คำแนะนำกำรใชแ้ บบฝึ กทกั ษะ แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ เรื่อง กาพย์ พระไชยสุริยา จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาให้นักเรียนมีความรู้และมีทักษะการ เรียนรู้เกี่ยวกับการศึกษาฉันทลักษณ์ที่ใช้ในการแต่งเรื่อง กาพย์ พระไชยสุริยา การเล่นเสียงสัมผัสพยัญชนะ การเล่นเสียงสัมผัสสระ และการใช้ภาพพจน์ ได้แก่ อุปมา อุปลักษณ์ สัทพจน์ บุคคลวัต และอติพจน์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 1. ผู้เรียนต้องศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้และวิธีปฏิบัติกิจกรรม ให้เข้าใจกอ่ นปฏิบตั ิกิจกรรม 2. ปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดด้วยความตั้งใจ ซอ่ื สตั ย์เพ่อื ให้บรรลุเป้าหมาย 3. เมอื่ เกิด ความสงสัยหรอื มีปัญหาสามารถซักถามครูผู้สอนได้ ตลอดเวลา 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมแล้ว สามารถตรวจคำตอบจากแบบ เฉลยคำตอบทแี่ นบมาด้วยตนเอง 5. หากผลคะแนนไม่เป็นที่น่าพอใจผู้เรียนสามารถตรวจคำตอบ จากแบบเฉลยคำตอบที่แนบมาด้วยตนเอง 6. ผู้เรียนสามารถกลับไปเรียนรู้กิจกรรมใหม่ จนกว่าจะเป็นผล ท่ีพอใจและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชนใ์ นชีวิตประจำวันตอ่ ไป ก
สำรบญั เร่ือง.................................................................................................หนา้ ข คำแนะนำการใชแ้ บบฝึกทักษะ.................................................................ก สารบญั ...................................................................................................ข ก่อนเรยี น................................................................................................ แบบทดสอบก่อนเรียน...................................................................1 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น...........................................................4 บทที่ 1 ฉนั ทลกั ษณ์ในกาพย์พระไชยสุริยา..................................................5 ความหมายของฉนั ทลกั ษณ.์ ...........................................................6 กาพยย์ านี 11...............................................................................6 กาพยฉ์ บัง 16...............................................................................7 กาพย์สุรางคนางค์ 28...................................................................8 แบบฝกึ ทกั ษะ เรอื่ ง ฉันทลกั ษณใ์ นกาพยพ์ ระไชยสุริยา...................10 บทที่ 2 การเลน่ เสยี งสมั ผัสพยัญชนะ........................................................16 การเล่นเสยี งสมั ผัสพยญั ชนะ.........................................................17 แบบฝึกทกั ษะ เร่อื ง การเล่นเสยี งสมั ผัสพยัญชนะ..........................19 บทท่ี 3 การเล่นเสยี งสัมผัสสระ...............................................................22 การเล่นเสยี งสมั ผัสสระ................................................................23 แบบฝกึ ทกั ษะ เรื่อง การเล่นเสยี งสัมผัสสระ..................................25 บทที่ 4 การใชภ้ าพพจน.์ .........................................................................28 ภาพพจน์หรือโวหารภาพพจน.์ .....................................................29 อปุ มา.........................................................................................29 อปุ ลกั ษณ์...................................................................................30 บุคคลวตั ....................................................................................30 สัทพจน์......................................................................................31 อติพจน์......................................................................................32 แบบฝึกทกั ษะ เรื่อง การใชภ้ าพพจน์...........................................33
เรอื่ ง.................................................................................................หน้า เฉลยแบบฝึกทกั ษะ.................................................................................44 แบบฝึกทกั ษะ เร่ือง ฉันทลกั ษณ์ในกาพย์พระไชยสรุ ิยา..................45 แบบฝกึ ทกั ษะเร่ือง การเล่นเสียงสัมผสั พยญั ชนะ...........................51 แบบฝึกทกั ษะ เร่อื ง การเลน่ เสยี งสมั ผสั สระ.................................54 แบบฝกึ ทักษะเรอื่ ง การใช้ภาพพจน์.............................................57 หลงั เรยี น................................................................................................ แบบทดสอบหลังเรยี น.................................................................68 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น.........................................................71 อ้างอิง..................................................................................................76 ค
แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง การวิเคราะหค์ ณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ เรื่อง กาพยพ์ ระไชยสรุ ิยา คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบทถี่ กู ต้องเพยี งคำตอบเดยี ว 1. ข้อใดไม่ใช่กาพย์ที่ปรากฏในเรื่องกาพย์ 6. “ พิณณพาทยร์ ะนาดฆอ้ ง พระไชยสรุ ยิ า ตะโพนกลองร้องเป็นเพลง ระฆงั ดังวังเวง ก ) ยานี 11 ข ) ฉบัง 16 โหง่งหง่างเหงง่ เก่งก่างดัง ” ค ) อินทรวิเชยี ร 11 ง ) สรุ างคนางค์ 28 2. “ พระไชยสรุ ยิ าภมู ี พาพระมเหสี บทประพันธ์ในขอ้ ใดใชล้ ักษณะคำประพนั ธ์ต่างจาก มาที่ในลำสำเภา ” บทประพนั ธข์ า้ งตน้ จากบทประพันธ์ข้างตน้ ใช้กาพย์ชนิดใด ก ) ลางนางอาบนำ้ ท่า ทาขมนิ้ เหลืองพึงชม ก ) ยานี 11 ข ) ฉบัง 16 ทาแป้งแกลง้ หวีผม ผดั หนา้ นวลยวนใจชาย ค ) อนิ ทรวเิ ชียร 11 ง ) สรุ างคนางค์ 28 ข ) เรือครุฑยดุ นาคหิว้ ลวิ่ ลอยมาพาผนั ผยอง 3. “ พาราสาวะถี ใครไมม่ ีปรานใี คร พลพายกรายพายทอง รอ้ งโห่เหโ่ อ้เห่มา ดดุ อ้ื ถือแต่ใจ ทีใ่ ครได้ใส่เอาพอ” ค ) มาถงึ บางธรณีทวีโศก ยามวโิ ยคยากใจให้สะอืน้ โอ้สุธาหนาแน่นเป็นแผ่นพน้ื ถงึ สหี่ มื่นสองแสนทัง้ แดนไตร จากบทประพนั ธข์ า้ งต้น ใช้กาพย์ชนิดใด ง ) ยำใหญ่ใสส่ ารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา ก ) ยานี 11 ข ) ฉบัง 16 รสดีดว้ ยน้ำปลา ญปี่ นุ่ ลำ้ ยำ้ ยวนใจ ค ) อินทรวิเชยี ร 11 ง ) สุรางคนางค์ 28 7. ขอ้ ใดมีการเลน่ เสียงสัมผสั พยัญชนะมากท่สี ุด 4. “ วันนั้นจันทร ก ) ไกรกร่างยางยูงสงู ระหง ข ) ตลงิ ปลิงปริงประยงค์ มีดารากร เป็นบริวาร ค ) มริ ู้สน้ิ กล่นิ มาลี ง ) ฟังเสยี งเพยี งเพลง เห็นสนิ้ ดินฟา้ ในป่าท่าธาร 8. “ ข้ึนกงจงจำสำคัญ ทงั้ กนปนกนั มาลีคล่ีบาน ใบก้านอรชร” รำพันมิ่งไม้ในดง ” จากบทประพนั ธข์ ้างต้น ใชก้ าพย์ชนดิ ใด จากบทประพันธข์ า้ งตน้ มีสมั ผัสพยญั ชนะกค่ี ู่ ก ) ยานี 11 ข ) ฉบัง 16 ก ) 1 คู่ ข ) 2 คู่ ค ) อนิ ทรวเิ ชยี ร 11 ง ) สรุ างคนางค์ 28 ค ) 3 คู่ ง ) 5 คู่ 5. ข้อใดไมถ่ ูกต้อง 9. ขอ้ ใดไม่ใช่สมั ผสั พยัญชนะ ก ) กาพย์ยานี บทหนง่ึ มี 4 บาท ก.) พา - พน ข.) ซอ้ น - แสง ข ) กาพยย์ านี วรรคหน้ามี 5 คำ วรรคหลงั 6 คำ ค.) ธร - ธาร ง.) ค่าง – คราง ค ) กาพย์สุรางคนางค์ มีวรรคละ 4 คำ จำนวน 7 วรรค ง ) กาพย์ฉบัง คำสุดท้ายของวรรคที่ 1 สัมผัสกับ คำสดุ ท้ายของวรรคที่ 2 1
10. “ ภธู รนอนเนินเขา 16. “ ชวนชนื่ กลนื กล้ำกล่ิน ” เคียงคลงึ เคลา้ เยาวมาลย์ ตกยากจากศฤงคาร คำวา่ “ชื่น - กลืน” เป็นการเลน่ เสยี งสมั ผัสใด สงสารน้องหมองพกั ตรา” ก ) สมั ผัสพยญั ชนะ ข ) สมั ผสั วรรณยุกต์ จากคำประพันธข์ ้างตน้ มสี ัมผัสพยัญชนะกี่คู่ ค ) สมั ผสั สระ ง ) สัมผสั นอก ก ) 1 คู่ ข ) 2 คู่ ค ) 3 คู่ ง ) 5 คู่ 17. ขอ้ ใดไมใ่ ช่สัมผสั สระ 11. “ มีไมไ้ ทรใหญ่ใบหนา เขา้ ไปไสยา ก ) ภพ - จบ ข.) เพ็ง - เห็น - เลง็ เวลาพอค่ำรำไร” ค ) ปลิง - ปริง ง.) ค่าง – คราง 18. ข้อใดมสี ัมผัสสระมากที่สดุ ก ) ขา้ เฝ้าเหล่าเสนา ข ) ผทู้ ่ีมฝี มี อื จากคำประพันธข์ ้างตน้ มสี มั ผสั พยญั ชนะกค่ี ู่ ค ) ภูธรนอนเนนิ เขา ง ) ตกยากจากศฤงคาร ก ) 1 คู่ ข ) 2 คู่ ค ) 3 คู่ ง ) 5 คู่ 19. “ หนั หวดปวดแสบแปลบเสียว หยกิ ซำ้ ช้ำเขียว 12. “ ลงิ ค่างครางโครกครอก ” อย่าเทยี่ วเล่นหลงจงจำ ” จากบทประพนั ธ์ท่ีกำหนดให้มีการเลน่ เสียงแบบใด ก ) สมั ผสั สระ ข ) สัมผสั พยัญชนะและสระ ข้อใดมีจำนวนคู่สัมผัสพยัญชนะต่างจากบทประพันธ์ ค ) สัมผสั พยญั ชนะ ง ) สมั ผสั สระและตวั สะกด ข้างต้น ก ) เพื่อนทกุ ข์สุขโศกเศรา้ 20. “ ครูคอื ผชู้ ้นี ำทางความคิด ” ข ) อา้ ปากรอ้ งซ้องแซ่เสียง ค ) สรา่ งโศกเศร้าเจา้ พอี่ า คำใดทเี่ ปน็ คำแสดงถงึ ว่าเปน็ ภาพพจน์ “อุปลักษณ์” ง ) ภธู รนอนเนนิ เขา ก ) คือ ข ) ผู้ 13. “ กะลงิ กะลางนางนวลนอนเรียง ค ) ครู ง ) ความคิด 21. “ ดูนำ้ วง่ิ กล้ิงเชี่ยวเปน็ เกลยี วกลอก พญาลอคลอเคยี ง แอ่นเอย้ี งอีโก้งโทงเทง ” กลับกระฉอกฉาดฉดั ฉวดั เฉวียน ” คำใดทีเ่ ปน็ คำแสดงถึงวา่ เปน็ ภาพพจน์ “สัทพจน”์ จากบทประพนั ธข์ า้ งตน้ ข้อใดไมใ่ ช่สมั ผสั พยญั ชนะ ก ) กระฉอก ข ) ฉาดฉัด ก.) นาง - นวล - นอน ข.) โทง - เทง ค ) เกลียวกลอก ง ) เฉวยี น ค.) คลอ - เคียง ง.) แอน่ - เอี้ยง – อี 22.ข้อใดมกี ารใช้ภาพพจนอ์ ปุ ลกั ษณ์ 14. ขอ้ ใดไม่มีสมั ผัสพยัญชนะ ก ) กลางคืนคอยเป็นควนั ก ) ว่าโงเ่ ง่าเตา่ ปปู ลา คร้ันกลางวันกเ็ ป็นไฟไปทกุ อย่าง ข ) ใครเอาขา้ วปลามา ร่างกายถูกผูกพ้นสรรพางค์ ค ) ไกรกรา่ งยางยงู สูงระหง เป็นส่ือกลางแก่ใจรับใชก้ าร ง ) มะม่วงพลวงพลองช้องนาง ข ) อยูม่ าหมู่ขา้ เฝา้ ก็หาเยาวนารี 15. ข้อใดมีสมั ผัสพยัญชนะมากทีส่ ุด ที่หนา้ ตาดดี ี ทำมโหรที ่เี คหา ก ) ว่าโงเ่ งา่ เตา่ ปูปลา ค ) วันน้ันจันทร มีดารากร เป็นบริวาร ข ) ใครเอาขา้ วปลามา เห็นสนิ้ ดนิ ฟา้ ในป่าทา่ ธาร มาลคี ล่บี าน ใบก้านอรชร ค ) แดนดินถิน่ มนษุ ย์ ง ) เหน็ กวางย่างเยื้องชำเลอื งเดนิ เหมือนอย่างนางเชิญ ง ) มะม่วงพลวงพลองช้องนาง พระแสงสำอางขา้ งเคยี ง 2
23. “ จากมามาลิ่วล้ำ ลำบาง 28. ข้อใดใชภ้ าพพจนม์ ากกวา่ หน่ึงชนดิ บางยีเ่ รือราพลาง พี่พร้อง เรอื แผงช่วยพานาง เมียงม่าน มานา ก ) ลิงค่างครางโครกครอก ฝงู จง้ิ จอกออกเหา่ หอน นางบ่รับคำคล้อง คล่าวน้ำตาคลอ” ชะนีวิเวกวอน นกหกรอนนอนรงั เรียง ข ) กลางไพรไก่ขันบรรเลง ฟงั เสยี งเพยี งเพลง ซอเจง้ จำเรียงเวียงวัง จากบทประพนั ธข์ า้ งต้น มกี ารใชภ้ าพพจนใ์ ด ค ) ค้อนทองเสยี งร้องปอ๋ งเป๋ง เพลินฟงั วังเวง ก ) อุปมา ข ) สทั พจน์ อีเก้งเริงรอ้ งลองเชิง ค ) นามนยั ง ) บคุ คลวัต ง ) ยงู ทองร้องกะโตง้ โห่งดัง เพียงฆอ้ งกลองระฆัง 24. ขอ้ ใดมกี ารใช้ภาพพจน์อุปมา แตรสงั ขก์ ังสดาลขานเสยี ง ก ) ขึ้นกงจงจำสำคญั ท้ังกนปนกนั 29. ขอ้ ใดไม่มีการใชภ้ าพพจน์ รำพันมิ่งไมใ้ นดง ก ) รอนรอนอ่อนอสั ดง ข ) อยู่มาหมู่ขา้ เฝา้ กห็ าเยาวนารี พระสรุ ยิ งเยน็ ยอแสง ที่หน้าตาดีดี ทำมโหรที ี่เคหา ช่วงดังน้ำครัง่ แดง ค ) วนั นน้ั จันทร มดี ารากร เป็นบรวิ าร แฝงเมฆเขาเงาเมรธุ ร เห็นส้นิ ดนิ ฟา้ ในป่าท่าธาร มาลคี ลีบ่ าน ใบกา้ นอรชร ข ) เห็นกวางยา่ งเยอ้ื งชำเลอื งเดิน ง ) เหน็ กวางยา่ งเยอื้ งชำเลอื งเดนิ เหมือนอย่างนางเชญิ เหมอื นอยา่ งนางเชิญ พระแสงสำอางข้างเคียง พระแสงสำอางขา้ งเคยี ง 25.ขอ้ ใดใชภ้ าพพจน์ต่างจากข้ออ่ืน ค ) ลงิ คา่ งครางโครกครอก ก ) รอนรอนออ่ นอัสดง พระสรุ ยิ งเย็นยอแสง ฝูงจ้ิงจอกออกเห่าหอน ชว่ งดงั น้ำคร่งั แดง แฝงเมฆเขาเงาเมรธุ ร ชะนีวเิ วกวอน ข ) กลางไพรไกข่ นั บรรเลง ฟังเสียงเพยี งเพลง นกหกรอนนอนรงั เรียง ซอเจง้ จำเรยี งเวยี งวงั ง ) ผีป่ามากระทำ ค ) คอ้ นทองเสียงร้องป๋องเป๋ง เพลนิ ฟังวังเวง มรณกรรมชาวบรุ ี อีเกง้ เรงิ รอ้ งลองเชิง นำ้ ปา่ เข้าธานี ง ) เห็นกวางย่างเย้ืองชำเลอื งเดิน เหมือนอยา่ งนางเชิญ ก็ไม่มที อี่ าศัย พระแสงสำอางขา้ งเคยี ง 30. “ พระองคโ์ อภาสเพ้ยี ง ศศธิ ร 26. ข้อใดมีการใชภ้ าพพจนอ์ ปุ มา เสดจ็ ดุจเดือนเขจร แจม่ ฟ้า” ก ) ลิงคา่ งครางโครกครอก จากบทประพันธข์ ้างตน้ มีการใช้ภาพพจนใ์ ด ข ) ฟงั เสยี งเพียงเพลง ก ) อุปมา ข ) สทั พจน์ ค ) ค้อนทองเสยี งรอ้ งป๋องเปง๋ ค ) นามนัย ง ) บคุ คลวตั ง ) ยงู ทองรอ้ งกะโตง้ โห่งดัง 27. “ ยูงทองรอ้ งกะโตง้ โหง่ ดัง เพยี งฆ้องกลองระฆงั แตรสงั ขก์ ังสดาลขานเสยี ง ” รวม จากบทประพนั ธ์ข้างตน้ มกี ารใช้ภาพพจน์ใด 30 ก ) อปุ มา , สทั พจน์ ข ) สัทพจน์ , อปุ ลกั ษณ์ ค ) นามนัย , อุปลกั ษณ์ ง ) บคุ คลวัต , สัญลกั ษณ์ 3
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรื่อง การวิเคราะหค์ ณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ เร่ือง กาพยพ์ ระไชยสรุ ิยา 1. ค) อนิ ทรวเิ ชียร 11 16. ค) สมั ผัสสระ 2. ข) ฉบัง 16 17. ข) เพ็ง - เห็น - เล็ง 3. ก) ยานี 11 18. ข) ผูท้ ม่ี ฝี ีมือ 4. ง) สุรางคนางค์ 28 19. ข) สมั ผัสพยัญชนะและสระ 5. ก) กาพยย์ านี 11 บทหนง่ึ มี 4 บาท 20. ก) คอื 6. ค) มาถงึ บางธรณที วโี ศก 21. ข) ฉาดฉัด 22. ก) กลางคนื คอยเป็นควัน ยามวิโยกยากใจให้สะอน้ื โอส้ ุธาหนาแน่นเปน็ แผ่นพืน้ คร้นั กลางวันก็เปน็ ไฟไปทกุ อยา่ ง ถึงสห่ี มน่ื สองแสนทงั้ แดนไตร ร่างกายถูกผูกพน้ สรรพางค์ 7. ก) ไกรกร่างยางยงู สงู ระหง เป็นส่อื กลางแกใ่ จรบั ใช้การ 8. ค) 3 คู่ 23. ง) บคุ คลวัต 9. ง) ค่าง - คราง 24. ง) เห็นกวางย่างเยื้องชำเลอื งเดิน 10. ค) 3 คู่ เหมอื นอยา่ งนางเชิญ 11. ข) 2 คู่ พระแสงสำอางข้างเคียง 12. ง) ภธู รนอนเนินเขา 25. ค) คอ้ นทองเสยี งร้องปอ๋ งเปง๋ 13. ค) คลอ - เคยี ง เพลนิ ฟงั วงั เวง 14. ข) ใครเอาข้าวปลามา อีเก้งเริงรอ้ งลองเชงิ 15. ง) มะมว่ งพลวงพลองชอ้ งนาง 26. ข) ฟงั เสียงเพียงเพลง 27. ก) อปุ มา , สทั พจน์ 28. ง) ยูงทองรอ้ งกะโตง้ โห่งดงั เพียงฆ้องกลองระฆงั แตรสงั ข์กงั สดาลขานเสยี ง 29. ง) ผีป่ามากระทำ มรณกรรมชาวบรุ ี นำ้ ป่าเขา้ ธานี ก็ไมม่ ีทอ่ี าศัย 30. ก ) อปุ มา 4
บทที่ 1 ฉนั ทลกั ษณใ์ นกำพยพ์ ระไชยสรุ ยิ ำ 5
}บทท่ี 1 ฉนั ทลกั ษณก์ ำพยพ์ ระไชยสรุ ยิ ำ ความหมายของฉันทลกั ษณ์ ฉันทลักษณ์ คือ วิธีร้อยกรองถ้อยคำหรือเรียบเรียงถ้อยคำให้เป็นระเบียบตาม ลักษณะบังคับและบัญญัติที่นกั ปราชญไ์ ด้วางเปน็ แบบไว้ ถ้อยคำทีร่ ้อยกรองขึ้นตาม ลกั ษณะบญั ญัตแิ หง่ ฉันทลกั ษณ์ เรียกวา่ คำประพนั ธ์ (กำชยั ทองหลอ่ , 2519 : 539) กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ า แตง่ ดว้ ยคำประพันธ์ประเภท กาพย์ ประกอบด้วย กาพยย์ านี 11 กาพยฉ์ บงั 16 และ กาพยส์ รุ างคนางค์ 28 กาพยย์ านี 11 ผังฉนั ทลกั ษณก์ าพยย์ านี 11 1 บท 6
กาพยย์ านี 11 บทหนึ่งมี 2 บาท คือ บาทเอก และบาทโท - บาทหน่งึ มี 2 วรรค วรรคหนา้ มี 5 คำ วรรคหลงั มี 6 คำ รวมบาทละ 11 คำ - บังคับสัมผัสระหว่างวรรค คือ คำสุดทา้ ยของวรรคที่ 1 สง่ สัมผัสไปยังคำทส่ี ามของวรรคที่ 2 และคำสุดทา้ ยของวรรคท่ี 2 ส่งสมั ผัสไปยงั คำสดุ ท้ายของวรรคท่ี 3 - ถา้ แต่งมากกวา่ 1 บทขึน้ ไป คำสุดทา้ ยของบทหน้า (วรรคท่ี 4) สง่ สมั ผสั สระไปยงั คำสุดทา้ ย ของวรรคที่ 2 ของบทตอ่ ไป ตวั อยา่ ง สะธสุ ะจะขอไหว้ พระศรไี ตรสรณา พอ่ แม่แลครบู า เทวดาในราศี เข้ามาต่อ ก กา มี ขา้ เจา้ เอา ก ข ดีมิดีอย่าตรีชา แกไขในเท่านี้ (กาพย์พระไชยสุริยา) กาพยฉ์ บงั 16 ผงั ฉนั ทลักษณก์ าพย์ฉบงั 16 1 บท } 7
กาพยฉ์ บัง 16 บทหน่ึงประกอบดว้ ย คำทั้งหมดรวม 16 คำ แบ่งออกเปน็ 3 วรรค โดยมีจำนวนคำ ดังนี้ วรรคที่ 1 มี 6 คำ วรรคท่ี 2 มี 4 คำ และวรรคที่ 3 มี 6 คำ - กำหนดบงั คับเพยี งคเู่ ดยี ว คือ คำสดุ ท้ายของวรรคแรก ส่งสมั ผัสไปยงั คำสดุ ทา้ ยของวรรคที่ 2 - ถ้าแต่งมากกว่า 1 บทขึ้นไป คำสุดท้ายของวรรคที่ 3 ส่งสัมผัสสระไปยังคำสุดท้าย ของวรรคแรกในบทต่อไป ตวั อยา่ ง พระไชยสุรยิ าภูมี พาพระมเหสี มาทใ่ี นลำสำเภา นารที ี่เยาว์ ขา้ วปลาหาไปไมเ่ บา (กาพยพ์ ระไชยสุริยา) กเ็ อาไปในเภตรา กาพยส์ รุ างคนางค์ 28 ผงั ฉนั ทลักษณก์ าพย์สรุ างคนางค์ 28 8
กาพยส์ ุรางคนางค์ 28 บทหน่งึ ประกอบดว้ ยคำทั้งหมด 7 วรรค วรรคละ 4 คำ รวม 28 คำ - สัมผสั บงั คบั ในกาพยส์ รุ างคนางค์ เปน็ สัมผัสสละกำหนดไวเ้ ดิม 3 คู่ ดังน้ี คำที่ 4 ของวรรคท่ี 1 ส่งสมั ผสั ไปยังคำท่ี 4 ของวรรคที่ 2 คำท่ี 4 ของวรรคท่ี 3 ส่งสมั ผัสไปยงั คำที่ 4 ของวรรคที่ 5 คำที่ 4 ของวรรคที่ 5 ส่งสมั ผสั ไปยงั คำที่ 4 ของวรรคที่ 6 - ถ้าแต่งต่อกนั หลายบทกำหนดสัมผัสระหว่างบทดังนี้ คำสุดทา้ ยของบทหนา้ ส่งสัมผัสไปยังคำ ท่ี 4 ของวรรคที่ 3 ในบทตอ่ ไป ตวั อยา่ ง ขึน้ ใหมใ่ นกน ก กาวา่ ปน ระคนกนั ไป เอ็นดูภธู ร มานอนในไพร มณฑลตน้ ไทร แทนไพชยนตส์ ถาน ส่วนสมุ าลี วนั ทาสามี เทวอี ย่งู าน เฝา้ อยู่ดแู ล เหมือนแต่กอ่ นกาล ใหพ้ ระภูบาล สำราญวญิ ญา (กาพย์พระไชยสรุ ิยา) 9
แบบฝึ กหดั 1 ฉนั ทลกั ษณก์ ำพยพ์ ระไชยสรุ ยิ ำ ตอนท่ี 1 5 คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นโยงสัมผัสบงั คบั ใหถ้ กู ตอ้ งตามฉนั ทลักษณ์ กาพย์ยานี 11 กาพยฉ์ บัง 16 10
กาพย์สรุ างคนางค์ 28 ตอนท่ี 2 5 คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนเตมิ บทประพันธใ์ หส้ มบรู ณ์ 1 ระคนกนั ไป มานอนในไพร ขนึ้ พนั เมรไุ กร เยน็ คำ่ รำ่ วา่ เป็นบริวาร วนั ทาสามี เหมือนแต่กอ่ นกาล พระชวนนวลนอน ปู่เจา้ เขาเขิน กันป่าภัยพาล ` ขน้ึ ใหมใ่ นกน ก กา ว่าปน ______________ เอ็นดูภูธร _____________ มณฑลตน้ ไทร แทนไพชยนตส์ ถาน ส่วนสมุ าลี _____________ เทวอี ยู่งาน เฝ้าอย่ดู ูแล _____________ ใหพ้ ระภูบาล สำราญวิญญา _____________ เข็ญในไม้ขอน เหมอื นหมอนแมน่ า ภธู รสอนมนต์ ให้บน่ ภาวนา _____________ กันป่าภยั พาล บทประพันธข์ า้ งต้นเปน็ บทประพนั ธ์ประเภท______________________________________ 11
2 เหมือนอยา่ งนางเชิญ ตลงิ ปลงิ ปรงิ ประยงค์ เริงร้องกอ้ งเสยี ง กลางไพรไก่ขนั บรรเลง มะม่วงพลวงพลองชอ้ งนาง เพลินฟงั วังเวง ค้อนทองเสยี งรอ้ งปอ๋ งเป๋ง แตรสังข์กังสดาลขานเสียง บาปกรรมนำตน ท้งั กงจงจำสำคัญ ทัง้ กนปนกนั รำพันมง่ิ ไมใ้ นดง ___________________ หล่นเกลอ่ื นเถ่อื นทาง ไกรกร่างยางยูงสูงระหง ___________________ คนั ทรงสง่ กลิ่นฝน่ิ ฝาง ___________________ ฟงั เสียงเพียงเพลง ____________________ เพยี งฆอ้ งกลองระฆัง กินพลางเดนิ พลางหวา่ งเนิน พญาลอคลอเคลียง เห็นกวางยา่ งเย้อื งชำเลืองเดนิ พระแสงสำอางข้างเคียง เขาสูงฝูงหงสล์ งเรียง สำเนยี งนา่ ฟงั วงั เวง _____________________ ซอเจ้งจำเรยี งเวียงวัง ยงู ทองรอ้ งกะโตง้ โห่งดัง ______________________ กะลิงกะลางนางนวลนอนเรียง แอนเอยี งอโี กง้ โทงเทง บทประพนั ธข์ ้างตน้ เป็นบทประพันธ์ประเภท______________________________________ 12
3 เจ้าพาราสาวะถี พ่อแมแ่ ลครบู า ชอื่ พระไชยสรุ ิยา ก็หาเยาวนารี ธรณีมีราชา ชอื่ ว่าสุมาลี ดีมิดีอยา่ ตรีชา มีกิริยาอชั ฌาศยั เข้าแตห่ อล่อกามา กไ็ มม่ ีทีอ่ าศยั ` สาธุสะจะขอไหว้ พระศรีไตรสรณา ______________________ เทวดาในราศี เข้ามาตอ่ ก กา มี ขา้ เจา้ เอา ก ข _____________________ แก้ไขในเทา่ น้ี พอล่อใจกมุ ารา จะร่ำคำตอ่ ไป เจ้าภาราสาวะถี ธรณีมีราชา มีสุดามเหสี อยบู่ รู ไี มม่ ภี ยั ชือ่ พระไชยสรุ ยิ า _____________________ _______________________ ได้อาศยั ในภารา ชาวบูรีกป็ รีดา ขา้ เฝ้าเหล่าเสนา ได้ขา้ วปลาแลสาลี พอ่ คา้ มาแตไ่ กล _____________________ ทำมโหรที เ่ี คหา ไพรฟ่ า้ ประชาชี _____________________ ทำไรเ่ ขาไถนา โลโภพาให้บ้าใจ อยู่มาหมูข่ ้าเฝ้า ท่ีหนา้ ตาดดี ี ค่ำเชา้ เฝ้าสีซอ หาได้ให้ภริยา บทประพนั ธข์ ้างตน้ เป็นบทประพันธป์ ระเภท______________________________________ 13
ตอนที่ 3 5 คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นระบุลกั ษณะคำประพนั ธใ์ หถ้ กู ตอ้ ง กาพย์ยานี 11 กาพย์สุรางคนางค์ 28 กาพย์ฉบงั 16 1. ค้อนทองเสียงรอ้ งปอ๋ งเปง๋ เพลนิ ฟังวังเวง อเี ก้งเรงิ รอ้ งลองเชิง บทประพนั ธข์ ้างตน้ เป็นบทประพนั ธ์ประเภท______________________________ 2. แดนดินถนิ่ มนุษย์ เสียงดงั ดจุ เพลิงโพลง ตึกกว้านบ้านเรือนโรง โคลงคลอนเคลื่อนเขยื้อนโยน บทประพันธข์ า้ งตน้ เปน็ บทประพนั ธป์ ระเภท______________________________ 3. จันทราคลาเคลอื่ น กระเวนไพรไก่เถอื่ น เตอื นเพ่อื นขานขนั ปเู่ จ้าเขาเขิน กูเ่ กรนิ่ หากนั สินธุพุลั่น ครั้งครนั่ หวน่ั ไหว บทประพนั ธข์ ้างต้นเปน็ บทประพันธ์ประเภท______________________________ 4. วันนน้ั ครนั้ ดนิ ไหวเกดิ เหตใุ หญ่ในปถพีเลง็ ดรู คู้ ดีกาลกณิ ีสีป่ ระการ บทประพนั ธข์ า้ งต้นเป็นบทประพนั ธป์ ระเภท______________________________ 5. เยน็ ฉ่ำน้ำฟา้ ช่ืนชะผกาวายพุ าขจรสารพนั จนั ทร์อนิ รน่ื กลนิ่ เกสรแตนตอ่ คลอรอ่ นว้าวอ่ น เวียนระวนั บทประพันธข์ า้ งตน้ เป็นบทประพนั ธ์ประเภท______________________________ 6. เบยี นเบียดเสยี ดส่อฉอ้ ฉลบาปกรรมนำตนไปทนทกุ ขน์ ับกัปกัลป์ บทประพันธข์ า้ งตน้ เปน็ บทประพันธป์ ระเภท______________________________ 14
7. รอนรอนอ่อนอัสดงพระสรุ ยิ งเย็นยอแสงช่วงดังน้ำครงั่ แดงแฝงเมฆเขาเงาเมรธุ ร บทประพนั ธข์ ้างต้นเปน็ บทประพันธ์ประเภท______________________________ 8. โลภลาภบาปบคดิ โจทก์จบั ผดิ รษิ ยาอุระพสุธาปว่ นเปน็ บ้าฟา้ บดบงั บทประพันธข์ ้างต้นเปน็ บทประพนั ธป์ ระเภท______________________________ 9. ซ่ือตรงหลงเล่ห์เสนกี ลอกกลบั อปั รยี บ์ รุ ีจงึ ล่มจมไป บทประพันธข์ ้างตน้ เปน็ บทประพนั ธ์ประเภท______________________________ 10. ระวังตัวกลัวครูหนูเอย๋ ไม้เรียวเจยี วเหวยกเู คยเขด็ หลาบขวาบเขวยี ว บทประพนั ธข์ า้ งต้นเปน็ บทประพนั ธ์ประเภท______________________________ ตอนที่ 4 5 คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นแตง่ กาพย์ยานี 11 ในหัวขอ้ “ เราทำความดดี ว้ ยหัวใจ ” จำนวน 2 บท พรอ้ มวาดภาพประกอบ ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… …………………………………..………………..………………………………… ……………………………………………………………………………………… ………………………………………………………..…………………..………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………....……… รวม 15 20
เฉลยแบบฝึ กหดั บทท่ี 1 - 4 44
แบบฝึ กหดั 1 ฉนั ทลกั ษณก์ ำพยพ์ ระไชยสรุ ยิ ำ ตอนท่ี 1 คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนโยงสมั ผัสบังคบั ให้ถกู ตอ้ งตามฉันทลกั ษณ์ กาพยย์ านี 11 กาพย์ฉบัง 16 45
กาพยส์ รุ างคนางค์ 28 ตอนท่ี 2 คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนเติมบทประพนั ธใ์ นสมบรู ณ์ ระคนกนั ไป มานอนในไพร ขึ้นพันเมรุไกร เยน็ คำ่ ร่ำว่า เปน็ บริวาร วนั ทาสามี เหมือนแต่กอ่ นกาล พระชวนนวลนอน ปูเ่ จ้าเขาเขนิ กนั ป่าภัยพาล ` ข้ึนใหมใ่ นกน ก กา ว่าปน ____ร_ะ_ค_น_ก_นั _ไ_ป___ เอ็นดภู ูธร __ม_าน_อ_น_ใ_น_ไ_พ_ร___ มณฑลตน้ ไทร แทนไพชยนต์สถาน ส่วนสุมาลี __ว_นั _ท_า_ส_า_ม_ี ____ เทวอี ยงู่ าน เฝา้ อย่ดู แู ล _เ_ห_ม_ือ_น_แ_ต_ก่ _่อน_ก_า_ล_ ใหพ้ ระภบู าล สำราญวญิ ญา __พ_ร_ะ_ช_ว_น_น_วล_น_อ_น_ เข็ญในไมข้ อน เหมือนหมอนแมน่ า ___เ_ย_น็ _ค_ำ่ _ร_่ำว_า่ ___ กันปา่ ภยั พาล ภธู รสอนมนต์ ให้บน่ ภาวนา บทประพนั ธข์ า้ งต้นเปน็ บทประพนั ธ์ประเภท____ก_า_พ__ย_์ส_รุ _า_ง_ค_น_า_ง_ค_์_2_8__________________ 46
2 เหมือนอยา่ งนางเชิญ ตลิงปลงิ ปรงิ ประยงค์ เรงิ ร้องกอ้ งเสยี ง กลางไพรไก่ขนั บรรเลง มะม่วงพลวงพลองช้องนาง เพลินฟังวงั เวง ค้อนทองเสยี งรอ้ งปอ๋ งเปง๋ แตรสังขก์ ังสดาลขานเสียง บาปกรรมนำตน ทั้งกงจงจำสำคัญ ท้ังกนปนกนั รำพนั มงิ่ ไมใ้ นดง __ต_ล_ิง_ป_ล_ิงป_ร_ิง_ป_ร_ะ_ย_งค_์ ____ หลน่ เกลอื่ นเถอ่ื นทาง ไกรกร่างยางยูงสงู ระหง __เ_ห_ม_ือ_น_อ_ย่า_ง_น_า_ง_เช_ญิ _____ คันทรงสง่ กลิน่ ฝนิ่ ฝาง ___เร_ิง_ร_อ้ _งก_้อ_ง_เ_ส_ยี _ง______ ฟังเสียงเพยี งเพลง __ม_ะ_ม_่วง_พ_ล_ว_ง_พ_ล_อ_งช_้อ_ง_น_า_ง__ เพียงฆอ้ งกลองระฆัง กินพลางเดินพลางหว่างเนิน พญาลอคลอเคลียง เห็นกวางยา่ งเยอื้ งชำเลอื งเดิน พระแสงสำอางขา้ งเคยี ง เขาสูงฝูงหงสล์ งเรียง สำเนยี งนา่ ฟงั วังเวง ____ก_ล_า_งไ_พ_ร_ไ_ก_่ขัน__บ_รร_เ_ล_ง___ ซอเจง้ จำเรยี งเวยี งวงั ยงู ทองรอ้ งกะโตง้ โห่งดงั ___แ_ต_ร_ส_งั _ข_์กงั_ส_ด_า_ล_ข_าน_เ_ส_ีย_ง___ กะลิงกะลางนางนวลนอนเรยี ง แอนเอียงอโี กง้ โทงเทง บทประพนั ธข์ ้างตน้ เปน็ บทประพนั ธป์ ระเภท____ก_า_พ_ย_์ฉ__บ_งั __16_________________________ 47
3 เจา้ พาราสาวะถี พอ่ แมแ่ ลครูบา ช่อื พระไชยสุริยา กห็ าเยาวนารี ธรณมี ีราชา ช่อื วา่ สมุ าลี ดมี ิดอี ย่าตรีชา มกี ิริยาอัชฌาศัย เข้าแตห่ อล่อกามา ก็ไมม่ ีท่อี าศัย ` สาธสุ ะจะขอไหว้ พระศรีไตรสรณา ___พ_่อ_แ_ม_่แ_ล_ค_รบู_า___________ เทวดาในราศี เข้ามาตอ่ ก กา มี ข้าเจา้ เอา ก ข ___ด_มี _ิด_อี _ย_่าต_ร_ชี _า__________ แกไ้ ขในเทา่ น้ี พอลอ่ ใจกุมารา เจ้าภาราสาวะถี จะรำ่ คำตอ่ ไป มีสุดามเหสี ธรณีมีราชา อย่บู รู ไี ม่มภี ยั ___ม_กี _ริ ิย_า_อ_ัช_ฌ_า_ศ_ัย_________ ชื่อพระไชยสุรยิ า ได้อาศยั ในภารา ____ช_ื่อ_ว่า_ส_มุ_า_ล_ี ____________ ชาวบรู กี ป็ รดี า ได้ขา้ วปลาแลสาลี ข้าเฝา้ เหล่าเสนา ___ก_็ห_าเ_ย_า_ว_น_าร_ี __________ พอ่ คา้ มาแต่ไกล ทำมโหรีทีเ่ คหา __เ_ข_้าแ_ต_่ห_อ_ล_่อ_ก_า_ม_า________ ไพรฟ่ า้ ประชาชี โลโภพาให้บ้าใจ ทำไร่เขาไถนา อยมู่ าหมู่ข้าเฝ้า ทีห่ น้าตาดดี ี ค่ำเชา้ เฝ้าสซี อ หาไดใ้ ห้ภริยา บทประพนั ธข์ ้างต้นเป็นบทประพันธป์ ระเภท___ก_า_พ__ย_ย์ _า_น_ี_1_1_________________________ 48
ตอนท่ี 3 คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนระบุลกั ษณะคำประพนั ธ์ใหถ้ ูกต้อง กาพยส์ ุรางคนางค์ 28 กาพยฉ์ บงั 16 กาพยย์ านี 11 1. คอ้ นทองเสียงร้องปอ๋ งเปง๋ เพลินฟังวงั เวง อีเกง้ เริงร้องลองเชงิ บทประพนั ธข์ า้ งตน้ เปน็ บทประพนั ธ์ประเภท___ก_า_พ_ย_์ฉ_บ_งั _1_6___________________ 2. แดนดินถิน่ มนุษย์ เสยี งดังดจุ เพลงิ โพลง ตึกกว้านบา้ นเรือนโรง โคลงคลอนเคลื่อนเขยื้อนโยน บทประพนั ธข์ า้ งตน้ เปน็ บทประพนั ธ์ประเภท___ก_า_พ_ย_ย์ _า_น_ี 1_1___________________ 3. จนั ทราคลาเคลอื่ น กระเวนไพรไก่เถอ่ื น เตือนเพ่ือนขานขนั ปเู่ จา้ เขาเขิน กู่เกรนิ่ หากนั สินธุพลุ ัน่ คร้ังครัน่ หวน่ั ไหว บทประพนั ธข์ ้างตน้ เป็นบทประพันธป์ ระเภท___ก_า_พ_ย_์ส_ุร_าง_ค_น_า_ง_ค_์ 2_8______________ 4. วันน้นั ครนั้ ดินไหวเกิดเหตใุ หญ่ในปถพีเลง็ ดรู คู้ ดีกาลกิณีส่ีประการ บทประพันธข์ า้ งตน้ เป็นบทประพันธ์ประเภท___ก_า_พ_ย_ย์ _า_น_ี 1_1___________________ 5. เยน็ ฉ่ำน้ำฟา้ ช่นื ชะผกาวายพุ าขจรสารพนั จนั ทรอ์ ินรนื่ กล่ินเกสรแตนต่อคลอรอ่ นวา้ วอ่ น เวยี นระวัน บทประพนั ธข์ า้ งตน้ เปน็ บทประพนั ธ์ประเภท___ก_า_พ_ย_์ส_ุร_าง_ค_น_า_ง_ค_์ 2_8______________ 6. เบียนเบียดเสยี ดส่อฉอ้ ฉลบาปกรรมนำตนไปทนทกุ ขน์ ับกัปกลั ป์ บทประพนั ธข์ ้างต้นเปน็ บทประพนั ธ์ประเภท___ก_า_พ_ย_ฉ์ _บ_งั _1_6___________________ 49
7. รอนรอนอ่อนอัสดงพระสุริยงเย็นยอแสงชว่ งดงั นำ้ ครงั่ แดงแฝงเมฆเขาเงาเมรุธร บทประพนั ธข์ า้ งต้นเปน็ บทประพนั ธ์ประเภท___ก_า_พ_ย_ย์ _า_น_ี 1_1___________________ 8. โลภลาภบาปบคดิ โจทก์จบั ผิดรษิ ยาอรุ ะพสุธาป่วนเป็นบ้าฟ้าบดบงั บทประพันธข์ า้ งต้นเป็นบทประพันธป์ ระเภท___ก_า_พ_ย_ย์ _า_น_ี 1_1___________________ 9. ซือ่ ตรงหลงเลห่ เ์ สนกี ลอกกลบั อปั รยี บ์ ุรีจงึ ลม่ จมไป บทประพนั ธข์ ้างตน้ เป็นบทประพนั ธป์ ระเภท___ก_าพ__ยฉ์_บ_ัง__16____________________ 10. ระวังตัวกลัวครูหนูเอย๋ ไม้เรียวเจยี วเหวยกูเคยเขด็ หลาบขวาบเขวียว บทประพนั ธข์ ้างตน้ เปน็ บทประพันธป์ ระเภท___ก_า_พ_ย_์ฉ_บ_ัง_1_6___________________ ตอนที่ 4 คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นแตง่ กาพยย์ านี 11 ในหัวข้อ “ เราทำความดดี ้วยหัวใจ ” จำนวน 2 บท พร้อมวาดภาพประกอบ ………..……(พ…จิ า…รณ…า…ควา…มถ…กู ต…อ้ ง…ตา…มค…วา…มเ…หน็ …ขอ…งค…รูผ.ู้ส…อ…น)…………………………. …………………………………………….………………………………………… …………………………………..………………..………………………………… ……………………………………………………………………………………… ………………………………………………………..…………………..………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………....……… 50
แบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่อง การวิเคราะหค์ ณุ คา่ ดา้ นวรรณศิลป์ เรื่อง กาพยพ์ ระไชยสรุ ิยา คำช้ีแจง : ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกตอ้ งเพยี งคำตอบเดียว 1. ข้อใดไม่ใช่กาพย์ที่ปรากฏในเรื่ องกาพย์ 6. “ พิณณพาทยร์ ะนาดฆอ้ ง พระไชยสุริยา ตะโพนกลองร้องเป็นเพลง ระฆังดังวังเวง ก ) ยานี 11 ข ) ฉบัง 16 โหง่งหง่างเหงง่ เก่งก่างดัง ” ค ) อินทรวิเชียร 11 ง ) สรุ างคนางค์ 28 2. “ พระไชยสุรยิ าภมู ี พาพระมเหสี บทประพนั ธ์ในข้อใดใช้ลกั ษณะคำประพนั ธ์ตา่ งจาก มาท่ีในลำสำเภา ” บทประพนั ธข์ า้ งตน้ จากบทประพนั ธ์ขา้ งต้น ใชก้ าพย์ชนิดใด ก ) ลางนางอาบน้ำท่า ทาขมิ้นเหลืองพึงชม ก ) ยานี 11 ข ) ฉบงั 16 ทาแปง้ แกล้งหวีผม ผดั หน้านวลยวนใจชาย ค ) อนิ ทรวเิ ชยี ร 11 ง ) สุรางคนางค์ 28 ข ) เรือครุฑยดุ นาคห้วิ ล่ิวลอยมาพาผันผยอง 3. “ พาราสาวะถี ใครไม่มีปรานใี คร พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอเ้ ห่มา ดุดอ้ื ถอื แตใ่ จ ท่ใี ครได้ใสเ่ อาพอ” ค ) มาถึงบางธรณที วีโศก ยามวิโยคยากใจใหส้ ะอืน้ โอส้ ธุ าหนาแนน่ เปน็ แผ่นพืน้ ถงึ ส่หี ม่ืนสองแสนท้งั แดนไตร จากบทประพนั ธ์ข้างต้น ใชก้ าพย์ชนิดใด ง ) ยำใหญใ่ ส่สารพดั วางจานจัดหลายเหลือตรา ก ) ยานี 11 ข ) ฉบัง 16 รสดีดว้ ยน้ำปลา ญ่ีปุ่นลำ้ ย้ำยวนใจ ค ) อนิ ทรวเิ ชียร 11 ง ) สุรางคนางค์ 28 7. ขอ้ ใดมีการเลน่ เสยี งสมั ผสั พยัญชนะมากทีส่ ดุ 4. “ วนั นนั้ จันทร ก ) ไกรกร่างยางยูงสูงระหง ข ) ตลงิ ปลิงปริงประยงค์ มีดารากร เป็นบริวาร ค ) มริ ้สู ิน้ กลนิ่ มาลี ง ) ฟังเสยี งเพียงเพลง เห็นส้ินดนิ ฟ้า ในปา่ ทา่ ธาร 8. “ ขน้ึ กงจงจำสำคัญ ทั้งกนปนกนั มาลคี ลบ่ี าน ใบกา้ นอรชร” รำพันม่ิงไม้ในดง ” จากบทประพนั ธ์ข้างตน้ ใช้กาพย์ชนิดใด จากบทประพันธข์ ้างต้นมีสมั ผัสพยญั ชนะกี่คู่ ก ) ยานี 11 ข ) ฉบงั 16 ก ) 1 คู่ ข ) 2 คู่ ค ) อินทรวเิ ชียร 11 ง ) สรุ างคนางค์ 28 ค ) 3 คู่ ง ) 5 คู่ 5. ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ ง 9. ขอ้ ใดไม่ใช่สมั ผสั พยัญชนะ ก ) กาพยย์ านี บทหน่งึ มี 4 บาท ก.) พา - พน ข.) ซ้อน - แสง ข ) กาพยย์ านี วรรคหน้ามี 5 คำ วรรคหลัง 6 คำ ค.) ธร - ธาร ง.) คา่ ง – คราง ค ) กาพย์สุรางคนางค์ มีวรรคละ 4 คำ จำนวน 7 วรรค 67 ง ) กาพย์ฉบัง คำสุดท้ายของวรรคที่ 1 สัมผัสกับ คำสุดท้ายของวรรคที่ 2
10. “ ภธู รนอนเนินเขา 16. “ ชวนชน่ื กลนื กล้ำกลน่ิ ” เคียงคลงึ เคล้าเยาวมาลย์ ตกยากจากศฤงคาร คำว่า “ช่นื - กลนื ” เปน็ การเล่นเสียงสัมผสั ใด สงสารน้องหมองพักตรา” ก ) สมั ผัสพยัญชนะ ข ) สัมผัสวรรณยกุ ต์ จากคำประพนั ธข์ ้างตน้ มีสัมผัสพยัญชนะกค่ี ู่ ค ) สมั ผัสสระ ง ) สัมผัสนอก ก ) 1 คู่ ข ) 2 คู่ ค ) 3 คู่ ง ) 5 คู่ 17. ข้อใดไมใ่ ช่สมั ผัสสระ 11. “ มไี มไ้ ทรใหญ่ใบหนา เขา้ ไปไสยา ก ) ภพ - จบ ข.) เพ็ง - เหน็ - เล็ง เวลาพอคำ่ รำไร” ค ) ปลิง - ปริง ง.) ค่าง – คราง 18. ขอ้ ใดมีสมั ผสั สระมากที่สดุ ก ) ขา้ เฝา้ เหล่าเสนา ข ) ผู้ทม่ี ีฝีมอื จากคำประพนั ธ์ข้างต้นมีสัมผสั พยัญชนะกค่ี ู่ ค ) ภธู รนอนเนนิ เขา ง ) ตกยากจากศฤงคาร ก ) 1 คู่ ข ) 2 คู่ ค ) 3 คู่ ง ) 5 คู่ 19. “ หันหวดปวดแสบแปลบเสียว หยกิ ซ้ำชำ้ เขยี ว 12. “ ลงิ คา่ งครางโครกครอก ” อย่าเท่ยี วเลน่ หลงจงจำ ” จากบทประพนั ธ์ทก่ี ำหนดให้มกี ารเลน่ เสยี งแบบใด ก ) สัมผสั สระ ข ) สมั ผัสพยัญชนะและสระ ข้อใดมีจำนวนคู่สัมผัสพยัญชนะต่างจากบทประพันธ์ ค ) สัมผัสพยญั ชนะ ง ) สัมผสั สระและตัวสะกด ข้างต้น ก ) เพือ่ นทกุ ขส์ ุขโศกเศรา้ 20. “ ครคู ือผูช้ ี้นำทางความคิด ” ข ) อ้าปากรอ้ งซอ้ งแซ่เสยี ง ค ) สรา่ งโศกเศร้าเจ้าพอี่ า คำใดที่เปน็ คำแสดงถึงวา่ เปน็ ภาพพจน์ “อุปลกั ษณ์” ง ) ภูธรนอนเนินเขา ก ) คอื ข ) ผู้ 13. “ กะลิงกะลางนางนวลนอนเรยี ง ค ) ครู ง ) ความคดิ 21. “ ดูนำ้ วงิ่ กลง้ิ เชีย่ วเปน็ เกลียวกลอก พญาลอคลอเคยี ง แอน่ เอี้ยงอีโก้งโทงเทง ” กลับกระฉอกฉาดฉัดฉวัดเฉวียน ” คำใดที่เปน็ คำแสดงถงึ วา่ เป็น ภาพพจน์ “สัทพจน์” จากบทประพันธ์ข้างตน้ ข้อใดไม่ใช่สัมผัสพยญั ชนะ ก ) กระฉอก ข ) ฉาดฉัด ก.) นาง - นวล - นอน ข.) โทง - เทง ค ) เกลยี วกลอก ง ) เฉวยี น ค.) คลอ - เคยี ง ง.) แอ่น - เอย้ี ง – อี 22.ขอ้ ใดมีการใช้ภาพพจนอ์ ปุ ลกั ษณ์ 14. ข้อใดไม่มีสัมผสั พยัญชนะ ก ) กลางคนื คอยเปน็ ควัน ก ) ว่าโง่เง่าเตา่ ปปู ลา คร้นั กลางวันกเ็ ป็นไฟไปทกุ อย่าง ข ) ใครเอาข้าวปลามา รา่ งกายถกู ผูกพน้ สรรพางค์ ค ) ไกรกรา่ งยางยูงสงู ระหง เป็นสอื่ กลางแกใ่ จรับใช้การ ง ) มะมว่ งพลวงพลองช้องนาง ข ) อยมู่ าหมขู่ ้าเฝ้า กห็ าเยาวนารี 15. ข้อใดมสี มั ผสั พยญั ชนะมากทีส่ ดุ ท่หี น้าตาดดี ี ทำมโหรที เี่ คหา ก ) ว่าโง่เงา่ เตา่ ปูปลา ค ) วนั น้นั จนั ทร มีดารากร เป็นบรวิ าร ข ) ใครเอาข้าวปลามา เห็นสิ้นดนิ ฟา้ ในป่าทา่ ธาร มาลีคลบี่ าน ใบกา้ นอรชร ค ) แดนดนิ ถ่นิ มนุษย์ ง ) เหน็ กวางยา่ งเย้อื งชำเลอื งเดิน เหมือนอย่างนางเชิญ 68 ง ) มะม่วงพลวงพลองช้องนาง พระแสงสำอางข้างเคียง
23. “ จากมามาลิ่วล้ำ ลำบาง 28. ข้อใดใช้ภาพพจนม์ ากกว่าหนึง่ ชนิด บางยี่เรือราพลาง พ่พี ร้อง เรือแผงช่วยพานาง เมียงม่าน มานา ก ) ลงิ คา่ งครางโครกครอก ฝูงจง้ิ จอกออกเห่าหอน นางบ่รับคำคลอ้ ง คล่าวนำ้ ตาคลอ” ชะนีวเิ วกวอน นกหกรอนนอนรังเรียง ข ) กลางไพรไก่ขนั บรรเลง ฟังเสยี งเพยี งเพลง ซอเจ้งจำเรยี งเวียงวัง จากบทประพนั ธข์ า้ งต้น มีการใชภ้ าพพจน์ใด ค ) คอ้ นทองเสยี งรอ้ งป๋องเป๋ง เพลินฟงั วงั เวง ก ) อุปมา ข ) สัทพจน์ อีเกง้ เรงิ รอ้ งลองเชิง ค ) นามนัย ง ) บุคคลวตั ง ) ยงู ทองรอ้ งกะโตง้ โห่งดงั เพียงฆอ้ งกลองระฆัง 24. ข้อใดมีการใช้ภาพพจน์อุปมา แตรสังขก์ งั สดาลขานเสียง ก ) ขนึ้ กงจงจำสำคัญ ทั้งกนปนกัน 29. ขอ้ ใดไมม่ ีการใช้ภาพพจน์ รำพันมงิ่ ไม้ในดง ก ) รอนรอนอ่อนอัสดง ข ) อยู่มาหมขู่ า้ เฝา้ กห็ าเยาวนารี พระสรุ ยิ งเย็นยอแสง ที่หน้าตาดีดี ทำมโหรที ่เี คหา ช่วงดงั นำ้ ครั่งแดง ค ) วันนัน้ จนั ทร มีดารากร เปน็ บริวาร แฝงเมฆเขาเงาเมรธุ ร เห็นส้ินดินฟา้ ในปา่ ท่าธาร มาลคี ลีบ่ าน ใบกา้ นอรชร ข ) เห็นกวางย่างเยื้องชำเลอื งเดิน ง ) เหน็ กวางยา่ งเยือ้ งชำเลอื งเดนิ เหมอื นอยา่ งนางเชญิ เหมือนอย่างนางเชญิ พระแสงสำอางข้างเคียง พระแสงสำอางข้างเคยี ง 25.ข้อใดใช้ภาพพจน์ตา่ งจากข้ออื่น ค ) ลงิ ค่างครางโครกครอก ก ) รอนรอนอ่อนอัสดง พระสุริยงเยน็ ยอแสง ฝูงจ้งิ จอกออกเห่าหอน ชว่ งดังน้ำครัง่ แดง แฝงเมฆเขาเงาเมรุธร ชะนวี เิ วกวอน ข ) กลางไพรไกข่ ันบรรเลง ฟงั เสยี งเพยี งเพลง นกหกรอนนอนรังเรียง ซอเจง้ จำเรยี งเวยี งวงั ง ) ผปี า่ มากระทำ ค ) คอ้ นทองเสยี งร้องปอ๋ งเปง๋ เพลินฟังวงั เวง มรณกรรมชาวบุรี อีเกง้ เริงร้องลองเชิง นำ้ ปา่ เขา้ ธานี ง ) เห็นกวางยา่ งเยอื้ งชำเลืองเดิน เหมอื นอย่างนางเชิญ กไ็ มม่ ีทอ่ี าศัย พระแสงสำอางข้างเคยี ง 30. “ พระองคโ์ อภาสเพีย้ ง ศศิธร 26. ขอ้ ใดมกี ารใชภ้ าพพจนอ์ ปุ มา เสด็จดจุ เดือนเขจร แจม่ ฟา้ ” ก ) ลงิ ค่างครางโครกครอก จากบทประพันธข์ ้างตน้ มกี ารใชภ้ าพพจนใ์ ด ข ) ฟงั เสยี งเพยี งเพลง ก ) อปุ มา ข ) สทั พจน์ ค ) คอ้ นทองเสียงรอ้ งปอ๋ งเปง๋ ค ) นามนัย ง ) บุคคลวตั ง ) ยูงทองร้องกะโต้งโห่งดัง 27. “ ยูงทองรอ้ งกะโตง้ โหง่ ดงั เพียงฆอ้ งกลองระฆัง แตรสงั ขก์ ังสดาลขานเสียง ” รวม จากบทประพนั ธข์ ้างต้น มกี ารใช้ภาพพจนใ์ ด 30 69 ก ) อปุ มา , สทั พจน์ ข ) สัทพจน์ , อปุ ลักษณ์ ค ) นามนัย , อุปลักษณ์ ง ) บุคคลวัต , สญั ลกั ษณ์
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่อง การวิเคราะหค์ ณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ เร่ือง กาพยพ์ ระไชยสรุ ิยา 1. ค) อนิ ทรวเิ ชียร 11 อนิ ทรวเิ ชยี ร 11 เปน็ คำประพันธป์ ระเภท ฉนั ท์ 2. ข) ฉบัง 16 กาพยบ์ ทนมี้ จี ำนวนคำทง้ั หมด 16 คำ 3. ก) ยานี 11 กาพยม์ ี 4 วรรค วรรคหน้ามี 5 คำ วรรคหลงั มี 6 คำ 4. ง) สรุ างคนางค์ 28 กาพย์มี 7 วรรค วรรคละ 4 คำ 5. ก) กาพย์ยานี 11 บทหน่งึ มี 4 บาท กาพยย์ านี 11 บทหน่งึ มี 2 บาท 6. ค) มาถึงบางธรณีทวโี ศก ยามวโิ ยกยากใจใหส้ ะอน้ื โอส้ ุธาหนาแนน่ เป็นแผ่นพ้ืน ถึงส่ีหมนื่ สองแสนท้งั แดนไตร 7. บทประพนั ธ์ขา้ งตน้ เปน็ บทประพนั ธป์ ระเภทกาพยย์ านี 11 ซ่งึ ข้อ ค) เปน็ บทประพนั ธ์ประเภทกาพยก์ ลอนสุภาพ 7. ก) ไกรกร่างยางยูงสงู ระหง ก ) ไกรกร่างยางยูงสงู ระหง มี 2 คู่ คอื ไกร - กร่าง , ยาง - ยงู ข ) ตลงิ ปลงิ ปรงิ ประยงค์ มี 1 คู่ คือ ปริง - ประ ค ) มริ ูส้ ิ้นกลน่ิ มาลี ไม่มี 70 ง ) ฟังเสียงเพยี งเพลง ไม่มี
12. ค) 3 คู่ มสี ัมผัสพยญั ชนะ 3 คู่ ได้แก่ จง - จำ , กน – กนั , มงิ่ - ไม้ 13. ง) คา่ ง - คราง คำวา่ คาง มเี สียงพยัญชนะเสียง /ค/ ส่วนคำว่า ครา่ ง มีเสียงพยัญชนะเสียง /คร/ 11. ค) 3 คู่ มีสัมผสั พยญั ชนะ 3 คู่ ไดแ้ ก่ นอน - เนนิ , คลึง - เคลา้ , สง - สาร 14. ข) 2 คู่ มสี มั ผัสพยญั ชนะ 2 คู่ ไดแ้ ก่ มง่ิ - ไม้ , รำ่ - ไร 10. ง) ภูธรนอนเนนิ เขา บทประพันธ์ท่กี ำหนด คือ “ ลิงค่างครางโครกครอก “ มีจำนวน 3 คำ ไดแ้ ก่ คราง - โครก - ครอก ซงึ่ ตวั เลือกมจี ำนวน ดงั นี้ ก ) เพือ่ นทกุ ข์สุขโศกเศร้า มคี ำว่า สุข - โศก - เศรา้ มีเสียง /ส/ 3 คำ ข ) อา้ ปากรอ้ งซอ้ งแซเ่ สียง มคี ำวา่ ซ้อง – แซ่ – เสียง มเี สียง /ส/ 3 คำ ค ) สรา่ งโศกเศรา้ เจ้าพ่ีอา มีคำวา่ สร่าง - โศก - เศร้า มีเสยี ง /ส/ 3 คำ ง ) ภูธรนอนเนนิ เขา มีคำว่า นอน - เนิน มีเสียง /น/ 2 คำ 9. ค) คลอ - เคยี ง มคี ำว่า คลอ มีเสียงพยญั ชนะ /คล/ ส่วนคำวา่ เคยี ง มเี สียงพยญั ชนะเสยี ง /ค/ 8. ข) ใครเอาขา้ วปลามา ไม่ปรากฎการเล่นเสียงสัมผสั ยัญชนะ 15. ง) มะม่วงพลวงพลอง ชอ้ งนาง มีคำวา่ โง่ - เง่า ก ) ว่าโงเ่ ง่าเตา่ ปปู ลา ข ) ใครเอาข้าวปลามา ไม่มี ค ) แดนดนิ ถ่นิ มนุษย์ มีคำวา่ แดน - ดนิ 71 ง ) มะมว่ งพลวงพลองช้องนาง มคี ำว่า มะ - ม่วง , พลวง - พลอง
16. ค) สัมผัสสระ คำว่า ชนื่ - กลนื มเี สียงสระเดยี วกนั คอื เสยี งสระออื 17. ข) เพง็ - เห็น - เลง็ คำว่า เหน็ ใชส้ ระ เอะ เหมือนกบั คำอื่น ๆ แตต่ วั สะกด คนละมาตรา 18. ข) ผ้ทู ่มี ฝี มี อื ก ) ขา้ เฝ้าเหล่าเสนา มคี ำวา่ เฝ้า - เหลา่ ข ) ผู้ท่มี ีฝีมือ มคี ำว่า ท่ี - มี - ฝี ค ) ภูธรนอนเนินเขา มีคำว่า ธร - นอน ง ) ตกยากจากศฤงคาร มคี ำว่า ยาก - จาก 19. ข) สมั ผสั พยญั ชนะและสระ คำว่า เห็น ใชส้ ระ เอะ เหมอื นกับคำวา่ เพ็ง และคำวา่ เล็ง แตต่ ัวสะกด คนละมาตรา 20. ก) คอื คำวา่ คอื เปน็ คำแสดงความเปรียบของอปุ ลักษณ์ 21. ข) ฉาดฉัด ฉาดฉดั เปน็ เสียงของนำ้ ท่กี ระทบกับเรือ 22. ก) กลางคืนคอยเปน็ ควัน ครั้นกลางวนั กเ็ ป็นไฟไปทกุ อย่าง ร่างกายถูกผูกพ้นสรรพางค์ เป็นส่อื กลางแก่ใจรบั ใช้การ กลางคืน เปรียบเหมือนควัน และ กลางวันเปรยี บเหมือนไฟ ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบสิ่งที่ต่างกนั แตม่ ีคณุ สมบัติทส่ี ามารถนำมาเปรียบเทียบกัน 23. ง) บุคคลวตั 72 กวีบอกให้เรือแผงไปรับนางอันเป็นที่รักของตนมาหา ซึ่งเรือไม่สามารถไปรับได้ด้วยตนเอง จงึ เปน็ การสมมตใิ หส้ ่ิงทีไ่ มม่ ีชวี ติ มีกริยาเหมอื นสิง่ มีชวี ติ
24. ง) เห็นกวางย่างเย้ืองชำเลืองเดนิ เหมอื นอย่างนางเชิญ พระแสงสำอางขา้ งเคยี ง ขอ้ ง) มีการใชค้ ำว่า เหมอื น ซง่ึ เปน็ การใช้ภาพพจนแ์ บบ อุปมา 25. ค) ค้อนทองเสียงร้องปอ๋ งเปง๋ เพลินฟงั วงั เวง อเี ก้งเรงิ รอ้ งลองเชิง 26. เดิน ขอ้ ก) มีคำวา่ ดงั แสดงว่าเปน็ ภาพพจน์ อุปมา ขอ้ ข) มีคำว่า เพียง แสดงว่าเป็นภาพพจน์ อปุ มา ข้อ ค) มีคำวา่ ปอ๋ งเป๋ง แสดงว่าเปน็ ภาพพจน์ บุคคลวัต ขอ้ ง) มคี ำว่า เหมือน แสดงว่าเปน็ ภาพพจน์ อุปมา 26. ข) ฟังเสียงเพียงเพลง 26. คำวา่ เพยี ง เป็นคำท่แี สดงภาพพจน์ อุปมา 27. ก) อุปมา , สทั พจน์ อุปมา สังเกตจากคำวา่ เพยี ง ซึง่ เปรยี บเทียบเสียงร้องกบั เสยี งเครือ่ งดนตรี สทั พจน์ สังเกตจากคำว่ากะโต้งโห่ง ซ่ึงเป็นเสียงรอ้ งของสตั ว์ 28. ง) ยงู ทองรอ้ งกะโตง้ โหง่ ดัง เพยี งฆ้องกลองระฆัง แตรสงั ขก์ ังสดาลขานเสยี ง ข้อ ก) มคี ำว่า โครกครอก แสดงว่าเป็นภาพพจน์ สัทพจน์ ขอ้ ข) มีคำว่า เพียง แสดงวา่ เปน็ ภาพพจน์ อปุ มา ขอ้ ค) มีคำวา่ ปอ๋ งเป๋ง แสดงวา่ เปน็ ภาพพจน์ สัทพจน์ ข้อ ง) มคี ำว่า กะโตง้ โหง่ เปน็ ภาพพจน์ สทั พจน์ และคำว่า เพียง แสดงวา่ เปน็ ภาพพจน์ อปุ มา 73
เอกสารอา้ งองิ กำชยั ทองหล่อ. 2556. หลกั ภาษาไทย. กรงุ เทพมหานคร: อมรการพิมพ.์ สมเกียรติ รกั ษม์ ณ.ี 2551. ภาษาวรรณศลิ ป.์ กรงุ เทพมหานคร: สายนำ้ ใจ. สจุ ติ รา จงสถิตวัฒนา. 2558. เจมิ จนั ทนก์ งั สดาล : ภาษาวรรณศลิ ปใ์ นวรรณคดไี ทย. กรงุ เทพมหานคร: โครงการเผยแพร่ผลงานวิชาการ คณะอกั ษรศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . 74
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: