ห น้ า | 45 ภาพที่ 32 : ภาพจาลองขนาดความยาวของลูกแคน 2.เจาะไมเ้ ฮ้ีย โดยใชเ้ หลก็ ชีลนไฟใหร้ ้อนจนเป็นสีแดงนาไปเจาะไมเ้ ฮ้ียเพ่ือใหข้ อ้ ต่อของไมท้ ะลุปลอ้ ง ภาพที่ 33 : การเจาะไมเ้ ฮ้ีย
ห น้ า | 46 3.ดดั ไมเ้ ฮ้ีย ไมเ้ ฮ้ียตามธรรมชาติจะมีลกั ษณะที่คดงอ ไม่ตรง จึงตอ้ งมีการดดั ไมเ้ ฮ้ียให้มีลกั ษณะตรงก่อนที่จะ นามาทาเป็ นลูกแคน โดยการนาไมเ้ ฮ้ียไปลนไฟใหร้ ้อนพอประมาณ จากน้นั นาไมเ้ ฮ้ียใส่ในตะขอท่ีอยูส่ ่วน ปลายของไมม้ ือลิง ทาการดดั ไมเ้ ฮ้ียจนมีลกั ษณะตรง ในการดดั ไมเ้ ฮ้ียน้ีตอ้ งดดั ตอนไมย้ งั ร้อนเท่าน้นั และ ตอ้ งระมดั ระวงั เป็นอยา่ งมาก เนื่องจากถา้ ดดั แรงจนเกินไปจะทาใหไ้ มเ้ ฮ้ียแตกได้ ภาพที่ 34 : การลนไฟไมเ้ ฮ้ีย ภาพที่ 35 : การดดั ไมเ้ ฮ้ีย
ห น้ า | 47 4.ตีหลาบโลหะ นาหลาบโลหะท่ีไดจ้ ากการส่ังซ้ือมา ซ่ึงจะมีลกั ษณะเป็ นเส้นยาวๆ คลา้ ยลวด นามาตีโดยใชห้ นา้ ทงั่ รองหลาบโลหะไวแ้ ละใชค้ อ้ นเล็กค่อยๆตีจนเป็นแผน่ บางๆ ขนาดประมาณ 15 เซนติเมตร ภาพท่ี 36 : การตีหลาบโลหะ 5.สบั ลิ้นแคนและเจาะลิ้นแคน 5.1 การสับลิ้นแคน เม่ือตีหลาบโลหะเป็ นแผน่ บางๆ เรียบร้อยแลว้ กจ็ ะนามาสับใหไ้ ดข้ นาดของลิ้นแคนโดยใช้ กระดูกชา้ งสาหรับรองหลาบโลหะไวเ้ พื่อป้องกนั ไม่ใหส้ ่ิวบิ่นหรือแตกหกั ทาการสับลิ้นแคนโดย ใชส้ ิ่วขนาดใหญ่วางบนแผน่ หลาบโลหะ ใชค้ อ้ นเล็กตีให้หลาบโลหะขาดจากกนั ขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร ภาพท่ี 37 : การสบั ลิ้นแคน
ห น้ า | 48 5.2 เจาะลิ้นแคน การเจาะลิ้นแคนเป็ นข้นั ตอนที่สาคญั ซ่ึงทาให้แคนเกิดเสียงข้ึนได้ ในการเจาะลิ้นแคนจะ นาลิ้นแคนท่ีสับได้ขนาดเรียบร้อยแลว้ ใช้สิ่วเล็กในการเจาะตรงกลางลิ้นแคน โดยลิ้นแคนจะ แบ่งเป็ น 3 ลกั ษณะตามระดบั เสียง ไดแ้ ก่ 1.เสียงต่าจะมีลกั ษณะเป็ นรูปสี่เหลี่ยมผนื ผา้ 2.เสียงกลาง จะมีลกั ษณะเป็ นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู 3.เสียงสูงจะมีลกั ษณะเหมือนเสียงกลางแต่ส่วนปลายจะแหลม กวา่ ในการเจาะลิ้นแคนจะใชก้ ระดูกช้างรองไว้ ลิ้นแคนท่ีเจาะเรียบร้อยแลว้ ตรงกลางจะสามารถ เคล่ือนไหวได้ เพื่อใหเ้ กิดการส่ันสะเทือนของลิ้นแคน ทาใหเ้ กิดเสียงข้ึน ภาพที่ 38 : ภาพจาลองลิ้นแคนเสียงต่า ภาพท่ี 39 : ภาพจาลองลิ้นแคนเสียงกลาง ภาพที่ 40 : ภาพจาลองลิ้นแคนเสียงสูง
ห น้ า | 49 6.เจาะรูสาหรับใส่ลิ้นแคน การเจาะรูสาหรับใส่ลิ้นแคน จะวดั ตาแหน่งการเจาะจากแคนที่ทาเสร็จแลว้ โดยใช้ส่วนปลายของ มีดตอกในการเจาะให้ไดข้ นาดเกือบเท่าลิ้นแคน และดา้ นท้งั 2 ขา้ งของรูใส่ลิ้นแคนจะใชม้ ีดตอกผ่าเขา้ ไป เลก็ นอ้ ยสาหรับลอ็ คลิ้นแคนไม่ใหข้ ยบั หรือหลุดขณะเป่ าแคนได้ ภาพท่ี 41 : การเจาะรูใส่ลิ้นแคน 7.ขดู ลิ้นแคนใหบ้ าง ลิ้นแคนที่ทาการเจาะเรียบร้อยแลว้ ยงั มีความหนา จึงตอ้ งมีการขดู ลิ้นแคนโดยใชม้ ีดตอกในการขูด และใช้ไมไ้ ผ่รองลิ้นแคนไว้ เพื่อให้ลิ้นแคนมีลกั ษณะบาง ทาให้เกิดการส่ันสะเทือนของลิ้นแคนดียิ่งข้ึน ส่งผลใหเ้ สียงแคนมีความกงั วานมากข้ึนอีกดว้ ย ภาพท่ี 42 : การขดู ลิ้นแคน
ห น้ า | 50 8.นาลิ้นแคนใส่รูที่เจาะไว้ ใช้ไมจ้ ิ้มลิ้นแคนสอดเขา้ ไปตรงกลางลิ้นแคน และนาไปใส่ในรูที่เจาะไว้ โดยให้ดา้ นขา้ งของลิ้น แคนท้งั 2 ขา้ ง เสียบกบั ดา้ นขา้ งของรูที่เจาะไวซ้ ่ึงจะผา่ เขา้ ไปเล็กนอ้ ยเพ่ือล็อคไม่ใหล้ ิ้นหลุดออกจากลูกแคน ภาพที่ 43 : การใส่ลิ้นแคน 9.เจาะรูแพร การเจาะรูแพรจะวดั ตาแหน่งการเจาะจากแคนที่ทาเสร็จแลว้ โดยจะทาการเจาะรูแพร 2 รู บน - ล่าง ใหต้ รงขา้ มกบั ลิ้นแคน การเจาะรูแพรน้ีกเ็ พอ่ื แต่งระดบั เสียงใหไ้ ดร้ ะดบั เสียงหรือโน๊ตตามตอ้ งการ ภาพท่ี 44 : การเจาะรูแพร
ห น้ า | 51 ขนาดความยาวของรูแพรเม่ือวดั จากลิ้นแคน ลูกแคนฝ่ังซา้ ย รูแพรของลูกแคนลูกที่ 1 ดา้ นล่าง 6 เซนติเมตร ดา้ นบน 24.5 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกที่ 2 ดา้ นล่าง 16 เซนติเมตร ดา้ นบน 6 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกที่ 3 ดา้ นล่าง 13 เซนติเมตร ดา้ นบน 43.5 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกท่ี 4 ดา้ นล่าง 12 เซนติเมตร ดา้ นบน 40 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกท่ี 5 ดา้ นล่าง 10 เซนติเมตร ดา้ นบน 36.5 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกที่ 6 ดา้ นล่าง 10 เซนติเมตร ดา้ นบน 32.5 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกที่ 7 ดา้ นล่าง 5 เซนติเมตร ดา้ นบน 19 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกท่ี 8 ดา้ นล่าง 4 เซนติเมตร ดา้ นบน 16.5 เซนติเมตร ลูกแคนฝั่งขวา รูแพรของลูกแคนลูกท่ี 1 ดา้ นล่าง 21 เซนติเมตร ดา้ นบน 58 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกที่ 2 ดา้ นล่าง 15 เซนติเมตร ดา้ นบน 48.5 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกที่ 3 ดา้ นล่าง 10 เซนติเมตร ดา้ นบน 33 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกที่ 4 ดา้ นล่าง 9 เซนติเมตร ดา้ นบน 29 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกที่ 5 ดา้ นล่าง 5.5 เซนติเมตร ดา้ นบน 25 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกท่ี 6 ดา้ นล่าง 5 เซนติเมตร ดา้ นบน 23.5 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกท่ี 7 ดา้ นล่าง 5 เซนติเมตร ดา้ นบน 20 เซนติเมตร รูแพรของลูกแคนลูกท่ี 8 ดา้ นล่าง 4 เซนติเมตร ดา้ นบน 15 เซนติเมตร
ห น้ า | 52 ภาพท่ี 45 : ภาพจาลองขนาดความยาวของรูแพรเม่ือวดั จากลิ้นแคน 10.นาลูกแคนประกอบเขา้ กบั เตา้ แคน นาลูกแคนที่ใส่ลิ้นแคนและเจาะรูแพรเรียบร้อยแลว้ มาประกอบเขา้ กบั เตา้ แคน โดยใส่ลูกที่ 1 ก่อน และ เรียงตามลาดบั ไปถึงลูกที่ 8 ท้งั ฝ่ังซ้ายและฝ่ังขวาให้ครบทุกลูก ให้ลิ้นแคนหนั หนา้ ออกมาทางเตา้ แคนท้งั 2 ฝ่ัง เพ่อื ใหล้ มผา่ นเขา้ ไปกระทบกบั ลิ้นแคน ภาพท่ี 46 : การใส่ลูกแคน
ห น้ า | 53 11.ติดข้ีสูด นาข้ีสูดไปตากแดดนานพอประมาณเพ่ือให้ข้ีสูดอ่อนตวั เหนียว นุ่ม และยืดหยุ่นได้ นาข้ีสูดพนั รอบๆ ลูกแคนให้ครบท้งั 8 ลูก ฝั่งซา้ ยและฝ่ังขวา ใชม้ ือรีดข้ีสูดให้เรียบและตรวจสอบดูรอยร่ัวระหวา่ ง เตา้ แคนกบั ลูกแคน จากน้นั นาข้ีสูดมาทาเป็นเส้นเลก็ ๆ ยาวเทา่ กบั ขนาดไมก้ ้นั เตา้ แคน ติดข้ีสูดบริเวณไม้ ก้นั เตา้ แคนเป็ นทางยาวตามขนาดของไมก้ ้นั เตา้ แคน นาไมไ้ ผเ่ ล็กสอดตรงกลางเตา้ แคนระหวา่ งลูกแคน ท้งั 2 ฝ่ัง ออกแรงกดไมไ้ ผเ่ พื่อใหข้ ้ีสูดที่ติดบริเวณไมก้ ้นั เตา้ แคนเรียบ 12. เจาะรูนบั ภาพท่ี 47 : การติดข้ีสูด รูนบั เป็ นรูปิ ดของลูกแคนเพื่อให้ไดร้ ะดบั เสียงหรือโน้ตตามตอ้ งการ ซ่ึงอยู่บริเวณเหนือเตา้ แคน ข้ึนมาเล็กนอ้ ย ท้งั ฝ่ังซา้ ยและฝั่งขวา การเจาะรูนบั จะตอ้ งมีการวดั ตาแหน่งนิ้วมือโดยใชม้ ือวางเตา้ แคน นาไมบ้ รรทดั วางและใชด้ ินสอขีดเป็ นเส้นตรงตามระดบั นิ้วมือ ซ่ึงตาแหน่งรูนบั นิ้วโป้งจะอยดู่ า้ นหน้า ของลูกแคนฝ่ังทางรูเป่ าแคน นิ้วช้ี กลาง นาง จะอยูด่ า้ นขา้ งของลูกแคนในระดบั เดียวกนั นิ้วกอ้ ยจะอยู่ ต่าลงมาเล็กน้อย จากน้ันทาการเจาะรูนับโดยใช้เหล็กชีเล็กลนไฟให้ร้อนและนามาเจาะรูนับตาม ตาแหน่งท่ีใชด้ ินสอขีดไวใ้ หค้ รบทุกลูก ภาพท่ี 48 : การเจาะรูนบั
ห น้ า | 54 13.มดั ลูกแคน นาไมไ้ ผเ่ ล็กมาวดั ขนาดเกือบเท่ากบั ขนาดความกวา้ งของลูกแคนท้งั 8 ลูก เพ่ือทาไมก้ ้นั ลูกแคน ไม้ ก้นั ลูกแคนมีขนาดความยาว 10 เซนติเมตร หนา 0.5 เซนติเมตร จากน้นั ผา่ ปลายไมไ้ ผด่ า้ นใดดา้ นหน่ึง เขา้ ไปเล็กนอ้ ย นาเชือกท่ีทาจากเถายา่ นางไปชุบน้าให้เปี ยกเพ่ือทาให้เชือกเหนียวข้ึนนามาติดกบั ปลาย ไมไ้ ผท่ ่ีผา่ ไว้ สอดไมไ้ ผเ่ ขา้ ไปตรงกลางระหวา่ งลูกแคนจากน้นั มดั เชือกใหแ้ น่น โดยการมดั ลูกแคนจะ มดั 3 ส่วนดว้ ยกนั คือ ส่วนบนสุด ส่วนบน และส่วนล่าง ส่วนบนสุดจะไมใ่ ส่ไมก้ ้นั ลูกแคน แต่ส่วนกลาง และส่วนล่างจะใส่ไมก้ ้นั ลูกแคน ภาพท่ี 49 : การมดั ลูกแคน แคน 1 เตา้ ใชเ้ วลาในการทาประมาณ 2-3 วนั และใชต้ น้ ทุนท้งั หมดในการทาประมาณ 500 บาทต่อ แคน 1 เตา้ แคนของพอ่ ใหญส่ หสั อสุรินทร์ จาหน่ายในราคาประมาณ 1000 - 2000 บาท ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาเรื่อง การศึกษาการทาแคน กรณีศึกษาชุมชนบา้ นหว้ ยทราย หมู่ 16 ตาบลป่ าออ้ ดอน ชยั อาเภอเมือง จงั หวดั เชียงราย ผศู้ ึกษามีขอ้ เสนอแนะดงั น้ี 1.ควรมีข้นั ตอนในการหาวตั ถุดิบเพอื่ นามาทาแคน เช่น การขดุ หาข้ีสูด การขดุ รากไมป้ ระดู่ เพื่อทาเตา้ แคน เป็นตน้ 2.ควรมีการสารวจการทาแคนในภาคเหนือ และทาการศึกษาเปรียบเทียบการทาแคนใน พ้ืนที่ต่างๆ ของภาคเหนือ
ห น้ า | 55 บรรณานุกรม กาญจนา อินทรสุนานนท.์ (2536). เพลงพืน้ บ้าน. สารานุกรมศึกษาศาสตร์ ฉบบั ที่ 12. กรุงเทพฯ : มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ. เจริญชยั ชนไพโรจน.์ (2526). ปลืม้ กลอนลา. มหาสารคาม : ภาควชิ าดุริยางคศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์. ชมรมศิลปวฒั นธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . (ม.ป.ป.). ดนตรีพืน้ บ้านอีสาน. 15 กุมภาพนั ธ์ 2560. http://www.isan.clubs.chula.ac.th/dontri/index.php?transaction=kaen05_1.php นฤพนธ์ ดว้ งวเิ ศษ. (2558). มานษุ ยวิทยา. 27 มีนาคม 2560. http://www.sac.or.th/databases/anthropology- concepts/page/1 ปรีชา อุปโยคิน. (2558). มานุษยวิทยากบั การวิจัยเพื่อพฒั นา. สานกั วชิ าศิลปะศาสตร์. มหาวทิ ยาลยั แม่ฟ้า หลวง. ปัญญา รุ่งเรือง. (2533). ดนตรีไทยประกอบเสียง. (พิมพค์ ร้ังที่ 2). กรุงเทพฯ : สานกั พิมพจ์ ุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั . ปัญญา แสงสุนานนท.์ (2526). ลายแคนท่ีไม่เคยเหือดหายของอีสาน. ในเจด็ ร้อยปี ลายลือไทย. บุรีรัมย์ : วทิ ยาลยั ครูบุรีรัมย.์ ปิ ยพนั ธ์ แสนทวสี ุข. (2549). ดนตรีพืน้ บ้านอีสาน : คีตกวอี ีสานตานานเคร่ืองดนตรีและการเรียนรู้ดนตรี พืน้ บ้านอีสาน. มหาสารคาม : อภิชาติการพิมพ.์ . (2551). การพฒั นาอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดนตรีพืน้ บ้านอีสานจากไม้ยางพารา. คณะศิลปกรรมศาสตร์, สานกั งานพฒั นาวิทยาศาสตร์และและเทคโนโลยีแห่งชาติ. มหาวิทยาลยั มหาสารคาม. โยธิน พลเขต. (2552). ปัจจัยท่ีทาให้หมอแคนประสบความสาเร็จในการเป่ าแคนประกอบหมอลากลอนวาด อุบล. ปริญญาศิลปกรรมศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาวชิ าดุริยางศิลป์ . บณั ฑิตมหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม. รัฐธนินท์ รวฉี ตั รพงศ.์ (2554). เด่ียวแคน ทางครูบัวหอง ผาจวง. ปริญญาศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาวชิ า ดุริยางคไ์ ทย. บณั ฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . วสนั ต์ สรรพสุข. (2554). ชุมชนอีสานอพยพในภาคเหนือ. 20 กมุ ภาพนั ธ์ 2560. http://wasansapphasuk. blogspot.com/2011/11/blog-post.html วมิ ล จิโรจพนั ธุ์ และคณะ. (ม.ป.ป.). มรดกวฒั นธรรมภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ. 15 กมุ ภาพนั ธ์ 2560. http://www.thaiesan.net ศรีศกั ด์ิ วลิ ลิโภดม. (2545). มานษุ ยวิทยา. 27 มีนาคม 2560. http://www.baanjomyut.com/library_2/ anthropolog/index.html
ห น้ า | 56 ศุจินทรา อยเู่ ยน็ . (2554). เครื่องดนตรีอีสาน. 28 มีนาคม 2560. https://sites.google.com/site/ phunmeuxngxisan/kheruxng-dntri-xisan สงดั ภูเขาทอง. (2532). การดนตรีไทยและการเข้าสู่ดนตรีไทย. กรุงเทพฯ : เรือนแกว้ การพิมพ.์ สญั ญา สมประสงค.์ (2555). การศึกษาการทาเคร่ืองดนตรีพืน้ บ้าน : กรณีศึกษาหม่บู ้านท่าเรือ ตาบลท่าเรือ อาเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม. ปริญญาศิลปกรรมศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาวิชามานุษยดุริยางค วทิ ยา. บณั ฑิตมหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ. สิทธิศกั ด์ิ จาปาแดง. (2552). แคน:การประยกุ ต์ใช้ภูมิปัญญาพืน้ บ้านในการอนุรักษ์ฟื้นฟูพัฒนาวตั ถดุ ิบและ การทาแคนเพื่อสร้างมลู ค่าเพิ่มทางวฒั นธรรม. ปริญญาดุษฎีบณั ฑิต, สาขาวชิ าวฒั นธรรมศาสตร์. บณั ฑิตมหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม. สุกิจ พลประถม. (2540). ดนตรีพืน้ บ้านอีสาน. อุดรธานี : ภาควชิ าดนตรี คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ สถาบนั ราชภฎั อุดรธานี. . (2536). การเป่ าแคนแบบพืน้ บ้านอีสาน. ปริญญาศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาวชิ าไทย คดีศึกษา. บณั ฑิตมหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม. สุรศกั ด์ิ พิมพเ์ สน. (2532). การทาแคน ศึกษาเฉพาะกรณีตาบลสีแก้ว อาเภอเมือง จังหวดั ร้อยเอด็ . ปริญญา ศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาวชิ าไทยคดีศึกษา. บณั ฑิตมหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม. อาชา พาลี. (2555). แนวทางการพฒั นาวิธีการถ่ายทอดการเป่ าแคนทานองพืน้ บ้านอีสาน. ปริญญาศิลป ศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาวชิ าวฒั นธรรมศาสตร์. บณั ฑิตมหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม. อดินนั ท์ แกว้ นิล. (2551). การศึกษาวิธีการเป่ าและถ่ายทอดศิลปะการเป่ าแคนของอาจารย์สมบตั ิ สิมหล้า. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, สาขาวชิ าดนตรี. บณั ฑิตมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุบลธานี.
ห น้ า | 57 ภาคผนวก ก (แบบสมั ภาษณ์และแผนการดาเนินงาน)
ห น้ า | 58 แบบสัมภาษณ์เพ่ือการวจิ ัยแบบกงึ่ โครงสร้าง เรื่อง การศึกษาวธิ ีการทาแคน กรณีศึกษาชุมชนบ้านห้วยทราย หมู่ 16 ตาบลป่ าอ้อดอนชัย อาเภอเมือง ช่ือผ้วู จิ ัย จังหวดั เชียงราย 1.นายชาครินทร์ แซ่คู 2.นายอนุพงศ์ ใจทน 3.นายจิดปะสง แกว้ หลวงหาน นกั ศึกษาสาขาวชิ าดุริยางคศาสตร์ สานกั วชิ าสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชียงราย อาจารย์ทปี่ รึกษา อาจารยก์ ลั ยาณี สายสุข ชื่อผใู้ หส้ ัมภาษณ์ : พอ่ ใหญ่สหสั อสุรินทร์ และนายพิชิต อสุรินทร์ ท่ีอยปู่ ัจจุบนั : บา้ นเลขท่ี 16 หมู่ 16 บา้ นหว้ ยทราย ตาบลป่ าออ้ ดอนชยั อาเภอเมือง จงั หวดั เชียงราย วนั /เดือน/ปี ที่สมั ภาษณ์ : 19 มีนาคม 2560 – 9 เมษายน 2560 เวลาสัมภาษณ์ : เริ่มสัมภาษณ์เวลา 09.00 น. จบการสมั ภาษณ์เวลา 16.00 น. ตอนที่ 1 ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ผสู้ ัมภาษณ์ ภูมิลาเนาเดิม : บา้ นเลขท่ี 49 หมู่ท่ี 34 บา้ นออ้ ยชา้ ง ต.กุดจอก อ.บวั ใหญ่ จ.นครราชสีมา ภูมิลาเนาปัจจุบนั : บา้ นเลขท่ี 16 หมู่ 16 บา้ นหว้ ยทราย ต.ป่ าออ้ ดอนชยั อ.เมือง จ.เชียงราย อายปุ ัจจุบนั : 75 ปี ประวตั ิดา้ นการศึกษา : จบประถมศึกษาที่โรงเรียนบา้ นออ้ ยชา้ ง ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 จบ ก.ศ.น.เชียงราย ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 ประสบการณ์ดา้ นการทางาน : ปี พ.ศ. 2506 อยวู่ งหมอลา ปัจจุบนั เป็ นช่างแคนและครูสอนตาม โรงเรียน เร่ิมเรียนการทาแคนต้งั แต่เม่ือไหร่ : ต้งั แตป่ ี พ.ศ.2516 เรียนการทาแคนมาจากใคร : เรียนรู้ดว้ ยตนเอง จากการฟังวทิ ยแุ ละคิดหาวธิ ีดว้ ยตนเอง ตอนท่ี 2 ขอ้ มูลเกี่ยวกบั การทาแคน ส่วนประกอบของแคน วตั ถุดิบท่ีใชท้ าแคน วสั ดุอุปกรณ์ที่ใชท้ าแคน ข้นั ตอนการทาแคน
ห น้ า | 59 แผนการดาเนินงาน การศึกษาการทาแคน กรณศี ึกษาชุมชนบ้านห้วยทราย หมู่ 16 ตาบลป่ าอ้อดอนชัย อาเภอเมือง จังหวดั เชียงราย วนั อาทิตย์ ท่ี 19 มีนาคม 2560 ลงพ้ืนที่เก็บขอ้ มูลภาคสนามคร้ังที่ 1 / ขอ้ มูลผสู้ ัมภาษณ์ วนั เสาร์ ท่ี 1 เมษายน 2560 ลงพ้นื ที่เก็บขอ้ มูลภาคสนามคร้ังที่ 2 / ขอ้ มูลการทาแคน วนั เสาร์ ท่ี 8 เมษายน 2560 ลงพ้ืนที่เกบ็ ขอ้ มูลภาคสนามคร้ังท่ี 3 / ขอ้ มูลการทาแคน วนั อาทิตย์ ท่ี 9 เมษายน 2560 ลงพ้นื ท่ีเกบ็ ขอ้ มูลภาคสนามคร้ังที่ 4 / ขอ้ มูลการทาแคน วนั จนั ทร์ ท่ี 10 เมษายน 2560 – วนั อาทิตย์ ที่ 7 พฤษภาคม 2560 รวบรวมขอ้ มูล ทารูปเล่ม วนั ศุกร์ ท่ี 21 เมษายน 2560 นาเสนอผลการศึกษา วนั จนั ทร์ ที่ 8 พฤษภาคม 2560 ส่งรูปเล่ม
ห น้ า | 60 ภาคผนวก ข (รูปภาพสถานที่ และการสมั ภาษณ์)
ห น้ า | 61 บ้านพ่อใหญ่สหัส อสุรินทร์ ภาพที่ 50 : ที่ต้งั บา้ นพอ่ ใหญ่สหสั อสุรินทร์ ภาพท่ี 51 : ป้ายทางเขา้ ชุมชนบา้ นหว้ ยทราย ภาพที่ 52 : ชุมชนบา้ นหว้ ยทราย
ห น้ า | 62 ภาพท่ี 53 : วดั บา้ นหว้ ยทรายเป็นสถานท่ีจดั ประเพณีบุญบ้งั ไฟ ภาพท่ี 54 : บา้ นพอ่ ใหญ่สหสั อสุรินทร์ ภาพที่ 55 : พอ่ ใหญ่สหสั อสุรินทร์
ห น้ า | 63 ภาพที่ 56 : การสมั ภาษณ์ ภาพท่ี 57 : การเป่ าแคน
Search