ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ว่าด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๔๗ หลกั สตู รโรงเรยี นโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ดี มจี ุดประสงค์ในการเขยี นชัดเจนไดเ้ นือ้ หาสาระ รูปแบบการเขยี นถูกต้องมี ขั้นตอนการเขยี นชดั เจนง่ายตอ่ การตดิ ตาม ใชไ้ วยากรณแ์ ละสะกดคำผิดพลาดไม่ เกนิ ๓ แห่ง พฒั นาสำนวนภาษาท่ีสือ่ ความหมายได้ชดั เจน ผ่าน มจี ุดประสงคใ์ นการเขียนชัดเจนและคอ่ นขา้ งได้เน้อื หาสาระ รูปแบบการเขียน ถูกตอ้ งมขี ้นั ตอนการเขียนชดั เจนงา่ ยต่อการตดิ ตาม ใช้ไวยากรณ์และสะกดคำ ผิดพลาดมากกวา่ ๓ แหง่ ขาดการพัฒนาสำนวนภาษาที่สื่อความหมายได้ ชัดเจน ไมผ่ า่ น ขาดจดุ ประสงคใ์ นการเขียนและเนื้อหาสาระนอ้ ย ใช้ไวยากรณ์และสะกดคำ ผดิ พลาดมาก ขาดการพัฒนาสำนวนภาษาทส่ี อ่ื ความหมาย ๔. การสรุปผลการประเมินความสามารถในการอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขยี น ๔.๑ ให้คิดค่าฐานนิยม (Mode) จากเกณฑ์การประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และ เขียน มาเปน็ ระดับคุณภาพของแต่ละรายวชิ า ๔.๒ ใหค้ ิดคา่ ฐานนิยม จากเกณฑก์ ารประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขียน ของ แต่ละรายวิชา สรุปเป็นผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ของผ้เู รียนรายบคุ คล ๕. เกณฑ์การตดั สนิ ความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น ๕.๑ ระดบั รายภาค ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน อยู่ในระดับ คุณภาพ ผ่าน ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน ๕.๒ การเลือ่ นชน้ั / จบหลักสตู ร ผู้เรยี นมคี วามสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ผ่านทกุ รายภาค แนวทางการพัฒนาและการประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน ระดบั ผ้ปู ฏบิ ัติ กลมุ่ ครูผู้สอนแตล่ ะกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ๑. แต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ร่วมกันกำหนดแนวทางในการพัฒนาความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน ที่สอดคล้องกับธรรมชาติของแต่ละกลุ่มสาระ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการอา่ น คิด วเิ คราะห์ และเขียน ท่ีสถานศึกษากำหนด ๒. ผสู้ อนทกุ รายวชิ านำแนวทางท่กี ำหนดไว้ใน ขอ้ ๑ วางแผนการจดั กจิ กรรมและดำเนินการจัด กิจกรรมการเรียนรู้สอดแทรกในการจัดการเรยี นการสอนของตนเอง ๓. ผู้สอนทุกรายวิชาดำเนินการประเมินและปรับปรุงความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน เป็นระยะๆ เมื่อส้นิ ภาคเรียน / ปลายปี ประเมนิ ผลพร้อมบันทึกร่องรอยหลักฐานในการพัฒนา ปรับปรุง และรวบรวมหลักฐานการประเมินไว้ที่หมวดวิชาเพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับตรวจสอบการ ปฏิบตั งิ านของผ้สู อน ซึง่ จะแสดงให้เหน็ ถงึ ความโปรง่ ใส และความยตุ ธิ รรมในการประเมนิ ❖ ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ว่าด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๔๘ หลกั สตู รโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ๔. บนั ทึกสรุปผลการประเมนิ ความสามารถในการอา่ น คิด วิเคราะห์ และเขยี น ลงใน แบบ ปพ.๕ แบบสรปุ ผลการประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน ๕. ผสู้ อนในแต่ละกล่มุ สาระรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง สมบูรณข์ องผลการประเมินแต่ละ รายวชิ า แล้วสรุปผลการประเมินในระดับกลมุ่ สาระลงใน แบบ ปพ.๕ แบบสรปุ ผลการอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขยี น สง่ คณะกรรมการประเมินการอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขียน ในระดับโรงเรยี น ตอ่ ไป กลุ่มผู้รับผิดชอบกิจกรรมพัฒนาเรียนรู้ และกลุ่มผู้รับผิดชอบงาน / โครงการ / กิจกรรมใน ระดบั โรงเรยี น ๑. วางแผนกำหนดกิจกรรมพัฒนาความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นท่ีสอดคล้อง กบั กิจกรรมในภาระงานท่ีตนเองรบั ผิดชอบ ๒. ดำเนินการจดั กิจกรรมพฒั นาตามแผนทีว่ างไว้ และประเมินพัฒนาปรับปรงุ ผู้เรยี นเป็นระยะๆ พร้อมบันทึกร่องรอยหลักฐาน ๓. เมื่อสิ้นภาคเรียน ให้มีการประเมินผล และสรุปผลการประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนดไว้ พร้อมให้ข้อสังเกตที่เป็นจุดเด่น จุดด้อย ของผู้เรียน บันทึกใน แบบ ปพ. ๕ และรวบรวม หลักฐานรอ่ งรอยการพัฒนาปรบั ปรุงไว้ที่ผู้ปฏิบัติ เพื่อเป็นหลกั ฐานสำหรับตรวจสอบการปฏิบัตงิ านของผู้ ปฏบิ ัติ สง่ ผลการประเมินให้คณะกรรมการประเมนิ ระดบั โรงเรียนตอ่ ไป ระดบั คณะกรรมการประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน ของสถานศกึ ษา ๑. แตง่ ตัง้ คณะกรรมการประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น จำนวน ๓ – ๕ คน ในแต่ ละระดับช้ันเป็นรายภาค/ปี ๒. คณะกรรมการประเมนิ ฯ ศกึ ษาเกณฑก์ ารประเมิน เพ่ือให้เกิดความเขา้ ใจตรงกนั ๓. นำผลการประเมนิ การอ่านจากระดับผู้ปฏิบัตริ ่วมกันประเมิน เพือ่ ตดั สนิ ความสามารถในการ อ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ๔. กรณีที่คณะกรรมการไมส่ ามารถตัดสนิ ได้ คณะกรรมการขอข้อมูลจากผู้ปฏิบัตเิ พิม่ เติม หรือ ทดสอบความสามารถซ้ำ แล้วจึงตดั สินผล ๕. คณะกรรมการสรปุ ผลการประเมินเพื่อเสนอผูบ้ ริหารโรงเรียนอนมุ ตั ผิ ลการประเมิน ๖. นายทะเบยี นวัดผลบันทึกลงใน ปพ.๑ แลว้ แจ้งผลการประเมนิ การอา่ น คิด วิเคราะห์ และ เขียน ใหอ้ าจารยท์ ี่ปรึกษาเพือ่ แจง้ ผปู้ กครอง แนวทางในการซ่อมเสริมและประเมนิ ผลการซอ่ มเสรมิ การอา่ น คิด วิเคราะห์ และเขียน ๑. คณะกรรมการประเมนิ การอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน ร่วมกันพิจารณาว่าผู้เรียนมีจุดท่ี ตอ้ งพัฒนาปรบั ปรงุ ดา้ นใด แตง่ ตงั้ ทป่ี รกึ ษาโดยระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรยี นเปน็ กรรมการดำเนินการซ่อม เสริม ๒. กำหนดภาระงานใหผ้ เู้ รียนพฒั นา ปรับปรุง ในด้านทตี่ อ้ งพฒั นาปรบั ปรุงโดย ๒.๑ กรณไี มผ่ ่านการประเมินการอ่าน ❖ ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๔๙ หลกั สตู รโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ๒.๑.๑ คณะกรรมการประเมนิ กำหนดภาระงานให้นักเรยี นอ่าน บันทึกการอ่าน พรอ้ มสง่ เอกสารทีไ่ ด้อา่ นไมน่ อ้ ยกว่า ๕ เร่อื ง หรือกรรมการกำหนดเรื่อง ๕ เรอื่ ง ให้อ่าน ภายในเวลา ท่กี ำหนด ๒.๑.๒ คณะกรรมการประเมินผลการอ่านโดยต้งั ประเด็นคำถามที่สอดคล้องกับ เกณฑ์การประเมนิ ผเู้ รยี นตอบโดยการเขยี นตอบหรอื ตอบปัญหาปากเปล่าก็ได้ ๒.๑.๓ หรอื อยใู่ นดลุ ยพินจิ ของคณะกรรมการฯ ๒.๑.๔ คณะกรรมการประเมินตัดสินผลการอ่านให้ผ่าน และได้ระดับไม่เกิน “ผ่าน” กรณีที่ซ่อมเสริมไม่ผ่านให้คณะกรรมการประเมินกำหนดใหผ้ ู้เรียนพฒั นาตามวิธีการ ข้อ ๒.๑.๑ ถงึ ๒.๑.๓ จนกว่าผูเ้ รียนจะไดร้ ับการตดั สนิ ผ่าน ๒.๒ กรณผี เู้ รียนไม่ผา่ นการคดิ วเิ คราะห์ ๒.๒.๑ คณะกรรมการประเมินกำหนดภาระงานให้ผู้เรียนไปฝึกคิด วิเคราะห์ ในเรือ่ งท่สี นใจภายใน ๑ สัปดาห์ ๒.๒.๒ คณะกรรมการประเมิน ประเมินการคิด วิเคราะห์ โดยตั้งประเด็น คำถามที่สอดคลอ้ งกับเกณฑ์การประเมนิ ผู้เรียนตอบโดยการเขยี นตอบ หรือตอบปากเปล่า ๒.๒.๓ คณะกรรมการประเมินตัดสินผลการคิด วิเคราะห์ โดยให้ผลการ ประเมนิ ไม่เกิน “ผา่ น” ๒.๒.๔ ในกรณีที่ผลการประเมินไม่ผ่าน ให้คณะกรรมการประเมินกำหนดให้ ผู้เรียนพัฒนาตามวิธกี ารใน ขอ้ ๒.๒.๑ – ๒.๒.๓ จนกว่าผเู้ รยี นจะไดร้ บั การตดั สิน ผา่ น ๒.๓ กรณที ี่ผู้เรยี นไมผ่ า่ นการประเมนิ การเขยี น ๒.๓.๑ คณะกรรมการประเมิน กำหนดภาระงานให้ผู้เรียนไปฝึกเขียนในเร่ืองท่ี สนใจภายใน ๑ สปั ดาห์ ภายใต้การควบคมุ ดูแลของครูท่ีปรกึ ษาในระบบดูแลช่วยเหลอื ๒.๓.๒ ผเู้ รยี นสง่ ผลงานการเขียนท่ไี ด้พฒั นาแลว้ แกค่ ณะกรรมการประเมิน ๒.๓.๓ คณะกรรมการประเมินทำการประเมินผลงานการเขียนประกอบการ สัมภาษณ์นกั เรียนเกี่ยวกับกระบวนการพฒั นาการเขียน ๒.๓.๔ คณะกรรมการตดั สินผลการเขียนโดยให้ผลการประเมินไมเ่ กิน “ผา่ น” ๒.๓.๕ ในกรณีทผ่ี ลการประเมินยังไม่ผ่าน ให้คณะกรรมการประเมินกำหนดให้ ผู้เรียนพัฒนาตามวิธีการ ขอ้ ๒.๓.๑ – ๒.๓.๔ จนกว่าผเู้ รียนจะไดร้ บั การตดั สินผา่ น ๓. คณะกรรมการประเมินการอ่านตัดสินผลการประเมินการอ่าน ส่งผลการประเมิน เสนอคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษาให้ความเห็นชอบ และรวบรวมส่งให้ ผ้บู ริหารสถานศึกษาอนุมตั ิ นายทะเบยี นวดั ผลบนั ทกึ ลง ปพ.๑ และแจง้ ผู้เกย่ี วขอ้ งต่อไป ❖ ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ว่าด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๕๐ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ สว่ นที่ ๕ การพฒั นาและประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น หลกั สตู รโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐ ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพัฒนาผู้เรยี นให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ซึ่งการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดนั้นจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดงั น้ี ๑. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ ภาษาถา่ ยทอดความคดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจ ความรู้สกึ และทัศนะของตนเองเพือ่ แลกเปลีย่ นข้อมูลข่าวสาร และประสบการณอ์ ันจะเป็นประโยชนต์ อ่ การพัฒนาตนเองและสังคม รวมทัง้ การเจรจาตอ่ รองเพอื่ ขจัดและ ลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผล และความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธกี ารสือ่ สารทมี่ ปี ระสิทธภิ าพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบท่ีมตี อ่ ตนเองและสงั คม ตัวบ่งช้ี ๑.๑ มคี วามสามารถในการรบั – ส่งสาร ๑.๒ มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษา อยา่ งเหมาะสม ๑.๓ ใช้วิธีการสอื่ สารทเ่ี หมาะสม ๑.๔ วิเคราะหแ์ สดงความคดิ เห็นอยา่ งมเี หตผุ ล ๑.๕ เขยี นบันทึกเหตกุ ารณป์ ระจำวันแล้วเล่าให้เพื่อนฟังได้ ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพอื่ นำไปส่กู ารสร้างองค์ความรู้หรือ สารสนเทศเพอ่ื การตดั สนิ ใจเกยี่ วกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ตวั บ่งชี้ ๒.๑ มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ๒.๒ มที ักษะในการคดิ นอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์ ๒.๓ สามารถคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ ๒.๔ มีความสามารถในการสรา้ งองค์ความรู้ ๒.๕ ตดั สินใจแกป้ ัญหาเก่ยี วกับตนเองได้อย่างเหมาะสม ❖ ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ ว่าด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๕๑ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหา และอุปสรรคต่าง ๆ ท่ี เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรม และข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลย่ี นแปลงของเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ใน การปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหา และมีการตดั สินใจที่มีประสทิ ธภิ าพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบท่ีเกิดขึ้นต่อตนเอง สงั คมและสง่ิ แวดล้อม ตัวบง่ ชี้ ๓.๑ สามารถแก้ปัญหาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ีเผชิญได้ ๓.๒ ใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หา ๓.๓ เข้าใจความสมั พนั ธ์และการเปล่ยี นแปลงในสังคม ๓.๔ แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรมู้ าใช้ในการป้องกนั และแก้ไขปญั หา ๓.๕ สามารติดสนิ ใจได้เหมาะสมตามวัย ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการ ดำเนินชีวิตประจำวนั การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันใน สังคมด้วยการสรา้ งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบคุ คล การจัดการปัญหาและความขดั แยง้ ต่าง ๆ อย่าง เหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม และสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง พฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงค์ที่สง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น ตัวบ่งชี้ ๔.๑ เรียนรูด้ ้วยตนเองได้เหมาะสมตามวยั ๔.๒ สามารถทำงานกลมุ่ ร่วมกับผูอ้ นื่ ได้ ๔.๓ นำความรทู้ ี่ไดไ้ ปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจำวัน ๔.๔ จัดการปัญหาและความขดั แย้งได้เหมาะสม ๔.๕ หลกี เลี่ยงพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ท่ีสง่ ผลกระทบต่อตนเอง ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การ ทำงาน การแกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกต้องเหมาะสมและมคี ุณธรรม ตวั บ่งชี้ ๕.๑ เลอื กและใช้เทคโนโลยไี ด้เหมาะสมตามวัย ๕.๒ มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ๕.๓ สามารถนำเทคโนโลยไี ปใชพ้ ฒั นาตนเอง ๕.๔ ใชเ้ ทคโนโลยีในการแกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ ๕.๕ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี ❖ ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๕๒ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ แนวการประเมินสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน กำหนดเปน็ ผ่านและไม่ผ่านในการกำหนดเกณฑก์ ารตัดสิน เปน็ ดมี าก ดี และพอใช้ และความหมายของแตล่ ะระดับ ดงั น้ี ดีเยย่ี ม หมายถึง ผู้เรียนปฏิบัติตนตามสมรรถนะจนเป็นนิสัย และนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวันเพือ่ ประโยชน์สุขของตนเองและสังคม โดยพิจารณาจากผลการประเมนิ ระดบั ดมี ากจำนวน ๓-๕ สมรรถนะ และไมม่ ีสมรรถนะใดได้ผลการประเมนิ ต่ำกว่าระดบั ดี ดี หมายถึง ผู้เรียนมีสมรรถนะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เป็นการยอมรับของ สงั คมโดยพจิ ารณาจาก ๑. ได้ผลการประเมินระดับดมี าก จำนวน ๑-๒ สมรรถนะ และไมม่ สี มรรถนะใดได้ผลการ ประเมนิ ต่ำกว่าระดบั ดี หรือ ๒. ได้ผลการประเมินระดบั ดมี าก จำนวน ๒ สมรรถนะ และไมม่ ีสมรรถนะใดไดผ้ ลการ ประเมนิ ต่ำกว่าระดบั พอใช้ หรอื ๓. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี จำนวน ๔-๕ สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใดไดผ้ ลการ ประเมนิ ต่ำกวา่ ระดบั พอใช้ ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่สถานศึกษากำหนด โดย พจิ ารณาจาก ๑. ได้ผลการประเมินระดับพอใช้ จำนวน ๔-๕ สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใดได้ผลการ ประเมนิ ตำ่ กว่าระดับพอใช้ หรอื ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี จำนวน ๒ สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใดไดผ้ ลการ ประเมนิ ตำ่ กว่าระดับพอใช้ ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด โดย พิจารณาจากผลการประเมินระดบั ต้องปรบั ปรงุ ตงั้ แต่ ๑ สมรรถนะ เกณฑก์ ารให้คะแนนระดับคุณภาพ ดเี ยย่ี ม - พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน ดี - พฤติกรรมท่ีปฏิบัตชิ ัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ ๒ คะแนน ผ่าน - พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตบิ างคร้ัง ให้ ๑ คะแนน ไม่ผ่าน - ไมเ่ คยปฏิบัตพิ ฤติกรรม ให้ ๐ คะแนน ❖ ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๕๓ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ เกณฑก์ ารสรปุ ผล - ๑๓ – ๑๕ คะแนน ดีมาก - ๙ – ๑๒ คะแนน ดี - ๑ – ๘ คะแนน พอใช้ - ๐ คะแนน ต้องปรับปรงุ แนวทางการพฒั นาและการประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ระดับผปู้ ฏิบัติ กล่มุ ครูผสู้ อน /ครูประจำชัน้ ๑. แต่ละกลุ่มสาระการเรียนรรู้ ่วมกันกำหนดแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ที่ สอดคล้องกับธรรมชาติของแต่ละกลุ่มสาระ และสอดคล้องกับมาตรฐานสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนท่ี สถานศึกษากำหนด ๒. ผสู้ อนทกุ รายวิชานำแนวทางทกี่ ำหนดไวใ้ น ข้อ ๑ วางแผนการจดั กจิ กรรมและดำเนินการจัด กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดแทรกในการจัดการเรียนการสอนของตนเอง ๓. ผสู้ อนทกุ รายวิชาดำเนินการประเมินและปรับปรุงสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนเป็นระยะๆ เมื่อ สิ้นภาคเรียน / ปลายปี ประเมินผลพร้อมบันทึกร่องรอยหลักฐานในการพัฒนาปรับปรุง และรวบรวม หลักฐานการประเมนิ ไว้ที่หมวดวิชาเพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรบั ตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้สอน ซึ่งจะ แสดงให้เหน็ ถึงความโปร่งใส และความยุตธิ รรมในการประเมิน ๔. บันทึกสรุปผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ลงใน แบบสรุปผลการประเมิน สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๕. ผู้สอนในแต่ละกลุ่มสาระร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง สมบูรณ์ของผลการประเมินแต่ละ รายวิชา แล้วสรุปผลการประเมินในระดับละระดับชั้น ลงในแบบสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ส่ง คณะกรรมการประเมินสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นในระดบั โรงเรยี นต่อไป ระดับคณะกรรมการประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ของสถานศึกษา ๑. แต่งตั้งคณะกรรมการสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน จำนวน ๓ – ๕ คน ในแต่ละระดับชั้นเปน็ รายภาค/รายปี ๒. คณะกรรมการประเมินฯ ศึกษาเกณฑ์การประเมิน เพ่อื ให้เกดิ ความเข้าใจตรงกนั ๓. นำผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นจากระดับผู้ปฏิบัติร่วมกันประเมิน เพื่อตัดสิน สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ตามเกณฑท์ ก่ี ำหนดไว้ ๔. กรณีที่คณะกรรมการไม่สามารถตัดสินได้ คณะกรรมการขอข้อมูลจากผู้ปฏิบัตเิ พิ่มเติม หรือ ทดสอบความสามารถซำ้ แล้วจงึ ตดั สนิ ผล ๕. คณะกรรมการสรุปผลการประเมินเพื่อเสนอผู้บริหารโรงเรียนอนุมัติผลการประเมนิ ๖. นายทะเบียนวัดผลบันทึกลงใน แบบนสรุปสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน แล้วแจ้งผลการ ประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ใหค้ รูทปี่ รึกษาเพ่ือแจ้งผู้ปกครอง ❖ ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ว่าดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๕๔ หลักสตู รโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ส่วนที่ ๖ การพฒั นาและประเมนิ ค่านยิ มหลกั คนไทย 12 ประการ การประเมนิ ค่านิยมหลกั 12 ประการมีแนวทางการประเมินคอื ประเมนิ ตามตวั ชวี้ ัดซ่ึงมพี ฤติกรรม บ่งช้ีแต่ละตัวระบุไว้ คะแนนการประเมนิ แบง่ เปน็ ระดับตามเกณฑท์ ก่ี ำหนดดงั นี้ ข้อ 1 มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ ตวั ชวี้ ัดท่ี 1.1 เป็นพลเมอื งดขี องชาติ พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม(3) 1.1.1 ยืนตรงเคารพธง ไมย่ นื ตรงเคารพ ยืนตรงเมอ่ื ได้ ยนื ตรงเม่อื ไดย้ ิน ยนื ตรงเม่อื ไดย้ ินเพลง ชาติ รอ้ งเพลงชาติและ ธงชาติ ยนิ เพลงชาติ เพลงชาติ ร้อง ชาติ ร้องเพลงชาติได้ อธบิ ายความหมาย ของ ร้องเพลงชาตไิ ด้ เพลงชาติได้ และ และบอกความหมาย เพลงชาติไดถ้ ูกต้อง บอกความหมาย ของเพลงชาติไดถ้ ูกตอ้ ง 1.1.2 ปฏบิ ัตติ นตามสิทธิ ของเพลงชาตไิ ด้ ปฏบิ ัตติ นตามสทิ ธิและ หนา้ ทพี่ ลเมอื งดีของชาติ ถูกตอ้ ง ปฏิบตั ติ น หน้าท่ขี องนกั เรยี น 1.1.3 มคี วามสามคั คี ตามสิทธแิ ละ และใหค้ วามรว่ มมอื ปรองดอง หนา้ ท่ีของ ร่วมใจในการทำงานกบั นกั เรยี น สมาชิกในชน้ั เรียน ตัวชว้ี ัดท่ี 1.2 ธำรงไวซ้ ึ่งความเปน็ ชาตไิ ทย พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ียม(3) 1.2.1 เขา้ ร่วมส่งเสรมิ ไมเ่ ขา้ ร่วม เข้ารว่ มกจิ กรรม เข้าร่วมกจิ กรรม เข้าร่วมกจิ กรรมทเี่ ปน็ สนับ สนุนกิจกรรมท่สี รา้ ง กจิ กรรมท่ีสร้าง ความสามัคคีปรองดองท่ี ความสามัคคี ทีส่ ร้างความ ท่เี ปน็ ประโยชน์ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น เป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชนและสังคม สามัคคี ต่อโรงเรยี น และ และปฏบิ ัตติ นเป็น 1.2.2 หวงแหน ปกป้อง ยกย่องความเป็นชาติไทย ปรองดอง และ ปฏิบตั ิตนเพ่อื ตัวอย่างท่ีดี เป็นประโยชน์ สรา้ งความสามัคคี ในการสรา้ งความ ต่อโรงเรยี น ปรองดอง สามคั คี ปรองดองใน ในหมเู่ พือ่ น หมเู่ พอื่ น ❖ ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๕๕ หลกั สตู รโรงเรยี นโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ตัวชี้วัดท่ี 1.3 ศรัทธา ยึดม่ัน และปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยีย่ ม(3) 1.3.1 เข้ารว่ มกิจกรรม ไม่เขา้ ร่วม เขา้ ร่วมกิจกรรม เขา้ ร่วมกจิ กรรม เขา้ ร่วมกจิ กรรมทาง ศาสนาท่ีตนนบั ถอื ทางศาสนาทีต่ นนับถือ กจิ กรรมทาง ทางศาสนาทต่ี น ทางศาสนาทีต่ น ปฏบิ ตั ติ นตามหลักของ ศาสนาอย่างสม่ำเสมอ 1.3.2 ปฏบิ ตั ิตนตาม ศาสนาที่ตนนบั นบั ถือ และ นบั ถอื และ และเป็นตัวอย่างทด่ี ี ของศาสนกิ ชน หลกั ของศาสนาทีต่ นนบั ถือ ปฏิบตั ิตนตาม ปฏิบตั ิตนตาม ถือ หลกั ของศาสนา หลักของศาสนา 1.3.3 เปน็ แบบอย่างที่ดี ตามโอกาส อยา่ งสม่ำเสมอ ของศาสนิกชน ตวั ชีว้ ัดที่ 1.4 เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม(3) 1.4.1 เข้ารว่ มและมี ไม่เขา้ รว่ ม เขา้ ร่วมกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกจิ กรรม และมี สว่ นรว่ มในการจัดกิจกรรม กิจกรรมท่ี ทเี่ ก่ียวกับ เกี่ยวกบั สถาบัน สว่ นรว่ มในการจัด ท่ี เกย่ี วกบั สถาบนั สถาบนั พระมหากษัตริย์ กิจกรรมทเี่ กย่ี วกับ เกี่ยวกับสถาบนั พระมหา พระมหากษตั รยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ ตามทโ่ี รงเรียน สถาบัน กษัตริย์ ตามท่โี รงเรยี น และชุมชนจัดขน้ึ พระมหากษัตรยิ ์ 1.4.2 แสดง ตามทีโ่ รงเรยี นและ จัดขึ้น ความสำนึก ชมุ ชนจัดขึ้น ในพระมหากรุณาธคิ ณุ ของ พระมหากษัตริย์ 1.4.3 แสดงออกซง่ึ ความจงรกั ภักดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๕๖ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ขอ้ 2 ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในส่งิ ท่ดี งี ามเพอ่ื ส่วนรวม ตัวช้วี ัดที่ 2.1 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ต่อตนเองทงั้ ทางกาย วาจา ใจ พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม(3) 2.1.1ใหข้ อ้ มลู ทีถ่ กู ตอ้ ง ไมใ่ ห้ข้อมูลที่ ใหข้ อ้ มลู ที่ ให้ข้อมลู ท่ถี ูกตอ้ ง ให้ขอ้ มลู ทถี่ ูกตอ้ งและ และเป็นจริง ถูกตอ้ งและเปน็ ถูกต้องและเป็น และเป็นจริง เปน็ จรงิ ปฏบิ ตั ิในสิ่งที่ 2.1.2 ปฏิบตั ิตนโดย จรงิ จรงิ ปฏิบัติใน ปฏิบัติในส่ิงท่ี ถกู ตอ้ ง ทำตาม คำนึง สิ่งท่ถี ูกต้อง ถูกต้อง สญั ญาที่ตนใหไ้ ว้กบั ถงึ ความถกู ต้องละอาย ทำตามสญั ญาที่ ทำตามสญั ญาท่ี เพอ่ื น พอ่ แม่ หรือ และเกรงกลัวต่อการ ตนใหไ้ วก้ ับ ตนใหไ้ วก้ บั เพ่อื น ผ้ปู กครอง และครู กระทำผิด เพอ่ื น พอ่ แม่ พอ่ แม่ หรือ ละอายและ เกรงกลัวที่ 2.1.3 ปฏบิ ัติตามคำม่ัน หรอื ผู้ปกครอง ผู้ปกครอง และครู จะทำความผดิ เป็น สญั ญา และครู ละอายและเกรง แบบอยา่ งทดี่ ีด้าน ละอายและเกรง กลวั ท่จี ะทำ ความซอื่ สัตย์ กลัวท่ีจะทำ ความผดิ ความผดิ ตัวชี้วัดที่ 2.2 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงต่อผู้อนื่ ทัง้ ทางกาย วาจา ใจ พฤติกรรมบง่ ช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม(3) 2.2.1 ไมถ่ ือเอาสิ่งของ นำสิ่งของของ ไมน่ ำสิ่งของ ไม่นำส่งิ ของ ไม่นำสิง่ ของ และ หรือผลงานของผู้อ่นื มา คนอ่นื มาเป็น และผลงานของ และผลงานของ ผลงานของผูอ้ น่ื มาเป็น เป็นของตนเอง ของตนเอง ผู้อ่ืนมาเปน็ ของ ผู้อืน่ มาเป็นของ ของตนเอง ปฏบิ ัตติ น ตนเอง ปฏบิ ัติ ตนเอง ปฏบิ ัตติ น ตอ่ ผอู้ ่ืนดว้ ยความ 2.2.2 ปฏบิ ตั ิ ตนต่อผอู้ ื่นดว้ ย ตอ่ ผอู้ นื่ ดว้ ยความ ซือ่ ตรง ไมห่ า ตนตอ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความ ซอื่ ตรง ไมห่ า ความซื่อตรง ซอื่ ตรง ไม่หา ประโยชน์ในทางทไี่ ม่ 2.2.3 ประโยชน์ในทาง ถกู ต้อง และเป็น ประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ ท่ี ไม่ถกู ตอ้ ง แบบอยา่ งที่ดีแกเ่ พอ่ื น ถูกตอ้ ง ด้านความซ่ือสัตย์ ❖ ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๕๗ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ข้อ 3 กตญั ญูตอ่ พอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครูบาอาจารย์ ตวั ช้ีวัดที่ 3.1 ร้จู ักบญุ คุณและตอบแทนบุญคณุ ของพ่อแม่ ผูป้ กครอง พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม(3) 3.1.1 ปฏิบัติ ไม่เชอ่ื ฟงั พอ่ แม่ ชว่ ยเหลือ แบ่ง เคารพเชอื่ ฟังพอ่ ปฏบิ ัติตนต่อพ่อแม่ ตนต่อพ่อแมผ่ ู้ปกครอง ไมช่ ว่ ยเหลอื งาน เบาภาระ แมแ่ ละช่วยเหลือ ผู้ปกครองดว้ ยความรกั ดว้ ยความรกั เคารพเช่อื แบ่งเบาภาระ เคารพเชอ่ื ฟงั และมี ฟังและมีความซ่ือตรง ผ้ปู กครองใน ผปู้ กครองตาม ความซือ่ ตรง ช่วยเหลอื 3.1.2ปฏิบตั งิ าน บางโอกาศ ความเหมาะสม แบง่ เบาภาระ ช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระ อย่างสมำ่ เสมอ ผูป้ กครองตามความ ผูป้ กครองตามความ เหมาะสมทกุ โอกาส เหมาะสม ตัวช้วี ัดที่ 3.2 รู้จักบญุ คุณและตอบแทนบุญคุณของครู อาจารย์ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยี่ยม(3) 3.2.1 ให้ความเคารพ ไม่ให้ความ ใหค้ วามเคารพ ให้ความเคารพ ให้ความเคารพเชอื่ ฟัง เชื่อฟงั ไม่สรา้ งความ เคารพไมเ่ ช่ือฟงั เชอ่ื ฟงั ครู ไม่ เช่อื ฟังครู ไมส่ ร้าง ครู ไมส่ รา้ งความ เดอื ดรอ้ นใหค้ รอู าจารย์ ครู สรา้ งความ สรา้ งความ 3.2.2 ปฏิบัติตนเปน็ ลกู เดอื ดร้อนใหค้ รู เดือดร้อนใหค้ รู ความเดอื ดร้อนให้ เดือดรอ้ นให้ครอู าจารย์ ศิษยท์ ี่ดีท้ังต่อหนา้ และลบั ครูอาจารย์ ปฏิบัตติ นเปน็ ลกู ศษิ ย์ท่ี ปฏบิ ตั ิตนเป็นลกู ดีท้ังต่อหนา้ และลบั หลัง ศษิ ยท์ ี่ดี หลัง ข้อ 4 ใฝ่หาความรู้ หมนั่ ศึกษาเล่าเรยี นทัง้ ทางตรงและทางออ้ ม ตัวชี้วัดท่ี 4.1 ต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยี่ยม(3) 4.1.1 ต้ังใจเรียน ไมต่ ้ังใจเรียน ตง้ั ใจ และเอาใจ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ต้งั ใจเรยี น เอาใจใส่ ใสใ่ น และมคี วามเพียร และมคี วามเพยี ร 4.1.2 เอาใจใส่และมี การเรยี น พยายามในการ พยายามในการเรยี นรู้ เรยี น และเขา้ ร่วมกิจกรรม ความเพียรพยายามในการ การเรยี นรู้ต่าง ๆ เรียนรู้ 4.1.3 สนใจเข้าร่วม กิจกรรมการเรยี นรูต้ า่ ง ๆ ❖ ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ วา่ ดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๕๘ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ตัวชี้วัดที่ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ ต่าง ๆ ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี นด้วยการเลอื กใช้ส่ือ อยา่ งเหมาะสม สรปุ เป็นองคค์ วามร้แู ละสามารถนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม(3) 4.2.1 ศกึ ษาค้นควา้ หา ไม่ศกึ ษาค้นควา้ ศึกษาค้นควา้ หา ศึกษาค้นควา้ หา ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ ความรู้จากหนังสอื เอกสาร หาความรู้ ความรู้จาก ความรู้จากหนงั สอื จากหนังสอื เอกสาร สิ่งพิมพ์ สือ่ เทคโนโลยีต่าง หนงั สอื เอกสาร เอกสาร สง่ิ พิมพ์ สง่ิ พมิ พ์ ส่ือเทคโนโลยี ๆ ส่ิงพมิ พ์ สอื่ สอื่ เทคโนโลยตี า่ ง ต่าง ๆ แหล่งเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ทง้ั ภายในและ เทคโนโลยี ๆ แหล่ง ทง้ั ภายในและภายนอก ภายนอกโรงเรียน และ ต่างๆ แหลง่ เรียนรทู้ ง้ั ภายใน โรงเรยี น เลือกใชส้ ื่อได้ เลอื กใช้ เรียนรู้ ทง้ั และภายนอก อย่างเหมาะสม มีการ ส่ือไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ภายในและ โรงเรยี น มีการ บันทกึ ความรู้ สรปุ 4.2.2 บันทึกความรู้ ภายนอก บนั ทกึ ความรู้ เปน็ องค์ความรู้ วิเคราะหต์ รวจสอบ จาก โรงเรยี น และมี สรปุ เปน็ องค์ นำเสนอ และ สิ่งที่เรยี นรู้ สรุปเปน็ องค์ การบนั ทกึ ความรู้ แลกเปล่ยี นองคค์ วามรู้ ความรู้ ความรู้ นำเสนอและ ด้วยวธิ กี ารท่ี 4.2.3 แลกเปล่ียนความรู้ แลกเปล่ยี น หลากหลาย ด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ และนำ ความรกู้ ับผู้อนื่ ได้ ไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ความสามัคคี ปรองดอง ทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อ โรงเรียน ชมุ ชนและสังคม ❖ ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๕๙ หลักสูตรโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ขอ้ 5 รักษาวฒั นธรรมประเพณไี ทยอนั งดงาม ตัวชว้ี ัดที่ 5.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวฒั นธรรมไทย พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเย่ยี ม(3) 5.1.1 แต่งกายและมี ไมม่ สี ัมมา ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ ปฏบิ ัตติ นเป็นผู้มี ปฏิบตั ิตนเปน็ ผมู้ ี มารยาทงดงามแบบไทย คารวะตอ่ ผ้ใู หญ่ มมี ารยาทแบบ มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย มี มสี มั มาคารวะ กตญั ญู ไทย มสี ัมมาคารวะ สัมมาคารวะ กตัญญู กตเวทตี อ่ ผู้มพี ระคุณ มสี มั มาคารวะ กตัญญกู ตเวทีต่อ กตเวทีตอ่ ผมู้ ีพระคณุ 5.1.2 รว่ มกจิ กรรมท่ี กตัญญูกตเวที ผูม้ ีพระคุณ และ แตง่ กายแบบไทยด้วย เก่ียวขอ้ งกบั ประเพณี ตอ่ ผมู้ พี ระคณุ แต่งกายแบบไทย ความภาคภมู ิใจ เข้า ศิลปะและวฒั นธรรมไทย และแต่งกาย ดว้ ยความ ร่วมหรอื มสี ่วนร่วม ใน 5.1.3 ชักชวน แนะนำให้ แบบไทย เขา้ ภาคภมู ิใจ เข้า การจดั กจิ กรรมที่ ผู้อ่ืน ร่วมหรอื มสี ่วน ร่วม หรอื มีสว่ น เกี่ยวข้องกบั ประเพณี ปฏิบตั ติ ามขนบธรรมเนียม ร่วม ในกิจกรรม ร่วม ในกจิ กรรมท่ี ศิลปะและวัฒนธรรม ประเพณี ศิลปะ ท่เี กี่ยวข้องกับ เกี่ยวขอ้ งกับ ไทย ชักชวน แนะนำ และ ประเพณี ประเพณี ศลิ ปะ เพอ่ื นและคนอ่นื ปฏบิ ตั ิ วฒั นธรรมไทย ศลิ ปะและ และวฒั นธรรม ตามขนบธรรมเนยี ม วฒั นธรรมไทย ไทย ประเพณี ศลิ ปะและ วัฒนธรรมไทย ตัวช้วี ัดที่ 5.2 เห็นคุณคา่ และ ใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ย่ยี ม(3) 5.2.1 ใชภ้ าษาไทยและ ไม่สนใจใช้ ใชภ้ าษาไทย ใชภ้ าษาไทย ใชภ้ าษาไทย เลขไทยในการสือ่ สารได้ ภาษาไทย เลขไทยในการสอื่ สาร อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม อยา่ งถกู ต้อง เลขไทย ในการ เลขไทยในการ ไดถ้ กู ต้องเหมาะสม 5.2.2 ชกั ชวน แนะนำให้ และแนะนำ ชักชวน ส่ือสารได้ สือ่ สารไดถ้ กู ตอ้ ง ให้ผู้อ่ืนใช้ภาษาไทยที่ ผอู้ ่ืน ถูกต้องเป็นประจำ เหน็ คณุ ค่าของการใช้ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และ เปน็ แบบอยา่ งที่ดดี ้าน ภาษาไทยท่ีถกู ต้อง การใชภ้ าษาไทย เหมาะสม และ แนะนำ ชักชวน แนะนำให้ผู้อน่ื ใหผ้ อู้ ืน่ ใช้ ใชภ้ าษาไทยที่ ภาษาไทยท่ี ถกู ต้อง ถกู ตอ้ ง ❖ ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ วา่ ด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๖๐ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ตัวชว้ี ัดที่ 5.3 อนรุ ักษ์ และสืบทอดภมู ิปัญญาไทย พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม(3) 5.3.1 นำภมู ิปัญญาไทย ไมส่ นใจภูมิ สบื คน้ ภูมิ สบื คน้ ภูมิปญั ญา สืบคน้ ภูมปิ ญั ญาไทย มาใชใ้ ห้เหมาะสมในวิถี ปญั ญาไทย ปัญญาไทยที่ใช้ ไทยทีม่ อี ยใู่ น เขา้ รว่ มและชกั ชวนคน ชีวิต ในท้องถน่ิ ท้องถิน่ เข้าร่วม ในครอบครัว เพ่อื น 5.3.2 รว่ มกิจกรรมท่ีเกย่ี ว เขา้ รว่ ม และชกั และชักชวนคนใน และผอู้ ่นื เข้าร่วม ขอ้ ง กบั ภูมปิ ัญญาไทย ชวนคนในครอบ ครอบครวั เพื่อน กจิ กรรมทีเ่ ก่ยี วข้องกบั 5.3.3 แนะนำ มีส่วนร่วม ครัวหรือเพอ่ื น และผูอ้ นื่ เข้ารว่ ม ภมู ิปญั ญาไทย ใช้และ ใน เข้าร่วมกิจกรรม กจิ กรรมที่ แนะนำใหเ้ พอ่ื นใชภ้ มู ิ การสืบทอดภมู ิปัญญาไทย ที่เก่ียวขอ้ งกับ เกยี่ วข้องกับภูมิ ปัญญาไทย ในชีวติ ภมู ิปัญญาไทย ปัญญาไทย ใช้ ประจำวนั และมสี ่วน และใชภ้ มู ิ และแนะนำให้ รว่ มในการสืบทอด ภูมิ ปัญญาไทยใน เพอื่ นใช้ภูมิ ปัญญาไทย ชีวิตประจำวนั ปญั ญาไทยใน ชีวติ ประจำวัน ข้อ 6. มศี ีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผูอ้ ่ืน เผ่อื แผแ่ ละแบ่งปนั ตัวช้ีวัดที่ 6.1 มีคุณธรรมจริยธรรม พฤติกรรมบง่ ช้ี ไม่ผ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม(3) 6.1.1 เว้นจากการทำ ทำความช่วั เวน้ จากการทำ เวน้ จากการทำ เวน้ จากการทำความ ความชว่ั ทั้งปวง อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ความช่ัวได้บ้าง ความช่ัวทง้ั ปวง ชั่วท้ังปวง ทำความดี 6.1.2 ทำความดเี ปน็ ทำความดีได้ ทำความดีเปน็ เป็นกิจวัตร รกั ษา กจิ วตั ร บา้ งเปน็ ครั้ง กจิ วตั ร คำพดู ของตนเอง ทำ 6.1.3 ซ่อื สตั ยต์ ่อคำพูด คราว ตามสิง่ ทีพ่ ดู คดิ ดี พดู ดี และทำดี ของ ตนเอง ทำตามสิง่ ทพ่ี ดู ❖ ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ว่าดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๖๑ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ตวั ชวี้ ัดที่ 6.2 ปรารถนาดตี อ่ ผู้อนื่ พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ยี ม(3) 6.2.1 ประพฤตปิ ฏิบตั ิ ไม่สนใจว่าใคร ประพฤตปิ ฏิบัติ ประพฤติปฏิบัติ ประพฤตปิ ฏบิ ัติตน ตนต่อผู้อน่ื อยา่ งเหมาะสม จะเปน็ อยา่ งไร (ทำดี)ต่อผู้อ่นื อย่าง 6.2.2 ชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื ตน(ทำด)ี ตอ่ ตน(ทำด)ี ตอ่ ผูอ้ ่นื เหมาะสมและ สม่ำเสมอ ชว่ ยเหลอื ด้วย ผอู้ ่ืนอย่าง อย่างเหมาะสม ผู้อนื่ สง่ เสรมิ สนับสนุน ความเตม็ ใจ ผอู้ ่ืนในทางทีดีดว้ ย เหมาะสม ช่วยเหลอื ผอู้ ื่นใน ความเต็มใจ คราวจำเปน็ ตวั ชี้วัดท่ี 6.3 มีความเอ้ือเฟ้ือเผอื่ แผ่ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผา่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยี่ยม(3) 6.3.1 เสยี สละเพื่อ ไมเ่ คยเสยี สละ เสียสละเพอื่ เสียสละเพอ่ื เสยี สละเพื่อสว่ นรวม ส่วนรวม เพื่อส่วนรวม ไม่ สว่ นรวม ให้ ส่วนรวม ใหค้ วาม ให้ความช่วยเหลือผอู้ ่ืน ความช่วยเหลอื ช่วยเหลอื ผูอ้ นื่ แบง่ ปนั เพื่อนรว่ มงาน 6.3.2 ให้ความชว่ ยเหลอื เคยช่วยเหลอื ผู้อืน่ ในบาง แบง่ ปันเพ่ือน หรือคนอ่ืน ๆ อยเู่ สมอ โอกาส รว่ มงาน ในบาง ผอู้ ่นื แบ่งปนั เพอื่ น ผอู้ ่ืน โอกาส รว่ มงาน หรือคนอ่นื ๆ อยู่ เสมอ ขอ้ 7 เขา้ ใจเรียนรกู้ ารเปน็ ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง ตัวชวี้ ดั ท่ี 7.1 มคี วามรคู้ วามเข้าใจทถ่ี กู ตอ้ งเกยี่ วกับการเปน็ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์เปน็ ประมขุ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ยี ม(3) 7.1.1 ประพฤตติ นได้ ประพฤตติ นไม่ ประพฤตติ นได้ ประพฤติตนได้ ประพฤติตนได้ เหมาะ สมกบั บรบิ ทและ เหมาะสมกบั บรบิ ท สภาพของสงั คม เหมาะสมกับ เหมาะสมกับ เหมาะสมกบั และสภาพของสังคม มี 7.1.2 มีความรู้ความ ความรคู้ วามเข้าใจที่ เขา้ ใจท่ีถูกตอ้ งเกีย่ วกบั บรบิ ทและ บรบิ ทและ บรบิ ทและสภาพ ถูกต้องเกี่ยวกับการ การปกครองในระบอบ ปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมี สภาพของสงั คม สภาพของสงั คม ของสงั คม มี ประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริยเ์ ปน็ พระมหากษัตรยิ ์เป็น ประมขุ ความรู้ความ ประมุข อยา่ งชดั เจน เขา้ ใจท่ถี ูกต้อง เกย่ี วกบั การ ปกครองใน ระบอบ ประชาธปิ ไตย อนั มี พระมหากษัตริย์ เปน็ ประมุข ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๖๒ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตัวช้วี ัดท่ี 7.2 ปฏิบตั ติ นตามบทบาทหนา้ ที่ และสิทธิของพลเมอื งท่ดี ี พฤติกรรมบง่ ชี้ ไม่ผา่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม(3) 7.2.1 เปน็ พลเมืองดี ไมร่ จู้ ักบทบาท เป็นพลเมอื งดี เปน็ พลเมืองดี เป็นพลเมอื งดี ปฏบิ ัติ ปฏิบัตติ นตามบทบาท หนา้ ทีข่ อง ตนตามบทบาทหนา้ ท่ีท่ี หนา้ ทท่ี ่ีมตี ่อตนเอง ต่อ ตนเอง ปฏิบัตติ นตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม มีตอ่ ตนเอง ตอ่ ครอบครวั สงั คมชมุ ชน ครอบครัว สงั คม และประเทศชาติ บทบาทหน้าทท่ี ่ี บทบาทหนา้ ที่ทม่ี ี ชุมชนและประเทศ ชาติ มีตอ่ ตนเอง ตอ่ ตนเอง ต่อ ตอ่ ครอบครวั ครอบครวั สังคม ตัวชี้วัดที่ 7.3 เคารพในสทิ ธิเสรีภาพของผู้อน่ื พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม(3) 7.3.1 ปฏิบัติตนตาม ไม่ปฏิบัติตน ปฏิบัตติ นตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏิบตั ติ นตามระเบียบ ระเบยี บ กฎหมาย ระเบยี บ กฎหมาย ประเพณที ่ีดี ประเพณีท่ดี ีงาม ตามระเบยี บ ระเบยี บ กฎหมาย งาม 7.3.2 ใชส้ ิทธิเสรีภาพ ประเพณีทีด่ งี าม ใชส้ ิทธิเสรีภาพของ ของตนเองตามขอบเขต กฎหมายใช้สิทธิ กฎหมาย ใชส้ ิทธิเสรีภาพ ตนเองตามขอบเขต และเคารพในสิทธหิ รอื ไม่ ของตนเองตาม และเคารพในสิทธิ ละเมิดสทิ ธเิ สรีภาพของ เสรภี าพเกิน ใชส้ ิทธเิ สรภี าพ ขอบเขต หรอื ไมล่ ะเมิดสิทธิ ผอู้ ืน่ เสรภี าพของผ้อู นื่ ขอบเขต ของตนเองตาม ขอบเขต ขอ้ 8. มีระเบียบวนิ ัย เคารพกฎหมาย ผ้นู ้อยรจู้ กั เคารพผใู้ หญ่ ตัวช้วี ัดท่ี 8.1 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับ ของครอบครัว โรงเรียน และสังคม พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยีย่ ม(3) 8.1.1 ปฏบิ ตั ิตน ตาม ไมป่ ฏบิ ตั ติ น ปฏิบตั ิตาม ปฏบิ ัติตาม ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ตามขอ้ ตกลง ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของ กฎเกณฑ์ ข้อตกลง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ครอบครวั โรงเรยี นและ ระเบยี บ สงั คม ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ อง ขอ้ บังคับของ กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ข้อบงั คับของครอบครัว ผอู้ น่ื ครอบครวั และ 8.1.2 ตรงต่อเวลาในการ โรงเรียน ระเบยี บ ระเบยี บ ขอ้ บังคับ และโรงเรยี นไดด้ ว้ ย ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่าง ๆ ใน ชีวติ ประจำวัน และ ข้อบงั คบั ของ ของครอบครัว ตนเอง รับผดิ ชอบในการทำงาน ครอบครัว และ และโรงเรียน โดย โรงเรียน โดย ตอ้ งมีการเตือน ตอ้ งมี การเตอื น เป็นบางครงั้ เปน็ สว่ นใหญ่ ❖ ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๖๓ หลกั สตู รโรงเรยี นโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ตวั ชี้วัดท่ี 8.2 ใหค้ วามเคารพตอ่ ผู้ใหญ่ พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ย่ยี ม(3) 8.2.1 มมี ารยาทดี กา้ วร้าวไมใ่ ห้ ใหเ้ กยี รติผ้อู ่ืน ให้เกียรติผู้อ่ืน มารยาทดี พูดจา พดู จาสุภาพ เกียรตผิ ู้อนื่ พูดจาสภุ าพ พูดจาสุภาพ สุภาพออ่ นน้อมถ่อมตน 8.2.2 ให้เกียรติผใู้ หญ่ มารยาทดี อ่อน ให้เกียรติผู้ใหญ่ ปฏิบัติ ปฏบิ ตั ติ นต่อผู้ใหญ่ดว้ ย นอ้ มถอ่ มตน ตนต่อผู้ใหญด่ ้วยความ ความเคารพ เคารพ ข้อ 9. มีสตริ ู้ตัว รู้คิด ร้ทู ำ รู้ปฏบิ ัติตามพระราชดำรัสพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ตวั ชวี้ ัดท่ี 9.1 นอ้ มนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั มาเปน็ หลักในการดำเนนิ ชีวิต พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผา่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ยี ม(3) 9.1.1 เรียนรพู้ ระราช ไมส่ นใจ ไม่ เรียนรพู้ ระราช เรยี นรพู้ ระราช เรยี นรพู้ ระราชดำรัส ของพระบาทสมเดจ็ ดำรสั ของพระบาทสมเดจ็ เรียนรูพ้ ระราช ดำรัสของ ดำรัสของ พระเจา้ อยู่หวั และน้อม นำมาเป็นหลักในการ พระเจา้ อย่หู วั และนอ้ ม ดำรัสของ พระบาทสมเด็จ พระบาทสมเดจ็ ดำเนนิ ชีวติ ประพฤติปฏิบัติตน นำมาเป็นหลักในการ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั พระเจา้ อยู่หวั ตามแนวพระราชดำรสั พระบาทสมเดจ็ พระ ดำเนินชีวิต พระเจา้ อยู่หัว และนอ้ มนำมา และน้อมนำมา เจ้าอยหู่ ัว อย่าง เปน็ รูปธรรม 9.1.2 ประพฤติปฏบิ ัติตน เป็นหลกั ในการ เป็นหลกั ในการ ตามแนวพระราชดำรัส ดำเนินชีวติ ดำเนินชีวติ พระบาทสมเดจ็ พระ ประพฤตปิ ฏิบตั ิ ประพฤติปฏบิ ัติ เจา้ อยู่หัว ตนตามแนวพระ ตนตามแนวพระ ราชดำรัส ราชดำรสั บ่อย ๆ บางคร้ัง ❖ ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๖๔ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ขอ้ 10. รจู้ กั ดำรงตนอย่โู ดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตัวช้ีวัดท่ี 10.1 ดำเนนิ ชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม(3) 10.1.1ใช้ทรัพย์สินของ ใช้เงินและของ ใช้ทรพั ย์สินของ ใชท้ รัพย์สนิ ของ ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง และทรพั ยากรของ ตนเองเชน่ เงนิ สิง่ ของ ใช้ส่วนตัวอยา่ ง ตนเองและ ตนเองและ สว่ นรวม อย่าง ประหยัด คมุ้ ค่า เกบ็ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่าง ไมป่ ระหยดั ทรพั ยากรของ ทรพั ยากรของ รกั ษาดแู ล อยา่ งดี รอบคอบ มี ประหยดั คมุ้ คา่ และเก็บ ส่วนรวมอย่าง สว่ นรวม อยา่ ง เหตผุ ล ไม่เอาเปรียบผูอ้ ื่น ไม่ทำ รกั ษาดแู ลอย่างดี รวมท้ัง ประหยดั ค้มุ คา่ ประหยดั ค้มุ ค่า ให้ผอู้ ่ืนเดอื ดรอ้ น และ ให้อภัยเมือ่ ผู้อ่นื กระทำ การใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม เก็บรักษาดูแล เก็บรักษาดูแล ผดิ พลาด 10.1.2 ใชท้ รัพยากรของ อย่างดีรอบคอบ อยา่ งดี ส่วนรวมอยา่ งประหยัด มีเหตผุ ล รอบคอบ มี คมุ้ คา่ และเกบ็ รักษาดูแล เหตผุ ล อยา่ งดี ไม่เอาเปรยี บผ้อู ่ืน 10.1.3 ปฏิบัตติ นและ และไม่ทำใหผ้ อู้ น่ื ตดั สนิ ใจด้วยความ เดือดรอ้ น รอบคอบ มีเหตุผล 10.1.4 ไม่เอาเปรียบผู้อ่ืน และไม่ทำให้ผอู้ ่ืน เดือดรอ้ น พรอ้ มให้อภัย เมอ่ื ผอู้ ื่น กระทำผิดพลาด ตัวชว้ี ัดท่ี 10.2 มภี มู คิ ุ้มกนั ในตัวที่ดี ปรบั ตัวเพอ่ื อย่ใู นสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสขุ พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ย่ยี ม(3) 10.2.วางแผนการเรียน ไมว่ างแผนการ ใช้ ความรู้ ใช้ ความรู้ ขอ้ มูล ใช้ ความรู้ ขอ้ มูล ข้อมูล ขา่ วสาร การทำงานและการใช้ เรยี นและการใช้ ในการวาง ข่าวสารในการ ข่าวสารในการวาง แผนการเรยี น ชวี ติ ประจำวันบนพนื้ ฐาน ชีวิตประจำวนั การทำงานและ วางแผนการเรียน แผนการเรียน ใช้ ใน ของความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร ชวี ิตประจำวนั การทำงาน และ การทำงานและใชใ้ น รบั รู้การเปลย่ี น 10.2.2ร้เู ท่าทันการ แปลงของ ใช้ ใน ชวี ติ ประจำวัน ยอมรับ ครอบครัว เปลยี่ น แปลงของสังคม ชมุ ชน และ ชีวติ ประจำวนั การเปล่ียนแปลงของ สภาพแวดล้อม และสภาพแวดล้อม ยอมรับการ ครอบครวั ชมุ ชน สังคม ยอมรบั และปรับตัวเพือ่ อยู่ เปลยี่ นแปลงของ สภาพแวดลอ้ ม และ ร่วมกบั ผูอ้ ื่นได้อย่างมี ครอบครวั ชุมชน ปรบั ตัวอยู่รว่ มกับผอู้ ่นื ความสุขพรอ้ มให้อภัยเมอ่ื สังคม และ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ผ้อู น่ื กระทำผดิ พลาด สภาพแวดล้อม ❖ ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ ว่าดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๖๕ หลักสูตรโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ขอ้ 11. มีความเขม้ แข็งท้ังรา่ งกายและจติ ใจ ไม่ยอมแพ้ตอ่ อำนาจฝา่ ยตำ่ หรอื กเิ ลส มคี วามละอาย เกรงกลัวตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา ตัวชี้วัดที่ 11.1 มีสขุ ภาพจติ ดี สุขภาพกายแข็งแรง พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม(3) 11.1.1 ยิ้มแยม้ แจม่ ใส เศรา้ หมอง ยม้ิ แย้มแจม่ ใส ย้ิมแยม้ แจ่มใส ยม้ิ แย้มแจม่ ใส มอง มองโลกในแงด่ ี มีเหตผุ ล มองโลกในแง่ มองโลกในแงด่ ี มองโลกในแงด่ ี มี โลกในแง่ดี มเี หตุผล 11.1.2 รา่ งกาย รา้ ย ไม่มเี หตผุ ล มเี หตุผล เหตผุ ล สุขภาพ สุขภาพรา่ งกาย แขง็ แรงไมเ่ จ็บปว่ ย มี สมรรถภาพทางกายตาม ร่างกายแขง็ แรง แข็งแรงไมเ่ จบ็ ปว่ ย มี ไม่เจ็บปว่ ย สมรรถภาพทางกาย เกณฑม์ าตรฐาน ตามเกณฑ์มาตรฐาน ตวั ช้ีวัดท่ี 11.2 ยดึ ม่นั ในหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม(3) 11.2.1 ละเวน้ การ ทำความชว่ั ละเวน้ การกระ ละเวน้ การกระทำ ละเวน้ การกระทำชว่ั กระทำชวั่ ท้งั ปวง เกรงกลัว ประจำ ทำชั่ว ทำความ ชวั่ เกรงกลวั ต่อการทำ ต่อการทำบาป ทำความดีใน ดีไดใ้ นบาง เกรงกลวั ต่อการ บาป ทำความดีให้ถงึ 11.2.2 ทำความดใี หถ้ ึง บางโอกาส โอกาส ทำบาป ทำความ พร้อม พรอ้ ม ดีอยู่เปน็ ประจำ ข้อ 12. คำนงึ ถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและตอ่ ชาติมากกวา่ ผลประโยชนข์ องตนเอง ตัวชี้วัดท่ี 12.1 ช่วยเหลอื สังคมดว้ ยความเต็มใจโดย ไม่หวังผลตอบแทน พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม(3) 12.1.1 เสียสละเพ่ือ ไม่เสียสละ เสียสละเพื่อ เสยี สละเพอื่ เสียสละเพ่ือประโยชน์ ประโยชนส์ ว่ นรวม ไม่ชว่ ยเหลืองาน ประโยชน์ ประโยชน์ สว่ นรวมทั้งกำลงั กาย 12.1.2 รว่ ม สงั คม สว่ นรวม รว่ ม ส่วนรวม ร่วม กำลังทรพั ย์ ร่วม กจิ กรรมเพ่ือสังคมอย่าง กจิ กรรมเพ่ือ กิจกรรมเพอ่ื สงั คม สร้างสรรค์ กจิ กรรมเพื่อ สงั คมสม่ำเสมอ อยา่ งสร้างสรรค์ สังคมบาง โอกาส ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๖๖ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ตัวช้วี ัดท่ี 12.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชมุ ชน สังคมและประเทศชาติ พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยีย่ ม(3) 12.2.1 ดแู ล ไม่สนใจดูแล ดแู ล รักษา ดูแล รักษาทรพั ย์ ดูแล รักษาทรัพย์ สมบัติ สิ่งแวดลอ้ มของ รกั ษาสาธารณสมบัตแิ ละ รกั ษา ทรพั ย์สมบตั ิ สมบตั ิ ห้องเรยี น โรงเรียน ชมุ ชน และเข้ารว่ ม ส่ิงแวดล้อมดว้ ยความเตม็ ทรัพย์สมบัติ สิง่ แวดลอ้ มของ สง่ิ แวดลอ้ มของ กิจกรรมเพื่อสงั คมและ สาธารณประโยชน์ของ ใจ และ ห้องเรียน ห้องเรียน โรงเรยี นและชมุ ชนดว้ ย ความเต็มใจ 12.2.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมที่ ส่งิ แวดลอ้ มของ โรงเรยี น และ โรงเรียน ชุมชน เปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น โรงเรียน เข้าร่วมกิจกรรม และเขา้ ร่วม ชุมชนและสังคม เพ่อื สังคมและ กจิ กรรมเพื่อ 12.2.3 เข้ารว่ มกจิ กรรม สาธารณ สังคมและสา เพ่อื แกป้ ัญหาหรือร่วม ประโยชนข์ อง ธารณ ประโยชน์ สร้างสิง่ ทด่ี ีงามของ โรงเรยี นดว้ ย ของโรงเรยี นด้วย ส่วนรวม ตามสถานการณ์ ความเต็มใจ ความเต็มใจ ที่เกดิ ขึ้นดว้ ยความ กระตือรือร้น เกณฑ์การประเมนิ 1. เกณฑ์การผ่านค่านยิ มแต่ละประการผเู้ รียนตอ้ งได้ผลการประเมนิ ไม่ต่ำกว่าระดบั ผ่าน(1) ทุกตวั ชีว้ ัด หากตัวชี้วัดใดไมผ่ ่านใหม้ กี ารซอ่ มเสรมิ 2. การใหร้ ะดบั คุณภาพการผ่านคา่ นิยมแต่ละประการ ให้ใช้ฐานนยิ ม (mode) ของตัวชว้ี ดั ถ้าค่าคะแนน เทา่ กันให้ใชร้ ะดบั ทีส่ งู กว่า 3. การสรุปผลการผ่านคา่ นิยมทง้ั 12 ประการ ผเู้ รียนต้องได้ผลการประเมินไม่ตำ่ กว่าระดับผา่ นทัง้ 12 ประการ 4. การใหร้ ะดบั คณุ ภาพการผา่ นคา่ นยิ มในภาพรวมทั้ง 12 ประการ ใหใ้ ช้ฐานนยิ ม (mode)ถา้ ค่าคะแนน เทา่ กนั ให้ใชร้ ะดบั ท่ีสงู กวา่ ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๖๗ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ส่วนท่ี ๗ เกณฑ์การตดั สนิ การเล่ือนช้นั และเกณฑ์การจบหลกั สูตร การตดั สินการเลือ่ นชัน้ ในการตดั สนิ ผลการเรียนของกลมุ่ สาระการเรียนรู้ การอา่ น คิด วิเคราะหแ์ ละเขยี น คุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน และกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี นนั้น ผู้สอนต้องคำนึงถงึ การพฒั นา ผู้เรียนแต่ละคนเป็นหลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาค เรยี นรวมทั้งสอนซอ่ มเสริมผเู้ รยี นใหพ้ ฒั นาจนเตม็ ตามศกั ยภาพ กำหนดเกณฑ์กลางสำหรบั การจบการศึกษา ระดับประถมศกึ ษา ดงั น้ี (๑) ผูเ้ รยี นตอ้ งมเี วลาเรยี นตลอดปีการศึกษาไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาทัง้ หมด (๒) ผู้เรยี นต้องไดร้ ับการประเมนิ ทุกตวั ชี้วดั ทั้งรายวชิ าพน้ื ฐานและเพิ่มเติม และ ต้องผ่าน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของแต่ละรายวชิ า (๓) ผูเ้ รยี นตอ้ งไดร้ บั การตดั สนิ ผลการเรยี นทงั้ รายวิชาพื้นฐาน และเพิม่ เตมิ ผา่ น ทกุ รายวิชา (๔) ผู้เรียนตอ้ งได้รบั การประเมนิ และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑท์ ่ีสถานศกึ ษา กำหนด ในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน และกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กำหนดเกณฑ์กลางสำหรับการจบการศกึ ษา ระดบั มธั ยมศึกษา ดังนี้ (๑) ตดั สินผลการเรยี นเปน็ รายวิชา ผูเ้ รียนต้องมเี วลาเรยี นตลอดภาคเรยี นไม่น้อยกว่า รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้ังหมดในรายวชิ านน้ั ๆ (๒) ผู้เรียนตอ้ งไดร้ ับการประเมนิ ทุกตวั ช้ีวดั และผ่านตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากำหนด คอื ตัวชี้วัดทต่ี ้องผ่าน ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๖๐ ของแตล่ ะรายวชิ า (๓) ผู้เรียนต้องไดร้ บั การตัดสินผลการเรยี นทกุ รายวชิ า (๔) ผู้เรียนตอ้ งได้รับการประเมิน และมีผลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษา กำหนด ในการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนา ผเู้ รียน การพิจารณาเลื่อนชั้นในระดับมัธยมศึกษา ถ้าหากผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และ สถานศกึ ษาพจิ ารณาเหน็ ว่าสามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสรมิ ได้ ใหอ้ ยู่ในดุลพนิ ิจของสถานศึกษาท่ีจะผ่อน ผันให้เลื่อนชั้นได้ แต่หากผู้เรียนไม่ผ่านรายวิชาจำนวนมากและมแี นวโนม้ ว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรยี นใน ระดับช้ันท่ีสงู ข้ึน สถานศกึ ษาจะต้งั คณะกรรมการพิจารณาให้เรยี นซ้ำชน้ั ได้ โดยทงั้ นี้จะคำนึงถึงวุฒิภาวะ และความรู้ความสามารถของผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ❖ ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ ว่าดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๖๘ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เกณฑก์ ารจบหลักสูตรระดบั ประถมศึกษา ๑) ผูเ้ รยี นเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพมิ่ เตมิ ตามโครงสรา้ งเวลาเรยี น ท่หี ลกั สตู รแกนกลาง การศึกษาขั้นพืน้ ฐานกำหนด ๒) ผเู้ รยี นตอ้ งมผี ลการประเมินรายวชิ าพน้ื ฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามทส่ี ถานศกึ ษากำหนด ๓) ผูเ้ รยี นมีผลการประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียนในระดับผา่ นเกณฑ์ การประเมินตามท่ีสถานศกึ ษา กำหนด ๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผา่ นเกณฑก์ ารประเมินตามทสี่ ถานศึกษากำหนด ๕) ผ้เู รยี นเขา้ ร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นและมีผลการประเมินผา่ นเกณฑก์ ารประเมินตามทส่ี ถานศกึ ษากำหนด เกณฑก์ ารจบหลักสตู รระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น ๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมโดยเป็นวิชาพื้นฐาน ๖๖ หน่วยกิต และรายวิชา เพ่ิมเติมตามท่สี ถานศกึ ษากำหนด ๒) ผูเ้ รยี นตอ้ งได้หนว่ ยกติ ตลอดหลกั สูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกติ โดยเป็นรายวชิ าพืน้ ฐาน ๖๖ หนว่ ยกติ และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า ๑๑ หน่วยกติ ๓) ผเู้ รียนมผี ลการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน ในระดบั ผ่าน เกณฑก์ ารประเมนิ ตามท่สี ถานศกึ ษากำหนด ๔) ผ้เู รียนมผี ลการประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ในระดบั ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามที่ สถานศกึ ษากำหนด ๕) ผเู้ รียนเข้าร่วมกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี นและมีผลการประเมนิ ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามท่ี สถานศกึ ษากำหนด ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ว่าดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๖๙ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ส่วนที่ ๗ การประเมนิ ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นระดบั ชาติ (National test) ในการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เป็นระดับ มาตรฐานระดับชาติ กระทรวงศึกษาธิการไดก้ ำหนดให้มีการประเมนิ เพื่อตรวจสอบคณุ ภาพการศึกษาทุก ระดับชั้น เพอ่ื ใหก้ ารดำเนินงานเป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ โรงเรยี นจึงไดก้ ำหนดแนวทางปฏบิ ตั ิไว้ดงั น้ี ๑. ผแู้ ทนสถานศกึ ษาเขา้ รบั การประชุมชี้แจงวธิ กี ารดำเนินการทดสอบร่วมกบั สำนักงานเขตพ้ืนท่ี ๒. จัดส่งรายชื่อคณะกรรมการดำเนินงานประเมินคุณภาพการศึกษา ประกอบด้วยประธาน กรรมการ คณะกรรมการกลาง กรรมการควบคุมห้องสอบ คณะกรรมการตรวจคำตอบชนิดเขียนตอบ และกรรมการรับ – สง่ ข้อสอบ ส่งไปให้สำนกั งานเขตพนื้ ที่เพ่ือแตง่ ตงั้ ๓. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการประชุมชี้แจงคณะกรรมการดำเนินการประเมิน คุณภาพตามคำสั่งจากข้อ ๒ ถึงวิธีการดำเนินการสอบเพือ่ ให้เกิดความเข้าใจและปฏบิ ัติได้ตรงกัน ตาม แนวปฏิบัติในคู่มือการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเพ่ือให้เกิดความยุติธรรม และเป็นไป ตามการดำเนนิ การสอบแบบทดสอบมาตรฐานอย่างเคร่งครัด ๔. คณะกรรมการกลางจัดพิมพ์รายชื่อพรอ้ มกำหนดรหัส / เลขที่นักเรียนตามจำนวนนักเรียน / ห้องเรียน ท่กี ำหนดไว้ในคู่มือ นำไปประกาศไว้หน้าหอ้ งสอบแต่ละห้อง เพื่อให้นกั เรยี นไดท้ ราบว่าตนเอง เลขท่ีเทา่ ไร สอบหอ้ งทเี่ ทา่ ใด พรอ้ มติดเลขทีข่ องนักเรียนไว้บนโต๊ะท่ีนงั่ สอบ ๕. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการประชุมชี้แจงนักเรียนให้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ ทั้งในด้านส่วนตัว ระดับโรงเรียน ระดับเขต และ ระดับชาติ ควรใหค้ วามร่วมมือ ตงั้ ใจในการสอบอย่างเต็มความสามารถ ๖. กรณีที่นักเรียนไม่ได้รับการประเมินตามวันเวลาที่กำหนด ให้สถานศึกษาแต่งตัง้ ผู้รับผิดชอบ ติดตาม และประสานงานกับเขตพื้นทีด่ ำเนินการประเมินให้เสร็จสิ้นภายใน ๒ สัปดาห์ หลังจากทราบ รายชือ่ นักเรยี นทีย่ งั ไมไ่ ด้รบั การประเมิน ๗. เม่อื สำนักงานเขตพ้ืนที่แจง้ ผลการประเมินมายังสถานศึกษา ให้นำผลการประเมินมาทบทวน คุณภาพร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการ กับคณะกรรมการสถานศึกษา และ แจ้งผลการประเมินให้ผู้เกี่ยวข้องทราบผลและดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะผู้เรียนและครูผู้สอนนำไป พจิ ารณาในการพัฒนาปรบั ปรุงตนเองตอ่ ไป ❖ ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๗๐ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตอนที่ ๓ ประกาศโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ เรอ่ื ง แนวการปฏบิ ัติการดำเนินการสอบแกต้ วั ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ว่าดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๗๑ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ประกาศโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) เรือ่ ง แนวการปฏบิ ัตกิ ารดำเนินการสอบแกต้ วั โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์)กำหนดแนวปฏิบตั ดิ งั น้ี ๑. ผลการเรียนในภาคเรียนที่ ๑ โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กำหนดแนวปฏิบัติการดำเนินการสอบแก้ตัวใน ภาคเรียนท่ี ๒ โดยกำหนดแนวปฏิบัตดิ งั นี้ ๑.๑ การสอบแก้ตัวครงั้ ที่ ๑ จะต้องดำเนนิ การให้แลว้ เสรจ็ ภายใน ๓๐ วนั แรกของการเปิด เรียนภาคเรียนที่ ๒ หรือตามปฏิทินการปฏิบัติงานของฝ่ายบริหารงานวิชาการ โดยที่นักเรียนรับและยื่น แบบคำร้องกับฝ่ายบริหารงานวิชาการ แล้วไปดำเนินการสอบแก้ตัวครั้งที่ ๑ กับครูผู้สอน โดยนักเรยี นมี สิทธิไ์ ดผ้ ลการเรียนดังน้ี - ตดิ มส แก้ได้ เกรด ๑ - ตดิ ๐ แก้ได้ เกรด ๑ - ตดิ ร แกไ้ ด้ เกรด ๐ – ๔ - ตดิ มผ แกไ้ ด้ ผ ๑.๒ การสอบแก้ตัวครั้งที่ ๒ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓๐ วันถัดจากวัน สดุ ทา้ ยของการสอบแกต้ ัวครง้ั ที่ ๑หรอื ตามปฏทิ นิ การปฏิบัตงิ านของฝ่ายบรหิ ารงานวิชาการโดยนักเรียนท่ี สอบแก้ตวั คร้ังท่ี ๑ แล้วยงั ไม่ผ่านหรือนักเรียนที่ยังไม่ดำเนินการสอบแกต้ วั เลย ใหร้ ับและยื่นแบบคำร้องกับ ฝ่ายบริหารงานวชิ าการ แล้วไปดำเนนิ การสอบแก้ตัวครงั้ ท่ี ๒ กบั ครูผสู้ อน โดยนกั เรียนมสี ิทธ์ิได้ ผลการเรยี นดังน้ี - ตดิ มส แก้ได้ เกรด ๑ - ตดิ ๐ แกไ้ ด้ เกรด ๑ - ติด ร แกไ้ ด้ เกรด ๐ – ๔ - ติด มผ แกไ้ ด้ ผ * ในกรณีที่นกั เรียนตดิ ร แล้วสอบแก้ตัวครั้งที่ ๒ ไม่ผ่านหรอื ไม่มาดำเนินการสอบแก้ตวั ให้ครูผสู้ อนนำขอ้ มูลคะแนนทีม่ ีอยู่ตดั สินผลการเรียนของนกั เรยี นได้เลย โดยนกั เรยี นมีสทิ ธิ์ได้ผลการเรียน ตั้งแต่ เกรด ๐ - ๔ ๑.๓ แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนนิ การเรียนซ้ำรายวชิ า โดยนักเรยี นที่สอบแกต้ ัวครั้งท่ี ๒ แล้วยังไม่ผ่านหรือนักเรียนที่ยังไม่ดำเนินการสอบแก้ตัวเลยและนักเรียนที่มีผลการเรียนไม่ผ่านในปี การศึกษาที่ผ่านมา (รวมถงึ นักเรียน ม.๓ ทีย่ ังไมจ่ บการศึกษา) นกั เรียนตอ้ งดำเนินการโดยเชิญผู้ปกครอง มาร่วมรบั ทราบแนวปฏิบตั ิและลงทะเบยี นเรียนซำ้ รายวิชา ตอ่ คณะกรรมการดำเนนิ การเรียนซ้ำรายวิชาท่ี โรงเรียนแต่งตั้งขึ้น และนักเรียนต้องดำเนินการเรียนซ้ำรายวิชาให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วันถัดจากวัน ลงทะเบียนหรือตามปฏิทินการปฏิบัติงานของฝ่ายบริหารงานวิชาการ โดยนักเรียนมีสิทธิ์ได้ผลการเรียน เกรด ๑ เท่านน้ั และ ตดิ มผ แก้ได้ ผ ❖ ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ว่าดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๗๒ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๒. ผลการเรียนในภาคเรียนท่ี ๒ โรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กำหนดแนวปฏบิ ตั ิการดำเนินการสอบแก้ตัวให้แลว้ เสรจ็ ในปีการศึกษานนั้ โดยกำหนดแนวปฏบิ ตั ดิ งั นี้ ๒.๑ การสอบแก้ตัวครั้งที่ ๑ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วันแรก หลังจาก การประกาศผลเรียนในภาคเรียนที่ ๒ หรือตามปฏิทินการปฏิบัติงานของฝ่ายบริหารงานวิชาการ โดยท่ี นักเรียนรับและยื่นแบบคำร้องกับฝ่ายบริหารงานวิชาการ แล้วไปดำเนินการสอบแก้ตัวครั้งที่ ๑ กับ ครผู ูส้ อน โดยนกั เรยี นมสี ิทธ์ิไดผ้ ลการเรียนดังน้ี - ตดิ มส แก้ได้ เกรด ๑ - ตดิ ๐ แกไ้ ด้ เกรด ๑ - ติด ร แกไ้ ด้ เกรด ๐ – ๔ - ตดิ มผ แกไ้ ด้ ผ ๒.๒ การสอบแก้ตัวครั้งที่ ๒ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วันถัดจากวัน สุดท้ายของการสอบแก้ตัวครง้ั ท่ี ๑ หรือตามปฏทิ ินการปฏิบัติงานของฝ่ายบริหารงานวิชาการ โดยนกั เรียน ทีส่ อบแก้ตวั ครง้ั ท่ี ๑ แล้วยงั ไม่ผา่ นหรอื นกั เรยี นท่ียงั ไมด่ ำเนินการสอบแก้ตัวเลย ให้รับและยื่นแบบคำร้อง กับฝา่ ยบรหิ ารงานวชิ าการ แลว้ ไปดำเนนิ การสอบแกต้ ัวครงั้ ท่ี ๒ กบั ครูผสู้ อน โดยนกั เรยี นมสี ิทธ์ิไดผ้ ลการ เรียนดงั นี้ - ติด มส แก้ได้ เกรด ๑ - ตดิ ๐ แก้ได้ เกรด ๑ - ตดิ ร แกไ้ ด้ เกรด ๐ – ๔ - ติด มผ แก้ได้ ผ * ในกรณีทนี่ กั เรียนตดิ ร แลว้ สอบแก้ตวั คร้งั ที่ ๒ ไม่ผา่ นหรอื ไมม่ าดำเนินการสอบแก้ตวั ให้ครผู ู้สอนนำข้อมลู คะแนนที่มอี ยูต่ ดั สนิ ผลการเรียนของนักเรียนได้เลย โดยนักเรยี นมสี ทิ ธิไ์ ด้ผลการเรียน ต้ังแต่ เกรด ๐ - ๔ ๒.๓ แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนนิ การเรียนซ้ำรายวชิ า โดยนักเรียนที่สอบแกต้ ัวครั้งที่ ๒ แลว้ ยังไมผ่ า่ นหรือนกั เรียนท่ยี ังไมด่ ำเนนิ การสอบแกต้ วั เลยและนกั เรียนทมี่ ผี ลการเรยี นไมผ่ ่านในภาคเรยี นที่ ๑ หรือปีการศึกษาที่ผ่านมา(รวมถึงนักเรียน ม.๓ ที่ยังไม่จบการศึกษา) นักเรียนต้องดำเนินการโดยเชิญ ผปู้ กครองมารว่ มรับทราบแนวปฏิบัติและลงทะเบียนเรยี นซ้ำรายวิชา ตอ่ คณะกรรมการดำเนินการเรียนซ้ำ รายวชิ าทโ่ี รงเรยี นแตง่ ตง้ั ขน้ึ และนักเรียนต้องดำเนินการเรียนซ้ำรายวิชาให้แล้วเสรจ็ ภายใน ๖๐ วันถัด จากวันลงทะเบียน(ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม)หรือตามปฏิทินการปฏิบัติงานของฝ่ายบริหารงาน วชิ าการโดยนกั เรียนมีสทิ ธไ์ิ ด้ผลการเรียน เกรด ๑ เท่านั้นและ ติด มผ แก้ได้ ผ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑ พฤษภาคม ๒๕๖3 ( นายสมทรง นสิ สยั ดี ) ผ้อู ำนวยการโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๗๓ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ตอนท่ี ๔ แนวการปฏบิ ัติการขอเอกสารหลกั ฐานทางการเรียน ❖ ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๗๔ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ แนวการปฏิบตั ิ การขอเอกสารหลักฐานทางการเรียน โรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการดงั นี้ ๑. การขอเอกสารหลกั ฐานทางการเรยี น (ปพ.๑) กรณีจบการศึกษา ๑) กรอกแบบคำรอ้ งขอเอกสารหลักฐานทางการเรียน (ปพ.๑) ใหถ้ กู ต้องครบถว้ น ๒) แนบเอกสารพร้อมคำร้องดงั ต่อไปนี้ (๑) รูปถ่ายหน้าตรง ชุดเครื่องแบบนักเรียนถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน บ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ และถ่ายไว้ไมเ่ กิน ๖ เดือน ขนาด ๓ x ๔ เซนติเมตร หรือ ขนาด ๑.๕ นิ้ว จำนวน ๒ ใบ (๒) สำเนาบตั รประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบยี นบ้านของนักเรยี น (๓) กรณีขอรบั แทน ใหแ้ นบสำเนาบัตรประจำตวั ประชาชนของผรู้ บั แทนมาด้วย ๓) ระยะเวลาดำเนนิ การประมาณ ๓ วนั ทำการ หรอื ตามวันเวลาที่ได้นัดหมาย กรณจี บการศกึ ษาแต่ทำเอกสารหลักฐานชำรุดหรือสูญหาย ๑) แจ้งความทีส่ ถานตี ำรวจในทอ้ งท่ีทท่ี ำเอกสารชำรดุ หรือสญู หาย ๒) กรอกแบบคำรอ้ งขอเอกสารหลกั ฐานทางการเรียน (ปพ.๑) กรณีชำรุด/สญู หาย ให้ ถูกตอ้ งครบถว้ น ๓) แนบเอกสารพร้อมคำร้องดังตอ่ ไปน้ี (๑) รูปถ่ายหน้าตรง ชุดเชิ๊ตสีขาว ไม่สวมหมวก ไม่ใส่แว่นตา และถ่ายไว้ไม่ เกิน ๖ เดอื น ขนาด ๓ x ๔ เซนตเิ มตร หรอื ขนาด ๑.๕ น้วิ จำนวน ๒ ใบ (๒) สำเนาบตั รประจำตวั ประชาชนและสำเนาทะเบียนบา้ นของนักเรียน (๓) กรณขี อรับแทน ให้แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รบั แทนมาด้วย ๔) ระยะเวลาดำเนนิ การประมาณ ๓ วันทำการ หรอื ตามวนั เวลาทไ่ี ด้นดั หมาย กรณยี ังไมจ่ บการศกึ ษาและกำลงั ศกึ ษาอยใู่ นสถานศึกษา ๑) กรอกแบบคำร้องขอเอกสารหลักฐานทางการเรียน (ปพ.๑) ให้ถกู ต้องครบถว้ น ๒) แนบ รูปถ่ายหน้าตรง ชุดเครื่องแบบนักเรียนถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน และถ่ายไวไ้ มเ่ กิน ๖ เดือน ขนาด ๓ x ๔ เซนตเิ มตร หรือ ขนาด ๑.๕ นว้ิ จำนวน ๒ ใบ ๓) ระยะเวลาดำเนนิ การประมาณ ๓ วนั ทำการ หรือตามวนั เวลาที่ไดน้ ดั หมาย ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๗๕ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๒.การขอใบรับรองผลการเรียน (ปพ.๗) ๑) กรอกแบบคำร้องขอใบรับรองผลการเรยี น (ปพ.๗) ใหถ้ กู ต้องครบถ้วน ๒) แนบ รูปถ่ายหน้าตรง ชุดเครื่องแบบนักเรียนถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน และถ่ายไวไ้ ม่เกนิ ๖ เดอื น ขนาด ๓ x ๔ เซนติเมตร หรือ ขนาด ๑.๕ นิ้ว จำนวน ๑ ใบ ๓) ระยะเวลาดำเนินการประมาณ ๓ วนั ทำการ หรอื ตามวนั เวลาทไี่ ด้นัดหมาย ❖ ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๗๖ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ บรรณานกุ รม สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร; (๒๕๕๑). เอกสารประกอบหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ แนวปฏบิ ัตกิ ารวัดและประเมนิ ผลการเรียนร้.ู กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พอ์ งคก์ ารรับส่งสนิ คา้ และพัสดภุ ัณฑ์ (ร.ส.พ). . (๒๕๕๐) แนวทางการจดั ทำเอกสารหลักฐานการศึกษา ปพ.๑ ปพ.๒ และ ปพ.๓ ตามหลักสตู รการศึกษาขนื พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๔๔. กรุงเทพมหานคร โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. ❖ ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ วา่ ด้วยการวดั และประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๗๗ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ภาคผนวก ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ว่าด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๗๘ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ คณะผจู้ ดั ทำ คณะทป่ี รกึ ษา ศึกษานเิ ทศก์สำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต ๓ นายอุดม ภาสดา คณะทำงาน ๑. นายสมทรง นิสสยั ดี ผู้อำนวยการโรงเรยี น ประธานกรรมการ ๒. นายชนายุทธ ตรงตามคำ ครูชำนาญการ รองประธานกรรมการ กรรมการ ๓. นางลัดดา นิสสัยดี ครูชำนาญการพเิ ศษ กรรมการ ๔. นางสาวขนิษฐา แกว้ มุงคุณ ครูอตั ราจ้าง กรรมการและเลขานกุ าร กรรมการและผู้ชว่ ยเลขานกุ าร ๕. นางสาวกิตตยิ า กมิ าวหา ครู กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร ๖. นางสาวเอื้องนภา คดิ สม ครู กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานุการ ๗. นางสาวกนกนาถ สชุ าติสุนทร ครู ๘. นางสาวพัชราภรณ์ อปุ คา พนกั งานราชการ ผ้เู สนอโครงการ คณะกรรมการเห็นชอบอนุมัติ ……………………………………………... …………………………………………… (นายชนายุทธ ตรงตามคำ) (นายมติ ร พะหงาตนุ ดั ) ครู/หวั หน้ากลุม่ บริหารงานวิชาการ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ……………………………………………. (นายสมทรง นสิ สัยดี) ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๗๙ หลกั สูตรโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ❖ ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
Search