นกยงู ( Peacocks) ถกู ยกให้เป็นนกสวยงามและสงา่ งามท่ีสดุ ของโลก และเปน็ ราชนิ ีของนกทัง้ ปวง ในอดตี จงึ มกั มีเรอื่ งราวของนกยูง ปรากฎตามภาพเขยี น บทกวี และลทั ธคิ วามเชอื่ ของชนหลายประเทศ ไมว่ ่าจะเปน็ ชาวฮินดู จีน อยี ปิ ต์ และชน พืน้ เมอื งแถบเมดเิ ตอร์เรเนียน รวมถงึ ประเทศไทยดว้ ย ทัง้ นี้ นกยูง จดั อยู่ในวงศ์ Phasianidae เปน็ สตั วป์ กี จาพวกไก่ฟ้าขนาดใหญท่ ่ี มอี ยู่ด้วยกัน 2 สกลุ ในโลก คือ นกยงู ทางทวปี เอเซยี (Pavo) และ นกยงู ทางทวีป แอฟรกิ า (Afropavo) หรือนกยูงคองโก โดยนกยงู เอเชยี แบง่ เป็น 2 ชนดิ คือ นกยงู อนิ เดยี หรือนกยงู สนี ้าเงิน และนกยงู ไทย หรอื นกยงู สีเขียว อย่างไรก็ตาม นกั วชิ าการบางท่าน ไม่ถอื ว่านกยงู คองโก เปน็ นกยงู เพราะลักษณะภายนอก และ พฤตกิ รรมตา่ ง ๆ แตกตา่ งจากนกยงู อินเดีย และนกยูงไทยมาก สาหรับในประเทศไทย นกยูง เคยมกี ระจายอยทู่ วั่ ทง้ั ประเทศ แตป่ ัจจุบันไดล้ ด จานวนอยา่ งรวดเรว็ อันเนอ่ื งจากป่าซึง่ เปน็ ถน่ิ ทอี่ ยอู่ าศัยไดล้ ดจานวนลงอย่างรวดเรว็ และถกู จับลา่ เป็นจานวนมาก ดงั นน้ั นกยงู จึงคงเหลืออยู่แต่ในสวนสัตว์ และพ้ืนทป่ี ่า อนุรักษ์ เพยี ง 10 แหง่ เท่าน้นั คอื
เขตรักษาพันธ์ุสัตวป์ ่าสาละวิน เขตรกั ษาพนั ธส์ุ ตั วป์ า่ ทุ่งใหญ่นเรศวร เขตรักษาพนั ธ์ุสัตวป์ า่ ห้วยขาแข้ง เขตรักษาพันธุ์สัตวป์ ่าภูเขยี ว เขตรกั ษาพันธุ์สัตว์ปา่ ยอดโดม อทุ ยานแหง่ ชาติภเู ก้า - ภูพานคา อุทยานแหง่ ชาตภิ ูพาน อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาสก อุทยานแหง่ ชาติเขาแหลม (รวมเขตห้ามลา่ สตั ว์ปา่ บงึ เกรงิ กะเวีย - หนองน้าซับ เข้าไวด้ ว้ ย) เขตรกั ษาพนั ธุ์สัตวป์ ่าลมุ่ นา้ ภาชี
โดยบรเิ วณทพี่ บนกยงู มากทส่ี ดุ คอื เขตรกั ษาพันธสุ์ ตั ว์ปา่ ห้วยขาแข้ง มจี านวนประมาณ 400 ตัว รองลงมาคอื เขตรกั ษาพนั ธุ์สตั ว์ป่าสาละวิน และ เขตรักษาพนั ธุส์ ตั วป์ ่าทงุ่ ใหญน่ เรศวร ทาความรจู้ กั นกยงู เอเชยี 1. นกยงู ไทย หรือ นกยูงสีเขยี ว นกยงู ชนดิ น้ีจะมีขนาดลาตัวยาว 120-210 เซนติเมตร มขี ายาวสมสว่ น ทง้ั เพศผู้และเพศเมีย มหี งอน เป็นเส้นขน สีเขียวเหลอื บ ชี้ ตรงอยูบ่ นหัว แตกตา่ งกบั นกยูงอนิ เดยี ทจ่ี ะมหี งอนเป็นรูปพดั บนหัวและท่คี อเป็นขนสน้ั ๆ เหลือบเขียวแกมน้า
เงนิ ส่วนหน้าของ นกยงู ไทย ทง้ั สองขา้ งจะมสี ีฟา้ ดา และเหลอื ง ขนคอ ขนหนา้ อก และส่วนบนของหลังเปน็ ขนท่ีมปี ลายขนป้าน กลม, ตรงกลางขนเหลือบสีน้าเงนิ แก่ ล้อมรอบด้วยสเี ขียว และสีทองแดง ตรงขอบขนปีก มขี อบสีเหลอื บเขียวแกมดา มองดู คล้าย ๆ กบั เกล็ดปลา, หลงั เปน็ ขนสีเหลือบเขียวตรงกลางแลว้ กลายเปน็ สีทองแดง แกมดา ทง้ั น้ี นกยงู ไทย เพศผู้ จะมีแพนขนปิดหางยาวหลายเสน้ ทป่ี ลายแพนขน ปิดหางนี้ มดี อกดวง ท่เี รยี กวา่ \"แววมยรุ า\" ซ่งึ ตรงกลางดวง เปน็ สีน้าเงินแกมดา อยู่ ในพนื้ วงกลมเหลือบเขียว ลอ้ มรอบด้วยลายเปน็ วงรปู ไขส่ ที องแดง เวลานกยงู ราแพน จงึ เปรียบเหมอื นพัดขนาดใหญ่ ทีม่ ีสีสนั งดงาม สว่ นนกยูงไทยเพศเมีย จะแตกต่างจากเพศผู้ คอื มีขนาดร่างกายเลก็ กว่า สี ขนสดใสน้อยกวา่ และมเี ดือยส้ันกวา่ เดอื ยของเพศผ้มู าก นอกจากนัน้ บรเิ วณขนตา่ ง ๆ ของเพศเมียมกั มสี นี ้าตาลดา หรอื สี นา้ ตาลแดงแทรกเปน็ คล่ืน จึงมองเหน็ เป็น ลายคล่นื ท่วั ท้ังลาตวั สาหรับ นกยูงไทย แบ่งออกเปน็ 3 สายพนั ธุ์ คือ สายพนั ธพุ์ มา่ สายพันธ์ุ ชวา และสายพันธอ์ุ ินโดจนี ซ่งึ สองสายพนั ธ์ุหลงั นี้ พบการกระจายพนั ธุใ์ นประเทศไทย โดยสายพันธ์ุชวาพบอยูท่ างใต้ ส่วนสายพนั ธุ์อนิ โดจีน พบได้ท่ัวไปในอาณาบริเวณที่อยู่ เหนอื คอคอดกระ ตามรมิ ลาน้าสายใหญ่ ใกล้แนวป่า เช่น แถบลานา้ ปิง ลานา้ พอง ลาน้าตาปี ลานา้ แควใหญ่ และแควนอ้ ย
2. นกยงู อนิ เดยี หน้าตาของนกยงู อินเดยี มลี กั ษณะคลา้ ยกับนกยงู ไทย แต่จะตา่ งกันตรงที่ ขนบนหวั นกยูงไทยจะมลี กั ษณะเป็นจกุ แตน่ กยงู อินเดยี จะแผอ่ อกเหมือนพดั และสี ของขนของนกยูงไทยจะมสี เี ขียวใบไม้ แต่ของนกยงู อินเดยี จะเปน็ สนี า้ เงินและมสี ีขาวท่ี จมกู จนถึงขอบตาด้านบนนัยน์ตา นกยงู ชนดิ นจี้ ะอาศยั อยใู่ นปา่ ดงดบิ ทบึ อยู่กนั เป็นฝงู พบได้ในอินเดียและ ศรลี งั กา โดยตวั ผู้จะชอบทาลานเอาไวเ้ พอื่ ราแพนหาง มันจะรักษาความสะอาดลาน ของมนั ไว้อย่างดี นกยงู เปน็ นกท่สี ายตาไวมากและระวังตัวมาก นอกจากนี้ ยงั บนิ เกง่ และชอบนอนในทีส่ งู ดงั นน้ั การจะเขา้ ใกลต้ ัวมนั ไดจ้ ึงเปน็ เร่ืองที่ยากมาก เพราะมันจะ บินหนกี ่อนที่เราจะเขา้ ใกล้ อุปนิสยั ของนกยงู นกยูงจะออกหากนิ ตามหาดทรายและสนั ทรายรมิ ลาธาร ในตอนเชา้ ตรู่ จนกระทง่ั ถงึ ตอนบา่ ย กนิ ท้ังเมลด็ พืชและสตั ว์เล็ก ๆ แล้วจงึ บนิ กลบั มาเกาะนอนอยู่
บนยอดไมส้ ูง ปกตอิ ยู่เป็นฝงู เล็ก ๆ 2-6 ตวั ยกเวน้ ในบางบริเวณ เชน่ เขตรักษาพนั ธ์ุ สัตวป์ า่ ห้วยขาแข้ง จังหวดั อทุ ัยธานี พบนกยูงอยูร่ วมกันเปน็ ฝูงถงึ 10 ตัว ท้งั น้ี พบว่านกยูง มกั มปี ฏกิ รยิ าตอ่ เสียงดังผดิ ปกติ เช่น เสยี งปนื เสียงไม้ หัก ไมล้ ม้ ดัง นกยงู จะส่งเสียงรอ้ ง และ การส่งเสยี ง รอ้ งบนก่งิ ไม้ทจ่ี บั คอนนอน ใน เวลาเช้าตรู่ และ ตอนใกลค้ ่า เปน็ การเปดิ เผยทีซ่ ่อน ใหศ้ ัตรผู ลู้ า่ เหน็ ตัวได้โดยงา่ ย เปน็ สาเหตหุ นึง่ ที่ นกยูงถกู ลา่ โดย พราน และ ศตั รูธรรมชาติ ฤดผู สมพนั ธขุ์ องนกยงู อยใู่ นระหวา่ งเดือนพฤศจกิ ายน - เดอื นเมษายน ขนคลมุ โคนหางของนกตัวผ้จู ะเจรญิ เตม็ ทใ่ี นเดอื นตุลาคม และจะผลัดขนน้ใี นเดอื น กุมภาพนั ธ์ วางไข่สีขาว 2-5 ฟอง ในรงั ทที่ าในกอต้นกกหรือต้นออ้ รมิ ลาธาร ทอ่ี ยอู่ าศยั ของนกยงู นกยูงชอบอาศัยอยูใ่ นปา่ ดิบแล้งและปา่ ผลัดใบผสม ตามริมลาธารในป่าเขต แพรก่ ระจายของนกยูง นกยูงมีเขตแพร่กระจายจากทางเหนอื ของประเทศอนิ เดียไป
ทางทศิ ตะวนั ออก ผา่ นพมา่ ตอนใต้ของประเทศจนี ไทย ลาว เวียดนาม กมั พูชา มาเลเซียและชวา สถานภาพของนกยงู ในปจั จบุ นั นกยูงเคยมีชุกชมุ ท่ัวประเทศที่ระดบั ความสูงตา่ กว่า 900 เมตร ยกเว้นทร่ี าบ ลมุ่ ภาคกลาง ปัจจบุ นั พอจะพบไดใ้ นบริเวณทิศตะวนั ตกของประเทศบริเวณจังหวดั ตาก อุทยั ธานี กาญจนบรุ ี และยังมีรายงานการพบทจี่ ังหวัดชัยภูมแิ ละจังหวดั สุราษฎร์ธานี อีกดว้ ย นกยงู จดั เป็นสัตว์ป่าคมุ้ ครองประเภทที่ 1 สาเหตขุ องการใกลส้ ญู พนั ธ์ุ การปลอ่ ยให้มกี ารล่านกยงู โดยเสรใี นอดตี และการทมี่ ผี ทู้ นี่ ิยมเลยี้ งนกยูง กันเปน็ จานวนมากในระหวา่ งปี พ.ศ. 2510-2517 ทาใหม้ กี ารส่งออกนกยูงออกนอก ราชอาณาจักร เฉพาะทที่ า่ อากาศยานกรงุ เทพมากถงึ 626 ตวั นอกจากน้ี ความนยิ ม ในการนาขนนกยูงมาทาเปน็ เครือ่ งประดับตกแตง่ และเปน็ เครือ่ งหมายแสดงสถานภาพ ในกล่มุ สังคมของคนบางกลุ่ม เปน็ เหตุใหน้ กยงู ถกู ลา่ เป็นจานวนมาก เพยี งเพ่ือ ต้องการขน ประกอบกบั การทาลายปา่ ทอี่ ย่ตู ามริมลาธารในป่า กอ่ ให้เกดิ ความสญู เสีย แหลง่ หากนิ และทารงั วางไข่ของนกยงู ทาใหป้ จั จุบันนกยูงกลายเปน็ สัตว์ทหี่ าไดไ้ มง่ ่าย นกั
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: