หนงั สอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน การงานอาชีพ และเทคโนโลยี ป. 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาป ท่ี 1 กลมุ สาระการเรยี นรกู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ตามหลกั สตู รแกนก ลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 ผู้เรียบเรยี ง สายใจ เจรญิ รื่น วริ ชั ปรมิ ณฑลสกุล ผูต้ รวจ รศ.จริยา เดชกญุ ชร เรวดี บุญแยม้ ธนิย สหพงษ์ บรรณาธิการ นนั ทกาญจน์ การสามารถ
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 ช้ันประถมศกึ ษาปท ี่ 1 กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชพี และเทคโนโลยี ตามหลกั สูตรแกนก ลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ผ้เู รียบเรยี ง สายใจ เจริญรน่ื วิรชั ปริมณฑลสกุล ผตู รวจ รศ. จรยิ า เดชกญุ ชร เรวดี บญุ แยม้ ธนิย สหวงศ์ บรรณาธิการ นนั ทกาญจน์ การสามารถ ISBN 978-616-8047-39-2 บรษิ ทั กรพัฒนาย่งิ จ�ำ กดั เลขท่ี 23/34–35 ชัน้ 3 ห้อง 3B ถนนตรีมิตร แขวงตลาดนอ้ ย เขตสมั พันธวงศ์ กรงุ เทพฯ 10100
ค�ำ นำ� หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 เลม่ นี้ จดั ทำ�ขึ้นตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานฐานพุทธศักราช 2551 สำ�หรับนักเรียนช้ันประถมศึกษา ปีท่ี 1 โดยมีเป้าหมายให้นักเรียนและครูใช้เป็นส่ือในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนานักเรียนให้มี คุณภาพตามมาตรฐานที่กำ�หนดไว้ในหลักสูตร มีสมรรถนะสำ�คัญด้านการส่ือสาร การคิด การ แก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี ตลอดจนพัฒนานักเรียนให้มีคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ และทำ�ประโยชนใ์ หส้ งั คม เพอ่ื ใหส้ ามารถดำ�รงชวี ติ อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ นื่ ในสงั คมไทยและ สงั คมโลกไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยเี ลม่ นี้ ยดึ แนวคดิ การจดั การเรยี น รู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำ�คัญใช้หลักการส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจธรรมชาติของการงาน อาชีพและเทคโนโลยี และสามารถนำ�ความรู้ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจำ�วันไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ และยงั่ ยืน โดยพัฒนานกั เรียนแบบองคร์ วมอยู่บนพ้นื ฐานของการบูรณาการความคดิ รวบยอด ท่ี เนน้ ให้นกั เรยี นเรียนรู้ดว้ ยการปฏิบัติ (Active Learning) และเรยี นร้โู ดยใช้สมองเปน็ ฐาน (Brain- based Learning) เนน้ การเรียนรู้ให้ตรงกับรปู แบบการเรยี นรู้ (Learning Style) เน้นทักษะที่สร้าง เสรมิ ความเขา้ ใจทค่ี งทนของนกั เรยี นซง่ึ เปน็ ผลลพั ธป์ ลายทางทตี่ อ้ งการใหเ้ กดิ ตามหลกั สตู รการจดั ทำ� หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยเี ลม่ น้ี คณะผจู้ ดั ทำ�ซงึ่ เปน็ ผเู้ ชย่ี วชาญ ในสาขาวิชาและการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ ได้ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 อย่างลึกซ้ึง ทั้งด้านวิสัยทัศน์ หลักการ จุดมุ่งหมาย สมรรถนะสำ�คัญของ นักเรยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชีว้ ดั ชั้นปี สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง แนวทางการจัดการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แล้วจึงนำ�องค์ความรู้ท่ีได้มา ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ แต่ละหน่วยการเรียนรู้ประกอบด้วยตัวช้ีวัดชั้นปี ผังมโนทัศน์สาระ การเรียนรู้ ประโยชน์จากการเรยี น คำ�ถามชวนคดิ เนื้อหาสาระตา่ ง ๆ นานา น่ารู้ แหลง่ สบื คน้ ความรู้ ผังมโนทศั น์สรปุ เน้ือหา บทสรุป กจิ กรรมเสนอแนะ โครงงาน การประยุกต์ใช้ และคำ�ถาม ทบทวน ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความเข้าใจท่ีคงทน และเกิดการ เรียนร้อู ยา่ งครบถ้วนตามหลักสูตร หวงั เปน็ อย่างยงิ่ ว่า หนงั สือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 จะ ช่วยสนับสนุนใหน้ ักเรยี นไดพ้ ฒั นาทักษะพนื้ ฐานในการทำ�งาน การจัดการ การคดิ สร้างสรรคแ์ ละ การใชเ้ ทคโนโลยเี พอื่ เพมิ่ ประสิทธิภาพในการดำ�รงชวี ิต เพอื่ บรรลุตามจดุ มุ่งหมายของหลกั สูตร คณะผูจดั ทำ�
คำ�ชแ้ี จง คำ�น�ำ หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ น้ี ได้ออกแบบหนว่ ยการเรียนร้ใู หแ้ ตล่ ะหน่วยการเรยี นรู้ประกอบด้วย 1. ตวั ชีว้ ดั ชน้ั ปี เป็นเป้าหมายในการพัฒนานักเรียนแต่ละชนั้ ปี ซง่ึ สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน การเรยี นร้มู รี หสั กำ�กบั มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวช้ีวัด เชน่ ง 1.1 ป. 1/1 (รหัสแตล่ ะตวั มีความ หมายดงั นี้ ง คือ กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ และเทคโนโลยี 1.1 คอื สาระท่ี 1 การดำ�รง ชวี ติ และครอบครวั มาตรฐานการเรยี นรขู้ อ้ ท่ี 1 ป. 1/1 คอื ตวั ชว้ี ดั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ขอ้ ท่ี 1) 2. ผงั มโนทศั นส์ าระการเรยี นรู้ เปน็ ผงั ทแ่ี สดงขอบขา่ ยเนอ้ื หาสาระในแตล่ ะหนว่ ยการเรยี นรู้ โดยมชี อื่ หน่วยการเรยี นรู้ และหัวข้อหลักของเน้อื หาในหน่วยการเรยี นรู้น้นั ๆ 3. ประโยชน์จากการเรียนรู้ คือ ประโยชน์ที่นักเรียนจะได้รับจากเรียนจบในแต่ละหน่วย การเรียนรู้ซ่ึงเขียนไว้เป็นประเด็นเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนนำ�ความรู้และทักษะจากการเรียนไปใช้ใน ชวี ติ ประจำ�วัน 4. คำ�ถามชวนคิด เป็นคำ�ถามหรือสถานการณ์เพ่ือกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสงสัยและ สนใจท่ีจะคน้ หาคำ�ตอบ 5. เนอ้ื หา ตรงตามสาระมาตรฐานการเรยี นรแู้ กนกลาง โดยแบง่ เนอ้ื หาเปน็ ชว่ ง ๆ แลว้ แทรก กจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ท่พี อเหมาะกับการเรียน รวมทง้ั มีการนำ�เสนอดว้ ยภาพ ตาราง แผนภูมิ และแผนท่คี วามคิด เพือ่ เปน็ ส่ือให้นักเรยี นสร้างความคิดรวบยอดและเกิดความเขา้ ใจทีค่ งทน 6. เรอื่ งนา่ รู้ เป็นความร้เู สริมหรือเกร็ดความรเู้ พ่ือเพิ่มพูนใหน้ กั เรยี นมคี วามรู้กว้างขวางขนึ้ โดยคัดสรรเฉพาะเรอ่ื งที่ผเู้ รยี นควรรู้ 7. กิจกรรมเรียนรู้...สู่ปฏิบัติ เป็นกิจกรรมท่ีกำ�หนดไว้เม่ือจบเนื้อหาแต่ละตอนหรือแต่ละ หวั ข้อ เป็นกจิ กรรมทห่ี ลากหลาย ใช้แนวคิดทฤษฎีต่าง ๆ ทส่ี อดคลอ้ งกบั เนอื้ หา เหมาะสมกบั วยั และพฒั นาการดา้ นตา่ ง ๆ ของนกั เรยี น สะดวกในการปฏบิ ตั ิ กระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นไดค้ ดิ และสง่ เสรมิ ให้ศึกษาค้นคว้า เพื่อพัฒนาให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ตามเป้าหมายของหลักสูตร โดยครูผู้สอน/ นักเรยี นสามารถนำ�กจิ กรรมดังกลา่ วมาใชป้ ฏิบัตใิ นชว่ งกิจกรรมลดเวลาเรยี นเพิม่ เวลารู้ได้ 8. แหลง่ สบื คน้ ความรู้ เปน็ แหลง่ การเรียนรตู้ า่ ง ๆ เชน่ เว็บไซต์ หนังสือ สถานท่ี บุคคล เป็นตน้ เพื่อใหน้ กั เรยี นศึกษาค้นคว้าความรูท้ ส่ี อดคล้องกบั เรื่องทีเ่ รียนเพมิ่ เติม 9. ผงั มโนทศั นส์ รปุ เนอ้ื หา เปน็ การสรปุ เนอ้ื หาหลงั จากจบหวั เรอ่ื งของแตล่ ะหนว่ ยการเรยี นรู้ ซ่ึงนำ�เสนอเปน็ ผงั มโนทัศน์ (Concept Map) เพ่ือใหน้ ักเรยี นได้ทบทวนความรู้
10. กจิ กรรมเสนอแนะ เปน็ กจิ กรรมบรู ณาการทกั ษะทรี่ วมหลกั การและความคดิ รวบยอดใน เรื่องต่าง ๆ ท่นี กั เรียนได้เรยี นรไู้ ปแลว้ มาประยกุ ต์ในการปฏิบัติกจิ กรรม 11. โครงงาน เป็นการเสนอแนะหวั ขอ้ โครงงานและแนวทางการปฏบิ ัตโิ ครงงานท่ีสอดคลอ้ ง กับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดช้ันปีของหน่วยการเรียนรู้น้ัน เพื่อพัฒนาทักษะการคิด การ วางแผน และการแก้ปญั หาของนกั เรยี น 12. การประยกุ ตใ์ ช้ เปน็ กจิ กรรมทเี่ สนอแนะใหน้ กั เรยี นไดน้ ำ�ความรู้ ทกั ษะในการประยกุ ต์ ความรู้ในหน่วยการเรยี นรนู้ นั้ ไปใช้ในชีวิตประจำ�วนั 13. คำ�ถามทบทวน เปน็ คำ�ถามเพ่อื ทบทวนความรู้และความเข้าใจเนอื้ หาของนกั เรยี น 14. บรรณานุกรม เป็นรายช่ือหนังสอื เอกสาร หรอื เวบ็ ไซต์ทใ่ี ช้คน้ คว้าอา้ งองิ ประกอบการ เขียน 15. อภธิ านศพั ท์ เปน็ การนำ�คำ�สำ�คัญ ทแ่ี ทรกอย่ใู นเนอื้ หามาอธิบาย และจดั เรียงตามลำ�ดบั ตวั อกั ษรเพ่อื สะดวกในการค้นควา้
สารบญั หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 การทำ�งานเพ่ือชว่ ยเหลอื ตนเอง1����������������������� 1 1. การแตง่ กายด้วยตนเอง..................................................... 2 1.1 เสอื้ ผ้าและเครื่องแต่งกาย.....................................................2 1.2 วธิ กี ารแตง่ กายด้วยตนเอง...................................................3 กจิ กรรมเรียนร้.ู ..สูป่ ฏบิ ัต.ิ ..........................................................4 1.3 การแตง่ กายใหเ้ หมาะสมกบั ฤดกู าล.......................................4 1.4 การแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที.่ ......................6 กิจกรรมเรยี นร.ู้ ..สู่ปฏบิ ตั ิ...........................................................8 2. การดแู ลรกั ษาเสือ้ ผา้ ........................................................ 9 2.1 การดูแลรกั ษาเส้ือผ้าขณะสวมใส.่ .........................................9 2.2 การดแู ลรกั ษาเส้ือผา้ ทีส่ วมใส่แลว้ .......................................10 กจิ กรรมเรยี นรู้...สูป่ ฏบิ ตั .ิ ........................................................11 3. การจัดเกบ็ ของใชส้ ่วนตวั ..................................................11 3.1 การจัดเก็บอุปกรณ์การเรยี น..............................................15 3.2 การจดั เกบ็ ของเลน่ ...........................................................18 3.3 การจัดเก็บภาชนะใส่อาหาร.................................................19 กจิ กรรมเรียนรู้...สปู่ ฏิบัติ.........................................................20 4. การจัดโต๊ะ ตู้ และช้นั .....................................................20 4.1 การจดั โต๊ะเขียนหนงั สือ ตู้ และช้ันวางหนงั สอื .....................21 4.2 การจดั ตู้หรอื ชั้นวางรองเทา้ ................................................22 กิจกรรมเรียนร.ู้ ..สู่ปฏิบตั .ิ ........................................................23 • ผังมโนทศั นส์ รุปเน้อื หาหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1..........................24 • กจิ กรรมเสนอแนะ..........................................................25 • โครงงาน.....................................................................25 • การประยุกต์ใช.้ .............................................................26 • คำ�ถามทบทวน2��������������������������������������������������������������26
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 พืชใกล้ตวั .................................................27 1. ร้จู ักพืช.......................................................................28 กจิ กรรมเรยี นร.ู้ ..ส่ปู ฏิบตั ิ..................................................30 2. เครื่องมอื ดูแลรักษาพชื ....................................................31 กิจกรรมเรยี นร.ู้ ..ส่ปู ฏิบัติ..................................................32 3. การรดน้ำ�ตน้ ไม้3�������������������������������������������������������������33 3.1 การรดนำ้ �ตน้ ไมด้ ว้ ยบัวรดนำ้ �3���������������������������������������������33 กจิ กรรมเรยี นร.ู้ ..สปู่ ฏิบตั ิ..................................................34 3.2 การรดน้ำ�ตน้ ไม้ด้วยถังน้ำ�5��������������������������������������������������35 3.3 การรดนำ้ �ต้นไม้ด้วยสายยาง3����������������������������������������������36 กิจกรรมเรยี นรู.้ ..สปู่ ฏบิ ตั ิ..................................................37 4. การถอนและเก็บวัชพชื ....................................................38 กิจกรรมเรยี นร้.ู ..สปู่ ฏิบัต.ิ ........................................................39 • ผังมโนทศั นส์ รุปเน้ือหาหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2..............................40 • กจิ กรรมเสนอแนะ..............................................................41 • โครงงาน.........................................................................41 • การประยกุ ต์ใช.้ .................................................................42 • คำ�ถามทบทวน4������������������������������������������������������������������42 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ช่างประดษิ ฐ์นอ้ ย........................................43 1. วสั ดุ อปุ กรณ์ และเครื่องมอื ท่ีใช้ทำ�ของเลน่ 4��������������������������44 กจิ กรรมเรียนร.ู้ ..สปู่ ฏิบตั ิ.........................................................47 2. การพบั กระดาษเป็นของเลน่ ..............................................48 2.1 ประโยชนข์ องการทำ�ของเล่นได้เอง4�������������������������������������48 2.2 ตวั อย่างการพับกระดาษเป็นของเล่น...................................49 กิจกรรมเรยี นร.ู้ ..สู่ปฏิบัต.ิ ........................................................56 3. การบำ�รงุ รกั ษาของเล่น5����������������������������������������������������57 กิจกรรมเรียนรู้...สปู่ ฏบิ ัต.ิ ........................................................59 • ผังมโนทัศนส์ รุปเนือ้ หาหน่วยการเรียนรู้ที่ 3..............................61 • กจิ กรรมเสนอแนะ..............................................................62 • โครงงาน.........................................................................62 • การประยุกต์ใช.้ .................................................................63 • คำ�ถามทบทวน6������������������������������������������������������������������63
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 ขอ้ มูลและแหล่งข้อมูลรอบตัว.........................64 1. ข้อมูลและแหลง่ ขอ้ มลู .....................................................65 1.1 ประเภทของขอ้ มลู ............................................................66 1.2 ประโยชน์ของขอ้ มูล...........................................................69 กจิ กรรมเรียนร.ู้ ..สู่ปฏิบัติ.........................................................70 1.3 แหล่งขอ้ มลู รอบตวั ...........................................................71 กจิ กรรมเรยี นร.ู้ ..สปู่ ฏบิ ตั .ิ ........................................................73 2. อปุ กรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศ...........................................73 กจิ กรรมเรียนรู.้ ..สู่ปฏบิ ตั ิ.........................................................78 • ผงั มโนทศั นส์ รปุ เนือ้ หาหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4..............................79 • กิจกรรมเสนอแนะ..............................................................80 • โครงงาน.........................................................................80 • การประยุกต์ใช.้ .................................................................81 • คำ�ถามทบทวน8������������������������������������������������������������������81 บรรณานุกรม........................................................................82 อภิธานศัพท.์ .........................................................................84
การท�ำ งาน 1หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี เพื่อชว่ ยเหลอื ตนเอง ตัวช้ีวดั ช้นั ปี 1. บอกวธิ ีการทำ�งานเพ่อื ช่วยเหลือตนเอง (ง 1.1 ป. 1/1) 2. ใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ และเครื่องมอื งา่ ย ๆ ในการทำ�งานอยา่ งปลอดภัย (ง 1.1 ป. 1/2) 3. ทำ�งานเพอื่ ช่วยเหลอื ตนเองอย่างกระตือรอื ร้นและตรงเวลา (ง 1.1 ป. 1/3) ผงั มโนทัศน์สาระการเรียนรู้ การแต่งกาย การแต่งกายให้เหมาะสม การดูแลรกั ษาเสอ้ื ผ้า การดูแลรักษาเสอ้ื ผา้ ใหเ้ หมาะสมกับฤดูกาล กบั โอกาสและสถานท่ี ขณะสวมใส่ ท่สี วมใสแ่ ล้ว การแต่งกายด้วยตนเอง การดแู ลรกั ษาเส้ือผา้ วิธกี าร เส้ือผ้า การท�ำ งาน การจดั เกบ็ การจดั เก็บ แตง่ กายด้วยตนเอง และเคร่ืองแตง่ กาย เพอ่ื ช่วยเหลือตนเอง ของเลน่ อปุ กรณ์การเรยี น การจัดตู้ หรอื ช้นั วางรองเทา้ การจดั โต๊ะ ตู้ และชน้ั การจดั เก็บของใชส้ ว่ นตัว การจดั โต๊ะเขยี นหนงั สอื ตู้ และชนั้ วางหนังสือ การจดั เกบ็ ภาชนะใส่อาการ ประโยชนจ์ ากการเรียน คำ�ถามชวนคิด 1. แต่งกายและดูแลรักษาเสื้อผ้าได้ด้วย� 1. การแต่งกายได้ด้วยตนเองจะเกิดผลดี� ตนเอง อยา่ งไร 2. จัดเก็บของเลน่ ของใชส้ ่วนตวั จดั โต๊ะ ต�ู้ 2. ถา้ ไมจ่ ดั เกบ็ ของใชส้ ว่ นตวั จะเกดิ ผลเสยี � และชนั้ ไดอ้ ยา่ งมีระเบียบ อย่างไร
2 หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 1. การแตง่ กายด้วยตนเอง การแต่งกายด้วยตนเองเปน็ การท�ำงานง่าย ๆ ที่เราสามารถ ท�ำไดด้ ้วยตนเอง เพอ่ื ฝกึ ใหร้ ู้จักช่วยเหลือตนเอง ร้จู ักการทำ� งาน และช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง ซ่ึงการแต่งกายด้วยตนเอง ควรเตรียมเสือ้ ผา้ และเครือ่ งแตง่ กายให้พร้อม 1.1 เสือ้ ผา้ และเครอ่ื งแต่งกาย เส้ือผ้า หมายถึง ส่ิงท่ีท�ำจากผ้า ใช้ส�ำหรับสวมใส่ปกปิด ร่างกาย ซึ่งมีท้ังเส้ือผ้าส�ำหรับสวมใส่ไว้ภายนอกและสวมใส่ไว้ ภายใน เครื่องแต่งกาย หมายถึง ส่ิงท่ีเป็นส่วนประกอบในการ� แต่งตัว เชน่ เข็มขดั รองเท้า ถงุ เท้า เปน็ ตน้ เสอ้ื ผาที่สวมใสภ่ ายนอก เส้ือผ้าที่สวมใส่ภายใน เครือ่ งแต่งกาย ความรู้เสรมิ อาเซียน ชาวพม่านิยมสวมใส่ผ้าโลงยีเป็นชุดประจ�ำชาติ โดยผู้ชายจะ� สวมใส่ค่กู ับเส้อื สขี าว สว่ นผู้หญิงจะสวมใสค่ ูก่ ับเสื้อสีสดใส
หนังสอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 3 ประโยชนของ เสอื้ ผาและเครื่องแตง กาย 1. ช่วยปกปิด รา่ งกาย 2. ช่วยให้ร่างกาย 3. ช่วยป้องกนั อบอ่นุ แสงแดด 4. ชว่ ยปอ้ งกนั อนั ตรายหรือ เชอ้ื โรคเขา้ สู่ รา่ งกาย 1.2 วิธีการแต่งกายด้วยตนเอง การสวมใสเส้ือผาที่สะอาดและแตงกายเรียบรอย จะทำ�ให� ไดร บั คำ�ชมจากผทู พี่ บเหน็ โดยปฏิบตั ิตามลำ�ดบั ดงั น้ี 1. อาบน้ำ�ชำ�ระร่างกายใหส้ ะอาด 2. เชด็ ตวั ด้วยผา้ เชด็ ตัวใหแ้ ห้งและทาแป้ง 3. สวมชุดชั้นในและเสื้อผ้าใหเ้ รยี บร้อย 4. หวีผมและตรวจดคู วามเรยี บร้อย
4 หนังสอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 กิจกรรมการเรยี นรู้...ส่ปู ฏิบัติ 1. นักเรียนสังเกตภาพ แล้วช่วยกันจัดกลุ่มเส้ือผ้าและเครื่อง� แตง่ กาย 2. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประโยชน์ของ เส้ือผ้าและเครอื่ งแต่งกาย 3. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๕ คน สง่ ตวั แทนกลมุ่ ออกไปแขง่ ขนั ใส่เส้ือ (ครูเตรียมเส้ือไว้เท่ากับจำ�นวนกลุ่ม)แล้วร่วมกันสรุปวิธีการ ใส่เสื้อให้รวดเร็วและถูกตอ้ ง 1.3 การแต่งกายให้เหมาะสมกบั ฤดูกาล อากาศในประเทศไทย ความรูเ้ สริมอาเซียน แบง เปน ๓ ฤดู ไดแก ฤดู ฝน ฤดูร้อน และฤดหู นาว อากาศในประเทศอนิ โดนเี ซยี แบง่ เราควรแตงกายใหเหมาะ เป็น 2 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อนและ� สมกับอากาศในแต่ละฤดู ฤดหู นาว ดังนี้
หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 5 1. ฤดฝู น ถ้าจำ�เป็นตอ้ งออกนอกบ้านในขณะทฝี่ นกำ�ลังตก ก็ควรสวมใส่เสื้อกันฝนหรือกางร่ม เพอื่ ป้องกันไม่ให้เส้ือผา้ หรือรา่ งกาย เปียกฝน ซ่ึงจะทำ�ให้ไม่สบายและ เป็นไข้หวดั เครื่องแตง่ กายท่จี ำ�เป็น ต้องใช้ เชน่ เสอ้ื กันฝน รม่ หมวก เสอื้ ผา้ ท่ีควรสวมใส่ในฤดฝู น 2. ฤดูหนาว ควรสวมใส่เสื้อผ้าเน้ือ เส้ือผ้าที่ควรสวมใส่ หนา ถ้าอากาศหนาวเย็นมากควรสวมเสอื้ ในฤดูหนาว กนั หนาวทบั หรอื อาจใชเ้ ครอื่ งแตง่ กาย เชน่ ผ้าพนั คอ ถงุ มอื ถงุ เทา้ เพอื่ ชว่ ยใหร้ ่างกาย อบอุ่นข้นึ 3. ฤดรู อน ควรสวมใส่เสอ้ื ผ้าที่มีเนือ้ บาง ระบายอากาศไดด้ ี สวมใสส่ บาย เครอ่ื ง แต่งกายที่จำ�เป็นต้องใช้ เช่น ร่ม หมวก แวน่ ตากนั แดด เสือ้ ผา้ ทค่ี วรสวมใส่ ในฤดรู อ้ น
6 หนงั สือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 1.4 การแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ การแต่งกายท่ีเหมาะสมกับโอกาสและสถานที่จะช่วยให้ทำ� กิจกรรมไดส้ ะดวกและเปน็ ท่ชี ื่นชมของผู้อ่นื ซ่ึงควรปฏบิ ัตดิ ังน้ี 1. การแตงกายเม่อื อยทู บ่ี าน ควรปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1) สวมเสอ้ื ยดื และกางเกง 2) สวมใส่เสื้อผา้ หลวม ๆ ขาสั้นเมื่อท�ำกิจกรรมต่าง ๆ เนอ้ื ผา้ ออ่ นนมุ่ และมสี อี อ่ น เมอ่ื ภายในบ้าน เชน่ รดน�ำ้ ตน้ ไม้ จะเข้านอน 2. การแตงกายเมื่อไปโรงเรียน ควรแตงกายชุดนักเรียน� ท่ีสะอาดและถูกตองตามแบบท่โี รงเรียนกำ�หนด ดังนี้ เส้ือสขี าว เสอื้ สีขาว ปักอักษรยอ่ ชอ่ื โรงเรยี น ปักอักษรยอ่ ชอ่ื โรงเรียน คาดเข็มขัด กระโปรงจีบ กางเกงขาส้ัน ยาวคลุมหัวเข่า ถงุ เท้าสีขาว ถงุ เท้าสีขาว รองเท้านักเรียน รองนกั เรยี น การแต่งกายของนักเรยี นชายและนกั เรยี นหญิง
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 7 ความรูเ้ สริมอาเซียน นักเรียนหญิงชาวลาวนุ่งผ้าซ่ินสีด�ำยาวคลุมน่อง นักเรียนชาย สวมกางเกงขายาวสีดำ� และใสเ่ ส้ือนักเรยี นสีขาว 3. การแต่งกายเม่ือเล่นกีฬา หรอื ออกกำ�ลังกาย ควรสวมใส่ชดุ ที่ เคลอ่ื นไหวไดส้ ะดวก ใสแ่ ลว้ ไมร่ อ้ น เชน่ เสอื้ ยืดแขนส้นั กางเกงขาสัน้ 4. การแตง่ กายเมอื่ ไปเทย่ี ว ควรเลอื กสวมใสเ่ สอื้ ผา้ ใหเ้ หมาะ สมกับสถานท่ที จ่ี ะไปเท่ียว ดงั นี้ ไปสวนสัตว์ ไปวดั หรอื สถานท่ีสำ�คัญ ไปทะเล การแต่งกาย เมื่อไปเทย่ี ว 1) ไปเทย่ี วทะเล ควรเลอื กสวมใสเ่ สอ้ื ผา้ แบบสบาย ๆ สสี นั สดใส และควรสวมหมวกเพอ่ื ปอ้ งกนั แสงแดด 2) ไปเท่ียวสวนสัตว์ ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เคล่ือนไหวได้ สะดวก และใสร่ องเทา้ ทไ่ี มค่ บั หรอื หลวมเกนิ ไปเพอ่ื ใหเ้ ดนิ สะดวก 3) ไปเทยี่ วชมสถานทสี่ ำ� คญั เชน่ วดั ควรแตง่ กายสภุ าพ โดยผหู้ ญงิ สวมกระโปรงยาว ใสเ่ สอื้ คอปดิ ผชู้ ายสวมเสอื้ เชติ้ นงุ่ กางเกงแบบสภุ าพ ใสถ่ งุ เทา้ และรองเทา้ ใหเ้ รยี บรอ้ ย
8 หนงั สือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 กจิ กรรมการเรยี นรู.้ ..สูป่ ฏบิ ตั ิ 1. ให้นักเรียนช่วยกันเสนอแนะวิธีการแต่งกายชุดนักเรียนตาม ลำ�ดับขน้ั ตอนทถ่ี กู ตอ้ ง 2. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ กล่มุ ละ 4–5 เลือกสถานท่ที ่องเท่ียวกลุม่ ละ 1 แห่ง แล้วระดมความคดิ เก่ยี วกับการแต่งกายไปเทยี่ วสถานที่ นนั้ ๆ และนำ�เสนอผลงานหน้าช้ันเรียน 2. การดแู ลรักษาเสอ้ื ผ้า การดแู ลรกั ษาเสอื้ ผา้ ทส่ี วมใสจ่ ะชว่ ยใหเ้ สอ้ื ผา้ สะอาด ใชง้ าน ได้นาน และน่าสวมใส่อยู่เสมอ 2.1 การดแู ลรักษาเส้อื ผา้ ขณะสวมใส่ นักเรียนสามารถดูแลรักษาเส้ือผ้าและเครื่องแต่งกายให้ สะอาดขณะสวมใสไ่ ด้ โดยปฏบิ ตั ิดังน้ี 1. ขณะช่วยแม่ท�ำอาหาร ควรสวมใส่ผ้ากันเปื้อน เพื่อ ป้องกันไมใ่ ห้เสือ้ ผ้าสกปรก 2. ขณะรับประทานอาหาร ควร รบั ประทานอยา่ งระมดั ระวงั ไม่ ใหอ้ าหารหกรดเสอ้ื ผา้ และไมค่ วร การแต่งกายขณะชว่ ยแม่ ใชช้ ายเสอ้ื เชด็ ปากหรอื เชด็ มอื ทำ�อาหาร
หนงั สอื เรียน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 9 3. ขณะเล่น ไมเ่ ลน่ ในทีท่ ี่มีนำ้� ขังเฉอะแฉะและไม่นง่ั บนพ้ืน� ที่สกปรก เพราะจะทำ� ให้เสอ้ื ผา้ เปอื้ น 4. ขณะเดินทางไปโรงเรียน ควรเดินชิดริมขอบทางหรือ� เดินบนทางเท้า ไม่เหยียบยำ่ �ท่ีท่ีมีนำ้ �ขังเพราะจะทำ�ให้ถุงเท้าและ รองเทา้ เปอ้ื น 5. ขณะน่ังเรียนหนังสือ ควรระมัดระวังฝุ่นจากไส้ดินสอ� สเี ทยี น หรอื สชี อลก์ เพราะจะทำ� ใหเ้ ปอ้ื นและซกั ทำ� ความสะอาดยาก 6. ขณะไปเที่ยวสวนสาธารณะ ควรน่ังบนม้าน่ังท่ีสะอาด� ไม่ยืนพิงเสาไฟฟ้าในสวนสาธารณะเพราะจะทำ�ให้เส้อื ผ้าเปอ้ื น 2.2 การดูแลรักษาเสื้อผา้ ทสี่ วมใส่แลว้ เสือ้ ผา้ ทส่ี วมใสแ่ ลว้ ควรดแู ลรกั ษาดงั นี้ 1. การถอดเสื้อผ้าและเคร่ืองแต่งกาย ควรทำ�ด้วยความ ระมดั ระวงั เชน่ ค่อย ๆ รูดซปิ เพ่อื ให้ซิปเล่อื นไดส้ ะดวก 2. การดแู ลรกั ษาเสื้อผ้า ถ้ายงั ไม่นำ�เส้อื ผา้ ไปซัก ควรถอด แขวนผึ่งไวห้ รอื ใสใ่ นตะกรา้ โปร่ง ๆ จะไดไ้ ม่อับชืน้ และขึ้นรา 3. การซ่อมแซมเส้ือผ้า ถ้าเส้ือผ้าที่สวมใส่ฉีกขาด กระดุม หลดุ ตะขอหลุด ควรบอกผู้ใหญใ่ หช้ ว่ ยซ่อมแซมกอ่ นนำ�ไปซกั แหลง่ สบื คน้ ความรู้ 1. ผปู้ กครอง สมาชิกในบ้าน และครู 2. ร้านจำ�หน่ายเสอ้ื ผ้าและเคร่อื งแต่งกาย 3. หนงั สือและภาพทเี่ กย่ี วกบั เสอ้ื ผา้ และเครือ่ งแตง่ กาย
10 หนังสือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 กิจกรรมการเรียนร้.ู ..สู่ปฏิบตั ิ 1. ให้นักเรียนเล่าวิธีการดูแลรักษาเสื้อผ้าของตนเอง แล้วให้� เพอ่ื น ๆ แสดงความคดิ เห็นว่าเหมาะสมหรือไม ่ 2. นกั เรียนแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 4–5 คน ร่วมกันแสดงความ� คิดเห็นเกีย่ วกบั การดูแลรักษาเส้อื ผ้าทีส่ วมใส่แลว้ 3. การจดั เกบ็ ของใชส้ ว่ นตวั ของใชส้ ่วนตัวมีหลายอย่าง เชน่ แปรงสฟี นั หวี ผ้าเชด็ หน้า แกว้ น้ำ� ดินสอสี เมื่อใช้ของใช้ส่วนตัวเสร็จแล้ว ควรเก็บเข้าที่และจัดวางให้ เรยี บรอ้ ย เพอื่ ใหห้ ยบิ ใชไ้ ดส้ ะดวก ปอ้ งกนั ไมใ่ หส้ ญู หาย และชว่ ย ใหบ้ ้านเป็นระเบยี บ 3.1 การจดั เก็บอุปกรณ์การเรียน อปุ กรณก์ ารเรยี นทจี่ ำ�เปน็ ตอ้ งใช้ ไดแ้ ก่ หนงั สอื สมดุ ดนิ สอ ยางลบ ไมบ้ รรทดั ดนิ น้ำ�มัน และสชี นดิ ต่าง ๆ จำ�เปน็ ตอ้ งจดั เก็บ เพื่อให้สะดวกต่อการหยิบไปใช้ใน การเรยี น 1. การจดั เกบ็ หนงั สอื และสมดุ หนังสือเรียนควรต้ังเรียงเป็นแถวไว้
หนังสือเรียน รายวชิ าพื้นฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 11 บนโต๊ะ โดยมที ี่ก้ันหนงั สอื เพื่อปอ้ งกนั ไมใ่ หห้ นังสือลม้ ส่วนสมุด ควรวางซอ้ นกนั ไวบ้ นโต๊ะ โดยวางสมุดปกแขง็ ไว้ดา้ นลา่ งและวาง สมุดปกอ่อนไว้ด้านบน 2. การจัดเก็บเคร่ืองเขียน มีวธิ กี ารจัดเกบ็ ดังน้ี 1) เกบ็ ดนิ สอและไมบ้ รรทดั รวมกันไว้ในกล่องดินสอ แล้ววาง ยางลบและกบเหลาดนิ สอไวด้ า้ นขา้ ง การจัดเกบ็ สีใส่ในกลอ ง 2) ดนิ สอสี สเี ทยี น สชี อลก์ ควรเกบ็ ใสก่ ลอ่ งแยกตามชนดิ ของสี ส่วนดินน้ำ�มันควรเก็บใส่ถุงหรือ กลอ่ งพลาสตกิ 3.2 การจดั เก็บของเลน่ ของเลน่ เมอ่ื เลกิ เลน่ แลว้ ควรจดั เกบ็ ใหเ้ รยี บรอ้ ย เพอื่ ใหห้ ยบิ มาเลน่ ได้ง่าย ชว่ ยป้องกันไมใ่ ห้แตกหกั และรักษาของเล่นไมใ่ ห้ สญู หาย ซงึ่ มีวธิ ีการจดั เกบ็ ดังนี้
12 หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 1. จัดหาอุปกรณ์สำ�หรับจัดเก็บ เชน่ ช้นั วางของ กล่อง ลงั ตะกรา้ หรือถุง 2. จดั กลมุ่ ของเลน่ โดยแยกออก เปน็ ประเภท เช่น ตกุ๊ ตา รถของเลน่ เกม ลกู บอล บล็อกไม้ 3. จดั วางของเลน่ ไวบ้ นชั้น เกบ็ ใส่ตู้ หรือเกบ็ ใส่กลอ่ ง การเกบ็ ของเลน ใสตู นานา นา่ รู้ การจัดเก็บของเล่นที่แยกส่วนได้ เช่น ภาพตัดต่อ(จ๊ิกซอว์)� เกมตอ่ บล็อกควรเกบ็ ใส่ถงุ รวมกนั เปน็ ชดุ 3.3 การจัดเกบ็ ภาชนะใสอ่ าหาร เมอื่ รบั ประทานอาหารเสรจ็ แลว้ ควรจดั เกบ็ ถว้ ย จาน รวมทงั้ ช้อนส้อมและแก้วน้ำ� เพ่ือนำ�ไปล้างทำ�ความสะอาดและจัดเก็บ� โดยปฏิบตั ดิ งั นี้ 1. รวบรวมภาชนะใส่อาหาร โดยแยกแก้วไว้ต่างหากและไม่วาง แก้วซอ้ นกัน
หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 13 2. ใช้ช้อนกวาดเศษอาหารใน จานใส่ถุงหรือภาชนะรองรับ รวบ ชอ้ นและส้อมวางไว้ในจานหรอื ถว้ ย 3. ยกภาชนะใสอ่ าหารไปลา้ งที่ อ่างล้างจาน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ปกครอง จะเปน็ คนทำ�เพราะเราเปน็ เดก็ อาจทำ� ภาชนะหลุดมอื หล่นแตกได้ 4. นำ�ถ้วย จาน ท่ีลา้ งแล้วไปควำ่ �บนทีค่ ว่ำ�จาน ผ่ึงแดดให้ แห้ง แล้วเก็บเขา้ ทใ่ี หเ้ รียบรอ้ ย กิจกรรมการเรยี นร.ู้ ..สู่ปฏบิ ตั ิ 1. นกั เรยี นจับคูก่ ับเพื่อนเลือกของใชส้ ว่ นตวั 1 อย่าง แล้วเล่า� วธิ กี ารจัดเก็บของใชน้ นั้ ๆ 2. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4–5 คน ส่งตวั แทนกลมุ่ ออกไป แสดงบทบาทสมมตุ ิเกยี่ วกับวธิ ีการจัดเกบ็ ภาชนะใส่อาหาร
14 หนังสือเรยี น รายวชิ าพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 4. การจัดโต๊ะ ตู้ และชน้ั การจัดโตะ ตู และชน้ั วางของในบานควรคำ�นึงถึงความเปน ระเบียบ ความสะดวก และความสวยงาม 4.1 การจดั โตะ๊ เขยี นหนังสอื ตู้ และช้ันวางหนังสือ การจัดโตะ๊ เขียนหนังสือ มวี ิธีการดงั น้ี 1. ตง้ั โตะ๊ เต้ยี ๆ บนพื้นทมี่ ุมห้อง ตง้ั ตู้หรอื ช้ันวางหนงั สือไว้ ขา้ ง ๆ หรือวางหนงั สือและสมดุ บนโตะ๊ โดยมที ่กี น้ั หนงั สือกน้ั ไว้ การจัดโตะ๊ เขยี นหนงั สือที่เหมาะสม 2. ถา้ บา้ นมพี นื้ ทก่ี วา้ งขวางควรตงั้ โตะ๊ และเกา้ อใ้ี นมมุ ทม่ี แี สง สวา่ งโดยใหแ้ สงสอ่ งเขา้ ทางซา้ ยมือ 3. ควรมโี คมไฟเล็ก ๆ ตั้งไวท้ ี่โต๊ะ เพ่อื ให้มีแสงสว่างเพยี ง พอสำ� หรบั การอา่ นหรอื เขียนหนังสือในเวลากลางคืน
หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 15 4. ถา้ มตี หู้ รอื ชนั้ ควรใชท้ กี่ น้ั หนงั สอื จดั หนงั สอื และสมดุ แยก กนั โดยหนั สนั หนงั สอื ออก เพอื่ ใหค้ น้ หาหรอื หยบิ หนงั สอื ไดส้ ะดวก 5. ควรมถี งั ขยะไว้ข้าง ๆ โต๊ะสำ�หรบั ทิ้งเศษขยะ นานา นา่ รู้ บนโตะ๊ เขยี นหนงั สอื อาจตั้งแจกันหรือกระถางต้นไมเ้ ลก็ ๆ เพอ่ื เพ่ิมสสี ันใหก้ ับโตะ๊ และใช้เปน็ ท่ีพกั สายตา การจัดช้ันวางหนงั สอื มีวธิ ีการดงั นี้ 1) จัดหาชนั้ วางหนังสือ 2) แยกประเภทของ หนังสือ เช่น หนังสือเรียน หนังสือ การต์ ูน 3) จดั หนงั สอื เขา้ ตหู้ รอื ชนั้ วาง หนงั สอื โดยแยกเปน็ กลมุ่ วางเรยี งตาม ขนาดจากเล่มเล็กไปเล่มใหญ่และหัน สนั ปกออกดา้ นนอก เพอื่ ใหห้ ยบิ ใชไ้ ด้ สะดวก
16 หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 ถา้ ไม่มีชัน้ วางหนังสอื กค็ วรจัดหนงั สอื ใส่กล่องโดยเขยี นชอื่ บอกประเภทของหนงั สอื ไวด้ า้ นหนา้ กล่อง 4.2 การจัดตหู้ รอื ชัน้ วางรองเท้า รองเทา้ เปน็ เครอ่ื งแตง่ กายทจ่ี ะตอ้ งจดั เกบ็ ไวใ้ นตหู้ รอื วางบนชน้ั วางรองเทา้ ใหเ้ รยี บรอ้ ย เพอ่ื ใหห้ ยบิ ใชไ้ ดส้ ะดวก โดยจดั เกบ็ ดงั น้ี 1. จดั ชน้ั วางรองเทา้ ไว้ชิดผนังใกลก้ บั ประตทู างเขา้ –ออกของ บา้ น ซง่ึ เปน็ ทท่ี ร่ี ะบายอากาศไดด้ ี 2. ควรแยกชน้ั วางรองเทา้ โดยจดั เปน็ พวก ๆ ไดแ้ ก่ รองเทา้ สำ�หรบั ใสไ่ ป โรงเรยี นและรองเทา้ สำ�หรบั ใสอ่ ยบู่ า้ น อนง่ึ กอ่ นเขา้ บา้ นควรถอดรองเทา้ เคาะเศษดนิ ออก แลว้ นำ�ไปวางบนชน้ั วางรองเทา้ ใหเ้ ปน็ ระเบยี บ กจิ กรรมการเรยี นรู.้ ..สปู่ ฏิบตั ิ 1. นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกวธิ กี ารจดั เกบ็ รองเทา้ ในภาพ แลว้ รว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น 2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 3–4 คน จบั สลากเลือกวธิ กี ารจัด โต๊ะเขียนหนังสอื ตู้ หรอื ชนั้ วางหนงั สือ กล่มุ ละ 1 อย่าง แลว้ ร่วม กนั เสนอแนะวิธีการจดั ใหเ้ พ่ือน ๆ ในชัน้ เรียน
หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 17 การท�ำ งานเพื่อชว่ ยเหลือตนเอง เรยี นร้เู ก่ยี วกบั การแต่งกายดว้ ยตนเอง การดแู ลรักษาเส้อื ผา้ เส้อื ผ้าและเครอ่ื งแต่งกาย แบ่งเป็น ดแู ลรักษาขณะสวมใส่ มปี ระโยชนด์ ังน้ี ควรระมดั ระวัง เชน่ ช่วยปกปดิ ร่างกาย ช่วยใหร้ า่ งกายอบอุน่ ขณะช่วยแม่ทำ�งาน ช่วยปอ้ งกันผวิ หนงั ขณะรับประทานอาหาร ชว่ ยปอ้ งกนั อนั ตรายหรอื เช้ือโรค ขณะเล่น ดูแลรกั ษาเมือ่ สวมใส่แล้ว วธิ กี ารแตง่ กายด้วยตนเอง ควรปฏิบตั ดิ งั น้ี ปฏิบตั ิดังนี้ ถอดเส้อื ผ้าด้วยความระมัดระวงั อาบนำ้ � ผง่ึ แดดหรอื นำ�ไปซกั เชด็ ตัวและทาแปง้ ซ่อมแซมสว่ นท่ชี ำ�รุด สวมชุดช้นั ในและเสือ้ ผา้ หวผี มและตรวจความเรยี บรอ้ ย การจดั เกบ็ ของใชส้ ่วนตวั การแตง่ กายใหเ้ หมาะกับฤดูกาล แบ่งเปน็ แบง่ เปน็ โดย สวมใส่เส้ือกันฝน การจัดเกบ็ อปุ กรณ์การเรยี น ฤดูฝน เชน่ กางร่ม ฤดูหนาว โดย สวมใส่เสื้อผ้าหนา ๆ หนังสอื และสมดุ สวมเส้ือกันหนาว เครอ่ื งเขียน ใช้ผ้าพันคอ ถุงเท้า การจัดเก็บของเลน่ ฤดูรอ้ น โดย สวมใสเ่ นอ้ื ผา้ เนอื้ บาง โดย ตวั หลวม กางเกงขาสั้น สวมหมวก จดั หาอปุ กรณ์สำ�หรับจัดเกบ็ จดั กลุ่มของเลน่ แลว้ จดั เกบ็ การแต่งกายให้หมาะสม การจัดเก็บภาชนะใสอ่ าหาร กับโอกาสและสถานท่ี โดย รวบรวมภาชนะใส่อาหาร กวาดเศษอาหารท้งิ ลา้ ง คว่ำ� แบง่ เปน็ และจดั เก็บ เมอื่ อยทู่ บ่ี ้าน โดย แตง่ กายตามสบาย การจดั โตะ๊ ตู้ และชนั้ เมื่อไปโรงเรียน โดย แตง่ ชดุ นกั เรียน เมื่อไปเที่ยว โดย แต่งให้เหมาะสมกับสถานที่ การจดั โตะ๊ เขียนหนงั สือ การจัดชน้ั วางหนงั สอื โดย หาทีต่ ้ังโตะ๊ ในมมุ ท่มี แี สงสว่าง และต้งั โคมไฟฟา้ ไวบ้ นโต๊ะ แยกประเภทหนังสอื โดย การจัดต้หู รือชน้ั วางรองเทา้ และจัดวางเรยี งตามขนาด โดย จัดวางไว้ชดิ ผนงั ใกล้ประตู แยกชัน้ วางรองเท้าเปน็ พวก ๆ
18 หนังสอื เรียน รายวชิ าพืน้ ฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1 กจิ กรรมเสนอแนะ กจิ กรรมเน้นผเู้ รียนเปน็ สำ�คญั 1. นักเรียนสำ�รวจเส้ือผ้าและเครื่องแต่งกายของตนเองว่ามี อะไรบา้ ง จะสวมใส่เมื่อไร และใสไ่ ปที่ไหน แลว้ บนั ทกึ ผล 2. นักเรียนสังเกตการแต่งกายของสมาชิกในครอบครัวของ ตนเอง และเลอื กการแตง่ กายของสมาชกิ ทช่ี อบมากทส่ี ดุ พรอ้ มกบั บอกเหตผุ ลประกอบ 3. นักเรียนสอบถามผู้ปกครองเกี่ยวกับการจัดเก็บของใช้� สว่ นตวั สรุป และนำ�มาเลา่ ใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟงั โครงงาน ใหน กั เรยี นเลอื กทำ�โครงงานจากหวั ขอ ทก่ี ำ�หนดให 1 โครงงาน หรอื อาจทำ�โครงงานอื่นทน่ี กั เรียนสนใจ โดยเลอื กเรื่องทเ่ี กยี่ วขอ ง กบั เน้อื หาท่เี รียน หัวขอ โครงงาน 1. ทำ�สมดุ ภาพการแตง่ กายของคนไทย 2. วาดภาพเสอ้ื ผา้ หรอื เคร่อื งแตง่ กายตามจนิ ตนาการ หมายเหตุ โครงงานที่เลือกตามความสนใจควรไดรับคำ�แนะนำ�และความเห็นชอบจาก� ครทู ป่ี รกึ ษากอ นดำ�เนนิ การ และประเมนิ ผลโดยคร/ู ผปู กครอง/กลมุ เพอื่ นในดา้ นกระบวนการทำ�งาน รวมทั้งนักเรียนควรมีการแลกเปล่ียนความคิดเห็นและสรุปผล กอนพิจารณาเก็บรวบรวมไวใน� แฟม สะสมผลงาน
หนังสือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป. 1 19 การประยุกต์ใช้ ถา นกั เรยี นจะไปเทย่ี วทะเลกบั ผปู กครองในวนั ทม่ี อี ากาศรอ น นกั เรียนจะเลอื กแตงกายชดุ ใด วาดภาพและระบายสีใหสวยงาม คำ�ถามทบทวน 1. ยกตวั อย่างงานท่ีนักเรยี นปฏบิ ัตไิ ดด้ ้วยตนเองมา 2 อย่าง 2. เสอื้ ผ้าและเครื่องแตง่ กายแตกต่างกันอย่างไร 3. เสอ้ื ผ้าและเคร่ืองแตง่ กายมีประโยชนต์ ่อเราอย่างไร 4. ถ้าตอ้ งการไปออกกำ�ลงั กายควรแต่งกายอยา่ งไร 5. ในฤดูฝน นักเรียนควรนำ�ของใช้ใดไปโรงเรียนด้วย เพราะ อะไร 6. ผา้ พนั คอควรนำ�มาใชใ้ นฤดูใด 7. เพราะเหตุใดจงึ ต้องดูแลรกั ษาเสือ้ ผา้ 8. เสื้อผา้ ท่ีสวมใสแ่ ลว้ ควรทำ�อย่างไร 9. ถา้ พบว่ากระดมุ เสื้อหลุดนกั เรยี นควรปฏิบัติอยา่ งไร 10. การจดั เก็บของใชส้ ่วนตัวมีประโยชนอ์ ย่างไร 1 1. เม่ือใช้ของใชส้ ่วนตวั แล้วควรทำ�อย่างไร 1 2. เมอ่ื รับประทานอาหารเสรจ็ แลว้ ควรทำ�อยา่ งไร
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: