บทที่1 วิชาการโฆษณาและการส่งเสริมการขาย

วิชาการโฆษณาและสง เสริมการขาย รหัส 20202-2006 บทท่ี 1 หลักการโฆษณา อ.นัฎฐภัทร์ ศรทั ธาเจนสขุ

จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บอกความหมายและความสาํ คญั ของการ โฆษณาได้ 2.แจกแจงวตั ถุประสงคข์ องการโฆษณาได้ 3.อธิบายประวัตแิ ละววิ ฒั นาการของการ โฆษณาได้ 4.บอกข้อดแี ละข้อเสียของการโฆษณาได้ 5.วางแผนโฆษณาได้

ช่องทาง การเรียนการสอนในชัน้ เรียน อนุญาตใหใ้ ช้โทรศัพทม์ อื ถอื เป็ นแหล่งเรียนรู้ได้ Google Sites 3

คะแนน เตม็ 100 คะแนน จติ พสิ ัย 20 คะแนน แบบฝึ กหดั /ชิน้ งาน 20 คะแนน ทดสอบยอ่ ย 40 คะแนน สอบปลายภาค 20 คะแนน

10 ครั้ง (ครั้งละ 5 คะแนน) 10 คะแนน 8 ครั้ง (ครั้งละ 5 คะแนน) 40 ชิ้นงาน 10 10 10 ครั้ง 10 คะแนน เช็คช่ือเข้าเรียนทุกคร้ัง 10 คะแนน

สาระการเรยี นรใู นบทท่ี 1 1. ความหมายและความสาํ คญั ของการโฆษณาสาระการเรยี นรู 2. วตั ถปุ ระสงคข องการโฆษณา 3. ประวตั ิและวิวฒั นาการของการโฆษณา 4. ความสาํ คัญของการโฆษณา 5. องคป ระกอบของการโฆษณา 6. วัตถปุ ระสงคข องการสง เสรมิ การขาย 7. การวางแผนการโฆษณา

https://classpoint.app ใส่ Code ใส่ ชอื่ / นามสกุล

ขอ 3 คํา สาํ หรบั การเจอกนั ครัง้ แ รก

AB CD

�ç��ĕď�đ 1 ęđ�� ē��ĕðċff�ć ęďč �ģ

มารจู้ กั กนั หน่อย

1. ความหมายและความสําคญั ของการโฆษณา ความหมายของการโฆษณาและความสําคัญของการโฆษณาแยกพิจารณาได ดังนี้ 1.1 ความหมายของการโฆษณา (Advertising) การโฆษณา หมายถึง การสอื่ สารขอ ความหรือขอ มลู เปน การจูงใจเกี่ยวกบั ผลติ ภัณฑหรอื ความคิดใหประชาชนทวั่ ไปไดรับรูโดยอาศัย ส่ือมวลชนในรูปแบบตา งๆ ที่มีการจายคาใชจ า ยจากผูอ ปุ ถมั ภร ายการ

1. ความหมายและความสําคัญของการโฆษณา 1.2 หรอื ความหมายของการโฆษณา (Advertising) การโฆษณา หมายถึง การนําเสนอขอมูลของผลิตภัณฑ ซึ่งเปนการชักจูงใจหรือกระตุนให ผูบริโภคเกิดความตองการผลิตภัณฑนั้น เปนการนําเสนอผานส่ือมวลชนตางๆ โดยเสียคาใชจ ายใหแ กเ จาของสือ่ โฆษณานั้นดว ย

1.2 ความสาํ คัญของการโฆษณา ความสาํ คญั ของการโฆษณามดี งั นี้ 1.2.1 เพ่ือกระตุนใหเกิดการรับรู การโฆษณาทําใหลูกคาเปาหมายรับรูวา ขณะนี้สินคามีวางจาํ หนายแลวในตลาด 1.2.2 เพื่อสรางสรรคภาพลักษณท่ีดี สินคาในตลาดมีมากมายหลายตรา สินคา ผูโฆษณาจึงพยายามที่จะสรางสรรคงานโฆษณาใหมีความแปลกใหมมากกวาตรา สินคาอ่ืนๆ ในสินคาประเภทเดียวกันเพื่อใหสินคามีภาพลักษณท่ีดีและลูกคาที่เปน กลมุ เปา หมายเกดิ ความพงึ พอใจในคุณสมบัติของสนิ คา 1.2.3 เพ่ือชักจูงกลุมเปาหมาย หนาท่ีของโฆษณาจะตองหาจุดเดนหรือจุดขาย ของสินคา และพยายามทําาใหลูกคาเปาหมายยอมรับวาจุดดีหรือจุดเดนน้ันเปนส่ิงสําคัญ และจาํ เปน ตอ การบริโภค

1.2.4 เพ่ือกระตุนแหลงที่จะนําสินคาไปจําหนาย รานคาขายปลีกและรานคาสงเปน หนวยงานยอยท่ีจะทําใหสินคาไปถึงมือผูบริโภคอยางรวดเร็ว หากแหลงขายปฏิเสธการรับสินคาไป จําหนา ยกเ็ ทากับเปนการปด ตลาดสําหรับสนิ คา นนั้ ๆ 1.2.5 เพ่ือเปนการเพ่ิมคุณคาใหกับสินคา สินคาท่ีทําการโฆษณาดีจะทําใหเกิดภาพลักษณท่ี ดีแกสินคาดวยทําใหลกู คา เปา หมายเขา ใจในคุณภาพและตัดสนิ ใจซอื้ ดวยความภูมใิ จในตราสินคา 1.2.6 เพื่อสรางภาพลักษณท่ีดีใหแกบริษัทผูผลิต การโฆษณาน้ันสามารถทําไดทั้งโฆษณา สนิ คา และโฆษณาเพื่อสังคม ซ่ึงเปนการโฆษณาเพื่อสรางภาพลักษณท่ีดีใหแกบริษัท โดยการโฆษณาจะ แสดงความรูสึกรับผิดชอบตอสังคม ความหวงใยเอื้ออาทรท่ีบริษัทมีตอประเทศชาติและประชาชน เชน การอนุรกั ษส ่ิงแวดลอม การชว ยกันรกั ษากฎจราจร

2. วตั ถปุ ระสงคของการโฆษณา การโฆษณามวี ัตถุประสงคด งั ตอไปนี้ 2.1 เพื่อแจงใหขอ มูลขา วสารเกีย่ วกบั สนิ คา 2.2 เพอื่ บอกความแตกตางในตวั สนิ คา ทีเ่ สนอขายจากคู 2.3 เพอ่ื กระตนุ ใหเกิดการซ้อื และใชสนิ คา 2.4 เพ่อื สรางภาพลกั ษณท่ีดีใหกับตราสินคา 2.5 เพอ่ื ชวยเพ่มิ ชองทางการจดั จาํ หนา ยใหส ูงขึน้ 2.6 เพอื่ สรางความภักดีในตราสนิ คา 2.7 เพ่ือชวยลดตนทุนดานการขายใหต า่ํ ลงเมื่อเทียบกับจาํ นวนกลมุ ลูกคา เปาหมาย 2.8 เพ่ือชวยสรา งคณุ คาตราสินคาใหเ ปนที่ยอมรับแกผูบ ริโภค 2.9 เพือ่ สรางขวญั และกาํ ลงั ใจแกพ นกั งานในองคกร 2.10เพอ่ื ชวยสนับสนนุ กจิ กรรมสงเสริมการขาย

3.ลกั ษณะของการโฆษณา 1.เป็ นการตดิ ต่อส่ือสาร 2.เป็ นการนําเสนอทไี่ ม่ใช่ตวั บุคคล 3.เป็ นการนําเสนอผลติ ภณั ฑ์ในรูปแบบต่างๆ 4.มวี ตั ถุประสงค์ทแี่ น่นอน 5.สามารถระบุผู้อปุ ถมั ภ์ได้ 6.สามารถควบคุมได้

4. ประวตั แิ ละววิ ัฒนาการของการโฆษณา ประวตั แิ ละววิ ฒั นาการของการโฆษณาแบงออกไดเปน 2 หัวขอ ดังน้ี 4.1 ประวัตแิ ละววิ ัฒนาการของการโฆษณาในตางประเทศ การโฆษณามมี าต้งั แตสมยั มนุษยเร่ิมรูจักการแลกเปลี่ยนส่ิงของในลักษณะของการติดตอบอก กลาวระหวางกันถึงชนิดและปริมาณของส่ิงของที่ตองการแลกเปลี่ยน และเริ่มมีรูปแบบที่ชัดเจนมากข้ึน เม่ือมนุษยเริ่มรูจักการคาขาย ในระยะแรกเริ่มจากการเดินเรขายสินคาหรือตะโกนปาวประกาศหนา รานเพ่ือขายสินคาใหแกผูท่ีเดินผานไปมา รวมทั้งมีการขีดเขียนเครื่องหมาย สัญลักษณ หรือรูปภาพ เพ่ือส่ือความหมายไวหนาราน กําแพง หรือผนังตึก เนื่องจากมีคนท่ีไมรูหนังสือเปนจํานวนมาก เรียกวา เปนการโฆษณานอกสถานที่ ตอมาเม่ือการศึกษาแพรหลายข้ึน การโฆษณากลางแจงท่ีเคยใช รูป สัญลักษณเพียงอยางเดียวก็พัฒนาเปนการเขียนภาพและขอความโฆษณาติดตามกําแพงและฝา ผนังอาคารในยา นชุมชนมากข้ึน

วิวัฒนาการของการโฆษณาเรียงตามลําดบั ปครสิ ตศ กั ราชไดด ังน้ี  ป ค.ศ. 1307 การพิมพเปนสื่อสําคัญที่ทําใหการโฆษณาและการประชาสัมพันธ แพรหลายไปอยางมีประสิทธิภาพ ซึ่งแรกเริ่มเกิดข้ึนในแถบยุโรป โดยใชวิธีแกะแมพิมพเปน หนาๆ (วิธีน้ีชาวจีนคิดคนไดกอนชาวตะวันตกถึง 1,500 ป) จากน้ันชาวตะวันตกไดมีการ พัฒนาอยางตอเน่ือง ซ่ึงตอมาชาวฮอลันดา ช่ือวา คอสเต ไดปรับปรุงวิธีการพิมพโดยทํา แมพิมพแยกเปน ตวั ๆ เพ่อื ใหเ รยี งพมิ พไ ด  ป ค.ศ. 1440 การพิมพไดกาวไปสูยุคสําคัญอีกขั้นหน่ึง เม่ือโยฮันเนิส กูเตนเบิรก (Johannes Gutenberg) ชาวเยอรมัน ไดประดิษฐเคร่ืองพิมพขึ้นเปนคนแรก เพื่อพิมพ คัมภรี ไ บเบลิ ทําใหการพมิ พแพรหลายโดยทั่วไป

วิวฒั นาการของการโฆษณาเรยี งตามลําดบั ปครสิ ตศ ักราชไดดงั นี้  ป ค.ศ. 1622 มกี ารออกหนงั สอื พมิ พข ้นึ เปนคร้งั แรก ณ ประเทศอังกฤษ ชื่อวา Weekly New of London โดย วิลเลียม แคกซต ัน (William Caxton) และไดล งพมิ พโฆษณาคร้ังแรกในป ค.ศ. 1625  ป ค.ศ. 1741 เบนจามิน แฟรงคลิน (Benjamin Franklin) ไดออกนิตยสารและเขียนขอความโฆษณาเอง ลงในหนงั สอื Pennsylvania Gazette ซ่งึ นบั วาเปน จดุ เร่มิ ตน ของการโฆษณาในนิตยสาร  ป ค.ศ. 1869 มีบริษัทตัวแทนโฆษณาแหงแรก คือบริษัท N.W. Ayer & Son INC. แหงเมืองฟลาเดลเฟย ไดมีการจางฝายสรางสรรค ฝายศิลป และนักเขียนบทโฆษณาไวในบริษัท สําหรับบริการลูกคาท่ีมาวาจาง ทําโฆษณา ทําใหเกิดธุรกิจตัวแทนโฆษณาสมัยใหมข้ึน (Modern Advertising Agency) อันเปนตนกําเนิด ของบริษัทตัวแทนโฆษณา (Advertising Agency) เชนในปจจุบัน และทําใหเกิดระบบ Commission System คอื ระบบท่บี ริษทั ตัวแทนโฆษณาคิดคา ธรรมเนียมหรอื คาบริการจากลกู คาในการโฆษณา

ววิ ฒั นาการของการโฆษณาเรยี งตามลาํ ดับปค ริสตศ ักราชไดดงั นี้  ป ค.ศ. 1910 มีการรวมกลุมเปนสมาคมโฆษณาท่ีชื่อวา American Association of Advertising Agencies ซึ่งมีสมาชิกเปนผูประกอบวิชาชีพดานการโฆษณาทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีหนาท่ีหลัก ในการใหความรูใหมๆ แกส มาชกิ และใหก ารอบรม ตลอดจนเผยแพรวชิ าการดานโฆษณา  ป ค.ศ. 1911 เปนปแรกที่ไดเร่ิมวางระเบียบแบบแผน เพ่ือสรางเสริมความจริงในการโฆษณา เพื่อ ขจัดการโฆษณาที่ไมจริงออกไป โดยออกกฎและจรรยาบรรณในการโฆษณาเพ่ือยกระดับจริยธรรม และ ศีลธรรมของการโฆษณาใหเ ปนท่ียอมรบั ในสังคมจนถงึ ปจ จบุ ัน

4.2 ประวตั แิ ละววิ ฒั นาการของการโฆษณาในประเทศไทย การโฆษณาในประเทศไทยเร่ิมมีวิวัฒนาการและเจริญเติบโตข้ึนในระยะที่ได มีการนําส่ือมวลชนเขามาใชเปนเคร่ืองมือในการโฆษณา เชน หนังสือพิมพ นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน ฯลฯ โดยโฆษณาช้ินแรกเปนของอูรับซอมเรือบางกอกดอก (Bangkok Dock) ซึง่ ลงในหนงั สือพมิ พภ าษาไทยรายปกษชื่อ “หนังสือจดหมายเหตุ” หรือ “The Bangkok Recorder” ของหมอบรัดเลย (Dr.Dan Beach Bradley) ซึ่งเปนหนังสือพิมพฉบับแรก ของประเทศไทย ออกเม่ือป พ.ศ. 2408 ในสมัยรัชกาลท่ี 3 และไดมีการลงโฆษณาสินคา ในหนังสือพิมพและนิตยสารตางๆ เกิดข้ึนตามมา จนกระทั่งถึงสมัยรัชกาลท่ี 6 ซึ่งการ โฆษณาในประเทศไทย มวี ิวัฒนาการดังน้ี

ป พ.ศ. 2471 เคร่ืองมือสื่อสารที่สําคัญซึ่งไดสรางความต่ืนเตนใหกับคนไทย เปนอยางมากคือวิทยุกระจายเสียง โดยพระเจาบรมวงศเธอ กรมพระ กาํ แพงเพชรอคั รโยธนิ ไดส ั่งเครอ่ื งสง เสียงวิทยุขนาดเล็กมาจากตางประเทศ เพ่ือ สงกระจายเสียงจากกรมไปรษณียโทรเลขที่วัดเลียบ และเจาหนาท่ี ไดประกอบ เคร่ืองสง ท่มี กี ําาลงั สง 1 กโิ ลวัตต จากสถานวี ิทยศุ าลาแดงเพ่มิ ข้นึ อีก 1 เครื่อง ทรงแตงตั้งบริษัทตัวแทนโฆษณาขึ้นเปนคร้ังแรก ชื่อวา “บริษัทสยามแอดเวอรไท ซง่ิ ” โดยมีลกู คารายแรกคือ หา งนายเลิศ

ป พ.ศ. 2472 พระเจาบรมวงศเธอ กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน ไดส่ังเคร่ืองสง 2 กิโลวัตต จากบริษัทฟลลิปส ประเทศฮอลันดา มาต้ังที่สถานีตําบลพญาไท โดยสงกระจายเสียง คร้ังแรกเม่ือวันท่ี 25 กุมภาพันธ พ.ศ. 2473 ซ่ึงตรงกับวันพระราชพิธีฉัตรมงคล และไดเปด สถานีโดยอัญเชิญกระแส พระราชดํารัสของรัชกาลที่ 7 ถายทอดจากพระที่นั่งพุดตานกาญจน สิงหาสนไปตามสายเขาเคร่ืองสงที่พญาไท นับเปนจุดกําเนิดของ “สถานีวิทยุกระจายเสียงแหง ประเทศไทย” ตอมารัฐบาลไดโอนกิจการวิทยุกระจายเสียงจากกรมไปรษณียไปอยูกับสํา นักงานโฆษณาการ (ปจจุบันคือกรมประชาสัมพันธ) ตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบันประเทศไทยมี สถานีวิทยุกระจายเสียงในระบบ AM และ FM ทั่วประเทศไมนอยกวา 494 สถานี นับเปน ประเทศหนงึ่ ทีม่ สี ถานีวทิ ยุมากทีส่ ุดของโลก

ป พ.ศ. 2495 นายเจฟฟ โกรก ไดกอตั้งบริษัทโฆษณาระดับทองถิ่น (Local AdvertisingAgency) ซื่อบรษิ ัท โกรก แอดเวอรไทซ่ิง (Groke Advertising Co.) ป พ.ศ. 2498 มีการกอตั้งสถานีโทรทัศนโดยใชช่ือวา สถานีไทยโทรทัศนชอง 4 บางขุนพรหม นับเปนคร้ังแรกในประวัติศาสตรการแพรภาพทางโทรทัศนของประเทศไทยที่มีการดําเนินงานในรูปของ จํากัด คือบริษัท ไทยโทรทัศน จํากัด จากน้ันการโฆษณาไดมีการพัฒนาอยางรวดเร็วเขาสูยุคของการทํา ธรุ กิจโฆษณาอยา งจรงิ จังจนกระทั่งถึงปจจบุ นั

4. ขอดแี ละขอเสยี ของการโฆษณา การโฆษณาถึงแมจะไดรับการยอมรับวาเปนการสงเสริมการตลาดท่ี ไดผลมากที่สุด แตผูทําการตลาดก็ควรตระหนักถึงขอดีและขอเสียของ การโฆษณา เพราะการโฆษณาบางประเภทไดผลมากกวาในบาง สถานการณ และผลิตภัณฑแตละอยางก็เหมาะสมกับการโฆษณาที่ แตกตา งกนั ซง่ึ ขอ ดีขอเสียของการโฆษณาพิจารณาไดดังนี้

5.องค์ประกอบของการโฆษณา ผู้ส่ งสาร สาร สื่อ ผู้รับสาร ผู้โฆษณา สื่อโฆษณา ชิ้นงานโฆษณา กล่มุ ผู้บริโภค เป้าหมาย

6.การวางแผนการโฆษณา 1.ผู้ผลติ งานโฆษณากาํ หนดวตั ถุประสงค์ทชี่ ัดเจน 2. กาํ หนดจุดเด่นและเนื้อหาของงานโฆษณา 3.การเลือกส่ือ 4.การสร้างงานโฆษณา 5.ตรวจสอบประสิทธิผลของงานโฆษณา

7.1 ขอ ดีของการโฆษณา การโฆษณามีขอ ดีดังนี้ 7.1.1 การโฆษณาสามารถเขาถึงบุคคลไดเปนจํานวนมาก กอใหเกิดความตองการสินคาใน วงกวางและทาํ ใหคนรจู ักสินคา ของบรษิ ทั 7.1.2 การโฆษณาสามารถสรางภาพลักษณและวางตําแหนงทางการตลาดใหแกผลิตภัณฑได ในระยะยาว ทาํ ใหค นรจู กั ตราผลติ ภณั ฑเ พ่มิ มากขึ้น 7.1.3 การโฆษณามีความยืดหยุนและมีส่ือใหเลือกเปนจํานวนมาก ไดแก หนังสือพิมพ โทรทัศน จดหมายขาย วิทยุ นิตยสาร สื่อกลางแจง สมุดหนาเหลือง จดหมายขาว โทรศัพท อนิ เทอรเนต็

7.1.4 การโฆษณาทําใหผูบริโภคนึกถึงผลิตภัณฑหรือตราผลิตภัณฑการสื่อสาร ทางโฆษณาหลายครั้ง จะทําใหผบู รโิ ภคสามารถจดจําสินคา ไดโ ดยอตั โนมัติ 7.1.5 การโฆษณาทําใหผูบริโภคทราบวาผลิตภัณฑใดที่ตนตองการซ้ือและตรา สนิ คาใดท่ีตนไมต องการซื้อ 7.1.6 การโฆษณาผลิตภัณฑหนึ่งๆ อยางตอเน่ืองจะทําใหทราบวาผลิตภัณฑ น้นั ยงั มคี นใชอ ยูและเปนเครอื่ งพิสจู นในเรอื่ งคุณภาพ

7.2 ขอเสยี ของการโฆษณา การโฆษณามีขอ เสียดงั นี้ 7.2.1 ในบางคร้ังการโฆษณาอาจเขาถึงลูกคาท่ีไมใชกลุมเปาหมายของ ธุรกจิ ทําให เสยี คา ใชจา ยโดยเปลาประโยชน 7.2.2 ผูบริโภคอาจมองวาการโฆษณาเปนการแทรกแซงชีวิตประจําวัน มากเกินไป เชน จะเดินไปทางไหนก็เลี่ยงโฆษณาไมได ขึ้นรถไฟฟาก็ไดยินเสียง อาน นิตยสารกเ็ หน็ โฆษณา 7.2.3 ผูบริโภคอาจหลีกเลี่ยงการโฆษณาดวยวิธีการตางๆ เชน อาน นิตยสารพบ โฆษณาก็พลิกไปหนาอนื่ ชมโทรทัศนก เ็ ปลี่ยนชองหรอื ปด เสยี ง 7.2.4 ปจจุบันผูบริโภคจะเลือกรับโฆษณาท่ีมีจุดเดนมากๆ ทําใหการ โฆษณาบางครงั้ ไมไ ดรับความสนใจ

7.2.5 การโฆษณาผานสื่อหน่ึงๆ อาจมีโฆษณาเปนจํานวนมาก ทําใหผูรับส่ือ เกิดความเบ่ือหนา ยกบั การโฆษณาที่มากเกินไป 7.2.6 การโฆษณาสามารถเขาถึงกลุมคนไดเปนจํานวนมาก แตผูท่ีเห็นโฆษณา อาจไมไ ดเปน ลูกคาหรือซ้ือสินคาหมดทุกคน 7.2.7 การโฆษณามีคาใชจายในการผลิตและการดําเนินงาน ทําใหมีตนทุนสูง มาก เมื่อเปรยี บเทยี บกบั การใชส ่อื ประเภทอ่ืน

สรุป การโฆษณาเปนการสงสาร ขอความ หรือขอมูล เปนการจูงใจเก่ียวกับผลิตภัณฑหรือความคิดให ประชาชนท่ัวไปไดรับรูโดยอาศัยสื่อมวลชนในรูปแบบตางๆ ที่มีการจายคาใชจายจากผูอุปถัมภรายการ การ โฆษณามีความสําคัญในการชวยกระตุนใหลูกคาเกิดการรับรู สรางสรรคภาพลักษณ ชักจูงกลุมเปาหมายใหคน กลางซอ้ื สนิ คาไปจาํ หนาย เพิ่มคุณคา ใหส นิ คา โดยการโฆษณามวี ตั ถุประสงคเพื่อใหขอมูลขาวสารเกี่ยวกับสินคา วามีความแตกตางจากคูแขงขันอยางไร ชวยสรางความจงรักภักดีและคุณคาใหกับตราสินคา การสงเสริมการ ขายเปนกิจกรรมหรือสินคาที่ใชเปนแรงจูงใจหรือตัวกระตุนใหเกิดการซื้อขายมากข้ึนในชวงระยะเวลาจํากัด มกั ใชร ว มกับสว นประสมการสงเสรมิ การตลาดอ่นื ๆ เพื่อเพม่ิ สว นแบงการตลาด เพ่ิมยอดขาย ชวยโฆษณาสินคา ใหม และแจงขอมูลสินคา โดยมีวัตถุประสงคเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกคาเปาหมาย รักษาลูกคาเกา และ ขยายกลุมลูกคาใหม

การโฆษณาและส่ งเสริมการขาย แบบทดสอบ

การโฆษณาและส่ งเสริมการขาย 1.การโฆษณาและการส่งเสริมการขายเป็ นส่วนหน่ึงของข้อใด A. การส่งเสริมการตลาด B. ส่วนประสมการตลาด C. ผลิตภณั ฑ์ D. ราคาสินคา้

การโฆษณาและส่ งเสริมการขาย 2.ข้อใดไม่ใช่ลกั ษณะของการโฆษณา A. ให้ข้อมูลและจูงใจ B. ระบุผอู้ ุปถมั ภร์ ายการ C. ตอ้ งอาศยั ส่ือมวลชน D. เป็นการส่ือสารโดยการใชบ้ ุคคล

การโฆษณาและส่ งเสริมการขาย 3. การโฆษณาต้องการให้ลูกค้าเป้าหมายทราบว่ามสี ินค้า จําหน่ายในท้องตลาดตรงกบั ข้อใด A. ชักจูงใจกลุ่มเป้าหมาย B. กระตุน้ ใหเ้ กิดการรับรู้ C. เป็นการเพม่ิ คุณค่าใหก้ บั สินคา้ D. สร้างภาพลกั ษณ์ท่ีดีใหแ้ ก่องคก์ ร

การโฆษณาและส่ งเสริมการขาย 4. ใครเป็ นผู้จดั ต้งั บริษทั รับจ้างทาํ โฆษณาแห่งแรกในประเทศ ไทย A. กรมพระยาดาํ รงราชานุภาพ B. กรมพระกาํ แพงเพชรอคั รโยธิน C. นายเจฟฟี่ โกร๊ก D. คาเธ่ย์ แอดเวอร์ไทซิง

การโฆษณาและส่ งเสริมการขาย 5. ข้อใดเป็ นองค์ประกอบของการโฆษณา A. ผู้โฆษณา ชิ้นงานโฆษณา B. ผู้โฆษณา ชิ้นงานโฆษณา ผู้ส่ือสาร C. ผู้โฆษณา ชิ้นงานโฆษณา ผู้ส่ือสาร กล่มุ ผู้บริโภคเป้าหมาย D. ผู้โฆษณา ชิ้นงานโฆษณา ส่ือโฆษณา กล่มุ ผู้บริโภคเป้าหมาย

ใบงาน ใหท้ าํ ใบงานบทที่ 1 ทาํ ลงสมุดปกอ่อน ถา่ ยรูปส่งใน Glide App ส่งงาน App ส่งงาน สแกนเพอื่ ส่งงาน

: หอ้ งเรียนออนไลน์ By ครูเอ๋ (@kruaey8) : ห้องเรียนวชิ าการ โฆษณาและส่ งเสริม การขาย