเปิดภาคเรยี นของแต่ละภาค จำนวนเงนิ ท่เี บิกได้ ๑. ระดับอนุบาลหรือเทยี บเทา่ เบิกได้ปลี ะไม่เกนิ ๔,๖๕๐ บาท ๒. ระดบั ประถมศึกษาหรือเทียบเท่า เบกิ ไดป้ ลี ะไม่เกิน ๓,๒๐๐ บาท ๓. ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น/มัธยมศกึ ษาตอนปลาย/หลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) หรอื เทยี บเทา่ เบิกไดป้ ลี ะไมเ่ กิน ๓,๙๐๐ บาท ๔. ระดบั อนุปริญญาหรือเทยี บเท่า เบกิ ไดป้ ีละไม่เกนิ ๑๑,๐๐๐ บาท ค่าเช่าบ้าน ๑. ระเบียบและกฎหมายที่เก่ยี วข้อง ๑.๑ พระราชกฤษฎีกา ค่าเช่าบา้ นข้าราชการ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๖๑ ๑.๒ ระเบียบกระทรวงการคลังวา่ ดว้ ยการเบิกจา่ ยเงนิ คา่ เช่าบา้ น พ.ศ. ๒๕61 ๒. สทิ ธกิ ารเบกิ เงินค่าเชา่ บา้ น ๒.๑. ไดร้ ับคำส่ังให้เดนิ ทางไปประจำสำนกั งานใหมใ่ นต่างท้องที่ เวน้ แต่ 2.1.1 ทางราชการได้จดั ที่พกั อาศยั ให้อยแู่ ลว้ 2.1.2 มเี คหสถานเปน็ ของตนเองหรือคูส่ มรส 2.1.3 ไดร้ บั คำส่ังให้เดินทางไปประจำสำนักงานใหม่ในต่างทอ้ งที่ตามคำร้องขอของตนเอง ๒.๒ ขา้ ราชการผู้ได้รบั คำสั่งให้เดนิ ทางไปประจำสำนักงานในท้องทท่ี รี่ ับราชการครั้งแรกหรือทอ้ งทท่ี ่ี กลับเขา้ รบั ราชการใหม่ ใหม้ ีสทิ ธไิ ดร้ ับเงินค่าเชา้ บา้ น (พระราชกฤษฎกี าเช่าบา้ น ๒๕๕๐ (ฉบบั ท่ี ๒) มาตรา ๗) ๒.๓ ขา้ ราชการมีสิทธไิ ดร้ ับเงินค่าเช่าบ้านต้งั แตว่ ันที่เชา่ อยู่จรงิ แตไ่ มก่ ่อนวนั ท่รี ายงานตัวเพือ่ เข้ารบั หนา้ ท่ี(พระราชกฤษฎกี าค่าเชา่ บ้าน ๒๕๔๗ มาตรา ๑๔)

15 ๒.๔ ขา้ ราชการซ่งึ มีสทิ ธไิ ดร้ บั เงินคา่ เชา่ บา้ นได้เชา่ ซื้อหรือผ่อนชำระเงนิ กูเ้ พื่อชำระราคาบ้านท่คี ้าง ชำระอยู่ ในท้องท่ีที่ไปประจำสำนกั งานใหม่ มีสิทธินำหลกั ฐานการชำระคา่ เช่าซื้อหรอื ค่าผ่อนชำระ เงินก้ฯู มาเบิกได้ (พระราชกฤษฎกี าค่าเชา่ บา้ น ๒๕๔๗ มาตรา ๑๗) กองทนุ บำเหนจ็ บำนาญขา้ ราชการ (กบข.) ๑. กฎหมายทเี่ กีย่ วข้อง ๑.๑ พ.ร.บ.กองทนุ บำเหนจ็ บำนาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญัตนิ ี้ (ส่วนทเ่ี ก่ียวขอ้ ง) บำนาญ หมายความวา่ เงินที่จา่ ยใหแ้ ก่สมาชิกเป็นรายเดือนเมื่อสมาชกิ ภาพของสมาชิกสิน้ สดุ ลง บำเหนจ็ ตกทอด หมายความวา่ เงนิ ทจี่ า่ ยใหแ้ ก่สมาชิก โดยจา่ ยให้คร้งั เดียวเม่ือสมาชกิ ภาพ ของสมาชิกสน้ิ สุดลง บำเหน็จตกทอด หมายความว่า เงนิ ที่จา่ ยให้แก่ทายาทโดยจ่ายให้คร้งั เดียวในกรณที สี่ มาชิก หรือผูร้ บั บำนาญถึงแก่ความตาย ๑.๒ พ.ร.บ.กองทนุ บำเหนจ็ บำนาญขา้ ราชการ (ฉบบั ท่ี ๒ ) พ.ศ. ๒๕๔๒ ๒. ข้าราชการทุกประเภท (ยกเวน้ ราชการทางการเมือง) มสี ทิ ธสิ มัครเป็นสมาชิก กบข. ได้แก่ ขา้ ราชการครู ข้าราชการใหม่ ไดแ้ ก่ ผู้ซึ่งเข้ารับราชการหรอื โอนมาเป็นราชการตง้ั แต่วนั ท่ี ๒๗ มนี าคม ๒๕๔๐ เปน็ ต้น จะตอ้ งเป็นสมาชิก กบข. และสะสมเงนิ เข้ากองทนุ สมาชิกท่ีจา่ ยสะสมเขา้ กองทนุ ในอัตรารอ้ ยละ ๓ ของ เงินเดือนเป็นประจำทุกเดือน รัฐบาลจะจา่ ยเงินสมทบให้กับสมาชิกในอัตรารอ้ ยละ ๓ ของเงินเดือนเปน็ ประจำทกุ เดือนเช่นเดียวกัน และจะนำเงนิ ดังกล่าวไปลงทุนหาผลประโยชนเ์ พื่อจา่ ยให้กับสมาชกิ เมื่อกอกจาก ราชการ ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการสง่ เสริมสวสั ดกิ ารและสวสั ดภิ าพครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาว่าด้วยการ ฌาปนกิจสงเคราะห์เพือ่ นครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา(ช.พ.ค.) ในระเบยี บนี้ ช.พ.ค. หมายความว่า การฌาปนกจิ สงเคราะหช์ ว่ ยเพอื่ นครแู ละบุคลากรทางการ ศกึ ษาการจดั ตั้ง ช.พ.ค. มีความมงุ่ หมายเพือ่ เปน็ การกุศลและมวี ัตถปุ ระสงค์ใหส้ มาชกิ ได้ทำการสงเคราะหซ์ ่ึง กนั และกนั ในการจัดการศพและสงเคราะหค์ รอบครวั ของสมาชกิ ช.พ.ค. ท่ีถงึ แก่กรรมหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการ จ่ายเงนิ ค่าจัดการศพและเงนิ สงเคราะหค์ รอบครวั ให้เป็นไปตามท่ีคณะกรรมการ ช.พ.ค. กำหนด ครอบครัวของสมาชกิ ช.พ.ค หมายถงึ บุคคลตามลำดับ ดงั นี้ ๑. คู่สมรสท่ีชอบดว้ ยกฎหมาย บตุ รทช่ี อบดว้ ยกฎหมาย บตุ รบุญธรรม บตุ รนอกสมรสที่บิดารับรอง แลว้ และบิดามารดาของสมาชกิ ช.พ.ค. ๒. ผู้อย่ใู นอุปการะอยา่ งบุตรของสมาชิก ช.พ.ค. ๓. ผู้อุปการะสมาชิก ช.พ.ค.

16 ผู้มีสิทธิได้รับการสงเคราะห์ตามวรรคหนึง่ ยังมีชีวิตอยู่ หรือมีผู้รับมรดกยังไม่ขาดสายแล้วแต่กรณีใน ลำดับหนึ่งๆ บุคคลที่อยู่ในลำดับถัดไปไม่มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์ครอบครัวระเบียบนี้ การสงเคราะห์ ครอบครัวของสมาชิก ช.พ.ค. สำหรับบุตรใหพ้ ิจารณาใหบ้ ุตรสมาชิก ช.พ.ค. ได้รับความชว่ ยเหลือเป็น เงินทุนสำหรับการศึกษาเล่าเรียนเป็นลำดับแรก สมาชิก ช.พ.ค. ต้องระบุบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลาย คน เป็นผ้มู สี ิทธิรับเงินสงเคราะห์ สมาชิก ช.พ.ค. มีหนา้ ทด่ี งั ต่อไปน้ี ๑. ตอ้ งปฏบิ ัติตามระเบียบน้ี ๒. สง่ เงนิ สงเคราะหร์ ายศพ เม่ือสมาชกิ ช.พ.ค. อ่นื ถึงแก่กรรมศพละหนึ่งบาทภายใตเ้ งอื่ นไข ดงั ตอ่ ไปน้ี ๓. สมาชกิ ช.พ.ค. ทเี่ ป็นขา้ ราชการประจำ ข้าราชการบำนาญและผทู้ ม่ี เี งนิ เดือนหรือรายได้ ราย เดือน ต้องยนิ ยอมให้เจา้ หนา้ ทผ่ี ู้จ่ายเงนิ เดอื นหรือเงนิ บำนาญเป็นผหู้ กั เงนิ เพ่ือชำระเงนิ สงเคราะห์รายศพ ณ ทีจ่ า่ ยตามประกาศรายชื่อสมาชิก ช.พ.ค. ทีถ่ งึ แก่กรรม คำจำกดั ความ แผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หมายถึง แผนแสดงรายละเอียดการ ปฏิบัติงาน และแสดงรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายตามแผนการปฏิบัติงานของโรงเรียนบ้าน พลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ในรอบปงี บประมาณ การใช้จา่ ยงบประมาณ หมายถึง การใชจ้ า่ ยงบประมาณรายจา่ ยของโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุง ราษฎร์) เพื่อดำเนินตามแผนการปฏบิ ัตงิ านในรอบปี การจัดสรรงบประมาณ หมายถึง การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจำปี หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ให้ส่วนราชการใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพัน ทัง้ น้ี อาจดำเนินการโดยใช้การอนุมตั ิเงินประจำงวดหรอื โดยวิธีการอ่ืนใดตามที่สำนกั งบประมาณกำหนด เป้าหมายยุทธศาสตร์ หมายถึง ผลสัมฤทธิ์ที่การใช้จ่ายงบประมาณต้องการจะให้เกิดต่อนักเรียน บคุ ลากรโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) แผนการปฏิบัติงาน หมายถึง แผนการปฏิบัติงานของโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ใน รอบปงี บประมาณ แผนการใช้จ่ายงบประมาณ หมายถึง แผนแสดงรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย สำหรบั โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ เพอื่ ดำเนนิ งานตามแผนการปฏิบัตงิ านในรอบปีงบประมาณ โครงการ หมายถึง โครงการทกี่ ำหนดข้ึนเพ่อื ใชจ้ ่ายเงินเปน็ ไปตามในระหวา่ งปีงบประมาณ งบรายจ่าย หมายถงึ กลุม่ วัตถปุ ระสงคข์ องรายจ่าย ท่ีกำหนดให้จ่ายตามหลักการจำแนกประเภท รายจ่ายตามงบประมาณ จำแนกงบรายจ่ายตามหลกั จำแนกประเภทงบประมาณตามงบรายจา่ ย ดงั น้ี งบบุคลากร หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานบุคคลภาครัฐ ได้แก่ รายจ่ายใน ลกั ษณะเงินเดือน คา่ จ้างประจำ คา่ จา้ งชว่ั คราว และคา่ ตอบแทนพนักงานราชการ รวมถงึ รายจ่ายท่ีกำหนดให้ จ่ายจากงบรายจา่ ยอน่ื ในลักษณะดังกล่าว งบดำเนินงาน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจำ ได้แก่รายจ่ายที่จ่ายใน ลักษณะค่าตอบแทน คา่ ใช้สอย ค่าวัสดุ ค่าสาธารณูปโภค

17 งบลงทุน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการลงทุน ได้แก่ รายจ่ายในลักษณะ ค่าครุภัณฑ์ ค่า ที่ดนิ และสงิ่ กอ่ สร้าง งบเงินอุดหนุน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเป็นค่าบำรุง หรือเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนการ ดำเนินงานของหน่วยงานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หรือหน่วยงานของรัฐซึ่งมิใช่ส่วนราชการส่วนกลางตาม พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดนิ หน่วยงานในกำกับของรัฐองค์การมหาชน รัฐวิสาหกิจ องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น สภาตำบล องค์การระหว่างประเทศบิติบุคคล เอกชนหรือกิจการอันเป็น สาธารณประโยชน์ รวมถึง เงินอุดหนุนงบพระมหากษัตริย์ เงินอุดหนุนการศาสนา และรายจ่ายที่สำนัก งบประมาณกำหนดให้จา่ ยในงบรายจา่ ยน้ี งบรายจา่ ยอน่ื หมายถึง รายจ่ายท่ีไม่เขา้ ลกั ษณะประเภทงบรายจ่ายใดงบรายจ่ายหนงึ่ หรอื รายจา่ ยที่ สำนักงบประมาณกำหนดใหใ้ ชจ้ ่ายในงบรายจ่ายนี้ เช่น ๑. เงนิ ราชการลบั ๒. เงินคา่ ปรบั ทจี่ ่ายคืนให้แกผ่ ขู้ ายหรือผูร้ บั จ้าง ๓. ค่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษา วิจัย ประเมินผล หรือพัฒนาระบบต่างๆซึ่งมิใช่เพื่อการจัดหา หรือ ปรับปรุงครุภัณฑ์ทีด่ ินหรอื สิง่ กอ่ สรา้ ง ๔. คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดินทางไปราชการตา่ งประเทศชว่ั คราว ๕. คา่ ใช้จ่ายสำหรบั หน่วยงานองค์กรตามรัฐธรรมนญู (ส่วนราชการ) ๖. ค่าใช้จา่ ยเพ่อื ชำระหนี้เงินกู้ ๗. ค่าใช้จ่ายสำหรบั กองทนุ หรอื เงินทนุ หมุนเวยี น ด้านการบริหารงานงบประมาณโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ หนา้ ท่คี วามรับผิดชอบ กล่มุ การบรหิ ารงบประมาณ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มบริหารงบประมาณ มีหน้าที่ดูแล กำกับติดตาม กลั่นกรอง อำนวย ความสะดวก ให้คำแนะนำปรึกษาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในกลุ่มบริหารงบประมาณ ตาม ขอบข่ายและภารกิจการบริหารงบประมาณปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดระบบบริหารองค์กร การประสานงานและใหบ้ ริการสนบั สนุน ส่งเสรมิ ใหฝ้ า่ ยบรหิ ารงบประมาณต่าง ๆ ในโรงเรียนสามารถบรหิ าร จัดการและดำเนินการตามบทบาทภารกิจ อำนาจหน้าที่ด้วยความเรียบร้อยตลอดจนสนับสนุนและให้บริการ ข้อมูล ข่าวสาร เอกสาร สื่อ อุปกรณ์ทางการศึกษาและทรัพยากรที่ใช้ในการจัดการศึกษาแก่เจ้าหน้าที่ของแต่ ละฝ่ายงานเพือ่ ใหฝ้ ่ายงานบริหารจดั การไดอ้ ยา่ งสะดวกคล่องตัวมีคณุ ภาพและเกดิ ประสิทธิผล ขอบข่ายกล่มุ การบรหิ ารงบประมาณ มดี ังน้ี ๑. การจัดทำแผนงบประมาณและคำขอตั้งงบประมาณเพื่อเสนอต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน ผู้รบั ผิดชอบ หน้าทรี่ บั ผดิ ชอบปฏิบตั งิ านดังนี้ ๑) จัดทำขอ้ มลู สารสนเทศทางการเงนิ ของสถานศึกษา ได้แก่ แผนช้ันเรียน ขอ้ มูลครูนักเรยี น และส่งิ อำนวยความสะดวกของสถานศกึ ษา โดยความรว่ มมอื ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ๒) จดั ทำกรอบงบประมาณรายจ่ายล่วงหนา้ และแผนงบประมาณ

18 ๓) เสนอแผนงบประมาณขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อใช้ เปน็ คำขอต้ังงบประมาณต่อสำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษา ๒. การจดั ทำแผนปฏิบัตกิ ารใชจ้ า่ ยเงนิ ตามทไ่ี ดร้ บั จดั สรรงบประมาณจากสำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานโดยตรง ผ้รู ับผดิ ชอบ หนา้ ท่รี ับผดิ ชอบปฏิบัตงิ านและผูร้ บั ผิดชอบโครงการฯ ดังนี้ ๑) จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีและแผนการใช้จ่ายงบประมาณภายใต้ความร่วมมือของ สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา ๒) ขอความเห็นชอบแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณต่อคณะกรรมการ สถานศึกษาข้ันพนื้ ฐาน ๓. การอนมุ ตั กิ ารใช้จ่ายงบประมาณทีไ่ ด้รับจัดสรร ผู้รับผดิ ชอบ หน้าทรี่ ับผิดชอบเสนอโครงการดังนี้ - ผู้อำนวยการสถานศึกษาอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณตามงาน/โครงการที่กำหนดไว้ใน แผนปฏิบตั ิการประจำปี และแผนการใช้จา่ ยเงินภายใตค้ วามร่วมมอื ของสำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา ๔. การขอโอนและการขอเปลย่ี นแปลงงบประมาณ ผู้รบั ผิดชอบ หน้าทร่ี บั ผดิ ชอบปฏบิ ตั งิ านดงั นี้ ๑) ตรวจสอบรายละเอียดรายการงบประมาณที่จำเป็นต้องขอโอนหรือเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับสถานศึกษาประเภทที่ ๑ เสนอความเห็นชอบคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน แล้วเสนอ ขอโอนหรือเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณต่อสำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษา เพ่ือดำเนนิ การตอ่ ไป ๕. การรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ผู้รบั ผิดชอบ หนา้ ท่ีรับผิดชอบปฏิบตั งิ านดงั นี้ ๑) รายงานผลการดำเนินงาน ผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี ไปยังสำนักงานเขต พ้ืนทก่ี ารศกึ ษา ๖. การตรวจสอบ ติดตามและรายงานการใช้งบประมาณ ผู้รบั ผิดชอบ หนา้ ที่รับผดิ ชอบปฏบิ ตั งิ านดังนี้ ๑) จัดการให้มีการตรวจสอบและติดตามให้ กลุ่ม ฝ่ายงาน ในสถานศึกษา รายงานผลการ ปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณ ตามแบบที่สำนักงบประมาณกำหนด และจัดส่งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกไตรมาส ภายใน ระยะเวลาที่สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษากำหนด ๒) จัดทำรายงานประจำปีที่แสดงถึงความสำเร็จในการปฏิบัติงาน และจัดส่งให้สำนักงาน เขตพ้นื ท่ีการศึกษาภายในระยะเวลาท่สี ำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษากำหนด

19 ๗. การตรวจสอบ ตดิ ตามและรายงานการใช้ผลผลติ จากงบประมาณ ผู้รับผิดชอบ หนา้ ท่ีรับผดิ ชอบปฏิบตั งิ านดังน้ี ๑) ประเมนิ คณุ ภาพการปฏิบตั งิ านตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย ๒) วางแผนประเมนิ ประสทิ ธภิ าพ และประสิทธิผลการดำเนนิ งานของสถานศึกษา ๓) วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ความมปี ระสิทธิภาพ ประหยัด และความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากร ของหน่วยงานในสถานศึกษา ๘. การระดมทรัพยากรและการลงทุนเพือ่ การศึกษา ผรู้ ับผดิ ชอบ หนา้ ทรี่ ับผิดชอบปฏิบตั ิงานดังนี้ ๑) วางแผน รณรงค์ ส่งเสริมการระดมทุนการศึกษาและทุนเพื่อการพัฒนาการศึกษาให้ ดำเนินงานไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพและเกดิ ประสิทธผิ ล คุ้มค่า และมคี วามโปร่งใส ๒) จัดทำข้อมูลสารสนเทศ และระบบการรับจ่ายทุนการศึกษาและเพ่ือการพฒั นาการศึกษา ให้ดำเนินงานได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพและเกดิ ประสิทธิผล คมุ้ คา่ และมคี วามโปรง่ ใส ๓) สรุป รายงาน เผยแพร่ และเชิดชูเกียรติผู้สนับสนุนทุนการศึกษาและทุนเพื่อการพัฒนา สถานศกึ ษา โดยความชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพน้ื ฐาน ๙. การบรหิ ารจดั การทรัพยากรเพอ่ื การศึกษา ผรู้ บั ผิดชอบ หน้าทีร่ บั ผิดชอบปฏบิ ตั งิ านดงั น้ี ๑) จัดทำรายการทรัพยากรเพื่อเป็นสารสนเทศได้แก่แหล่งเรียนรู้ภายในสถานศึกษา แหล่ง เรียนรู้ในท้องถิ่นทั้งที่เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น แหล่งเรียนรู้ที่เป็นสถานประกอบการ เพื่อการรับรู้ของบุคลากรในสถานศึกษา นักเรียนและบุคคลทั่วไปจำได้เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันในการจัด การศกึ ษา ๒) วางระบบหรอื กำหนดแนวปฏิบัติการใชท้ รัพยากรรว่ มกนั กับบุคคล หนว่ ยงานรัฐบาลและ เอกชนเพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ๓) กระตุ้นให้บุคคลในสถานศึกษาร่วมใช้ทรัพยากรภายในและภายนอก รวมทั้งให้บริการ การใช้ทรพั ยากรภายในเพ่อื ประโยชนต์ ่อการเรยี นรแู้ ละสง่ เสริมการศึกษาในชมุ ชน ๔) ประสานความร่วมมือกับผู้รับผิดชอบแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรที่มนุษย์สร้าง ทรพั ยากรบคุ คลทมี่ ศี ักยภาพใหก้ ารสนบั สนนุ การจดั การศึกษา ๕) ดำเนินการเชิดชูเกียรติบุคคลและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่สนับสนุนการใช้ ทรพั ยากรรว่ มกันเพือ่ การศึกษาของสถานศึกษา ๑๐. การวางแผนพสั ดุ ผรู้ บั ผดิ ชอบ หน้าทร่ี ับผิดชอบปฏิบัตงิ านดังน้ี ๑) การวางแผนพัสดุล่วงหน้า ๓ ปี ให้ดำเนินการตามกระบวนการของการวางแผน งบประมาณ ๒) การจัดทำแผนการจัดหาพัสดุให้ฝ่ายที่ทำหนา้ ทีจ่ ัดซื้อจัดจ้างเป็นผู้ดำเนนิ การ โดยให้ฝ่าย ที่ต้องการใช้พัสดุ จัดทำรายละเอียดพัสดทุ ี่ตอ้ งการ คือรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณ ราคา คุณลักษณะเฉพาะ หรือแบบรูปรายการและระยะเวลาที่ต้องการนี้ต้องเป็นไปตามแผนปฏิบัติการประจำปี (แผนปฏิบัติงาน) และ

20 ตามที่ระบุไว้ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ส่งให้ฝ่ายที่ทำหน้าที่จัดซื้อจัด จา้ งเพอื่ จัดทำแผนการจัดหาพัสดุ ๓) ฝ่ายที่จัดทำแผนการจัดหาพัสดุทำการรวบรวมข้อมูลรายละเอียดจากฝ่ายที่ต้องการใช้ พัสดุโดยมีการสอบทานกับแผนปฏิบัติงานและเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และความเหมาะสมของวิธีการจัดหาว่าควรเป็นการซื้อ การเช่าหรือการจัดทำเองแล้วจำนำข้อมูลที่สอบทาน แลว้ มาจดั ทำแผนการจัดหาพัสดใุ นภาพรวมของสถานศึกษา ๑๑. การกำหนดแบบรูปรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะของครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างที่ใช้เงิน งบประมาณเพือ่ สนองตอ่ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ผรู้ ับผิดชอบ หน้าท่ีรบั ผิดชอบปฏิบัติงานดังน้ี ๑) กำหนดแบบรูปรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะเพื่อประกอบการขอต้ังงบประมาณ ส่งให้ สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา ๒) กรณีที่เป็นการจัดหาจากเงินนอกงบประมาณให้กำหนดแบบรูปรายการหรือคุณ ลักษณะเฉพาะไดโ้ ดยให้พจิ ารณาจากแบบมาตรฐานก่อนหากไม่เหมาะสมก็ให้กำหนดตามความต้องการโดยยึด หลักความโปรง่ ใส เปน็ ธรรมและเป็นประโยชน์กับทางราชการ ๑๒. การจดั หาพสั ดุ ผู้รบั ผิดชอบ หน้าทร่ี บั ผดิ ชอบปฏบิ ตั ิงานดงั น้ี ๑) การจัดหาพัสดุถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุของส่วนราชการและคำสั่งมอบ อำนาจของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ๒) การจัดทำพัสดุถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาว่าด้วยการให้สถานศึกษารับจัดทำ รบั บรกิ าร ๑๓. การควบคมุ ดูแล บำรงุ รักษาและจำหน่ายพสั ดุ ผรู้ ับผดิ ชอบ หน้าทร่ี ับผิดชอบปฏิบัตงิ านดังน้ี ๑) จดั ทำทะเบียนคุมทรพั ย์สินและบัญชีวัสดุไมว่ ่าจะไดม้ าดว้ ยการจัดหาหรอื การรับบรจิ าค ๒) ควบคุมพัสดใุ ห้อยู่ในสภาพพร้อมการใช้งาน ๓) ตรวจสอบพัสดุประจำปี และให้มีการจำหน่ายพัสดุที่ชำรุด เสื่อมสภาพหรือไม่ใช้ใน ราชการอกี ต่อไป ๔) พัสดุทเ่ี ป็นที่ดินหรือส่ิงกอ่ สร้าง กรณที ่ไี ด้มาด้วยเงินงบประมาณใหด้ ำเนินการขน้ึ ทะเบียน เป็นราชพัสดุ กรณีที่ได้มาจากการรับบริจาคหรือจากเงินรายได้สถานศึกษาให้ขึ้นทะเบียนเป็นกรรมสิทธิ์ของ สถานศึกษา ๑๔. การรบั เงนิ การเกบ็ รักษาเงนิ และการจ่ายเงิน ผรู้ ับผดิ ชอบ หนา้ ท่ีรับผิดชอบปฏบิ ัติงานดังนี้ ๑) การปฏบิ ตั ิเกีย่ วกับการรับเงิน และการจ่ายเงนิ ให้ปฏบิ ัติตามระเบียบท่ีกระทรวงการคลัง กำหนดคือ ระเบียบการเก็บรักษาเงนิ และการนำเงินส่งคลงั ในหน้าที่ของอำเภอ พ.ศ. ๒๕๒๐ โดยสถานศึกษา สามารถกำหนดวิธีปฏิบตั เิ พิ่มเติมได้ตามความเหมาะสมแต่ต้องไม่ขัดหรอื แยง้ กบั ระเบียบดังกล่าว

21 ๒) การปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรักษาเงินให้ปฏิบัติตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด คอื ระเบยี บการเก็บรกั ษาเงินและการนำเงนิ ส่งคลังในส่วนของราชการ พ.ศ. ๒๕๒๐ โดยอนโุ ลม ๑๕. การนำเงนิ สง่ คลัง ผรู้ บั ผดิ ชอบ หนา้ ทรี่ ับผิดชอบปฏิบัตงิ านดงั น้ี ๑) การนำเงินส่งคลังให้นำส่งต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ ตามระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนำเงนิ สง่ คลังในหน้าท่ีของอำเภอพ.ศ. ๒๕๒๐ หากนำส่งเป็นเงินสดให้ ต้ังคณะกรรมการนำส่งเงนิ ดว้ ย ๑๖. การจัดทำบญั ชีการเงิน ผูร้ ับผิดชอบ หนา้ ท่รี บั ผดิ ชอบปฏบิ ตั งิ านดงั นี้ ๑) ใหจ้ ดั ทำบัญชกี ารเงนิ ตามระบบท่ีเคยจัดทำอยู่เดิม คือ ตามระบบที่กำหนดไว้ในคู่มือการ บัญชีหน่วยงานย่อย พ.ศ. ๒๕๑๕ หรือตามระบบการควบคุมการเงินของหน่วยงานย่อย พ.ศ. ๒๕๔๔ แล้ว แตก่ รณี ๑๗. การจัดทำรายงานทางการเงินและงบการเงิน ผู้รบั ผดิ ชอบ หน้าท่ีรับผดิ ชอบปฏบิ ัติงานดงั น้ี ๑) จัดทำรายงานตามที่กำหนดในคู่มือการบัญชีสำหรับหน่วยงานย่อย พ.ศ. ๒๕๑๕ หรือ ตามระบบการควบคมุ การเงนิ ของหน่วยงานยอ่ ยพ.ศ. ๒๕๑๕ แล้วแต่กรณี ๒) จดั ทำรายงานการรับจา่ ยเงนิ รายไดส้ ถานศึกษา ตามท่ีสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานกำหนด คอื ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐานว่าดว้ ยหลักเกณฑ์ อัตราและ วิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจา่ ยเป็นค่าใช้จ่ายในการจดั การศึกษาของสถานศึกษาที่เป็นนิตบิ ุคคลรายได้ สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใชจ้ ่ายในการจัดการของสถานศึกษาทเี่ ป็นนติ บิ คุ คลในสังกัดเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา ๑๘. การจัดทำและจดั หาแบบพมิ พ์บญั ชี ทะเบยี นและรายงาน ผรู้ ับผดิ ชอบ หนา้ ท่รี ับผดิ ชอบปฏบิ ัติงานดังน้ี ๑) แบบพิมพ์บัญชี ทะเบียนและแบบรายงานให้จัดทำตามแบบที่กำหนดในคู่มือการบัญชี สำหรับหน่วยงานย่อย พ.ศ. ๒๕๑๕ หรือตามระบบการควบคุมการเงินของหน่วยงาน ยอ่ ย พ.ศ. ๒๕๔๔

22 คณะผจู้ ดั ทำ ๑. นายศักดิช์ ัย เลิศอรณุ รัตน์ ผอู้ ำนวยการโรงเรียน ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ ๒. นางสาวสรุ ัตยา สีละพฒั น์ รองผอู้ ำนวยการโรงเรียน กรรมการ กรรมการ ๓. นางลัดดา นิสสัยดี ครูชำนาญการพเิ ศษ กรรมการ กรรมการ ๔. นางสาวเอ้อื งนภา คดิ สม ครชู ำนาญการ กรรมการและเลขานุการ กรรมการและผูช้ ่วยเลขานกุ าร ๕. นางสาวกนกนาถ สุชาตสิ นุ ทร ครชู ำนาญการ ๖. นายราชนพ ลำภู ครูชำนาญการ 7. นายชนายุทธ ตรงตามคำ ครูชำนาญการ 8. นางสาวกิตตยิ า กมิ าวหา ครชู ำนาญการ

23


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook