Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 8การนำเสนอ และการเผยแพร่ผลงาน

8การนำเสนอ และการเผยแพร่ผลงาน

Published by nithiwan, 2018-06-06 00:44:43

Description: 8การนำเสนอ และการเผยแพร่ผลงาน

Search

Read the Text Version

บทท่ี 8 การนาเสนอ และการเผยแพรผ่ ลงาน8.1 การนาเสนอโครงงาน การแสดงผลงานจัดได้วา่ เปน็ ขน้ั ตอนสาคัญอีกประการหน่งึ ของการทาโครงงานเรียกไดว้ า่ เป็นงานข้นั ตอนสุดท้ายของการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปน็ การแสดงผลิตผลของความคดิ และการปฏิบัตกิ ารทั้งหมดทีผ่ ู้ทาโครงงานไดท้ มุ่ เวลาไป และเปน็ วธิ ีการทจี่ ะทาใหผ้ อู้ ่นื รับรู้และเขา้ ใจถงึ ผลงานนน้ั ๆ มีผู้กล่าวกันว่าการวางแผนออกแบบ เพ่ือจัดแสดงผลงานนน้ั มคี วามสาคัญเทา่ ๆ กบั การทาโครงงานนนั้ เอง ผลงานทีท่ าจะดียอดเย่ยี มเพียงใด แต่ถา้ การจดั แสดงผลงานทาได้ไม่ดกี เ็ ทา่ กับไมไ่ ด้แสดงถงึ ความยอดเยี่ยมของผลงานนน้ั เลย 1. การจดั แสดงและการนาเสนอผลงาน การเสนอผลงานอาจทาไดใ้ นหลายรปู แบบต่างๆ กัน เชน่ การแสดงผลงานโดยไมม่ กี ารอธิบายประกอบ การรายงานด้วยคาพดู ในท่ปี ระชุม การจัดนทิ รรศการโดยโปสเตอร์และอธบิ ายด้วยคาพูด โดยผลงานท่ีนามาเสนอหรอื จดั แสดงควรประกอบดว้ ยสิง่ ต่อไปนี้ 1. ชือ่ โครงงาน 2. ชอื่ ผ้จู ัดทาโครงงาน 3. ชอื่ อาจารยท์ ี่ปรึกษา

85 4. คาอธิบายถงึ ทีม่ าและความสาคัญของโครงงาน 5. วิธกี ารดาเนินการท่สี าคญั 6. การสาธิตผลงาน 7. ผลการสงั เกตและข้อสรุปสาคญั ที่ได้จากการทาโครงงาน ถา้ เปน็ การรายงานด้วยคาพดู ตอ่ ทป่ี ระชมุ ควรมีการเตรยี มการในประเด็นตอ่ ไปนี้ 1. จัดลาดบั ความคดิ ในการนาเสนออย่างเป็นระบบและนาเสนออยา่ งตรงไปตรงมาด้วยภาษาท่ีชัดเจนและเข้าใจงา่ ย 2. ทาความเข้าใจกับเร่อื งท่ีจะอธิบายใหด้ ี รวมถึงเตรยี มขอ้ มูลท่อี าจต้องใชใ้ นการตอบคาถาม 3. หลีกเล่ยี งการนาเสนอด้วยวธิ ีอ่านรายงาน 4. ควรมองไปยังผู้ฟังขณะรายงาน 5. ตอบคาถามอย่างตรงไปตรงมา 6. รายงานใหเ้ สรจ็ ภายในระยะเวลาท่ีกาหนด 7. ควรใช้โปรแกรมนาเสนอประกอบการรายงาน 8. ความเหมาะสมของเนื้อหาตอ่ ผู้ฟัง 9. ถา้ เป็นโครงงานพัฒนาผลงาน ผลงานนั้นควรจะอยใู่ นสภาพทที่ างานไดเ้ ป็นอย่างดี 2. การจดั นิทรรศการโครงงานควรคานงึ ถึงสิ่งตา่ งๆ ต่อไปนี้ 1. ความปลอดภยั ของการจดั แสดง 2. ความเหมาะสมกบั เนือ้ ท่ีจดั แสดง 3. คาอธิบายทเ่ี ขยี นแสดงควรเนน้ ประเดน็ สาคญั และส่ิงทีน่ า่ สนใจเทา่ นนั้ โดยใช้ขอ้ ความกะทัดรัด ชดั เจน และเขา้ ใจง่าย 4. ดึงดูดความสนใจผู้เข้าชม โดยใช้รปู แบบการแสดงที่น่าสนใจ ใชส้ ีทสี่ ดใส เนน้ จดุ ที่สาคัญหรือใช้วสั ดตุ ่างประเภทในการจดั แสดง 5. ใช้ตาราง และรูปภาพประกอบ โดยจัดวางอยา่ งเหมาะสม 6. สิ่งทีแ่ สดงทุกอย่างต้องถกู ตอ้ ง ไมม่ กี ารสะกดผิดหรืออธบิ ายหลกั การท่ีผิด 7. ในกรณีทเ่ี ปน็ ส่ิงประดิษฐ์ ส่ิงน้ันควรอยใู่ นสภาพที่ทางานได้อยา่ งสมบรู ณ์ 3. การแสดงผลงานโครงงานด้วยโปสเตอร์ โปสเตอร์โครงงานทดี่ คี วรมลี กั ษณะ ดงั นี้ 1. มขี ้อมลู ทกี่ ระชบั และชัดเจน 2 .มหี ลกั การทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ส่ี าคัญ

86 3. แสดงใหเ้ หน็ สิง่ ท่คี น้ พบหรอื ส่ิงทพ่ี ัฒนา 4. แสดงกระบวนการ / วิธกี าร ทพ่ี ฒั นา 5. ใชภ้ าษาเขา้ ใจง่าย 6. เรียงเรื่องใหอ้ ่านตามไดเ้ ข้าใจ 7. ตวั หนังสอื อ่านได้ชดั เจน 8. ทางานประณตี เรียบรอ้ ย ไม่มคี าผิดเลย 9. จัดสว่ นประกอบตา่ ง ๆ ไดเ้ หมาะสม ไมแ่ น่นเกนิ ไป 10. นาเสนอได้น่าสนใจ 11. มีภาพและงานกราฟกิ ประกอบ ทาใหข้ อ้ มูลชดั เจนขนึ้ 12. ใช้สสี นั ท่ีสมดลุ 13. มหี ลกั ฐานอา้ งองิ 4. การพูดตอ่ หนา้ กล่มุ คน แมน้ วา่ สิ่งทจ่ี ะพดู เปน็ ส่งิ ท่ผี ทู้ าโครงงานรแู้ ลว้ เปน็ อยา่ งดกี ็ตาม แต่ในการพดู ให้ผู้อนื่ ฟังผทู้ าโครงงานต้องศึกษาวิเคราะห์ขอ้ มูล เพ่อื เตรียมสาระทพ่ี ูดให้เหมาะสมกบั ผ้ฟู งั มีเป้าหมายในการพดู และพูดในสิ่งท่ีผฟู้ งั สนใจอยากฟงั การพดู ที่ดตี ้องมกี ารเตรยี มตัว ดงั นี้ 1. ศกึ ษาวิเคราะห์ข้อมูลที่จะพดู 2. วางแผนส่ิงทีจ่ ะพูด 3. เตรียมสื่อท่ีใชป้ ระกอบการพดู 4. เขียนโน้ตชว่ ยจา 5. ฝกึ พูดหลายๆ ครงั้ 6. เลือกประเดน็ สาคัญเพียง 4 - 5 อย่างเทา่ น้นั เพราะคนเราจาอะไรไม่ได้มากนักจากการฟังคนอืน่ พูด 7. เตรียมประเด็นข้อมลู ทีจ่ ะพูดให้ตรงกบั ผู้ฟัง เชน่ ผฟู้ ังอาจเป็นกรรมการตัดสนิ โครงงานครูอาจารยโ์ รงเรียนอื่นๆ เพ่ือนผ้เู รยี น หรือบุคคลทวั่ ไป เปน็ ต้น 5. การวางแผนส่ิงทจ่ี ะพดู ผทู้ าโครงงานตอ้ งวางแผนการพดู โดยวางโครงร่างของสิง่ ท่จี ะพูด เพอื่ ให้รลู้ ่วงหนา้ ถึงลาดับของสงิ่ ที่จะพดู โดยแบง่ สว่ นท่จี ะพูดออกเป็น 3 ส่วน สว่ นเรมิ่ ตน้ - บอกวา่ เป็นใคร...ชอ่ื อะไร - บอกช่อื โครงงานท่ีทา

87 - กลา่ วนาสั้น ๆ ถงึ สง่ิ ทจี่ ะพูด ดว้ ยวิธกี ารทดี่ งึ ดดู ความสนใจของผฟู้ งั - โชว์ภาพ ตงั้ คาถามผฟู้ ัง - แสดงส่วนท่ีนา่ สนใจของโปรแกรมท่พี ัฒนา สว่ นสาระสาคญั - แบง่ สาระสาคญั ทจ่ี ะพูดเป็นประเดน็ ๆ - เรียงลาดบั ประเด็นไว้ - แต่ละประเด็นพูดนาด้วยประโยค 1 ประโยค - พยายามเช่ือมโยงสง่ิ ที่พูดในแตล่ ะประเด็นใหใ้ กล้ตวั ผู้ฟงั ส่วนสรปุ - บอกประโยชน์ของสิ่งทค่ี ้นพบ / โปรแกรมที่พฒั นา - เสนอแนวคดิ ในการพฒั นาหรอื ต่อยอดโครงงาน - จบลงดว้ ยสิง่ สรปุ ที่สรา้ งความประทบั ใจผู้ฟงั และทาใหผ้ ู้ฟงั จดจาไว้ได้ 6. การฝกึ พูด - ฝึกพดู กอ่ นวนั พูดจรงิ - จาประเด็นสาคัญทจี่ ะพูด - ฝกึ พดู ให้เป็นธรรมชาติ - ฝกึ พดู ใหช้ ัดเจน - รู้จงั หวะเน้น - ไมพ่ ูดเรว็ 7. การเตรียมสอื่ ประกอบ ในการนาเสนอด้วยการพดู ผู้ทาโครงงานต้องเตรียมสอื่ ที่จะชว่ ยใหผ้ ู้ฟังสนใจฟงั และเขา้ ใจในสงิ่ ท่ีพดู ไดโ้ ดยง่าย แต่ส่อื ท่ใี ช้ไม่ควรสลับซบั ซ้อน ควรเป็นสือ่ งา่ ยๆ ใช้ภาพนง่ิ หรอืภาพเคลอ่ื นไหวสั้นๆ แสดงกราฟ โมเดล หรอื สาธิตประกอบได้ ถ้าโครงงานจาเปน็ ตอ้ งทาเช่นนั้น ท้งั น้ีต้องคานึงถงึ สถานทท่ี ่จี ะนาเสนอด้วย เช่น อปุ กรณท์ ม่ี ีให้ แสงในห้อง ขนาดห้อง ฯลฯ 8. ส่อื นาเสนอทด่ี ี -มีตัวหนังสือน้อย -มเี ฉพาะประเด็นสาคญั -ตวั หนังสือมีขนาดโตพอทผี่ ู้ชมอา่ นได้ -ใช้ตัวอกั ษรสีเขม้ เช่น สดี า สีนา้ เงินเข้ม

88 -ออกแบบการนาเสนอให้เรียบง่าย -ไมพ่ ูดโดยการอา่ นจากส่ิงทีเ่ ขียน การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ นอกจากจะเป็นกิจกรรมทสี่ ่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รียนไดน้ าความรูท้ างคอมพวิ เตอร์มาใช้แก้ปัญหา พัฒนาคดิ ค้นผลิตภัณฑ์ต่างๆ แลว้ ยังเปน็ กิจกรรมทสี่ ง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนมีความสนใจทจี่ ะทางานวิจัยและประกอบอาชพี ทางคอมพิวเตอร์มากยิง่ ขึน้ ดว้ ย ซ่ึงในปจั จบุ นั น้หี ลายประเทศทวั่ โลกขาดแคลนบคุ ลากรทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศเปน็ อยา่ งมาก ดังนนั้ จงึ นา่ ท่จี ะจัดให้การทาโครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกจิ กรรมในทกุ ระดับช้ัน เพอื่ นาไปสกู่ ารพฒั นาประเทศต่อไปในอนาคต8.2 การประเมนิ ผลโครงงานคอมพิวเตอร์ เกณฑ์ในการให้คะแนนกแ็ ล้วแต่อาจารยผ์ ูส้ อนจะเห็นสมควร แต่ควรให้ความสาคญั กับการจดั ทาเค้าโครงงาน ผลงาน และรายงานในอตั ราสว่ นท่ีใกลเ้ คยี งกัน เพราะทกุ สว่ นล้วนมีความสาคญั ตอ่ การพฒั นาโครงงานท่ดี แี ละมีคุณภาพ ตวั อยา่ งการพิจารณาแบ่งคะแนนจากคะแนนเตม็ 100 % ไดแ้ ก่ การประเมินโครงงานควรเปน็ การประเมนิ ตามสภาพจรงิ เพือ่ คน้ หาความสามารถและความกา้ วหน้าในการเรยี นรู้ท่แี ท้จรงิ ของผ้เู รยี น ซงึ่ กรอบแนวทางการประเมนิ ไดแ้ ก่ 1. ประเมินอะไร 1.1 ผลผลิต / ผลงาน / ชิ้นงาน 1.2 กระบวนการเรยี นรู้ 1.3 กระบวนการทางาน 1.4 การแสดงออกถึงความรู้ ความคิด ความสามารถ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม 2. ประเมนิ เม่ือใด 2.1 การคดั เลือกหัวขอ้ จนถึงการนาเสนอผลงาน 2.2 ตามสภาพจรงิ 3. ประเมนิ จากอะไร 3.1 ผลงาน 3.2 การทดสอบ 3.3 บันทกึ ต่างๆ

89 3.4 แฟ้มสะสมผลงาน 3.5 การตรงต่อเวลาของการสง่ งาน 3.6 หลกั ฐานหรอื ร่องรอยอ่นื 4. ประเมินโดยใคร 4.1 ผู้สอน 4.2 ผู้เรยี น 4.3 เพอื่ นรว่ มช้นั เรียน 4.4 ผปู้ กครอง 4.5 ผ้เู กยี่ วข้องอ่นื ๆ 5. ประเมินโดยวธิ ีใด 5.1 ตรวจผลงาน 5.2 ตรวจรายงาน 5.3 ทดสอบ 5.4 นาเสนอผลงาน 5.5 นิทรรศการ 5.6 สังเกต 5.7 สัมภาษณ์ การปฏบิ ตั ิงานเป็นกระบวนการเรียนรทู้ ใี่ ห้ผ้เู รียนไดล้ งมือปฏิบตั ิจรงิ ซึง่ ต้องจัดให้มีการประเมนิ การปฏบิ ัตงิ านของผู้เรยี นตลอดเวลา ขณะท่ปี ฏิบตั ิกิจกรรมตามข้นั ตอนต่างๆ และนาผลเหลา่ นัน้ มาพัฒนา ปรับปรงุ การปฏบิ ตั งิ านให้ดีขึน้ เรอ่ื ยๆ โดยควรให้ผู้เรียนได้มีทาการจดบันทึกตลอดจนใช้แฟ้มสะสมผลงานตลอดเวลาดว้ ย สิง่ ท่ีควรพิจารณาในการประเมินโครงงานคอมพิวเตอร์ ได้แก่ 1. บรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ พจิ ารณาวา่ ผลงานทไ่ี ดส้ อดคล้องกบั รายละเอยี ดทรี่ ะบุไว้ในวัตถปุ ระสงคห์ รอื ไม่ มากนอ้ ยอยา่ งไร 2. คมู่ อื การติดตั้ง และค่มู อื การใช้งาน พจิ ารณาความครบถ้วน ถูกต้องและการใชง้ านที่ง่าย 3. ความสมบรู ณ์ของผลงาน หมายถงึ การทางานทถ่ี ูกต้อง ความสวยงามและความเรยี บร้อย 4. การนาไปใชป้ ระโยชน์ ผลงานนั้นสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในลักษณะใดได้บา้ ง มีผลกระทบต่อใคร และอย่างไร 5. เทคนคิ ที่ใชใ้ นการแก้ปัญหา มีความยากงา่ ยระดับใด มีการนามาประยกุ ตใ์ ช้ไดถ้ กู ต้อง

90และเหมาะสมหรอื ไม่ อย่างไร 6. ความคิดสร้างสรรค์/ความแปลกใหม่ อาจพิจารณาเป็นคะแนนพเิ ศษ เพราะโครงงานบางชิ้นไมไ่ ด้เปน็ งานใหม่ แต่เปน็ การปรบั ปรงุ ประสิทธภิ าพเท่าน้ัน ซึ่งสามารถพฒั นาเป็นโครงงานได้เชน่ กนั เพือ่ การติดตามและประเมนิ ผลงานของผู้ เรยี นได้อยา่ งใกล้ชิด ผูส้ อนอาจแนะนาใหผ้ ู้เรียนจัดทาตารางเพ่อื ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานของผเู้ รียนเองดว้ ย ทงั้ นีเ้ พ่อื ใหผ้ ้เู รียนทราบผลการปฏิบัตงิ านว่าสอดคล้องกบั แผนการปฏบิ ัติงานทีต่ ้งั ไวใ้ นเค้าโครงร่างหรือไม่ และควรจะปรับปรงุ ตนเองอยา่ งไรเพ่อื ให้ได้ผลงานตรงตามวตั ถปุ ระสงคท์ รี่ ะบุไวใ้ นระยะเวลาท่ีกาหนดไว้ได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook