1 บทที่ 1 บทนา ท่ีมาและความสาคัญ ในปัจจุบนั ประชาชนสว่ นใหญ่มักเป็นโรคไข้เลอื ดออกไมว่ า่ จะเปน็ เดก็ หรือผใู้ หญ่ โรค ไขเ้ ลอื ดออกเกิดจากยงุ ที่เป็นพาหะนาโรคท่เี ป็นอนั ตรายต่อมนษุ ย์ จึงไดม้ ผี ู้คิดค้นส่งิ ท่ี ช่วยในการกาจดั และปอ้ งกันยงุ เชน่ ครีมทากันยุง ยาฉีดกนั ยงุ ยาจดุ กนั ยงุ เปน็ ต้น จาก การศกึ ษาพบวา่ ส่งิ เหลา่ น้อี าจจะมีสารเคมีเป็นส่วนผสมอยู่ ซ่ึงอาจทาให้ผบู้ รโิ ภคเกิด อาการแพ้ได้ในเวลาตอ่ มา จึงไดน้ าสมุนไพรมาเป็นส่วนผสมในเทียนหอมเพื่อไล่ยงุ เพราะกลนิ่ สมนุ ไพรที่ได้นา้ มนั หอมระเหยท่ีเรียกรวมๆว่า Essential oil ซงึ่ ประกอบด้วย สารหลายตวั ยุงจงึ ไมช่ อบกล่นิ สมนุ ไพรทไี่ ดม้ าทา และก็เป็นการทดสอบวา่ สมนุ ไพร ชนดิ ไหนจะไลย่ งุ ได้ดกี วา่ กัน ดงั นนั้ คณะผู้จดั ทาจงึ ไดม้ องเห็นปญั หาเหล่านแ้ี ละไดห้ า วิธีการแกไ้ ขจงึ ได้มโี ครงงานเร่อื งเทยี นหอมสมุนไพรไล่ยงุ เพอื่ เป็นการป้องกันยงุ อัน นาไปสโู่ รคภัยได้ และยังเป็นการแปรรปู จากพชื สมนุ ไพรธรรมดาทีม่ ีสรรพคณุ มากมาย ให้กลายเป็นผลิตภณั ฑ์เทยี นหอมไล่ยุง เพอ่ื สามารถทาเปน็ รายได้เสริมให้แก่ตนเองหรอื ครอบครวั ไดค้ ณะผจู้ ัดทาจึงสนใจคิดทาโครงงานนขี้ ึ้นมา วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงาน 1. เพอื่ เปน็ การศึกษาหาสมนุ ไพรท่สี ามารถใช้ป้องกนั ยงุ ได้ 2. เพื่อเปน็ การนาสมุนไพรพนื้ บา้ นมาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ 3. เพอ่ื ทาเทียนหอมสมุนไพรในการใช้ป้องกันยงุ
2 ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับ 1.เทียนหอมท่ีทาจากสมุนไพรพน้ื บา้ นสามารถไล่ยงุ ได้ 2.ทาใหท้ ราบไดถ้ งึ ความเหมาะสมของการนาสมุนไพรมาใช้ไลย่ งุ ได้ 3.สามารถนาวตั ถุดบิ จากท้องถน่ิ มาประยุกตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชนม์ ากขนึ้ สมมติฐาน ขอบเขตของการทาโครงงาน ทาโครงงานเก่ียวกบั เทียนหอมไลย่ ุง โดยทาเทียนหอมจากสมุนไพรพื้นบา้ นโดยสมนุ ไพรทีใ่ ช้คอื ตะไคร้ มะกรูด และโหระพา ตัวแปร ตัวแปรตน้ : ตวั แปรตาม : ตวั แปรควบคมุ : จานวนดอกไม้ เวลาในการอบดอกไม้ แผนการกาหนดเวลาปฏบิ ตั งิ าน 2 สปั ดาห์ ระยะเวลาการดาเนนิ โครงงาน ขัน้ ตอนการ 1-14 สงิ หาคม 15-31 สงิ หาคม 1-14 กนั ยายน 15-30 กนั ยายน ดาเนนิ งาน ปรกึ ษาหวั ขอ้ โครงงาน
3 กนั ภายในกลุ่ม เสนอหวั ข้อโครงงาน รวบรวมข้อมูล วิเคราะหข์ ้อมูล เริม่ จดั ทาโครงงาน ตรวจสอบและแกไ้ ข ปัญหา สรุปผลการทา โครงงาน
4 บทที่ 2 เอกสารที่เกยี่ วขอ้ ง 1.ตะไคร้ ชื่อสมนุ ไพร ตะไครห้ อม ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Cymbopogon nardus ( Linn ) Rendle. ชื่อวงศ์ POACEAE ( GRAMINAE ) ชอ่ื ฟอ้ ง Cymbopogon winterianus Jowitt. ชอ่ื อังกฤษ Citronella grass
5 ชอื่ ทอ้ งถนิ่ จะไคมะกรดู , ตะไครม้ ะกรดู , ตะไครแ้ ดง ลักษณะทางพฤษศาสตร์ พชื ลม้ ลกุ มอี ายหุ ลายปี มีเหงา้ ใต้ดิน ลาต้นตัง้ ตรง ออกเปน็ กอ ม่ีกล่นิ หอม ใบเดี่ยว เรยี งสลบั รูป ยาวแคบ โคนใบแผอ่ อกเปน็ กาบ มีลนิ้ ใหญ่ สีน้าตาลแดง แทงออกจากกลางต้น ใบประดบั ลกั ษณะคลา้ ยกาบ ดอกช่อเชงิ ลด แยกเป็นหลายแขนง ออกเปน็ คู่ ช่อยอ่ ยมีใบประดับที่ โคน 2 ใบใบนอกมีหยัก ด้านนอกแบกขอบแผ่ออกเปน็ ปกึ แคบๆและขอบด้านบนสาก ใบในรปู เรือ ใบแหลมมีเสน้ ตามยาว 1-3 เส้น ขอบมขี น แตล่ ะดอกย่อยมใี บประดับ 2 แผน่ เรียกกาบ บนและกาบลา่ งกาบบนรูปขอบขนาน เนอ้ื บาง ขอบมขี น กาบรา่ งรูปยาว แคบ มีขนแขง็ และ ปลายแหลม ผลเป็นผลแห้งเมล็ดเดยี ว สรรพคณุ ท้งั ตน้ ใช้เป็นยารักษาโรคหืด แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะและแก้อหวิ าตกโรค หรอื ทาเป็นยาทานวดก็ ได้ และยังใช้รวมกบั สมุนไพรชนดิ อืน่ รักษาโรคได้ เชน่ บารงุ ธาตุ เจริญอาหาร และขบั เหง่ือ หวั เป็น ยารกั ษาเกลอื้ น แก้ท้องอดื ท้องเฟ้อ แก้ปสั สาวะพิการ แกน้ ิว่ บารุงไฟธาตุ แก้อาการขดั เบา ถ้าใช้รวม กบั สมุนไพรชนิดอน่ื จะเป็นยาแกอ้ าเจียน แก้ทราง ยานอนหลบั ลดความดนั สูง แกล้ มอัมพาต แก้ กษัยเส้น และแก้ลมใบ ใบสด ๆ จะช่วยลดความดนั โลหติ สงู แกไ้ ข้ ราก ใชเ้ ป็นยาแกไ้ ข้เหนอื ปวด ท้องและท้องเสีย ต้น ใช้เปน็ ยาแก้ขบั ลม แก้เบ่ืออาหาร แก้ผมแตก แก้โรคทางเดินปัสสาวะ นว่ิ เป็น ยาบารงุ ไฟธาตใุ ห้เจริญ แต่ถา้ เอาผสมกบั สมนุ ไพรชนดิ อ่ืน จะแกโ้ รคหนองใน และนอกจากนย้ี ังใช้ ดับกลน่ิ คาวดว้ ย การปลกู และขยายพนั ธุ์
6 ปลูกได้การปกั ชาต้นเหงา้ โดยตดั ใบออกให้เหลือตอนโคนประมาณหน่ึงคืบ นามาปักชาไวส้ ัก หนึ่งสัปดาหก์ จ็ ะมรี ากงอกออกมา แล้วนาไปลงแปลงดนิ ท่เี ตรยี มไว้ หรอื อาจใชว้ ิธีเอาโคนปัก ลงไปทีด่ นิ ซง่ึ เตรียมไว้เลย ใหห้ า่ งประมาณหนงึ่ ศอก ถา้ ปลูกในกระถางใชว้ ธิ ีปกั โคนลงใน กระถางๆละ 2-3 ต้นกไ็ ด้ แลว้ หม่ันรดนา้ ให้ชุม่ เชา้ เยน็ ตงั้ ไวใ้ หโ้ ดนแดดตลอดวนั จะทาให้โตได้ เรว็ ตะไครช้ อบดนิ ร่วนซุย เปน็ พืชที่ชอบนา้ ชอบแดด ดูแลรดน้าเสมอและโดนแดดไดต้ ลอดวนั เจรญิ ไดใ้ นดนิ แทบทุกชนิด เวลาจะใช้ก็ใหต้ ัดทโี่ คนสดุ สว่ นรากเลย แลว้ ถอนออกมาท้งั ตน้ ตาม ต้องการ ตอ้ งคอยตรวจดูเมอ่ื ตะไครม้ กี อเจริญเติบโตได้เต็มที่แล้ว ตอ้ งถอนท้ิงหรอื แยกออกไป ปลูกใหม่บา้ งหรือเอาไปใชบ้ ้าง จะนามาหน่ั เปน็ ฝอยๆ ตากลมไวใ้ หแ้ ห้งสนทิ แลว้ แพ็คเกบ็ ไว้ ใชไ้ ดน้ านๆ เพ่อื ให้ต้นออ่ นโตขนึ้ มาใหม่ ถ้าไมแ่ ยกออกไปต้นจะเล็กและลีบลงเร่อื ยๆ และบาง ที่ก็แคระแกรน็ ต้นและกอกจ็ ะโทรม ตอ้ งล้างและปลกู ใหม่ท้งั หมดเปล่ยี นเปน็ การแตกหน่อทา ใหก้ ารปลูกและการขยายพันธไ์ ดง้ า่ ย ฤทธิ์ทางเภสัชวทิ ยา ฤทธิ์ในการไล่ยงุ และแมลง นา้ มนั ตะไคร้หอม (citronella oil) ซ่ึงเปน็ น้ามันหอมระเหยสกดั จากต้นตะไครห้ อมสามารถ ใช้ไลแ่ มลงได้ สามารถปอ้ งกันยงุ ลาย ยุงก้นปอ่ งและยงุ ราคาญกัดได้นานประมาณ 2 ช่วั โมง ครมี ท่ีมีสว่ นผสมของน้ามนั หอมระเหยจากตะไครห้ อมร้อยละ 14 สามารถทาป้องกนั ยงุ ได้ ป้องกันยงุ ราคาญไดใ้ นอาสาสมคั ร 13 คน จากทั้งหมด 20 คน และมีประสทิ ธิภาพในการ ป้องกนั ยุงกัดไดน้ าน 2 ชว่ั โมง ซึ่งใกล้เคียงกับครีมจากสารสังเคราะห์ ( dimethyl phatate รอ้ ยละ20 และ diethyl toluamideรอ้ ยละ 5 ) ครมี ที่มีน้ามนั จากใบตะไครห้ อม ความ เข้มขน้ รอ้ ยละ 1.25,2.5 และ 5 มี่ประสิทธิภาพในการปอ้ งกนั ยงุ ก้นป่องไดน้ าน 2 ชัว่ โมง และมี ความเข้มขน้ ร้อยละ 10จะปอ้ งกนั ไดม้ ากกว่า 4 ช่ัวโมง ตารับครมี ท่มี สี ่วนผสมของนา้ มนั ข่า ร้อยละ 5 นา้ มันตะไครห้ อม รอ้ ยละ 2.5 และวานลิ ลนิ รอ้ ยละ 0.5 มี่ประสิทธิภาพในการป้องกนั ยงุ กัดได้นานกว่า 6 ชัว่ โมง
7 นา้ มันหอมระเหยจากตะไครห้ อม สามารถปอ้ งกันยงุ ที่เปน็ พาหะของโรค มาลาเรีย ไข้เลอื ดออก และเท้าชา้ งได้นาน 8-10 ชวั่ โมง ความเขม้ ข้นทใี่ ห้ผลปอ้ งกนั ยงุ ลาย ไดร้ อั ยละ0.031 และ 5.259 ตามลาดบั น้ามันหอมระเหยทีเ่ ข้มขน้ ร้อยละ 1 สามารถปอ้ งกันยงุ กดั ได้ 75.19 สารสกัดด้วยเอทานอลรอ้ ยละ 90 จากตะไครห้ อม และสารสกดั ตะไครห้ อมทผี่ สมกบั นา้ มนั มะกอกและนา้ มันหอมระเหยกลิ่นชะมดเชด็ เมอ่ื นามาทดสอบกับยงุ ลายและยงุ ราคาญตัวเมีย จะ มีประสิทธภิ าพในการไล่ยุงไดน้ านประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากน้ยี ังมีผลในการควบคุมและ กาจดั ลกู นา้ ยงุ ได้ด้วย น้ามนั หอมระเหยจากตะไคร้หอมมคี วามเขม้ ขน้ ร้อยละ 10 มีฤทธิ์ไลต่ ัวอ่อนของเหบ็ ได้ นานถึง 8 ช่วั โมง และสามารถไลต่ วั ออ่ นของเห็บพนั ธุ์ Ambiyomma cajennense ได้ดว้ ย คา่ 0.089 และ 0.343 มิลลิกรัม/ตารางเซ็นตเิ มตร และทีค่ วามเข้มขน้ 1.1 มลิ ลกิ รัม/ตาราง-เซน็ ตเิ มตร ไล่ตวั ออ่ นของ เหบ็ ร้อยละ 90 นาน 35 ช่ัวโมงนอกจากนีย้ งั มีฤทธ์ิไลแ่ มลงทที่ าลายเมลด็ ขา้ วท่เี ก็บไว้ โดยไม่มี ผลต่อคณุ ภาพของขา้ ว นอกจากตะไคร้หอมยงั มฤี ทธ์ไิ ล่แมลงวัน ผเี ส้ือกลางคนื และพวกแมลง บินตา่ งๆได้ด้วย ฤทธฆิ์ า่ แมลง นา้ มนั หอมระเหยจากตะไคร้หอมมฤี ทธ์ฆา่ ตวั ออ่ นของยุงกน้ ป่องและยงุ ราคาญได้ โดย ระยะเวลาทีต่ ัวออ่ นตายครึง่ หนึง่ เท่ากับ 1.2 และ นอ้ ยกวา่ 0.2 นาที ตามลาดบั และมฤี ทธ์ปิ ้องกนั การวางไข่ด้วงถ่ัว สามารถฆา่ ดว้ งถวั่ และแมลงวนั ได้ สารสกดั ตะไคร้หอมท่คี วามเขม้ ข้น 100 สว่ นในลา้ นส่วน จะให้ผลนอ้ ยมากในการควบคุม แมลงศตั รูกะหลา่ แตจ่ ะมีผลทาให้ไรแดงกหุ ลาบตายร้อยละ 95 ภายใน 20.70ช่วโมง นอกจากน้ี สารสกัดดว้ ยเอทานอลร้อยละ 10 จากตน้ ตะไครห้ อมแหง้ 50 กรัม/ลิตร จะมผี ลดีในการลด
8 ปริมาณของหมดั กะโดด ซึ่งเปน็ แมลงศัตรูคะน้า แตม่ ีแนวโนม้ ที่จะทาให้น้าหนักของคะนา้ ลดลง แชมพทู ีม่ สี ว่ นผสมของสารสกดั ตะไคร้หอม สามารถฆา่ เหบ็ หมดั ในสตั ว์เล้ียงได้ สารสกัด ตะไครห้ อมผสมกบั สารสกัดจากเมลด็ สะเดาและขา่ ในสดั ส่วน 10 มลิ ลิลิตร/น้า 1ลติ ร มีผลลด การเข้าทาลายของเพล้ียอ่อนและหนอนเจาะฝกั ซงึ่ เป็นแมลงศตั รูถ่ัวฝักยาว แตไ่ ม่สามารถ ควบคมุ การเขา้ ทาลายของแมลงวันเจาะต้นถ่วั ได้ 2. พาราฟีน พาราฟิน หรือ เคโรซีน เป็นผลิตภัณฑป์ โิ ตรเลียมซ่งึ กลนั่ แยกออกจากน้ามันดิบ จดุ หลอมเหลว ประมาณ 47-64 องศาเซลเซียส จุดเดือดประมาณ 150-275 องศาเซลเซียส ไมล่ ะลายในน้า สามารถใช้ประโยชนไ์ ดม้ ากมาย และ มหี ลายสถานะดว้ ยกนั
9 แกส๊ ใช้เป็นเชื้อเพลงิ ของเหลวใ ช้เป็นเชื้อเพลิง ของแขง็ (ในรปู ขผ้ี ึง้ ) ใช้ ผลติ เทยี น สรรพคุณของสมนุ ไพรทนี่ ามาศกึ ษา ตะไคร้ ตะไคร้ ชื่อสามัญ Lemongrass ตะไคร้ ชือ่ วิทยาศาสตร์ Cymbopogon citratus (DC.) Stapf จัดอยูใ่ นวงศห์ ญา้ (POACEAE หรอื GRAMINEAE) ตะไคร้จดั เปน็ พชื ลม้ ลุกตระกูลหญ้า ใบมีลกั ษณะเรยี วยาว ปลายใบมขี นหนาม เปน็ สมนุ ไพรไทยชนดิ หน่งึ ที่นยิ มนามาประกอบอาหาร โดย ตะไคร้แบ่งออกเป็น 6 ชนิด ได้แก่ ตะไครห้ อม ตะไครก้ อ ตะไครต้ ้น ตะไครน้ ้า ตะไคร้หางนาค และตะไคร้หางสิงห์ ซึ่งเป็นสมนุ ไพรไทยท่ี นยิ มปลูกท่วั ไปในบา้ นเรา โดยมีถ่ืนกาเนดิ ในประเทศอนิ เดีย อินโดนเี ซีย พม่า ศรลี ังกา และไทย ตะไคร้เปน็ ทัง้ ยารกั ษาโรคและยงั มวี ิตามนิ และแร่ธาตุทม่ี ปี ระโยชน์ตอ่ ร่างกายอกี ดว้ ย เช่น วติ ามินเอ ธาตแุ คลเซียม ธาตุฟอสฟอรสั ธาตเุ หลก็ ฯลฯ สรรพคุณของตะไคร้
10 1. มีส่วนช่วยในการขับเหงอ่ื 2. เปน็ ยาบารุงธาตไุ ฟให้เจริญ (ตน้ ตะไคร)้ 3. มสี รรพคณุ เป็นยาบารุงธาตุ ช่วยในการเจรญิ อาหาร 4. ชว่ ยแกอ้ าการเบือ่ อาหาร (ตน้ ) 5. สารสกัดจากตะไคร้มสี ่วนชว่ ยในการปอ้ งกันโรคมะเรง็ ลาไส้ใหญ่ 6. แก้และบรรเทาอาการหวดั อาการไอ 7. ช่วยรกั ษาอาการไข้ (ใบสด) 8. ใชเ้ ป็นยาแกไ้ ข้เหนอื (ราก) 9. น้ามันหอมระเหยของใบตะไคร้สามารถบรรเทาอาการปวดได้ 10. ชว่ ยแกอ้ าการปวดศรี ษะ 11. ช่วยรกั ษาโรคความดนั โลหิตสูง (ใบสด) 12. ใชเ้ ป็นยาแก้อาเจียนหากนาไปใชร้ ว่ มกบั สมนุ ไพรชนิดอ่ืน ๆ (หัวตะไคร)้ 13. ชว่ ยแก้อาการกษยั เสน้ และแก้ลมใบ (หวั ตะไคร)้ 14. รกั ษาโรคหอบหืดด้วยการใชต้ น้ ตะไคร้ 15. ชว่ ยแกอ้ าการเสียดแนน่ แสบบริเวณหนา้ อก (ราก) 16. ใช้เปน็ ยาแก้อาการปวดทอ้ งและอาการทอ้ งเสยี (ราก) 17. ช่วยแก้และบรรเทาอาการปวดทอ้ ง 18. ชว่ ยรกั ษาอาการทอ้ งอดื ท้องเฟอ้ (หวั ตะไคร)้ 19. ช่วยในการขับนา้ ดมี าชว่ ยในการยอ่ ยอาหาร 20. นา้ มนั หอมระเหยจากตะไครม้ ีส่วนชว่ ยลดการบีบตัวของลาไสไ้ ด้ 21. มฤี ทธิ์ชว่ ยในการขบั ปัสสาวะ 22. ช่วยแก้อาการปสั สาวะพิการและรักษาโรคนว่ิ (หัวตะไคร)้ 23. ช่วยแกอ้ าการขดั เบา (หัวตะไคร้) 24. ใช้เปน็ ยาแกข้ ับลม (ตน้ ) 25. ช่วยรกั ษาอหิวาตกโรค 26. ชว่ ยแก้ลมอัมพาต (หัวตะไคร้) 27. ใช้เปน็ ยารกั ษาเกล้อื น (หัวตะไคร้) 28. นา้ มันหอมระเหยจากตะไคร้ สามารถช่วยตอ่ ตา้ นเชื้อราบนผวิ หนังได้เปน็ อย่างดี 29. ช่วยแกโ้ รคหนองใน หากนาไปผสมกบั สมุนไพรชนดิ อนื่ ๆ ประโยชนข์ องตะไคร้ 1. นามาใชท้ าเปน็ น้าตะไคร้หอม นา้ ตะไครใ้ บเตย ช่วยดบั รอ้ นแกก้ ระหายไดเ้ ปน็ อยา่ งดี 2. ช่วยในการบารุงและรักษาสายตา 3. มีสว่ นชว่ ยในการบารงุ กระดกู และฟันให้แขง็ แรง 4. มีส่วนชว่ ยในการบารุงสมองและเพ่ิมสมาธิ 5. สามารถนามาใช้ทาเป็นยานวดได้ 6. ชว่ ยแก้ปัญหาผมแตกปลาย (ต้น)
11 7. มีฤทธ์เิ ป็นยาชว่ ยในการนอนหลบั 8. การปลกู ตะไครร้ ว่ มกบั ผกั ชนดิ อ่ืน ๆ จะช่วยปอ้ งกนั แมลงได้เปน็ อย่างดี 9. นามาใชเ้ ปน็ สว่ นประกอบของสารระงบั กลนิ่ ต่าง ๆ 10. ต้นตะไครช้ ่วยดับกล่ินคาวหรือกลนิ่ คาวของปลาได้เปน็ อย่างดี 11. กล่ินหอมของตะไครส้ ามารถช่วยไล่ยงุ และกาจดั ยงุ ได้เปน็ อย่างดี 12. เปน็ สว่ นประกอบของผลิตภัณฑจ์ าพวกยากันยุงชนิดตา่ ง ๆ เช่น ยากนั ยุงตะไคร้หอม 13. สามารถนาไปแปรรปู เปน็ ผลิตภณั ฑ์ได้หลายชนิด เชน่ เครื่องปรุงอบแหง้ ตะไคร้แห้งสาหรบั ชงดื่ม นามาสกดั เปน็ นา้ มนั หอมระเหย เปน็ ต้น 14. มกั นยิ มนามาใชใ้ นการประกอบอาหารหลายชนดิ เชน่ ต้มยา และอาหารไทยอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ คณุ คา่ ทางโภชนาการของตะไคร้ ( 100 กรมั ) พลงั งาน 143 กิโลแคลอร่ี โปรตนี 1.2 กรัม ไขมนั 2.1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 29.7 กรมั เสน้ ใย 4.2 กรัม แคลเซยี ม 35 มลิ ลกิ รมั ฟอสฟอรสั 30 มิลลกิ รัม เหล็ก 2.6 มลิ ลกิ รัม วติ ามินเอ 43 ไมโครกรมั ไทอามนี 0.05 มิลลิกรัม ไรโบฟลาวนิ 0.02 มลิ ลกิ รมั ไนอาซนิ 2.2 มลิ ลกิ รัม วติ ามินซี 1 มลิ ลกิ รมั เถา้ 1.4 กรัม
12 บทท่ี 3 วิธีการดาเนินงาน วตั ถุดิบ/อุปกรณ์ สิ่งของตอ้ งเตรียม 1. สมุนไพรไลย่ งุ เชน่ ตะไคร้ มะกรดู โหระพา 2. เทยี น 3. ไสเ้ ทียน 4. เเมพ่ มิ พ์ 5. อุปกรณ์ในการตัง้ ไฟ เช่น เตาเเกส๊ 6. หมอ้ 7. สีผสมอาหาร สตี ่างๆ 8. ภาชนะ ขัน้ ตอนการทาเทียนหอม 1. ตม้ นา้ ประมาณ 1 แก้วนา้ ท้งิ ไว้ 10 นาที 2. นาสมุนไพรไลย่ งุ ทเี่ ตรียมไว้ มาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วตาใหล้ ะเอยี ด
13 3. พอน้าเดือดพอทีแ่ ล้ว นาสมุนไพรที่เราตาไว้ มาใส่ลงในหมอ้ คนให้เขา้ กัน ประมาณ 3 นาที 4. ครบ 3 นาที รอให้เยน็ ลงสกั ครู่ นาน้าท่ีตม้ ไปกล่ันเอาเศษสมุนไพรออกเอาแต่น้า เท ลงภาชนะไว้ 5. นาเทียนไขซอยเปน็ ชิ้นเล็กๆ แลว้ นาไปตม้ ในหมอ้ 6. พอเทยี นไขในหมอ้ เหลวไดท้ ี่ นาน้าสมุนไพรท่ีกล่ันแล้วในภาชนะใสล่ งไป คนให้ เขา้ กนั 7. นาไส้เทยี นมากดลงไปเเต่ไมใ่ หถ้ ึงกน้ ของเเมพ่ มิ พ์ จากนน้ั ใสเ่ ทียนเหลวอีกจนเกือบ เต็มเเม่พิมพ์ 8. ปล่อยทิ้งไว้ใหเ้ ทียนแขง็ ตัว เปน็ อนั เสรจ็ สมบูรณ์ วธิ ีทา 1. นากลีบดอกไม้สดไปตากจนแห้งสนิท (ราว 1 สัปดาห์) ดอกกุหลาบควรตากในท่ีร่ม จะได้สี สวย ดอกมะลคิ วรตากแดดใหห้ มดความชน้ื 2. นาดอกไม้แหง้ ใสห่ ม้อเคลือบหรือโถแกว้ 3. จุดเทียนอบจนไส้เทียนแดงจัด ดับเทียน ควันเทียนจะลอยฟุ้งขึ้นมา วางเทียนบนตะคัน ใส่ ในหม้อดอกไม้แห้ง แล้วปิดฝาร่าไว้จนหมดควัน ราว 10 – 15 นาที แล้วนาเทียนออกมาจุด ใหม่ ซ้าๆ 5 – 7 ตั้ง (ครั้ง) จนดอกไมซ้ บั กลนิ่ หอมนวลอยา่ งเตม็ ท่ี 4. นาน้าอบทเี่ ราได้เตรยี มไว้ ฉดี พรมบนดอกไม้แหง้ คลุกเคล้าใหเ้ ขา้ กัน พักไว้ 5.บรรจุดอกไม้แหง้ ใส่ถงุ ผ้าโปรง่ หรือถุงลูกไม้ และเยบ็ ตกแต่งดว้ ยริบบ้นิ หรือด้นิ ทอง
14 วิธกี ารทดลอง 1 .นาใบตะไคร้ไปตากแดด 2. หัน่ ใบตะไครต้ ากแหง้ เปน็ ชน้ิ เลก็ ๆ
15 3. นาไปตะไคร้ตากแหง้ ไปต้มในนา้ เดอื ด 4. กรองนา้ ตะไคร้ด้วยผา้ ขาวบาง
16 5. หน่ั พาราฟนิ เปน็ ชนิ้ เลก็ ๆ 6. นาพาราฟินทห่ี น่ั แลว้ ใส่หม้อขนึ้ ต้งั ความรอ้ นปานกลาง เคี้ยวไปจนละลายเปน็ ของเหลว
17 7. ใส่ S.A และ P.E ลงไปอย่างละประมาณ 1 ชอ้ นชา เสรจ็ แลว้ ใสส่ ีเทยี นลงไป พอประมาณ แลว้ ตามดว้ ยนา้ ตะไคร้หอม 8. นาพาราฟินทลี่ ะลายแล้วใสแ่ ม่พิมพแ์ ละใส้เทยี นลงไป
18 9. แกะเทยี นออกจากแมพ่ มิ พแ์ ละตกแตง่ ใหส้ วยงา 10. ทากล่องบรรจุภณั ฑ์
19 บทที่ 4 ผลการจดั ทาโครงงาน จากการศกึ ษาการทาโครงงานเทียนหอมไล่ยุงจากสมุนไพรธรรมชาตโิ ดยปฏบิ ัติตามขัน้ ตอน การดาเนนิ การคอื ปรกึ ษาหวั ข้อโครงงานกันภายในกลุม่ เสนอหัวข้อโครงงาน รวบรวมข้อมูล วเิ คราะห์ข้อมลู เร่ิมจดั ทาโครงงานตรวจสอบและแก้ไขปญั หา สรุปผลการทาโครงงาน และไดช้ ิ้นงาน เป็นถงุ เครื่องหอมจากดอกไม้ธรรมชาติออกมาใช้ประโยชน์ คณะผจู้ ดั ทาโครงงานเทียนหอมไลย่ ุงจากสมนุ ไพรธรรมชาติไดท้ าแบบสอบถามความพึงพอใจของ เครอ่ื งหอมจากดอกไม้ธรรมชาติ จากนักเรียนโรงเรียนปวั จานวน 20 คน จากการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล โดยการใช้แบบสอบถามจานวน 20 ชุด สามารถแสดงผลการวิเคราะห์ ขอ้ มูลไดด้ งั ต่อไปน้ี นกั เรยี นโรงเรียนปวั จานวน ( คน ) รอ้ ยละ กลมุ่ ที่ 1 5 25.00 กลมุ่ ท่ี 2 10 50.00 กล่มุ ท่ี 3 3 15.00 กลุ่มที่ 4 2 10.00 รวม 20 100 จากตารางท่ี 4.3 พบวากลุ่มตวั อยา่ งที่ตอบแบบสอบถามในการทาโครงงานครั้งน้ี คิดเป็น กลุ่ม ท่ี 1 ร้อยละ 25 กล่มุ ท่ี 2 รอ้ ยละ 50 กลุ่มที่ 3 ร้อยละ 15 และกลมุ่ ท่ี 4 รอ้ ยละ 10
20 บทที่ 5 สรุปผลและอภปิ รายผลการดาเนินการจัดทาโครงงาน สรุปผลการทดลอง 1.การทาเทยี นหอมสมนุ ไพรทาได้ยาก และมีขน้ั ตอนการทาทีง่ า่ ย 2.ใบตะไคร้ทีใ่ ช้ทาเทียนสมนุ ไพรมคี ุณสมบัติให้กลนิ่ และสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง 3.มขี น้ั ตอนการทาไม่ยากและยงั เป็นการนาพืชสมุนไพรจากทอ้ งถ่ินของเรามาใชใ้ ห้เกิดประโยชนไ์ ด้ ข้อเสนอแนะ 1.สามารถนาสมนุ ไพรพนื้ บา้ นชนดิ อ่ืนมาเปน็ สว่ นผสมได้ 2.การทาเทยี นหอมเราควรนาสมุนไพรที่อบแห้งใสล่ งไปในเน้ือเทยี นหอมด้วย อาจจะได้กล่นิ สมุนไพรมาก ข้นึ 3.ควรนาสมนุ ไพรหลายชนิดมาทาเทียนหอมสมนุ ไพรเพ่ือเปรียบเทียบกล่ินทไ่ี ด้และรับความนยิ ม 4.เราสามารถทาเทยี นหอมสมนุ ไพรเพ่ือเป็นงานอดิเรกและสามารถนามาประกอบอาชีพได้ด้วย
21 บรรณานุกรม http://www.monmai.com/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0% B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A 1/ http://www.medplant.mahidol.ac.th/pubhealth/cymbona.html https://home.kapook.com/view154197.html http://www.clinictech.ops.go.th/online/pages/techlist_display.asp?tid=2 862
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: