Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 3

หน่วยที่ 3

Published by นายบุญนำ โตสูง, 2022-08-30 05:46:13

Description: หน่วยที่ 3

Search

Read the Text Version

3.1 ความหมายของแรงจงู ใจ 3.2 ความสาคัญของการจงู ใจในการทางาน 3.3 ประเภทของการจงู ใจ 3.4 องค์ประกอบการจงู ใจ 3.5 กระบวนการจงู ใจ

3.6 หลกั การจงู ใจ 3.7 เป้ าหมายของการจงู ใจ 3.8 แรงจงู ใจสู่แนวทางพัฒนาสงั คม 3.9 แรงจงู ใจใฝ่ สมั ฤทธ์ิในการพฒั นาชุมชนโดยใช้หลกั ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง

แรงจูงใจ คือ พลังผลกั ดันให้คนมีพฤติกรรม และยงั กําหนดทิศทางและเป้ าหมายของ พฤติกรรมนนั้ ด้วยผ้ทู ่มี แี รงจงู ใจสงู จะใช้ความพยายามในการกระทําไปสเู่ ป้ าหมายโดยไมล่ ดละ แตผ่ ้ทู ี่ มแี รงจงู ใจตํา่ จะไมแ่ สดงพฤตกิ รรมหรือล้มเลกิ การกระทาํ ก่อนบรรลเุ ป้ าหมาย แรงจูงใจ มีความสําคญั ต่อการบริหารงานมาก เพราะผ้บู ริหารจะต้องทํางานให้ประสบ ความสําเร็จ ได้โดยอาศยั บคุ คลอ่ืน มนษุ ย์เป็ นทรัพยากรที่มีชีวิตจิตใจ แรงจงู ใจจึงเป็ นเรื่องเก่ียวข้อง กบั อารมณ์ ความรู้สึกในการปฏิบัติงาน ซงึ่ จะส่งผลต่อการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ จึงถือได้ว่า แรงจงู ใจ มีความสําคญั ตอ่ ผ้บู ริหารเสมอ

การจงู ใจมีอิทธิผลต่อผลผลิต ผลิตผลของงานจะมีคุณภาพดี มีปริมาณมากน้อยเพียงใด ข้ึนอยู่กับการจูงใจในการทํางาน การจูงใจพนักงานจึงมีความสําคัญ สามารถสรุปความสําคัญ ของการจงู ใจในการทาํ งานได้ดังนี้ 3.2.1 พลัง พลงั (Energy) เป็ นแรงขบั เคลื่อนที่สําคญั ตอ่ การกระทําหรือพฤติกรรมของมนษุ ย์ในการทํางาน ใดๆ ถ้าบคุ คลมแี รงจงู ใจในการทาํ งานสงู ยอ่ มทาํ ให้ขยนั ขนั แข็ง กระตอื รือร้น กระทําให้สาํ เร็จ 3.2.2 ความพยายาม ความพยายาม (Persistence) ทําให้บคุ คลมีความมานะ อดทน บากบน่ั คิดหาวิธีการนําความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของตนมาใช้ให้เป็ นประโยชน์ต่องานให้มากที่สุด ไม่ท้อถอยหรือ ละ ความพยายามงา่ ย ๆ แม้งานจะมีอปุ สรรคขดั ขวาง

3.2.3 การเปล่ยี นแปลง การเปล่ียนแปลง (Variability) รูปแบบการทํางานหรือวิธีทํางานในบางครัง้ ก่อให้เกิดการค้นพบ ช่องทางดําเนินงานท่ีดีกว่าหรือประสบผลสําเร็จมากกว่า การเปลี่ยนแปลงเป็ นเครื่องหมายของความ เจริญก้ าวหน้าของบุคคล แสดงให้เห็นว่าบุคคลกําลังแสวงหาการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ให้ชี วิต การ เปลยี่ นแปลงการทาํ งานจนในท่สี ดุ ทาํ ให้ค้นพบแนวทางทีเ่ หมาะสมซงึ่ อาจจะตา่ งไปจากแนวเดิม 3.2.4 จรรยาบรรณในการทางาน จรรยาบรรณในการทํางาน (Work Ethic) บุคคลที่มีแรงจูงใจในการทํางานจะเป็ นบุคคลมี จรรยาบรรณในการทํางาน ผู้มีจรรยาบรรณในการทํางานจะเป็ นบุคคลท่ีมีความรับผิดชอบ ม่ันคงใน หน้าที่ มีวินยั ในการทํางาน ซ่งึ ลกั ษณะดงั กล่าวแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ ผ้มู ีลกั ษณะดงั กลา่ วนี ้มกั ไมม่ ีเวลาเหลอื พอท่จี ะคดิ และทาํ ในสิ่งท่ไี มด่ ี

3.3.1 การจงู ใจภายใน การจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) หมายถึง สภาวะของบคุ คลทีม่ ีความตอ้ งการในการทา การเรียนรู้ หรือแสวงหาบางอย่างดว้ ยตนเอง โดยมิตอ้ งใหม้ ีบคุ คลอืน่ มาเกีย่ วขอ้ ง ไม่ใช่เพราะการบงั คบั หรือมีส่ิงล่อใจใด ๆ ไดแ้ ก่ 1. ความต้องการ (Needs) เนื่องจากทกุ คนมีความต้องการท่ีอยภู่ ายใน อนั จะทําให้เกิดแรงก่อ ให้เกิดพฤติกรรมตา่ ง ๆ ขนึ ้ เพื่อให้บรรลเุ ป้ าหมายและความพอใจ 2. เจตคติ (Attitude) หมายถึง ความรู้สกึ นึกคิดที่ดีท่ีบุคคลมีต่อส่ิงหนึ่งส่ิงใด ซ่งึ จะช่วยเป็ นตวั กระต้นุ ให้บคุ คลทําในพฤตกิ รรมท่เี หมาะสม 3. ความสนใจพิเศษ (Special Interest) การมีความสนใจในเรื่องใดเป็ นพิเศษ จัดว่าเป็ น แรงจงู ใจให้เกิดความเอาใจใสใ่ นสงิ่ นนั้ ๆ มากกว่าปกติ

3.3.2 การจงู ใจภายนอก การจูงใจภายนอก (Extrinsic Motivation) หมายถึง สภาวะของบุคคลที่ได้รับแรงกระต้นุ มาจาก ภายนอกใหม้ องเห็นจุดหมายปลายทาง และนาไปส่กู ารแสดงพฤติกรรมเพือ่ ใหบ้ รรลเุ ป้ าหมายนน้ั 1. เป้ าหมายหรือความคาดหวังของบุคคล ผ้ทู ี่มีเป้ าหมายในการกระทําใด ๆ ย่อมกระต้นุ ให้ เกิดแรงจงู ใจให้มีพฤตกิ รรมท่ดี ีและเหมาะสม 2. ความรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้า ผ้ทู ี่มีโอกาสทราบว่าตนจะได้รับความก้าวหน้าอย่างไรจาก การกระทาํ นนั้ ยอ่ มเป็ นแรงจงู ใจให้ตงั้ ใจและเกิดพฤติกรรมขนึ ้ ได้ 3. บคุ ลกิ ภาพ ความประทบั ใจอนั เกิดจากบคุ ลิกภาพจะก่อให้เกิดแรงจูงใจให้เกิดพฤติกรรมขนึ ้ ได้ เชน่ ครู อาจารย์ ก็ต้องมีบคุ ลิกภาพทางวิชาการทีน่ า่ เช่ือถือ 4. เครื่องล่อใจอ่ืน ๆ มสี ่งิ ลอ่ ใจหลายอยา่ งทกี่ ่อให้เกิดแรงกระต้นุ ให้พฤติกรรมเกิดขนึ ้ เช่น การ ให้รางวลั (Reward) อนั เป็ นเครื่องกระต้นุ ให้อยากกระทํา หรือการลงโทษ (Punishment) ซ่งึ จะกระต้นุ มิให้ กระทาํ ในสิง่ ท่ไี มถ่ กู ต้อง

การจงู ใจจะเกิดขนึ้ ได้ต้องมีองค์ประกอบทสี่ าํ คัญในการจงู ใจ 3 ประการ คือ 3.4.1 ผู้รับการจงู ใจ ผ้รู ับการจงู ใจ คือ บุคคลหรือกลมุ่ ชนเป้ าหมายท่ีผ้จู งู ใจใช้กระบวนการจงู ใจ ทําให้บุคคลนนั้ มี พฤติกรรมหรือปฏิบตั ิในสงิ่ ทีผ่ ้จู งู ใจต้องการด้วยความพอใจหรือสมคั รใจ 3.4.2 วิธีการจงู ใจ วิธีการจูงใจมีหลายวิธี มีลักษณะเป็ นทัง้ ศาสตร์และศิลป์ ที่จะทําให้ผู้ถูกจูงใจเกิดความรู้ ความเข้าใจ แล้วตดั สินใจเห็นคล้อยตามและปฏิบตั จิ นบรรลเุ ป้ าหมายของการจงู ใจ 3.4.3 เป้ าหมายของการจงู ใจ เป้ าหมายของการจูงใจ คือ พฤติกรรมท่ีผู้จูงใจหวังจะให้เกิดขึน้ กับผู้ถูกจูงใจในขนั้ สุดท้าย ภายหลงั ใช้วิธีการจงู ใจแล้ว

❖ การจงู ใจจะได้ผลมาก น้อยแค่ไหน ส่ิงสาคัญท่ีต้องคานึงถึง คือ ธรรมชาติของแต่ละบุคคล ดังนี ้ 1. ตนเองสําคัญทส่ี ุดและต้องการดีเด่นกว่าคนอ่ืน 2. สนใจตนเองก่อนและมากกว่าผู้อืน่ 3. ใฝ่ หาความเจริญก้าวหน้าตลอดเวลา 4. ไม่ชอบเปลีย่ นแปลงสิ่งใดไปจากเดิม 5. อยากรู้อยากเหน็ โดยเฉพาะเรื่องทเ่ี ป็ นความลับหรือความเสยี หาย 6. ชอบพดู มากกว่าฟังคนอ่ืน 7. ไม่ชอบการควบคุมมากเกนิ ไป 8. ต้องการให้ผู้อนื่ ยอมรับเป็ นพวกเดยี วกัน ให้เกยี รติ เคารพ นับถอื 9. เม่ือมีปัญหาต่าง ๆ เกดิ ข้ึนต้องการจดั การปัญหาน้ันในทนั ทที ันใด 10. อยากเป็ นผู้ให้คําแนะนําปรึกษามากกว่าจะฟังคําแนะนําของผู้อืน่

3.5.1 ความต้องการ ความต้องการ (Need) คือ ภาวการณ์ขาดบางสิ่งบางอย่างของอินทรีย์ อาจจะเป็ นการขาด ทางดา้ นร่างกายหรือการขาดทางดา้ นจิตใจก็ได้ 3.5.2 แรงขบั แรงขับ (Drive) เมื่อมนษุ ย์มีความขาดบางส่ิงบางอย่างตามข้อ 3.5.1 ที่กล่าวมาแล้วจะเกิด ภาวะตึงเครียดข้ึนภายในร่างกาย ภาวะตึงเครียดนี้จะกลายเป็ นแรงขับหรือตัวกาหนดทิศทาง (Action Oriented) เพือ่ ไปส่เู ป้ าหมายอนั จะเป็นการลดภาวะความตึงเครียดนน้ั

3.5.3 ส่งิ ล่อใจหรือเป้ าหมาย สิ่งล่อใจ (Incentive) หรือเป้ าหมาย (Goal) จะเป็ นตัวกระตุ้นหรือเป็ นตัวล่อให้มนุษย์แสดง พฤตกิ รรมตามท่คี าดหวงั หรือที่ต้องการ กระบวนการจงู ใจ

1. หลกั การสมั พนั ธ์ทางครอบครัว เช่น ญาติพีน่ อ้ ง เพือ่ น เกี่ยวพนั กบั ญาติ เป็นตน้ 2. หลกั ความกตญั ญูรู้คณุ เพือ่ สร้างความรู้สึกทีด่ ี นา่ เลื่อมใสศรัทธา 3. หลกั เกี่ยวกบั การยกย่องหรือเรื่องทีจ่ ะไดร้ บั ความมนั่ คง ปลอดภยั เชื่อถือ 4. หลกั เกี่ยวกบั การยกย่องและสรรเสริญเยินยอ ชื่นชม ชมเชย 5. หลกั เกี่ยวกบั เรื่องที่ผู้ถูกจูงใจไม่ชอบ โกรธ และเข้าข้างด้วย เห็นด้วยกบั ความคิดหรือไม่ แสดง การโตแ้ ยง้ 6. หลกั ของความโลภสู่การใหค้ วามหวงั (Hope) คือ ใช้ของรางวลั กล่าวล่อไวต้ ลอดเวลาใน เรื่องความหวงั ของแจก ของฟรี ของแถม 7. หลกั ความเชื่อทางไสยศาสตร์ ศาสนา ชกั จูงในการสนทนาในเรื่องที่ผู้ถูกจูงใจเลื่อมใส เชื่อถือ ไม่โตแ้ ยง้ หรือแสดงอาการว่าเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ

การจงู ใจในการทาํ งานน้ัน เพอ่ื ให้ได้พฤตกิ รรมตามเป้ าหมาย สิง่ สาํ คัญทจ่ี ะต้องมีการจดั ให้ มีในองค์การ คอื เครื่องล่อใจ อาทิ 1. เงนิ แท้จริงแล้วเงนิ ไม่ใช่เพยี งปัจจัยเดียวทสี่ ร้างความพอใจให้แก่คนงานยังมีสิ่งอนื่ ๆ อีก 2. การได้รับความเคารพนับถือตามสถานภาพ 3. ความมั่นคงในงาน 4. การได้ทาํ งานตรงกับความรู้ความสามารถ 5. การมีเพื่อนร่วมงานทด่ี ี 6. การมีผู้บังคับบัญชาทด่ี ี 7. การมีโอกาสได้แสดงความคิดเหน็ 8. การมีโอกาสได้ศึกษาเรียนรู้หรือได้รับการฝึ กอบรม 9. การมีช่ัวโมงการทาํ งานทเี่ หมาะสม 10. การมีงานทที่ าํ ง่าย

3.8.1 ภาวะวกิ ฤตขิ องสงั คมไทย ปัจจบุ นั สงั คมไทยเป็ นสงั คมทีเ่ ปลี่ยนจากสงั คมเกษตรกรรมเป็ นสงั คมอตุ สาหกรรม และได้ก้าวเข้า สสู่ งั คมสารสนเทศหรือสงั คมของข้อมลู ขา่ วสาร และมีผลก่ให้เกิดแนวโน้มทน่ี า่ หว่ งใยอย่างย่ิง ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีประชากรหนาแน่น 2. ผู้สงู อายุจะมีมากข้ึน 3. ครอบครัวจะเป็ นครอบครัวเด่ยี วมากขนึ้ 4. การหย่าร้างจะเพิม่ ขึ้น 5. ครอบครัวจะมีความเครียดอันเกิดจากสภาพการแข่งขันด้านเศรษฐกจิ

6. เกดิ การลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างชาติมากข้นึ 7. อัตราการตายจากอุบัติเหตุจะสูงทส่ี ุด 8. การตายด้วยโรคเอดส์เพมิ่ ขน้ึ 9. ผู้ป่ วยโรคจติ มากข้ึน 10. สังคมไทยจะเป็ นสังคมบริโภคนิยมมากข้ึนโดยส่อื มวลชนเป็ นตัวกระตุ้น 11. ความเช่ือทางศาสนาจะเปล่ียนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็ นแบบ ทางการมากข้ึน 12. เกดิ วกิ ฤตการณ์เกย่ี วกับทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม 13. ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติดจะรุนแรง มากขึน้

14. เด็กและเยาวชนจะทาํ ผิดกฎหมายมากขนึ้ 15. เกดิ ชุมชนชานเมืองมากข้นึ และก่อปัญหาตามมา คอื การจราจร การสาธารณูปโภค มลพษิ ขยะ ควันพษิ อาชญากรรม 16. เศรษฐกิจในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลกจะขยายตัวต่อเน่ือง 17. รายได้เฉล่ยี ต่อคนของคนไทยจะเพม่ิ ข้นึ แต่ยังคงมีความแตกต่างระหว่างรายได้ 18. โครงสร้างการผลติ จะเปลี่ยนจากเกษตรกรรมเป็ นอุตสาหกรรมและบริการ 19. ปัญหาทด่ี ินทาํ กนิ และการขาดแคลนนํ้าจะมีมากข้ึน 20. พืชเกษตรหลักจะลดลง ในขณะเดียวกันการแข่งขันพืชเกษตรหลักกับประเทศ เพื่อนบ้าน 21. ความได้เปรียบในการผลติ สินค้าเกษตรจะลดลงเนื่องจากทรัพยากรลดลง

3.8.2 ทางออกของวกิ ฤตสังคมไทย 1. การแก้ไขเฉพาะหน้าหรือระยะสนั้ สิ่งแรกท่ีสําคญั คือครองสติเอาไว้ให้ได้ หากตื่นกลวั มกั จะหาทางออกอยา่ งรี บร้อน จนทําให้ เกิดความรุนแรงในการจัดการกับปัญหา ซ่ึงไม่ใช่ส่ิงท่ีถูกต้อง ดงั นนั้ ต้องพยายามใช้ สติพิจารณาให้ รอบคอบและตงั้ มนั่ อยู่ ในความสขุ มุ รอบคอบ สงบ 2. การแก้ไขในระยะยาว (1) รัฐต้องปรับเปลยี่ นนโยบายใหม่ โดยต้องวางแผนระยะยาวเพื่อรองรับสถานการณ์ ใน อนาคตอยา่ งน้อย 20 ปี ขึน้ ไป ไม่ใช่วางแผนระยะสนั้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเพียงอย่างเดียว และต้องเปล่ียนนโยบายจากการรวมอํานาจเป็ นการกระจายอํานาจ ทงั้ อํานาจรัฐ อํานาจทางการเมือง อํานาจทางการเงินและการคลงั มายงั สว่ นท้องถิ่น ต้องกระจายเงินทนุ กระจายรายได้ไปสชู่ นบท รวมทงั้ ต้องสร้างวฒั นธรรมชมุ ชนให้เข้มแขง็

(2) ปฏิรูประบบการศึกษา ปัจจุบนั ควรมีการเปล่ียนแปลงกระบวนการเรียนรู้ใหม่ โดยให้ ความสาํ คญั กบั การศกึ ษาแบบผสมผสาน ดงั รายละเอยี ดคือ (ก) การศึกษาจากการสัมผัสความจริง คือ ความรู้ที่ได้จากการลงมือปฏิบตั ิจริง หรือ สมั ผสั ความจริงต่าง ๆ เช่น ศึกษาจากธรรมชาติจริง ๆ สงั คมและวฒั นธรรม (ข) การศึกษาจากการคดิ โดยการฝึกใหเ้ กิดความคิดจากการสงั เกต การฟัง การตง้ั สมมตุ ิฐานและตงั้ คาถาม การบนั ทึก ข้อมูล (ค) การศึกษาด้วยการพัฒนาจติ ใจ การพฒั นาดา้ นจิตใจช่วยให้การสมั ผสั ความ จริง และการคิดมีความเทีย่ งตรงและคมชดั มากข้ึน ทาใหจ้ ิตใจสงบ สขุ มุ รอบคอบ

(3) ส่งเสริมสถาบนั ครอบครัว ในการส่งเสริมสนบั สนนุ ครอบครัวต้องคํานงึ ถึงปั จจยั สําคญั 3 ด้าน ดงั นี ้ (ก) ด้านเศรษฐกิจ ทกุ ครอบครัวต้องมีเศรษฐกิจที่เพียงพอแก่การสร้างความเป็ น ปึกแผ่น เนน้ อาชีพทีส่ ่งเสริมใหส้ มาชิกของครอบครัวไดอ้ ยู่ดว้ ยกนั หรือใกล้ชิดกนั มากทีส่ ดุ (ข) ด้านสงิ่ แวดล้อม หมายถึง ทกุ ครอบครัวจะตอ้ งมีที่อยู่อาศยั สมศกั ดิ์ศรีแห่งความ เป็นมนษุ ย์ ใหเ้ กิดคณุ ภาพชีวิตทีด่ ี มีพืน้ ทีส่ าหรับนนั ทนาการหรือพกั ผ่อนหย่อนใจร่วมกนั ในแต่ละชมุ ชน (ค) ด้านการศึกษา ทกุ ครอบครัวจะตอ้ งได้รับการศึกษาอย่างทว่ั ถึง เพื่อให้มีความรู้ และทกั ษะของการอยู่ร่วมกนั มีความเฉลียวฉลาด เป็นคนดีและมีความสขุ เพราะครอบครัวเป็ นฐานของ ความสขุ และฐานพลงั อนาคตของชาติ

(4) ส่งเสริมพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ชมุ ชนเป็ นหนว่ ยของสงั คมท่มี ีความสาํ คญั เป็ นการรวมตวั ของกลมุ่ คนที่มีวตั ถปุ ระสงค์ร่วมกนั สมาชิกมีการติดต่อส่ือสารกนั เอือ้ อาทรต่อกัน มีกิจกรรมร่วมกนั ทงั้ ยงั มีการควบคุมดแู ลกนั เอง เพื่อให้ สมาชิกของชุมชน ประพฤติตนอยู่ในกฎระเบียบท่ีร่วมกันวางไว้ ถ้าชุมชนมีความเข้มแข็งจะสามารถ บูรณาการแก้ปัญหา และพัฒนาทุกอย่างพร้อมกนั ได้ เช่น ปัญหาความยากจน ปัญหาสิ่งแวดล้อมและ ทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหาสงั คม ทงั้ ยงั สามารถสง่ เสริมการอนรุ ักษ์พฒั นาวฒั นธรรมด้านต่าง ๆ ส่งเสริมสนับสนุนให้มีองค์กรชุมชนหรือองค์กรของชาวบ้าน ให้ชุมชนมีการจัดการ เรื่องของตนเองให้มากท่ีสุด รวมท้ังในเร่ืองส่ิงแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและปัญหาต่าง ๆ ของชุมชน มีการเช่ือมโยงกันเป็ นเครือข่ายเพ่อื ช่วยเหลอื ซงึ่ กัน

ใน พ.ศ. 2547 โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme : UNDP) ได้จดั ทํารายงานการพฒั นาคน ฉบบั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ เพ่ือเสนอแนว ทางการพัฒนาประเทศและพัฒนาคนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั รัชกาลท่ี 9 โดยมีข้อเสนอแนว ทางการขบั เคล่ือนการพฒั นาตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 6 ประการ ดงั นี ้ 1. เศรษฐกิจพอเพียงเป็ นปรัชญาท่ีมีความสําคัญอย่างย่ิงสําหรับการขจัดความยากจนและ การลดความเสยี่ งทางเศรษฐกจิ ของคนจน 2. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็ นพื้นฐานของการสร้างพลังอํานาจของชุมชน และการ พัฒนาศักยภาพชุมชนให้เข้มแขง็ เพอ่ื เป็ นฐานรากของการพัฒนาประเทศ

3. เศรษฐกิจพอเพียงช่วยยกระดับความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ด้วยการสร้ าง แนวปฏบิ ตั ใิ นการทาํ ธุรกิจทเ่ี น้นผลกาํ ไรระยะยาวในบริบททม่ี ีการแข่งขัน 4. หลักเศรษฐกิจพอเพียงมีความสําคัญยิ่งต่ อการปรั บปรุ งมาตรฐานของ ธรรมาภบิ าลในการบริหารงานภาครัฐ 5. ใช้เป็ นแนวทางในการกาํ หนดนโยบายของชาติ เพ่อื สร้างภมู ิคุ้มกันต่อสถานการณ์ท่ี เข้ามากระทบโดยกะทันหัน เพ่ือปรับปรุงนโยบายต่าง ๆ ให้เหมาะสมย่ิงข้ึน และเพ่ือวางแผน ยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมการเติบโตทเี่ สมอภาคและย่ังยืน 6. ในการปลูกฝังจติ สํานึกพอเพียงจําเป็ นต้องมีการปรับเปลี่ยนค่านิยมและความคิด ของคนเพ่อื ให้เอ้ือต่อการพัฒนาคน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook