วิจัยชั้นเรียนมลายู ภาคเรียนที่ 2 2565

บทนำ ควำมเป็นมำและควำมสำคัญของปญั หำ ภาษามลายู เป็นภาษาถิ่นของคนที่พดู ภาษามลายูที่อยใู่ น สามจงั หวัดชายแดนภาคใต้ และ เปน็ ภาษาอาเซยี นในปัจจุบนั ซ่งึ มีความสาคญั อยา่ งยิง่ ตอ่ ผเู้ รียนตอ้ งศกึ ษา และเรียนรู้ เนอื่ งจากภาษา มลายเู ป็นภาษาท่ผี ู้เรียนต้องใช้สอ่ื สาร ในการดารงชีวิตวัน และเพ่ือการจดั การเรยี นรู้ตามสาระการเรียนรู้อิสลามศึกษา ตามสานกั งานการศึกษาขั้น พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2544 ไดก้ าหนดใหภ้ าษามลายเู ปน็ สาระการเรียนรู้หนง่ึ ทนี่ กั เรียนตอ้ งบรรลุ ตามคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ซงึ่ เน้นให้ผู้เรยี นสามารถ อ่าน เขยี นได้ ซ่ึงจากการเรียนรูภ้ าษามลายู ปรากฏวา่ นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๕ จานวน 8 คน อ่านภาษามลายูออ่ นมากไมผ่ ่าน เกณฑก์ ารประเมิน จากปัญหาดงั กล่าวผ้วู จิ ยั ในฐานะผรู้ บั ผดิ ชอบวชิ าภาษามลายู จงึ ตอ้ งการพฒั นาการอา่ นภาษา มลายขู องนักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ โดยใช้แบบฝึกเสรมิ ทักษะการอ่านสะกดคาดว้ ยพยญั ชนะ สองตัว สามตวั และตามดว้ ยประโยคท่ีสมบูรณ์ เพื่อให้ผู้เรยี นมีทกั ษะการอ่านตามวัตถุประสงคไ์ ด้ และสามารถนาไปใชใ้ นการดารงชีวติ ประจาวนั ต่อไป คำถำมวจิ ยั 1. กลมุ่ กิจกรรมเสริมมีลกั ษณะเปน็ อยา่ งไร 2. หลงั ใช้กจิ กรรมเสรมิ ท่ีพฒั นาขึน้ ทักษะการอา่ นภาษามลายูของนักเรียนเป็นอย่างไร วักตปุ ระสงคข์ องกำรวจิ ัย 1. เพื่อศกึ ษาผลการพัฒนาการอา่ นภาษามลายูสาหรบั นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ 2. เพอื่ ทดลองใช้ และประเมินทักษะการอา่ นภาษามลายูของนกั เรียนหลังการใชก้ จิ กรรม เสรมิ ทพี ัฒนาข้ึน ประโยชน์ทค่ี ำดวำ่ จะได้รบั 1. ทาให้ทราบผลการประเมินทักษะการอา่ นภาษามลายูของนกั เรียนหลงั ใช้กิจกรรมเสริม ทีพ่ ัฒนาข้นึ 2. ทาให้นกั เรียนทีมผี ลการประเมินทักษะการอ่านออ่ นไดม้ ที ักษะในระดับสงู ขนึ้ และผา่ น เกณฑ์ การประเมิน 3. ผลการวิจัยครง้ั นี้ ทาใหน้ ักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ไดพ้ ฒั นาการอ่านภาษามลายู และ สามารถ

นาความรไู้ ปประยุกตใ์ ชไ้ ด้ 4. ผลการวิจยั ครง้ั น้ี ทาให้ครผู ู้สอนมีแนวทางในการพัฒนาการอ่านภาษามลายขู องนกั เรียน อยา่ งมีประสิทธิภาพยิ่งข้ึน ตวั แปรที่ศึกษำ 1. กลุ่มกิจกรรมเสรมิ ทกั ษะการอ่านของนกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ การอา่ นสะกดคา ด้วยพยญั ชนะสองตัว สามตวั และตามด้วยประโยคทส่ี มบรู ณ์ วธิ ดี ำเนนิ กำร การวิจยั คร้ังน้เี ปน็ การวิจยั และพฒั นาดาเนนิ การระหว่าง 6 พฤศจกิ ายน 256๔ ถึง 15 พฤศจกิ ายน 256๔ มขี น้ั ตอนการดาเนินงานสาคัญอยู่ 2 ระยะ คอื ระยะท่ี 1 การพฒั นากลุ่มกิจกรรมแบบฝกึ เสรมิ ทักษะการอ่าน ประมาณ วันองั คาร ที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ถงึ วันพธุ ที่ 7 พฤศจิกายน 2561 โดยปรกึ ษากับเพอ่ื นครหู ลายคนชว่ ยกนั วิเคราะห์ถึงลาดบั ข้ันตอนในการพฒั นาทักษะการอ่านของนกั เรียน จากนน้ั นากลมุ่ กิจกรรมดังกลา่ วไป ให้ครทู ี่ชานาญ ดา้ นวจิ ยั ในชัน้ เรียนพิจารณาใหค้ วามเห็น ซ่งึ ครูที่ชานาญดา้ นวิจยั ชว่ ยสะท้อนความคิด ให้ในบางประเด็นในการแก้ปญั หาโดยวธิ ีดังกล่าว โดยสรปุ ในข้นั ตอนนี้ทาให้ได้กจิ กรรมเสรมิ การอ่าน จานวน 4 กิจกรรม ซงึ ใช้สาหรับฝกึ ทักษะนกั เรยี นที่ยังอ่านมลายูไม่คล่อง เพ่ือเป็นการเสริมทกั ษะการ อา่ น ในการปฏบิ ัติจะใช้ดาเนินการท่ีละกิจกรรม เรียงเปน็ ข้นั ๆ จากกิจกรรมง่ายไปยาก ดังน้ี 1.1 กจิ กรรมการอา่ นพยัญชนะมลายสู องตวั 1.2 กิจกรรมการอ่านสะกดคาพยัญชนะสองตวั 1.3 กจิ กรรมการอ่านสะกดคาพยญั ชนะสามตวั 1.4 กจิ กรรมการอ่านสัดกดคาประโยคท่สี มบูรณ์ ระยะที่ 2 การนากลุ่มกิจกรรมดงั กล่าวลงส่กู ารปฏบิ ัติ 2.1 การดาเนินการเขา้ สู่กิจกรรมทก่ี าหนดโดย ในวันพฤหัสบดี ท่ี 9 พฤศจกิ ายน 2561 เวลา 15.00 – 15.30 น. ผู้วิจัยได้ทดสอบการอา่ นคาอาหรับท่คี รูเตรียมมาใหอ้ ่านซงึ่ มีคา ตา่ ง ๆ ท่นี ักเรียนพบเห็นในชีวติ ประจาวัน โดยนกั เรียนกล่มุ เปา้ หมายทกุ คนจานวน 8 คน ได้รับการ ทดสอบกอ่ นทากิจกรรมท้ังหมดเพือ่ เป็นการตรวจสอบทกั ษะกอ่ นเรยี น 2.2 วันศกุ ร์ ที่ 10 พฤศจิกายน 256๔ ฝึกทากิจกรรมท่ี 1 โดยฝึกอา่ นยัญชนะ มลายู 33 ตวั ในใบงานทีก่ าหนดตามข้ันตอนคอื 1. ครอู า่ นให้นักเรยี นฟัง 1 เท่ียว แล้วให้นักเรียนอ่านพรอ้ ม ๆ กัน 1-2 เท่ียว เริ่มพยัญชนะ ‫ي‬-‫ا‬ 2. ให้นกั เรยี นจับคกู่ ันเอง ผลดั กันอ่านใหเ้ พอ่ื นฟังสลับกันคนละ 1 เทยี่ วคู่ใดอา่ นได้ครบทง้ั 2 คน ใหม้ าบอกครูเพื่ออา่ นใหค้ รฟู ังท่ีละคน โดยครสู ุ่มชีพ้ ยัญชนะตา่ ง ๆ จนครบทกุ คน หลงั จากจบใน หอ้ งเรียนแล้วมอบใบงานการบ้านฝึกอ่าน 1 ใบใหผ้ ู้ปกครองลงช่ือกากับหลงั จากให้ฝกึ อ่านทบ่ี ้านอย่าง นอ้ ย 3-4 เที่ยว

2.3 วนั จนั ทร์ ที่ 12 พฤศจิกายน 256๔ ฝกึ ทากิจกรรมที่ 2 โดยฝึกอา่ นพยัญชนะ มลายทู ี่มีสองตัว ทีค่ รเู ตรยี มไว้ใหถ้ กู ต้องตามข้ันตอน 1. ครอู า่ นสะกดคาภาษามลายทู มี่ ีสองตัว 1-2 เที่ยว 2. ให้นกั เรียนจับคู่กันเอง ผลดั กันอา่ นใหเ้ พอ่ื นฟังสลับกนั คนละ 1 เทีย่ วคู่ใดอา่ นไดค้ รบทั้ง 2 คน ให้มาบอกครเู พื่ออ่านใหค้ รูฟงั ละคน โดยครูสุ่มช้คี าภาษามลายูท่มี สี องตวั จนครบทกุ คน หลังจาก จบในหอ้ งเรยี นแล้วมอบใบงานการบ้านฝกึ อา่ น 1 ใบใหผ้ ปู้ กครองลงช่ือกากับหลงั จากให้ฝึกอ่านท่ี บา้ นอย่างน้อย 3-4 เที่ยว 2.4 วนั อังคาร ที่ 13 พฤศจกิ ายน 256๔ ฝกึ ทากจิ กรรมท่ี 3 โดยฝกึ อ่านสะกดคา ภาษามลายูทีม่ สี ามตวั ท่คี รเู ตรียมไวใ้ หถ้ กู ต้องตามข้นั ตอน 1. ครูอ่านสะกดคาภาษามลายูที่มีสองตัว 1-2 เที่ยว 2. ให้นักเรียนจับคู่กนั เอง ผลัดกนั อ่านให้เพ่ือนฟังสลับกันคนละ 1 เท่ยี วคู่ใดอ่านได้ครบท้งั 2 คน ใหม้ าบอกครูเพอ่ื อา่ นใหค้ รฟู งั ละคน โดยครสู ุ่มชค้ี าทม่ี สี ามตวั จนครบทุกคน หลงั จากจบใน หอ้ งเรยี นแลว้ มอบใบงานการบา้ นฝกึ อ่าน 1 ใบให้ผปู้ กครองลงชื่อกากับหลังจากให้ฝกึ อ่านท่บี ้านอย่าง นอ้ ย 3-4 เทยี่ ว 2.5 วัน พธุ ที่ 14 พฤศจกิ ายน 256๔ ฝึกทากิจกรรมที่ 4 โดยฝึกอา่ นประโยคที่ สมบูรณ์ท่คี รูเตรียมไวใ้ ห้ถกู ต้องตามข้ันตอน 1. ครูอา่ นสะกดคาภาษามลายทู ่มี ีสองตวั 1-2 เท่ียว 2. ให้นกั เรียนจับคกู่ นั เอง ผลัดกนั อา่ นใหเ้ พอ่ื นฟังสลับกันคนละ 1 เทย่ี วคู่ใดอา่ นได้ครบทง้ั 2 คน ให้มาบอกครูเพอ่ื อ่านใหค้ รฟู งั ละคน โดยครูส่มุ ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคท่ีสมบรู ณจ์ นครบทุกคน หลงั จากจบในหอ้ งเรียนแล้วมอบใบงานการบ้านฝึกอ่าน 1 ใบให้ผู้ปกครองลงชือ่ กากับหลังจากใหฝ้ ึก อ่านทีบ่ ้านอย่างน้อย 3-4 เท่ียว 2.6 วนั พฤหสั บดี ที่ 15 พฤศจกิ ายน 256๔ เป็นการประเมินหลงั เรียนโดยใช้ คา ต่าง ๆ ในหนังสอื ทคี รูเตรียมมาใหอ้ ่านทน่ี กั เรียนต้องใชซ้ ่งึ เปน็ คาที่พบเห็นอยใู่ นชวี ติ ประจาวัน โดย นักเรียนกลมุ่ เป้าหมายทกุ คน จานวน 8 คนไดร้ ับการทดสอบหลังทากิจกรรมท้ังหมดเพ่ือเปน็ การ ประเมินหลังกิจกรรม 2.7 ครูเขียนรายงานสรุปผลการพฒั นาทกั ษะการอ่าน กลุม่ เปำ้ หมำย ในการทาวจิ ยั ครังน้ีกลมุ่ เป้าหมายนกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบา้ นโคก ทีม่ ผี ลการ ประเมินอย่ใู นเกณฑ์ออ่ นมาก จานวน 8 คน ประกอบด้วย 1. เดก็ หญงิ นรู อู ีมาน แยนะ 2. เดก็ หญงิ ซฟู ยี ะห์ มามุ 3. เดก็ หญิงนูรฮายาตี หะยีดอรอแม 4. เด็กหญิงนูรฮยั ฟะห์ อาแวจิ 5. เด็กหญิงแวนรุ อีมี ตาเห

6. เด็กหญงิ อานีตา ดือราโอ๊ะ 7. เดก็ หญิง ญลั วาตยี ์ สาและ 8. เด็กชาย อับดุลเลาะ เจ๊ะปิ เครือ่ งมือทใี่ ชใ้ นกำรวจิ ยั 1.1 กิจกรรมการอ่านพยัญชนะมลายสู องตวั 1.2 กิจกรรมการอา่ นสะกดคาพยญั ชนะสองตัว 1.3 กจิ กรรมการอา่ นสะกดคาพยญั ชนะสามตัว 1.4 กิจกรรมการอ่านสัดกดคาประโยคทส่ี มบรู ณ์ 2. แบบประเมนิ ทกั ษะประกอบดว้ ย 2.1 ใบคาส่ังจานวน 4 ชดุ 2.2 แบบบันทึกผลการอ่าน กำรหำคณุ ภำพเคร่ืองมอื การหาคุณภาพเครื่องมือในการวจิ ัยครั้งนี้ผู้วิจัยไดศ้ กึ ษาเนื้อหาบทเรียน และจดุ ประสงคก์ าร เรียนรู้กล่มุ สาระอสิ ลามศึกษา ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 จากคมู่ ือการใชห้ ลักสูตร แผนการเรียนรู้ และ เอกสารที่เกยี่ วข้องกับการวัดผล และประเมินความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะการอา่ น และศึกษาวธิ ีการ สรา้ งแบบบนั ทกึ ลักษณะการอ่าน จากหลกั สตู รของกีรออาตยี ์ กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ผูว้ จิ ัยเกบ็ ขอ้ มูลดว้ นตนเองตามกาหนดการตง้ั แตว่ นั วนั พฤหัสบดี ท่ี 6 พฤศจกิ ายน 256๔ ถงึ จนั ทร์ ที่ 15 พฤศจกิ ายน 256๔ โดยใชแ้ บบบันทึกผลการอ่านรายบคุ คล และเก็บรวบรวมใบ งานทผี่ ู้ปกครองลงลายมอื กากบั กำรวิเครำะหข์ ้อมูล ใชค้ ่าสถติ ิพ้นื ฐานประกอบด้วย ความถ่ี ร้อยละ และคา่ เฉล่ยี เพอ่ื บรรยายคะแนนของนักเรยี น แตล่ ะคนในการฝกึ อ่านแตล่ ะขั้นตอน จานวนคนทผ่ี า่ นเกณฑน์ ามาเสนอเป็นค่ารอ้ ยละของคนท่ีอ่านได้ ถูกตอ้ งในแต่ละครงั้ เปรียบเทียบคะแนนก่อน และหลงั การฝึกอ่านโดยศกึ ษาพัฒนาการเป็นร้อยละของโอกาสท่ีจะ พฒั นาได้ของแต่ละคน รอ้ ยละของคะแนนพฒั นาการ = คะแนนหลังพฒั นา – คะแนนกอ่ นพฒั นา x 100 คะแนนเตม็ - คะแนนก่อนพฒั นา

ผลกำรวิเครำะหข์ อ้ มลู ในการวิเคราะหข์ อ้ มลู ครั้งนผี้ ้วู ิจัยขอนาเสนอเป็นตารางประกอบคาบรรยาย จานวน 3 ตาราง ประกอบด้วย คะแนนทดสอบกอ่ นเริม่ กิจกรรม คะแนนผลการฝึกอา่ น คร้งั ท่ี 1 ถงึ คร้งั ที่ 4 และ คะแนนพัฒนาการ ตารางด้ังน้ี ตารางท่ี 1 คะแนนและค่าร้อยละของคะแนนทดสอบกอ่ นเรม่ิ กิจกรรม จาแนกตามชอ่ื นักเรยี น ลาดับ ชอื่ – สกุล คะแนน( 20 ) ร้อยละ ผลการประเมิน 1 เดก็ หญงิ นูรูอมี าน แยนะ 8 40 ไมผ่ ่าน 2 เดก็ หญงิ ซูฟยี ะห์ มามุ 8 40 ไมผ่ า่ น 3 เดก็ หญิงนรู ฮายาตี หะยดี อรอแม 7 35 ไมผ่ า่ น 4 เดก็ หญิงนูรฮยั ฟะห์ อาแวจิ 6 30 ไม่ผ่าน 5 เด็กหญิงแวนรุ อีมี ตาเห 5 25 ไม่ผ่าน 6 เด็กหญิง อานีตา ดอื ราโอะ๊ 8 40 ไมผ่ า่ น 7 เด็กหญงิ ญัลวาตยี ์ สาและ 9 45 ไมผ่ า่ น 8 เดก็ ชาย อับดุลเลาะ เจ๊ะปิ 9 45 ไมผ่ ่าน รวม(เฉลี่ย) 7.62 38.12 ไม่ผา่ น จากตารางพบว่านกั เรียน 8 คน ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารทดสอบการอา่ นโดยมคี ะแนนเฉล่ีย ( 7.6 ) คดิ เปน็ รอ้ ยละ 38.12 โดยมคี ะแนนสูงสุดคือ เดก็ หญงิ อามนี ะห์ สาเม๊าะ และเดก็ ชาย มหู ัมหมัดอา ซาน เปาะจิ (9 คะแนน ) และตา่ สดุ เดก็ สไุ ลมัน เจ๊ะอาลี (5 คะแนน ) ตารางที่ 2 คะแนนฝึกอา่ นครัง้ ท่ี 1 – 4 จาแนกตามนกั เรียนแตล่ ะคน คะแนนครัง้ ท.ี่ ....( คะแนนเต็ม 20 ลาดับ ชอ่ื – สกุล ) 1 2 34 1 เด็กหญงิ นูรอู มี าน แยนะ 16 16 17 18 2 เดก็ หญงิ ซูฟียะห์ มามุ 15 16 16 17 3 เดก็ หญิงนรู ฮายาตี หะยีดอรอแม 15 16 16 17 4 เดก็ หญิงนูรฮยั ฟะห์ อาแวจิ 15 16 16 17 5 เดก็ หญิงแวนุรอีมี ตาเห 16 16 17 17 6 เดก็ หญิง อานตี า ดือราโอ๊ะ 16 17 18 18 7 เดก็ หญงิ ญัลวาตยี ์ สาและ 17 18 19 20 8 เด็กชาย อบั ดุลเลาะ เจะ๊ ปิ 17 18 18 20 รวม(เฉล่ยี ) 15.8 16.6 17.1 18.0 จากตารางพบว่าคะแนนผลการฝึกอา่ น ผ่านเกณฑ์ ทั้ง 4 ครั้ง โดยครง้ั ที่ 4 มผี ลคะแนนเฉล่ยี สงู สุด 18.0 สว่ นครั้งท่ี 1 มคี ะแนนเฉล่ีย ต่าสุด คอื 15.8

ตารางท่ี 3 คะแนนพฒั นาการและร้อยละของพฒั นาการจาแนกตามนักเรียนเป็นรายบคุ คล และ ค่าเฉลย่ี คะแนน( คะแนนเตม็ 20 ) ลาดับ ชือ่ – สกุล ก่อน หลงั คะแนน f-pre พฒั นาการ (pre ) (post) พฒั นา ร้อยละ 1 เดก็ หญงิ นูรอู ีมาน แยนะ 8 18 10 12 83.33 2 เดก็ หญิงซูฟียะห์ มามุ 8 17 9 12 75.00 3 เดก็ หญิงนูรฮายาตี หะยดี อรอแม 7 17 8 13 76.92 4 เดก็ หญิงนูรฮยั ฟะห์ อาแวจิ 6 17 7 14 78.57 5 เดก็ หญิงแวนุรอีมี ตาเห 5 17 6 15 80.00 6 เด็กหญงิ อานตี า ดอื ราโอ๊ะ 8 18 10 12 83.33 7 เดก็ หญงิ ญัลวาตยี ์ สาและ 9 20 11 11 100 8 เดก็ ชาย อับดุลเลาะ เจ๊ะปิ 9 20 11 11 100 รวม(เฉลี่ย) 7.6 18.0 9.0 12.5 83.87 จากตารางพบวา่ นกั เรียนกลมุ่ เปา้ หมายมคี ะแนนพัฒนาการโดยรวม ร้อยละ (เฉลย่ี ) 83.87 โดยมคี ะแนนพฒั นาการสูงสุดคิดเป็นร้อยละ 100 และมคี ะแนนพัฒนาการต่าสุดคดิ เปน็ รอ้ ยละ 75.00 โดยผา่ นเกณฑก์ ารประเมินทุกคนคิดเป็นร้อยละ 100

สรุปผลกำรวจิ ยั ผลการพฒั นากลมุ่ กิจกรรมการอา่ นสาหรบั นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 จานวน 8 คน พบว่ากลุ่มกิจกรรมทีเ่ หมาะสมนามาพัฒนาทักษะการอา่ นของนกั เรียน ประกอบดว้ น 4 กิจกรรมย่อย ๆ เป็นการฝกึ ตามใบงานจากทักษะขน้ั ตา่ อา่ นสะกดคาด้วยพยัญชนะสองตัว สามตวั และตามดว้ ย ประโยคที่สมบรู ณ์ 1 กิจกรรมการอ่านพยัญชนะมลายสู องตัว 2 กิจกรรมการอ่านสะกดคาพยญั ชนะสองตัว 3 กิจกรรมการอ่านสะกดคาพยญั ชนะสามตวั 4 กจิ กรรมการอ่านสัดกดคาประโยคที่สมบรู ณ์ ในแตล่ ะกจิ กรรมประกอบด้วยข้นั ตอน ดัง้ น้ี 1.ครแู ละนักเรียนช่วยกนั อา่ น 2. นกั เรียนจับคู่อ่าน 3. นักเรียนอา่ นให้ครฟู ัง ครูประเมินผล 4. นักเรียนรับใบงานไปฝึกอา่ นกบั ผู้ปกครองเพิ่มเติม 5. ครูตรวจสอบใบงานก่อนฝกึ คราวตอ่ ไป ผลกำรประเมินพัฒนำกำรและผลสมั ฤทธิ์ สรปุ ได้ดงั น้ี ผลคะแนนการฝึกอ่าน ผ่านเกณฑ์ ทง้ั 4 คร้งั โดยคร้ังท่ี 4 มผี ลคะแนนเฉลย่ี สงู สดุ คือ 18.00 สว่ นครัง้ ที่ 1 มีคะแนนเฉลี่ยต่าสดุ คือ 15.80 นักเรยี นกลมุ่ เป้าหมายมีคะแนน พฒั นาการโดยรวม รอ้ ยละ ( เฉลย่ี ) 83.87 โดยมคี ะแนนพฒั นาการสูงสุดคิดเปน็ ร้อยละ 100

และมคี ะแนนพฒั นาการต่าคิดเป็นร้อยละ 75.00 โดยผ่านเกณฑ์การประเมินทุกคนคดิ เปน็ ร้อย ละ 100