46: แบบประเมินสมรรถนะครูผู้สอนระดับการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน สงั กัด สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนึ้ พน้ื ฐาน ชอื่ นายชนายุทธ ตรงตามคำ โรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ สำนกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 3 ผปู้ ระเมนิ ตนเอง เพ่ือนครูผสู้ อน ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา คำช้ีแจง 1.แบบประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงานฉบับนี้สำหรับให้ครูผู้สอนทำการประเมินสภาพการ ปฏบิ ตั งิ าน ของตนเอง เพื่อนครูผู้สอน และผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประเมินตามสภาพความเป็นจริง เพื่อเป็นข้อมูล พื้นฐานในการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในแต่ละคน โดยจะมีผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้ รบั รองผลการประเมินอกี คร้ังหน่ึง 2. แบบประเมนิ สมรรถนะฉบับนี้ แบง่ ออกเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 ข้อมูลเกย่ี วกบั ครผู ้สู อน ตอนท่ี 2 การประเมินสมรรถนะของครูผสู้ อน ประกอบดว้ ยสมรรถนะ 5 สมรรถนะ และสมรรถนะประจำสายงาน 6 สมรรถนะ 3. ให้ผู้ประเมินอ่านรายการคำถามในแต่ละสมรรถนะให้ดีก่อนที่จะทำการประเมินสมรรถนะการ ปฏบิ ัตงิ าน 4. วิธีการประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงาน ให้ท่านทำเครื่องหมาย ลงในช่องสภาพการ ปฏบิ ตั ิงานในแต่ละรายการคำถามของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเปน็ จรงิ ตอนที่ 1 ขอ้ มลู เก่ียวกับผู้รบั การประเมิน 1. เพศ ชาย หญงิ 2.ตำแหนง่ ปัจจุบนั ของผรู้ บั การประเมนิ ครผู ชู้ ว่ ย ครู คศ. 1 ครู คศ. 2 ครู คศ. 5 ครู คศ. 3 ครู คศ. 4 3. ระดบั การศึกษาสงู สุด ตำ่ กวา่ ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก
47: 4.อายุราชการ 7 ปี 4 เดือน (นับถงึ 16 พฤษภาคม 2562) 5.กลุ่มสาระการเรยี นร้ทู ถ่ี นดั หรือเช่ยี วชาญ คอื คณติ ศาสตร์, คอมพวิ เตอร์ ตอนที่ 2 การประเมินสมรรถนะในการปฏบิ ัตงิ านของครผู ู้สอน (ผู้รบั การประเมนิ ) ให้ท่านพิจารณาสภาพการดำเนินงานในแต่ละประเด็นย่อยในแต่ละสมรรถนะของผู้รับการประเมนิ แล้วทำเครื่องหมาย ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในประเด็นย่อยของแต่ละสมรรถนะตาม สภาพความเปน็ จริง 1. สมรรถนะหลัก ( Core Competency ) ระดับการปฏิบัติ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก ท่สี ดุ กลาง ทีส่ ดุ 1.สมรรถนะการมงุ่ ผลสัมฤทธใ์ิ นการปฏบิ ตั ิงาน 1.วิเคราะหภ์ ารกจิ งานเพื่อวางแผนการแก้ปญั หาอยา่ งเป็นระบบ 2.กำหนดเป้าหมายในการปฏบิ ัติงานทกุ ภาคเรยี น 3.กำหนดแผนการปฏบิ ัตงิ านอยา่ งเป็นข้ันตอน 4.ใฝเ่ รยี นรู้เกี่ยวกับการจัดการเรยี นรู้ 5.รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ในการพฒั นาการจัดการเรียนรู้ 6.แสวงหาความร้ทู ่ีเกี่ยวกบั วิชาชพี ใหม่ ๆ เพื่อการพัฒนาตนเอง 7.ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานของตนเอง 8.ใชผ้ ลการประเมินในการปฏิบัติงานมาใชป้ รบั ปรุง/พฒั นาการ ทำงานใหด้ ียิง่ ขึน้ 9.พัฒนาการปฏบิ ัตงิ านเพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของผูเ้ รียน ผู้ปกครอง และชุมชน 2.สมรรถนะการบริการที่ดี 1.ให้บริการด้วยความยิม้ แย้มใจใส่ เห็นอกเห็นใจผ้มู ารบั บรกิ าร 2.ให้บริการอยา่ งรวดเรว็ ทันใจ ไม่ลา่ ชา้ 3.ให้บรกิ ารอย่างมีความเคารพยกย่อง ออ่ นน้อมใหเ้ กยี รติ ผรู้ ับบริการ 4.ให้บริการด้วยความมุ่งม่นั ต้ังใจและเตม็ อกเต็มใจ 5.แกป้ ญั หาใหก้ ับนักเรียน และผู้ปกครองหรอื ผู้มาขอรับบรกิ าร 6.ให้บรกิ ารโดยยดึ ความต้องการของผรู้ ับบรกิ ารเป็นหลกั 7.ใหบ้ รกิ ารเกินความคาดหวงั แมต้ ้องใช้เวลา หรอื ความพยามยาม อยา่ งมาก
48: ระดบั การปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก ที่สุด กลาง ท่สี ดุ 3.สมรรถนะการพัฒนาตนเอง 1.ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้ มงุ่ ม่ันและแสวงหาโอกาสพฒั นาตนเอง ด้วยวิธที ่หี ลากหลาย 2.วิเคราะห์จุดแข็งและจดุ ออ่ นเก่ยี วกับการจดั การเรยี นรขู้ องตนเอง อย่างตอ่ เน่ือง 3.ศกึ ษา ค้นคว้าหาองคค์ วามรใู้ หม่ ๆ ทางวิชาการเพ่อื พฒั นาตนเอง และวิชาชพี 4.แลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ บั ผู้อน่ื เพ่ือการพัฒนาตนเองทุกครง้ั ท่มี ีโอกาส 5.เข้ารับการอบรมเพ่ือพัฒนาตนเองจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ อย่าง ตอ่ เนอื่ ง 6.ให้คำปรกึ ษา แนะนำ นิเทศ และถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ ทางวชิ าชพี แกผ่ อู้ น่ื 7.มีการสรา้ งเครอื ข่ายการเรียนรู้เพอื่ การพฒั นาตนเองทง้ั ในและ นอกสถานศกึ ษา 4.สมรรถนะการทำงานเปน็ ทีม 1.สร้างสัมพนั ธภาพท่ีดีในการทำงานร่วมกบั ผู้อื่น 2.ทำงานร่วมกบั ผู้อน่ื ตามบทบาทหน้าที่ท่ีได้รบั มอบหมาย 3.ช่วยเหลือเพ่อื นรว่ มงานเพอื่ สเู่ ป้าหมายความสำเร็จร่วมกนั 4.ใหเ้ กยี รติ ยกยอ่ งชมเชย ให้กำลังใจแกเ่ พอ่ื นร่วมงานในโอกาสที่ เหมาะสม 5.มที กั ษะในการทำงานร่วมกับบุคคล/กล่มุ บคุ คลไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธภิ าพทง้ั ภายในและภายนอกสถานศกึ ษา และในทุก สถานการณ์ 6.แสดงบทบาทผู้นำหรือผตู้ ามในการทำงานรว่ มกับผู้อืน่ ไดเ้ หมาะสม ในทุกโอกาส 7.แลกเปลี่ยน/รบั ฟังความคิดเห็นและประสบการณภ์ ายในทีมงาน 8.ร่วมกบั เพ่อื นร่วมงานในการสร้างวัฒนธรรมการทำงานเป็นทมี ให้ เกิดข้ึนในสถานศึกษา
49: ระดับการปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ที่สุด กลาง ท่สี ดุ 5.สมรรถนะจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชพี ครู 1.ยึดม่ันในอุดมการณข์ องวิชาชพี ปกป้องเกยี รติและศักดศิ์ รขี อง วิชาชีพ 2.เสยี สละ อทุ ิศตนเพอื่ ประโยชน์ต่อวชิ าชพี และเป็นสมาชกิ ทีด่ ขี อง องค์กรวชิ าชีพ 3.ยกยอ่ ง ช่นื ชมบุคคลทีป่ ระสบความสำเรจ็ ในวิชาชพี 4.ซือ่ สัตยต์ ่อตนเอง ตรงต่อเวลา วางแผนการใช้จา่ ยและใช้ ทรพั ยากรอยา่ งประหยัด 5.ปฏบิ ตั ิตนตามกฎ ระเบยี บ ข้อบงั คับ และขนบธรรมเนียมประเพณี 6.ปฏบิ ตั ิตนและดำเนินชีวิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ไดเ้ หมาะสมกบั สถานะของตน 7.รักษาสิทธิประโยชน์ของตนเอง และไม่ละเมิดสิทธขิ องผู้อืน่ 8.เอ้ือเฟือ้ เผื่อแผ่ ชว่ ยเหลอื และไม่เบียดเบยี นผูอ้ ืน่ 9.มคี วามเปน็ กลั ยาณมิตรต่อผ้เู รยี น เพ่ือรว่ มงานและผู้รบั บริการ 10.ปฏบิ ัติตนตามหลกั การครองตน ครองคน ครองงานเพื่อให้การ ปฏิบตั งิ านบรรลผุ ลสำเรจ็
50: 2. สมรรถนะประจำสายงาน ( Functional Competency ) ระดบั การปฏบิ ัติ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก ทสี่ ุด กลาง ที่สดุ 1.สมรรถนะการบรหิ ารจัดการหลกั สูตรและการจดั การเรียนรู้ 1.ออกแบบกจิ กรรมการเรียนรูอ้ ย่างหลากหลายสอดคลอ้ งกบั วัย ความตอ้ งการของผเู้ รียน ชมุ ชน 2.เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดกิจกรรมและการ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 3.ใชร้ ูปแบบ/เทคนิควิธีการสอนอย่างหลากหลายเพื่อให้ผ้เู รียน พฒั นาเต็มตามศกั ยภาพ 4.จดั กิจกรรมการเรยี นรทู้ ป่ี ลูกฝงั /สง่ เสริมคณุ ลักษณะพงึ ประสงค์ และสมรรถนะของผเู้ รียน 5.ใชห้ ลกั จิตวทิ ยาในการจัดการเรยี นรู้ใหผ้ เู้ รียนเรียนรู้อย่างมี ความสุขและพัฒนาเต็มศักยภาพ 6.ใชแ้ หล่งเรยี นรแู้ ละภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ในชมุ ชนในการจดั การเรียนรู้ 7.ใชส้ ือ่ นวตั กรรม และเทคโนโลยหี ลากหลายและเหมาะสมกบั เน้ือหาและกจิ กรรมการเรียนรู้ 8.ใชเ้ ทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อ/นวตั กรรมทใี่ ชใ้ นการ เรยี นรู้ 9.ออกแบบวิธีการวัดและประเมินผลหลากหลายเหมาะสมกับเนื้อหา และกจิ กรรมการเรยี นรู้ 10.สรา้ งและนำเคร่อื งมอื วัดและประเมินผลไปใชอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสม 11.วัดและประเมนิ ผลผ้เู รยี นตามสภาพจรงิ 12.นำผลการประเมนิ การเรยี นรมู้ าใช้ในการพัฒนาการจดั การเรยี นรู้ 2.สมรรถนะการพฒั นาผ้เู รียน 1.สอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรมแกผ่ ูเ้ รียนในการจดั การเรยี นรู้ในชั้น เรยี น 2.จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรมใหแ้ ก่ผเู้ รยี นโดยใหผ้ ูเ้ รยี นมี ส่วนรว่ มในการวางแผนกจิ กรรม 3.จดั ทำโครงการ/กจิ กรรมทส่ี ่งเสริมคณุ ธรรมจรยิ ธรรมใหแ้ กผ่ ้เู รียน
51: ระดบั การปฏิบัติ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ที่สุด กลาง ทส่ี ดุ 4.จัดกิจกรรมเพื่อพฒั นาผเู้ รียนด้านการดูแลตนเอง มีทักษะในการ เรยี นรู้ การทำงาน การอย่รู ่วมกนั ในสังคม และรู้เท่าทันการ เปล่ยี นแปลง 5.สอดแทรกความเปน็ ประชาธิปไตย ความภูมใิ จในความเปน็ ไทย ใหแ้ กผ่ ้เู รยี นในการจดั การเรยี นรู้ 6.จดั ทำโครงการ/กจิ กรรมทส่ี ่งเสรมิ ความเปน็ ประชาธิปไตยความ ภาคภมู ใิ จในความเป็นไทย 7.ให้ผปู้ กครองมสี ว่ นรว่ มในการดูแลช่วยเหลอื นักเรียนรายบคุ คล 8.นำข้อมูลนกั เรยี นไปใชช้ ว่ ยเหลือ/พัฒนาผู้เรยี นทงั้ ด้านการเรยี นรู้ และปรับพฤติกรรมเปน็ รายบุคคล 9. จดั กจิ กรรมเพ่อื ปอ้ งกนั แก้ไขปัญหาและสง่ เสรมิ พฒั นาผู้เรียน ใหแ้ ก่นกั เรียนอย่างท่ัวถงึ 10. สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รียนปฏบิ ตั ิตนให้ถกู ตอ้ งเหมาะสมกบั ค่านยิ มทดี่ ี งาม 11. ดูแลนกั เรยี นทุกคนอยา่ งทัว่ ถงึ ทันเหตกุ ารณ์ 3.สมรรถนะการบริหารจัดการชัน้ เรียน 1. จดั สภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกหอ้ งเรยี นท่เี อื้อตอ่ การ เรียนรู้ 2. ส่งเสริมการมีปฏสิ มั พนั ธท์ ีด่ รี ะหว่างครกู ับผู้เรียนและผู้เรียนกับ ผ้เู รยี น 3. ตรวจสอบสง่ิ อำนวยความสะดวกในห้องเรียนให้พร้อมใชแ้ ละ ปลอดภัย 4. จดั ทำข้อมูลสารสนเทศของนกั เรียนเป็นรายบคุ คลและเอกสาร ประจำชั้นเรยี นครบถว้ น เป็นปจั จบุ นั 5.นำข้อมูลสารสนเทศไปใชใ้ นการพฒั นาผเู้ รียนได้อย่างเตม็ ศกั ยภาพ 6.ให้ผูเ้ รียนมีส่วนรว่ มในการกำหนดกฎ กติกา ข้อตกลงในชั้นเรียน 7.แกป้ ญั หา/พัฒนานักเรยี นด้านระเบยี บวินัยโดยการสรา้ งวนิ ัยเชงิ บวกในช้นั เรียน 8.ประเมิน การกำกบั ดูแลชน้ั เรยี น และนำผลการประเมนิ ไปใชใ้ น การปรบั ปรงุ และพฒั นา
52: ระดบั การปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ท่ีสุด กลาง ท่สี ดุ 4.สมรรถนะการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และการวิจัยเพอื่ พฒั นา ผเู้ รียน 1.สำรวจปัญหาเกีย่ วกบั นกั เรียนทเี่ กิดขึ้นในชัน้ เรียนเพอ่ื วางแผนการ วจิ ัยเพ่ือพัฒนาผู้เรยี น 2.วิเคราะห์สาเหตขุ องปัญหาเก่ียวกบั นกั เรียนที่เกิดข้นึ ในชน้ั เรยี น เพอ่ื กำหนดทางเลือกในการแก้ไขปญั หาระบสุ ภาพปัจจุบัน 3.รวบรวม จำแนกและจดั กลุม่ ของสภาพปญั หา แนวคิดทฤษฏีและ วธิ กี ารแกป้ ญั หาเพือ่ สะดวกตอ่ การนำไปใช้ 4.มกี ารประมวลผลหรือสรปุ ข้อมูลสารสนเทศท่ีเปน็ ประโยชนต์ ่อการ แก้ไขปัญหาในชัน้ เรยี นโดยใชข้ อ้ มลู รอบดา้ น 5.มีการวิเคราะห์จดุ เด่น จดุ ด้อย อุปสรรคและโอกาสความสำเร็จ ของการวจิ ยั เพ่อื แก้ปญั หาทเี่ กิดข้นึ ในช้ันเรยี น 6.จดั ทำแผนการวิจยั และดำเนินกระบวนการวจิ ยั อยา่ งเป็นระบบ ตามแผนดำเนนิ การวจิ ยั ทกี่ ำหนดไว้ 7.ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความนา่ เช่ือถือของผลการวิจยั อย่าง เป็นระบบ 8.มีการนำผลการวิจัยไปประยกุ ต์ใชใ้ นกรณศี ึกษาอ่ืน ๆ ทีม่ บี ริบท ของปญั หาทีค่ ล้ายคลงึ กัน 5.สมรรถนะภาวะผนู้ ำครู 1.เหน็ คุณคา่ ใหค้ วามสำคญั ในความคิดเหน็ หรือผลงานและให้ เกียรตผิ ูอ้ ื่น 2.กระตุ้นจูงใจ ปรบั เปล่ยี นความคิดและการกระทำของผอู้ น่ื ใหม้ ี ความผกู พันและมงุ่ ม่ันต่อเปา้ หมายในการทำงานร่วมกนั 3.มีปฏิสมั พนั ธใ์ นการสนทนาอย่างสรา้ งสรรคก์ บั ผูอ้ ่นื โดยมงุ่ เน้นไป การเรียนรู้ และการพัฒนาวชิ าชพี 4.มีทักษะการฟงั การพดู และการต้งั คำถามเปิดใจกว้าง ยดื หยุ่น ยอมรับทศั นะที่หลากหลายของผู้อ่นื เพ่ือเป็นแนวทางใหม่ ๆ ในการ ปฏิบัตงิ าน
53: ระดบั การปฏบิ ตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก ที่สดุ กลาง ทสี่ ดุ 5.ให้ความสนใจต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ท่เี ปน็ ปจั จุบันโดยมีการ วางแผนอย่างมวี ิสยั ทัศนซ์ ง่ึ เชอ่ื มโยงกบั วสิ ยั ทศั น์ เปา้ หมาย และ พันธกจิ ของโรงเรียน 6.ริเริ่มการปฏิบตั ิท่นี ำไปสกู่ ารเปลี่ยนแปลงและพฒั นานวัตกรรม 7.กระตนุ้ ผู้อ่ืนให้มกี ารเรยี นรูแ้ ละความร่วมมอื กันในวงกว้างเพอ่ื พัฒนาผ้เู รียน สถานศึกษา และวิชาชีพ 8.ปฏิบตั งิ านร่วมกับผ้อู ่นื ภายใตร้ ะบบ/ขั้นตอนทเ่ี ปลยี่ นแปลงไปจาก เดมิ ได้ 9.สนบั สนนุ ความคิดรเิ ร่ิมซง่ึ เกิดจากการพิจารณาไตร่ตรองของเพอ่ื น รว่ มงาน และมสี ่วนร่วมในการพฒั นานวตั กรรมตา่ ง ๆ 10.ใชเ้ ทคนคิ วิธกี ารหลากหลายในการตรวจสอบประเมินการ ปฏบิ ัตงิ านของตนเองและผลการดำเนินงานสถานศกึ ษา 11.กำหนดเปา้ หมายและมาตรฐานการเรียนรทู้ ่ีท้าทายความสามารถ ของตนเองตามสภาพจริงและปฏิบัตใิ หบ้ รรลผุ ลสำเรจ็ ได้ 12.ยอมรบั ข้อมูลป้อนกลบั เก่ียวกบั ความคาดหวงั ด้านการเรียนรขู้ อง ผเู้ รียนจากผปู้ กครอง 6.สมรรถนะการสรา้ งความสมั พันธ์และความรว่ มมอื กบั ชุมชนเพ่อื การจดั การเรยี นรู้ 1.มปี ฏสิ ัมพันธท์ ่ีดีกับผู้ปกครองและชุมชนในการตดิ ตอ่ ส่ือสารเพอื่ การจัดการเรียนรู้ 2.ประสานงานกับผูป้ กครองและชมุ ชนให้เขา้ มามีสว่ นร่วมในการ จดั การเรียนรอู้ ย่างต่อเนื่องตลอดปกี ารศึกษา 3.เปิดโอกาสให้ผู้มสี ว่ นเกยี่ วข้องเข้าร่วมวางแผนการจดั กิจกรรมการ เรยี นรใู้ นระดับช้ันเรียน 4.เปดิ โอกาสใหผ้ ปู้ กครองและชมุ ชนเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เก่ยี วกับการจดั การเรียนการสอนในสถานศึกษา 5.สรา้ งเครือขา่ ยความร่วมมอื ระหว่างครู ผูป้ กครอง ชุมชนและ องคก์ รอ่นื ๆ ท้ังภาครัฐและเอกชนในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู สารสนเทศเพือ่ การจดั การเรียนรู้
54: ระดับการปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก ทีส่ ุด กลาง ทสี่ ุด 6.จดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ใ่ี ห้ปราชญ์ชาวบา้ นหรือภูมปิ ัญญาใน ทอ้ งถน่ิ เขา้ มามีส่วนร่วม 7.มกี ารเปดิ โอกาสให้ผู้มสี ่วนได้สว่ นเสียของสถานศกึ ษาเข้ามามสี ่วน รว่ มในการประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา 8.มกี ารเสนอผลการจัดการเรียนร้ตู ่อฝา่ ยตา่ ง ๆ ของชุมชนเพ่อื แลกเปลี่ยนเรียนรู้และแกไ้ ขปัญหารว่ มกนั ในทุกภาคเรียน ลงช่ือ ........................................................ ผู้ประเมนิ (นางลัดดา นิสสัยดี) ครู คศ.3
55: แบบประเมนิ สมรรถนะครผู ู้สอนระดบั การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน สังกดั สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ึ พ้ืนฐาน ช่อื นายชนายุทธ ตรงตามคำ โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสุรนิ ทรเ์ ขต 3 ผปู้ ระเมิน ตนเอง เพอื่ นครผู ู้สอน ผู้บริหารสถานศกึ ษา คำชีแ้ จง 1.แบบประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงานฉบับนี้สำหรับให้ครูผู้สอนทำการประเมินสภาพการ ปฏิบัตงิ าน ของตนเอง เพื่อนครูผู้สอน และผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประเมินตามสภาพความเป็นจริง เพื่อเป็นข้อมูล พื้นฐานในการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในแต่ละคน โดยจะมีผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้ รบั รองผลการประเมนิ อีกคร้งั หน่ึง 2. แบบประเมินสมรรถนะฉบับนี้ แบ่งออกเปน็ 2 ตอน ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู เกีย่ วกบั ครผู ้สู อน ตอนท่ี 2 การประเมนิ สมรรถนะของครูผูส้ อน ประกอบด้วยสมรรถนะ 5 สมรรถนะ และสมรรถนะประจำสายงาน 6 สมรรถนะ 3.ให้ผู้ประเมินอ่านรายการคำถามในแต่ละสมรรถนะให้ดีก่อนที่จะทำการประเมินสมรรถนะการ ปฏบิ ัติงาน 4.วิธกี ารประเมนิ สมรรถนะในการปฏบิ ัติงาน ให้ท่านทำเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งสภาพการปฏิบัติงาน ในแต่ละรายการคำถามของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเปน็ จรงิ ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลเกยี่ วกับผูร้ บั การประเมนิ 1. เพศ ชาย หญิง 2.ตำแหน่งปจั จบุ ันของผรู้ บั การประเมิน ครูผูช้ ่วย ครู คศ. 1 ครู คศ. 2 ครู คศ. 5 ครู คศ. 3 ครู คศ. 4 3. ระดบั การศกึ ษาสูงสุด ตำ่ กวา่ ปรญิ ญาตรี ปริญญาตรี ปรญิ ญาโท ปรญิ ญาเอก
56: 4.อายุราชการ 7 ปี 4 เดือน (นับถงึ 16 พฤษภาคม 2562) 5.กล่มุ สาระการเรยี นรูท้ ่ีถนดั หรือเช่ยี วชาญ คอื คณติ ศาสตร์, คอมพวิ เตอร์ ตอนท่ี 2 การประเมนิ สมรรถนะในการปฏบิ ัตงิ านของครผู ู้สอน (ผู้รบั การประเมนิ ) ให้ท่านพิจารณาสภาพการดำเนินงานในแต่ละประเด็นย่อยในแต่ละสมรรถนะของผู้รับการประเมนิ แล้วทำเครื่องหมาย ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในประเด็นย่อยของแต่ละสมรรถนะตาม สภาพความเป็นจรงิ 1. สมรรถนะหลกั ( Core Competency ) ระดับการปฏิบัติ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก ท่สี ดุ กลาง ทีส่ ดุ 1.สมรรถนะการมงุ่ ผลสัมฤทธิใ์ นการปฏบิ ตั ิงาน 1.วิเคราะห์ภารกจิ งานเพือ่ วางแผนการแก้ปญั หาอยา่ งเป็นระบบ 2.กำหนดเปา้ หมายในการปฏบิ ตั ิงานทกุ ภาคเรยี น 3.กำหนดแผนการปฏิบัตงิ านอยา่ งเป็นข้ันตอน 4.ใฝ่เรียนรู้เกย่ี วกบั การจัดการเรยี นรู้ 5.ริเร่มิ สร้างสรรค์ในการพฒั นาการจัดการเรียนรู้ 6.แสวงหาความรทู้ ่เี ก่ยี วกบั วชิ าชพี ใหม่ ๆ เพื่อการพัฒนาตนเอง 7.ประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านของตนเอง 8.ใช้ผลการประเมนิ ในการปฏิบัติงานมาใชป้ รบั ปรุง/พฒั นาการ ทำงานให้ดยี ิ่งขนึ้ 9.พฒั นาการปฏิบตั งิ านเพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของผเู้ รียน ผปู้ กครอง และชมุ ชน 2.สมรรถนะการบริการทด่ี ี 1.ใหบ้ ริการด้วยความยิม้ แย้มใจใส่ เหน็ อกเห็นใจผ้มู ารบั บรกิ าร 2.ใหบ้ ริการอยา่ งรวดเรว็ ทนั ใจ ไม่ลา่ ชา้ 3.ใหบ้ ริการอยา่ งมีความเคารพยกยอ่ ง ออ่ นน้อมใหเ้ กยี รติ ผู้รับบริการ 4.ให้บรกิ ารด้วยความมุ่งม่นั ตั้งใจและเตม็ อกเต็มใจ 5.แก้ปญั หาให้กบั นักเรยี น และผ้ปู กครองหรอื ผู้มาขอรับบรกิ าร 6.ให้บริการโดยยดึ ความตอ้ งการของผรู้ ับบรกิ ารเป็นหลกั 7.ใหบ้ ริการเกนิ ความคาดหวงั แมต้ ้องใช้เวลา หรอื ความพยามยาม อย่างมาก
57: ระดับการปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ท่ีสุด กลาง ท่สี ดุ 3.สมรรถนะการพฒั นาตนเอง 1.ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ มุง่ ม่นั และแสวงหาโอกาสพัฒนาตนเอง ด้วยวธิ ที ่หี ลากหลาย 2.วเิ คราะห์จดุ แข็งและจดุ อ่อนเกย่ี วกับการจัดการเรยี นรขู้ องตนเอง อยา่ งตอ่ เนื่อง 3.ศึกษา คน้ ควา้ หาองค์ความรใู้ หม่ ๆ ทางวิชาการเพ่อื พฒั นาตนเอง และวิชาชพี 4.แลกเปล่ยี นเรยี นรู้กับผู้อื่นเพือ่ การพฒั นาตนเองทกุ ครง้ั ทม่ี ีโอกาส 5.เข้ารบั การอบรมเพอ่ื พัฒนาตนเองจากหน่วยงานตา่ ง ๆ อยา่ ง ตอ่ เนอื่ ง 6.ให้คำปรกึ ษา แนะนำ นิเทศ และถา่ ยทอดความรู้ ประสบการณ์ ทางวชิ าชพี แก่ผู้อืน่ 7.มกี ารสร้างเครอื ข่ายการเรยี นรูเ้ พอ่ื การพฒั นาตนเองทง้ั ในและ นอกสถานศกึ ษา 4.สมรรถนะการทำงานเปน็ ทีม 1.สร้างสัมพันธภาพท่ดี ีในการทำงานรว่ มกับผู้อืน่ 2.ทำงานรว่ มกับผู้อ่นื ตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3.ช่วยเหลือเพ่อื นรว่ มงานเพ่ือสเู่ ป้าหมายความสำเรจ็ รว่ มกนั 4.ให้เกียรติ ยกย่องชมเชย ให้กำลงั ใจแกเ่ พ่ือนรว่ มงานในโอกาสที่ เหมาะสม 5.มที กั ษะในการทำงานรว่ มกบั บุคคล/กลุ่มบคุ คลได้อย่างมี ประสิทธิภาพทั้งภายในและภายนอกสถานศกึ ษา และในทุก สถานการณ์ 6.แสดงบทบาทผู้นำหรือผ้ตู ามในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เหมาะสม ในทุกโอกาส 7.แลกเปลีย่ น/รบั ฟังความคิดเห็นและประสบการณ์ภายในทมี งาน 8.ร่วมกับเพ่ือนรว่ มงานในการสร้างวัฒนธรรมการทำงานเป็นทมี ให้ เกดิ ขึน้ ในสถานศกึ ษา
58: ระดับการปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ที่สุด กลาง ท่สี ดุ 5.สมรรถนะจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชพี ครู 1.ยึดม่ันในอุดมการณข์ องวิชาชพี ปกป้องเกยี รติและศักดศิ์ รขี อง วิชาชีพ 2.เสยี สละ อทุ ิศตนเพอื่ ประโยชน์ต่อวชิ าชพี และเป็นสมาชกิ ทีด่ ขี อง องค์กรวชิ าชีพ 3.ยกยอ่ ง ช่นื ชมบุคคลทีป่ ระสบความสำเรจ็ ในวิชาชพี 4.ซือ่ สัตยต์ ่อตนเอง ตรงต่อเวลา วางแผนการใช้จา่ ยและใช้ ทรพั ยากรอยา่ งประหยัด 5.ปฏบิ ตั ิตนตามกฎ ระเบยี บ ข้อบงั คับ และขนบธรรมเนียมประเพณี 6.ปฏบิ ตั ิตนและดำเนินชีวิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ไดเ้ หมาะสมกบั สถานะของตน 7.รักษาสิทธิประโยชน์ของตนเอง และไม่ละเมิดสิทธขิ องผู้อืน่ 8.เอ้ือเฟือ้ เผื่อแผ่ ชว่ ยเหลอื และไม่เบียดเบยี นผูอ้ ืน่ 9.มคี วามเปน็ กลั ยาณมิตรต่อผ้เู รยี น เพ่ือรว่ มงานและผู้รบั บริการ 10.ปฏบิ ัติตนตามหลกั การครองตน ครองคน ครองงานเพื่อให้การ ปฏิบตั งิ านบรรลผุ ลสำเรจ็
59: 2. สมรรถนะประจำสายงาน ( Functional Competency ) ระดับการปฏิบัติ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก ที่สุด กลาง ที่สดุ 1.สมรรถนะการบริหารจัดการหลักสูตรและการจดั การเรยี นรู้ 1.ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรอู้ ย่างหลากหลายสอดคลอ้ งกบั วยั ความตอ้ งการของผเู้ รียน ชุมชน 2.เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นมีสว่ นรว่ มในการกำหนดกจิ กรรมและการ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 3.ใชร้ ูปแบบ/เทคนิควิธีการสอนอยา่ งหลากหลายเพือ่ ใหผ้ ู้เรยี น พัฒนาเต็มตามศกั ยภาพ 4.จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ีป่ ลกู ฝงั /สง่ เสรมิ คณุ ลกั ษณะพงึ ประสงค์ และสมรรถนะของผเู้ รยี น 5.ใช้หลกั จติ วทิ ยาในการจดั การเรยี นรใู้ หผ้ เู้ รียนเรยี นรู้อย่างมี ความสุขและพัฒนาเตม็ ศกั ยภาพ 6.ใช้แหลง่ เรียนรแู้ ละภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ินในชมุ ชนในการจัดการเรยี นรู้ 7.ใช้ส่อื นวตั กรรม และเทคโนโลยีหลากหลายและเหมาะสมกบั เนอ้ื หาและกจิ กรรมการเรยี นรู้ 8.ใช้เทคโนโลยคี อมพิวเตอรใ์ นการผลติ สอื่ /นวัตกรรมทใ่ี ชใ้ นการ เรียนรู้ 9.ออกแบบวธิ กี ารวัดและประเมนิ ผลหลากหลายเหมาะสมกับเน้ือหา และกิจกรรมการเรยี นรู้ 10.สร้างและนำเครือ่ งมือวัดและประเมนิ ผลไปใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม 11.วัดและประเมนิ ผลผู้เรียนตามสภาพจริง 12.นำผลการประเมินการเรียนร้มู าใชใ้ นการพฒั นาการจดั การเรยี นรู้ 2.สมรรถนะการพัฒนาผู้เรยี น 1.สอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรมแก่ผ้เู รยี นในการจัดการเรียนรู้ในชัน้ เรยี น 2.จัดกิจกรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรมใหแ้ ก่ผู้เรยี นโดยให้ผู้เรียนมี สว่ นร่วมในการวางแผนกิจกรรม 3.จัดทำโครงการ/กจิ กรรมทสี่ ง่ เสรมิ คุณธรรมจรยิ ธรรมใหแ้ กผ่ ้เู รียน
60: ระดบั การปฏบิ ัติ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก ทส่ี ดุ กลาง ท่สี ดุ 4.จัดกจิ กรรมเพื่อพัฒนาผูเ้ รียนด้านการดูแลตนเอง มีทักษะในการ เรียนรู้ การทำงาน การอย่รู ่วมกันในสงั คม และรเู้ ทา่ ทันการ เปล่ยี นแปลง 5.สอดแทรกความเป็นประชาธปิ ไตย ความภูมิใจในความเป็นไทย ใหแ้ กผ่ เู้ รียนในการจัดการเรียนรู้ 6.จัดทำโครงการ/กจิ กรรมทส่ี ง่ เสริมความเปน็ ประชาธปิ ไตยความ ภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย 7.ให้ผู้ปกครองมีส่วนรว่ มในการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียนรายบุคคล 8.นำข้อมลู นกั เรยี นไปใชช้ ว่ ยเหลือ/พัฒนาผ้เู รียนท้งั ด้านการเรียนรู้ และปรับพฤติกรรมเป็นรายบุคคล 9. จัดกจิ กรรมเพื่อป้องกนั แกไ้ ขปัญหาและส่งเสริมพฒั นาผ้เู รยี น ใหแ้ ก่นักเรียนอย่างทัว่ ถึง 10. สง่ เสรมิ ให้ผูเ้ รียนปฏบิ ัติตนให้ถูกต้องเหมาะสมกบั ค่านยิ มท่ดี ี งาม 11. ดแู ลนักเรียนทุกคนอย่างท่ัวถึง ทันเหตุการณ์ 3.สมรรถนะการบรหิ ารจดั การช้นั เรยี น 1. จัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอือ้ ตอ่ การ เรียนรู้ 2. สง่ เสรมิ การมีปฏิสมั พันธท์ ่ีดีระหว่างครูกับผู้เรียนและผู้เรยี นกบั ผเู้ รยี น 3. ตรวจสอบสงิ่ อำนวยความสะดวกในห้องเรยี นใหพ้ รอ้ มใช้และ ปลอดภยั 4. จดั ทำข้อมูลสารสนเทศของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคลและเอกสาร ประจำช้ันเรยี นครบถว้ น เป็นปัจจุบัน 5.นำข้อมูลสารสนเทศไปใชใ้ นการพฒั นาผเู้ รียนไดอ้ ย่างเต็มศกั ยภาพ 6.ใหผ้ เู้ รียนมสี ่วนรว่ มในการกำหนดกฎ กติกา ขอ้ ตกลงในชัน้ เรยี น 7.แก้ปญั หา/พัฒนานกั เรียนดา้ นระเบยี บวินยั โดยการสร้างวินยั เชิง บวกในชั้นเรยี น 8.ประเมิน การกำกับดแู ลชั้นเรยี น และนำผลการประเมินไปใช้ใน การปรบั ปรงุ และพัฒนา
61: ระดบั การปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ท่ีสุด กลาง ท่สี ดุ 4.สมรรถนะการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และการวิจัยเพอื่ พฒั นา ผเู้ รยี น 1.สำรวจปัญหาเกีย่ วกบั นกั เรียนทเี่ กิดขึ้นในชัน้ เรียนเพอ่ื วางแผนการ วจิ ัยเพ่ือพัฒนาผู้เรยี น 2.วิเคราะห์สาเหตขุ องปัญหาเก่ียวกบั นกั เรียนที่เกิดข้นึ ในชน้ั เรยี น เพอ่ื กำหนดทางเลือกในการแก้ไขปญั หาระบสุ ภาพปจั จุบัน 3.รวบรวม จำแนกและจดั กลุม่ ของสภาพปญั หา แนวคิดทฤษฏีและ วธิ กี ารแกป้ ญั หาเพือ่ สะดวกตอ่ การนำไปใช้ 4.มกี ารประมวลผลหรือสรปุ ข้อมูลสารสนเทศท่ีเปน็ ประโยชนต์ ่อการ แก้ไขปัญหาในชัน้ เรยี นโดยใชข้ อ้ มลู รอบดา้ น 5.มกี ารวเิ คราะห์จดุ เด่น จดุ ด้อย อุปสรรคและโอกาสความสำเร็จ ของการวจิ ยั เพ่อื แก้ปญั หาทเี่ กิดข้นึ ในช้ันเรยี น 6.จดั ทำแผนการวิจยั และดำเนินกระบวนการวจิ ยั อยา่ งเป็นระบบ ตามแผนดำเนนิ การวจิ ยั ทกี่ ำหนดไว้ 7.ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความนา่ เช่ือถือของผลการวิจยั อย่าง เป็นระบบ 8.มีการนำผลการวิจัยไปประยกุ ต์ใชใ้ นกรณศี ึกษาอ่ืน ๆ ทีม่ บี ริบท ของปญั หาทีค่ ล้ายคลงึ กัน 5.สมรรถนะภาวะผนู้ ำครู 1.เหน็ คุณคา่ ใหค้ วามสำคญั ในความคิดเหน็ หรือผลงานและให้ เกียรตผิ ูอ้ ื่น 2.กระตุ้นจูงใจ ปรบั เปล่ยี นความคิดและการกระทำของผอู้ ่ืนใหม้ ี ความผกู พันและมงุ่ ม่ันต่อเปา้ หมายในการทำงานร่วมกนั 3.มีปฏิสัมพนั ธใ์ นการสนทนาอย่างสรา้ งสรรคก์ บั ผูอ้ ่นื โดยมงุ่ เน้นไป การเรียนรู้ และการพัฒนาวชิ าชพี 4.มที ักษะการฟัง การพดู และการต้งั คำถามเปิดใจกว้าง ยดื หยุ่น ยอมรับทศั นะที่หลากหลายของผู้อื่นเพ่ือเป็นแนวทางใหม่ ๆ ในการ ปฏิบัตงิ าน
62: ระดับการปฏิบตั ิ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก ทีส่ ดุ กลาง ท่สี ดุ 5.ให้ความสนใจตอ่ สถานการณต์ ่าง ๆ ท่เี ปน็ ปจั จบุ ันโดยมีการ วางแผนอยา่ งมีวิสยั ทศั นซ์ ง่ึ เช่ือมโยงกบั วิสัยทศั น์ เป้าหมาย และ พนั ธกิจของโรงเรยี น 6.ริเร่ิมการปฏิบตั ิที่นำไปสู่การเปลยี่ นแปลงและพัฒนานวัตกรรม 7.กระตุ้นผู้อืน่ ใหม้ ีการเรยี นรู้และความรว่ มมือกนั ในวงกว้างเพอ่ื พัฒนาผูเ้ รียน สถานศกึ ษา และวชิ าชพี 8.ปฏิบัติงานรว่ มกบั ผูอ้ ่ืนภายใต้ระบบ/ขั้นตอนทเี่ ปลี่ยนแปลงไปจาก เดิมได้ 9.สนับสนุนความคดิ รเิ รมิ่ ซ่ึงเกิดจากการพจิ ารณาไตร่ตรองของเพ่ือน ร่วมงาน และมสี ่วนรว่ มในการพฒั นานวตั กรรมตา่ ง ๆ 10.ใชเ้ ทคนิควิธกี ารหลากหลายในการตรวจสอบประเมนิ การ ปฏบิ ัติงานของตนเองและผลการดำเนนิ งานสถานศึกษา 11.กำหนดเป้าหมายและมาตรฐานการเรียนรูท้ ่ที ้าทายความสามารถ ของตนเองตามสภาพจริงและปฏบิ ตั ใิ หบ้ รรลผุ ลสำเร็จได้ 12.ยอมรับข้อมูลปอ้ นกลบั เกย่ี วกับความคาดหวงั ด้านการเรยี นรู้ของ ผู้เรียนจากผปู้ กครอง 6.สมรรถนะการสร้างความสมั พนั ธ์และความร่วมมือกบั ชุมชนเพือ่ การจดั การเรียนรู้ 1.มปี ฏสิ ัมพนั ธท์ ่ีดกี ับผูป้ กครองและชุมชนในการตดิ ต่อสื่อสารเพ่ือ การจัดการเรียนรู้ 2.ประสานงานกบั ผู้ปกครองและชมุ ชนให้เข้ามามสี ่วนรว่ มในการ จัดการเรียนร้อู ย่างต่อเน่อื งตลอดปกี ารศกึ ษา 3.เปิดโอกาสใหผ้ มู้ สี ว่ นเกย่ี วข้องเข้าร่วมวางแผนการจดั กิจกรรมการ เรียนรู้ในระดับชน้ั เรียน 4.เปดิ โอกาสใหผ้ ปู้ กครองและชมุ ชนเข้ามาแลกเปลย่ี นเรียนรู้ เก่ยี วกบั การจดั การเรยี นการสอนในสถานศกึ ษา 5.สร้างเครอื ข่ายความร่วมมือระหว่างครู ผปู้ กครอง ชมุ ชนและ องคก์ รอ่ืน ๆ ทง้ั ภาครัฐและเอกชนในการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู สารสนเทศเพ่อื การจัดการเรยี นรู้
63: ระดบั การปฏิบัติ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก ทสี่ ดุ กลาง ทสี่ ุด 6.จดั กจิ กรรมการเรียนรูท้ ่ีให้ปราชญช์ าวบ้านหรือภูมิปญั ญาใน ท้องถน่ิ เขา้ มามีส่วนร่วม 7.มกี ารเปดิ โอกาสให้ผู้มีสว่ นไดส้ ่วนเสยี ของสถานศกึ ษาเข้ามามสี ว่ น รว่ มในการประเมินผลการจดั การศึกษา 8.มกี ารเสนอผลการจดั การเรยี นร้ตู อ่ ฝ่ายตา่ ง ๆ ของชมุ ชนเพอ่ื แลกเปลย่ี นเรยี นรู้และแก้ไขปัญหาร่วมกนั ในทุกภาคเรียน ลงชื่อ .................................................. ผู้ประเมิน (นายสมทรง นสิ สัยดี) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์)
64: ผลการประเมนิ สมรรถนะครู สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน ชือ่ นายชนายุทธ ตรงตามคำ ตำแหน่ง ครู คศ.1 โรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาสุรนิ ทร์เขต 3 สมรรถนะ คะแนนเฉลย่ี ระดบั คุณภาพ สมรรถนะหลัก ( Core Competency ) 001. การมงุ่ ผลสัมฤทธิใ์ นการปฏบิ ตั ิงาน 4.66 สงู 002. การบริการทดี่ ี 5.00 สงู 003. การพฒั นาตนเอง 4.57 สงู 004. การทำงานเป็นทมี 4.75 สูง 005. จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ 5.00 สูง สมรรถนะประจำสายงาน( Functional Competency ) 001. การบริหารจดั การหลกั สูตรและการจัดการเรยี นรู้ 4.41 สงู 002. การพัฒนาผู้เรียน 5.00 สูง 003. การบริหารจดั การช้นั เรยี น 4.62 สูง 004. กาวิเคราะห์ สงั เคราะหแ์ ละการวิจยั เพ่ือพฒั นาผู้เรยี น 4.37 สูง 005. ภาวะผูน้ ำครู 4.58 สูง 006. การสรา้ งความสมั พนั ธ์และความรว่ มมือกับชมุ ชน 4.62 สงู สรปุ ผล จำนวน 11 สมรรถนะ สมรรถนะระดบั คณุ ภาพดี จำนวน - สมรรถนะ สมรรถนะระดบั คุณภาพพอใช้ จำนวน - สมรรถนะ สมรรถนะระดบั คณุ ภาพปรับปรุง
65: แนวทางการประเมินการใหค้ ะแนนและการแปลผลการประเมินสมรรถนะครู 1. การประเมินตามแนวทางนี้ใช้แบบประเมนิ สมรรถนะสำหรับครูผูส้ อนทำการประเมินสมรรถนะใน การปฏบิ ตั งิ านตามสภาพจริง เพอ่ื จะไดท้ ราบข้อมูลเกีย่ วกับสมรรถนะของครูผู้สอน และนำผลการประเมินไป ใชใ้ นการกำหนดกรอบการพัฒนาสมรรถนะครใู หม้ ีประสิทธภิ าพและเกดิ ประสิทธผิ ลสูงสุดต่อการพัฒนาผเู้ รียน สถานศกึ ษาและวชิ าชีพ ผใู้ ชแ้ บบประเมนิ สมรรถนะครู ดังน้ี 1. ครผู ู้สอน : ประเมินตนเอง 2. เพ่อื นครูผู้สอนในสถานศึกษาเดยี วกนั : ประเมินครผู สู้ อน 3. ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา : ประเมนิ ครผู ู้สอน 2. การใหค้ ะแนนการประเมินสมรรถนะครู 2.1 การใหค้ ะแนนในแต่ละขอ้ รายการจะมีระดบั คุณภาพของสภาพการปฏบิ ตั งิ าน 5 ระดับ ได้แก่ ปฏิบัติน้อยทสี่ ุด ปฏบิ ตั ิน้อย ปฏิบัติปานกลาง ปฏิบัตมิ าก และปฏิบตั ิมากทีส่ ุด โดยกำหนดคา่ คะแนน เป็น 1, 2, 3, 4 และ 5 ตามลำดบั 2.2 การตัดสินผลในแตล่ ะสมรรถนะ ใหท้ ำการคำนวณหาคะแนนเฉลย่ี รายสมรรถนะ และท้ัง ฉบบั ของครเู ป็นรายบุคคล โดยนับจำนวนความถ่ขี องระดับการปฏิบัติ แล้วนำจำนวนความถี่ที่ได้นับได้ทั้งหมด มาคำนวณหาคะแนนรวม โดยการนำจำนวนความถี่ในแต่ละระดับการปฏิบัติมาคูณคะแนนในแต่ละระดับ คุณภาพการปฏิบัติงานดังน้ี คือ ปฏิบัติน้อยที่สุด คุณด้วย 1 ปฏิบัติน้อย คูณด้วย 2 ปานกลาง คูณด้วย 3 ปฏิบัติมาก คูณด้วย 4 และปฏิบัติมากที่สุด คูณด้วย 5 แล้วนำคะแนนมารวมกัน จากนั้นนำคะแนนรวมที่ได้ คำนวณหาคะแนนเฉลี่ย 3. การแปลผลการประเมนิ สมรรถนะครู เปน็ การนำคะแนนเฉล่ียมาเปรียบเทียบกับเกณฑก์ ารแปลผล ทก่ี ำหนดไว้ โดยกำหนดเกณฑจ์ ากผลการวเิ คราะหค์ า่ เฉล่ีย (x) ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) ของข้อมูลท่ี เกบ็ รวบรวมได้ท้ังหมดดังนี้ ค่าคะแนนเฉลย่ี ระดับคณุ ภาพ มากกว่า คา่ เฉล่ยี รวม + S.D. รวม ดี ระหวา่ ง ค่าเฉล่ีย รวม ± S.D. รวม น้อยกว่า ค่าเฉลย่ี รวม - S.D. รวม พอใช้ ปรับปรงุ
66: การให้คะแนนและแปลผลการประเมนิ สมรรถนะ คา่ คะแนนเฉลย่ี ระดับคุณภาพ 4.01 – 5.00 สงู 3.01 – 4.00 ตง้ั แต่ 3.00 ลงมา ปานกลาง ควรปรับปรงุ 4. การนำเสนอผลการประเมินสมรรถนะครู การนำเสนอผลการประเมินให้นำคะแนนเฉลี่ย และระดับคุณภาพในแต่ละสมรรถนะมากรอกลงใน แบบสรปุ ผลการประเมนิ สมรรถนะของครูผสู้ อนในตอนท้ายของแบบประเมนิ แลว้ จงึ รายงานผลการประเมนิ ให้ ผบู้ ริหารหรอื หนว่ ยงานท่เี กี่ยวข้องนำไปเป็นแนวทางในการพฒั นาสมรรถนะครตู อ่ ไป
67:
Search