นกกรงหัวจกุ ณ ปัจจุบันนี้ ต้องยอมรับว่านกกรงหัวจุกมีกลุ่มผู้นิยมเพ่ิมมากขึ้นเป็นจานวน มาก ทาให้ ณ เวลาน้ี ตลาดนกกรงหัวจุกมีมูลค่าเม็ดเงินหลายสิบล้านบาท ยิ่งใครมี นกสวยและเกง่ แข่งชนะเลิศ เท่ากบั มเี พชรเม็ดงาม เจดิ จรัสแสงอยใู่ นมือ ย่อมเปน็ ที่ หมายปองของนักเลงนกและเซียนนก ด้วยเหตุนี้เองทาให้นกกรงหัวจุกกลายเป็น แหล่งทารายไดแ้ ละหลายตอ่ หลายคนต่างกส็ นใจที่จะเข้ามาเล่นมาเลี้ยงและหลงเสน่ห์ เสียงทองอันไพเราะและสีสันที่สวยงามของนกกรงหัวจุกนั้นเอง ตามประวัติแล้วนก กรงหัวจุกมีถ่ินอาศัยอยู่ในประเทศเขตร้อนชื้นสูง มักพบได้ตามประเทศในโซนเอเซีย คือ ประเทศอนิ เดียตอนใต้ ประเทศมาเลเซีย ประเทศจีน ประเทศอินโดนเี ซีย ประเทศ เวียดนาม ประเทศลาวตอนใต้ เขตติดกับไทย แถบจังหวัดเลยและจังหวัดหนองคาย ประเทศกัมพูชา และประเทศไทย สาหรับประเทศไทย มักพบนกชนิดน้ี ได้ทุกภาค ต้ังแตภ่ าคเหนือ จนถงึ ภาคใต้
นกกรงหัวจุก น้ีจะเป็นนกท่ีมีชื่อเสียงดี ในการแข่งขัน การประกวด ประชัน เสียงกว่านกอ่ืนๆ เนื่องจากเป็นนกท่ีมีเสียงอันไพเราะและมีเพลงเสียงร้อง ท่ี หลากหลาย เสียงเพลง กว่านกอ่ืนๆ แต่ทัง้ นี้ ก็ข้นึ อยู่กับการเลี้ยง ว่าผู้เล้ียงจะดูแล เอาใจใสน่ กกรงหวั จุกไดด้ มี ากนอ้ ยเพียงใดหรือทเี่ รยี กว่ามอื น้าเล้ียงนัน้ เอง นกกรงหัว จกุ ที่นามาแข่งขันประชนั เสียงกันนั้น มีตานานเล่าสบื ตอ่ กันมาและมีหนังสือบางเล่ม ไดเ้ ขียนเอาไว้ว่า ชนชาติแรกท่ีนานกกรงหัวจกุ มาเลย้ี ง คือ ชาวจีน เมื่อประมาณ พ.ศ. 2410 คนจีนได้นานกกรงหัวจุกมาเล้ียงแทนนกโรบนิ้ ที่คนจีนส่วนใหญ่ นิยมนามาใส่ กรง พาเดินไปตามถนนหรือนั่งร้านกาแฟหรือไปหาเพ่ือนๆท่ีรู้ใจและเล้ียงนก เหมือนกันและเจ้านกโรบิ้นมักจะเป็นนกที่ตกใจง่ายและตื่นคนบางครั้ง ตกใจมาก จนถงึ ขัน้ ช๊อคตายคากรง ดงั นั้น จงึ เป็นเหตุให้ชาวจีนหันมาเลี้ยงนกปรอทหัวจุกหรือ นกกรงหัวจุก นกปรอทหัวจุกนี้ก็เป็นนกที่มีความสวยงามด้านสีสันและมีเสียงร้องที่ ไพเราะและเปน็ นกทีม่ ีลีลาการรอ้ งหลากหลายกว่านกชนดิ อื่นๆจนเป็นเหตใุ ห้นกปรอท หัวจุก ได้รับความนิยมเล้ียงกันอย่างแพร่หลายนกกรงหัวจุกมีถิ่นอาศัยอยู่ในแถบ ประเทศท่ีมีอากาศร้อนช้ืนในทวีปเอเซีย พบได้ในประเทศจีน ประเทศมาเลเซีย ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศอินเดีย ประเทศเวียดนาม ประเทศกัมพูชา ประเทศลาว เป็นส่วนใหญ่และเราจะพบนกชนิดนี้ได้ท่วั ทุกภาคของประเทศไทยนกกรงหัวจุก เป็นที่ นิยมของคนภาคใต้มายาวนาน โดยได้รับอิทธิพล มาจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศมาเลเซีย นั่นคือ การแข่งขันประชัน เสียงเพลงทีม่ ีลีลาการร้องของสานวนเสียงในนกแต่ละตัวว่าใครจะเหนอื กว่ากัน แต่ใน สมัยก่อนของภาคใต้ ต้ังแต่จังหวัดสตูล จังหวัดสงขลา จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จงั หวัดนราธิวาส จงั หวัดกระบี่และจังหวดั นครศรีธรรมราช นิยมนานกกรงหัวจกุ มาชน กนั หรือตีกนั เหมือนกับการชนไก่ คือ เอานกมาเปรียบขนาดให้ใกล้เคียงกันแล้วจบั ใส่ กรงกลางที่มขี นาดใหญ่ ปล่อยให้นกทัง้ สองตวั ไลจ่ ีกตีกันภายในกรง จนกว่าจะรแู้ พ้ รู้ ชนะ สาเหตุท่ีเป็นเช่นน้กี ็เพราะว่า นกกรงหัวจุกมนี สิ ัยดุรา้ ยและชอบไลจ่ ิกตกี ันเป็นไป ตามธรรมชาติอยู่แล้วเม่ือมีการนานกกรงหัวจุกมาเล่นน้ี จงึ เกิดการพนนั ขันตอ่ ในเวลา
ต่อมาบางคร้ังก็มีการนานกไปแข่งกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเช่น มาเลเซีย เป็นต้น การแข่งขันนกกรงหัวจุก ได้มาเปลย่ี นแปลงไปเม่ือประมาณปี พ.ศ.2515 เพราะว่าชาว จังหวัดสงขลา มีแนวความคิดที่จะเปล่ียนจากการตีกัน มาเป็นแบบแข่งขัน ประชัน เสียงโดยเอาแบบมาจากการแข่งขันของนกเขาชวา คือ นกป่าที่ต่อมาได้ นามาเลี้ยง และฝกึ ให้เกดิ ความเชื่องกับคนเลี้ยง หรือเชอ่ื งกับผู้ท่ีเป็นเจ้าของ พรอ้ มกบั ฝกึ ให้นกมี ความสามารถในการร้องในลีลาตา่ งๆตามแตท่ น่ี กในแต่ละตัวจะทาได้และผเู้ ล่น นกกรง หัวจุก ก็เริ่มเปลย่ี นการละเล่นที่นานกมาตีกันมาเป็นอย่างเดียวกันกับนกเขาชวา คือ การเลน่ ฟังเสียง อันไพเราะของนก จากนั้น การแขง่ ขนั ประชันเสียงของนกกรงหวั จุก ก็เร่ิมมีผู้นิยมมากขึ้นเรือ่ ยๆ จึงได้จัดให้มีการแข่งขันขึ้นอย่างเป็นทางการ เม่ือปี พ.ศ. 2519 ท่สี นามบริเวณหลังสถานีรถไฟเมอื งหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งในการจัดคร้ัง นั้น ถือว่าเป็นรายการใหญ่ที่สุดในยุคนั้นและได้ยกเลิก การแข่งขันนกกรงหัวจุกใน แบบตีกัน ต่อมาเมื่อประมาณ พ.ศ.2520 ทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดให้มีการ รวมกลุ่มผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกโดยจัดตั้งขึ้นเป็นชมรม ซ่ึงทาให้ทุกวันน้ี มีชมรมต่างๆ เกิดขึ้นอย่างมากมายกรุงเทพมหานครได้มีการเล่นนกกรงหัวจุกเม่ือประมาณ พ.ศ. 2524 โดยมีกลุม่ คนทางภาคใตไ้ ด้นาเอากีฬาชนดิ นเ้ี ขา้ มาเผยแพร่ ให้เปน็ ท่ีรู้จกั และได้ จัดให้มีการแข่งขันขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ตลาดนัดสวนจตุจักรและนับแต่น้ันมา กระแส ความนยิ มแข่งขันประชันเสียงของนกกรงหวั จุก ก็ไดร้ ับความนิยมสืบมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อเร่ิมมีการละเล่น นกกรงหัวจุกกันมากข้ึนในเขตภาคกลางก็มีการจัดต้ังเป็นชมรม หลายชมรมด้วยกันตั้งแต่จังหวัประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัด นครปฐม กรุงเทพฯ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดสมุทรปราการ เป็นต้น ภาคอีสานน้ัน ยังไม่มี ปรากฏ ว่ามีการละเลน่ นกกรงหัวจุก อย่างจริงจัง ส่วนภาคเหนือ ก็มกี ลุ่มผู้เลี้ยง ผู้ อนุรักษ์และผู้ขายนกกรงหัวจุก คือ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดกาแพงเพชร จังหวัด นครสวรรค์ และ จังหวัดเพชรบูรณ์ตอนบน เป็นต้น แต่ท่ีนิยมกันกว่าภาคอื่นๆ คือ ภาคใต้ เรียกวา่ 14 จงั หวดั มีการละเล่น นกกรงหวั จุก ทกุ จงั หวัด มีมากเปน็ พเิ ศษคอื
จังหวัดสงขลา อย่างไรก็ตามการเล้ียงนกกรงหัวจุกมีประวัติอันยาวนาน เป็นท่ีนิยม เลี้ยงกนั ในหลายๆประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยมปี ระวัตกิ ารเลยี้ งกันมานาน เรียกว่า ปัจจุบันมีการเลี้ยงอย่างแพร่หลายทั่วทุกภาคของประเทศไทย ซ่ึงเขตภาคกลางและ ภาคใต้จะมีการเลย้ี งคอ่ นขา้ งเป็นจานวนมากกวา่ ทุกภาค นอกจากนั้นในเขตภาคเหนือ กม็ กี ลมุ่ หรือชมรม ผูเ้ ลย้ี งนกกรงหวั จุกเพิ่มขึน้ เชน่ กัน ท่มี า : https://sites.google.com/site/thailandcage/prawati-khxng-nk-krng-haw-cuk
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: