3204-8501 โครงการหน่วยท่ี 1 ความรู้เบอื้ งต้นเก่ียวกับโครงการ
1 โครงการเปน็ งานทเ่ี รยี บเรยี งขึน้ อยา่ งรอบคอบ เปน็ ขั้นตอน พรอ้ มกบั มีแนวปฏิบัติเพ่ือให้บรรลุวัตถปุ ระสงคต์ ามเปา้ หมายของแผนงานทีไ่ ด้กาหนดไว้ โครงการตามความหมายของสานักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวชิ าชีพ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา หมายถงึ การประดิษฐ์คิดค้นการสร้างผลงาน การจัดการหรือการบริการทางวิชาชีพ ซง่ึ ผู้เรียนเปน็ ผตู้ ัดสินใจในส่ิงที่จะทา โดยนาเทคโนโลยีความรู้และประสบการณ์มาบูรณาการในการปฏบิ ตั ิงานด้วยตนเองหรือหมู่คณะ โดยมีกระบวนการที่เป็นระบบชดั เจนและสามารถนาไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตจริง อกี นยั หน่งึ กล่าวไดว้ า่ โครงการ เป็นแผนงานที่จัดทาขึ้นอยา่ งมีระบบ เป็นกิจกรรมหรือกลมุ่ กจิ กรรมท่ีรวมกันอยู่ ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรในการดาเนินงานและคาดหวงั จะไดผ้ ลตอบแทนอย่างคุ้มค่าโดยมจี ุดเร่มิ ต้น และจดุ สน้ิ สุด ในการดาเนนิ งานจะต้องมีจุดประสงค์อยา่ งชัดเจน มพี ้ืนฐานในการดาเนินงานเพื่อใหบ้ รกิ าร มบี ุคคลหรอื หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ
21.1 ความหมายของโครงการ โครงการ (Project) เป็นกจิ กรรมเพ่ือประโยชนท์ างวชิ าการประเภทหนึ่ง เพราะมีส่วนช่วย ใหเ้ กิดการศกึ ษา การวางแผนการทางาน การริเร่ิมปฏิบัติงานใหม่ๆ ดังนั้นโครงการจึงมีบทบาท สาคัญตอ่ การปฏบิ ัติงาน โครงการจึงมีความจาเป็นทนี่ ักศกึ ษาจะต้องศึกษาเพื่อประโยชน์ในอนาคต ตอ่ ไป1.2 ความสาคัญของโครงการ โครงการเปน็ การดาเนินงานที่เรียบเรียงข้ึนเป็นขั้นตอนและมีแผนปฏิบัติ เพ่ือบรรลุวัตถุประสงค์ ดังน้ันโครงการจงึ เป็นส่วนประกอบท่ีสาคัญของแผนการดาเนนิ งานของหน่วยงานทุกแหง่ การวางแผนโครงการมกี ระบวนการและขัน้ ตอนประกอบด้วย การกาหนดวัตถุประสงค์การรวบรวมและการวเิ คราะหข์ ้อมูล การพิจารณาถงึ อุปสรรค ปญั หา ค้นหาโอกาส เลือกแนวทางการปฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นไปไดห้ รอื วิถีทางทด่ี ีท่สี ดุ และกระบวนการสุดท้าย คือ การตรวจสอบ ทบทวนและการประเมินผลโครงการ ดังนนั้ โครงการจงึ มคี วามสาคญั ดังนี้ 1. ศกึ ษารบั รู้ ภมู หิ ลงั และทม่ี าปัญหาของการทางาน 2. มกี ารปฏบิ ตั งิ านตามแผนเป็นไปอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 3. เกดิ ความชดั เจนในการปฏบิ ตั งิ านตามแผนมีความเข้าใจและรับรู้ถึงปญั หาร่วมกัน 4. มีการจดั สรรทรัพยากรใช้เพยี งพอเหมาะสมกับสภาพปฏบิ ัตจิ รงิ 5. มผี ู้รับผิดชอบ และมคี วามเขา้ ใจในการดาเนนิ งาน 6. สรา้ งทัศคติท่ีดี เปน็ การเสรมิ สรา้ งสามัคคีและความรับผิดชอบร่วมกัน ตามความรู้ความสามารถ และศักยภาพของแต่ละบุคคลอย่างเต็มท่ี 7. สามารถควบคมุ การทางานไดส้ ะดวก ไม่ซ้าซ้อน
3 ลกั ษณะสาคญั ของโครงการ ควรมีลักษณะดงั นี้ 1. ตอ้ งมรี ะบบ โครงการต้องประกอบด้วยส่วนต่างๆ ท่ีมีความสัมพันธ์ เก่ียวข้องเป็นกระบวนการ ถา้ ส่วนใดเปลยี่ นแปลงไปเกิดการเปล่ยี นแปลงในสว่ นอนื่ ๆ ตามไปด้วย 2. ตอ้ งมีวตั ถุประสงค์ชัดเจน โครงการต้องกาหนดวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมายในการดาเนินงานให้ชัดเจน วตั ถปุ ระสงคต์ ้องมีความเป็นไปไดแ้ ละสอดคล้องกับความเปน็ มาของโครงการ 3. ต้องเป็นการดาเนินงานในอนาคต เนือ่ งจากการปฏบิ ัติงานท่ีผ่านมามีข้อบกพร่อง จึงต้องแกไ้ ขและปรบั ปรุง โครงการจงึ เปน็ การดาเนนิ งานเพื่ออนาคต 4. เปน็ การทางานชั่วคราว โครงการเป็นการทางานเฉพาะกจิ เป็นคราวๆ เพอ่ื แก้ไขปรับปรุงพฒั นา ไม่ใชก่ ารทางานท่เี ปน็ การทางานประจา หรืองานปกติ 5. มีกาหนดระย ะเวลาที่แน่นอน โครงการ ต้องกาหนดระยะเวลาที่แน่น อน โดยกาหนดเวลาเร่ิมตน้ และเวลาที่ส้นิ สุดใหช้ ัดเจน ถา้ ไม่กาหนดเวลา หรอื ปลอ่ ยใหโ้ ครงการ ดาเนินไปเรื่อยๆ ย่อมไม่สามารถประเมนิ ผลสาเร็จได้ 6. มลี ักษณะเปน็ งานเรง่ ด่วน โครงการตอ้ งเปน็ กิจกรรมท่ีจัดข้นึ เพื่อสนองนโยบายเร่งส่วนที่ตอ้ งการจะพัฒนางานให้กา้ วหนา้ อย่างรวดเร็วทันตอ่ เหตกุ ารณ์ 7. ต้องมีต้นทุนการผลิตต่า การดาเนินงานโครงการจะประสิทธิภาพต่อเมื่อมีการใช้ทรพั ยากรหรอื งบประมาณที่ลงทุนนอ้ ยและใหผ้ ลประโยชน์สงู สุด 8. เปน็ การริเรม่ิ หรอื พัฒนางาน โครงการตอ้ งเป็นความคดิ ริเรมิ่ ที่แปลกใหม่ เพอื่ แก้ปัญหาและอุปสรรค และพฒั นางานใหเ้ จรญิ ก้าวหนา้
4 สว่ นลกั ษณะของโครงการทดี่ ีต้องเปน็ โครงการทมี่ ีกิจกรรมจัดทาข้ึน เพื่อการปฏิบัติภารกิจให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ มผี ลตอบแทนอย่างคมุ้ คา่ ลกั ษณะของโครงการทด่ี ี มีดังน้ี 1. สามารถแกป้ ญั หาได้ 2. มปี ระสิทธภิ าพ และก่อให้เกดิ ผลตอบแทนคุ้มคา่ 3. รายละเอยี ดของโครงการต้องสอดคลอ้ งและสมั พนั ธ์กัน 4. วัตถุประสงค์และเป้าหมายต้องชัดเจน มีความเป็นไปไดส้ งู 5. สามารถตอบสนองความต้องการในการแก้ปญั หาได้เปน็ อย่างดี 6. สามารถนาไปปฏบิ ัตไิ ด้ 7. กาหนดจากพ้ืนฐานข้อมูลที่เป็นจรงิ และไดร้ ับการวิเคราะหอ์ ยา่ งรอบคอบ 8. ต้องได้รบั การสนบั สนุนดา้ นทรัพยากรอย่างเหมาะสม 9. ต้องมีระยะเวลาการดาเนินโครงการชัดเจน1.3 ประเภทของโครงการ 1.3.1 โครงการส่งิ ประดษิ ฐ/์ นวตั กรรม 1) โครงการต้องเกิดจากความถนดั และความสนใจของแต่ละบุคคลหรือกลุ่ม โดยผา่ นกระบวนการตัดสนิ ใจและเหน็ ชอบของครผู ู้สอน 2) ลักษณะของโครงการจะต้องเป็นการทาส่ิงประดิษฐ์/นวัตกรรมที่เกิดจากการบูรณาการความรู้ประสบการณ์และทกั ษะทีเ่ กิดจากการปฏบิ ัติงานในสาขางาน/สาขาวชิ า 3) ลักษณะของผลงานจะตอ้ งเกิดจากการออกแบบข้ึนมาใหม่ โดยคานึงถึงรูปแบบความเหมาะสม ความสวยงาม และประโยชน์ในการใชง้ านได้จริง 4) ลกั ษณะของโครงการจะต้องเป็นงานทสี่ ร้างสรรค์และพัฒนาความรู้ให้เกิดประโยชน์ การนาไปประกอบอาชีพในสาขางาน / สาขาวิชา 5) โครงการสามารถทาเป็นกลุ่มๆ ละ 2-3 คน (ปวช. 3 คน / ปวส. 2 คน) 6) โครงการต้องผ่านความเห็นชอบของครูผู้สอน
5 1.3.2 โครงการวจิ ัยทดลองและวจิ ยั พัฒนา 1) โครงการจะตอ้ งเกิดความถนัดและความสนใจของแต่ละบุคคลหรือกลุ่มโดยผา่ นกระบวนการตัดสนิ ใจและเห็นชอบของครูผูส้ อน 2) ลักษณะของโครงการจะต้องเกิดจากสมมุติฐานและการคาดหมายผลที่จะเกิดข้นึ ตามหลักวชิ า ทักษะ และประสบการณ์ในสาขางานทนี่ ่าเปน็ ไปได้ 3) โครงการจะตอ้ งเป็นงานท่สี ร้างสรรค์และพัฒนาความรู้ให้เกิดประโยชน์ในการนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั หรอื การประกอบอาชพี 4) โครงการสามารถทาเป็นกลุม่ ๆ ละ 2-3 คน (ปวช. 3คน / ปวส. 2 คน) 5) โครงการตอ้ งผ่านความคดิ เห็นชอบของครูผสู้ อน 1.3.3 โครงการวจิ ยั โครงการ 1) โครงการตอ้ งเกิดจากความถนัดและความสนใจของแต่ละบุคคลหรือกลุ่มโดยผ่านกระบวนการตดั สินใจและเหน็ ชอบของครผู สู้ อน 2) ลักษณะโครงการเกดิ จากการดาเนินงานร่วมกันในกลุ่มและร่วมกับชุมชนโดยการใชค้ วามรปู้ ระสบการณ์วิชาชพี ท่ีเรียนและฝึกปฏบิ ตั ิ 3) วิธีการดาเนินงานโครงการระบรุ ายละเอียดกิจกรรมและวิธีดาเนินงานในกิจกรรม 4) การดาเนินโครงการเป็นการฝกึ ฝนให้นักเรียน นักศึกษามีความคิดริเร่ิมและรจู้ ักวธิ ีแก้ปัญหาในระหว่างการดาเนินโครงการ ท้งั รู้จกั กล้าแสดงออก เป็นการเรียนรู้การทางานเป็นทีมหรือทางานร่วมกบั ชุมชน 5) การวิจัยแสดงรายงานผลการดาเนินโครงการ และนาเสนอผลการดาเนินโครงการ 6) การดาเนินโครงการเกดิ ผลดีตอ่ บุคคล กลมุ่ และชมุ ชน 7) โครงการสามารถทาเป็นกลมุ่ ๆ ละ 2-3 คน (ปวช. 3 คน / ปวส. 2 คน) 8) โครงการตอ้ งผ่านความเห็นชอบของครผู ู้สอน
61.4 ประโยชน์ของการจดั ทาโครงการ โครงการถือเป็นกิจกรรมทางวิชาการที่มีส่วนช่วยให้เกิดการศึกษา การวางแผนการทางาน การริเริ่มปฏิบตั งิ านใหม่ ๆ โครงการจึงมีบทบาทสาคัญและความจาเปน็ ต่อการปฏบิ ัติงาน การจัดทาโครงการจึงกอ่ เกิดประโยชน์ ท่ีพอสรุปเป็นประเด็นต่างๆ ได้ดังนี้ 1. สง่ เสรมิ และพัฒนาการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ใหน้ าความรู้ ทักษะชานาญไปบรู ณาการ สร้างและปฏบิ ัตงิ านได้จรงิ 2. เช่ือมโยงองค์ความรู้กับชีวิตจริง โดยนาความรู้ท่ีได้จากการเรียนไปประยกุ ตใ์ ช้ปฏิบตั ิ 3. วางแผนการทางานเป็นทมี และร่วมกนั ทางานเป็นกลุ่ม อยา่ งเปน็ ระบบ 4. ส่งเสริมการคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์ 5. พัฒนาความคดิ ในการปอ้ งกนั และปัญหาท่ีอาจเกดิ ขน้ึ จากการทางาน 6. พัฒนาความรับผิดชอบโดยมีเสรีภาพในการคิดและกาหนดภาระการดาเนนิ งานด้วยตนเอง
71.5 การสอนผเู้ รยี นทาโครงการ เปน็ กจิ กรรมอีกรูปแบบหนง่ึ ทผี่ เู้ รียนมสี ว่ นรว่ มในการเรียนรู้ เร่ิมตง้ั แตป่ ัญหาท่ีสนใจและอยากรู้คาตอบจึงไดท้ าการศึกษา ค้นควา้ ข้อมูล รวบรวมขอ้ มลู ต่างๆ ที่เกยี่ วข้องโดยอาศัยความรู้ความเข้าใจจากเรื่องต่างๆ ที่ได้เรยี นมา ใชก้ ระบวนการและทกั ษะต่างๆ ท่ีเปน็ พ้นื ฐานภายใต้การดูแลของครู ขอ้ แนะนาการจดั การเรยี นการสอนเก่ียวกับโครงการ ดว้ ยกระบวนการวจิ ัยดงั นี้ 1. การเรยี นรู้โครงการ สอดแทรกกระบวนการวิจยั ควรเกริ่นเปน็ เป้าหมายให้ผู้เรียนอาชีวศึกษาทราบตงั้ แตว่ นั ปฐมนเิ ทศวา่ กอ่ นจบผเู้ รียนอาชีวศึกษาทกุ คนต้องทาโครงการ ซง่ึ เปน็ การบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาชีพของตนเอง 1 เรือ่ ง ซง่ึ จะเปน็ การดี ทาใหผ้ ู้เรียนได้ทราบเป้าหมายของตนตัง้ แต่ปีแรกแล ะจะยิ่งดีขึ้นถ้าในรายวิชาพื้นฐานวชิ าชีพที่เกยี่ วข้องในปตี ้นๆ เปน็ พ้ืนฐานการนาไปบูรณาการในงานปีสดุ ทา้ ยได้ 2. เรม่ิ แรกของการสอน ควรใหผ้ ้เู รยี นคิดอย่างมอี ิสระปล่อยผเู้ รียนตงั้ ข้อสงสยั กาหนดคาถามหรือปัญหาหาแนวทางการแก้ไขปัญหา รวบรวมขอ้ มลู ดาเนนิ การแกป้ ญั หา ทดสอบแนวคดิ หาขอ้ สรุป และเผยแพรข่ ้อค้นพบดว้ ยตวั เอง 3. การประเมินผล ควรมที ้งั ประเมนิ เป็นกล่มุ เป็นรายบุคคล การเรียนรู้ การทางานเปน็ กลุ่มเป็นทักษะที่สาคัญอยา่ งหนงึ่ นกั เรียนจะไดเ้ รียนรูจ้ ากกนั และกนั มากกว่าเรียนรู้จากครู เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งในการแก้ปัญหา การประเมินเปน็ กลมุ่ ควรเปน็ โครงการทีไ่ ดร้ ่วมวางแผนงานกนั ต้ังแต่ต้นโครงการ 4. การนาเสนอผลงานอาจเป็นรายงาน การนาเสนอผลงาน หรอื จัดนทิ รรศการ
81.6 บทบาทของครผู สู้ อนวชิ าโครงการ อลั ลิงเจอร์และคณะ (Allinger and other, 1998 : 8 อ้างในโสภิดา ลิ้มวัฒนาพันธ์ (2538) แนะนาบทบาทสาหรับครู ดังน้ี สง่ิ ท่ีสาคญั ทสี่ ดุ ของหน้าที่ครกู ็คอื 1. การกระตนุ้ ส่งเสรมิ ใหผ้ ้เู รียนมีความกระตอื รือร้นอยากทาโครงการ 2. ใหแ้ นวคิดกวา้ งๆ และให้คาแนะนาทเ่ี หมาะสมสาหรบั ทาโครงการ 3. ขอความขว่ นเหลือจากบรรณารักษ์ จากครูวิชาชีพทเ่ี กี่ยวขอ้ ง เพ่ือให้ผู้เรียนได้ค้นคว้าแหล่งเรียนรู้ตา่ งๆ จากหนังสือหรือทางอนิ เทอร์เน็ต 4. ครูอาจแนะนาแหล่งอ่นื ๆ เชน่ หนังสอื วารสาร จลุ สาร 5. อาจชว่ ยผู้เรยี น เลอื กหัวเรือ่ ง และทบทวนเกณฑต์ ่างๆ ก่อนท่ีจะเร่ิมทาโครงการซ่ึงควรเป็นเร่ืองที่ผ้เู รียนสนใจจริงๆ และอยใู่ นกรอบความสามารถตามสาขาวชิ าชพี ของผู้เรียน 6. ไม่จาเปน็ ตอ้ งเปน็ ผู้เชีย่ วชาญในเร่อื งที่ผู้เรียนเลือกทา ครูเป็นเพียงผู้แนะแนวช่วยเหลือในทุกด้านเชน่ การให้กาลังใจ การดูแลจัดทารายงานใหส้ มบูรณ์ และถูกต้อง การเตรียมการจดั และแสดงผลงาน โบลท์ และ ฮอนลไ์ ด้เสนอบทบาทของครดู งั น้ี 1. สนับสนนุ ให้ผเู้ รียนทาสง่ิ ทส่ี นใจดว้ ยตนเอง ใหก้ าลงั ใจและขอ้ เสนอแนะ ครูอย่าคาดหวงั มากเกินไป 2. ให้อสิ ระในการคิด ในการอภปิ ราย ครเู ปน็ ผูซ้ กั ถามเหมือนบคุ คลภายนอกแนะนาหรอื เลอื กจดั หาโครงการ ตามสมรรถภาพของผู้เรียน คนทม่ี คี วามสามารถสงู ควรใหท้ าโครงการท่ตี ้องใช้1ว.เิ คราะห์ หรอื ซับซอ้ นมาก
1.7 บทบาทผู้เรยี นวชิ าโครงการ 9 ผูเ้ รียนวชิ าโครงการควรดาเนินการดงั นี้ 1. เลือกหัวเรอื่ งที่ตนมีความสนใจสูง 2. คน้ คว้าขอ้ มลู ขา่ วสารเกยี่ วกบั เรื่องที่ทาให้มากท่ีสุดที่เป็นไปได้อาจตรวจสอบจาก เวบ็ ไซต์หนังสือหรอื วารสาร 3. เตรียมและจดั ระบบ จดั เครื่องมือ เตรียมรายงานใหน้ ่าสนใจ 4. จัดแสดงผลงาน รายงาน ตามเกณฑข์ องการประเมนิ โดยคานงึ ถึงความคิดสร้างสรรค์ ความคดิ ทางหลกั วิชาการ ความเชยี่ วชาญ ทักษะ และความชัดเจน การจัดแสดงผลงานมีความ สนใจเข้าใจง่าย สรปุ ย่อถึงความเปน็ มา การวางแผนและผลสรปุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: