สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน ประกอบรายวชิ า ว 32101 เทคโนโลยี 2 ครปู ระจาวิชา ครรู ชั ชนก วงศเ์ ขยี ว
คานา หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ ส์เรอื่ ง สวนพฤกษศาสตรใ์ น โรงเรยี นเลม่ นี้ประกอบดว้ ยเนื้อหาเกยี่ วกบั ตน้ ไมแ้ ละดอกไม้ ในโรงเรยี นวงั เหนือวทิ ยาเป็ นส่วนหน่ึงของรายวชิ า ว32101เทคโนโลย2ี ผู้จดั ทาหวงั เป็ นอยา่ งยง่ิ วา่ เนือ้ หาในหนงั สือ อเิ ล็กทรอนิกส์นี้จะเป็ นประโยชนส์ าหรบั ผู้ทศ่ี ึกษาไดเ้ ป็ น อยา่ งดี นายณรชน มสี วย นายนนทพทั ธ์ ตุย้ พมิ พ์ ผ้จู ดั ทา
แคฝร่ัง แคฝรง่ั (Mata Raton) เป็ นไม้ยนื ตน้ พลดั ใบขนาดเล็กถงึ ขนาดกลางนยิ มปลกู เพอ่ื เป็ นไม้ประดบั ดอกเนื่องจากออก ดอกเป็ นช่อใหญห่ ลงั การหลน่ รว่ งของใบดอกมสี ีขาวหรอื ชมพอู มขาวแลดสู วยงามรวมถงึ เพอื่ การรบั ประทานดอก โดยนามาประกอบอาหารไดห้ ลากหลายชนดิ ปจั จบุ นั เป็ นท่ี นยิ มปลกู มากทง้ั ในสถานทส่ี าธารณะหรอื ราชการสถานท่ี ทอ่ งเทยี่ วตามบา้ นเรอื นและหวั ไรป่ ลายนา
ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Gliricidia sepium (Jacq.) Walp. ชอื่ สามญั : – Mata Raton – Mother of Cocoa – Madre de cacao (ภาษาสเปน) – Quick Stick ประเทศอน่ื ๆ – ฮอนดรู สั : Cacao de nance และ cacahnanance – ฟิลปิ ปินส์ : Kakawate – กวั เตมาลา : Madre Cacao และ Madre de Cacao – นคิ ารากวั : Madero negro
ถน่ิ กาเนดิ และการแพรก่ ระจาย แคฝรง่ั (Genus : Gloriosa) มถี น่ิ กาเนิดในอเมรกิ า แถบ ประเทศแม็กซโิ ก และแถบประเทศทะเลคารเิ บยี้ น ตง้ั แตเ่ มอื ง Sinaloa ทางภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศแม็กซโิ กไป จนถงึ ประเทศคอสตารกิ า้ ชอบขน้ึ และเตบิ โตไดด้ ใี นประเทศ แถบอากาศร้อนซนื้ และขน้ึ ไดด้ ใี นทุกสภาพดนิ โดย แพรก่ ระจายตอ่ มาในทง้ั แถบแครเิ บยี น ทางตอนเหนือของ อเมรกิ าใต้ ตอนกลางของแอฟรกิ า เอเชยี และเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ รวมถงึ ประเทศไทยการปลกู แคฝรง่ั ใน ประเทศไทยในระยะแรกจะปลกู เพอ่ื การเป็ นไม้ประดบั ดอก โดย สาเหตทุ ต่ี ง้ั ชอ่ื วา่ แคฝรง่ั เนื่องจาก ตวั ดอกมลี กั ษณะคลา้ ยดอก แคทุกประการ ทง้ั รูปรา่ ง และสี แตเ่ ป็ นไม้ทน่ี ามาจาก ตา่ งประเทศจงึ ตง้ั ชอ่ื วา่ แคฝรง่ั เพม่ิ เตมิ จาก ทง้ั นี้ แคฝรง่ั เป็ นดอกไมป้ ระจาของมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั จนั ทรเกษม เขต จตุจกั ร กรุงเทพมหานคร
ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ลาต้น แคฝรง่ั เป็ นไมย้ นื ต้น มคี วามสงู ตง้ั แต่ 3-15 เมตร ลาตน้ ตง้ั ตรง มกี ารแตกกง่ิ ก้านน้อย ทาให้ทรงพมุ่ โปรง่ เปลอื กลา ตน้ มสี ีเทาอมขาว หรอื น้าตาลอมเทา และเมอ่ื ลาตน้ แก่ เปลอื กลาตน้ แตกสะเก็ดทว่ั ลาตน้ ใบแคฝรง่ั ออกเป็ นใบรวมแบบขนนก มี กา้ นใบหลกั แตกออกตามกง่ิ กา้ น โดยก้าน ใบหลกั มใี บยอ่ ยเรยี งตรงขา้ มกนั 13-21 ใบ ขนาดใบยอ่ ยกว้าง 1-3 เซนตเิ มตร ยาว 3-6 เซนตเิ มตร โคนใบทู่ ปลายใบ แหลมคอ่ นข้างป้ าน แผน่ ใบ และขอบใบ เรยี บ ไมม่ หี ยกั แผน่ ใบดา้ นหน้ามสี ีเขยี ว เขม้ แผน่ ใบดา้ นหลงั มสี ีเขยี วนวล และ ทง้ั สองดา้ นมขี นละเอยี ดนุ่มปกคลมุ และ มกั พบจดุ สีออกมว่ งบรเิ วณกลางใบ ทง้ั นี้ ใบออ่ นบรเิ วณยอดจะมสี ีน้าตาล และใบ แกจ่ ะรว่ งหลน่ ประมาณเดอื นตลุ าคม- ธนั วาคม ในฤดกู าลพลดั ใบ
ใบ ใบแคฝรง่ั ออกเป็ นใบรวมแบบขนนก มกี ้านใบหลกั แตก ออกตามกง่ิ ก้าน โดยกา้ นใบหลกั มใี บยอ่ ยเรยี งตรงขา้ มกนั 13-21 ใบ ขนาดใบยอ่ ยกว้าง 1-3 เซนตเิ มตร ยาว 3-6 เซนตเิ มตร โคนใบทู่ ปลายใบแหลมคอ่ นขา้ งป้ าน แผน่ ใบ และขอบใบเรยี บ ไมม่ หี ยกั แผน่ ใบดา้ นหน้ามสี ีเขยี วเขม้ แผน่ ใบดา้ นหลงั มสี ีเขยี วนวล และทง้ั สองดา้ นมขี นละเอยี ดนุ่ม ปกคลมุ และมกั พบจุดสีออกมว่ งบรเิ วณกลางใบ ทง้ั นี้ ใบ ออ่ นบรเิ วณยอดจะมสี ีน้าตาล และใบแกจ่ ะรว่ งหลน่ ประมาณ เดอื นตลุ าคม-ธนั วาคม ในฤดกู าลพลดั ใบ
ดอก แคฝรง่ั ออกดอกเป็ นออกดอกเป็ นช่อใหญ่ ทง้ั ออกตามซอกใบที่ ปลายกง่ิ และตามตากง่ิ บรเิ วณลาตน้ แตล่ ะช่อดอกประกอบดว้ ย ช่อดอกยอ่ ย 5-10 ช่อยอ่ ย และแตล่ ะช่อดอกยอ่ ยประกอบดว้ ย ดอกทมี่ ลี กั ษณะคลา้ ยดอกแคบา้ นสีขาวหรอื ดอกแคบา้ นสีแดง ทกุ อยา่ ง หรอื ดอกถว่ั ใตด้ อกมกี ลบี เลยี้ งสีเขยี วมลี กั ษณะเป็ นรปู ระฆงั หรอื รปู ถว้ ย กลบี ดอกมสี ีขาว หรอื ชมพอู มขาว ภายในมี เกสรตวั ผู้ 10 อนั (1 เกสร เป็ น free อกี 9 อนั เป็ น filament) โดยเมอื่ ดอกแก่ ตวั ดอกจะเปลย่ี นเป็ นสีขาวอมน้าตาลหรอื สีมว่ ง ซดี ทง้ั นี้ ในช่วงออกดอก ลาตน้ จะมกี ารพลดั ใบหรอื ทงิ้ ใบออก หมด เหลอื เพยี งช่อดอกทบี่ านสะพรง่ั สวยงาม โดยจะเรม่ิ ออก ดอกเรอ่ื ยๆในช่วงการพลดั ใบของเดอื นตุลาคม-ธนั วาคม
ผลและเมลด็ ผลแคฝรง่ั นยิ มเรยี กเป็ นฝกั รูปรา่ งแบนยาว ยาวประมาณ 10-15 เซนตเิ มตร โคนฝกั และปลายฝกั แหลม ฝกั ออ่ นมี เปลอื กฝักสีเขยี ว เมอ่ื แกจ่ ะเปลยี่ นเป็ นสีน้าตาล และดาเมอ่ื แกม่ าก พร้อมปรแิ ตกออกเป็ น 2 ดา้ น ซ้าย-ขวา ภายในมี เมลด็ ขนาดเล็ก รปู รา่ งกลม และแบน 3-8 เมลด็ เปลอื ก เมล็ดมสี ีดา เปลอื กเมล็ดสีน้าตาล เนื้อเมล็ดมสี ีขาวอม เหลอื ง ทง้ั นี้ ฝกั จะเรม่ิ แกห่ ลกั จากออกดอกแลว้ ประมาณ 40-55 วนั
ต้นอนิ ทนลิ อนิ ทนลิ หรอื อนิ ทนลิ น้า (ชอ่ื วทิ ยาศาสตรL์ agerstroemia spiceosa) เป็ นไม้ ยนื ตน้ เป็ นพรรณไม้ทพี่ บขน้ึ ทว่ั ไปตามทร่ี าบลมุ่ และ บรเิ วณรมิ ฝ่ังแมน่ ้า ลาห้วย ในป่ าเบญจพรรณชนื้ และ ป่ าดงดบิ ทว่ั ทกุ ภาค จะพบมากในป่ าดงดบิ ภาคใต้ มี ดอกสีมว่ ง สวยงาม มชี อ่ื ในแตล่ ะทอ้ งถน่ิ ตา่ ง ๆ กนั เช่น ตะแบกอนิ เดยี ฉ่องมู ซอง (กะเหรย่ี ง-กาญจนบรุ )ี บาเอ (ปตั ตานี) บางอบะซา (ยะลา นราธวิ าส มาเลเซยี ) อนิ ทนิล (ภาคกลาง ภาคใต)้ ตะแบกดา (กรุงเทพฯ)
ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ (Scientific Name) : Lagerstroemia speciosa Pers. ชอื่ วงศ์ (Family) : LYTHRACEAE ชอื่ อนื่ ๆ (Other Name) : ฉ่องมู ตะแบกดา บาเย บาเอ อนิ ทนิล ลกั ษณะ (Characteristics) ไม้ต้น สูง 5-20 ม. ผลดั ใบแตผ่ ลใิ บใหมเ่ ร็ว ใบเป็ นใบเดยี่ ว ออกเป็ นคูห่ รอื เยอื้ งกนั เลก็ น้อย รปู ขอบขนานแกมรปู ไข่ กว้าง 6- 10 ซม. ยาว 12-26 ซม. โคนใบมนปลายใบแหลม ดอกสีชมพถู งึ มว่ ง ออกเป็ นช่อยาวถงึ 30 ซม. ดอกบานเต็มทกี่ ว้าง 10 ซม. กลบี รองดอกรูปถว้ ย ปลายแยกเป็ น 6 แฉก มสี ันนูนตามยาว กลบี ดอก มี 6 กลบี รูปช้อนปลายแผ่ โคนกลบี เป็ นก้านเรยี ว แผน่ กลบี เป็ นรว้ิ คลนื่ มเี กสรผ้จู านวนมากตรงกลางดอก ยอดเกสรสีเหลอื ง ผลเป็ น ผลแห้ง รปู กระสวยป่ องกลาง ผวิ แข็ง เกลยี้ ง ยาว 2-2.5 ซม. เมอื่ แกแ่ ตกเป็ น 6 แฉก เมล็ดขนาดเล็ก มปี ี กบางโคง้ ทางดา้ นบนหน่ึง ปี ก
กษณะใบ เป็ นใบเดย่ี ว (simple leaf) ออกตรงขา้ ม (opposite) หรอื เยอื้ ง นเลก็ น้อย (sub-opposit) ทรงใบรปู ขอบขนาน (oblong) หรอื ปขอบขนานแกมรูปหอก (lanceolate) กว้าง 5 - 10 ซ.ม. ยาว -26 ซ.ม. เนื้อใบคอ่ นข้างหนา เกลยี้ ง เป็ นมนั ทง้ั สองดา้ น โคน บมนหรอื เบยี้ วเยอื้ งกนั เลก็ น้อย ปลายใบเรยี วและเป็ นตง่ิ แหลม นแขนงใบมี 9 -17 คู่ เส้ นโค้งออ่ นและจะจรดกบั เส้ นถดั ไป รเิ วณใกล้ ขอบใบ เส้ นใบยอ่ ยเห็นไมเ่ ดน่ ชดั นกั ขอบใบเรยี บ รอื เป็ นคลนื่ บ้างเลก็ น้อย ก้านใบยาวประมาณ 1 ซ.ม. เกลยี้ งไมม่ ี น
ดอก เป็ นชนดิ ดอกช่อ (inflorescence flower) แบบ Panicle ออกรวมกนั เป็ นช่อโต ยาวถงึ 30 ซ.ม. ตามปลายกง่ิ หรอื ตามงา่ มใบใกล้ ๆ ปลายกง่ิ มสี ี ตา่ ง ๆ กนั เช่น สีมว่ งสด มว่ ง อมชมพหู รอื ชมพลู ว้ น ๆ ตรงส่วนบนสุดของดอกตูมจะมตี มุ่ กลมเล็ก ๆ ตดิ อยตู่ รงกลาง ผวิ นอกของกลบี ฐานดอกซง่ึ ตดิ กนั เป็ นรปู ถว้ ยหรอื รปู กรวยหงายจะมสี ันนนู ตามยาว ปรากฏชดั มขี นส้ันปก คลมุ ประปราย กลบี ดอกบาง รูปช้อน ทม่ี โี คนกลบี เป็ นก้านเรยี ว ผวิ กลบี เป็ นคลนื่ เลก็ น้อย เมอ่ื บานเต็มทจี่ ะมรี ศั มกี ว้างถงึ 5 ซ.ม. เกสรผู้มขี นาดเดยี วยาว ไลเ่ รย่ี กนั รงั ไขก่ ลม เกลยี้ ง
ผ้จู ดั ทา IG: erwin_rudolf_josef_alexander Line: bas7879 FB: นนทพทั ธ์ ตยุ้ พมิ พ์ เบอรโ์ ทร: 0947309014 Gmail: [email protected]
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: