Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนเคมี 3

แผนการสอนเคมี 3

Published by กานดา วุฒิเศลา, 2021-05-01 06:31:53

Description: แผนการสอนเคมี 3

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 เร่ือง อัตราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง ความหมายของอตั รา การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี รายวิชา เคมี 3 รหสั วิชา ว 32203 ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 น้ำหนกั เวลาเรยี น 1.5 หนว่ ยกจิ เวลาเรียน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ เวลาท่ีใชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 4 ช่วั โมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. ทดลองและเขยี นกราฟการเพิ่มข้ึนหรือลดลงของสารท่ีทำการวดั ในปฏกิ ิริยา 2. คำนวณอตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี และเขยี นกราฟการลดลงหรอื เพ่ิมขนึ้ ของสารที่ไม่ได้วดั ในปฏิกิรยิ า 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของอัตราการเปลี่ยนแปลงปริมาณสารในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี อัตรา การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี ณ ขณะใดขณะหนง่ึ และอตั ราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมเี ฉลีย่ ได้ (K) 2. อธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างคา่ ความชนั กับอัตราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมขี องสารทีป่ รากฏในกราฟแสดง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งความเขม้ ขน้ ของสารกับเวลาได้ (K) 3. ทำการทดลองเพอ่ื ศกึ ษาการวัดปรมิ าณสารทเี่ กดิ ข้ึนในช่วงเวลาตา่ ง ๆ ในปฏิกริ ิยาระหว่างโลหะ แมกนเี ซยี มกับกรดไฮโดรคลอริกได้ (P) 4. เขยี นกราฟแสดงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งความเข้มขน้ ของสารกับเวลา และคำนวณหาอัตราการเกิดปฏิกิริยา ของสารต้ังต้นกับผลติ ภณั ฑใ์ นช่วงเวลาตา่ ง ๆ รวมทั้งอัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยา ณ ขณะใดขณะหน่งึ จากกราฟ ได้ (P) 5. เขียนความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีกับอัตราการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของสารต่าง ๆ ใน ปฏกิ ิรยิ าเคมีจากสมการที่ดลุ แลว้ ได้ (P) 6. ใช้เคร่อื งมือและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง (P) 7. ปฏิบัตติ ามขั้นตอนการทดลองไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง (P) 8. ต้ังใจเรยี นร้แู ละแสวงหาความรู้ รับผดิ ชอบต่อหน้าที่ท่ไี ด้รบั มอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้เพม่ิ เตมิ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน ปฏิกิริยาเคมีแต่ละปฏิกิริยามีอัตราการเกิดปฏิกิริยา พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา เคมีต่างกัน โดยอาจวัดจากการลดลงของสารตั้งต้น หรอื การเพ่ิมขนึ้ ของผลิตภัณฑ์ต่อหน่ึงหน่วยเวลา และ หารด้วยเลขสัมประสิทธิ์ของสารนั้น ๆ ในสมการเคมี เพื่อให้ได้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่เท่ากันไม่ว่าจะ เป็นการวัดจากสารตงั้ ต้นหรือผลิตภัณฑ์

4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด ปริมาณสารต้ังต้นที่ลดลง หรือปริมาณสารผลติ ภัณฑ์ที่เกิดขึน้ ขณะปฏิกิรยิ าดำเนินไป เมื่อนำมาปรมิ าณ สารที่เปลี่ยนแปลงน้ีมาเขียนในรูปอตั ราส่วนเปรียบเทียบกับ 1 หนว่ ยเวลา จะเรียกวา่ อัตราการเกิดปฏิกิริยา เคมี 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวนิ ัย รับผิดชอบ 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทกั ษะการสงั เกต 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 2) ทกั ษะการสำรวจค้นหา 3) ทกั ษะการวิเคราะห์ 4) ทกั ษะการทดลอง 5) ทกั ษะการลงความเห็นจากข้อมลู 6) ทกั ษะการตีความหมายและลงข้อสรปุ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต 6. กจิ กรรมการเรียนรู้  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงที่ 1 ขน้ั นำ ข้ันท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน และ Understanding Check เพือ่ วัดความรู้เดิมของนักเรียน กอ่ นเขา้ สกู่ ิจกรรม 2. ครูถามคำถาม BIG QUESTION จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 ดังน้ี • อตั ราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมสี ามารถวัดได้จากส่ิงใด • ทฤษฎที ีใ่ ชอ้ ธิบายการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมีคือทฤษฎีใด และกล่าวไวว้ า่ อย่างไร • การเปลี่ยนแปลงพลังงานพลังงานในปฏิกิริยาเคมีจำแนกได้กี่ประเภท อะไรบ้าง แต่ละประเภทมี ลักษณะอย่างไร • ปจั จัยท่ีมผี ลตอ่ อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมมี อี ะไรบา้ ง และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันอย่างไร จากน้นั ใหน้ กั เรยี นในหอ้ งรว่ มกันตอบและแสดงความคิดเหน็ โดยครยู ังไมต่ อ้ งเฉลย ซง่ึ เมื่อเรยี นจบใน เนื้อหาท่สี ามารถเฉลยคำถามแตล่ ะขอ้ ได้ จงึ ใหค้ รูถามคำถาม แล้วให้นกั เรยี นตอบอกี ครง้ั หน่งึ 3. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 1 ว่า “สิ่งใดเป็นตัวกำหนดว่าปฏิกิริยาเคมีปฏิกิริยาหนึ่งจะเกิดได้เร็วหรือช้า” ให้นักเรียนร่วมกันตอบ คำถาม จากนนั้ ครูและนกั เรียนอภปิ รายร่วมกนั เพอ่ื นำไปสูข่ ้นั สอนตอ่ ไป (แนวตอบ : ส่ิงทีจ่ ะกำหนดไดว้ า่ ปฏิกิริยาเคมหี นง่ึ ๆ จะเกิดข้ึนไดเ้ รว็ หรอื ช้า คือ อัตราการลดลงของ สารต้ังต้น หรืออัตราการเพิม่ ข้นึ ของผลติ ภัณฑใ์ นหนึง่ หน่วยเวลา หรืออัตราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี)

ขนั้ สอน ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครใู หน้ ักเรยี นจบั คู่ โดยให้แต่ละคู่ศึกษาค้นควา้ ข้อมลู เก่ียวกับเร่อื ง ความหมายของอัตราการ เกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี จากหนงั สือเรยี นรายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 แล้วรว่ มกนั แสดง ความคดิ เหน็ จนเกิดความเข้าใจท่ตี รงกัน (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) ช่ัวโมงที่ 2 ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 2. ครใู ห้นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 5 คน แลว้ ทำการทดลอง เรื่อง ปฏกิ ริ ิยาระหวา่ งโลหะแมกนีเซียมกับ กรดไฮโดรคลอรกิ จากหนงั สือเรียนรายวิชาเพิม่ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 3. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT มาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ ละคนภายในกล่มุ มบี ทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง ดงั น้ี • สมาชิกคนที่ 1 : ทำหน้าท่ีเตรียมวัสดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลองเรื่อง ปฏิกิริยาระหว่างโลหะ แมกนีเซียมกับกรดไฮโดรคลอรกิ • สมาชกิ คนที่ 2 : ทำหน้าท่ีอ่านวิธกี ารทดลอง ทำความเข้าใจ และอธบิ ายใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ ฟงั • สมาชกิ คนท่ี 3 : ทำหน้าที่บันทกึ ผลการทดลอง • สมาชิกคนที่ 4 และ 5 : ทำหน้าท่นี ำเสนอผลการทดลอง 4. สมาชกิ ทกุ คนในกลุ่มช่วยกนั ลงมือทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทน (สมาชิกคนที่ 4 และ 5 ของกลุ่ม) มานำเสนอผลการทดลอง หลังจาก นน้ั ให้นกั เรยี นทุกคนรว่ มกันอภิปรายผลการทดลองจนมีความเข้าใจที่ตรงกนั (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบการนำเสนอหนา้ ผลงาน) 6. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายและหาขอ้ สรปุ จากการปฏิบัติการทดลอง โดยใชแ้ นวคำถาม ดงั น้ี 1) แก๊สที่เกิดขึ้นจากการทดลองคือแก๊สชนิดใด และปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเขียนแสดงเป็นสมการเคมีได้ อย่างไร (แนวตอบ : แก๊สทเี่ กิดขน้ึ คือ แก๊สไฮโดรเจน ปฏิกริ ิยาท่เี กดิ ข้ึนเขยี นแสดงเปน็ สมการเคมีได้ ดงั นี้ Mg (s) + 2HCl (aq) → MgCl2 (aq) + H2 (g) ) 2) เวลาทใ่ี ชใ้ นการเก็บแก๊สไฮโดรเจนในแตล่ ะช่วงปรมิ าตรเป็นอย่างไร (แนวตอบ : เวลาที่ใช้ในการเกบ็ แก๊สไฮโดรเจนในแตล่ ะชว่ งปริมาตรมีค่าไม่เท่ากัน โดยในช่วงแรก จะใช้เวลาน้อย ในช่วงถัดไปจะใช้เวลามากขึ้น ตามลำดับ) 3) กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตรของแก๊สไฮโดรเจนที่เกิดขึ้นกับเวลามีลักษณะเป็น อย่างไร (แนวตอบ :

) 4) จากกราฟ สามารถแปลความหมายได้วา่ อย่างไร (แนวตอบ : ลักษณะของกราฟในตอนแรกจะมีความชันมาก แสดงว่า ปฏิกิริยาเกิดได้เร็ว และ เมอื่ เวลาผา่ นไปความชันของกราฟลดลง แสดงวา่ ปฏิกริ ยิ าเกดิ ขนึ้ ไดช้ า้ ลง) (หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) ช่ัวโมงที่ 3 ข้นั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 7. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อน โดยให้แต่ละคู่ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการคำนวณหาอัตราการ เกิดปฏิกิริยาเคมี โดยพิจารณาจากความเข้มข้นของสารต้ังต้นหรือผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงไปกับ ระยะเวลาในการเกิดปฏิกิริยา และการคำนวณหาอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีประเภทต่าง ๆ จาก หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็นจนเกิด ความเขา้ ใจที่ตรงกัน 8. ครูให้นักเรียนแต่ละคู่ฝึกการคำนวณเกี่ยวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี จากตัวอย่างที่ 2.1- 2.2 ใน หนังสือเรียนรายวชิ าเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม) ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 9. ครูสุม่ ตัวแทนนักเรยี น 1 คู่ ออกมาแสดงวิธีการคำนวณตัวอยา่ งแตล่ ะขอ้ หน้าชั้นเรยี นใหถ้ กู ต้อง โดย ครคู อยเสริมความรใู้ นสว่ นทน่ี ักเรียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจ 10. ครตู ัง้ คำถามให้นักเรยี นร่วมกนั อภปิ ราย เรอื่ ง อัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี เช่น 1) อตั ราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมีหมายถึงอะไร (แนวตอบ : ปรมิ าณสารตง้ั ต้นท่ลี ดลง หรือปริมาณผลิตภัณฑท์ ีเ่ กดิ ข้นึ จากปฏิกิรยิ าใน 1 หนว่ ย เวลา) 2) กำหนดปฏิกิรยิ าให้ ดังน้ี 2A + 3B → C อตั ราการเกิดปฏกิ ริ ิยาของสาร A B และ C จะมคี า่ เทา่ ใด (แนวตอบ : อัตราการเกิดปฏิกริ ิยาของสาร A = - 1 ∆[������] 2 ∆������ อัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยาของสาร B = - 1 ∆[������] 3 ∆������ อตั ราการเกิดปฏิกิรยิ าของสาร C = + ∆[������] ) ∆������

11. ครยู กตัวอย่างโจทย์เกย่ี วกบั อตั ราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี โดยครูเขยี นโจทยแ์ ละแสดงวิธที ำใหน้ กั เรียนดู บนกระดาน ดังนี้ กำหนดปฏิกริ ยิ าระหว่างแก๊สไนโตรเจนและแกส๊ ไฮโดรเจนให้ ดังน้ี N2 (g) + 3H2 (g) → 2NH3 (g) ถ้าอัตราการลดลงของ N2 เท่ากับ 2 × 10-2 mol/dm3•s อตั ราการลดลงของ H2 และอัตราการเกิด NH3 จะมคี ่าเทา่ ใด วิธที ำ อัตราการลดลงของ H2 ∆[N2] = 1 ∆[H2] ∆t 3 ∆t 2 × 10-2 = 1 ∆[H2] 3 ∆t ∆[H2] = 2 × 10-2 × 3 ∆t = 6 × 10-2 mol/dm3•s อัตราการเกิด NH3 ∆[N2] = 1 ∆[NH3] ∆t 2 ∆t 2 × 10-2 = 1 ∆[NH3] 2 ∆t ∆[H2] = 2 × 10-2 × 2 ∆t = 4 × 10-2 mol/dm3•s) ดงั นนั้ อัตราการลดลงของ H26 × 10-2 mol/dm3•s และอัตราการเกิด NH34 × 10-2 mol/dm3•s ชวั่ โมงท่ี 4 ขัน้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 12. ครูถามคำถาม BIG QUESTION จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 อีก คร้งั ดังน้ี • อัตราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมีสามารถวัดได้จากส่งิ ใด (แนวตอบ : อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีสามารถวัดได้จากปริมาณสารตั้งต้นที่ลดลง หรือปริมาณ ผลติ ภณั ฑท์ เ่ี กิดขนึ้ ) 13. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยในเนื้อหา เรื่อง ความหมายของอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี วา่ มสี ว่ นไหนทย่ี งั ไมเ่ ข้าใจ และใหค้ วามรูเ้ พิ่มเติมในส่วนนน้ั เพื่อจะใช้เป็นความรู้เบื้องต้นสำหรับการ เรียนในเน้อื หาต่อ ๆ ไป 14. นักเรียนทำใบงานท่ี 2.1.1 เรอ่ื ง อัตราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี 15. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนงั สอื แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 16. นักเรียนทำ Topic Question จากหนงั สอื เรียนรายวชิ าเพิ่มเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1

ขัน้ สรปุ ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครปู ระเมินผลนักเรียน โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ และจากการนำเสนอผลการทำกิจกรรมหนา้ ชน้ั เรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 2.1.1 เรอ่ื ง อตั ราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี 3. ครูตรวจสอบผลจากการทำแบบฝึกหดั 4. ครวู ดั และประเมนิ ผลจากการนำเสนอผลการทดลอง เรือ่ ง ปฏกิ ิริยาระหวา่ งโลหะแมกนีเซียมกับกรด ไฮโดรคลอรกิ 5. นักเรียนและครูรว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกบั ความหมายของอตั ราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี ดังนี้ • ส่งิ ทจ่ี ะกำหนดได้ว่า ปฏกิ ิรยิ าเคมหี นง่ึ ๆ จะเกิดขนึ้ ได้เรว็ หรอื ช้า คือ อัตราการลดลงของสารตัง้ ตน้ หรอื อัตราการเพิ่มข้นึ ของผลิตภณั ฑใ์ นหนึง่ หนว่ ยเวลา หรืออตั ราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี • อัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี วัดได้หลายแบบ ซ่งึ จำแนกได้ 3 ประเภท คือ อัตราการเกิดปฏกิ ริ ิยา เฉลี่ย อัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ า ณ ชว่ งเวลาใดเวลาหนงึ่ และอัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยา ณ จดุ ใดจดุ หนึ่ง ของเวลา • อตั ราการเกิดปฏกิ ริ ิยาเฉลย่ี คือ อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาท่ีคิดจากการเปลย่ี นแปลงของสารตงั้ ต้นที่ ลดลง หรือผลิตภัณฑ์ท่ีเพิม่ ขน้ึ ตลอดการเกดิ ปฏิกริ ยิ า 7. การวดั และประเมนิ ผล รายการวัด วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 7.1 การประเมินก่อน เรียน - แบบทดสอบก่อน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - ประเมนิ ตามสภาพจริง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรียน หน่วยการ ก่อนเรียน หนว่ ยการ อตั ราการเกิดปฏิกิริยา เคมี เรียนรทู้ ี่ 2 อตั รา เรียนรูท้ ี่ 2 อตั ราการ การเกิดปฏิกิรยิ า เกิดปฏกิ ิริยาเคมี เคมี 7.2 ประเมนิ ระหว่าง การจัดกจิ กรรม การเรยี นรู้ 1) ความหมายของ - ตรวจใบงานท่ี 2.1.1 - ใบงานท่ี 2.1.1 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - แบบฝึกหดั - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ อัตราการ - ตรวจแบบฝกึ หัด เกิดปฏกิ ิริยาเคมี

รายการวัด วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 2) การทดลอง - ประเมินการปฎบิ ตั ิ การ - แบบประเมินการ - ระดบั คุณภาพ 2 เรื่อง ปฏิกิรยิ า ปฎิบัติ ผา่ นเกณฑ์ ระหว่างโลหะ - ประเมนิ การนำเสนอ การ แมกนเี ซียมกบั ผลงาน กรดไฮโดรคลอริก - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินการเสนอ - ระดบั คุณภาพ 2 3) การนำเสนองาน การทำงานรายบุคคล ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 4) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2 การทำงาน การทำงานกลุ่ม การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ รายบคุ คล - สงั เกตความมีวนิ ัย รบั ผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้ - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2 5) พฤติกรรมการ และมุ่งม่นั ในการ การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ ทำงานกลมุ่ ทำงาน - แบบประเมิน - ระดบั คุณภาพ 2 6) คุณลกั ษณะ คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์ อันพงึ ประสงค์ อนั พงึ ประสงค์ 8. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า เคมี 2) หนังสอื แบบฝึกหัดรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 อตั ราการ เกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี 3) ใบงานท่ี 2.1.1 เรื่อง อตั ราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี 4) วัสดุ-อุปกรณ์ท่ีใช้ในการทดลองเร่ือง ปฏิกิรยิ าระหวา่ งโลหะแมกนีเซียมกับกรดไฮโดรคลอรกิ 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรียน

9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ผ้เู ขยี นแผนการจัดการเรยี นรู้ ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................... (นางสาวณฐั ธนัญา บุญถึง) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกล่มุ บริหารงานวิชาการ ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ลงชือ่ ...................................................... (นายวิเศษ ฟองตา) รองผูอ้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ ข้อเสนอแนะของผ้อู ำนวยการโรงเรียน ................................................................................................................ ................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ......................................................................................................................................................................... ........ ลงช่อื .................................................... (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

ใบงานท่ี 2.1.1 เรอื่ ง อัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี คำชแ้ี จง : ตอบคำถามเกี่ยวกบั อตั ราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี 1. กำหนดปฏกิ ริ ิยาเคมีให้ ดงั นี้ 2KMnO4 (aq) + 3H2SO4 (aq) + 5H2C2O4 (aq) → K2SO4 (aq) + 2MnSO4 (aq) + 8H2O (l) + 10CO2 (g) จงสรุปความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของสารจากสมการเคมีท่ี กำหนด 2. จงเปรยี บเทียบอตั ราการเปลี่ยนแปลงของสารแต่ละชนิดในสมการต่อไปน้จี ากนอ้ ยไปมาก 2A + 3B → C + 4D 3. แก๊ส N2O5 สลายตวั ได้ ดงั สมการ 2N2O5 → 4NO2 + O2 ถา้ อัตราการสลายตวั ของแกส๊ N2O5 มคี า่ เทา่ กบั 1.2 × 10-6 โมล/ลติ ร • วนิ าที อตั ราการเกิดแก๊ส NO2 มีค่ากี่ โมล/ลิตร•วนิ าที 4. ทดลองนำโลหะสังกะสีมาทำปฏิกริ ิยากับสารละลายกรดไฮโดรคลอริกเข้มขน้ 0.1 โมล/ลติ ร ไดแ้ ก๊สไฮโดรเจน เป็นผลติ ภัณฑ์ โดยปรมิ าตรของแก๊สไฮโดรเจนท่เี กดิ ขึน้ ณ ช่วงเวลาตา่ งๆ แสดงดงั ตาราง ปริมาณแกส๊ H2 (cm3) 1 2 3 4 56 เวลา (s) 10 25 40 65 100 140 1) อัตราการเกดิ แกส๊ ไฮโดรเจนเฉลย่ี มคี า่ เทา่ ใด ………..………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2) อตั ราการเกดิ แก๊สไฮโดรเจน ณ ชว่ งเวลา 40–100 วินาที มคี ่าเทา่ ใด

ใบงานท่ี 2.1.1 เฉลย เรือ่ ง อัตราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี คำชี้แจง : ตอบคำถามเกย่ี วกบั อตั ราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี 1. กำหนดปฏิกิรยิ าเคมใี ห้ ดงั น้ี 2KMnO4 (aq) + 3H2SO4 (aq) + 5H2C2O4 (aq) → K2SO4 (aq) + 2MnSO4 (aq) + 8H2O (l) + 10CO2 (g) จงสรุปความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของสารจากสมการเคมีที่ กำหนด r = 1 ∆[KMnO2] = 1 ∆[H2SO4] = 1 ∆[H2C2O4] = ∆[K2SO4] = 1 ∆[MnSO4] = 1 ∆[H2O] = 1 ∆[CO2] 2 ∆t 3 ∆t 5 ∆t ∆t 2 ∆t 8 ∆t 10 ∆t 2. จงเปรยี บเทยี บอัตราการเปลย่ี นแปลงของสารแต่ละชนดิ ในสมการต่อไปนี้จากน้อยไปมาก 2A + 3B → C + 4D C<A<B<D 3. แกส๊ N2O5 สลายตัวได้ ดงั สมการ 2N2O5 → 4NO2 + O2 ถ้าอตั ราการสลายตวั ของแก๊ส N2O5 มคี ่าเท่ากบั 1.2 × 10-6 โมล/ลิตร • วนิ าที อตั ราการเกดิ แกส๊ NO2 มคี ่าก่ี โมล/ลติ ร•วินาที อตั ราการเกดิ แกส๊ NO2 = 2 อัตราการสลายตวั ของแก๊ส N2O5 = 2 × 1.2 × 10-6 = 2.4 × 10-6 โมล/ลิตร • วนิ าที 4. ทดลองนำโลหะสงั กะสีมาทำปฏิกริ ิยากบั สารละลายกรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น 0.1 โมล/ลติ ร ไดแ้ ก๊สไฮโดรเจน เปน็ ผลติ ภณั ฑ์ โดยปริมาตรของแก๊สไฮโดรเจนท่ีเกิดข้นึ ณ ชว่ งเวลาต่างๆ แสดงดังตาราง ปริมาณแกส๊ H2 (cm3) 1 2 3 4 56 เวลา (s) 10 25 40 65 100 140 1) อัตราการเกิดแก๊สไฮโดรเจนเฉลี่ยมคี ่าเท่าใด อตั ราการเกดิ แก๊สไฮโดรเจนเฉล่ยี = 6 140 = 0.043 cm3/s 2) อตั ราการเกิดแกส๊ ไฮโดรเจน ณ ชว่ งเวลา 40–100 วินาที มคี า่ เท่าใด อตั ราการเกิดแกส๊ ไฮโดรเจน ณ ชว่ งเวลา 40–100 วินาที = 5− 3 100−40 = 0.033 cm3/s

วช-ร 06 แบบบันทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชือ่ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เรอ่ื ง อัตราการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี แผนการเรียนรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง ความหมายของอัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี รายวชิ า เคมี 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 รหสั วชิ า ว 32203 ครูผ้สู อน นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา ตำแหนง่ ครูผู้ช่วย เวลาที่ใช้ 4 ชวั่ โมง ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ ค้นพบระหวา่ ง ปญั หาท่พี บ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของผู้เรียน ลงชื่อ ครผู ู้จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วุฒิเศลา) ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 เรอ่ื ง อัตราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง แนวคิดเกย่ี วกบั การ เกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี รายวิชา เคมี 3 รหสั วิชา ว 32203 ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 นำ้ หนกั เวลาเรียน 1.5 หน่วยกิจ เวลาเรยี น 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ เวลาทีใ่ ช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3 ชั่วโมง 1. ผลการเรยี นรู้ เขยี นแผนภาพ และอธิบายทิศทางการชนกนั ของอนภุ าคและพลังงานทส่ี ่งผลต่ออัตราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมโี ดยใชท้ ฤษฎกี ารชน และการชนกันของอนุภาคได้ (K) 2. บอกความหมายของพลงั งานก่อกัมมันต์ได้ (K) 3. อธิบายความยากง่ายของการเกิดปฏิกิริยาเคมีโดยพิจารณาจากค่าพลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยานั้น ๆ และการเกิดสารเชงิ ซ้อนกมั มันต์ได้ (K) 4. สอ่ื สารแนวคิดเกีย่ วกบั การเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมไี ด้ (P) 5. ตงั้ ใจเรยี นรูแ้ ละแสวงหาความรู้ รบั ผิดชอบต่อหนา้ ทีท่ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้เพม่ิ เติม สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ ปฏิกิริยาเคมีจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่ออนุภาคของสารตั้ง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา ต้นชนกันในทิศทางที่เหมาะสมและมีพลังงานอย่าง น้อยเท่ากับพลังงานก่อกัมมันต์ ดังนั้น อัตราการ เกิดปฏิกิริยาจึงขึ้นกับทิศทางการชนและพลังงานที่ เกิดจากการชน 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด ปฏกิ ิรยิ าเคมีจะเกิดขึน้ ได้กต็ ่อเมอ่ื อนุภาคของสารตัง้ ต้นชนกันในทศิ ทางที่เหมาะสม และมีพลงั งานอยา่ ง นอ้ ยเทา่ กบั พลังงานก่อกัมมันต์ 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้ 1) ทกั ษะการสังเกต 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 2) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา 3) ทักษะการวิเคราะห์ 4) ทักษะการทำงานร่วมกัน 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

6. กิจกรรมการเรยี นรู้  แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชว่ั โมงที่ 1 ข้นั นำ ขนั้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูนำแผนภาพเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น การเผาไหม้ของ เครื่องยนต์ของรถยนต์ตามท้องถนน การผุกร่อนของโบราณสถาน มาให้นักเรียนดู จากนั้นครูถาม คำถามนกั เรียนวา่ “จะมวี ิธกี ารใดทจี่ ะหาอัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมีของการเปลยี่ นแปลงของสารจาก ตัวอย่างเหล่านั้น” แล้วให้นักเรียนตอบคำถามและร่วมกันอภิปราย ซึ่งครูยังไม่ต้องเฉลยคำตอบที่ ถกู ต้อง 2. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 ว่า “ในการเกิดปฏิกิริยาเคมีหนึ่ง ๆ จะต้องมีปัจจัยใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง” ให้นักเรียนร่วมกันตอบ คำถาม จากนั้นครแู ละนักเรียนมาอภปิ รายร่วมกัน เพอ่ื นำไปสขู่ ัน้ สอนตอ่ ไป (แนวตอบ : การเกิดปฏิกิริยาเคมีขึ้นอยู่กับปัจจัย ดังนี้ อนุภาคสารต้องชนกันในทิศทางที่เหมาะสม และอนุภาคที่ชนกันต้องมีพลังงานที่เกิดจากการชนเท่ากับหรือมากกว่าพลังงานก่อกัมมันต์ของ ปฏิกิรยิ าน้ัน) ขน้ั สอน ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน โดยให้แต่ละกลุ่มศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง แนวคิด เก่ยี วกับการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี จากหนงั สือเรยี นรายวิชาเพ่มิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 2. นกั เรยี นนำข้อมลู ทีไ่ ด้จากการค้นคว้าทำเป็นรปู แบบตา่ ง ๆ ตามความคดิ เหน็ ของแตล่ ะกลุ่ม เช่น แผนภาพ แผนผัง เขยี นบรรยาย (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) ช่วั โมงที่ 2 ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนมานำเสนอเรื่องท่ีได้ศึกษาค้นคว้าข้อมลู และผลงานการจัดทำข้อมูลของ กลมุ่ ตนเองหน้าชัน้ เรียนทีละกลุม่ เพอ่ื แลกเปล่ียนความคิดเห็นกันจนครบทกุ กลุ่ม (หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบการนำเสนอหนา้ ผลงาน) 4. ครตู ั้งคำถามใหน้ กั เรียนรว่ มกันอภิปราย เรือ่ ง แนวคิดเก่ียวกบั การเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี เชน่ 1) การชนกนั ของอนภุ าคท่เี ข้าทำปฏกิ ิริยากนั จะทำให้ปฏิกิริยาเกดิ ขึ้นได้ทุกครั้งหรอื ไม่ อย่างไร (แนวตอบ : การชนกันของอนุภาคที่เข้าทำปฏิกิริยากันจะไม่ทำใหป้ ฏิกิริยาเกิดข้ึนได้ทุกครั้ง โดย ปฏิกริ ยิ าเคมีจะเกดิ ขนึ้ ไดเ้ มอื่ อนุภาคชนกันในทิศทางท่ีเหมาะสม) 2) พลงั งานกอ่ กัมมนั ตค์ ืออะไร (แนวตอบ : พลังงานก่อกัมมันต์ คือ พลังงานปริมาณน้อยที่สุดที่เกิดจากการชนกันของอนุภาค สารตง้ั ต้น แลว้ ทำให้เกดิ ปฏิกิริยาเคมี) 3) ทฤษฎสี ารเชงิ ซ้อนทถ่ี กู กระตุน้ กลา่ วไวว้ ่าอยา่ งไร

(แนวตอบ : อนุภาคของสารไม่ใช่ทรงกลมตัน แต่มีกลุ่มหมอกของอิเล็กตรอนห่อหุ้มอยู่ เมื่อ อนุภาคเคลื่อนที่เข้ามาใกล้กันในระยะที่พอเหมาะหรือชนกัน กลุ่มหมอกของอิเล็กตรอนก็จะถูก กระทบกระเทือนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในอนุภาคของสารตั้งต้น คือ พันธะเคมีของสาร ตั้งต้นจะอ่อนลงและยืดยาวออกไปกว่าเดิม และเริ่มมีพันธะอย่างอ่อนเกิดขึ้นระหว่างคู่อะตอมท่ี เหมาะสม ซงึ่ ขณะนี้สารต้งั ตน้ จะรวมตัวกนั กลายเป็นสารชนิดหน่ึงท่มี ีพลังงานสูงกว่าพลังงานของ สารตั้งตน้ และสารผลิตภัณฑ์ เรียกสารนวี้ า่ สารเชงิ ซอ้ นทถี่ ูกกระตุ้น (activated complex) เป็น สารทไ่ี มอ่ ยู่ตัว มีอายุสนั้ พรอ้ มทจี่ ะเปลีย่ นเป็นสารผลติ ภัณฑ์ หรือกลับคนื เปน็ สารต้งั ตน้ อย่างเดิม ก็ได้ เมื่อสารเชิงซ้อนที่ถูกกระตุ้นสลายตัวกลายเป็นสารผลิตภัณฑ์ พันธะเก่าก็จะถูกทำลายโดย สิ้นเชิง พันธะใหม่ก็จะถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ เนื่องจากสารเชิงซ้อนที่ถูกกระตุ้นอยู่ในสภาวะไม่ เสถียรและมีระดับพลังงานสูงมาก (สูงกว่าพลังงานสารต้ังต้นและผลิตภัณฑ์) จึงนิยมเรียกสภาวะ เช่นนี้ว่า สภาวะแทรนซิชัน (transition state) เพราะฉะนั้นอนุภาคของสารตั้งต้นจะชนกันแล้ว เกิดปฏิกิริยาได้ อนุภาคของสารตั้งต้นจะต้องมีพลังงานไม่ต่ำกว่าพลังงานของสารเชิงซ้อนที่ถูก กระตุ้น) (หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) ชว่ั โมงที่ 3 ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 5. ครูถามคำถาม BIG QUESTION จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 อีก ครัง้ ดงั น้ี • ทฤษฎที ี่ใชอ้ ธิบายการเกิดปฏิกริ ิยาเคมคี ือทฤษฎีใด และกล่าวไวว้ า่ อย่างไร (แนวตอบ : ทฤษฎที ่ีใช้อธิบายการเกิดปฏิกิริยาเคมี คอื ทฤษฎกี ารชน ซึ่งกลา่ วว่า ปฏิกิริยาเคมีจะ เกิดได้เมื่ออนุภาคของสารที่เข้าทำปฏิกิริยากันจะต้องมีการชนกันในทิศทางที่เหมาะสม และ อนภุ าคทีช่ นกนั ตอ้ งมีพลงั งานสูงพอที่จะทำลายพันธะเกา่ แล้วสรา้ งพนั ธะใหม่ขึ้นมา) 6. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยในเนื้อหา เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี ว่ามี ส่วนไหนที่ยงั ไม่เขา้ ใจ และใหค้ วามรู้เพ่ิมเติมในส่วนนัน้ เพอ่ื จะใชเ้ ป็นความรเู้ บ้อื งต้นสำหรับการเรียน ในเนอ้ื หาตอ่ ๆ ไป 7. นักเรยี นทำใบงานที่ 2.2.1 เร่อื ง ทฤษฎีการชนกนั และพลงั งานก่อกัมมันต์ 8. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั ในหนงั สือแบบฝึกหดั รายวชิ าเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 9. นกั เรียนทำ Topic Question จากหนังสือเรียนรายวชิ าเพิ่มเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 1 (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล) ขัน้ สรปุ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมนิ ผลนกั เรียน โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และจากการนำเสนอผลการทำกิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 2.2.1 เรอื่ ง ทฤษฎีการชนกันและพลังงานก่อกัมมันต์ 3. ครตู รวจสอบผลจากการทำแบบฝึกหดั

4. นักเรียนและครูรว่ มกนั สรปุ เกีย่ วกับแนวคดิ เก่ียวกบั การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี ดังน้ี • ทฤษฎที ใ่ี ชอ้ ธบิ ายการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี คือ ทฤษฎีการชน ซึง่ กลา่ วว่า ปฏิกิรยิ าเคมจี ะเกิดได้เมื่อ อนุภาคของสารที่เขา้ ทำปฏิกริ ยิ ากันจะต้องมีการชนกนั ในทิศทางทเี่ หมาะสม และอนุภาคท่ีชนกัน ตอ้ งมีพลังงานสูงพอที่จะทำลายพนั ธะเก่า แล้วสรา้ งพันธะใหม่ขึ้นมา • พลงั งานก่อกมั มนั ต์ คือ พลังงานปรมิ าณน้อยที่สดุ ทีเ่ กิดจากการชนกันของอนภุ าคสารตง้ั ตน้ แล้ว ทำให้เกดิ ปฏิกิริยาเคมี • ปฏกิ ิรยิ าเคมที ี่มีค่าพลงั งานกอ่ กัมมันตส์ ูงปฏิกิรยิ าน้นั จะเกิดได้ยาก ซึง่ ต้องให้พลงั งานเข้าไปจนมี พลังงานเท่ากับหรือสูงกวา่ พลังงานก่อกัมมันต์ ปฏกิ ริ ยิ าจงึ จะเกดิ ขนึ้ ได้ • ปฏกิ ิริยาเคมที ม่ี ีคา่ พลังงานก่อกัมมันตต์ ่ำ ปฏิกิรยิ าน้นั จะสามารถเกิดได้งา่ ย โดยไม่ต้องใช้พลังงาน หรอื ใช้พลงั งานเพยี งเล็กนอ้ ยเท่าน้นั • สารเชิงซอ้ นกัมมนั ต์ คือ สารชนิดหนงึ่ ท่ีมพี ลังงานสูงกว่าพลังงานของสารตัง้ ตน้ และสารผลติ ภณั ฑ์ 7. การวัดและประเมินผล รายการวดั วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 7.1 ประเมินระหวา่ ง การจดั กจิ กรรม การเรยี นรู้ 1) แนวคดิ เกย่ี วกับ - ตรวจใบงานท่ี 2.2.1 - ใบงานท่ี 2.2.1 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การเกดิ ปฏิกริ ิยา - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝกึ หดั - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เคมี 2) การนำเสนองาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการเสนอ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2 การทำงาน การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล 4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2 ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ 5) คณุ ลกั ษณะ - สงั เกตความมีวนิ ัย - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2 อนั พึงประสงค์ รับผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ และมงุ่ มั่นในการ อันพึงประสงค์ ทำงาน

8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 อัตราการ เกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี 2) หนังสอื แบบฝึกหัดรายวิชาเพมิ่ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 อัตราการ เกดิ ปฏิกิริยาเคมี 3) ใบงานท่ี 2.2.1 เร่ือง ทฤษฎีการชนกนั และพลังงานก่อกัมมนั ต์ 4) แผนภาพเกยี่ วกบั การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีท่ีเกดิ ขึ้นในชวี ิตประจำวนั 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ - 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ลงช่อื .................................................. (นางสาวกานดา วุฒิเศลา) ผเู้ ขยี นแผนการจดั การเรียนรู้ ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................................... (นางสาวณฐั ธนัญา บญุ ถึง) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ลงช่อื ...................................................... (นายวิเศษ ฟองตา) รองผ้อู ำนวยการกลมุ่ บริหารงานวิชาการ

ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยการโรงเรยี น ................................................................................................................ ................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ......................................................................................................................................................................... ........ ลงช่อื .................................................... (นายอดิศร แดงเรอื น) ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

ใบงานท่ี 2.2.1 เร่ือง ทฤษฎีการชนกนั และพลังงานกอ่ กัมมันต์ คำชแ้ี จง : เตมิ คำตอบเกย่ี วกับทฤษฎีการชนกนั และพลงั งานกอ่ กมั มนั ต์ลงในช่องวา่ งให้ถูกต้อง 1. ในการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมีตอ้ งมีการ เพื่อสลายพันธะในสารตั้งต้น และมีการ เพอ่ื สรา้ งพันธะในผลิตภัณฑ์ 2. กล่าวว่า ปฏิกิริยาเคมีจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่ออนุภาคของสารตั้งต้นจะต้องมีการ เคลือ่ นท่ชี นกันในทิศทางท่เี หมาะสม และอนุภาคท่ชี นกันต้องมีพลังงานสงู พอทีจ่ ะทำลายพันธะเก่า แล้วสร้าง พันธะใหมข่ ึ้นมา 3. การชนกันของอนภุ าคของสารตั้งตน้ จะเกดิ ปฏิกริ ิยาไดห้ รือไม่ ตอ้ งขึ้นอยกู่ ับ และ 4. พลังงานก่อกัมมนั ต์ คอื 5. ในการเกดิ ปฏกิ ิริยา จะต้องให้พลงั งานเข้าไปจนมีพลงั งาน พลังงานก่อกัมมนั ต์ ปฏิกิริยาจงึ จะเกดิ ขนึ้ ได้ 6. ในทฤษฎสี ารเชงิ ซ้อนทีถ่ ูกกระต้นุ กลา่ ววา่ สารชนดิ หน่งึ ที่มีพลังงานสงู กว่าพลงั งานของสารตง้ั ตน้ และสาร ผลิตภณั ฑ์ เรยี กวา่ หรือ 7. ปฏกิ ิรยิ าทีม่ คี า่ จะเปน็ ปฏิกริ ิยาทเ่ี กิดขน้ึ ได้งา่ ยกว่าปฏกิ ริ ยิ าทมี่ ีคา่ 8. ปฏกิ ิรยิ าทอี่ นุภาคมี จะเปน็ ปฏิกริ ิยาท่เี กดิ ขน้ึ ไดเ้ ร็วกว่าปฏกิ ริ ิยาทอ่ี นุภาคมี 9. ปฏิกิริยาทอี่ นุภาคชนกนั ด้วย จะเปน็ ปฏิกิริยาทเ่ี กิดขน้ึ ได้เรว็ กว่าปฏิกิรยิ าท่ีอนุภาคชนกัน ด้วย 10. ปฏิกริ ยิ าจะเกิดได้งา่ ยเม่อื สารตงั้ ตน้ มีสถานะ เพราะอนภุ าคสามารถเคลอ่ื นท่ไี ด้ จงึ เกดิ การชนกนั ได้งา่ ย

ใบงานท่ี 2.2.1 เฉลย เร่อื ง ทฤษฎีการชนกนั และพลังงานก่อกมั มนั ต์ คำช้แี จง : เตมิ คำตอบเก่ยี วกับทฤษฎีการชนกันและพลังงานก่อกมั มันต์ลงในช่องว่างใหถ้ กู ตอ้ ง 1. ในการเกิดปฏิกิริยาเคมีต้องมีการ ดูดพลังงานเข้าไป เพื่อสลายพันธะในสารตั้งต้น และมีการ คายพลังงาน ออกมา เพือ่ สร้างพนั ธะในผลิตภณั ฑ์ 2. ทฤษฎีการชน กล่าวว่า ปฏิกิริยาเคมีจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่ออนุภาคของสารตั้งต้นจะต้องมีการเคลื่อนที่ชนกัน ในทิศทางที่เหมาะสม และอนุภาคที่ชนกันต้องมีพลังงานสูงพอที่จะทำลายพันธะเก่า แล้วสร้างพันธะใหม่ ขึน้ มา 3. การชนกันของอนุภาคของสารตั้งต้นจะเกิดปฏิกิริยาได้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับ พลังงานจลน์ของอนุภาคท่ี เคลอ่ื นทชี่ นกัน และ ทิศทางการชนกนั ของอนภุ าค 4. พลังงานก่อกมั มันต์ คอื พลังงานตำ่ ทส่ี ุดทอ่ี นุภาคของสารจะต้องมีเพื่อใหช้ นกันแลว้ เกิดปฏิกิรยิ า 5. ในการเกิดปฏกิ ิรยิ า จะต้องให้พลังงานเข้าไปจนมีพลงั งาน เทา่ กบั หรือมากกว่า พลังงานก่อกมั มันต์ ปฏกิ ริ ิยา จงึ จะเกดิ ขึน้ ได้ 6. ในทฤษฎีสารเชิงซ้อนท่ถี ูกกระต้นุ กล่าววา่ สารชนดิ หนึง่ ท่มี พี ลงั งานสูงกว่าพลงั งานของสารตงั้ ตน้ และสาร ผลติ ภณั ฑ์ เรยี กว่า สารเชิงซ้อนทถ่ี กู กระตุ้น หรือ สารเชงิ ซ้อนกัมมนั ต์ 7. ปฏิกิรยิ าทีม่ คี ่า พลังงานก่อกัมมนั ต์ตำ่ จะเป็นปฏกิ ริ ิยาที่เกดิ ข้ึนได้ง่ายกว่าปฏิกิรยิ าท่ีมีค่า พลังงานก่อกัมมันต์ สงู 8. ปฏกิ ริ ยิ าทอี่ นุภาคมี พลงั งานสูง จะเปน็ ปฏกิ ริ ยิ าท่เี กดิ ขนึ้ ได้เรว็ กวา่ ปฏิกริ ิยาทอี่ นุภาคมี พลงั งานตำ่ 9. ปฏิกิริยาที่อนุภาคชนกันด้วย ความถี่สูง จะเป็นปฏิกิริยาที่เกิดข้ึนได้เร็วกว่าปฏิกิริยาที่อนุภาคชนกันด้วย ความถ่ีตำ่ 10. ปฏิกิริยาจะเกิดได้ง่ายเมื่อสารตั้งต้นมีสถานะ แก๊สหรือของเหลว เพราะอนุภาคสามารถเคลื่อนที่ได้ จึงเกิด การชนกนั ได้งา่ ย

วช-ร 06 แบบบนั ทกึ หลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 8 เร่อื งอัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี แผนการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรื่อง แนวคดิ เกีย่ วกบั การเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี รายวิชา เคมี 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 รหสั วชิ า ว 32203 ครูผู้สอน นางสาวกานดา วฒุ ิเศลา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย เวลาทใี่ ช้ 3 ชว่ั โมง ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปญั หาที่พบ แนวทางแก้ไข ท่ีมีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ เนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤตกิ รรม/การมสี ว่ นร่วมของผู้เรียน ลงช่ือ ครผู ้จู ดั กิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วุฒิเศลา) ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 8 เรอื่ ง อัตราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 3 เรอื่ ง พลังงานกบั การดำเนิน ไปของปฏกิ ริ ิยาเคมี รายวิชา เคมี 3 รหสั วิชา ว 32203 ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 น้ำหนกั เวลาเรยี น 1.5 หนว่ ยกจิ เวลาเรยี น 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาท่ีใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 2 ชั่วโมง 1. ผลการเรยี นรู้ เขียนแผนภาพ และอธิบายทิศทางการชนกนั ของอนภุ าคและพลังงานทส่ี ่งผลต่ออตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. แปลความหมายจากกราฟแสดงการเปล่ียนแปลงพลงั งานกับการดำเนินไปของปฏกิ ิรยิ า และระบุได้ว่าเป็น ปฏิกริ ิยาประเภทดดู พลงั งานหรือคายพลังงานได้ (K) 2. หาค่าพลงั งานที่ดดู กลืน พลงั งานท่ีคายออก และพลังงานรวมของปฏิกริ ยิ าจากกราฟได้ (P) 3. ตัง้ ใจเรียนรแู้ ละแสวงหาความรู้ รบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ที่ท่ีได้รับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพ่ิมเติม สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน ปฏิกิริยาเคมีจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่ออนุภาคของสารตั้ง พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา ต้นชนกันในทิศทางที่เหมาะสมและมีพลังงานอย่าง น้อยเท่ากับพลังงานก่อกัมมันต์ ดังนั้น อัตราการ เกิดปฏิกิริยาจึงขึ้นกับทิศทางการชนและพลังงานที่ เกิดจากการชน 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด ในการเกิดปฏิกิริยาเคมีหนึ่ง ๆ จะต้องมีการดูดพลังงานเพื่อสลายพันธะของสารตั้งต้น และมีการคาย พลงั งานเพ่ือสรา้ งพนั ธะระหว่างผลติ ภัณฑ์ ปฏิกิริยาดูดพลังงาน คือ ปฏิกิริยาที่มีการดูดพลังงานเข้าไปเพือ่ สลายแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอะตอมของ สารต้งั ตน้ มากกวา่ คายพลงั งานออกมาเพอื่ สร้างแรงยดึ เหนย่ี วระหว่างอะตอมของผลติ ภัณฑ์ ปฏิกิรยิ าคายพลงั งาน คอื ปฏิกิริยาทม่ี กี ารดดู พลังงานเข้าไปเพ่ือสลายแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอะตอมของ สารตัง้ ต้นน้อยกว่าคายพลงั งานออกมาเพ่ือสรา้ งแรงยดึ เหน่ยี วระหวา่ งอะตอมของผลิตภัณฑ์

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวนิ ัย รับผดิ ชอบ 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทกั ษะการสังเกต 3. มุง่ ม่นั ในการทำงาน 2) ทักษะการสำรวจคน้ หา 3) ทกั ษะการวิเคราะห์ 4) ทกั ษะการทำงานร่วมกัน 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 6. กิจกรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ช่วั โมงที่ 1 ขั้นนำ ขัน้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 ว่า “ในปฏิกิริยาเคมีหนึ่ง ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงพลังงานอย่างไรบ้าง” ให้นักเรียนร่วมกันตอบ คำถาม (แนวตอบ : ในการเกิดปฏิกิริยาเคมีหนึ่ง ๆ จะต้องมีการดูดพลังงานเพื่อสลายพันธะของสารตั้งต้น และมกี ารคายพลังงานเพือ่ สร้างพนั ธะระหว่างผลติ ภณั ฑ์) 2. ครูตั้งคำถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่า “ปฏิกิริยาเคมีแต่ละปฏิกิริยาจะมีการเปลี่ยนแปลง พลังงานในปฏิกิริยาเท่ากันหรือไม่ อย่างไร” ซึ่งครูยังไม่ต้องเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง จากนั้นครูและ นกั เรยี นรว่ มกันอภิปราย เพอื่ นำไปสู่ขัน้ สอนต่อไป ข้ันสอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครใู หน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยให้แตล่ ะกล่มุ ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกย่ี วกบั เร่ือง พลังงานกับ การดำเนินไปของปฏกิ ริ ยิ าเคมี จากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าเพม่ิ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 1 2. นกั เรียนนำข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการคน้ ควา้ ทำเป็นรูปแบบตา่ ง ๆ ตามความคิดเหน็ ของแต่ละกลมุ่ เช่น แผนภาพ แผนผงั เขยี นบรรยาย (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ) ชั่วโมงท่ี 2 ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 3. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตัวแทนมานำเสนอเร่ืองที่ได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลและผลงานการจัดทำข้อมูลของ กลุ่มตนเองหนา้ ชั้นเรียนทลี ะกลมุ่ เพือ่ แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ กันจนครบทกุ กลุ่ม (หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมนิ นกั เรียน โดยใช้แบบการนำเสนอหนา้ ผลงาน) 4. ครตู ้ังคำถามใหน้ กั เรยี นร่วมกันอภิปราย เร่ือง พลงั งานกับการดำเนินไปของปฏิกิรยิ าเคมี เชน่ 1) จงอธบิ ายความหมายของปฏิกิรยิ าดูดพลังงานและปฏกิ ิรยิ าคายพลงั งาน

(แนวตอบ : ปฏิกิริยาดูดพลังงาน คือ ปฏิกิริยาที่มีการดูดพลังงานเข้าไปเพื่อสลายแรงยึดเหนี่ยว ระหวา่ งอะตอมของสารตั้งต้นมากกว่าคายพลงั งานออกมาเพ่ือสร้างแรงยึดเหนยี่ วระหว่างอะตอม ของผลิตภัณฑ์ ปฏิกิริยาคายพลังงาน คือ ปฏิกิริยาที่มีการดูดพลังงานเข้าไปเพื่อสลายแรงยึดเหนี่ยวระหว่าง อะตอมของสารตั้งต้นน้อยกว่าคายพลังงานออกมาเพื่อสร้างแรงยึดเหนี่ ยวระหว่างอะตอมของ ผลติ ภณั ฑ์) 2) กลไกของปฏกิ ริ ยิ าหมายถงึ อะไร (แนวตอบ : กลไกของปฏิกิริยา คือ ขั้นตอนต่าง ๆ ของการเกิดปฏิกิริยา ซึ่งปฏิกิริยาเคมีหนึ่งๆ อาจจะมีขั้นตอนการเกิดปฏิกิริยาเพียง 1 ข้ันตอน หรือบางปฏิกิริยาอาจจะมีขั้นตอนการ เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าหลายข้ันตอนก็ได้ โดยแตล่ ะขั้นตอน เรียกว่า ขนั้ ยอ่ ยของปฏิกริ ิยา) 3) ในปฏิกิริยาท่เี กดิ หลายขน้ั ตอน แต่ละขน้ั ตอนจะเกดิ สารที่ไมเ่ สถยี รข้นึ เรยี กสารนว้ี ่าอย่างไร (แนวตอบ : สารมธั ยนั ตร์) 4) ในปฏิกิริยาท่เี กิดหลายขน้ั ตอน ปฏกิ ริ ิยาใดใช้ในการกำหนดอัตราการเกิดปฏกิ ริ ยิ า (แนวตอบ : ปฏิกิริยาท่ีเกดิ ช้าทสี่ ดุ ) (หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) ข้ันที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 5. ครูถามคำถาม BIG QUESTION จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 อีก ครงั้ ดงั น้ี • การเปล่ียนแปลงพลังงานในปฏิกิริยาเคมีจำแนกได้กี่ประเภท อะไรบ้าง แต่ละประเภทมีลักษณะ อย่างไร (แนวตอบ : การเปลี่ยนแปลงพลังงานในปฏิกิริยาเคมีจำแนกได้ 2 ประเภท คือ ปฏิกิริยาดูด พลังงาน ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่มีการดดู พลังงานเข้าไปมากกว่าคายพลังงานออกมา และปฏิกิริยาคาย พลังงาน ซึง่ เป็นปฏกิ ิริยาทม่ี ีการคายพลงั งานออกมามากกว่าดดู พลังงานเข้าไป) 6. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามข้อสงสัยในเนอ้ื หา เรอ่ื ง พลังงานกบั การดำเนินไปของปฏิกิริยาเคมี วา่ มสี ว่ นไหนทีย่ ังไมเ่ ข้าใจ และให้ความรู้เพ่ิมเติมในสว่ นนนั้ เพือ่ จะใชเ้ ปน็ ความรู้เบ้ืองต้นสำหรับการ เรียนในเน้ือหาตอ่ ๆ ไป 7. นักเรียนทำใบงานท่ี 2.3.1 เรื่อง พลงั งานกบั การดำเนินไปของปฏิกิริยาเคมี 8. นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนังสอื แบบฝึกหดั รายวิชาเพ่มิ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 9. นักเรียนทำ Topic Question จากหนังสือเรยี นรายวิชาเพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 1 ข้นั สรปุ ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมินผลนักเรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล พฤติกรรมการทำงานกล่มุ และจากการนำเสนอผลการทำกิจกรรมหนา้ ชน้ั เรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 2.3.1 เร่อื ง พลังงานกบั การดำเนินไปของปฏิกริ ิยาเคมี 3. ครตู รวจสอบผลจากการทำแบบฝึกหัด 4. นักเรียนและครูรว่ มกนั สรปุ เกี่ยวกับพลงั งานกบั การดำเนินไปของปฏกิ ิรยิ าเคมี ดังน้ี • ปฏกิ ิริยาดดู พลังงาน คือ ปฏิกิริยาทมี่ ีการดดู พลังงานเข้าไปเพื่อสลายแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอม ของสารตั้งตน้ มากกวา่ คายพลังงานออกมาเพ่ือสรา้ งแรงยดึ เหนีย่ วระหวา่ งอะตอมของผลิตภัณฑ์

• ปฏกิ ิรยิ าคายพลังงาน คอื ปฏิกิริยาทีม่ ีการดดู พลงั งานเข้าไปเพื่อสลายแรงยึดเหนย่ี วระหว่างอะตอม ของสารตง้ั ต้นน้อยกวา่ คายพลงั งานออกมาเพือ่ สรา้ งแรงยึดเหนีย่ วระหวา่ งอะตอมของผลติ ภณั ฑ์ • ปฏิกริ ยิ าท่ีสารตัง้ ต้นทำปฏิกริ ยิ ากันเกิดผลิตภณั ฑ์ เรยี กว่า ปฏิกริ ิยาไปข้างหน้า • ผลติ ภัณฑท์ ่เี กิดข้ึนจะเขา้ ทำปฏิกิรยิ ากัน ทำให้เกิดปฏิกิริยาย้อนกลับเกิดเป็นสารตั้งต้น เรยี กวา่ ปฏกิ ิรยิ ายอ้ นกลบั 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวดั วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ 7.1 ประเมนิ ระหวา่ ง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) พลังงานกบั การ - ตรวจใบงานที่ 2.3.1 - ใบงานที่ 2.3.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ดำเนนิ ไปของ - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ปฏกิ ิริยาเคมี 2) การนำเสนองาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมินการเสนอ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผลงาน ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 3) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2 การทำงาน การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล 4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2 ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2 อันพึงประสงค์ รบั ผิดชอบใฝเ่ รียนรู้ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ และมุ่งมัน่ ในการ อันพึงประสงค์ ทำงาน 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียนรายวิชาเพม่ิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 อัตราการเกิดปฏกิ ิรยิ า เคมี 2) หนงั สือแบบฝึกหดั รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 อัตราการ เกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี 3) ใบงานท่ี 2.3.1 เร่ือง พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกริ ิยาเคมี 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ -

9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ผ้เู ขยี นแผนการจัดการเรยี นรู้ ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................... (นางสาวณฐั ธนัญา บุญถึง) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกล่มุ บริหารงานวิชาการ ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ลงชือ่ ...................................................... (นายวิเศษ ฟองตา) รองผูอ้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ ข้อเสนอแนะของผ้อู ำนวยการโรงเรียน ................................................................................................................ ................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ......................................................................................................................................................................... ........ ลงช่อื .................................................... (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

ใบงานท่ี 2.3.1 เร่อื ง พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกริ ยิ าเคมี คำช้แี จง : ตอบคำถามเกยี่ วกับพลงั งานกับการดำเนนิ ไปของปฏิกริ ิยาเคมี 1. พจิ ารณากราฟแสดงความสมั พันธ์ระหวา่ งพลงั งานกบั การดำเนินไปของปฏกิ ิรยิ าทก่ี ำหนดให้ แลว้ ตอบคำถาม 1) พลงั งานก่อกมั มนั ตข์ องปฏกิ ริ ิยาไปข้างหนา้ มีคา่ เท่ากบั กิโลจูล 2) พลงั งานก่อกัมมนั ตข์ องปฏกิ ิริยาย้อนกลับมีค่าเทา่ กับ กิโลจูล 3) ปฏกิ ิริยาน้ีเปน็ ปฏิกริ ิยา ดดู พลงั งาน เทา่ กับ กิโลจูล 4) ผลิตภณั ฑ์ท่เี กดิ ขน้ึ ความเสถียร เพราะ 2. พิจารณากราฟแสดงกลไกของปฏกิ ริ ิยา A + B → C + D ทก่ี ำหนดให้ แลว้ ตอบคำถาม 1) ปฏกิ ริ ยิ านป้ี ระกอบดว้ ย ขน้ั ตอน ขน้ั ที่ 1 ปฏิกริ ยิ าทเี่ กดิ ขนึ้ คอื ปฏิกริ ยิ าเกิด ปฏิกริ ิยาเกดิ ข้นั ท่ี 2 ปฏกิ ริ ิยาท่เี กิดขน้ึ คอื เพราะ 2) สารมธั ยันตร์ คอื กิโลจูล 3) ขนั้ ทกี่ ำหนดอตั ราการเกดิ ปฏกิ ิรยิ า คอื 4) พลังงานกอ่ กัมมันตข์ องปฏิกริ ยิ านีม้ ีคา่ 5) ปฏิกริ ยิ านีเ้ ปน็ แบบ

ใบงานท่ี 2.3.1 เฉลย เร่อื ง พลังงานกบั การดำเนนิ ไปของปฏิกริ ิยาเคมี คำชี้แจง : ตอบคำถามเก่ยี วกับพลงั งานกบั การดำเนินไปของปฏกิ ิริยาเคมี 1. พิจารณากราฟแสดงความสัมพันธร์ ะหวา่ งพลงั งานกบั การดำเนินไปของปฏิกริ ิยาท่กี ำหนดให้ แลว้ ตอบคำถาม 1) พลังงานก่อกัมมันตข์ องปฏกิ ริ ยิ าไปข้างหน้ามีค่าเทา่ กบั 60 กิโลจูล 2) พลงั งานกอ่ กัมมนั ตข์ องปฏิกริ ยิ าย้อนกลบั มคี ่าเท่ากับ 40 กโิ ลจูล 3) ปฏิกริ ยิ าน้ีเปน็ ปฏกิ ริ ยิ า ดูดพลังงาน เทา่ กบั 20 กิโลจูล 4) ผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้น ไม่มี ความเสถียร เพราะ พลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยาย้อนกลับมีค่าน้อย ปฏิกิริยาจึงผันกลับได้งา่ ย 2. พิจารณากราฟแสดงกลไกของปฏกิ ิริยา A + B → C + D ท่ีกำหนดให้ แล้วตอบคำถาม 1) ปฏิกริ ิยานีป้ ระกอบดว้ ย 2 ขนั้ ตอน ข้ันท่ี 1 ปฏิกิริยาทเี่ กดิ ขน้ึ คอื B → X ปฏิกิรยิ าเกิด ชา้ ขั้นที่ 2 ปฏกิ ิรยิ าทีเ่ กิดขน้ึ คอื X + A → C + D ปฏกิ ิรยิ าเกิด เรว็ 2) สารมธั ยนั ตร์ คือ X 3) ขัน้ ทก่ี ำหนดอัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ า คอื ขั้นท่ี 1 เพราะ ปฏิกริ ิยาเกดิ ชา้ 4) พลงั งานก่อกัมมนั ต์ของปฏกิ ริ ยิ านีม้ คี ่า a กิโลจลู 5) ปฏกิ ิรยิ าน้ีเป็นแบบ คายพลงั งาน

วช-ร 06 แบบบันทกึ หลงั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่ือหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 8 เรื่อง อัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี แผนการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่อื ง พลังงานกบั การดำเนนิ ไปของปฏิกริ ิยา รายวชิ า เคมี 3 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 รหัสวิชา ว 32203 ครูผู้สอน นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา ตำแหนง่ ครูผูช้ ว่ ย เวลาท่ีใช้ 2 ชัว่ โมง ************************* ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ท่มี กี ารจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ เนื้อหา กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีสว่ นรว่ มของผู้เรียน ลงชือ่ ครผู ู้จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 8 เร่อื ง อัตราการาเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง ความเข้มข้นของ สารกบั อตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี รายวชิ า เคมี 3 รหสั วิชา ว 32203 ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 นำ้ หนกั เวลาเรยี น 1.5 หนว่ ยกิจ เวลาเรยี น 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาทใี่ ช้ในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 3 ชั่วโมง 1. ผลการเรยี นรู้ 1. ทดลอง และอธบิ ายผลของความเข้มขน้ พนื้ ที่ผิวของสารต้งั ตน้ อุณหภูมิ และตัวเรง่ ปฏิกริ ยิ าทมี่ ตี ่ออตั รา การเกิดปฏิกริ ิยาเคมี 2. เปรียบเทียบอัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเม่อื มกี ารเปลีย่ นแปลงความเข้มขน้ พน้ื ทผ่ี ิวของสารต้ังต้น อณุ หภมู ิ และตวั เร่งปฏิกิรยิ า 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายผลของความเข้มขน้ ของสารตง้ั ตน้ ที่มีต่ออตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมไี ด้ (K) 2. ทำการทดลองเพื่อศกึ ษาผลของความเข้มข้นของสารต่ออตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมีได้ (P) 3. ใช้เครือ่ งมอื และอุปกรณท์ างวิทยาศาสตร์ได้อยา่ งถูกตอ้ ง (P) 4. ปฏิบตั ิตามขน้ั ตอนการทดลองไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง (P) 5. ตง้ั ใจเรยี นรแู้ ละแสวงหาความรู้ รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ีทไี่ ดร้ บั มอบหมาย (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้เพม่ิ เตมิ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีของสารหนึ่ง ๆ ขึ้นอยู่กับ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา ความเข้มข้น พื้นที่ผิว อุณหภูมิ ตัวเร่งและตัวหน่วง ปฏิกิริยา นอกจากนี้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมียัง ขนึ้ อยกู่ บั ชนดิ ของสารที่ทำปฏิกริ ยิ าดว้ ย 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีของสารหนึง่ ๆ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้น พื้นที่ผิว อุณหภูมิ ตัวเร่งและตัวหน่วง ปฏกิ ริ ิยา และชนดิ ของสารทท่ี ำปฏิกิรยิ า ความเข้มข้นของสารตั้งต้นมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยถ้าสารตั้งต้นมีความเข้มข้นต่ำ อัตรา การเกิดปฏกิ ิริยาเคมจี ะชา้ แต่ถา้ สารต้ังต้นมีความเข้มข้นสูง อตั ราการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมจี ะเร็ว

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียนและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทกั ษะการสงั เกต 3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 2) ทักษะการสำรวจคน้ หา 3) ทักษะการวเิ คราะห์ 4) ทกั ษะการทดลอง 5) ทกั ษะการลงความเห็นจากข้อมูล 6) ทกั ษะการตีความหมายและลงข้อสรปุ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชั่วโมงที่ 1 ขน้ั นำ ข้นั ที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 วา่ “ปจั จัยอะไรบ้างทจ่ี ะสง่ ผลต่ออตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี” ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั ตอบคำถาม (แนวตอบ : ปัจจยั ทีส่ ่งผลตอ่ อตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี ได้แก่ ความเข้มข้นของสารต้งั ต้น พน้ื ทผี่ ิว ของสารต้ังต้น อณุ หภมู ิ ตัวเร่งปฏิกริ ิยาและตัวหนว่ งปฏิกิริยา) 2. ครูตัง้ คำถามให้นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายวา่ “เมอื่ ความเขม้ ข้นของสารตั้งตน้ เปลีย่ นแปลงไป จะส่งผล ต่ออตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมีหรอื ไม่ อยา่ งไร” ซึ่งครยู ังไมต่ ้องเฉลยคำตอบที่ถูกตอ้ ง จากน้ันครูและ นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ ราย เพ่อื นำไปสขู่ ั้นสอนตอ่ ไป ขน้ั สอน ข้ันท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 5 คน แลว้ ทำการทดลอง เรื่อง การศกึ ษาผลของความเข้มข้นของสาร ตอ่ อตั ราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี จากหนังสอื เรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 2. ครใู ช้รูปแบบการเรียนรู้แบบรว่ มมอื เทคนิค LT มาจดั กระบวนการเรยี นรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชกิ แต่ ละคนภายในกลุ่มมีบทบาทหนา้ ที่ของตนเอง ดังน้ี • สมาชกิ คนท่ี 1 : ทำหนา้ ทเ่ี ตรยี มวัสดุ-อุปกรณ์ทใี่ ช้ในการทดลองเรอื่ ง การศกึ ษาผลของความ เขม้ ข้นของสารต่ออัตราการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี • สมาชิกคนท่ี 2 : ทำหนา้ ท่ีอ่านวธิ กี ารทดลอง ทำความเข้าใจ และอธบิ ายให้สมาชิกในกลมุ่ ฟัง • สมาชิกคนที่ 3 : ทำหน้าทบ่ี ันทึกผลการทดลอง • สมาชิกคนท่ี 4 และ 5 : ทำหน้าทน่ี ำเสนอผลการทดลอง 3. สมาชิกทกุ คนในกลุ่มช่วยกันลงมอื ทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม)

ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มส่งตวั แทน (สมาชกิ คนท่ี 4 และ 5 ของกล่มุ ) มานำเสนอผลการทดลอง หลงั จาก นั้นให้นักเรียนทุกคนร่วมกนั อภิปรายผลการทดลองจนมีความเขา้ ใจทีต่ รงกนั (หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบการนำเสนอหน้าผลงาน) 5. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายและหาขอ้ สรุปจากการปฏบิ ตั ิการทดลอง โดยใชแ้ นวคำถาม ดงั นี้ 1) เม่อื ความเข้มข้นของสารละลายโซเดยี มไทโอซัลเฟตลดลง เวลาที่ใชใ้ นการเกิดปฏกิ ิริยาจะเป็น อย่างไร (แนวตอบ : เวลาทีใ่ ชใ้ นการเกดิ ปฏกิ ิริยามากข้ึน) 2) เมื่อกำหนดให้ความเข้มข้นของสารละลายโซเดียมไทโอซัลเฟตคงที่ และเปลี่ยนความเข้มข้นของ สารละลายกรดไฮโดรคลอริก ผลการทดลองทไี่ ดจ้ ะเปน็ อย่างไร (แนวตอบ : เม่อื ความเขม้ ขน้ ของสารละลายกรดไฮโดรคลอริกลดลง จะใชเ้ วลาในการเกดิ ปฏิกิริยา มากขึ้น และเมื่อความเข้มข้นของสารละลายกรดไฮโดรคลอริกเพิ่มขึ้น จะใช้เวลาในการ เกดิ ปฏิกิริยาลดลง) 3) เวลาทใี่ ช้ในการเกิดปฏิกริ ิยาระหว่างสารละลายโซเดียมไทโอซลั เฟตกบั สารละลายกรดไฮโดรคลอ ริกคงท่ีตลอดการทดลองหรือไม่ (แนวตอบ : ไมค่ งท่)ี 4) ความเขม้ ข้นของสารต้ังตน้ มีผลต่ออตั ราการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมีอย่างไร (แนวตอบ : ถ้าสารตั้งต้นมีความเข้มข้นต่ำ อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีจะช้า แต่ถ้าสารตั้งต้นมี ความเขม้ ขน้ สูง อตั ราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมจี ะเร็ว) (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นกั เรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) ชั่วโมงที่ 2 ขัน้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore) 6. ครใู ห้นักเรียนจับคู่กับเพอ่ื นที่น่งั ข้างกันแลว้ ศึกษาคน้ คว้าข้อมูลเกีย่ วกับ เรื่อง กฎอตั ราและอนั ดับ ของปฏิกิริยา จากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าเพิม่ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 แล้วอภปิ รายรว่ มกนั จน เกิดความเขา้ ใจท่ีตรงกนั (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ) 7. ครสู มุ่ ตัวแทน 1 คู่ ออกมาอธบิ ายวิธกี ารหากฎอตั ราของปฏกิ ริ ยิ า 2NO (g) + Cl2 (g) → 2NOCl (g) ใหเ้ พอ่ื นฟังหนา้ ชัน้ เรยี น จนเกิดความเขา้ ใจทตี่ รงกันเกี่ยวกับการหากฎอัตรา ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) 8. ครตู ้งั คำถามให้นักเรียนร่วมกนั อภปิ ราย เรือ่ ง กฎอตั ราและอนั ดบั ของปฏกิ ริ ยิ า เช่น 1) กฎอตั ราคอื อะไร (แนวตอบ : กฎอัตรา คือ สมการที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเกิดปฏิกิริยากับค่าคงที่ อตั ราและความเขม้ ขน้ ของสารตง้ั ต้น) 2) อันดับของปฏิกิรยิ าคืออะไร (แนวตอบ : อันดับของปฏิกิริยา คือ ผลรวมของเลขชี้กำลังของความเข้มข้นของสารตั้งต้นในกฎ อตั รา) 3) ถ้ากฎอัตราของปฏิกิริยาหนึ่งเป็น R = k[X][Y]2 ปฏิกิริยานี้เป็นปฏิกิริยาอันดับใด และอัตราการ เกิดปฏกิ ริ ยิ าของปฏิกริ ิยานี้เปน็ อย่างไร

(แนวตอบ : ปฏิกิริยานี้เป็นปฏกิ ิริยาอันดับสาม โดยอัตราการเกิดปฏิกิริยาขึ้นอยู่กับความเข้มข้น ของสาร X และ Y โดยถ้าเพิ่มความเข้มข้นของสาร X เป็น 2 เท่า อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพ่ิม เป็น 2 เท่า แต่ถ้าเพิ่มความเข้มข้นของสาร Y เป็น 2 เท่า อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพิ่มเป็น 4 เทา่ ) 4) ถ้ากฎอัตราของปฏิกิริยาหนึ่งเป็น R = k[C][D]0 ปฏิกิริยานี้เป็นปฏิกิริยาอันดับใด และอัตราการ เกดิ ปฏิกิริยาของปฏกิ ริ ยิ านีเ้ ปน็ อยา่ งไร (แนวตอบ : ปฏิกิริยานี้เป็นปฏิกริ ิยาอันดับหนึ่ง โดยอัตราการเกิดปฏิกิริยาขึ้นอยูก่ ับความเข้มข้น ของสาร C แต่ไม่ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสาร D โดยถ้าเพ่ิมความเข้มข้นของสาร C เป็น 2 เทา่ อตั ราการเกิดปฏกิ ิรยิ าจะเพิ่มเป็น 2 เทา่ ) 5) จงเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารตั้งต้นกับเวลา และกราฟแสดง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งอตั ราการเกิดปฏิกริ ยิ ากบั ความเข้มข้นของสารต้ังต้นในปฏิกริ ยิ าอันดับหนึ่ง (แนวตอบ : กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารตั้งต้นกับเวลาในปฏิกิริยา อันดับหน่งึ เปน็ ดงั น้ี กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเกิดปฏิกิริยากับความเข้มขน้ ของสารต้ังต้นในปฏิกิริยา อันดับหนง่ึ เป็น ดงั น้ี ) (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล) ช่วั โมงท่ี 3 ขัน้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 9. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยในเนื้อหา เรื่อง ความเข้มข้นของสารกับอัตราการ เกิดปฏิกิริยาเคมี ว่ามีส่วนไหนที่ยังไม่เข้าใจ และให้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนนั้น เพื่อจะใช้เป็นความรู้ เบอ้ื งต้นสำหรับการเรยี นในเนอ้ื หาต่อ ๆ ไป 10. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 2.4.1 เรอ่ื ง ความเขม้ ขน้ ของสารกับอัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี 11. นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนังสือแบบฝกึ หัดรายวชิ าเพ่ิมเตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 1

ขัน้ สรปุ ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมนิ ผลนกั เรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และจากการนำเสนอผลการทำกิจกรรมหนา้ ชั้นเรียน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 2.4.1 เรอื่ ง ความเข้มขน้ ของสารกับอตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี 3. ครตู รวจสอบผลจากการทำแบบฝกึ หดั 4. ครวู ดั และประเมินผลจากรายงานการทดลอง เรื่อง การศึกษาผลของความเข้มข้นของสารตอ่ อัตรา การเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี 5. นักเรยี นและครรู ่วมกันสรุปเกย่ี วกับความเข้มข้นของสารกับอัตราการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี ดงั น้ี • ความเขม้ ข้นของสารตงั้ ตน้ มีผลต่ออัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี โดยถา้ สารต้ังตน้ มีความเข้มข้นต่ำ อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมีจะช้า แตถ่ ้าสารตงั้ ต้นมีความเข้มขน้ สูง อตั ราการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีจะเรว็ 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 ประเมนิ ระหวา่ ง - ตรวจใบงานที่ 2.4.1 - ใบงานท่ี 2.4.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การจดั กจิ กรรม - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหดั - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การเรียนรู้ 1) ความเขม้ ขน้ ของ - ประเมนิ การปฎบิ ตั ิ - แบบประเมนิ การปฎิบตั ิ - ระดับคณุ ภาพ 2 การ การ ผา่ นเกณฑ์ สารกบั อัตราการ เกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การเสนอ - ระดบั คุณภาพ 2 2) การทดลอง เรอื่ ง ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์ การศกึ ษาผลของ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2 ความเขม้ ข้นของ การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ สารต่ออัตราการ เกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2 3) การนำเสนองาน การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ - สังเกตความมวี ินัย - แบบประเมิน - ระดบั คุณภาพ 2 4) พฤติกรรม รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ การทำงาน และมุง่ มัน่ ในการทำงาน อนั พึงประสงค์ รายบคุ คล 5) พฤติกรรมการ ทำงานกลุ่ม 6) คณุ ลักษณะ อนั พึงประสงค์

8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 อัตราการ เกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี 2) หนังสอื แบบฝึกหัดรายวชิ าเพ่มิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 อตั ราการ เกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี 3) ใบงานที่ 2.4.1 เรื่อง ความเข้มข้นของสารกบั อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี 4) วัสดุ-อปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นการทดลองเร่ือง การศึกษาผลของความเขม้ ข้นของสารต่ออตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยา เคมี 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรียน 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ผ้เู ขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................... (นางสาวณฐั ธนญั า บุญถึง) หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ลงชื่อ...................................................... (นายวิเศษ ฟองตา) รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ

ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยการโรงเรยี น ................................................................................................................ ................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ......................................................................................................................................................................... ........ ลงช่อื .................................................... (นายอดิศร แดงเรอื น) ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

ใบงานท่ี 2.4.1 เรื่อง ความเขม้ ขน้ ของสารกับอตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี คำชี้แจง : ตอบคำถามเกี่ยวกบั ความเข้มขน้ ของสารกับอัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี 1. จงอธิบายว่าเพราะเหตุใดเมือ่ สารตั้งตน้ มีความเขม้ ขน้ มากขึ้น อตั ราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมีจงึ สูงขึ้น 2. จงอธิบายว่าเพราะเหตใุ ดเม่ือสารตง้ั ตน้ มคี วามเขม้ ข้นน้อยลง อตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมีจึงตำ่ ลง 3. พจิ ารณาปฏกิ ริ ิยาระหว่างแก๊สไฮโดรเจนกบั แกส๊ ไนโตรเจนท่ีอุณหภูมิ 350 องศาเซลเซยี ส ดงั สมการ 3H2 (g) + N2 (g) → 2NH3 (g) ถ้าเพิ่มจำนวนโมเลกุลของแก๊สไนโตรเจนที่อยู่ในภาชนะเดิมเป็น 2 เท่าของจำนวนเดิม จะมีผลต่ออัตราการ เกิดปฏิกริ ยิ าเคมอี ยา่ งไร 4. เมื่อบรรจุแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์และแก๊สไฮโดรเจนไวใ้ นภาชนะปิดท่ีอุณหภมู ิห้อง แลว้ ใหค้ วามรอ้ นจะเกิด แก๊สไนโตรเจนและไอนำ้ ดังสมการ 2NO (g) + 2H2 (g) → N2 (g) + 2H2O (g) ถ้าลดจำนวนโมเลกุลของแกส๊ ไฮโดรเจนให้เหลือครง่ึ หน่งึ ของจำนวนเดิม จะมีผลต่ออตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี อยา่ งไร

5. จงระบุอันดับของปฏิกิริยาของกฎอัตราของปฏิกิริยาต่อไปนี้ พร้อมอธิบายว่าอัตราการเกิดปฏิกิริยาของ ปฏกิ ริ ยิ าน้นั เปน็ อยา่ งไร 1) R = k[A]0[B] 2) R = k[X][Y]

ใบงานที่ 2.4.1 เฉลย เรื่อง ความเข้มขน้ ของสารกับอตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี คำช้ีแจง : ตอบคำถามเกี่ยวกบั ความเข้มข้นของสารกับอัตราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี 1. จงอธบิ ายวา่ เพราะเหตุใดเมอื่ สารตง้ั ต้นมีความเข้มขน้ มากข้ึน อตั ราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมีจงึ สงู ข้ึน การเพมิ่ ความเขม้ ขน้ ของสารตงั้ ต้นเป็นการเพ่มิ จำนวนอนภุ าคของสารตงั้ ต้น จึงทำให้สารตงั้ ต้นมโี อกาสชนกัน ไดม้ ากข้นึ อตั ราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมจี ึงสงู ข้ึน 2. จงอธิบายว่าเพราะเหตใุ ดเม่ือสารตัง้ ตน้ มีความเข้มขน้ นอ้ ยลง อตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมจี ึงต่ำลง การลดความเข้มข้นของสารตั้งต้นเป็นการลดจำนวนอนุภาคของสารตั้งต้น จึงทำให้สารตั้งต้นมีโอกาสชนกัน ได้น้อยลง อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีจงึ ต่ำลง 3. พจิ ารณาปฏิกิริยาระหวา่ งแกส๊ ไฮโดรเจนกับแกส๊ ไนโตรเจนท่ีอุณหภมู ิ 350 องศาเซลเซียส ดงั สมการ 3H2 (g) + N2 (g) → 2NH3 (g) ถ้าเพิ่มจำนวนโมเลกุลของแก๊สไนโตรเจนที่อยู่ในภาชนะเดิมเป็น 2 เท่าของจำนวนเดิม จะมีผลต่ออัตราการ เกดิ ปฏกิ ิริยาเคมีอย่างไร การเพิ่มจำนวนโมเลกุลของแก๊สไนโตรเจนที่อยู่ในภาชนะเดิม เป็นการเพิ่มความเข้มข้นของสารตั้งต้น ดังน้ัน อตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาจงึ ควรเพ่มิ ขน้ึ ถา้ อัตราการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมีข้นึ อยกู่ ับความเข้มข้นของแกส๊ ไนโตรเจน 4. เม่อื บรรจแุ ก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์และแก๊สไฮโดรเจนไวใ้ นภาชนะปิดที่อุณหภูมิห้อง แล้วให้ความร้อนจะเกิด แก๊สไนโตรเจนและไอนำ้ ดังสมการ 2NO (g) + 2H2 (g) → N2 (g) + 2H2O (g) ถ้าลดจำนวนโมเลกุลของแก๊สไฮโดรเจนให้เหลือครง่ึ หน่งึ ของจำนวนเดมิ จะมีผลต่ออตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี อย่างไร การลดจำนวนโมเลกุลของแกส๊ ไฮโดรเจน เปน็ การลดความเข้มขน้ ของสารต้งั ตน้ ดังนน้ั อตั ราการเกดิ ปฏิกิริยา จึงควรลดลง ถา้ อตั ราการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีขึ้นอยู่กบั ความเข้มขน้ ของแกส๊ ไฮโดรเจน 5. จงระบุอันดับของปฏิกิริยาของกฎอัตราของปฏิกิริยาต่อไปนี้ พร้อมอธิบายว่าอัตราการเกิดปฏิกิริยาของ ปฏิกริ ยิ าน้ันเป็นอยา่ งไร 1) R = k[A]0[B] ปฏกิ ิรยิ านี้เป็นปฏิกริ ิยาอันดบั หนงึ่ โดยอัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าขน้ึ อยูก่ บั ความเขม้ ข้นของสาร B แตไ่ ม่ขน้ึ อยู่ กับความเข้มข้นของสาร A โดยถ้าเพิ่มความเข้มข้นของสาร B เป็น 2 เท่า อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพ่ิม เป็น 2 เท่า 2) R = k[X][Y] ปฏกิ ริ ยิ าน้ีเปน็ ปฏิกิริยาอนั ดับสอง โดยอตั ราการเกดิ ปฏิกริ ิยาขึ้นอยู่กับความเข้มขน้ ของสาร X และสาร Y โดยถ้าเพิ่มความเข้มขน้ ของสาร X เป็น 2 เท่า อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพิม่ เป็น 2 เท่า และถ้าเพิ่มความ เข้มข้นของสาร Y เปน็ 2 เท่า อตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าก็จะเพมิ่ เป็น 2 เท่า

วช-ร 06 แบบบันทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ชอ่ื หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เรอ่ื ง อัตราการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี แผนการเรยี นรทู้ ี่ 14 เรื่อง ความเขม้ ขน้ ของสารกบั อตั ราการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี รายวิชา เคมี 3 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 รหัสวิชา ว 32203 ครูผสู้ อน นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย เวลาทีใ่ ช้ 3 ชว่ั โมง ************************* ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ ค้นพบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ท่มี ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ เน้ือหา กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื ประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนรว่ มของผู้เรยี น ลงชอ่ื ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วฒุ ิเศลา) ตำแหนง่ ครูผ้ชู ่วย

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 8 เรือ่ ง อัตราการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรื่อง พืน้ ท่ีผิวของสารกับ อตั ราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี รายวชิ า เคมี 3 รหัสวชิ า ว 32203 ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 นำ้ หนกั เวลาเรียน 1.5 หนว่ ยกิจ เวลาเรยี น 3 ช่วั โมง/สัปดาห์ เวลาทีใ่ ชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2 ช่ัวโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. ทดลอง และอธิบายผลของความเขม้ ขน้ พ้ืนที่ผวิ ของสารตั้งต้น อุณหภูมิ และตัวเรง่ ปฏิกริ ยิ าท่มี ีต่ออตั รา การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี 2. เปรียบเทยี บอตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเมอื่ มีการเปลย่ี นแปลงความเข้มข้น พน้ื ทผ่ี วิ ของสารตัง้ ตน้ อณุ หภูมิ และตัวเร่งปฏกิ ิริยา 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายผลของพนื้ ท่ีผิวของสารต้งั ตน้ ทีม่ ีตอ่ อัตราการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีได้ (K) 2. ทำการทดลองเพ่อื ศกึ ษาผลของพื้นทีผ่ ิวของสารทม่ี ีต่ออัตราการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมีได้ (P) 3. ใช้เครอื่ งมอื และอปุ กรณ์ทางวิทยาศาสตร์ได้อยา่ งถกู ต้อง (P) 4. ปฏบิ ตั ิตามขน้ั ตอนการทดลองได้อยา่ งถูกตอ้ ง (P) 5. ตั้งใจเรียนรูแ้ ละแสวงหาความรู้ รับผดิ ชอบต่อหน้าท่ที ีไ่ ด้รับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิม่ เตมิ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีของสารหนึ่ง ๆ ขึ้นอยู่กับ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา ความเข้มข้น พื้นที่ผิว อุณหภูมิ ตัวเร่งและตัวหน่วง ปฏิกิริยา นอกจากนี้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมียัง ข้นึ อยูก่ บั ชนิดของสารทีท่ ำปฏกิ ริ ยิ าดว้ ย 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด พื้นที่ผิวของของสารตั้งต้นมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยถ้าสารตั้งต้นมีพื้นที่ผวิ นอ้ ย อัตราการ เกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมจี ะชา้ แตถ่ ้าสารตัง้ ต้นมีพืน้ ทีผ่ วิ มาก อัตราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมีจะเรว็

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี นิ ัย รับผดิ ชอบ 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทกั ษะการสังเกต 3. มุง่ ม่นั ในการทำงาน 2) ทักษะการสำรวจคน้ หา 3) ทกั ษะการวิเคราะห์ 4) ทักษะการทดลอง 5) ทักษะการลงความเหน็ จากข้อมลู 6) ทกั ษะการตีความหมายและลงข้อสรุป 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชว่ั โมงที่ 1 ข้ันนำ ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูตั้งคำถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่า “ระหว่างกระดาษชิ้นเล็ก ๆ กับแผ่นกระดาษ กระดาษ แบบใดจะเกิดการเผาไหม้ได้เร็วกว่ากนั เพราะเหตใุ ด” ซึ่งครยู งั ไมต่ อ้ งเฉลยคำตอบท่ถี ูกต้อง จากนนั้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภิปราย เพอ่ื นำไปสู่ขน้ั สอนตอ่ ไป ขั้นสอน ข้นั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน แล้วทำการทดลอง เรื่อง การศึกษาผลของพื้นที่ผิวของสารตอ่ อัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี จากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าเพม่ิ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 2. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT มาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ ละคนภายในกลมุ่ มีบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง ดงั นี้ • สมาชิกคนท่ี 1 : ทำหนา้ ทเี่ ตรยี มวัสดุ-อปุ กรณท์ ีใ่ ช้ในการทดลองเรือ่ ง การศกึ ษาผลของพื้นท่ีผวิ ของสารต่ออตั ราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี • สมาชกิ คนที่ 2 : ทำหนา้ ที่อ่านวิธีการทดลอง ทำความเข้าใจ และอธิบายใหส้ มาชิกในกล่มุ ฟัง • สมาชกิ คนท่ี 3 : ทำหน้าท่บี ันทึกผลการทดลอง • สมาชกิ คนท่ี 4 และ 5 : ทำหน้าท่ีนำเสนอผลการทดลอง 3. สมาชิกทกุ คนในกลุ่มช่วยกันลงมือทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มส่งตวั แทน (สมาชกิ คนที่ 4 และ 5 ของกล่มุ ) มานำเสนอผลการทดลอง หลงั จาก นนั้ ให้นักเรยี นทุกคนร่วมกันอภิปรายผลการทดลองจนมีความเข้าใจทตี่ รงกัน (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบการนำเสนอหนา้ ผลงาน) 5. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภิปรายและหาขอ้ สรปุ จากการปฏบิ ัติกจิ กรรม โดยใช้แนวคำถาม ดงั น้ี

1) เมื่อเปลี่ยนลวดแมกนีเซียมเป็นแบบพับให้แน่นแทนลวดแมกนีเซียมแบบสปริง เวลาที่ใช้ในการ เกดิ ปฏิกิริยาจะเป็นอยา่ งไร (แนวตอบ : เวลาท่ีใช้ในการเกิดปฏิกิริยามากขึน้ ) 2) เวลาที่ใช้ในการเกิดปฏิกิริยาระหว่างลวดแมกนีเซียมกับสารละลายกรดไฮโดรคลอริกคงที่ตลอด การทดลองหรือไม่ (แนวตอบ : ไม่คงท)่ี 3) พน้ื ท่ีผิวของของสารตง้ั ตน้ มีผลต่ออัตราการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีอยา่ งไร (แนวตอบ : ถา้ สารตงั้ ตน้ มพี น้ื ท่ผี วิ นอ้ ย อตั ราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมีจะช้า แตถ่ า้ สารตง้ั ตน้ มีพืน้ ท่ีผิว มาก อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีจะเร็ว) (หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล) ชว่ั โมงท่ี 2 ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 6. ครตู ั้งคำถามใหน้ กั เรียนร่วมกันอภิปราย เรอ่ื ง พ้ืนทผ่ี ิวของสารกับอตั ราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี เช่น 1) เมื่อนำผงเหล็กและแผ่นเหล็กมวลเท่ากันมาทำปฏิกิริยากับสารละลายกรดไนตริก ปฏิกิริยาใดจะ เกิดขึน้ ไดเ้ รว็ กกวา่ กนั (แนวตอบ : ปฏิกริ ยิ าระหว่างผงเหล็กกบั สารละลายกรดไนตริกจะเกิดได้เรว็ กว่าปฏิกิริยาระหว่าง แผน่ เหลก็ กับสารละลายกรดไนตริก) 2) การเค้ียวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนเกีย่ วข้องกับพื้นท่ีผิวของสารตั้งต้นกับอัตราการเกิดปฏิกิริยา เคมีหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ : เกี่ยวข้อง โดยการเค้ยี วอาหารให้ละเอยี ดก่อนกลนื เปน็ การทำให้อาหารมีพ้ืนท่ีผิวมาก ขึ้น เอนไซม์จึงสมารถย่อยอาหารได้ง่ายและเร็วขึ้น ซึ่งเป็นการทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีได้เร็วข้ึน น่นั เอง) (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 7. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยในเนื้อหา เรื่อง พื้นที่ผิวของสารกับอัตราการเกิดปฏิกิริยา เคมี วา่ มีส่วนไหนทีย่ ังไม่เขา้ ใจ และใหค้ วามรูเ้ พิ่มเตมิ ในส่วนนน้ั เพือ่ จะใชเ้ ป็นความรูเ้ บอื้ งต้นสำหรับ การเรยี นในเน้อื หาตอ่ ๆ ไป 8. นกั เรียนทำใบงานที่ 2.5.1 เร่อื ง พ้นื ทีผ่ วิ ของสารกับอัตราการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี 9. นักเรยี นทำแบบฝึกหัด ในหนังสอื แบบฝึกหัดรายวิชาเพม่ิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 ขัน้ สรุป ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครปู ระเมนิ ผลนักเรียน โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล พฤติกรรมการทำงานกลุม่ และจากการนำเสนอผลการทำกิจกรรมหนา้ ชั้นเรยี น 2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 2.5.1 เรื่อง พื้นท่ผี ิวของสารกบั อตั ราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี 3. ครูตรวจสอบผลจากการทำแบบฝกึ หัด 4. ครวู ดั และประเมนิ ผลจากการนำเสนอผลการทดลอง เรอ่ื ง การศึกษาผลของพนื้ ท่ผี วิ ของสารต่ออัตรา การเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี 5. นักเรยี นและครรู ่วมกันสรปุ เกี่ยวกบั พนื้ ท่ีผวิ ของสารกบั อตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี ดงั น้ี

• การเพ่มิ พ้ืนทผี่ ิวของสารต้ังต้นเป็นการเพิ่มจำนวนอนภุ าคท่มี ีโอกาสมาชนกนั อตั ราการ เกิดปฏิกริ ิยาเคมีจงึ สงู ขึน้ • พืน้ ทผี่ วิ ของของสารตั้งตน้ มผี ลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยถ้าสารตัง้ ตน้ มีพื้นที่ผิวน้อย อัตรา การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีจะช้า แต่ถ้าสารตง้ั ตน้ มพี ้นื ที่ผิวมาก อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีจะเรว็ 7. การวดั และประเมนิ ผล รายการวดั วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 ประเมินระหวา่ ง การจัดกจิ กรรม การเรียนรู้ 1) พ้ืนที่ผวิ ของสาร - ตรวจใบงานที่ 2.5.1 - ใบงานท่ี 2.5.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ กับอัตราการ - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบประเมินการ - ระดับคณุ ภาพ 2 เกิดปฏิกริ ิยาเคมี ปฎิบตั ิ ผา่ นเกณฑ์ การ 2) การทดลอง เรือ่ ง - ประเมินการปฎิบัติ การศกึ ษาผลของ การ พืน้ ทผ่ี วิ ของสาร ต่ออัตราการ เกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี 3) การนำเสนองาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมินการเสนอ - ระดบั คุณภาพ 2 ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ ผลงาน - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2 4) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ การทำงาน การทำงานรายบุคคล รายบคุ คล 5) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2 การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ ทำงานกล่มุ การทำงานกลุ่ม - แบบประเมิน - ระดบั คุณภาพ 2 6) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมวี นิ ยั คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ อนั พึงประสงค์ อันพงึ ประสงค์ รับผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมัน่ ในการ ทำงาน 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 อัตราการเกิดปฏิกริ ยิ า เคมี 2) หนงั สือแบบฝึกหดั รายวชิ าเพ่มิ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 อตั ราการ เกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี 3) ใบงานท่ี 2.5.1 เร่ือง พื้นท่ีผิวของสารกับอัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี 4) วัสดุ-อุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นการทดลองเรื่อง การศึกษาผลของพืน้ ท่ีผวิ ของสารต่ออัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งเรยี น

9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ผ้เู ขยี นแผนการจัดการเรยี นรู้ ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................... (นางสาวณฐั ธนัญา บุญถึง) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกล่มุ บริหารงานวิชาการ ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ลงชือ่ ...................................................... (นายวิเศษ ฟองตา) รองผูอ้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ ข้อเสนอแนะของผ้อู ำนวยการโรงเรียน ................................................................................................................ ................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ......................................................................................................................................................................... ........ ลงช่อื .................................................... (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

ใบงานท่ี 2.5.1 เร่อื ง พื้นท่ีผวิ ของสารกับอตั ราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี คำช้แี จง : ตอบคำถามเกย่ี วกบั พนื้ ที่ผิวของสารกับอตั ราการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี 1. จงอธิบายว่าเพราะเหตุใดเมอ่ื สารต้งั ต้นมพี น้ื ทีผ่ วิ มากข้ึน อัตราการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีจึงสูงขึ้น 2. นำโลหะสังกะสีมาใส่ลงในกรดไฮโดรคลอริก พบว่า มีฟองแก๊สเกิดขึ้น การใช้โลหะสังกะสีแบบใดที่มีมวล เทา่ กนั จะทำให้ฟองแกส๊ เกิดไดเ้ ร็วทสี่ ดุ ระหวา่ งแผน่ สังกะสี สงั กะสชี นิ้ เลก็ ๆ หรือผงสังกะสี เพราะเหตใุ ด 3. เมอื่ นำผงเหล็กมาเผาในอากาศจะเกิดการลุกไหม้ทนั ที แต่เมื่อนำตะปูเหล็กท่ีมีมวลเทา่ กันมาเผาแทนผงเหล็ก จะเกดิ ปฏกิ ริ ิยาอย่างช้า ๆ เพราะเหตใุ ดจึงเปน็ เช่นนัน้ 4. นำแคลเซียมคาร์บอเนตมาทำปฏิกิริยากับกรดไฮโดรคลอริก พบว่า มีแคลเซียมคลอไรด์ น้ำ และแก๊ส คารบ์ อนไดออกไซดเ์ กิดขึ้น ดังสมการ CaCO3 (s) + 2HCl (aq) → CaCl2 (aq) + H2O (l) + CO2 (g) ถ้าในตอนแรกใชแ้ คลเซียมคารบ์ อเนตชิ้นเล็ก ๆ มาทำปฏิกิรยิ า แต่ต่อมาเปลี่ยนมาใชผ้ งแคลเซียมคาร์บอเนต จำนวนเท่ากนั แต่นำมาบดละเอียดมาทำปฏกิ ิริยาแทน อัตราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมีจะเป็นอย่างไร และปริมาณ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ทเี่ กดิ ขึ้นจะเป็นอยา่ งไร 5. นำอะลูมิเนยี มมาทำปฏิกิรยิ ากบั กรดซลั ฟวิ รกิ พบว่า มอี ะลมู ิเนยี มซลั เฟต และไฮโดรเจนเกดิ ขน้ึ ดังสมการ 2Al (s) + 3H2SO4 (aq) → Al2(SO4)3 (aq) + 3H2 (g) ถ้าในตอนแรกใช้แผน่ อะลูมิเนียมที่พับแนน่ มาทำปฏิกริ ยิ า แต่ตอ่ มาเปลย่ี นมาใช้แผ่นอะลูมิเนยี มขนาดเท่าเดิม แต่ขดเป็นสปริงมาทำปฏิกิริยาแทน อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีจะเป็นอย่างไร และปริมาณแก๊สไฮโดรเจนท่ี เกิดขึ้นจะเปน็ อยา่ งไร

ใบงานที่ 2.5.1 เฉลย เร่อื ง พ้นื ท่ีผิวของสารกบั อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี คำชแ้ี จง : ตอบคำถามเกย่ี วกับพน้ื ทผี่ ิวของสารกบั อตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี 1. จงอธิบายว่าเพราะเหตุใดเม่ือสารตงั้ ต้นมีพื้นท่ผี ิวมากขน้ึ อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมจี ึงสงู ข้นึ การเพิ่มพนื้ ที่ผวิ ของสารตั้งต้นเป็นการเพ่ิมจำนวนอนภุ าคท่ีมีโอกาสมาชนกัน อตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี จึงสงู ขน้ึ 2. นำโลหะสังกะสีมาใส่ลงในกรดไฮโดรคลอริก พบว่า มีฟองแก๊สเกิดขึ้น การใช้โลหะสังกะสีแบบใดที่มีมวล เทา่ กันจะทำใหฟ้ องแก๊สเกดิ ได้เร็วทีส่ ุด ระหว่างแผ่นสงั กะสี สังกะสีชิน้ เลก็ ๆ หรือผงสงั กะสี เพราะเหตใุ ด ผงสังกะสี เพราะมีพนื้ ทีผ่ วิ มากทส่ี ุด ทำใหโ้ มเลกลุ ของสังกะสีมโี อกาสสัมผัสกบั กรดไฮโดรคลอริกได้มาก ที่สุด จึงทำให้อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีสูงที่สุด จงึ เกิดฟองแก๊สได้เรว็ ที่สุด 3. เมื่อนำผงเหล็กมาเผาในอากาศจะเกิดการลุกไหม้ทนั ที แต่เมื่อนำตะปูเหล็กท่ีมีมวลเท่ากันมาเผาแทนผงเหลก็ จะเกิดปฏกิ ิริยาอย่างชา้ ๆ เพราะเหตใุ ดจงึ เป็นเช่นนน้ั ปฏิกิริยาระหว่างเหล็กกับแก๊สออกซิเจนในอากาศเป็นปฏิกิริยาที่สารตั้งต้นมีสถานะแตกต่างกัน อัตรา การเกิดปฏิกิริยาจึงขึ้นอยู่กับพื้นที่ผิวสัมผัสของสารตั้งต้น ซึ่งผลเหล็กมีพื้นที่ผิวสัมผัสมากกว่าตะปูเหล็กที่มี มวลเทา่ กัน จงึ ทำให้เกดิ ปฏกิ ริ ยิ ากบั แก๊สออกซิเจนในอากาศได้เร็วกว่าตะปเู หลก็ 4. นำแคลเซียมคาร์บอเนตมาทำปฏิกิริยากับกรดไฮโดรคลอริก พบว่า มีแคลเซียมคลอไรด์ น้ำ แ ละแก๊ส คาร์บอนไดออกไซดเ์ กิดข้นึ ดงั สมการ CaCO3 (s) + 2HCl (aq) → CaCl2 (aq) + H2O (l) + CO2 (g) ถ้าในตอนแรกใช้แคลเซียมคาร์บอเนตชิน้ เล็ก ๆ มาทำปฏิกิริยา แต่ต่อมาเปลี่ยนมาใช้ผงแคลเซียมคารบ์ อเนต จำนวนเทา่ กันแต่นำมาบดละเอยี ดมาทำปฏิกิริยาแทน อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีจะเป็นอย่างไร และปริมาณ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ทเี่ กดิ ขึน้ จะเป็นอย่างไร อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีจะเร็วขึ้น แตไ่ ด้ปริมาณแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ทเ่ี กิดข้ึนเทา่ เดมิ 5. นำอะลมู เิ นยี มมาทำปฏกิ ริ ิยากับกรดซัลฟิวรกิ พบวา่ มอี ะลูมิเนียมซลั เฟต และไฮโดรเจนเกดิ ขึน้ ดงั สมการ 2Al (s) + 3H2SO4 (aq) → Al2(SO4)3 (aq) + 3H2 (g) ถา้ ในตอนแรกใช้แผน่ อะลูมเิ นียมท่ีพบั แน่นมาทำปฏิกริ ิยา แตต่ อ่ มาเปล่ียนมาใชแ้ ผ่นอะลูมิเนียมขนาดเท่าเดิม แต่ขดเป็นสปริงมาทำปฏิกิริยาแทน อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีจะเป็นอย่างไร และปริมาณแก๊สไฮโดรเจนที่ เกดิ ขึ้นจะเปน็ อยา่ งไร อัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมีจะช้าลง แตไ่ ด้ปริมาณแกส๊ ไฮโดรเจนท่เี กิดขึน้ เทา่ เดมิ

วช-ร 06 แบบบันทึกหลงั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ือหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 8 เรอื่ ง อัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี แผนการเรยี นรูท้ ่ี 5 เรอื่ ง พนื้ ที่ผิวของสารกับอัตราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี รายวชิ า เคมี 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 รหสั วิชา ว 32203 ครูผู้สอน นางสาวกานดา วฒุ ิเศลา ตำแหนง่ ครูผูช้ ว่ ย เวลาทีใ่ ช้ 2 ชว่ั โมง ************************* ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้อคน้ พบระหวา่ ง ปัญหาทีพ่ บ แนวทางแก้ไข ที่มีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ เนือ้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนรว่ มของผู้เรยี น ลงชื่อ ครผู ู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 8 เร่อื ง อัตราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 เร่อื ง อณุ หภมู ิกับอัตราการ เกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี รายวิชา เคมี 3 รหสั วิชา ว 32203 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 นำ้ หนักเวลาเรยี น 1.5 หน่วยกิจ เวลาเรียน 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 2 ช่วั โมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. ทดลอง และอธิบายผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีต่ออัตรา การเกิดปฏกิ ิริยาเคมี 2. เปรียบเทียบอัตราการเกิดปฏิกิริยาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกิริยา 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายผลของอณุ หภมู ทิ ีม่ ีต่ออตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมีได้ (K) 2. ทำการทดลองเพื่อศกึ ษาผลของอณุ หภูมทิ ี่มตี อ่ อตั ราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมีได้ (P) 3. ใช้เครอ่ื งมอื และอปุ กรณท์ างวิทยาศาสตร์ได้อย่างถกู ตอ้ ง (P) 4. ปฏบิ ัตติ ามขั้นตอนการทดลองได้อย่างถกู ต้อง (P) 5. ตงั้ ใจเรยี นรแู้ ละแสวงหาความรู้ รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ีที่ไดร้ บั มอบหมาย (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้เพมิ่ เตมิ สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่นิ อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีของสารหนึ่ง ๆ ขึ้นอยู่กับ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา ความเข้มข้น พื้นที่ผิว อุณหภูมิ ตัวเร่งและตัวหน่วง ปฏิกิริยา นอกจากนี้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมียัง ขนึ้ อยู่กับชนิดของสารท่ที ำปฏิกิรยิ าด้วย 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด อณุ หภมู ิมีผลตอ่ อัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี โดยเมื่ออุณหภูมิสูงขึน้ อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะมีค่ามากข้ึน และเมอ่ื อณุ หภูมิต่ำลง อตั ราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมจี ะมีคา่ ลดลง 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทักษะการสงั เกต 3. มุง่ ม่นั ในการทำงาน 2) ทกั ษะการสำรวจค้นหา 3) ทกั ษะการวเิ คราะห์

4) ทกั ษะการทดลอง 5) ทักษะการลงความเหน็ จากข้อมลู 6) ทกั ษะการตีความหมายและลงข้อสรุป 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชวั่ โมงที่ 1 ขน้ั นำ ขน้ั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูตั้งคำถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่า “เพราะเหตุใดเราจึงนำอาหาร ผัก หรือผลไม้ไปแช่ใน ตู้เย็น และหากไม่นำไปแช่ในตู้เย็น อาหาร ผัก และผลไม้เหล่านี้จะมีลักษณะแตกต่างจากการเอาไป แชต่ ูเ้ ยน็ อย่างไร” ซ่งึ ครูยงั ไม่ต้องเฉลยคำตอบท่ีถูกต้อง จากน้นั ครแู ละนักเรียนรว่ มกันอภิปราย เพื่อ นำไปสู่ข้นั สอนตอ่ ไป ขัน้ สอน ขนั้ ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5 คน แล้วทำการทดลอง เรอื่ ง การศกึ ษาผลของอณุ หภูมิที่มีต่ออัตรา การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี จากหนังสอื เรียนรายวิชาเพิม่ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 1 2. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT มาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ ละคนภายในกลมุ่ มีบทบาทหน้าที่ของตนเอง ดังน้ี • สมาชกิ คนที่ 1 : ทำหนา้ ทเี่ ตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการทดลองเรอื่ ง การศึกษาผลของอุณหภูมิ ทมี่ ีต่ออัตราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี • สมาชกิ คนที่ 2 : ทำหนา้ ท่ีอ่านวิธกี ารทดลอง ทำความเข้าใจ และอธิบายใหส้ มาชกิ ในกลุม่ ฟงั • สมาชกิ คนท่ี 3 : ทำหนา้ ที่บันทึกผลการทดลอง • สมาชกิ คนท่ี 4 และ 5 : ทำหน้าทน่ี ำเสนอผลการทดลอง 3. สมาชิกทุกคนในกลุม่ ชว่ ยกันลงมือทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม). ชว่ั โมงท่ี 2 ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มส่งตวั แทน (สมาชกิ คนท่ี 4 และ 5 ของกลมุ่ ) มานำเสนอผลการทดลอง หลงั จาก นน้ั ให้นักเรยี นทุกคนร่วมกนั อภปิ รายผลการทดลองจนมีความเขา้ ใจทีต่ รงกนั (หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบการนำเสนอหน้าผลงาน) 5. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายและหาขอ้ สรปุ จากการปฏบิ ตั ิการทดลอง โดยใช้แนวคำถาม ดงั น้ี 1) ถา้ นำหลอดทดลองไปแช่ในน้ำที่มีอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซยี ส นกั เรียนคิดวา่ จะใชเ้ วลาในการ เกดิ ปฏิกริ ิยาเป็นอย่างไร (แนวตอบ : จะใชเ้ วลาในการเกิดปฏกิ ริ ยิ าลดลง) 2) เพราะเหตุใดเม่ืออุณหภูมิสงู ข้นึ อัตราการเกิดปฏกิ ริ ยิ าจงึ มคี า่ มากขน้ึ ดว้ ย

(แนวตอบ : เมอ่ื อุณหภูมิสงู ข้ึน ทำให้โมเลกุลของสารตงั้ ต้นเคล่ือนที่เร็วข้ึน โมเลกลุ มพี ลงั งานจลน์ สูงขึ้น ทำให้โมเลกุลที่มีพลังงานมากกว่าพลังงานก่อกัมมันต์มีจำนวนมากขึ้น อัตราการ เกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีจึงมีค่ามากขนึ้ ) 3) อุณหภูมิมีผลตอ่ อตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมีอย่างไร (แนวตอบ : เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะมีค่ามากขึ้น และเมื่ออุณหภูมิต่ำลง อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีจะมีคา่ ลดลง) (หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล) ข้ันที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 6. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรียนซักถามข้อสงสัยในเนื้อหา เรื่อง อุณหภูมิกับอัตราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี ว่ามี สว่ นไหนทยี่ งั ไมเ่ ข้าใจ และใหค้ วามรเู้ พมิ่ เติมในส่วนนนั้ เพ่อื จะใชเ้ ปน็ ความรู้เบือ้ งตน้ สำหรับการเรียน ในเน้อื หาต่อ ๆ ไป 7. นักเรียนทำใบงานที่ 2.6.1 เรอ่ื ง อุณหภมู ิกับอัตราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี 8. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั ในหนังสือแบบฝึกหดั รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 1 ขั้นสรุป ข้นั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมินผลนักเรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล พฤติกรรมการทำงานกลุม่ และจากการนำเสนอผลการทำกิจกรรมหน้าช้ันเรยี น 2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 2.6.1 เรอ่ื ง อณุ หภูมิกับอตั ราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี 3. ครูตรวจสอบผลจากการทำแบบฝกึ หดั 4. ครูวัดและประเมินผลจากการนำเสนอผลการทดลอง เรอ่ื ง การศกึ ษาผลของอุณหภูมิท่ีมีตอ่ อัตราการ เกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี 5. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรุปเก่ยี วกบั อุณหภมู กิ บั อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี ดังน้ี • เมอ่ื อุณหภมู สิ ูงข้นึ อนภุ าคของสารต้ังตน้ จะมีพลงั งานจลน์สงู ขึ้น อนภุ าคของสารตัง้ ตน้ จึงเคลื่อนที่ เรว็ ขนึ้ ทำใหเ้ กิดการชนกนั แรงและบ่อยคร้ังขึ้น สง่ ผลใหม้ ีจำนวนอนุภาคทมี่ ีพลงั งานจลน์เทา่ กบั หรอื มากกว่าพลังงานก่อกัมมันต์มากขึน้ อัตราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมีจึงสงู ขึ้น • อุณหภูมิมีผลต่ออตั ราการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี โดยเมื่ออุณหภูมสิ งู ขนึ้ อตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาจะมีค่า มากขน้ึ และเม่ืออุณหภูมติ ำ่ ลง อัตราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมีจะมคี ่าลดลง 7. การวดั และประเมนิ ผล รายการวัด วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 ประเมินระหวา่ ง - ตรวจใบงานท่ี 2.6.1 - ใบงานท่ี 2.6.1 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การจดั กิจกรรม - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หดั - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การเรียนรู้ - ประเมนิ การปฎบิ ตั ิ - ระดบั คณุ ภาพ 2 1) อณุ หภมู กิ ับอตั รา การ - แบบประเมนิ การ ผ่านเกณฑ์ การเกดิ ปฏกิ ริ ิยา ปฎบิ ัติ เคมี การ 2) การทดลอง เรอ่ื ง การศึกษาผลของ อุณหภมู ิทมี่ ตี ่อ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook