Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการบริหารเปรียบเทียบไทยกับสิงคโปร์ - นายกิตติวัฒน์ ดิษฐประเสริฐ 65560067 และนางสาวกันต์กนิษฐ์ โพธิจักร 65560170

รายงานการบริหารเปรียบเทียบไทยกับสิงคโปร์ - นายกิตติวัฒน์ ดิษฐประเสริฐ 65560067 และนางสาวกันต์กนิษฐ์ โพธิจักร 65560170

Published by Kittiwat Ditprasert, 2023-02-21 12:52:46

Description: รายงานการบริหารเปรียบเทียบไทยกับสิงคโปร์ - นายกิตติวัฒน์ ดิษฐประเสริฐ 65560067 และนางสาวกันต์กนิษฐ์ โพธิจักร 65560170

Keywords: การบริหารเปรียบเทียบ

Search

Read the Text Version



ข คำนำ รายงานเชงิ สงั เคราะหแ์ ละวเิ คราะห์การเปรยี บเทียบระบบการศกึ ษาและการบริหารการศึกษาระหว่าง ประเทศสาธารณสงิ คโปร์กับประเทศไทย เปน็ สว่ นหนง่ึ ของวชิ า EDA711 การบรหิ ารการศกึ ษาเชงิ เปรียบเทียบ (Comparative Educational Administration) จัดทาข้ึนเพ่ือสังเคราะห์และวิเคราะห์การเปรียบเทียบระบบ การศึกษาและการบริหารการศึกษาประเทศสิงคโปร์ โดยมีองค์ประกอบของการนาเสนอเกี่ยวกับ บริบท ประเทศสิงคโปร์ นโยบายและยุทธศาสตร์ทางการศึกษาระบบการศึกษา การผลิตและพัฒนาครูและบุคลากร ทางการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ และนามาเปรียบเทียบกับการดาเนินการจดั การศึกษาหรือการ บริหารการศึกษาของประเทศไทย การวิเคราะห์ สังเคราะห์บทความทางวิชาการและเอกสารที่เก่ียวข้อง รวมถงึ จุดเด่นของการศกึ ษาประเทศสงิ คโปร์ และข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการศกึ ษาของประเทศไทย การศึกษารายงานเชิงสังเคราะห์และวิเคราะห์การเปรียบเทียบระบบการศึกษาและการบริหาร การศึกษาระหว่างประเทศสิงคโปร์กับประเทศไทย ก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านการศึกษา ขอพระขอบคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ ไทยมา ที่ให้คาปรึกษาแนะนาให้การดาเนินการจัดทารายงานและ การนาเสนออยา่ งดยี ่งิ กติ ตวิ ฒั น์ ดษิ ฐประเสริฐ และ กนั ตก์ นิษฐ์ โพธจิ ักร คณะผู้วิจัย

สำรบญั ก เรอ่ื ง หน้ำ 1. ข้อมูลท่วั ไปและบรบิ ทเกีย่ วกับประเทศสาธารณรฐั สิงคโ์ ปร์ 1 ขอ้ มลู ท่ัวไปและบรบิ ทเกย่ี วกับประเทศสาธารณรฐั สิงคโ์ ปร์ 1 8 2. นโยบายและยุทธศาสตร์ทางการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสงิ ค์โปร์ 8 พนั ธกิจ และวิสัยทัศน์ ทางการศกึ ษาของประเทศ 8 สาธารณรัฐสงิ ค์โปร์ 9 การพฒั นา IT เพือ่ การศึกษาของประเทศสาธารณรฐั สิงคโปร์ 11 กฎหมายการศึกษาหรอื ระเบียบต่าง ๆ ทีเ่ ก่ียวข้องกับการศึกษาของประเทศ 12 สาธารณรฐั สงิ คโปร์ 14 การศกึ ษาภาคบังคับของประเทศสาธารณรฐั สงิ คโปร์. 16 การขนึ้ ทะเบยี นโรงเรยี นสงั กดั รฐั ของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ 16 การขน้ึ ทะเบยี นผ้บู รหิ ารโรงเรียนและครู ระบบประกันคุณภาพการศกึ ษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ 19 ข้อมลู ทว่ั ไปทเี่ ก่ียวขอ้ งกับระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของประเทศ 21 สาธารณรฐั สิงคโปร์ 21 ระบบการประกันคณุ ภาพการศกึ ษาของประเทศสาธารณรฐั สงิ คโปร์ 3. ระบบการศึกษาของสาธารณรฐั สิงคโปร์ 21 หลักการและจดุ มุง่ หมายท่วั ไปในการจัดการศึกษาของประเทศ 21 สาธารณรฐั สงิ คโปร์ 22 การปฏริ ูประบบการศกึ ษาในการจัดการศึกษาของประเทศสาธารณรฐั สิงคโปร์ 28 การปรบั ปรุงระบบการศึกษา 29 การจดั ระบบการศึกษาประเทศสาธารณรัฐสงิ คโปร์ 33 กรอบการศึกษา 34 ขอ้ มูลและรายละเอยี ดในการศึกษาเบือ้ งตน้ 35 4. การผลิต พัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ 38 การคดั เลือกครูใหม่ (Recruitment) 39 หลักสตู รการฝกึ หดั ครู (Teacher Preparation Program) 41 การเขา้ สู่วิชาชีพและการพัฒนา (Induction and Mentoring) 42 การเรยี นรใู้ นวิชาชีพ (Professional Learning) การประเมินและการให้ข้อมลู ยอ้ นกลบั (Teacher Feedback and Appraisal) 43 พัฒนาการทางวิชาชพี และการเปน็ ผู้นา (Career and Leadership 46 Development) 5. บรบิ ทและระบบการศึกษาของประเทศไทย 6. การวิเคราะห์ สงั เคราะห์บทความทางวชิ าการและเอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง

เร่ือง ข 7. การเปรยี บเทยี บกับการดาเนนิ การจดั การศกึ ษาหรอื การบริหารการศึกษา หน้ำ ของประเทศไทยและประเทศสาธารณรฐั สิงคโ์ ปร์ 8. จดุ เด่นและด้อยของการศึกษาของประเทศสาธารณรฐั สงิ คโ์ ปร์ 59 จุดเดน่ ของการศึกษาของประเทศสาธารณรฐั สงิ คโ์ ปร์ 76 จดุ ด้อยของการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสงิ คโ์ ปร์ 76 9. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการพฒั นาการศกึ ษาของประเทศไทย 77 10. อ้างอิง 78 11. ภาคผนวก 79 82

สำรบัญตำรำง ค ท่ี เร่ือง หน้ำ 25 1 ตารางที่ 1 รายช่ือสถาบนั ท่ีมชี ื่อตามลาดับความนยิ มของโรงเรียน/วทิ ยาลยั 48 ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษา 49 59 2 ตารางที่ 2 ผลการเปรียบเทยี บการบริหารการศึกษาระดบั อาชีวศึกษาประเทศ ไทยและประเทศสงิ คโปร์ 3 ตารางที่ 3 การวจิ ยั ที่คน้ พบขน้ึ มาใหมแ่ ละการนาไปใช้ 4 ตารางท่ี 4 การเปรยี บเทียบกบั การดาเนินการจดั การศกึ ษาหรอื การบริหาร การศกึ ษาของประเทศไทยและประเทศสาธารณรฐั สิงคโ์ ปร์

สำรบญั ภำพประกอบ ง ที่ เรอื่ ง หน้ำ 1 ภาพท่ี 1 ที่ตัง้ 1 2 ภาพที่ 2 ชอื่ เมอื งหลวง 2 3 ภาพที่ 3 สกลุ เงิน 2 4 ภาพท่ี 4 ภมู ปิ ระเทศ 3 5 ภาพที่ 5 เขตการตดิ ต่อ 3 6 ภาพที่ 6 ดอกไม้ประจาชาติ 4 7 ภาพท่ี 7 อาหารประจาชาติ 4 8 ภาพท่ี 8 ธงชาติ 5 9 ภาพที่ 9 การปกครอง 6 10 ภาพที่ 10 กรอบวิสยั ทัศนท์ างการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสงิ คโปร์ 16 11 ภาพที่ 11 กรอบการศกึ ษา 29 12 ภาพท่ี 12 แบบสรุประบบการจดั การศกึ ษาของประเทศสาธารณรฐั สิงคโปร์ 32 13 ภาพท่ี 13 รปู แบบนโยบาย การปฏบิ ตั ิ และการเตรียมครสู าหรบั การจัดการการศกึ ษา 33 ของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ 34 14 ภาพที่ 14 การคัดเลอื กครใู หม่ (Recruitment) 35 15 ภาพที่ 15 กรอบสมรรถนะของผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาดา้ นครูของสงิ คโปร์ 36 16 ภาพท่ี 16 จานวนหนว่ ยกิตท่ตี ้องเรยี นแตล่ ะสาขาและช้ันปขี องหลกั สูตรผลติ ครู 36 ประถมศึกษา 17 ภาพท่ี 17 จานวนหนว่ ยกิตทต่ี อ้ งเรยี นแตล่ ะสาขาและชัน้ ปีของหลกั สตู รผลิตครู 38 38 มธั ยมศึกษา 37 18 ภาพท่ี 18 รายวิชาเชงิ วิชาการทีน่ กั ศกึ ษาตอ้ งเรยี น 19 ภาพที่ 19 โปรแกรมการเรยี นรสู้ าหรบั ครใู หม่ 40 20 ภาพท่ี 20 ครพู เ่ี ลยี้ งคอยช่วยเหลอื ในการกากับติดตามและพฒั นาซงึ่ มี 2 รูปแบบ 41 รูปแบบแรกเป็นแบบตวั ต่อตัว และรูปแบบที่ 2 เปน็ แบบกลมุ่ พิเศษ 42 21 ภาพที่ 21 รูปแบบการพัฒนาการเรยี นรู้และการยกยอ่ งยอมรูปในวชิ าชีพครขู องสงิ คโปร์ 45 22 ภาพท่ี 22 การพัฒนาครูใหญ่ใหม่ครใู หญห่ รอื ผอู้ านวยการโรงเรยี น/วิทยาลัยใหม้ ีภาวะ 51 ผู้นาของสงิ คโปร์ 52 23 ภาพท่ี 23 เสน้ ทางความก้าวหนา้ ในวิชาชพี ครูสงิ คโปร์ 24 ภาพที่ 24 ระบบการจัดระบบการจัดการศึกษาของประเทศไทย 25 ภาพท่ี 25 การสังเคราะห์บทความ เรอื่ ง Improving schooling through effective governance? The United States, Canada, South Korea, and Singapore in the struggle for PISA scores 26 ภาพท่ี 26 การสงั เคราะห์บทความ เร่ือง การศึกษาการเปรยี บเทียบการบรหิ ารการศึกษา ระดับอาชวี ศึกษาประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์

1 การจดั ทารายงานฉบับนี้เป็นการนาเสนอขอ้ มลู ที่เก่ียวกบั การบริหารจัดการการศกึ ษาของประเทศไทย กับประเทศสาธารณรัฐสิงค์โปร์ โดยการสังเคราะห์และวิเคราะห์การเปรียบเทียบระบบการศึกษาและ การบรหิ ารการศึกษาประเทศสาธารณสงิ คโปร์ โดยมอี งคป์ ระกอบของการนาเสนอ ดงั น้ี 1) ขอ้ มูลทว่ั ไปและบรบิ ทเก่ียวกับประเทศสาธารณรัฐสงิ ค์โปร์ 2) นโยบายและยทุ ธศาสตรท์ างการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสงิ ค์โปร์ 3) ระบบการศึกษาของสาธารณรัฐสิงคโปร์ 4) การผลิต พัฒนาครูและบุคลากรทางการศกึ ษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ 5) บรบิ ทและระบบการศกึ ษาของประเทศไทย 6) การวิเคราะห์ สังเคราะห์บทความทางวชิ าการและเอกสารทเี่ ก่ยี วข้อง 7) การเปรียบเทียบกับการดาเนินการจัดการศึกษาหรือการบริหารการศึกษาของประเทศไทย และ ประเทศสาธารณรฐั สงิ ค์โปร์ 8) จดุ เดน่ และด้อยของการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงค์โปร์ 9) ขอ้ เสนอแนะแนวทางการพฒั นาการศึกษาของประเทศไทย ************************************************************************************************* 1) ข้อมูลทัว่ ไปและบริบทเกยี่ วกับประเทศสำธำรณรฐั สิงค์โปร์ ▪ ชอ่ื สงิ คโปรห์ รือสาธารณรัฐสงิ คโปร์ (Republic of Singapore) ▪ ท่ตี ้ัง ลักษณะเป็น เกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่ประมาณ 715.8 ตาราง เปน็ นครรัฐทตี่ ง้ั อยบู่ นเกาะในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ ที่ละตจิ ดู 1°17'35\" เหนือ ลองจจิ ดู 103°51'20\" ตะวันออก (1°17′N 103°51′E) ต้ังอยู่ทางใต้สุดของคาบสมุทรมาเลย์ ติดกับรัฐยะโฮร์ของประเทศ มาเลเซยี และอยทู่ างเหนือของเกาะสุมาตราของประเทศอนิ โดนเี ซีย ดังภาพท่ี 1 ภาพท่ี 1 ทีม่ า https://singapore.mol.go.th/info/geography เขา้ ถงึ เมอื่ 7 มกราคม พ.ศ. 2566

2 ▪ ชื่อเมืองหลวง สิงคโปร์ (Singapore) ดังภาพที่ 2 ภาพท่ี 2 ชื่อเมืองหลวง ท่มี า https://sites.google.com/site/jirayu6625/meuxng-hlwng เข้าถึงเมอ่ื 7 มกราคม พ.ศ. 2566 ▪ วันชำติ 9 สิงหาคม ดังภาพท่ี 3 ▪ วนั เข้ำร่วมอำเซียน 8 สิงหาคม 2510 ▪ สกุลเงนิ ดอลลาร์สิงคโปร์ ภาพท่ี 3 สกลุ เงิน ทม่ี า https://www.asean-info.com/asean_members/singapore_economics.html เข้าถงึ เมอื่ 8 มกราคม พ.ศ. 2566

3 ▪ ภูมปิ ระเทศ ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์เป็นประเทศในพ้ืนท่ีแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย อยู่บนคาบสมุทรอินโดจีน มีพื้นท่ีประมาณ 236,800 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็นภาคพื้นดิน 230,800 ตารางกโิ ลเมตร ภาคพ้นื น้า 6,000 ตารางกโิ ลเมตร ดังภาพที่ 4 ภาพท่ี 4 ภูมปิ ระเทศ ท่ีมา https://sites.google.com/a/longwittaya.ac.th/10prathes-xaseiyn/prathes singkhpor/phumiprathes เข้าถึงเม่ือ 8 มกราคม พ.ศ. 2566 ▪ เขตกำรตดิ ต่อ ทางตอนใต้ของคาบสมุทรมาเลย์ (ห่างจากคาบสมุทรประมาณ 137 กิโลเมตร) ทิศ เหนือติดกบั รฐั ยะโฮร์ มาเลเซีย (Johor Bahru) ทิศตะวันออก ตดิ ทะเลจนี ใต้ ทิศตะวนั ตกติดมาเลเซีย และช่องแคบมะละกา ทิศใต้ติดช่องแคบมะละกา ใกล้กับเกาะเรียล ( Riau) ของอินโดนีเซีย ดงั ภาพที่ 5 ภาพที่ 5 เขตตดิ ตอ่ ท่ีมา http://www.tornok.com/?page_id=202 เข้าถงึ เมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2566

4 ▪ ประชำกร มีประมาณ 5.31 ล้านคน และมีอัตราการเกิดเฉลี่ยร้อยละ 2.5 ประชากร ประกอบด้วยชาวจีน (ร้อยละ 76.5) ชาวมาเลย์ (ร้อยละ 13.8) ชาวอินเดีย (ร้อยละ 8.1) และอื่นๆ (รอ้ ยละ1.6) (Department of Statistics Singapore, 2556) ▪ ศำสนำ ศาสนาพุทธ (ร้อยละ 42.5) อิสลาม (ร้อยละ 14.9) คริสต์ (ร้อยละ 14.6) ฮินดู (ร้อยละ 4) และไม่นบั ถอื ศาสนา (รอ้ ยละ 25) ตามลาดับ ▪ ภำษำ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษามลายูและภาษาทมฬิ ตามลาดับ ▪ ดอกไม้ประจำชำติ Vanda Miss Joaquim เปน็ ดอกกลว้ ยไม้ทเ่ี ปน็ ท่รี ู้จกั มาที่สดุ ในประเทศสงิ คโปร์ โดยต้ังชื่อตามผ้ผู สมพนั ธ์ุ ดว้ ยสีม่วงและรูปลักษณท์ ่สี วยงาม อีกท้งั บานตลอดปี ทาใหด้ อกไม้ชนิดนี้ถูก ยกสถานะให้เป็นดอกไม้ประจาชาติของประเทศสิงคโปร์ ต้ังแต่ปี 1981 Vanda Miss Joaquim พบ ไดท้ ่ัวไปในประเทศสิงคโปร์ ดังภาพท่ี 6 ภาพที่ 6 ดอกไม้ประจาชาติ ทีม่ า https://www.panmai.com/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81% เข้าถงึ เมื่อ 9 มกราคม พ.ศ. 2566 ▪ อำหำรประจำชำติ ลักสา (Laksa) เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยา (ใส่กะทิ) มีลักษณะคล้ายข้าวซอยของ ไทย โดยเส้นก๋วยเต๋ียวจะมีลักษณะคล้าย vermicelli ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นสปาเกตตีของอิตาล ดังภาพที่ 7

5 ภาพท่ี 7 อาหารประจาชาติ ท่มี า http://library.sut.ac.th/asean_data/?m=data&country_id=8&category_id=12 เข้าถงึ เมอ่ื 9 มกราคม พ.ศ. 2566 ▪ ธงชำติ ธงชาติของประเทศสาธารณรัฐสิงค์โปร์ เป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ประกอบด้วยแถบสองสี ดังนี้ แถบสแี ดงอยู่ด้านบนและแถบสีขาวอยู่ด้านล่าง ทม่ี มุ ธงบนด้านซ้ายมีรูปพระจนั ทร์เสี้ยว และมีรูปดาว ห้าแฉก 5 ดวง เรียงเป็นรปู ห้าเหลยี่ มด้านเท่า โดยรูปดังกล่าวจะต้องเป็นสีขาวเท่าน้ัน จากการายงาน พบวา่ เริม่ ใช้เมอื่ วนั ที่ 3 ธนั วาคม พ.ศ. 2502 โดยประกาศเอกราชในวนั ที่ 9 สงิ หาคม พ.ศ. 2508 ดั ง ภาพที่ 8 ภาพที่ 8 ธงชาติ ทมี่ า http://library.sut.ac.th/asean_data/?m=data&country_id=8&category_id=12 เขา้ ถงึ เมือ่ 9 มกราคม พ.ศ. 2566 ความหมายสาคัญ ได้แก่ สีแดง หมายถึง ความเสมอภาคของมนุษย์โดยท่ัวหน้า สีขาว หมายถึง ความบริสุทธ์ิและความดีงาม รูปพระจันทร์เสี้ยว (พระจันทร์เสี้ยวข้างขึ้น) หมายถึง ความเป็นชาติใหม่ที่ถือ กาเนิดขนึ้ และดาว 5 ดวง หมายถึง อุดมคติ 5 ประการของชาติ ได้แก่ ประชาธิปไตย สันตภิ าพ ความก้าวหนา้ ความยตุ ิธรรม และความเสมอภาค ตามลาดบั ▪ เพลงประจำชำติ เพลงมาจูละห์ ซีงาปูรา (Majulah Singapura) เป็นเพลงภาษามลายู แปลว่า สิงคโปร์จงเจริญ แล้วยังสอดคล้องคาขวัญประจาชาติ ประกอบกับเนื้อหาของเพลงท่ีสะท้อน ถงึ จิตวญิ ญาณ ความอดทน มุ่มมานะ พยายาม และความก้าวหนา้ ของชาติ ▪ เศรษฐกจิ /รำยไดป้ ระชำชำติ มีฐานะทางเศรษฐกิจและการเงินที่ม่ังคั่งที่สุดประเทศหนึ่งในโลก เพราะสิงคโปร์เน้นพัฒนาเศรษฐกิจด้านการค้า โดยเป็นประเทศพ่อค้าคนกลางในการขายสินค้าและ เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าปลอดภาษีมีท่าเรือท่ีมีการขนส่งสินค้ามากเป็นอันดับสามของโลกและทันสมัย ที่สุดในโลกรายได้เฉลี่ยของประชากรวัดจาก GDP ในปี พ.ศ. 2555 ต่อหัวสูงถึง 65,048 ดอลลาร์ สิงคโปร์ หรือประมาณ 1,500,000 บาทต่อคนต่อปี (Department of Statistics Singapore, 2556) นอกจากนีธ้ นาคารโลกไดจ้ ดั ใหส้ งิ คโปร์อยู่ในลาดับหน่งึ ของประเทศในภูมิภาคเอเชียและลาดับ 2 ของ

6 โลกที่มีสภาพแวดล้อมที่เอ้ืออานวยต่อการลงทุนและจัดต้ังธุรกิจสูงท่ีสุด โดยประเทศสาธารณรัฐ สงิ คโปร์มีอัตราการว่างงานในปี พ.ศ. 2556 เทา่ กบั ร้อยละ 2.6 ▪ กำรปกครอง ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาท่ีมีสภาเดียว มีประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐ ซึ่งมีวาระ 6 ปี และนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นารัฐบาลและหัวหน้าฝ่ายบริหารซ่ึงมีวาระ 5 ปี โดยมีเขต การปกครองออกเป็น 5 เขต แต่ละเขตปกครองโดยนายกเทศมนตรี (Mayors) และมีกรรมการสภา ท้องถิ่น (Community Development Councils) ประมาณเขตละ 12-80 คน เพือ่ ดูแลในเขตตา่ ง ๆ ประกอบด้วยเทศบาลภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงใต้ และภาคตะวันตกเฉียงใต้ อีกทั้งประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์จัดเป็นประเทศท่ีมีความม่ันคง ทางการเมืองมากท่ีสุดประเทศหนึ่งของโลก เพราะมีรฐั บาลท่ีมีเสถียรภาพมาก ไม่มกี ารแทรกแซงจาก อานาจนอกระบบ ดังภาพที่ 9 ภาพท่ี 9 ฮาลมิ ะฮ์ ยากบู ประธานาธิบดีหญิง ประเทศสาธารณรฐั สงิ คโปร์ (ซ้าย) และ เซยี นลงุ นายกรฐั มนตรี ประเทศ สาธารณรัฐสิงคโปร์ (ขวา) ที่มา https://workpointtoday.com/singapore-speak-mandarin-campaign/ โดย เข้าถึงเมอ่ื 9 มกราคม พ.ศ. 2566 ▪ กำรเมอื ง ระบอบการปกครองของสิงคโปร์ คือ ระบอบประชาธิปไตย มีประธานาธิบดีเป็น ประมุข ประธานาธบิ ดีคนปจั จบุ ัน คือ ฮาลิมะฮ์ ยากบู ประธานาธิบดีหญงิ ประเทศสาธารณรฐั สิงคโปร์ (ซ้าย) ส่วนนายกรัฐมนตรี คือ เซียนลุง นายกรัฐมนตรี ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ (ขวา) ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ได้ทาการแยกออกจากประเทศมาเลเซีย เม่ือปี พ.ศ. 2508 โดยมีการปกครองในระบอบสาธารณรัฐโดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข และมีนายกรัฐมนตรี เป็นประมขุ ทางด้านบริหารประเทศ

7 ▪ ระบอบกำรปกครอง การปกครองระบอบสาธารณรัฐ โดยมีประธานาธิบดี ฮาลิมะฮ์ ยากูบ ประธานาธบิ ดหี ญงิ และนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลงุ ▪ ข้อมูลทำงเศรษฐกิจ ข้อมูลทางเศรษฐกจิ ที่สาคญั ได้แก่ กำรเพำะปลูก ปลูกยางพารา มะพร้าว ผัก ผลไม้ แต่พ้ืนท่ีมีจากัด ต้องอาศัยวัตถุดิบจาก ประเทศเพ่ือนบ้าน มีอุตสาหกรรมเบา เช่น ผลิตยางพารา ขนมปัง เครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมหนัก เช่น อู่ต่อเรือ ทาเหล็กกล้า ยางรถยนต์ มีกิจการกล่ันน้ามันซ่ึงใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก สหรัฐอเมรกิ าและเป็นผูส้ รา้ งแทน่ ขุดเจาะนา้ มนั รายใหญ่ดว้ ย กำรค้ำขำย เป็นท่าเรือปลอดภาษี ประเทศต่าง ๆ ส่งสินค้าต่าง ๆ มายังสิงคโปร์เพ่ือส่งออก และสงิ คโปร์ยงั รับสนิ คา้ จากยโุ รป สหรฐั อเมริกา ออสเตรเลีย ญป่ี ่นุ เพือ่ ส่งไปขายต่อยงั ประเทศเพื่อน บา้ น ซึ่งประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีฐานะและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจดี เพราะ เป็นประเทศแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจด้านการค้า โดยเปรียบเสมือนพ่อค้าคนกลางในการขายสินค้า ทาให้สินคา้ ทผ่ี า่ นทางสิงคโปรม์ ีราคาถูก อีกท้ังสิงค์โปร์เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีฐานะ ทางเศรษฐกิจและการเงินท่มี ่ังค่งั ทีส่ ดุ ประเทศนึงในโลก ▪ กำรคมนำคม ประเทศสาธารณสิงคโปร์เป็นชุมทางของเส้นทางเดินเรือ และสายการบินระหว่าง ประเทศ และเป็นแหล่งชุมนุมการค้าขาย ปัจจุบันสิงคโปร์ มีท่าเรือท่ีใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเซีย รองจากโยโกฮามาของญี่ปุน่ และเปน็ ทา่ เรือทม่ี กี ารขนส่งสินคา้ มาก เป็นอนั ดับ 3 ของโลก ตามลาดับ กำรขนส่งทำงบก ประเทศสาธารณสิงคโปร์มีพื้นท่ีไม่มาก แต่ถนนที่จัดว่าอยู่ใน เกณฑ์ดีมาก ยังมีทางรถไฟอยู่สองสาย ประกอบกับมีการสร้างทางรถไฟสายสิงคโปร์ - กรันจิ เมื่อปี พ.ศ. 2446 โดยมีการเดินรถจากสถานีแทงค์โรค ไปยังวู๊ดแลนด์ และมีบริการข้ามฟากไปเชื่อมต่อกับ ทางรถไฟจากแผ่นดินใหญ่ด้วย ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2462 ได้มกี ารเรม่ิ สรา้ งถนนขา้ มช่องยะโฮร์ พื่อใช้ข้าม ช่องยะโฮร์มาเลเซีย คล้ายหับประตูไปยังด้านทางใต้ถึงสถานีปลายทาง โดยใกล้กับท่าเรือเคปเปล ทางรถไฟอกี สายหนงึ่ แยกจากสายแรกไปทางทศิ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ กำรขนส่งทำงน้ำ ประเทศสาธารณสิงคโปร์มีการขนส่งทางน้าภายในประเทศ ทาง น้าชายฝั่งและทางน้าระหว่างประเทศ ทางน้าชายฝ่ัง เป็นส่วนหน่ึงของระบบขนส่งทางน้าระหว่าง ประเทศ แต่มีลักษณะเฉพาะของตนเอง คือ การใช้เรือเล็ก เส้นทางเดินเรือสั้นและการให้บริการไม่ เป็นประจา เรือท่ีเดินตามบริเวณชายฝั่ง อีกทั้งรัฐบาลได้จัดต้ังสานักงานจดทะเบียนเรือของสิงคโปร์ ข้ึน เมื่อปี พ.ศ. 2509 และได้มีพระราชบัญญัติอนุญาตให้มีการจดทะเบียนเรือ ถึงแม้เจ้าของอยู่ใน ต่างประเทศ โดยต้องการให้เรือสินค้าต่างชาติ สนใจโอนสัญชาติเป็นเรือเป็นสัญชาติของประเทศ สาธารณรัฐสงิ คโปร์

8 กำรขนส่งทำงอำกำศ ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์มีการขนส่งทางอากาศระหว่าง ประเทศ ณ ปัจจุบันประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์มีท่าอากาศยานนานานชาติ คือ ท่าอากาศยาน นานาชาติชางงี อีกท้ังประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ยังมีสายการบินประจาชาติที่มีชื่อว่า สิงคโปร์แอร์ ไลน์ (Singapore Airlines SIA) 2) นโยบำยและยุทธศำสตรท์ ำงกำรศกึ ษำของประเทศสำธำรณรฐั สงิ คโ์ ปร์ 2.1) พันธกิจ และวสิ ัยทัศน์ ทำงกำรศกึ ษำของประเทศสำธำรณรัฐสิงคโ์ ปร์ ประเทศสาธารณรัฐสิงคโ์ ปร์ได้ให้ความสนใจ และทุม่ งบประมาณสนับสนุน ในดา้ นการศึกษา เป็นจานวนมาก นอกจากน้ันกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ได้กาหนดพันธกิจ และวิสัยทัศน์ด้านการจัด การศึกษาของประเทศ ดงั นี้ พันธกิจ (Mission) : Moulding the future of Our nation เปน็ การหล่อหลอมประชากร ของชาติเพอ่ื การพัฒนาชาติในอนาคต วิสัยทัศน์ (Vision) : Thinking Schools, Learning Nation เป็นการพัฒนาทักษะความคดิ เชิงสร้างสรรค์ และการเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองให้กับคนในชาติ จากพันธกิจ และ วิสัยทัศน์ทางการศึกษาของ ประเทศ และประกอบกับความมุ่งม่ันในการที่จะนา IT มาพัฒนาในด้านการศึกษา ตามท่ีท่านนายกรัฐมนตรี MR.Goh Chok Tong ไดเ้ คยกลา่ วถงึ คุณประโยชน์ของการใช้ IT ดังนี้ \" Computers are changing the way we work and the way we live … We will use IT to encourage students to learn more independently, to learn activity. \" จึงได้มีการกาหนดแผนแม่บท IT ด้านการศึกษาขึ้น ซึ่งแผนแม่บทนี้มีบทบาทสาคัญมากใน การพฒั นาให้ประเทศเล็ก ๆ อยา่ งประเทศสาธารณรฐั สงิ คโ์ ปรเ์ ป็นเกาะอัจฉรยิ ะตามสมยานามท่ตี ั้งไว้ได้ 2.2) กำรพฒั นำ IT เพ่ือกำรศกึ ษำของประเทศสำธำรณรัฐสิงคโปร์ การพัฒนาครู/อาจารย์ให้มีความรู้ทางด้าน IT นั้นส่วนใหญ่ของประเทศไทยจะพัฒนาให้ครู/ อาจารย์มีความรู้พ้ืนฐานในการใช้คอมพิวเตอร์ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐาน เช่น Word Processing Spreadsheet และ Database เป็นต้น แต่การฝึกอบรมให้ครู/อาจารย์นา IT ไปใช้ในการสอนวิชาต่าง ๆ นั้น ของเรายังดาเนินการค่อนข้างน้อย ซึ่งจะต่างจากของสิงคโปร์ในขณะนี้ท่ีมุ่งเน้นฝึกอบรมครู/อาจารย์ ให้ สามารถนา IT ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนใน 4 วิชาหลัก (Core Subjects) คือ วิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสงั คมศกึ ษา นอกจากนนั้ ยังพบเห็นสถานศึกษาของสงิ คโปร์หลาย ๆ แห่ง นา IT ไปใชใ้ นการสอนวิชาศิลปะ ดนตรี และพลศกึ ษา การสนบั สนุนครู/อาจารย์ ในการใชง้ านคอมพวิ เตอร์ สิงคโปรไ์ ดก้ าหนดในแผนแมบ่ ท IT เพื่อ การศึกษาว่าจะดาเนินการจัดหาคอมพิวเตอร์ ประเภท Notebook ให้ครูได้ใช้งานในสถานศึกษา โดยมี อัตราส่วน ครู : คอมพิวเตอร์ เป็น 2:1 เพ่ือครูจะได้ใช้คอมพิวเตอร์ในการเตรียมการสอน หรือนาไปใช้ใน การเรียนการสอนในห้องเรียน นอกจากนัน้ ยงั มีนโยบายท่ีมอบให้สถานศึกษานาไปปฏบิ ัติ คอื การสนบั สนุนให้ ครู/อาจารย์ส่วนใหญ่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นของส่วนตัวเพื่อการใช้งานคนละ 1 เคร่ือง โดยจะมีทุนให้ครู/ อาจารย์กู้ยืมเฉพาะการนี้ ไม่มีการคิดดอกเบ้ียกู้ยืมและสามารถซื้อได้ในราคาที่ต่า กว่าท้องตลาดด้วย การสนับสนนุ นเี้ พอ่ื ประสงคจ์ ะให้ครู/อาจารยท์ ุกคนสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ เพราะทางรฐั บาลมคี วามเห็นว่า

9 หากครูไม่มีทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์แล้วการนาคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการเรียนการสอนคงจะไม่เกิดข้ึนหรือ หากเกิดข้ึนก็คงเป็นไปได้ช้ามาก ประเด็นนี้เป็นแนวคิดท่ีน่าสนใจที่หน่วยงานซ่ึงเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ของไทย น่าจะนาไปประยุกต์ใช้ ซึ่งคงจะดีกว่าจะสนับสนุนให้ครู/อาจารย์ กู้ยืมเงินเพื่อนาไปซ้ือของฟุ่มเฟือย อ่นื ๆ การสนบั สนนุ ส่อื การเรียนการสอนเพื่อให้ครู/อาจารย์นาไปใชส้ อนนกั เรยี น การสนบั สนุนให้มี หน่วยงานในการผลิตส่ือการเรียนการสอน แล้วกระจายสอ่ื ดงั กลา่ วไปยงั สถานศึกษา น้ันเปน็ อกี แนวทางหน่ึงที่ สนับสนุนให้ครูอาจารย์ใช้สื่อด้าน IT ในการสอนนักเรียน ของประเทศไทยเรายังมีการสนับสนุนในส่วนนี้ ค่อนข้างน้อยในปัจจุบัน แต่ของสิงคโปร์มีหน่วยงาน Educational Technology Division (ETD) 1จะ รบั ผิดชอบผลิตส่อื การเรียนการสอน และฝกึ อบรมครู/อาจารย์ ในการใช้สอ่ื การเรียนการสอนต่าง ๆ ดว้ ย และ ประเภทของส่ือท่ีนิยมผลิตในขณะนี้จะเป็นมัลติมีเดีย ซึ่งมีความกระทัดรัด สะดวกในการใช้งาน และราคาต่อ แผ่นก็ไม่สูงมากนักเม่ือมีการผลิตเป็นจานวนมาก และสื่อประเภทนี้ในบางรายวิชาทาง ETD ก็ไม่จาเป็นต้อง ผลิตเอง เพราะในท้องตลาดขณะน้ีมีบริษัทเอกชนท้ังของในประเทศและต่างประเทศได้ผลิตสื่อในวิชาต่าง ๆ มากมายจาหน่าย และทาง ETD กจ็ ะประเมินและคัดเลือกสอื่ เหล่านที้ ี่มคี ุณภาพดี แลว้ ดาเนินการจดั ซือ้ ลิขสิทธิ์ ของสื่อเป็นลิขสิทธิ์ระดับชาติ (National Licence) เพ่ือแจกจ่ายให้สถานศึกษาใช้ได้อย่างถูกกฎหมาย และคา บรรยายของส่ือในท้องตลาดเหล่าน้ีส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษซ่ึงก็เป็นภาษาท่ีใช้ในการเรียนการสอนของ สถานศกึ ษา 2.3) กฎหมำยกำรศึกษำหรือระเบียบต่ำง ๆ ที่เก่ียวข้องกับกำรศึกษำของประเทศ สำธำรณรฐั สงิ คโปร์ กฎหมายการศึกษาหรือระเบียบต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐ สิงคโปร์ โดยระบบการศึกษาของประเทศสิงคโปร์จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในระบบการศึกษาที่ดีที่สุดของโลก จาก การเปรียบเทียบคะแนนในโครงการเพ่ือการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ หรือ PISA (Programme for International Student Assessment) ซึ่งได้จัดอันดับให้สิงคโปร์เป็นอันดับท่ี 1 ของ PISA ในด้าน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน จากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก 1 และเนื่องจากสิงคโปร์เคยเป็นอาณา นิคมของอังกฤษ ระบบการศึกษาของสิงคโปร์จึงมีความคล้ายคลึงกับระบบการศึกษาของอังกฤษ กล่าวคือ ใช้ หลักสูตร GCSE และ A level (A Level คือ การเรียนซึ่งนักเรียนจะเลือกเรียนเพียง 4 วิชาในปีแรก และ 3 วิชาในปีถัดไปเพื่อให้นักเรียนเกิดความ เชี่ยวชาญในวิชาท่ีตนเรียน ซ่ึงแตกต่างจากระบบการศึกษาแบบ สหรัฐอเมริกาที่กาหนดให้นักเรียนต้องเรียนหลายวิชาในช่วง มัธยมศึกษาตอนปลาย) ของอังกฤษ โดยระบบการศึกษาของสิงคโปร์นั้น มีที่มาสาคัญจากนโยบายของรัฐบาล ในปี พ.ศ. 2490 หรือหลัง สงครามโลกคร้ังที่ 2 ที่มีนักเรียนจานวนมากที่ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน รัฐบาลจึงดาเนินโครงการ นโยบายการศึกษาระยะสิบปี (Ten Years Programme for Education Policy) ระหว่างปี พ.ศ. 2493 ถึง พ.ศ. 2503 เพ่ือให้เกิดระบบการศึกษาท่ีเตรียมความพร้อมของประชาชนสาหรับการปกครองตนเอง ภายหลัง ได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษ ในเวลาต่อมา เมื่อสิงคโปร์เร่ิมมีการพัฒนาเศรษฐกิจของตนเอง 1 Educational Technology Division (ETD) คือ หน่วยงานด้านเทคโนโลยีด้านการศึกษา ที่สร้างความแตกต่างจากการ เรียนรู้ในแบบเดิม ๆ ใหเ้ กิดรปู แบบการเรียนรใู้ หม่ ๆ ทีห่ มาะสมกับผู้เรยี นทุกช่วงวัย โดยมีจดุ ประสงค์หลักเพ่อื ใหผ้ ู้เรียนเขา้ ถึง การศึกษาอย่างมีประสิทธภิ าพ สะดวกและงา่ ยตอ่ การใช้งาน

10 รัฐบาลจึงได้ดาเนนิ นโยบายทาง การศึกษาที่เน้น “การศึกษาเพ่ือความอยู่รอด” (survival-drain education) เพ่ือให้ได้แรงงานท่ีมีทักษะท่ีเหมาะสมและเป็นท่ีต้องการสาหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและลดอัตราการ ว่างงานภายในประเทศ มีการจัดตั้งสถาบันอาชีวะ และโครงการ Gifted Education Programme นอกจากความจาเป็นทางเศรษฐกิจแล้วการศึกษายังช่วยในเร่ืองการรวมชาติ โดยเริ่มจาก นโยบายการส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อม การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ได้ใช้นโยบายการเรียนสอง ภาษาในโรงเรียน ท่ีถูกนามาใชเ้ ม่ือปี พ.ศ. 2503 ซึง่ กาหนดใหภ้ าษาองั กฤษเป็นภาษาหลักในการเรียนการสอน เพ่ือใช้เป็นภาษากลางระหว่างประชากรต่างเชื้อ ชาติ บทความน้ีนาเสนอกฎหมายที่เก่ียวกับการศึกษาของ สิงคโปร์ ประกอบด้วยกฎหมายสาคัญ 3 ฉบับ ได้ แก่ Compulsory Education Act, Education Act แ ล ะ Private Education Act โดยแบ่งการนาเสนอออกเปน็ 6 หวั ขอ้ ไดแ้ ก่ ▪ ภาพรวมของระบบการศึกษาของสงิ คโปรต์ ามนโยบายของรัฐบาลสงิ คโปร์ ▪ การศกึ ษาภาคบังคบั ▪ การขึน้ ทะเบยี นโรงเรยี น ▪ การขึ้นทะเบียนสถานศกึ ษาเอกชน ▪ การข้ึนทะเบียนผบู้ ริหารโรงเรียนและครู ▪ หน่วยงานของรัฐทม่ี อี านาจหน้าทที่ ี่เกย่ี วขอ้ ง 2.3.1 กฎหมำยกำรศึกษำหรือระเบียบต่ำง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับกำรศึกษำของประเทศสำธำรณรัฐ สิงคโปร์ ภาพรวมของระบบการศึกษาตามนโยบายการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ได้ให้ ความสาคญั ต่อการศึกษาของประชาชนเปน็ อยา่ งมาก ซง่ึ แสดงรายละเอยี ด ดงั น้ี บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญของสิงคโปร์ที่ได้มีการกาหนดเกี่ยวกับความเท่าเทียมมาตรา 16 แห่งรัฐธรรมนูญ สาธารณรัฐสิงคโปร์กาหนด เรื่อง การให้ความเคารพในการศึกษาโดยไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติ ต่อประชากรของสิงคโปร์ (Citizen of Singapore) ในสถานศกึ ษาของรัฐบนพื้นฐานของศาสนา ชาติพนั ธ์ุ การ สืบเชื้อสาย หรือสถานที่ เกิด โดยเฉพาะอย่างย่ิงในกระบวนการรับนักเรียนเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ หรือการเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษา และการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพ่ือการศึกษาของนักเรียนใน สถานศึกษาใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษาของรัฐหรือไม่ และไม่ว่าจะอยู่ในประเทศสิงคโปร์ หรือนอกประเทศ สงิ คโปร์ การกาหนดใหก้ ลุม่ ศาสนาทุกกลุ่มมสี ิทธทิ ่จี ะก่อต้งั สถาบันเพอ่ื การศึกษาของเด็กและออกคาา ส่ัง ภายใต้ศาสนาตน และบุคคลจะต้องไม่ถูกบังคับให้เข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาทไ่ี ม่ใช่ศาสนาของตนอีกด้วย หากพิจารณาบทบญั ญัตดิ ังกล่าวจะเหน็ ได้วา่ รัฐธรรมนูญไดถ้ กู ตราขึ้นให้สอดคล้องกับลักษณะของประชากรใน ประเทศ ซ่ึงมีความหลากหลายทางด้านเช้อื ชาติและศาสนา โดยศาสนาที่ประชาชนนับถือน้ันมีท้ัง พุทธ ขงจ๊ือ เต๋า คริสต์ อิสลาม และฮินดู รัฐธรรมนูญจึงไม่กาหนดให้มีศาสนาประจาชาติและยังเน้นให้สถาบันการศึกษา เคารพและไมเ่ ลือกปฏบิ ตั ติ อ่ นกั เรียนอีกด้วย

11 นอกจากนี้รัฐบาลสิงคโปร์ก็ยังให้ความสาคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมากเพราะถือว่า ประชาชนเป็นทรัพยากรท่ีสาคัญของประเทศ ในการน้ีรัฐบาลยังได้ให้การอุดหนุนด้านการศึกษาจนเสมือนกับ ว่าโรงเรียน ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนของรัฐบาล ส่วนสถานศึกษาของเอกชนในสิงคโปร์จะมีเฉพาะในระดับ อนุบาลและโรงเรยี นนานาชาติเทา่ นน้ั 2.3.2. กำรศึกษำภำคบังคับของประเทศสำธำรณรฐั สงิ คโปร์ ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ได้มีการกาหนดเกี่ยวกับการศึกษาภาคบงั คับไว้ในการศึกษาภาค บังคบั โดยกาหนดไวว้ ่า เดก็ ที่จะต้องเข้าเรียนการศกึ ษาภาคบังคบั ดังนี้ ▪ เด็กท่ีเกดิ หลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2539 ▪ เปน็ พลเมอื งประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ ▪ มีถน่ิ ท่ีอยใู่ นประเทศสาธารณรฐั สงิ คโปร์ สาหรับการศึกษาภาคบังคับนั้นมีระยะเวลา 10 ปี โดยเริ่มต้ังแต่เด็กอายุ 6 ปี ซึ่งจะต้องเข้า เรียนในโรงเรยี นระดับประถมศึกษาของรฐั (national primary school) อน่ึงผู้ปกครองท่ีไมป่ ระสงค์จะส่งเด็ก เข้าเรียนในโรงเรียนระดับประถมศึกษาของรัฐ จะต้องแจ้งต่ออธิบดีกรมศึกษาธิการถึงเหตุผลที่ไม่ส่งเด็กเข้า เรียนในโรงเรียนดงั กลา่ ว การศึกษาภาคบังคับในสิงคโปร์เม่ือเทียบกับการศึกษาของไทย โดยระบบการศึกษาของ สิงคโปร์ เป็นระบบ 4 : 2 : 4 : 2 ก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษาตอนต้น (4 ปี) ประถมศึกษาตอน ปลาย (2 ปี) มธั ยมศึกษา (4 ป)ี เตรียมอดุ มศกึ ษา (2 ปี) และมหาวทิ ยาลยั คือ ต้งั แต่ระดับประถมศึกษา ช้ันปีที่ 1 ถึงระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 หรือปีที่ 5 ขึ้นอยู่กับหลักสูตรท่ีนักเรียนเลือก โดยการศึกษาในระดับ ประถมศกึ ษาของสงิ คโปร์แบง่ เปน็ 2 ช่วง ไดแ้ ก่ ชว่ งประถมตอนตน้ และ ประถมศึกษำตอนปลำย ซง่ึ เรยี กว่า Foundation Stage โดยนักเรียนจะเรียน 3 วิชาหลัก คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาที่พูดมาแต่กาเนิด และ คณิตศาสตร์ นอกจากนั้น จะมีวิชาดนตรี ศิลปหัตถกรรม หน้าที่พลเมือง สุขศึกษา สังคมศึกษา และพลศึกษา และชว่ งประถมปลำย คอื ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ถึงปที ่ี 6 ซง่ึ เรยี กว่า Orientation Stage ในชว่ งน้ี นักเรยี นจะ ถูกแยกเรียนตามกลุ่มทางภาษาโดยขึ้นอยู่กับความสามารถทางภาษาของแต่ละคน เม่ือสาเร็จการศึกษาช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 6 แล้ว นักเรียนต้องผ่านการสอบท่ีเรียกว่า Primary School Leaving Examination (PSLE) เพื่อที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา จึงถือได้ว่าผลการสอบ PSLE นั้นมีส่วนสาคัญอย่างย่ิงต่อ การเลอื กศกึ ษาต่อระดับมธั ยมศึกษาของนักเรยี น การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาในสิงคโปร์มี 3 หลักสูตรให้นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ตาม ความสามารถและความสนใจ คือ แบบเรง่ รัด (Express) ซ่งึ เป็นหลักสตู ร 4 ปี ส่วนแบบธรรมดำสำยวิชำกำร (Normal-Technical) เปน็ หลักสูตร 5 ปี เม่ือจบการศึกษาระดบั มัธยมศึกษาแล้ว นกั เรยี นจะตอ้ งทาการสอบ เพ่ือให้ได้ใบประกาศนียบัตร จากนั้นผู้ท่ีสนใจเรียนสายวิชาชีพเทคนิค หรืออาชีวศึกษา ก็สามารถแยกไปเรียน ตามสถาบันต่าง ๆ ได้ส่วนผู้ท่ีต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย จะต้องเข้าศึกษาต่อใน Junior College อีก 2 ปี เมื่อจบแล้วจะต้องสอบ GCE \"A\" Level (The Singapore-Cambridge General Certificate of Education Advanced Level) เพื่อนาผลคะแนนไปใช้ตัดสินการเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ผู้ปกครองท่ีไม่ส่งเด็กเข้ารับการศึกษาภาคบังคับจะมีความผิดตาม Compulsory Education Act เว้นแต่จะ ได้รับการยกเว้น หรือแสดงเหตุผลให้เป็นท่ีประจักษ์ว่าเหตุใดจึงไม่ส่งเด็กเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนระดับ

12 ประถมศึกษาของรัฐ ซ่ึงบทลงโทษของผู้กระทาความผิดภายใต้มาตรา 3 (2) คือ โทษไม่เกิน 5,000 ดอลลาร์ สิงคโปร์ หรือจาคุกไม่เกิน 12 เดือน หรือทั้งจาท้ังปรับ ซึ่งบทลงโทษท่ีรุนแรงดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความ เอาจริงเอาจังตอ่ การศกึ ษาของประเทศสงิ คโปร์ 2.3.3. กำรขน้ึ ทะเบยี นโรงเรยี นสังกัดรัฐของประเทศสำธำรณรฐั สงิ คโปร์ ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์มีความเข้มงวดในการจัดต้ังโรงเรียน จึงได้ออกกฎหมาย Education Act ซ่ึงมีเน้ือหาสาคัญ คือ กาหนดบทบัญญัติท่ีเก่ียวข้องกับการขึ้นทะเบียนโรงเรียนในสิงคโปร์ การนาเสนอในหัวขอ้ นแ้ี บ่งออกเปน็ 3 ดา้ น ดงั นี้ คำนยิ ำมตำมกฎหมำย โดย Education Act ระบนุ ยิ ามวา่ \"โรงเรียน\" หมายถงึ องค์กร หรือ สถานท่ีทีม่ ีการให้การศึกษาแกค่ นตั้งแต่ 10 คนขน้ึ ไป ไม่วา่ จะอย่ใู นชนั้ เรยี นเดยี วหรอื หลายช้นั เรยี น นอกจากนี้ ยังจากัดการใช้คาศัพท์คาว่า \"โรงเรียน\" \"มหาวิทยาลัย\" \"วิทยาลัย\" และ \"สถาบันการศึกษา\" หรือคาศัพท์ใด ๆ ท่ีกาหนด โดยรัฐมนตรีและประกาศในรัฐกิจจานุเบกษา ไม่ว่าจะในภาษาใดก็ตาม หรือคาศัพท์ใดท่ีบ่งช้ีว่า บุคคล หรือองค์กรให้การศึกษา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากอธิบดีศึกษาธิการ ( Director-General of Education) ผใู้ ดฝ่าฝนื จะมโี ทษปรับไม่เกิน 20,000 ดอลลารส์ ิงคโปร์ หรอื จาคกุ ไม่เกิน 12 เดือน หรอื ท้ังจาทั้ง ปรับในกรณีท่ีเป็นการข้ึนทะเบียนโรงเรียนท่ีไม่ใช่โรงเรียนรัฐบาล ผู้ที่ต้องการจะเป็นผู้บริหารโรงเรียนจะต้อง ยื่นเรื่องต่ออธิบดี โดยอธิบดีฯ มีอานาจท่ีจะขึ้นทะเบียนโรงเรียนนั้น ๆ แต่หากปฏิเสธการขอข้ึนทะเบียน โรงเรยี นใด จะต้องใหเ้ หตุผลกากับทกุ ครงั้ เงื่อนไขในกำรข้ึนทะเบียนโรงเรียน โดยโรงเรียนท่ีสามารถขึ้นทะเบียนได้ จะต้องไม่เข้าข่าย โรงเรียนที่มีลักษณะ ดังน้ี 1) อยู่ในพ้ืนทที่ มี่ ีสถานศกึ ษาเพยี งพออย่แู ลว้ 2) สถานท่ีจะก่อตั้งโรงเรียนถูกจัดเป็นอาคารที่มีความเสี่ยงภัยหรือไม่ม่ันคงหรือมีความเป็นไป ได้ท่ี โครงสรา้ งของอาคารจะไมเ่ หมาะสาหรับใชเ้ ป็นโรงเรยี น 3) สถานท่จี ะกอ่ ตง้ั โรงเรียนมีมาตรการป้องกนั อัคคีภยั ไม่เพียงพอ 4) สถานที่จะก่อต้ังโรงเรียนนั้นไม่ถูกสุขอนามัยหรือไม่เหมาะสมด้วยเหตุผลของสุขภาพในการใชส้ ถานท่ี เปน็ โรงเรียน 5) สถานท่ีพักผ่อนนอกอาคารสาหรบั นกั เรียนน้ันมีไม่พอ 6) โรงเรยี นทขี่ อจดทะเบยี นน้ันไม่เปน็ ไปตามกฎระเบียบทก่ี าหนดภายใตร้ ัฐบัญญัติน้ี 7) ค่าเล่าเรียนท่ีนาเสนอสูงเกินไป เม่ือเทียบกับค่าใช้จ่ายในการบริหารโรงเรียนและมาตรฐานการศึกษา ท่ีจะให้แกน่ กั เรยี น 8) คุณสมบัติและประสบการณ์ของครูทจี่ ะสอนไมเ่ พยี งพอ 9) ค่าตอบแทนของครูท่นี าเสนอน้นั ไม่เพียงพอในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 10) มีแผนทีจ่ ะรองรบั นักเรียนจานวนมากกว่า 1,200 คน ในหนง่ึ วชิ า 11) คณะกรรมการโรงเรยี นอาจไม่สามารถบริหารโรงเรยี นได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 12) ผู้บริหารโรงเรียนมีความไม่เหมาะสมทีจ่ ะบรหิ าร

13 13) โรงเรยี นทข่ี อขึ้นทะเบียนเคยถูกปฏิเสธการขอข้ึนทะเบียน หรอื เคยถกู ถอดใบอนญุ าต ภายใตก้ ฎหมาย Education Act หรือกฎหมายก่อนหนา้ นท้ี ีเ่ ก่ียวข้องกบั การขน้ึ ทะเบียนโรงเรียน 14) มีความเป็นไปได้ท่ีโรงเรียนดังกล่าวจะถูกใช้เพ่ือวัตถุประสงค์ที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของ สงิ คโปร์ หรือของสาธารณะ 15) มีความเป็นไปได้ท่ีโรงเรียนดังกล่าวจะถูกใช้เพ่ือส่ังสอนสิ่งท่ีเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของ สาธารณะ หรือของนักเรยี น 16) มีความเปน็ ไปไดท้ โ่ี รงเรียนดังกล่าวจะถูกใชเ้ ปน็ สถานทีน่ ัดพบขององคก์ รผดิ กฎหมาย 17) ช่ือโรงเรยี นที่ขอขึ้นทะเบียนขัดกับผลประโยชนข์ องสิงคโปร์ 18) ใบขอข้นึ ทะเบยี น หรือเอกสารทีใ่ ช้ประกอบขอข้ึนทะเบียนมีการให้ข้อมลู ทเ่ี ปน็ เทจ็ หรือไม่ครบถว้ น การข้ึนทะเบียนโรงเรียนในสิงคโปร์ค่อนข้างรัดกุม โดยอธิบดีฯ สามารถปฏิเสธการ ขอขึ้นทะเบียนโรงเรียนได้บนหลายฐาน ตั้งแต่คุณภาพของตัวอาคาร ครู ผู้บริหารโรงเรียน ค่าเล่าเรียน หรือ แม้กระทั่งช่ือโรงเรียน ในบางกรณี อธิบดี ฯ สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินว่าโรงเรียนที่ขอขึ้นทะเบียนน้ัน จะกระทบต่อผลประโยชน์สาธารณะ หรือผลประโยชน์ของสิงคโปร์อย่างไร ซ่ึงสะท้อนว่าภาครัฐมีการควบคุม โรงเรยี นในประเทศอยา่ งจริงจัง กำรอุทธรณ์ ผู้ขอขึ้นทะเบียนโรงเรียนไม่เห็นด้วยกับคาตัดสินของอธิบดีฯ สามารถทา หนังสืออุทธรณ์เป็นสาเนา 2 ฉบับ ยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือคณะกรรมการอุทธรณ์ (Appeal Boards) แล้วแต่กรณี โดยต้องย่ืนผ่านอธิบดีฯ หลังจากได้รับหนังสืออุทธรณ์แล้ว รัฐมนตรีฯ หรือ เลขานุการของคณะกรรมการอทุ ธรณจ์ ะต้องแจ้งผยู้ ่ืนหนงั สืออุทธรณ์และอธิบดฯี ลว่ งหน้า 14 วนั กอ่ นถงึ วันที่ จะพิจารณาเรื่องอุทธรณ์ โดยคาตัดสินของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือคณะกรรมการอุทธรณ์น้ัน ถือเป็นท่ีส้ินสุด โดยคาตัดสินดังกล่าวจะถูกส่งให้อธิบดีศึกษาธิการ ซ่ึงจะแจ้งผลคาตัดสินต่อผู้ยื่นหนังสือ อทุ ธรณ์เป็นลายลกั ษณ์อกั ษรต่อไป กำรข้ึนทะเบียนโรงเรียนสังกัดเอกชนของประเทศสำธำรณรัฐสิงคโปร์ ซ่ึงกิจการ สถานศึกษาเอกชนเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในสิงคโปร์สังเกตได้จากจานวนสถาบันการศึกษา ต่างประเทศที่เขา้ ไปเปิดกิจการในประเทศสงิ คโปร์ไมว่ ่าจะเปน็ โรงเรียนสอนวชิ าความรู้ท่ีเปน็ วิชาการ และที่ไม่ เป็นวิชาการ รวมไปถึงศูนย์รับเลี้ยงเด็ก เป็นต้น รัฐบาลสิงคโปร์จึงได้ออกกฎหมาย Private Education Act เพอ่ื จัดระเบียบสถาบนั การศึกษาเอกชนเหล่านี้ ข้ันตอนและเงื่อนไขกำรขึ้นทะเบียน โดยการกาหนดให้บุคคลใดก็ตามท่ีต้องการประกอบ ธุรกิจการศึกษาในสิงคโปร์ หรือให้ใบประกาศนียบัตร วุฒิบัตร หรือปริญญาบัตรท่ีเกี่ยวกับการศึกษา จะต้อง ข้ึนทะเบียนเป็นสถาบันการศึกษาเอกชน หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ นอกจากนี้ สภาการศึกษาเอกชน (Council of Private Education) สามารถสั่งปิดสถานศึกษาดงั กล่าไดโ้ ดยใช้กาลงั หรอื ปิดทางเขา้ -ออกสถานทีด่ ังกล่าวได้ การขอข้ึนทะเบียนสถาบันการศึกษาเอกชนจะต้องกระทาโดยผู้บริหารของ สถาบันการศึกษาเอกชนดังกล่าว โดยย่ืนเรื่องขอขึ้นทะเบียนต่อสภาการศึกษาเอกชน ซึ่งอาจพิจารณาปฏิเสธ คาขอข้ึนทะเบยี น ของสถาบนั การศึกษาเอกชนดงั กล่าวได้ บนฐาน ดังตอ่ ไปน้ี 1) สถาบันการศกึ ษาเอกชนน้ันไม่ไดจ้ ดทะเบยี นเป็นบรษิ ัทหรือองค์กร

14 2) สถานท่ีต้ังของสถาบันการศึกษาน้ัน ไม่เหมาะสมท่ีจะเป็นสถาบันการศึกษาเอกชนไม่ถูกสุขอนามัย หรือไม่ปลอดภัย ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์อ่ืนนอกเหนือจากให้การศึกษาเอกชนหรือไม่เป็นไปตามที่ กฎหมายกาหนดไว้ 3) มากกว่ากึ่งหน่ึงของครู หรือผู้ที่จะมาเป็นครูในสถาบันการศึกษาเอกชนนั้นขาดคุณสมบัติหรือ ประสบการณ์ขน้ั ต่า หรอื มีความไมเ่ หมาะสมท่ีจะสอนในสถาบนั การศึกษาเอกชน 4) ใบขอขึ้นทะเบียน หรือเอกสารที่ใช้ประกอบการขอขึ้นทะเบียนมีข้อความท่ีเป็นเท็จ หรือมีข้อมูลไม่ ครบถว้ น 5) สถาบนั การศึกษาเอกชน หรือผูบ้ รหิ ารสถาบันการศึกษาเอกชนฝ่าฝนื บัญญัตภิ ายใต้กฎหมาย Private Education Act หรือเคยถูกตัดสินว่ากระทาความผิดภายใต้รัฐบัญญัตินี้ หรือเคยถูกตัดสินว่ามี ความผิดฐานทจุ ริต หรือฉ้อโกง ภายในระยะเวลา 5 ปี กอ่ นการยืน่ ขอข้ึนทะเบียน 6) ผบู้ ริหาร หรือผทู้ ่จี ะเปน็ ผู้บรหิ ารของสถาบนั การศกึ ษาเอกชนมีความไมเ่ หมาะสม 7) สภาการศึกษาเอกชนเห็นว่าชื่อของสถาบันการศึกษาเอกชนอาจชักจูงให้เกิดความเข้าใจผิดต่อ ลักษณะหรือวัตถุประสงค์ของสถาบันการศึกษาเอกชนนั้น หรือมีความเหมือนหรือซ้า กับชื่อ สถานศึกษาอ่ืนหรือสถาบนั การศึกษาเอกชนท่ีมีอย่แู ลว้ หรือเปน็ ชอ่ื ที่หยาบคายหรือเป็นช่ือที่รฐั มนตรี มคี าสั่งไม่ให้รบั ขนึ้ ทะเบียน เม่ือได้รับการขึ้นทะเบียนและได้ดาเนินกิจการไปสักระยะหน่ึง สถาบันการศึกษาเอกชนน้ัน อาจถูกตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบโรงเรียน (inspector) ซ่ึงแต่งต้ังโดยสภาการศึกษาเอกเป็นผู้ตรวจสอบ โรงเรียนมีอานาจในการเข้าไปยังสถานท่ีตั้งสถาบันการศึกษาเอกชน ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อว่ามีหลักฐานการ กระทาผิดภายใต้รัฐบัญญัติน้ี และอาจค้น ยึด และเอาหนังสือ เอกสาร วัตถุ หรือทาสาเนาหากเห็นว่าจาเป็น ขอให้บุคคลท่ีเช่ือว่าได้กระทาความผิดส่งหลักฐานให้หรือออกคาส่ังเป็นลายลักษณ์อักษรให้บุคคลใด ๆ ใน สงิ คโปร์ให้ข้อมูลเก่ียวกบั การกระทาผดิ น้นั เป็นตน้ กำรขออนุญำตประกอบกิจกรรมในสถำนศึกษำเอกชน โดยการกาหนดให้สถานศึกษา เอกชนตอ้ งขึ้นทะเบียนแล้ว บางกจิ กรรมในสถานศึกษาเอกชน เชน่ รา้ นอาหาร สื่อสง่ิ พมิ พก์ ็ต้องขอใบอนุญาต ด้วย โดยขึน้ อยูก่ บั ประเภทของสถานศึกษา 2.3.4. กำรขน้ึ ทะเบยี นผบู้ ริหำรโรงเรยี นและครู การกาหนดใหม้ ีการขน้ึ ทะเบยี นผูบ้ รหิ าร (manager) โรงเรยี น และยงั ห้ามไม่ให้บคุ คลใดสอน หรอื ถูกจ้างเปน็ ครูในโรงเรียนหากไมไ่ ดข้ น้ึ ทะเบียนเป็นครูหรอื ได้รับอนญุ าตใหส้ อนภายใต้รัฐบัญญัติ ดงั นี้ คุณสมบัติของผู้ท่ีสำมำรถขึ้นทะเบียนผู้บริหำรโรงเรียนและครู ผู้ท่ีต้องการข้ึนทะเบียน เป็นผู้บริหารโรงเรียนจะต้องไม่เข้าข่ายคุณสมบัติต้องห้ามตามมาตรา 33 แห่ง Education Act ซ่ึงให้อธิบดีมี อานาจในการปฏิเสธการข้ึนทะเบยี นผู้บริหารโรงเรยี น บนฐาน ดงั ต่อไปนี้ 1) เปน็ บคุ คลทีก่ ระทาผิดในเขตอานาจศาลสิงคโปร์ หรอื มาเลเซีย หรอื ประเทศในเครือสหราชอาณาจักร และเป็นการกระทาผิดท่ีลงโทษด้วยการจาคุก โดยการกระทาผิดน้ันเกี่ยวกับการศึกษา หรือการข้ึน ทะเบียนโรงเรียน หรือภายใต้กฎหมายทใี่ กลเ้ คียงกันของมาเลเซยี

15 2) เป็นบุคคลที่เคยได้รับการปฏิเสธการขึ้นทะเบียนเป็นผู้บริหารของโรงเรียน หรือถูกยกเลิกการขึ้น ทะเบียน ไม่ว่าจะภายใต้รัฐบัญญัติน้ี หรือกฎหมายก่อนหน้าที่ถูกยกเลิกไปแล้วที่เกี่ยวกับการศึกษา หรอื การข้นึ ทะเบียนโรงเรียน 3) เป็นบคุ คลทม่ี ลี กั ษณะไม่เหมาะสมทีจ่ ะเป็นผู้บริหารโรงเรียน 4) เป็นบุคคลทไ่ี ม่มปี ระสบการณ์ ความรู้ ความเช่ียวชาญทจ่ี ะจัดการโรงเรียน 5) เปน็ บคุ คลที่เคยให้ข้อมูลเท็จในการขอข้นึ ทะเบียนเป็นผบู้ รหิ ารโรงเรียนหรือครู 6) การขนึ้ ทะเบียนบุคคลดังกลา่ วจะกระทบต่อผลประโยชน์ของสาธารณะ หรอื ของนักเรียน คุณสมบตั ิต้องหำ้ มของบคุ คลท่ตี ้องกำรขน้ึ ทะเบยี นเป็นครู การกาหนดให้อธิบดีมอี านาจในการปฏิเสธการขึน้ ทะเบียนครู มรี ายละเอียด ดังนี้ 1) เป็นบุคคลทม่ี ีลักษณะไมเ่ หมาะสม 2) เป็นบุคคลทก่ี ระทาผิดในเขตอานาจศาลสิงคโปร์ หรอื มาเลเซยี หรือประเทศในเครือสหราชอาณาจักร และเป็นการกระทาผิดที่ลงโทษด้วยการจาคุก โดยการกระทาผิดน้ันเกี่ยวกับการศึกษา หรือการขึ้น ทะเบยี นโรงเรียน หรือภายใต้กฎหมายใกลเ้ คียงกันของมาเลเซยี 3) เป็นบุคคลท่ีเคยได้รับการปฏิเสธการข้ึนทะเบียนเป็นครู หรือถูกยกเลิกการขึ้นทะเบยี นไม่ว่าจะภายใต้ รัฐบัญญัตินี้ หรือกฎหมายก่อนหน้าท่ียกเลิกไปแล้วที่เกี่ยวกับการศึกษาหรือการข้ึนทะเบียนโรงเรียน หรอื กฎหมายใดของมาเลเซยี ทีม่ บี ทบัญญัติทใ่ี กลเ้ คียง 4) เป็นบุคคลท่ีเคยถูกยกเลิกการข้ึนทะเบยี น ไม่ว่าจะภายใต้รัฐบัญญัตนิ ้ี หรอื กฎหมายก่อนหน้าท่ียกเลิก ไปแล้วท่ีเกี่ยวกับการศึกษา หรือการข้ึนทะเบียนโรงเรยี น หรือกฎหมายใดของมาเลเซียท่ีมีบทบัญญัติ ท่ีใกล้เคียง เวน้ แต่ การยกเลิกการขน้ึ ทะเบียนนั้น จะเปน็ ผลจากการลาออกหรือโรงเรียนปดิ ตัวลง 5) เป็นบุคคลท่ีไมผ่ ่านการตรวจร่างกายโดยแพทย์ประจาโรงเรียน 6) เปน็ บคุ คลทเี่ คยให้ข้อมลู เท็จในการขอขึน้ ทะเบยี นเป็นครู 7) เปน็ บุคคลท่มี แี นวโน้มท่ีจะมีอทิ ธิพลที่ไมด่ ตี ่อนักเรียน หรอื ที่ขดั ต่อผลประโยชนส์ าธารณะ 8) เปน็ บคุ คลที่ไม่มีคณุ สมบัตขิ ั้นต่าตามที่กฎหมายกาหนด กำรอทุ ธรณต์ อ่ คำตดั สิน การอุทธรณต์ อ่ คาตัดสินเหมือนกับกรณีการอทุ ธรณค์ าตัดสนิ ของอธิบดีศึกษาธกิ าร ตอ่ การขอ ข้ึนทะเบียนโรงเรียน จะเห็นไดว้ า่ การข้นึ ทะเบยี นเปน็ ผู้บริหารโรงเรยี น และการขน้ึ ทะเบยี นครูในสงิ คโปร์น้ันมี ความเข้มงวดเป็นอย่างมาก โดยกาหนดห้ามบุคคลที่เคยกระทาผิดกฎหมาย หรือเคยถูกปฏิเสธการขอข้ึน ทะเบียนในประเทศมาเลเซีย มาข้ึนทะเบียนเป็นผู้บริหารโรงเรียน หรือครูในสิงคโปร์ด้วยซึ่งน่าจะเป็นผลมา จากการที่ระบบการศึกษาของท้ังสองประเทศล้วนได้รับอิทธิพลมาจากอังกฤษจึงมีมาตรฐานที่คล้ายกัน การท่ี บุคคลใด ถูกปฏิเสธการขอข้ึนทะเบียนเป็นผู้บริหารโรงเรียน หรือครูในมาเลเซีย จึงมีแนวโน้มที่จะมีคุณสมบัติ ไมเ่ หมาะสมที่จะเป็นผู้บริหารโรงเรียน หรือครูในสิงคโปรเ์ ช่นเดยี วกนั 2.4) ระบบประกันคณุ ภำพกำรศึกษำของประเทศสำธำรณรัฐสิงคโปร์

16 วิสัยทัศน์ทางการศึกษาของสิงคโปร์กรอบวิสัยทัศน์ด้านการศึกษาของสิงคโปร์ที่สร้างข้ึนเพื่อ เตรียมประเทศให้พร้อมเข้าสู่ศตวรรษท่ี 21 ประกอบด้วยวิสัยทัศน์ 4 อย่างท่ีสมั พันธต์ ่อกนั ไดแ้ ก่ (1) วิสยั ทัศน์ เพ่ือประเทศชาติโดยรวม (2) วิสัยทัศน์เพ่ือการศึกษาของชาวสิงคโปร์ (3) วิสัยทัศน์เพ่ือเปลี่ยนแปลงโรงเรียน และ (4) วิสัยทัศน์เพื่อสร้างความรว่ มมือ ซึ่งก็คือชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชพี ท่ีจาเป็นต่อการเปลย่ี นแปลง การหลอมรวมวิสัยทัศน์เหล่านี้เองท่ีจะใช้เป็นหลักประกันที่จะทาให้แนวทางการเปล่ียนแปลงของสิงคโปร์นี้ กลายเป็นแบบอย่าง วิสัยทัศน์เหล่านี้จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในแนวปฏิบัติซ่ึงเป็นท่ี ยอมรับกันมาก่อนช่วยสร้างมุมมองใหม่ให้ประเทศอ่ืนนาไปพิจารณาถ้าจะคิดเปลี่ยนแปลงเพ่ือมุ่งสู่ศตวรรษที่ 21 กรอบวสิ ัยทศั น์ทางการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ ดงั นี้ ดังภาพที่ 10 วิสัยทศั น์ที่ 1 วสิ ัยทศั น์เพอ่ื ชาติ โรงเรียนนักคิด ประเทศแห่งการเรียนรู้ วสิ ยั ทศั น์ท่ี 2 วิสัยทศั นเ์ พื่อการศึกษา สอนใหน้ อ้ ยลง เรียนรใู้ หม้ ากข้นึ วิสัยทัศนท์ ่ี 3 วสิ ัยทศั น์เพ่ือการปฏบิ ัติ กลยทุ ธต์ ึงสลบั หย่อน วสิ ยั ทัศน์ที่ 4 วิสัยทัศน์เพื่อความร่วมมือ ชุมชนการเรยี นรู้ทางวิชาชพี ภาพที่ 10 กรอบวสิ ัยทศั น์ทางการศกึ ษาของประเทศสาธารณรฐั สิงคโปร์ 2.4.1. ข้อมูลท่ัวไปท่ีเก่ียวข้องกับระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำของประเทศ สำธำรณรัฐสิงคโปร์ จุดแข็งของกำรศกึ ษำของประเทศสำธำรณรฐั สงิ คโปร์ คอื กระทรวงศกึ ษาธกิ ารมีอานาจจัด วางแนวทางการสอนและการประเมินผล และควบคุมให้เป็นไปตามท่ีกาหนดอย่างเคร่งครัด ดาเนินการ สม่าเสมอ ทาให้สถานศึกษามีคุณภาพทัดเทียมกัน นอกจากน้ีประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์เป็นประเทศท่ีเห็น ความสาคัญของทรัพยากรบุคคลเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนเป็นทรัพยากรท่ีสาคัญและมีคุณค่าที่สุดของสิงคโปร์ ดังน้ันสิงคโปร์จึงให้ความสาคัญกับการศึกษามาก ซ่ึงจะเห็นได้จาก ค่าเล่าเรียนท่ีต่ามากในการศึกษาระดับ อนุบาลจนถงึ ระดบั มัธยม เพือ่ สนบั สนุนใหท้ กุ คนไดม้ ีโอกาสไดศ้ ึกษาเลา่ เรียน โดยสงิ คโปร์จัดการศกึ ษาโดยมอง พ้ืนฐานการตลาดของประเทศท่ีเป็นประเทศอุตสาหกรรม เม่ือนามาผูกติดกับการศึกษา การผลิตบุคลากรจึง คานึงถึงความสอดคล้องกับตลาดแรงงานเป็นอย่างมาก สิงคโปร์มุ่งผลิตบุคลากรในระดับ Polytechnic เป็น

17 หลัก ทุกคนท่ีจบออกมาจะมีงานรองรับและเป็นท่ีต้องการของบริษัท และสิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่เห็น ความสาคญั ของการฝึกอบรม (Training) เป็นอยา่ งยิ่ง สาหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ มีมุมมองการจัด การศึกษาที่น่าสนใจ เช่น การเลือกที่ต้ังของสถานศึกษาให้เหมาะสมกับการศึกษานั้นๆ เช่น มหาวิทยาลัยท่ี เกี่ยวกับการบริหารการจัดการ (Singapore Management University: SMU) ก็จัดตั้งอยู่ในย่านเศรษฐกิจ (Orchard Road) เพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นบรรยากาศของการทาธุรกิจ เห็นการแข่งขันทางการค้าจริงๆ ในการเรียนการสอนจะเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกคิดและปฏิบัติเอง เพื่อให้เกิดความรู้สึกสนุกสนานไปกับการเรียน เพือ่ ให้ผเู้ รียนเกิดความสนใจในการเลา่ เรยี นมากขน้ึ ฯลฯ นอกจากนั้นการนาหอ้ งสมดุ แห่งชาติ (National Library) เข้าไปอยใู่ นห้างสรรพสนิ คา้ ถอื ได้ ว่าเปน็ เป็นอีกยทุ ธศาสตร์ท่ีน่าสนใจ เพราะสถานท่เี หลา่ น้ันคือแหล่งรวมของเยาวชน การนาแหล่งความรู้มาไว้ ใกล้ๆ จะเปน็ การเอื้อให้กลุ่มเปา้ หมายเข้ามาใช้บริการได้ง่ายและสะดวกขึน้ รวมถงึ การคิดที่เป็นระบบ มองทุก อย่างในภาพรวมของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ ถือเป็นจุดเด่นของประเทศนี้ ตั้งแต่การวางผังเมือง จุดของ ห้างสรรพสนิ ค้า แนวของรถไฟที่จะวิ่งผ่าน จุดติดต้งั กล้องเพอื่ รักษาความปลอดภยั ทาให้นักท่องเที่ยวม่ันใจใน สวัสดิภาพ การจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับระบบการตลาดของประเทศโดยไม่ละเลยเรื่องทาเลที่ตั้งและการ เข้าถึงของกลุ่มเป้าหมาย สิงคโปร์เป็นประเทศท่ีทาใหผ้ ู้ไปเยอื นได้เห็นว่าไม่มีทรัพยากรใดจะยิ่งใหญ่และสาคัญ ไปกวา่ “ทรพั ยากรบคุ คล” จากประสบการณ์ท่ีผ่านมาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ ได้ให้ความสาคัญและได้มี การพยายามให้เกิดปรากฏการณ์ โดยกล่าวถึงวิธีการต่าง ๆ เพ่ือให้ความสมดุลของการประกันคุณภาพ ว่า จาเป็นต้องให้มีคุณภาพ ความเช่ือม่ันและความต้องการความหลากหลายของการศึกษาและนวัตกรรม เพื่อ สง่ เสริมความหลากหลายและนวตั กรรมทร่ี ฐั บาลพยาบาลที่จะกระจายอานาจของตนให้กับ โรงเรยี น แต่ในทาง กลับกัน การประกันคุณภาพการศึกษาท่ีได้รัฐบาลได้กาหนดขึ้น จากโครงสร้างคุณภาพที่เป็นศูนย์ร่วมของ การควบคุมของรัฐบาล จากขอ้ มูลทไี่ ด้บนั ทึกไวน้ ้จี ะสามารถตรวจสอบผลกระทบดังกลา่ วของกลยุทธแ์ ละความ ท้าทายที่โรงเรียนแถวหน้า ในการนากระบวนทัศน์ใหม่ของความหลากหลายและนวัตกรรม ในขณะท่ีความถึง พอใจของการประกันคุณภาพท่ีเป็นกุญแจสาคัญหรือปัจจัยสาคัญ คือ โรงเรียน การประเมินตนเอง คุณภาพ นวัตกรรม และความหลากหลาย (Keywords School, Excellence- Self-appraisal, Quality, Innovation, Diversity) มีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในด้านของระเบียบวินัยทางการเมืองและเศรษฐกิจ เป็นประเทศที่ไม่มี ทรัพยากรทางธรรมชาติมแี ต่ทรัพยากรมนษุ ย์ ดงั น้นั เขาจึงเร่งเหน็ ความสาคญั เนื่องจากเปน็ ทรัพยากรหลัก การ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความฉลาดและมีนโยบายเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการเจริญเติบโตของ ประเทศ เพราะนอกเหนือจากมนุษย์แล้วไม่มีแหล่งธรรมชาติอ่ืน ๆ ในพื้นที่ของประเทศนอกจากแผ่นดิน เล็กน้อยแล้วด้านหลังก็เป็นฝังทะเลหรือการทาการเกษตร การดารงชีวิตส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับองค์กรและการ ทางานอย่างหนัก ดังน้ันเขาจึงเร่งเห็นว่าการทท่ี าให้มนุษย์มีความฉลาดและมีความสามารถของชาวสิงคโปร์จะ ทาให้ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วได้ทุกคร้ังที่มีการเปล่ียนแปลงสภาพแวดล้อม เป็นการชดเชยการขาดแคลนของ ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ (รัฐบาล) ให้ความสาคัญในปัจจัยขอมนุษย์ โดยมีนโยบาย

18 ในการออกแบบให้มีผลต่อพฤติกรรมของประชาชนและเพื่อเพ่ิมศักยภาพรายบุคคลและการสนับสนุนของ ประเทศ แตใ่ นปจั จบุ นั เปน็ ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ ได้รับการประสบความสาเรจ็ ในช่วงเวลาที่ผ่าน มาว่าสามารถปรับตัวเองได้ดีกับการแข่งขันในศตวรรษท่ี 21 เพิ่มมากข้ึนในด้านความอยู่รอดของประเทศจะ ขึน้ อยกู่ บั ประชาชนของพวกเขา วา่ พวกเขาไดเ้ พิ่มความร้คู วามสามารถทางด้านการศึกษากันตลอดเวลาในช่วง ระยะท่ีผ่าน และวิธีการเป็นวิธีการท่ีได้รับการยอมรับจากทั่วโลก นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ให้ความสาคัญใน การแข่งขันทางการศึกษาและเศรษฐกิจในยุคโลกาภิวัตน์ ซ่ึงเป็นส่ิงสาคัญในอนาคต จากเวลาท่ีผ่านมา การศึกษาในระบบจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ Tharman Shanmugaratnam ได้กล่าววา่ “เรามีระบบการศึกษาที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ เป็นระบบท่ีรู้จักกันดีสาหรับระดับสูง ของผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของนักเรียนของเราในทุกหลักสูตร ท่ีเรานาเสนอของประเทศเรา นักเรียนมีจุดมุ่งหมายท่ีสูง และทาได้ดี โดยการเปรียบเทียบระหว่างประเทศอยู่ในระดับท่ีดีมากท่ีสุด จะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมาเราได้ เร่ิมต้น การจัดข้ันตอนระบบการศึกษาของเราที่จะช่วยให้เด็กเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับความท้าทาย ของการแข่งขันมากขึ้น และในการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอนาคตการศึกษาท่ีจะพัฒนาขึ้น ขณะนี้มี การเตรียมความพรอ้ มสาหรบั การทางานในอนาคต ซ่ึงจะแตกตา่ งจากท่ผี ่านมา ถา้ เราคิดวา่ เรากาลงั ทาสง่ิ ทเี่ ราตอ้ งทาเพราะมีการทางานในอดีตท่ผี ่านมา จากการเปล่ยี นแปลงท่ีเกดิ ขึ้นรอบตัวเรา” ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพของการศึกษาอยู่ในกลุ่มดีท่ีสุดในโลก อย่างไรกต็ ามโครงสรา้ งท่ีสม่าเสมอและเข้มงวดเกินไปผลักดันทาใหช้ าวสิงคโปร์พฒั นาและเพิ่มความสามารถท่ี หลากหลาย หากเราสามารถสรา้ งสภาพแวดล้อมทท่ี าใหเ้ กิดความพยายามสร้างสรรคน์ วัตกรรมในยุคท่ีมีความ หลากหลาย ปรากฏว่าในปัจจุบันการประกันคุณภาพเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) 2 ท่ีส่งเสริมให้การศึกษาที่มีคุณภาพ ถูกมองว่าเป็นแหล่งสาคัญของ ความสามารถในการแข่งขันท่ีจะเก็บรักษาไว้ สิงคโปร์จะหลีกเล่ียงความแตกต่างในมาตรฐานการศึกษา ระหว่างโรงเรียนสาหรับผู้มีสิทธิพิเศษสาหรับเข้ารับการศึกษาที่จะทาให้บรรลุมาตรฐานระดับสูงของ ความสามารถ จึงบรรลุมาตรฐานระดับสูงของความสามารถทาให้มีวงกว้าง ชาวสิงคโปร์ที่เข้าสู่การศึกษาหลัง ระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาที่มีคุณภาพมีสัดส่วนท่ีมาก ความจริงท่ีว่าพ้ืนฐานของสิงคโปรใ์ นการทางานท่ี ดีท่ีช่วยให้สามารถมองไปข้างหน้า สามารถหาช่องว่างที่จาเป็นต้องปิดให้กาหนดทิศทางใหม่และก้าวไป ขา้ งหน้า ด้วยความมัน่ ใจ ดังนั้นการประกันคุณภาพกับแนวคิดของมาตรฐานการปฏิบัติงาน และความเป็นเลิศของ โรงเรียนเป็นส่ิงสาคัญ ควบคุมมาตรฐานในการศึกษา คือการดาเนินธุรกิจทุกครั้งและเกี่ยวข้องซ่ึงกันและกัน ทาให้เกิดภาระผูกพัน โรงเรียนมีความรับผิดชอบแก่ผู้ปกครองและชุมชนในการจัดหาโปรแกรมท่ีดีท่ีสุดและมี 2 ปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) คือ เคร่ืองจักร (machine) ที่มีกลไกที่มีความสามารถใน การทาความเข้าใจ เรียนรู้องค์ความรู้ต่างๆ เช่น การรับรู้ การเรียนรู้ การให้เหตุผล และการแก้ปัญหาต่างๆ เป็นต้น

19 คุณภาพสงู ของการศึกษาให้กับนักเรยี นของพวกเขา ผู้ปกครองเดก็ ตอ้ งการโรงเรยี นของเขาจะต้องเป็นโรงเรียน ท่ีดี เด็กทุกคนมีสิทธิท่ีจะโรงเรียนดี ผลไม่ว่าจะเป็นในด้านวิชาการหรือพ้ืนที่ท่ีไม่ใช่ทางวิชาการมีประโยชน์ เพราะเขาท้าทาย ให้ความสนใจอย่างเข้มงวดกับสิ่งท่ีมีประสบความสาเร็จและสิ่งท่ีจะประสบความสาเร็จมาก ขึ้น รัฐบาลจึงเห็นความสาคัญว่าจาเป็นต้องเน้นความหลากหลายและนวัตกรรมในขณะที่รักษาคุณภาพและ มาตรฐานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง เป็นความพยายามเป็นอย่างมากของรัฐบาลในการสนับสนุนให้ความ หลากหลายและนวัตกรรม ในขณะเดียวกันกพ็ รอ้ มตอบสนองความต้องการของการประกันคณุ ภาพ 2.4.2. ระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำของ ประเทศสำธำรณรัฐสิงคโปร์ การประกันคุณภาพการศึกษามามีความสาคัญในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นมาตรฐานสาคัญท่ีสุด ที่เปน็ ตัวชี้วดั โรงเรยี นที่มีคุณภาพ ระบบคณุ ภาพมีความครอบคลุมการจัดการประกนั คุณภาพ ในปี ค.ศ. 2000 เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โรงเรียนมัธยมและ Junior College ได้รับการจัด อนั ดับเป็นประจาทุกปีตง้ั แตป่ ี ค.ศ. 1992 และผลการจดั อันดบั ทาให้โรงเรยี นเปน็ ทร่ี จู้ ักโดยผ่านทางส่ือท้องถ่ิน มโี รงเรียนระดับมัธยมศกึ ษา ไดร้ บั การจดั อันดบั ตามเกณฑ์หลักไว้ 3 มาตรฐาน ดงั นี้ 1) นักเรียนทมี่ ีผลโดยรวมในการสอบระดับชาติ 2) ข้อมูลพ้ืนฐานของโรงเรยี นทีม่ ีบันทึกไว้ในระบบการตรวจสอบประสิทธิภาพของนักเรยี นที่ มีคะแนนกับที่นักเรยี นไดร้ ับคะแนนผลสอบแรกเขา้ โรงเรยี น 3) การแสดงผลการเรียนของนักเรียนท่ีมีผลจากการทดสอบแห่งชาติ และอัตราร้อยละของ นกั เรยี นอยา่ งไรก็ตามการจัดอันดับดังกล่าว ไมไ่ ด้รบั ความพอใจจากทุกฝ่ายในของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ จากทีมงานท่ีตรวจสอบภายนอก ได้รับการมอบหมายจากกระทรวงการศึกษาในปี ค.ศ. 1997 ได้ช้ีให้เห็นด้าน ลบของการจัดอันดับโรงเรียน ทาให้รัฐบาลได้ออกมาชี้แจงเก่ียวกับการจัดอันดับอย่างต่อเนื่อง รัฐมนตรีว่า การกระทรวงศึกษาธิการได้ชี้แจงเก่ียวกับการจัดอันดับทางวิชาการว่ายังคงเป็นสิ่งสาคัญ เพราะมันเป็นเร่ือง ของความรับผิดชอบ เพอื่ ตัวของคณุ เอง ถา้ เราไม่ได้มีการจัดอนั ดบั คุณภาพสถานศึกษาของคณุ และส่ิงเหล่านี้ ได้เกิดขึ้นในทุกประเทศที่มีมาตรฐานการศึกษา เพราะเป็นเครื่องมือท่ีสาคัญ และเป็นความรับผิดชอบสาหรับ โรงเรียน เราสามารถจัดอันดับกับจานวนของพ้ืนท่ีท่ีแตกต่าง ในทางตรงกันข้ามหากเราหยุดการจัดอันดับเรา จะไม่สามารถตรวจสอบได้เลย อีกท้ังกระทรวงศึกษาธิการของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ ได้ออกแถลงการณ์ของการออก รายการของโรงเรียนที่มีร้อยละ 100 ของนักเรียน ไม่อาจระบุได้ว่านักเรียนประสบความสาเร็จ แต่เป็น การสะท้อนให้เห็นจุดที่ประสบความสาเร็จในการศึกษา แต่ไม่ควรวัดและประเมินผล จากผลการเรียนเพียง อย่างเดยี ว แต่ตอ้ งจับประเดน็ ท่มี ีความสาคัญทสี่ ง่ ผลให้เกดิ ความสาเรจ็ ท้ังระบบทเี่ ป็นท่ีน่าประทับใจ ทาใหเ้ กิด การแนะนา School Excellence Model (SEM) 3 ในปี ค.ศ. 2000 ส่วนหน่ึงท่ีสาคัญความเชื่อในเร่ืองของ ความสาเร็จท่ีกว้างข้ึนโดยเน้นคุณภาพ ตอนนี้โรงเรียนจะต้องไปประเมินตัวเองโดยใช้รูปแบบใหม่ให้แยกจาก 3 School Excellence Model (SEM) คือ ระบบการประเมินตนเองซึ่งจะเป็นกลไกสาหรบั โรงเรียน โดยผู้นาโรงเรยี นจะเปน็ ผู้การขับเคล่ือนการพัฒนาโรงเรียน ผ่านตรวจสอบภายนอกจากกระทรวงศึกษาธิการ ส่งผลต่อการประเมิน ภายใต้เกณฑ์ เดยี วกับปเี ทศองั กฤษ โดยการประเมินทุกๆ 5 ปี

20 การตรวจสอบโรงเรียนแบบดัง้ เดมิ เม่ือโรงเรียนตรวจดาเนนิ งานของพวกเขาโดยใช้มาตรการทไี่ ม่ได้รับทง้ั ความ ชดั เจนใหก้ บั โรงเรียน วิธีการที่ School Excellence Model (SEM) ดาเนินการได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น การบรรยายสรุปคุณลักษณะบางอย่างท่ีสาคัญก่อนท่ีจะอธิบายเพื่อการประกันคุณภาพในยุคของความ หลากหลายและนวัตกรรม SEM เป็นรูปแบบการประเมินตนเองสาหรับโรงเรียนท่ีดัดแปลงมาจากแบบจาลอง คณุ ภาพต่าง ๆ ทใ่ี ช้โดยธุรกิจองค์กร ได้แก่ ยโุ รปมลู นิธิการจัดการคุณภาพหรือ The European Foundation for Quality Management (EFQM) สิงคโปร์รางวัลคุณภาพ หรือ Singapore Quality Award (SQA) การศกึ ษารปู แบบและอเมรกิ นั แบบ Malcolm Baldrige National Quality Award (MBNQA) School Excellence Model (SEM) มีจุดมุ่งหมายเพ่ือจัดให้มีวิธีการระบุวัตถุประสงค์และ การวัดจุดแข็งของโรงเรียนและหาพื้นท่ีสาหรับการปรับปรุง นอกจากนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้เกิด การเปรียบเทียบกับโรงเรียนอื่นท่ีมีลักษณะคลา้ ยกัน เป็นการกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมการปรับปรุงที่เป็นผลบวก และสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพโดยรวมของโรงเรียน และในที่สุดคุณภาพของระบบการศึกษา การใช้ รูปแบบน้ีสอดคล้องกับ SQA ท่ีโรงเรียนสามารถพิสูจน์และอ้างถึงในเกณฑ์มาตรฐานในการจัดอันดับ ในความ เป็นจริงตัวเองจากการจัดอันดับของสถาบันระดับชาติ ในด้านเกณฑ์มาตรฐานด้านความเป็นเลิศขององค์กร SEM โดยทั่วไปอธิบายถึงโรงเรียนท่ียอดเย่ียม ซ่ึงเป็นหน่ึงในผู้นากลยุทธก์ ารประดิษฐ์และทรัพยากรปรับใชซ้ ึง่ ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลในการเข้าสู่ระบบ ระบุไว้อย่างชัดเจนถึงกระบวนการท่ีเน้นนักเรียนที่มีการกาหนด เปา้ หมายและประสทิ ธภิ าพ การติดตามและการจัดการ เหล่าน้ีสรา้ งผลลพั ธ์ในบคุ ลากรและคา่ ตอบแทน ความ พึงพอใจของผูร้ วม และท้ังผลกระทบที่มีต่อสังคมส่วนร่วมในความสาเรจ็ ของผลการเรยี นและความเปน็ เลิศ ใน SEM การดาเนินงานส่งผลไปไกลกว่าความสาเร็จทางวิชาการ ในขณะที่ผลการเรียนของโรงเรียนยังคงเป็นที่ สาคญั ลกั ษณะของโรงเรยี นท่ียอดเย่ียมตามแนวคดิ SEM ไดแ้ ก่ 1) ให้การศกึ ษาที่มีคณุ ภาพและเปน็ แบบองคร์ วม 2) ผลลัพธ์ที่ยอดเย่ียมตามเป้าหมายจะส่งผลให้เห็นเป็นรูปธรรม และการแสดงผลในเชิงบวก SEM ประกอบดว้ ย 9 หลักเกณฑ์คณุ ภาพทีโ่ รงเรียนสามารถประเมนิ ไดแ้ ก่ 1) ผนู้ า: ผู้นาวิธกี ารเรียนและความเป็นผ้นู าระบบโรงเรยี นมีคุณคา่ มาก และม่งุ เนน้ การเรียนรู้ ของนกั เรยี นและความเป็นเลิศในการปฏิบัตงิ านและวธิ ีการทโี่ รงเรียนท่ีอยคู่ วามรับผิดชอบต่อสังคม 2) การวางแผนเชิงกลยุทธ์: วิธีการเรียนท่ีชัดเจนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียท่ีมุ่งเน้นทิศทางกล ยทุ ธ์ การพฒั นาแผนปฏบิ ตั กิ ารเพอื่ สนบั สนุนทศิ ทางของโรงเรียน แผนงานและประสิทธภิ าพ 3) เจา้ หน้าที่บรหิ าร: การศึกษาการพัฒนาและใช้ศักยภาพของบคุ ลากร เพือ่ สร้างโรงเรยี นท่ีดี เยี่ยม 4) ทรพั ยากร: การโรงเรียนจัดการทรัพยากรภายในและหุน้ สว่ นภายนอกอย่างมปี ระสิทธิภาพ และมปี ระสทิ ธิภาพเพ่ือสนับสนนุ การวางแผนเชงิ กลยุทธ์และการดาเนนิ งานของกระบวนการ

21 5) กระบวนการท่ีเน้นนักเรียน: วิธีการออกแบบโรงเรียนดาเนินบริหารจัดการและช่วย ปรบั ปรงุ กระบวนการสาคญั ทจี่ ะให้การศกึ ษาแบบองค์รวมและผลงานท่ีต่อเนื่องท่ีดขี องนักเรยี น 6) การบริหารและผลการดาเนินงาน: โรงเรียนคือความสาเร็จให้มีประสิทธิภาพและ ประสิทธผิ ลของโรงเรยี น 7) ผลลัพธ์ บุคลากร: คือความสาเร็จของโรงเรียนเก่ียวกับการฝึกอบรมและการพัฒนาและ การสร้างขวญั กาลงั ใจของบคุ ลากร 8) หา้ งหุน้ สว่ นจากัด: โรงเรยี นจะบรรลุในความสัมพันธก์ บั ค่แู ข่งและชุมชนท่ีมีขนาดใหญ่ 9) ผลการปฏิบัติงานท่ีสาคัญ: สิ่งที่โรงเรียนสามารถบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาแบบองค์ รวมของนกั ศกึ ษา โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ขอบเขตท่โี รงเรยี นสามารถบรรลุ ผลลพั ธ์ที่พึงประสงค์ของการศึกษา 3) ระบบกำรศึกษำของสำธำรณรัฐสงิ คโปร์ 3.1 หลกั กำรและจดุ มุ่งหมำยทว่ั ไปในกำรจดั กำรศึกษำของประเทศสำธำรณรฐั สิงคโปร์ 3.1.1 กำรปฏิรูประบบกำรศึกษำในกำรจัดกำรศึกษำของประเทศสำธำรณรัฐสิงคโปร์ การปฏิรูประบบการศึกษาในการจัดการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพ่ือก่อเกิด การปลูกฝงั ใหเ้ ด็กรุ่นใหม่มีเจตนารมณ์ทจ่ี ะคดิ ในวิถีใหมๆ่ แกป้ ญั หาใหม่ๆ และสรา้ งโอกาสใหม่แก่อนาคต โดย กาหนดปรัชญาทางการศกึ ษา มีลักษณะแนวทางดาเนนิ การ ดงั นี้ 1. การสานตอ่ แนวทางเดิมในการเปิดโอกาสใหเ้ ด็กทุกคนไดร้ ับการศกึ ษาท่ัวไป เป็นเวลาอยา่ งน้อย 10 ปี โดยมีหลักสูตรระดับชาติและการสอบวัดผลระดับชาติเม่ือจบการศึกษาในระดับประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษาและเตรียมอดุ มศกึ ษา ตามระบบการศึกษา 2. การริเร่ิมแนวทางใหม่ โดยเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนสามารถเลือกสถาบันการศึกษาตามจุดแข็ง และ ความสนใจที่แตกต่างกันหลังจากท่ีจบการศึกษาในระดับประถมศึกษาแล้ว โดยปรับปรุงระบบ การศึกษาให้มีจุดเนน้ และทางเลือกใหม่ ดงั น้ี - ระบบการศกึ ษาท่มี คี วามยืดหยุ่น (Flexible) และหลากหลาย (Diverse) มากขนึ้ - ระบบการศึกษาทีม่ ีฐานกวา้ ง (Broad-based education) มากขึ้น ในแต่ละระดับชน้ั ของการศกึ ษา มีการกาหนดผลลัพธ์เชิงคณุ ภาพไว้อย่างชัดเจน 3.1.2 กำรปรบั ปรุงระบบกำรศึกษำ ระบบการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ ระบบการศึกษาของสิงคโปร์ เป็น ระบบ 4 : 2 : 4 : 2 ก่อนประถมศกึ ษา ประถมศึกษาตอนตน้ (4 ปี) ประถมศกึ ษาตอนปลาย (2 ปี) มัธยมศกึ ษา (4 ป)ี เตรยี มอุดมศกึ ษา (2 ปี) ก่อนประถมศึกษา เปน็ การศกึ ษากอ่ นวยั เรยี นเพอื่ เตรียมความพร้อม 1-3 ปี โดย การปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอน สิงคโปร์มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางการศึกษาตามความ ตอ้ งการ (Disired Outcomes of Education) ในแตล่ ะชว่ งช้นั ดังน้ี - ส่อื การเรยี นการสอน จดั โดยสนองตอบตอ่ ความต้องการ (Disired Outcomes of Education) - พัฒนาการเรยี นการสอนภาษาองั กฤษ

22 - การสง่ เสรมิ การศกึ ษา ICT 3.1.3 กำรจัดระบบกำรศึกษำประเทศสำธำรณรัฐสิงคโปร์ การจดั ระบบการศึกษาประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์มวี ตั ถปุ ระสงค์เพ่ือการส่งเสริมพลเมืองหร หรือเยาวชนใหม้ ีความรู้ ความสามารถ กอ่ ให้เกิดทกั ษะเพ่ือการดารงชีวิตอย่างมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม พัฒนาดา้ น ความรับผิดชอบและเป็นพลเมืองท่ีดีของประเทศชาติ ผ่านรูปแบบหรือกระบวนการพัฒนาการศึกษามุ่งให้ นักเรียนแต่ละคนสามารถพัฒนาศักยภาพให้ได้สูงสุด การศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ได้กาหนด การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน 10 ปี เป็นการศึกษาภาคบังคับ เพื่อให้เด็กทุกคนต้องอยู่ในการศึกษาภาคบังคับ 10 ปี การศึกษาภาคบังคับของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์จะต้องเรียนรู้ 2 ภาษาควบคู่ ได้แก่ ภาษาอังกฤษและเลือกเรียนภาษาแม่ (Mother Tongue) คือ ภาษากลางจีน (แมนดาริน) มลายู (ประเทศ มาเลเซยี ) และภาษาทมฬิ (ประเทศอนิ เดยี ) เปน็ ต้น ▪ กำรศึกษำระดบั ชน้ั ก่อนประถมศึกษำ ก่อนระดับช้ันประถมศึกษาหรือการศึกษาก่อนวัยเรียน ไม่เป็นการศึกษาภาคบังคับ แต่โดยท่ัวไป ผปู้ กครองไดใ้ หเ้ ดก็ เขา้ รับการศกึ ษาระดบั น้เี พอ่ื เตรียมความพร้อม 1-3 ปี หรอื “Foundation Stage” ▪ กำรศกึ ษำระดบั ชั้นประถมศกึ ษำ ระดับชั้นประถมศึกษาแบ่งออกเป็นประถมศึกษาตอนต้น 4 ปี (ประถม 1-4) และประถมศึกษาตอน ปลาย 2 ปี (ประถม 5-6) หรือ “Orientation Stage” ระดับช้ันประถมตอนต้นจะเน้นเรียน 3 วิชาหลัก คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาแม่ และคณิตศาสตร์ ตามลาดับ นอกจากนั้น จะมีวิชาดนตรี ศิลปะ หัตถกรรม หน้าที่ พลเมือง สุขศึกษา สังคม และพลศึกษา แต่ในช่วงประถมปลาย นักเรียนจะถูกแยกออกเป็น 3 กลุ่มทางภาษา คือ EM 1. EM 2. และ EM 3. การแยกนักเรียนเขา้ กลุ่มทางภาษานั้น ขน้ึ อยกู่ ับความสามารถทางภาษาของแต่ ละคน เมื่อจบประถมศึกษาตอนปลายแล้วเด็กทุกคนจะต้องผ่านการทดสอบระดับชาติ เรียกว่า PSLE (Primary School Leaving Examination) 4 เพื่อศึกษาต่อในระดับช้ันมัธยมศึกษาในสาขาต่างๆ ตาม ความสามารถและความถนดั ▪ กำรศึกษำระดับชน้ั มธั ยมศึกษำ การระดับชั้นมัธยมศึกษาแบ่งออกเป็น 3 หลักสูตร ใช้เวลาเรียน 4-5 ปี ตามความสามารถและ ความสาเรจ็ หลักสูตรในระดับมัธยมศึกษา ไดแ้ ก่ หลกั สตู รพิเศษ (Special Course) หลักสตู รเร่งรัด (Express Course) และหลกั สูตรปกติ (Normal Course) ตามลาดับ 4 PSLE (Primary School Leaving Examination) คือ การสอบจบระดบั ประถมศกึ ษาของประเทศสาธารณรฐั สงิ คโปร์ที่สอบ พร้อมกันทั่วประเทศ หลังจากท่ีนักเรียนเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 โดยคะแนนเต็มอยู่ที่ 300 คะแนน มีท้ังหมด 4 วิชา ดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ English  Mathematics .Science  และ Mother tongue ตามลาดบั

23 ▪ กำรศึกษำหลังระดับช้นั มธั ยมศึกษำ Junior Colleges/Centralized Institutes นักเรียนท่ีสาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาแล้ว จะต้องสอบ GCE “O” level เพื่อเข้า “Junior Colleges” หลักสูตร 2 ปี ซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาก่อนเข้า มหาวทิ ยาลัย (Pre-university) หรอื Centralized Institutes หลักสตู ร 3 ปี ก่อนเข้ามหาวิทยาลยั การเขา้ รับ การศึกษาข้ึนอยู่กับคะแนนผลการสอบ GCB (General Certificate of Education) หรือ “O” Level ซึ่ง หลักสูตรพิเศษ และหลักสูตรเร่งรัดจะต้องผ่าน ส่วนหลักสูตรปกติจะต้องผ่าน GCB “N” Level แต่ถ้าต้อง ศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมศึกษา ก็ต้องสอบให้ผ่าน GCB “O” Level เช่นเดียวกัน เม่ือจบแล้วจะต้องสอบ GCE “A” Level เพื่อนาผลคะแนนไปตดั สนิ การเข้าเรยี นตอ่ ระดับมหาวิทยาลัย - Institute of Technical Education: ITE จัดฝึกอบรมการศึกษาทางเทคนิคและอาชีวศึกษา ให้แก่ผู้สาเร็จมัธยมศึกษา เพื่อเตรียมตัวสาหรับทางาน รวมทั้งจัดฝึกอบรมให้แก่ผู้ที่ทางานแล้ว เพ่ือพัฒนา ทักษะฝมี อื แรงงานทส่ี นองตอบความตอ้ งการด้านอุตสาหกรรม - Polytechnics เป็นการจัดการศึกษาเพื่อผลิตกาลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจการเงิน การบัญชี การเดนิ เรอื พยาบาล เทคโนโลยีชีวภาพ วทิ ยาศาสตร์ประยกุ ต์ การออกแบบผลติ ภัณฑ์ เปน็ ตน้ ▪ กำรศกึ ษำระดบั ชน้ั อดุ มศึกษำ มหาวิทยาลยั ในประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์มมี หาวทิ ยาลยั 3 แหง่ ดังนี้ - มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore : NUS) จะให้ การศึกษาครอบคลุมเกือบทุกสาขาวิชา อาทิ หลักสูตรแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์ กฎหมาย ศิลปะศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และการบริหารธรุ กิจ เป็นตน้ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (Nanyang Technological University : NTU) จะให้ การศึกษา อาทิ หลักสูตรวิทยาศาสตร์ท้ังสายงานด้านวิทยาสาสตร์บริสุทธิ์และการประยุกต์ วิศวกรรมศาสตร์ ธรุ กิจและการบญั ชี เป็นตน้ - มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (Singapore Management University : SMU) จะจะใหก้ ารศกึ ษาเรื่อง ธรุ กจิ การจดั การ แต่การผลิตครแู ละบุคลากรทางการศึกษา คอื National Institute of Education (NIE) โดย รัฐบาลร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ได้ ให้ความสาคัญกับการศึกษา มา ก เพราะวา่ ประชาชนเป็นทรัพยากรที่สาคญั และมีคา่ ที่สุดของประเทศ ในการน้ีรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ จึงมีการอุดหนุน ด้านการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาและระดับชั้นมัธยมศึกษา ล้วนเป็นโรงเรยี นของรัฐบาลหรือกึ่งรฐั บาล แต่ สถานศึกษาของเอกชนและโรงเรียนนานาชาติเท่านั้น ซ่ึงการรับนักเรียนในการเตรียมความพร้อมใน โรงเรียน เมื่อเด็กมีอายุได้ 2 ปีคร่ึง เมื่อเด็กอายุได้ 6 ปีก็จะเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ซ่ึงมีการจัดปีการศึกษา ของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์จะแบง่ ออกเปน็ 4 ภาคเรยี น ภาคเรยี นละ 10 สปั ดาห์ เร่ิมเปดิ การศกึ ษาตั้งแต่ วนั ท่ี 2 มกราคมของทกุ ปี ชว่ งระหวา่ งภาคเรียนท่ี 1 กบั ที่ 2 และที่ 3 กบั ท่ี 4 จะมกี ารหยุด 1 สปั ดาห์ ระหวา่ ง ภาคเรียนท่ี 2 กับท่ี 3 หยุด 4 สปั ดาห์ และมีช่วงหยุด 6 สัปดาห์ เม่อื สิน้ สุดปกี ารศึกษา ตามลาดับ

24 ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์มีระบบการจัดดูแลทางด้านการศึกษาสามารถแบ่งได้ ดังนี้ เป็นโรงเรียนประถม มัธยมศึกษา วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย สถาบันรัฐบาลได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ทั้งหมด สถาบันเอกชนได้รับเงินสนับสนุนบางส่วนจากรัฐบาล แต่บริหารโดยคณะกรรมการซ่ึงเป็นเอกชน นอกจากน้ันยังมีสถาบันอิสระซ่ึงบริหารและกาหนดนโยบายรวมถึงหลักสูตรเองท้ังสิ้น โดยประเทศสิงคโปร์มี โรงเรียนประถม 178 แห่ง มัธยม 156 แห่ง วิทยาลัย 18 แห่งโพลีเทคนิค 5 แห่ง และมหาวิทยาลัยอีก 3 แห่ง ระบบการศึกษาของสิงคโปร์นน้ั แบ่งเปน็ ภาคการศึกษาขน้ั พื้นฐาน 10 ปี คือ ช้นั ประถม 6 ปแี ละชัน้ มธั ยม 4 ปี จากน้ันนกั ศึกษาอาจจะเรียนอาชวี ศึกษา เทคนิค เตรยี มอดุ มศกึ ษา หรือหลักสตู รเสริมจากมัธยมศกึ ษาเพ่ิมเติม ก็ได้ สถาบันรัฐบาลและเอกชน สถาบันรัฐบาลนั้นจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลทั้งหมด สถาบันเอกชนน้ัน อาจได้รับเงินจากรัฐบาลเพียงบางส่วนเท่านั้น และบริหารงานโดยเอกชนในประเทศ ประเทศสิงคโปร์แบ่ง อนบุ าล ประถมศึกษา มัธยมศกึ ษา อาชีวศกึ ษา สถาบันและมหาวิทยาลยั ดงั รายละเอียด ดงั น้ี ▪ ระดบั ช้นั อนบุ ำล - การดาเนนิ การโดยเอกชนเปน็ ส่วนใหญ่ - การเรยี นเพ่ือเตรยี มเด็กให้พร้อมในการเขา้ ศกึ ษาช้นั ประถม - ศกึ ษาโดยรบั เด็กที่มอี ายุระหว่าง 3-5 ปี - การเรยี นการสอนมี 5 วันตอ่ สัปดาห์ 1 วนั - มี 2 ช่วงและใชเ้ วลาประมาณ 2 ชว่ั โมงครง่ึ ถึง 4 ช่วั โมงต่อช่วง - หลักสตู รประกอบด้วยวชิ าภาษาองั กฤษและภาษาทสี่ อง - การรับสมคั รข้ึนอยู่กบั แตล่ ะสถาบนั /ศนู ย์ดแู ลเด็กส่วนใหญ่สามารถรับนักเรียนได้ตลอดปี ▪ ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษำ - นักเรยี นจะใช้เวลาท้ังหมด 6 ปี ประถม 1 ถึง 4 (Primary 1-4) - ประถมศกึ ษาตอนตน้ 4 ปี ตงั้ แตป่ ระถม 1 ถึง 4 (Primary 1-4) และประถมศึกษาตอนปลายอกี 2 ปี คือประถม 5 และ 6 (Primary 5-6) - การเรยี นในระดับน้จี ะเน้นทีค่ วามสามารถในการอ่านออกเขียนได้และการคานวณ - วชิ าทัว่ ไปโดยเน้นในดา้ นภาษาองั กฤษ ภาษาแม่ และคณิตศาสตร์ - วชิ าเสริม เช่น ศลิ ปะและงานฝีมือ สังคมศาสตร์ จริยธรรม ดนตรี และพละศึกษา - วชิ าวทิ ยาศาสตร์จะเริม่ เรยี นกันในช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 ภาระงานเรยี นผา่ นโปรเจค็ ท่ีได้รับมอบหมายบ้างระหวา่ งการเรยี นการสอน แต่กไ็ ม่มีผลต่อการสอบ ประเมนิ ผลเพื่อใหน้ ักเรยี นสามารถนาศักยภาพของตนออกมาใชใ้ ห้เกิดประโยชนส์ งู สดุ นักเรียนจะถูก ขดั เกลาความความสามารถและความถนัดของตน ดงั นั้นเม่อื จบชน้ั ประถม 4 จะมกี ารแบ่งนักศึกษาออกเป็น 3 แผนการเรยี น ดังน้ี - EM 1 สาหรับนกั เรียนทท่ี าคะแนนดใี นภาษาอังกฤษ ภาษาที่สองและคณิตศาสตร์ และจะไดเ้ รียน ภาษาอังกฤษและภาษาทีส่ องในระดบั สูง - EM 2 เปน็ ระดับมาตรฐานของนักเรยี นส่วนใหญ่ - EM 3 สาหรับนกั เรยี นทีไ่ ม่ถนัดทางดา้ นภาษาและคณิตศาสตร์ ซึ่งจะได้เรยี นวชิ าภาษาองั กฤษและ คณติ ศาสตร์ข้นั พื้นฐาน สว่ นวชิ าภาษาแม่จะเน้นท่ีทักษะการพูดและการอ่านและฟงั เพ่อื ความเข้าใจ

25 หลังจากสิ้นสดุ การสอบประถม 6 ภายในสถาบัน นกั เรยี นจะมกี ารสอบอีกครั้งท่ี เรยี กว่า PSLE (Primary School Leaving Examination) คือ การสอบแขง่ ขนั ท้งั ประเทศเพื่อข้นึ ชั้นมธั ยมท่ีเลอื กไวห้ นง่ึ ในหก (ให้เลอื กชว่ งเดือนสิงหาคมของปที น่ี ั่งสอบ ▪ ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษำ - อายุระหว่าง 12 - 15 ปี - แบ่งเป็น 4 หลักสตู ร ตามความสามารถความถนัดและผลการสอบช่วงประถมศกึ ษา - รายชอื่ สถาบันทมี่ ีช่ือตามลาดับความนิยม ดงั นี้ สถำบนั ประถมศกึ ษำ สถำบันมัธยมศกึ ษำ สถำบัน Junior College 1. Ai Tong 1. Dunman High 1. Hwa Chong JC 2. Anglo-Chinese (Primary) 2. Nanyang Girls' High 2. National JC 3. Anglo-Chinese Junior 3. Raffles Girls' Secondary 3. Raffles JC 4. Canossa Convent 4. Raffles Institution 4.Temasek JC Primary 5.Catholic High (Primary) 5.The Chinese High 5.Victoria JC ตารางท่ี 1 รายช่ือสถาบันที่มีชอ่ื ตามลาดับความนิยมของโรงเรยี นระดับช้นั มธั ยมศึกษา - หลักสูตรปกติ หลักสูตรปกติจะต้องนั่งสอบ General Certificate of Education: Ordinary Level (GCE O Level) - หลักสูตรพิเศษ (4 ปี) เป็นหลักสูตรท่ีนักเรียนต้องเรียนภาษาอังกฤษและอีกหน่ึงภาษาในขั้นสูงกว่า หลกั สูตรปกตจิ ะต้องนัง่ สอบ GCE \"O\" Level ในมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 - นักเรยี นในสองแผนนจ้ี ะเรยี นวชิ าท้ังหมด 7-8 วชิ า - เดก็ ท่มี ผี ลการเรยี นดีเป็นพิเศษอาจจะได้เรยี นถึง 9 วชิ า โดยมวี ชิ าทีเ่ รียนให้ได้สมดลุ กันดงั นี้ วิชาภาษา 2 วิชา (ภาษาองั กฤษและภาษาแม่) - วิชาด้านมนุษยศาสตร์ และวิชาบังคับเลือกทางด้านน้ีอีกวิชา (วรรณกรรมประวัติศาสตร์ หรือ ภูมิศาสตร์) - วชิ าคณิตศาสตร์ และวิชาเลอื กระหว่างคณติ ศาสตร์เสรมิ หรอื วชิ าเลือกเสรี 1 - วชิ าบังคบั เลือกสายวทิ ยาศาสตร์ 1 วชิ า (ชีววทิ ยา ฟิสิกส์ เคมี และวทิ ยาศาสตร์ทวั่ ไป ▪ หลักสูตรธรรมดำ (แผนวชิ ำกำร / แผนเทคนิค) - สูตรธรรมดา นักเรียนสามารถเลือกแผนวิชาการ (Normal Academic) หรือเทคนิค (Normal Technical) ซ่ึงจะต้องสอบ GCE N (General Certificate of Education Normal) 5เม่ือเรียนครบ 5 The Singapore-Cambridge General Certificate of Education “Normal” (GCE N level) เป็นการสอบสาหรบั นักเรียนที่สอบได้คะแนนดี สามารถเรียนต่อมัธยมศึกษาปีท่ี 5 เพ่ือสอบ GCE o level ต่อไป แต่สาหรับนักเรียนที่สอบได้ คะแนน GCE N level ไม่ถึงเกณฑห์ รือเทยี บเทา่ กส็ ามารถเรยี นตอ่ ในทางด้านอาชีวะได้

26 4 ปี และสอบ GCE O Level (General Certificate of Education Ordinary Level) 6เมื่อครบปี การศกึ ษาที่ 5 - นกั เรยี นในแผนวิชาการจะได้เรียนวิชาทเ่ี น้นความรู้ทางด้านวิชาการใน - นกั ศกึ ษาแผนเทคนิคได้เรียนรู้เน้นทักษะทางด้านเทคนิคการอาชีวศึกษา เชน่ วทิ ยาศาสตร์ การศึกษา ดา้ นเทคนคิ ศลิ ปะและดไี ซน์ อาหารและโภชนาการและ ความร้เู บ้อื งตน้ เก่ยี วกับการบริหารสานกั งาน - สาหรับนักเรียนท่ีได้ผลการสอบ GCE O level ที่ดีสามารถศึกษาต่อในจูเนียร์คอลเลจ โพลีเทคนิค หรือสถาบันเทคนคิ ได้ - นักเรียนที่ไม่สามารถสอบผ่านได้ในปีท่ี 5 ก็มีทางเลือกท่ีจะศึกษาต่อทางด้านเทคนิคและอาชีวะใน สถาบนั อาชีวะศึกษา (Institute of Technical Education หรอื ITE) - นกั เรยี นทีเ่ รียนหลักสูตรธรรมดาสามารถมโี อกาสข้ามมาอยหู่ ลักสตู รปกติหรือหลักสูตรพเิ ศษในกรณีท่ี ทาคะแนนได้ดีในมัธยมปีที่ 1 และ ปีที่ 2 สาหรับนักเรยี นต่างชาติมีสิทธิเ์ ลอื กวิชาภาษาต่างชาตอิ ่ืนมา แทนวิชาภาษาแม่ (จีน มาเลย์ หรืออินเดีย) ที่ทางสิงคโปร์จัดไว้ได้ ภาษาไทยก็เป็นหน่ึงในบรรดา ภาษาต่างประเทศซึง่ นกั ศกึ ษาสามารถเลือกสอบ GCE O Level ได้ - งานโปรเจ็คเป็นส่วนหน่ึงของหลักสูตรออกแบบมาเพื่อให้นักเรียนมีโอกาสในการค้นหาความสัมพันธ์ ของความรู้เฉพาะทางต่าง ๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้นักเรียนได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะการคิด เชิงวิเคราะห์ ปรับปรุงทักษะการสื่อสาร (ทั้งด้านการพูดและเขียน) ปลูกผังการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม และพัฒนาความอยากรู้อยากเห็นด้วยตนเอง (self-directed inquiry) และทักษะการเรียนรู้ตลอด ชีวิต (life-long learning skills) นักเรียนจะได้มีโอกาสเป็นส่วนหน่ึงของทั้งกระบวนการและผลผลิต งานโปรเจ็คจะถูกบรรจุเป็นส่วนหน่ึงของการประเมินผลการเรียน และมีผลต่อการเข้ามหาวิทยาลัย ของชาติ - นอกจากน้ียังเป็นการฝึกให้นกั เรียนมีความรู้เท่าเทียมกับนักศึกษาในประเทศไทยเพราะตาราที่ใชเ้ ปน็ ของกระทรวงศึกษาธิการของไทยเช่นกันทาให้นักศึกษาไม่มีปัญหาเมื่อเดินทางกลับมาเรียนหรือ ทางานในประเทศไทย ▪ ภำคกำรศกึ ษำ - ภาคเรยี นแบง่ เปน็ 4 เทอม ระหว่างเทอมจะปิดให้นักศึกษาพัก ดงั นี้ - มกราคม - มนี าคม เรียน 10 สปั ดาห์ พกั 1 สัปดาห์ - มนี าคม - มถิ ุนายน เรยี น 10 สปั ดาห์ พัก 4 สปั ดาห์ - กรกฎาคม - กนั ยายน เรียน 10 สปั ดาห์ พัก 1 สัปดาห์ - กนั ยายน - ธนั วาคม เรยี น 10 สปั ดาห์ พัก 6 สัปดาห์ - นกั ศึกษาจะเร่ิมเรียน 07.20 น. ถงึ 13.30 น. หรอื 14.00 น. 6 The Singapore-Cambridge General Certificate of Education “Ordinary Level” (GCE O level) เ ป็ น การสอบวดั ระดับความสามารถของนกั เรียน วา่ สามารถเรยี นในระดบั ปริญญาตรไี ดห้ รือไม่ เปรยี บเสมือนเปน็ บนั ไดข้ันตน้ เพอ่ื ดู แนวทางความถนัดของนักเรียน เช่น ควรเรียนต่อในระดับท่ีสูงขึ้นจนถึงในระดับปริญญาตรี หรือเรียนไปทางสายอาชีวะท่ี มุง่ เน้นเรื่องการปฏิบัติและนาความรไู้ ปประกอบอาชพี ตอ่ ไป

27 - ▪ สถำบนั ศึกษำด้ำนเทคนคิ (ITE - Institute of Technical Education) - รับสมคั รตั้งแต่อายุ 17 ปขี ึน้ ไป - จุดมุ่งหมายสาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาท่ีจะออกไปประกอบอาชีพหรือผู้ที่ทางานแล้วให้มีทั้ง ความรู้และทักษะการทางานด้านเทคนิคท่ีเป็นท่ีต้องการของอุตสาหกรรมภาคต่าง ๆ สถาบันมีทั้ง หลกั สตู รการอบรมองค์กรแบบเต็มเวลา การฝกึ งานสาหรบั นักเรียน และการศึกษาต่อเน่ืองสาหรับผู้ท่ี ทางานอยู่ ▪ โพลเี ทคนคิ (Poly techinique) - รบั สมคั รตั้งแต่อายุระหว่าง 17 - 19 ปี - รายชื่อสถาบัน เช่น Singapore Polytechnic Ngee Ann Polytechnic Temasek Polytechnic และ Nanyang Polytechnic ส่วนวิทยาลัยผลิตครูของสิงคโปร์มีอยู่เพียงแห่งเดียว คือ National Institute of Education นอกจากน้ี ยังมี Institute of Technical Education : ITE เป็นสถาบันที่ จดั การศึกษาสาหรับผู้ต้องการทักษะทางชา่ ง และช่างผีมือ - หลักสูตรการศึกษาฝึกอบรมที่หลากหลายให้แก่นักศึกษาที่ต้องการฝึกปรือฝีมือในระดับ ประกาศนยี บตั รเพือ่ รองรบั นกั ศึกษาที่สอบผา่ น GCE O และ The Singapore-Cambridge General - Certificate of Education Advanced Level (GCE A-Level) หรือ A Level 7และนักศึกษาจาก ITE โพลเี ทคนิคทัง้ 5 มีหลักสูตรท่ีหลากหลาย เช่น วศิ วกรรมศาสตร์ บริหารธรุ กิจ บญั ชี พาณชิ ยน์ าวี วารสารศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เทคโนโลยีชีวะวิทยา เคมีวิศวกรรมศาสตร์ การออกแบบส่ือดิจิตอล วิทยาศาสตรป์ ระยกุ ต์ การออกแบบ ผลิตภณั ฑ์ และการสอ่ื สารโทรคมนาคม ▪ มหำวิทยำลัย (University) - รบั สมัครตง้ั แต่อายุ 19 ปีขึน้ ไป - รายช่ือสถาบัน เช่น National University of Singapore (NUS) คือ มหาวิทยาลัยแรกและเก่าแก่ ท่สี ุดของประเทศสงิ คโปร์ Nanyang Technological University (NTU) /Nanyang Technological Institute (NTI) และ Singapore Management University (SMU) คือ มหาวิทยาลัยเปิดด้วยการ ลงทุนและสนับสนุนจากรัฐบาล National Institute of Education (NIE) เป็นส่วนหนึ่งของ มหาวทิ ยาลัย (NTU) หลกั สตู ร 4 ปี เน้นการสอนเพอื่ จะเปน็ อาจารย์ ▪ มหำวิทยำลัยนำนำชำติ - University of Chicago Graduate School of Business ไดเ้ ลอื กทีจ่ ะตั้งวทิ ยาเขตในสงิ คโปร์ นบั เปน็ คร้งั แรกทีม่ ีมหาวิทยาลยั จากอเมริกามาตัง้ วิทยาเขตเปน็ การถาวรในเอเชยี Business ได้เลอื ก 7 The Singapore-Cambridge General Certificate of Education Advanced Level (GCE A-Level) ห รื อ A Levels คือ การศึกษาระดับสูงท่ีในระดับอุดมศึกษา การศึกษา A Levels เป็นการศึกษาท่ีทาให้ผู้เรียนได้เรียนในสิ่งที่ตัวเอง สนใจจริง ๆ และได้เตม็ ท่กี ับมนั เพราะว่าผเู้ รยี นสามารถเลอื กเรียนในเรือ่ งท่สี นใจ หรอื การศึกษาต่อไป

28 ท่ีจะตงั้ วทิ ยาเขตในสิงคโปร์ นับเปน็ ครง้ั แรกท่มี มี หาวทิ ยาลัยจากอเมริกามาต้ังวิทยาเขตเป็นการถาวร ในเอเชีย - นอกจากนม้ี หาวทิ ยาลัยอน่ื ๆ ทร่ี ว่ มมือกับสถาบนั การศึกษาของสงิ คโปร์อกี ได้แก่ Wharton School of the University of Pennsylvania, สถาบนั MIT (Massachusetts Institute of Technology) และ Techische Universitiet Eindhoven เปน็ ตน้ ▪ สถำบนั สอนภำษำ - สงิ คโปรม์ สี ถาบนั สอนภาษามากมายสาหรบั ทั้งเดก็ และผใู้ หญ่ - เมอ่ื เรียนจบสถาบนั จะออกประกาศนยี บัตร (Certificate of Achievement) - บางสถาบนั อาจมกี ารทดสอบและออกใบประกาศนยี บัตรที่รับรองโดยมหาวทิ ยาลยั ตา่ งประเท - สถาบันส่วนใหญม่ ใี หเ้ ลือกท้งั ภาคปกตแิ ละภาคค่าสาหรับท้ังเด็กและผใู้ หญ่ หลักสตู รกม็ ีหลากหลาย ตงั้ แต่ ภาษาอังกฤษท่ัวไป การเขียน การใช้ภาษาอังกฤษที่สถาบนั และท่ีทางาน เกมสแ์ ละละคร สาหรับเด็ก - หลักสตู รสาหรับผู้ใหญ่มกั เน้นท่ที ักษะด้านภาษาอังกฤษ ทักษะการส่อื สารและการนาเสนอ ทักษะการ ขายและการต่อรองเปน็ ตน้ - แตล่ ะหอ้ งเรยี นจะมีนักศึกษาประมาณ 10 – 15 คน และจะมกี ารทดสอบก่อนเริ่มเรยี นเพอ่ื จัดชน้ั เรยี นท่ีเหมาะสมให้ 3.1.4 กรอบกำรศกึ ษำ - ควำมเปน็ เลศิ ทำงวิชำกำร ทางดา้ นวชิ าการของเรามงุ่ เน้นการพฒั นาองค์ความรหู้ ลักผ่าน การเรยี นรกู้ ารใช้งาน การวจิ ารณ์ และ ทกั ษะความคิดสร้างสรรค์ นักเรยี นจะถูกบ่มเพาะใหม้ กี ารคดิ นอกกรอบ และ นอกเหนอื จากในหลกั สูตรเปน็ การเตรียมความพร้อมใหก้ ับนกั เรียนไปสู่การศึกษาขั้นสูงและสามารถนา ความรู้ไปใช้ในสถานการณ์จรงิ ได้ - สุขภำพและกำรออกกำลังกำย โปรแกรมกีฬาและการออกกาลังกายต่าง ๆ เป็นการ วางแผนเพ่ือให้นกั เรยี นไมเ่ พียงแต่เปน็ การออกกาลังกายเพื่อสุขภาพเท่านั้นแต่ยังเปน็ การพฒั นาทักษะอาชีพใน อนาคตอีกด้วย เชน่ การทางานเปน็ กลุ่ม การส่อื สารระหวา่ งบคุ คล และ รคู้ วามสาคัญของกฎและกตกิ า - ศิลปะกำรแสดง การชื่นชมและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์งานศิลปะเช่น การเต้น การ แสดง การร้องเพลง และ จุดมุ่งหมายการวาดภาพเพ่ือพัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์ ความฉลาดหลักแหลมของ ความคิด ผ่านกิจกรรม นักเรียนจะได้พัฒนาความสามารถในการนาเสนอวิธีแก้ปัญหาในโลกแห่งความเปน็ จริง อย่างสรา้ งสรรค์ - จิตวิญญำณ และ จริยธรรม โดยผ่านการให้คาปรึกษาและการดูแลเป็นรายบุคคล Shelton ชว่ ยบม่ เพาะให้นักเรียนแตล่ ะคนเจรญิ เติบโตเป็นผใู้ หญ่ทีม่ ีความโดดเด่น มโี อกาส ในการสรา้ งทักษะ ความเป็นผูน้ าและความชาญฉลาดสาหรับนักเรียนในหอ้ งเรียน - ชุมชนและส่ิงแวดล้อม เพือ่ ทจ่ี ะพัฒนาประชากรท่ัวโลกในอนาคต Shelton ได้สร้างความ เข้มแขง็ ใหก้ ับโปรแกรมการขยายชุมชน เป็นส่วนหน่งึ ของความรับผดิ ชอบขององค์กรเราต่อชุมชนโดยรอบของ เรา ส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมเพื่อที่จะได้เข้าใจถึงความต้องการของผู้ด้อยโอกาสและปัญหาทางสังคมหรือ สิง่ แวดล้อม ดังภาพที่ 11

29 ชุมชนและ ความเป็นเลิศ สงิ่ แวดลอ้ ม ทางวชิ าการ จิตวิญญาณ สุขภาพและ และ การออกกาลัง จริยธรรม กาย ศลิ ปะ การแสดง ภาพท่ี 11 กรอบการศึกษา 3.1.5) ข้อมลู และรำยละเอยี ดในกำรศึกษำเบอ้ื งตน้ - Shelton High School Edexcel International General Certificate Of Secondary Education International GCSE คอื ความสมดลุ ของหลักสูตรนานาชาติท่ีออกแบบมาเพื่อส่งเสริมมาตรฐานทางวิชาการ ขั้นสูงผ่านวิธีการปฏิบัติในการเรียนการสอน ความสาเร็จท่ีนักเรียนจะได้รับจากหลักสูตรนี้คือเทียบเท่าใน มาตรฐานของระดับ GCE Ordinary Level และ การสอบ British GCES หลักสูตรเหมาะสาหรับนักเรียน นานาชาติทุกชาติและทุกระดับความสามารถ มีการเตรียมความพร้อมที่เหมาะสมสาหรับหลักสูตรระดับสูง เชน่ ประกาศนยี บตั รการศึกษานานาชาติขน้ั สูง (Advanced International Certificate of Education: AICE ), International GCE Advanced Level , SAT8 และ APT บัณฑิตนานาชาติ และ สาหรับสายอาชีพ และ การจ้างงาน International GCSE ให้บริการท่ี Shelton High School ครอบคลุมช่วงของโมดูล / วิชาที่มี หลักสูตรท่ีได้รับการตรวจสอบอย่างสม่าเสมอเพื่อให้ทันกับการพัฒนาในทางปฏิบัติการศึกษาและเพ่ือ ตอบสนองความต้องการทว่ั โลก - Shelton College Certificate for Higher Education (CHE) เป็นหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา เพ่ือเตรียม ความพร้อมสาหรับนักเรียนส่วนใหญ่ท่ีต้องการศึกษาในระดับสูง ซึ่งมีการเรียนการสอนเป็นภาคภาษาอังกฤษ เหมาะอย่างย่ิงสาหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนด้านวิชาชีพอย่างเช่น ธุรกิจหรือการท่องเที่ยว การเขา้ ศกึ ษาอายุ 16 ปีขึน้ ไป จบระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ข้ึนไป ระดบั ภาษาอังกฤษขั้นต่า ตอ้ งมี IELTS 5.0 หรือเทียบเท่า 8 The Scholastic Assessment Test (SAT) คือ ข้อสอบที่ใช้ทดสอบการใช้เหตุผลในวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพ่ือใช้ในการเข้าศึกษาต่อยังสถาบันอุดมศึกษา ในระบบการศึกษาของสหรัฐอเมริกา และในปัจจุบันมีมหาวทิ ยาลยั อนิ เตอรห์ ลาย ๆ แหง่ ไดน้ าคะแนนสอบมา SAT มาใชเ้ ปน็ เกณฑ์อีกด้วย

30 Certificate In Advanced Study Skills (CASS) เป็นหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา เพ่ือเตรียมความพร้อม สาหรับนักเรียนที่สาเร็จการศึกษาภาคปกติ 12 ปี และมีความประสงค์ศึกษาต่อใน ระดับทส่ี งู ข้ึน ซง่ึ มีการเรยี นการสอนเป็นภาคภาษาอังกฤษ โดยมีจดุ ม่งุ หมายในการปูพ้นื ฐานความรู้ทวั่ ไป และ ทักษะการศกึ ษาค้นคว้าที่จาเป็นเพอื่ ให้ไดร้ บั ประโยชน์สงู สุดจากการศึกษาทกั ษะขน้ั สงู Certificate In English As A Global Language ภาษาอังกฤษกลายเป็นภาษาสากลท่ีใช้ในการสนทนาทางธุรกิจ การปฏิสัมพันธ์ และการทา ธุรกรรม ท่ี Shelton เราเขา้ ใจ และ กลา่ วได้ว่า ไม่เพียงความสวยงามของภาษาองั กฤษเทา่ นน้ั แตย่ งั เป็น เรอื่ ง ของวัฒนธรรมและการใช้งานท่ีมีความเช่ือมโยงกับภาษาในส่วนต่าง ๆ ของโลก โปรแกรมภาษาอังกฤษของ Shelton เรียนทีละขั้นตอนเพื่อเรียนรู้ข้ันตอนในภาษาอังกฤษ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับผลการเรียนของ นักเรียนต่างชาตทิ ี่อาจจะไมค่ ุ้นเคยกับการศึกษาภาษาอังกฤษ หลักสูตรนี้ประกอบไปด้วยการเรียนรู้ใน 4 ทกั ษะหลักคือ การพูด การฟงั การอา่ น และการเขียน โดยแบง่ ออกเปน็ 3 ระดับดังนี้ (ระยะเวลาเรยี น 4 เดือน ต่อ 1 Level) ระดับ Lower Intermediate (ต่ากว่ามาตรฐานระดับกลาง) ระดับ Upper – Intermediate (สูงกวา่ มาตรฐานระดับกลาง) และระดับ Advanced (ขัน้ สงู ) การรับเข้าศึกษาก่อนเร่ิมต้นเข้าเรียนในหลักสูตรน้ี นักเรียนจะต้องทดสอบวัดความรู้ทักษะ ภาษาองั กฤษ ตามแบบทดสอบของโรงเรียนเพื่อระบุระดับความสามารถและความถนดั ด้านภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ นักเรียนนานาชาติท่ีลงทะเบียนในหลักสูตรวิชาชีพของ Shelton สามารถทาการทดสอบได้ หากต้องการ พัฒนาทักษะทางภาษา โดยเข้าทดสอบหลักสูตรภาษาอังกฤษก่อนท่ีจะเริ่มต้นเรียนในหลักสูตรที่เหมาะสม ต่อไป Diploma Courses กำรท่องเที่ยว และ กำรบริกำร (Specialist Diploma in Tourism & Hospitality) ระยะเวลาเรียน 4 -9 เดือน หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้เชี่ยวชาญในการท่องเที่ยวและการโรงแรมของ Shelton เป็นการออกแบบมาเพ่ือนักเรียนท่ีต้องการทางานในสายการท่องเท่ียวและการโรงแรมตั้งแต่ระดับ ปฏิบัติการ อาจนาไปสู่ ระดับการจัดการในด้านการท่องเท่ียวและโรงแรม และในสภาพแวดลอ้ มท่ีมีการพูดคุย เปน็ ภาษาอังกฤษ ในหลักสตู รนี้จะแนะนาเร่ืองทว่ั ไปเก่ียวกับการทอ่ งเที่ยวและการโรงแรม โดยเฉพาะการแนะ นาการเลอื กพน้ื ท่ี และ การขน้ึ ราคาบางส่วนของฟังกช์ นั่ ธรุ กจิ หลกั ในภาคการท่องเท่ยี วและการโรงแรมการเข้า เรียน นักเรียนอายุ 18 ปีข้ึนไปจบ Certificate in Advanced Study Skills ของ Shelton หรือ IELTS 5.5 หรอื เทยี บเทา่ หรือคณุ สมบัติเฉพาะอืน่ ๆ ภายใต้การอนุมตั ิของคณะกรรมการวิชาการของ Sheltonสาขาการ บริหารธุรกจิ (Pearson BTEC Level 5 HND Diploma In Business) ระยะเวลาเรียน 15 เดือน กล่าวโดยสรุปพบว่า Shelton เน้นการศึกษาการผสมการทางานการเรียนรู้ตามเทคนิค การศึกษาที่ทันสมัยและเป็นการนานายจ้างและสถาบันการศึกษาใกล้ชิดร่วมกันเพื่อประโยชน์ของทั้งสองการ พฒั นาในการเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมทจ่ี ะช่วยสร้างสะพานเช่ือมช่องว่างทักษะที่ชา่ งและผู้ร่วมงานระดับ มืออาชีพ โปรแกรมของเรามีข้ันบันไดท่ีสาคัญในการเรียนรู้ตลอดชีวิต อานวยความสะดวกในการเข้ารับ การศึกษาท่ีสูงขึ้นและในกรณีท่ีเหมาะสมการพัฒนาไปสู่การศึกษาระดับปริญญาเกียรตินิยม การเข้าเรียน นักเรียนอายุ 18 ปีข้ึนไป IELTS 5.5 หรือเทียบเท่า BTEC ระดับ 3 (คุณสมบัติด้านธุรกิจ)หรือ จบหลักสูตร Certificate for Higher Education ของ Shelton หรือ จบหลักสูตร Certificate in Advanced Study Skills ของ Shelton หรอื สาเรจ็ การศึกษาข้นั พน้ื ฐานระดับมัธยมปลาย Year 12 หรือเทียบเท่า มหำวิทยำลัยในสิงคโปร์มี 3 แห่ง คือ National University of Singapore (NUS) Nanyang Technological University (NTU) และ Singapore Management University (SMU) ดังนี้

31 National University of Singapore (NUS) จะให้การศึกษาครอบคลุมในหลักสูตรอาทิ หลักสูตรแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ นิติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการจดั การหรือบรหิ ารธรุ กิจ เป็นต้น Nanyang Technological University (NTU) จะเน้นการศึกษาการศึกษาหลักสูตรใน ด้านวิทยาศาสตร์บริสุทธ์ิและการประยุกต์ วิศวกรรมศาสตร์ และการตลาด ธุรกิจและการบัญชี อีกท้ังยัง ปะกอบด้วย National Institute of Education (NIE) เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย (NTU) เน้นการจัดการ เรยี นรู้เพือ่ จะเป็นครูหรอื อาจารย์ Singapore Management University (SMU) จะเน้นการศึกษาการศึกษาหลักสูตรและ เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลในการวิจัยระดับโลกการเรียนการสอนท่ีโดดเด่นทางด้าน ธุรกิจ การตลาดและการจัดการ โดยหลักสูตรท่ีมหาวิทยาจัดทาขึ้นจะมีรูปแบบหรือลักษณะคล้ายๆ กับ หลักสูตรใน Wharton School อีกทั้งมหาวิทยาต้ังอยู่ใจกลางเป็นย่านธุรกิจ ศิลปะ และมรดกทางวัฒนธรรม เป็นต้น

32 ภาพท่ี 12 แบบสรปุ ระบบการจดั การศกึ ษาของประเทศสาธารณรฐั สงิ คโปร์ http://e.unesco.org/fileadmin/user_upload/archive/ Singapore.htm เขา้ ถงึ เมื่อ 14 มกราคม พ.ศ. 2566

33 4) กำรผลติ พัฒนำครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำของประเทศสำธำรณรฐั สงิ คโปร์ กระทรวงศึกษาธิการของประเทศสาธารณรฐั สิงคโปร์เป็นหนว่ ยงานในการบริหารจัดการด้าน นโยบายและกากับดูแล รวมท้ังเป็นผู้ประสานงานและกาหนดทิศทาง ควบคุมดูแลและการบริหารทาง การศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมีรูปแบบนโยบายการพัฒนาหลักสูตรการพัฒนาบุคลากร ดังภาพ 13 โดยมี National Institute for Education (NIE) 9 เป็นหน่วยงานในการพัฒนาหลักสูตรในการ จดั การเรียนการสอน นโยบายการศึกษาด้านการผลติ ครูไปสู่การปฏิบตั ิ คือ การมรี ูปแบบนโยบาย การปฏบิ ตั ิ และ การเตรียมครสู าหรบั การจัดการการศึกษา โดยรฐั บาลยงั คงสามารถเขา้ มาควบคุมจานวนการรบั นักศึกษา และ ค่าเล่าเรียน มีการมอบสิทธิ์และอานาจให้ National Institute for Education (NIE) ใน การจัดหลักสูตร ทใ่ี ช้ในการเรยี น รวมทงั้ การบรหิ ารจัดการต่าง ๆ ดงั ภาพที่ 13 ภาพที่ 13 รูปแบบนโยบาย การปฏบิ ัติ และการเตรียมครสู าหรบั การจดั การการศกึ ษาของประเทศสาธารณรัฐสงิ คโปร์ ระบบการผลิต พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ ออกเป็น 6 ข้อ ดงั น้ี 1) การคัดเลือกครูใหม่ (Recruitment) 2) หลักสตู รการฝกึ หดั ครู (Teacher Preparation Program) 3) การเขา้ ส่วู ิชาชีพและการพัฒนา (Induction and Mentoring) 4) การเรยี นร้ใู นวิชาชพี (Professional Learning) 5) การประเมินและการให้ข้อมูลยอ้ นกลับ (Teacher Feedback and Appraisal) 6) การพฒั นาการทางวชิ าชพี และการเป็นผ้นู า (Career and Leadership Development) 9 National Institute for Education (NIE) เปน็ สถาบันในระดับอุมศกึ ษาท่เี น้นเก่ยี วกบั การผลติ พฒั นาครแู ละบคุ ลากร ทางการศกึ ษาของประเทศสาธารณรัฐสงิ คโปร์

34 1) กำรคัดเลอื กครูใหม่ (Recruitment) ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์มีระบบการคัดเลือกครูใหม่ ซึ่งมีการพิจารณาจากความรู้ทาง ทกั ษะวิชาการของผู้สมคั ร ทกั ษะการสือ่ สาร และการสร้างเสรมิ แรงจงู ใจในการจดั การเรยี นรู้ ดงั น้ี ดังภาพที่ 14 ภาพที่ 14 การคดั เลือกครใู หม่ (Recruitment) (Barber & Mourshed, 2007) ระดับมหาวิทยาลยั 1) การคัดกรองเบอื้ งต้นจากใบสมคั ร การศกึ ษา 2) การกาหนดเกณฑ์ของผ้สู มัครต้องเรียนในสาขาทเ่ี กยี่ วข้องและจบการศกึ ษาใน 3) ความสนใจในการศึกษาเป็นอยา่ งยิ่ง 4) การประเมนิ จากการสอบวดั ระดบั ทางวชิ าการและภาษา 5) การสมั ภาษณ์ 6) การติดตามผลการเรียน หากผลการเรยี นไมถ่ ึงเกณฑจ์ ะถูกปรบั ออกจาก

35 2) หลักสตู รกำรฝกึ หัดครู (Teacher Preparation Program) หลักสูตรการฝึกหัดครูของประเทศสาธารณรัฐสิงค์โปร์ ได้บัญญัติกรอบสมรรถนะสาหรับ ผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาด้านวิชาชีพครู ภาพที่ 15 ภาพท่ี 15 กรอบสมรรถนะของผู้สาเร็จการศึกษาดา้ นครูของสิงคโปร์ https://sites.google.com/site/pgde2012phuangeesengeric/educational-studies/qed523-the-social-context- of-teaching-and-learning เข้าถงึ เมอ่ื 14 มกราคม พ.ศ. 2566 1. จำนวนหน่วยกิตท่ีต้องเรียน ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์จาแนกหลักสูตรผลิตครูตาม ระดบั การใชค้ รเู ป็น 2 ระดับ คือ ครปู ระถมศึกษา และครูมัธยมศกึ ษา และแตล่ ะหลักสูตรตอ้ งเรียน 125 - 135 หน่วยกิต ดังภาพที่ 16-17 จานวนหน่วยกิตท่ีต้องเรียนแต่ละสาขาและช้ันปีของหลักสูตรผลติ ครูประถมศึกษา และครูมัธยมศกึ ษา ตามลาดับ

36 ภาพท่ี 16 จานวนหน่วยกติ ทีต่ ้องเรียนแตล่ ะสาขาและชั้นปขี องหลักสตู รผลติ ครูประถมศึกษา (National Institute of Education, 2014) ภาพที่ 17 จานวนหน่วยกติ ที่ต้องเรียนแตล่ ะสาขาและชัน้ ปีของหลกั สตู รผลติ ครมู ัธยมศึกษา (National Institute of Education, 2014) 2. โครงสรำ้ งรำยวชิ ำของหลักสตู ร แบ่งออกเป็น 3 กลมุ่ ดังน้ี 2.1) วิชำแกน เปน็ วชิ าบังคับท่ัวไปท่ที ุกคนต้องเรยี น 2.2) วิชำบังคบั เลือก เป็นวิชาทนี่ ักศึกษาจะเลอื กเรยี น เพ่ือสรา้ งองคค์ วามรู้ ทักษะ การความคิด และการพฒั นาตนเอง ตามวชิ าสาขาของผเู้ รียน 2.3) วิชำเลือกท่ัวไป เป็นวชิ าท่นี กั ศึกษาจะเลอื กเรียน จากรายวิชาทีท่ าง มหาวิทยาลยั จดั ไวใ้ ห้เลือกหรือตามความสนใจของผูเ้ รยี น

37 3. โครงสรา้ งของหลักสูตร การออกแบบหลกั สูตรประกอบดว้ ยส่วนสาคญั 9 ดา้ น ดงั นี้ 3.1) ศาสตร์ทางการศกึ ษา เปน็ วชิ าเกีย่ วกับหลักการทางการศึกษาที่จาเป็นเพ่อื เสรมิ สร้างคุณภาพการจดั การเรยี นรู้ 3.2) ศำสตรด์ ำ้ นหลักสูตร เป็นวิชาท่มี ีรายละเอยี ดดา้ นวธิ กี ารการจัดการเรยี นรู้และ ทักษะการจัดการดา้ นหลักสูตร รวมทง้ั การศึกษาบรบิ ททเี่ ปลย่ี นแปลง 3.3) ควำมรใู้ นวชิ ำทส่ี อน เป็นวิชาเอกของแต่ละคน 3.4) วิชำเฉพำะ เปน็ วชิ าเฉพาะดา้ นและเฉพาะกลมุ่ ท่ีไดล้ งทะเบียนในการจัด การศึกษา 3.5) กำรฝึกประสบกำรณ์วิชำชพี ครู ป็นวชิ าที่ต้องฝกึ ประสบการณ์การสอน ใน โรงเรียนทกุ ปตี ง้ั แต่ปี 1 จนถงึ ปี 4 เป็นเวลา 2, 5, 5 และ 10 สปั ดาห์ ตามลาดบั ▪ ปที ี่ 1 วชิ าประสบการณใ์ นโรงเรียน (School Experience) ใชเ้ วลา 2 สัปดาห์ ▪ ปีที่ 2 วชิ าผู้ชว่ ยสอน (Teaching Assistantship) ใชเ้ วลา 5 สัปดาห์ ▪ ปที ี่ 3 วิชาฝึกปฏบิ ตั ิการสอน 1 (Teaching Practice 1) ใช้เวลา 5 สัปดาห์ ▪ ปที ่ี 4 วชิ าฝกึ ปฏิบัตกิ ารสอน 2 (Teaching Practice 2) ใช้เวลา 10 สัปดาห์ 3.6) กำรพัฒนำควำมสำมำรถและทักษะทำงภำษำ เป็นการพัฒนาทักษะการ สอ่ื สารและการใชน้ ้าเสียงในการสอนทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ 3.7) กำรเรยี นรเู้ ชิงบริกำร เปน็ การทาโครงการ พฒั นา การเรียนรู้เชงิ บริการ ร่วมกับชุมชน 3.8) วชิ ำในเชงิ วชิ ำกำร เป็นวชิ าในกลุ่มเชิงวชิ าการ เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจหลกั การพนื้ ฐาน พฒั นาองคค์ วามรู้ สู่การเสริมสร้างข้อมูลเน้ือหาของวชิ า เป็นตน้ ดงั ภาพที่ 18 3.9) วิชำเลือกทั่วไป เปน็ วิชาเลอื กท่ัวไป นอกจากนี้หลักสูตรผลิตครูของสิงคโปร์ยังกาหนดให้นักศึกษาต้องศึกษาเรียนรู้เพ่ือ สรา้ งทักษะเชิงวิชาชพี ในอกี 5 กจิ กรรม ดงั นี้ 1) โครงกำรกลุ่มกำรเรียนรเู้ ชิงบริกำร เพือ่ ฝกึ ทกั ษะการจัดการ การทางานเป็นทีม การวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการจาเป็นในการตดั สินใจและการเข้าใจผู้อืน่ 2) ประกำศนียบัตรภำษำอังกฤษ เป็นการเน้นการส่ือสารทั้งด้านการพูดและ การเขียนภาษาอังกฤษให้เพม่ิ มากขนึ้ 3) โครงกำรพัฒนำทกั ษะวิชำชีพครู เป็นโครงการทส่ี มรรถนะทางสงั คมของครูโดย แลกเปล่ียนกับครทู ีม่ ปี ระสบการณส์ อน รวมถงึ นักเรียนในชน้ั เรียน นามาสู่เปดิ โลกทศั นท์ างวิชาชพี ครู 4) กำรเขำ้ รว่ มกำรเสวนำ สัมมนำ ประชมุ ปฏิบตั ิกำร และกิจกรรมอน่ื ๆ 5) กำรปลกู ฝงั ควำมซ่อื สตั ย์ทำงวิชำกำร (Academic Integrity) เน้นเข้มงวดกับ ความซ่ือสัตย์ทางวิชาการ ส่งเสริม และติดตามการละเมิดลิขสิทธ์ิจาก ตารา เอกสารการท่ีใช้ในการจัดการ เรยี นรู้

38 ภาพท่ี 18 รายวชิ าเชงิ วิชาการท่ีนกั ศึกษาต้องเรยี น (National Institute of Education, 2014) 3. กำรเขำ้ สวู่ ิชำชีพและกำรพัฒนำ (Induction and Mentoring) “ครู คือ หัวใจของการศึกษา” จึงให้ความสาคัญและส่งเสรมิ วชิ าชพี ครูใหเ้ ป็นอาชีพทม่ี ี เกยี รติ ศกั ด์ศิ รี ซง่ึ ครูทกุ คนท่ีจบการศกึ ษาผ่านการคัดเลอื กคณุ ภาพ รวมทั้งค่าตอบแทนในระดับท่สี ูงเทยี บเท่า อาชีพอ่ืน เมอื่ ผา่ นการคัดเลือกแล้วต้องเขา้ รับการฝึกอบรมวิชาชีพครู เป็นเวลา 1 ปี จากนน้ั การเข้าสูก่ ารเป็น ครู ต้องเขา้ รับการประเมนิ และพัฒนาทุกปี หากไม่ผ่านจานวน 3 ครัง้ หรือตามข้อกาหนดทกี่ ระทรวงบญั ญตั ิ ก็จะต้องออกจากการเป็นครู กรณีเพ่ิมเตมิ ทีต่ ่างจากประทศไทยครูกส็ ามารถลาเพ่ือไปศึกษาต่อได้ โครงสร้างโปรแกรมการพัฒนาครใู หมข่ องสิงคโปร์ประกอบดว้ ย 3 สว่ น คือ การปฐมนเิ ทศ การนิเทศ และโปรแกรมการเรยี นรู้สาหรบั ครู ดงั ภาพท่ี 19 ภาพท่ี 19 โปรแกรมการเรียนรู้สาหรบั ครูใหม่

39 โดยในระดบั โรงเรียนทั้งประถมศึกษาและระดบั มธั ยมศึกษา จะมีครพู ี่เลยี้ งคอยช่วยเหลือในการกากับ ตดิ ตามและพฒั นา ประกอบด้วย 2 รปู แบบ คือ รปู แบบตัวต่อตัว และรูปแบบกลุม่ พเิ ศษ ดงั ภาพ 20 ภาพท่ี 20 ครูพี่เลยี้ งคอยช่วยเหลอื ในการกากับติดตามและพฒั นาซงึ่ มี 2 รปู แบบ รูปแบบแรกเป็นแบบตัวตอ่ ตัว และรูปแบบท่ี 2 เป็นแบบกลมุ่ พิเศษ 4. กำรเรียนรู้ในวชิ ำชพี (Professional Learning) การเรียนรู้ในวิชาชีพของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์เป็นระบบการพัฒนาเชิงวิชาชีพของครู และระบบสนบั สนุนการศกึ ษาและพฒั นาตนเองของครู ดงั น้ี 4.1) ครูเข้ารับอบรมทางวิชาการอย่างต่อเน่ือง ก่อเกิดองค์ความรู้ทางความรู้ทางวิชาการ นามาสู่วิชาชีพ ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ ตามรูปแบบการพัฒนาการเรียนรู้และการยกย่อง ยอมรบั ในวชิ าชีพครทู ีเ่ รยี กวา่ “GROW MODEL” ประกอบดว้ ย 4 ส่วน ดังน้ี ดงั ภาพที่ 21

40 ภาพท่ี 21 รปู แบบการพฒั นาการเรยี นรแู้ ละการยกย่องยอมรปู ในวชิ าชพี ครูของสงิ คโปร์ https://www.moe.gov.sg/media/press/2007/pr20071228.htm. เขา้ ถงึ เม่ือ 14 มกราคม พ.ศ. 2566 4.2) มอบหน้าที่ของผู้บรหิ ารในโรงเรยี นเปน็ ผู้นาการพัฒนาทางการจดั การเรียนรู้ การพัฒนาผู้บริหารโรงเรียนเป็นผู้นาด้านการเรียนการเรียนรู้ สู่พัฒนาคุณภาพของครูจะ ดาเนินการใน 3 ประการดังนี้ 1) การเลอื กครหู รือบุคคลากรทีด่ มี าพฒั นาเป็นผอู้ านวยการ พิจารณาด้านคุณลักษณะกีมรภาวะผู้นาของสถานศึกษาผ่านการเสนอนโบบายและแสดง ทัศนทางความคิดในด้านการบริหาร ประกอบกับการอบรมการเป็นผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อฝึกประสบการณ์ วิชาชพี ทางสายงานบริหารการศึกษา 2) การพฒั นาทกั ษะการเป็นผ้นู าทางการจัดการเรียนรู้ 2.1) การจดั รายวชิ าสาหรับสายงานบรหิ ารการศึกษา 2.2) ปฏิบัติงานอยู่ท่ีโรงเรียนสัปดาห์ละ 1 วัน พร้อมกับการมอบหมายงานเพื่อให้ การพัฒนาวธิ ีการใหม่ 2.3) การจดั ทาโครงการสหสัมพันธ์เพื่อฝกึ การทางาน 2.4) การฝกึ งานในตา่ งประเทศด้านการบริหารการศึกษา 2.5) การประเมินผล

41 3) เวลาสาหรับของผู้อานวยการ โดยพิจารณาในด้านการเรียนการสอน มุ่งพัฒนาคุณภาพ การเรียนการสอนของผู้เรียน ดังภาพที่ 22 ภาพท่ี 22 การพัฒนาผูบ้ ริหารใหมค่ รใู หญ่หรือผอู้ านวยการโรงเรยี น/วิทยาลยั ใหม้ ีภาวะผนู้ าของสงิ คโปร์ https://www.moe.gov.sg/media/press/2007/pr20071228.htm. เข้าถึงเมอ่ื 12 มกราคม พ.ศ. 2566 6. กำรประเมินและกำรใหข้ ้อมลู ย้อนกลับ (Teacher Feedback and Appraisal) ระบบการประเมินและสะท้อนผลของการพัฒนาตนเองและการสอนของครู ผ่านระบบ การกากับตดิ ตาม โดยมีกระทรวงศึกษาธกิ ารเปน็ ผู้รบั ผิดชอบและและประเมินทกุ ๆ 5 ปี จากหน่วยงานภายใน และหน่วยงานภายนอกเปน็ ประจาทุกปี ในด้านประเมินผลการทางานของครูสิงคโปร์ใชร้ ะบบ Performance-based Evaluation 10 เพ่ือให้ครูเกิดการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ โดยครูต้องสอน 30-32 คาบต่อสัปดาห์ซ่ึงต้องใส่ใจในการสอนเป็น อยา่ งมากเพราะผลการเรียนของเด็กมผี ลตอ่ การประเมิน นอกจากนี้ครูยังต้องติดต่อกับผู้ปกครองอย่างสม่าเสมอ และทุกครั้งที่ติดต่อผู้ปกครองจะมี การบันทึกไว้ การประเมินผลครูจะแบ่งเป็นระดับต้ังแต่ A – E ซึ่งครูที่ได้ E ต้องปรับปรุง ถ้าได้ E ถึง 3 ครั้ง อาจถูกตัดสิทธิไม่ให้ประกอบอาชีพครูอีกต่อไป แต่หากผู้ใดมีผลงานดี จะมีโบนัสหรือเงินพิเศษให้ตามผลการ ประเมนิ 10 Performance-Based Evaluation คือ การวัดประเมนิ กระบวนการ (Process) และผลผลติ (Product) ของการปฏิบตั ทิ ่ี สะทอ้ นความรู้ ทักษะความสามารถ คณุ ลักษณะหรอื พฤตกิ รรมของผู้เรยี นทีส่ าธิตหรือแสดงออกมาใหเ้ หน็ หลังจากการไดร้ บั การจัดเรียนรู้

42 7. พัฒนำกำรทำงวชิ ำชีพและกำรเป็นผูน้ ำ (Career and Leadership Development) ประเทศสาธารณรฐั สงิ คโปร์มีระบบในการพฒั นาทางวชิ าชพี และการเปน็ ผูน้ า ดงั นี้ 1) เงนิ เดือนและคา่ ตอบแทน เงินเดือนและค่าตอบแทนของครูในขณะเริ่มปฏิบัติเข้าจะได้รับเงินเดือนประมาณ 3,320 - 3,360 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 82,879.82 บาท) และมาตรการส่งเสริมให้เพิ่มเงินเดือนและ ค่าตอบแทนใหค้ รู คอื การเพิม่ ขนาดห้องเรียนเพื่อลดจานวนครลู ง เพ่ือส่งเสริมประสทิ ธิภาพการทางานของครู ให้มีประสทิ ธิภาพเพม่ิ ขึน้ 2) การสรา้ งการยอมรับของสังคมต่อวชิ าชีพครู 3) การกาหนดเสน้ ทางในอาชพี ทช่ี ัดเจน เริ่มจากการเป็นครูประจาชั้นในโรงเรียนสู่เส้นทางการพัฒนาทางวิชาชีพ 3 สาย ดัง ภาพที่ 21 4) การสนับสนนุ การพัฒนาตนเองของครอู ยา่ งต่อเนื่อง การให้ครูได้กาหนดกรอบการสอน (TEACH FRAMEWORK) จะให้การสนับสนุนครู ทุกคนในการพัฒนาตนเองตลอดช่วงอาชีพครู โดยเปิดโอกาสการพัฒนาเพื่อสร้างศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ และความก้าวหน้าในผลลัพธ์ของวิชาชีพอย่างเต็มท่ี โดยให้ครูมีความสมดุลท้ังชีวิต สุขภาพ และการทางาน ดงั ภาพที่ 23 ภาพที่ 23 เส้นทางความก้าวหนา้ ในวิชาชีพครูสิงคโปร์ https://www.moe.gov.sg/media/press/2007/pr20071228.htm. เข้าถงึ เมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2566 จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นว่า ประเทศสาธารณรฐั สิงคโปร์มีการดาเนินการในระบบผลิตและพัฒนา ครูอย่างเป็นระบบอย่างมีประสิทธิภาพ นาไปสู่การประสบผลสาเร็จทางการศึกษา อีกท้ังจากการศึกษาพบว่า การสรา้ งแรงดงึ ดูดให้ผู้ท่มี ีความรู้ ความสามารถ ท่ีเหมาะสมเข้าสู่อาชีพครูมีความสัมพันธ์กับสถานภาพวิชาชีพ ครูอย่างยง่ิ เพราะสถานภาพวิชาชีพ เปน็ ปัจจัยความสาเรจ็ ท่ีสาคัญทสี่ ุดของการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐ สงิ คโปร์

43 5) บริบทและระบบกำรศึกษำของประเทศไทย 5.1 บรบิ ทของประเทศไทย ชื่อเปน็ ทำงกำร ราชอาณาจักรไทย (The Kingdom of Thailand) ชื่อเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร (Bangkok) ชอ่ื เต็มของกรุงเทพมหำนคร กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสนิ ทร์ มหนิ ทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรตั น์ราชธานีบรุ รี มย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพมิ าน อวตารสถติ สักกะทตั ติยวิษณุกรรมประสทิ ธิ์ วนั ชำติ 5 ธนั วาคม ภำษำประจำชำติ ภาษาไทย ภำษำรำชกำร ภาษาไทย ศำสนำประจำชำติ พุทธ สกุลเงนิ บาท ดอกไม้ประจำชำติ ดอกราชพฤกษ์ ลกั ษณะภมู ศิ ำสตร์ ประเทศไทยมีพนื้ ท่ปี ระมาณ 513,115 ตาราง ประชำกร มีจานวน 66,159,679 คน (ณ วันท่ี 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565) ระบอบกำรปกครอง มี รู ป แ บ บ รั ฐ เ ป็ น ร า ช า ธิ ป ไ ต ย ภ า ย ใ ต้ รั ฐ ธ ร ร ม นู ญ กั บ ร ะ บ อบ ประชาธปิ ไตยแบบรฐั สภา เขตกำรตดิ ตอ่ ทิศเหนอื ติดกบั เมียนมาร์และลาว ทิศตะวันตก ตดิ กบั ทะเลอนั ดามันและเมยี นมาร์ ทิศตะวันออก ตดิ กับลาวและกมั พูชา ทิศใต้ ติดกับอ่าวไทยและมาเลเซีย กำรแบ่งเขตกำรปกครอง (1) ราชการส่วนกลาง ได้แก่ กระทรวง, ทบวง และกรม (2) ราชการสว่ นภมู ิภาค ประกอบดว้ ย 77 จังหวัด 878 อาเภอ 7,255 ตาบล (3) ราชการสว่ นทอ้ งถน่ิ ได้แก่ องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัด, เทศบาล, องค์การบริหารส่วนตาบล, กรงุ เทพมหานคร และเมอื งพัทยา ลักษณะภูมอิ ำกำศ แบบเขตร้อน หรือแบบสะวันนา มีอุณหภูมิเฉลี่ย 18-34 °C และมี ปริมาณฝนตกเฉลี่ยตลอดปีกว่า 1,500 มิลลิเมตร สามารถแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาล คือ ฤดูร้อน ฤดูหนาว และฤดฝู น ข้อมูลทำงเศรษฐกิจ เศรษฐกจิ แบบผสม มรี ายได้หลักจากอุตสาหกรรม การส่งออก สินคา้ และบริการ การท่องเที่ยว การบริการ เกษตรกรรมและทรัพยากรธรรมชาติ

44 กำรคมนำคม คมนาคมทางบก คือ รถยนต์ จักรยานยนต์ หรือระบบขนส่งมวลชน เช่น ระบบรถเมล์ รถไฟ รถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน อีกท้งั ในหลายพ้นื ท่ีจะมกี ารบริการรถสองแถว รวมถงึ รถรับจา้ ง ต่าง ๆ ไดแ้ ก่ แท็กซ่ี เมลเครื่อง มอเตอร์ไซค์รบั จา้ ง และรถตกุ๊ ตุ๊ก เปน็ ตน้ คมนาคมทางอากาศ คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบบกำรศกึ ษำของประเทศไทย หน่วยงานในการจัดการศึกษาของไทย คือ กระทรวงศึกษาธิการ (Ministry of Education Thailand) การจัดการศึกษา 3 รูปแบบ คือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ตามลาดบั รูปแบบของการเรียนการสอนมี 3 รูปแบบ และให้มีระบบเทียบโอนการ เรียนรู้ท้ัง 3 รูปแบบ ระบบการศึกษาของของไทย เป็นระบบ 6 : 3 : 3 โดยมีระบบการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี จากอายุ 6-14 ปแี บง่ ไดเ้ ป็น 1. ระดับปฐมวัย (Primary) ระดับประถมศึกษาใช้เวลาเรียน 6 ปี เด็กจะ เริม่ เข้าเรยี นเมื่ออายุ 6 ปี การศึกษาในระดับน้ี คือ เป็นการศึกษาภาคบังคับ ในเกรด 1 ซึ่งเป็นการศกึ ษาระดับ ชั้นต้นของนักเรียนท่ีสามารถเข้าสู่ระบบการศึกษา เมื่อต้องการจะเล่ือนเกรดเพื่อศึกษาต่อในระดับถัดไปใน ระดบั ปฐมวยั ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย 2. ระดบั มัธยมศกึ ษำ (Secondary) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Lower-Secondary) ช่วงอายุนักเรียนอยู่ ระหว่าง 12-14 ปี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Upper-Secondary) การจัดการศึกษาเพ่ือ เป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ระยะเวลาเรียน 3 ปีช่วงอายุนักเรียนจะอยู่ระหว่าง 15-17 ปี โดยหากนกั เรยี นตอ้ งการจะเข้าศกึ ษาต่อในมหาวิทยาลัย 3. ระดับอำชีวศึกษำ (Vocational Education) เป็นการจัดการศึกษา เพื่อพฒั นาความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ หรอื ศึกษาต่อในระดบั อาชพี ชั้นสูงต่อไป 4 . ร ะ ดั บ อุ ด ม ศึ ก ษ ำ ( Higher Education) ร ะ บ บ ก า ร ศึ ก ษ า ระดับอุดมศึกษาใช้เวลา 4-6 ปี ระดับต่ากว่าปริญญาและระดับปริญญา การใช้คาว่า “อุดมศึกษา” แทนคาว่า “การศึกษาระดับมหาวิทยาลัย”เพ่ือจะให้ครอบคลุมการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญาตามท่ี กาหนด