Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา

ขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา

Published by pearyzaa, 2023-08-22 13:57:43

Description: ขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา

Search

Read the Text Version

ขุนช้างขุนแผน ตอน ขนุ ช้างถวายฎกี า ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖

ที่มาของเสภาขุนช้างขุนแผน เสภาขุนชา้ งขุนแผน เปน็ วรรณคดีที่ประพนั ธข์ ้นึ ในรัชสมัย พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หล้านภาลยั รัชกาลที่ ๒ โดยโปรดเกลา้ ใหป้ ระชุมกวเี พ่ือประพันธเ์ สภาเรื่องนีข้ ้ึนจากนิทานพื้นบ้านที่เล่าสบื ต่อกันมาตัง้ แต่สมยั กรงุ ศรีอยุธยา อกี ทัง้ ยงั ทรงพระราชนพิ นธเ์ อง ด้วยในบางตอน นอกจากนี้ยงั มกี ารเพม่ิ เติมเรื่องราวเนือ้ หาต่อมาในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระนั่งเกล้าเจา้ อยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระ จอมเกล้าเจา้ อยู่หัว ด้วยเน้อื หาและลลี าวรรณคดีของเสภาเรื่องนีม้ ี คุณค่าโดดเด่นเป็นอย่างย่ิง วรรณคดีสโมสรจงึ ไดย้ กย่องให้เปน็ “ยอด แหง่ กลอนสภุ าพ”สำหรบั เนอื้ หาท่ีนักเรียนระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ มีแค่เฉพาะตอนขุนช้างถวายฎกี าเท่านั้น ซึ่งเปน็ ตอนท่ี ไมป่ รากฏนามผ้แู ตง่

ลกั ษณะคำประพนั ธ์ แต่งด้วย กลอนเสภา ถอื เป็นกลอนท่ีมีความยืดหยุ่นในการใชค้ ำ มาก โดยไม่ไดก้ ำหนดลกั ษณะการแตง่ ตายตวั เพราะแต่ละวรรคจะเป็นไป ตามทำนองเสภานั่นเอง กลอนเสภาน้นั ใน ๑ วรรคจะมี ๖-๙ คำ/พยางค์ มีชื่อเรียกแตกต่างกนั ดังน้ี วรรคแรก = นารเี รยี งหมอน วรรคที่สอง = ชะอ้อนนางรำ วรรคท่ีสาม = ระบำเดินดง วรรคสดุ ท้าย = หงสช์ ูคอ แผนผงั กลอนเสภา

แนะนำตวั ขนุ แผลนะคร ช่ือเดิมคอื พลายแก้ว ขุนช้าง เคยบวชเรยี น มวี ชิ าอาคม แกร่งกล้า มนี สิ ัยเจ้าชู้ มีภรรยาหลายคน เปน็ ลูกเศรษฐเี มือง สุพรรณบุรี หลงรกั นางวนั ทองมาตั้งแต่เด็ก จริงใจ และรักนางวันทองคน เดยี ว

วนั ทอง แนะนำตัวละคร ช่ือเดิมคอื พิมพลิ าไลย หญิงงามแห่งเมอื ง สุพรรณ เปน็ เมยี ของ ขุนแผน และถูกขุนชา้ ง ฉดุ มาอยู่ดว้ ย ลาวทอง เปน็ เมียท่ีขุนแผนไดม้ าจาก การไปรบที่เมอื งเหนือ ทำให้ นางวันทองไม่พอใจเมื่อขุนแผน พาลาวทองกลับมาด้วย

แนะนำตวั ละคร จมื่นไวยวรนาถ ชื่อเดิมคอื พลายงาม เป็น ลูกของขุนแผนและวนั ทอง อยู่ กับแม่ได้ไม่นาน กต็ อ้ งพราก จากแม่ไปอยู่กับย่าทเ่ี มือง กาญจนบุรี

เนื้อเรอ่ื งย่อ ขุนช้างขุนแผน ตอน ขนุ ช้างถวายฎีกา

ณ เมืองสุพรรณบุรี กล่าวถงึ ครอบครวั สามครอบครวั คอื ครอบครวั ของขุนไกรพลพา่ ย มลี ูก ชายช่ือพลายแกว้ ครอบครัวของ ขุนศรวี ชิ ยั เศรษฐีใหญ่ มลี ูกชายช่ือ ขนุ ช้าง ซึ่งหัวล้านมาแต่กำเนดิ และครอบครวั ของพันศร โยธาเป็น พ่อค้า มลี กู สาวรูปร่างหน้าตางดงาม ช่ือ พิมพลิ าไลย

เมื่อพลายแก้วอายุได้ ๑๕ ปี ก็บวช เณรเรียนต่อมาที่วัดป่าเลไลยจดั ใหม้ ีเทศน์ มหาชาติ เณรพลายแก้วเทศนก์ ณั ฑม์ ัทรี นาง พิมพลิ าไลยเลื่อมใสมากจนต้องถวายผา้ แพร

จนท้งั สองเกดิ ชอบ พอกัน ต่อมาเณรพลาย แก้วก็สึก แลว้ ให้นางทอง ประศรีมาสู่ขอนางพิมพิลา ไลยและแต่งงานกนั

ต่อมาสมเด็จพระพันวษาแต่งตั้ง ใหพ้ ลายแกว้ เปน็ แม่ทัพไปรบกับเมอื ง เชยี งใหม่และได้รบั ชยั ชนะ และได้ นางลาวทองมาเป็นเมียอีกหน่ึงคน

ส่วนนางพิมพิลาไลยเมื่อสามีไป ทัพไดไ้ ม่นานกป็ ่วยหนกั จงึ ไดเ้ ปล่ียน ช่ือเปน็ วนั ทอง ขนุ ช้างทำอบุ ายหลอก ว่าพลายแกว้ ตายแล้ว นางศรปี ระจนั จึง บังคับใหน้ างวนั ทองแต่งงานกับขนุ ช้าง

เมื่อพลายแก้วกลับมาถงึ กรุงศรอี ยุธยา และได้บรรดาศักดิเ์ ป็นขุนแผนแสนสะท้าน นางวันทองเหน็ ขนุ แผนพาภรรยาใหม่มาด้วย กโ็ กรธด่าทอนางลาวทองและลืมตวั พดู ก้าวรา้ วขุนแผน ทำให้ขนุ แผนโมโหพานาง ลาวทองไปอยู่ทก่ี าญจนบรุ ี ส่วนนางวนั ทองก็ ตกเป็นภรรยาของขนุ ชา้ งอย่างจำใจ

ขนุ แผนคิดถึงนางวันทอง จงึ ลอบเข้าไปหาพบนางนอนเคยี งคู่อยู่ กบั ขนุ ช้าง ขนุ ชา้ งโกรธจึงแกแ้ ค้น ทำให้ขุนแผนตอ้ งหนไี ปต่างถนิ่ และยังถกู ริบนางลาวทองอกี ดว้ ย

หลงั จากนนั้ ขนุ แผนก็ได้ไปลักพาตัว นางวนั ทองออกมาจากบ้านของขนุ ชา้ ง และพากันไปอาศัยอยู่ตามป่าเขาอย่าง ยากลำบาก ซึ่งในระหวา่ งนีน้ างวันทองก็ ตั้งทอ้ ง แต่ก็มาถกู ขุนช้างฉดุ กลับไป และขุนแผนกต็ ิดคุก

เม่ืออยู่กับขุนชา้ ง นางวนั ทอง คลอดลกู ออกมาช่ือ พลายงาม เม่ือขุน ชา้ งรวู้ ่าพลายงามไม่ใช่ลูกของตนก็ลวง ไปฆา่ ในปา่ ต่อมาถูกส่งไปอยกู่ ับแม่ ของขุนแผน

พลายงามอาศัยอยกู่ บั ย่า จน เติบใหญ่ได้รบั ราชการและมียศ เป็น “จม่ืนไวยวรนาถ”

หลงั จากที่จมื่นไวยวรนาถชนะความ ต่อขนุ ชา้ งโดยการดำน้าพิสูจนค์ วาม จรงิ ก็มคี วามคิดอยากรบั แม่กลับมา อยู่กบั พ่อ จงึ ไปลกั พาตวั แม่มา กลางดึก

แลว้ บอกใหค้ นมาบอกขุนชา้ งว่าตน จับไขใ้ กลต้ ายอยากพบหน้าแม่อกี ครัง้ ขนุ ชา้ งกจ็ ำใจไม่เอาความและใหไ้ ปด้วย ความคบั แคน้ ใจ

ขนุ ช้างโกรธมากจงึ ได้เข้าถวายฎีกา สมเดจ็ พระพนั วษาเหน็ เข้า ก็ทรงพระ พิโรธเรื่องนางวนั ทองมจิ บส้ินเสียที จึง เรยี กทกุ คนมาพบ แล้วตรสั ถามนางวัน ทองว่าอยากอยู่กับใคร

นางวันทองเลอื กไม่ได้ พระองค์จึงตรัส ประนามนางวันทองว่าเปน็ หญงิ หลายใจ ให้ เอาตัวไปประหารเสีย

บทประพนั ธ์เสภา ขนุ ช้างขนุ แผน ตอน ขุนช้างถวายฎกี า

จะกล่าวถึงโฉมเจา้ พลายงาม ถา้ เปน็ ความชนะขุนชา้ งนั่น กลับมาอยู่บา้ นสำราญครัน เกษมสนั ตส์ องสมภิรมย์ยวน พรอ้ มญาติขาดอยู่แต่มารดา นกึ นึกตรกึ ตราละหอ้ ยหวน โอ้วา่ แม่วันทองช่างหมองมวล ไม่สมควรเคียงคู่กับขนุ ชา้ ง เออนเี้ นอื้ เคราะหก์ รรมมานำผิด น่าอายมติ รหมองใจไม่หายหมาง ฝ่ายพ่อมีบุญเป็นขุนนาง แตแ่ มไ่ ปแนบข้างคนจญั ไร แปลความ จมื่นไวยฯ แม้จะอยู่บา้ นอย่างสุขสบายพร้อมพร่ังทั้งญาติมติ รและ ภรรยา แต่ก็เกิดคดิ ถึงแม่ซ่ึงกค็ ือนางวนั ทอง แต่ในขณะเดยี วกันก็ร้สู กึ โกรธที่ แม่ตอ้ งไปอยกู่ บั คนเลว ๆ อย่างขนุ ชา้ ง ท้ัง ๆ ท่ีพอ่ ของตนเปน็ ถึงขนุ นาง จมื่น ไวย ฯ จงึ คดิ หาทางพาแม่กลับมาอยดู่ ้วยกัน แต่บา้ นของท้ังสองอยู่ห่างไกลกนั มาก จมื่นไวย ฯ จึงต้องใชว้ ชิ าอาคมในการเดินทางไปหาแม่

รูปร่างวปิ ริตผิดกว่าคน ทรพลอปั รยี ไ์ ม่ดไี ด้ ทัง้ ใจคอชั่วโฉดโหดไร้ ช่างไปหลงรักใคร่ได้เปน็ ดี วันน้นั แพ้กเู มื่อดำน้า ก็กร้ิวซา้ จะฆา่ ให้เป็นผี แสนแค้นด้วยมารดายงั ปรานี ให้ไปขอชีวขี นุ ชา้ งไว้ แค้นแม่จำจะแก้ให้หายแค้น ไม่ทดแทนอา้ ยขนุ ชา้ งบ้างไม่ได้ หมายจติ คดิ จะใหม้ นั บรรลัย ไม่สมใจจำเพาะเคราะห์มนั ดี แปลความ ขนุ ช้างรปู ร่างนา่ เกลยี ด ใจคอชวั่ ชา้ วนั น้นั ดำนา้ แพ้จม่ืนไวยฯ อยากจะฆ่าจะได้ตาย แต่เพราะแม่ไดข้ อชีวติ ขนุ ช้างไว้ รสู้ ึกเคืองแม่เพราะใจ อยากให้มันตายไป แต่ไม่สมหวงั ขุนชา้ งยังเคราะหด์ ี

อย่าเลยจะรบั แม่กลับมา ให้อยู่ด้วยบิดาเกษมศรี พรากใหพ้ ้นคนอุบาทวช์ าติอัปรีย์ ย่ิงคิดกย็ ่ิงมคี วามโกรธา อัดอึดฮึดฮัดด้วยขดั ใจ เม่ือไรตะวันจะลบั หล้า เข้าห้องหวนละหอ้ ยคอยเวลา จวนสุริยาเลย้ี วลบั เมรไุ กร เงยี บสัตวจ์ ัตุบททวบิ าท ดาวดาษเดือนสว่างกระจ่างไข น้าค้างตกกระเซน็ เยน็ เยอื กใจ สงัดเสียงคนใครไม่พูดจา แปลความ จมื่นไวยฯ คดิ อยากไปรบั แม่กลบั มาหาพอ่ ไม่อยากให้อยู่กับคน อุบาทว์แบบขนุ ช้าง ยง่ิ คดิ ก็ยิ่งโมโห จม่ืนไวยฯ รอใหถ้ งึ เวลาเย็น ซึ่งเป็น เวลาที่เงยี บสกดั ไร้เสียงสัตว์สเ่ี ท้าและสตั วส์ องเท้าใดๆ ดาวกระจายอยู่ท่ัว ฟ้า น้าค้างเย็นยะเยือก ไม่มีใครพดู จากนั

ได้ยินเสยี งฆ้องย่าประจำวงั ลอยลมล่องดังถงึ เคหา คะเนนบั ย่ายามไดส้ ามครา ดูเวลาปลอดห่วงทักทนิ ฟ้าขาวดาวเด่นดวงสว่าง จันทรก์ ระจ่างทรงกลดหมดเมฆสนิ้ จึงเซ่นเหลา้ ขาวปลาใหพ้ รายกนิ เสกขมน้ิ ว่านยาเขา้ ทาตวั ลงยนั ตร์ าชะเอาปะอก หยิบยกมงคลขึน้ ใส่หัว เป่ามนต์เบอื้ งบนชอมุ่ มวั พรายย่ัวยวนใจให้ไคลคลา จับดาบเคยปราบณรงคค์ รบ เสรจ็ ครบบริกรรมพระคาถา ลงจากเรือนไปมไิ ดช้ า้ รบี มาถงึ บา้ นขนุ ช้างพลัน ฯ แปลความ จม่ืนไวย ฯ ใช้วิธีดฤู กษ์ยาม เอาเหลา้ เซ่นผพี ราย เสกว่านยาทาตวั หยบิ ยันตม์ าแปะไวบ้ นอก สวมมงคลที่ศรี ษะ รวมไปถงึ เป่ามนตรล์ งที่ดาบ คู่ใจ เพื่อเดินทางไปหานางวนั ทองท่ีเรือนของขุนช้าง

เห็นคนนอนลอ้ มอ้อมเปน็ วง ประตูลั่นมั่นคงขอบร้วั กัน้ กองไฟสว่างดังกลางวนั หมายสำคัญตรงมาหน้าประตู จงึ ร่ายมนตรามหาสะกด เส่ือมหมดอาถรรพ์ท่ีฝงั อยู่ ภูตพรายนายขุนชา้ งวางวิ่งพรู คนผูใ้ นบา้ นกซ็ านเซอะ ทงั้ ชายหญิงง่วงงมล้มหลับ นอนทับคว่าหงายก่ายกันเปรอะ จ่ีปลาคาไฟมันไหลเลอะ โงกเงอะงุยงมไม่สมประดี ใช้พรายถอดกลอนถอนล่ิม รอยทม่ิ ถอดหลดุ ไปจากที่ ย่างเท้ากา้ วไปในทนั ที มิได้มีใครทักแต่สกั คน แปลความ จม่ืนไวยฯ เป่าคาถาอาคมสำหรบั หายตัวแลว้ จม่ืนไวย ฯ ยงั เสกคาถาใหผ้ ีทคี่ ุ้มครองบ้านเรือนของขุนช้างหายไปทั้งหมด และยงั เป่ามนต์ให้คนในเรอื นหลบั ใหลไม่ไดส้ ติ

มีแต่หลบั เพ้อมะเมอฝัน ทั้งไฟกองป้องกนั ทกุ แห่งหน ผู้คนเงียบสำเนียงเสยี งแต่กรน มาจนถงึ เรือนเจ้าขนุ ช้าง จดุ เทียนสะกดข้าวสารปราย ภตู พรายโดดเรอื นสะเทอื นผาง สะเดาะดาลบานเปดิ หน้าต่างกาง ย่างเท้าก้าวขนึ้ รา้ นดอกไม้ หอมหวนอวลอบบุปผาชาติ เบิกบานกา้ นกลาดกงิ่ ไสว เรณฟู รู ่อนขจรใจ ย่างเท้ากา้ วไปไม่โครมคราม ข้าไทนอนหลบั ลงทับกัน สะเดาะกลอนถอนลั่นถงึ ช้นั สาม กระจกฉากหลากสลบั วับแวมวาม อร่ามแสงโคมแกว้ แววจับตา ม่านมู่ลี่มฉี ากประจำกนั้ อฒั จนั ทร์เคร่ืองแกว้ กห็ นกั หนา แปลความ เมื่อผ้คู นในบา้ นขุนช้างหลับใหลไปหมด จมื่นไวยฯ ก็ใช้ให้ผีพราย สะเดาะกลอนทงั้ หมด แล้วตนก็เดนิ ไปบนบา้ น ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้ที่มีกล่ิน หอมอบอวล กา้ วเดนิ ไปอยา่ งระมัดระวัง เห็นแสงโคมแกว้ แวววาว บ้านของขนุ ชา้ งมีม่านมู่ล่ีก้นั และมีเครื่องเรือนเคร่ืองแก้วมากมาย

ชมพลางย่างเยื้องชำเลอื งมา เปิดม้งุ เหน็ หน้าแม่วนั ทอง นง่ิ นอนอยู่บนเตียงเคียงขนุ ช้าง มันแนบข้างกอดกลมประสมสอง เจ็บใจดงั หวั ใจจะพังพอง ขยบั จอ้ งดาบง่าอยากฆ่าฟนั จะใคร่ถบี ขุนช้างที่กลางตวั นึกกลัวจะถูกแม่วนั ทองนนั่ พลางนั่งลงนอบนบอภิวันท์ สะอน้ื อั้นอกแคน้ น้าตาคลอ แปลความ เมื่อจมื่นไวยฯ เขา้ ไปหาแม่ที่หอ้ งของขนุ ช้างได้ แต่เมื่อไป ถงึ ก็เห็นภาพบาดตาบาดใจขนุ ช้างนอนกอดแม่ตนเอง อยากถีบขุน ช้างแต่กก็ ลัวโดนแม่ คดิ แล้วกอ็ ดั อ้ันนง่ั ลงร้องไห้สะอื้น

โอ้แม่เจ้าประคณุ ของลกู เอ๋ย ไม่ควรเลยจะพรากจากคุณพ่อ เวรกรรมนำไปไม่รั้งรอ มพิ อท่ีจะตอ้ งพรากก็จากมา มันไปฉดุ มารดาเอามาไว้ อา้ ยหัวใสข่มเหงไม่เกรงหน้า ท่ีทำแค้นกูจะแทนใหท้ นั ตา ขอษมาแม่แล้วกข็ ับพราย เป่าลงดว้ ยพระเวทวิทยา มารดากฟ็ ้นื ตื่นโดยง่าย ดาบใส่ฝกั ไวไ้ ม่เคลื่อนคลาย วันทองรสู้ ึกกายก็ลมื ตา ฯ แปลความ จมื่นไวยฯ ร้สู กึ สงสารแม่ ไม่นา่ จะมาพรากจากพ่อขุนแผน เลย แม่คงมเี วรกรรมทำใหแ้ ม่ต้องถูกขนุ ชา้ งฉุดมาจม่ืนไวยฯ จะ ขอแก้แค้น ว่าแล้วกข็ อขมาแล้วเป่ามนต์ ใหแ้ ม่ฟืน้ ขึ้นมา นางวนั ทองเม่ือรู้สกึ ตวั กล็ ืมตาข้นึ

ครานนั้ จึงโฉมเจา้ วนั ทอง ต้องมนต์มวั หมองเป็นหนักหนา ต่ืนพลางทางชำเลอื งนยั น์ตามา เห็นลกู ยานั้นยืนอยู่ริมเตยี ง สำคัญคดิ ว่าผรู้ ้ายให้นกึ กลวั กอดผัวร้องดนิ้ จนส้ินเสยี ง ซวนซบหลบลงมาหมอบเมียง พระหมื่นไวยเข้าเคียงหา้ มมารดา อะไรแม่แซ่ร้องทั้งห้องนอน ลกู รอ้ นรำคาญใจจงึ มาหา จะร้องไยใช่โจรผู้รา้ ยมา สนทนาด้วยลกู อย่าตกใจ ฯ แปลความ เม่ือวนั ทองต่ืนขนึ้ กง็ ุนงง เหน็ ลูกยนื อยู่ริมเตียงกต็ กใจคดิ วา่ ผรู้ า้ ย ดิ้นและร้องเสยี งดัง จม่ืนไวยฯ จึงรีบห้ามและปลอบแม่ว่าน่ี ลกู เอง รู้สึกทุกขร์ อ้ นใจจึงมาหา ไม่ใชผ้ ู้ร้ายแต่อย่างใด

ครานัน้ วนั ทองผ่องโสภา คร้ันรวู้ า่ ลูกยาหากลวั ไม่ ลกุ ออกมาพลนั ด้วยทันใด พระหมื่นไวยเข้ากอดเอาบาทา วันทองประคองสอดกอดลูกรัก ซบพักตรร์ อ้ งไหไ้ ม่เงยหนา้ เจา้ มาไยปานน้ีน่ีลกู อา เขารกั ษาอยู่ทกุ แห่งตำแหน่งใน ใส่ดาลบ้านช่องกองไฟรอบ พ่อช่างลอบเข้ามากะไรได้ อาจองทะนงตวั ไม่กลัวภัย นี่พ่อใชฤ้ ๅว่าเจา้ มาเอง แปลความ เมื่อวนั ทองรู้ว่าเปน็ ลกู ตนก็ไม่กลัว และลุกออกมาคุยดว้ ย จมื่น ไวยฯ กม้ ลงกอดเทา้ แม่ วนั ทองก็ประครองลกู มากอดและร้องไห้ แลว้ กล่าวว่า ลกู มาทำไมตอนน้ี เขามเี วรยามตลอดเวลา บา้ นลงกลอน และก่อกองไฟไว้รอบ ลกู เขา้ มาไดอ้ ยา่ งไร ทำไมจึงกล้าถงึ เพียงนี้ พ่อ ใช้ให้มาหรือลกู อยากมาเอง

ขุนชา้ งตื่นขึ้นมิเป็นการ เขาจะรกุ รานพาลขม่ เหง จะเกิดผิดแม่คิดคะนงึ เกรง ฉวยสบเพลงพลาดพลา้ มิเป็นการ มีธรุ ะสิ่งไรในใจเจา้ พ่อจงเล่าแก่แม่แลว้ กลบั บ้าน มิควรทำเจา้ อย่าทำให้รำคาญ อย่าหาญเหมอื นพอ่ นักคะนองใจ จมื่น ไวยสารภาพกราบบาทา ลูกมาผดิ จริงหาเถยี งไม่ รักตัวกลัวผดิ แต่คดิ ไป กห็ ักใจเพราะรักแม่วันทอง แปลความ วันทองกล่าวว่า ถา้ ขนุ ชา้ งต่ืนขน้ึ มาจะเป็นเรื่องใหญ่ ลูกมีธุระอะไร ให้บอกมา แล้วรีบกลบั บา้ นไปอย่าทำอะไรใหเ้ ปน็ เร่ือง อย่าคึกคะนอง เหมอื นพอ่ นักเลย จมื่นไวยฯ กม้ กราบแล้วบอกว่า ลกู ผิดจริงท่ีมาทน่ี ี่ กลัวความผิดก็กลวั แต่เพราะรกั แม่วนั ทองจึงมาหา

ทกุ วนั นีล้ กู ชายสบายยศ พรอ้ มหมดเมียม่ิงกม็ ีสอง มบี ่าวไพร่ใชส้ อยทง้ั เงินทอง พ่ีน้องข้างพ่อกบ็ รบิ ูรณ์ ยังขาดแต่แม่คุณไม่แลเหน็ เป็นอยู่กเ็ หมอื นตายไปหายสูญ ข้อนที้ ่ีทุกขย์ ังเพิ่มพูน ถา้ พรอ้ มมูลแม่ด้วยจะสำราญ ลูกมาหมายว่าจะมารับ เชญิ แมว่ นั ทองกลบั คนื ไปบ้าน แมน้ จะบังเกิดเหตุเภทพาล ประการใดก็ตามแต่เวรา แปลความ จม่ืนไวย ฯ กล่าวว่า ทุกวนั นตี้ นเองมีชวี ติ ท่ีสุขสบาย มยี ศ มี เมีย มญี าตฝิ ่ายพ่อครบหมด จะขาดก็เพยี งแต่แม่ ที่ยังทำใหร้ ู้สึก เป็นทกุ ข์อยู่ หากแม่อยดู่ ว้ ยคงมคี วามสุขกว่านี้ ลูกจงึ รบั แม่กลับไป หากจะเกิดเหตใุ ดต่อไปกแ็ ล้วแต่เวรกรรม

มาอยไู่ ยกับไอห้ ินชาติ แสนอุบาทวใ์ จจติ ริษยา ดงั ทองคำทำเล่ียมปากกะลา หน้าตาดำเหมอื นมนิ หมอ้ มอม เหมือนแมลงวนั ว่อนเคล้าที่เน่าช่ัว มาเกลือกกลวั้ ปทุมาลยท์ ่ีหวานหอม ดอกมะเดื่อฤๅจะเจือดอกพะยอม ว่านกั แม่จะตรอมระกำใจ แม่เลย้ี งลกู มาถงึ เจ็ดขวบ เคราะหป์ ระจวบจากแม่หาเหน็ ไม่ จะคดิ ถงึ ลกู บา้ งฤๅอย่างไร ฤๅหาไม่ใจแมไ่ ม่คดิ เลย ถ้าคิดเห็นเอน็ ดวู า่ ลูกเตา้ แม่ทูนเกลา้ ไปเรอื นอย่าเชอื นเฉย ใหล้ กู คลายอารมณไ์ ดช้ มเชย เหมอื นเมื่อครัง้ แม่เคยเลย้ี งลูกมา ฯ แปลความ จม่ืนไวยฯ กล่าววา่ มาอยู่กบั ขนุ ชา้ งท่ีอุบาทว์ ใจชั่วทำไม หนา้ ตาก็ดำ เหมอื น แมลงวนั เนา่ ที่มาดมดอมดอกไมท้ ่ีหวานหอม หากลกู พูดไปกก็ ลวั แม่จะเสียใจ แม่ เลีย้ งลกู มาถงึ ๗ ขวบ กพ็ รากจากกนั หากแม่ยงั คดิ วา่ เปน็ ลูกก็จงกลับบา้ นไป ดว้ ยกันเถดิ ใหล้ กู ไดส้ บายใจ เหมือนตอนท่ีแม่เคยเล้ยี งดูลกู มา

คราน้ันจึงโฉมเจา้ วันทอง เศร้าหมองด้วยลกู เป็นหนกั หนา พ่อพลายงามทรามสวาดิของแม่อา แม่โศกาเกอื บเจยี นจะบรรลยั ใช่จะอิ่มเอิบอาบด้วยเงนิ ทอง มิใช่ของตวั ทำมาแต่ไหน ทง้ั ผคู้ นช้างม้าแลขา้ ไท ไม่รักใคร่เหมือนกบั พ่อพลายงาม ทุกวันน้ใี ช่แม่จะผาสกุ มแี ต่ทกุ ขใ์ จเจ็บดงั เหนบ็ หนาม ต้องจำจนทนกรรมที่ติดตาม จะขืนความคดิ ไปกใ็ ช่ที แปลความ เม่ือนัน้ วนั ทองรู้สึกเศร้าเป็นอย่างมาก พลายงามของแม่เอ๋ย แม่ ก็เศรา้ เสยี ใจเจยี นตาย ถงึ แมม้ เี งินทอง คนรบั ใช้มากมายกไ็ ม่ได้มี ความสขุ และไม่ได้ร้สู กึ รกั ใคร่เหมือนลกู พลายงาม ทุกวนั นแ้ี ม่ก็มี ความทุกขใ์ จมากคงเป็นกรรมของแม่เองจำตอ้ งทนอยู่ไป

เม่ือพ่อเจ้าเข้าคกุ แม่ทอ้ งแก่ เขาฉดุ แม่ใช่จะแกล้งแหนงหนี ถงึ พ่อเจา้ เล่าไม่รวู้ ่ารา้ ยดี เป็นหลายปีแม่มาอยู่กับขนุ ช้าง เมื่อพ่อเจา้ กลบั มาแต่เชียงใหม่ ไม่เพ็ดทลู สงิ่ ไรแต่สกั อย่าง เมื่อคราวตัวแม่เป็นคนกลาง ท่านกว็ างบทคนื ใหบ้ ิดา แปลความ เมื่อตอนขุนแผนถูกจับเข้าคุก แมก่ ท็ อ้ งแก่ขุนช้างฉดุ แม่มาไมไ่ ด้ หนีขนุ แผนมา ตอนขนุ แผนเขารบชนะเชียงใหม่มีความดคี วามชอบ พระ พนั วษาก็ตัดสนิ ใหไ้ ปอยกู่ บั ขนุ แผน

เจา้ เป็นถึงหัวหมื่นมหาดเลก็ มใิ ชเ่ ดก็ ดอกจงฟงั คำแม่ว่า จงเร่งกลบั ไปคิดกบั บดิ า ฟอ้ งหากราบทลู พระทรงธรรม์ พระองคค์ งจะโปรดประทานให้ จะปรากฏยศไกรเฉดิ ฉนั อันจะมาลักพาไม่ว่ากัน เช่นนั้นใจแม่มเิ ตม็ ใจ ฯ ฟงั ความเห็นวา่ แม่หาไปไม่ คราน้นั จึงโฉมเจ้าพลายงาม เพราะรกั ไอ้ขุนชา้ งกว่าบดิ า คดิ บ่ายเบี่ยงเล่ียงเล้ยี วเบย้ี วบดิ ไป แปลความ ลกู เปน็ ถงึ หัวหม่ืนมหาดเล็ก ไม่ใช่เดก็ แล้วจงกลบั ไปคดิ ไตร่ตรองกบั พ่อใหด้ ี แลว้ ไปกราบทูลพระพนั วษา พระพนั วษาคงเอน็ ดูและช่วยพลายงาม เมื่อได้ฟงั แม่แลว้ ก็คดิ บ่ายเบ่ียง ว่าแม่รกั ขุนช้างมากกว่าตน

จงึ ว่าอนจิ จาลูกมารบั แม่ยงั กลับทัดทานเปน็ หนักหนา เหมือนไม่มรี ักใคร่ในลูกยา อุตส่าหม์ ารบั แม่แลว้ ยงั มิไป เสียแรงเปน็ ลูกผู้ชายไม่อายเพ่ือน จะพาแม่ไปเรือนให้จงได้ แม้นมไิ ปใหง้ ามก็ตามใจ จะบาปกรรมอย่างไรก็ตามที จะตดั เอาศรี ษะของแม่ไป ทงิ้ แต่ตัวไวใ้ ห้อยู่น่ี แม่อย่าเจรจาใหช้ า้ ที จวนแจง้ แสงศรีจะรบี ไป ฯ แปลความ ตนอตุ ส่าห์มารบั แม่แต่แม่ก็ไม่ไป แลว้ ยังกล่าวในทำนองหา้ มเหมือน ไม่รกั ลูก พลายงามตอบวา่ ตนเปน็ ลูกผ้ชู ายวนั น้ีจะตอ้ งพาแมก่ ลับบา้ นไปใหไ้ ด้ ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ยอมก็ตาม ถ้าแม่ไม่กลับไปขอทำบาปกรรมแลว้ วันน้ี ต่อให้ ต้องตัดหวั ของแม่ไปแล้วท้ิงแต่ตวั ไว้ทนี่ ี่กจ็ ะทำ แม่อย่ามวั พดู อยู่จงรีบไปเถอะฟ้าจะสว่างแล้ว

ครานน้ั วันทองผ่องโสภา เหน็ ลกู ยากัดฟนั มนั ไส้ ถอื ดาบฟ้าฟน้ื ยนื แกว่งไกว ตกใจกลัวว่าจะฆ่าฟนั จึงปลอบว่าพลายงามพ่อทรามรัก อย่าฮกึ ฮกั วา้ วุ่นทำหนุ หนั จงครวญใคร่ให้เหน็ ขอ้ สำคัญ แมน่ พี้ รั่นกลัวแต่จะเกิดความ ดว้ ยเป็นขา้ ลักไปไทลักมา เห็นเบื้องหน้าจะองึ แม่จึงห้าม ถา้ เหน็ เจา้ เปน็ สุขไม่ลุกลาม กต็ ามเถิดมารดาจะคลาไคล ว่าพลางนางลกุ ออกจากหอ้ ง เศร้าหมองโศกานา้ ตาไหล พระหมื่นไวยก็พามารดาไป พอรงุ่ แจ้งแสงใสก็ถงึ เรอื น ฯ แปลความ ฝ่ายนางวนั ทองพอเห็นลกู กดั ฟนั แกว่งดาบฟา้ ฟืน้ กก็ ลวั นางวันทอง ปลอบลกู ว่าอย่าหนุ หัน ที่แม่ไม่ไปนัน้ เพราะกลัวลูกจะเดือดร้อนเป็นคดีความ แต่ถา้ ลกู เหน็ ว่าดวี ่างามแม่กจ็ ะตามกลบั ไป แลว้ วนั ทองกต็ ามพลายงามกลบั บ้าน พลายงามพาแม่ไปถงึ บ้านเม่ือใกล้สว่าง

จะกล่าวถงึ เจา้ จอมหม่อมขุนชา้ ง นอนครางหลบั กรนอยู่ป่นเป้อื น อศั จรรย์ฝันแปรแชเชือน ว่าขเี้ รอื้ นขน้ึ ตวั ทั่วทั้งนน้ั หาหมอมารกั ษายาเขา้ ปรอท มนั กินปอดตบั ไตออกไหลลั่น ทง้ั ไสน้ อ้ ยไส้ใหญ่แลไสต้ นั ฟันฟางก็หกั จากปากตวั ตกใจต่ืนผวาควา้ วนั ทอง รอ้ งว่าแม่คุณแม่ช่วยผวั ลกุ ขนึ้ งกงันตวั สั่นรัว ใหน้ กึ กลัวปรอทจะตอดตาย แปลความ ขนุ ชา้ งท่ีนอนหลับอยู่ กไ็ ดฝ้ นั ร้ายว่า “เป็นขี้เรือนทั่วทง้ั ตัว พอไป หาหมอกินยาประสมปรอทจงึ ถกู ปรอทกินตบั ไตไส้พุงและฟันฟางก็หกั ออกจากปาก” เม่ือขนุ ชา้ งต่ืนขึ้นมาก็ผวาจะควา้ หานางวนั ทอง

ลมื ตาเหลียวหาเจ้าวันทอง ไม่เห็นน้องห้องสวา่ งตะวนั สาย ผ้าผ่อนล่อนแก่นไม่ติดกาย เหน็ ม่านขาดเร่ียรายประหลาดใจ ตะโกนเรียกในห้องวนั ทองเอ๋ย หาขานรับเช่นเคยสกั คำไม่ ทง้ั ขา้ วของมากมายกห็ ายไป ปากประตูเปิดไวไ้ ม่ใส่กลอน พลางเรียกหาข้าไทอยวู่ ้าวุ่น ออี นุ่ ออี มิ่ อีฉิมอสี อน อีมอี มี าอสี าคร นิ่งนอนไยหวามาหากู แปลความ พอขุนชา้ งลืมตาขนึ้ มามองก็ไม่เหน็ นางวันทองอยู่ในหอ้ ง จึงตะโกนเรียกหาวันทองก็ไม่มีเสยี งขานรับกลับมาเหมือนเช่นเคย พอมองไปในห้องก็เห็นข้าวของมากมายหายไป จงึ ตะโกนเรียก บ่าวไพร่ในบ้านให้เข้ามาหา

บ่าวผู้หญงิ วิ่งไปอยงู่ กงนั เห็นนายน้ันแกผ้ า้ กางขาอยู่ ต่างคนทรุดนั่งบงั ประตู ตกตะลงึ แลดไู ม่เขา้ มา ขนุ ชา้ งเหน็ ข้าไม่มาใกล้ ขัดใจลุกขึ้นท้งั แกผ้ ้า แหงนเถ่อเป้อปงั ยืนจังกา้ ย่างเท้ากา้ วมาไม่รตู้ วั ยายจันงันงกยกมือไหว้ นั่นพ่อจะไปไหนพ่อทนู หัว ไม่นงุ่ ผ่อนนุ่งผา้ ดูน่ากลวั ขนุ ช้างมองดตู ัวกต็ กใจ แปลความ บ่าวท่ีเป็นผู้หญงิ ก็ว่ิงกนั ไปหาแต่เห็นขุนชา้ งแกผ้ า้ อยู่ ก็ หลบกันไปอยหู่ ลังประตูไม่กล้าเข้าไป ชุนชา้ งเหน็ ดังนั้นก็ขดั ใจจึง ลกุ ข้นึ ทั้ง ๆ ท่ียงั แกผ้ า้ อยู่ ยนื คา้ งถ่างขาแลว้ ก้าวออกไปโดยทไ่ี ม่ รตู้ ัว ยายจันก็ยกมอื ไหว้แลว้ ถามขนุ ช้างวา่ จะไปไหน เสื้อผา้ ไม่ใส่ พอขุนช้างมองดตู วั เองก็ตอ้ งตกใจ

สองมอื ปิดขาเหมอื นทา่ เปรต ใครมาเทศนเ์ อาผ้ากูไปไหน ใหน้ กึ อดสหู มู่ขา้ ไท ยายจนั ไปเอาผา้ ใหข้ า้ ที ยายจนั ตกใจเตม็ ประดา เขา้ ไปฉวยผ้าเอามาคลี่ หยิบย่ืนส่งไปใหท้ ันที เมินหนีอดสูไม่ดนู าย ขุนชา้ งตวั สั่นทาวบอกบ่าวไพร่ วันทองไปไหนอย่างไรหาย เอง็ ไปดใู ห้รซู้ ึ่งแยบคาย พบแล้วอย่าวุ่นวายใหเ้ ชิญมา ฯ แปลความ ขนุ ชา้ งเอามือไปปดิ ขาเหมอื นทา่ ทเ่ี ปรตยนื แล้วบอกว่าใครมาเอาผา้ ไป ไหน เลยนึกละอายใจกับเหล่าคนใช้ แล้วบอกใหย้ ายจนั ไปเอาผา้ มาให้ ยายจัน กต็ กใจแลว้ ไปหยิบผ้ามาคล่ีแล้วส่งไปให้กับขุนชา้ ง ตนเองก็หลบไปไม่กลา้ มอง ขุนช้างก็บอกคนใช้อย่างสั่นรัว ๆ ว่านางวันทองหายไปไหน ใหไ้ ปดวู ่าอยู่ที่ไหน ถ้าเจอตวั แล้วกใ็ หเ้ ชิญตัวกลบั มา

ข้าไทไดฟ้ งั ขนุ ช้างใช้ ต่างเท่ียวคน้ ด้นไปจะเอาหน้า ท้ังห้องนอกห้องในไม่พบพา ท่ัวเคหาแลว้ ไปคน้ จนแผ่นดิน เห็นประตรู ัว้ บา้ นบานเปดิ กว้าง ผู้คนนอนสล้างไม่ต่ืนสิน้ เสาแรกแตกต้นเป็นมลทนิ กินใจกลบั มาหาขุนช้าง บอกว่าได้คน้ ควา้ หาพบไม่ แลว้ เล่าแจ้งเหตไุ ปส้นิ ทุกอย่าง ข้าเห็นวิปริตผิดท่าทาง ที่นวลนางวนั ทองนั้นหายไป ฯ แปลความ พวกคนใชไ้ ด้ฟงั ท่ีขนุ ชา้ งใช้ต่างก็ไปคน้ หาเพื่อท่ีจะเอาหน้า แต่หา เท่าไรก็ยังหากันไม่พบพอออกไปหน้าบา้ นกเ็ ห็นประตบู ้านเปิดอยู่ และ เหน็ คนทน่ี อนเกล่ือนกลาดเพราะมนต์สะกด จงึ กลบั มารายงานขุนช้างว่า ไม่พบนางวันทอง เหน็ แต่ “เสาแรกแตกต้น คือ เสาเอกที่บ้านแตกเช่ือ วา่ จะเกิดส่ิงไม่ดีข้นึ ” ซ่ึงดูผิดประหลาดไป

คราน้นั ขนุ ช้างฟงั บ่าวบอก เหงื่อออกโซมลา้ นกระบานใส คิดคดิ ใหแ้ คน้ แสนเจ็บใจ ช่างทำได้ต่างต่างทุกอย่างจรงิ สองหนสามหนก่นแต่หนี พล้งั ทลี งไม่รอดนางยอดหญงิ คราวนัน้ อา้ ยขุนแผนมนั แง้นชงิ นี่คราวนหี้ นีวิ่งไปตามใคร ไม่คิดว่าจะเป็นเหน็ วา่ แก่ ยังสาระแนหลบลีห้ นีไปไหน เอาเถิดเปน็ ไรกเ็ ป็นไป ไม่เอากลับมาได้มใิ ช่กู ฯ แปลความ ขุนชา้ งไดฟ้ ังท่ีคนใชพ้ ดู เหง่ือกอ็ อกเต็มหวั ล้าน คิดไปแลว้ ก็เจ็บใจ บ่น ด่านางวันทองว่าหายไปไหน หนตี นไปไดส้ องสามครั้งแลว้ พอได้โอกาสก็ หนี ตอนนน้ั ขนุ แผนเปน็ คนพาไป แล้วคราวนน้ี างวันทองไปกับใคร แต่ถงึ อย่างไรก็จะต้องตามกลับมาใหไ้ ด้

จะกล่าวถึงโฉมเจา้ พลายงาม เกรงเนือ้ ความนั่งนึกตรกึ ตรองอยู่ อ้ายขนุ ชา้ งสารพดั เป็นศัตรู ถ้ามนั ร้วู ่าลกั เอาแม่มา มนั กจ็ ะสอดแนมแกมเทจ็ ไปกราบทลู สมเดจ็ พระพนั วษา ดจู ะระแวงผดิ ในกิจจา มารดากจ็ ะตอ้ งซึ่งโทษภยั คดิ แลว้ เรียกหมื่นวเิ ศษผล เอ็งเปน็ คนเคยชอบอัชฌาสยั จงไปบา้ นขุนช้างดว้ ยทนั ใด ไกล่เกลี่ยเสียอย่าใหม้ นั โกรธา แปลความ พลายงามเกรงว่าขุนชา้ งจะนำเร่ืองท่ีเอาตัวนางวันทองมาไป กราบทลู พระพันวษา ทำใหน้ างวันทองต้องรบั โทษไปดว้ ย คิดได้ ดงั นั้นจึงเรียกหม่ืนวเิ ศษผลใหไ้ ปบา้ นขุนช้างแล้วไกล่เกล่ียเร่ือง นางวนั ทองอย่าให้ขุนชา้ งโกรธ

บอกว่าเราจับไขม้ าหลายวัน เกรงแม่จะไม่ทนั มาเห็นหน้า เมื่อคนื น้ซี ้ามอี นั เป็นมา เราใช้คนไปหาแม่วนั ทอง พอขณะมารดามาส่งทกุ ข์ รอ้ งปลุกเข้าไปถึงในหอ้ ง จงึ รบี มาเรว็ ไวดังใจปอง รักษาจนแสงทองสว่างฟา้ ไม่ตายคลายคนื ฟืน้ ข้นึ ได้ กขู อแม่ไว้พอเหน็ หนา้ แต่พอให้เคลื่อนคลายหลายเวลา จึงจะส่งมารดานน้ั คนื ไป ฯ แปลความ ให้หม่ืนวิเศษผลบอกกบั ขนุ ชา้ งว่าตนไม่สบายมาหลายวนั จึง อยากพบหน้าแม่ เลยใช้คนไปตามแม่ถงึ สว้ ม แม่จึงรบี มาหาตน แต่ ตอนน้ีตนไม่เปน็ อะไรแล้ว แต่ขอให้แม่อยู่กบั ตนสกั ระยะหนึ่งแล้วจะ ส่งแม่กลับ

หมื่นวเิ ศษรบั คำแลว้ อำลา รีบมาบา้ นขนุ ชา้ งหาชา้ ไม่ ครั้นถงึ แอบดูอยู่แต่ไกล เห็นผคู้ นขวักไขว่ท้ังเรือนชาน ขุนชา้ งน่ังเย่ียมหน้าต่างเรือน ดหู น้าเฝ่ือนทีโกรธอยู่งุ่นง่าน จะดอื้ เดินเข้าไปไม่เปน็ การ คดิ แล้วลงคลานเข้าประตู ฯ นั่งคาหน้าต่างเย่ียมหนา้ อยู่ ครานนั้ เจา้ จอมหม่อมขนุ ช้าง นมี่ าลอ้ หลอกกูฤๅอย่างไร เหน็ คนคลานเข้ามาเหลอื บตาดู เด็กหวาจบั ถองใหจ้ งได้ อะไรพอสว่างวางเขา้ มา ทุดอา้ ยไพร่ข้คี รอกหลอกผ้ดู ี ฯ ลกุ ข้ึนถกเขมรร้องเกนไป ยกมือขึน้ ไหวไ้ ม่ว่ิงหนี คนดดี อกข้าไหวใ้ ชค่ นพาล ครานนั้ วิเศษผลคนว่องไว รอ้ งตอบไปพลนั ในทนั ที แปลความ หม่ืนวิเศษผลรบั คำจากจมน่ื ไวยแลว้ มาทบี่ ้านขุนช้าง พอเขา้ ไปถึงเรือนขุนชา้ ง ดทู า่ ทางขุนชา้ งกำลงั โกรธเคืองจงึ คลานเขา้ ไปหา ขนุ ชา้ งเหน็ เข้าก็โกรธเพราะนึกว่ามาหลอกตน หม่ืนวิเศษผลรบี ยกมือ ข้ึนไหวแ้ ล้วตอบว่าตนเปน็ คนดีไม่ใช่คนรา้ ย

ขา้ พเจ้าเปน็ บ่าวพระหม่ืนไวย เป็นขุนหม่ืนรับใชอ้ ยู่ในบา้ น ท่านใช้ใหก้ ระผมมากราบกราน ขอประทานคืนน้ีพระหม่ืนไวย เจ็บจกุ ปจั จบุ นั มอี นั เป็น แก้ไขกเ็ หน็ หาหายไม่ รอ้ งโอดโดดด้นิ เพยี งสน้ิ ใจ จึงใชใ้ ห้ตัวข้ามาแจง้ การ พอพบท่านมารดาจงึ หายทุกข์ ขา้ พเจ้าร้องปลุกไปในบา้ น จะกลบั ขึ้นเคหาเหน็ ช้านาน ท่านจงึ รบี ไปในกลางคืน พยาบาลคณุ พระนายพอคลายไข้ คณุ อย่าสงสยั ว่าไปอ่ืน ให้คำมั่นสั่งมาว่ายั่งยนื พอหายเจ็บแล้วจะคนื ไม่นอนใจ ฯ แปลความ เป็นบ่าวของจมื่นไวยเปน็ ขุนหม่ืนรับใช้อยู่ในบ้าน พลายงามไม่สบาย จงึ ใช้ให้ตนมาแจ้ง ขอใหน้ างวนั ทองอยู่ดว้ ยหนึ่งคืน พลายงามไม่สบายเลยจงึ อยากพบหนา้ แม่ เลยให้คนใชไ้ ปตามแม่มาถงึ ส้วม แม่จงึ มาหาพลายงามจงึ หม่ืนวิเศษผลมาแจง้ ถา้ หายแล้วจะพานางวันทองกลับไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook