อาณาจักรสุโขทัย หน่วยการเรยี นท่ี 2 เรื่องประเดน็ สาคญั ในประวตั ศิ าสตรไ์ ทย โรงเรยี นบรรพตพสิ ัยพทิ ยาคม จงั หวัดนครสวรรค์ สำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำมธั ยมศึกษำนครสวรรค์ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พ้นื ฐำน กระทรวงศึกษำธกิ ำร
สุโขทัย ไทยเป็นชาตทิ ีม่ ีศิลปวฒั นธรรมโดดเดน่ เปน็ เอกลกั ษณ์มาชา้ นานผลงานทเ่ี กิดจากการสรา้ งสรรค์ของชา่ งฝมี ือ ทีม่ ีความเชย่ี วชาญสามารถผลิตศลิ ปกรรมทง่ี ดงามหลากหลายชนดิ ชา่ งในสมัยโบราณ แบ่งได้ 4 ประเภท คือ 1. ชา่ งหลวง หรือชา่ งทางราชการทสี่ งั กดั ในกรมกองต่างๆ เช่น ช่างสิบหมู่ มีหนา้ ท่ีก่อสรา้ งสถานทตี่ ่างๆ หรือผลิตศิลปวตั ถเุ พือ่ พุทธบูชาของราชการ 2. ช่างพระ หรอื ชชี า่ ง เปน็ ชา่ งทที่ างานอยใู่ นวดั วาอารามตา่ งๆ ชา่ งเหล่านีม้ ักอยู่ในสมณเพศ เช่น พระภกิ ษุ สามเณร 3. ชา่ งเชลยศกั ด์ิ หรือชา่ งทป่ี ระกอบอาชพี โดยอสิ ระ 4. ช่างพ้ืนบ้าน พน้ื เมือง เปน็ ชา่ งทมี่ ีความเชี่ยวชาญตามแบบ พ้ืนบา้ นของตน ซึง่ มักจะไดร้ ับการถ่ายทอดวชิ าชา่ งจากบรรพบรุ ษุ และทางานในท้องถน่ิ ของตน
ศลิ ปกรรมไทย แบ่งประเภทของงานได้หลายลักษณะ เชน่ สถาปัตยกรรม (ด้านการกอ่ สร้างอาคารสถานที่) ประตมิ ากรรม (การป้ัน เช่น เคร่ืองสงั คโลก พระพุทธรูป) จิตรกรรม (การวาดภาพ ระบายสี) งานจิตรกรรมไทยหรอื งานของชา่ งเขียนไทยสมัยโบราณ นิยมเขียนขึ้น ภาพพระบฏ ภาพอดีตพระพทุ ธเจ้า สฝี นุ่ เพือ่ เป็นพทุ ธบูชาตามผนงั โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรยี ญในคหู าองคพ์ ระปรางค์ (อา่ นว่า บะ ตะ) คัดลอกจากวดั เจดยี ์เจด็ แถว สโุ ขทยั พระสถูปเจดีย์ และทผ่ี นังถา้ ซึ่งจะเรียกวา่ จิตรกรรมฝาผนัง นอกจากนยี้ ังมี มาจากภาษาบาลี แปลว่าผนื ผา้ จิตรกรรมท่ีเขียนลงในสมุดไทย เชน่ สมดุ ภาพไตรภมู ิ จะเขียนลงบนผืนผ้า ทเี่ รยี กว่า ภาพพระบฏ งานช่างเขยี นเหลา่ นี้เขยี นดว้ ยเทคนิคและวธิ ีการเฉพาะ ภาพแกะสลัก ซ่ึงมีลกั ษณะพิเศษเป็นเอกลกั ษณ์ เป็นงานท่สี ร้างขน้ึ แบบกึ่งอุดมคติที่เกิดจาก ลายเส้นบนหินชนวน ความคิด การสังเกต และจินตนาการของช่างเขยี น โดยอาศยั สภาพแวดลอ้ ม เพดานอโุ มงค์วดั ศรีขุม สุโขทยั มาดดั แปลงแตง่ เตมิ จนเปน็ ศลิ ปะทม่ี ีรูปแบบและความงาม มลี ักษณะเฉพาะ นยิ มเรียกวา่ จติ รกรรมไทยแบบประเพณี ทส่ี าคญั คือ เป็นงานเขยี นสีฝ่นุ ผสมกาว มกี ารแบ่งองค์ประกอบและจดั วางภาพอยา่ งเปน็ ระบบ และกนั้ ภาพดว้ ยลวดลาย ต่างๆ ตัวภาพสาคัญ มคี วามงดงามตามอดุ มคติ ส่วนตวั ภาพประกอบอืน่ ๆ มักมี ลกั ษณะเหมือนจริง กิรยิ าของตัวภาพบคุ คลสอื่ ความหมายของเรอื่ งไดอ้ ยา่ งมี แบบแผน แม้เขยี นภาพเพยี งกล่มุ เดียวกท็ าใหเ้ ข้าใจเรื่องราวได้จนจบบริบรู ณ์ การเขยี นภาพในลกั ษณะนม้ี ที าสืบตอ่ กันมาชา้ นานจนถงึ ปจั จุบนั
ภาพจิตรกรรมในสมัยสโุ ขทัยทป่ี รากฏหลกั ฐานมเี พียง 3 แหง่ คอื จิตรกรรมภายในเจดียบ์ รวิ ารวัดเจ็ดแถว สโุ ขทยั ภาพจิตรกรรมในอุโมงค์ภายในผนังมณฑปประธานวัดศรีชมุ เมอื งสโุ ขทัย และภาพจิตรกรรมในเรือนธาตขุ องเจดีย์ทรงปราสาท 2 องค์ คอื ภาพแกะสลักลายเสน้ บนหินชนวน ภายใน เจดียบ์ รวิ ารในวดั เจด็ แถว กับเจดีย์ประธานในวดั เขาใหญ่ เมอื งศรีสชั นาลัย ผนังมณฑปอโุ มงค์วดั ลกั ษณะภาพจติ รกรรมทีป่ รากฏในอโุ มงคว์ ดั ศรชี มุ เปน็ ภาพจาหลักลายเสน้ ศรีขมุ สโุ ขทยั และงานจิตรกรรมเขยี นสี โดยทีเ่ พดานอโุ มงคก์ รุดว้ ยแทง่ หนิ ชนวนนนั้ มีงาน จาหลักหินเป็นลายเสน้ ภาพ และตวั อักษรบรรยาย แสดงเร่ืองราวในนาตชาดก เรยี งตามลาดบั เรือ่ งมากกวา่ 100เร่ือง บนผนังอโุ มงค์บางตอน เคยมภี าพเขยี นสี ปรากฏอยู่ กล่าวกนั วา่ เป็นภาพพระพุทธเจ้าประทับน่งั เรยี งเปน็ แถว ซึง่ หมายถงึ อดีตพุทธ ปัจจุบนั ภาพจิตรกรรมฝาผนงั เหลา่ นี้ไดล้ บเลือนไปเกือบหมดสน้ิ ส่วนภาพจติ รกรรมภายในเจดียท์ ง้ั สองแห่งทเ่ี มอื งศรีสัชนาลัยเปน็ เรือ่ ง อดตี พทุ ธ ประกอบด้วยภาพพระพุทธเจ้าประทับนงั่ เรียงแถวตามแนวนอน ซอ้ นเป็นช้ันๆ ภาพจิตรกรรมไทยในสมยั สโุ ขทยั เหล่านี้ นับวา่ เปน็ ตวั แทน ของจิตรกรรมไทยสมัยสโุ ขทัย สร้างขน้ึ ในราวพุทธศตวรรษท่ี 19 ทีแ่ สดงถงึ ความเจรญิ รุ่งเรืองทางศลิ ปกรรมอย่างมาก กอ่ นท่ีจะถูกผนวกเข้ารวม เปน็ สว่ นหนง่ึ ของอาณาจักรอยธุ ยา
สถาปัตยกรรมสโุ ขทัย มักเป็นเรือ่ งที่เกีย่ วเนอื่ งกับพระพุทธศาสนา วดั ช้างลอ้ ม อ.เมือง จ.สโุ ขทยั เป็นเจดีย์ที่ไดร้ ับอทิ ธิพลมาจากพระพุทธศาสนา เนอื่ งจากเปน็ ศาสนาทช่ี าวสโุ ขทัยศรัทธานับถือ ลงั กาวงศ์ ซ่งึ แผนผังการสร้างวดั ท่ีมเี จดีย์ทรง สถูปเจดยี ์ ซง่ึ ไดร้ บั อทิ ธิพลจากลงั กาและทอี่ นื่ ๆ วดั ชา้ งล้อม ระฆังเป็นประธานของวดั มีความเรยี บง่าย คอื มี และได้ประดิษฐค์ ดิ ค้นเป็นรูปแบบเฉพาะเป็นเอกลกั ษณ์ เจดยี ์เป็นประธานของวัด ดา้ นหน้ามีวหิ ารหนั ไป ของสุโขทัย สถูปเจดยี ส์ โุ ขทยั มี 3 แบบ คอื อ.ศรีสชั นาลยั ทางทศิ ตะวันออก ท้ายวิหารมีสว่ นทยี่ นื่ มา 1. เจดยี ์ทรงระฆัง ติดกบั ฐานเจดีย์ หรอื อาจแยกสว่ นกัน บางแห่ง 2. เจดีย์ทรงดอกบวั ตมู จ.สุโขทยั อาจมีระเบียงคดลอ้ มรอบเจดียเ์ ช่น วัดข้างล้อม 3. เจดียท์ รงปราสาทยอด สุโขทัย และบางแห่งมีกาแพงแก้วล้อมรอบ เจดยี ป์ ระธาน เชน่ วัดช้างลอ้ มศรีสัชนาลัย วดั ชนะสงคราม อ.เมอื ง จ.สุโขทัย ลักษณะของเจดียท์ รงระฆัง ประกอบด้วยฐาน เขยี งเป็นรปู สเ่ี หล่ียมจตั ุรสั ประมาณ 1-2 ฐานบัคว่า–บัวหงาย และมฐี านเขียงอกี 3-4 ฐาน จงึ ตอ่ ด้วยชดุ บัวถลา เรียงซอ้ นกนั ซึง่ ถือว่า เปน็ รปู แบบเฉพาะของเจดยี ท์ รงระฆังสมัย สุโขทยั เหนือฐานบวั ถลาเปน็ บวั ปากระฆงั ประกอบดว้ ยบวั ควา่ -บวั หงาย มีการปัน้ ลาย กลับบวั ประดบั โดยมีองค์ระฆังขนาดใหญ่และ เตยี้ ใกล้เคยี งกบั ต้นแบบที่ลังกา ส่วนยอด บัลลงั ก์คอื ฐานบัวควา่ -บวั หงายเหนอื องคร์ ะฆงั ในผังส่ีเหล่ยี มจตั ุรสั ถัดขนึ้ ไปเป็นกา้ นฉตั ร บวั ฝาละมี ปลอ้ งไฉน และปลี เรียงตอ่ กนั ไป
วัดมหาธาตุ จ.สุโขทัย ถอื เปน็ รปู แบบเฉพาะของสถาปตั ยกรรม สมยั สโุ ขทัยอยา่ งแท้จรงิ โดยชา่ งชาวสโุ ขทัย วดั เจดยี ย์ อดทอง จ.พษิ ณโุ ลก วดั โตนดหลาย สรรคบรุ ี วดั เจดีย์เจด็ แถว ศรีสัชนาลยั ได้พฒั นาจากรปู แบบสถาปตั ยกรรมในแหลง่ จ.สุโขทยั จ.สุโขทัย ตา่ งๆ มาเปน็ รูปแบบของตนเอง ปรากฏใน เมอื งตา่ งๆ ของสโุ ขทยั เช่น เจดีย์ประธานวัด มหาธาตุ เจดยี ป์ ระธานวดั อโสการาม เมอื ง สโุ ขทยั องค์ประกอบของเจดียท์ รงดอก บัวตูม ประกอบด้วย 3 ส่วนคอื ส่วนลา่ ง ประกอบด้วยฐานเขียงในผงั สเี่ หลยี่ มจตั ุรสั รองรับฐานบวั (บวั คว่า-บวั หงาย) ประดบั ลกู แกว้ อกไกท่ ฐ่ี าน สว่ นกลาง ประกอบดว้ ยชดุ ฐานบวั ลกู ฟกั ซ้อนกนั 2 ฐาน ส่วนใหญ่อยใู่ นผงั เพ่ิมมุมไม้ 20 นยิ มเรียกวา่ ช้ันแว่นฟ้า ถัดขึ้นไปเปน็ สว่ นของเรอื นธาตุอยใู่ นผงั เพ่ิมมมุ ไม้20 เช่นเดียวกัน สว่ นยอด ประกอบด้วยสว่ นท่ีเชอื่ มตอ่ จาก เรอื นธาตุ ไดแ้ ก่ บรรพแถลง และกลบี ขนุน รองรับส่วนองคร์ ะฆงั ท่ีมีลกั ษณะเปน็ พ่มุ คล้ายดอกบัวตูม จึงเรยี กว่า พ่มุ ข้าวบณิ ฑ์ หรอื ทรงยอดดอกบัวตมู ส่วนยอดของดอก บวั ตมู ทาเปน็ วงแหวนซ้อนกันเป็นช้ันๆ รองรับสว่ นยอดสดุ คอื ปลยี อด
เจดยี ์ทรงปราสาทยอด เปน็ งานสถาปตั ยกรรมสมัย เจดียบ์ รวิ าร วัดมหาธาตุ จ.สุโขทยั สโุ ขทัยท่ปี รากฏในเจดยี บ์ รวิ าร โดยเฉพาะในวดั ทมี่ ีเจดีย์ทรง ยอดดอกบวั ตมู เปน็ ประธาน ของวัด นิยมสร้างเจดีย์บริวาร เปน็ เจดยี ์ทรงปราสาทยอด หรอื ปราสาทหา้ ยอด เช่น ท่วี ดั มหาธาตุ วดั เจดยี เ์ จ็ดแถว วัดสวนแกว้ อทุ ยานนอ้ ย เจดีย์ ทรงปราสาทยอดเกดิ ข้นึ จาก การผสมผสานรปู แบบระหวา่ ง ปราสาทขอมกับปราสาทยอด ที่มาจากพุกามและลา้ นนา ซง่ึ เกดิ ข้ึนเป็นลกั ษณะเฉพาะ ของสมยั สุโขทยั เจดยี ท์ รงปราสาทยอด ทีว่ ัดเจดีย์เจด็ แถว ศรสี ัชนาลัย จ.สุโขทัย
มณฑปพระอัฏฐารส มหาธาตุเจดีย์ทรงดอกบัวตมู ภายใน พระพุทธรปู ยืนขนาดใหญ่ ประดิษฐานพระบรมสารีรกิ ธาตุ เจดียห์ มายถงึ พระธาตุเจดยี ์จุฬามณี เจดีย์เกา้ ยอด ที่พระอินทรส์ ร้างขึ้นบนสวรรค์ เพื่อบรรจุ เชอื่ ว่าบรรจุพระบรมอัฐิ พระเกศาและพระเข้ยี วแกว้ ของพระพุทธเจา้ ของพระยาลิไทย พระสาวกและงานปนู ปน้ั ฐานเจดีย์ วิหารหลวง เชอ่ื วา่ เคยประดษิ ฐาน พระศรศี ากยมุนี พระประธาน แผนผังของวัดมหาธาตุ สุโขทัย เปน็ แผนผังท่เี กิดจากคตจิ ักรวาลทัศน์ เชน่ เดยี วกบั /หรือมีอทิ ธพิ ลต่อมายงั วัดมหาธาตุอกี หลายวัดตลอดมา กล่าวคอื ด้านหนา้ มวี ิหารหรืออุโบสถอันหมายถึงชมพูทวีปทจ่ี ะมีพระพทุ ธเจ้าอุบตั ิขึน้ เพอ่ื สัง่ สอนเวไนยสตั ว์ให้พน้ ทุกข์ มีพระมหาเจดียเ์ ปน็ ดง่ั ศูนย์กลางจกั รวาลทัศน์ เปน็ เขาพระสุเมรหุ รือเป็นดั่งมณฑลเกษตรทมี่ พี ระพุทธเจา้ ประทบั อยตู่ ามคติพทุ ธศาสนาฝ่ายมหายาน
พระอจนะ พระมณฑป บันไดทางข้นึ ผนังมจี ติ รกรรมฝาผนงั ทางเข้าลับ
งานปูนป้ันสมัยสุโขทัย งานปนู ป้ันประดับสถาปัตยกรรม รปู เทวดา วดั พระพายหลวง ศรีสัชนาลยั งานปนู ปั้น หมายถงึ การทาลวดลายหรือภาพทีเ่ กิดจากปั้นปูนสาหรับ งานปูนป้นั ประดบั สถาปตั ยกรรม ใช้ในการประดบั ตกแต่ง ตลอดจนทาเปน็ สว่ นประกอบทางสถาปตั ยกรรม วัดนางพญา ศรีสัชนาลยั จ. สโุ ขทยั ถือเปน็ งานทางศิลปกรรมของชา่ งไทยทม่ี มี าแต่โบราณ โดยนิยมใช้ในงาน ประดับตกแต่งศาสนสถาน ซ่ึงสว่ นใหญ่จะก่อสร้างดว้ ยอฐิ และศิลาแลง วดั มหาธาตุเมอื งเชลยี ง จึงใชก้ ารปน้ั ปนู เปน็ รายละเอียดประดบั ตกแตง่ วสั ดุท่ใี ชใ้ นงานป้ันนน้ั มักใชว้ สั ดุทีห่ าไดง้ า่ ยในท้องถิ่น วสั ดุหลกั คอื ปนู ขาวท่ไี ดม้ าจากหนิ ปนู หรอื เปลอื กหอยทะเลเผาไฟ ซึง่ มกี รรมวธิ เี ตรียมการให้มคี ุณภาพเหนยี ว และจับตัวใหแ้ ขง็ แกร่งด้วยการตา หรอื โขลก และผสมวัสดุต่างๆ เข้าไป ศิลปะสุโขทัยนนั้ ลวดลายปนู ปัน้ ทีม่ ีฝมี อื งดงามหลายแห่ง เช่น ลวดลาย ปูนปั้นประดับที่มณฑปวัดตระพังทองหลาง เป็นพุทธประวตั ิ ภาพปูนป้นั ประดบั รองฐานเจดียป์ ระธานวดั เจดยี ์สหี่ อ้ งสุโขทัย ปน้ั เปน็ รปู บคุ คลท้งั บุรษุ และสตรีสวมอาภาณ์และเคร่ืองประดบั ตา่ งๆ กัน ในมือถอื หมอ้ ปูรณฆฎะ มพี นั ธพุ์ ฤกษา แสดงถึงความอดุ มสมบูรณ์ท่ีวดั มหาธาตุกลางเมอื งสุโขทยั รอบๆ เจดีย์ประธานมีปนู ปนั้ รูปพระสาวกในทา่ อัญชุลี และเจดยี ร์ ายรอบ ประธานมีลวดลายปูนปนั้ ศิลปะลังกา และลวดลายปนู ป้นั ตกแต่งผนงั และ เสาวหิ ารวัดนางพญา ศรีสชั นาลัย และวัดพระศรรี ัตนมหาธาตุเชลียง ศรีสชั นาลยั งานปูนป้ันประดับวัดช้างล้อม
งานปูนป้ันสมัยสุโขทัย พระพทุ ธรูปปางลีลา พระอจนะ วัดศรชี มุ สว่ นพระพุทธรูปปนู ปนั้ นั้น ในตอนตน้ พุทธศตวรรษที่ 19 พระพทุ ธรปู รุ่นแรกของสโุ ขทยั ส่วนใหญม่ พี ระพกั ตรค์ อ่ นข้าง กลม เชน่ พระอจนะ วดั ศรชี มุ พระอัฏฐารส วดั สะพานหนิ วดั มหาธาตุ และพระพุทธรปู ปนู ป้นั ทรี่ ะเลยี งรอบวัดพระพาย หลวง โดยนยิ มสร้างพระพุทธรูปสีอ่ ริ ิยาบถ คอื นั่ง ยนื นอน เดนิ พระพุทธรูปปนู ปั้นทีเ่ ปน็ งานประตมิ ากรรมลอยตัวถอื วา่ เปน็ พทุ ธศิลป์ท่ีงดงามมากเปน็ เอกลักษณข์ องศิลปะสุโขทยั คอื พระพุทธรปู ลลี าปูนปน้ั ทว่ี ดั พระศรีรัตนมหาธาตุ ศรีสัชนาลัย ส่วนพระพุทธรปู ปนู ปน้ั ทเ่ี มอื งกาแพงเพชรแม้จะเป็นแบบศลิ ปะ สโุ ขทัย แต่ช่างท้องถิ่นได้พัฒนาจนเกดิ เนรูปแบบสกุลชา่ งเมือง กาแพงเพชร ใช้ศิลาแลงเป็นแกนหรือเปน็ โกลน แลว้ ใชป้ นู ป้นั ตกแตง่ ผวิ ด้านนอก นอกจากนีย้ ังมกี ารปัน้ เป็นรปู บุคคลตา่ งๆ เพือ่ ประดับ สถาปัตยกรรม เช่น รปู เทวดา พระสาวก ยักษ์ และปูนป้นั เปน็ รูปสัตว์ประดบั โบราณสถาน เช่น หนา้ กาฬ หรอื เกียรตขุ ทว่ี ัด มหาธาตุ สโุ ขทยั ปนู ปนั้ รปู ชา้ งคร่งึ ตัว ประดษิ ฐานทีว่ ัดชา้ งล้อม วัดสงิ ห์ วดั พระสี่อิริยาบถ วัดพระนอน วดั พระแกว้
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: